1
รายงาน
เรือ่ ง นันทนาการเพอื่ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ
จัดทำโดย
นายวชิ ยั นามบญุ เรือง สบค.1/1 เลขที่32
เสนอ
อาจารย์ สปุ ระวัติ ขันทอง
วทิ ยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษากระทรวงศกึ ษาธิการ
2
คำนำ
สขุ ภาพเป็นสิ่งสำคญั สำหรบั ทุกคน จุดมงุ่ หมายของนนั ทนาการประการหน่งึ กเ็ พ่ือพฒั นาสขุ ภาพกาย
และสุขภาพจิตของคนให้สมบรู ณ์ยง่ิ ข้นึ ดงั นน้ั กจิ กรรมนนั ทนาการเปน็ อกี กจิ กรรมหน่ึงทีม่ ีความสำคัญเพ่มิ ข้ึน
พร้อมกบั ความสนใจในสุขภาพของคนในปจั จุบนั คือ นนั ทนาการเพอื่ สขุ ภาพ เชน่ เต้นรำ รอ้ งเพลง กฬี าชนดิ
ต่างๆ ออกกำลงั กาย เต้นแอโรบคิ การฝึกสมาธิ โยคะ เป็นต้น
สารบัญ 3
เรือ่ ง หน้า
ความหมายของนนั ทนาการ 4
ความสำคัญของนนั ทนาการ 5
ประโยชน์และคณุ ค่าของนนั ทนาการ 6-7
ปรชั ญาและหลักการนนั ทนาการ 8
ขอบข่ายและลกั ษณะของนันทนาการ 9-10
วตั ถุประสงค์ของกิจกรรมนันทนาการ 11-12
บรรณานกุ รม 13
4
ความหมายของนนั ทนาการ
นันทนาการ(Recreation) คอื กิจกรรมท่ีสมัครใจทำในยามวา่ งเพอื่ ให้เกดิ ความเพลิดเพลนิ ผอ่ นคลาย
ความตรงึ เครียดทัง้ รา่ งกายและจิตใจ นนั ทนาการ การเล่น และความสนุกสนาน ไมส่ งวนไวแ้ ต่มนุษย์ แต่พบได้
ในสตั ว์เกอื บทกุ ชนิด การเล่นชว่ ยพฒั นาทักษะตา่ งๆ โดยเฉพาะทักษะการเคลือ่ นไหวในส่ิงที่มีชีวิตวัยเยาว์
สำหรับมนษุ ย์ กิจกรมนันทนาการมักเกดิ ขน้ึ ในชว่ งสดุ สปั ดาห์และวนั หยดุ ประกอบด้วย ดนตรี เกม
การเต้นรำ กฬี า งานอดเิ รก การท่องเทย่ี ว การดโู ทรทัศน์ ฟังเพลงเป็นต้น
ความเป็นเอกลักษณข์ องนันทนาการ คอื ไมเ่ ปน็ งานอาชพี ไมเ่ ปน็ อบายมุข ไมม่ ผี ลตอบแทน ไม่มีผู้ใด
บังคับใหร้ ่วมกจิ กรรม
5
ความสำคญั ของนันทนาการ
ความสำคัญสำหรบั บุคคล ในประเทศเสรีประชาธิปไตย บุคคลยอ่ มพอใจความรบั ผิดชอบและสทิ ธิของ
เรา ตามความจรงิ แลว้ ความรบั ผิดชอบคือ สทิ ธิของเสรี ไดม้ กี ารอภปิ รายกัน ถงึ ความจำเปน็ ของนันทนาการที่
มีต่อบุคคลแต่ละคนนัน้ สรปุ ได้ 4 ประเภทดว้ ยกนั คือ
1. บคุ คลแต่คนมสี ทิ ธ์มิ สี ิทธ์ิทีจ่ ะใชเ้ วลาว่างของตนเข้ารว่ มในกจิ กรรมนนั ทนาการ เพ่อื ประโยชน์แก่
ตนเองในฐานะทเ่ี ขา้ มาเปน็ สมาชิกหนึ่งของชุมชน ทอ้ งถิ่น จงั หวดั และประเทศชาติ ประโยชนจ์ ากกจิ กรรม
นันทนาการท่ีเลือกสรรเข้ารว่ มนน้ั ต้องให้ได้ผลทางด้าน จติ ใจ อารมณ์ สังคม และทางร่างกายเป็นอย่างดีด้วย
