48
แบบฝกึ หดั ที่ 2
กำรแตกตัวของกรด เบส และน้ำ
คาชี้แจง : ให้นักเรยี นแสดงวิธีการคานวณของสาร ใหถ้ กู ต้อง
1. ในการเตรยี มสารละลายปริมาตร 100 มิลลิลิตร ทีม่ ีความเขม้ ข้นไฮดรอกไซด์ไอออน (OH-) 1 โมลต่อ
ลิตร ต้องใช้แบเรยี มไฮดรอกไซด์ (Ba(OH)2) กีก่ รัม
2. สารละลายกรดซัลฟิวริก (H2SO4) มีค่าคงท่ีการแตกตัวของกรด 2 ค่า คือ Ka1 = 1.41 × 10-2และ
Ka2 = 6.31 × 10-8 จงเปรียบเทยี บความเขม้ ขน้ ของไอออนตา่ ง ๆ ในสารละลาย
3. ถ้าสารละลายกรดไนทรัส (HNO3) และกรดไฮโดรฟลูออริก (HF) มีความเข้มข้นและปริมาตรเท่ากัน
สารละลายใดมคี วามเข้มขน้ ของไฮโดรเนยี มไอออน (H3O+) มากกว่า เพราะเหตุใด
4. NaX แตกตัวให้ X- ในจานวนโมลทเ่ี ท่ากนั X- สามารถทาปฏิกริ ิยากบั นา้ ได้ดงั สมการเคมี
X-(aq) + H2O(l) → HX(aq) + OH-(aq) Kb = 1 × 10-4
สารละลาย NaX 2 โมลต่อลติ ร จะมีความเข้มขน้ ของไฮดรอกไซดไ์ อออน (OH-) เทา่ ใด
5. สารละลายเอทิลเอมนี (CH3NH2) 0.5 โมลต่อลิตร จะมีความเข้มขน้ ของเมทลิ แอมโมเนยี มไอออน
(CH3NH3+) เท่าใด และร้อยละการแตกตวั ของเมทิลเอมนี เป็นเทา่ ใด
6. คานวณและเปรยี บเทยี บรอ้ ยละการแตกตวั ของกรดเบนโซอกิ (C6H5COOH) ในสารละลายท่มี ีความ
เขม้ ข้น 0.25 โมลตอ่ ลติ ร และ 0.4 โมลต่อลิตร
7. คานวณค่าคงท่ีการแตกตัวของกรด HA 0.8 โมลต่อลิตร ซง่ึ มีรอ้ ยละการแตกตัวเทา่ กบั 0.42
49
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี 4 ภำคเรยี นที่ 2/2564
ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 5
กลุ่มสำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รำยวชิ ำเพม่ิ เติม เคมี 4 เวลำ 30 ชว่ั โมง
เวลำ 2 ช่วั โมง
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 กรด-เบส
เรื่อง กำรแตกตวั ของกรด เบส และน้ำ (2)
ครผู สู้ อน นำงสำวชนดิ ำ แก่นท้ำว
1. สำระกำรเรียนรู้และผลกำรเรียนรู้
สำระท่ี 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้ังการนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ผลกำรเรียนรู้
1. คานวณ และเปรียบเทยี บความสามารถ ในการแตกตวั หรอื ความแรงของกรดและเบส
2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
กรดและเบสแต่ละชนิดสามารถแตกตัวในน้าได้แตกต่างกัน กรดแก่หรือเบสแก่สามารถแตกตัวเป็น
ไอออนในน้าได้เกือบสมบูรณ์ส่วนกรดอ่อนหรือเบสอ่อนแตกตัวเป็นไอออนได้น้อย โดยความสามารถในการ
แตกตัวหรือความแรงของกรดหรือเบสอาจพิจารณาได้จากค่าคงที่การแตกตัวของกรดหรือเบส หรือปริมาณ
การแตกตัวเป็นร้อยละของกรดหรอื เบส
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
3.1 ด้ำนควำมรู้ (K)
1. บอกความหมายว่าสารใดเป็นกรดแก่ เบสแก่ กรดออ่ น และเบสอ่อน
2. ระบวุ ่าสารใดเป็นกรดแก่ เบสแก่ กรดอ่อน และเบสออ่ น
3.2 ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
1. คานวณความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนและไฮดรอกไซด์ไอออน ร้อยละการแตกตัวของเบส
และคา่ คงที่การแตกตัวของเบส
2. เปรยี บเทยี บความความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส
3.3 ด้ำนคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1. นกั เรียนมีความรับผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
4. สำระกำรเรียนรู้
การแตกตวั ของเบสออ่ น
ค่าคงที่การแตกตวั ของเบส (base dissociation constant; Kb)
การแตกตัวของน้า
ค่าคงที่การแตกตัวของน้า (water dissociation constant; Kw)
ความสัมพันธ์ระหวา่ ง Ka Kb และ Kw
50
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มคี วามรับผดิ ชอบ
7. กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ใช้รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5E
7.1 ข้ันสรำ้ งควำมสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทบทวนความรู้เก่ียวกับการแตกตัวของกรดอ่อน โดยทาแบบตรวจสอบความเข้าใจใน
หนงั สอื เรียนเพมิ่ เตมิ เคมี 4
2. นกั เรียนดูรูปภาพกราฟการแตกตัวของเบสออ่ น โดยครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ เกีย่ วกับกราฟนนั้ ๆ
เบสอ่อนเมือ่ ละลายน้าจะแตกตัวเปน็ ไอออนไดเ้ พียงบางสว่ น เช่น แอมโมเนีย เมื่อ NH3 ละลายนา้ ใน
สารละลายจะมี NH4+ และ OH- และท่ีสมดุลยังมี NH3 เหลอื อยู่ ดงั น้ัน ค่ำคงทกี่ ำรแตกตัวของเบส (base
dissociation constant; Kb) สามารถพิจารณาได้ดังสมการ
NH3(aq) + H2O(l) → NH4+(aq) + OH-(aq)
[NH+4 ][OH-]
Kb = [NH3]
Kb สามารถใช้เปรยี บเทยี บความแรงของเบสออ่ น โดยเบสท่ีมคี ่า Kb มากกวา่ จะเปน็ เบสท่ีแรงกวา่
7.2 ข้นั สำรวจและคน้ หำ (Exploration)
1. นักเรยี นดูตารางเปรยี บเทียบค่างคงทกี่ ารแตกตัวของเบสบางชนดิ
คา่ Kb และรอ้ ยละการแตกตวั ยังใช้คานวณความเข้มข้นของ OH- ในสารละลายเบสอ่อนไดอ้ กี ด้วย
51
2. นกั เรียนดตู ัวอยา่ งการคานวณรอ้ ยละการแตกตัวของเบสออ่ น ในหนงั สอเรียนเพิม่ เตมิ เคมี 4 หน้า
25
ตวั อย่างที่ 1 สารละลายแอมโมเนยี NH3 0.20 โมลตอ่ ลติ ร มรี ้อยละการแตกตัวเทา่ ใด
วธิ ีทา
ขั้นท่ี 1 คานวณความเข้มขน้ OH- ในสารละลาย NH3 0.20 mol/L
NH3(aq) + =H=20([Ox.N2)(H(-x[xlN)+4)H]→[3O] H-] NH4+(aq) + OH- (aq)
Kb
1.8 × 10-5
X = 1.9 × 10-3
ข้ันท่ี 2 คานวณรอ้ ยละการแตกตัวของ NH3 × 10-3 mol/L
1.9 0.2 mol/L
ร้อยละการแตกตัวของ NH3 = × 100
= 0.95
ดงั นนั้ รอ้ ยละการแตกตัวของแอมโมเนยี เท่ากบั 0.95
3. นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 6 คน ทากจิ กรรม 10.1 รอ้ ยละการแตกตวั ของกรดและเบส
7.3 ขั้นอธบิ ำยและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. นักเรียนสรปุ กจิ กรรม 10.1 รอ้ ยละการแตกตวั ของกรดและเบส
2. นกั เรียนนาเสนอกิจกรรมหน้าชน้ั เรียน
3. นกั เรยี นสรปุ เกย่ี วกบั เรื่องทีเ่ รียน โดยครคู อยอธบิ ายเพ่มิ เตมิ
ค่าคงที่การแตกตัวของกรดและเบสเป็นค่าเฉพาะไม่ขึ้นกับความเข้มข้น ซึ่งใช้ในการเปรียบเทียบ
ความแรงของกรดและเบสได้ ในขณะท่ีร้อยละการแตกตัวของกรดและเบสเปลี่ยนแปลงตามความเข้มขน้
ของสาร
7.4 ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นักเรยี นดกู ราฟการแตกตวั ของน้า
นา้ เป็นโมเลกุลโคเวเลนซ์มีขวั้ ซงึ่ แตกตวั ให้ H3O+ และ OH-นอ้ ยมาก ดังสมการเคมี
H2O(l) + H2O(l) → H3O+(aq) + OH-(aq)
ดงั น้ัน คำ่ คงท่ีกำรแตกตัวของน้ำ (water dissociation constant; Kw) แสดงไดส้ มการ
Kw = [H3O+][ OH-]
2. นักเรียนดูความสัมพันธ์ระหวา่ ง Ka Kb และ Kw ตามหนังสอื เรียนเพมิ่ เติม เคมี 4 หน้า 28
Kw = Ka × Kb = [H3O+][ OH-]
52
ถา้ ทราบคา่ Ka ของกรดจะสามารถคานวณคา่ Kb ของคู่เบสได้ ในทางกลับกนั ถ้าทราบ Kb ของเบสก็
จะสามารถคานวณคา่ Ka ของคู่กรดได้ โดยอาศยั ความสัมพนั ธด์ ังน้ี
Kw Kw
Ka = Kb หรือ Kb = Ka
3. นกั เรยี นดตู าราง 10.4 ค่าคงท่ีการแตกตัวของคู่กรด-เบสบางชนดิ ในหนังสือเรยี นเพ่ิมเติม เคมี 4
หนา้ 28
7.5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
1. นกั เรียนสรปุ ความรทู้ ่ไี ดล้ งในสมุด
2. นักเรยี นทาแบบฝึกหดั 10.3 ในหนังสอื เรียนเพ่มิ เติม เคมี 4
8. สอ่ื /แหลง่ กำรเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนรายวชิ าวิทยาศาสตรเ์ พิ่มเตมิ เคมี 4
2. แบบฝกึ หดั 10.3 ในหนงั สอื เรียนเพม่ิ เตมิ เคมี 4
3. สไลด์สอน เร่อื ง การแตกตวั ของกรด เบส และน้า
4. กิจกรรม 10.1 ร้อยละการแตกตวั ของกรดและเบส
53
9. กำรวัดผลและประเมินผล
จุดประสงค์ วธิ ีกำรวดั /เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ำรประเมิน
1. ดำ้ นควำมรู้ (K)
1. บอกความหมายว่าสารใดเป็น - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถาม - ได้คะแนนร้อยละ
กรดแก่ เบสแก่ กรดออ่ น และเบสอ่อน ในช้ันเรยี น 70 ขนึ้ ไป
2. ระบวุ า่ สารใดเป็นกรดแก่ เบสแก่
กรดอ่อน และเบสออ่ น
2. ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
1. คานวณความเข้มข้นของไฮโดร - แ บ บ ฝึ ก หั ด
เนียมไอออนและไฮดรอกไซด์ไอออน 10.3
ร้อยละการแตกตัวของเบส และ - ตรวจใบงาน - กจิ กรรม 10.1 - ได้คะแนนรอ้ ยละ
คา่ คงที่การแตกตวั ของเบส รอ้ ยละการแตก 70 ขน้ึ ไป
2. เปรียบเทียบความความสามารถ ตวั ของกรดและ
ในการแตกตัวหรือความแรงของกรด เบส
และเบส
3. ด้ำนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมิน
คุณลักษณะอัน
(A) - การสงั เกต พงึ ประสงค์ - ได้คะแนนใน
1. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ ระดับ 3 (ดี) ข้ึนไป
งานทไี่ ด้รบั มอบหมาย
54
10. บันทกึ หลังกำรสอน
ผลการเรียนรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวชนดิ า แก่นท้าว)
ครผู ู้สอน
55
ควำมคิดเหน็ / ข้อเสนอแนะของครพู ่ีเลี้ยง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสพุ ณิ ยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ี่เลยี้ ง
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสริ ลิ กั ษณ์ ทองสะอาด)
หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผู้อานวยการสถานศึกษา
56
กจิ กรรม 10.1 รอ้ ยละกำรแตกตัวของกรดและเบส
จุดประสงค์ของกิจกรรม
1. คานวณและเปรยี บเทียบร้อยละการแตกตัวของกรดออ่ นหรือเบสอ่อนในสารละลายท่ีมีความเข้มข้น
เท่ากนั
2. คานวณและเปรียบเทยี บรอ้ ยละการแตกตวั ของกรดออ่ นหรือเบสอ่อนในสารละลายท่ีมีความเขม้ ข้น
แตกตา่ งกัน
วธิ ีทำกิจกรรม (แจกกระดำษ)
ตอนที่ 1
คานวณและเปรียบเทียบรอ้ ยละการแตกตัวของเอทิลเอมีน (C2H5NH2) แอมโมเนีย (NH3) และฟีนิล
เอมนี (C6H5NH2) ในสารละลายทมี่ ีความเข้มข้นชนิดละ 0.5 mol/L
ตอนนี้ 2
1. คานวณร้อยละการแตกตัวของกรดแอซิติก (CH3COOH) ในสารละลายท่ีมีความเข้มข้น 0.05
0.1 0.5 และ 1 mol/L
2. เขียนกราฟแสดงรอ้ ยละการแตกตัวกับความเข้มข้นของ CH3COOH ท่ีมีความเข้มข้น 0.05 0.1
0.5 และ 1 mol/L
คำถำมท้ำยกิจกรรม
1. ร้อยละการแตกตวั ของเบสในสารละลายมแี นวโน้มเดยี วกับคา่ Kb หรือไม่ อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ร้อยละการแตกตัวของกรดในสารละลายขน้ึ กับความเขม้ ข้นของกรดหรอื ไม่ อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
57
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 5 ภำคเรียนท่ี 2/2564
ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 5
กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
รำยวิชำเพ่มิ เตมิ เคมี 4 เวลำ 30 ช่ัวโมง
เวลำ 2 ชั่วโมง
หน่วยกำรเรยี นรูท้ ี่ 1 กรด-เบส
เร่อื ง สมบตั กิ รด-เบสของเกลือ
ครูผสู้ อน นำงสำวชนดิ ำ แก่นท้ำว
1. สำระกำรเรียนรู้และผลกำรเรียนรู้
สำระที่ 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ผลกำรเรยี นรู้
เขยี นปฏิกริ ิยาไฮโดรลซิ สิ ของเกลอื และระบุความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลอื
2. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด
เกลือท่ีได้จากการสะเทินของกรดแก่ด้วยเบสอ่อน เม่ือละลายในน้าจะเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสได้
สารละลายที่มีสมบัติเป็นกรด ส่วนเกลือที่ได้จากการสะเทินของกรดอ่อนด้วยเบสแก่ เม่ือละลายในน้าจะ
เกิดปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซิสไดส้ ารละลายที่มสี มบัติเปน็ เบส
3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
3.1 ดำ้ นควำมรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถอธิบายการเกิดไฮโดรลิซิสของเกลือและเขียนสมการเคมีของปฏิกิรยิ าไฮโดรลิซสิ
ของเกลือ
2. นกั เรียนสามารถระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ
3.2 ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
1. นกั เรยี นสามารถทาการทดลองสมบัตกิ รด-เบสของสารละลายเกลอื
3.3 ด้ำนคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบต่องานท่ีได้รบั มอบหมายและสามารถทางานร่วมกับผ้อู ่นื ได้
4. สำระกำรเรยี นรู้
เมื่อเกลือละลายน้า ไอออนบวกหรือไอออนลบของเกลือบางชนิดสามารถทาปฏิกิริยากับน้าได้ โดย
อาจใหห้ รอื รบั โปรตอนจากน้า เกดิ เป็นสารละลายเกลอื ที่มีสมบตั ิเป็นกรดหือเบส เรียกปฏิกิริยาน้ีวา่ ปฏกิ ิริยำ
ไฮโดรลิซิสของเกลอื (salt hydrolysis)
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
58
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มคี วามรบั ผิดชอบ
7. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ใช้รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5E
7.1 ข้ันสร้ำงควำมสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทบทวนความรเู้ ดมิ เร่อื ง ความสมั พันธร์ ะหว่าง Ka Kb และ Kw
สารละลายกรด HY มีค่า Ka = 2.0 × 10-6 จงระบุคู่เบสของกรด HY และค่า Ka ของเบสนี้เป็น
เทา่ ใด
2. นกั เรียนศึกษาความหมายของ ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลอื (salt hydrolysis)
เม่ือเกลือละลายน้า ไอออนบวกหรือไอออนลบของเกลือบางชนิดสามารถทาปฏิกิริยากับน้าได้ โดย
อาจให้หรือรับโปรตอนจากน้า เกิดเป็นสารละลายเกลือท่ีมีสมบัติเป็นกรดหรือเบส เรียกปฏิกิริยานี้ว่า
ปฏิกริ ยิ ำไฮโดรลิซสิ ของเกลือ (salt hydrolysis)
7.2 ขน้ั สำรวจและคน้ หำ (Exploration)
1. นกั เรียนศกึ ษากิจกรรม 10.2 การทดลองสมบัตกิ รด-เบสของสารละลายเกลือ
2. นักเรียนทากิจกรรมท่ี 10.2 การทดลองสมบัติกรด-เบสของสรละลายเกลือ โดยครูเป็นผู้คอยให้
คาแนะนา
3. นักเรียนสรุปผลการทดลอง และตอบคาถามทา้ ยกจิ กรรม
7.3 ขน้ั อธิบำยและลงข้อสรปุ (Explanation)
1. นักเรียนศึกษาเพ่ิมเติมเกี่ยวกับ การละลายของเกลือ และสมการเคมี โดยครูคอยให้คาแนะนา
เพมิ่ เตมิ
สารละลายเกลือที่ได้จากกิจกรรมมีสมบัตกิ รด-เบสต่างกัน ซึง่ ความเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ
ชนดิ อื่น ๆ อธิบายโดยอาศยั ค่า Ka และ Kb ของไอออนทีไ่ ด้จากการแตกตัว ดังตัวอย่าง
- แอมโมเนียมไนเทรต (NH4NO3) เมอ่ื ละลายน้าจะแตกตัวเปน็ NH+4และ NO-3 ดังสมการเคมี
NH4NO3(s) → NH+4(aq) + NO-3(aq)
NO3- ไม่สามารถรับโปรตอนจากน้าเปล่ียนเป็น HNO3 ได้ เน่ืองจาก HNO3 เป็นกรดแก่ ส่วน NH4+ เป็นคู่
กรดของ NH3 ซง่ึ เปน็ เบสออ่ น NH+4 จงึ ให้โปรตอนกบั น้าได้ H3O+ ดงั สมการเคมี
NH4+(aq) + H2O(l) → NH3(aq) + H3O+(aq) Ka = 5.56 × 10-10
สารละลาย NH4NO3 จึงเป็นกรด
จากตัวอย่างข้างต้นไอออนที่สามารถให้หรือรับโปรตอนจากน้าเป็นไอออนท่ีเป็นคู่กรด -เบสของกรดอ่อน
หรือเบสอ่อน และสามารถระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือได้จากค่า Kaหรือ Kb ของไอออนท่ี
เกดิ ปฏิกิรยิ าไอโดรลซิ ิส ดังนี้
Ka > Kb สารละลายมสี มบตั เิ ป็นกรด
Kb > Ka สารละลายมีสมบตั ิเป็นเบส
59
Ka ≈ Kb สารละลายมสี มบัติเปน็ กลาง
7.4 ขั้นขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนตอบคาถาม จากกิจกรรม 10.2 ไอออนท่ีได้จากการละลายของเกลือแต่ละชนิดในน้าทา
ปฏิกิริยากับน้าแตกต่างกันอย่างไร และสดคล้องกับสมบัติกรด-เบสของสารละลายเกลืออย่างไร (แนว
คาตอบ: เกลือโซเดียคลอไรด์ (NaCl) เม่ือละลายน้าแตกตัวให้ Na+ และ Cl-ซ่ึงไอออนทั้ง 2 ชนิด ไม่
สามารถให้หรือรับโปรตอนจากน้าได้ จึงไม่ทาปฏิกิริยากับน้า จึงไม่ทาปฏิกิริยากับน้า สอดคล้องกับสมบัติ
สารละลายเกลอื NaCl ซ่งึ มีสมบตั เิ ปน็ กลาง
เกลอื แอมโมเนยี มคลอไรด์ ()
7.5 ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1. นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั 10.4 ในหนงั สือเรียนหน้า 33
2. นักเรยี นสรุปความรู้ เร่อื ง สมบัติกรด-เบสของเกลอื
8. สื่อ/แหลง่ กำรเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4
2. กิจกรรมท่ี 10.2 การทดลองสมบตั กิ รด-เบสของสารละลายเกลอื
3. แบบฝึกหัด 10.4 หนงั สือเรยี นเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4 หนา้ 33
4. สไลด์สอน เร่ือง สมบัติกรด-เบสของเกลอื
9. กำรวดั ผลและประเมินผล
จุดประสงค์ วิธกี ำรวดั /เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ำรประเมนิ
1. ดำ้ นควำมรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถอธิบายการเกิด - การตอบคาถาม - ข้อคาถาม - ได้คะแนนรอ้ ยละ
ไฮโดรลิซิสของเกลือและเขียนสมการ ในชน้ั เรียน - แบบฝึกหดั 70 ขึน้ ไป
เคมขี องปฏิกริ ิยาไฮโดรลิซสิ ของเกลือ
- ตรวจใบงาน 10.4
2. นักเรียนสามารถระบุความเป็น
กรด-เบสของสารละลายเกลอื
- กิจกรรม 10.2
2. ด้ำนทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P) การทดลอง - ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ
1. นักเรียนสามารถทาการทดลอง - ตรวจใบงาน สมบตั ิกรด-เบส 70 ขนึ้ ไป
ของสารละลาย
สมบตั กิ รด-เบสของสารละลายเกลือ
เกลอื
3. ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) - แบบประเมิน - ไดค้ ะแนนใน
1. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ - การสงั เกต คุณลักษณะอัน ระดับ 3 (ดี) ขนึ้ ไป
งานท่ีได้รับมอบหมายและสามารถ พงึ ประสงค์
ทางานร่วมกับผู้อืน่ ได้
60
10. บันทกึ หลงั กำรสอน
ผลการเรยี นรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ……………………………………………….
