คำนำ
รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพือ่ เป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าคอมพิวเตอร์ ช้นั ม.4/5
เพอ่ื ให้ไดศ้ กึ ษาหาความรู้ในเร่ือสถานท่ีท่องเท่ยี วในจงั หวดั กาญจนบุรี และไดศ้ กึ ษา
อยา่ เขา้ ง่ายเพอื่ เป็นประโยชน์กบั การเรียน
ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์กบั ผูอ้ ่าน หรือนกั เรียน นกั ศึกษา
ท่ีกาลงั หาขอ้ มูลเร่ืองน้ีอยู่ หากมขี อ้ แนะนาหรือขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ ม
รบั ไวแ้ ลละขออภยั ณ ทนี่ ้ีดว้ ย
สำรบัญ หน้ำ
1
เรื่อง 1
คาขวญั จงั หวดั กาญจนบุรี 2
รู้จกั กาญจนบุรียงั 5-28
ประวตั คิ วามเป็นมา 29
สถานที่ท่องเที่ยวน่าไป 30-31
ภมู ิศาสตร์ 31
ภูมิประเทศ 32
ภูมิอากาศ 32-33
ธรณีวิทยา 33
อทุ กวิทยา 34
แหลง่ น้าสาคญั 35
ประชากรศาสตร์
ประสบการประทบั ใจ
บรรณานุกรม 36
คำขวญั ประจำจังหวดั *
คาขวญั ประจาจงั หวดั กาญจนบุรี
แควน้ โบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานขา้ มแม่น้าแคว แหลง่ แร่น้าตก
รู้จกั กำญจนบุรียัง
กำญจนบุรี เป็นจงั หวดั หน่ึงที่ต้งั อยใู่ นภาคตะวนั ตกของประเทศไทย มพี ้นื ท่ี
ท้งั หมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร มพี ้ืนที่ใหญ่เป็นอนั ดบั 3 ของประเทศ รอง
จากจงั หวดั นครราชสีมา และจงั หวดั เชียงใหม่ และมพี ้นื ที่ใหญ่ทส่ี ุดในภาคตะวนั ตก มี
ระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร มชี ายแดนตดิ ตอ่ กบั
ประเทศพมา่ ระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดตอ่ กบั จงั หวดั ใกลเ้ คียง
ไดแ้ ก่ ทิศเหนือ จรดจงั หวดั ตากและจงั หวดั อทุ ยั ธานี ทิศใต้ จรดจงั หวดั ราชบุรี ทิศ
ตะวนั ออก จรดจงั หวดั สุพรรณบุรีและนครปฐม ทิศตะวนั ตก จรดประเทศพม่า
จงั หวดั กาญจนบุรีแบง่ เขตการปกครองส่วนภมู ภิ าคออกเป็น
13 อาเภอ 95 ตาบล 959 หมู่บา้ น 206 ชุมชน โดยท้งั 13 อาเภอ มดี งั น้ี
1. อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี
2. อาเภอไทรโยค
3. อาเภอบ่อพลอย
4. อาเภอศรีสวสั ด์ิ
5. อาเภอทา่ มะกา
6. อาเภอท่าม่วง
7. อาเภอทองผาภูมิ
8. อาเภอสงั ขละบุรี
9. อาเภอพนมทวน
10. อาเภอเลาขวญั
11.อาเภอดา่ นมะขามเต้ีย
12. อาเภอหนองปรื อ
13.อาเภอหว้ ยกระเจา
ประวัติควำมเป็ นมำ
ความเป็นมาของกาญจนบรุ ีเทา่ ท่ีมีการคน้ พบหลกั ฐานน้นั ยอ้ นไปไดถ้ งึ
สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ เม่ือมกี ารคน้ พบเครื่องมอื หินในบริเวณบา้ นเก่า อาเภอเมอื ง
กาญจนบุรี ล่วงมาถงึ สมยั ทวารวดี ซ่ึงมหี ลกั ฐานคือซากโบราณสถานทีต่ าบลปรงั
เผล อาเภอสงั ขละบุรี เป็นเจดียล์ กั ษณะเดียวกบั จุลประโทนเจดียท์ ่ีจงั หวดั
นครปฐม บา้ นคูบวั จงั หวดั ราชบรุ ี และเมอื งอู่ทอง จงั หวดั สุพรรณบรุ ี รวมท้งั คน้ พบ
โบราณวตั ถุ เช่น พระพมิ พส์ มยั ทวารวดีจานวนมาก[3] สืบเนื่องต่อมาถงึ สมยั พทุ ธ
ศตวรรษที่ 16-18 หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ทีค่ น้ พบคอื ปราสาทเมอื งสิงห์ ซ่ึงมี
รูปแบบศลิ ปะแบบขอม สมยั บายน
กาญจนบุรียงั ปรากฏในพงศาวดารเหนือวา่ กาญจนบรุ ีเป็นเมืองข้ึนของ
สุพรรณบรุ ีในสมยั สุโขทยั คร้นั มาถึงสมยั อยธุ ยา กาญจนบรุ ีกม็ ีฐานะเป็นเมอื งหนา้
ด่านสาคญั ในการทาสงครามระหวา่ งกองทพั ไทยกบั พม่า จนกระทง่ั ถงึ สมยั กรุงธนบรุ ี
และรตั นโกสินทร์ เดิมตวั เมืองกาญจนบุรีเดิมน้นั ต้งั อยทู่ ี่ตาบลลาดหญา้ (บริเวณเขาชน
ไก่ในปัจจบุ นั ) ภายหลงั จนถงึ พ.ศ. 2374 พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รชั กาล
ท่ี 3 ไดโ้ ปรดใหก้ ่อสร้างกาแพงเมอื งและป้อมปราการข้นึ เป็นการถาวร ณ เมือง