2. บคุ คลแต่ละคนมคี วามรับผิดตามกฎหมาย ในอันทีจ่ ะสนบั สนุนนนั ทนาการ โดยการเสียภาษีใหก้ ับ
รฐั บาล หนว่ ยงานต่างๆ ของรฐั บาล กล่าวคอื กระทรวง ทบวง กรม กอง เทศบาล และทอ้ งถ่ิน ซึง่ เปน็ ฝา่ ยจดั
ใหม้ ีสถานท่ี เคร่อื งอำนวยความสะดวก และการบริการนนั ทนาการใหแ้ ก่ประชาชน
3. บคุ คลแต่ละคนย่อมมคี วามรบั ผิดชอบในทางจิตใจ หรือทางศีลธรรมในอนั ทจี่ ะให้การสนับสนนุ และ
ความช่วยเหลอื ตา่ งๆ โดยผ่านองค์การอาสาสมัครทัง้ หลาย อันเปน็ มลู ฐานของการนันทนาการในประเทศของ
เรา ความรับผิดชอบดังกล่าวน้ี ยอ่ มมคี วามสำคัญ ไมน่ อ้ ยไปกว่าความรับผิดชอบตามกฎหมาย ในอันท่จี ะชว่ ย
จรรโลงนนั ทนาการของรัฐเพอื่ ประชาชน
4. บคุ คลแต่ละคนยอ่ มมีความรับผิดชอบท่จี ะอุทศิ เวลาว่างของตนเองเพอื่ ใช้บรกิ ารต่อชุมชน และการ
เขา้ ร่วมลักษณะน้ี เขาย่อมได้รบั ความพึงพอใจหรอื ความสุขใจ ซึ่งเป็นรากฐานของการนันทนาการอยู่ในตัวเป็น
เคร่ืองตอบแทน เพราะบคุ คลท่ีรกั และชอบอทุ ิศเวลาว่างของตนเพ่ือช่วยเหลือบรหิ ารแก่ชุมชนท่จี ะทำ เม่อื เขา
ได้กระทำแลว้ จะทำ ให้เขามีความพอใจก็นบั วา่ เป็นกจิ กรรมนนั ทนาการของเขาที่มคี วามรบั ผดิ ชอบ ทตี่ อ้ งทำ
ในฐานะเปน็ บุคคล ในสงั คมเสรปี ระชาธปิ ไตย ทง้ั น้ี รวมถึงผบู้ รหิ ารอาสาสมัครทุกชนดิ ทจ่ี ะบริการนนั ทนาการ
6
ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของนันทนาการ
1. ช่วยใหบ้ ุคคลและชมุ ชนไดร้ ับความสุข สนกุ สนาน มีความสุขในชีวติ และใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
2. ช่วยใหบ้ ุคคลและชมุ ชนพัฒนาคุณภาพชวี ิตและสมรรถภาพทางกายทดี่ ี เกิดความสมดลุ ของชวี ิตช่วยปอ้ งกนั
ปัญหาอาชญากรรมและพฤติกรรมเบ่ียงเบนในทางไม่พงึ ประสงคข์ องเยาวชนและเดก็ การพฒั นาพฤติกรรม
ของเดก็ และเยาวชนนบั วา่ เป็นสงิ่ สำคัญในการเสริมสรา้ งลักษณะนิสัยท่ีพงึ ประสงค์ และเปน็ กำลังคนทีม่ ี
ประสทิ ธิภาพในอนาคต กิจกรรมนันทนาการประเภทต่าง ๆ ชว่ ยให้เดก็ และเยาวชนเลอื กไดฝ้ กึ ฝนตามความ
สนใจ และได้ใช้เวลาว่างในการพฒั นาลกั ษณะนสิ ัยทพี่ งึ ประสงค์ได้
3. ส่งเสรมิ ความเป็นพลเมอื งดี การท่ีชมุ ชนไดม้ โี อกาสใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชนโ์ ดยเข้าร่วมใน กิจกรรม
นนั ทนาการ จะได้เรยี นรใู้ นเร่ืองของหนา้ ทีค่ วามรับผดิ ชอบ คุณค่าทางสังคมเสรีประชาธปิ ไตย ลดความเห็นแก่
