The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูล<br>- ด้านกายภาพ<br>- ด้านชีวภาพ<br>- ด้านเศรษฐกิจ<br>- ด้านสังคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by SUNISA KAESAMAN, 2024-02-13 01:49:13

ข้อมูลชุมชน หมู่ที่ 3 บ้านโคกพยอม ตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา

ข้อมูล<br>- ด้านกายภาพ<br>- ด้านชีวภาพ<br>- ด้านเศรษฐกิจ<br>- ด้านสังคม

ข้อมูลกายภาพ 1. ประวัติความเป็นมาของชุมชน - หมู่บ้านโคกพยอมเรียกตามชื่อวัด เพราะเคยมีวัดโคกพยอมมาก่อน ซึ่งในสมัยก่อนภายในหมู่บ้านมีต้น พยอมเป็นจ านวนมาก และพื้นที่มีลักษณะเป็นโคก จึงมีชื่อหมู่บ้านว่า โคกพยอม 2. แผนที่เดินดินหมู่บ้าน


ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพตัดขวาง


3. ที่ตั้งของชุมชน พิกัด ละติจูด ลองติจูด - หมู่ที่3 บ้านโคกพยอม ต าบลพิจิตร จังหวัดสงขลา 6.98524 N, 100.57070 E 4. อาณาเขตของพื้นที่ชุมชน - ทิศเหนือ ติดกับหมู่ที่ 1 บ้านทุ่งปริง (วัดเนินพิจิตร) - ทิศใต้ ติดกับหมู่ที่ 2 ต าบลนาหม่อม - ทิศตะวันออก ติดกับหมู่ที่ 2 บ้านโคกทัง - ทิศตะวันตก ติดกับหมู่ที่ 4 บ้าพลีควาย 5. ลักษณะทางภูมิศาสตร์ : ลักษณะของพื้นที่ / ลักษณะภูมิประเทศ - ลักษณะทางภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีล าคลองภายในหมู่บ้าน (คลองบ้านจิตร) มีพื้นที่นา พื้นที่สวน ยางพารา ไม้ผลชนิดต่างๆ เช่น ทุเรียน มังคุด 6. ขนาดพื้นที่ของชุมชน (ตารางเมตร) - พื้นที่ในเขอต าบล พิจิตรทั้งหมด 40.5 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 25,321.5 ไร่ (อ้างอิงจาก https://www.pijit-sao.go.th/frontpage ข้อมูลขนาดพื้นที่ของต าบลพิจิตร) สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 7. สถานที่ส าคัญของชุมชน : สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ - วัดโคกพยอมสุการาม - องค์การบริหารส่วนต าบลพิจิตร - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพิจิตร - ที่ท าการผู้ใหญ่บ้าน , ก านัน


8.ลักษณะภูมิอากาศ - มีฤดู 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน ในส่วนของฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือน กรกฎาคม และฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนจะอยู่ที่ 36 – 37 องศา เซลเซียส และในฤดูฝนจะอยู่ในช่วงอุณหภูมิ 27 – 28 องศาเซลเซียส 9. ลักษณะของการใช้พื้นที่และการถือครอง : การเกษตร และ ไม่ใช่การเกษตร - ภายในชุมชนใช้พื้นที่ในการท าการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ และการถือครองพื้นที่จะเป็นเอกสารสิทธิ์ 10. .ลักษณะดิน - เป็นลักษณะดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์ของดินสูง ไม่มีปัญหาสภาพดินเสื่อม 11. แหล่งน้ า - แหล่งน้ าที่ใช้ในการบริโภคในครัวเรือน คนในชุมชนประมาณร้อยละ 80 ซื้อมาจากร้านค้าในชุมชน ราคา 10 บาทต่อ 20 ลิตร ส่วนที่เหลือจะใช้น้ าจากบ่อบาดาล บ่อน้ าตื้น มาบริโภคโดยตรง - ส่วนน้ าอุปโภคคนในชุมชน จะใช้จากบ่อบาดาลและบ่อน้ าตื้น ประมาณร้อยละ 90 ในส่วนที่เหลือจะใช้ น้ าจากการประปาส่วนภูมิภาค เนื่องจากคนในชุมชนมีบ่อบาดาลและบ่อน้ าตื้นเป็นของตนเองภายในครัวเรือน จึงมี คนส่วนน้อยที่ใช้น้ าประปาในการอุปโภค - แหล่งน้ าที่ใช้ในภาคเกษตร คนในชุมชนใช้น้ าประปา มาจากอ่างเก็บน้ าพรุพลีควายและบ่อน้ าตื้นในการ ท าการเกษตร 12. สาธารณูปโภค - ถนน ในชุมชนมีถนนสายหลักคือ แขวงทางหลวงที่ 2 (นาหม่อม) - ไฟฟ้า มีไฟฟ้าเข้าถึงทุกครัวเรือน ไฟฟ้าหน่วยละ 3 บาท


