หน่วยที่ 5
การใช้งานลิ ขสิทธิ์
ที่ เป็นธรรม
ลิ ขสิทธิ์
สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำ
การใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้
ริเริ่มโดยการใช้สติปัญญาความรู้ ความ
สามารถ ของตนเองในการสร้างสรรค์
โดยไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น
ลิ ขสิทธิ์
โดยงานที่สร้างสรรค์ต้องเป็นงาน
ตามประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้คุ้มครอง
โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครอง
ทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
การใช้ง า นลิ ขสิท ธิ์
ที่ เป็นธ ร ร ม
ผู้ใดต้องการใช้ผลงาน
ที่มีลิขสิทธิ์ มีหลัก
การในการพิจารณาดังนี้
1. วัตถุประสงค์เเละลักษณะการใช้
งานลิขสิทธิ์
คือ ไม่มีลักษณะการกระทำเพื่อ
การค้า หากำไร หรือใช้ในเชิงพาณิชย์
รวมถึงไม่มีเจตนาทุจริต เช่น การนำ
งานลิขสิทธิ์มาใช้โดยไม่อ้างอิงถึงที่มา
หรือใช้ในลักษณะที่ทำให้ผู้เข้าใจว่า
เป็นงานของตนเอง
การใช้ง า นลิ ขสิท ธิ์
ที่ เป็นธ ร ร ม
ผู้ใดต้องการใช้ผลงาน
ที่มีลิขสิทธิ์ มีหลัก
การในการพิจารณาดังนี้
2. ลักษณะของงานลิขสิทธิ์
คือ งานที่มีระดับของการสร้างสรรค์
งานหรือใช้จินตนาการมาก เช่น นวนิยาย
หากมีการนำงานไปใช้ โอกาสที่จะถือว่า
เป็นการใช้งานลิขสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรมจะ
มากกว่างานลิขสิทธิ์ที่ประกอบด้วยข้อเท็จ
จริงจำนวนมาก
การใช้ง า นลิ ขสิท ธิ์
ที่ เป็นธ ร ร ม
ผู้ใดต้องการใช้ผลงาน
ที่มีลิขสิทธิ์ มีหลัก
การในการพิจารณาดังนี้
3. ปริมาณการใช้งานและสัดส่วนของ
งาน
คือ การนำงานลิขสิทธิ์ของคนอื่นมาใช้
ในปริมาณมาก ก็ถือว่าเป็นการใช้ที่ไม่เป็น
ธรรม แต่กรณีที่นำงานลิขสิทธิ์ของคนอื่น
มาใช้ แม้ปริมาณน้อยก็อาจเป็นการละเมิด
ได้ หากส่วนนั้นเป็นส่วนที่เป็นสาระสำคัญ
หรือหัวใจของงานชิ้นนั้น
การใช้ง า นลิ ขสิท ธิ์
ที่ เป็นธ ร ร ม
ผู้ใดต้องการใช้ผลงาน
ที่มีลิขสิทธิ์ มีหลัก
การในการพิจารณาดังนี้
4. ผลกระทบต่อการตลาดหรือมูลค่า
ของงานลิขสิทธิ์
คือ การใช้ที่ส่งผลกระทบต่อความ
สามารถในการสร้างรายได้ของเจ้าของ
ลิขสิทธิ์จากงานเดิมของตนเองโดยมาแย่ง
ความต้องการในงานดังกล่าวไป มีแนว
โน้มว่าจะไม่ใช่การใช้ที่เป็นธรรม
ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์
9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
1.งานวรรณกรรม เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน
สิ่งพิมพ์ คำปราศรัย โปรแกรมคอมพิวเตอร์
2.งานนาฏกรรม เช่น งานที่เกี่ยวกับการรำ การเต้น
การทำท่า หรือการแสดงประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว รวมถึง
การแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย
ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์
9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
3.งานศิลปกรรม เช่น งานจิตรกรรม งานประติมากรรม
ภาพพิมพ์ งานสถาปัตยกรรม ภาพถ่าย ภาพประกอบ
4.งานดนตรีกรรม เช่น คำร้อง ทำนอง การเรียบเรียงเสียง
ประสานรวมถึงโน้ตเพลงที่แยกและเรียบเรียงเสียงประสาน
แล้ว
ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์
9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
5.งานสิ่งบันทึกเสียง เช่น เทปเพลง แผ่นคอมแพ็คดิสก์
(ซีดี) ที่บันทึกข้อมูลเสียง
6.งานโสตทัศนวัสดุ เช่น วีดีโอเทป วีซีดี ดีวีดี แผ่นเลเซอร์
ดิสก์ที่บันทึกข้อมูลประกอบด้วยลำดับของภาพหรือภาพ
ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์
9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
7.งานภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์ รวมทั้งเสียงประกอบของ
ภาพยนตร์นั้นด้วย
8.งานแพร่เสียงแพร่ภาพ เช่น การกระจายเสียงวิทยุ การ
แพร่เสียง หรือภาพทางโทรทัศน์
ประเภทของงานที่มีลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์
9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
9.งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี
หรือแผนกศิลปะ
วิดีโอประกอบการสอน
วิทยาการคำนวณ ม.3
การใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม