สิทธิความเท่าเทียมทางเพศ
นายอภินันท์ สุกพนั ธ์ดี
นางสาวรัตนาวดี คาย่อย
ความเท่าเทียมทางเพศ
ความเทา่ เทียมทางเพศ เป็นส่วนหน่ึงของสิทธิมนุษยชนและเป็นหลกั การที่ GIZ ยดึ ถือปฏิบตั ิในการ
ดาเนินงาน ส่ิงสาคญั คอื การสร้างและขยายโอกาสของพนกั งานอยา่ งเทา่ เทียมกนั ไมว่ า่ บุคคลน้นั จะมีเพศ
สภาพ เพศวิถี หรือ อตั ลกั ษณ์ทางเพศเป็นอยา่ งไร
เราขบั เคล่ือนประเด็นความเทา่ เทียมทางเพศ สร้างศกั ยภาพในระดบั องคก์ ร และส่ง้ืเสริมให้
พนกั งานทกุ คนมีสิทธิ และใชส้ ิทธิในการแสดงออกถึงศกั ยภาพของตนไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี อีกท้งั ในการดาเนิน
โครงการ กระบวนการภายในของ GIZ และหลกั การต่างๆ ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นวา่ ความตระหนกั ดา้ นความเทา่
เทียมกนั ทางเพศจะช่วยขจดั การกีดกนั ทางเพศและความไม่เท่าเทียมกนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
เพ่ือเป็นการดาเนินงานตามวิสยั ทศั น์ “เราทางานเพอ่ื สร้างอนาคตท่ีน่าอย”ู่ GIZ ไดว้ างกลยทุ ธ์ความ
เท่าเทียมทางเพศ เพ่ือเป็นกรอบในการทางานของ GIZ ในประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก ซ่ึงเป็นกลยทุ ธท์ ี่แตล่ ะ
ประเทศสามารถนาไปปรับใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั บริบทของตนเอง
องคป์ ระกอบเชิงกลยทุ ธ์ที่สาคญั 5 ขอ้ ซ่ึงใชเ้ ป็นแนวทางในการดาเนินงาน ไดแ้ ก่
1. นโยบายและความรับผิดชอบของผนู้ า
องคก์ รมีนโยบายที่ชดั เจน และวธิ ีปฎิบตั ิเพอื่ ความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งที่ผบู้ ริหารยดึ ถือ สนบั สนุน และ
ติดตามการดาเนินงานในขอบขา่ ยท่ีตนรับผิดชอบ
2. วฒั นธรรมองคก์ ร
องคก์ รมีการเผยแพร่แนวทางปฏิบตั ิ จรรยาบรรณ และกระบวนการท่ีส่งเสริมและขยายความเทา่ เทียมกนั ให้
เป็นที่รับรู้ท้งั ภายในและภายนอกองคก์ ร
3. ทกั ษะความรู้ดา้ นเพศสภาวะ
องคก์ รมีการถ่ายทอดทกั ษะและความรู้ดา้ นเพศสภาวะให้กบั พนกั งาน เพอ่ื นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั วธิ ีการและ
แนวทางท่ีเก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ขจดั การกีดกนั ทางเพศและขอ้ จากดั ต่างๆ อนั นาไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศ
4. การปรับระบบการทางาน
องคก์ รมีการวางแผนกระบวนการทางานและวิธีการท่ีคานึงถึงความแตกตา่ งทางสังคมและบทบาทของหญิง
และชายใ นสานกั งานใหญ่และสานกั งานยอ่ ย โดยเฉพาะในส่วนของการบริหารทรัพยากรบคุ คล การทา
สัญญา การจดั การดา้ นคุณภาพ รวมถึงการติดตามผลลพั ธ์และผลกระทบท่ีเกิดข้ึน
5. ความเทา่ เทียมทางเพศภายในองคก์ ร
องคก์ รมีการส่งเสริมศกั ยภาพ สิทธิ และโอกาสท่ีเท่าเทียมกนั ของพนกั งานทกุ คนโดยไม่จากดั เพศสภาพ เพศ
วถิ ี หรือ อตั ลกั ษณ์ทางเพศ นอกจากน้ี องคก์ รยงั สร้างความสมดุลทางเพศในการทางาน การรักษาสัดส่วน
ของจานวนพนกั งานหญิงและชายใหส้ มดุลในแต่ละประเภทของงานและการมอบหมายงานภายในองคก์ ร
ความเท่าเทียมกนั ทางเพศ ไม่ใช่ประเด็นสาหรับผหู้ ญิงเท่าน้นั
ความเทา่ เทียมทางเพศและการไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ โดยทวั่ ไปครอบคลมุ ประเด็นเก่ียวกบั ผหู้ ญิง ผชู้ าย
เด็กผหู้ ญิง เดก็ ผชู้ าย กลมุ่ เพศทางเลือก และบุคคลอ่ืนๆ ที่เผชิญกบั การกีดกนั หรือการจากดั ศกั ยภาพหรือการ
แสดงออกดา้ นการเมืองการปกครองและสังคม
เพศสภาวะ เป็นเป้าหมายร่วมกนั ซ่ึงตอ้ งอาศยั ความร่วมมือจากทกุ คนในสงั คม
ความเท่าเทียมทางเพศ และการสร้างความเสมอภาคทางเพศ ครอบคลมุ ในหลายประเด็น เช่น การ
ส่งเสริมผหู้ ญิงในการทางานและการศึกษาดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสตาร์ทอพั เน่ืองจากปัจจุบนั
พบวา่ มีการแบง่ แยกเพศในโลกดิจิทลั และจานวนผหู้ ญิงที่ทางานในสาขาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วศิ วกรรม คณิตศาสตร์ และการออกแบบมีนอ้ ย
ความเท่าเทียมทางเพศ และการสร้างความเสมอภาคทางเพศใหเ้ ป็นแนวทางหลกั ของการพฒั นาในระดบั
สากล
ประเทศสมาชิกสหประชาชาติไดล้ งนามในวาระการพฒั นาท่ียงั่ ยนื พ.ศ. 2573 ซ่ึงกาหนดใหส้ ิทธิ
มนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศเป็นหวั ใจหลกั ของการดาเนินการพฒั นา ในเป้าหมายการพฒั นาท่ียง่ั ยนื
ขอ้ ท่ี 5 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติร่วมมติในขอ้ ตกลงเพอ่ื บรรลุเป้าหมายดา้ นความเท่าเทียมทางเพศ
ท้งั ดา้ นการเมืองและสังคม การขจดั ความรุนแรงและการเลือกปฏิบตั ิตอ่ ผหู้ ญิงและเดก็ ผหู้ ญิง
กฎหมายที่ผู้หญงิ ควรจะรู้ อย่างแรกเลยกฎหมายค้มุ ครองการใช้แรงงานหญงิ ซ่ึงมดี ังนี้
1. หา้ มนายจา้ งใหล้ ูกจา้ งหญิงทางานต่อไปน้ี
- งานเหมืองแร่หรืองานก่อสร้าง ท่ีตอ้ งทาใตด้ ิน ใตน้ ้า ในถ้า ในอุโมงค์ หรือปล่องในภูเขาเวน้ แตล่ กั ษณะ
ของงานไม่เป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพ หรือร่างกายของลูกจา้ งหญิงน้นั
- งานท่ีตอ้ งทาบนนงั่ ร้านท่ีสูงกวา่ พ้นื ดินต้งั แต่ 10 เมตรข้ึนไป
- งานผลิตหรือขนส่งวตั ถุระเบิดหรือวตั ถไุ วไฟ
- งานอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
2. หา้ มนายจา้ งใหล้ ูกจา้ งหญิง ที่มีครรภท์ างานในระหวา่ งเวลา 22.00 น. - 06.00 น. ทางานลว่ งเวลา
ทางานในวนั หยดุ หรือทางานอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดงั ต่อไปน้ี
- งานเหมืองแร่หรืองานก่อสร้างท่ีตอ้ งทาใตด้ ิน ใตน้ ้า ในถ้า ในอุโมงค์ หรือปลอ่ งในภูเขาเวน้ แตล่ กั ษณะ
ของงาน ไม่เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ หรือร่างกายของลูกจา้ งหญิงน้นั
- งานเก่ียวกบั เคร่ืองจกั รหรือเคร่ืองยนตท์ ่ีมีความสนั่ สะเทือน
- งานขบั เคล่ือนหรือติดไปกบั ยานพาหนะ
- งานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือเขน็ ของหนกั เกิน 15 กิโลกรัม
- งานท่ีทาในเรือ
- งานอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
3. พนกั งาน ตรวจแรงงานมีคาสงั่ ใหน้ ายจา้ งเปล่ียนเวลาทางานหรือชว่ั โมงทางาน ของลูกจา้ งหญิงท่ี
ทางานในระหวา่ งเวลา 24.00 น. - 06.00 น. ไดต้ ามท่ีเห็นสมควร ถา้ พนกั งานตรวจแรงงานเห็นวา่ งานน้นั อาจ
เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ และความปลอดภยั ของลูกจา้ งหญิงน้นั
