หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
บาหลี เลม็ เละ
รายงานฉบับน้เี ป็นส่วนหนงึ่ ของรายวชิ า วาทวทิ ยาสำหรบั ครู
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
มหาวิทยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎร์ธานี
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
บาหลี เล็มเละ
รหัสนักศกึ ษา 6401103001022
รายงานฉบบั นีเ้ ป็นส่วนหนง่ึ ของรายวชิ า วาทวทิ ยาสำหรบั ครู
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
มหาวิทยาลยั ราชภัฏสรุ าษฎร์ธานี
ก
คำนำ
รายงานเลม่ น้ี เปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวิชาวาทวทิ ยาสำหรับครู จดั ทำขึน้ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับหลัก
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริ
ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ดัง 3 ห่วง และ 2
เง่อื นไขนน้ั เอง
เนื้อหาในรายงานเล่มนี้ มีบทนำที่เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบ่งเป็นหัวข้อ
ย่อย อันประกอบด้วย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง พระราชดำริว่าด้วย
เรอ่ื งเศรษฐกิจพอเพยี ง การนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในชวี ิตประจำวนั เศรษฐกิจพอเพียงกับ
ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ การประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจพอเพยี งกบั ธุรกิจ
ทางผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้เพื่อ
ประยุกต์ใช้พัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาเข้าใจง่าย และมีเนื้อหาสาระ
ค่อนข้างมาก ทางผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ศึกษาทุกท่านจะได้รับประโยชน์ และความรู้จาก
การศึกษาจากรายงานเล่มนี้ไม่มากกน็ ้อยหากมีขอ้ บกพร่องประการใด คณะผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้
ด้วย
บาหลี เล็มเละ
3 กันยายน 2564
ข
สารบญั
เรื่อง หน้า
บทนำ……………………………………………………………………………………………………………………….......1
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง.....................................................................................................1
แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง………………………………………………………………………………….…4
พระราชดำริวา่ ด้วยเรื่องเศรษฐกิจพอเพยี ง……………………………………………………………........5
การนำปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน………………………………………………...7
เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหมต่ ามแนวพระราชดำริ………………………………………………….11
การประยุกต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพยี งกับธุรกจิ ………………………………………………………………….12
บทสรุป………………………………………………………………………………………………………………………16
บรรณานุกรม...................................................................................................................... ......17
ค
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
ภาพที่ 1 ถ่ายปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง.......................................................................................2
ภาพท่ี 2 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง.............................................................................................3
ภาพท่ี 3 ตวั อย่างการดำเนินชวี ิตตามแนวพระราชดำริพอเพยี ง..................................................4
ภาพท่ี 4 แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง.......................................................................................5
ภาพท่ี 5 ตวั อย่างพระราชดำรวิ า่ ด้วยเรอ่ื งเศรษฐกิจพอเพียง......................................................6
ภาพท่ี 6 ตวั อย่างการนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน………………………….….7
ภาพท่ี 7 ตัวอยา่ งการนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน………………………….….8
ภาพที่ 8 ตัวอย่างการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในชีวิตประจำวนั ...................................8
ภาพท่ี 9 ตัวอยา่ งกิจกรรมดา้ นเศรษฐกจิ .....................................................................................9
ภาพที่ 10 ตัวอย่างกิจกรรมตวั อย่างกจิ กรรมด้านจิตใจ………………………………………………………10
ภาพที่ 11 ตวั อยา่ งกิจกรรมดา้ นสังคม........................................................................................10
ภาพท่ี 12 ตวั อย่างปลกู ผักสวนครัวเพอื่ ลดรายจ่ายดา้ นอาหารในครอบครัว..............................13
ภาพที่ 13 ตวั อยา่ งเล้ยี งปลาในร่องสวนในนาข้าวและสระน้ำเพ่ือเป็นอาหารและรายได้เสริม....13
ภาพที่ 14 ตัวอย่างทำก๊าซชวี ภาพจากมูลสกุ รวัวเพอ่ื ใชเ้ ป็นพลังงานในครวั เรอื น........................14
1
บทนำ
"เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริ
ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิด
วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไข เพื่อให้รอดพ้น และ
สามารถดำรงอยไู่ ดอ้ ย่างมั่นคงและย่งั ยนื ภายใต้กระแสโลกาภิทวงั ตนแ์ ละความเปลยี่ นแปลงตา่ งๆ
ผู้ทรงคุณวุฒิในทางเศรษฐกิจและจากสาขาต่างๆ มาร่วมกันประมวลและกลั่นกรองพระราช
ดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในโอกาสต่างๆ สรุป
ออกมาเป็นนิยามความหมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แล้วนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา
ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้วทรงพระกรุณาปรับปรุงแก้ไขพระราชทาน และทรงพระกรุณาโปรด
เกลา้ ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาติ ตามทีข่ อพระมหากรณุ าเม่ือวนั ท่ี 29 พฤศจิกายน 2542
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ปรชั ญาช้ถี งึ แนวการดำรงอยู่และปฏิบัตติ นของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่
ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทาง
สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิทวังตน์ ความพอเพียง
หมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอ
สมควรตอ่ การมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลีย่ นแปลงทง้ั ภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต้องอาศัย
ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการตา่ งๆมาใช้ในการวางแผน
และการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์
สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ
ความ รอบคอบ เพอื่ ให้สมดลุ และพร้อมต่อการรองรับการเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้ง
ดา้ นวตั ถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี
2
ภาพที่ 1 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทม่ี า : https://www.mediathailand.org/2012/07/blog-post_25.html
ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงจึงประกอบด้วยคุณสมบัตดิ งั นี้
1.ความพอประมาณ
คอื การดำรงชีวติ ใหเ้ หมาะสม ซึ่งเราควรจะมีความพอประมาณท้งั การหารายได้ และพอประมาณในการ
ใชจ้ า่ ย ความพอประมาณในการหารายได้ คือ ทำงานหารายได้ดว้ ยช่องทางสจุ รติ ทำงานใหเ้ ต็มความสามารถ
ไมเ่ บยี ดเบียนผู้อน่ื ส่วนความพอประมาณในการใชจ้ ่าย หมายถงึ การใชจ้ ่ายให้เหมาะกบั ฐานะความเปน็ อยู่ ไม่
ใชจ้ า่ ยฟุ่มเฟอื ยหรือใช้จ่ายเกินตัว และในขณะเดยี วกัน ก็ใช้จ่ายในการดแู ลตนเอง และครอบครวั อยา่ ง
เหมาะสม ไม่อยู่อย่างลำบาก และฝดื เคืองจนเกนิ ไป
2.ความมเี หตุผล
คือ การทำธรุ กิจ หรอื การดำรงชวี ติ ประจำวนั เราจำเปน็ ตอ้ งมีการตดั สนิ ใจตลอดเวลา ซึ่งการตดั สินใจทีด่ ี
ควรต้งั อยู่บนการไตร่ตรองถึงเหตุ รวมทั้งคำนึงถึงผลทอ่ี าจตามมาจากการตัดสินใจอย่างรอบคอบ ไม่ใช่
ตัดสนิ ใจตามอารมณ์ หรือจากสงิ่ ทคี่ นอืน่ บอกมาโดยปราศจากการวิเคราะห์
3.การมีภมู คิ ุ้มกันทด่ี ี
คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง ในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งสภาพลม ฟ้า อากาศที่
ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำเกษตร การเปลี่ยนแปลงในบริษัทคู่ค้า การเลิกจ้างพนักงานในบริษัทใหญ่ หรือแม้แต่
