บทที่ ๑ จากผาแต้มสู่อียิปต์ ภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ บทนี้ชวนยิ้มแย้ม จากผาแต้มสู่อียิปต์ แปลกใจไกลกันลิบ ต่างทวีปไยคล้ายกัน เห็นปัญหารู้ทางแก้ เลขไทยแท้จ าให้มั่น พยางค์ค าเรื่องส าคัญ รู้พลิกผันตัดสินใจ
“เอื้องจ๋า เอื้อง เอื้องอยู่ไหนจ๊ะ” อินเรียกหาน้องสาว เสียงลั่นบ้าน ด้วยความดีใจ “พี่อินเป็นอะไร เรียกเอื้องเสียงดังเชียว มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เอื้องหันมาดู พี่ชายตามเสียงเรียก “วันนี้วันดีเป็นศรีวัน มีข่าวดีข่าวส าคัญจะมาบอก” อินร้องเป็นเพลง กระโดดไปเต้นไปเข้ามาหาน้องสาว “ข่าวดีอะไรเอ่ย ต้องเป็นข่าวดีมาก ๆ จนท าให้พี่อินร้องเป็นเพลง อย่างนี้” เอื้องถาม จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
“คือว่าปิดเทอมนี้ เราจะได้ไปเที่ยวไกล ๆ ไปถึงอีสานโน่นแน่ะ” อินบอก น้อง “ไชโย! ดีใจจังเลย” แล้วเอื้องก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นตามพี่อินบ้าง “ไปที่ไหน ไปเมื่อไร ไปกับใคร ไปท าอะไร” เอื้องรัวค าถามจนอินตอบไม่ทัน “ช้า ๆ หน่อยน้อง ตั้งใจฟังให้ดีนะ คุณพ่อคุณแม่จะพาเราไปทอดกฐินที่ อุบล แล้วจะพาเราไปเที่ยวแถว ๆ นั้นด้วย” อินตอบ “เอื้องอยากให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ จังเลย” เอื้องบอกอินด้วยใบหน้า ที่ยิ้มแย้มจนแก้มแทบปริ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
เทศกาลทอดกฐิน หรือฤดูกฐินเริ่มต้นหลังจากออกพรรษาซึ่งในปีนี้ตรง กับช่วงปิดเรียนภาคต้น ก่อนเปิดเรียนภาคปลายเพียงเล็กน้อย พ่อแม่ของอินและเอื้องจึงตกลงกันว่าจะพาลูก ๆ ไปทอดกฐินที่จังหวัด อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ เด็ก ๆ จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนญาติ ทางแม่ด้วย ส่วนพ่อเป็นชาวเหนือก็คิดจะไปเที่ยวทางอีสานบ้าง หลังจากท าพิธี ถวายผ้ากฐินเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวชมธรรมชาติ และสถานที่ส าคัญ ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
แม่จึงปรึกษากับพ่อว่าจะไปเที่ยวที่อ าเภอโขงเจียม เพราะที่นั่นมีที่ชม ธรรมชาติอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ส าคัญทาง ประวัติศาสตร์อีกด้วย นั่นคือ ผาแต้ม อินและเอื้องยังไม่เคยไปเที่ยวที่ผาแต้มเลย ตื่นเต้นมาก แม่จะเป็นผู้น า เที่ยวเพราะช านาญทางดี ส่วนพ่อรับอาสาเป็นผู้ขับรถพาไปตามที่แม่วางแผน อินถามแม่ด้วยความสงสัยว่า “ท าไมเขาจึงเรียกว่าผาแต้มล่ะครับ” “ก็เพราะว่าที่หน้าผามีภาพเขียนเหมือนใครมาแต้มสีเป็นภาพไว้ อายุราว ๓,๐๐๐ ปีมาแล้ว เป็นภาพสีที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย” จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