4. ลูกจา้ งหญิงมีครรภม์ ีสิทธิขอใหน้ ายจา้ งเปลี่ยนงานในหนา้ ท่ีเดิมเป็นการชว่ั คราวก่อนหรือหลงั
คลอดได้ กรณีที่มีใบรับรองแพทยแ์ ผนปัจจุบนั ช้นั หน่ึงมาแสดงวา่ ไม่อาจทางานในหนา้ ท่ีเดิมต่อไปได้
6. หา้ มนายจา้ งเลิกจา้ งลูกจา้ งหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
และอีกปัญหาหน่ึงที่ผหู้ ญิงพบเจอค่อนขา้ งบ่อยในสงั คมคอื การล่วงละเมิดทางเพศ โดยอาจารยส์ ุประวณี ์
ไดใ้ หค้ าแนะนาวา่ ควรรวบรวมหลกั ฐานใหไ้ ดม้ ากที่สุด อนั น้ีเป็นปัญหาสาคญั มาก เพราะเรามีกฎหมายท่ี
รองรับทกุ อยา่ งแลว้ แตส่ ุดทา้ ยกฎหมายไมส่ ามารถถูกนาไปใชง้ านไดเ้ พราะวา่ เร่ืองราวท่ีฟ้องมีหลกั ฐานไม่
เพียงพอ ส่ิงท่ีผหู้ ญิงควรจะรู้ต่อไปคือ ถา้ หากวา่ เป็นเร่ืองทางเพศ ตามประมวลกฎหมายวิธีความพิจารณา
ความอาญา บอกชดั เจนวา่ ผหู้ ญิงสามารถขอใหม้ ีพนกั งานสอบสวนหญิง เป็นผสู้ อบสวนเรื่องของเราได้
เพราะผหู้ ญิงบางทา่ นอาจจะไม่อยากจะเลา่ เรื่องราวที่เกิดข้ึนใหก้ บั ผชู้ ายฟัง และสุดทา้ ยถา้ หากคณุ อายนุ อ้ ย
กวา่ 18 ปี คณุ สามารถขอใหม้ ีนกั สงั คมสงเคราะห์ หรือนกั จิตวทิ ยา สามารถอยกู่ บั คุณในระหวา่ งที่มีการ
สอบสวนข้นึ ไดเ้ ช่นเดียวกนั น่ีจึงคดิ วา่ เป็นสิทธิต้งั ตน้ ท้งั หมดท่ีอยากใหผ้ หู้ ญิงทุกคนรู้
ในปัจจุบนั สถานการณ์ทวั่ โลก มี 29 ประเทศ (นบั รวมไตห้ วนั ) ที่ยอมรับการสมรสของบคุ คลเพศ
เดียวกนั สามารถจดทะเบียนสมรส (marriage) ระหวา่ งเพศเดียวกนั และยอมรับการจดทะเบียนคู่ชีวติ (civil
partnership) ของบุคคลเพศเดียวกนั 32 ประเทศ ซ่ึงใน 32 ประเทศน้ี จะมีความซบั ซอ้ นอยบู่ า้ ง กล่าวคอื บาง
ประเทศจะยอมรับท้งั การจดทะเบียนคชู่ ีวติ และการสมรสระหวา่ งเพศเดียวกนั ดว้ ย บางประเทศท่ีเป็นรัฐรวม
บางรัฐในรัฐรวมน้นั ยอมรับการจดทะเบียนคชู่ ีวติ แตบ่ างรัฐในรัฐรวมน้นั อาจจะไมไ่ ดย้ อมรับการจด
ทะเบียนคชู่ ีวิต บางประเทศเป็นแคก่ ารจดทะเบียนที่ไมไ่ ดม้ ีผลทางกฎหมายอะไรเลย เป็นเพียงการสะทอ้ นวา่
หน่วยงานรัฐอยากใหจ้ ดทะเบียนคู่ชีวิต เพียงแต่กฎหมายหลกั ของประเทศยงั ไม่ไดร้ องรับเรื่องน้ี เช่น ญี่ป่ นุ
บางองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นจะยอมจดให้ ท้งั ๆท่ีญ่ีป่ ุนยงั ไมไ่ ดม้ ีกฎหมายวา่ ดว้ ยการสมรสเพศเดียวกนั
แต่เป็นการจดเชิงสัญลกั ษณ์เพ่ือสะทอ้ นออกไปยงั สงั คม เป็นตน้
ในปัจจุบนั ของไทยจะมี 2 ร่าง คอื ร่างพ.ร.บ.คชู่ ีวติ ของกรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพ และร่างของ
การสมรสเทา่ เทียม ของ สส.กา้ วไกล โดยผศ.ดร.เอมผกาจะกลา่ วถึงท้งั สองร่างในเชิงวชิ าการ โดยในแงส่ ิทธิ
มนุษยชนแลว้ จะมีประเด็นเกี่ยวขอ้ งท่ีหลากหลายมาก แต่ในวนั น้ีจะขอกลา่ วถึงสิทธิในแงข่ องการสร้าง
ครอบครัว
ในส่วนของประเดน็ ที่วา่ เหตุใดประเทศต่างๆจึงมีการแยกการสมรสและการจดทะเบียนคชู่ ีวติ ออก
จากกนั เหตุผลมาจากพฒั นาการทางสังคม โดยในช่วง 20 ปี ที่แลว้ (ประมาณ ค.ศ.2000) สังคมในแตล่ ะ
ประเทศทว่ั โลกยงั ไมไ่ ดม้ ีการยอมรับเรื่องการสมรสเพศเดียวกนั เมื่อมีการเรียกร้องจากบุคคลผมู้ ีความ
หลากหลายทางเพศ รัฐจึงมีการรับรองในรูปแบบของการจดทะเบียนค่ชู ีวิต ในประเทศกลมุ่ ยโุ รปท่ีมีการ
เรียกร้องในเร่ืองน้ีข้นึ มา รัฐจะมีการกาหนดใหเ้ ป็นการจดทะเบียนคูช่ ีวติ ก่อน แลว้ ค่อยมากาหนดให้
สามารถสมรสได้ โดยพฒั นาการในแตล่ ะประเทศมีความแตกตา่ งกนั ไป กล่าวคือ บางประเทศก็มีการ
เปลี่ยนแปลงการการจดทะเบียนคูช่ ีวิตมาเป็นการสมรสไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เช่น เนเธอร์แลนด์ ท่ีออกกฎหมาย
ใหจ้ ดทะเบียนคูช่ ีวิต ผา่ นไป 2 ปี ก็ออกกฎหมายการสมรสเลย เป็นตน้ บางประเทศก็มีระยะเวลาท่ียาวนาน
ในการเรียกร้องในการเปล่ียนแปลงจากการจดทะเบียนคู่ชีวติ มาเป็นการจดทะเบียนสมรสได้ แต่ก็มีอีกหลาย
ประเทศท่ีไมไ่ ดม้ ีการจดทะเบียนคชู่ ีวิตก่อน แต่ยอมรับการสมรสไดเ้ ลย หรือบางประเทศการต่อสู้เพื่อ
เรียกร้องสิทธิเกิดเป็นคดีในศาล ข้ึนศาลรัฐธรรมนูญ ศาลสิทธิมนุษยชน จึงเกิดการแกไ้ ขกฎหมายเพอื่ มา
รองรับ จากที่กล่าวมา จะเห็นไดว้ า่ ไม่มีพฒั นาการทางภาพรวมท่ีเป็นไปในแนวทางท่ีเหมือนกนั แตเ่ ป็น
ววิ ฒั นาการค่อนขา้ งหลากหลายของแตล่ ะประเทศ
ในปัจจุบนั สงั คมเริ่มมีการยอมรับเรื่องการสมรสเพศเดียวกนั มากข้ึน จึงมีการตรากฎหมายเพอื่
รองรับเร่ืองน้ีข้ึนมา แตใ่ นรายละเอียดของสิทธิที่ไดร้ ับก็มีความแตกต่างกนั กล่าวคือ บางประเทศใหม้ ีการ
สมรสไดแ้ ต่ก็ใหส้ ิทธิไมเ่ ทา่ เทียมกนั เช่น ไตห้ วนั ยอมใหม้ ีการจดทะเบียนสมรสได้ แต่ไมใ่ หร้ ับคนนอกเป็น
บุตรบุญธรรมและไมย่ อมรับเรื่องเทคโนโลยชี ่วยการเจริญพนั ธุ์ดว้ ย เป็นตน้ บางประเทศกย็ อมรับแคเ่ ร่ือง
คู่ชีวิตโดยไม่ยอมใหเ้ รียกวา่ คสู่ มรส แตใ่ หส้ ิทธิเทียบเทา่ กนั ไม่วา่ จะเป็นเรื่องรับบุตรบุญธรรมหรือ
เทคโนโลยชี ่วยการเจริญพนั ธุ์ บางประเทศยอมรับท้งั สองแบบและใหส้ ิทธิคชู่ ีวติ กบั คสู่ มรสเทา่ เทียมกนั เช่น
เยอรมนั ฝรั่งเศส (ชายหญิงจดคชู่ ีวิตกไ็ ด้ ชายชายจดคู่สมรสก็ได้ ไมไ่ ดจ้ ากดั เพศเลย) เป็นตน้ หรือในองั กฤษ
ที่มีท้งั ค่ชู ีวิตและคู่สมรส แต่หากค่ชู ีวติ จะหยา่ กนั ตอ้ งไปศาลตา่ งกบั การหยา่ ของคู่สมรสที่ตกลงยนิ ยอมกนั
ได้ จะเห็นไดว้ า่ แต่ละประเทศมีลกั ษณะเฉพาะของตวั เอง และคาท่ีใชค้ อื คชู่ ีวิตหรือคู่สมรส จะมีความหมาย
แตกตา่ งกนั ไปของแตล่ ะประเทศ จะตอ้ งไปดูในเน้ือหาของสิทธิวา่ เทียบเทา่ กนั หรือมีมากนอ้ ยแคไ่ หนอีกที
ผศ.ดร.เอมผกาจึงอยากใหค้ ยุ กนั นอกจากช่ือคาที่ใชท้ ี่ไม่เหมือนกนั ดว้ ย กลา่ วคือ สิทธิที่จะไดร้ ับมี
ความแตกต่างมากนอ้ ยกนั แค่ไหน เพราะเป้าหมายเราคือ สิทธิที่เท่าเทียมกนั จริง ๆ โดยเห็นวา่ ช่ือกม็ ี
ความสาคญั แต่วา่ ขอเนน้ ท่ีความสาคญั ของสิทธิที่จะไดร้ ับ ไดแ้ ก่
1. สิทธิตามกฎหมายครอบครัวและกฎหมายมรดก
2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สิทธิสวสั ดิการ เช่น สิทธิในการรับเงินสวสั ดิการ เงินกองทุนสารอง
3. สิทธิในฐานะเป็นผมู้ ีส่วนไดเ้ สีย เช่น สิทธิในการฟ้องคดีอาญาและแพ่ง การใหค้ วามยนิ ยอมในการ
รักษาพยาบาล การขอใหเ้ ป็นผไู้ ร้ความสามารถ
4. สิทธิอ่ืนท่ีกฎหมายรับรองให้ เช่น สญั ชาติ
5. สิทธิในการมีบุตร ในประเดน็ น้ีผศ.ดร.เอมผกาจะขอแยกมาอีกเร่ืองหน่ึง เพราะวา่ ไม่ใช่เร่ืองของคนสอง
