เอกสาร ประกอบการประชุม คณะกรรมการการโยธาและผังเมือง ครั้งที่ 19/2566 วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุม สำ นักงานเขตราษฎร์บูรณะ
ระเบียบวาระการประชุม คณะกรรมการการโยธาและผังเมือง ครั้งที่ 19/2566 วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุม สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ _______________________ ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม ระเบียบวาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 18/2566 วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อพิจารณา - หารือข้อราชการและแนวทางแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้องการบริหารจัดการที่ดิน บริจาคในซอยราษฎร์บูรณะ 1 เขตราษฎร์บูรณะ กรณีที่มีบริษัทเอกชนบริจาคเงินสร้างถนนซอย ราษฎร์บูรณะ 1 ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องอื่น ๆ -รับฟังความคิดเห็นร่างประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
รายงานการประชุม คณะกรรมการการโยธาและผังเมือง ครั้งที่ 18/2566 เมื่อวันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2566 ณ ห้องประชุม 10 อาคารไอราวัตพัฒนา ผู้มาประชุม 1. นายนภาพล จีระกุล ประธานกรรมการ 2. นายสารัช ม่วงศิริ รองประธานกรรมการ คนที่สอง 3. นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ กรรมการ 4. นายนริสสร แสงแก้ว กรรมการ 5. นายนวรัตน์ อยู่บำรุง กรรมการ 6. นายปวิน แพทยานนท์ กรรมการ 7. นายยิ่งยงค์ จิตเพียรธรรม กรรมการ 8. นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร กรรมการ 9. นายอานุภาพ ธารทอง กรรมการ 10. นางสาวชลธิชา ชัยเวส เลขานุการ 11. นางสาวชลิดา อ่อนน้อม ผู้ช่วยเลขานุการ 12. นางสาวสุวรรณา ยิ้มละมัย ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ไม่มาประชุม 1. นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง (ลา) 2. นายพีรพล กนกวลัย กรรมการ (ลา) 3. พันตำรวจโท ภิญโญ ป้อมสถิตย์ กรรมการ (ลา) ผู้เข้าร่วมประชุม 1. นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางเขน 2. นายอนุรักษ์ เครือชะเอม ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางเขน 3. นายถาวร คงบัว หัวหน้าฝ่ายโยธา 4. นายปิติพงษ์ ทองถาว นายช่างโยธาชำนาญงาน 5. นายสามารถ ศรีประสม นายช่างโยธาอาวุโส 6. นายฉัตรณพัฒน์ เฮงประมงค์ นิติกรปฏิบัติการ 7. นายเวฬุวัฒน์ สวัสดิพาณิชย์ ประชาชนเขตบางเขน 8. นางสาวพิมพ์ประภา นิ่มประเสริฐ ประชาชนเขตบางเขน 9. นายสรณกร ชวยกระจ่าง นักจัดการงานทั่วไป
-2- เริ่มประชุมเวลา 14.30 น. เมื่อคณะกรรมการมาครบองค์ประชุมแล้ว ประธานกรรมการกล่าวเปิด ประชุมและดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ ดังนี้ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม -ไม่มี- ระเบียบวาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 13/2566 วันที่ 21 มิถุนายน 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 14/2566 วันที่ 28 มิถุนายน 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 15/2566 วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 16/2566 วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 17/2566 วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 มติที่ประชุม รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 13/2566 วันที่ 21 มิถุนายน 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 14/2566 วันที่ 28 มิถุนายน 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 15/2566 วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 16/2566 วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 17/2566 วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อพิจารณา - ข้อเท็จจริงกรณีข้อพิพาท เรื่อง สะพานสาธารณะคลองจระเข้บัว ซอยคู้บอน 27 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน (เชิญ สำนักงานเขตบางเขน เข้าร่วมประชุม) ประธานกรรมการ ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง นายปิติพงศษ์ทองถาว ต้นเรื่อง นายอาทิตย์ มกรเสน ได้มีหนังสือลงวันที่ 9 กันยายน 2563 เรื่อง ขอให้ ตรวจสอบใบอนุญาตและก่อสร้างสะพานข้ามคลองจระเข้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ของ บริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) ข้อเท็จจริง กลุ่มงานควบคุมอาคาร 3 ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางเขน ได้ตรวจสอบอาคารดังกล่าวแล้วปรากฏ ดังนี้ 1. บริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เลขที่ 307/2540 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2540 ให้ทำการก่อสร้างสะพาน ชนิดสะพาน ค.ส.ล จำนวน 4 สะพาน