ตวั สรา้ งคุณค่าจริยธรรมความมีนำ้ ใจ การใหบ้ ริการ รู้จักอาสาสมัครชว่ ยเหลอื สงั คม ซ่ึงถอื ว่าเปน็ กิจกรรม
ของความเป็น พลเมอื งดีของประชาชาติ
4.ส่งเสรมิ การพัฒนาอารมณส์ ุข กิจกรรมนันทนาการจะชว่ ยพฒั นาอารมณ์สุขรวมทั้งความสุข สนุกสนาน และ
ความสุขสงบ ลดความเครียด ความวติ กกังวล ทำให้อารมณ์แจ่มใสและช่วยส่งเสริมใหร้ จู้ กั การ
พฒั นาการ ควบคมุ อารมณ์ และบคุ ลกิ ภาพท่ีดอี ีกดว้ ย
5. ส่งเสริมศิลปวฒั นธรรมของชาติ กจิ กรรมนันทนาการ เชน่ การเลน่ พ้ืนเมอื ง วถิ ี
ชวี ิต ประเพณี พน้ื บ้าน ตลอดจนแหล่งนนั ทนาการประเภทอุทยานประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน และ
โบราณวัตถุ ช่วยส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ทัศนคติ และความซาบซ้ึง อันจกั
ก่อใหเ้ กิดการอนุรกั ษ์ศลิ ปวฒั นธรรม และเอกลกั ษณ์ของชาตติ ่อไป
6. สง่ เสรมิ การอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กจิ กรรมนนั ทนาการกลางแจง้ และนอกเมอื ง ไดแ้ ก่ กิจกรรมการ
อยคู่ า่ ยพักแรม เดนิ ปา่ ศึกษาธรรมชาติ ไต่เขา เป็นตน้ กิจกรรมเหล่านชี้ ่วยสอนผู้ท่ีเขา้ รว่ มได้รจู้ ักคุณคา่ ของ
ธรรมชาติ ซาบซ้งึ และสามารถดูแลอนุรกั ษ์ธรรมชาติอนั จกั เปน็ ประโยชน์ต่อชมุ ชน และประชาชาติของโลก
7. สง่ เสรมิ ในเรอื่ งการบำบัดรักษา กิจกรรมนนั ทนาการเพ่อื การบำบดั เป็นกรรมวธิ ีและกจิ กรรมทีจ่ ะช่วยรกั ษา
คนป่วย ท้ังทางด้านร่างกาย และสุขภาพจิต เช่น งานอดิเรกประเภทประดิษฐ์ สรา้ งสรรค์ และชว่ ยสง่ เสริม
ความหวงั ความคิด และการใช้เวลาว่างแกค่ นปว่ ยซงึ่ กำลังต่อสู่กบั ความทุกข์ทางกายหรือจิตกิจกรรม
นนั ทนาการประเภทกฬี านนั ทนาการชว่ ยส่งเสริมการพัฒนาร่างกาย กิจกรรมนันทนาการทางสงั คมชว่ ยสรา้ ง
ขวญั กำลงั ใจของคนปว่ ย
7
8. ส่งเสริมมนุษยส์ ัมพนั ธแ์ ละการทำงานเป็นทีม กิจกรรมกลุม่ สมั พนั ธช์ ว่ ยให้บคุ คลได้แสดงออกและละลาย
พฤตกิ รรมของกลุ่ม สรา้ งเสริมคุณคา่ ทางสงั คม ฝึกการอยรู่ ว่ มกนั อย่างมีความสขุ กิจกรรมเกมกีฬา และกฬี า
เพ่ือการแข่งขนั และการอยคู่ ่ายพักแรมช่วยฝึกการทำงานเปน็ หมคู่ ณะ ลดความเห็นแก่ตัว เสรมิ สร้างความ
สามคั คี และความเขา้ ใจอนั ดใี นหมู่คณะ
9. สง่ เสริมและบำรงุ ขวัญทหารและตำรวจ ปฏิบัติหนา้ ทตี่ ามชายแดน กจิ กรรมนันทนาการทีจ่ ดั ขนึ้ เพอื่ ส่งเสรมิ
ขวญั กำลังใจของทหาร ตำรวจชายแดน เป็นสิง่ จำเป็น และสำคัญยง่ิ ในการตอบแทน ให้กำลังใจในกิจกรรม