(นางสาวชนิดา แกน่ ท้าว)
ครผู ้สู อน
61
ควำมคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของครพู เ่ี ลย้ี ง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ……………………………………………….
(นางสุพิณยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ีเ่ ล้ียง
ควำมคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสริ ลิ ักษณ์ ทองสะอาด)
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผู้อานวยการสถานศึกษา
62
กิจกรรมท่ี 10.2 กำรทดลองสมบตั กิ รด-เบสของสำรละลำยเกลือ
จุดประสงค์กำรทดลอง
1. ทดลองเพือ่ ศกึ ษาสมบัตกิ รด-เบสของสารละลายเกลือ
2. ระบสุ มบตั กิ รด-เบสของสารละลายเกลอื จากอินดิเคเตอร์
3. ระบุชนิดของไอออนทส่ี ง่ ผลตอ่ สมบัตกิ รด-เบสของสารละลายเกลือ
วสั ดุอุปกรณ์ 2. แอมโมเนยี มคลอไรด์
4. ยนู เิ วอรซ์ ลั อินดิเคเตอร์
1. โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) 6. หลอดทดลอง
3. โซเดยี มแอซีเตต
5. ช้อนตกั สาร 8. กระบอกตวง
7. แท่งแกว้ คนสาร
9. หลอดหยด
วธิ ีกำรทดลอง
1. นา NaCl NH4Cl และ CH3COONa ใสล่ งในหลอดทดลอง หลอดละ 1 ชนดิ ปรมิ าณช้อนเบอร์ 1
จากนั้นเติมน้าปริมาตร 5 mL ลงในหลอดทดลอง คนสารด้วยแท่งแก้วคนจนไดส้ ารละลายเน้ือเดียว
2. หยดยนู เิ วอร์ซัลอนิ ดิเคเตอร์ลงไปหลอดละ 1 หยด เขยา่ สงั เกตสีของสารละลายแลว้ เปรียบเทียบกบั
แถบสีของยูนิเวอรซ์ ัลอนิ ดิเคเตอร์ท่ี pH ต่าง ๆ ดังรปู พร้อมบนั ทกึ pH ของสารละลายเกลอื แตล่ ะ
ชนิด
บันทกึ ผลกำรทดลอง NaCl NH4Cl CH3COONa
เกลอื
สขี องยูนิเวอรซ์ ัลอินดเิ คเตอร์
pH ของสำรละลำย
สมบตั ิกรด-เบส ของ
สำรละลำย
63
สรุปผลกำรทดลอง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
คำถำมทำ้ ยกำรทดลอง
1. สารละลายเกลือแต่ละชนิดมีสมบัตกิ รด-เบสเป็นอย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. เกลือทง้ั สามชนิดเมอื่ ละลายน้าให้ไอออนใดบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. ไอออนใดทาใหส้ มบตั กิ รด-เบสของสารละลายเกลือ NaCl กับ NH4Cl แตกต่างกนั
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. ไอออนใดทาให้สมบตั ิกรด-เบสของสารละลายเกลือ NaCl กับ CH3COONa แตกตา่ งกนั
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
64
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 6 ภำคเรียนที่ 2/2564
ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 5
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ เคมี 4 เวลำ 30 ช่วั โมง
เวลำ 3 ชั่วโมง
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 กรด-เบส
เร่อื ง pH ของสำรละลำยกรด-เบส
ครผู ู้สอน นำงสำวชนิดำ แก่นทำ้ ว
1. สำระกำรเรยี นรู้และผลกำรเรยี นรู้
สำระท่ี 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ผลกำรเรยี นรู้
คานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรดและ
เบส
2. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
น้าบริสุทธิ์ท่ีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสแตกตัว ให้ไฮโดรเนียมไอออนและไฮดรอกไซด์ไอออน ที่มี
ความเข้มขน้ เท่ากนั คอื 1.0 x 10-7 โมลต่อลติ ร โดยมคี ่าคงที่การแตกตัวของนา้ = 1.0 x 10-14
เม่ือกรดหรือเบสแตกตัวในน้า คา่ ความเปน็ กรด-เบสของสารละลายแสดงได้ดว้ ยค่า pH ซง่ึ สมั พนั ธ์กับ
ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนโดยสารละลายกรดมีความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนมากกว่า
1.0 x 10-7 โมลต่อลิตร หรือมีค่า pH น้อยกว่า 7 ส่วนสารละลายเบสมีความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน
นอ้ ยกว่า 1.0 x 10-7โมลตอ่ ลิตร หรอื มีค่า pH มากกว่า 7
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
3.1 ด้ำนควำมรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถคานวณความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเนียมไอออน หรือไฮดรอกไซดไ์ อออนของสารละลาย
กรดและเบส
2. นักเรียนสามารถคานวณค่า pH ของสารละลายกรดและเบส
3.2 ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
1. นกั เรียนสามารถบอกความเปน็ กรด-เบสของสารละลายจากชว่ ง pH ของอนิ ดิเคเตอร์
3.3 ด้ำนคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. นกั เรียนมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
4. สำระกำรเรยี นรู้
ความเขม้ ขน้ ของ H3O+ และ OH- ในสารละลายมหี ลายค่าต้ังแต่เขม้ ขน้ มากจนไปถงึ เข้มขน้ น้อย นิยม
แปลงคา่ ความเขม้ ข้นของ H3O+ และ OH- ในรูปของ pH (power of hydrogen)
pH = -log [H3O+]
65
pOH = -log [OH-]
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มีความรบั ผิดชอบ
7. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5E
7.1 ขั้นสรำ้ งควำมสนใจ (Engagement)
1. นกั เรียนดรู ูปภาพความเป็นกรด-เบสของสาร
2. นักเรียนตอบคาถามจากรปู ภาพขา้ งตน้ “นักเรยี นบอก pH ความเปน็ กรด เบส และกลาง” (แนว
คาตอบ: กรดมคี ่า pH ระหวา่ ง 1-6 เบสมคี า่ pH 8-14 และกลางมีค่า pH เท่ากบั 7)
3. นักเรยี นศึกษาการเปล่ียนแปลงค่าความเขม้ ข้นของ H3O+ ในรูปของ pH ดงั สมการ
pH = -log [H3O+]
4. นกั เรียนศกึ ษาการแตกตวั ของนา้
นา้ มคี วามเขม้ ขน้ ของ H3O+ และ OH- เท่ากบั 1.0 × 10-7 โมลตอ่ ลติ ร ดังนั้น pH ของน้า
คานวณไดด้ ังนี้
pH = -log [H3O+]
= -log (1.0 × 10-7)
= 7.00
เนอ่ื งจากนา้ มีสมบตั เิ ป็นกลาง ดงั น้นั สารละลายท่เี ป็นกลางจึงมี pH เทา่ กับ 7
ในทานองเดยี วกัน คา่ pOH สามารถคานวณไดจ้ าก OH- ดังสมการ
pOH = -log [OH-]
66
และเน่ืองจากน้ามคี วามเข้มข้นของ OH- เทา่ กบั 1.0 × 10-7 โมลตอ่ ลติ ร ดังน้นั คา่ pOH เทา่ กบั 7.00 นอกจากนนั้
ยังสามารถใช้คา่ คงทกี่ ารแกตกตัวของนา้ หาความสมั พนั ธ์ของ pH และ pOH ดงั น้ี
Kw = [H3O+][OH-]
-log Kw = -log ([H3O+][OH-])
-log Kw = (-log[H3O+]) + (-log[OH-])
-log (1.0 × 10-14) = pH + pOH
14.00 = pH + pOH
7.2 ขน้ั สำรวจและค้นหำ (Exploration)
1. นักเรยี นศกึ ษาตัวอย่างในหนงั สือเรยี นเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4
ตวั อย่างท่ี 1 สารละลายกรดแอซตี ิก (CH3COOH) 0.50 โมลตอ่ ลิตร มคี ่า pH เท่าใด
วิธีทา กรดแอซีติก (CH3COOH) 0.50 โมลต่อลิตร มีค่า [H3O+] เท่ากับ 3.0 × 10-3 โมลต่อลิตร
สามารถนาไปคานวณ pH ไดด้ ังน้ี
pH = -log [H3O+]
= -log [3.0 × 10-3]
= 2.52
ดงั นน้ั สารละลายกรดแอซตี ิกมี pH เท่ากับ 2.52
ตัวอย่างที่ 2 สารละลายของยาลดกรดในกระเพาะอาหาร pH 10.00 มีความเข้มข้นของ ไฮดรอก
ไซด์ไอออนเปน็ เท่าใด
วธิ ีทา คานวณ pOH ของสารละลายยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
pH + pOH = 14.00
10.0 + pOH = 14.00
pOH = 4.00
ดงั นน้ั สารละลายของยาลดกรดในกระเพาะอาหารมี pOH 4.00
คำนวณควำมเขม้ ข้นของไฮดรอกไซด์ไอออน
pOH = -log [OH-]
4.00 = -log[OH-]
[OH-] = 1.0 × 10-4
2. นกั เรยี นทาแบบตรวจสอบความเข้าใจในหนังสอื เรยี นเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี 4 หนา้ 37
3. นักเรียนศึกษาตัวอย่างการคานวณที่เก่ียวข้องกับ pH และ pOH ของสารละลาย โดยใช้ตัวอย่าง
ดังน้ี
ตัวอยา่ งท่ี 3 คานวณ pH ของสารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 2.00 ปริมาตร 100 มิลลลิ ิตร เม่อื เติม
สารต่อไปน้ี
1. สารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 1.00 ปริมาตร 100 มลิ ลิลิตร
2. นา้ ปรมิ าตร 100 มลิ ลิลติ ร
วธิ ที า
1. เติม HCl pH 1.0 ปริมำตร 100 mL
คำนวณจำนวนโมลของ H3O+ ใน HCl pH 2.00 ปรมิ ำตร 100 mL