- ไฟส่องทาง มีไฟส่องทาง แต่มีไม่เพียงพอส าหรับพื้นที่ในชุมชน - ประปา มีระบบน้ าประปา มาจากอ่างเก็บน้ าพรุพลีควายและขุดบ่อบาดาล - สัญญานโทรศัพท์ มีสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึงทุกเครือข่าย - ระบบระบายน้ าและการป้องกันน้ าท่วม ไม่มีระบบระบายน้ า 13.ปัญหาจากภัยธรรมชาติ ประสบปัญหาน้ าหลากตอนฝนตกหนัก เนื่องจากในชุมชนไม่มีคูระบายน้ า ท าให้มีน้ าขังอยู่ภายในบริเวณ ครัวเรือนประมาณ 2 -3 ชั่วโมง 14. ปัญหาของสภาพทางกายภาพของชุมชน - ปัญหาด้านระบบน้ าประปา น้ าประปาไม่เพียงพอต่อครัวเรือน เพราะมีคนใช้น้ าเยอะ ในช่วงเวลา 16:00 – 17:00 นาฬิกา เนื่องจาก การบริหารจัดการน้ าไม่ดีภายในชุมชน - ปัญหาด้านไฟฟ้าส่องทาง ภายในชุมชนยังมีพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าส่องทางเข้าถึง เช่น ถนนบริเวณโคกสัก - ปัญหาด้านมลพิษ ภายในชุมชนมีโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ท าให้ส่งผลกับคนที่อาศัยอยู่บริเวณโรงงานได้รับความเดือนร้อน เช่น มีเขม่าตกใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้ พืชเป็นโรคใบด่าง และมีการปล่อยน้ าเสียจากโรงงาน - ปัญหาด้านแหล่งน้ าตามธรรมชาติ


แหล่งน้ าธรรมชาติภายในชุมชนมีน้อย ในช่วงฤดูแล้ง ท าให้น้ าแห้งแล้งไปด้วย จึงท าให้พื้นที่การเกษตรไม่ มีน้ าใช้ ข้อมูลด้านชีวภาพ พืช 1.พืชชนิดพืชที่ปลูก ยางพารา พันธุ์: RRIM 600 ระบบการรูปแบบการปลูก: ปลูกแบบแปลงเดี่ยว วิธีการปลูก : ซื้อต้นพันธุ์จาก อบต. ต้นละ 15 บาท ซื้อมาตั้งไว้จนยางมีอายุประมาณ 6 เดือน และ น าไปปลูกลง ดิน 7-8 ปียางจะเริ่มให้ผลผลิต ระยะปลูก : 3x 70 เมตร พื้นที่ปลูก : 15-60 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : เดือนเมษายน -มีนาคม การดูแล: ใส่ปุ๋ยเคมี ปีละ 1 ครั้ง การเก็บเกี่ยว: เกษตรกรเก็บน้ ายางเองและมีการจ้างเก็บน้ ายางบางส่วน ระยะเก็บเกี่ยว : เดือน พฤษภาคม -ตุลาคม วิธีการเก็บเกี่ยว : เกษตรเก็บเกี่ยวเป็นน้ ายาง เริ่มจากการกรีดยาง รองน้ ายางด้วยจอกยางเมื่อถึงเวลาไปเก็บก็ จะน าน้ ายางจากจอกยางเทใส่ถังที่เตรียมไว้ การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : คว่ าจอกยางไว้ไม่ให้น้ าฝนหรือสิ่งต่าง ๆลงไปในจอกยาง แรงงานที่ใช้ในการผลิต : เจ้าของสวน ลูกจ้าง การจ าหน่ายผลผลิต: ขายเป็นกิโล ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : เป็นน้ ายางสด ราคาจ าหน่าย: ปกติ ราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท ถ้าในช่วงฤดูฝน ราคา จะเพิ่มขึ้นเป็นกิโลละ 50 บาท สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ กลุ่มรับซื้อน้ ายางสด ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : ตั้งแต่ 40 -200 กิโลกรัม ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : 1 ไร่ ได้ผลผลิต 40-60 กิโลกรัม การใช้วัสดุทางการเกษตร : จอกยางจากกะละมะพร้าว ขั้นตอนการผลิต : เริ่มจากกรีดยาง รองน้ ายางด้วยจอกยาง แล้วตอนไปเก็บน้ ายางก็เอาน้ ายางจากจอกยางเทใน ถัง เทคนิคการผลิต: กรีดตอนหัวรุ่งคือช่วงเวลา 02.00-04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่น้ ายางออกดี


ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : โรคใบร่วง ใบจุด เชื้อราในหน้ายาง หน้ายางแห้ง พืชชนิดพืชที่ปลูก ถั่วลิสง ระบบการรูปแบบการปลูก: แปลงเดี่ยวและ แบบแทรม วิธีการปลูก : ใช้การหยอดเมล็ด ระยะปลูก : 40-50 ซ.ม. พื้นที่ปลูก : 1-3 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : ใช้เวลาการปลูก30-60 วันถึงจะได้ผลผลิต สามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี การดูแล: แบบปล่อยตามธรรมชาติ การเก็บเกี่ยว: เก็บด้วยตนเอง ระยะเก็บเกี่ยว : 30-60 วันหลังการเพาะปลูก วิธีการเก็บเกี่ยว : เก็บด้วยคนขุด/ถอน การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : การล้างผลผลิต การน าไปตากแห้ง และน ามาคั่วเกลือ แรงงานที่ใช้ในการผลิต : ในครอบครัว การจ าหน่ายผลผลิต: ขายแบบเหมาสวน และการชั่งขายแบบคั่วเกลือ ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : แบบสด และแบบคั่วเกลือ ราคาจ าหน่าย: แบบคั่วเกลือ 30 บาท/โล ขายสดขายแบบ 20 บาท/โล สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ แม่ค้ารับซื้อหน้าสวน ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : แบบสดประมาณ 30 กิโล แบบแห้ง 100กิโล ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : แบบแห้ง 20 กิโล แบบสด 30 กิโล การใช้วัสดุทางการเกษตร : จอบ เสียม ที่พรวนดิน ขั้นตอนการผลิต : หยดเมล็ด เวียนมาดูอาทิตย์ละครั้งรดน้ า เทคนิคการผลิต: การปล่อยธรรมชาติ ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : หญ้าขึ้นปกคลุม