เวลาวา่ งแก่กองทหารและตำรวจชายแดน
10. ส่งเสรมิ และบำรงุ ขวัญบคุ ลากรในหน่วยงาน การจดั กจิ กรรมนนั ทนาการขึ้นในหนว่ ยงานต่าง ๆ ย่อมสง่ ผล
ดตี ่อบุคลากรในหนว่ ยงานนน้ั ๆ ให้เกดิ ความรัก ความสามัคคี มขี วัญและกำลังใจตอ่ การท่ีจะปฏบิ ัติหนา้ ที่ การ
งานต่อไป ถือวา่ เปน็ ส่ิงจำเป็นและมคี วามสำคัญอย่างยงิ่ ทไ่ี มค่ วรละเลย
8
ปรชั ญาและหลกั การนันทนาการ
ปรัชญาและหลกั ของนันทนาการคือ เพอ่ื สร้างภาวะสมดลุ แห่งการดำเนนิ ชวี ติ ระหว่างภารกิจการงาน
กับยามวา่ งจากภารกจิ มนษุ ยย์ อ่ มมภี าระหน้าทีต่ ้องกระทำตามความจำเป็นในการดำรงชีวิต การละเลยหน้าที่
จะกลายเปน็ คนขเ้ี กยี จและขาดคุณภาพแห่งชีวติ ภารกิจการงานอาจนำซ่งึ ความเครง่ เครียด วิตกกังวลอันเป็น
ส่งิ บ่นั ทอนจิตใจและรา่ งกายสง่ิ ทตี่ รงกนั ข้ามกับงานก็คือการกระทำส่งิ ที่ผอ่ นคลาย หรือการพักผ่อนการกระทำ
กจิ กรรมเพอื่ ลดหรือระบายความเครง่ เครยี ดน้นั ต้องอำนวยประโยชน์อย่างแท้จรงิ ท่จี ะทำให้ร่างกายสดช่นื
อารมณแ์ จม่ ใสเบกิ บาน เพลดิ เพลินสนกุ สนาน ร่าเรงิ มชี วี ิตชีวา แต่ถา้ การกระทำกจิ กรรมนน้ั ไมเ่ ปน็ ประโยชนก์ ็
จะกลายเป็นดาบสองคม สรา้ งปญั หาใหแ้ ก่ตนเองครอบครัวและสังคมประเทศชาตไิ ด้ นันทนาการจงึ เป็น
พฤติกรรมของมนษุ ย์ท่แี สดงออกมาดว้ ยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทงั้ กวา้ งขวาง และลึกซึ้งในยามวา่ ง
คณุ ค่าของนนั ทนาการกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์นานัปการทงั้ ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม เปน็ พลเมืองดีมี
ประสิทธภิ าพต่อประเทศชาติ กิจกรรมนันทนาการอาจเป็นได้ทั้งดา้ นกฬี า ดนตรี ทำสวน เขียนหนงั สอื วาด
ภาพระบายสี จักสานป้นั แต่งฯลฯ
จากหลักการทางนนั ทนาการดงั กล่าว บุคคลสำคญั ทเ่ี ปน็ แบบอย่างที่ดงี าม ควรแก่การยกย่องเทดิ ทนู
คอื พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั พระองคท์ รงมี พระราชดำรสั พระราชทานแก่ คณะกรรมการของสมาคม
ดนตรีแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภค์ วามวา่
“…ดนตรนี เี้ ปน็ ศิลปะและนบั วา่ เปน็ กจิ กรรมทก่ี ว้างขวางมากดนตรนี ีพ้ าดพิงถึงชวี ิตประชาชนทว่ั ไปอย่าง
กวา้ งขวาง ... การเลน่ ดนตรีและการฟังดนตรี ประชาชนก็ไดร้ บั ความบนั เทงิ และไดผ้ อ่ นอารมณ์ให้มจี ติ ใจร่า
เริง สามารถที่จะมีกำลังใจอย่างสงู ...”