ความไมแ่ นน่ อนของสถานการณ์ทงั้ ในและตา่ งประเทศที่มผี ลต่อการลงทนุ เราจงึ จำเป็นต้องเรียนรู้ทจ่ี ะดำรงอยู่
ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ เช่น เตรียมแผนสำรองสำหรับแต่ละ
สถานการณ์ การมีรายได้หลายทางเพื่อลดความเสี่ยงในวันที่ถูกเลิกจ้าง หรือการกระจายความเสี่ยงในการ
ลงทนุ
3
ภาพท่ี 2 ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
ท่มี า : https://sites.google.com/site/wichapars71/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-pheiyng-ma-
chi-ni-kar-darng-chiwit
การดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าใจถึงสภาพสังคมไทย
ดังนั้น เมื่อใดพระราชทานแนว พระราชดำริหรือพระบรมราโชวาทในด้านต่างๆ จะทรงคำนึงถึงวถิ ีชีวิต สภาพ
สังคมของประชาชนด้วย เพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ ความขดแย้งทางความคดิ ท่อี าจนำไปสู่ความขดั แยง้ ในทางปฏิบัตไิ ด้แนว
พระราชดำรใิ นการดำเนินชีวิตแบบพอเพยี ง
1. ยึดความประหยัดลดทอนคา่ ใช้จา่ ยในทุกดา้ นลดละความฟุ่มเฟือยในการใช้ชวี ิต
2. ยึดถอื การประกอบอาชีพด้วยความถูกต้องซื่อสัตย์สุจริต
3. ละเลิกการแกง่ แย่งผลประโยชน์และแขง่ ขนั กันในการคา้ แบบต่อสู้อยา่ งรุนแรง
4. ไม่หยุดน่งิ ทีจ่ ะหาทางหลุดพน้ จากความทุกข์ยาก ดว้ ยการขวนขวาย หาความรู้ ให้มีรายได้เพ่ิมพูนข้ึน
จนถงึ ขนั้ พอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ
5. ปฏิบัตนิ ในแนวทางทดี่ ลี ดละส่ิงท่ีชัว่ ประพฤติตนตามหลักศาสนา
4
ภาพที่ 3 ตวั อย่างการดำเนนิ ชีวติ ตามแนวพระราชดำริพอเพียง
ทม่ี า : sites.google.com
แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง
จุดเร่มิ ต้นแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพฒั นาประเทศไปสู่ความทนั สมัย ได้ก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและ
สง่ิ แวดล้อม อกี ท้ังกระบวนการของความเปล่ยี นแปลงมีความสลบั ซับซ้อนจนยากท่จี ะอธิบายในเชิงสาเหตุและ
ผลลัพธไ์ ด้ เพราะการเปลยี่ นแปลงท้ังหมดตา่ งเป็นปจั จัยเชือ่ มโยงซึง่ กนั และกัน
สำหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความ
เจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษา
อย่างทั่วถึงมากข้ึน แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท แต่ว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลง
ของสังคมได้เกิดผลลบติดตามมาด้วย เช่น การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความ
อ่อนแอในหลายด้าน ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน และการรวมกลุ่มกันตาม
ประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตกสลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสม
ปรบั เปลยี่ นกันมาถูกลมื เลือนและเรม่ิ สญู หายไป สงิ่ สำคญั ก็คอื ความพอเพียงในการดำรงชีวติ
5
ภาพท่ี 4 แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
ท่ีมา : sites.google.com
พระราชดำรวิ ่าดว้ ยเรอ่ื งเศรษฐกจิ พอเพยี ง
“...การพฒั นาประเทศจำเปน็ ต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสรา้ งพืน้ ฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของ
ประชาชนส่วนใหญเ่ บ้อื งต้นก่อน โดยใชว้ ิธกี ารและอุปกรณท์ ่ีประหยดั แตถ่ ูกต้องตามหลกั วชิ าการ เม่อื ได้
พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏบิ ตั ิได้แล้ว จงึ คอ่ ยสร้างคอ่ ยเสริมความเจรญิ และฐานะทาง
เศรษฐกิจข้นั ท่สี ูงขนึ้ โดยลำดบั ตอ่ ไป...” (18 กรกฎาคม 2517) “เศรษฐกจิ พอเพียง” เป็นแนวพระราชดำริใน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมานานกว่า 30 ปี เปน็ แนวคิดทีต่ ัง้ อยู่บนรากฐานของวัฒนธรรม
ไทย เปน็ แนวทางการพฒั นาท่ีตั้งบนพ้นื ฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ
ความมเี หตผุ ล การสรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ในตวั เอง ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพนื้ ฐานในการดำรงชีวิต ที่
สำคญั จะต้องมี “สติ ปญั ญา และความเพยี ร” ซ่ึงจะนำไปสู่ “ความสขุ ” ในการดำเนินชีวิตอยา่ งแทจ้ ริง “...คน
อืน่ จะวา่ อย่างไรก็ชา่ งเขา จะวา่ เมอื งไทยลา้ สมัย วา่ เมอื งไทยเชย ว่าเมืองไทยไมม่ ีสงิ่ ทสี่ มัยใหม่ แต่เราอยู่