พืชชนิดพืชที่ปลูก ทุเรียน พันธุ์: หมอนทอง ระบบการรูปแบบการปลูก: พืชผสมผสาน วิธีการปลูก : น าต้นพันธุ์มาจากภายนอกชุมชน ระยะปลูก : 10 x10 พื้นที่ปลูก : 2-3 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : ใช้เวลาการปลูก 3-4 ปีถึงจะได้ผลผลิต ช่วงระยะเวลาการผลิตในช่วง เม.ย.-ต.ค. การดูแล: ปุ๋ยแบบพ่นฉีดใบ และ ปุ๋ยเคมี การเก็บเกี่ยว: เก็บด้วยตนเอง ระยะเก็บเกี่ยว : อยู่ในช่วง ก.ค. - ส.ค. วิธีการเก็บเกี่ยว : เก็บด้วยคนปีนตัดผล การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : การคัดลูกที่สวยและไม่สวย แรงงานที่ใช้ในการผลิต : ในครอบครัว การจ าหน่ายผลผลิต: แม่ค้ามาถามซื้อ แบบเหมาสวน ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : เป็นลูก ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความสวยของลูก ราคาจ าหน่าย: 90-120 บาท/โล สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ แม่ค้ารับซื้อหน้าสวน ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : ประมาณ 30กิโลถึง 3 ตัน ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : 40โล-1ตัน การใช้วัสดุทางการเกษตร : ท่อน้ า ก๊อกน้ า สปริงเกอร์ ที่พ่นปุ๋ยทางใบ จอบ เสียม เลื่อยตัดแต่งกิ่ง ขั้นตอนการผลิต : ซื้อต้นอ่อน2-3เดือน มาลงดินใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี ถึงจะให้ผลผลิต เทคนิคการผลิต: การดูแลตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-24 ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : โรคใบจุด โรคใบไหม้


พืชชนิดพืชที่ปลูก มังคุด ระบบการรูปแบบการปลูก: แปลงเดี่ยวและแบบผสมผสาน วิธีการปลูก : การซื้อต้นอ่อนจากภายนอก ระยะปลูก : ไม่ได้สอบถามข้อมูล พื้นที่ปลูก : 1-2 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : ใช้เวลาการปลูก30-60 วันถึงจะได้ผลผลิต การดูแล: ปุ๋ยพ่นใบและปุ๋ยหมัก การเก็บเกี่ยว: เก็บด้วยตนเอง ระยะเก็บเกี่ยว : 3-5ปีหลังการลงดิน วิธีการเก็บเกี่ยว : เก็บด้วยคน การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : มีการใส่ปุ๋ย แรงงานที่ใช้ในการผลิต : ในครอบครัว การจ าหน่ายผลผลิต: เป็นกิโลกรัม ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : เป็นผลสด ราคาจ าหน่าย: ไม่ได้สอบถาม สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ : ตลาดหรือหน้าบ้าน ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : 20-30 กิโลกรัม ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : 20-30กิโลกรัม การใช้วัสดุทางการเกษตร : จอบ เสียม ที่พรวนดิน สายยางรดน้ า สปริงเกอร์ ขั้นตอนการผลิต : หยดเมล็ด เวียนมาดูอาทิตย์ละครั้งรดน้ า เทคนิคการผลิต: การปล่อยธรรมชาติ ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : ใบจุด เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ


พืชชนิดพืชที่ปลูก หญ้า พันธุ์ที่ปลูก : หญ้าเนเปียร์ ระบบการรูปแบบการปลูก: แปลงเดี่ยว วิธีการปลูก : กอหญ้าจากเพื่อน ระยะปลูก : ไม่ได้สอบถาม พื้นที่ปลูก : 1-2 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : ให้ผลผลิต : ได้ตลอดปี การดูแล : ปล่อยแบบธรรมชาติ การเก็บเกี่ยว: เก็บด้วยตนเอง ระยะเก็บเกี่ยว : 3-4 เดือนหลังการลงดิน วิธีการเก็บเกี่ยว : เก็บด้วยคน การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : ปล่อยตามธรรมชาติ แรงงานที่ใช้ในการผลิต : ในครอบครัว การจ าหน่ายผลผลิต: เป็นกิโลกรัม ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : เป็นแบบสดแค่สวนล าต้นถึงยอดไม่ขายส่วนฐานราก ราคาจ าหน่าย: 50 บาท/กิโล สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ : กลุ่มคนเลี้ยงวัว ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : 16-20 กิโลกรัม ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : 8 – 10 กิโลกรัม การใช้วัสดุทางการเกษตร : ขั้นตอนการผลิต : ว่านกอหญ้า เทคนิคการผลิต: การปล่อยธรรมชาติ ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : หอยเชอรี่