การพลศึกษา สุขศกึ ษา และนันทนาการ เปน็ ศาสตร์ท่ีช่วยดแู ล ป้องกนั เสรมิ สร้างรกั ษาและพัฒนา
สขุ ภาพของมนุษยโ์ ดยองค์รวม (Holistic) เพ่อื ให้มีคุณภาพชวี ิตดีข้ึนจะไดอ้ ยูอ่ ยา่ งเป็นสขุ อย่ดู ีกินดี (Well-
being) ไปจนตลอดชวี ิต การประพฤตปิ ฏิบัติตนแตใ่ นส่ิงทีด่ ีงาม สมถะ ไมฟ่ ่มุ เฟือย อยา่ งรูจ้ กั คำว่า “พอ”ท้ัง
พออยู่ พอกนิ พอดี และพอเพยี ง ดว้ ยชวี ิตที่เรียบง่ายและลงมือปฏบิ ัตอิ ยา่ งผูร้ ู้จรงิ จึงเป็นพฤติกรรมท่ีสนอง
พระราชดำรโิ ดยแท้ ซึ่งไม่เพยี งพอแต่ก่อสุขใหเ้ กดิ แกต่ นเองเท่านน้ั ยงั ส่งผลไปถงึ สังคมและประเทศชาติอย่าง
ยง่ั ยืน (Sustainable) อีกด้วย และยงั เป็นสงิ่ ทแ่ี สดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคณุ เพอ่ื เจรญิ รอยตาม
พระยุคลบาท “ พ่อของแผน่ ดนิ ”
9
ขอบข่ายและลักษณะของนันทนาการ
กจิ กรรมนันทนาการเปน็ กจิ กรรมทีม่ ีขอบข่ายกวา้ งขวางมากมายหลายประเภท ครอบคลุมกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ดว้ ยเหตุผลท่ีว่ามนุษยย์ อ่ มมคี วามแตกต่างระหวา่ งบุคคล ความชนื่ ชอบ และความพึง่ พอใจในกิจกรรม
นันทนาการไมเ่ หมือนกนั กจิ กรรมนนั ทนาการจงึ มีสิง่ สมั พนั ธก์ นั 3 ประการ คือ
1.ประเภทของกิจกรรมนนั ทนาการ
- การฝมี อื และศิลปหัตถกรรม (Arts and crafts) เป็นงานฝมี อื หรือสิ่งประดิษฐต์ ่าง ๆ เชน่ การวาดรูป
งานแกะสลัก งานป้นั การประดษิ ฐด์ อกไม้ เยบ็ ปกั ถักรอ้ ย ทำ ตกุ๊ ตาประดษิ ฐข์ ้าวของเครื่องใช้ และงานศลิ ปะ
อืน่ ๆ
- เกม กีฬา และกรฑี า (Games, sport and track and field’s) กจิ กรรมนันทนาการประเภทนเ้ี ปน็
ทีน่ ิยมกนั อย่างแพร่หลาย แบง่ ไดเ้ ป็น 2 กลมุ่ ใหญ่ คอื กีฬากลางแจ้ง (Outdoor Games) ไดแ้ ก่ กีฬาที่ต้องใช้
สนามกลางแจง้ เชน่ ฟตุ บอล บาสเก็ตบอลและกจิ กรรมกลางแจ้งอืน่ ๆกีฬาในร่ม (Indoor Games) ได้แก่
กิจกรรมในโรงยมิ เนเซียม หรือในหอ้ งนันทนาการ เช่น แบดมนิ ตัน เทเบิลเทนนสิ หมากรุก ฯลฯ
- ดนตรีและรอ้ งเพลง (Music) เปน็ กิจกรรมนนั ทนาการทีใ่ หค้ วามบนั เทงิ ดนตรเี ป็นภาษาสากลท่ที ุก
ชาตทิ กุ ภาษาสามารถเข้าใจเหมอื นกนั แต่ละชาติแต่ละทอ้ งถน่ิ จะมเี พลงพื้นบา้ นของตนเอง และเคร่ืองดนตรี
พ้นื บา้ น เราสามารถเลอื กได้ตามความสนใจไม่วา่ จะเปน็ สากลหรือพน้ื บ้าน
- ละครและภาพยนตร์ (Drama) เป็นนนั ทนาการประเภทให้ความรูค้ วามบันเทงิ ความสนุกสนาน
เพลิดเพลนิ และสะท้อนใหเ้ ห็นถึงสภาพจรงิ ของสังคมยุคน้ัน ๆ
- งานอดิเรก (Hobbies) เป็นกิจกรรมนันทนาการทช่ี ว่ ยใหก้ ารดำ เนินชีวิตประจำ วนั มคี วามสุข
เพลดิ เพลนิ งานอดิเรกมีหลายประเภท