-3- 2. ใบอนุญาตจัดสรรหมู่บ้านชวนชื่นวัชรพล ออกเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2547 3. สะพานคอนกรีต ยกให้เป็นสาธารณะ เมื่อปี 2550 4. กรรมการหมู่บ้านชวนชื่นวัชรพลตรวจรับมอบสาธารณูปโภค เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2553 5. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 นางอัญชัญ ตั้งมติธรรม ได้โอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินโฉนดเลขที่ 207424 เลขที่ดิน 1864 บริเวณทางขึ้น-ลงสะพานด้านทิศใต้ให้เป็นทาง สาธารณประโยชน์ 6. เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 นายไพโรจน์ เอกชัยพฤกษ์ ได้โอน กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 207423 เลขที่ดิน 2077 บริเวณทางขึ้น-ลงสะพานด้านทิศเหนือ ให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ 7. สำนักการโยธา มีหนังสือที่ กท 0907/อ.2075 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 เรื่องก่อสร้างสะพานผิดไปจากแบบที่ได้รับอนุญาต รายบริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) โดยได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคาร เลขที่ 307/2540 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2540 ให้ทำการก่อสร้างสะพาน ชนิด ค.ส.ล จำนวน 4 สะพาน ต่อมามีการฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ปรากฏตามสำนวนคดีหมายเลขดำ ที่ อ.143/2550 คดีหมายเลขแดงที่อ.590/2557 ซึ่งมีผลจากคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) เลขที่ 309/2540 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2540 ในส่วนที่ขออนุญาตให้ผู้ร้องสอด (บริษัทฯ) ก่อสร้างสะพานที่ 1 เพิกถอน คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เลขที่ 305/2542 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2542 ที่ต่ออายุ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเฉพาะสะพานที่ 1 และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1 เลขที่ 88/2546 ลงวันที่ 7 มกราคม 2566 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลขที่ 1/2546 ลงวันที่ 3 กันยายน 2546 ที่วินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 พิจารณาคำขอต่อ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเฉพาะที่ 1 ให้แก่ผู้ร้องสอดใหม่ และสำนักการโยธาได้ตรวจสอบ แล้ว พบว่าสะพานตัวที่ 2 ได้ทำการก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ได้รับอนุญาต 8. สำนักงานเขตบางเขน มีคำสั่งที่ กท 5103/97 ให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 40(1) (กรณีที่กระทำให้ผิดไปจากที่ ได้รับอนุญาต หรือจากที่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น แบบ ค.5) คำสั่งที่ กท 5103/98 ห้ามใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคารหรือบริเวณอาคาร ตามมาตรา 40 (2) (กรณีที่การ ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร กระทำให้ผิดไปจากที่ได้รับอนุญาต หรือ ให้ผิดไปจากที่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น แบบ ค.6) และคำสั่งที่ กท 5103/99 ให้ ดำเนินการแก้ไขและให้ยืมคำขอรับใบอนุญาตการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้าย อาคาร หรือดำเนินการแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 41 (กรณีที่กระทำให้ผิดไปจากที่ ได้รับอนุญาต หรือให้ผิดไปจากที่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแบบ ค. 12) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 รายบริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) สะพานที่ 2