พืชชนิดพืชที่ปลูก ลองกอง ระบบการรูปแบบการปลูก: แบบผสมผสาน วิธีการปลูก : การซื้อต้นอ่อนจากเพื่อนบ้าน ระยะปลูก : ไม่ได้สอบถามข้อมูล พื้นที่ปลูก : 1 ไร่ ช่วงเวลาในการปลูก : ให้ผลผลิตก.ค - ส.ค. การดูแล : ปุ๋ยหมักหลังการเก็บผล การเก็บเกี่ยว: เก็บด้วยตนเอง ระยะเก็บเกี่ยว : 3-4ปีหลังการลงดิน วิธีการเก็บเกี่ยว : เก็บด้วยคน การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : มีการใส่ปุ๋ยหมัก มูลวัว แรงงานที่ใช้ในการผลิต : ในครอบครัว การจ าหน่ายผลผลิต: เป็นกิโลกรัม ลักษณะผลผลิตที่จ าหน่าย : เป็นผลสด ราคาจ าหน่าย: ไม่ได้จ าหน่าย สถานที่จ าหน่าย / ผู้รับซื้อ : ตลาดหรือหน้าบ้าน ปริมาณผลผลิตทั้งหมด : 20-30 กิโลกรัม ปริมาณผลผลิตต่อไร่ : 20-30กิโลกรัม การใช้วัสดุทางการเกษตร : จอบ เสียม สายยางรดน้ า ขั้นตอนการผลิต : หยดเมล็ด เวียนมาดูอาทิตย์ละครั้งรดน้ า เทคนิคการผลิต: การปล่อยธรรมชาติ ปัญหาในการผลิตพืช/เพาะปลูกพืชของชุมชน : ราด า เพลี้ยขาว สัตว์ สัตว์ : วัว ชนิดพันธุ์: ชาโลเล่ , บรามัน ระบบรูปแบบการเลี้ยง : 1.เลี้ยงแบบการค้า 2.วัวเลี้ยงแบบปล่อยในไร่นาแบบธรรมชาติ 3.เลี้ยงแบบปล่อยให้กิน หญ้าเอง 3.มีคอกวัว 4. พื้นที่เลี้ยงโค : 1. มีคอกส าหรับนอนพักผ่อน 2.ไร่นาส าหรับการกินหญ้า


การดูแล : 1. วัวหากินเองตามธรรมชาติในไร่นา 2.ดูแลจากการครอบคลุมจากเจ้าของวัว 3.มีเจ้าของให้ แหล่งที่มาของอาหาร : 1.หญ้าปลูกเอง 2.หากินเองโดยการปล่อยแบบธรรมชาติ วิธีการให้อาหาร : 1.กินหญ้าเองแบบปล่อยในไร่นา 2.เจ้าของตัดหญ้าให้กินในคอก ระยะเวลาการให้อาหาร : 1.ช่วงสายๆยามเช้าเอาวัวออกไปปล่อยในไร่นาให้กินหญ้าเอง 2.ตอนบ่ายไปใหน้ าและ เปลี่ยนที่ปล่อยใหม่ โรค / ศัตรูเกิดในวัว : 1. โรควัวผอมไม่กินหญ้า ลักษณะอาการซึมๆนอนไม่กินหญ้า 2.โรคเท้าเปื่อย ลักษณะอาการวัวผอมไม่อาหารกินหญ้าได้น้อย 3.โรคหอยในตับ ลักษณะอาการกิน อาหารได้น้อย ผลกระทบจากโรค : 1.วัวมีรูปร่างผอมไม่สมบูรณ์ 2.น้ าหมันไม่ตรงตามเกณฑ์ 3.ราคาการซื้อ-การวัวลดลง การป้องกันโรค : 1.ซื้อยาจากร้านนาหม่อมมาผสมให้วัวกิน 2.ให้คนมาฉีดยาให้ ปีละ 1 ครั้ง แรงงานที่ใช้ในการเลี้ยงวัว : เลี้ยงโดยเจ้าของวัว การเก็บผลผลิตของวัว : 1.มีนายหน้าหาวัวให้นายทุนวัว 2.ขายทั้งหมดโดยดูจากลักษะรูปร่างวัว 3. ปริมาณผลผลิตวัว : ตามน้ าหนักของตัววัว การจ าหน่ายวัว : การวัวแบบตัว ขั้นตอนการผลิตวัว : เริ่มแรกสนใจได้พันธ์จากเพื่อน ผสมให้มีลูกและเลี้ยงให้ได้ตามความต้อการของวัวจะขาย เลี้ยงเพื่อการขายเป็นตัว ระยะเวลาในการท ากิจกรรมเกี่ยวกับวัว : การฉีดวัคซีน มีการฉีด 1 ปี ครั้ง ช่วงเดือนเมษายน การใช้ยาช่วง เทคนิคการผลิต : ได้แบบธรรมชาติ ดูแลการเลี้ยงเอง ปัญหาในการผลิตวัว : วัวมีรูปร่างผอมไม่สมบูรณ์ , เป็นโรคน้ าหนักต่ ากว่าเกินการขาย สัตว์เศรษฐกิจในชุมชน : ไก่ ระบบรูปแบบการเลี้ยง เลี้ยงแบบปล่อยในคอกไก่ เจ้าของให้อาหารเอง.มีคอกไก่ พื้นที่เลี้ยง :คอกไก่ หลังบ้าน การดูแล :. การดูแลแบบปล่อยตามธรรมชาติในช่วงกลางวัน ช่วงเย็นจะไล่เข้าคอก แหล่งที่มาของอาหาร : 1 .ซื้ออาหาร 2. ท าอาหารเอง วิธีการให้อาหาร : .เศษอาหารที่เหลือ ผักเหลือ ระยะเวลาการให้อาหาร : อาจเป้นช่วงเช้าหรือเย็น ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของเจ้าของ