- กจิ กรรมทางสังคม (Social activities) เปน็ กิจกรรมทกี่ ลมุ่ คนในสงั คมร่วมจัดขน้ึ โดยมี จุดมงุ่ หมาย
เดยี วกนั เชน่ การจดั เลี้ยงปีใหม่ งานเลีย้ งวนั เกดิ กานฉลองในโอกาสพเิ ศษต่าง ๆ
- เตน้ รำ ฟ้อนรำ (Dance) เปน็ กิจกรรมทใ่ี ชจ้ ังหวะต่าง ๆ เปน็ กิจกรรมทีใ่ ห้ความสนกุ สนาน เช่น
เตน้ รำ พืน้ เมือง การรำ ไทย รำ วง นาฏศลิ ป์ ลีลาศ
- กิจกรรมนอกเมอื ง (Outdoor activities) เป็นกจิ กรรมนันทนาการนอกสถานที่ ท่ีใหโ้ อกาสมนษุ ย์
ได้เรยี นรู้ธรรมชาติ ไดพ้ ักผ่อน เชน่ การอยคู่ ่ายพักแรม ไปท่องเทยี่ วตามแหล่งธรรมชาติ ทัศนศึกษา (Field
trip) เพ่ือศึกษาศิลปวฒั นธรรม ตามวัดวาอาราม หรอื ศกึ ษาความกา้ วหนา้ ในด้านตา่ ง ๆ ในนทิ รรศการหรืองาน
แสดงต่าง ๆ
- กิจกรรมพดู เขยี น อ่าน ฟงั (Speaking Writing and Reading) การพูด เขยี น อา่ นฟงั ทน่ี ับวา่ เปน็
กิจกรรมนนั ทนาการ
10
2. การจัดบริการ
การจดั บริการนนั ทนาการถอื ว่าเปน็ สวสั ดิการอยา่ งหนึ่งท่จี ดั ให้แกส่ ังคมเพอ่ื ให้เกดิ การกนิ ดีอย่ดู มี ีสขุ
จึงเป็นงานท่ีบุคคลองคก์ าร หนว่ ยงานรัฐต่าง ๆ จะต้องร่วมมอื กนั ทำ
3. แหลง่ นันทนาการ
-นนั ทนาการในครอบครวั
-นนั ทนาการในโรงเรียน
-นนั ทนาการสาธารณสุข
-นันทนาการเทศบาล/ตำบล
-นนั ทนาการในชุมชน
11
วตั ถุประสงคข์ องกจิ กรรมนันทนาการ
นันทนาการนนั้ มจี ดุ มงุ่ หมายมากมายหลายประการและมีความเก่ียวขอ้ งตงั้ แตอ่ งคก์ รทม่ี ขี นาดเล็ก
ทีส่ ดุ แต่สำคญั ทสี่ ุดนนั้ กค็ อื “ครอบครวั ” ไปจวบจนถงึ ระดบั ชาติและระดับโลก ซึง่ จดุ มุง่ หมายของกิจกรรม
นนั ทนาการมีดังตอ่ ไปน้ี
1. เพอื่ พัฒนาอารมณ์ กิจกรรมนันทนาการเป็นกระบวนการเสรมิ สรา้ ง และพฒั นาอารมณ์ของบคุ คลและ
ชุมชน โดยอาศัยกจิ กรรมตา่ งๆ เปน็ สอื่ กลางในชว่ งเวลาว่าง หรือเวลาอิสระ การเข้าร่วมกจิ กรรมตอ้ งเป็นไป
ด้วยความสมัครใจ และกจิ กรรมน้ันจะต้องเปน็ กจิ กรรมท่ีสงั คมยอมรบั สามารถกอ่ ให้เกดิ ความสขุ สนกุ สนาน
เพลดิ เพลนิ
2. เพอ่ื เสรมิ สร้างประสบการณ์ใหม่ กิจกรรมนนั ทนาการ ช่วยสรา้ งประสบการณ์ใหมใ่ ห้แกผ่ รู้ ว่ มกิจกรรม ทง้ั นี้
เพราะความหลากหลายกิจกรรม เช่น การท่องเที่ยว ทศั นศกึ ษา การเสริมสร้างประสบการณใ์ หม่ในสถานท่ี
และทรัพยากรทอ่ งเท่ียว ข้นึ อยูก่ บั ประสบการณ์ และพื้นฐานเดมิ ของบคุ คลหรือชมุ ชน
3. เพือ่ เพมิ่ พูนประสบการณก์ ิจกรรมสรา้ งเสรมิ ประสบการณ์ หรือกจิ กรรมบางอยา่ งท่เี คยเขา้ รว่ มมาแลว้ แต่
ผ้เู ขา้ ร่วมอยากสรา้ งความประทับใจ หรอื ความทรงจำเดมิ ก็จะเป็นการเพ่ิมพนู ประสบการณท์ งั้ สิน้