กาญจนบุรีใหมโ่ ดยต้งั อยู่ ณ ตาบลปากแพรก อนั เป็นสถานทบี่ รรจบของแมน่ ้าแคว
ใหญ่และแมน่ ้าแควนอ้ ย โดยตวั เมืองอยฝู่ ่ังตะวนั ออกของแมน่ ้าแม่กลองกบั แม่น้าแคว
ใหญ่ ซ่ึงมีความเหมาะสมทางยทุ ธศาสตร์และดา้ นการคา้ โดยเริ่มก่อสร้างเมอื งเมื่อ
วนั ท่ี 8 มนี าคม พ.ศ. 2374 และสาเร็จในวนั ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2375 และไดแ้ ยก
ออกจากสุพรรณบุรีนบั แตน่ ้นั เป็นตน้ มา ท้งั น้ีโดยมีพระราชประสงคส์ ่วนใหญเ่ พ่อื
ตดิ ต่อคา้ ขายกบั เมอื งราชบรุ ี ดงั พระราชนิพนธ์เสดจ็ ประพาสไทรโยค กลา่ วไวต้ อน
หน่ึงว่า "แตม่ เี มืองปากแพรกเป็นทีค่ า้ ขาย ดว้ ยเขาชนไก่เมืองเดิมอยเู่ หนือมากมีแก่งถึง
สองแก่ง ลูกคา้ ไปมาลาบาก จึงลงมาต้งั เมืองเสียทป่ี ากแพรกน้ีเป็นทางไปมาแกเ่ มอื ง
ราชบุรีง่าย เมอื งท่สี ร้างข้นึ ใหม่ กวา้ ง 5 เสน้ ยาว 10 เส้น 18 วา มปี ้อม 4 มุมเมอื ง ป้อม
ยา่ นกลางดา้ นยาวตรงหนา้ เมืองทิศตะวนั ตกเฉียงใตม้ ีป้อมใหญอ่ ยตู่ รงเนิน ดา้ นหลงั มี
ป้อมเล็กตรงกบั ป้อมใหญ่ 1 ป้อม" การสร้างเมืองกาญจนบรุ ีใหมน่ ้ี ดงั ปรากฏในศิลา
จารึกดงั น้ี ใหพ้ ระยาราชวรินทร์ เจา้ กรมพระตารวจเป็นพระยาประสิทธิสงครามราม
ภกั ดีศรีพิเศษประเทศนิคมภิรมยร์ าไชยสวรรคพ์ ระยากาญจนบุรี คร้งั กลบั เขา้ ไปเฝ้า
โปรดเกลา้ ฯ วา่ เมืองกาญจนบุรีเป็นเมอื งองั กฤษ พมา่ รามญั ไปมาใหส้ ร้างเมอื งก่อ
กาแพงข้นึ ไวจ้ ะไดเ้ ป็นชานพระนครเข่อื นเพชรเขอื่ นขณั ฑม์ นั่ คงไวแ้ ห่งหน่ึง ใน
ปัจจุบนั กาแพงถูกทาลายลงโดยธรรมชาตแิ ละหน่วยราชการเพือ่ ประโยชน์อยา่ งอนื่
เหลอื เพยี งประตูเมอื งและกาแพงเมืองบางส่วน[3]
ตอ่ มาในสมยั รชั กาลที่ 5 เมือ่ มีการจดั รูปแบบการปกครองเป็นมณฑล
เทศาภบิ าล กาญจนบรุ ีถกู โอนมาข้ึนกบั มณฑลราชบุรี[4] และยกฐานะเป็นจงั หวดั
กาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467
เหตุการณท์ ่ีทาใหก้ าญจนบรุ ีมีชื่อเสียงไปทวั่ โลก คือช่วงสงครามโลกคร้ังที่
2 เมอ่ื ญีป่ ่ ุนไดต้ ดั สินใจสร้างทางรถไฟยทุ ธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกใน
ประเทศไทยไปยงั เมอื งทนั บซู ายตั ในพม่า โดยเกณฑเ์ ชลยศึกและแรงงานจานวนมาก
มาเร่งสร้างทางรถไฟอยา่ งหามรุ่งหามค่า จนทาใหม้ ีผคู้ นลม้ ตายเป็นจานวนมาก ท้งั
จากความเป็นอยทู่ ีย่ ากแคน้ และโรคภยั ไขเ้ จ็บทรี่ ุมเร้า ซ่ึงภาพและเร่ืองราวของความ
โหดร้ายในช่วงสงครามโลกคร้งั ที่ 2 ปรากฏอยใู่ นพพิ ิธภณั ฑห์ ลายแห่งในกาญจนบุรี
ชื่อเรียกอ่ืน ๆ ของกาญจนบุรี เช่น เมอื งกาญจน์ ปากแพรก ศรีชยั ยะสิงหปุระ (ซ่ึง
ในสมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ที่ 7 เรียกเมอื งกาญจนบรุ ีวา่ ศรีชยั ยะสิงหปรุ ะ) และเมอื ง
ขนุ แผน เป็นตน้
สถำนท่ีท่องเทย่ี วน่ำไปกำญจนบบุรี
กำญจนบรุ ี อกี หน่ึงในเมืองทอ่ งเทีย่ วใกลก้ รุงเทพ มสี ถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว
หลากหลาย ท้งั ท่องเทย่ี วแนวธรรมชาติ ประวตั ิศาสตร์ วฒั นธรรม โดดเดน่ ในเร่ืองของ
น้าตกที่สวยงามมชี ่ือเสียง กิจกรรมล่องแพ พกั ผ่อนยงั รีสอร์ทท่สี ะดวกสบายริมน้า
และคาเฟ่ สวยมากมาย เรียกไดว้ ่าเป็นอีกหน่ึงจงั หวดั ท่ที ี่เท่ยี วเยอะมาก มาเที่ยวคร้งั
เดียวไมเ่ คยพอ ตอ้ งมาเกิน 5 คร้ัง ถงึ จะเกบ็ สถานท่ีทอ่ งเทยี วไดค้ รบ เท่ียวเมือง
กาญจน์จะแวะท่ีไหนไดบ้ า้ งเรามสี ถานท่เี ที่ยวเด็ดของกาญจนบุรี มาฝาก
สะพำนข้ำมแม่น้ำแคว
สะพำนข้ำมแม่นำ้ แคว ต้งั อยทู่ ต่ี าบลท่ามะขามอาเภอเมืองจงั หวดั กาญจนบรุ ี เป็น
สถานท่ที างประวตั ิศาสตร์ทสี่ าคญั ยง่ิ แห่งหน่ึง เป็นสะพานทสี่ าคญั ท่ีสุดของเส้นทาง
รถไฟสายมรณะสร้างข้นึ สมยั สงครามโลกคร้ังที่ 2 ภายหลงั สงครามสิ้นสุดลง เมอ่ื ปี
