The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ชนิดา แก่นท้าว, 2021-02-11 10:31:22

การคำนวณปริมาณสารในปฏิกิริยาเคมี

การคำนวณสาร

บทท่ี 6 ปริมาณสมั พันธ์ 2

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
รายวชิ าวิทยาศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ เคมี

เรือ่ ง การคานวณปรมิ าณสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมี

จดั ทาโดย นางสาวกลุ สตรี สัตถาผล
นางสาวชนดิ า แกน่ ท้าว
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตรเ์ คมี

มหาวทิ ยาลัยราชภฎั อดุ รธานี



คานา

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
ชุดกิจกรรมน้ี จัดทาขึ้นเพื่อเป็นสื่อประกอบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี โดยเนื้อหาและ
วัตถุประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โดยนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เพ่ือให้นักเรียนฝึกปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ทาแบบฝึกหัด นักเรียนได้ศึกษาด้วยตนเองแก้ไข
ปญั หาระหว่างเรียนเพ่ือสร้างให้นักเรียนมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิมีความสามารถในการอ่าน คิด
วิเคราะห์ เขียนสื่อความหมายและมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดทาชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้ วิชาเคมี หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ืองปริมาณสัมพันธ์ ประกอบด้วย 3 ชุดกิจกรรมการ
เรยี นรู้ ดงั น้ี

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 1 เรอื่ ง ปฏกิ ริ ิยาเคมีและสมการเคมี
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ ที่ 2 เรื่อง การคานวณปรมิ าณสารในปฏกิ ิรยิ าเคมี
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชดุ ที่ 3 เรอื่ ง สารกาหนดปริมาณและผลได้ร้อยละ
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาเคมีชุดน้ีจะช่วยสร้างแรงจูงใจใฝ่
สัมฤทธิ์ ให้แก่นักเรียนได้เรียน เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ อย่างเข้าใจเป็นสื่อการเรียนการสอนที่
ครูผสู้ อนสามารถใช้เพ่อื พัฒนาทักษะกระบวนการเรยี นรตู้ า่ งๆทางวทิ ยาศาสตรข์ องนักเรยี นให้
มีประสิทธิภาพส่งผลให้ นักเรียนมีเจตคติท่ีดีต่อวิชา มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนที่สูงข้ึนและ
สง่ ผลให้นกั เรยี นนาไปประยุกตใ์ ช้ใน ชวี ิตประจาวันไดเ้ ป็นอยา่ งดี

คณะผู้จัดทำ



สารบญั

หน้า
คำนำ ……………..………………………………………………………………………………………ก

สำรบญั ……………..……………………………………………………………………………………ข

คำชี้แจง …………………………………..……………………………………………….……………. 1

ขนั้ ตอนกำรใชช้ ดุ กจิ กรรม ………………………………………………………………………….….. 3

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น …………………………………………………………………………..…….. 4

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ……………………..……………………………………………………….…… 5

ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ……………..……………………………………………………................. 6

แบบทดสอบหลงั เรยี น ………………….…………………………………………………………..…12

ประวตั ิผจู้ ดั ทำ ………………………….…………………………………………………................13

อำ้ งองิ ………………………………….……………………………………................................15

ภำคผนวก ………………………….………………………………………………….....................16
• ใบควำมรู้ ………………………………………………………………………………………….17
• แบบฝึกทกั ษะ ……………………………..………………………………………………….…..24
• กระดำษคำตอบกอ่ นเรียน – หลังเรยี น ………………………………………………………..29
• เฉลยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………..…..31
• เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะ …………………………………………………………………………..….37
• เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นหลงั เรยี น ……………………………………………………..…42

1

คาชแี้ จงสาหรับครู

เอกสำรฉบับนี้เป็นเอกสำรชี้แจงรูปแบบของ ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ วิชำ เคมี
เรื่องกำรคำนวณปริมำณสำรในปฏิกิริยำเคมี ตรงตำมเนื้อหำในหลักสูตรตำม
คำอธิบำยรำยวิชำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี วิชำ เคมี ช้ัน
มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 มสี ่วนประกอบดงั นี้

1. เอกสำรชุดนปี้ ระกอบดว้ ย
1.1 คำชีแ้ จงเก่ียวกบั ชดุ กจิ กรรมกำรเรียนรู้
1.2 คำช้แี จงสำหรับนกั เรียน
1.3 ขัน้ ตอนกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้
1.4 แบบทดสอบกอ่ นเรียน
1.5 ชุดกิจกรรม
1.6 แบบทดสอบหลังเรียน
1.7 ภำคผนวก

2. กำรจดั กำรชัน้ เรยี น
กำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ในขณะจัดกิจกรรม จะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม

กลุ่มละ 5-6 คน และเม่ือทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว นักเรียนจะน่ังแยกเด่ียว
เพอ่ื ทำกำรวัดผลกำรเรยี นรู้ โดยใช้แบบทดสอบหลงั เรียน

3. กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้
3.1 ป ร ะ เ มิ น ผ ล ด้ ำ น ค ว ำ ม รู้ ค ว ำ ม ก้ ำ ว ห น้ ำ ใ น ก ำ ร เ รี ย น รู้
จำกแบบทดสอบ
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
3.2 ประเมินด้ำนทกั ษะ/ทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
- ประเมินตำมสภำพจริงตำมวัตถุประสงค์ กำรปฏิบัติกิจกรรม
กำรทดลอง

2

คาชีแ้ จงสาหรับนักเรียน

1. อ่ำนคำช้แี จงเกี่ยวกบั ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ และคำชแี้ จงสำหรบั นกั เรยี นให้
เขำ้ ใจกอ่ นลงมือศึกษำชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้
2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียนจำนวน 10 ข้อ เพอ่ื ประเมนิ ควำมรูเ้ ดิมของนกั เรียน
3. นกั เรียนศกึ ษำชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ตำมข้ันตอนทีร่ ะบไุ ว้
4. ในกรณที ม่ี ีกำรแบง่ กลุ่ม ผู้นำกลมุ่ มหี น้ำที่คือ

4.1 ควบคุมกำรดำเนินกจิ กรรมภำยในกล่มุ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
4.2 เป็นผู้นำในกำรปฏิบตั กิ ิจกรรมของกลมุ่
4.3 เป็นผ้ตู ดิ ตอ่ กบั ครู เมอ่ื พบปัญหำหรอื ขอ้ สงสยั
4.4 รำยงำนหรอื แจง้ ให้ครูทรำบ เม่ือปฏบิ ัติกจิ กรรมเสร็จเรียบร้อย
4.5 หลงั จำกสมำชิกภำยในกลุม่ ปฏิบัติกจิ กรรมเรยี บรอ้ ยแล้ว
รวบรวมแบบบันทกึ กจิ กรรม แบบฝึกหัด แบบบนั ทึกผล แบบทดสอบ สง่ ครูตำม
กำหนดเวลำ
5. ทำแบบทดสอบหลังเรยี นจำนวน 10 ขอ้ เพื่อทรำบควำมกำ้ วหนำ้ ในกำรเรียน
ของนกั เรยี นหลงั จำกทำกจิ กรรมเสรจ็ เรยี บรอ้ ยในแต่ละชดุ
6. แจง้ คะแนนทท่ี ำไดจ้ ำกแบบทดสอบหลังเรียนทกุ ชดุ เพอื่ ประเมินดำ้ นควำมรู้
จำกกำรทำกิจกรรรมตำมชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
7. หลงั จำกกำรทำกจิ กรรมเสร็จแลว้ ให้นักเรยี นเก็บวสั ดกุ ำรเรยี นอุปกรณ์
ประกอบชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ให้เรยี บรอ้ ย
8. ในกำรทำกิจกรรมตำมชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรูท้ กุ ชดุ ขอให้นกั เรยี นทำด้วยควำม
ตง้ั ใจใหค้ วำมรว่ มมอื และมีควำมซ่ือสตั ยต์ ่อตนเองใหม้ ำกทีส่ ุดโดยไมด่ ูเฉลยก่อน
ทำกจิ กรรม
9. ในกรณนี กั เรยี นเรียนไมท่ นั หรือไมเ่ ขำ้ ใจสำมำรถรับชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ไป
ศึกษำเพมิ่ เตมิ

3

ข้ันตอนการใชช้ ุดกจิ กรรม

อ่ำนคำช้แี จงของนกั เรยี นในกำรใช้ชดุ กิจกรรม

ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

ศกึ ษำสำระกำรเรียนรู้ จุดประสงค์กำรเรียนรู้

ดำเนินกำรใช้ชุดกิจกรรม
ศกึ ษำขั้นตอนกำรทำกิจกรรม

ปฏิบัติกจิ กรรม
ปฏิบัตเิ สริมทักษะกำรเรียนรู้

ทำแบบทดสอบหลงั เรียน

4

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

คาชแ้ี จง : 1. แบบทดสอบจานวน 10 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน
2. จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดยี ว และใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท (x)
ลงในกระดาษคาตอบ ใชเ้ วลา 30 นาที

1.ข้อใดต่อไปนบี้ อกควำมหมำยของปรมิ ำณสำรสมั พนั ธ์ 7. ขอ้ ใดต่อไปนก้ี ลำ่ วถงึ กฎของเกย-์ ลสู แซกไดถ้ กู ตอ้ ง