4. เพ่อื สง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มกจิ กรรม นนั ทนาการ จะส่งเสริมการมีสว่ นรว่ มของบุคคลและชมุ ชน ฝกึ ให้มี
โอกาสเข้าร่วมกจิ กรรมของชุมชนดว้ ยความสนใจและสมัครใจ ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเปน็ ทมี เปน็ ส่วนหนง่ึ
ของกลุ่ม ร้จู ักสทิ ธแิ ละหนา้ ที่ ตลอดจนความรบั ผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นในฐานะองคก์ รของสงั คม
5. เพือ่ ส่งเสริมการแสดงออกกิจกรรมนนั ทนาการหลายประเภท เป็นการส่งเสรมิ ให้บุคคลไดแ้ สดงออก
ทางด้านความรูส้ กึ นึกคดิ สรา้ งสรรค์ การระบายอารมณ์ การเลียนแบบสถานการณ์ หรือพฤติกรรมต่างๆ ทำให้
สามารถเรียนรู้และรูจ้ กั ตนเองมากขึ้น สร้างความมน่ั ใจ ความเข้าใจและการควบคุมตนเอง
12
6. เพ่ือสง่ เสริมคุณภาพชวี ติ กจิ กรรมนนั ทนาการเป็นกิจกรรมทีช่ ว่ ยพัฒนาอารมณ์ ความสุข ความสามารถ
ของบุคคล สขุ ภาพและสมรรถภาพทางกายและจิตใจ ความสมดุลทางกาย และจิต สิง่ เหลา่ นจี้ ะชว่ ยพฒั นา
คณุ ภาพชวี ิต ของสงั คมทุกเพศและวยั นอกจากน้ี ยังช่วยพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของกล่มุ ประชากรทุกกลุ่มดว้ ย
7. เพื่อส่งเสรมิ ความเป็นมนษุ ยชาติ กิจกรรมนันทนาการจะชว่ ยสง่ เสรมิ พฤติกรรม และพฒั นาความเจริญงอก
งามของบคุ คลทัง้ ทางกาย อารมณ์ สงั คม สติปญั ญา และจิตใจของคนทุกคน ทกุ เพศ ทกุ วยั ตามความสนใจ
และความต้องการของบุคคล เช่น การจัดกจิ กรรมนนั ทนาการนานาชาติ คอื มหกรรมกีฬาโอลมิ ปิค ซงึ่ จะช่วย
ส่งเสรมิ ความเข้าใจอันดแี ละมิตรภาพของมวลมนษุ ยชาติ
8. เพอื่ สง่ เสริมความเป็นพลเมืองดี กจิ กรรมนนั ทนาการเป็นการใหก้ ารศึกษาแก่เยาวชนในด้านการช่วยเหลอื
ตนเอง ร้จู กั สิทธิ หนา้ ที่ ความรบั ผิดชอบ ระเบยี บวนิ ยั และการปรับตวั ให้เขา้ กับกลมุ่ และสังคมไดเ้ ป็นอย่างดี
เป็นการพัฒนาบทบาทของการเปน็ พลเมืองดี ไม่เห็นแก่ตวั ชว่ ยเหลอื สงั คมสว่ นรวมเป็นสำคัญ สง่ ผลใหส้ ังคม
อบอนุ่ และเพ่ิมพนู คุณภาพชวี ิต
13
บรรณานกุ รม
กจิ กรรมเขา้ จังหวะ. (ม.ป.ป). [ออนไลน์]. แหล่งทมี่ า : https://sites.google.com/a/pypw.ac.th/time-
well/kickrrm-khea-canghwa. (วันที่คน้ ข้อมลู : 10 มีนาคม 2563).
ความร้เู ก่ยี วกบั การเตน้ . (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. แหลง่ ที่มา : https://www.historicaldance.com.
(วันทคี่ น้ ข้อมูล : 12 มนี าคม 2563).
นนั ทนาการในชมุ ชนและสงั คม. (ม.ป.ป.) [ออนไลน์]. แหล่งท่มี า :
https://sites.google.com/site/karphathnathaksachiwit12/nanthanakar-ni-chumchn-laea-
sangkhm. (วนั ทค่ี ้นขอ้ มูล : 7 มีนาคม 2563)