-4- 9. นายอาทิตย์ มกรแสน มีหนังสือลงวันที่ 18 มกราคม 2564 เรื่อง ขอให้ ดำเนินการยกเลิกการใช้งานและรื้อถอนสะพานข้ามคลองจระเข้ (สะพานชวนชื่น ซิตี้) ที่ได้ ขออนุญาตก่อสร้างและดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) เนื่องจาก เป็นการก่อสร้างที่ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างที่ถูกต้อง ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้เพิก ถอนใบอนุญาตก่อสร้างเลขที่ 309/2540 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2540 ในส่วนที่ขออนุญาต ให้ผู้ร้องสอดก่อสร้างสะพานที่ 1 เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เลขที่ 305/2542 ลง วันที่ 7 พฤษภาคม 2542 ที่ต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเฉพาะสะพานที่ 1 และเพิก ถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลขที่ 88/2546 ลงวันที่ 7 มกราคม 2566 และ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลขที่ 1/2546 ลงวันที่ 3 กันยายน 2546 คดี หมายเลขแดงที่ อ.590/2557 10. สำนักงานเขตบางเขน มีคำสั่งเลขที่ กท 5103/8522 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) 11. บริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือขออุทธรณ์คำสั่ง เจ้าพนักงานท้องถิ่นคำสั่ง ที่ กท 5103/97 (แบบ ค.5), คำสั่งที่ กท 5107/98 (แบบ ค.6) คำสั่งที่ กท 5103/99 (แบบ ค.12) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 และคำสั่งเลขที่ กท 5103/8522 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ให้รื้อถอน อาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) รายบริษัท มั่นคงเคหะ จํากัด (มหาชน) สะพานที่ 2 12. สำนักงานเขตบางเขน มีหนังสือที่ กท 5103/9554 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เรื่อง อุทธรณ์คำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น คำสั่งที่ กท 5103/97 (แบบ ค.5), คำสั่งที่ กท 5103/98 (แบบ ค.6) คำสั่งที่ กท 5103/99 (แบบ ค.12) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 และคำสั่งเลขที่ กท 5103/8522 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2464 ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) รายบริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) สะพานที่ 2 13. สำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง มีหนังสือที่ มท 0710/4737 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ขอให้ส่งเอกสารประกอบการ พิจารณาอุทธรณ์เพิ่มเติม กรณีอุทธรณ์ คำสั่งเลขที่ กท 5103/8522 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) 14. สำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง มีหนังสือที่ มท 0710/379 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 ขอให้ส่งเอกสารประกอบการ พิจารณาอุทธรณ์เพิ่มเติม 15. สำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง มีหนังสือที่ มท 0710/2314 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2565 เรื่อง แจ้งคำวินิจฉัยของ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตาม มาตรา 52 วรรคสาม ไปยังเจ้าพนักงานท้องถิ่นปกครอง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ได้วินิจฉัยแล้วตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 19/2565 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ให้เพิกถอนคำสั่ง คำสั่งที่กท 5103/99 ให้ดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำ ขอรับใบอนุญาตการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือดำเนินการแจ้ง
-5- ตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 41(ค.12) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564และคำสั่งเลขที่ กท 5103/8522ลงวันที่ 19สิงหาคม 2564 ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) คำวินิจฉัย ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ สรุปความตามคำพิพากษาว่า สะพานที่ 2 (อาคารมูล กรณี) ก่อสร้างในที่ดินบุคคลอื่น และถูกยกให้เป็นทางสาธารณะแล้วก็ไม่อาจพิพากษาให้รื้อ ถอนสะพานได้ 16. สำนักงานเขตบางเขน มีหนังสือที่ กท 5103/3722 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เรื่อง แจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์และเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง คณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ฯ ได้วินิจฉัยแล้ว ตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 19/2565 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ให้เพิกถอนคำสั่ง คำสั่งที่กท 5103/99 ให้ดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำขอรับ ใบอนุญาตการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือ ดำเนินการแจ้งตาม มาตรา 39ทวิ ตามมาตรา 41 (ค.12) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 และคําสั่งเลขที่ กท 5103/8522 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (แบบ ค.6) 17. บริษัท มั่นคงเคหะ จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 กันยายน 2565 เรื่อง ส่งรายนามผู้คัดค้านการก่อสร้างรั้วปิดถนนและสะพานสาธารณประโยชน์บริเวณ ทางเข้าโครงการชวนชื่น วัชรพล 18. นายชัยยุทธ สุวิทย์(ทนายความผู้รับมอบอำนาจ) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตาม คำพิพากษา มีหนังสือลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์เป็นสักขีพยาน ในการดำเนินการบังคับคดี ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2562 ที่จะนำเจ้าพนักงานบังคับ คดีดำเนินการจัดการก่อสร้างรั้วและกำแพง ทางด้านทิศเหนือ หมู่บ้านจัดสรรชวนชื่นวัชรพล โดยให้จำเลยดำเนินการก่อสร้างรั้วและกำแพงให้เป็นไปตามแผนผังโครงการชวนชื้นวัชรพลที่ จำเลยได้รับอนุญาตให้ครบด้าน และห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เพิ่มภาระ แก่ทรัพย์ส่วนกลางในโครงการ หากจำเลยไม่ดำเนินการให้โจทก์ทั้งสามเป็นผู้ดำเนินการโดย จำเลยเป็นผู้ออกจ่ายใช้จ่าย โดยคำขอให้รื้อสะพานให้ยก 19. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเรสซิเด้นซ์พาร์ค 3 ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 กรณีแจ้งความร้องทุกข์งดการใช้สะพานการก่อสร้างรั้วและกำแพงกั้น ทางดังกล่าว จึงขอแจ้งความร้องทุกข์มายังผู้อำนวยการเขตบางเขน สมาชิกในหมู่บ้านได้ใช้ ประโยชน์เป็นทางสัญจรไป-มา จะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงกับประชาชน โปรดพิจารณาการ กระทำดังกล่าว 20. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรอารีน่าพาร์ค ได้มีหนังสือลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 กรณีการก่อสร้างรั้วและกำแพงกั้นทางดังกล่าว จึงขอแจ้งความร้องทุกข์ มายังผู้อำนวยการเขตบางเขน สมาชิก ในหมู่บ้านได้ใช้ประโยชน์เป็นทางสัญจรไป-มา ตลอด เกือบ 20 ปี มาแล้ว จะมีผลกระทบอย่างร้ายแรงกับประชาชน โปรดพิจารณาการกระทำ ดังกล่าว 21. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรชวนชื่นซิตี้ไฟร์มพาร์ค ได้มีหนังสือลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เรื่อง ขอให้ระงับยับยั้งหรือกระทำด้วยวิธีการใดเพื่อมิให้มีการปิดการ ใช้สะพานเพื่อก่อสร้างรั้วและกำแพงกั้นสะพาน
-6- ประธานกรรมการ สะพานตัวใดที่มีข้อพิพาท นายปิติพงศษ์ทองถาว สะพานตัวที่ 2 เนื่องจากขออนุญาตแบบก่อสร้างจากสำนักการโยธาแล้ว แต่ไม่แล้วเสร็จตามกำหนด เมื่อขออนุญาตแบบครั้งที่ 2 สำนักการโยธาไม่ต่อใบอนุญาตให้ ต่อมาจึงเกิดข้อพิพาทระหว่างบ้าน 3 หลังในหมู่บ้าน นายอาทิตย์ มกรเสน เป็นผู้ใช้เส้นทางเข้า-ออก ระหว่างซอยคู้บอน 27 แยก 11 และถนนรามอินทรา 65 แต่พบว่าปัจจุบัน ทางบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ผู้ดำเนินการโครงการบ้านจัดสรร บริเวณดังกล่าว, บริษัท เอส 71 โฮลดิ้ง จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดินร่วมเป็นนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรชวนชื่นซิตี้หลายราย รวมทั้ง นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรชวนชื่น กรีนพาร์คที่ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกอยู่ ร่วมกันปิดกั้นทางผ่าน เข้า-ออก ดังกล่าว ด้วยระบบไม้กั้นอัตโนมัติตรงบริเวณก่อนถึงทางขึ้นสะพานข้ามคลอง จระเข้ เมื่อมาจากด้านซอยคู้บอน 27 แยก 11 โดยออกระเบียบการใช้เส้นทางดังกล่าว เฉพาะผู้อาศัยในโครงการเท่านั้น ซึ่งเส้นทางเข้า-ออก ระหว่างซอยคู้บอน 27 แยก 11 และ ถนนรามอินทรา 65 เชื่อมต่อกัน โดยใช้สะพานข้ามคลองจระเข้ และบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้าง และดำเนินการก่อสร้าง โดยมีชื่อ สะพานว่า “ชวนชื่น ซิตี้ 1” ซึ่งปัจจุบันพบว่าเส้นทางสัญจรตั้งแต่ปากซอยคู้บอน 27 แยก 11 จนถึงบริเวณที่ติดตั้งระบบไม้กั้นอัตโนมัตินั้น เป็นถนนสาธารณะตลอดเส้นทาง รวมทั้ง ถนนจาก ซอยรามอินทรา 65 ต่อเนื่องมายังทางเข้าหมู่บ้านชวนชื่นวัชรพล จนถึงสะพานชวนชื่น ซิตี้ 1ก่อนถึง ระบบไม้กั้นอัตโนมัติเป็นถนนสาธารณะด้วย เฉพาะบริเวณที่มีการติดตั้งระบบไม้ กั้นอัตโนมัติเท่านั้นที่ ไม่ใช่ทางสาธารณะ โดยมีการเข้าถือกรรมสิทธิ์ร่วมของนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรร กับบริษัท เอส 71 โฮลดิ้ง จำกัด (มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ในที่ดินดังกล่าวอย่างไม่ถูกต้อง และมีการปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำ พิพากษาศาลปกครองสูงสุดรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสะพานดังกล่าวนี้จากบริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งข้าพเจ้าอยู่ในระหว่างดำเนินการฟ้องศาลปกครองเกี่ยวกับการ ดำเนินการของเจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานเขตบางเขน เพื่อเพิกถอนการถือกรรมสิทธิ์ร่วมใน