พอมพี อกิน และขอให้ทกุ คนมคี วามปรารถนาทจ่ี ะให้เมืองไทย พออย่พู อกิน มีความสงบ และทำงานต้งั จติ
อธษิ ฐานตงั้ ปณิธาน ในทางนี้ทีจ่ ะให้เมืองไทยอยแู่ บบพออยู่พอกนิ ไม่ใช่วา่ จะรงุ่ เรอื งอย่างยอด แตว่ ่ามีความพอ
อยูพ่ อกิน มีความสงบ เปรยี บเทยี บกบั ประเทศอ่ืนๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินน้ีได้ เราก็จะยอดยงิ่ ยวดได้
...” (4 ธันวาคม 2517)
พระบรมราโชวาทนี้ ทรงเหน็ วา่ แนวทางการพัฒนาทเ่ี นน้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลักแต่
เพยี งอย่างเดยี วอาจจะเกดิ ปญั หาได้ จึงทรงเนน้ การมีพอกินพอใช้ของประชาชนส่วนใหญใ่ นเบ้ืองต้นก่อน เมื่อมี
พืน้ ฐานความมน่ั คงพรอ้ มพอสมควรแล้ว จึงสร้างความเจรญิ และฐานะทางเศรษฐกิจใหส้ งู ขน้ึ
ซึ่งหมายถงึ แทนท่จี ะเนน้ การขยายตวั ของภาคอุตสาหกรรมนำการพัฒนาประเทศ ควรท่ีจะสร้างความม่ันคง
ทางเศรษฐกจิ พ้ืนฐานก่อน นัน่ คอื ทำให้ประชาชนในชนบทส่วนใหญ่พอมีพอกินก่อน เปน็ แนวทางการพัฒนาที่
เน้นการกระจายรายได้ เพื่อสร้างพื้นฐานและความมั่นงคงทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ก่อนเน้นการ
พัฒนาในระดับสูงขึ้นไป ทรงเตือนเรื่องพออยู่พอกิน ตั้งแต่ปี 2517 คือ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แต่ทิศทางการ
พฒั นามิได้เปล่ยี นแปลง
6
“...เมื่อปี 2517 วันนั้นได้พูดถึงว่า เราควรปฏิบัติให้พอมีพอกิน พอมีพอกินนี้ก็แปลว่า เศรษฐกิจพอเพียง
นั่นเอง ถ้าแต่ละคนมีพอมีพอกิน ก็ใช้ได้ ยิ่งถ้าทั้งประเทศพอมีพอกินก็ยิ่งดี และประเทศไทยเวลานั้นก็เริ่มจะ
เป็นไม่พอมพี อกนิ บางคนก็มีมาก บางคนกไ็ ม่มเี ลย...” (4 ธันวาคม 2541)
" เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่
ระดับครอบครวั ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ ำเนนิ ไปใน ทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิทวังตน์ ความพอเพียง หมายถึงความ
พอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็น ที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวดีพอสมควรต่อการมี
ผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยน แปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความ
รอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุก
ขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหนา้ ที่ของรัฐ นักทฤษฎี
และนกั ธุรกจิ ในทกุ ระดบั ใหม้ สี ำนกึ ในคุณธรรม ความซ่อื สัตยส์ ุจริต และใหม้ ีความรอบร้ทู ีเ่ หมาะสม ดำเนินชีวติ
ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบเพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการ
เปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ และกว้างขวางท้งั ดา้ นวัตถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็น
อยา่ งดี ”
ภาพที่ 5 ตวั อย่างพระราชดำริว่าด้วยเร่ืองเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ที่มา : sites.google.com
7
การนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั
การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้นั้น ขั้นแรก ต้องยึดหลัก "พึ่งตนเอง" คือ พยายามพึ่งตนเองให้ได้ก่อน
ในแตล่ ะครอบครวั มกี ารบรหิ ารจดั การอย่างพอดี ประหยัดไม่ฟมุ่ เฟือย สมาชิกในครอบครวั แต่ละคนต้องรู้จัก
ตนเอง เช่น ข้อมูล รายรับ-รายจา่ ย ในครอบครัวของตนเอง สามารถรักษาระดับการใช้จา่ ยของตน ไม่ให้
เป็นหนี้ และรจู้ ักดงึ ศกั ยภาพในตวั เองในเรอื่ งของปจั จยั ส่ีใหไ้ ด้ในระดับหนึ่ง
การพัฒนาตนเองให้สามารถ "อยู่ได้อย่างพอเพยี ง" คือ ดำเนินชีวติ โดยยึด หลักทางสายกลางใหอ้ ยู่ได้อย่าง
สมดุล คือ มีความสุขที่แท้ ไม่ให้รู้สึกขาดแคลน จนต้องเบียดเบียนตนเอง หรือดำเนินชีวิตอย่างเกิน
พอดี จนตอ้ งเบยี ดเบียนผอู้ ่ืน หรอื เบยี ดเบยี นสง่ิ แวดลอ้ ม โดย
- ยึดหลัก พออยู่ พอกนิ พอใช้
- ยึดความประหยดั ตัดทอนคา่ ใชจ้ า่ ย ลดความฟุ่มเฟือยในการดำรงชีพ
- ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถูกต้องและสจุ ริต
- ละเลิกการแก่งแยง่ ผลประโยชน์และแข่งขนั ในการค้าขาย
- มุง่ เน้นหาข้าวหาปลา กอ่ นมุ่งเนน้ หาเงินหาทอง
- ทำมาหากนิ ก่อนทำมาค้าขาย
- ภมู ิปัญญาชาวบ้านและที่ดินทำกิน คือ ทุนทางสังคม
