แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Davelopment Plan : ID PLAN) ปีการศึกษา 256๗ ผู้รายงาน นางสาวชลธิดา อะมะตะ ตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนวัดผลาหาร อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมปทุมธานีเขต ๑
ก คำนำ ตามที่ ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว22/2560) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมทั้งจัด ทำแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปีตามแบบที่ส่วนราชการกำหนดมุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเองและสามารถพัฒนาตนเองให้ สอดคล้องกับความต้องการจำเป็น และสอดคล้องตามมาตรฐานการศึกษา ทั้ง 3 มาตรฐาน เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและพัฒนาผู้เรียนต่อไป ทั้งนี้ ข้าพเจ้าจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual Development Planning : ID PLAN ) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการ แต่ละบุคคล สนองความสนในในรูปแบบวิธีการพัฒนาก็จะส่งผลต่อสมรรถนะ ในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถตรวจสอบได้และพัฒนาสู่ความเป็นวิชาชีพต่อไป นางสาวชลธิดา อะมะตะ ตำแหน่งครูผู้ช่วย
ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล 1. ข้อมูลทั่วไป 1 2. ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ 1 3. ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปัจจุบัน 3 ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. 5 - ด้านความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน 5 - ด้านทักษะการปฏิบัติงาน 6 - ด้านความเป็นครู 7 ตอนที่ 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. 8 ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรสถาบันคุรุพัฒนา 9 สรุปผลการประเมินตนเอง ๑๐ ส่วนที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง 1. อันดับความสำคัญ/สมรรถนะที่จะพัฒนา 11 2. วิธีการ/รูปแบบการพัฒนา 11 3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 13 4. ประวัติการเข้ารับการพัฒนา 14 ส่วนที่ 4 ความต้องการในการพัฒนา 1. หลักสูตรใดที่ท่านต้องการพัฒนา 15 2. เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรนี้ 15 3. ท่านคาดหวังสิ่งใดจากการเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรนี้ 16 ภาคผนวก 1๗
๑ แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล ปีการศึกษา 256๗ (ID PLAN : Individual Development Plan) ส่วนที่ 1 : ข้อมูลส่วนบุคคล 1. ข้อมูลทั่วไป ชื่อ นางสาวชลธิดา นามสกุล อะมะตะ วันเกิด ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕3๘ อายุ 2๘ ปี อายุราชการ ๒ ปี - เดือน คุณวุฒิทางการศึกษา 1. วุฒิปริญญาตรี ศษ.บ. วิชาเอก นาฏศิลป์ไทยศึกษา จากสถาบันการศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย เลขที่ตำแหน่ง ๒๗๑๓ สถานทำงาน โรงเรียนวัดผลาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ส่วนราชการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สถานศึกษา/ หน่วยงาน พ.ศ. โรงเรียน สังกัด จังหวัด 2565 โรงเรียนวัดผลาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 1 ปทุมธานี 256๖ โรงเรียนวัดผลาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 1 ปทุมธานี 256๗ โรงเรียนวัดผลาหาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 1 ปทุมธานี 2. ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ 2.1 ภาระงานสอน จำนวน ๑๙ ชั่วโมง / สัปดาห์ วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ชั้น/ระดับ จำนวนชั่วโมงสอน (ชั่วโมง/สัปดาห์) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์
๒ วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ชั้น/ระดับ จำนวนชั่วโมงสอน (ชั่วโมง/สัปดาห์) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศิลป์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ ชุมนุม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-๖ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ลูกเสือ - เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จริยธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวมชั่วโมงสอน/สัปดาห์ ๑๗ ชั่วโมง/สัปดาห์ 2.2 ภาระงานพิเศษต่างๆที่ได้รับมอบหมาย ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ตามคำสั่งโรงเรียนวัดผลาหาร ปีการศึกษา 256๖ ปีการศึกษา ภาระงาน 256๗ ได้รับแต่งตั้งทำหน้าที่ครูเวรประจำวัน ปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวัน ควบคุมดูแลความเรียบร้อย สวัสดิการ ความปลอดภัยของนักเรียน ตักเตือนอบรมสั่งสอนเมื่อพบนักเรียนที่ประพฤติผิดระเบียบวินัย บันทึกรายงานการปฏิบัติหน้าที่แต่ละวัน ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ได้รับแต่งตั้งทำหน้าที่ครูเวร ดูแลรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยในการรักษาทรัพย์สินทางราชการของโรงเรียนในวันหยุดราชการ เวลา 06.00 – 18.00 น. ตามคำสั่งโรงเรียนโดยดูแลทรัพย์สินของโรงเรียนไม่ให้เกิดความสูญหาย ได้รับแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคล ได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่งานอาหารกลางวัน ได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่พัสดุ ได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยงานวิชาการ ผู้ช่วยงานอาคารสถานที่ และงานอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย เอกสาร/หลักฐานอ้างอิง 1. คำสั่งมอบหมายงานในหน้าที่ ปีการศึกษา 256๗ 2. ตารางสอนภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา 256๗
๓ 3. ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปัจจุบัน 1. ผลที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้ แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึกทักษะ โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆด้าน ได้แก่ ด้าน ความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งนี้เพื่อให้ นักเรียนมีพัฒนาการที่ดี มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่าง สม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อจะได้ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กับนักเรียนที่มีปัญหา สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ ดังนี้ 1.1 มีแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาศิลปะ รหัสวิชา ศ ๑๒๐๑ ที่มีการวิเคราะห์หลักสูตร สถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ได้อย่างถูกต้อง 1.2 มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ (Active Learning) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วย กิจกรรมที่หลากหลายและสอดคล้องกับธรรมชาติ และเทคโนโลยี 1.3 มีแนวทางในการบริหารจัดการชั้นเรียนและจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่เหมาะสมและช่วย ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน 1.4 มีเครื่องมือการวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพ ผ่านการหาคุณภาพเครื่องมือวัดผลเบื้องต้น และมี ความหลากหลายในการประเมินอย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ และด้านคุณลักษณะ อันพึงประสงค์รวมไปถึงสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 1.5 มีสื่อการเรียนรู้ และแหล่งการเรียนสำหรับใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ และให้นักเรียนไว้สืบค้น เพิ่มเติม เช่น เอกสารประกอบการเรียน สื่อสไลด์ คลิปวิดีโอ และเว็บไซต์รายวิชาที่จัดการเรียนการสอนเพิ่มเติม 1.6 ใช้อินเทอร์เน็ต และ ICT เพื่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ 1.7 ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยให้นักเรียนประเมินความพึง พอใจหลังจากสอนโดยหาค่าคะแนนเฉลี่ย (X) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 2. ผลที่เกิดจากการพัฒนาวิชาการ ผลที่เกิดจากการพัฒนาทางด้านวิชาการ พัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัยใน ตนเอง ตลอดจนจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ อีกทั้งข้าพเจ้าเป็นผู้สนใจใฝ่รู้ โดยได้ศึกษาหาความรู้ วิทยาการใหม่ ๆ มาพัฒนางานตนเองและเป็นแบบอย่างให้เพื่อนร่วมงาน มีวิสัยทัศน์ กล้าพูดกล้าตัดสินใจ มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีความเอาใจใส่ต่องานในหน้าที่และยังให้คำแนะนำ สนับสนุนเพื่อนครูทั้งในและนอกสถานศึกษาในด้านข้อมูล ข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการให้การ สนับสนุนด้านวิชาการโดยเป็นวิทยากรอบรมพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยใช้สื่อมัลติมีเดียและเทคโนโลยี เป็นสื่อในการพัฒนานักเรียนเข้าแข่งขันงานทักษะทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอทุกปี ซึ่งมีผลงานเป็นที่ ประจักษ์ มีการเข้ารับการอบรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ 3. ผลที่เกิดกับผู้เรียน ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการ ปฏิบัติจริง เพื่อให้นักเรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ความมีวินัยใน ตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มีความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร และการมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่