คนแบบสิทธิท้งั 4 ประการท่ีกลา่ วมาขา้ งตน้ แต่จะมีบุคคลที่สามที่กฎหมายใหค้ วามสาคญั มากๆมาเก่ียวขอ้ ง
คอื เด็ก ดงั น้นั จึงตอ้ งคานึงถึงหลกั ความผาสุกและประโยชนส์ ูงสุดของเดก็ (The best interest of the child) ทาใหม้ ี
ประเด็นที่ตอ้ งถกเถียงต่อไป ประกอบกบั ใหข้ อ้ สังเกตวา่ อีก 29 ประเทศท่ียอมรับเรื่องการสมรสเพศเดียวกนั
สิทธิขอ้ ท่ี 5 น้ีถกู มองแตกตา่ งกนั มาก ไมว่ า่ จะเป็นเร่ืองการรับบุตรติดของอีกฝ่ายมาเป็นบุตรบุญธรรม การ
รับบุตรบญุ ธรรมที่เป็นคนนอกร่วมกนั หรือเทคโนโลยชี ่วยเจริญพนั ธุ์ทางการแพทย์ เช่น บางประเทศ
ยอมรับการผสมเทียมในคู่หญิงกบั หญิง แตไ่ มย่ อมรับการอมุ้ บญุ ในค่ชู ายกบั ชาย เป็นตน้
กล่าวใน 6 ประเดน็ ดงั น้ี
1. ประเด็นบทบาทของกรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพและพฒั นาการของการร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต
ในเบ้ืองตน้ ตอ้ งแจง้ ก่อนวา่ กรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพน้นั เป็นคนละหน่วยงานกบั กรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่เป็นองคก์ รอิสระ ส่วนเราอยภู่ ายใตส้ งั กดั กระทรวงยตุ ิธรรม เป็นหน่วยงานหลกั
ของภาครัฐท่ีมีหนา้ ท่ีส่งเสริมและคุม้ ครองสิทธิมนุษยชน กล่าวคือ ในเชิงนโยบายน้นั จะกาหนดนโยบาย
สิทธิมนุษยชนใหก้ บั ประเทศ โดยเป็นแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ปัจจุบนั เป็นฉบบั ที่ 4 โดยกาหนดแผน
เพิ่มเติมจากฉบบั ที่ 3 ให้หน่วยงานตา่ งๆปฏิบตั ิตามกรอบนโยบายท่ีวางไวต้ ามแผน (กลุม่ หลากหลายทางเพศ
ถูกรับรองคร้ังแรกในแผนสิทธิมนุษยชนฉบบั ที่ 3) ในเชิงปฏิบตั ิน้นั เป็นหน่วยงานกลางดา้ นสิทธิท่ี
กวา้ งขวาง จึงมีการผลกั ดนั พระราชบญั ญตั ิคู่ชีวติ ผา่ นทางกระทรวงยตุ ิธรรมใหเ้ กิดการสมรสใหเ้ ท่าเทียม
และยงั สนบั สนุนในกลมุ่ LGBTQ ในการจดั กิจกรรมรณรงคเ์ พอื่ เผยแพร่ความรู้ใหแ้ ก่ประชาชน และใหค้ วามรู้
แก่เจา้ หนา้ ท่ีในการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย เช่น การจบั บคุ คลท่ีเป็นเพศที่สามโดยท่ีไม่ไดก้ ระทาความผดิ กม็ ีการ
ใหค้ วามรู้แก่เจา้ หนา้ ที่ และยงั ดูไปถึงบคุ คลท่ีเป็น LGBTQ ที่อยใู่ นเรือนจาโดยใหข้ อ้ เสนอแนะเพื่อใหก้ าร
จดั การน้นั การใหค้ วามรู้ท่ีดีข้ึน
2. ในประเด็นความเป็นมาของร่าง พ.ร.บ.คูช่ ีวิต เริ่มตน้ ในปี พ.ศ.2556 มีคู่รักชายกบั ชายคู่หน่ึง คือ
คุณนที ไปขอจดทะเบียนสมรสกบั ครู่ ักแตก่ ลบั ถูกหน่วยงานรัฐปฏิเสธ เนื่องจากใน ป.พ.พ. ยงั ไม่รองรับการ
จดทะเบียนสมรสระหวา่ งชายกบั ชาย จึงมีการยน่ื ขอร้องเรียนต่อสภา กรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพจึงถูก
เชิญจากทางสภาเพ่ือเขา้ ไปร่วมร่างกฎหมาย เรียกวา่ พระราชบญั ญตั ิการจดทะเบียนคู่ชีวติ ซ่ึงมีเพียง 15
มาตรา ตอ่ มามีการยบุ สภา การพจิ ารณาเร่ืองดงั กล่าวจึงถกู พกั ตอ่ มาปี 2558 ก็ไดม้ ีการแต่งต้งั กรรมการภายใน
กระทรวง เสนอคณะกรรมการพจิ ารณากฎหมายของกระทรวงและไดร้ ับขอเสนอแนะใหท้ าการศึกษา
เพมิ่ เติมในกลุ่มความหลากหลายทางเพศ กลุ่มทางศาสนาเพราะอาจขดั กบั ศาสนาบางศาสนาได้ และศึกษา
เปรียบเทียบกฎหมายท่ีเป็นกฎหมายคชู่ ีวติ ในหลายๆประเทศ เพือ่ สนบั สนุนในการร่างพระราชบญั ญตั ิ จึงทา
ใหเ้ กิดการร่วมกบั UNDP และมีการเชิญบคุ คลท่ีเป็น LGBTQ มาร่วมปรึกษาเพ่ือประกอบในการร่างกฎหมายตวั
น้ีจนสุดทา้ ยก็เร่ิมเสนอตอ่ สภาในร่างกฎหมายดงั กลา่ วในปี 2561 และมีมติเห็นชอบที่ 44 มาตรา และส่งต่อไป
ในช้นั คณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาเป็นร่างพระราชบญั ญตั ิคชู่ ีวิต (ฉบบั ที่ ครม. เห็นชอบตามท่ีเป็นข่าว
วนั ที่ 8 กรกฎาคม ลา่ สุด) โดยมี 4 หมวด 46 มาตรา และยงั มีการร่างแกไ้ ข ป.พ.พ. 3 มาตราสาคญั คือ 1.เร่ือง
การจดทะเบียนสมรสซอ้ นที่รวมถึงการจดทะเบียนคู่ชีวติ ดว้ ย 2.เรื่องเหตฟุ ้องหยา่ 3.การสิ้นสุดในคา่ เล้ียงชีพ
ในปัจจุบนั ร่างพระราชบญั ญตั ิคู่ชีวติ น้ีอยรู่ ะหวา่ งการพิจารณาของสภาผแู้ ทนราษฎร
โดยแนวคิดในการร่างที่ใหใ้ ชค้ าวา่ ค่ชู ีวติ เหตุผลมาจากการยกระดบั ความสัมพนั ธข์ องบุคคลหลากหลาย
ทางเพศใหม้ ีความสาคญั ประกอบกบั เจตนาของกรมสิทธิฯกม็ ีเป้าหมายใหเ้ กิดการสมรสที่เท่าเทียมน้นั
ประกอบกบั การศึกษาพฒั นาการของต่างประเทศและบริบทของประเทศไทย จึงมีความเห็นท่ีวา่ ควรค่อย
เป็นค่อยไปจึงจะประสบความสาเร็จไดง้ ่ายกวา่ การที่ไม่เปล่ียนจากหนา้ มือเป็นหลงั มือกเ็ พอ่ื ใหไ้ ม่ถกู
กระแสต่อตา้ นจากสังคมจนเกินไป อยา่ งท่ีผศ.ดร.เอมผกาเอมผกาไดก้ ล่าวมาแลว้ ประเทศส่วนมากจะเริ่ม
จากการร่างกฎหมายในเร่ืองคู่ชีวติ ก่อนแลว้ จึงค่อยมาปรับเป็นการสมรสท่ีเท่าเทียมในภายหลงั
3. ในประเด็นวา่ มีอะไรบา้ งท่ีเป็นปัญหาตอ่ การแกไ้ ข
เราตอ้ งมองวา่ สิทธิท่ีไดร้ ับน้นั มีแนวโนม้ ท่ีดีนบั จากอดีต ไดเ้ พิม่ ข้ึนเร่ือย ๆ ในการพิจารณากฎหมาย
แต่ละคร้ัง อยา่ งเช่นการรับบุตรบุญธรรมก็เป็นสิทธิลา่ สุดที่ได้ สิทธิท่ีไม่ไดเ้ กี่ยวขอ้ งกบั บคุ ลท่ีสามกจ็ ะไดร้ ับ
เช่น สิทธิท่ีไมเ่ กี่ยวกบั บตุ ร บิดามารดาเป็นตน้ โดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ในส่วน
สิทธิท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งบประมาณ เช่น สวสั ดิการ ภาษี การเปลี่ยนนามสกลุ การเปลี่ยนสญั ชาติ เป็นตน้ จะยงั
ไม่มีกาหนดไว้ เพราะหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งขอระยะเวลาไปศึกษาก่อน ในเร่ืองกฎหมายของงบประมาณน้นั
ตอ้ งรอใหม้ ีการบงั คบั ใชก้ ่อนไดร้ ะยะหน่ึง จะไดท้ ราบสถิติของบคุ คลที่มีความหลากหลายทางเพศเพ่ือจะได้
ไปทากฎหมายจดั สรรงบประมาณต่อไป การที่ยงั ไมท่ ราบจานวนท่ีแน่นอนทาใหก้ ารของบประมาณมีปัญหา
แผนตอนน้ีคือใชก้ ฎหมายน้ีไปก่อน เพราะจะไดร้ ู้วา่ เราจะตอ้ งแกไ้ ขส่วนไหนต่อไป เช่น ในเร่ืองของการ
เปลี่ยนนามสกุล การเปลี่ยนสัญชาติ เป็นเรื่องท่ีตอ้ งทราบก่อนวา่ มีก่ีคนและมีแนวโนม้ ว่าอยา่ งไร เพราะแต่
ละกลมุ่ มีความตอ้ งการไม่เหมือนกนั แบบท่ีผศ.รณภูมิกล่าว
4. ในประเด็นความแตกต่างของค่ชู ีวิตกบั คู่สมรส ตามร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต จะเป็นบุคคล 2 คนที่มีเพศ