- ตั้งสตทิ ม่ี ่นั คง ร่างกายที่แข็งแรง ปญั ญาทเ่ี ฉียบแหลม นำความรู้ ความเข้าใจอยา่ งลกึ ซึง้ เพื่อปรับวิถีชีวติ
ส่กู ารพัฒนาท่ยี ั่งยนื
ภาพท่ี 6 ตัวอยา่ งการนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในชีวติ ประจำวนั
ทม่ี า : https://sites.google.com/site/wichapars71/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-pheiyng-ma-
chi-ni-kar-darng-chiwit
8
ภาพท่ี 7 ตัวอยา่ งการนำปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในชวี ิตประจำวนั
ท่ีมา : https://sites.google.com/site/wichapars71/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-pheiyng-ma-
chi-ni-kar-darng-chiwit
ภาพท่ี 8 ตวั อย่างการนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ทม่ี า : https://sites.google.com/site/wichapars71/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-pheiyng-ma-
chi-ni-kar-darng-chiwit
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นเร่ืองที่สอนให้เราพึ่งตนเอง ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น คือสอนในด้าน
ของทางสายกลาง โดยให้เรามีความพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อมากจนเกินไป รู้จักใช้ของอย่างประหยัดและจำเป็น
ก่อนจะใชอ้ ะไรต้องมเี หตุผล พจิ ารณาให้รอบคอบกอ่ น สอนใหเ้ ราเตรยี มรับมือกบั เหตุการณ์ทจี่ ะเกดิ ขึ้นเสมอๆ
9
ใหเ้ ราร้จู ักวางแผนชีวิตอย่างมีระบบระเบียบไม่ย่งุ เหยงิ และให้เรามีความซ่ือสตั ย์ สามคั คี และช่วยเหลือกันใน
ยามลำบาก จะเห็นได้ว่าหากเราทำตามเศรษฐกิจพอเพียงนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายเลย ทั้งต่อตัวเอง
และสังคม ดังนั้นเราปวงชนชาวไทยจะไม่สามารถมีโครงการที่ดีๆแบบนี้เกิดขึ้นได้แน่นอน ถ้าหากเราไม่มี
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระผ้ทุ รงเป้นทัง้ กษตั ริย์ นักปราชญ์ และพ่อหลวงของแผน่ ดินไทย
การนำไปปรับใช้ในชีวติ ประจำวัน แบ่งเปน็ 4 ด้าน ดังนี้
1.ด้านเศรษฐกิจ ไม่ใชจ้ ่ายเกินตวั ไมล่ งทนุ เกนิ ขนาด คดิ และวางแผนอยา่ งรอบคอบ มีภูมิค้มุ กนั ไม่
เส่ียงเกินไป เชน่ ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพอ่ื ท่ีจะจดั การการใชจ้ ่ายเงินได้อย่างเปน็ ระบบ
ภาพที่ 9 ตวั อย่างกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ
ที่มา : http://donwaicopy.com/upload/sendfile/29-08-15-14-30-10s.pdf
2.ด้านจิตใจ มีจิตใจเข้มแข็ง มีจิตสํานึกที่ดี เอื้ออาทร เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ประโยชน์
สว่ นตัวด้านสังคมและวัฒนธรรม ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กัน ร้รู กั สามคั คี สร้างความเข้มแข็งใหค้ รอบครัว และชุมชน
รักษาเอกลกั ษณ์ ภาษา ภมู ิปญั ญา และวฒั นธรรมไทย
3.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ ฟื้นฟู
ทรพั ยากรเพ่ือให้เกดิ ความยงั่ ยืนและคงอยู่ ชัว่ ลกู หลาน เชน่ การใชน้ ำ้ อย่างประหยดั ปดิ ไฟเมอื่ ไมใ่ ช้งาน ขนึ้ ลง
ชนั้ เดียวใชบ้ ันไดแทนลิฟท์
10
ภาพที่ 10 ตวั อยา่ งกิจกรรมตัวอยา่ งกจิ กรรมดา้ นจิตใจ
ท่ีมา : http://donwaicopy.com/upload/sendfile/29-08-15-14-30-10s.pdf
4.ดา้ นเทคโนโลยี รู้จกั ใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสม สอดคลอ้ งกับความต้องการและสภาพแวดลอ้ ม พฒั นา
เทคโนโลยจี ากภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น
5.ด้านสงั คม ช่วยเหลือ เกอ้ื กูลกนั รู้รกั สามัคคี สรา้ งความ เขม้ แข็งใหค้ รอบครัวและชมุ ชน
ภาพที่ 11 ตวั อย่างกิจกรรมด้านสงั คม
ทมี่ า : http://donwaicopy.com/upload/sendfile/29-08-15-14-30-10s.pdf
11
การน้อมนําปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจัง จะ
ส่งผลให้การพัฒนาประเทศก้าวหน้าไป อย่างสมดุล มั่นคง และยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทกุ ด้าน
ทั้งด้านชีวิต เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี อันจะนําไปสู่ “ความอยู่เย็นเป็นสุข
รว่ มกนั ในสังคมไทย”
เศรษฐกจิ พอเพียงกับทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ
เศรษฐกิจพอเพยี งและแนวทางปฏิบตั ขิ องทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางในการพฒั นาทีน่ ำไปสู่ความสามารถใน