๔ ผู้เรียนสามารถนำความรู้ความเข้าใจและทักษะไปบูรณาการ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นการ เพิ่มพูนสมรรถนะตนเองให้มากขึ้น สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 3.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามเกณฑ์ที่กำหนด 3.2 นักเรียนมีระดับทักษะและกระบวนการทางเทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์ที่ครูผู้สอนกำหนดไว้ 3.3 นักเรียนมีระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่านที่เกณฑ์ที่ครูผู้สอนกำหนดไว้ 3.4 นักเรียนมีชิ้นงาน/ผลงาน ที่สะท้อนความคิดขั้นสูง เช่น การคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมินค่าและความคิดสร้างสรรค์ชั้นงาน โดยใช้ความรู้และเนื้อหาทางเทคโนโลยี 4. ผลที่เกิดกับสถานศึกษา จากการที่สถานศึกษามีแผนกลยุทธ์ในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดำเนินงานเพื่อ พัฒนาสถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมี ส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนินงานเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ตลอดจน การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น วารสารประชาสัมพันธ์โรงเรียน แผ่นพับประชาสัมพันธ์โรงเรียน และเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์และแหล่งข้อมูลเพื่อสืบค้นสำหรับครูและนักเรียน เพื่อให้โรงเรียนมีการ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และให้การดูแลนักเรียนโดยการเยี่ยมบ้านนักเรียนในความดูแล และให้ คำแนะนำในด้านต่างๆ ให้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง ได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชนในด้านการ ดูแลเอาใจใส่ของครูที่มีต่อนักเรียนในด้านการจัดการดูแลด้านพฤติกรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ด้าน กิริยา มารยาท ความมีวินัยในตนเอง ความรับผิดชอบ สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 4.1 มีการพัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือและชุมนุมที่จัดให้สอดคล้องกับหลักสูตร และผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง 4.2 มีระบบการทำงานที่เป็นทีม และมีแนวทางการทำงานที่เป็นขั้นตอนชัดเจน 4.3 การนิเทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครูทำให้การปฏิบัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตาม เวลาที่กำหนด 4.4 มีระบบการทำงานเป็นทีมมากขึ้น 4.5 มีแนวปฏิบัติด้านเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาที่ถูกต้อง 4.6 การพัฒนางานมีระบบถูกต้องและครบวงจร 5. ผลที่เกิดกับชุมชน สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่างๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ กิจกรรมวันสำคัญ จนทำ ให้เกิดความร่วมมือ ความเข้าใจที่ดีต่อกัน เกิดความรักและความภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ ละภาคเรียนเพื่อชี้แจงนโยบายของโรงเรียน และเพื่อหาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียน ทั้งพัฒนาอาคาร สถานที่ และพัฒนาทางวิชาการให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน สามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 5.1 เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครองนักเรียน และชุมชน มีการประชุมทุกภาคเรียน 5.2 มีกิจกรรมทางสังคมในด้านต่างๆ ร่วมกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ 5.3 เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถให้บุคคลภายนอกเข้ามาศึกษาได้ 5.4 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางเครือข่ายวิชาการ และชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 5.5 โรงเรียนให้บริการแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนในด้านต่างๆ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้ชุมชนมี ความเข้มแข็ง อีกทั้งชุมชนยังให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนด้วยดี
๕ ส่วนที่ 2 : ผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ รายการพิจารณาตนเอง ระดับความรู้ มาก (3) ปานกลาง (2) น้อย (1) 1. เนื้อหาในรายวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สอน ✓ 2. วิธีสอน ถ่ายทอดความรู้เชิงเนื้อหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ ความรู้พื้นฐาน การปรับพื้นฐาน และ อุปสรรคการเรียนรู้ของผู้เรียน ✓ 3. หลักการสอน และกระบวนการเรียนรู้ ✓ 4. หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมินและแนว ทางการเรียนรู้ในแต่ละเนื้อหา ✓ 5. พื้นฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยา สังคม นโยบายการศึกษา จุดมุ่งหมายการจัด การศึกษาตั้งแต่ระดับชาติจนถึงระดับหลักสูตร ✓ 6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความ หลากหลายของผู้เรียน ✓ 7. ทฤษฎีการเรียนรู้ และจิตวิทยาการเรียนรู้ ✓ 8. การใช้เทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ✓ 9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ✓ รวม 2๑ 4 คะแนนรวม/แปลผล 2๕/อยู่ในระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดับความรู้น้อย คะแนน 16 – 21 ระดับความรู้ปานกลาง คะแนน 22 – 27 ระดับความรู้มาก จากผลการประเมิน พบว่า ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ควรได้รับการส่งเสริมด้านหลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ และ การประเมินการใช้หลักสูตร พื้นฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยา สังคม นโยบาย การศึกษา จุดมุ่งหมายการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชาติจนถึงระดับหลักสูตร ทฤษฎีการเรียนรู้และ จิตวิทยาการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ และการวัด ประเมินผลการเรียนรู้
๖ ด้านที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน รายการพิจารณาตนเอง ระดับความสามารถ ทำได้ดี (3) พอใช้ (2) ไม่ค่อยได้ทำ (1) 1. การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร ✓ 2. การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ✓ 3. การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ✓ 4. กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ✓ 5. การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ผลสัมฤทธิ์ คุณลักษณะ สมรรถนะ) ✓ 6. การสร้างและการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการ ศึกษาและแหล่งเรียนรู้ ✓ 7. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ✓ 8. การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ✓ รวม ๒๑ ๒ คะแนนรวม/การแปลผล 2๓ /อยู่ในระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับทักษะน้อย คะแนน 14 – 19 ระดับทักษะปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับทักษะมาก จากผลการประเมิน พบว่า ทักษะการปฏิบัติงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ควรได้รับการส่งเสริมความรู้ในเรื่องของการใช้กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ได้รับการพัฒนาด้วยกระบวนการที่หลากหลายและเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ มากกว่าการ ที่ครูเป็นผู้บอกความรู้ให้กับนักเรียน
๗ ด้านที่ 3 ความเป็นครู รายการพิจารณาตนเอง ระดับความเป็นครู สูงมาก (3) ปานกลาง (2) ยังต้อง ปรับปรุง (1) 1. ยึดมั่น ผูกพัน ศรัทธาในวิชาชีพ และทุ่มเทเพื่อการเรียนรู้ ของผู้เรียน ✓ 2. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ ผู้เรียนทั้งกาย วาจา และจิตใจ ดำรงตนให้เป็นที่เคารพ ศรัทธาและน่าเชื่อถือทั้งใน และนอกสถานศึกษา ✓ 3. ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ✓ 4. มีวินัยและการรักษาวินัย ✓ 5. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความชำนาญในวิชาชีพเพิ่มขึ้น ✓ 6. ปฏิบัติตนโดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ใช้ได้ ✓ 7. มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง ✓ 8. มุ่งประโยชน์ส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ✓ รวม 24 คะแนนรวม/การแปลผล 24/อยู่ในระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับความเป็นครูน้อย คะแนน 14 – 19 ระดับความเป็นครูปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับความเป็นครูมาก จากผลการประเมิน พบว่า ความเป็นครู โดยรวมอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกประเด็น มีระดับคะแนนที่แสดงถึงความเป็นครูอยู่ในระดับมาก
๘ ตอนที่ 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. รายการศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. ระดับศักยภาพ สูงมาก (3) ปานกลาง (2) ยังต้อง ปรับปรุง (1) 1. เร่งแก้ปัญหากลุ่มผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยเพิ่มโอกาสในการ เข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) ให้กับ ผู้เรียนทุกระดับ รวมทั้งลด ความเครียดและสุขภาพจิตของผู้เรียน ✓ 2. เสริมสร้างระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัย นักเรียน ด้วยระบบมาตรฐาน ความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Platform) ✓ 3. ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุ 3 – 6 ปี และผู้เรียนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และป้องกัน การหลุดออกจากระบบ รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออก กลางคัน และเด็กพิการที่ค้นพบจากการปักหมุดบ้านเด็กพิการ ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ✓ 4. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและการจัดทํา กรอบหลักสูตร รวมทั้ง จัดกระบวนการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้เหมาะสมตามวัยของผู้เรียน ✓ 5. จัดการอบรมครูโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ควบคู่กับการให้ ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้าง วินัยด้านการเงินและ การออม เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ✓ 6. ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่ เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) มีการวัด และประเมินผลในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และสมรรถนะ ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ทุกระดับ ✓ 7. ยกระดับคุณภาพของนักเรียนประจําพักนอน สําหรับ โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สูง ห่างไกล และถิ่นทุรกันดาร ✓ 8. มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทุกระดับ ✓ 9. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา โดยการกระจาย อํานาจและใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยการ จัดสรรกรอบวงเงินงบประมาณ (Block Grant) ตามหลักธรร มาภิบาล ให้กับ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ✓ รวม ๒๗ คะแนนรวม/การแปลผล 2๗ อยู่ในระดับปานกลาง
๙ เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดับศักยภาพน้อย คะแนน 21 – 28 ระดับศักยภาพปานกลาง คะแนน 29 – 36 ระดับศักยภาพสูงมาก จากผลการประเมิน พบว่า ระดับศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. โดยรวม อยู่ในระดับสูงมาก โดยมีระดับศักยภาพอยู่ในระดับสูงมากทุกจุดเน้น ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา รายการศักยภาพของผู้เรียนตามจุดเน้น ระดับศักยภาพ สูงมาก (3) ปานกลาง (2) ยังต้อง ปรับปรุง (1) 1. การสอนในศตวรรษที่ 21 ✓ 2. การแก้ปัญหาผู้เรียน ✓ 3. จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ ✓ 4. การจัดการชั้นเรียน ✓ 5. การวิจัย ✓ 6. การพัฒนาหลักสูตร ✓ 7. สะเต็มศึกษา (STEM Education) ✓ 8. การใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ ✓ 9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ✓ 10. การออกแบบการเรียนรู้ ✓ รวม ๒๗ ๒ คะแนนรวม/การแปลผล 23/อยู่ในระดับปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดับศาสตร์การสอนน้อย คะแนน 17 – 23 ระดับศาสตร์การสอนปานกลาง คะแนน 24 – 30 ระดับศาสตร์การสอนสูงมาก จากผลการประเมิน พบว่า ระดับศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบัน คุรุพัฒนาโดยรวมอยู่ในระดับสูงมากเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับศาสตร์การสอน ปานกลาง คือ จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่าง เต็มประสิทธิภาพ
๑๐ สรุปผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ควรได้รับการส่งเสริมความรู้ในด้าน เนื้อหารายวิชา หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ และการประเมินการใช้หลักสูตร พื้นฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยาสังคม นโยบายการศึกษา จุดมุ่งหมายการจัดการศึกษาตั้งแต่ ระดับชาติจนถึงระดับหลักสูตร ทฤษฎีการเรียนรู้และจิตวิทยาการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และสื่อ นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ และการวัด ประเมินผลการเรียนรู้ ด้านที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน ควรได้รับการส่งเสริมความรู้ในเรื่องของการใช้กลยุทธ์ในการ จัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการพัฒนาด้วยกระบวนการที่หลากหลายและเน้นให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ มากกว่าการที่ครูเป็นผู้บอกความรู้ให้กับนักเรียน ด้านที่ 3 ความเป็นครูปฏิบัติหน้าที่ได้ในระดับสูงมาก ตอนที่ 2 ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. ระดับศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. ระดับศักยภาพของผู้เรียน ในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. โดยรวมอยู่ในระดับสูงมาก โดยมีระดับศักยภาพอยู่ในระดับสูงมาก ทุกจุดเน้น ตอนที่ 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา ระดับศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา ด้านที่ต้องได้รับ การปรับปรุง คือ จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ เนื่องจากยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการ จัดการเรียนการสอนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