(Stoichiometry) ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. ปรมิ ำตรของสำรตง้ั ตน้ ที่เป็นแกส๊ สำมำรถแสดงดว้ ย

ก. ควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ งปรมิ ำณสำรตงั้ ตน้ และปริมำณ อตั รำสว่ นของตวั เลขจำนวนเตม็ ทม่ี คี ำ่ นอ้ ย

สำรผลิตภัณฑ์ ข. ทอี่ ุณหภูมแิ ละควำมดนั คงที่ ปริมำตรของสำรตงั้ ตน้

ข. ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งปรมิ ำณสำรตง้ั ตน้ ท่ใี ช้ไปและ สำมำรถเขียนแสดงดว้ ยอตั รำส่วนทีเ่ ปน็ ตวั เลขจำนวน

ปริมำณสำรผลติ ภณั ฑท์ ีเ่ กิดขนึ้ ในปฏิกริ ิยำเคมี เต็มทม่ี คี ่ำน้อย

ค. ปริมำณสำรผลติ ภัณฑ์ที่เกิดขน้ึ ค. ที่อณุ หภูมิและควำมดนั คงท่ี ปริมำตรของสำรตง้ั ตน้

ง. ปริมำณสำรตงั้ ตน้ ทล่ี ดลง และผลิตภณั ฑท์ ่ีเป็นแกส๊ สำมำรถเขยี นแสดงดว้ ย

2. จำกสมกำร ถ้ำต้องกำรอะลูมเิ นยี มโบรไมด์ 0.6 โมล อตั รำส่วนของตวั เลขจำนวนเตม็ ท่มี คี ำ่ นอ้ ย

จะต้องใชโ้ บรมนี ก่กี รัม ง. ทอ่ี ุณหภูมิและควำมดนั คงที่ ปริมำตรของสำรตง้ั ตน้

2Al+3Br2 →2AlBr3 และผลติ ภัณฑ์สำมำรถเขยี นแสดงดว้ ยอตั รำสว่ นของ

ก. 0.3 ข. 0.5 ค. 0.7 ง. 0.9 ตวั เลขจำนวนเตม็ ท่มี คี ่ำนอ้ ย

3. ปฏกิ ิริยำเผำไหมแ้ กส๊ มเี ทนเกดิ ขนึ้ ดงั สมกำร 8. แก๊สไนโตรเจน 30 มลิ ลิลิตร ท่ี STP ทำปฏิกิรยิ ำพอดี

CH4+2O2 → CO2+2H2 กบั แก๊สไฮโดรเจน 90 มลิ ลลิ ติ รไดแ้ ก๊สชนดิ หน่ึง ปรมิ ำตร
จำกปฏกิ ริ ิยำกำรเผำไหม้ของแกส๊ มีเทน 24 กรมั จะมี
60 มิลลิลิตร จงหำสตู รโมเลกลุ ของแกส๊ ทเ่ี กดิ ขึ้น

มวลของไอนำ้ เกดิ ขน้ึ กก่ี รมั ก. NH ข. NH3 ค. N2H6 ง. NH4

ก. 24.2 ข. 28.6 ค. 49.3 ง. 53.9 9. NH3+ O2 → NO+ H2O −−−−1

4. C2H6O+Na → C2H5ONa+ H2 (สมกำรยังไมด่ ลุ ) NO+ CH4 → HCN + H2O + H2 −−−−2
จำกสมกำรขำ้ งตน้ ถำ้ ใช้แกส๊ ไฮโดรเจน 0.2 โมล ควำม แก๊สไฮโดรเจนไซยำไนดส์ ำมำรถเตรยี มไดด้ ังนี้ (สมกำร

หนำแน่นของเอทำนอลเทำ่ กบั 0.789 กรัมต่อมลิ ลิลิตร ยังไม่ดลุ ) ถำ้ ใชแ้ กส๊ ออกซเจน 15.0 ลิตร จะเกดิ แกส๊

จะตอ้ งใชป้ ริมำณของเอทำนอลกมี่ ลิ ลลิ ิตรในปฏกิ ริ ยิ ำ ไฮโดรเจนไซยำไนดก์ ล่ี ิตร

ก. 15.6 ข. 23.4 ค. 30.2 ง. 43.5 ก. 10.0 ข. 11.0 ค. 12.0 ง. 13.0

5. Pb(NO3)2 + KI →PbI2+KNO3 (สมกำรยงั ไมด่ ุล) 10. CS2+3Cl2 → S2Cl2 + CCl4 −−−−1
ถำ้ ใช้โพแทสเซียมไอโอไดดเ์ ขม้ ขน้ 0.5 โมลตอ่ ลิตร 8S2Cl2+4CS2 → 3S8 +4CCl4 −−−−2

ปรมิ ำตร 4.0 มลิ ลลิ ิตร ทำปฏกิ ริ ยิ ำพอดกี ับสำรละลำย จะต้องใชแ้ กส๊ คลอรนี กกี่ โิ ลกรัมในสังเครำะหค์ ำรบ์ อนเต

เลด (II) ไนเทรตปรมิ ำตร 1.0 มลิ ลิลติ ร จะต้องใชค้ วำม ตระคลอไรด์ 5.00 กโิ ลกรมั

เขม้ ขน้ ของสำรละลำยเลด (II) ไนเทรตก่ีโมลต่อลติ ร ก. 4.61 ข. 5.30 ค. 6.10 ง. 7.21

ก. 1.0 ข. 2.0 ค. 3.0 ง. 4.0

6. C + 2H2 → CH4 ท่ี STP ถำ้ ใช้แกส๊ ไฮโดรเจน
13.44 ลติ ร จะทำปฏิกริ ิยำพอดกี บั ถำ่ นกก่ี รมั

ก. 1.60 ข. 2.60 ค. 3.60 ง. 4.60

5

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชดุ ท่ี 2
เรอื่ ง การคานวณปรมิ าณสารในปฏิกิรยิ าเคมี
รายวชิ า เคมี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 3 ชว่ั โมง

สาระเคมี

2. เข้าใจการเขียนและดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี
อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-
เบส ปฏิกริ ิยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทัง้ การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้

2. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั มวลสาร
3. คานวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมที เ่ี กี่ยวข้องกับความเข้มข้นของ
สารละลาย
4. คานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมที เี่ กยี่ วขอ้ งกบั ปรมิ าตรแก๊ส
5. คานวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีหลายข้ันตอน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
1. คานวณปริมาณของสารในปฏกิ ิริยาเคมที เี่ กีย่ วข้องกบั มวลสาร
2. คานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของ

สารละลาย
3. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ิยาเคมีที่เก่ียวข้องกบั ปริมาตรแก๊ส
4. คานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมี โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างโมล มวล

ความเขม้ ข้นปละปริมาตรของแก๊ส
5. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมหี ลายขน้ั ตอน

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. การใชต้ วั เลข
2. การประยุกต์

6

ขั้นตอนการทากจิ กรรม

คาชแี้ จง : 1. ชุดกจิ กรรมนมี้ ที ัง้ หมด 2 กิจกรรม รวม 10
คะแนน ใชเ้ วลา 1 ช่ัวโมง

2. ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนและตอบคาถามตอ่ ไปนี้

กจิ กรรมท่ี 1

1. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 4 กลมุ่ เท่า ๆ กนั
2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษาชดุ กิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง การทดลองปฏกิ ิรยิ าเคมี

ระหว่างแก๊สออกซิเจนและแกส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์
3. นกั เรยี นทาการทดลองและบันทกึ ผลการทดลองลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรมที่

1.4.1 ตารางบนั ทึกผลการทดลอง
4. คานวณอัตราส่วนโดยปริมาตรของแกส๊ จากผลการทดลองและบันทึกผลลงใน

แบบบันทึกกจิ กรรมที่ 1.4.2 การคานวณอตั ราส่วนโดยปรมิ าตรของแก๊สที่ทา
ปฏิกริ ยิ าพอดี

กจิ กรรมท่ี 2

1. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสรุปองคค์ วามรู้ลงในแบบบันทกึ กจิ กรรมท่ี 2.1 สรปุ ผล
การทดลองปฏกิ ิรยิ าเคมีระหวา่ งแกส๊ ออกซิเจนและแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์
2. นักเรียนร่วมกันตอบคาถามในกจิ กรรมท่ี 2.2 คาถามทา้ ยการทดลอง

7

1 การทดลองปฏิกริ ิยาเคมีระหว่างแก๊สออกซเิ จน
และแกส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์

1.1 จุดประสงค์

1. ทดลองปฏิกิริยาเคมีระหว่างแก๊สออกซิเจนและแก๊สไนโตรเจน
มอนอกไซด์

2. หาอัตราส่วนโดยปริมาตรของแก๊สออกซิเจนต่อแก๊สไนโตรเจน
มอนอกไซดท์ ่ีทาปฏกิ ิริยาพอดีกนั

1.2 วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสารเคมี

สารเคมี
1. ทองแดง (Cu) ช้ินเล็ก ๆ
2. สารละลายกรดไนทริก (HNO3) 6 mol/L
3. โพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต (KMnO4)
วสั ดแุ ละอุปกรณ์
1. หลอดทดลองขนาดใหญ่
2. จกุ ยางท่เี สียบหลอดนาแกส๊ พรอ้ มสายพลาสตกิ สาหรบั ปิด