โรค / ศัตรูเกิดในไก่ : ไรไก่ ผลกระทบจากโรค : ไม่มี การป้องกันโรค : ไม่มี แรงงานที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ : เลี้ยงโดยเจ้าของ การเก็บผลผลิตของไก่ : ไข่ไก่ 1 แผง ต่อเดือน ปริมาณผลผลิตไก่ : 1 แผง ต่อเดือน การจ าหน่ายไก่ : ไม่มีการจ าหน่าย เลี้ยงกินเอง ขั้นตอนการผลิตไก่ : แบบธรรมชาติ ระยะเวลาในการท ากิจกรรมเกี่ยวกับไก่ : เปลี่ยนฐานฟางรองรังไก่ ทุก 1เดือน เทคนิคการผลิต : ได้แบบธรรมชาติ ดูแลการเลี้ยงเอง ปัญหาในการผลิตไก่ : มีไรไก่รอบพื้นที่คอกไก่


ข้อมูลชุมชนด้านสังคม จ านวนประชากร : 1,060 คน มีครัวเรือนประมาณ (ข้อมูลครอบครัว ปี 64) 734 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 98.49% คน (อ้างอิงจาก https://3dortor.hss.moph.go.th ) สืบค้นเมื่อวันที่ 10/1/2567 อายุประชากรในชุมชน : ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 50 – 90 ปี เป็นผู้สูงอายุ 60 % ระดับการศึกษาของประชาชนในชุมชน (ภาพรวม) : คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจึงมีการศึกษา จบ ป.4 การศึกษา : โรงเรียนวัดพรหมประดิษฐ์ ปัจจุบัน ปีการศึกษา 2564 นางสาวปทุมพร เฑียรฆโรจน์ ด ารงต าแหน่ง ผู้อ านวยการโรงเรียนวัดพรหมประดิษฐ์ มีนักเรียนทั้งหมด 59 คน ข้าราชการครู 5 คน รวมทั้งสิ้น 6 คน (อ้างอิงจาก https://wppdsk1.ac.th/en/ข้อมูลโรงเรียนวัดพรหมประดิษฐ์) สืบค้นเมื่อวันที่ 10/1/2567 ลักษณะการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในชุมชน : ส่วนใหญ่บ้านจะอยู่ติดกัน อยู่กันแบบเครือญาติและบางหลังอยู่ในรั้ว ก าแพงเดียวกัน ลักษณะที่อยู่อาศัย : ส่วนใหญ่เป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณรอบบ้านปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง และไม้ผล อย่างเช่น มะพร้าว เงาะ ลองกอง มะเหมี่ยว เลี้ยงสัตว์ เช่น วัวพันธ์พื้นเมือง ไก่บ้าน มีถนนผ่านตลอดสาย อาชีพของคนในชุมชน : ท าสวนยาง ท างานราชการ ท างานก่อสร้าง คนในวัยท างานส่วนใหญ่ท างานโรงงานและ ท างานบริษัท บางส่วนท างานต่างจังหวัด


ปฏิทินการเพาะปลูก ของหมู่ที่ 3 ต าบลพิจิตร อ าเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา สาธารณะสุข : โรงพยาบาลนาหม่อม จ านวนบุคลากร : ไม่ทราบจ านวนบุคลากรในโรงพยาบาล โรคที่ส าคัญในชุมชน : โรคความดันโลหิตสูง การป้องกัน & รักษา : กินยารักษาตามแพทย์สั่ง กินผัก กินอาหารที่มีประโยชน์ กลุ่ม องค์กร ต่างๆ : กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเลี้ยงวัว กลุ่มฌาปนกิจหมู่บ้าน กลุ่มอสม. กลุ่มน้ ายาง เดือ น มกรา คม กุมภาพั นธ์ มีนาค ม เมษายน พฤษภา คม มิถุนาย น กรกฎา คม สิงหาค ม กันยา ยน ตุลาคม พฤศจิกา ยน ธันวาค ม เก็บ ข้าว เก็บเกี่ยวข้าวนา ฉลุงหรือข้าวหนัก ลูกหิน พักการ ท า การเกษ ตร (ปลูก ผักสวน ครัว) ปลูกทุเรียน เก็บผลไม้ตาม ฤดูกาล เช่น มังคุด เงาะ ลองกอง เก็บ เกี่ยว ผลผลิ ตที่ เหลือ จาก เดือน สิงหาค ม ถอนถั่ว ลิสง พักการท า การเกษตร (ปลูก ผักสวนครัว) เก็บ ข้าว เหนียว ด า ปลูกถั่วลิสง เก็บสะตอ ขุดหัวมัน ขี้หนู ปลูก ถั่ว ปลูกกล้วย ปลูกมะพร้าว ปลูกยางพารา กิจกรรมทางด้าน


