บทท่ี 3
หลักธรรมของชนิ โต
หลกั ธรรมของศาสนาชนิ โต สอนมุ่งไปในเร่ืองของจติ โดยเน้นใหพ้ ฒั นาจติ ใจใหด้ ี
งาม 4 ลักษณะ ต่อไปน้ี
1. หัวใจทแ่ี จ่มใส (อากากิ โกโกโร) ยอ่ มฉายแสงแจม่ ใสเหมอื นดวงอาทติ ย์ทใี่ ห้แสง
สว่าง ทำให้เกดิ พลงั งาน ทำให้พชื ผลเจรญิ งอกงาม
2. หวั ใจท่บี ริสุทธ์ิ (กโิ ยกิ โกโกโร) ยอ่ มผอ่ งแผ้วเหมอื นเพชรสีขาวบริสทุ ธิ์
3. หวั ใจทีถ่ ูกต้อง (ตาดารกิ ิ โกโกโร) ย่อมแนบแนน่ อยกู่ ับความยุตธิ รรม
4. หัวใจทตี่ รง (นาโอกิ โกโกโร) ยอ่ มน่ารักและปราศจากความยึดมน่ั ในทางท่ีผิด
ลักษณะที่ดีงามทั้ง 4 ประการนี้ ย่อมเป็นอนั หน่งึ อันเดยี วกับเทพเจา้ นอกจากนน้ั
ยงั ไดม้ กี ารรวมลักษณะท้ัง 4 ประการน้ี ไวใ้ นคำญป่ี ุ่นคำเดยี วกนั คือ "เชอเิ มอิชนิ "
นอกจากนี้ ศาสนาชินโตยังสอนคุณธรรมขนั้ พ้นื ฐานไวด้ ังน้ี
1. เชอ่ื ฟงั คำสอนของเทพเจา้
2. ทำหนา้ ทีข่ องตนให้บริบูรณ์ด้วยความซอ่ื สัตย์
3. ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อเทพเจ้าและต่อวิญญาณแห่งบรรพบุรุษ
50
คัมภีรศ์ าสนาชนิ โต
ประวัติคัมภรี ศ์ าสนาชินโต
ศาสนาชินโตมีคัมภีรอ์ ยู่ 2 ฉบับ คือ 1.คมั ภีร์โกชิกิ 2.คมั ภรี น์ ิฮอนงิ
หรือ นิฮอนโชกิ แตถ่ า้ คน้ พบกจ็ ะมีคัมภรี ์อีกหลายคัมภรี ์ เชน่ โกโคซูอิ มนั โยชู
ฟูโดกิ เป็นต้น
“คมั ภีร”์ ภาษาองั กฤษใช้คำวา่ “Religious Scriptures”บ้าง
Scared Book บ้างน้ัน ตรงกับคำวา่ ชนิ เตน(Shinten) ในภาษาญ่ีปุ่น โดย
คัมภรี ใ์ นศาสนาชนิ โต ดงั นี้
1. คมั ภีร์โกชกิ ิ(Kojiki)
รวบรวมขน้ึ ในปี ค.ศ.712 (พ.ศ.1255) มรี ากฐาน
อยู่กบั ขนมประเพณที ที่ ่องจำกันมาด้วย ปาก
เลา่ ถึงเทพนยิ ายตำนานเร่ืองทางประวตั ศิ าสตร์
เก่ยี วพันอยู่กบั ราชสำนกั แหง่ พระจักรพรรดินีสอุ ิ
โก (จนถงึ ค.ศ.628หรือพ.ศ. 1171)
สว่ นใหญ่เทววทิ ยาของศาสนาชนิ โตไดพ้ ฒั นาขนึ้
จากการตีความในเทพนิยาย แห่งคัมภีรท์ กี่ ลา่ วน้ี
มผี ู้กลา่ ววา่ คัมภีรศ์ าสนาชินโต ปลี ักษณะเปน็
เทพนยิ ายผสมประวัตศิ าสตร์ ขนบธรรมเนยี มพ
ห้ามการปฏิบตั ใิ นทางไสยศาสตร์ และการปฏิบตั ิ
ตอ่ เจา้ ของชาวญ่ีปนุ่ โบราณ มีแจ้งไว้ ในคมั ภีร์นี้
51
2. คัมภีร์นิฮอนงิ หรือ นฮิ อนโชกิ (Nihongi or Nihon Shoki)
คัมภีร์น้รี ่วมกันคมั ภีร์โกชกิ ิ ถอื วา่ เป็นคลาสสิก คอื วรรณคดีชั้นสูงของญี่ปุ่น
รวบรวมขึน้ ณ ราชสำนกั พระจกั รพรรดิ
ในปีค.ศ.720 (พ.ศ.1263) อนั เปน็ สมัย
ที่มีการเริ่มต้นตดิ ต่อเกี่ยวข้องกับทวปี
ยุโรป และเป็นสมัยที่มีความสำนึกใน
เรื่องชาติสูง คือชาตินิยมนั่นเอง คำ
บรรยายในทางประวัติศาสตร์ของ