หลอดทดลองขนาดใหญ่
3. หลอดทดลองขนาดกลาง (ทีม่ ีขนาดเท่ากัน)
4. ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ รอ้ มทก่ี ้ันลม
5. กระบอกตวงขนาด 100 mL
6. อ่างนา้ ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางประมาณ 30 cm และสงู

ประมาณ 12 cm

8

1.3 วิธีการทดลอง

ตอนที่ 1 การเตรียมแกส๊ ออกซเิ จนและแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์
1. เตรียมแก๊สออกซิเจน โดยเผา KMnO4 3.0 กรัม ในหลอด

ทดลองขนาดใหญ่ เก็บแก๊สโดยการแทนท่ีน้าในหลอดทดลอง
ขนาดกลาง 4 หลอด
2. เตรียมแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์ โดยใช้ Cu 2.0 กรัม ใส่ใน
หลอดทดลองขนาดใหญ่ หยด HNO3 6 mol/L ลงไป 10.0 mL
เกบ็ แกส๊ โดยการแทนทนี่ ้าในหลอดทดลองขนาดกลาง 4 หลอด
ดังรปู

9

วิธีการทดลอง

ตอนท่ี 2 ปฏิกิริยาระหว่างแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์และแก๊ส
ออกซิเจน
1. ใส่น้าให้เต็มกระบอกตวงขนาด 100.0. mL แล้วคว่าลงในอ่าง

นา้ ให้ปากกระบอกตวงอยใู่ ตผ้ ิวน้าประมาณ 1 cm
2. นาแกส๊ ออกซิเจนที่เตรียมไว้จากตอนที่ 1 มา 1 หลอด ถ่ายเข้า

สูก่ ระบอกตวงในข้อ 1 อา่ นปรมิ าตรของแกส๊ ออกซเิ จน ดังรูป

3. นาแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์ท่ีเตรียมไว้จากตอนท่ี 1 มา 1
หลอด ถ่ายเข้าสู่กระบอกตวงท่ีใส่แก๊สออกซิเจนไว้แล้วสังเกต
การเปล่ียนแปลง เมื่อระดับน้าในกระบอกตวงคงที่ บันทึก
ปริมาตรของแก๊สเหนือระดับน้า

4. ทดสอบแกส๊ ท่ีเหลอื โดยใชแ้ ผ่นกระจกปิดปากกระบอกตวงขณะ
อยู่ใต้น้าแล้วหงายขึ้นและใช้ธูปหรือก้านไม้ขีดท่ีเหลือแต่ถ่าน
แดง ๆ จ่อทป่ี ากกระบอกตวง สังเกตการเปลย่ี นแปลง

5. ทาการทดลองข้อ 1 – 4 ซา้ จนหมดแก๊สทีเ่ ตรยี มไว้

10

1.4 บนั ทึกผลการทดลอง

1.4.1 บันทึกปรมิ าตรของแก๊สออกซเิ จน

คร้ังที่ ปรมิ าตรแกส๊ ออกซิเจน ปริมาตรของแก๊สทเ่ี หลือ
(mL) (mL)

1
2
3

1.4.2 คานวณอตั ราส่วนโดยปรมิ าตรของแก๊สทที่ าปฏิกริ ยิ าพอดี

คร้ังที่ ปริมาตร O2 ปริมาตร NO อัตราส่วนของ

(mL) (mL) O2 : NO โดยปริมาตร

1

2

3

แสดงวิธกี ารคานวณ
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
.........................................................................................
........................................................

11

2 สรปุ ผลการทดลองปฏกิ ริ ิยาเคมีระหวา่ งแกส๊
ออกซเิ จนและแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์

2.1 สรุปผลการทดลอง

....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................
....................................................................................................

2.2 คาถามทา้ ยการทดลอง

1. ผสมแกส๊ ออกซิเจนกบั แกส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์เขา้ ดว้ ยกัน
ปรมิ าตรของแก๊สในกระบอกตวงเปลีย่ นแปลงอย่างไร เหตุใดจึงเป็น
เช่นนน้ั
.......................................................................................
.......................................................................................
.......................................................................................
2. แกส๊ ทีเ่ หลอื อยใู่ นกระบอกตวงคือแก๊สชนิดใด ทราบไดอ้ ยา่ งไร
.......................................................................................
.......................................................................................
3. จากผลการทดลอง อตั ราสว่ นโดยปรมิ าตรของแกส๊ ทที่ าปฏกิ ริ ยิ า
กันพอดเี ป็นเท่าใด
.......................................................................................
.......................................................................................
.......................................................................................
.......................................................................................

12

แบบทดสอบหลงั เรียน

คำชี้แจง : 1. แบบทดสอบจำนวน 10 ขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน
2. จงเลือกคำตอบที่ถกู ตอ้ งทสี่ ดุ เพียงข้อเดยี ว และใหน้ กั เรียนทำเคร่อื งหมำยกำกบำท (x)
ลงในกระดำษคำตอบ ใช้เวลำ 30 นำที

1. ขอ้ ใดต่อไปนก้ี ลำ่ วถึงกฎของเกย-์ ลสู แซกไดถ้ กู ตอ้ ง 6.ขอ้ ใดตอ่ ไปนบี้ อกควำมหมำยของปริมำณสำรสมั พนั ธ์

ก. ปริมำตรของสำรตงั้ ตน้ ทเี่ ป็นแกส๊ สำมำรถแสดงดว้ ย (Stoichiometry) ไดถ้ ูกตอ้ ง

อตั รำส่วนของตวั เลขจำนวนเตม็ ทีม่ ีคำ่ นอ้ ย ก. ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งปริมำณสำรตง้ั ตน้ และปรมิ ำณ

ข. ทีอ่ ุณหภมู แิ ละควำมดนั คงท่ี ปริมำตรของสำรตง้ั ตน้ สำรผลติ ภณั ฑ์

สำมำรถเขียนแสดงดว้ ยอตั รำสว่ นทเี่ ปน็ ตวั เลขจำนวน ข. ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งปรมิ ำณสำรตง้ั ตน้ ทใ่ี ชไ้ ปและ

เตม็ ที่มีคำ่ น้อย ปริมำณสำรผลิตภัณฑท์ ่ีเกดิ ขน้ึ ในปฏิกริ ยิ ำเคมี

ค. ท่ีอณุ หภูมิและควำมดนั คงท่ี ปริมำตรของสำรตงั้ ตน้ ค. ปรมิ ำณสำรผลิตภัณฑ์ท่ีเกดิ ขนึ้

และผลติ ภัณฑ์ทเี่ ป็นแกส๊ สำมำรถเขยี นแสดงดว้ ย ง. ปรมิ ำณสำรต้ังตน้ ท่ีลดลง

อัตรำส่วนของตวั เลขจำนวนเตม็ ทมี่ คี ำ่ นอ้ ย 7. จำกสมกำร ถำ้ ตอ้ งกำรอะลูมเิ นยี มโบรไมด์ 0.6 โมล

ง. ท่อี ุณหภมู แิ ละควำมดนั คงที่ ปรมิ ำตรของสำรตง้ั ตน้ จะต้องใชโ้ บรมนี กี่กรัม

และผลติ ภัณฑส์ ำมำรถเขยี นแสดงดว้ ยอตั รำสว่ นของ 2Al+3Br2 →2AlBr3

ตวั เลขจำนวนเต็มทม่ี คี ่ำนอ้ ย ก. 0.3 ข. 0.5 ค. 0.7 ง. 0.9

2. แก๊สไนโตรเจน 30 มิลลลิ ิตร ที่ STP ทำปฏิกิริยำพอดี 8. ปฏกิ ริ ิยำเผำไหมแ้ กส๊ มเี ทนเกดิ ขนึ้ ดงั สมกำร

กับแกส๊ ไฮโดรเจน 90 มลิ ลิลติ รไดแ้ ก๊สชนดิ หนงึ่ ปรมิ ำตร CH4+2O2 → CO2+2H2

60 มิลลลิ ิตร จงหำสูตรโมเลกลุ ของแกส๊ ท่เี กิดขน้ึ จำกปฏกิ ริ ยิ ำกำรเผำไหม้ของแกส๊ มเี ทน 24 กรมั จะมี

ก. NH ข. NH3 ค. N2H6 ง. NH4 มวลของไอนำ้ เกดิ ขน้ึ กกี่ รมั

3. NH3+ O2 → NO+ H2O −−−−1 ก. 24.2 ข. 28.6 ค. 49.3 ง. 53.9

NO+ CH4 → HCN + H2O + H2 −−−−2 9. C2H6O+Na → C2H5ONa+ H2 (สมกำรยงั ไม่ดลุ )
แกส๊ ไฮโดรเจนไซยำไนดส์ ำมำรถเตรียมไดด้ งั น้ี (สมกำร จำกสมกำรขำ้ งตน้ ถ้ำใชแ้ ก๊สไฮโดรเจน 0.2 โมล ควำม

ยังไม่ดุล) ถ้ำใช้แกส๊ ออกซเจน 15.0 ลิตร จะเกิดแกส๊ หนำแน่นของเอทำนอลเท่ำกบั 0.789 กรมั ตอ่ มลิ ลิลิตร