กลุ่มในอดีต : กลุ่มเครื่องแกง ถูกยกเลิกเพราะ คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีการออกไปท างาน ในเมืองมากกว่าอยู่ในท้องถิ่นหรือบางส่วนก็ออกไปท างานต่างจังหวัด ตารางประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยม ของชุมชน : ประเพณี& วัฒนา ธรรม ม.ค ก.พ มี.ค ม.ย พ.ค มิ.ย ก.ค ส.ค ก.ย ต.ค พ.ย ธ.ค วันขึ้นปี ใหม่ วันเด็ก วัน สงกรานต์ ท าบุญวัน ว่าง วันสารท เดือนสิบ วันลอย กระทง วันชักพระ วันขึ้นปีใหม่ คนในชุมชนส่วนใหญ่จัดกิจกรรมที่บ้านตนเองหรือออกไปเที่ยวต่างจังหวัด จัดในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 2 มกราคม วันเด็ก จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงวันที่13 มกราคม ของทุกปี วันสงกรานต์ คนในชุมชนส่วนใหญ่จัดกิจกรรมที่บ้านตนเองหรือออกไปเที่ยวต่างจังหวัด จัดในช่วงระหว่างวันที่13- 17 เมษายน ของทุกปี


ท าบุญวันว่าง จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนเมษายน วันสารทเดือนสิบ จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนตุลาคม วันลอยกระทง จัดขึ้นที่ตามล าคลองในชุมชน จัดในช่วงเดือนพฤศจิกายน วันชักพระ จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ จัดในช่วงเดือนช่วงเดือนตุลาคม ตารางกิจกรรมทางศาสนา ความเชื่อ : กิจกรรม ทางศาสนา ความเชื่อ ม.ค ก.พ มี.ค ม.ย พ.ค มิ.ย ก.ค ส.ค ก.ย ต.ค พ.ย ธ.ค วัน มาฆบูชา วันวิสาห บูชา วัน อาสาฬหบู ชา วัน เข้าพรรษา วันออก พรรษา งาน ทอดกฐิน สามัคคี ครูหมอ โนราห์ วันมาฆบูชา จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์


วันวิสาขบูชา จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนพฤษภาคม วันอาสาฬหบูชา จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนกรกฎาคม วันเข้าพรรษา จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนกรกฎาคม วันออกพรรษา จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงเดือนตุลาคม งานทอดกฐินสามัคคี จัดขึ้นที่วัดในชุมชน วัดพรหมประดิษฐ์ วัดโคกพะยอม จัดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ครูหมอโนราห์ คนในชุมชนจัดกิจกรรมที่บ้านตนเอง ไม่มีวันเวลาที่แน่นอน ลักษณะความสัมพันธ์ของคนในชุมชน : อยู่กันแบบพี่น้อง เครือญาติ พึ่งพาอาศัยกัน วิถีชีวิต & การด าเนินชีวิตของคนในชุมชน เกษตรกรสวนใหญ่ท าการเกษตรในรูปแบบเกษตรผสมผสาน เมื่อได้ผลผลิตมาก็จะน าผลผลิตไปจ าหน่ายที่เหลือ จากการเอาไปจ าหน่าย เกษตรกรก็เก็บไว้รับประทานในครัวเรือน การเมือง / การปกครอง ของชุมชน -การจัดท าแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง -การจัดให้มี และบ ารุงรักษาทางบกทางน้ า และทางระบายน้ า -คุ้มครอง ดูแล และบ ารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม -การบ ารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น -ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น -การรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง -การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย -การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สิน ปราชญ์/ผู้รู้ในชุมชน : ทางการเกษตร & ไม่ใช่ทางการเกษตร ทางการเกษตร


-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการเกษตร ไม่ทางการเกษตร -ชาวบ้านทั่วไปในชุมชน ภูมิปัญญาของชุมชน : ทางการเกษตร & ไม่ใช่ทางการเกษตร - การท าเกษตรผสมผสาน -การคั่วถั่วลิสงด้วยทราย -หมอบ้าน บุคคลส าคัญในชุมชน : ทางการเกษตร & ไม่ใช่การเกษตร 1. นายเดชอุดม ขุนทอง หรือก านันเดช อายุ่ 54 ปี ต าแหน่งก านันประจ าหมู่ที่ 3 ต าบลพิจิตร อ าเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อดีตเคยรับหน้าที่เป็นผ็ใหญ่บ้าน ก่อนที่จะหมดวาระไปเป็นเวลา 5 วัน และได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็น ก านันเลย 2. นายลือชา ศิริรักษ์ ต าแหน่งสารวัตรก านัน 3. นางเตือนใจ พรมประถม ต าแหน่งแพทย์ประจ าต าบลพิจิตร 4. นายดวน เทพรัตน์ ต าแหน่งสารวัตรก านัน 5. นายอรุณ ไชยนนท์ ต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง 6. นายจักรกริศน์ ยะถาวร ต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ 7. นางอัจฉรี พรมประถม ต าแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ปัญหาสังคมของชุมชน จากการสอบถามทั้งประชากรในชุมชนและก านัน ได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตรงและปัญหาที่แฝงต่างๆ ดังนี้ 1.ปัญหายาเสพติด ที่เป็นเหตุก่อให้เกิดปัญหาการลักเล็กขโมยน้อยร่วมด้วย (ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะเอา ความ ปัญหาเลยเกิดขึ้นเรื่อย ๆ) 2.มีสถานศึกษาแต่ขาดแคลนเด็กมาศึกษา (ก านันแจ้งว่า เด็กส่วนใหญ่จะเข้าไปเรียนในเมืองกันหมด)