การพ่งึ ตนเอง ในระดบั ต่างๆ อยา่ งเป็นข้ันตอน โดยลดความเสย่ี งเกย่ี วกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการ
เปลยี่ นแปลงจากปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยความพอประมาณและความมีเหตผุ ล การสร้างภูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี มีความรู้
ความเพยี รและความอดทน สตแิ ละปญั ญา การช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกันและความสามัคคี
เศรษฐกจิ พอเพียงมีความหมายกวา้ งกว่าทฤษฎีใหม่ โดยทีเ่ ศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ กรอบแนวคิดท่ีชบี้ อก
หลักการและแนวทางปฏิบัติของทฤษฎใี หม่ ในขณะท่ี แนวพระราชดำรเิ กยี่ วกบั ทฤษฎีใหมห่ รือเกษตรทฤษฎี
ใหม่ ซง่ึ เป็นแนวทางการพฒั นาภาคเกษตรอยา่ งเป็นขั้นตอนนนั้ เปน็ ตัวอยา่ งการ ใชห้ ลักเศรษฐกิจพอเพยี ง
ในทางปฏบิ ัติ ทเี่ ปน็ รูปธรรมเฉพาะในพน้ื ที่ทีเ่ หมาะสม
ทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดำริ อาจเปรยี บเทียบกับหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ซง่ึ มีอยู่ 2 แบบ คอื แบบ
พ้นื ฐานกับแบบกา้ วหน้า ได้ดังน้ี
ความพอเพยี งในระดับบุคคลและครอบครัวโดยเฉพาะเกษตรกร เปน็ เศรษฐกจิ พอเพยี งแบบพ้ืนฐาน เทียบได้
กับทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 1 ที่มุ่งแก้ปัญหาของเกษตรกร ที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ ต้องพึ่งน้ำฝนและประสบความเสี่ยง
จากการทนี่ ้ำไม่พอเพียง แม้กระท่ังสำหรับการปลูกข้าวเพ่ือบริโภค และมีข้อสมมติว่า ทีท่ ด่ี นิ พอเพียงในการขุด
บอ่ เพอื่ แก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว จากการแกป้ ัญหาความเสยี่ งเร่ืองน้ำจะทำใหเ้ กษตรกรสามารถมีข้าวเพ่ือการ
บริโภคยังชีพในระดับหนึ่งได้ และใช้ที่ดินส่วนอื่นๆ สนองความต้องการพื้นฐานของครอบครัว รวมทั้งขายใน
ส่วนที่เหลือเพื่อมีรายได้ที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่สามารถผลิตเองได้ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันใน
ตวั ให้เกดิ ขึน้ ในระดับครอบครวั
อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่ง ในทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 1 ก็จำเป็นที่เกษตรกรจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากชุมชน
ราชการ มลู นธิ ิ และภาคเอกชน ตามความเหมาะสม
ความพอเพียงในระดับชุมชนและระดับองค์กรเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหนา้ ซึ่งครอบคลุมทฤษฎใี หม่
ขั้นที่ 2 เป็นเรื่องของการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ หรือการที่ธุรกิจต่างๆ
รวมตวั กนั ในลักษณะเครอื ขา่ ยวิสาหกจิ
กล่าวคือ เมือ่ สมาชกิ ในแต่ละครอบครวั หรือองค์กรต่างๆ มีความพอเพยี งขน้ั พน้ื ฐานเป็นเบอ้ื งต้นแล้วกจ็ ะ
รวมกล่มุ กนั เพ่ือสร้างประโยชนใ์ ห้แก่กลุ่มและส่วนรวมบนพ้ืนฐานของการไม่เบียดเบยี นกัน การแบง่ ปนั
ชว่ ยเหลือซง่ึ กันและกนั ตามกำลงั และความสามารถของตนซงึ่ จะสามารถทำให้ ชุมชนโดยรวมหรือเครือข่าย
วสิ าหกจิ นั้นๆ เกดิ ความพอเพียงในวิถปี ฏิบัติอย่างแทจ้ รงิ
12
ความพอเพียงในระดบั ประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหนา้ ซ่งึ ครอบคลุมทฤษฎใี หม่ข้นั ที่ ๓ ซ่งึ
สง่ เสริมให้ชมุ ชนหรอื เครือข่าววสิ าหกจิ สรา้ งความรว่ มมือกับองค์กรอืน่ ๆ ในประเทศ เช่น บริษทั ขนาดใหญ่
ธนาคาร สถาบันวจิ ัย เป็นต้น
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในลักษณะเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ในการสืบทอดภูมิปัญญา แลกเปลี่ยน
ความรู้ เทคโนโลยี และบทเรียนจากการพัฒนา หรือร่วมมือกันพัฒนา ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงทำให้
ประเทศอันเป็นสังคมใหญ่อันประกอบด้วยชุมชน องค์กร และธุรกิจต่างๆ ที่ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง
กลายเป็นเครือข่ายชุมชนพอเพียงท่ีเชื่อมโยงกันดว้ ยหลกั ไม่เบียดเบยี น แบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
ในทีส่ ดุ
การประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงกับธรุ กจิ