67
pH = -log [H3O+]
2.00 = -log [H3O+]
[H3O+] = 1.0 × 10-2 mol/mL
1.0 × 10-2
จานวนโมลของ H3O+ = 1000 mL × 100 mL
= 1.0 × 10-3 โมล
ดงั นัน้ สารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 2.00 มีไฮโดรเนียมไอออน 1.0 × 10-3 โมล
คำนวณจำนวนโมลของ H3O+ ใน HCl pH 1.00 ปรมิ ำตร 100 mL
pH = -log [H3O+]
1.00 = -log [H3O+]
[H3O+] = 1.0 × 10-1 mol/mL
1.0 × 10-1
จานวนโมลของ H3O+ = 1000 mL × 100 mL
= 1.0 × 10-2 โมล
ดงั นั้น สารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 1.00 มีไฮโดรเนยี มไอออน 1.0 × 10-2 โมล
คำนวณจำนวนโมลรวมของ H3O+ หลงั ผสม
จานวนโมลรวมของ H3O+ = 1.0 × 10-3 mol + 1.0 × 10-2 mol
= 1.1 × 10-2 mol
ดังน้ัน จานวนโมลรวมของไฮโดรเนยี มไอออนหลงั ผสมเทา่ กับ 1.1 × 10-2 โมล
1.1 × 10-2
ความเขม้ ข้นของ H3O+ = 100+100 mol × 1000 mL
mL 1L
= 5.5 × 10-2 mol/L
ดังน้ัน ความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเนยี มไอออนหลังผสมเทา่ กบั 5.5 × 10-2 mol/L
คำนวณ pH ของสำรละลำยหลงั ผสม
pH = -log [H3O+]
= -log (5.5 × 10-2)
= 1.26
ดงั นั้น pH ของสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ หลังผสมเท่ากับ 1.26
2. เติมน้ำปรมิ ำตร 100 mL
คำนวณจำนวนโมลของ H3O+ ในนำ้ pH 7.00 ปริมำตร 100 mL
จากข้อ 1 จานวนโมลของ H3O+ ใน HCl pH 2.00 เท่ากบั 1.0 × 10-3 โมล และเนอ่ื งจากน้าpH 7.00
มีความเข้มข้นของ H3O+ เท่ากบั 1.0 × 10-7 โมลตอ่ ลติ ร ดังนน้ั
1.0 × 10-7 โมล
จานวนโมลของ H3O+ = 1000 mL ×100 mL
= 1.0 × 10-8 โมล
ดงั นั้น นา้ มไี ฮโดรเนียมไอออน 1.0 × 10-8 โมล
คำนวณจำนวนโมลรวม H3O+ หลังผสม
จานวนโมลรวม H3O+ หลังผสม = 1.0 × 10-3 + 1.0 × 10-8
68
= 1.0 × 10-3 โมล
ซ่งึ จะเห็นวา่ 1.0 × 10-8 มคี ่านอ้ ยมากจนถอื ว่าตัดท้งิ ได้ ดังนนั้ จานวนโมลรวมของไฮโดรเนยี มไอออน
เท่ากบั 1.0 × 10-3 โมล
คำนวณควำมเข้มข้น H3O+ หลงั ผสม
1.0 × 10-3 mol 1000 mL
ความเข้มข้น H3O+ = 100+100 mL × 1L
= 5.0 × 10-3 โมลตอ่ ลิตร
ดงั นัน้ ความเข้มขน้ ของไฮโดรเนียมไอออนหลงั ผสมเท่ากับ 5.0 × 10-3 โมลตอ่ ลิตร
คำนวณ pH ของสำรละลำยหลังผสม
pH = -log [H3O+]
= -log [5.0 × 10-3]
= 2.30
ดงั นั้น pH ของสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ หลงั ผสมเทา่ 2.30
ตัวอย่างท่ี 4 ถ้าต้องการเตรียมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ให้มี pH 10.00 จาก
สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ pH 12.00 ปริมาตร 10 มิลลลิ ิตร จะต้องเตมิ นา้ ลงไปเท่าใด
วธิ ีทา คำนวณจำนวนโมลของ OH- ใน NaOH pH 10.00
กาหนดให้ ปรมิ าตรของสารละลายทตี่ ้องการเทา่ กับ a mL
คำนวณควำมเขม้ ข้นของ OH-
NaOH pH 10.00 มี pOH = 14.00 – 10.00 = 4.00
จาก pOH = -log[OH-]
4.00 = -log[OH-]
[OH-] = 1.0 × 10-4 mol/L
1.0 × 10-4
จานวนโมลของ OH- = 1000 mL × a mL
= 1.0 × 10-7 a mol
ดังนนั้ สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ pH 10.00 มีไฮดรอกไซดไ์ อออน 1.0 × 10-7 a mol
คำนวณจำนวนโมลของ OH- ใน NaOH pH 12.00 ปริมำตร 10 mL
คำนวณควำมเข้มข้นของ OH-
NaOH pH 12.00 มี pOH = 14.00 – 12.00 = 2.00
จาก pOH = -log[OH-]
2.00 = -log[OH-]
[OH-] = 1.0 × 10-2 mol/L
1.0 × 10-2
จานวนโมลของ OH- = 1000 mL ×10 mL
= 1.0 × 10-4 mol
ดังนั้น สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ pH 12.00 มีไฮดรอกไซด์ไอออน 1.0 × 10-4mol
69
คำนวณจำนวนโมลของ OH- ในน้ำ
นา้ มคี วามเข้มขน้ ของ OH- เท่ากับ 1.0 × 10-7 โมลต่อลติ ร ปริมาตรนา้ ทีเ่ ตมิ ลงไปเท่ากบั a-10 mL
ดังนั้น 1.0 × 10-7
1000 mL
จานวนโมลของ OH- = × (a-10) mL
= 1.0 × 10-10 (a-10) mol
คานวณจานวนโมลรวมของ OH- ใน NaOH pH 12.00 ท่ีเตมิ น้า
จานวนโมลรวมของ OH- = 1.0 × 10-4+1.0 × 10-10 (a-10)
= 1.0 × 10-4 mol
ซ่ึงเห็นว่า 1.0 × 10-10 (a-10) มีค่าน้อยมากจรถือว่าตัดท้ิงได้ ดังนั้นจานวนโมลรวมของ ไฮดรอก
ไซด์ไอออนเทา่ กบั 1.0 × 10-4 โมล
คานวณปรมิ าตรนา้ ทเ่ี ตมิ ลงไป
เน่ืองจากจานวนโมลรวมของ OH- ใน NaOH pH 12.00 ที่เติมน้า มีค่าเท่ากับจานวน โมลของ
OH- ใน NaOH pH 10.00
จานวนโมลรวมของ OH- ใน NaOH pH 12.00 = จานวนโมลของ OH- ใน NaOH pH 10.00
1.0 × 10-7 a = 1.0 × 10-4
a = 1000
แสดงว่า ปริมาตรของสารละลายท่ีต้องการเท่ากับ 1000 มลิ ลิลิตร
ปริมาตรน้าทีต่ อ้ งเตมิ ลงไป = a – 10
= 1000 – 10
= 990
ดงั นัน้ ปริมาตรน้าทต่ี อ้ งเตอมลงไปเทา่ กบั 990 มิลลิลิตร
7.3 ข้นั อธบิ ำยและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. นักเรียนตอบคาถาม “เม่ือเติมสารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 3.00 ปริมาตร 100 มิลลิลิตร ลง
ในสารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 2.00 ปรมิ าตร 100 มิลลลิ ิตร สารละลายที่ไดจ้ ะมี pH เป็นเท่าใด”
(แนวคาตอบ: คานวณจานวนโมลของ H3O+ ใน HCl pH 3.00 ปรมิ าตร 100 mL
คานวณความเขม้ ขน้ ของ H3O+
จาก pH = -log [H3O+]
3.00 = -log [H3O+]
H3O+ = 1.0 × 10-3 mol/L
คานวณจานวนโมลของ H3O+
1.0 × 10-3
จานวนโมลของ H3O+ = 1000 mL ×100 mL
= 1.0 × 10-4 mol
คานวณจานวนโมลของ H3O+ ใน HCl pH 2.00 ปรมิ าตร 100 mL
คานวณความเขม้ ข้นของ H3O+
จาก pH = -log[H3O+]
2.00 = -log [H3O+]
70
[H3O+] = 1.0 × 10-2 mol/L
คานวณจานวนโมลของ H3O+
1.0 × 10-2 mol
จานวนโมลของ H3O+ = 1000 mL ×100 mL
= 1.0 × 10-3 โมล
ดงั นน้ั สารละลายกรดไฮโดรคลอริก pH 2.00 มีไฮโดรเนยี มไอออน 1.0 × 10-3 โมล
คานวณจานวนโมลรวมของ H3O+ หลงั ผสม
จานวนโมลรวมของ H3O+ = 1.0 × 10-3 + 1.0 × 10-4 mol
= 1.1 × 10-3
คานวณความเขม้ ข้นของ H3O+ หลงั ผสม
1.1 × 10-3 1000 mL
H3O+ = 200 mL × 1L
= 5.5 × 10-3 mol/L
คานวณ pH ของสารละลายหลังผสม
pH = -log[H3O+]
= -log (5.5 × 10-3)
= 2.26
ดังนน้ั pH ของสารละลายกรดไฮโดรคลอริกหลงั ผสมเท่ากับ 2.26 )
2. นักเรียนตอบคาถาม “การตรวจสอบความเป็นกรด-เบสของสารละลายสามารถทาได้หลากหลาย
วธิ ี อะไรบา้ ง” (แนวคาตอบ: สงั เกตการเปลยี่ นสขี องอนิ ดเิ คเตอร์ อา่ นคา่ จากพเี อชมเิ ตอร์ ทดสอบด้วยกระดาษ
ลิตมสั ทดสอบโดยใช้กระดาษยนู ิเวอร์ซัลอนิ ดิเคเตอร)์
3. นักเรียนสังเกตการณ์เปล่ียนแปลงของโบรโมไทมอลบลู เม่ือเติมอินดิเคเตอร์ลงไปในสารละลาย
ดงั กล่าว
สารละลาย pH 4 สารละลาย pH 7 สารละลาย pH 10
4. นกั เรยี นดรู ูปภาพของสารละลายอินดเิ คเตอร์
71
7.4 ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนตอบคาถาม “สารละลาย A และ B เมื่อนาไปหยดด้วยอินดิเคเตอร์ 3 ชนิด ให้สีที่ปรากฏ
ดงั ตาราง สารละลายแต่ละชนิดมี pH เท่าใด”
2. นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ เก่ียวกับยูนเิ วอรซ์ ัลอินดิเคเตอร์ อินดิเคเตอรใ์ นธรรมชาติ และพเี อชมเิ ตอร์
7.5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
1. นักเรียนทาแบบฝึกหัด 10.5
2. นกั เรยี นสรปุ ความรทู้ ี่ไดล้ งในสมดุ
8. ส่อื /แหล่งกำรเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4
2. สไลด์สอน เรือ่ ง pH ของสารละลายกรดและเบส
3. แบบฝกึ หดั 10.5 หนงั สอื เรียนเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี 4 หนา้ 48
72
9. กำรวดั ผลและประเมินผล
จุดประสงค์ วธิ กี ำรวัด/เครื่องมอื วดั เกณฑ์กำรประเมิน
1. ดำ้ นควำมรู้ (K) - ได้คะแนนรอ้ ยละ
70 ขึ้นไป
1. นักเรียนสามารถคานวณความ
เข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออน หรือไฮ - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถาม
ดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด ในชัน้ เรยี น - แบบฝึกหัด
และเบส - ตรวจใบงาน 10.5
2. นักเรียนสามารถคานวณค่า pH
ของสารละลายกรดและเบส
2. ด้ำนทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P) - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหดั - ได้คะแนนร้อยละ
1. นกั เรยี นสามารถบอกความเปน็ 10.5 70 ขึ้นไป
กรด-เบสของสารละลายจากช่วง pH
ของอินดิเคเตอร์
3. ด้ำนคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมิน
คุณลักษณะอัน
(A) - การสงั เกต - ไดค้ ะแนนใน
1. นกั เรียนมีความรบั ผิดชอบต่องาน พึงประสงค์ ระดับ 3 (ดี) ขน้ึ ไป
ท่ีได้รับมอบหมาย
73
10. บันทึกหลงั กำรสอน
ผลการเรียนรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ……………………………………………….
(นางสาวชนดิ า แก่นทา้ ว)
ครผู สู้ อน
74
ควำมคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของครพู เ่ี ลย้ี ง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ……………………………………………….
(นางสุพิณยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ีเ่ ล้ียง
ควำมคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสริ ลิ ักษณ์ ทองสะอาด)
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผูอ้ านวยการสถานศึกษา
75
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 7 ภำคเรยี นท่ี 2/2564
ช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 5
กลุม่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
รำยวชิ ำเพม่ิ เติม เคมี 4 เวลำ 30 ชัว่ โมง
เวลำ 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 1 กรด-เบส
เรอ่ื ง ปฏิกริ ิยำเคมีระหวำ่ งกรดและเบส
ครผู ูส้ อน นำงสำวชนดิ ำ แกน่ ท้ำว
1. สำระกำรเรยี นรู้และผลกำรเรียนรู้
สำระที่ 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนา
ความรู้ไปใช้ประโยชน์
ผลกำรเรียนรู้
เขียนสมการเคมแี สดงปฏิกิรยิ าสะเทนิ และ ระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลาย หลังการสะเทิน
2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
ปฏิกิริยาสะเทนิ ระหว่างกรดแกแ่ ละเบสแก่ ใหส้ ารละลายท่เี ปน็ กลาง ปฏกิ ิรยิ าสะเทนิ ระหว่างกรดแก่
และเบสอ่อน ให้สารละลาย ท่ีเป็นกรด ส่วนปฏกิ ิริยาสะเทนิ ระหวา่ งกรดอ่อน และเบสแก่ ให้สารละลายทเ่ี ปน็
เบส
เกลือทไี่ ดจ้ ากการสะเทินของกรดแกด่ ้วยเบสอ่อนเมือ่ ละลายในน้าจะเกิดปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลิซสิ ได้
สารละลายทีม่ สี มบัตเิ ป็นกรด สว่ นเกลือทไ่ี ด้จากการสะเทินของกรดอ่อนดว้ ยเบสแก่ เมือ่ ละลายในน้าจะ
เกิดปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ สิ ไดส้ ารละลายที่มีสมบัตเิ ป็นเบส
3. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
3.1 ดำ้ นควำมรู้ (K)
นักเรียนสามารถเขยี นสมการเคมแี ดงปฏกิ ิริยาสะเทนิ ได้
3.2 ด้ำนทักษะ/กระบวนกำรคิด (P)
นกั เรยี นสามารถระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลังการสะเทินได้
3.3 ดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
4. สำระกำรเรียนรู้
ปฏกิ ิริยาสะเทนิ (neutralization reaction) คือ ปฏิกริ ิยาเคมีระหวา่ งสารละลายกรดและเบสทพี่ อดีกัน ซึ่ง
อาจเขียนในรูปสมการเคมีท่ัวไปไดด้ ังนี้
HA + BOH → BA + H2O หรือ H3O++ OH- → 2H2O
76
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มีความรับผิดชอบ
7. กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
ใช้รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5E
7.1 ขัน้ สร้ำงควำมสนใจ (Engagement)
1. นักเรยี นทบทวนความรู้เดมิ
“สารละลาย A B และ C เม่ือนาไปหยดดว้ ยอนิ ดเิ คเตอร์ 4 ชนิด ใหส้ ที ป่ี รากฏดังตาราง
- สารละลายแต่ละชนดิ มีชว่ ง pH เท่า (แนวคาตอบ: สารละลาย A มีค่า pH อยใู่ นชว่ ง 4.2-4.4
สารละลาย B มีคา่ pH อยู่ในชว่ ง 6.8-8.3 และสารละลาย C มีค่า pH มากกวา่ 10)
- สารละลายใดเป็นกรด (แนวคาตอบ: สารละลาย A)
7.2 ขน้ั สำรวจและคน้ หำ (Exploration)
1. นักเรยี นศกึ ษาเกยี่ วกับความหมายของปฏิกริ ิยาสะเทิน
ปฏกิ ริ ยิ ำสะเทิน (neutralization reaction) คือ ปฏิกิรยิ าเคมีระหว่างสารละลายกรดและเบสท่พี อดีกัน ซ่งึ
อาจเขียนในรปู สมการเคมีทั่วไปไดด้ งั นี้
HA + BOH → BA + H2O หรือ H3O++ OH- → 2H2O
2. นักเรียนศกึ ษาเก่ยี วกับการเขยี นสมการเคมีแสดงปฏกิ ิรยิ าสะเทนิ
- ปฏิกิริยำสะเทินระหวำ่ งกรดแก่กบั เบสแก่
เม่ือนาสารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) มาทา
ปฏิกริ ิยากัน เขียนสมการได้ดังนี้
HCl (aq) + NaOH (aq) → NaCl (aq) + H2O (l)
ผลติ ภณั ฑเ์ กลือที่เกดิ ขน้ึ คอื โซเดยี มคลอไรด์ (NaCl) ซึ่งมรสมบัติเปน็ กลาง
- ปฏิกริ ยิ ำระหวำ่ งกรดอ่อนกบั เบสแก่
77
ปฏิกิริยาระหวา่ กรดแอซตี ิก (CH3COOH) และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) เขียนสมการ
เคมไี ดด้ งั น้ี
CH3COOH (aq) + NaOH (aq) → CH3COONa (aq) + H2O (l)
ผลิตภัณฑ์เกลือที่เกิดข้ึนคือเกลือโซเดียมแอซีเตต ซ่ึงมีสมบัติเป็นเบส เนื่องจาก CH3COO-
สามารถเกิดปฏกิ ริ ิยาไฮโดรไลซิสได้ OH-
- ปฏกิ ิริยำระหว่ำงกรดแกก่ บั เบสออ่ น
ปฏิกิริยาระกว่างสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (HCl) และสารละลายแอมโมเนีย (NH3) เขียนสมการ
เคมไี ด้ดงั นี้
HCl (aq) + NH3 (aq) → NH4Cl (aq)
ผลิตภัณฑ์เกลือท่ีเกิดข้ึนคือ แอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl) ซ่ึงมีสมบัติเป็นกรด เนื่องจาก NH4+
สามารถเกดิ ปฏกิ ิริยาไฮโดรลิซสิ ได้ H3O+
7.3 ข้นั อธิบำยและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1. นักเรียนสรุปความรทู้ ไ่ี ด้เก่ยี วกับปฏกิ ริ ิยาสะเทิน
- ปฏกิ ิริยาระกวา่ กรดแกก่ ับเบสแก่ ผลิตภณั ฑ์ทีไ่ ด้เกลือจะมสี มบัตเิ ป็นกลาง
- ปฏิกิรยิ าระหว่างกรดอ่อนกับเบสแก่ ผลติ ภัณฑ์ท่ไี ด้เกลอื จะมีสมบัติเปน็ เบส
- ปฏิกิริยาระหวา่ งกรดแก่กับเบสอ่อน ผลิตภณั ฑท์ ่ีไดเ้ กลือจะมสี มบตั ิเป็นกรด
7.4 ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนทาแบบฝกึ หัด 10.6 ในหนงั สอื เรยี นเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4 หนา้ 50
7.5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)
1. นกั เรียนสรุปความรทู้ ่ไี ดล้ งในสมุด
8. ส่ือ/แหล่งกำรเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี 4
2. สไลด์สอน เรอื่ ง ปฏกิ ิริยาเคมรี ะหว่างกรดและเบส
3. แบบฝกึ หดั 10.6 ในหนงั สือเรียนเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี 4 หน้า 50
78
9. กำรวดั ผลและประเมินผล
จุดประสงค์ วิธกี ำรวดั /เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ ำรประเมิน
1. ดำ้ นควำมรู้ (K) - การตอบคาถาม - ข้อคาถาม - ได้คะแนนร้อยละ
70 ขึ้นไป
นักเรียนสามารถเขียนสมการเคมี ในช้ันเรียน - แบบฝกึ หดั
แดงปฏกิ ริ ิยาสะเทนิ ได้ - ตรวจใบงาน 10.6
2. ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
นักเรียนสามารถระบุความเป็น - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหดั - ได้คะแนนรอ้ ยละ
ก ร ด - เ บ ส ข อ ง ส า ร ล ะ ล า ย ห ลั ง ก า ร 10.6 70 ขน้ึ ไป
สะเทินได้
3. ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - การสงั เกต - แบบประเมิน - ไดค้ ะแนนใน
(A) คุณลักษณะอัน ระดบั 3 (ดี) ข้นึ ไป
พึงประสงค์
นกั เรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่
ได้รับมอบหมาย
79
10. บันทึกหลงั กำรสอน
ผลการเรียนรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ……………………………………………….