แม่อธิบายให้อินและเอื้องฟัง พ่อเสริมว่า “พ่อเคยอ่านจากหนังสือท่องเที่ยว เขาบอกว่าภาพที่ว่านี้วาดต่อ ๆ กันเป็นร้อย ๆ ภาพเชียวนะ” อินถามต่ออีกว่า “แล้วใครเป็นคนวาดล่ะครับ” “ก็คนสมัยนั้นน่ะซี” พ่อตอบ “แหม! เอื้องอยากไปเห็นจังเลย เราจะไปกันเมื่อไรคะ” เอื้องรีบถามแม่ “หลังจากทอดกฐินเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้นเราจะไปกันเลยดีไหมจ๊ะพ่อ” แม่หันไปปรึกษาพ่อ “ก็ดีเหมือนกันนะ” พ่อพยักหน้าตอบ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
หลังจากท าพิธีถวายผ้ากฐินที่วัดในตัวจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ทุกคนเบิกบาน ใจด้วยอิ่มบุญ เด็ก ๆ รอคอยเวลาที่จะไปเที่ยวตามที่พ่อและแม่ตกลงกันไว้ วันรุ่งขึ้นพ่อและแม่พาอินและเอื้องออกเดินทางจากบ้านยายแต่เช้ามืด เพื่อ ไปถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติผาแต้มให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ทุกคนมายืนที่จุดชม ทิวทัศน์บนลานผาแต้ม ซึ่งเป็นลานหินขนาดใหญ่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามล าน ้า โขง มองเห็นป่าไม้ และเทือกเขาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ไกลลิบ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
พระอาทิตย์สีแดงกลมโตค่อย ๆ โผล่พ้นสันเขาที่ทอดยาวทะมึนในม่าน หมอกสีขาวหม่น ณ เบื้องล่างมองเห็นแม่น ้าโขงเป็นประกายวิบวับ เมื่อแสงทองมา กระทบกระแสน ้าพริ้วเป็นระลอกราวกับมีมือมาโบกพัดอย่างแผ่วเบา สายลมพัด ระเรื่อยผ่านผิวกายเย็นชื่นใจ “โอ้โฮ! สวยเหลือเกิน” เอื้องร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น “โน่น! ดูโน่นสิ มองเห็นแม่น ้าโขงยาวสุดลูกหูลูกตาเชียว” อินร้องอุทยานบ้าง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
“อิน เอื้องเห็นภูเขาโน่นไหม นั่นแหละประเทศลาวไงล่ะ” แม่ชี้ให้อินและเอื้อง ดู ส่วนพ่อสุขใจกับการเป็นช่างภาพที่เข้มแข็ง อย่างไม่รู้เบื่อ จัดท่าทางให้แม่และลูก ถ่ายภาพตรงนั้นตรงนี้ โดยมีธรรมชาติอันงดงามจับตาเป็นฉากหลัง หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นจนเป็นที่พอใจแล้ว ทุกคนก็ลงมาจากลานหิน กว้าง เดินไปตามสะพานที่เลาะเลียบใต้เพิงผา เพื่อชมภาพเขียนสีแดงคล ้าเหมือนสี น ้าหมาก ซึ่งมีมากกว่า ๓๐๐ ภาพ “พี่อินโน่นภาพช้างกับลูกช้าง” เอื้องชี้ให้อินแหงนดู “นั่นภาพปลาบึกยักษ์ขนาดใหญ่ เห็นไหมลูก” แม่ถามพลางชี้มือไปทีละภาพ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
“โอ้โฮ! ยังมีภาพสัตว์อีกเยอะแยะเชียว” อินกวาดสายตามองไปรอบ ๆ “นี่แหละ เป็นภาพที่คนสมัยโบราณก่อนประวัติศาสตร์เขาบันทึกให้เห็น วิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของพวกเขาในสมัยก่อน” พ่ออธิบายเสริม แม่บอกว่า “คนสมัยก่อนยังไม่มีตัวอักษรใช้ จึงสื่อให้เรารู้ด้วยรูปภาพแทน การเขียนเป็นตัวอักษร แล้ววาดลงบนแผ่นหินนี่แหละจ้ะ” “ดีจังเลย มาเที่ยวคราวนี้ได้ความรู้เยอะแยะ เปิดภาคเรียนนี้ อินจะไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังในชั่วโมงฝึกพูด” อินพูดด้วยความภูมิใจ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