ธุรกิจพอเพียง หมายถึง การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความมั่นคงและยั่งยืนมากกว่าการแสวงหาผลประโยชน์
ในระยะสน้ั ดังนัน้ จงึ ตอ้ งมีความรอบร้ใู นธุรกิจทตี่ นดำเนินการอยูแ่ ละศึกษาข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้
สามารถก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มีความรอบคอบในการตัดสินใจแต่ละครั้งเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
ต่างๆไม่ให้เกิดขึ้น และต้องมีคุณธรรม คือมีความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบอาชีพ ไม่ผลิตหรือขายสินค้าท่ี
ก่อให้เกิดโทษหรือสร้างปัญหาให้กับคนในสังคมและสิ่งแวดล้อม มีความขยันหมั่นเพียร อดทนในการพัฒนา
ธุรกิจไม่ให้มีความบกพร่องและก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตการปรับปรุง
สินค้าและคุณภาพ ให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ๆ และใน
ขณะเดียวกันต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และระบบนิเวศวิทยาทุกขั้นตอน ในการดำเนินธุรกิจโดยการ
รักษาสมดุลในการแบ่งผลประโยชน์ของธุรกิจในระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆอย่างสมเหตุสม ผลตั้งแต่
ผบู้ รโิ ภค พนักงาน บรษิ ัทคคู่ า้ ผู้ ถอื หุน้ และสังคมวงกว้าง รวมถงึ ส่ิงแวดลอ้ ม
การประกอบอาชพี แบบเศรษฐกจิ พอเพียง
การดำเนินชีวิตในลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการประกอบอาชีพตามทรัพยากรที่มีอยู่ โดยอาศัย
ความรู้ ความสามารถ เพื่อให้เกิดความพอเพียงในลักษณะพออยู่พอกิน ก่อให้เกิดความสุขสบายภายใน
ครอบครวั หากเหลอื จากการดำรงชีพสามารถนำไปขายเพอ่ื เป็นรายได้ และออมเงนิ เปน็ ทนุ ต่อไป การประกอบ
อาชพี แบบเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถทำได้ดังนี้
1. ทำไรท่ ำนาสวนผสมผสานเพอื่ เปน็ จุดเร่ิมต้นเศรษฐกิจพอเพยี ง
2. ปลกู ผักสวนครัวเพ่ือลดรายจ่ายด้านอาหารในครอบครวั
3. ใชป้ ุย๋ คอกและปยุ๋ หมักใช้รว่ มกบั ปุ๋ยเคมเี พ่ือลดรายจา่ ยและช่วยปรับปรงุ บำรุงดิน
4. เพราะปลูกเหด็ ฟางจากฟางขา้ วและเศษวัสดเุ หลอื ใช้ในไรน่ า
5. ปลกู ผลไม้ในสวนหลงั บ้านและปลกู ต้นไมใ้ ช้สอย
6. ปลกู พชื สมนุ ไพรชว่ ยเสรมิ สุขภาพอนามัย
13
7. เลีย้ งปลาในร่องสวนในนาข้าวและสระน้ำเพื่อเป็นอาหารและรายไดเ้ สริม
8. เล้ียงไกพ่ น้ื เมอื งและไก่ไขเ่ พอ่ื เป็นอาหารโปรตนี และรายได้เสริมโดยใช้ขา้ วเปลือกรำปลายขา้ วจาก
การทำนาขา้ วโพดเลย้ี งสัตว์จากการปลูกพชื ไร่พืชผกั จากการปลูกในสวน
9. ทำก๊าซชวี ภาพจากมูลสกุ รววั เพ่อื ใชเ้ ปน็ พลงั งานในครวั เรอื น
10. ทำสารสกัดชวี ภาพจากเศษพืชผักผลไม้และพืชสมุนไพรทใ่ี ช้ในไรน่ า
ภาพที่ 12 ตวั อยา่ งปลกู ผกั สวนครัวเพ่ือลดรายจา่ ยด้านอาหารในครอบครวั
ทีม่ า : caiba.org
ภาพท่ี 13 ตัวอยา่ งเลี้ยงปลาในรอ่ งสวนในนาขา้ วและสระน้ำเพื่อเป็นอาหารและรายไดเ้ สรมิ
ท่ีมา : technologychaoban.com
14
ภาพที่ 14 ตัวอยา่ งทำกา๊ ซชวี ภาพจากมูลสุกรววั เพื่อใชเ้ ปน็ พลงั งานในครวั เรอื น
ท่มี า : zoo-za.com
สำหรับการดำเนนิ ชวี ติ ในระบบเศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำรสิ ามารถแบ่งได้เป็น 2 ระดบั ดว้ ยกัน
1.เศรษฐกิจพอเพยี งระดับบคุ คลท่วั ไป
2. เศรษฐกิจพอเพียงระดบั เกษตรกร
เศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคล เป็นความสามารถในการดำรงชีวิตอย่างไม่เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่าง
พอประมาณตนตามฐานะ ตามอัตภาพและที่สำคัญไม่หลงไหลตามกระแสวัตถุนิยม มีอิสระภาพในการ
ประกอบอาชีพเดินทางสายกลาง ทำกิจกรรมท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง และสามารถพึง่ พาตนเองได้
เศรษฐกิจพอเพียงระดับเกษตรกร เป็นเศรษฐกิจเพื่อการเกษตรที่เน้นการพึ่งพาตนเอง เกษตรกรจะใช้
ความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการที่ดินโดยเฉพาะแหล่งน้ำ และกิจกรรมการเกษตรได้อย่างเหมาะสม
สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และความต้องการของเกษตรกรเอง ด้วยการนำเรื่องทฤษฎีใหม่ขั้นที่หนึ่ง : ฐานการ
ผลติ ความพอเพียง มาใชใ้ นไร่นาของตนเอง โดยเร่มิ จากการผลิต จะต้องทำในลักษณะพ่งึ พาอาศยั ทรัพยากรใน
ไร่นาและทรัพยากรธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ ให้มีความหลากหลายของกิจกรรมการเกษตรในไร่นา มีกิจกรรม