กาเนิดเดียวกนั มาจดทะเบียนคูช่ ีวิตกนั เพื่อจะดูแลกนั ไปตลอดชีวติ จึงมีความแตกตา่ งกบั ค่สู มรสตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งเพราะคู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งที่จะเป็นเพศหญิงกบั ชายเท่าน้นั ซ่ึงในทาง
สากล ความสมั พนั ธข์ องบุคคล 2 คน มีไดม้ ากกวา่ การสมรส การแต่งงานไปจดทะเบียนค่ชู ีวติ ก็ได้ ไม่จาเป็น
จะตอ้ งเป็นคู่สมรส บางประเทศไดย้ อมรับใหช้ ายหญิงจดทะเบียนคู่ชีวติ กไ็ ด้ แต่จะแตกต่างกนั ในเรื่องของ
สิทธิและหนา้ ท่ีที่ไมเ่ หมือนกบั คสู่ มรส เพราะบริบทของแตล่ ะประเทศไม่เหมือนกนั เช่น ในฝรั่งเศส คนมา
เลือกจดทะเบียนคู่ชีวิตมากกวา่ คู่สมรส เป็นตน้
5. ในประเด็นแนวคิดกฎหมายต่างประเทศของร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวติ น้นั
เราศึกษาแนวคิดมาจากหลายประเทศ ท้งั ในแงข่ องบุคคลในคณะกรรมการท่ีจบการศึกษามาจากหลายๆ
ประเทศและในแง่การศึกษาบทความหรือเอกสารภาษาต่างประเทศดว้ ย เช่น องั กฤษ ฝร่ังเศส เยอรมนี
สหรัฐอเมริกา ญี่ป่ นุ ไตห้ วนั เป็นตน้ โดยพยายามศึกษาเพ่อื จดั ทากฎหมายใหส้ ามารถปรับใชไ้ ดเ้ ขา้ กบั
บริบทของสงั คมไทยมากที่สุดและรักษาสมดุลของสังคมไทย
6. ประเด็นของอปุ สรรคท่ีทาใหร้ ่าง พ.ร.บ.คชู่ ีวิต ยงั ไมเ่ ป็นกฎหมายและความเป็นไปไดใ้ นการ
ประกาศบงั คบั ใช้ แมจ้ ะเร่ิมร่างต้งั แตป่ ี พ.ศ.2556 แตก่ ต็ อ้ งผา่ นการพจิ ารณาแต่ละข้นั ตอน เราตอ้ งไปทาความ
เขา้ ใจกบั ผพู้ จิ ารณาทกุ ระดบั ช้นั มีทศั นคติที่เห็นตา่ งและเห็นดว้ ย ทกุ ภาคส่วนท่ีเก่ียวขอ้ ง หน่วยงานราชการ
ที่ตอ้ งเป็นผบู้ งั คบั ใชก้ ฎหมาย ท้งั ประชาชนทุกภูมิภาคท่ีเราตอ้ งเขา้ ไปพดู คุย เจอท้งั การสนบั สนุนและการ
ต่อตา้ นไมเ่ ห็นดว้ ยในหลายเวที จึงเป็นเร่ืองท่ีตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการทาความเขา้ ใจกบั ทกุ ภาคส่วนท่ี
เกี่ยวขอ้ ง เรื่องน้ีเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมรูปแบบหน่ึง ยอ่ มไม่ใช่เรื่องงา่ ยที่จะทาใหเ้ ปล่ียนแปลงไดอ้ ยา่ ง
รวดเร็ว ดว้ ยเหตุน้ี จึงตอ้ งใชร้ ะยะเวลาที่ข้ึนอยกู่ บั ความรวดเร็วของการพจิ ารณาแตล่ ะช้นั แต่ละประเดน็
ในตอนน้ีเขา้ ถึงช้นั สภา ตอ้ งรอดูบรรยากาศการพจิ ารณาในช้นั สภาไป แมจ้ ะผา่ นช้นั สภา (สส.) ไปแลว้ กย็ งั
มีช้นั สว.อีก ซ่ึงก็เป็นด่านที่ตอ้ งจบั ตามองเพราะเตม็ ไปดว้ ยรุ่นผใู้ หญ่ ในขณะท่ีคนสนบั สนุนเรื่องน้ีจะเป็น
รุ่นใหม่ ดงั น้นั ก็ยงั ตอบไม่ไดว้ า่ จะสาเร็จเป็นกฎหมายหรือไม่
ผศ.รณภมู ิ สามคั คีคารมย์ ประธานมลู นิธิเครือขา่ ยเพ่ือนกะเทยเพอ่ื สิทธิมนุษยชน / อาจารยป์ ระจาคณะ
สาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ (วิทยากร) : กลา่ วใน 6 ประเด็น ดงั น้ี
1. ประเด็นทศั นคติของสังคมไทยตอ่ LGBTQ เราตอ้ งยอมรับก่อนวา่ ในกลุม่ ชายหรือหญิงเองน้นั กม็ ี
ความหลากหลายมาก ในผมู้ ีความหลากหลายทางเพศกเ็ ช่นเดียวกนั อตั ลกั ษณ์เหลา่ น้ีลว้ นมีบทบาทมากข้ึน
ในสงั คม การเมือง การศึกษา การใชช้ ีวติ ร่วมกนั ในสังคม และตอ้ งยอมรับวา่ กลมุ่ ความหลากหลายทางเพศน้ี
ไมเ่ หมือนกนั มีความคดิ ท่ีแตกต่างกนั ในเชิงอตั ลกั ษณ์ที่อยากไดพ้ ้ืนท่ีหรืออยากไดส้ ิทธิท่ีไม่เหมือนกนั ซ่ึง
สะทอ้ นออกมาในผลของการร่างท้งั พ.ร.บ.คชู่ ีวิต และการสมรสท่ีเท่าเทียม กแ็ สดงใหเ้ ห็นไดถ้ ึงความ
แตกต่างในความตอ้ งการในสิทธิของกลุม่ ความหลากหลายทางเพศ โดยคาตอบที่สมบรู ณ์แบบยงั ไม่มี
ในตอนน้ี สังคมตอ้ งเรียนรู้กนั ตอ่ ไป การที่กรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพข้นึ มาจดั ทา พ.ร.บ.คู่ชีวติ ถือวา่
กา้ วหนา้ เพราะมนั สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ สังคมไดย้ อมรับมากข้นึ จากการที่ตนไดส้ อนเร่ืองเพศภาวะเพื่อสุขภาพ
นกั ศึกษามากกวา่ 90% กย็ อมรับใหค้ นรักเพศเดียวกนั แต่งงานกนั ได้ สังคมกเ็ กิดการเรียนรู้และกเ็ ร่ิมยอมรับ
ได้ เหตผุ ลของการยอมรับไดก้ ค็ อื ไม่ไดล้ ะเมิดสิทธิหรือไมก่ ระทบต่อความรู้สึกของผชู้ ายผหู้ ญิง หมายความ
วา่ การท่ีบุคคลเพศเดียวกนั แต่งงานก็แต่งกนั ไป ไมไ่ ดก้ ระทบต่อสิทธิของผชู้ ายผหู้ ญิง ซ่ึงต่างจากกฎหมาย
เปล่ียนคานาหนา้ นามเพราะมนั กระทบตอ่ สิทธิของผชู้ ายผหู้ ญิง เพราะทาใหเ้ กิดการกงั วลเร่ืองการแต่งงานวา่
จะแตง่ งานกบั บุคคลที่มีเพศตามคานาหนา้ ชื่อหรือไม่ เพราะไม่รู้วา่ เพศโดยกาเนิดของคุณเป็นเพศไหน อนั
จะก่อใหเ้ กิดกระแสการต่อตา้ นกฎหมายเป็นอยา่ งมาก ตอนน้ีกส็ ะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ สงั คมไทยยอมรับใหอ้ ยกู่ นั
ได้ ขอแคย่ งั ไมไ่ ดก้ ระทบสิทธิของตนเอง ผศ.รณภูมิสรุปว่า สังคมไทยยงั ยอมรับไดใ้ นระดบั ที่ผิวเผิน ถา้ หาก
มองลึกลงไปถึงแนวคิดและความเขา้ ใจ สังคมไทยยงั ไปไมถ่ ึงเร่ืองเหล่าน้ี ท้งั ๆที่สิทธิมนุษยชนควรควบค่ไู ป
กบั ประชาธิปไตย
2. ในประเดน็ สาระสาคญั และประโยชนข์ องกฎหมายอีกฉบบั คอื พ.ร.บ.ความเท่าเทียมกนั ระหวา่ ง
เพศ ซ่ึงตนเป็นหน่ึงในคณะกรรมการวนิ ิจฉยั การเลือกปฏิบตั ิโดยไม่เป็นธรรมระหวา่ งเพศ (วลพ.)
กฎหมายฉบบั น้ีเป็นกฎหมายท่ีประกาศบงั คบั ใชต้ ้งั แตป่ ี 2558 แต่คนส่วนใหญไ่ ม่คอ่ ยรู้ ทาใหก้ ารเขา้ ถึงสิทธิ
ตามกฎหมายจึงมีนอ้ ยมาก เจตนารมณ์ของกฎหมายกค็ อื ว่าการเลือกปฏิบตั ิที่ไม่เป็นธรรมดว้ ยเหตุแห่งเพศ
ถา้ ใครคดิ วา่ ตนเองไดร้ ับผลกระทบหรือไดร้ ับผลกระทบแลว้ ในการไดร้ ับการปฏิบตั ิท่ีแตกต่างจากเพศ ก็
สามารถร้องเรียนได้ ตอนน้ียงั มีสถิติการร้องเรียนค่อนขา้ งนอ้ ยอยู่ โดยสงั คมส่วนใหญ่มองวา่ พ.ร.บ. ฉบบั น้ี
เป็นของบคุ คลผมู้ ีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะ แต่จริงๆแลว้ ความไมเ่ ทา่ เทียมกนั ระหวา่ งเพศน้นั
หมายความถึงทกุ เพศ ทาใหก้ ารร้องเรียนส่วนใหญจ่ ึงเป็นกลมุ่ ของความหลากหลายทางเพศและเป็นช่องทาง
หลกั ท่ีกลุ่ม LGBTQ ใชซ้ ่ึงแตกตา่ งจากชายหญิงท่ีมีช่องทางในการเรียกร้องสิทธิหรือฟ้องร้องคดีต่อศาล ใน
การปฏิบตั ิใหเ้ ท่าเทียมกนั ระหวา่ งเพศ กลุม่ ตวั อยา่ งที่เห็นไดช้ ดั คอื กลุ่มคนขา้ มเพศที่ไดร้ ับการเลือกปฏิบตั ิ
อยา่ งไม่เป็นธรรม เช่น การแตง่ กายตามเพศสภาพในมหาวิทยาลยั นอกจากการร้องเรียนต่อ วลพ. แลว้ ยงั มี
กลไกอีก 1 กลไก คือ คณะกรรมการส่งเสริมความเทา่ เทียมกนั ระหวา่ งเพศ (สทพ.) อนั น้ีเป็นกลไกที่
นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยถา้ เห็นวา่ เป็นการเลือกปฏิบตั ิก็มีคาส่งั หรือขอ้ เสนอแนะใหแ้ ก่หน่วยงาน
ของรัฐและเอกชนไดเ้ ลย ในเร่ืองของการประเมินผลสมั ฤทธ์ิของกฎหมายตามระยะเวลาที่กฎหมายกาหนด
ไว้ คนในสงั คมจะยงั ไม่รู้จกั เทา่ ไร ทาใหก้ ารเรียนรู้ระหวา่ งบงั คบั ใชก้ ฎหมายจึงไมค่ ่อยไดร้ ับรู้ในสังคม ทา
ใหเ้ กิดการเรียกร้องอีกแนวข้ึน กลา่ วคือ เรียกร้องให้แกไ้ ขกฎหมาย หรือจดั ทา พ.ร.บ. ใหส้ มบูรณ์ไปเลย
เพราะไม่รู้วา่ ในอนาคตขา้ งหนา้ จะมีโอกาสแกไ้ ขหรือไม่ ผศ.รณภมู ิเห็นวา่ การเรียกร้องใหแ้ กไ้ ขกฎหมาย
น้นั กเ็ ป็นขอ้ เรียกร้องท่ีดี แตก่ ค็ วรท่ีจะตอ้ งเรียนรู้ในเร่ืองต่างๆที่เก่ียวขอ้ งดว้ ย เช่น การเรียนรู้เรื่อง
ขอ้ ผดิ พลาดของการสมรสวา่ ผชู้ ายผหู้ ญิงที่ไดอ้ ยใู่ นระบบการสมรสแลว้ เป็นอยา่ งไร ผหู้ ญิงไดร้ ับผลกระทบ
จากการสมรสมากนอ้ ยแคไ่ หน ฉะน้นั กลุม่ ความหลากหลายจะเอาตวั เองมาจากดั อยทู่ ่ีการสมรสใช่หรือไม่
หรือจะหาช่องทางอื่นท่ีเกิดจากการเรียนรู้เพื่อปรับใชใ้ ห้เกิดเหมาะสมท่ีสุด จึงเป็นประเด็นท่ีจะตอ้ งถกเถียง
กนั ต่อไป
3. ในประเด็นของ วลพ. มีส่วนในการสนบั สนุนการร่างพ.ร.บ.คู่ชีวติ อยา่ งไร
วลพ. ไมส่ ามารถยกประเดน็ ความไม่เทา่ เทียมต่างๆ ข้นึ มาวนิ ิจฉยั ดว้ ยตนเองได้ เนื่องจากจะตอ้ งให้
ผทู้ ี่ไดร้ ับการผลกระทบหรือจะไดร้ ับความเสียหายจากการเลือกปฏิบตั ิเขา้ มาร้องต่อคณะกรรมการเสียก่อน
(คลา้ ยๆศาลท่ีตอ้ งมีการฟ้องคดีก่อน จึงจะพจิ ารณาได)้ ทาใหไ้ มส่ ามารถเขา้ ไปมีส่วนร่วมโดยตรงในการ
ผลกั ดนั พระราชบญั ญตั ิฉบบั ดงั กล่าวได้ อยา่ งไรก็ตาม การมีอยขู่ อง วลพ. เป็นการส่งเสริมบรรยากาศความ
เท่าเทียมกนั ในสังคมมากยง่ิ ข้ึนซ่ึงเป็นการสนบั สนุนร่างพระราชบญั ญตั ิดงั กล่าวในทางออ้ ม
4. ในประเดน็ ของคานิยามในกฎหมายฉบบั น้ี เรื่องการเเสดงออกท่ีแตกต่างจากเพศโดยกาเนิด
หมายความรวมถึงรสนิยมทางเพศดว้ ยหรือไม่ เป็นประเด็นท่ีมีการถกเถียงกนั มาเเลว้ ในช้นั คณะกรรมาธิการ
เพอ่ื จะกาหนดคานิยามหรือคาศพั ทท์ างเทคนิค จึงมีการคุยกนั วา่ หากกาหนดรสนิยมทางเพศไวใ้ นกฎหมาย
จะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เน่ืองจากรสนิยมทางเพศเป็นเร่ืองของปัจเจกชนเเตล่ ะคน จึงตกลงใช้คาวา่
การเเสดงออกตา่ งจากเพศกาเนิด อยา่ งไรก็ตามคาวา่ การเเสดงออกน้นั ไมไ่ ดห้ มายความเฉพาะถึงพฤติกรรม
เทา่ น้นั เเต่รวมไปถึงความรู้สึกดว้ ย ดงั น้นั แมจ้ ะไมไ่ ดม้ ีการกล่าวถึงคาวา่ รสนิยมทางเพศไว้ เเต่กม็ ี
ความหมายครอบคลมุ ไปถึงไดด้ ว้ ย
5. ในประเด็นท่ีวา่ เหตใุ ดจึงไมแ่ กไ้ ขใน ป.พ.พ. ไปเลยน้นั เป็นผลมาจากแนวคดิ ท่ีแตกตา่ งกนั แมว้ า่
เป้าหมายคือ ความเทา่ เทียมในความเป็นมนุษยท์ ี่ใชช้ ีวิตคู่กนั หรือสร้างครอบครัวอยกู่ นั กล่าวคอื
แนวแรก คนท่ีมองตามทฤษฎี กจ็ ะเห็นดว้ ยกบั ความคิดที่วา่ ควรแกก้ ฎหมายสมรสของเพศทางเลือกใน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
แนวที่สอง คนท่ีมองตามความเป็นจริง เป็นคนที่เรียนรู้จากอดีตวา่ ถา้ แกไ้ ขประมวลกฎหมายแพง่ และ
พาณิชย์ กห็ มายถึงวา่ ตอ้ งแกโ้ ครงสร้างหลกั ของสงั คมดว้ ย มนั จะเปล่ียนโครงสร้างหลกั ของสงั คมซ่ึงตอ้ งดู
เรื่องความพร้อมของสังคมดว้ ย จึงทาเป็นพระราชบญั ญตั ิเพื่อคอ่ ยๆเรียนรู้กนั ไป แน่นอนวา่ ในดา้ นของ
หลกั การยอ่ มขาดบางส่วนหรือตอ้ งเพ่ิมเติมบางส่วน ทาใหค้ นบางกลุ่มจะรู้สึกวา่ เป็นการเลือกปฏิบตั ิ ซ่ึงเป็น
คาถามที่ถกเถียงกนั ไมจ่ บ ต่อใหจ้ ะแกไ้ ขเพิ่มเติมในประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยแ์ ลว้ ก็จะมีคาถามอ่ืน
ตามมาอีกมากมาย จึงเป็นเร่ืองของการเรียนรู้เพราะไมม่ ีกฎหมายใดสมบรู ณ์แบบเพราะกฎหมายก็จะตอ้ ง
ปรับตามพฤติกรรมของมนุษยเ์ รื่อย ๆ จึงต้งั คาถามวา่ เราตอ้ งเลือกวา่ ควรเป็นแบบไหน เพราะวา่ มีคนชนช้นั
กลางหรือคนร่ารวยท่ีไมต่ อ้ งพ่ึงกฎหมายเหล่าน้ีก็ได้ คนกลมุ่ น้ีรอใหป้ รับแกก้ ฎหมายในประมวลกฎหมาย
แพง่ และพาณิชยก์ ็ไดเ้ พราะตนเองมีความพร้อมดา้ นเศรษฐกิจอยแู่ ลว้ ไม่จาเป็นตอ้ งใชส้ ิทธิอะไรพวกน้ีก็ได้
แตว่ า่ ก็มีคนระดบั อ่ืนๆอีกจานวนหน่ึงที่เขาตอ้ งการกฎหมายมารองรับก่อนเพราะตอนน้ีเขากาลงั เผชิญกบั
ความไม่เทา่ เทียมอยู่ เช่น เขาไม่สามารถเซ็นรับรองใหก้ บั คูร่ ักในการรักษาพยาบาลได้ ตอ้ งรอบิดามารดาอีก
ฝ่ายเดินทางมาใหค้ วามยนิ ยอม ซ่ึงอาจจะใชเ้ วลาและเสียคา่ ใชจ้ ่ายรวมถึงระยะเวลาการรักษาท่ีอาจจะไม่
ทนั ทว่ งทีก็ได้ จึงเห็นไดว้ า่ ในสังคมมีความหลากหลายของคน กฎหมายจึงตอ้ งไปสนบั สนุนคนอีกหลายๆ
คนท่ีไดร้ ับผลกระทบก่อนเพราะวา่ ไมไ่ ดม้ ีตน้ ทุนท่ีพร้อมสาหรับสถานการณ์เช่นน้นั อยา่ งไรก็ดี ท่ีกลา่ วมาก็
ยงั ไม่ใช่ขอ้ สรุปวา่ แบบไหนดีกวา่ กนั และเราก็ตอ้ งรอดูผลการพจิ ารณาของฝ่ายนิติบญั ญตั ิดว้ ย
6. ในประเด็นแนวโนม้ ของสังคมไทยที่มีต่อ LGBTQ เมื่อมีกฎหมายรองรับคู่ชีวติ หรือการสมรสเพศ
เดียวกนั น้นั ในกลมุ่ คนท่ีมีความหลากหลายทางเพศ จะมีคนจานวนหน่ึงที่เขา้ ใชส้ ิทธิตามกฎหมาย แต่กอ็ ีก
จานวนหน่ึงท่ีอยบู่ นฐานคิดท่ีจะไม่นาตวั เองเขา้ กรอบการสมรสหรือใหก้ ฎหมายมาควบคุมเรื่องเพศของเขา
อาจไม่ใชส้ ิทธิก็ได้ ในส่วนของภาครัฐจะทาใหไ้ ดเ้ ห็นหรือไดเ้ รียนรู้วา่ มีประเด็นใดบา้ งท่ีจะตอ้ งแกไ้ ข
เพ่มิ เติม ในกลุ่มคนที่ไมใ่ ช่เพศทางเลือกจะมองวา่ กฎหมายน้ีไมไ่ ดท้ าใหช้ ีวิตเขาดีข้นึ หรือแยล่ ง แต่คนที่
เกี่ยวขอ้ งกบั ความหลากหลายทางเพศเคา้ จะเร่ิมเห็นประโยชน์มากข้นึ อีกท้งั กฎหมายยงั เป็นสร้างการเรียนรู้
เกี่ยวกบั ความหลากหลายทางเพศใหแ้ ก่สังคมไทยดว้ ย กล่าวคือ ในกลมุ่ คนรุ่นก่อนๆจานวนหน่ึง หรือคนท่ี
ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นสังคมเมืองจะรับรู้พฒั นาการของสังคมผา่ นกฎหมายวา่ รัฐไดร้ ับรองบุคคลผมู้ ีความหลากหลาย
ทางเพศในการจดทะเบียนคู่ชีวติ หรือการสมรสแลว้ และจะกลายเป็นส่ิงที่ปกติธรรมดาตอ่ ไป เหมือนกบั
กรณีที่เม่ือก่อนเราไม่จาเป็นตอ้ งสวมหมวกกนั น็อก แต่ดว้ ยสภาพทางสังคมท่ีเปล่ียนไปหมวกกนั น็อก
จาเป็นตอ้ งใชเ้ พื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั เมื่อมีกฎหมายบงั คบั ใหใ้ ส่หมวกกนั นอ็ ค สังคมจึงมองวา่ เป็นส่ิงท่ี
ตอ้ งใชใ้ นชีวิตประจาวนั เป็นธรรมชาติของคนไทยที่ตอ้ งสวมหมวกกนั นอ็ กเพราะถา้ ไม่สวมกผ็ ิดกฎหมาย