“เอื้องจ าได้ว่า ไทยเรามีตัวหนังสือใช้ในสมัยพ่อขุนรามค าแหงมหาราช ใช่ไหมคะ” เอื้องถามพ่อ “ใช่จ้ะ พ่อขุนรามค าแหงมหาราชทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยให้พวกเราได้ ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้แหละ” พ่อตอบ “แล้วพระองค์ก็โปรดให้มีการจารึกเรื่องราวต่าง ๆ เป็นตัวอักษรไว้บนศิลา จารึกด้วย” แม่เสริม เปิดภาคเรียนอินได้เล่าเรื่องความมหัศจรรย์ของผาแต้มให้เพื่อน ๆ ฟังพร้อมน ารูปถ่ายให้เพื่อนดู เพื่อนหลายคนอยากไปบ้าง จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
ณภัทรก็มีเรื่องท านองเดียวกันกับอินมาเล่าบ้าง เป็นความมหัศจรรย์ของ ประเทศอียิปต์ ซึ่งณภัทรได้ไปเที่ยวตอนปิดภาคเรียนที่ผ่านมาเช่นกัน ณภัทรบอกเพื่อนว่า เมื่อเอ่ยถึงประเทศอียิปต์ทุกคนต้องนึกถึงพีระมิดกระดาษ ปาปิรุส แมลงสคารับ ณภัทรเล่าว่า ได้ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ที่ประทับใจมากที่สุด คือหมู่พีระมิดแห่งกิซา ซึ่งพีระมิดคูฟูหรือมหาพีระมิดแห่งกิซา เป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งเมืองนี้ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
นักโบราณคดีจัดให้เป็น ๑ ใน ๗ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคโบราณ พีระมิดก่อสร้างเป็นรูปกรวยเหลี่ยมส าหรับเป็นที่เก็บ พระศพของฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์โบราณ ใช้เวลาก่อสร้างนานนับ ๑๐ ปีทีเดียว ณภัทรเล่าต่ออีกว่า ที่อียิปต์มีการวาดภาพไว้ตามผนังบ้าง เสาบ้าง เป็น ภาพเกี่ยวกับสัตว์และของใช้ต่าง ๆ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนสมัยนั้น คงคล้ายกับ ที่ผาแต้มของเรา อียิปต์เป็นชาติที่คิดค้นการสื่อความหมายจากภาพมาเป็น ตัวอักษรประมาณ ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว ทุกชาติทุกภาษายอมรับว่า อักษรอียิปต์ โบราณนั้นเก่าแก่ที่สุดในโลก เห็นได้จากตัวอักษรที่เขียนไว้ตามผนังและ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
...กระดาษปาปิรุส ส่วนไทยเรานั้นก็มีอักษรไทยใช้สืบเนื่องจาก การจารึกไว้บนศิลาในสมัยสุโขทัย “อักษรไทยมีใช้มาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามค าแหง ที่ทรงคิดค้นประดิษฐ์ขึ้น ให้เราใช้ไง จ าได้ไหม” อินขอเสริมบ้าง “แล้วกระดาษปาปิรุสล่ะเป็นยังไง คล้ายกระดาษสาของภาคเหนือเราหรือ เปล่า” อินถามอย่างสงสัย “ก็คล้าย ๆ กันนะ กระดาษปาปิรุสท าจากต้นกกอียิปต์ แต่กระดาษสาท าจากต้นกระสา” ณภัทรอธิบาย จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
