1
ฐานที่ 10 ฐานปลกู ผกั ในแปลงแบบผา่ ทอ้ งชา้ ง หรอื เพอรม์ าคลั เจอร์ (Permaculture) โดย ครแู นน
หลกั สตู ร วิทยากรจิตอาสาพัฒนาชุมชนตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
วิธกี ารเรยี นรู้ ใชว้ ธิ กี ารบรรยาย 40 นาที แลว้ ใหท้ ุกคน
ในกลมุ่ สีทุกคน ไดพ้ ดู แลกเปลี่ยนเรยี นร้รู ่วมกัน
ใครมีความรู้ดา้ นปลกู ผกั แบบทีต่ นเองถนัดก็มาเล่าส่กู นั ฟัง
และคนไหนทย่ี ังไมม่ ีความรู้ ก็ให้ซกั ถามกนั เพอื่ ให้ได้ความรู้
จนครบทกุ คน
ครูแนน เลา่ วา่ การปลกู ผกั ต้องเตรยี มแปลงแบบผา่ ทอ้ งชา้ ง เปน็ การขดุ ดินในแปลง ขนาด 3 x 6 เมตร ลึก
1 เมตร แล้วใส่ ทอ่ นไม้/เศษไม้ /เศษอาหารทิง้ แลว้ ใส่ถา่ นเป็นก้อนๆ จงึ คล้ายกบั การผา่ ทอ้ งช้าง หรอื ทเี่ รยี กวา่
เพอร์มาคลั เจอร์ (Permaculture) และเราเรยี กว่า “วิธีปลกู ผกั ที่แทบจะไม่ตอ้ งรดนา้ ทา้ คร้งั เดียวปลูกไดห้ ลายปี”
ถา้ เราออกแบบระบบการเกษตรใหเ้ หมอื นกบั รปู แบบท่เี กดิ ข้นึ ตามธรรมชาติ เราก็จะไดร้ ะบบการเกษตรท่สี อดคลอ้ ง
และเปน็ มติ รกบั ธรรมชาติ ทง้ั ยงั ไดผ้ ลติ ผลสูงและมีความยั่งยนื มากกว่าระบบทเี่ ห็นธรรมชาตเิ ปน็ ศัตรทู ่ตี ้องต่อสู้ เอาชนะ
ควบคมุ ใหไ้ ดอ้ ย่างใจเรา
2
เพอร์มาคัลเชอร์ เปน็ เรือ่ งของแนวคดิ วธิ คี ดิ การออกแบบ เพ่ือใช้ทรพั ยากรอย่างคุ้มคา่ และยง่ั ยืนที่สดุ นา้ เร่ืองการ
ออกแบบพลงั งานในธรรมชาติมาใชร้ ่วมกบั การท้าการเกษตรอยา่ งสรา้ งสรรค์ จึงเปน็ เกษตรทางเลือกหนึ่งที่มลี กู เล่น มสี ีสนั ท่ี
ไปเชือ่ มกบั ศาสตร์อน่ื ๆ เชน่ สถาปตั ยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ จึงไมใ่ ชแ่ ค่เรือ่ งเกษตร แต่ต้องสนใจเร่อื งสงิ่ แวดล้อม
หมัน่ คน้ ควา้ และเรียนรู้เก่ยี วกับระบบนิเวศวิทยา จนมองเห็นว่าถ้าเราออกแบบระบบการเกษตรใหเ้ หมอื นกบั รูปแบบที่เกิดขึ้น
ตามธรรมชาติ เราก็จะได้ระบบการเกษตรท่สี อดคลอ้ งและเปน็ มติ รกบั ธรรมชาติ ท้งั ยังได้ผลติ ผลสงู และมีความยง่ั ยืนมากกวา่
ระบบที่เหน็ ธรรมชาตเิ ป็นศตั รทู ต่ี อ้ งตอ่ สู้ เอาชนะ ควบคุมใหไ้ ด้อย่างใจเรา !!!