ข้อมูลเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพท าสวนยางพารา ท าสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มะพร้าว มังคุด เป็นต้น คิดเป็นร้อยละ 90% ของจ านวนคนในชุมขน ส่วนอาชีพที่รองลงมาคืออาชีพค้าขาย คิดเป็นร้อยละ 6% อาชีพรับ ราชการ คิดเป็นร้อยละ 3% และอาชีพรับจ้างทั่วไป เช่น ท างานก่อสร้าง ท างานในโรงงานไม้ยางพารา เป็นต้น คิด เป็นร้อยละ 1% อาชีพทางการเกษตรที่ส าคัญ อาชีพทางการเกษตรที่ส าคัญ ได้แก่ ท าสวนยางพารา ท าสวนผลไม้ จ าพวก ทุเรียน มะพร้าว มังคุด ลองกอง และปลูกหญ้าเนเปียร์ ขายให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงวัว เป็นต้น และเปิดลานขายน้ ายางพาราสด อาชีพนอกภาคการเกษตรของคนในชุมชน อาชีพนอกภาคการเกษตรของคนในชุมชนส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพค้าขาย เช่นเปิดร้านขายของช า ขาย ของตามตลาดนัด ถัดลงมา รับราชการ เช่น ต ารวจ ครู พยาบาล ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ที่ดิน ที่ดินส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นที่ดินของตัวเกษตรกรเอง เป็นหนังสือส าคัญแสดงกรรมสิทธิ์ โฉนดที่ดินร้อยละ 95% ส่วนอีกร้อยละ5% เป็นหนังสือรับรองการท าประโยชน์ ( นส.3 ) รายรับ-รายจ่าย รายรับเฉลี่ยของคนในชุมชนโดยประมาณจะมากกว่า 100,000 บาท/ปี/ครัวเรือนส่วนใหญ่มาจากการขายน้ ายาง รายจ่ายเฉลี่ยของคนในชุมชนโดยประมาณมากกว่า 100,000 บาท/ปี/ครัวเรือน เป็นการใช้จ่ายแบบได้มาใช้ไป ทุน ในชุมชนมีกลุ่มออมทรัพย์ ทุกคนที่เป็นสมาชิกออมทรัพย์สามารถกู้ยืมได้โดยมีการผลัดเวียนกันในกลุ่ม


การกู้ยืมและหนี้สิน ภาวะหนี้สินของคนในชุมชนส่วนมากเป็นหนี้ในระบบ 60% แหล่งที่มาของหนี้สินมาจาก ธกส. กลุ่มออมทรัพย์ คน ในชุมชนเดือดร้อนเงินก้อน สาเหตุที่กู้เพื่อ น าเงินมาสร้างบ้าน ส่งบุตรเรียน ซื้อรถยนต์ ภาวะหนี้สินนอกระบบ 40% แหล่งหนี้สินมาจากนายทุนปล่อยเงินกู้ในชุมชน สาเหตุที่คนในชุมชนบางส่วนกู้เพื่อที่ ส่งค่าแชร์ การออม ประมาณ90% ของคนในชุมชนมีการออมเงิน ซึ้งเป็นการออมในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์จะได้รับดอกเบี้ย รายปี และได้รับปันผลรายปี ผลิตภัณฑ์ชุมชน อดีตชุมชนเคยมีการรวมกลุ่มกันท าผลิตภัณฑ์ชุมชน มีสมาชิกประมาณ 30 คน ได้แก่ สบู่ น้ ายาซักผ้า และน้ ายาปรับผ้านุ่ม แต่ปัจจุบันได้ขาดหายไปและไม่มีผลิตภัณฑ์ของชุมชน เนื่องจากไม่ได้รับการติดตามผลจาก หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบ ตลาดหรือร้านค้าในชุมชน -ในชุมชนมีร้านค้าประมาณ 10 แห่ง ซึ่งเป็นร้านค้าขายของช า หมู่3 ไม่มีตลาดนัดชุมชน แหล่งที่คนใน ชุมชนส่วนใหญ่จ่ายตลาดเพื่อซื้อสินค้ามาบริโภค คือ ตลาดนัดนาม่วง ต าบลนาหม่อม อ าเภอหาดใหญ่ -การจ าหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชน เป็นการจ าหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านพ่อค้าคนกลาง มารับซื้อ ในสวน ได้แก่ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว ราคาผลผลิตทางการเกษตร -ทุเรียน หมอนทอง กิโลกรัมละ 100 บาท จ าหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง -มะพร้าวทั้งเปลือก ราคาลูกละ 6 บาท มะพร้าวปอกเปลือก ลูกละ 10 บาท จ าหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง -มังคุด กิโลกรัมละ 30-40 บาท (ราคาเมื่อปี พ.ศ.2566) จ าหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง -ถั่วลิสง กิโลกรัมละ 20 บาท จ าหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง และมีขายตามบ้านบางส่วน หากแปรรูปเป็นถั่ว ลิสงคั่วทราย กิโลกรัมละ 30 บาท จ าหน่ายตามบ้าน