“ชาวอียิปต์เขาเขียนภาพหรือตัวอักษรบนกระดาษปาปิรุส เพราะสามารถ ซึมซับน ้าสีและน ้าหมึกทุกประเภทได้ดี” ณภัทรพูดพร้อมกับคลี่กระดาษปาปิรุส ที่ซื้อมาให้เพื่อน ๆ ดู อินยกมือขอเสริมบ้าง “กระดาษสาของเรา เขาน าไปท าร่มท ากระดาษห่อ ของขวัญ รวมทั้งท าบัตรอวยพรด้วย” “ภาพแมลงที่เห็นนี้คือ แมลงสคารับ” ณภัทรชี้ให้เพื่อนดู “หน้าตาเหมือนแมลงกุดจี่ของบ้านเราเลย” อินบอก “ใช่ สคารับเป็นแมลงจ าพวกด้วง เหมือนแมลงกุดจี่นั่นแหละ” จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
ณภัทรบอกเพื่อน ๆ สคารับได้รับการยกย่องให้เป็นตัวแทนแห่งเทพ ชาวอียิปต์จึงมักวาดภาพมีแมลงสคารับอยู่ด้วย เรื่องที่อินและณภัทรน ามาเล่านั้น ล้วนเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ น่ารู้ น่าศึกษา น่าสนใจ คือ ภาพเขียนที่ผาแต้มและภาพเขียนที่อียิปต์ แม้จะ เกิดในถิ่นที่ห่างไกลกัน แต่ผู้สร้างสรรค์มีความนึกคิดที่คล้ายคลึงกัน อย่างน่ามหัศจรรย์ จากผาแต้ม...สู่อียิปต์
กฐิน กระดาษสา โกฏิ ผ้าพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่ภิกษุสงฆ์เฉพาะ กฐินกาลหรือเทศกาลกฐิน กระดาษที่ท าจากเปลือกต้นกระสา ต้นกระสาเป็นต้นไม้ ขนาดกลาง ใบเป็นรูปไข่ ปลายแหลม ขอบใบเว้าเป็น ๓ แฉก มีขนทั้งสองด้าน ชอบขึ้นตามริมแม่น ้าล าคลอง ชื่อมาตรานับเท่ากับ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ (สิบล้าน) ปโกฏิ ชื่อมาตรานับเท่ากับ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ (หนึ่งร้อยแสนล้าน) ค าศัพท์น่ารู้
พีระมิด แมลงกุดจี่ แมลงสคารับ สิ่งก่อสร้างที่มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านข้างทั้ง ๔ เป็น รูปสามเหลี่ยม มีปลายสุดไปบรรจบกันที่ยอด ในอียิปต์ เดิมใช้เป็นที่ฝังพระศพ ต่อมาบางที่ใช้เป็นเทวสถาน แมลงชนิดหนึ่งจ าพวกด้วง อยู่ตามท้องนาทางภาคอีสาน กินได้ โดยทั่วไปเรียกแมงกุดจี่ แมลงจ าพวกด้วง เชื้อสายเดียวกับแมลงกุดจี่ทางภาคอีสาน ของไทย คนอียิปต์เรียกว่าสคารับ และได้รับยกย่องว่าเป็น ตัวแทนแห่งเทพเคปริหรือคีเปรา และเป็นเครื่องรางด้วย ค าศัพท์น่ารู้
ศิลาจารึก สังขยา สีน ้าหมาก แผ่นหินที่เขียนหรือจารให้เป็นรอยลึกเป็นตัวอักษรหรือ ภาพ การนับ, การค านวณ สีส้มอมแดง ค าศัพท์น่ารู้
ไทยเราโชคดี ที่มีเลขไทย นับได้ทันใจ ไว้อวดโลกา รูปลักษณ์เลขงาม ตามติดภาษา การนับสังขยา กว่าเจ็ดร้อยปี ตัวเลขไทย - วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อ่านเสริม
นับเป็นบุญไทย ได้มีพ่อขุน “รามค าแหง” บุญ เกื้อหนุนศักดิ์ศรี ประโยชน์มากมาย ค้าขายง่ายดี เกื้องานบัญชี มีเป็นหลักฐาน ตัวเลขไทย - วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อ่านเสริม
หน่วยสิบร้อยพัน ต่อนั่นหมื่นแสน ใครอย่าดูแคลน นับต่อถึงล้าน สิบล้านเป็นโกฏิ ปโกฏินับนาน ภูมิปัญญาชาญ สร้างเสกเลขไทย ตัวเลขไทย - วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อ่านเสริม