เกื้อกูลกัน กิจกรรมเสริมรายได้ ใช้แรงงานในครอบครัวทำงานอย่างเต็มที่ลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนการ
ผสมผสานกจิ กรรมการปลกู พชื เล้ยี งสตั ว์ และประมง ในไร่นาใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด
ความหลากหลายของกจิ กรรมการเกษตรในไรน่ า
ไดแ้ ก่ การทำกจิ กรรมหลายชนดิ ในพ้นื ท่ีเดยี วกัน เชน่
-ข้าว : พืชอาหารหลกั ของคนไทย สำหรับบรโิ ภคในครอบครวั
-สระนำ้ : แหลง่ น้ำในไร่นาและเลียงสัตวน์ ำ้
-พืชผัก : ใช้บรโิ ภคในครวั เรอื น ช่วยลดรายจา่ ยประจำวนั
-พชื สมุนไพร : เปน็ อาหารและยาพน้ื บ้าน
-ไม้ยนื ตน้ และไม้ใช้สอย : ใช้เป็นไม้ฟืน ทำโรงเรือนและเคร่ืองจักสาน
-เล้ียงสัตว์ : แหลง่ อาหารโปรตนี และเสริมรายได้
15
-ไม้ดอกไมป้ ระดับ : เพ่อื ความสวยงาม พกั ผ่อนจิตใจและเสรมิ รายได้
-ป๋ยุ หมัก : บำรงุ ดนิ รกั ษาสมดุลธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
กิจกรรมเกือ้ กูลซง่ึ กนั และกัน
-การเลย้ี งปลาในนาขา้ ว
-ผลผลติ จากข้าวเป็นอาหารปลา
-ปลากินแมลงเป็นศัตรขู า้ ว
-มูลปลาเป็นปุย๋ ตน้ ขา้ ว
-การปลูกผักกับการเล้ยี งไก่
-ไกก่ ินเศษพชื ผัก
-มูลไก่เป็นปยุ๋ สำหรบพืชผัก
-การใช้ทรัพยากรในไร่นา
-มูลสัตวเ์ ปน็ ปยุ๋ คอก
-เศษหญา้ ใบไมท้ ำปุย๋ หมัก
-เศษพชื ผักเป็นอาหารปลา
-ฟางข้าว ใชเ้ พาะเหด็ ทำปุ๋ยหมกั คลมุ ดิน อาหารสตั ว์
16
บทสรปุ
จากการศกึ ษาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง คอื เศรษฐกจิ พอเพียงเป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า
30 ปี เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับ
ชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนา
เศรษฐกิจ เพ่ือให้ก้าวทนั ต่อโลกยุคโลกาภทิ วังตน์
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ คือ การยึดหลักทางสายกลางและความไม่
ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนการใช้ความรู้ด้วย
ความรอบคอบ ระมัดระวงั และมคี ณุ ธรรมเปน็ พื้นฐานในการตดั สินใจและการกระทำ
เรานำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันำไม่ว่าจะเป็น ทำไร่ทำนาสวนผสมผสาน
ปลูกผักสวนครัว ใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อลดรายจ่าย ปลูกพืชสมุนไพรช่วยเสริมสุขภาพ
อนามยั ทัง้ นี้เปน็ การลดรายจา่ ยและเพื่อรายไดใ้ ห้กบั ครอบครัวอีกดว้ ย
17
บรรณานกุ รม
เกษม วัฒนชยั . (2550). ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง. สืบคน้ เม่ือ 3 กนั ยายน 2564,
จาก
http://www.rdpb.go.th/th/Sufficiency/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8
%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%
E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9
%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E
0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-c32
ดร.สุเมธ ตันตเิ วชกุล. (2555). ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง. สืบคน้ เมอื่ 3 กันยายน 2564,
จาก https://www.mediathailand.org/2012/07/blog-post_25.html
พรรณรส ทองวไิ ลไพสฐิ . (2557). การนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นชีวติ ประจำวัน. สบื คน้ เม่ือ 3
กนั ยายน 2564,
จาก https://sites.google.com/site/phannarose642/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-
pheiyng-ma-chi-ni-chiwit-praca-wan
ประจกั ษ์ ช่อผกา. (2006). การประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงกบั ธุรกิจ. สบื คน้ เมือ่ 3 กนั ยายน 2564,
จาก https://www.gotoknow.org/posts/16812
วชิ าภา ไตรรฐั . (2559). การนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในชีวติ ประจำวนั . สืบคน้ เม่อื 4 กันยายน
2564,
จาก https://sites.google.com/site/wichapars71/karna-hlak-prachya-sersthkic-phx-
pheiyng-ma-chi-ni-kar-darng-chiwit
สุนิสา พ้นความทุกข์. (2564). จดุ เรมิ่ ตน้ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง. สบื คน้ เมื่อ 5 กนั ยายน 2564,
จาก https://sites.google.com/site/mindmoy12090/cud-rim-Tn-tawhid-erethic-pox-
preying