คัมภีร์นี้คือ ครอบคลุมมาจากยุคสมัย
ของเทพเจ้าจนถึงรัชสมัยของ
จกั รพรรดนิ ชี โิ ต
(จนถึงค.ศ.702 หรอื พ.ศ. 1245) เปน็
คัมภีร์รวมสามสิบเล่ม ครึ่งแรกว่าด้วย
เทพนิยายและนยิ ายต่างๆ แต่คร่ึงหลัง
ว่าด้วยข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์
และเป็นที่ยอมรับนับถือกันมาแต่
โบราณว่าเป็นหนังสือ ประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือไดม้ ากทีส่ ุด มีหลายตอนแห่ง
คัมภรี น์ ิฮอนโชกิ ร่วมกบั คมั ภีร์โกชกิ ิ ท่ีกล่าวถึงสมัยของเทพเจ้า นบั เป็นที่มา
อยา่ งสำคญั แหง่ ความคดิ ของศาสนาชนิ โต
52
“
3. คัมภีร์โกโค ชอู ิ (kogo Shui)
คมั ภีร์โกว กูซูอิ นบั ว่ามีความสำคญั รองลงมาจากสองคัมภีร์ข้างตน้ คอื คัมภีร์
โกชิกิและคัมภีร์นิฮอนโชกิ โดยเฉพาะคัมภรี ์โกโคซูอินี้ อิมเบ ฮิโรนาริ เป็นผู้
แต่ง กล่าวกันว่าเป็นหนังสือเพยี งเล่มเดยี วหรือสองเล่มเท่านั้นท่ีได้ถวายแด่
จักรพรรดิเฮอิเซอิ เมื่อค.ศ. 807 เป็นหนังสือที่อธิบายความหมาย แห่ง
ถ้อยคำ และการปฏิบัติพิธีกรรมโบราณ หนังสือจะกล่าวถึงข้อความที่ไม่ได้
กล่าวไว้ในคมั ภีร์โกชิกิและนิฮอนโชกิ นอกจากนั้นยังแสดงถึงความคิดเหน็
ของผู้แต่งเองเกี่ยวกับศาลเทพเจ้าที่อิเสะ และที่อัทสุตะ และ เกี่ยวข้องกับ
ฐานะแหง่ สกุลของผแู้ ต่ง ซงึ่ สมั พนั ธ์กบั ตระกลู นากาโตมิ และฐานะแห่งสกุล
นากาโตมิ ซึ่งสัมพันธ์กับสกุลอื่น แม้ว่าจะมีข้อเสียที่กลา่ ว แต่เรื่องราวแหง่
สกลุ อิมเบโดยส่วนใหญ่ แตก่ ็มขี ้อความอยมู่ าก ท่คี วรแกน่ า่ สนใจ
53
4. มนั โยชู(Manyoshu)
คัมภีร์เล่มนี้ เป็นประมวลบทกวีอันเกา่ แก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีการรวบรวมใน
ศตวรรษท่ี8 ประกอบด้วยบทกวี4,500บท ซึ่งเขียนในศตวรรษที่5จนถึง
ศตวรรษที่8 เปน็ บทนพิ นธ์ของบคุ คลตำแหน่งตา่ งๆตง้ั แต่พระจักรพรรดจิ นถึง
ชาวนา บทกวีเหล่านี้มีชื่อเสียงมาก ในการแสดงความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ และ
ธรรมดาสามญั ออกมาอยา่ งตรงไปตรงมา นอกจากน้นั ทน่ี ับว่าสำคัญคือ ได้ทำ
ให้รู้ถึงความเชือ่ ขนบธรรมเนียมประเพณแี ละความคดิ ในทางศาสนาของคน
สมัยโบราณ
54
5. ฟูโดกิ(Fudoki)
คัมภีร์เลม่ น้ี เป็นข้อเขียนแสดง ภูมิศาสตร์ส่วนภมู ิภาค ซึ่งเรียบเรียงข้นึ เพอื่
ถวายราชสำนักพระจกั รพรรดิ ตามพระบรมราชโองการในค.ศ.713 คือพระ
บรมราชโองการนัน้ สั่งใหฝ้ า่ ยปกครองส่วนภูมภิ าคทำรายงานเสนอราชสำนัก
เพื่อใหร้ ู้นามเดนิ ทางภาคภูมศิ าสตร์ ความสมบูรณ์ของพน้ื ที่ นทิ านและนยิ าย