ไฮโดรเจนไซยำไนดก์ ลี่ ติ ร จะต้องใชป้ ริมำณของเอทำนอลกม่ี ลิ ลิลิตรในปฏกิ ิรยิ ำ

ก. 10.0 ข. 11.0 ค. 12.0 ง. 13.0 ก. 15.6 ข. 23.4 ค. 30.2 ง. 43.5

4. CS2+3Cl2 → S2Cl2 + CCl4 −−−−1 10. Pb(NO3)2 + KI →PbI2+KNO3 (สมกำรยงั ไม่ดลุ )
8S2Cl2+4CS2 → 3S8 +4CCl4 −−−−2 ถำ้ ใช้โพแทสเซียมไอโอไดดเ์ ขม้ ขน้ 0.5 โมลตอ่ ลติ ร

จะตอ้ งใชแ้ กส๊ คลอรนี กก่ี โิ ลกรัมในสงั เครำะหค์ ำรบ์ อนเต ปริมำตร 4.0 มิลลลิ ิตร ทำปฏิกริ ยิ ำพอดีกบั สำรละลำย

ตระคลอไรด์ 5.00 กโิ ลกรมั เลด (II) ไนเทรตปรมิ ำตร 1.0 มลิ ลิลิตร จะตอ้ งใชค้ วำม

ก. 4.61 ข. 5.30 ค. 6.10 ง. 7.21 เข้มข้นของสำรละลำยเลด (II) ไนเทรตกี่โมลต่อลิตร

5. C + 2H2 → CH4 ท่ี STP ถำ้ ใชแ้ กส๊ ไฮโดรเจน ก. 1.0 ข. 2.0 ค. 3.0 ง. 4.0

13.44 ลิตร จะทำปฏกิ ริ ยิ ำพอดีกบั ถ่ำนกกี่ รัม

ก. 1.60 ข. 2.60 ค. 3.60 ง. 4.60

13

ประวัตผิ ู้จัดทา

ชือ่ –สกุล : นำงสำวกลุ สตรี สัตถำผล

วัน เดือน ปีเกิด : 07 กรกฎำคม 2541

เบอรโ์ ทร : 061-5291627

สถานท่เี กิด : 116 หมู่ 4 บำ้ นห้วยบำง ตำบลวำรชิ ภูมิ อำเภอวำรชิ ภูมิ

จงั หวดั สกลนคร 47150

สถานท่ีอยปู่ ัจจุบัน : 116 หมู่ 4 บ้ำนหว้ ยบำง ตำบลวำริชภมู ิ อำเภอวำริภูมิ

จงั หวดั สกลนคร 47150

E–mail : [email protected]

ประวัติการศึกษา

วุฒกิ ารศึกษา ชอ่ื สถาบนั ปีที่สาเร็จการศึกษา

ประถมศกึ ษำปีที่ 6 โรงเรียนอนุบำลวำริชภมู ิ 2553

มัธยมศึกษำปที ่ี 6 โรงเรียนวำรชิ วิทยำ 2559

ครุศำสตรบัณฑติ มหำวิทยำลยั รำชภัฏอุดรธำนี (ปัจจุบนั )

14

ประวัตผิ จู้ ัดทา

ชอื่ –สกลุ : นำงสำวชนดิ ำ แกน่ ท้ำว

วนั เดอื น ปเี กดิ : 27 มนี ำคม 2541

เบอร์โทร : 095-6460790

สถานทเ่ี กิด : 26 หมู่ 10 บ้ำนโพนงำม ตำบลโพนงำม อำเภอกมลำไสย

จังหวดั กำฬสินธ์ุ 46130

สถานทีอ่ ยปู่ จั จบุ ัน : 26 หมู่ 10 บำ้ นโพนงำม ตำบลโพนงำม อำเภอกมลำไสย

จงั หวดั กำฬสินธ์ุ 46130

E–mail : [email protected]

ประวตั กิ ารศกึ ษา

วฒุ ิการศึกษา ชือ่ สถาบนั ปที ่สี าเรจ็ การศึกษา

มัธยมศกึ ษำปที ี่ 6 โรงเรียนกมลำไสย 2559

ครุศำสตรบัณฑิต มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั อุดรธำนี (ปจั จุบัน)

15

อ้างองิ

กระทรวงศึกษำธิกำร. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช
2551.กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย.

สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2559).คมู่ อื ครู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ
เคมี เล่ม 2 (พมิ พ์คร้ังท่ี 3). กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.

สถำบนั สง่ เสรมิ กำรสอนวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2559). หนงั สือเรียน รายวิชา
เพ่มิ เติม เคมี เลม่ 2 (พมิ พ์คร้งั ท่ี 9). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ สกสค.

ภาคผนวก

ใบความรู้

ใบความรู้

การคานวณปรมิ าณสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมี

เมื่อสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีสำรตั้งต้นมีปริมำณลดลงส่วนผลิตภัณฑ์จะมี
ปริมำณเพ่ิมขึ้นกำรศึกษำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงปริมำณสำรตั้งต้นท่ีใช้ไปและ
ปริมำณผลิตภณั ฑท์ ีเ่ กิดข้ึนในปฏกิ ิริยำเคมีเรยี กวำ่ ปริมำณสัมพันธ์ (stoichiometry)
โดยควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงปรมิ ำณสำรเหล่ำนี้พิจำรณำได้จำกควำมสัมพันธ์ของเลข
สมั ประสิทธิ์ในสมกำรเคมี

นักเรียนทรำบแลว้ ว่ำเลขสัมประสิทธิ์ในสมกำรเคมีแสดงควำมสัมพันธ์ของ
สำรในปฏิกิริยำเคมีทั้งสำรต้ังต้นและผลิตภัณฑ์เช่นปฏิกิริยำระหว่ำงโลหะโซเดียม
กับแก๊สคลอรีน

2Na(s) + Cl2(g) → 2NaCl(s)

อัตรำส่วนโดยโมลของโลหะโซเดียมที่ทำปฏิกิริยำกับแก๊สคลอรีนและเกิด
เปน็ โซเดียมคลอไรด์เท่ำกับ 2: 1: 2 ซ่ึงสำมำรถนำไปใช้ในกำรคำนวณปริมำณสำร
ตำ่ ง ๆ ในสมกำรเคมไี ดด้ ังตัวอย่ำงตอ่ ไปนี้

ตวั อยำ่ ง จำกปฏิกิริยำเคมีต่อไปน้ี

2Al(s) + 3Br2(l) → 2AlBr3(s)

ถ้ำตอ้ งกำรอะลูมเิ นยี มโบรไมด์ (AIBr3) 0.6 โมลจะต้องใช้โบรมีน (Br2) กโี่ มล
วิธีทำ จำกสมกำรเคมี Br2 3 mol เกิดปฏิกิริยำเคมีได้ AIBr3 2 mol แสดงว่ำ
อัตรำส่วนโดยโมลของ Br2: AIBr3 = 3:2 ซ่ึงเขียนแฟกเตอร์เปล่ียนหน่วยท่ี
ต้องกำรใชไ้ ด้ดงั น้ี

3 mol Br2

2 mol AlBr3
คำนวณโมลของ Br2 ทจ่ี ะตอ้ งใช้ เมือ่ ตอ้ งกำรให้เกิด AlBr3 0.6 mol ไดด้ ังน้ี
3 mol Br2
โมลของ Br2 = 0.6 mol AlBr3 × 2 mol AlBr3

= 0.9 mol Br2
ดงั นน้ั ถำ้ ตอ้ งกำรอะลูมิเนยี มโบรไมด์ 0.6 โมล จะต้องใช้โบรมนี 0.9 โมล

เน่ืองจำกโมลมีควำมสัมพันธ์กับจำนวนอนุภำค มวล ปริมำตรของแก๊สที่ STP
ดังนั้นจึงสำมำรถคำนวณปริมำณของสำรในปฏิกิริยำเคมีได้ ในที่นี้จะศึกษำ
ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงมวลของสำรควำมเข้มข้นของสำรและปริมำตรของแก๊สใน
ปฏิกิรยิ ำเคมี

1. การคานวณปรมิ าณสารท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั มวล

ในทำงปฏิบัตินิยมวัดปริมำณสำรเป็นมวล เนื่องจำกสะดวกต่อกำรวัด มวลของ

สำรมีควำมสัมพันธ์กับจำนวนโมล จึงสำมำรถเช่ือมโยงควำมสัมพันธ์ระหว่ำง

จำนวนโมล ของสำรในสมกำรเคมีกับมวลของสำรได้ โดยใช้มวลต่อโมลในกำร

เปลย่ี นโมลให้เปน็ มวลของสำร ดงั ตวั อยำ่ งกำรคำนวณต่อไปน้ี

ตัวอยำ่ ง จำกปฏิกิริยำเคมตี ่อไปน้ี

8Zn(s) + S8(s) → 8ZnS(s)
ตอ้ งใชก้ ำมะถนั (S8) โมลจึงจะทำปฏกิ ิรยิ ำพอดีกบั โลหะสงั กะสี (Zn) 5.22 กรัม
วธิ ที ำ