แตว่ า่ ในแงก่ ารบงั คบั ใชอ้ าจจะเกิดขอ้ จากดั หรือปัญหาตามมา เช่น คนจะใชส้ ิทธิและเขา้ ถึงสิทธิอยา่ งไร เราก็
ตอ้ งเรียนรู้และจดั การแกไ้ ขกนั ต่อไป แลว้ ถา้ กฎหมายฉบบั น้ีไดบ้ งั คบั ใชก้ ็จะเป็นตวั นาใหก้ ฎหมายอ่ืนๆท่ี
เกี่ยวขอ้ งตามมาเร่ือยๆ เพราะการออกกฎหมายไม่ไดข้ ้ึนอยู่กบั รัฐบาลอยา่ งเดียว แตย่ งั ข้ึนอยกู่ บั บรรยากาศ
ของสงั คมดว้ ย
คาถามจากการเสวนา
(1) ร่าง พ.ร.บ.คชู่ ีวิต ไมไ่ ดม้ ีการรับรองสิทธิในการหม้นั ของบุคคลท่ีมีความหลากหลายทางเพศไวจ้ ะเป็นการ
เลือกปฏิบตั ิหรือไม่
คณุ นรีลกั ษณ์ : เป็นประเด็นที่ถกเถียงกนั มากในช้นั กฤษฎีกา เหตุท่ีไม่ไดร้ ะบเุ รื่องหม้นั เพราะวา่
โดยธรรมชาติของคู่รักเพศเดียวกนั บางทีแบง่ ไมไ่ ดว้ า่ ใครเป็นหญิงหรือชาย ฝ่ายใดจะเป็นผใู้ ห้ ฝ่ายใดจะเป็น
ผรู้ ับ จึงเห็นวา่ ไมจ่ าเป็นท่ีจะตอ้ งมีอยใู่ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งค่ชู ีวิตกไ็ ดเ้ พราะไมไ่ ดท้ าใหส้ าระสาคญั ของ
การจดทะเบียนคชู่ ีวิตเสียไป ประกอบกบั การหม้นั เป็นประเพณีสืบทอดซ่ึงยดึ โยงอยกู่ บั ความเป็นหญิงชาย
จึงไมค่ วรนามาปะปนกนั
ผศ.ดร.เอมผกา : เห็นวา่ นอกจากเหตุผลเรื่องประเพณีท่ียึดโยงกบั เพศชายหญิงแลว้ ในขณะเดียวกนั
การหม้นั ในตวั มนั เองยงั มีการต้งั ประเด็นวา่ ทาใหเ้ กิดความไม่เท่าเทียมกนั เน่ืองจากฝ่ายชายเทา่ น้นั ท่ีมีหนา้ ท่ี
ใหข้ องหม้นั โดยไมไ่ ดร้ ับอะไรตอบเเทน เป็นการเลือกปฏิบตั ิอยา่ งหน่ึง และปัญหาท่ีเกิดข้นึ ไม่ใช่เรื่องหม้นั
เทา่ น้นั แตย่ งั มีเรื่องสินสอดที่มอบใหแ้ ก่พอ่ แม่ฝ่ายหญิงดว้ ย ในเรื่องการหม้นั จึงมีความทบั ซอ้ นของปัญหา
ในแงท่ ่ีวา่ แมจ้ ะเช่ือมโยงกบั ประเพณีแต่กท็ ี่มีความไม่เท่าเทียมระหวา่ งหญิงและชาย และก็ถูกอธิบายโดย
ประเพณีวา่ เหตุใดถึงไมเ่ ท่าเทียมกนั และมีการยอมรับกนั ในสงั คม ดงั น้นั การที่ไม่มีการรับรองการหม้นั ของ
ค่รู ักเพศเดียวกนั กม็ าจากเหตุผลท่ีไมม่ ีประเพณีอธิบายนน่ั เอง
เราจะตอ้ งแยกเร่ืองการหม้นั ออกมาคิดในอีกประเดน็ ต้งั แตต่ น้ เพราะวา่ หลกั การหม้นั แบบเดิมก็ยงั มีความไม่
ชดั เจนในหลายประการ แนวคาพิพากษาของศาลกม็ ีความน่าสนใจในการนามาพูดคยุ อีกพอสมควร การแยก
ออกมาพดู คุยต่างหากเป็นไปเพือ่ ทาความเขา้ ใจวา่ เราจะยงั ใหม้ ีการหม้นั อยเู่ หมือนเดิม หรือเป็นการหม้นั เชิง
สญั ลกั ษณ์ท่ีครู่ ักใหข้ องหม้นั ใหก้ นั โดยไมม่ ีประเดน็ เรื่องสินสอด หรือใหเ้ พศใดๆหม้นั กบั เพศใดๆกไ็ ดซ้ ่ึง
ในกรณีน้ีอาจมีความสับสนในการระบุวา่ ใครเป็นผใู้ หห้ รือผรู้ ับ หรือจะใหม้ ีอยแู่ ต่มีการเปลี่ยนแปลงบาง
เรื่อง หรือจะยกเลิกการหม้นั ไปเลย โดยอธิบายเพิ่มเติมวา่ เราตอ้ งคิดเร่ืองการหม้นั ใหม่ ในส่วนเน้ือหาของ
กฎหมายเลย ไม่ใช่แคค่ ดิ วา่ ใครจะทากบั ใครไดเ้ ทา่ น้นั รวมถึงส่วนไหนท่ีมีความไมช่ ดั เจนก็ตอ้ งมาคุยกนั
เพอ่ื ใหเ้ กิดความชดั เจนมากย่ิงข้นึ เพราะวา่ ก็มีนกั สิทธิมนุษยชนหรือคนต่างชาติที่อาจจะพูดถึงเร่ืองน้ีในแง่
ของการคา้ มนุษยด์ ว้ ย ดงั น้นั เรื่องหม้นั เราจึงตอ้ งแยกมาคดิ ต้งั แต่ตน้
(2) ร่าง พ.ร.บ.คูช่ ีวิต ไมไ่ ดก้ าหนดในส่วนของการหม้นั เอาไว้ หากยดึ หลกั การเพียงแคว่ า่ หม้นั คอื การ
สญั ญาวา่ จะสมรสกนั เทา่ น้ีจะเพียงพอหรือไม่
ผศ.ดร.เอมผกา : การหม้นั คือ การสัญญาวา่ จะสมรสอยแู่ ลว้ แตอ่ าจจะมีประเด็นที่ตอ้ งมาคุยกนั เร่ือง
สินสอด และตอ้ งมาคุยกนั ใหมว่ า่ หม้นั มีไวเ้ พื่ออะไร กล่าวคือ มีไวเ้ พื่อสัญญาวา่ จะสมรสหรือมีไวเ้ พื่อ
สินสอดแก่อีกฝ่ายหน่ึง การกาหนดเท่าที่ถามมาจึงยงั ไมช่ ดั เจนในแง่ของหลกั การ กลา่ วคอื หม้นั คือการ
สัญญาวา่ จะสมรสอยแู่ ลว้ แต่วา่ การบญั ญตั ิเพยี งแคน่ ้นั เราตอ้ งคยุ กนั วา่ จะบญั ญตั ิไปเพ่ือเหตุผลอะไร
(3) กฎหมายสมรสเพศเดียวกนั จะหลอ่ หลอมให้เยาวชนมีความคลาดเคลื่อนทางเพศมากข้ึนหรือไม่
รศ.รณภูมิ : ในแง่ความรู้สึก จะบอกวา่ ไร้สาระมาก (Nonsense) ไมม่ ีนยั ยะอะไรเลย เช่น พ่ีนอ้ ง 3 คน 2
คนเป็น LGBTQ อีก 1 คน จะไมเ่ ป็น LGBTQ ก็ได้
ส่วนในแงว่ ชิ าการ กม็ ีวิจยั จานวนมากยนื ยนั วา่ เด็กที่ถูกเล้ียงโดย LGBTQ กบั เด็กที่ถูกเล้ียงโดยชายหญิง ไมม่ ี
นยั ยะสาคญั อะไรตา่ งกนั คนท่ีเล้ียงดูเดก็ ไม่วา่ จะเป็นเพศอะไรก็ไมม่ ีผลต่อการใชช้ ีวิตของเด็ก แตว่ า่
สังคมไทยจะไปต้งั คาถามวา่ ใครเป็นพ่อ ใครเป็นแม่ซ่ึงคาถามน้ีครอบครัวของเขาก็สามารถจดั การกนั เองได้
เพยี งแต่ถา้ มีกฎหมายตวั น้ี สังคมไทยจะสามารถเรียนรู้ความหลากหลายไดง้ า่ ยข้นึ อาจารยใ์ นโรงเรียนจะ
สอนเร่ืองความหลากหลายไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ีเพราะกฎหมายไดร้ องรับความหลากหลายทางเพศแลว้ ตดั ปัญหาใน
การท่ีตอ้ งมากงั วลวา่ จะเกิดเร่ืองพฤติกรรมการเลียนแบบ อยา่ งท่ีเคยมีขา่ ววา่ มีอาจารยท์ ี่หา้ มนกั ศึกษาเป็นเพศ
LGBTQ เพราะกลวั เป็นแบบอยา่ งใหแ้ ก่เด็กนกั เรียน แตจ่ ริงๆ ไม่ไดเ้ กี่ยวขอ้ งเลยเพราะเด็กเลือกเพศของตนเอง
มาต้งั แต่เด็กแลว้ และคนเราเปล่ียนแปลงในเรื่องเพศได้ บางคนอาจจะเคยเป็นผชู้ ายมาก่อนแต่วนั น้ีไมใ่ ช่
ผชู้ ายแลว้ ก็ได้
ผศ.ดร.เอมผกา : ความคิดที่วา่ การเป็น LGBTQ เป็นความคลาดเคลื่อนน้ีตอ้ งถกู ทาลายทิง้ เพราะวา่
เร่ืองน้ีเป็นเร่ืองธรรมชาติ การมีกฎหมายทาใหร้ ู้วา่ LGBTQ คือเรื่องธรรมชาติ การจะรักใครหรืออยากจะเป็น
เพศใดน้นั ลว้ นเป็นเร่ืองธรรมชาติ การมีกฎหมายมนั การบอกใหส้ งั คมรับรู้วา่ เรื่องน้ีเป็นเรื่องธรรมชาติ
ดงั น้นั กฎหมายจึงตอ้ งออกมาเพอื่ ทาใหเ้ กิดบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ทาใหส้ ิทธิของการสมรสในเพศ
ทางเลือกสิ่งเหล่าน้ีเป็ นเร่ื องปกติ
(4) ปัจจุบนั สังคมมองภาพลกั ษณ์ของขา้ ราชการท่ีเป็น LGBTQ อยา่ งไร
ผศ.รณภมู ิ : อยทู่ ี่เรามีตน้ ทนุ ทางสงั คมมากแคไ่ หน ถา้ เราเป็นขา้ ราชการระดบั สูงเราก็ไม่ตอ้ งกงั วล
มากเพราะตาแหน่งเราสูงมาก แตถ่ า้ เป็นขา้ ราชการธรรมดากอ็ าจมีปัญหา เพราะขา้ ราชการระดบั สูงจะอนุมตั ิ
การเป็นคนขา้ มเพศของขา้ ราชการธรรมดาก็ทาไมไ่ ดเ้ พราะยงั ไมม่ ีระเบียบออกมา เช่น ให้แต่งตวั ขา้ มเพศ
เป็นตน้ แต่วา่ กย็ อมรับเพราะวา่ ไม่ไดท้ าใหก้ ารใหบ้ ริการประชาชนดอ้ ยลงไป กเ็ หมือนกนั กรณีใส่ชุดรับ
ปริญญาท่ีตอ้ งรอใหม้ ีระเบียบก่อนถึงจะแตง่ ตวั ขา้ มเพศได้ เพราะระบบราชการจะถูกสอนมากนั วา่ ใหท้ า