ตำนานอันเก่าแกแ่ ห่งทอ้ งถิน่ แตล่ ะแหง่ ในปัจจุบนั ส่วนใหญ่ คัมภีร์เลม่ นี้ได้
สูญหายไป แต่ยังมีเหลือเป็นเล่มสำนวนสมบูรณ์เพียงบางเรื่อง และเหลือ
บางส่วนอกี บางเร่อื ง ชือ่ คัมภีรน์ ้ี พรอ้ มกนั กบั รายงานภมู ภิ าค ซึ่งรวบรวมขึ้น
ในสมัยโตกกุ าวะ ซงึ่ ใช้ช่อื เร่ืองอยา่ งเดยี วกนั
55
6. ไตโฮ-รโย (Taiho Ryo)
คัมภีร์เล่มนี้เท่ากับเป็นคัมภีร์กฎหมายโบราณที่สำคัญของญี่ปุ่น คล้ายกับ
เองคิ ชิกิ ข้อความในคัมภีร์กฎหมายนี้ ให้ประโยชน์ในข้อมูลท่ีให้ทราบว่า
สำนกั ราชการแห่งไหน นับว่าเปน็ ความสำคัญสูงสุดในการปฏบิ ัตงิ านเกีย่ วกับ
พิธีบูชาในศาสนาชินโต มีคำญี่ปุ่น คือชิงคิ กาน ซึ่งหมายถึง สำนักราชการ
โบราณท่ีรับผดิ ชอบเก่ียวกบั การบูชาแหง่ ศาสนาชินโต ในคมั ภรี ก์ ฎหมายน้ี ซ่ึง
รวบรวมขึ้นเมื่อค.ศ.701
7. เองคิ ชกิ ิ (Engi shiki)
คัมภีร์เล่มนี้ เป็นประมวลกฎเกณฑล์ ะเอียดเกีย่ วกับการบริหารของรัฐบาล
ระหว่างสมยั แห่งกฎหมายริตซู รโย ศตวรรษที่7จนถงึ ศตวรรษท่ี9 เปน็ หนังสอื
รวม50เล่ม ซึ่งยังมีปรากฏอยู่จนปัจจุบัน คัมภีร์นี้ว่าด้วยกฎหมายมณเฑียร
แห่งราชสำนกั พระจกั รพรรดอิ ย่างละเอยี ด เช่น ราชพธิ ีมารยาทเน่ืองดว้ ยราช
สำนักข้อปฏิบัตอิ ันเหมาะสม ตลอดจนการบริหารส่วนภูมิภาคเป็นต้น การ
รวบรวมได้กระทำเมื่อค.ศ.905 และได้สำเร็จถวายพระจักรพรรดิในอีก22ปี
ถัดมา แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศใช้ในระยะแรก ต่อมาในปี967 คือหลังจากปีที่
ถวายถงึ 40ปี ถอื ได้กลา่ วกฏเกณฑต์ ่างๆเกี่ยวกับศาสนาชินโต จึงถือกันว่ามี
ค่ามากในการช่วยกันศึกษาศาสนานี้ กล่าวกันว่าเมื่อประกาศใช้ประมวล
กฎหมายนี้ ก็เท่ากับให้กำเนิดศาสนาชินโตราชการเป็นลายลักษณ์อักษรแต่
น้ันเปน็ ตน้ มา
56
โดยสรุปกล่าวว่า คัมภีรท์ งั้ 7 ทก่ี ลา่ วมาข้างตน้ ทน่ี บั วา่ สำคัญทสี่ ุด
คอื คมั ภีร์โกชิกิ และคมั ภรี น์ ฮิ อนงิ สว่ นคัมภรี ์ต่อมาอกี 5คมั ภีร์ มีความสำคัญ
รองลงมา ส่วน มันโยชู ฟูโดกิ ไตโฮ รโย เองกิ ชิกิ ได้รับจัดเป็นคำว่า
Scacred Book หรือคำว่าชินเตน (คัมภีร์ศาสนา) อย่างสมบูรณ์ แต่บาง
แหล่งข้อมูล ก็ขยายความไปถึงหนังสือมันโยชู ฟูโดกิ ไตโฮ รโย เองกิ ชิกิ
ดว้ ยอยา่ งไรกต็ ามความ สำคัญของ คัมภีรศ์ าสนาทก่ี ล่าวมาน้ี ดเู หมือนจะไม่
ถือกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ถึงขนาดคัมภีร์ไบเบิลของศาสน าคริสต์และอัลกุ
รอานของศาสนาอิสลาม เพราะมีลักษณะเป็นเทพนิยาย ตำนานปน
ประวัติศาสตร์ ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องศาสนาชินโตมากกว่าเป็นส่ิง