(นางสาวชนดิ า แก่นทา้ ว)
ครผู สู้ อน
80
ควำมคิดเหน็ / ข้อเสนอแนะของครพู ่ีเลี้ยง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสพุ ณิ ยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ี่เลยี้ ง
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสริ ลิ กั ษณ์ ทองสะอาด)
หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผู้อานวยการสถานศึกษา
81
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 8 ภำคเรยี นที่ 2/2564
ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 5
กล่มุ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
รำยวิชำเพมิ่ เติม เคมี 4 เวลำ 30 ชั่วโมง
เวลำ 2 ชัว่ โมง
หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 1 กรด-เบส
เรือ่ ง กำรไทเทรตกรด-เบส (1)
ครผู ้สู อน นำงสำวชนิดำ แก่นทำ้ ว
1. สำระกำรเรียนรแู้ ละผลกำรเรียนรู้
สำระที่ 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ผลกำรเรียนรู้
1. ทดลอง และอธิบายหลักการการไทเทรต และเลอื กใช้อินดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสาหรับการไทเทรต
กรด-เบส
2. คานวณปริมาณสารหรือความเข้มขน้ ของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต
2. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด
การไทเทรตเป็นเทคนคิ ในการวิเคราะหห์ าปรมิ าณ หรอื ความเขม้ ขน้ ของสารท่ีทาปฏิกริ ยิ าพอดกี นั จดุ
ทีส่ ารทาปฏกิ ริ ิยาพอดกี นั เรียกว่า จดุ สมมูล ในทางปฏิบตั ิจดุ สมมลู ของปฏกิ ริ ยิ าอาจไมส่ ามารถ สงั เกตเหน็ ไดจ้ ึง
สังเกตจากการเปลี่ยนสีของ อินดิเคเตอร์เพ่ือบอกจุดยุติของการไทเทรตดังนั้น อินดิเคเตอรท์ ่ีเหมาะสมในการ
ไทเทรตกรด-เบส ควรเป็นอินดิเคเตอร์ที่เปลี่ยนสีในช่วง pH ตรงกับ หรือใกล้เคียงกับ pH ของสารละลาย ณ
จุดสมมลู
ปริมาณกรดและเบสที่ทาปฏิกิริยาพอดีกันจากการไทเทรตกรด-เบส สามารถนาไปคานวณความ
เข้มขน้ ของกรดหรือเบสทต่ี อ้ งการทราบความเขม้ ขน้ ได้
3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
3.1 ดำ้ นควำมรู้ (K)
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายหลักการไทเทรตได้
3.2 ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P)
1. นักเรยี นสามารถคานวณปริมาณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต
ได้
3.3 ด้ำนคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1. นักเรียนมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีได้รบั มอบหมาย
4. สำระกำรเรยี นรู้
ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างกรดและเบสสามารถนามาใช้หาความเข้มข้นของสารละลายที่ไม่ทราบความ
เข้มข้นโดยใช้วิธกี ารทเ่ี รียกว่า กำรไทเทรต (titration)
82
การเติมปริมาณสารชนิดใดชนิดหนึง่ ที่เติมลงไปทาปฏิกริ ิยากับสารอีกชนดิ หนึง่ จนถึงจุดท่ีสารทั้งสอง
ทาปฏิกิรยิ ากนั พอดีซึ่งเรียกว่า จุดสมมลู (equivalent point)
สำรละลำยมำตรฐำน (Standard solution) คือสารทท่ี ราบปริมาณหรอื ความเข้มข้นที่แน่นอน
กรำฟกำรไทเทรต (titration curve) คือ การเขียนกราฟความสมั พันธร์ ะหวา่ ง pH กับปรมิ าตรของ
สารละลายทเ่ี ป็นตวั ไทเทรต
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มคี วามรับผดิ ชอบ
7. กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5E
7.1 ข้นั สร้ำงควำมสนใจ (Engagement)
1. นักเรยี นทบทวนความรูเ้ กย่ี วกับปฏกิ ริ ิยาเคมรี ะหว่างกรดและเบส
H2SO4 (aq) + Ba(OH)2 (aq) → BaSO4(s) +2H2O (l)
2. นักเรียนตอบคาถาม “ปฏิกริ ยิ าขา้ งต้นเปน็ ปฏกิ ริ ิยาระหว่างกรดแก่กับเบสแก่ ผลติ ภณั ฑ์เกลือที่ได้
คืออะไร และมีสมบัติเป็นกรด เบส หรือกลาง” (แนวคาตอบ: ผลิตภัณฑ์เกลือท่ีเกิดขึ้นคือ ตะกอนของ
แบเรยี มซัลเฟต (BaSO4) มีสมบัตเิ ป็นกลาง เน่อื งจากกรดแกแ่ ละเบสแกท่ าปฏกิ ริ ิยากัน)
3. นกั เรียนศกึ ษาปฏิกริ ยิ าสะเทินระหว่างกรดและเบส
ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างกรดและเบสสามารถนามาใช้หาความเข้มข้นของสารละลายที่ไม่ทราบความ
เข้มขน้ โดยใช้วธิ ีทีเ่ รียกว่า กำรไทเทรต (Titration)
7.2 ข้นั สำรวจและคน้ หำ (Exploration)
1. นกั เรียนศกึ ษาความหมายของการไทเทรต จดุ สมมูล และสารละลายมาตรฐาน
ปฏิกิริยาสะเทินระหว่างกรดและเบสสามารถนามาใช้หาความเข้มข้นของสารละลายท่ีไม่ทราบความ
เขม้ ข้นโดยใช้วธิ กี ารทีเ่ รียกว่า กำรไทเทรต (titration)
การเติมปริมาณสารชนิดใดชนิดหนง่ึ ท่ีเติมลงไปทาปฏิกิริยากับสารอกี ชนิดหน่ึงจนถึงจุดท่ีสารท้ังสอง
ทาปฏกิ ริ ิยากนั พอดซี ึ่งเรียกว่า จดุ สมมลู (equivalent point)
สำรละลำยมำตรฐำน (Standard solution) คือสารที่ทราบปริมาณหรือความเขม้ ข้นที่แนน่ อน
83
2. นักเรยี นสังเกตรปู ภาพการไทเทรต
3. นกั เรยี นบอกอปุ กรณ์ท่ใี ช้สาหรบั การไทเทรต (แนวคาตอบ: ขวดรูปชมพู่ บิวเรต บวิ เรตแคมป์)
4. นกั เรียนศกึ ษาการเขียนกราฟการไทเทรต
จดุ สมมลู ของการไทเทรตกรด-เบส คอื จุดที่จานวนโมลของไฮโดรเจนไอออนพอดจี านวนโมลของไฮดร
อกไซด์ไอออนซง่ึ หาได้จากการติดตามค่า pH แล้วนามาเขียนกราฟความสัมพันธ์ระหวา่ ง pHกับปริมาตรของ
สารละลายท่ีเปน็ ตวั ไทเทรตซึ่งเรียกวา่ กราฟการไทเทรต (Titration curve)
5. นักเรียนศึกษาการไทเทรตกรดแก่กบั เบสแก่ ในหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ เคมี 4 หน้า 52
ปฏิกิริยาระหว่างสารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ความเข้มข้นปริมาตร 10 มิลลิลิตร กับละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซด์ 0.2 โมลตอ่ ลิตร ไดก้ ราฟดังรูป
จากสมการเคมี
HCl (aq) + NaOH (aq) → NaCl (aq) + H2O (l)
จะเหน็ วา่ HCl 1 โมล ทาปฏกิ ิริยาพอดกี ับ NaOH 1 โมล
คานวณจานวนโมลของ NaOH 0.20 mol
1000 mL
จานวนโมลของ NaOH = × 10.00 mL
= 2.00 × 10-3 mol
84
ดงั นน้ั จานวนโมลของ NaOH เทา่ กบั 2.00 × 10-3 โมล ซึ่งเทา่ กับจานวนโมลของ HCl ปริมาตร
10.00 มิลลิลิตร ด้วย
คานวณความเขม้ ข้นของ HCl 2.00 × 10-3 mol
10.00 mL
ความเขม้ ขน้ ของ HCl = × 1000 mL
1L
= 0.200 mol/L
ดังนนั้ สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ เขม้ ขน้ 0.200 โมลต่อลิตร
6. นักเรียนศึกษาการไทเทรตกรดออ่ นกับเบสแก่ ในหนงั สอื เรียนเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี 4 หนา้ 53
การไทเทรตสารละลายกรดแอซีติก (CH3COOH) ปริมาตร 10 มิลลิลิตร กับสารละลายโซเดียมไฮดร
อกไซด์ (NaOH) เขม้ ขน้ 0.2 โมลตอ่ ลิตร ไดก้ ราฟดงั รปู
จากสมการเคมี
CH3COOH (aq) + NaOH (aq) → ×CH130CmOOLN×a10(a1mqL) + H120O00 (l)
ความเข้มข้นของ CH3COOH = ×
0.2 mol mL
1000 mL
= 0.2 mol/L 1L
ดงั นน้ั สารละลายกรดแอซีตกิ เขม้ ขน้ 0.2 โมลต่อลิตร
7. นกั เรยี นศกึ ษาการไทเทรตกรดแกก่ บั เบสอ่อน ในหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์เพ่มิ เติม เคมี 4 หน้า 54
ปฏกิ ริ ิยาระหว่างสารละลายกรดไฮโดรคลอกริก (HCl) เข้มขน้ 0.2 โมลตอ่ ลติ ร สารละลายแอมโมเนีย
(NH3) ปริมาตร 10 มิลลลิ ิตร ได้กราฟดงั รปู
จากสมการเคมี HCl (aq) + NH3(aq) →101mNLH4×Cl1(0a01q0L)mL
ความเขม้ ข้นของ NH3 0.2 mol ×10 mL ×
= 1000 mL
= 0.2 mol/L
85
ดงั น้ัน สารละลายแอมโมเนียเขม้ ขน้ 0.2 โมลต่อลิตร
7.3 ขนั้ อธบิ ำยและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1. นักเรยี นสรุปสง่ิ ทไี่ ด้จากการเรียนรู้
การไทเทรต จะเป็นการตดิ ตามปรมิ าณสารชนิดใดชนิดหนึง่ ท่ีเติมลงไปทาปฏิกริ ยิ ากบั สารอีกชนิดหน่ึง
จนถึงจุดที่สารทาปฏิกิริยากันพอดีเรียกว่า จุดสมมูล โดยใช้สารละลายมาตรฐานที่ทราบปริมาณหรือความ
เข้มข้นท่ีแน่นอนทาปฏกิ ริ ยิ ากับสารละลายอีกชนิดหนงึ่ ที่ต้องการทราบความเข้มขน้
การไทเทรตกรด-เบสอาศัยปฏกิ ริ ยิ าสะเทินระหว่างกรดกับเบส ซงึ่ มจี ุดสมมลู คือ จดุ ทจี่ านวนโมลของ
ไฮโดรเจนไอออนพอดีกับจานวนโมนของไฮดรอกไซด์ไอออน ซึ่งหาได้จากการติดตามค่า pHแล้วนาข้อมูลมา
เขียนกราฟการไทเทรต แล้วหาปริมาตรของ titrant เพื่อนามาใช้คานวณความเข้มข้นของกรดหรือเบสท่ี
ตอ้ งการ
การไทเทรตกรดแก่กับเบสแก่ จะมีจุดสมมูลท่ี pH = 7 ซึ่งเป็นจุดก่ึงกลางของบริเวณท่ี pH เพ่ิมข้ึน
อย่างรวดเร็วในกราฟการไทเทรต และเม่ือลากเส้นตรงจากจุดสมมลู มาตัดแกน X จะทาให้ทราบปริมาตรของ
titrant ใช้จงึ สามารถใชค้ านวณความเขม้ ขน้ ของกรดแก่หรือเบสแกท่ ่ตี อ้ งการได้
จุดสมมูลของการไทเทรตกรดเบส มี pH แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความแรงของกรดและเบสที่นามาทา
ปฏิกิรยิ ากันโดย
การไทเทรตกรดแกก่ บั เบสแก่ มีจดุ สมมูลที่ pH = 7
การไทเทรตกรดออ่ นกับเบสแก่ มจี ดุ สมมูลท่ี pH > 7
การไทยเทรดกดแกก่ บั เบสอ่อน มจี ดุ สมมลู ท่ี pH < 7
7.4 ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นักเรียนตอบคาถาม “การไทเทรตกรดออ่ นมาตรฐาน HA ชนิดหนึ่ง ซ่งึ มมี วลตอ่ โมล 204.22 กรัม
ตอ่ โมล โดยการละลายกรดอ่อนน้ี 0.204 กรมั ในน้าปรมิ าตร 12 มลิ ลิลติ รแล้วนามาไทเทรตกับสารละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซด์ท่ไี มท่ ราบความเขม้ ข้น พบว่าไดก้ ราฟการไทเทรตดงั รปู
จงแสดงตาแหนง่ ของจุดสมมูลและคานวณความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์”
(แนวคาตอบ: สมการเคมีท่ีเกิดขึ้นคือ HA(aq) + NaOH(aq) → NaA(aq) + H2O(l) )
86
ปริมาตรของ NaOH ทจี่ ุดสมมูลเท่ากับ 8 มิลลิลติ ร
1 mol
จะได้ จานวนโมลของ NaOH = 0.204 g × 204.22 g
= 9.99 × 10-4 mol
× 10-4
ความเขม้ ขน้ ของ NaOH = 9.99 mL × 1000 mL
8 1L
= 0.125 mol/L
7.5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation)
1. นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั เรอื่ ง การไทเทรตกรด-เบส
2. นักเรยี นสรุปสง่ิ ทีไ่ ด้จากการเรยี นลงในสมุด
8. ส่อื /แหล่งกำรเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี 4
2. สไลดส์ อน เร่ือง การไทเทรตกรด-เบส
3. แบบฝกึ หัด เรื่อง การไทเทรตกรด-เบส
87
9. กำรวัดผลและประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วิธีกำรวัด/เคร่อื งมือวัด เกณฑ์กำรประเมิน
- ข้อคาถาม - ได้คะแนนร้อยละ
70 ขึน้ ไป
1. ด้ำนควำมรู้ (K) - การตอบคาถาม - แบบฝกึ หัด
นักเรียนสามารถอธิบายหลักการ ในชัน้ เรยี น เรอื่ ง การ
ไทเทรตได้ - ตรวจใบงาน ไทเทรตกรด-
เบส
2. ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำรคดิ (P) - แบบฝกึ หัด
นักเรียนสามารถคานวณปริมาณ - ตรวจใบงาน เรือ่ ง การ - ได้คะแนนร้อยละ
สารหรือความเข้มข้นของสารละลาย ไทเทรตกรด- 70 ข้ึนไป
เบส
กรดหรอื เบสจากการไทเทรตได้
3. ด้ำนคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - แบบประเมิน
(A) - การสงั เกต คุณลักษณะอัน - ได้คะแนนใน
นกั เรยี นมีความรบั ผดิ ชอบต่องานท่ี พงึ ประสงค์ ระดับ 3 (ด)ี ข้ึนไป
ไดร้ ับมอบหมาย
88
10. บันทึกหลงั กำรสอน
ผลการเรียนรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ……………………………………………….
(นางสาวชนดิ า แก่นทา้ ว)
ครผู สู้ อน
89
ควำมคิดเหน็ / ข้อเสนอแนะของครพู ่ีเลี้ยง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสพุ ณิ ยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ี่เลยี้ ง
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสริ ลิ กั ษณ์ ทองสะอาด)
หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผู้อานวยการสถานศึกษา
90
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ 9 ภำคเรียนที่ 2/2564
ชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 5
กล่มุ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รำยวิชำเพ่ิมเตมิ เคมี 4 เวลำ 30 ชว่ั โมง
เวลำ 2 ชวั่ โมง
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 กรด-เบส
เรือ่ ง กำรไทเทรตกรด-เบส (2)
ครูผู้สอน นำงสำวชนิดำ แกน่ ท้ำว
1. สำระกำรเรียนรู้และผลกำรเรียนรู้
สำระที่ 5 สำระเคมี
เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนา
ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
ผลกำรเรยี นรู้
1. ทดลอง และอธิบายหลกั การการไทเทรต และเลอื กใช้อนิ ดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสาหรับการไทเทรต
กรด-เบส
2. คานวณปริมาณสารหรือความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรอื เบสจากการไทเทรต
2. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
การไทเทรตเปน็ เทคนิคในการวิเคราะห์หาปริมาณ หรือความเขม้ ข้นของสารทที่ าปฏิกริ ยิ าพอดีกนั จุด
ทสี่ ารทาปฏิกริ ิยาพอดีกันเรยี กวา่ จุดสมมูล ในทางปฏบิ ตั ิจุดสมมูลของปฏกิ ริ ยิ าอาจไมส่ ามารถ สงั เกตเห็นไดจ้ งึ
สังเกตจากการเปลี่ยนสีของ อินดิเคเตอร์เพื่อบอกจุดยุติของการไทเทรตดังน้ัน อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมในการ
ไทเทรตกรด-เบส ควรเป็นอินดิเคเตอร์ท่ีเปล่ียนสีในช่วง pH ตรงกับ หรือใกล้เคียงกับ pH ของสารละลาย ณ
จดุ สมมลู
ปริมาณกรดและเบสที่ทาปฏิกิริยาพอดีกันจากการไทเทรตกรด-เบส สามารถนาไปคานวณความ
เข้มข้นของกรดหรือเบสท่ตี ้องการทราบความเข้มขน้ ได้
3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
3.1 ด้ำนควำมรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถเลอื กใช้อินดเิ คเตอร์ที่เหมาะสมได้
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายการไทเทรตกรด-เบสโดยใชอ้ นิ ดิเคเตอรไ์ ด้
3.2 ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำรคิด (P)
1. นักเรยี นสามารถใช้อุปกรณ์การทดลองไดถ้ ูกต้อง
3.3 ด้ำนคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
1. นักเรียนมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
2. นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้
91
4. สำระกำรเรียนรู้
การเติมอินดิเคเตอร์ที่มชี ว่ ง pH ของการเปลี่ยนสีใกล้เคยี งกบั จุดสมมูล ซึ่งจดุ ที่เกดิ การเปลี่ยนสีของอนิ ดิเค
เตอรร์ ะหว่างการไทเทรต เรยี กวา่ จุดยุติ (end point)
อินดเิ คเตอรท์ นี่ ยิ มใช้
อินดิเคเตอร์ ชว่ ง pH ท่ีเปลี่ยนสี สีที่เปล่ยี น
ไทมอลบลู 1.2 – 2.8 แดง – เหลอื ง
โบโมฟีนอลบลู 3.0 – 4.6 เหลอื ง – นา้ เงนิ
คองโกเรด 3.0 – 5.0 นา้ เงนิ – แดง
เมทลิ ออเรนจ์ 3.2 – 4.4 แดง – เหลอื ง
โบรโมคลีซอลกรนี 3.8 – 5.4 เหลือง – น้าเงิน
เมทิลเรด 4.2 – 6.3 แดง – เหลือง