๑๑ ส่วนที่ 3 : แผนการพัฒนาตนเอง 1. อันดับความสำคัญ / สมรรถนะที่จะพัฒนา ( 1 ) การใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ ( 2 ) การสอนในศตวรรษที่ 21 ( 3 ) การแก้ปัญหาผู้เรียน ( 4 ) การจัดการชั้นเรียน ( 5 ) การออกแบบการเรียนรู้ ( 6 ) การวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ( 7 ) การพัฒนาหลักสูตร ( 8 ) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ( 9 ) สะเต็มศึกษา (STEM Education) ( 10 ) จิตวิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ 2. ตารางสรุปวิธีการ/รูปแบบการพัฒนา ที่ สมรรถนะที่จะพัฒนา วิธีการ / รูปแบบการพัฒนา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1 การใช้สื่อและ เทคโนโลยีในการ จัดการเรียนรู - เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการผลิตสื่อ การใช้ สื่อประเภท ICT - สร้างสื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการ สอน - ตนเองมีความสามารถในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีความรู้ เรื่องการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ การวัดผลประเมินผล ตลอดจน การผลิตสื่อ การใช้สื่อ ประเภท ICT ส่งผลต่อการจัดกิจกรรมให้กับ ผู้เรียนอย่างสูงสุด 2 การสอนในศตวรรษที่ 21 - เข้ารับการอบรม สัมมนาที่หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานอื่นๆจัดขึ้น - ศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบ บุคลากรต้นแบบ เพื่อนำมาพัฒนาตนเอง - แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคลากรในโรงเรียน - ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวิชาการจากตำรา วารสาร - สืบค้นความรู้ทางอินเตอร์เน็ต - ตนเองเป็นผู้มีคุณภาพ ได้รับการ พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผล และเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน และ โรงเรียน 3 การแก้ปัญหาผู้เรียน - จัดกิจกรรมส่งเสริม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงามให้กับผู้เรียนอยู่เสมอ โดย การอบรมหน้าเสาธง กิจกรรมโฮมรูม และ เยี่ยมบ้านนักเรียน - ส่งเสริมผู้เรียนตามความถนัด ความสามารถ แต่ละบุคคล - ศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล - ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีทักษะ ชีวิต เป็นที่ยอมรับของสังคม
๑๒ ที่ สมรรถนะที่จะพัฒนา วิธีการ / รูปแบบการพัฒนา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 4 การจัดการชั้นเรียน - จัดบรรยากาศในชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ - จัดมุมประสบการณ์ต่างๆเพื่อให้เป็นแหล่ง เรียนรู้ - จัดป้ายนิเทศเพื่อเป็นข้อมูล ข่าวสารสำหรับ การเรียนรู้ - จัดทำเอกสารงานธุรการในชั้นเรียนให้เป็น ปัจจุบัน - จัดระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนและนำ ข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียน - ห้องเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ ผู้เรียนมีความสุขในการ เรียนรู้ ครูมีข้อมูลต่างๆ เป็น ปัจจุบัน สามารถเป็นแบบอย่างได้ 5 การออกแบบการ เรียนรู้ - เข้ารับการอบรมการออกแบบการเรียนรู - เลือกใช้เทคนิคกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ เหมาะสม เลือกใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ที่จะ ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน และใช้ วิธีการวัดผลประเมินผลที่หลากหลาย ทั้งนี้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเพื่อให้ผู้เรียนได้ พัฒนาเต็มตามศักยภาพของแต่ละคน และสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ได้ - ครูมีความรู้และทักษะกระบวนการ ในการออกแบบการเรียนรู้ - ครูเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับ ผู้เรียน 6 การพัฒนาหลักสูตร - เข้ารับการอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ศึกษา เอกสารเกี่ยวกับหลักสูตรการออกแบบการ เรียนรู้การเขียนแผนการจัดประสบการณ์ การ วัดผลประเมินผลเพื่อพัฒนาตนเอง - ครูมีความรู้ ความสามารถในการ พัฒนาหลักสูตรเพิ่มขึ้น 7 การวัดและประเมินผล การเรียนรู้ - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ ปฏิบัติจริง - จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ ที่น่าสนใจ - วัดและประเมินผลการเรียนรู้อย่าง หลากหลาย และนำผลไปใช้ในการพัฒนา ผู้เรียน -ผู้เรียนให้ความสนใจ ตั้งใจ มีความ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น มีทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมตาม ศักยภาพของแต่ละบุคคล และ สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้ ตลอดเวลาทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน 8 สะเต็มศึกษา (STEM Education) - เข้ารับการอบรมสะเต็มศึกษา (STEM Education) - จัดกิจกรรมบูรณาการ - ครูได้รับความรู้สะเต็มศึกษา - ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย 9 จิตวิทยาการแนะแนว/ จิตวิทยาการจัดการ เรียนรู้ - เข้ารับการอบรมจิตวิทยาการแนะแนว/ จิตวิทยาการจัดการเรียนรู้ - ศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล - ครูมีความรู้ความเข้าใจการเรียนรู้ และพัฒนาการของผู้เรียน - ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมเพิ่มขึ้น