พ.ศ. 2489จนสามารถใชง้ านไดด้ งั เดิม ปัจจบุ นั มีการยกยอ่ งให้สะพานขา้ มแม่น้าแคว
เป็นสญั ลกั ษณแ์ ห่งสนั ตภิ าพ และกลายเป็นแหลง่ ทอ่ งเท่ียวท่ีสาคญั จนเรียกว่าเป็น
สัญลกั ษณข์ อง กาญจนบรุ ี
วัดถำ้ พุหว้ำ
วดั ถำ้ พุหว้ำ ต้งั อยทู่ ตี่ าบลหนองหญา้ อาเภอเมอื ง จงั หวดั กาญจนบุรี ตวั วดั เป็น
ศิลปะแบบขอมประยกุ ตท์ ี่สวยงาม เป็นวดั ป่ าอยใู่ นออ้ ม กอดของขนุ เขามีบรรยากาศ
ร่มร่ืน เงยี บสงบ แต่เดิมวดั แห่งน้ีมีถ้าเป็นอโุ บสถ แต่ปัจจบุ นั ไดร้ ับการ บูรณะให้
สวยงามอลงั การดว้ ยการสร้างอุโบสถหินทรายมีการแกะสลกั ลวดลายรอบอุโบสถได้
ออ่ นชอ้ ยงดงามครอบตวั ถ้าเอาไว้ เมือ่ เดิน เขา้ ไปในพระอโุ บสถก็จะถึงปากทางเขา้ ถ้า
ซ่ึงภายในถ้ามหี ินงอกหินยอ้ ยสวยงามตามธรรมชาติมีปลอ่ งแสงภายในถ้าเพื่อให้แสง
ส่อง ลงมา มพี ระพุทธรูปหลายองค์ รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุท่ีอญั เชิญมาจาก
สหภาพเมยี นมาร์ประดิษฐานไวใ้ หน้ กั ทอ่ งเทยี่ ว ไดส้ ักการะบชู า
ถนนปำกแพรก
ชุมชนถนนปำกแพรก หรือชุมชนบา้ นเหนือ เป็นชุมชนเมอื งท่เี กา่ แก่ท่สี ุดของ
กาญจนบุรี ต้งั อยรู่ ิมกาแพงเมอื งกาญจนบุรี ความน่าสนใจของถนนสายน้ี คือ อาคาร
บา้ นเรือนเกา่ แก่ทย่ี งั คงสภาพเดิมไวค้ ่อนขา้ งมาก มสี ถาปัตยกรรมทีเ่ ป็นเอกลกั ษณ์ใน
รูปแบบตะวนั ออกผสมตะวนั ตก ที่สร้างข้นึ ในยคุ รชั กาลที่ 4 เป็นตน้ มา มที ้งั
โบราณสถาน บา้ นเรือน ร้านคา้ แบบไมแ้ ละตกึ อยรู่ วมกนั ตลอดเสน้ ทางสายน้ี เป็น
ระยะทางกวา่ 1 กิโลเมตรท่ซี ่ึงเสน่หอ์ นั เกา่ แกอ่ ดีตในปัจจบุ นั ท่ีมมี นตข์ ลงั ท่ีแสดงถงึ
ความรุ่งเรืองของคนื วนั เก่าๆ ยงั คงปรากฏ ใหเ้ ห็นอยา่ งแจม่ ชดั บนสองฟากฝ่ังถนน
เรือเทวดำ วัดใต้
เรือเทวดำ วดั ใต้ ต้งั อยทู่ วี่ ดั ไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วดั ใต้ เป็นเรือเทวดาอนั
งดงาม ทต่ี ้งั โดดเดน่ อยภู่ ายในวดั ซ่ึงสร้างเพ่ือใชเ้ ป็นเมรุสาหรบั ต้งั ศพของเจา้ อาวาส
องคเ์ กา่ หลงั จากพธิ ีศพเสร็จสิ้นไป เรือเทวดาจึงกลายเป็นส่ิงกอ่ สร้างที่โดดเดน่ ที่ดึงดูด
ใจให้นกั ทอ่ งเท่ยี วให้มาเย่ียมเยือน
วดั ถำ้ เสือ
วดั ถ้าเสือ ต้งั อยู่ อ.ท่ำม่วง จ.กำญจนบุรี สิ่งทส่ี ะดุดสำยตำของนักท่องเที่ยวท่ีมำเทยี่ ว
ชมวดั เพื่อกรำบนมัสกำรพระธำตุ กค็ ือ ควำมใหญ่โตกว้ำงขวำง ของวดั และ
พระพทุ ธรูปปำงประทำนพรทใี่ หญ่ทส่ี ุดของจังหวัดกำญจนบุรีตัวองค์ พระสวยงำม
ประดบั ด้วยโมเสคสีทองท้งั องค์ นอกจำกนยี้ ังมีพระเจดีย์เกศแก้วปรำสำท องค์พระ
เจดีย์เป็ นสีอฐิ ท้ังองค์ แบ่งเป็ นช้ันต่ำง ๆ หลำยช้นั แต่ละช้ันจะ ประดิษฐำน
พระพุทธรูป มำกมำย จนถึงช้ันบนสุดเป็ นท่ีประดษิ ฐำนของพระบรมสำรีริกธำตุที่
อญั เชิญ มำ จำกประเทศ อินเดยี และยงั มีวหิ ำรต่ำง ๆ ให้เข้ำไปสักกำระพระพทุ ธรูป
และช่ืนชมควำมงดงำมของจติ รกรรมฝำผนงั ภำยใน
ต้นจำมจุรียักษ์
ตน้ จามจุรียกั ษ์ หรือต้นก้ำมปยู ักษ์ เป็ นอกี หนง่ึ จดุ ท่องเทยี่ วทน่ี ่ำสนใจและไม่ไกลจำก
ตัวเมืองกำญจนบุรีมำกนกั เมอื่ มำถงึ จะต่ืนเต้น และตะลงึ ในควำมใหญ่โตของต้นไม้
และกง่ิ ก้ำนสำขำสวยงำมร่มรื่น ต้นจำมจรุ ียักษ์มอี ำยมุ ำกกว่ำ 100 ปี ขนำด 10 คนโอบ
รัศมีทรง พ่มุ เฉลยี่ 25.87 เมตร เส้นผ่ำศูนย์กลำงร่มเงำประมำณ 51.75 เมตร ควำมสูง
จำกพนิ้ ดินถงึ ยอด 20เมตร มพี ้ืนทข่ี องพ่มุ ประมำณ 1 ไร่ 2 งำน 4 วำ ซ่ึงปัจจบุ ันหำชม
ต้นไม้ขนำดใหญ่เช่นนไ้ี ด้ยำก
อุทยำนประวตั ศิ ำสตร์ปรำสำทเมืองสิงห์
อุทยำนประวัติศำสตร์เมืองสิงห์ เป็นหน่ึงในอทุ ยานประวตั ศิ าสตร์ของประเทศไทย
ต้งั อยบู่ นฝ่ังแม่น้าแควนอ้ ยทางทศิ เหนือในอาเภอไทรโยค จงั หวดั กาญจนบรุ ี เป็น
