0
โดย ครูหนงึ่
1
ฐานที่ 5 ฐานปยุ๋ นา้ หมกั 7 รส โดย ครหู นงึ่
หลกั สตู ร วทิ ยากรจิตอาสาพัฒนาชุมชนตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
วธิ กี ารเรยี นรู้ ใช้วธิ กี ารบรรยาย 40 นาที แลว้ ใหท้ ุกคน
ในกลุ่มสี ได้เลา่ ประสบการณข์ องตนเอง
มาเล่ากนั ฟังหมุนเวยี นจนครบทกุ คน ตลอดจนมกี ารซกั ถาม
สมนุ ไพร 7 รส
วัตถปุ ระสงค์
1. อธิบายจลุ นิ ทรยี ์ คณุ สมบตั ิ ประเภทและประโยชนจ์ ุลนิ ทรยี ไ์ ด้
2. อธบิ ายคุณสมบตั ิ 7 รส ว่ามีรสอะไรบ้าง
3. อธิบายวธิ กี ารทา้ นา้ หมกั ชีวภาพ
4. อธิบายวิธกี ารน้าน้าหมกั ไปใช้
กจิ กรรม
1. ศึกษาเอกสาร ชีทความรู้ ป้ายข้อมูล และฟงั บรรยาย
2. ลงมอื ปฏิบตั ติ ามขันตอนการทา้ นา้ หมักชวี ภาพ
3. สรปุ วิธีการทา้ นา้ หมกั ชวี ภาพ
2
จลุ นิ ทรยี ค์ อื อะไร จลุ นิ ทรีย์ คือ ส่งิ ทีม่ ชี ีวิตเลก็ ๆ ไมส่ ามารถมองเหน็ ดว้ ยตาเปลา่ ตอ้ งใช้กลอ้ งจลุ ทรรศนส์ อ่ งดจู ึงจะ
มองเห็น มอี ยู่ท่วั ไปในนา้ ในอากาศ ในดิน หรือแม้กระทง่ั ตวั คนเราก็มี เป็นส่ิงมชี วี ิตเซลลเ์ ดียว สามารถแบ่งเซลลข์ ยายตวั
เพิ่มประชากรได้อย่างมากมายในเวลาอนั รวดเรว็ ถา้ หากอยใู่ นภาพทมี่ คี วามสมดลุ ย์และเหมาะสม คงเคยไดย้ นิ กันวา่ มบี ริษทั ที่
ผลติ นมเปรยี วออกมาแพร่หลายในทอ้ งตลาด โฆษณาว่าในนมเปรยี วนนั มีจุลนิ ทรยี ท์ ีเ่ หมาะสมในการยอ่ ยสลาย หรอื การชว่ ย
ยอ่ ยทา้ ใหร้ ะบบยอ่ ยอาหารและการขับถ่ายของมนุษยด์ ีขนึ ถ้าบอกอยา่ งนีแล้วคงพอจะเหน็ ภาพและเขา้ ใจในจุลนิ ทรยี ม์ ากขนึ
คณุ สมบัตขิ องจลุ ินทรยี ์
โดยทัว่ ไปจลุ นิ ทรยี ์คือตัวท่ีทา้ การย่อยสลายอนิ ทรยี ว์ ัตถุท่มี อี ยใู่ นธรรมชาติใหม้ ขี นาดเลก็ ลงเปน็ สารละลายเปน็ ธาตุ
อาหารสะสมไว้ในดินในระบบนิเวศนว์ ทิ ยาท่ีสมบูรณ์แล้ว จะประกอบด้วยพืช (ผู้ผลิต), สัตว์ (ผ้บู รโิ ภค) และจลุ นิ ทรยี ์
(ผยู้ ่อยสลาย)ทัง 3 อย่าง จะพงึ่ พาอาศยั กนั เปน็ ลกู โซ่อาหารซงึ่ กันและกนั
ประเภทของจลุ นิ ทรยี ์
1. จลุ นิ ทรีย์กลมุ่ ท่ีเป็นประโยชนท์ า้ งานในเชงิ สรา้ งสรรค/์ หมักสงั เคราะห์กล่ินหอมเชน่ ยีสต์ท่ใี ชใ้ นการหมักแปง้ ข้าว
หมาก เตา้ เจยี ว แลคโตบราซิลลสั ในยาคูลท์
2. จุลนิ ทรยี ก์ ลมุ่ ท้าลาย(กลุม่ ที่เป็นเชอื โรค) ท้างานในเชงิ ทา้ ลาย/บดู เนา่ ทา้ ให้เกิดกลนิ่ เหมน็
3. จุลินทรีย์กลุ่มเป็นกลาง
น้าหมกั สมนุ ไพร 7 รส
นา้ หมักสมนุ ไพร 7 รส เปน็ สูตรท่ีผสมขนึ มาจากสมนุ ไพรท่ีมีรสจดื ขม ฝาด เมาเบอ่ื เปรียว หอมระเหย และ
เผด็ รอ้ น หรอื อาจกล่าวได้ว่าเปน็ สูตรท่รี วมรสของสมุนไพรทม่ี ีคณุ สมบตั ิในการก้าจัดแมลงศัตรูพชื เข้าไว้ในสูตรเดยี วกัน เพื่อ