'เพอร์มาคัลเชอร์' คืออะไร
เพอรม์ าคลั เชอร์ (permaculture) เปน็ แนวคิดและวถิ ีทางการเกษตรที่เน้นเรอ่ื งความยั่งยืนของชวี ิตและ
สิง่ แวดล้อม เกดิ ขึ้นในตา่ งประเทศเมื่อกว่า 30 ปที แ่ี ลว้ องคค์ วามรูแ้ บบฝรง่ั นี้ ไม่ไดจ้ ้ากัดอยู่เพียงการทา้ การเกษตร แต่
ครอบคลมุ ถึงการออกแบบวถิ กี ารดา้ รงชีวติ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับระบบเกษตรกรรม รวมถึงการใชช้ ีวิตของผู้คนในรูปแบบทีส่ อดคลอ้ งกบั
วถิ ีธรรมชาติ
เพอร์มาคลั เชอร์ (Permaculture) อาจยังฟังดูเป็นค้าศัพทใ์ หมส่ ้าหรับคนไทย หากเราลองค้นในกูเกลิ้ เป็น
ภาษาไทย อาจยังไมเ่ จอเนื้อหาความรู้เก่ียวกับเพอร์มาคลั เชอร์มากนกั แตถ่ า้ พูดถึงชวี ิตความเปน็ อยูแ่ บบพอเพยี ง หรอื เกษตร
ผสมผสาน คนไทยคงจะฟังดูคุน้ หูมากกว่า
เพอรม์ าคลั เชอร์ กไ็ มไ่ ด้มีแนวคิดแตกต่างไปจากสองค้าไทยด้านบนมากนัก เรยี กได้ว่าเปน็ คา้ ท่ชี าวต่างชาติเริ่มน้ามาให้
ไดร้ ู้จักกนั ต้งั แต่ราวปีค.ศ. 1978 โดย Bill Mollison ชาวออสเตรเลีย และ Masanobu Fukuoka ชาวญ่ปี นุ่ ได้ตัง้
ค้าถามและคิดคน้ แนวคดิ น้ี ในเวลาไล่เลย่ี กัน ในสถานทห่ี ่างกนั ไกลคนละทวปี เน่อื งจากความเปล่ียนแปลงของโลกและของ
สง่ิ แวดล้อมตามธรรมชาตทิ พี่ วกเขาคุ้นเคยใกลช้ ดิ ก้าลังค่อยๆเปลีย่ นไปในแบบท่ีพวกเขาคิดวา่ ไมค่ วรจะเป็น ในขณะเดียวกันก็
เปน็ การรักษาวัฒนธรรมของแต่ละท้องถ่นิ ให้คงอยสู่ ืบไป ไมใ่ ชแ่ ค่น้าองค์ความรดู้ ังกล่าวน้ีไปใชป้ ลูกพชื ผักท้าการเกษตรอย่าง
เดียวเทา่ นน้ั แต่แนวคดิ เพอร์มาคลั เชอร์ยังสามารถน้าไปปรับใชไ้ ด้ทุกอาชีพ ต้ังแต่วศิ วกรพลงั งาน ไปจนถงึ สถาปนิก
ม่นั คงถาวร + เกษตรกรรม !!!