สถานทที่ ่องเทีย่ วเชิงประวตั ิศาสตร์ เป็นการศึกษาโบราณสถานทที่ รงคุณคา่ มอี ายกุ วา่
800 ปี ไดเ้ ห็นถงึ อทิ ธิพลของขอมในอดีต และเรียนรู้ความเป็นมาจากสถาปัตยกรรม
การสร้างปราสาทขอม เปิ ดให้เขา้ ชมทุกวนั ต้งั แตเ่ วลา 09.00-16.30 น. คา่ เขา้ ชม
สาหรับ คนไทย 10 บาท รถยนต์ 50 บาท ชาวตา่ งชาติ 40 บาท สอบถามรายละเอียด
เพม่ิ เตมิ ไดท้ โ่ี ทรศพั ท์ 034 585 052-3
ทำงรถไฟสำยมรณะ
“หากนบั หมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จานวนผคู้ น-เชลยศึกทีถ่ กู เกณฑม์ าสร้าง ทาง
รถไฟ สายน้ีก็ตายไปเท่าน้นั ” นี่คือคาเลา่ ขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวตั ิศาสตร์ ไทย-
พมา่ ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรน้ี คอื ความหฤโหด ทารุณ และยากลาบาก ของสิ่งที่
เชลยศกึ ไดร้ บั จนไดร้ ับการขนานนาม วา่ “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” ปัจจบุ นั การ
รถไฟแห่งประเทศไทยเปิ ดเดินรถบนเสน้ ทางสาย ธนบรุ ี-น้าตกทกุ วนั และจดั รถไฟ
ขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ – น้าตก ทกุ วนั เสาร์ อาทิตย์ และวนั หยดุ ราชการ จุดที่
นกั ทอ่ งเท่ยี วให้ความสนใจมาก คือช่วงสะพานขา้ มแม่น้าแควและช่วงโคง้ มรณะหรือ
ถ้ากระแซซ่ึงเป็นสะพานโคง้ เลยี บ แม่น้าแควนอ้ ยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทศั น์
ตลอดเส้นทางน้ีสวยงามมาก ทีเ่ ส้นทางรถไฟ จะลดั เลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกบั ลาน้า
แควนอ้ ย โดยจะ วง่ิ เลยี บผา่ นและจอดที่สถานีถ้ากระแซเวลา 13.30 น. ซ่ึงหากใครขบั
รถมาชม ดว้ ยตวั เองเองกม็ ารอท่ถี ้ากระแซและควรมากอ่ นช่วงเวลาซกั เลก็ นอ้ ย
นำ้ ตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกช่ือหน่ึงว่า น้าตกเขาพงั เป็นน้าตกท่ีมชี ่ือเสียงมาชา้
นาน เหตทุ ี่ไดช้ ่ือวา่ น้าตกเขาพงั เพราะเกิดบน หนา้ ผาหินปูนท่พี งั ทลายลงมาจนเกิด
โขดหินปูนลดหลน่ั กนั อยตู่ รงบริเวณเชิงเขา ตน้ กาเนิดเป็นน้าผดุ จากภูเขาแลว้ ไหลมา
ตาม ลาธารเลก็ ๆ ไหลตกลงทผ่ี าหินปูนทมี่ ีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผก่ ระจายไป
ตามพ้ืนเขาลาดเอยี ง ภายใตร้ ่มเงาของพนั ธุ์ไม้ นานาชนิดเป็นน้าตกท่มี ีขนาดไม่ใหญ่
มากมเี พยี งช้นั เดียว ในฤดฝู นจะมนี ้าค่อนขา้ งเยอะกวา่ ฤดูแลง้ ซ่ึงจะไมม่ นี ้า เป็นน้าตก
ทีต่ ้งั อยหู่ ่างจากตวั เมืองกาญจน์เพียง 60 ก.ม. ซ่ึงต้งั อยบู่ นถนนสายหลกั ซ่ึงค่อนขา้ ง
เดินทางสะดวก
นำ้ ตกเอรำวัณ
น้าตกเอราวณั เป็ นนำ้ ตกทใ่ี หญ่และสวยงำม บนฝง่ั แม่น้ำแควใหญ่ ต้งั อย่ทู ี่ อำเภอศรี
สวสั ด์ิ จังหวดั กำญจนบรุ ี แบ่งออกเป็ นช้ันๆ ได้ 7 ช้ัน เป็ นนำ้ ตกทีน่ ้ำใสแจ๋ว เป็ นสีฟ้ำ
อมเขียวมรกตคล้ำยน้ำใน สระว่ำยนำ้ มองเหน็ ตวั ปลำแหวกว่ำยไปมำใต้ผืนนำ้ ที่
สะท้อนแสง แต่ละช้ันมคี วำมสวยงำมร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นำนำพันธ์ุ ท้งั เถำวลั ย์พัน
เก่ียวทอดตวั ไปบนต้นไม้ใหญ่
นำ้ ตกห้วยแม่ขมนิ้
นำ้ ตกห้วยแม่ขมนิ้ ต้งั อยบู่ ริเวณทท่ี าการอทุ ยานฯริมทะเลสาบเขื่อนศรี
นครินทร์ น้าตกห้วยแมข่ มน้ิ แบ่งออกเป็น 7 ช้ัน แต่ละช้นั มคี วามสูงและความงดงาม
ต่างกนั ไป ทางอุทยานฯไดท้ าเส้นทางเดินสาหรบั ข้นึ ไปชมน้าตกแตล่ ะช้นั และยงั เป็น
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีสภาพสวยงามเป็นอยา่ งยงิ่ ทวั่ บริเวณร่มร่ืนดว้ ยพนั ธุไ์ ม้
ป่ านานาชนิด น้าตกไหลมาจากตน้ น้าของเทือกเขากะลาซ่ึงเป็นป่ าดิบเขาแลง้ ทางทิศ
ตะวนั ออกของอทุ ยานฯ และไหลลงสู่อ่างเก็บน้า เข่อื นศรีนครินทร์ นบั เป็นน้าตกที่
สวยท่สี ุดแห่งหน่ึงของกาญจนบรุ ี
ถำ้ ธำรลอด อุทยำนแห่งชำตเิ ฉลมิ รัตนโกสินทร์