ที่ดินที่ติดตั้งระบบไม้กั้นอัตโนมัติดังกล่าว สำหรับในส่วนของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตบางเขนนั้น ข้าพเจ้าได้ยื่นเอกสารสอบถามเกี่ยวกับใบอนุญาตและการก่อสร้างสะพานดังกล่าวว่าถูกต้องตาม กฎหมายหรือไม่ ลงวันที่9กันยายน 2563 เพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักงาน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการดำเนินการทางคดี ตามคำพิพากษาของศาล ปกครองสูงสุด คดีหมายเลข แดงที่ อ. 590/2557 ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557 แต่ทว่า การพิจารณาและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ กลับล่าช้าและปรากฏว่ามีการดำเนินการ อย่างไม่ถูกต้อง
-7- กล่าวคือ 1. เจ้าพนักงานสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ได้ออกเอกสารแจ้ง เตือนไปยังบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ระงับการก่อสร้างสะพาน ค.ส.ล. สะพานที่ 2 พร้อม เปิดช่องทางให้แก้ไขแบบแปลนในการก่อสร้างสะพาน เลขที่ กท. 5103/97 ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 ในขณะที่สะพานได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยและมีการใช้ งานแล้วในปัจจุบัน นอกจากนี้พบว่า หมายเลขสะพานรวมทั้งรายละเอียดที่อ้างถึงในรายการ แนบท้ายคำสั่งแบบ ค.5 เลขที่ กท. 5103/97 ลว. 6 ม.ค. 2564 ไม่ถูกต้องตามรายละเอียดที่ ข้าพเจ้าได้ยื่นเรื่องให้ขอตรวจสอบ นั่นคือสะพานชวนชื่นซิตี้1 ทั้งที่มีพิกัด GPS ชัดเจน และ มีรายละเอียดในคำพิพากษาเกี่ยวกับหมายเลขของสะพานที่ชัดเจนนอกจากข้าพเจ้ายังได้เข้า ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดในรายละเอียดของสะพาน ดังกล่าวให้ทราบเป็นระยะ นอกจากนี้พบว่าเอกสารทางราชการฉบับนี้ได้ถูกเผยแพร่ในสื่อ สังคมออนไลน์ให้กับสมาชิกนิติบุคคลฯ ต่างๆ ทราบโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์และที่มาของเอกสาร ดังกล่าว 2. รายละเอียดสำคัญตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดง ที่ อ. 590/2557ลว. 30ตุลาคม พ.ศ. 2557สาระสำคัญในประเด็นวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด ตามรายละเอียดในย่อหน้าที่ 2 หน้า 24จนสิ้นสุดคำพิพากษานั้น ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า ในการ พิจารณาว่าจะออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือไม่นั้น เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะนำ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาประกอบด้วย และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 268ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2515ข้อ 30วรรคหนึ่ง กำหนดให้สาธารณูปโภคซึ่งผู้จัดสรรที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อ การจัดสรรที่ดินตาม แผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต ให้ถือว่าตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อ ประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรร และให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินหรือผู้รับโอนกรรมสิทธิ์คนต่อไปที่จะ บำรุงรักษากิจการดังกล่าวให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นโดยตลอดไป และจะกระทำการใดๆ อัน เป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้ โดยบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ได้ขออนุญาตก่อสร้างสะพาน ค.ส.ล. โดยสะพานที่ 1ตามข้อพิพากษาทางคดีนี้ มี ขนาดความกว้าง 9 เมตร ใช้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างที่ดินนอกโครงการจัดสรรกับที่ดินในโครงการ จัดสรร ซึ่งเป็นถนนภาระจำยอมของที่ดินจัดสรรหมู่บ้านชวนชื่นรามอินทรา และใช้เป็นทางลัด ระหว่างถนนวัชรพลกับถนนคู้บอน โดยให้ยานพาหนะแล่นผ่านถนนอันเป็นภาระจำยอมในหมู่บ้าน โครงการชวนชื่นรามอินทราได้ ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การออกไปอนุญาตของเจ้าพนักงาน กรุงเทพมหานคร ไม่ได้นำบทบัญญัติตาม ข้อ 30แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2515ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นมาประกอบการพิจารณาออก ใบอนุญาต โดยการออกไปอนุญาตการก่อสร้างสะพานในข้อพิพาทดังกล่าวนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นทางลัดเชื่อมให้ยานพาหนะต่างๆสัญจรเข้าออกระหว่างถนนวัชรพลกับถนนคู้บอนได้ และผ่าน ถนนภาระจำยอมในหมู่บ้านชวนชื่นรามอินทราด้วย และจากข้อมูลทางคดีพบว่า สะพานที่ 1 ที่ขอ อนุญาตก่อสร้างนั้นมีความกว้างถึง 9เมตร ในขณะที่สะพานของเดิมก่อนที่จะรื้อสร้างใหม่เป็น สะพานที่ 1 นั้นมีความกว้างเพียงไม่เกิน 2เมตร ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเมื่อก่อสร้างสะพานที่ 1