ศักด์สิ ทิ ธ์ิอยา่ งแท้จรงิ
57
บท
ท่ี
4
58
บทที่ 4
คณุ ค่าของชนิ โต
การสร้างสรรค์ (Creativity) จติ วญิ ญาณของการสรา้ งสรรค์ของศาสนาช้ิน
โต ในตำนานนิยายต่างๆของศาสนาชนิ โต จะพบว่ามีตวั อย่างมากมายของบรรดาเทพ
เจ้าทั้งหลายซ่ึงแสดงอำนาจออกมาในแนวทาง กระตุ้นให้เกดิ การสร้างสรรค์เกี่ยวกบั
จติ ใจ และความสามารถทางสมองของคนญี่ปุ่น ประเทศญปี่ ุ่นเลยเปน็ ประเทศตัวอย่าง
ประเทศหนึ่งทีม่ ีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว เปลี่ยนความเป็นอยู่จากสมัยกลาง มา
เป็นความเป็นอยู่แบบทันสมัยในสมัยวิทยาศาสตร์ปัจจุบันนี้โดยการพัฒนาคุณภาพ
ลักษณะ ของการสร้างสรรคท์ ่ีเปน็ ระเบียบ และมีอิทธิพลของศาสนาชินโต คนญ่ีปุ่นไม่
เคยท้อถอยในการสร้างสิ่งใหม่ๆซึ่งแสดงให้เห็นถงึ ความสามารถ ของการยืดหยุ่นทาง
วัฒนธรรม ที่รับเอาวฒั นธรรมต่างชาติเขา้ มาปรบั ใช้ และเน่อื งจากว่าฮิโตเป็นศาสนาที่
อยใู่ นรปู แบบ เรยี บง่าย ไม่ยุ่งยาก สลับซบั ซ้อน ทำใหป้ ระชาชน ปฏบิ ัติตามกนั จน เป็น
นิสยั อย่างหนึ่งของคนญีป่ ุ่นไปแล้ว
ในขณะทปี่ ระเทศตะวนั ตกกำลังมุ่งไปสูค่ วามเจริญประเทศญี่ปุ่นเองก็กำลัง
ตกอยทู่ า่ มกลางวัฒนธรรมตา่ งๆท่ีวุน่ วายและความไมแ่ นน่ อนของวัฒนธรรมตะวันออก
อยู่ แต่ญี่ปุน่ ก็สามารถติดตามและเรยี นรูบ้ ทบาทของการสร้างสรรค์ ทางประเทศของ
ตะวนั ตก ได้อยา่ งดเี ลยทีเดียวในขณะเดียวกนั กย็ งั คงวฒั นธรรมเดมิ ของตัวเองไว้ ซ่ึงต่าง
กับประเทศตะวนั ออกอยู่อื่นๆ ที่มุ่งปดิ ประเทศและไม่ยอมรบั รู้แนวคดิ หรอื วัฒนธรรม
ของประเทศอน่ื ๆ
เราสามารถเหน็ ได้ว่าจติ วิญญาณของศาสนาชินโตเปน็ สาเหตขุ องความเจริญ
ความเติบโตและความกา้ วหนา้ ของคนญี่ปุน่ เพราะว่าศาสนาชินโตได้ให้ภาพพจน์ท่วี า่
บรรดาทุกส่งิ ทกุ อยา่ งในโลกน้ี มสี ่วนสัมพันธ์ซึ่งกันและกนั ในทง้ั สน้ิ ทัง้ ในแง่บุคคลและ
59
สว่ นรวมเม่ือทง้ั สองอยา่ งนสี้ ามารถจะปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั ได้อยา่ งราบรื่น สงบสุขและเป็น
ที่น่าพอใจก็จะทำใหเ้ กิดความสร้างสรรค์ที่ดีกว่าเก่า ดังนั้นลัทธิปัจเจกนิยมและลัทธิ
นิยมรว่ มกนั จงึ เปน็ สว่ นประกอบสำคัญของเงอื่ นไขในการเจรญิ ก้าวหนา้ ของมนุษยชาติ
ในขณะที่ทั้งสองสิงห์ ต่อสู้กันจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อผ่าน
ภาวการณ์ปรับตัวหลังจากการสู้กัน แล้ว ก็จะสามารถขจัดความขัดแย้งให้หมดส้ิน
เพ่ือใหเ้ กิด สภาพทสี่ อดคลอ้ งและกลมกลืนกันในสงั คมโดยแต่ละคนจะสามารถดำเนิน
ชวี ิตทสี่ อดคล้องกับสงั คมและ ไม่ละท้ิงรูปแบบสว่ นบคุ คลแต่อย่างใด