อทุ ยำนแห่งชำตเิ ฉลิมรัตนโกสินทร์ ต้งั อยใู่ นทอ้ งทอ่ี าเภอศรีสวสั ด์ิ จงั หวดั กาญจนบุรี
เป็นอุทยานแห่งชาตทิ ่มี เี น้ือทีไ่ มม่ าก แต่มีสภาพป่ าอุดมสมบรู ณแ์ ละมีจุดเดน่ และ
ธรรมชาติทส่ี วยงาม เช่น น้าตก หนา้ ผา และถ้าธารลอดทน่ี บั ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรยท์ ่ีเกิด
จาก การยบุ ตวั ของหินปนู ประกอบกบั การกดั เซาะของน้าทาให้เขาหินปูนกลายเป็น
สะพานธรรมชาตขิ นาดมหึมา และมหี ลกั ฐานแสดงถึง ดา้ นประวตั ศิ าสตร์เป็นทาง
เดินทพั ของพม่าและกองทพั ญี่ป่ ุน
อุทยำนแห่งชำตทิ องผำภูมิ
อุทยำนแห่งชำตทิ องผำภมู ิ เป็นจดุ ท่องเทย่ี วระหว่างทางไปยงั หมูบ่ า้ นอตี ่อง ที่
นกั ทอ่ งเที่ยวไม่ควรพลาด เล้ยี วรถเขา้ ไปสัมผสั กบั บรรยากาศที่เขยี วขจีสดชื่น จาก
ตน้ ไมส้ ูงใหญแ่ ละพชื พรรณท่ีข้นึ ปกคลมุ โดยรอบ แถมยงั มีจดุ ชมววิ ท่ีสามารถมองเห็น
วิวทวิ เขาและเขอื่ นวชิราลงกรณ์ไดอ้ ยา่ งสวยงาม มีน้าตกจ๊อกกระด่ิน น้าตกเลก็ ท่มี ี
ความสวยงามของแอง่ น้ีฟ้า สามารถเดินทางเขา้ ถงึ ไดไ้ มย่ ากเหมือนเม่อื กอ่ นอกี
ตอ่ ไป เป็นอทุ ยานที่เมื่อไดแ้ วะเขา้ ไปแลว้ ช่วยสร้างความสดชื่นและผอ่ นคลายไดเ้ ป็น
อยา่ งดี
บ้ำนอตี ่อง
บ้ำนอีต่อง หม่บู า้ นเล็กๆในหุบเขาแห่ง ตาบลปิ ลอ๊ ก อาเภอทองผาภมู ิ จงั หวดั
กาญจนบรุ ี เมืองแห่งเหมอื งแร่ท่ีเคยรุ่งเรืองในอดีต หลงั จากตานานอนั รุ่งโรจนไ์ ดป้ ิ ด
ตวั ลง คงไวซ้ ่ึงหมูบ่ า้ นท่องเทยี่ วยอดฮิต ทีเ่ ต็มไปดว้ ยความงดงามของธรรมชาติ
เหมือนมีมนตส์ ะกดให้นกั ทอ่ งเที่ยวผโู้ หยหาธรรมชาติ เดินทางเขา้ มาสัมผสั อากาศอนั
บริสุทธ์ิ ยิ่งในช่วงฤดฝู นจะไดพ้ บกบั ภาพไอหมอกปกคลมุ ท้งั หมู่บา้ น กลายเป็นภาพที่
โรแมนตกิ งดงามมาก
เขำแหลมสกำยวอล์ค
เขำแหลมสกำยวอล์ค ต้งั อยภู่ ายในเข่อื นวชิราลงกรณ์ หรือ เขือ่ นเขาแหลม กาญจนบรุ ี
เป็นสะพานทางเดินกระจกใสแบบยกสูงที่มองเห็นพ้นื เบ้ืองลา่ ง รวมท้งั ววิ เบ้อื งหนา้
เป็นทิวเขาท่เี รียงรายสลบั ซซั ้อนเขยี วขจี โดยอยูส่ ูงจากพ้นื ดิน 8 เมตร และยาว
ประมาณ 34 เมตร บริเวณปลายสะพานยงั มีม่านน้าตกไหลลงสู่สระน้าสวยงาม
ดา้ นขา้ งยงั มีสวนดอกไม้ และสไลเดอร์เนินหญา้ สาหรับใหส้ ไลดเ์ ลน่ ลงมาอยา่ ง
สนุกสนาน
จุดชมวิวป้อมป่ี อุทยำนแห่งชำติเขำแหลม
จุดชมววิ ป้อมป่ี อยรู่ ิมอ่างเกบ็ น้าเขอ่ื นเขาแหลม ห่างจากท่ีทาการอทุ ยานแห่งชาติเขา
แหลม ประมาณ 2 กิโลเมตร ดา้ นหน่ึงของ ป้อมปี่ ถูกโอบไวด้ ว้ ยขนุ เขาท่ีเขยี วขจีไป
ดว้ ยพรรณไม้ ส่วนอีกดา้ นคอื ผืนน้าอนั น่ิงสงบของอา่ งเก็บน้าเขอ่ื นวชิราลงกรณ์
เหมาะแกก่ ารพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ กางเต็นทพ์ กั แรมและทากิจกรรมต่างๆ สาหรับ
นกั ทอ่ งเที่ยวที่ช่ืนชอบกิจกรรมทางน้า สามารถเล่นน้า พายเรือ นง่ั เรือชื่นชมความ
สวยงามของอา่ งเก็บน้าได้ นอกจากน้ีป้อมปี่ ยงั เป็นจดุ ชมพระอาทิตยต์ กที่สวยมากอกี
แห่งหน่ึง มองเห็นพระอาทติ ยส์ ีแดงสม้ คอ่ ยๆคลอ้ ยต่าลงแลว้ หายไปในเนินเขาท่อี ยู่
ห่างไกลออกไป
นำ้ ตกเกริงกระเวีย
นำ้ ตกเกริงกระเวีย น้าตกทอ่ี ยใู่ นเขตอทุ ยานแห่งชาติเขาแหลมแห่งน้ี กม็ ธี รรมชาติท่ี
สวยงาม ร่มร่ืน เป็นท่ี พกั ผอ่ นหยอ่ นใจของชาวบา้ นทอี่ าศยั อยใู่ กลเ้ คยี งรวมท้งั
นกั ท่องเทย่ี วท่ีสญั จร ผ่านไปมาบนถนนที่มงุ่ หนา้ สู่อาเภอ สังขละบรุ ี เสน่ห์ของน้าตก
เกริงกระเวียแห่งน้ีอยทู่ ่ีการทม่ี ลี าน้าหลายสาย ไหลลดหลนั่ ลงมาและ8แตกแขนงราว
กบั ใยแมงมมุ บางช่วงเป็นแอง่ น้าท่ีสามารถลงเล่นน้าไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ทสี่ าคญั ท่ีน่ียงั
เป็นสถานทีท่ ี่ เหมาะสาหรับจอดแวะพกั ระหว่างทาง เพอ่ื ช่ืนชมความชุ่มฉ่าของ