-8- เสร็จจะต้องมีบุคคลและยานพาหนะจำนวนมากใช้สะพานดังกล่าวผ่านเข้าไปในถนนภายในหมู่บ้าน ชวนชื่นรามอินทรา ซึ่งเป็นถนนภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรโครงการดังกล่าว ย่อม ส่งผลกระทบต่อความสงบสุข ความสะดวกและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีใน ขณะนั้น รวมทั้งประชาชนผู้ซื้อที่ดินจัดสรรและอยู่อาศัยในโครงการหมู่บ้านชวนชื่นรามอินทราได้ และยังจะทำให้การใช้ประโยชน์ในถนนภาระจำยอมภายในหมู่บ้านชวนชื่นรามอินทราของผู้ฟ้องคดี ทั้งสิบสามคนและผู้ซื้อที่ดินจัดสรรดังกล่าว ต้องลดลงหรือเสื่อมความสะดวกลง เนื่องจากมีการใช้ ถนนอันเป็นภาระจำยอมในหมู่บ้านชวนชื่นรามอินทรา ในลักษณะที่เกินขอบเขตปกติของการใช้ ยานพาหนะสัญจรไปมาของถนนดังกล่าว อันอาจมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์จนทำให้ เกิด ภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์นั้นได้ ตามสาระสำคัญดังกล่าวนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำ พิพากษา เห็นพ้องตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงาน กรุงเทพมหานคร เลขที่ 309/2540 ลงวันที่27 กุมภาพันธ์2540ในส่วนที่อนุญาตให้บริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด (มหาชน) ก่อสร้างสะพานที่ 1, เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานกรุงเทพมหานคร เลขที่ 305/2542ลงวันที่ 7 พ.ศ.2542 ที่ต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเฉพาะสะพานที่ 1ตามคำขอ ของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของเจ้าพนักงาน กรุงเทพมหานคร เลขที่ 1/2546ลงวันที่7 มกราคม 2546และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของเจ้าพนักงาน กรุงเทพมหานคร เลขที่ 88/2546ลงวันที่ 3กันยายน 2546เกี่ยวกับการพิจารณาคำขอต่ออายุ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเฉพาะสะพานที่ 1 จากสาระสำคัญข้างต้น โดยเฉพาะประเด็นในหัวข้อที่ 2เกี่ยวกับรายละเอียด ในคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนั้น มีรายละเอียดและสาระสำคัญชัดเจนแล้วว่า ในการก่อสร้าง สะพาน หรือการใช้สะพานนั้นเป็นการออกไปอนุญาตของเจ้าพนักงานกรุงเทพมหานคร ที่ไม่ได้นำ บทบัญญัติ ตามข้อ 30แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ลงวันที่24 พฤศจิกายน 2515 มา พิจารณาร่วม เหตุใดเจ้าพนักงานสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงได้มีคำสั่ง เลขที่ กท. 5103/97 ลงวันที่ 6 มกราคม 2564ถึงบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เพื่อทำการปรับหรือ แก้ไขใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งในรายละเอียดของคำพิพากษานั้น ไม่เกี่ยวข้องกับรายการแนบท้าย คำสั่งแบบ ค.5เลขที่ กท. 5103/97ลงวันที่6 มกราคม 2564แต่ประการใด และที่สำคัญสะพานที่ พิพาทนี้ได้ดำเนินการสร้างเสร็จและใช้ในปัจจุบันแล้ว ซึ่งเป็นสะพานที่ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างอย่าง ถูกต้อง และแม้ว่าจะมีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนการก่อสร้างสะพานเพื่อออกใบอนุญาต ก็ยังคงเป็น การฝ่าฝืนคำสั่งหรือคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับบทบัญญัติ ตามข้อ 30แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286ลงวันที่24 พฤศจิกายน 2515 ทั้งสิ้น นอกจากนี้แล้ว ในประเด็นความผิดพลาดของเจ้าพนักงานสำนักงานเขตบางเขน เกี่ยวกับเลขที่ของสะพานในเอกสารสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เลขที่ กท 5103/97ลง วันที่6 มกราคม 2564 นั้น ขอให้พิจารณารายละเอียดในคำพิพากษา หน้าที่ 2ย่อหน้าที่ 2 บรรทัด ที่ 14และหน้าที่ 3 บรรทัดที่ 12-13กล่าวในประเด็นที่ว่าสะพานที่ 1 เมื่อพาดผ่านมามีอาคารพักอาศัยเลขที่ 99/254และเลขที่ 99/252ซึ่ง รายละเอียดดังกล่าว ตรงกับตำแหน่งของสะพาน ชวนชื่นซิตี้ 1ในประเด็นที่ข้าพเจ้าขอให้ ดำเนินการตามเอกสารนี้