บทร้อยกรองข้างต้น เป็นการสดุดี “ตัวเลขไทย” ที่ได้มี ใช้มาตั้งแต่ สมัยสุโขทัย ผู้ประพันธ์ คือ ศาสตราจารย์ ฐะปะนีย์นาครทรรพ ตัวเลขไทย - วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ อ่านเสริม
การอ่านตัวเลขไทย ๑ – ๙ ในอดีต ๑ เอก อ่านว่า เอก ๒ โท อ่านว่า โท ๓ ตรี อ่านว่า ตรี ๔ จัตวา อ่านว่า จัด – ตะ – วา ๕ เบญจ อ่านว่า เบ็น – จะ อ่านเสริม
การอ่านตัวเลขไทย ๑ – ๙ ในอดีต ๖ ฉ อ่านว่า ฉอ, ฉ้อ, ฉะ ๗ สัปต, สัต, สัตตะ อ่านว่า สับ – ตะ, สัด, สัด – ตะ ๘ อัฐ อ่านว่า อัด ๙ นพ อ่านว่า นบ อ่านเสริม
การใช้ตัวเลขไทย ตัวเลขไทยมีใช้มาตั้งแต่ก าเนิดตัวอักษรไทย สมัยพ่อขุนรามค าแหงมหาราช ใช้แทนจ านวน ใช้แทนวันแต่ละวันในสัปดาห์ แทน เดือนแต่ละเดือนในรอบปี ปัจจุบันมีการใช้ตัวเลขอารบิกแพร่หลาย เมื่อมีโอกาสใช้เลขไทยได้ คนไทยทุกคนควรใช้เพื่อความภูมิใจใน ความเป็นไทย อ่านเสริม
ตัวเลขไทย ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ อ่านเสริม
การอ่านวันแบบไทย วัน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ อ่านเสริม
การอ่านเดือนแบบไทย เดือนไทย ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ อ้าย ยี่ สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบ เอ็ด สิบ สอง อ่านเสริม
การอ่านเดือนแบบสากล เดือนสากล ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน อ่านเสริม
การอ่านเดือนแบบสากล เดือนสากล (ต่อ) ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม อ่านเสริม
การอ่านวัน เดือน ปี แบบไทย ๓ ฯ ๑ อ่านว่า วันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๕ ค ่า ตัวเลขด้านซ้ายแทนวัน ตัวเลขด้านขวาแทนเดือน ตัวเลข ด้านบนเครื่องหมาย ฯ แทนข้างขึ้น และตัวเลขด้านล่างเครื่องหมาย ฯ แทนข้างแรม ๕ อ่านเสริม
การอ่านวัน เดือน ปี แบบไทย ๕ ฯ ๒ อ่านว่า วันพฤหัสบดี เดือนยี่ แรม ๘ ค ่า ตัวเลขด้านซ้ายแทนวัน ตัวเลขด้านขวาแทนเดือน ตัวเลข ด้านบนเครื่องหมาย ฯ แทนข้างขึ้น และตัวเลขด้านล่างเครื่องหมาย ฯ แทนข้างแรม ๘ อ่านเสริม
๑. เทศกาลทอดกฐินเริ่มต้นเมื่อใด ๓. หลังสงกรานต์ ๔. หลังวันวิสาขบูชา ๑. หลังเข้าพรรษา ๒. หลังออกพรรษา ค าถามชวนคิด
๒. ผาแต้มอยู่ในอ าเภอใด และจังหวัดใด ๓. อ.เมือง อุบลราชธานี ๔. อ.เมือง อุดรธานี ๑. อ.โขงเจียม อุบลราชธานี ๒. อ.โขงเจียม อุดรธานี ค าถามชวนคิด
๓. เมื่อทุกคนมายืนที่จุดชมทิวทัศน์บนลานผาแต้ม ได้มองเห็นประเทศใด ๓. พม่า ๔. ลาว ๑. กัมพูชา ๒. เวียดนาม ค าถามชวนคิด
๔. ผาแต้มกับอียิปต์มีสิ่งใดที่เหมือนกัน ๓. แมลงสคารับ ๔. ภาพวาดบนผนัง ๑. พีระมิด ๒. กระดาษปาปิรุส ค าถามชวนคิด
๕. ใครเป็นผู้ประดิษฐ์อักษรไทย ๓. พ่อขุนศรีอินราทิตย์ ๔. สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช ๑. พ่อขุนรามค าแหงมหาราช ๒. สุนทรภู่ ค าถามชวนคิด