ศาสนาชนิ โตเนน้ หนกั ในด้านใหค้ วามสำคัญ ของจติ ใจโดยไม่จำกัดขอบเขต
มาก เป็นศาสนาท่เี ปน็ รปู แบบลทั ธิทเี่ ป็นทางการ เพราะในวิหารของศาสนาช้นิ โตนัน้ ไม่
มรี ปู ปัน้ หรือรูปภาพซง่ึ เป็นตวั แทนของพระเจา้ หรอื สวรรค์ซง่ึ หมายความว่า จิตวิญญาณ
ของศาสนาชิ้นโตไม่จำกัดขอบเขตและไม่มีสิ้นสุด เป็นการแสดงถึงความรู้ที่มีแต่การ
พัฒนาอยตู่ ลอดเวลาของคนญ่ีปนุ่
ความสามคั คเี ปน็ อนั หน่งึ อนั เดียวกันของชาติ (National Unity)
แนวความคิดของศาสนามีส่วนช่วยให้ทำ ชาติมีความสามัคคีกัน ดังนั้นจะ
เห็นความจริงทว่ี ่าศาสนาชินโตสำนกึ ในความเป็นอยูร่ ะเบยี บวนิ ยั ระหวา่ งพ่อคา้ มีหากไม่
มีระเบียบแล้ว โลกของคำน้กี เ็ สมือนโลกของสัตวร์ า้ ย บนแผ่นดินจักรพรรดซิ ่ึงเป็นผู้สืบ
เช้ือสายโดยตรงมาจากเทพีอามาเตราซุ ไดส้ ง่ พยายามปฏบิ ัติตามคุณธรรมความดี อัน
เปน็ เสน้ ทางของพระเจ้าอยา่ งเคร่งครดั
เดียวกันของชาติ ญี่ปุ่นนั้น จึงเริ่มมาจากความศรัทธาที่มีต่อเทนโน หรือ
จักรพรรดิ ผู้ส่งมอบอำนาจต่อ ให้หน่วย งานต่างๆ ของประชาชนและรัฐบาลดังน้ัน
ประชาชนจึงมีความเชื่อถือและยึดมั่นในรัฐบาลไปด้วยศาสนาชิ นโตเน้นหนักไปทาง
เอกภาพของจักรพรรดิและพระญาติของพระองค์ ผู้ซึ่งได้รับสืบทอดเจตนารมณ์ของ
พระเจ้า ดังนน้ั รฐั ธรรมนูญจงึ กำหนดไว้ว่า จกั รพรรดิเปน็ สัญลักษณ์ของชาตแิ ละ ความ
60
สามัคคขี องประชาชน ดงั น้ันแมว้ า่ แนวคดิ เก่ยี วกับอำนาจสูงสุดแหง่ ชาตจิ ะไดเ้ ปลี่ยนไป
ตาม กาลเวลาเสมอมา แตจ่ ักรพรรดิ กย็ ังคงดำรงอยู่กบั ประชาชนอยตู่ ลอดไป
แต่เป็นท่นี า่ เสียดายอย่างย่งิ เมือ่ ญี่ปุ่นไดเ้ ผชญิ กบั วิกฤตของ จักรวรรดินิยม
ทางตะวันตกในศตวรรษที่20น้ันศาสนาชินโต ได้ถูกใช้เป็น ประโยชน์อย่างง่ายดายใน
การเป็นเป้าหมายของการรวมความสามัคคีของชนชาติ ญี่ปุน่ ได้ประสบกับความสำเร็จ
ด้านลัทธิการทหารด้วยชัยชนะในสงครามจีนญี่ปุ่น ในค.ศ.1859และสงครามรุสโซ่
ญี่ปุ่น ในค.ศ.1905 พร้อมกันกับการเผยแพร่ศาสนาชินโต เพื่อเรียกรอ้ งความสามัคคี
ของชาตโิ ดยมเี ป้าหมายทางการทหารเป็นสำคัญ ต้ังแต่นนั้ เปน็ ตน้ มารัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้
ประโยชนโ์ ดยตรงจากศาสนาชินโตเพอ่ื ให้เกิดความสามัคคีในชาติซึ่งนำไปสู่จุดจบอย่าง
น่าเศรา้ โดยยอมรับ ว่าแพ้ในสงครามโลกครัง้ ที่สอง อย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อชาวต่างชาติ
ส่งผลกระทบกระเทือนต่อศาสนาชินโตอย่างมากทำใหค้ นญี่ปุน่ และคนต่างชาติ เสื่อม