เพมิ่ ประสิทธภิ าพในการป้องกันก้าจดั แมลงศตั รูพชื ผัก ซึง่ มคี วามหลากหลายและสามารถพัฒนาความตา้ นทานสารก้าจดั แมลง
ไดภ้ ายในเวลาไม่นาน ดงั นนั การรวมพิษของพืชทมี่ ผี ลต่อระบบการทา้ งานของแมลงศัตรูพืชเอาไว้ภายในสตู รเดียว จงึ เป็นอีก
หนง่ึ วธิ ีท่จี ะลดปัญห้ากา้ รดือยาของแมลงลงได้
โดยการท้านา้ หมักสมุนไพร รสนนั เป็นการเลือกเอาสมุนไพรรสต่างๆ มาทา้ น้าหมักจุลนิ ทรยี ์ชีวภาพ เพือ่
ประโยชน์ทางการเกษตร ซึง่ สามารถใช้ไดก้ ับนาข้าว และพืชผกั ทุกชนิด
น้าหมกั สมนุ ไพร รส ประกอบดว้ ย
1. สมนุ ไพรรสจดื ไดแ้ ก่ ใบกลว้ ย ผักบงุ้ ร้างจดื และพืชสมนุ ไพรทม่ี ีรสจืดทกุ ชนดิ
สรรพคณุ : จะเปน็ ปุย๋ บา้ รุงดิน ให้ดินมีความรว่ นซุย โปรง่ และทา้ ให้ดนิ ไม่แขง็ และสามารถใชบ้ า้ บดั นา้ เสียได้ด้วย
2. สมนุ ไพรรสขม ได้แก่ ใบสะเดา บอระเพ็ด ใบขีเหลก็ และพชื สมนุ ไพรท่ีมีรสขมทกุ ชนิด
สรรพคณุ : สามารถฆ่าเชือแบคทีเรีย เพอ่ื สร้างภมู ิคมุ้ กันให้กบั พืช
3
3. สมนุ ไพรรสฝาด ได้แก่ ปลีกลว้ ย เปลือกมังคดุ เปลือกฝรงั่ มะยมหวาน และพชื สมุนไพรท่ีมรี สฝาดทุกชนิด
สรรพคุณ : ฆ่าเชือราในโรคพชื ทุกชนิด
4. สมนุ ไพรรสเมาเบอื่ ได้แก่ หวั กลอย ใบ/เมล็ดสบดู่ า้ ใบน้อยหนา้่ และพชื สมุนไพรทมี่ ีรสเมาเบ่ือทกุ ชนดิ
สรรพคุณ : ฆ่าเพลีย หนอนและแมลง ในพชื ผกั ทกุ ชนดิ
5. สมนุ ไพรรสเปรยี ว ได้แก่ มะกรูด มะนาว กระเจี๊ยบ และพืชสมุนไพรท่ีมีรสเปรียวทกุ ชนิด
สรรพคุณ : ไลแ่ มลงโดยเฉพาะ
6. สมนุ ไพรรสหอมระเหย ได้แก่ ตะไครห้ อม ใบกะเพรา ใบเตย และพืชสมนุ ไพรท่มี ีรสหอมระเหยทุกชนิด
สรรพคณุ : จะเปน็ น้าหมกั ท่ีเปลี่ยนกล่นิ ของตน้ พชื เพอ่ื ป้องกนั ไม่ให้แมลงไปกัดกินท้าลาย
. สมนุ ไพรรสเผด็ รอ้ น ได้แก่ พรกิ ขงิ ข่า และพชื สมุนไพรที่มีรสเผด็ ร้อนทกุ ชนิด
สรรพคณุ : ไลแ่ มลง และท้าใหแ้ มลงแสบร้อน
++วธิ กี ารทา้ ++
1. ใช้วตั ถดุ บิ ทเี่ ป็นทม่ี าของแต่ละรส อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ สบั ให้ละเอียดๆ รวมแล้วให้ได้จา้ นวน 3 กิโลกรัม +
กากนา้ ตาล จา้ นวน 1 ลติ ร + นา้ เปลา่ จา้ นวน 10 ลติ ร
2. เทน้าเปลา่ ใสถ่ ังพลาสตกิ แลว้ เทกากน้าตาลลงไป คนเรือ่ ยๆจนกากน้าตาลละลายเป็นเนือเดียวกันกับนา้ จากนนั
จึงเทวตั ถดุ ิบทส่ี บั ละเอยี ดแล้วตามลงไป คนใหเ้ ข้ากนั อกี ครงั ปดิ ฝาให้สนทิ ตังไวใ้ นที่รม่ นานประมาณ 3 เดอื น
จงึ สามารถนา้ มาใช้ประโยชนไ์ ด้
++ การใชป้ ระโยชน์ ++
ใชใ้ นอตั ราสว่ นเดียวกนั สา้ หรับพชื ผกั นาขา้ วและไมผ้ ลทกุ ชนดิ คอื น้าหมกั 1 ลติ ร+นา้ เปล่า 20 ลติ ร ฉีดพ่นใหท้ ่วั
คือ ถา้ เป็นพืชผกั ทวั่ ไปฉีดพน่ ทกุ 3 วัน /ถา้ เป็นไมผ้ ล ฉีดพ่นทกุ วนั
นา้ หมกั ชวี ภาพ
น้าหมกั ชีวภาพเปน็ ผลติ ภัณฑ์ทมี่ ลี กั ษณะเปน็ ของเหลวสนี ้าตาลโดยการสกัดอินทรีย์วัตถุจากพืช ผกั และผลไม้โดยวิธี
ธรรมชาติ อาจมชี ื่อเรยี กท่แี ตกตา่ งกนั ไป เชน่ นา้ หมกั พืช น้าสกัดชวี ภาพ น้าหมักสมุนไพร นา้ เอ็นไซม์ น้าจลุ ินทรีย์
น้าหมกั โปรไบโอติก ซงึ่ สามารถทา้ ใชใ้ นครัวเรือนได้ ดังนี
การทา้ นา้ หมกั ชวี ภาพ สว่ นผสม
1) เศษผกั /เศษอาหาร/เศษผลไม้ 3 กโิ ลกรมั
2) กากน้าตาล/นา้ ตาลทรายแดง 1 กิโลกรมั
3) นา้ 10 ลิตร
4
วธิ ีการทา้
1) สบั เศษผัก/เศษอาหาร/เศษผลไม้ ใหล้ ะเอียด
2) ละลายกากนา้ ตาล/น้าตาลทรายแดง กบั น้า แลว้ น้าเศษอาหาร/เศษผัก/เศษผลไม้ ท่สี บั ใหล้ ะเอยี ดแล้ว
คลุกเคลา้ ให้เข้ากัน
3) น้าส่วนผสมท่คี ลกุ เคลา้ กันเสร็จเรียบร้อยเทใสถ่ งั หมกั ท่เี ตรียมไวเ้ วน้ ชอ่ งว่าง ประมาณ 1/4 ของถงั หมัก ทิงไว้
ประมาณ 90 วัน หรือ 3 เดือน จึงนา้ นา้ หมกั ไปใชป้ ระโยชน์
กอ่ นนา้ นา้ หมกั ไปใชป้ ระโยชนส์ งั เกต ดงั นี
1. สี ของน้าหมกั จะมีสนี ้าตาลเข้ม หรืออาจมีราขาวขึนบนผิวหน้าของนา้ หมัก
2. กลนิ่ ของนา้ หมักจะออกเปรยี ว
3. รสชาด ของน้าหมักจะมรี สเปรยี ว
4. ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ประมาณ 3
การนา้ ไปใชป้ ระโยชน์
อตั ราสว่ น การใชป้ ระโยชน์
นา้ หมักชวี ภาพ 100 % มคี วามเข้มข้นมากสามารถท้าให้พืชตายได้
น้าหมกั ชีวภาพ 1 สว่ นต่อนา้ 10 สว่ น ลดกลน่ิ กองขยะ คอกสตั ว์ และห้องนา้
นา้ หมักชีวภาพ 1 ส่วนต่อน้า 200 สว่ น ใช้รดนา้ พืชผัก ตน้ ไม้
นา้ หมกั ชีวภาพ 1 สว่ นต่อน้า 500 สว่ น เหมาะสา้ หรับการลา้ งพืนคอกสตั วเ์ ลยี ง
เครอื่ งมอื สอ่ื การสอน
ปา้ ยความรู้ กระดานดา้ เอกสาร/ซีทเอกสารความรู้
อปุ กรณ์ / วตั ถดุ บิ
๑. สมนุ ไพรรสตา่ งๆ
๒. ความหวาน เชน่ น้าตาลทรายแดง
กากน้าตาล
๓. ถงั หมักชนิดมฝี าปดิ
๔. มีด เขียง ไมพ้ าย
5
การประเมนิ ผล
๑. สามารถอธิบายสมุนไพรแต่ละรสได้
๒. สามารถอธบิ ายคณุ สมบัติ ๗ รสได้
๓. สามารถอธิบายและท้าน้าหมักชวี ภาพได้
๔. สามารถอธิบายวธิ กี ารน้าไปใช้ได้
๕ อธบิ ายจุลนิ ทรีย์ คณุ สมบตั ิ ประเภท และประโยชนจ์ ุลนิ ทรยี ์ได้
สภาพแวดลอ้ ม อยู่ในสถานท่ีจริง ได้ฝึกปฏิบตั ิจรงิ แบบ on the Jop training
เงอ่ื นเวลา 45 นาที เนอ่ื งจากเวลาในการเรียนรมู้ ีจ้ากดั หรอื เวลาน้อย ท้าให้วทิ ยากรหรอื ครจู ะตอ้ งใช้วิธกี าร
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
6