น้ ายางพารา กิโลกรัมละ 50 บาท (ประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา) การย้ายถิ่นฐาน ส่วนมากเป็นการย้ายถิ่นเข้ามาในชุมชน มาจากการแต่งงานเข้ามาเป็นสมาชิกในครัวเรือน สิ่งอ านวยความสะดวกในครัวเรือน ในชุมชนประมาณ 90% มียานพาหนะใช้ ได้แก่ รถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าเข้าถึง และมีน้ าประปาใช้ในครัวเรือน เครื่องจักรกล การใช้เครื่องจักรและนวัตกรรมทางการเกษตรในชุมชน: มีการใช้โซล่าเซลล์และแสงเทียมในการผลิตพืช ใช้มาประมาณ 3-4 ปี แล้ว ที่ดิน : ทั้งหมดเป็นของเกษตรกรเองไม่มีการเช่าที่ดินเพื่อท าเกษตร แต่ก็มีบางส่วนที่มีคนจากภายนอกมาซื้อที่ดิน เพื่อปลูกบ้าน แหล่งปัจจัยการผลิตในการท าเกษตรของชุมชนโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีโรงงานไม้ยาง ส าหรับแปรรูปไม้ยาง มีโรงงานแปรรูปทุเรียน โรงงานทั้ง 2 มีเจ้าของเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และยังมีกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มน้ ายางของชุมชน ลักษณะการคมนาคม ขนส่ง : ถนนในชุมชนโดยประมาณ 90% เป็นถนนคอนกรีต และอีก 10% เป็นทางดินแดง ผลผลิต ส่วนมากใหญ่ในชุมชน สิ่งอ านวยความสะดวกในครัวเรือน มีไฟฟ้าและน้ าประปาเข้าถึงทุกบ้าน มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึง และมีครัวเรือนบางส่วนมีการใช้แผงโซ ล่าเซลล์ในบ้านเพื่อลดหย่อนค่าไฟ แรงงานในชุมชน


แรงงานทางการเกษตร -สวนยางพารา เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้แรงงานในครัวเรือน แต่มีการใช้แรงงานจ้างบางส่วน จากชุมชน ใกล้เคียงในต าบลเดียวกัน กิจกรรมที่จ้างแรงงานคือ กรีดยางและเก็บผลผลิต -สวนผลไม้ แรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกชุมชน โดยพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นคนมารับซื้อจะมีแรงงานมา เก็บเกี่ยวผลิต ในลักษณะการเหมาสวน โดยเกิดการจ้างงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะเป็นแบบเหมารายวัน -แรงงานจ้างทั่วไปจะเป็นการจ้างงานส าหรับการท ากิจกรรมทางการเกษตรบางอย่าง เช่น การไถ่ การ ฉีดยาผลไม้ การฉีดยาฆ่าหญ้า ส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างจากแรงงานภายในชุมชน แรงงานรับจ้างทั่วไป -มีจ้างแรงงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นคนภายในชุมชน -แรงงานในอุตสาหกรรมโรงงานไม้ยางพารา เป็นการจ้างแรงงานต่างด้าวประมาณ 10 คน การใช้แรงงานนอกชุนชน -แรงงานส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นถึงวัยกลางคน โดยท างานในตัวเมืองหาดใหญ่ ประมาณ 10-15 % การเกิดการว่างงาน -คนส่วนใหญ่ที่ว่างงานเป็นกลุ่มคนวัยรุ่นที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆ ประมาณ10-15% ในด้านแรงงานมีแรงงานจากภายนอก 40% มาจากหมู่บ้านใกล้เคียง เข้ามาประกอบอาชีพท าโรงงานไม้ ยาง ที่เหลือจะเป็นคนในชุมชนอีก 60% แรงงานในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานวัยกลางคนมีอายุเฉลี่ยอยู่ ในช่วง 30-40 ปี (80%) ถัดลงมา จะเป็นแรงงานเด็กจะอยู่ช่วงอายุ 15-20 ปี และแรงงานสูงอายุ (20%) ปัญหาด้านเศรษฐกิจ 1. ปัญหาหนี้สิน ประมาณ 90 % ของคนในชุมชนเป็นหนี้ จากการกู้ยืมเงินในกลุ่มออมทรัพย์ ซึ่งหนี้ที่กู้ส่วน ใหญ่เป็นเงินก้อนน ามาสร้างบ้าน ซื้อรถยนต์ 2. ปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ ซึ่งมีจ านวนประมาณ 15-20 % 3. ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ า เช่น น้ ายางมีราคาต่ า ท าให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้น้อย 4. พ่อค้าคนกลางให้ราคาผลผลิตที่ต่ าแก่เกษตรกร


Click to View FlipBook Version