ข้นั ที่ 1 พิจำรณำสมกำรเคมวี ำ่ ดุลแลว้ หรอื ไมซ่ งึ่ จำกโจทยส์ มกำรดุลแล้ว

8Zn(s) + S8(s) → 8ZnS(s)
ขน้ั ท่ี 2 ระบแุ ฟกเตอร์เปลย่ี นหน่วยท่ีจะใช้

1 mol Zn (จำกมวลต่อโมลของ Zn = 65.38 g/mol)
65.38 g Zn
1 mol S8
8 mol Zn (จำกสมกำรเคมีอัตรำสว่ นโดยโมลของ Zn: S8 = 8: 1)

ขัน้ ที่ 3 คำนวณโมลของ S8 1 mol Zn ×18 mol S8
65.38 g Zn mol Zn
โมลของ S8 = 5.22 g Zn x

ดังน้ัน = 9.98 x 10−3 xmo1l0S−83 โมลจึงจะทำปฏิกิริยำพอดีกับโลหะสังกะสี
ต้องใช้กำมะถัน 9.98

5.22 กรัม

2. การคานวณปริมาณสารที่เกย่ี วขอ้ งกับความเข้มข้น
ปฏิกิริยำเคมีหลำยชนิดอยู่ในรูปสำรละลำย สำรที่ทำปฏิกิริยำเคมีกันคือตัว

ละลำยโดยปริมำณของตัวละลำยในสำรละลำยแสดงในรูปของควำมเข้มข้น ซ่ึงมี
หลำยหน่วย สำหรับวิชำเคมีนิยมใช้หน่วยโมลำร์หรือโมลต่อลิตร เนื่องจำกมี
ควำมสัมพันธ์กับจำนวนโมลโดยตรง จึงสำมำรถเช่ือมโยงควำมสัมพันธ์ระหว่ำง
จำนวนโมลของสำรในสมกำรเคมีกับหน่วยควำมเข้มข้นของสำรละลำยได้กำร
คำนวณปรมิ ำณสำรสำหรับปฏกิ ิรยิ ำเคมีทเี่ ป็นสำรละลำยแสดงดงั ตวั อยำ่ งตอ่ ไปนี้

ตัวอยำ่ ง สำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ปริมำตร 50.0 มลิ ลลิ ติ รทำ
ปฏกิ ิรยิ ำพอดกี บั สำรละลำยกรดซัลฟรู ิก (H2SO4) เขม้ ข้น 0.200 โมลตอ่ ลิตร
ปริมำตร 12.4 มลิ ลลิ ติ รสำรละลำยโซเดยี มไฮดรอกไซด์มีควำมเข้มขน้ ก่ีโมลตอ่ ลติ ร
ปฏิกริ ยิ ำเคมีที่เกิดขนึ้ เป็นดงั น้ี

H2SO4(aq) + NaOH (aq) → Na2SO4(aq) + H2O(I)

วธิ ที ำ
ขั้นท่ี 1 พจิ ำรณำสมกำรเคมวี ่ำดุลแลว้ หรอื ไม่ ซง่ึ จำกโจทย์สมกำรยังไม่ดุลจงึ

ดุลสมกำรดงั น้ี
H2SO4(aq) + 2NaOH (aq) → Na2SO4(aq) + 2H2O(I)

ขั้นท่ี 2 ระบแุ ฟกเตอร์เปลี่ยนหนว่ ยทีจ่ ะใช้
10100LmHL2HS2OS4Oso4lsnoln และ 0.120L0Hm2SoOl H42sSolOn4

(จำก 1L = 1000 mL และควำมเข้มข้นของ H2SO4= 0.200 mol/L)
2 mol NaOH

1 mol H2SO4

(จำกสมกำรเคมอี ัตรำส่วนโดยโมลของH2SO4: NaOH = 1: 2)
1 1000 mL NaOH soln

50.0 mL NaOH soln และ 1 L NaOH soln

(จำกปรมิ ำตรของ NaOH = 50.0 mL และ 1L = 1000 mL)

ข้ันที่ 3 คำนวณควำมเขม้ ข้นของ NaOH

ควำมเข้มขน้ ของ NaOH โจทยก์ ำหนด

= 12.4 mL H2SO4 soln x 10010Lm1HL2HSO2S4Oso4lnsoln10x000.1m20LL0HNm2aOSoOlHH4s2soSolnlOn4
2 mol NaOH
x 1 mol H2SO4 x 50.0 mL NaOH soln x 1 L NaOH soln
= 9.92 x 10−2 mol NaOH/L NaOH soln

ดงั น้นั สำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซดเ์ ขม้ ข้น 9.92 x 10−2 โมลต่อลิตร

3. การคานวณปรมิ าณสารท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ปรมิ าตรของแก๊ส

สำหรับแก๊สซ่ึงมีมวลน้อยมำก กำรวัดมวลของแก๊สทำได้ยำกจึงนิยมวัดปริมำตร

ของแกส๊ ซ่งึ สำมำรถคำนวณไดด้ ังน้ี

การคานวณปรมิ าตรของแกส๊ ที่ STP

กำรคำนวณปริมำตรของแก๊สท่ีเกี่ยวข้องในปฏิกิริยำเคมี สำมำรถใช้

ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงโมลกับปริมำตรของแกส๊ ท่ี STP ดังตัวอย่ำงต่อไปน้ี

ตวั อยา่ ง ปฏกิ ิริยำเคมีต่อไปนี้
C (s) + 2H2(g) → CH4(g)

ท่ี STP ถ้ำใช้แก๊สไฮโดรเจน 13.44 ลิตร จะทำปฏกิ ริ ิยำพอดกี ับถ่ำนกก่ี รมั

แนวคดิ ใชป้ รมิ ำตรของแกส๊ H2ที่โจทย์กำหนดเพ่ือหำจำนวนโมลของ H2จำกนน้ั
ใชส้ มกำรเคมเี พือ่ จำนวนโมลของ C แล้วเปลย่ี นเป็นมวลดังน้ี

L H2 → mol H2 → mol C → g C

โจทยก์ ำหนด โจทยใ์ ห้หำ

วิธีทำ

ขั้นที่ 1 พิจำรณำสมกำรเคมีวำ่ ดลุ แลว้ หรอื ไม่ ซ่งึ จำกโจทยส์ มกำรดลุ แลว้

ขั้นที่ 2 ระบุแฟกเตอร์เปล่ยี นหนว่ ยท่ีจะใช้
1 mol H2
22.4 L H2

(จำกแก๊ส 1 mol มปี ริมำตร 22.4 L ที่ STP)
1 mol C

2 mol H2
(จำกสมกำรเคมีอตั รำส่วนโดยโมลของ C : H2= 1: 2)

12.01 g C

1 mol C
(จำกมวลต่อโมลของ C = 12.01 g/mol)

ขั้นท่ี 3 คำนวณมวลของ C

มวลของ C = 13.44 L H2 X 1 mol H2 x 1 mol C x 12.01 g C
22.4 L H2 2 mol H2 1 mol C

= 3.60 g C

ดังนั้น แกส๊ ไฮโดรเจน 13.44 ลิตรจะทำปฏกิ ิริยำพอดกี บั ถำ่ น 3.60 กรมั ที่ STP

ปฏกิ ริ ิยาเคมขี องแกส๊
สำรประกอบหนง่ึ ๆ เกดิ จำกกำรรวมตัวของธำตุต้ังแต่สองชนิดขึ้นไป และ

มอี ตั รำส่วนโดยมวลของธำตุท่ีเปน็ องคป์ ระกอบคงท่ีเสมอ ถ้ำนำแก๊สสองชนิดมำ

ทำปฏิกิริยำกัน อัตรำส่วนโดยปริมำตรระหว่ำงแก๊สทั้งสองท่ีทำปฏิกิริยำพอดีกัน

จะเป็นอย่ำงไร ศึกษำได้จำกกจิ กรรมต่อไปน้ี

4. การคานวณปรมิ าณสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีหลายขั้นตอน

ปฏิกิริยำเคมีบำงชนิดอำจมีหลำยข้ันตอน จึงมีสมกำรเคมีที่เก่ียวข้องหลำย

สมกำร เช่น กำรถลุงโลหะสังกะสี ทำได้โดยนำซิงค์ออกไซด์และผงคำร์บอนไป

เผำที่อุณหภูมิประมำณ 1120 องศำเซลเซียส ปฏิกิริยำที่เกิดขึ้นมี 2 ข้ันตอน

เขียนสมกำรเคมีไดด้ งั นี้

2C(s) + O2(g) → 2CO (g) …..(1)

ZnO (s) + CO (g) → Zn (s) + CO2(g) …..(2)

จะเห็นว่ำสมกำร (1) และ (2) มีควำมเกี่ยวข้องกัน โดยมีสำรที่เป็นตัวร่วม

ของทั้งสองสมกำรในที่นี้คือ CO ซ่ึงอยู่ด้ำนตรงข้ำมกัน ถ้ำต้องกำรรวมสมกำร

เคมีท้ังสองทำได้โดยทำจำนวนโมลของสำรท่ีเป็นตัวร่วมของทั้งสองสมกำรให้

เทำ่ กัน แลว้ นำไปหักล้ำงกัน ดังนี้

สมกำร (2) x 2: 2ZnO(s) + 2CO(g) → 2Zn(s) + 2CO2(g) …..(3)

สมกำร (1) + (3): 2C(s) + O2(g) + 2ZnO(s) + 2Co(g) → 2CO(g) + 2Zn(s) + 2CO2(g)