สายน้าท่ีอยใู่ กลแ้ คเ่ อ้ือม
นำ้ พุร้อนหนิ ดำด
น้ำพรุ ้อนหินดำด เป็นน้าพุร้อน พงุ่ ออก มาจากเนินยอ่ ม ๆ กวา้ งพอประมาณ ช่วยใหผ้ ู้
มาเยือน อาบน้า เลน่ น้า ไดส้ ะดวก ปัจจุบนั ในช่วงฤดแู ลง้ จะมีนกั ทอ่ งเทีย่ ว เดินทางมา
อาบน้าแร่ที่น่ีกนั มาก น้าพุร้อนหินดาด เป็นบ่อน้าร้อนธรรมชาติ ริมลาธาร อุณหภมู ิ
ประมาณ 45-55 องศาเซลเซียส ลกั ษณะน้าพุร้อนแห่งน้ีเป็นน้าพรุ ้อนพ่งุ ออกมาจาก
เนินยอ่ มๆ กวา้ งพอประมาณ และไดส้ ร้างเป็นบ่อซีเมนตข์ ้ึน 2 บ่อเชื่อกนั วา่ น้าแร่จาก
บอ่ น้าร้อนแห่งน้ี มีสรรพคุณในการรักษาโรคภยั ไขเ้ จบ็ หลายอยา่ ง เช่น โรคเหน็บชา
ไขขอ้ อกั เสบ นกั ท่องเทย่ี วสามารถลงอาบน้าใน บ่อได้ และยงั มลี าธารน้าเยน็ ไหลอยู่
ดา้ นลา่ งบ่อน้าร้อน คา่ ธรรมเนียมเขา้ ชม คนละ 10 บาท
อำเภอสังขละบุรี
สังขละบุรี เมืองชายแดน แห่งน้ี รายลอ้ มดว้ ยธรรมชาติและขนุ เขา
อนั เขียวขจี มีแมน่ ้าซองกาเลียจากตน้ กาเนิดในประเทศพม่าไหลพาด
ผ่าน สงั ขละบรุ ี เมืองท่ีมคี วามงามหลากหลาย ทางเช้ือชาตแิ ละ
วฒั นธรรมของพนี่ อ้ งต่างเผา่ พนั ธุ์ ท้งั มอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า มี
สะพานไมอ้ ตุ ตมานุสรณ์ หรือท่ี เรียกกนั ว่า สะพานมอญ เป็นสะพาน
ไมท้ ี่ยาวท่ีสุดในประเทศ มคี วามยาวประมาณ 1 กม. กลายเป็น
สญั ลกั ษณ์ของสังขละบุรี เจดียพ์ ุทธคยา เมอื งบาดาล วดั วงั วเิ วกา
ราม เป็นตน้
ด่ำนเจดีย์สำมองค์
ด่ำนเจดีย์สำมองค์ เขตสิ้นสุดชายแดนไทยดา้ นทิศตะวนั ตก เจดียส์ ามองคน์ ้ีเดิม
เรียกวา่ หินสามกอง เป็นทส่ี กั การะของคนไทยโดยทวั่ ไปก่อนเดินทางออกจากเขต
แดนไทยเขา้ สู่เขตแดนพมา่ อกจากน้ีด่านเจดียส์ ามองคย์ งั เป็นช่องทางเดินทพั ที่สาคญั
ของไทยและพมา่ ในอดีต บริเวณดา่ นเจดียส์ ามองค์ มีร้านขายสินคา้ จากประเทศพม่า
นกั ทอ่ งเทีย่ วสามารถขา้ มชายแดนเขา้ ไปชมตลาดพญาตองซู ซ่ึงเป็นตลาดชายแดนที่มี
การจาหน่ายสินคา้ ของพม่า โดยนกั ท่องเทยี่ วจะตอ้ งเสียคา่ ผา่ นด่าน (ฝ่ังประเทศพมา่ )
ชาวไทย 25 บาท ชาวต่างประเทศ 10 เหรียญสหรฐั รถยนต์ คนั ละ 50 บาท ต้งั แต่เวลา
08.00-18.00 น. สอบถามเพม่ิ เติมไดท้ ี่ ด่านตรวจคนเขา้ มอื งสงั ขละบรุ ี โทร. 0 3459
0105, 0 3459 5335
สวนสัตว์เปิ ดกำญจนบุรี
หากพดู ถึงประสบการณก์ ารเท่ยี วสวนสตั วใ์ นแบบทีเ่ คยเจอ คอื เดินหรือนงั่ ชม
สตั วแ์ ต่ละชนิดที่อยใู่ นกรงขงั แต่ถา้ มาเที่ยวที่ สวนสัตว์เปิ ด ซำฟำรปี ำร์ค
กำญจนบรุ ี จะให้ความรู้สึกอีกแบบ คอื ไดใ้ กลช้ ดิ สตั วม์ ากทส่ี ุด ท้งั ในโซนเสือ สิงโต
มา้ ลาย ยรี าฟ จดุ เดน่ คอื ยรี าฟยื่นหวั เขา้ มากินอาหารในรถ ใหไ้ ดถ้ า่ ยภาพแบบใกลช้ ิด
สนุกและตืน่ เตน้ ร้องกร๊ีด กนั ท้งั คนั รถ นอกจากน้ียงั มที วั ร์ยีราฟแบบ private ท่ี
ใหบ้ ริการรถส่วนตวั นาเท่ยี ว สามารถใกลช้ ิดยีราฟและมา้ ลายไดม้ ากข้นึ อกี ดว้ ย รบั รอง
ว่าไดภ้ าพประทบั ใจกลบั บา้ นไปแน่นอน
วัดสระลงเรือ
วดั น้ีมีจุดเด่นและเร่ิมเป็นท่ีรู้จกั เม่อื มีการสร้างเรือสุพรรณหงษจ์ าลองที่ใหญ่
ที่สุดในโลกสร้างข้นึ ในสระน้าขนาดใหญ่ของวดั มีลกั ษณะ สวยงามวิวจิตรตระการตา
ซ่ึงดา้ นในเรือซ่ึงสามารถเขา้ ไปชมดา้ นในไดโ้ ดย บรรจุพระบรมสารีริกธาตไุ วด้ า้ นบน
เพ่อื กราบไหวบ้ ูชา เพอ่ื ความเป็นสิริมงคล นอกจากน้ีภายในวดั สระลงเรือยงั มีส่ิง
ศกั ด์ิสิทธ์ิ อกี มากมายไดแ้ ก่ หลวงพอ่ ใหญอ่ งคด์ า พระเกจิชื่อดงั ทุกภาคของประเทศ,
เทพเจา้ ของจีน และของไทยอกี มากมาย และยงั ไดส้ ร้างเมืองสวรรค์ และนรกไวใ้ ต้
อโุ บสถ เพื่อเตอื นสตผิ ูค้ นใหท้ าแต่ความดี และกาลงั ก่อสร้างรูปเหมือนของสมเดจ็ พระ
พุฒาจารย์ (โต พรหมฺรงสี) องคใ์ หญท่ ่ีสุดในโลก ข้ึนไวอ้ กี องคห์ น่ึง