เพอรม์ าคลั เชอร์ เกดิ จากการรวมคา้ สองคา้ คือ Permanent ท่แี ปลวา่ ม่นั คงถาวร กับ Agriculture ทแ่ี ปลวา่
เกษตรกรรม ค้านค้ี ิดค้นข้นึ โดย Bill Morrison และ David Holmgren นักนิเวศวิทยาและลกู ศษิ ย์ชาวออสเตรเลีย
เพือ่ ใช้เรียกระบบการทา้ การเกษตรที่คิดคน้ ข้ึนจากประสบการณ์การคน้ คว้าและเรยี นรเู้ ก่ยี วกบั ระบบนิเวศวิทยา จนมองเห็นวา่
ถ้าเราออกแบบระบบการเกษตรใหเ้ หมอื นกบั รปู แบบทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามธรรมชาติ เรากจ็ ะไดร้ ะบบการเกษตรที่สอดคลอ้ งและเปน็
มติ รกับธรรมชาติ ทัง้ ยงั ไดผ้ ลิตผลสูงและมคี วามย่ังยืนมากกวา่ ระบบท่เี หน็ ธรรมชาตเิ ป็นศัตรูที่ตอ้ งต่อสู้ เอาชนะ ควบคุมใหไ้ ด้
อย่างใจเรา
3
นอกจากจะเป็นระบบการเพาะปลูก ท่ีมีการจัดวางรูปแบบ เพอ่ื การสรา้ งทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเหมาะสม แล้ว
ยังอาจจะเรยี กได้วา่ เพอรม์ าคัลเชอร์ เปน็ วถิ ีทางการเกษตร เพอื่ ชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ ม ซึ่งจะเออื้ อา้ นวย ใหแ้ กแ่ ผ่นดนิ น้า พืช
สตั ว์ และมนุษย์ มีชีวิต อย่รู ว่ มกัน อยา่ งกลมกลืน สมดลุ มคี วามสขุ ไดอ้ ย่างตอ่ เนือ่ ง และยืนนาน
ในปลายทศวรรษที่ 1960 บิลมลิ ลิสันและเดวิดฮอลเกรนเรม่ิ พฒั นาแนวคดิ เก่ียวกบั ระบบการเกษตรทมี่ ีเสถยี รภาพ
ในรฐั เกาะทางใต้ของรฐั แทสเมเนยี นีเ่ ปน็ ผลมาจากความเสี่ยงของการใชว้ ิธีการอุตสาหกรรมเกษตรอยา่ งรวดเรว็ ในมุมมองของ
พวกเขาวิธีการเหล่านี้ขึน้ อยู่กบั ทรัพยากรท่ไี มส่ ามารถทดแทนได้ เปน็ พษิ ต่อแผ่นดนิ และน้า ลดความหลากหลายทางชีวภาพ
และลดพ้นื ทีห่ น้าดินอุดมสมบูรณน์ บั พนั ล้านตนั จากภูมิประเทศอุดมสมบูรณก์ ่อนหน้าน้ี วธิ ีการออกแบบทีเ่ รียกวา่
permaculture เป็นคา้ ตอบของพวกเขาและเป็นครั้งแรกที่เผยแพรต่ ่อสาธารณชนด้วยการตพี มิ พ์หนังสอื Permaculture
One ในปี 1978
เน้นการพึ่งพาตัวเอง และเป็นตวั ของตัวเองสุดๆ ไปเลยทเี ดียว !