2C(s) + O2(g) + 2ZnO (s) + () + 2Zn (s) + 2CO2(g) …..(4)
จำกควำมสัมพันธ์ของท้ังสองสมกำรดังกล่ำว ถ้ำทรำบปริมำณของสำรใด

สำรหน่ึงในสมกำรหนึ่ง จะสำมำรถหำปริมำณของสำรในอีกสมกำรหน่ึงได้ดัง

ตัวอย่ำง แก๊สไฮโดรเจนไซยำไนด์ (HCN) สำมำรถเตรียมได้ดังน้ี (ยังไม่ดุล

สมกำร)

NH3(g) + O2(g) → NO(g) + H2O(g) …..(1)

NO(g) + CH4(g) → HCN(g) + H2O(g) + H2(g) …..(2)

ถำ้ ใชแ้ ก๊สออกซเิ จน (O2) 15.0 ลิตร จะเกิดแกส๊ ไฮโดรเจนไซยำไนดก์ ีล่ ิตร

แนวคิด โจทย์กำหนดปรมิ ำตรของ O2 ซง่ึ อยู่ในสมกำร (1) และให้คำนวณ
ปริมำตรของ HCN ซงึ่ อย่ใู นสมกำร (2) จึงตอ้ งดุลและรวมสมกำรเคมี และจำก

สมกำรเคมรี วม สำมำรถใช้ปริมำตรของ O2 ที่กำหนดให้ เพ่อื หำปริมำตรของ
HCN

วธิ ที ำ

ขั้นท่ี 1 ดุลและรวมสมกำรเคมี

4NH3(g) + 5O2(g) → 4NO(g) + 6H2O(g) …..(1)

2NO(g) + 2CH4(g) → 2HCN(g) + 2H2O(g) + H2(g) …..(2)

รวมทัง้ สองสมกำรเข้ำด้วยกัน โดยทำจำนวนโมลของสำรทเี่ ปน็ ตัวรว่ มของทงั้

สองสมกำรเท่ำกันในที่น้คี อื NO จงึ คณุ สมกำร (2) ดว้ ย 2 ดังนี้

สมกำร (2) x2; 4NO(g) + 4CH4(g) → 4HCN(g) + 4H2O(g) + 2H2(g) …..(3)
สมกำร (1) + (3); 4NH3(g) + 5O2(g) + 4CH4(g) → 4HCN(g) + 10H2O(g) +
2H2(g) …..(4)

ขั้นที่ 2 ระบแุ ฟกเตอร์เปล่ยี นหน่วยที่จะใช้

4 L HCN

5 L O2
(จำกสมกำรเคมอี ตั รำสว่ นโดยโมลของ O2: HCN = 5: 4)
ขั้นท่ี 3 คำนวณปรมิ ำตรของ HCN

ปรมิ ำตรของ HCN = 15.0 L O2 X 4 L HCN
5 L O2
= 12.0 L HCN

ดงั นนั้ ถำ้ ใช้แก๊สออกซเิ จน 15.0 ลติ ร จะเกดิ แก๊สไฮโดรเจนไซยำไนด์ 12.0 ลติ ร

แบบฝึกทกั ษะ

แบบฝึกหดั ท่ี 1
เร่ือง ปริมาณสารเคมที ี่เกยี่ วข้องกบั ความเขม้ ขน้

คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนคานวณปริมาณของสารท่ีกาหนดให้ตอ่ ไปนี้
จานวน 4 ขอ้ ขอ้ ละ 5 คะแนน

1. เมอื่ ผ่านแก๊สคลอรนี ลงในสารละลายโพแทสเซียมไฮดรอกไซดท์ รี่ อ้ น
เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมดี งั สมการ 3Cl2(g) + 6KOH(aq)→ 5KCl(aq) + KClO3(aq) +
3H2O(l)
จงคานวณ
1.1 จานวนโมลของโพแทสเซียมคลอเรตท่เี กิดข้ึน เมือ่ ใชแ้ กส๊ คลอรีน 1.86 โมล
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
1.2 มวลของโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ เมอ่ื ตอ้ งการโพแทสเซยี มคลอไรด์ 0.450
โมล
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

2. การผลติ กรดฟอสฟอริก (H3PO4) เพอื่ การค้าจะใชป้ ฏิกิริยาเคมีดังสมการ
Ca3(PO4)2(s) + 3H2SO4(aq) + 6H2O(l)→ 3CaSO4⋅2H2O(s) +
2H3PO4(aq)

จงคานวณมวลของกรดซลั ฟิวริกเข้มขน้ ท่ีต้องใช้ทาปฏกิ ริ ิยาพอดีกับแคลเซียม
ฟอสเฟต 100.0 กรัม
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

3. แอสไพรนิ (C9H8O4) สงั เคราะห์ได้จากปฏกิ ิรยิ าเคมีระหวา่ งกรดซาลซิ ิลิก
(C7H6O3) และแอซีตกิ แอนไฮไดรด์ (C4H6O3) ดังสมการ
ถา้ ใชก้ รดซCาล7ซิHิล6กิ O53.(0s)0+×C140H26กOร3ัม(lจ)→งคาCน9วHณ8O4(s) + C2H4O2(l)
3.1 มวลของแอสไพรนิ ท่เี กดิ ขน้ึ จากปฏกิ ิรยิ าเคมี
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
3.2 ปริมาตรของแอซตี ิกแอนไฮไดรด์ท่ตี อ้ งใชใ้ นการทาปฏกิ ริ ยิ าเคมี เมือ่ แอซีตกิ
แอนไฮไดรด์มคี วามหนาแนน่ 1.082 กรัมต่อมลิ ลิลิตร
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

4. จะต้องใช้อากาศก่ีกรัม เพื่อเผาไหมถ้ ่านหิน 120.0 กรมั ถา้ ถา่ นหนิ
ประกอบดว้ ยคาร์บอนร้อยละ 95.0 และสว่ นประกอบอน่ื ท่ไี มเ่ กิดการเผาไหม้ร้อย
ละ 5.0 โดยมวล กาหนดให้อากาศมีแก๊สออกซิเจนเปน็ องคป์ ระกอบร้อยละ 23.0
โดยมวล
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

แบบฝึกหดั ท่ี 2

เรือ่ ง ปริมำณสำรเคมีท่ีเก่ียวข้องกับปริมำตรของแกส๊

คาชแี้ จง : ให้นกั เรยี นคานวณปรมิ าณของสารท่กี าหนดใหต้ อ่ ไปน้ี
จานวน 4 ขอ้ ข้อละ 5 คะแนน

1. แอมโมเนียมไฮโดรเจนฟอสเฟตนิยมนาามาใช้เป็นส่วนประกอบของปุ๋ย ซ่ึง
สังเคราะห์จากสารละลายแอมโมเนีย (NH3) และสารละลายกรดฟอสฟอริก
(H3PO4) ถ้าใช้สารละลายแอมโมเนียเข้มข้น 7.4 โมลต่อลิตร ปริมาตร 3.48
ลิตร จะตอ้ งใช้กรดฟอสฟอรกิ เขม้ ข้น12.9 โมลตอ่ ลิตร ปริมาตรกี่ลิตร
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
2. นาสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์เขม้ ข้น 1.00 โมลาร์ ปริมาตร 100 มลิ ลลิ ิตร
มาทาปฏิกิริยาเคมีกับสารละลายกรดไนทริกเข้มข้น 0.800 โมลาร์ จะต้องใช้
สารละลายกรดไนทริกก่มี ิลลลิ ิตร และได้โซเดียมไนเทรตเขม้ ข้นกโ่ี มลาร์

NaOH(aq) + HNO3(aq) → NaNO3(aq) + H2O(l)
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
3. โลหะสังกะสีทาาปฏิกิริยาเคมีกับสารละลายกรดไฮโดรคลอริก เขียนสมการ
เคมีได้ดังนี้ (สมการเคมียังไม่ดุล)

Zn(s) + HCl(aq) →H2(g) + ZnCl2(aq)
ถ้าใช้โลหะสังกะสี 13.07 กรัม จะต้องใช้สารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น
2.0 โมลตอ่ ลิตรปริมาตรก่ีมิลลลิ ิตร
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................

4. ปฏิกิริยาเคมีระหว่างโลหะทองแดงและสารละลายซิลเวอร์ไนเทรต เขียนแสดง
ไดด้ งั นี้ (สมการเคมยี ังไมด่ ุล)

Cu(s) + AgNO3(aq) →Ag(s) + Cu(NO3)2(aq)
ถ้าใช้สารละลายซิลเวอร์ไนเทรตเข้มข้น 2.50 โมลต่อลิตร ปริมาตร 5.0 ลิตร ทา
ปฏกิ ิรยิ าพอดกี ับโลหะทองแดง จะได้โลหะเงินก่ีกิโลกรัม
.........................................................................................................
.........................................................................................................
.........................................................................................................
.........................................................................................................
.........................................................................................................

กระดาษคาตอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี น

กระดำษคำตอบ

แบบทดสอบก่อนเรียน

ขอ้ ท่ี ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

แบบทดสอบหลงั เรียน คะแนนท่ไี ด้ =

ข้อที่ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

เฉลยชุดกจิ กรรมการเรียนรู้

1 การทดลองปฏิกริ ิยาเคมรี ะหว่างแกส๊ ออกซเิ จน
และแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์

1.1 จุดประสงค์

1. ทดลองปฏิกิริยาเคมีระหว่างแก๊สออกซิเจนและแก๊สไนโตรเจน
มอนอกไซด์

2. หาอัตราส่วนโดยปริมาตรของแก๊สออกซิเจนต่อแก๊สไนโตรเจน
มอนอกไซด์ท่ีทาปฏิกริ ยิ าพอดีกนั

1.2 วัสดุ อปุ กรณ์และสารเคมี

สารเคมี
1. ทองแดง (Cu) ช้ินเล็ก ๆ
2. สารละลายกรดไนทรกิ (HNO3) 6 mol/L
3. โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (KMnO4)
วสั ดุและอปุ กรณ์
1. หลอดทดลองขนาดใหญ่
2. จุกยางท่เี สียบหลอดนาแกส๊ พรอ้ มสายพลาสตกิ สาหรับปดิ

หลอดทดลองขนาดใหญ่
3. หลอดทดลองขนาดกลาง (ทม่ี ขี นาดเทา่ กนั )
4. ตะเกยี งแอลกอฮอล์พรอ้ มท่กี น้ั ลม
5. กระบอกตวงขนาด 100 mL
6. อ่างน้า ขนาดเส้นผา่ นศนู ย์กลางประมาณ 30 cm และสูง

ประมาณ 12 cm

1.3 วิธีการทดลอง

ตอนท่ี 1 การเตรียมแกส๊ ออกซิเจนและแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์
1. เตรียมแก๊สออกซิเจน โดยเผา KMnO4 3.0 กรัม ในหลอด

ทดลองขนาดใหญ่ เก็บแก๊สโดยการแทนท่ีน้าในหลอดทดลอง
ขนาดกลาง 4 หลอด
2. เตรียมแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์ โดยใช้ Cu 2.0 กรัม ใส่ใน
หลอดทดลองขนาดใหญ่ หยด HNO3 6 mol/L ลงไป 10.0 mL
เก็บแก๊สโดยการแทนท่นี ้าในหลอดทดลองขนาดกลาง 4 หลอด
ดังรูป

วธิ กี ารทดลอง

ตอนที่ 2 ปฏิกิริยาระหว่างแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์และแก๊ส
ออกซเิ จน
1. ใส่น้าให้เต็มกระบอกตวงขนาด 100.0. mL แล้วคว่าลงในอ่าง

น้าให้ปากกระบอกตวงอยใู่ ตผ้ วิ น้าประมาณ 1 cm
2. นาแกส๊ ออกซิเจนท่ีเตรียมไว้จากตอนท่ี 1 มา 1 หลอด ถ่ายเข้า

สู่กระบอกตวงในข้อ 1 อ่านปริมาตรของแก๊สออกซิเจน ดังรูป

3. นาแก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์ท่ีเตรียมไว้จากตอนที่ 1 มา 1
หลอด ถ่ายเข้าสู่กระบอกตวงท่ีใส่แก๊สออกซิเจนไว้แล้วสังเกต
การเปลี่ยนแปลง เม่ือระดับน้าในกระบอกตวงคงท่ี บันทึก
ปรมิ าตรของแก๊สเหนือระดบั นา้

4. ทดสอบแก๊สท่ีเหลอื โดยใชแ้ ผน่ กระจกปิดปากกระบอกตวงขณะ
อยู่ใต้น้าแล้วหงายข้ึนและใช้ธูปหรือก้านไม้ขีดที่เหลือแต่ถ่าน
แดง ๆ จ่อที่ปากกระบอกตวง สังเกตการเปลยี่ นแปลง

5. ทาการทดลองขอ้ 1 – 4 ซา้ จนหมดแกส๊ ที่เตรียมไว้

1.4 บนั ทึกผลการทดลอง

1.4.1 บนั ทึกปรมิ าตรของแก๊สออกซิเจน

ครั้งที่ ปริมาตรแกส๊ ออกซิเจน ปรมิ าตรของแกส๊ ท่เี หลอื
(mL) (mL)

1 20.00 10.00

2 20.00 9.80

3 20.00 10.60

1.4.2 คานวณอตั ราส่วนโดยปริมาตรของแกส๊ ทท่ี าปฏิกริ ิยาพอดี

ครัง้ ที่ ปริมาตร O2 ปริมาตร NO อตั ราสว่ นของ

(mL) (mL) O2 : NO โดยปริมาตร

1 10.00 20.00 1.00 : 2.00

2 10.20 20.00 1.00 : 1.96

3 9.40 20.00 1.00 : 2.31

แสดงวิธีการคานวณ

การทดลองครง้ั ที่ 1

ปรมิ าตรของ O2 1 หลอด = 20.00 mL
ปรมิ าตรของ NO 1 หลอด =

20.00 mL

มี O2 เหลือ = 10.00 mL

ดงั นั้นปรมิ าตรของ O2 ทีใ่ ชไ้ ป 20.00 – 10.00 = 10.00 mL

อตั ราสว่ นของ O2 : NO โดยปริมาตรท่ที าปฏกิ ริ ยิ าพอดกี นั
= 10.00 :

20.00

=1:2

2 สรปุ ผลการทดลองปฏกิ ริ ยิ าเคมรี ะหว่างแกส๊
ออกซิเจนและแกส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์

2.1 สรุปผลการทดลอง

1. เมอื่ ผสม O2 กบั NO จะมีแกส๊ สนี ้าตาลแดงของ NO2 เกิดขน้ึ
จากน้ันระดบั น้าในกระบอกตวงสงู ขนึ้ อยา่ งรวดเร็ว ในขณะท่ีแก๊สสี
น้าตาลแดงคอ่ ย ๆ จางหายไป เนื่องจาก NO2 ละลายในนา้ จึงทา
ให้ความดนั ของแกส๊ ในกระบอกตวงลดลง น้าจากภายนอกจะเข้าไป
แทนทีท่ าให้ระดับนา้ ในกระบอกตวงสงู ขึ้นอย่างรวดเร็วและในที่สุด
ระดบั น้าในกระบอกตวงจะคงที่แตไ่ ม่เตม็ กระบอก แสดงวา่ ยังมแี ก๊ส
เหลืออยู่

2. เม่อื ทดสอบแก๊สท่เี หลือด้วยธูปท่ีติดไฟเหลอื เป็นถา่ นแดงพบว่ามี
เปลวไฟเกดิ ข้นึ แสดงว่า คอื O2 เนอื่ งจากเปน็ แกส๊ ทช่ี ่วยใหไ้ ฟติด

3. อตั ราสว่ นโดยปรมิ าตรของ O2 และ NO ท่ีทาปฏกิ ิริยาพอดกี ัน
เท่ากบั 1 : 2

2.2 คาถามท้ายการทดลอง

1. ผสมแกส๊ ออกซิเจนกับแกส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์เขา้ ด้วยกัน
ปริมาตรของแกส๊ ในกระบอกตวงเปลย่ี นแปลงอย่างไร เหตใุ ดจงึ เปน็
เช่นนั้น

นา้ ในกระบอกตวงสูงขน้ึ อย่างรวดเรว็ เพราะ NO2 ละลายในน้าจงึ
ทา ให้ความดันของแก๊สในกระบอกตวงลดลง นา้ จากภายนอกจะเข้า
ไปแทนท่ที าให้ระดบั น้าในกระบอกตวงสูงขึ้นอยา่ งรวดเรว็
2. แกส๊ ทเี่ หลืออยใู่ นกระบอกตวงคือแก๊สชนดิ ใด ทราบไดอ้ ย่างไร

O2 เนอ่ื งจากเป็นแก๊สที่ชว่ ยใหไ้ ฟติด
3. จากผลการทดลอง อตั ราส่วนโดยปรมิ าตรของแก๊สทีท่ าปฏิกริ ิยา
กันพอดเี ป็นเท่าใด

อัตราส่วนโดยปรมิ าตรของ O2 และ NO ทท่ี าปฏิกริ ิยาพอดีกัน
เทา่ กับ 1 : 2

เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะ

แบบฝกึ หัดที่ 1
เรื่อง ปริมาณสารเคมีทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั มวล

คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนคานวณปรมิ าณของสารที่กาหนดให้ต่อไปน้ี
จานวน 4 ขอ้ ขอ้ ละ 5 คะแนน

1. เมอ่ื ผ่านแกส๊ คลอรีนลงในสารละลายโพแทสเซยี มไฮดรอกไซดท์ ่ีรอ้ น
เกิดปฏิกิริยาเคมีดงั สมการ 3Cl2(g) + 6KOH(aq)→ 5KCl(aq) + KClO3(aq) +
3H2O(l)
จงคานวณ

1.1 จานวนโมลของโพแทสเซียมคลอเรตท่เี กดิ ขน้ึ เมอื่ ใชแ้ ก๊สคลอรนี 1.86 โมล
01..68260mmool Cl Kl2C×lO133mmoloKl CCllO2 3
โมลของ KClO3 =
=
ดงั นน้ั จะมีโพแทสเซยี มคลอเรตเกดิ ข้นึ 0.620 โมล

1.2 มวลของโพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ เม่ือต้องการโพแทสเซียมคลอไรด์ 0.450

โมล 6 mol KOH 56.11 g KOH
5 mol KCl 1 mol KOH
มวลของ KOH = 0.450 mol KCl × ×
= 30.3 g KOH