-9- ทั้งนี้ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการพิจารณาออกคำสั่งให้ ถูกต้องตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาลโดยเร็วที่สุด โดยเมื่อสิ่งก่อสร้างใดที่ไม่มีใบอนุญาต ก่อสร้าง และส่งผลกระทบตามรายละเอียดในคำพิพากษาแล้วนั้น เหตุใดจึงละเลยไม่ดำเนินการตาม ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวกับของก่อสร้าง ของทางกรุงเทพมหานคร ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตามมานั้นเป็น หน้าที่ของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด ที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่อง นี้เมื่อมีผู้ร้องทุกข์ แจ้งให้พิจารณาดำเนินการกรุณาดำเนินการตามกฎหมายที่ถูกต้อง มิเช่นนั้น ข้าพเจ้าจะขอใช้สิทธิ ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อฟ้องร้องต่อศาลปกครองในการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานกรุงเทพมหานคร และฟ้องร้องต่อศาลอาญาในความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิ ชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157ต่อไป นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ผู้ร้องฯ ร้องว่าสะพานที่ 2 สร้างผิดแบบ หรือร้องด้วยเหตุใด นายอนุรักษ์ เครือชะเอม เดิมร้องในประเด็นการใช้สะพานเข้า-ออกทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตและ ความปลอดภัย ต่อมาผู้ร้องฯ ร้องในประเด็นแบบก่อสร้างสะพานไม่ถูกต้อง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สะพานผิดแบบเรื่องใด รูปแบบสะพานกว้างยาวเท่าใด นายปิติพงศษ์ทองถาว สะพานตัวที่ 2 ขออนุญาตไว้ยาว 13 เมตร สร้างจริง 15.50 เมตร เชิงลาดสะพานขออนุญาตไว้ 5 เมตร สร้างจริง 20 เมตร ความกว้างสะพานอนุญาตไว้ 16 เมตร สร้างจริง 12.70 ม. ประธานกรรมการ โครงสร้างความแข็งแรงของสะพานมีผลกระทบหรือไม่ นายปิติพงศษ์ทองถาว ไม่มี ประธานกรรมการ ได้มีการดำเนินการอย่างไร นายปิติพงศษ์ทองถาว สำนักงานเขตฯ ได้มีการออกคำสั่ง ค.5 , ค.6 และ ค.12 ให้ดำเนินการยื่น แก้ไข ประธานกรรมการ ผู้ร้องฯ ร้องเรียนในประเด็นใด นายอนุรักษ์ เครือชะเอม ร้องว่าตามใบโฆษณาขายบ้านไม่มีเรื่องสะพาน สะพานเกิดขึ้นภายหลัง เนื่องจากหมู่บ้านขนาดใหญ่ ต่อมามีการขยายเฟสเรื่อยๆ ความคาดหวังของผู้ซื้อบ้านที่ ต้องการจะอยู่อาศัยแบบสงบ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้น ศาลฎีกา พิพากษาแล้ว ให้ทำตามกฎหมายจัดสรรที่ดิน กรณีสะพานยกเป็นสาธารณะแล้วก็จะปิดกั้น ไม่ให้ส่วนรวมใช้สะพานก็ไม่ได้
-10- ประธานกรรมการ ผังหมู่บ้านมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาที่เกิดขึ้นได้ สำนักงานเขตบางเขนควรมีคำร้องถึงศาล เพื่อขอให้วินิจฉัยในประเด็นว่า สะพานได้เป็นที่สาธารณะแล้วตั้งแต่เมื่อใด การรื้อสะพานสาธารณะกระทำไม่ได้ การดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดสรรฯ ต้องกระทำด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงความเป็น สาธารณะด้วย นายอนุรักษ์ เครือชะเอม สำนักงานเขตบางเขนไม่เคยได้เข้าไปให้การชี้แจงใดๆ ต่อศาล เอกสารที่ ได้มา สำนักงานเขตฯ ได้จากผู้ร้องฯ ประธานกรรมการ 1. สำนักงานเขตฯ มีคำร้องถึงศาล เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยในประเด็นความ เป็นสาธารณะของสะพาน 2. ควรประสานงานกับกรมบังคับคดี เพื่อให้กรมบังคับคดีรายงานข้อมูล ความเป็นสาธารณะต่อศาล ให้ข้อมูลในประเด็นสะพานที่เกิดข้อพิพาทนี้ เป็นสาธารณะถูกต้อง เรียบร้อยแล้ว อาจมีผลต่อการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร เห็นว่าสำนักงานเขตฯ ควรทำเรื่องชี้แจงต่อศาล ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด นายอานุภาพ ธารทอง บ้าน 3 หลัง มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกันหรือไม่ นายอนุรักษ์ เครือชะเอม เป็นลูกบ้านโดยมีวัตถุประสงค์ต้องการความสงบ จึงร้องขอสิทธิต่อศาล ประธานกรรมการ เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ระหว่างนี้อยู่ในการบังคับคดี จำเป็นต้อง ประสานงานกับกรมบังคับคดี เพื่อให้ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัย มติที่ประชุม รับทราบข้อมูล สำนักงานเขตบางเขนควรสรุปข้อมูลยื่นคำร้องต่อ กรมบังคับคดีในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นสาธารณะของสะพาน ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ - การปฏิบัติหน้าอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ การตั้งคณะอนุกรรมการ และตั้งอนุกรรมการ มติที่ประชุม เห็นชอบการปฏิบัติหน้าที่อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการใน คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง จำนวน 12 คณะ เพื่อพิจารณางาน ศึกษาข้อมูลและ ปัญหาอุปสรรครวมทั้งเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาในงานด้านการโยธาและด้านการผังเมือง ในพื้นที่เขตต่างๆ และงานตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย ประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 1รับผิดชอบในพื้นที่เขตบางกอกน้อย บางซื่อ ดอนเมือง สายไหม และคลองสามวา โดยมีนายนภาพล จีระกุลเป็นประธานอนุกรรมการ (นางสาวบุสริน ลมุนพันธ์รับผิดชอบ นางสาวกวินธิดา วงศ์สุวรรณ์ช่วยปฏิบัติงาน)