แนวคิดดังกล่าว จึงเปน็ การอนุรกั ษแ์ ละปรบั ใช้วิถีชีวิตของคนในแตล่ ะพ้นื ที่ ท่ีมีสิง่ แวดล้อมทางกายภาพ และทาง
วฒั นธรรมทีแ่ ตกต่างกันไป ให้อยไู่ ด้ด้วยการผลติ ปจั จยั 4 ไดแ้ ก่ อาหาร เสือ้ ผ้า ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ใหไ้ ด้ด้วย
ตวั เองให้มากที่สุด ไมว่ ่าสภาพสังคมและเศรษฐกจิ ในยุคปัจจุบันจะเปลีย่ นแปลงไปมากเทา่ ใดกต็ าม ในภาพรวมนัน้ ผู้ปฏิบตั ิ
เพอร์มาคัลเชอร์ จงึ ดูเหมอื นปลาทว่ี า่ ยทวนกระแสน้า ในโลกทีท่ กุ วันนี้ มนุษย์เราหา่ งไกลจากการผลติ ปจั จัย 4 ด้วยตัวเอง
ออกไปทกุ ที
นั่นหมายถึง เพอรม์ าคลั เชอร์ คอื ระบบหลกั การออกแบบการเกษตรและสงั คม ทเ่ี ลียนแบบมาจากระบบนเิ วศน์
ธรรมชาติ หรือไมก่ เ็ ปน็ การน้ารูปแบบและลกั ษณะท่พี บเห็นได้จรงิ ในธรรมชาติ มาใชเ้ ลยโดยตรงโดยไมต่ ้องสร้างเลยี นแบบ
ขน้ึ ใหม่
4
แต่ทจี่ รงิ แลว้ เพอร์มาคลั เชอร์ไมใ่ ชเพียงระบบเกษตร แตเ่ ป็นระบบการออกแบบทดี่ นิ ซง่ึ สว่ นใหญ่จะนา้ มาใช้ใน
การออกแบบฟาร์มเกษตร แต่ก็สามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ พอร์มาคัลเชอรใ์ นการออกแบบเมือง หรืออ่นื ๆ ได้ หลกั การพ้นื ฐานใน
การออกแบบของเพอร์มาคัลเชอร์ประกอบดว้ ย 8 เรื่อง คอื (1) ที่ตงั้ แบบสัมพันธภาพ (2) แตล่ ะองค์ประกอบมีหลาย
บทบาทหนา้ ที่ (3) หนา้ ทสี่ า้ คัญตอ้ งมหี ลายองคป์ ระกอบร่วมกนั (4) ใชพ้ ลังงานอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ (5) ใช้ประโยชน์
จากทรัพยากรชวี ภาพ (6) นา้ พลงั งานธรรมชาตมิ าใชป้ ระโยชน์ (7) ใช้พ้นื ท่อี ยา่ งเข้มข้น โดยการปลกู พืชและเล้ียงสัตว์
อยา่ งหลากหลายร่วมกนั (8) ใช้ชายขอบและลวดลายธรรมชาติ
เพอรม์ าคัลเชอรจ์ ึงครอบคลมุ เน้อื หาท่ีหลากหลาย เชน่ การออกแบบเชงิ นเิ วศน์ นเิ วศน์วิศวกรรม การออกแบบทีอ่ ยู่
ร่วมกบั สงิ่ แวดลอ้ ม การกอ่ สร้างและการจดั การน้าแบบบูรณาการ ทีจ่ ะน้าไปส่สู ถาปัตยกรรมอยา่ งยง่ั ยนื การสร้างทอ่ี ย่อู าศยั ที่
ซอ่ มบา้ รุงรกั ษาตัวเองและสรา้ งตัวเองขนึ้ ใหม่ได้ และระบบการเกษตรท่ียมื รูปแบบนเิ วศนใ์ นธรรมชาตมิ าใช้
จดุ เดน่ ของ เพอรม์ าคลั เชอร์
คือการปรบั ปรุงภูมิสถาปตั ย์และนา้ เรอ่ื งการออกแบบพลังงานในพื้นทีม่ าใช้รว่ มกับการท้าการเกษตร ซ่ึงเปน็ การ
อธิบายท่ีเปน็ วชิ าการและวิทยาศาสตร์ ในขณะท่ีเกษตรยง่ั ยืนแบบไทยท่ีเนน้ วถิ ีแหง่ การพ่ึงตนเอง จะเปน็ ลักษณะภูมิปัญญา
ดัง้ เดมิ มคี วามสมั พนั ธ์เกยี่ วเน่อื งกบั มิตทิ างจิตวญิ ญาณ นอกจากน้นั เพอร์มาคัลเชอร์ ยังเปน็ ระบบการดา้ เนินชวี ิตท่ีอาศัย
พลังงานทมี่ อี ยใู่ นธรรมชาติ โดยไมก่ ่อให้เกดิ มลพิษใหม่ข้นึ และเป็นระบบท่นี า้ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่มีอย่ทู ัว่ ไปมาใชผ้ ลิต
อาหาร โดยไมท่ ้าลายสิง่ มชี ีวิตอนื่ บนโลก เหตุนเี้ อง จงึ ไม่จ้าเปน็ วา่ เฉพาะเกษตรกรเท่านั้นทค่ี วรนา้ เพอร์มาคัลเชอร์ไปใช้ แต่
ใครๆ ก็สามารถนา้ แนวคิดนีไ้ ปประยุกต์ใช้ได้ ไม่วา่ จะทา้ อะไร หรอื อยู่ท่ไี หนในโลก
มาเร่ิมจากเพอร์มาคลั เจอร์แบบง่ายๆ กนั เถอะ !!!