ความเลื่อมใสในศาสนาชิ้นโต ปัจจุบัน คนในศาสนายงั ต้องพยายามอย่างหนักในการ
รกั ษาสถาบันนี้ให้บริสุทธิ์ในคณุ ธรรมและคุณคา่ ดั้งเดิม และยังคงตอ้ งพยายามลบอคติ
ของประชาชนที่มีต่อศาสนาชน้ิ โตในอดีตเพ่อื ความอยู่รอดของศาสนาชินโต พวกเขาจึง
ให้ความสำคัญอย่างย่ิงต่อคำสอนและศาสนาชินโตในลกั ษณะของการเป็นศาสนาหนึ่ง
ของโลก
61
บรรณานกุ รม
1. สุชีพ ปญุ ญานุภาพ. ประวัตศิ าสตร์ศาสนา. พมิ พค์ รงั้ ที่ 8. กรงุ เทพมหานคร :
มหามกฏุ ราชวิทยาลยั , 2540.
2. เสฐียร พนั ธรังสี. ศาสนาเปรยี บเทยี บ. พมิ พค์ ร้ังท่ี 8. กรงุ เทพมหานคร : สขุ ภาพ
ใจ, 2542.
3. เดอื น คำดี. ศาสนศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สำนกั พมิ พ์
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2545.
4. พระครวู ินัยธรประจกั ษ์ จกกธมโม(จำปาทอง). ศาสนาในโลกปัจจบุ ัน. พิมพ์ครงั้ ที่
2. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , 2545.
5. สมฤทธี บัวระมวล. ตำนานแหง่ ศาสนา ลัทธนิ ยิ มและความเชอ่ื ปรัมปรา.
กรงุ เทพมหานคร : คุ้มคำ สำนกั พมิ พ์, 2537.
6. เพญ็ ศรี กาญจโนมัย. ชนิ โต จิตวญิ ญาณของญปี่ ุ่น. กรุงเทพมหานคร : คณะ
สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2524.
7. A History of Japan, R.H.P. Mason and J.G. Caiger, Charles E.Tuttle
Company, Inc, Tokyo 1977, 0221-000349-4615.
62
8. Jack Xavier, (2022). “สัญลักษณช์ ินโต" ท่ีพบตามศาลเจ้าญีป่ ุ่นมคี วามหมาย
อยา่ งไร?, สบื คน้ เมื่อ 27 สิงหาคม 2565. จาก.
https://www.tsunagujapan.com/th/shinto-symbols-meaning-and-history/
9. SMM PUBLISHING, (2022). ตำนานเกา่ แกข่ องญ่ปี นุ่ , สืบคน้ เมอื่ 27 สิงหาคม
2565. จาก. https://www.smmpublishing.com/blog/blog/207
63
ลัทธิชินโตเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมให้กับญี่ปุ่นมาช้านานตั้งแต่
อดีตจนถึงปัจจุบันถึงแม้ว่าลัทธิชินโตจะได้หายสาบสูญไปแล้วบางส่วนแล้ว
ก็ตาม ถึงกระนั้นลัทธิชินโตยังสะท้อนถึงสังคมและความเชื่อพื้นฐานของชาว
ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยให้สามารถคงวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ได้
ดังนั้นลัทธิชินโตถือว่าเป็นลัทธิที่สร้างรากฐานให้คนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
SILPAKORN 641210180 นางสาวธนภรณ์ สุริยันต์
641210220 นางสาวรัตติญา รัตนพันธุ์
Silpakorn University 641210528 นางสาวฟ้า ธารธนา
Faculry of management Science 2nd year
Business Management and Languages