The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by toeykunthida20377, 2021-07-26 14:49:27

งานนำเสนอ1

งานนำเสนอ1

งานสง่ เสรมิ สบื สานหตั ถกรรมชาตพิ นั ธุ์ อนั ลา้ คา่
ครง้ั ที่ ๑๐

วนั จนั ทร์ ท่ี ๙ สงิ หาคม พ.ศ ๒๕๖๔
ณ ลานนา้ พุครุศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั ราชภฏั
เชยี งใหม่ (ศนู ยแ์ มร่ ิม)

๐๘.๐๐ น. ลงทะเบียน
๐๙.๐๐ น. อธกิ ารบดี จดุ ธูป เทยี น บูชาพระรตั นไตย และกลา่ วเปิดงาน
๐๙.๓๐ น. การแสดงชุดที่ ๑ ฟ้ อนภษู าศลิ ป์ ถิ่นไทยล้อื ศรดี อนชยั
๐๙.๕๐ น. การแสดงชุดท่ี ๒ ฟ้ อนลวั ะ
๑๐.๑๐ น. การแสดงชุดท่ี ๓ ระบาเก็บใบชา
๑๐.๓๐ น. การแสดงชดุ ที่ ๔ เกิกเกวา้ วฒั นธรรมกะเหรยี่ ง
๑๐.๕๐ น. การแสดงชดุ ที่ ๕ คะฉ่นิ
๑๑.๐๐ น. อธกิ ารบดี คณาจารยร์ ว่ มกนั บนั ทกึ ภาพกบั นกั แสดง
๑๑.๒๐ น. พิธกี รกลา่ วขอบคณุ อธกิ ารบดี คณาจารย์ และ แขกผูม้ เี กียรติ

งานส่งเสริมสืบสานหตั ถกรรมชาติพันธุ์ อนั ลา้ ค่า จัดข้ึนเพ่ือ
ส่งเสริมและอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมทอ้ งถ่ินของแต่ละชาติพนั ธุไ์ ว้ เน่ืองจาก
ปัจจบุ นั หาชมไดย้ ากเราจึงไดน้ ามาเผยแพร่ใหค้ นรุน่ หลงั ได้รูจ้ กั กนั มาก
ข้ึนและสว่ นมากอาศยั อยู่ในภาคเหนือเราจงึ ยกการแสดงมาใหท้ ่านไดช้ ม
ในทนี ้ี เพ่ือเขา้ ถึงวฒั นธรรมของแตล่ ะชนชาตพิ นั ธุม์ ากข้ึน

เป็นชุดการแสดงทสี่ รา้ งสรรคข์ ้นึ มาใหม่ โดยนกั ศกึ ษาชนั้ ปีท่ี ๔ สาชาวชิ า
นาฏศลิ ป์ คณะครุศาสตรบ์ ณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่ ทส่ี รา้ งจาก
กระบวนการขนั้ ตอนและวธิ ีกากรทอผา้ ของชาวไทล้อื บา้ นศรดี อนชยั ตาบลศรี
ดอนชยั อาเภอเชยี งของ จงั หวดั เชยี งราย โดยแบง่ การแสดงออกเป็น 3 ชว่ ง

ชว่ งที่ ๑ ชว่ งการปลุกฝ้ าย เตรยี มดนิ และหวา่ นเมล็ดฝ้ าย

ชว่ งท่ี ๒ ชว่ งการเก็บดอกฝ้ าย การเตรยี มฝ้ าย รวมไปถึงการทอผา้

ชว่ งที่ ๓ ชว่ งการนาผา้ ทที่ อเสร็จแลว้ มาสวมใส่ และการเก้ียวพาราสขี องชาย-
หญงิ

เป็นการแสดงของมหาวทิ ยาลยั นาฏศิลป์ เชยี งใหม่ ฟ้ อนลวั ะเป็นชนเผ่าดง้ั เดมิ ท่ี
อาศยั อยู่ในดินแดนทางภาคเหนือของไทย แบ่งการแสดงออกเป็ น 4 ช่วงการ
แสดง การแสดงทง้ั ๔ ชว่ งสือ่ ใหเ้ ห็นประวตั ิความเป็ นมาวฒั นธรรมประเพณีของ
ชนเผา่ ลวั ะและก็สรา้ งสรรคบ์ ทเพลงข้นึ มาใหม่

ชว่ งที่ ๑ ยามเชา้ เป็นการพดู ถึงการนบั ถือผี 4 ตนไดแ้ ก่ ผีบา้ น ผีบรรผบุรุษ ผีป่ า
และผีนา้

ช่วงท่ี ๒ ยามสาย เป็ นการพูดถึงวถิ ีชีวติ การเดินทางและทากิจกรรมเก็บเก่ียว
พืชผล

ชว่ งที่ ๓ ยามบา่ ย พูดถึงเสียงกระทุงและเสียงเคาะไมไ้ ผ่ผสมผสานกับการตกี ลอง
ชว่ งสดุ ทา้ ย พิธกี รรมของชนเผา่ ลวั ะ

