0
CV
โดย ครูแนน
1
ฐานที่ 4 ฐานคนั นาทองคา โดย ครแู นน (ครพู าทา)
หลกั สตู ร วิทยากรจติ อาสาพัฒนาชุมชนตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
วธิ กี ารเรยี นรู้ ใชว้ ธิ กี ารบรรย าย 40 นาที แลว้ ให้ทกุ คน
ในกล่มุ สไี ดเ้ ล่าประสบการณ์ของตนเองมาเล่ากนั
ฟงั หมุนเวยี นจนครบทกุ คน ตลอดจนมกี ารซักถามกันดว้ ย
ครูแนน บอกวา่ “คนั นาทองคา สาคัญไฉน”
คนั นาทองคา คือ เทคนิคการปรบั พ้นื ท่ีแปลงเกษตรเพอ่ื การใช้ประโยชน์สงู สดุ เพ่ือปลูกผกั ปลูกพืช ปลกู ป่า 3 อยา่ ง
ประโยชน์ 4 อยา่ ง ไม่วา่ จะเปน็ พืช ผัก ผลไม้ หรอื แมก้ ระท่ังเล้ียงสตั วบ์ นคันนา ทาให้ได้กนิ ได้ใชต้ ลอดทั้งปี และเปน็ ส่วน
หนง่ึ ในการออกแบบพน้ื ท่ดี ้วย โคก หนอง นา โมเดล คันนาทองคาเป็นการนอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่vอง
ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรบั ใช้ให้เหมาะสมกับพนื้ ทห่ี รือเรยี กว่าการออกแบบตามภูมิสังคม เพื่อใหเ้ กิดการใช้พ้ืนทีท่ ่มี อี ยใู่ ห้
เกิดประโยชนส์ ูงสุด
หวั คนั นาทองคา ไมไ่ ด้พ่งึ จะเกิดขึน้ มา แต่มมี าตง้ั แต่ในอดตี ชาวนาสมัยก่อนนั้นนิยมปลกู พิษผกั บนคนั นา ดังนั้น
หัวคนั นาสมัยก่อนจึงมีvนาดที่ใหญต่ า่ งจากปจั จบุ นั ทมี่ ีขนาดเล็กลงจากแต่ก่อนมาก และไม่นิยมปลูกพืชผักบนหวั คนั นากัน
เพราะคดิ ว่าเสียพน้ื ท่กี ารทานาแตร่ ู้หรอื ไม่วา่ การปลูกพชื ผกั บนคันนานัน้ จะช่วยให้ชาวนาประหยัดคา่ ใชจ้ ่ายคา่ อาหารไปไดม้ าก
เพราะต้องมาควักสตางค์ไปซ้อื และท่ีสาคัญได้กนิ อาหารปลอดสารเคมีเอางา่ ยๆว่าท่ชี าวนา รอผลผลิตจากข้าวถา้ ไม่ปลูกพืชผัก
อย่างอนื่ กจ็ ะไดแ้ ตข่ ้าวมีรายได้จากบ่าวฤดูกาลละ 1-2 ครง้ั เท่าน้นั ในระหวา่ งท่ีรอตอ้ งใชเ้ งนิ เก็บแต่ถ้าปลูกพชื ผกั บนคันนา
เล้ียงปลาในนาข้าว ชาวนา
กส็ ามารถลดรายจ่ายในเรอ่ื งอาหารนอกจากจะกินแล้วยังสามารถแจก แบง่ ปันขายไดอ้ กี ด้วยตามทฤษฎบี นั ได 9 ขั้น
สูค่ วามพอเพียง
2
โดยมหี ลกั ในการทาคน้ นาทองคา ดงั นี้
1. ยกคันนาใหส้ ูงอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร เพราะฝนตกลงมาในพ้นื ทีจ่ ะสามารถเกบ็ กักน้าไดเ้ ทา่ กับความสงู ความกว้าง
ความยาวของคนั นา เช่นพนื้ ที่ 1 ไร่ มขี นาด 1,600 ตารางเมตร เม่ือยกคันนาสงู 1 เมตร จะสามารถเกบ็ นา้ ได้ 1,600
ลูกบาศก์เมตร
2. ทาคันนากว้างอย่างนอ้ ย 2 เมตร การสรา้ งคันนากวา้ งและใหญ่ นอกจากจะทาหน้าทเ่ี หมือนเขอื่ นชว่ ยเก็บนา้ ไว้
ในนาได้แล้ว ยังสามารถปลูกทกุ อย่างท่ตี ้องการได้
3. ห่มดนิ ดว้ ยฟางตามหลัก อยา่ ปอกเปลอื ก เปลอื ยดนิ ใหห้ ม่ ดนิ
4. ร่องท่ไี ด้จากการขดุ ดนิ กลายเป็น คลองไสไ้ ก่ สามารถใช้เลย้ี งปลาในนาข้าวได้
ปลกู หญา้ แฝกและปน้ั หวั คนั นา
ปลกู หญ้าแฝกโดยรอบหนองและคลองใสไ่ ก่ ปั้นหัวคนั นา ใหม้ คี วามสงู อยา่ งนอ้ ย 1 เมตร บนคนั นากว้าง 1 เมตร
และทางกวา้ ง 2 เมตร บนคันนาปลกู พนื้ ผักโดยรอบทง้ั ไม้ผล ผักสวนครวั จนพชื สมุนไพร คนกลายเป็นหวั คนั นาทองคา
เพราะปั้นหวั คันนาสูงในคันนาจึงเปรียบเสมอื นเขอื่ นขนาดย่อมไว้เกบ็ กกั น้า นอกจากน้ียงั เปน็ ที่อย่อู าศัยของสตั ว์น้าอีกดว้ ย
เครอื่ งมอื 1 ฟาง ใบไม้ ใบหญ้า เศษไมเ้ ลก็ ๆ
2 ปยุ๋ แห้ง , ขี้วัวแหง้
3 พันธ์ตุ น้ ไม้ 5 ระดบั /พันธปุ์ ลา ชนดิ ตา่ ง ๆ
4 จอบ เสยี ม
สภาพแวดลอ้ ม ถา้ อยใู่ นสถานท่จี รงิ จะได้ฝึกปฏบิ ัติจริง แบบ on the Jop training
เงอ่ื นเวลา 45 นาที เนอ่ื งจากเวลาในการเรยี นรู้มจี ากดั หรือเวลาน้อย ทาให้วทิ ยากรหรอื ครจู ะตอ้ งใช้วิธกี าร
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
3