เฉพาะกรณีมีระเบียบจึงจะอนุญาตได้ ในบางวชิ าชีพกม็ ีแรงต่อตา้ นมาก เช่น วิชาชีพแพทยท์ ี่ตอ้ งอาศยั ความ
น่าเช่ือถือสูงจึงขอใหแ้ ต่งตามเดิม เป็นตน้ ดงั น้นั ในการที่จะเลือกตดั สินใจจึงเป็นเรื่องท่ีตอ้ งพจิ ารณาถึง
ตน้ ทนุ ท่ีตอ้ งจ่าย อาจจะเจอแรงตา้ นจากสังคม หน่วยงานหรือรุ่นพ่ีตลอดจนการทางานในท่ีเดิมน้นั ประเดน็
น้ีจึงเป็นอีกปัจจยั ท่ีทาใหม้ ีคนมาร้องต่อ วลพ. นอ้ ย เพราะเม่ือเขาประเมินตน้ ทุนแลว้ เห็นวา่ การร้องเรียนไม่
คมุ้ ค่ากบั ผลกระทบเชิงลบท่ีจะไดร้ ับ ในที่น้ีจึงขอชื่นชมผูท้ ่ีมาร้อง วลพ. วา่ มีความกลา้ หาญและทาเพือ่ คน
อ่ืน ซ่ึงรัฐมองไม่เห็นถึงตน้ ทุนที่ตอ้ งจ่ายของบคุ คลตรงน้ี
คณุ นรีลกั ษณ์ : อยทู่ ี่วา่ เราจะไปทาราชการหน่วยไหน ถา้ มาท่ีกรมคมุ้ ครองสิทธิและเสรีภาพที่สังกดั
กระทรวงยตุ ิธรรม เราใหส้ ิทธิเร่ืองน้ีอยแู่ ลว้ สามารถจะใส่ชุดตามเพศทางเลือกไดเ้ ลย มีหอ้ งน้าเพศทางเลือก
ใหด้ ว้ ย แต่ในกระทรวงยตุ ิธรรมกม็ ีบางหน่วยงานท่ีใส่ไม่ได้ เช่น DSI กรมราชทณั ฑ์ เพราะเป็นผบู้ งั คบั ใช้
กฎหมาย คอยติดตามผตู้ อ้ งหาหรือควบคุมนกั โทษ จึงคานึงถึงความน่าเชื่อถือและภาพลกั ษณ์ในระดบั หน่ึง
และจากเท่าท่ีเห็นมาเพ่ือวิทยากรหลายๆคนที่อยใู่ นหน่วยงานของรัฐสายสงั คมท่ีไมใ่ ช่ฝ่ายบงั คบั ใชก้ ฎหมาย
ก็สามารถใส่ตามเพศทางเลือกได้
ผศ.ดร.เอมผกา : อขอสนบั สนุนในเรื่องน้ี และเอาจริงๆแลว้ แมจ้ ะยงั ไม่ใช่เรื่อง LGBTQ กย็ งั มีปัญหา
เช่น ทนายผหู้ ญิงจะขอใส่กางเกงวา่ ความในช้นั ศาลกย็ งั ตอ้ งมีการเรียกร้องกนั เราจึงตอ้ งเร่ิมมีการผลกั ดนั
และทาไปเร่ือยๆ แลว้ ถา้ มนั จุดติดข้ึนมา หน่วยงานอื่นก็อาจจะทาตามไปเร่ือยๆ และจะเป็นผลดีต่อสงั คมมาก
ยงิ่ ข้ึน
(5) ณ ปัจจุบนั ทิศทางการแกไ้ ข ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต มีแนวโนม้ เป็นอยา่ งไร
คณุ นรีลกั ษณ์: กล่าวเสริมจากรศ.รณภมู ิและผศ.ดร.เอมผกาวา่ เราไดร้ ับความคดิ เห็นบางส่วนวา่ ไม่
เห็นดว้ ย เช่น กฎหมายน้ีอาจทาลายวฒั นธรรมไทย ลูกหลานจะเป็น LGBTQ ไปหมด ขดั ตอ่ ศีลธรรมอนั ดีหรือ
ประการอ่ืนๆ เป็นตน้ ในกระแสโลกโซเชียลผคู้ นส่วนมากท่ีเห็นดว้ ยกบั กฎหมายการสมรสในเพศเดียวกนั
ลว้ นเป็นเด็กวยั รุ่นหรือเป็นคนยคุ ใหม่ แตใ่ นภาพรวมของประเทศไทยประชากรประมาณ 70,000,000 คน ก็
ไมไ่ ดเ้ ห็นดว้ ยกบั กฎหมายการสมรสของเพศเดียวกนั ไปท้งั หมด แต่สาหรับจุดยนื ของกระทรวงยตุ ิธรรม เรา
มีเป้าหมายวา่ จะตอ้ งการผลกั ดนั การสมรสอยา่ งเท่าเทียม ถา้ เลือกไดก้ อ็ ยากแกท้ ่ีกฎหมายหลกั (ป.พ.พ.) เลย
เหมือนกนั แต่จากการท่ีเราไดว้ ิเคราะห์ตามความเป็นจริง จากการท่ีเราไดป้ ระชุมหารือกบั หน่วยงานต่างๆ
การทาเช่นน้นั อาจจะเป็นไปไดย้ ากหรือมีแรงตา้ นจากสังคมมาก เราจึงจดั ทาพระราชบญั ญตั ิก่อนดีกวา่ และ
เราก็พยายามท่ีจะทาใหข้ ้นั ตอนของการสมรสของเพศทางเลือกไดใ้ กลเ้ คียงสิทธิของการสมรสแบบปกติมาก
ข้นึ เร่ือยๆ สิทธิอาจจะยงั ไม่เท่าเทียม 100% แต่เราก็จะพยายามใหส้ ิทธิของผมู้ ีความหลากหลายทางเพศมากข้นึ
เรื่อยๆตอ่ ไป
(6) ขอ้ สังเกตเก่ียวกบั พ.ร.บ.คู่ชีวติ และกฎหมายน้ีจะนาไปสู่ความเสมอภาคอยา่ งแทจ้ ริงไดห้ รือไม่
ผศ.ดร.เอมผกา : ตนเห็นดว้ ยอยแู่ ลว้ กบั การมีกฎหมายเรื่องน้ีอยแู่ ลว้ ในเรื่องการก่อสิทธิทาง
ครอบครัวของบคุ คลผมู้ ีความหลากหลายทางเพศ และดีใจที่มีถึง 2 ร่างกฎหมาย ท่ีมีเป้าหมายใกลเ้ คยี งกนั แต่
เป็นความทา้ ทายที่แตกตา่ งกนั โดยในร่างพ.ร.บ.คูช่ ีวติ สิทธิท่ีเก่ียวกบั ทางเศรษฐกิจยงั ไม่มี เช่น การเบิกเงิน
คา่ รักษาพยาบาล กองทุนตา่ งๆ หรือกฎหมายเฉพาะที่ใหส้ ิทธิบางอยา่ ง เป็นตน้ และเห็นวา่ ร่าง พ.ร.บ.คชู่ ีวิต
ตอ้ งมีกลไกมาเสริม เช่น อาจจะเป็น วลพ. สทพ. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง ช่วยขบั เคลื่อนและผลกั ดนั ใน
ประเดน็ เหล่าน้ี ส่วนในร่างอีกฉบบั การใชค้ าวา่ คู่สมรสกเ็ ป็นอีกแนวทางท่ีดี และไดร้ ับสิทธิท่ีค่อนขา้ ง
มากกวา่ ถา้ หากในกฎหมายพเิ ศษมีการบญั ญตั ิวา่ คู่สมรสก็มีสิทธิในเรื่องดงั กล่าว แต่วา่ สงั คมจะสามารถ
ยอมรับในทนั ทีไดห้ รือไม่
การที่มีสองร่างเป็นนิมิตหมายท่ีดี แต่ก็อาจจะทาใหก้ ารออกกฎหมายล่าชา้ รวมถึงเร่ืองของการเมืองที่เขา้ มา
เกี่ยวขอ้ ง ถา้ สังคมมีการพูดคุยกนั บนหลกั วชิ าการ ไม่บิดเบือนขอ้ มูล เปิ ดเผยขอ้ มลู และพดู คุยอยา่ งรอบดา้ น
กอ็ าจจะเห็นภาพไดช้ ดั เจนข้ึน นอกจากน้ี ร่างท่ีแกไ้ ขประมวลกฎหมายน้นั ตนเห็นวา่ ไมใ่ ช่แคย่ กระดบั แค่
การสมรสเทา่ เทียมของทกุ เพศ แตย่ งั ยกระดบั สิทธิหนา้ ท่ีของสามีภรรยาในภาพรวมดว้ ย ซ่ึงท้งั สองฉบบั ตา่ ง
ฝ่ายตา่ งมีขอ้ ดีขอ้ เสียที่แตกต่างกนั จุดสาคญั ก็คือ การเปิ ดเผยขอ้ มลู และพูดคุยซ่ึงกันและกนั เป็นการรับฟังวา่
สอดคลอ้ งกบั เสียงของสงั คมอยา่ งไร เพื่อจะไดเ้ ป็นกฎหมายท่ีสังคมยอมรับและไปไดด้ ว้ ยกนั
(7) การสมรสของผมู้ ีความหลากหลายทางเพศเป็นการขดั ต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามมาตรา 150
หรือไม่
ผศ.ดร.เอมผกา : บุคคลมาสร้างครอบครัวกนั ก็เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ประกอบกบั ในแง่
ของสิทธิมนุษยชนซ่ึงสะทอ้ นกบั ความเป็นจริง จึงไม่ไดข้ ดั ต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเป็นการ
รับรองในปรากฏการณ์ที่กฎหมายเพิกเฉยมาตลอดแค่น้นั
(8) แมป้ ระเทศไทยจะยงั ไมม่ ีประชาธิปไตยท่ีเตม็ ใบ แตใ่ นเรื่องสิทธิมนุษยชนน้นั ถือวา่ ประเทศไทยมี
ความกา้ วหนา้ มาก ใช่หรือไม่
คุณนรีลกั ษณ์ : ถา้ เทียบกฎหมายสิทธิมนุษยชนกบั กลุม่ อาเซียนหรือในเอเชีย ไทยก็ถือวา่ ดีเพราะเรา
มีกฎหมายดีๆหลายฉบบั เช่น การคมุ้ ครองพยาน เด็ก คนพิการ เป็นตน้ แต่ปัญหาของเราจะอยใู่ นเร่ืองของ
การบงั คบั ใชม้ ากกวา่
ผศ.รณภมู ิ : กลา่ วเสริมวา่ การขบั เคล่ือนดา้ นสิทธิมนุษยชนตอ้ งมีอยตู่ ลอดเวลา ยงิ่ ในช่วงเวลาท่ีไม่
เป็นประชาธิปไตยแบบเตม็ ใบก็ตอ้ งยงิ่ ขบั เคล่ือน เพราะวา่ เร่ืองเหลา่ น้ีเป็นเร่ืองที่รอไม่ได้ อีกท้งั ยงั เป็นการ
ส่งเสริมต่อประชาธิปไตยดว้ ย
(9) สภาพสังคมแบบปิ ตาธิปไตยเป็นอุปสรรคตอ่ การร่างพระราชบญั ญตั ิหรือการปรับใชก้ ฎหมายดงั กลา่ ว
หรือไม่
คุณนรีลกั ษณ์ : โดยธรรมชาติของคู่รักเพศเดียวกนั บางทีก็ไม่สามารถแบง่ แยกไดว้ า่ ใครเป็นชาย