เป็ นการแสดงของนกั ศึกษาระดบั ปริญญาของวิทยาลยั นาฏศิลปกรมศิลปากร
นางสาวปราณี สาราญวงศ์ หวั หนา้ ภาควชิ านาฏดุริยางคค์ ีตศิลปศึกษา ไดร้ ่วมกนั
ประดิษฐท์ า่ ราและทานองเพลงระบาชุดน้ีข้ึน เพ่ือนาออกแสดงเป็นผลงานการบรรเลง
ดนตรแี ละการแสดงนาฏศิลป์ การแสดงสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงกรรมวธิ ีในการเก็บใบชาของ
ชาวเขา โดยเร่ิมตง้ั แต่เชา้ ตรู่ ออกเดินทางไปเก็บใบชา ซึ่งไดป้ ลูกไวต้ ามไหล่เขา
ตอ่ จากนน้ั นามาเลือกใบและผึ่งแดด ขณะที่รอใหใ้ บชาแหง้ ต่างก็ร่ืนเริงสนุกสนานกบั
จวบจนเวลาเย็น แลว้ จงึ นาเอาใบชาเดนิ กลบั บา้ นหากทกุ ทา่ พรอ้ มแลว้

เป็นการแสดงนาฏยนิพนธเ์ ชงิ สรา้ งสรรคข์ องนกั ศึกษาชน้ั ปีท่ี ๔ หลกั สตู รนาฏศลิ ป์
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่ คาวา่ ”เกิกเกวา้ ” เป็นภาษาปาดอง
หรอื กะเหรยี่ งคอยาว ทมี่ ีความหมายวา่ การสะบดั ผา้ การสะบดั ผา้ ของชาวกะเหรยี่ ง
คอยาว นนั้ นิยมใชใ้ นการแสดงตา่ งๆ ซงึ่ ชาวกะเหรยี่ งจะนาผา้ ทใ่ี ชโ่ พกศรษี ะมาใชใ้ นการ
สะบดั กะเหรยี่ งคอยาว ไดเ้ ขา้ มาอาศยั อยูบ่ รเิ วณสามจงั หวดั ภาคเหนือ ปัจจบุ นั มี
จานวนประชากรลดนอ้ ยลง ซง่ึ หมบู่ า้ นโตง้ หลวง ตาบลแมแ่ รม อาเภอแมร่ ิม จงั หวดั
เชยี งใหมเ่ ป็นอกี หมูบ่ า้ นหนึ่งทมี่ ชี าวกะเหรยี่ งคอยาวอาศยั อยู่ การแสดงแบง่ ออกเป็น 3
ชว่ ง ชว่ งที่ ๑ ศรทั ธา สอื่ ถึงการบูชาขา้ วและสง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธท์ิ ช่ี าวกะเหรยี่ งนบั ถือ

ชว่ งท่ี ๒ วถิ ีดาเนิน สอ่ื ถึงการดาเดนิ วถิ ีชวี ติ ของหญงิ สาวชาวกะเหรยี่ งคอยาวทม่ี ี
การสวมใสห่ ว่ งคอทองเหลอื ง เสมอื นเป็นสว่ นหนึ่งของรา่ งกาย

ช่วงที่ ๓ ขอบคุณ สื่อถึงการละเล่น การเตน้ สะบดั ผา้ เพื่อเป็ นการขอบคุณส่ิง
ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิและอานวยอวยพร

เป็ นการแสดงนาฏยนิพนธ์เชิงสรา้ งสรรค์ของนักศึกษาชนั้ ปี ท่ี ๔ สาชาวิชา
นาฏศิลป์ คณะครุศาสตรบ์ ณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่ประจาปี การศึกษา
๒๕๖๒ การแสดงชุดคะฉ่ินโดยเห็นว่ากลุ่มชาติพันธุ์คะฉิ่นมีเอกลักษณ์
ศิลปวฒั นธรรม วถิ ีชีวติ รวมถึงมีการเตน้ ท่ีโดดเด่น คณะผูว้ จิ ยั จึงเกิดความสนใจ
ในกลุม่ ชาตพิ นั ธุค์ ะฉ่นิ ทงั้ ในดา้ นวถิ ีชวี ติ และการเตน้ โดยนาความเชอ่ื ของกลุ่มชาติ
พนั ธุ์คะฉิ่นเกี่ยวกบั ลกั ษณะท่าทางการเตน้ ของนกมาเป็ นส่วนหนึ่งของการเตน้
ดงั นนั้ คณะผูว้ จิ ยั จงึ ไดน้ าความเป็นเอกลกั ษณ์ และทา่ เตน้ เลียนแบบลกั ษณะทา่ ทาง
ตา่ งๆของนก มาเป็นแนวคดิ และแรงบนั ดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน


Click to View FlipBook Version