ภูมิศำสตร์
อำณำเขตติดต่อ
ตามภมู ศิ าสตร์ทตี่ ้งั จงั หวดั กาญจนบรุ ีเป็นจงั หวดั ทีอ่ ยใู่ นภาคตะวนั ตก มีพ้ืนที่
ตดิ ต่อกบั จงั หวดั อ่นื ๆ 5 จงั หวดั ดงั น้ี
• ทิศเหนือ ติดกบั จงั หวดั ตาก รัฐมอญ และรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า
• ทิศตะวนั ออก ตดิ กบั จงั หวดั อทุ ยั ธานี และจงั หวดั สุพรรณบรุ ี
• ทศิ ใต้ ติดกบั จงั หวดั นครปฐม และจงั หวดั ราชบุรี
• ทศิ ตะวันตก ตดิ กบั รฐั มอญ และเขตตะนาวศรี ประเทศพม่า โดยมีแนวเขาสาคญั
แบง่ เขตแดนระหว่างไทยกบั พมา่ คือทิวเขาถนนธงชยั และทวิ เขาตะนาวศรี
ภูมปิ ระเทศ
พ้นื ที่ส่วนใหญข่ องจงั หวดั เป็นป่ าไมแ้ ละภูเขาสูง โดยเฉพาะพ้ืนท่ีทางดา้ นเหนือ
และตะวนั ตกของจงั หวดั ถึงแมจ้ งั หวดั กาญจนบุรีจะมเี ขตพ้ืนท่ีตดิ กบั จงั หวดั ตาก
ทางดา้ นทศิ เหนือ แตก่ ็ไม่มถี นนเช่ือมตอ่ กนั เนื่องจากมีเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ าทุ่งใหญ่
นเรศวร ซ่ึงเป็นมรดกโลกและมปี ่าทอี่ ุดมสมบรู ณ์รกทึบสลบั กบั มภี เู ขาอนั
สลบั ซบั ซ้อน หากจะเดินทางติดต่อกนั ตอ้ งออ้ มไปทางจงั หวดั สุพรรณบรุ ี จงั หวดั
ชยั นาท จงั หวดั นครสวรรค์ จงั หวดั กาแพงเพชร แลว้ จึงเขา้ จงั หวดั ตาก ซ่ึงมีระยะทาง
กว่า 490 กิโลเมตร และหากตอ้ งการเดินทางไปอาเภออมุ้ ผาง จงั หวดั ตาก ซ่ึงมอี าณา
เขตติดต่อกบั จงั หวดั กาญจนบรุ ี จะตอ้ งเดินทางยอ้ นลงมาทางใตร้ วมระยะทางกวา่ 700
กิโลเมตร
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศจงั หวดั กาญจนบุรี แบ่งออกได้ 3 ลกั ษณะดงั น้ี
1. เขตภูเขาและทส่ี ูง พ้ืนท่ที างดา้ นทศิ เหนือของจงั หวดั ไดแ้ ก่ บริเวณอาเภอสงั ขละ
บรุ ี อาเภอทองผาภมู ิ อาเภอศรีสวสั ด์ิ และอาเภอไทรโยค มีลกั ษณะเป็นเทอื กเขา
ตอ่ เน่ืองมาจากเทือกเขาถนนธงชยั ถดั ไปทางดา้ นตะวนั ตกของจงั หวดั เทอื กเขา
ตะนาวศรีซ่ึงก้นั พรมแดนระหวา่ งไทยกบั ประเทศพมา่ ทอดยาวลงไปทางดา้ นใต้
บริเวณน้ีจะเป็นแหลง่ กาเนิดตน้ น้าทสี่ าคญั ของจงั หวดั คือ แม่น้าแควใหญ่ และ
แม่น้าแควนอ้ ย ซ่ึงในแถบน้ีจะมีรอยเลือ่ นอยหู่ ลายรอยและมกั เกิดแผน่ ดินไหว
ในพ้นื ที่บอ่ ยคร้ัง
2. เขตทร่ี าบลูกฟูก ไดแ้ ก่ พ้นื ทตี่ ะวนั ออกเฉียงเหนือของจงั หวดั มลี กั ษณะเป็นท่ี
ราบเชิงเขาสลบั กบั เนินเขาเต้ยี ๆ อยบู่ ริเวณอาเภอเลาขวญั อาเภอบ่อพลอย และ
บางส่วนของอาเภอพนมทวน
3. เขตทร่ี าบลุ่มน้า ไดแ้ ก่ พ้ืนทีท่ างดา้ นใตข้ องจงั หวดั ลกั ษณะเป็นทีร่ าบ ดินมคี วาม
อดุ มสมบูรณ์ อยบู่ ริเวณอาเภอท่ามะกา อาเภอทา่ มว่ ง และบางส่วนของอาเภอ
พนมทวน อาเภอเมอื งกาญจนบุรี
ภูมอิ ำกำศ
• ฤดรู ้อน ระหว่างกลางเดือนกมุ ภาพนั ธ์ถงึ กลางเดือนพฤษภาคม มลี มฝ่ายใตพ้ ดั
มาปกคลมุ ทาให้มอี ากาศร้อนอบอา้ วทว่ั ไป โดยมอี ากาศร้อนจดั อยใู่ นเดือน
เมษายน
• ฤดูฝน ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม ถงึ เดือนพฤศจิกายน ในระยะน้ีเป็นช่วงที่
ลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใตพ้ ดั ปกคลุม ทาใหม้ ีฝนตกชุกโดยตกชุกทสี่ ุดในเดือน
กนั ยายน
• ฤดหู นาว ระหวา่ งเดือนพฤศจิกายนถงึ กลางเดือนกุมภาพนั ธ์ โดยในช่วงน้ี ความ
กดอากาศสูงจากประเทศจีนและลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือพดั ปกคลุม ทาให้
อากาศหนาวเยน็ และความแห้งแลง้ แผป่ กคลุมจงั หวดั กาญจนบรุ ี
จงั หวดั กาญจนบรุ ีมอี ุณหภมู ติ ่าสุดโดยเฉล่ีย 22.7 องศาเซลเซียส อุณหภมู ิสูงสุด
โดยเฉล่ีย 36.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่าที่สุดวดั ได้ 3.7 องศาเซลเซียส (เม่ือวนั ที่ 17
มกราคม พ.ศ. 2517) อณุ หภมู ิสูงสุดที่วดั ได้ 44.2 องศาเซลเซียส (เมอ่ื 12 เมษายน พ.ศ.