-11- 2. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 2 รับผิดชอบในพื้นที่เขต จอมทอง ดินแดง พระโขนง และบางนา โดยมีนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร เป็นประธาน อนุกรรมการ (นายสรณกร ชวยกระจ่าง รับผิดชอบ นางสาวกฤตญานันท์ ตุ้มวารี ช่วยปฏิบัติงาน) 3. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 3 รับผิดชอบในพื้นที่เขต บางขุนเทียน บางบอน ธนบุรีและบางกอกใหญ่ โดยมีนายสารัช ม่วงศิริ เป็นประธาน อนุกรรมการ (นายภูธเนศ กาฬภักดี รับผิดชอบ นางสาวกวินธิดา วงศ์สุวรรณ ช่วย ปฏิบัติงาน) 4. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 4 รับผิดชอบในพื้นที่เขตทุ่งครุ ดุสิต และราษฎร์บูรณะ โดยมีนายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ (นายสรณกร ชวยกระจ่าง รับผิดชอบ นางสาวกฤตญานันท์ ตุ้มวารี ช่วยปฏิบัติงาน) 5. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 5 รับผิดชอบในพื้นที่เขต บางเขน คันนายาว มีนบุรี และหนองจอก โดยมีนายนริสสร แสงแก้ว เป็นประธาน อนุกรรมการ (นายภูธเนศ กาฬภักดี รับผิดชอบ นางสาวบุสริน ลมุนพันธ์ ช่วยปฏิบัติงาน) 6. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 6 รับผิดชอบในพื้นที่เขต หนองแขม ภาษีเจริญ บางแค และตลิ่งชัน โดยมีนายนวรัตน์ อยู่บำรุง เป็นประธาน อนุกรรมการ (นางสาวกฤตญานันท์ ตุ้มวารี รับผิดชอบ นายสรณกร ชวยกระจ่าง ช่วยปฏิบัติงาน) 7. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 7 รับผิดชอบในพื้นที่เขต บางคอแหลม ยานนาวา บางกะปิ บึงกุ่ม และสะพานสูง โดยมีนายปวิน แพทยานนท์เป็น ประธานอนุกรรมการ (นางสาวกฤตญานันท์ ตุ้มวารีรับผิดชอบ นายสรณกร ชวยกระจ่าง ช่วยปฏิบัติงาน) 8. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 8รับผิดชอบในพื้นที่เขตพญาไท ราชเทวี จตุจักร และหลักสี่ โดยมีนายพีรพล กนกวลัย เป็นประธานอนุกรรมการ (นางสาวกวินธิดา วงศ์สุวรรณ์ รับผิดชอบ นายภูธเนศ กาฬภักดี ช่วยปฏิบัติงาน) 9. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 9 รับผิดชอบในพื้นที่เขต บางพลัด ป้อมปราบฯ ห้วยขวาง และวังทองหลาง โดยมีพันตำรวจเอก ภิญโญ ป้อมสถิตย์ เป็นประธานอนุกรรมการ (นางสาวบุสริน ลมุนพันธ์ รับผิดชอบ นายภูธเนศ กาฬภักดี ช่วยปฏิบัติงาน) 10. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 10 รับผิดชอบในพื้นที่เขต ทวีวัฒนา สัมพันธวงศ์ คลองสาน และบางรัก โดยมีนายยิ่งยงค์ จิตเพียรธรรม เป็นประธาน อนุกรรมการ (นางสาวกวินธิดา วงศ์สุวรรณ์ รับผิดชอบ นางสาวบุสริน ลมุนพันธ์ ช่วย ปฏิบัติงาน) 11. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 11 รับผิดชอบในพื้นที่เขต คลองเตย ปทุมวัน วัฒนา พระนคร และสวนหลวง โดยมีนายสุชัย พงษ์เพียรชอบ เป็นประธานอนุกรรมการ (นางสาวกวินธิดา วงศ์สุวรรณ์ รับผิดชอบ นายภูธเนศ กาฬภักดี ช่วยปฏิบัติงาน)
-12- 12. คณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 12 รับผิดชอบในพื้นที่เขต สาทร ลาดพร้าว ประเวศ และลาดกระบัง โดยมีนายอานุภาพ ธารทอง เป็นประธาน อนุกรรมการ (นางสาวกฤตญานันท์ ตุ้มวารีรับผิดชอบ นายสรณกร ชวยกระจ่าง ช่วยปฏิบัติงาน) เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 5 ปรับใหม่ ประกอบด้วย 4.2 ตั้งอนุกรรมการ เห็นชอบตั้งอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการการโยธาและผังเมือง ชุดที่ 4 เพิ่ม จำนวน 1 ราย คือ นายประวิทย์ กิตติธนากร อนุกรรมการ เลิกประชุมเวลา 16.30 น. (นางสาวชลิดา อ่อนน้อม) ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้จดรายงานการประชุม 1. นายนริสสร แสงแก้ว ประธานอนุกรรมการ 2. นายคมชาญปทิต ประเสริฐศรีสกุล รองประธานอนุกรรมการ คนที่หนึ่ง 3. นายบุลากร ประเสริฐศรีสกุล รองประธานอนุกรรมการ คนที่สอง 4. นายธนาธิป ขาวอุบล อนุกรรมการ 5. นายสุภรัตน์ สงวนวงค์ อนุกรรมการ 6. นายเวฬุวัฒน์ สวัสดิ์พาณิชย์ อนุกรรมการ 7. นายคมสันต์ บุญเจือ อนุกรรมการ 8. นายปราโมทย์ แซ่เตีย อนุกรรมการ 9. นายวีระ ทองชุม อนุกรรมการ 10. นายนิธิวิทย์ กองแก้ว อนุกรรมการ 11. นายชิณรัตน์ ยะสะโร อนุกรรมการ 12. นายธงชัย นรินทร์วงษ์ อนุกรรมการ 13. นางสาวพิมพ์ประภา นิ่มประเสริฐ อนุกรรมการและเลขานุการ 14. นายภูธเนศ กาฬภักดี อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 15. นางสาวบุสริน ลมุนพันธ์ อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