๑๓ ที่ สมรรถนะที่จะพัฒนา วิธีการ / รูปแบบการพัฒนา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ - ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้และพัฒนาการ ของผู้เรียน ในสภาพการเรียนการสอนหรือใน ชั้นเรียนเพื่อนำมาช่วยแก้ปัญหาทาง การศึกษาและส่งเสริมการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพ 3. ระยะเวลาในการพัฒนา ปีการศึกษา 256๗ 4. การขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงาน หน่วยงานสนับสนุนการพัฒนาตนเองทุกด้านและอำนวยความสะดวกในเรื่องค่าใช้จ่ายเสมอ 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5.1 ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ด้านความรู้ : เกิดการเรียนรู้ นำผลการพัฒนาสู่การเปลี่ยนแปลงผู้เรียน และนำประสบการณ์เข้า แลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่เพื่อนร่วมวิชาชีพ จนเกิดองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ทักษะ : มีความสามารถบูรณาการความรู้สู่การปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตาม ศักยภาพ สร้างนวัตกรรมจากการปฏิบัติที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน และสร้างนวัตกรรมที่ได้จากการเข้า ร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และพัฒนานวัตกรรมให้เป็นต้นแบบการเรียนรู้แก่เพื่อนร่วมวิชาชีพ ความเป็นครู : ดำรงชีวิตอย่างมีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยการเป็นผู้ ที่มีวินัย ตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ กติกาของสังคม มีความประพฤติที่เป็นแบบอย่างที่ดีทั้ง ทางกาย แต่งกายเหมาะสมกับกาลเทศะ มีมารยาท และเป็นมิตรกับลูกศิษย์ ตามบทบาทและสถานการณ์ ทาง วาจา สุภาพ จริงใจและสร้างสรรค์ ที่ก่อให้เกิดกำลังใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และทางใจ มีความเมตตา กรุณา กตัญญูกตเวที ซื่อสัตย์สุจริต มีความเป็นกัลยาณมิตร อดทน มีอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ตลอดจน ดำรงชีวิตอย่างเหมาะสมกับฐานะ และมีความรักศรัทธา และยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ เข้าร่วมชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพสร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสร้างวัฒนธรรมทางการเรียนรู้ในสถานศึกษา และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงต่อวงการวิชาชีพ
๑๔ 6. ประวัติการเข้ารับการพัฒนา ลำดับที่ เรื่องที่จัดอบรม หน่วยงานที่จัดอบรม จำนวน ชั่วโมง หมายเหตุ ปีการศึกษา 256๗ 1 การอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ “ทักษะ การเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรีเขต ๑ ๑ วัน 2. การอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ “หลักสูตรพัฒนาตนเองตามมาตรฐาน วิชาชีพครู” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรีเขต ๑ 1 วัน 3 อบรมออนไลน์“การพัฒนาทักษะด้าน ดิจิทัลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๔ 1 วัน ๔ อบรมออนไลน์ เรื่อง “ระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียน” สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ 1 วัน ๕ อบรมออนไลน์ เรื่อง ระบบคลังสื่อดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษากำแพงเพชร เขต ๑ 1 วัน ส่วนที่ 4 : ความต้องการในการพัฒนา 1. หลักสูตรใดที่ท่านต้องการพัฒนา 1.1 หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)” 2. เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรนี้ เนื่องด้วยการเรียนการสอนในปัจจุบัน เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิด ความรู้และนำไปประยุกต์ใช้ จึงต้องการพัฒนาความรู้ในหลักสูตร “การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)” เพื่อนำมาปรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาที่ตนเองสอน อีกทั้งยังสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, แผนการศึกษาชาติ, นโยบายศธ. และนโยบาย สพฐ. ➢ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ข้อ 1.1 ปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางฯ สู่การปฏิบัติ ข้อ 2.5 ส่งเสริมให้ผู้เรียน มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ข้อ 3.2 ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ข้อ 3.3 ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบูรณาการแบบสหวิทยากร สะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อพัฒนา กระบวนการคิดข้อ