2559) และมีปริมาณน้าฝนเฉลี่ย 1496.2 มลิ ลเิ มตรต่อปี
ธรณีวทิ ยำ
ในดา้ นทรัพยากรดิน พ้ืนทส่ี ่วนใหญ่ของจงั หวดั กาญจนบรุ ีมภี ูเขาสลบั ซบั ซ้อน
พ้นื ท่ที ่เี หมาะสาหรับเกษตรกรรมคือ ทรี่ าบระหว่างภูเขาซ่ึงมีแมน่ ้าและลาน้าสายตา่ ง ๆ
ไหลผา่ น เน่ืองจากเป็นบริเวณทม่ี หี ินปูน หินแกรนิต หินแกรไนโอออไรท์ หินไนล์
หินดินดาน หินควอทโซฟีลไลท์ เป็นวตั ถตุ น้ กาเนิดดิน ทร่ี าบระหวา่ งหุบเขาและสอง
ฝ่ังแมน่ ้าจึงมีลกั ษณะเป็นตะกอนที่เกิดจากการสลายตวั ของหินดงั กล่าวแลว้ ถกู น้าพดั
พามาทบั ถม และเน่ืองจากพ้นื ที่ส่วนน้ีมหี ินปนู เป็นส่วนใหญ่ ดินจึงมีปฏกิ ิริยาเป็น
กลางหรือเป็นดา่ ง มีความอดุ มสมบูรณป์ านกลางถงึ ดี จึงเป็นแหล่งเพาะปลกู พืชไร่ที่
สาคญั ของประเทศเช่น ออ้ ย ขา้ วโพด มนั สาปะหลงั และสับปะรด ส่วนในบริเวณท่ี
ราบต่าใชป้ ลกู ขา้ วแตม่ เี น้ือทไี่ มม่ ากนกั
อทุ กวิทยำ
ในดา้ นทรพั ยากรน้า จงั หวดั กาญจนบุรีมีแหล่งน้าท่ีสาคญั 3 ประเภทคอื
• น้าใตด้ ินหรือน้าบาดาล ตน้ กาเนิดของแหลง่ น้าบาดาลส่วนใหญ่มาจากน้าฝนซ่ึง
ตกสู่ผิวดินลงไปกบั เก็บใตช้ ้นั ดิน พ้ืนท่ที างตอนบนและทางตะวนั ตกของจงั หวดั
ซ่ึงมีสภาพเป็นทส่ี ูงภเู ขา รองรับดว้ ยหินแปรปริมาณน้าบาดาลจึงมนี อ้ ยมาก ส่วน
พ้ืนท่ที างตะวนั ออกและทางใตข้ องจงั หวดั เป็นทร่ี าบลุ่ม มีแหลง่ น้าบาดาล
สามารถนาข้นึ มาใชไ้ ด้ แต่ยงั คงมปี ริมาณนอ้ ย
• น้าผิวดิน แหล่งน้าผิวดินมีตน้ น้าอยทู่ างตอนเหนือของจงั หวดั ถงึ เขตจงั หวดั
อทุ ยั ธานี ลกั ษณะทางน้าเป็นร่องลกึ ในระหว่างหุบเขา มธี ารน้าบางสายไหลข้ึน
ไปทางเหนือสู่ประเทศพม่า แตล่ าธารส่วนใหญไ่ หลลงสู่แม่น้าแควนอ้ ยและแคว
ใหญ่ ก่อนจะรวมตวั กนั เป็นแมน่ ้าแมก่ ลอง ส่วนดา้ นตะวนั ออกมลี าตะเพินเป็น
ธารน้าสาคญั ของบริเวณน้ี แหลง่ น้าผิวดินที่สาคญั ไดแ้ ก่ แมน่ ้าแควนอ้ ย แม่น้า
แควใหญ่ (ศรีสวสั ด์ิ) แมน่ ้าแมก่ ลอง แม่น้าลาตะเพิน
• น้าจากการชลประทาน จงั หวดั กาญจนบุรีเป็นท่ีต้งั ของอา่ งเกบ็ น้าขนาดใหญ่
หลายแห่งเพ่ือวตั ถุประสงคห์ ลกั ในการผลิตกระแสไฟฟ้า แตส่ ่ิงทไี่ ดร้ บั
ผลประโยชน์ตามมาคือการชลประทานทีส่ ามารถส่งน้าให้กบั พ้ืนที่เพาะปลกู
เขื่อนที่สาคญั เช่น เขอื่ นศรีนครินทร์ในเขตอาเภอศรีสวสั ด์ิ เขื่อนเขาแหลมใน
อาเภอทองผาภมู ิ อาเภอสงั ขละบุรี และเขอื่ นวชิราลงกรณ์ในอาเภอทา่ ม่วง
แหล่งนำ้ ท่สี ำคัญ
• แมน่ ้าแควใหญ่ (แม่น้าศรีสวสั ด์ิ)
• แม่น้าแควนอ้ ย (แมน่ ้าไทรโยค)
• แม่น้าแม่กลอง
• แมน่ ้าบีคล่ี
• แมน่ ้าซองกาเลีย
• แมน่ ้ารันตี
• แมน่ ้าภาชี
• แม่น้าสุริยะ (แม่น้าทรยศ ไหลยอ้ นไปทางเหนือเขา้ เขตพม่า)
• ทะเลสาบเขอ่ื นศรีนครินทร์
• ทะเลสาบเขาแหลม
• ทะเลสาบทา่ ท่งุ นา
ประชำกรศำสตร์
ตามขอ้ มลู จานวนประชากรของสานกั ทะเบยี นกลาง กรมการปกครอง ณ วนั ที่
31 ธนั วาคม พ.ศ. 2560 จงั หวดั กาญจนบุรีมปี ระชากร 887,979 คน คดิ เป็นอนั ดบั ที่ 25
ของประเทศ โดยแบ่งเป็นประชากรเพศชาย 446,262 คน และประชากรเพศหญงิ
441,717 คน[8] มีความหนาแนน่ ประชากรโดยเฉล่ีย 43.53 คนตอ่ ตารางกิโลเมตร คิด
เป็นอนั ดบั ท่ี 74 ของประเทศ อาเภอทมี่ ปี ระชากรหนาแน่นมากท่สี ุด คือ อาเภอทา่
มะกา ซ่ึงมีความหนาแน่นประชากรเฉลยี่ 400.14 คนตอ่ ตารางกิโลเมตร ส่วนอาเภอท่ี
ประชากรเบาบางท่สี ุด คือ อาเภอศรีสวสั ด์ิ ซ่ึงมีความหนาแน่นประชากรเฉลยี่ 8.09 คน
ตอ่ ตารางกิโลเมตร
ระยะทำงจำกอำเภอเมืองกำญจนบรุ ีไปอำเภอต่ำง ๆ
• อาเภอทา่ ม่วง 14 กิโลเมตร
• อาเภอพนมทวน 25 กิโลเมตร
• อาเภอทา่ มะกา 32 กิโลเมตร
• อาเภอด่านมะขามเต้ยี 32 กิโลเมตร
• อาเภอบ่อพลอย 40 กิโลเมตร
• อาเภอไทรโยค50 กิโลเมตร
• อาเภอหว้ ยกระเจา 54 กิโลเมตร
• อาเภอหนองปรือ 76 กิโลเมตร
• อาเภอเลาขวญั 85 กิโลเมตร
• อาเภอศรีสวสั ด์ิ 125 กิโลเมตร
• อาเภอทองผาภมู ิ 144 กิโลเมตร
• อาเภอสงั ขละบุรี 215 กิโลเมตร
ประสบกำรณ์ประทบั ใจ
ประสบการณ์ที่ประทบั ใจของดิฉนั กบั จงั หวดั กาญจนบรุ ี ตอ้ งบอกก่อนเลยวา่
ฉันเกิดและเตบิ โตทนี่ ่ีก่อนทจ่ี ะยา้ ยมาจงั หวดั สุพรรณบุรี ส่วนตวั ประทบั ใจในการ
ท่องเท่ียวที่อาเภอสงั ขละบรุ ี ท่ีมาเท่ียวกี่คร้งั ก็ไมเ่ คยเบ่ือเลย แถมทกุ คร้ังที่มาก็มคี วาม
ประทบั ใจทแี่ ตกตา่ งกนั และความทรงจาวยั เด็กที่เคยใชช้ ีวิตอยทู่ ่ีน่ีกท็ าใหม้ คี วามสุข
มากๆ และดิฉนั อยากใหท้ ุกคนไดล้ องไปสงั ขละสักคร้งั ไปพบกบั หมอก วิวท่งี ดงาม
อากาศเยน็ ๆสุดฟิน
บรรณำนุกรม
https://www.paiduaykan.com/travel/%
https://th.wikipedia.org/wiki/%
https://ww2.kanchanaburi.go.th/frontpage