ดงั นั้น ตอ้ งใช้โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ 30.3 กรมั

2. การผลิตกรดฟอสฟอรกิ (H3PO4) เพื่อการคา้ จะใชป้ ฏิกิรยิ าเคมีดังสมการ
Ca3(PO4)2(s) + 3H2SO4(aq) + 6H2O(l)→ 3CaSO4⋅2H2O(s) +
2H3PO4(aq)

จงคานวณมวลของกรดซลั ฟวิ รกิ เข้มข้น ทตี่ อ้ งใช้ทาปฏิกิริยาพอดกี บั แคลเซียม
ฟอสเฟต 100.0 กรัม
มวลของ H2SO4
×3110m.1o8==l Cg190aC430a..(83P06(OPg4OgC)42Ha)322(×PS1OO3m44)om2loCl aH32(PSOO44)2×918.m08olgHH22SSOO44

ดังน้นั ตอ้ งใช้กรดซัลฟิวรกิ เขม้ ขน้ 94.86 กรมั

3. แอสไพรนิ (C9H8O4) สงั เคราะหไ์ ด้จากปฏกิ ิรยิ าเคมีระหวา่ งกรดซาลิซิลิก
(C7H6O3) และแอซีติกแอนไฮไดรด์ (C4H6O3) ดังสมการ
C7H6O3(s) + C1042H6กOรมั 3(จl)ง→คาCน9วณH8O4(s) + C2H4O2(l)
ถ้าใชก้ รดซาลิซิลกิ 5.00 ×
3.1 มวลของแอสไพรินทเ่ี กิดขึ้นจากปฏกิ ริ ยิ าเคมี

มวลของ C9H8O4 1 mol gC7CH76HO63O3× 1 mol CC79HH68OO43×1810m.1o7l g C9H8O4
138.13 1 mol C9H8O4
= 5.00 × 102 g C7H6O3×

= 652 g C9H8O4
ดงั นน้ั มแี อสไพรินเกดิ ขนึ้ 652 กรัม

3.2 ปรมิ าตรของแอซตี ิกแอนไฮไดรด์ท่ีต้องใช้ในการทาปฏกิ ิรยิ าเคมี เม่ือแอซีติก

แอนไฮไดรด์มีความหนาแน่น 1.082 กรมั ตอ่ มลิ ลิลติ ร

ปริมาตรของ C4H6O3 = 5CC.470HH066×OO1330×21g012Cm.17o0Hl 6gCO4C3H4×6HO63O3×1.108m2l
mol
1 mol gC7CH76HO63O3×11 mol C4H6O3
138.13 g C4H6O3
= 342 mL C4H6O3
ดงั นัน้ ต้องใชแ้ อซตี ิกแอนไฮไดรด์ 342 มลิ ลลิ ติ ร

4. จะตอ้ งใช้อากาศกี่กรัม เพอ่ื เผาไหมถ้ ่านหนิ 120.0 กรัม ถ้าถ่านหนิ ประกอบดว้ ย

คาร์บอนร้อยละ 95.0 และส่วนประกอบอ่ืนทไี่ มเ่ กดิ การเผาไหมร้ อ้ ยละ 5.0 โดย

มวล กาหนดให้อากาศมแี ก๊สออกซิเจนเปน็ องคป์ ระกอบรอ้ ยละ 23.0 โดยมวล
เขยี นสมกำรเคมไี ด้ดงั น้ี C(s) + O2(g) CO2(g)
95.0 g
มวลของ C ในถ่ำนหิน = 120.0 g ถำ่ นหิน × 100.0 g

ถ่ำนหนิ = 114 g C

มวลของ O2ทีใ่ ช้เผำไหม้ = 114 g C × 1 mol C C× 11mmool lOC2×312mmool lOO22
12.01 mol

= 304 g O2 = 304 g O2 × 100.0 g อำกำศ
มวลของอำกำศ 23.0 g O2

= 1.32 × 103 g อำกำศ

ดังน้ัน จะต้องใชอ้ ำกำศ 1.32 × 103 กรัม

แบบฝกึ หัดท่ี 2
เรือ่ ง ปรมิ ำณสำรเคมที ี่เก่ียวขอ้ งกบั ปรมิ ำตรของแกส๊

คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนคานวณปริมาณของสารท่กี าหนดให้ต่อไปนี้
จานวน 4 ขอ้ ขอ้ ละ 5 คะแนน

1. แอมโมเนียมไฮโดรเจนฟอสเฟตนิยมนาามาใช้เป็นส่วนประกอบของปุ๋ย ซึ่ง

สังเคราะห์จากสารละลายแอมโมเนีย (NH3) และสารละลายกรดฟอสฟอริก
(H3PO4) ถ้าใช้สารละลายแอมโมเนียเข้มข้น 7.4 โมลต่อลิตร ปริมาตร 3.48
ลิตร จะต้องใชก้ รดฟอสฟอริกเขม้ ขน้ 12.9 โมลตอ่ ลติ ร ปรมิ าตรก่ลี ติ ร

เขยี นสมการเคมไี ดด้ ังนี้
2NH3(aq) + H3PO4(aq)→ (NH4)2HPO4(aq)
ปรมิ าตรของ H3PO4
= 3.48 L NH3 soln × 7.4 mol NsHol3n× 12mmoloHl N3PHO34×112L.9Hm3oPlOH43sPoOln4
= 1.0 L 1L NH3

2. นาสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เข้มข้น 1.00 โมลาร์ ปรมิ าตร 100 มลิ ลิลิตร

มาทาปฏิกิริยาเคมีกับสารละลายกรดไนทริกเข้มข้น 0.800 โมลาร์ จะต้องใช้

สารละลายกรดไนทรกิ กมี่ ลิ ลิลติ ร และไดโ้ ซเดียมไนเทรตเขม้ ข้นกี่โมลาร์
NaOH(aq) + HNO3(aq) → NaNO3(aq) + H2O(l)
ปริมาตรของ HNO3
×so1l0n10.000mLmoNlaNOaHOsHoln× 1 mol HNNaOOH3×1000.800m0 LmHolNHON3Oso3ln
= 100 mL NaOH soln 1 mol

= 125 mL HNO3
ดังนน้ั ใชส้ ารละลายกรดไนทริกปรมิ าตร 125 มลิ ลลิ ติ ร

ปริมาตรของสารละลายเม่ือผสมกัน = 100 mL + 125 mL = 225 mL

=×ค2ว15า05ม0เmmข1L้มLsขNoน้ alnขO×อH1ง0s01oN0lLnamNs×LoO1lns30o10ln.000mLmoNlaNOaHOsHoln×11mmoollNNaaNOOH3
= 0.444 mol/L NaNO3
ดังน้นั ไดโ้ ซเดยี มไนเตรทเข้มข้น 0.444 โมลาร์

3. โลหะสังกะสีทาาปฏิกิริยาเคมีกับสารละลายกรดไฮโดรคลอริก เขียนสมการเคมี

ได้ดงั นี้ (สมการเคมยี ังไมด่ ุล)
Zn(s) + HCl(aq) →H2(g) + ZnCl2(aq)
ถ้าใชโ้ ลหะสังกะสี 13.07 กรัม จะตอ้ งใชส้ ารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 2.0

โมลต่อลติ รปริมาตรก่มี ิลลิลติ ร

ดุลสมการเคมไี ด้ดังนี้ Zn(s) + 2HCl(aq)→ H2(g) + ZnCl2(aq)

ปรมิ าตรของ HCl g 1Z0n2×6m15L.m3H8oClglZsZnonln× 2 mol HZCnl×10020.0mmLoHl CHlCsloln
× 1 mol
= 13.07
= 2.0 102

ดังนน้ั ใชส้ ารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ เขม้ ขน้ 2.0 โมลตอ่ ลติ ร ปรมิ าตร 2.0 ×
มิลลลิ ติ ร

4. ปฏิกิริยาเคมีระหว่างโลหะทองแดงและสารละลายซิลเวอร์ไนเทรต เขียนแสดง

ไดด้ ังนี้ (สมการเคมียังไมด่ ลุ )
Cu(s) + AgNO3(aq) →Ag(s) + Cu(NO3)2(aq)
ถ้าใช้สารละลายซิลเวอร์ไนเทรตเข้มข้น 2.50 โมลต่อลิตร ปริมาตร 5.0 ลิตร ทา

ปฏิกริ ยิ าพอดกี ับโลหะทองแดง จะได้โลหะเงนิ ก่ีกิโลกรมั

ดุลสมการเคมีไดด้ งั นี้

มวลของ Ag Cu(s) + 2AgNO3( (aq) 2Ag(s) + Cu(NO3)2(aq)

= 15m2..o30ml kLoAglgAAANgggONO3×31s01o7lmn.8o×7l21gA.5LgA0Agm×g1oN10lO0AK30ggNsgAoOAlgn3g×
2
=

ดังนัน้ ไดโ้ ลหะเงิน 1.3 กโิ ลกรมั

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น

กระดำษคำตอบ

แบบทดสอบก่อนเรยี น

ข้อที่ ก ข ค ง









10 ×

แบบทดสอบหลงั เรียน คะแนนที่ได้ =

ข้อท่ี ก ข ค ง









10 ×


Click to View FlipBook Version