๑๕ ➢ ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ข้อ 1.2 ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ (PLC) ข้อ 1.3 การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) ➢ ยุทธศาสตร์ที่ 4 ข้อ 2. การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ข้อ 2.2 ส่งเสริมสนับสนุนการใช้ เทคโนโลยีในการจัดการศึกษาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง ข้อ 2.7 สนับสนุนการผลิต จัดหา และ ใช้สื่อการเรียนการสอน เทคโนโลยี นวัตกรรม 3. ท่านคาดหวังสิ่งใดจากการเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรนี้ ด้านความรู้ 1. ด้านการจัดการเรียนการสอน 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร การวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศิลปะ (ดนตรี-นาฏศิลป์) เพื่อพัฒนาหลักสูตร แล้วใช้เป็น ข้อสนเทศในการจัดทำคำอธิบายรายวิชาที่ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอน 2. การจัดการเรียนรู้ 2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ให้เหมาะสม 2.2 การจัดทำแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการ เรียนรู้ มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ตลอดจนวิธีการบันทึกหลังสอนให้สอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.3 ประมวลความรู้ในประเด็นกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ทั้งนี้จักได้ใช้เป็นแนวทางในการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ ที่ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอน 3. การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ 4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ คัดสรรและพัฒนาเครื่องมือวัดผล ในการพัฒนากิจกรรมการ เรียนรู้ ตามพิสัย ทั้ง 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ซึ่งประกอบด้วยแบบประเมินที่ หลากหลาย 5. การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ด้านทักษะ 1. ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน 1.1 ความรู้การบริหารจัดการชั้นเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ วิชาที่ข้าพเจ้า ปฏิบัติการสอน ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการเรียนรู้ มีความปลอดภัยและมีความสุข ตลอดจน ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด มีทักษะชีวิตและทักษะการทำงาน 1.2 ความรู้การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน 1.3 การจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำวิชา อย่างเป็นระบบถูกต้องและเป็น ปัจจุบัน ตลอดจนใช้ข้อมูลสารสนเทศในการเสริมสร้างและพัฒนาผู้เรียน ด้านความเป็นครู 1. ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ 1.1 การพัฒนาตนเอง และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงาน 1.2 ข้อสนเทศในการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ผ่านการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
๑๖ 4. ท่านจะนำความรู้จากหลักสูตรไปพัฒนาการสอนของท่านอย่างไร 1. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตรไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรรายวิชา กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ ที่ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอน โดยมีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดเพื่อจัดทำ คำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ รวมถึงประเมินความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 2. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร ไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับคำอธิบายรายวิชา โดยจะได้นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการ วัดและประเมินผลมาจากการพัฒนาตนเองตามหลักสูตร มาเป็นข้อมูลสารสนเทศในการจัดการเรียนรู้ 3. ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร มาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดย ไม่ฝืนธรรมชาติผู้เรียนและเต็มตามศักยภาพของผู้เรียนต่อไป 4. ข้าพเจ้าจะนำความรู้และทักษะที่ได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานจริงในห้องเรียนของตนเอง โดยจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การใช้สื่อ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม จัดการเรียนการสอนผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ และการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องต่อไป ลงชื่อ.............................................................. (นางสาวชลธิดา อะมะตะ) ตำแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ผู้จัดทำแผนการพัฒนาตนเอง ความเห็นของผู้บังคับบัญชา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ........................................................................ (นางสาวศรัณย์ภัทร ประทุมชาติ) ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดผลาหาร
๑๗ ภาคผนวก เกียรติบัตรในการพัฒนาตนเอง
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒
๑