ด้วยการใช้ทอ่ นซงุ หรอื พวกกิ่งไม้ เศษใบไม้ใบหญา้ ตา่ งๆ ต่างๆ มากองเป็นฐานและก่อเป็นแปลงผกั ใหส้ งู ขนึ้ เพ่ือใช้
ในการปลกู ผัก ซึ่งประโยชน์ของการปลกู ผักโดยวธิ นี ้กี ค็ ือว่า พืชผักท่เี ราปลกู น้นั จะไดร้ ับสารอาหารจากกง่ิ ไมเ้ ศษไมท้ เี่ รากองไว้
ด้านลา่ ง เปน็ การชว่ ยใหอ้ าหารและความชนื้ ตามธรรมชาติ โดยท่เี ราน้นั แทบจะไม่ตอ้ งรดน้าเลย หรือใช้น้านอ้ ยมากในการรด
5
วธิ กี ารปลกู ผกั แบบท่หี ลายคนอาจจะไม่เคยท้ามาก่อน เปน็ วิธกี ารของชาวต่างประเทศเขาท้ากนั มานานแล้ว ซ่ึงมี
ประโยชนม์ ากๆ เพราะว่าเป็นการช่วยลดปรมิ าณการใชน้ ้า แต่ก็ยังปลูกผักได้ พ้ืนทไี่ หนน้าแล้งๆ หรือน้าน้อยกล็ องเอาไป
ประยกุ ตใ์ ชก้ ันดคู รบั วธิ ีการท้าน้นั กแ็ สนจะง่ายดาย หลายวิธี ตามสภาพพ้ืนดนิ และความต้องการของผปู้ ลูกครบั
ท้ายสดุ การปลกู ผกั แบบ Hugelkulture หรือ เพอร์มาคัลเจอร์ เราจะตอ้ งทา้ ใหแ้ ปลงผักแบบกองสมุ นี้ ใหส้ งู เขา้ ไว้
ครบั โดยใหส้ งู อยา่ งนอ้ ย 2 เมตรเพ่อื ใหไ้ ด้กองปลกู ผักทีไ่ ม่ต้องรดนา้ เลยตลอดหนา้ แล้งในปที ่ี 2 ซึง่ ถา้ กอง Hugelkulture
ยิ่งสงู มาก จะมคี ณุ สมบัติในการดูดซับความชื้นท่ดี จี นไม่ต้องรดน้าเลยทเี ดียวครบั
เครอ่ื งมอื 1 เศษถ่าน กิง่ ไมห้ รอื ต้นไมท้ ี่หักโค่น หรอื ต้นไมท้ ่ตี ายเอง เศษไม้เลก็ ๆ เศษอาหารทิ้งแล้ว
2 จอบ เสียม
สภาพแวดลอ้ ม อยูใ่ นสถานทีจ่ รงิ ได้ฝกึ ปฏิบัติจรงิ แบบ on the Jop training
เงอื่ นเวลา 45 นาที เน่อื งจากเวลาในการเรยี นรู้มีจา้ กดั หรือเวลาน้อย ทา้ ใหว้ ิทยากรหรือครูจะตอ้ งใช้วธิ กี าร
แลกเปลีย่ นเรียนรู้
6