หรือใครเป็นหญิง ฉะน้นั สภาพชายเป็นใหญไ่ มไ่ ดม้ ีอุปสรรคหรืออิทธิพลเหนือร่างกฎหมายฉบบั น้ี
ส่วนมากจะเป็นความกงั วลของพอ่ แม่ ผปู้ กครองมากกวา่ ที่มองวา่ ถา้ มีกฎหมายฉบบั น้ีจะส่งเสริมใหค้ นเป็น
LGBTQ มากข้ึน ซ่ึงเรากอ็ ธิบายไปวา่ กฎหมายฉบบั น้ีใหส้ ิทธิแก่ LGBTQ ซ่ึงบุคคลเหลา่ น้นั จะใชห้ รือไมใ่ ชก้ ็ได้
ผศ.ดร.เอมผกา : ตอบในประเด็นการปรับใชว้ า่ ในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศสในช่วงเร่ิมแรกท่ีมี
กฎหมายเร่ืองคู่ชีวิตบงั คบั ใช้ สังคมไมไ่ ดม้ ีความเขา้ ใจกนั หมด ยงั มีความสบั สนกนั อยู่ จึงเห็นวา่ กฎหมาย
เก่ียวกบั เพศมีปัญหาในการปรับใชแ้ น่นอน เช่น ต้งั แตก่ ฎหมายความเทา่ เทียมระหวา่ งเพศ แมจ้ ะมีมา 4 ปี แลว้
เร่ืองการแต่งกายรับปริญญากม็ ีคาร้องเขา้ มาทุกปี ฉะน้นั จึงตอ้ งมีการเรียนรู้ การใหข้ อ้ มูล เพ่ือสร้างความ
เขา้ ใจและสร้างบรรยากาศวา่ ความหลากหลายทางเพศมนั เป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคม ทาใหส้ ามารถปรับ
กฎหมายไดง้ ่ายข้นึ
ผศ.รณภูมิ : สาระสาคญั ของปิ ตาธิปไตยคอื เรื่องของการใชอ้ านาจท่ีกาลงั ใหค้ ่าเพศอื่นมีคุณคา่
มากกวา่ เพศอื่นๆ กลวั วา่ จะมีการสูญเสียอานาจที่ตนเองมีอยู่ หากเรามองวา่ เร่ืองเพศเป็นตวั แบ่งแยกการใช้
อานาจก็จะเป็นส่วนหน่ึงของแนวคดิ ปิ ตาธิปไตยท่ีเกี่ยวกบั อานาจน้นั และเรากอ็ าจจะไดเ้ ห็นถึงคนท่ีหวง
แหนในอานาจ เช่น ในกระบวนการในสภา หน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เป็นตน้ ในช่วงการบงั คบั ใชเ้ ราก็
อาจจะไดเ้ ห็นถึงบุคคลท่ีกลวั สูญเสียอานาจใชเ้ ทคนิคหรือวธิ ีการท่ีทาใหก้ ฎหมายบงั คบั ใชไ้ ดอ้ ยา่ งไมม่ ี
ประสิทธิภาพ
(10) อยากทราบเร่ืองการใชน้ ามสกุลของคสู่ มรส โดยหากคู่สมรสมีคาสร้อยลงทา้ ยนามสกลุ เช่น ณ อยธุ ยา
และสืบเช้ือสายมาจากฝ่ังบิดา ซ่ึงหากคูส่ มรสเป็นหญิงกจ็ ะสามารถเปลี่ยนไปใชน้ ามสกลุ ของฝ่ายชายได้
หากมี พ.ร.บ.คู่ชีวติ สาหรับเพศเดียวกนั ข้ึนมา อยากทราบว่าเง่ือนไขน้ีจะสามารถใชไ้ ดใ้ นรูปแบบเดียวกนั
หรือไม่
คุณนรีลกั ษณ์ : ณ ปัจจุบนั ร่าง พ.ร.บ.คุม้ ครองคชู่ ีวิตยงั ไม่ไดร้ ับรองเรื่องนามสกุล แต่วา่ ก็เป็นหน่ึง
ในแผนการท่ีเม่ือเราใชก้ ฎหมายไประยะหน่ึง เราจะแกไ้ ขในจุดน้ี ซ่ึงมีบางคู่รักท่ีอาจจะกงั วลวา่ ทาง
ครอบครัวจะไม่ยอมรับใหค้ ู่ชีวิตของตนมาร่วมใชน้ ามสกุลดว้ ย ในขณะท่ีอีกบางกลุม่ ไม่ไดม้ ีความกงั วลใน
เร่ืองน้ี ซ่ึงในการแกไ้ ขก็จะแกไ้ ขใหเ้ หมือนกบั กรณีชายหญิง
(11) การกระทาความผิดเกี่ยวกบั ทรัพยข์ ้นึ มา ในกรณีระหวา่ งสามีภรรยาจะมีเหตุยกเวน้ โทษ หรือการขม่ ขืน
กระทาชาเราระหวา่ งสามีภรรยาที่จะมีเหตลุ ดโทษ ดว้ ยเหตผุ ลของการรักษาสถาบนั ครอบครัว ซ่ึง ณ ตอนน้ี
ยงั ไมม่ ีการกาหนดเหตุยกเวน้ โทษหรือเหตุลดโทษสาหรับคู่ชีวิต อยากทราบวา่ กรมคุม้ ครองสิทธิและ
เสรีภาพมีการยกประเดน็ น้ีข้ึนมาพจิ ารณากนั หรือไม่
คณุ นรีลกั ษณ์ : ในช้นั กฤษฎีกายงั ไม่ไดม้ ีการพดู ถึงเรื่องน้ี แมใ้ นร่าง พ.ร.บ. จะมีในหมวดท่ี 2 ส่วนที่
1 ระบวุ า่ นอกเหนือจากท่ีบญั ญตั ิไวใ้ น พ.ร.บ.คู่ชีวิต ใหถ้ ือตาม ป.พ.พ. โดยอนุโลม จึงครอบคลมุ ถึงคดีอาญา
เพยี งกรณีการจดั การแทนผเู้ สียหายในคดีอาญา แตใ่ นเร่ืองท่ีถามมาน้ียงั ไมไ่ ดม้ ีการบญั ญตั ิไวโ้ ดยชดั เจน ก็
เป็นประเด็นท่ีจะนาไปพิจารณาเพ่อื บญั ญตั ิใหช้ ดั เจนต่อไป
(12) เราใชค้ านาหนา้ ชื่อตามเพศ แลว้ ทาไมยงั ไมม่ ีคานาหนา้ เฉพาะกลมุ่ LGBTQ
รศ.รณภูมิ : ประเด็นน้ีกม็ ีการพูดคุยไปบา้ งแลว้ และมีบางพรรคการเมืองที่มีแนวคิดจะเสนอใหแ้ ยก
คาชดั เจนไปเลย แต่กม็ ีบทเรียนจากตา่ งประเทศ เช่น เนปาล ที่ใชค้ าระบกุ ลุ่ม LGBTQ ไปเลย อาจระบวุ า่ other,
ex ซ่ึงไม่ไดส้ ิทธิอะไรเพิม่ เติม เวลาจะไปรับบริการจากรัฐก็ตอ้ งแยกตามเพศชาย-หญิงอยู่ดี จึงเป็นเพยี งการ
ทาในเชิงสัญลกั ษณ์เท่าน้นั อีกแนวหน่ึงคือ หากเราไปจดั ระบุคาใหก้ ็อาจจะมีปัญหาที่โดนเลือกปฏิบตั ิมาก
ยงิ่ ข้ึนหรือไม่ และกม็ ีอีกแนวคดิ วา่ ใหต้ ดั คานาหนา้ ชื่อไปเลย ใหไ้ ปใชร้ หสั ดิจิตอลไปเลย ซ่ึงแนวคิดน้ีมนั
เป็นเรื่องใหญ่มากและรัฐยงั ไมไ่ ดพ้ ร้อมขนาดน้นั จึงก็มีทางเลือกอื่นๆ เช่น การเขียนคาร้องขอไมใ่ ชค้ า
นาหนา้ ช่ือได้ เป็นตน้
(13) การคมุ ขงั นกั โทษ LGBTQ มีการแยกขงั หรือไม่
คณุ นรีลกั ษณ์ : ในอดีต ระเบียบของราชทณั ฑต์ อ้ งแยกตามเพศกาเนิด แตใ่ นการบริหารจดั การบาง
พ้นื ท่ีๆ มีนกั โทษ LGBTQ เยอะ ก็จะใหแ้ ยกตามสรีระ เช่น กลมุ่ ชายท่ีแปลงเพศแลว้ กใ็ หไ้ ปอยกู่ บั นกั โทษหญิง
ได้ นอกจากน้ี ในอดีตเคยมีแนวคิดวา่ อยากใหแ้ บง่ กลมุ่ LGBTQ จากทกุ ที่มารวมกนั ที่เรือนจาเดียว แต่ปรากฏ
วา่ นกั โทษ LGBTQ ไม่อยากมาอยรู่ วมกนั แนวคิดน้ีกเ็ ลยถูกพบั ไป ในปัจจุบนั จึงเป็นการอยตู่ ามเรือนจาปกติ
และการแบ่งแยกกล่มุ LGBTQ ข้นึ อยกู่ บั การบริหารงานของเรือนจาน้นั ๆ
(14) ตอนน้ีกลุม่ Transgender เขา้ มามีบทบาทมากข้นึ แลว้ Feminist จะคิดอยา่ งไร จะทาใหค้ ิดไปไดห้ รือไม่วา่
สุดทา้ ยผชู้ ายก็กลบั มาเป็นใหญอ่ ยดู่ ี เช่น กรณีท่ีชายแปลงเพศไปเลน่ กีฬาแข่งกบั ผหู้ ญิง แลว้ กช็ นะดว้ ยสรีระ
ของชาย เป็นตน้
รศ.รณภมู ิ : Feminist มีหลายสาย บางสายจะไม่สนใจเพศสรีระแตส่ นใจในวธิ ีคิดกนั ต่อใหค้ ณุ เป็น
ผหู้ ญิงแตค่ ดิ แบบผชู้ าย คณุ ก็ไมใ่ ช่ Feminist กรณีท่ีบอกวา่ ผชู้ ายแปลงเพศไปเล่นกีฬาแขง่ กบั ผหู้ ญิง แลว้ ก็ชนะ
ดว้ ยสรีระของชายก็แสดงวา่ เรากลบั ไปยดึ ติดในเร่ืองสรีระเหมือนเดิม ซ่ึงก็มีขอ้ พสิ ูจน์แลว้ วา่ ร่างกายผชู้ าย
กบั ผหู้ ญิงไมไ่ ดต้ ่างกนั แตส่ งั คมต่างหากท่ีทาใหผ้ หู้ ญิงดูอ่อนแอ ผชู้ ายบางคนอ่อนแอกวา่ ผหู้ ญิงกม็ ี
ธรรมชาติที่บอกวา่ ผหู้ ญิงอ่อนแอกวา่ เป็นแค่สิ่งท่ีประกอบสร้าง แต่ Feminist บางกลุม่ กไ็ ม่อยากให้ LBGTQ เขา้
ร่วมกล่มุ ตนเพราะอาจจะสูญเสียอานาจ แต่ feminist บางกลุ่มก็ยอมรับเขา้ ไปดว้ ย เคยมีช่วงท่ีผหู้ ญิงอยากแก้
เรื่องคานาหนา้ นาม แลว้ ก็มีคนเสนอวา่ ถา้ แกใ้ หผ้ หู้ ญิงแลว้ จะแกใ้ ห้ LGBTQ ดว้ ยเลย ซ่ึงกม็ ีคนคา้ นเพราะกลวั
วา่ ขอ้ เสนอจะตกไป จึงขอใหแ้ คผ่ หู้ ญิงก่อน กเ็ ป็นกระแสที่เราตอ้ งเรียนรู้กนั ต่อไป
https://www.law.tu.ac.th/summary-
seminar-civil-partnership/
https://www.thai-german-cooperation.info/th/gender-
equality/