อะโซลติ มนิ 5.0 – 8.0 แดง – นา้ เงิน
โบรโมคลีซอลเพอรเ์ พลิ 5.2 – 6.8 เหลอื ง – มว่ ง
โบรโมไทมอลบลู 6.0 – 7.6 เหลือง – นา้ เงิน
ครีซอลเรด 7.0 – 8.8 เหลือง – แดง
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มีความรบั ผดิ ชอบ
7. กำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้
ใชร้ ปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5E
7.1 ขั้นสร้ำงควำมสนใจ (Engagement)
1. นกั เรยี นทบทวนความรู้เดิม เรื่อง การคานวณการไทเทรตกรดเบส
“วติ ามินซีกรดแอสคอร์บิก (C6H8O6) เป็นสว่ นประกอบสาคัญ กรดนีท้ าปฏกิ ิริยากับโซเดยี มไฮดรอก
ไซด์ (NaOH) ดงั สมการเคมี
C6H8O6(aq) + 2NaOH(aq) → Na2C6H6O6(aq) + 2H2O(l)
ถ้านาวิตามนิ ซชี นดิ เม็ดตวั อย่างหนึ่ง 0.10 กรัม มาละลายนา้ แลว้ ไทเทรตกบั สารละลายโซเดียมไฮดร
อกไซด์ 0.020 โมลตอ่ ลติ ร พบว่าตอ้ งใชส้ ารละลายโซเดยี มไฮโรอกไซด์ 15.20 มิลลิลิตร วิตามินซีตวั อยา่ งน้ี
มกี รดแอสคอร์บกิ ร้อยละโดยมวลเท่าใด
7.2 ข้นั สำรวจและค้นหำ (Exploration)
1. นักเรียนศึกษาความหมายของจดุ ยุติ
92
2. นักเรียนตอบคาถาม “นอกจากการใช้พีเอชมิเตอร์ การเปล่ียน pH ระหว่างการไทเทรตสามารถ
บอกได้โดยใช้วิธีใด” (แนวคาตอบ: การใช้อนิ ดิเคเตอร์)
3. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ให้ได้ 6 กลุม่ เทา่ ๆ กนั
4. นักเรยี นศกึ ษาการทดลองกิจกรรม 10.3 การทดลองการไทเทรตกรด-เบสโดยใชอ้ ินดเิ คเตอร์
5. นักเรยี นทาการทดลองกจิ กรรม 10.3 การทดลองการไทเทรตกรด-เบสโดยใช้อินดิเคเตอร์
7.3 ขั้นอธิบำยและลงข้อสรุป (Explanation)
1. นกั เรยี นนาเสนอผลการทดลองทีละกลุ่ม และสรุปผลการทดลองที่ได้
ตวั อย่างการคานวณความเข้มข้นของสารละลายมาตรฐาน NaOH
เม่ือทาการไทเทรตสารละลาย KHP ปรมิ าตร 10.00 มลิ ลลิ ิตร ดว้ ยสารละลาย NaOH พบวา่
ปริมาตรเฉล่ียของสารละลาย NaOH ท่ใี ชเ้ ท่ากับ 10 มลิ ลิลติ ร
1 mol 1 1000 mL
คานวณความเข้มข้นของ KHP = 2.04 g × 204.23 g × 100 mL × 1L
= 0.0999 moL/L
คานวณความเขม้ ข้นของสารละลายมาตรฐาน NaOH
ปฏกิ ิรยิ าระหว่าง KHP และ NaOH เป็นดงั นี้
KHC8H4O4(aq) + NaOH(aq) → KNaC8H4O4(aq) + H2O(l)
0.0999 mol 1 1000 mL
คานวณความเข้มข้น NaOH = 1000 mL × 10.00 mL × 10.0 mL × 1L
= 0.0999 mol/L
การเปล่ียนสที ่ีจดุ ยตุ ิของอนิ ดิเคเตอร์ 2 ชนิด เป็นดังน้ี
7.4 ขน้ั ขยำยควำมรู้ (Elaboration)
1. นกั เรียนตอบคาถาม “อินดิเคเตอร์ใดบา้ งทีเ่ หมาะสมสาหรับใช้ในการไทเทรตระหว่างสารละลาย
แอมโมเนยี (NH3) กับสารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) โดยพจิ ารณากราฟการไทเทรต และชว่ ง pH การ
เปล่ยี นสขี องอนิ ดิเคเตอร์
93
7.5 ข้นั ประเมนิ (Evaluation)
1. นกั เรยี นสรปุ สิ่งทไี่ ด้จากการเรียนลงในสมุด
8. สื่อ/แหล่งกำรเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นเพ่มิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี 4
2. สไลด์สอน เรอื่ ง การไทเทรตกรด-เบส
3. กิจกรรม 10.3 การทดลองการไทเทรตกรด-เบสโดยใชอ้ ินดิเคเตอร์
9. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วิธีกำรวดั /เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ำรประเมิน
1. ดำ้ นควำมรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถเลือกใช้อินดิเค - การตอบคาถาม - ข้อคาถาม - ได้คะแนนรอ้ ยละ
เตอรท์ ่ีเหมาะสมได้ ในชั้นเรียน 70 ข้นึ ไป
2. นักเรียนสามารถอธิบายการ
ไทเทรตกรด-เบสโดยใชอ้ ินดิเคเตอร์ได้
- กิจกรรม 10.3
2. ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำรคิด (P) การทดลองการ - ได้คะแนนร้อยละ
1. นักเรียนสามารถใช้อุปกรณ์การ - ตรวจใบงาน ไทเทรตกรด- 70 ขนึ้ ไป
เบสโดยใชอ้ นิ ดิ
ทดลองได้ถูกตอ้ ง
เคเตอร์
3. ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
(A) - แบบประเมิน
คุณลักษณะอัน
1. นกั เรียนมคี วามรับผิดชอบตอ่ งาน - การสังเกต พงึ ประสงค์ - ไดค้ ะแนนใน
ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ระดับ 3 (ด)ี ข้นึ ไป
2. นกั เรียนสามารถทางานร่วมกบั
ผู้อนื่ ได้
94
10. บันทึกหลงั กำรสอน
ผลการเรียนรู้
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
................................................................................................................................................................
ลงช่ือ……………………………………………….
(นางสาวชนดิ า แก่นทา้ ว)
ครผู สู้ อน
95
ควำมคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของครพู เ่ี ลย้ี ง
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ……………………………………………….
(นางสุพิณยา วงษอ์ ุบล)
ครพู ีเ่ ล้ียง
ควำมคดิ เห็น / ข้อเสนอแนะของหวั หนำ้ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสริ ลิ ักษณ์ ทองสะอาด)
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ควำมคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ……………………………………………….
()
ผูอ้ านวยการสถานศึกษา
96
กิจกรรม 10.3 กำรทดลองกำรไทเทรตกรด-เบสโดยใชอ้ ินดเิ คเตอร์
จุดประสงค์กำรทดลอง
1. ทดลองเพอ่ื ศึกษาการไทเทรตกรด-เบสโดยใช้อนิ ดิเคเตอร์
2. เปรียบเทียบจดุ ยตุ ติของอินดิเคเตอร์แต่ละชนดิ
3. อธบิ ายการเลือกอนิ ดิเคเตอรใ์ ห้ไดจ้ ุดยุตติใกล้เคียงกบั จดุ สมมลู
วสั ดุ อปุ กรณ์ และสำรเคมี 2. สารละลายมาตรฐานโซเดยี มไฮดรอกไซด์
1. สารละลายกรดแอซตี กิ 4. ฟีนอล์ฟทาลีน
3. เมทลิ ออเรนจ์ 6. บิวเรตต์
5. ปเิ ปตต์ 8. บกี เกอร์
7. ขวดรูปกรวย 10. กรวยกรอง
9. หลอดหยด 12. ลูกยางปเิ ปตต์
11. ขาตง้ั พรอ้ มทีจ่ บั
13. ขวดนา้ กลนั่
วธิ ีกำรทดลอง
1. ปิเปตต์ CH3COOH 0.10 mol/L ใส่ขวดรูปกรวย 3 ขวด ขวดละ 10.00 mL แล้วหยดเมทิลออเรนจ์
2 หยด ลงในแตล่ ะขวด ซ่ึงสารละลายจะมีสแี ดง
2. บรรจุ NaOH 0.100 mol/L ปริมาตรประมาณ 40-50 mL ลงในบิวเรตต์ และปรับระดับของ
สารละลายใหส้ ามารถอ่านค่าได้ แล้วบันทึกปรมิ าตรไว้
3. ไขบิวเรตต์ให้ NaOH ไหลลงใน CH3COOH ที่อยู่ในขวดรูปกรวยอย่างช้า ๆ พร้อมกับเขย่าขวดให้
สารละลายผสมกันตลอดเวลา เม่ือสีเหลืองท่ีเกดิ ข้ึนบรเิ วณท่ีหยดสารละลายจากบิวเรตต์เปลี่ยนกลบั
เป็นสีแดงได้ช้าลง ให้ปรับบิวเรตต์จนสารละลายหยดลงในขวดรูปกรวยทีละหยดพร้อมกับเขย่าขวด
และหยดุ การไทเทรต เม่ือสารละลายเปลย่ี นเปน็ สเี หลืองอยา่ งถาวรใหบ้ นั ทกึ ปรมิ าตรของ NaOH
4. ทดลองซ้าข้อ 3-4 โดยใช้สารละลายที่เตรียมไว้ในข้อ 1 อีก 2 คร้ัง จากนั้นคานวณปริมาตรเฉลี่ยของ
NaOH ทีใ่ ช้ทาปฏกิ ิริยาพอดกี ับ CH3COOH โดยถา้ ข้อมูลครง้ั ใดมคี วามคลาดเคลอ่ื นหรือแตกต่างจาก
การทดลองท่ีเหลือมากกว่า 0.20 มิลลิลิตร ให้ตัดผลการทดลองนั้นทิ้งแล้วทาการทดลองเพิ่มอีก 1
ครัง้
5. ทาการทดลองซ่ึงข้อ 1 – 4 แต่เปลีย่ นอนิ ดเิ คเตอร์เปน็ ฟีนอลฟ์ ทาลนี ซงึ่ สารละลายจะเปลี่ยนจากไม่มี
สเี ปน็ สีชมพู
97
บนั ทึกผลกำรทดลอง
อนิ ดเิ คเตอรท์ ี่ใช้ ........................................
การทดลองคร้ังที่ ปริมาตรสารละลาย สารละลายมาตรฐานโซเดียมไฮดรอกไซด์
CH3COOH (mL) ขดี วดั ปรมิ าตร ขดี วัดปรมิ าตร ปรมิ าตรท่ใี ช้
เรม่ิ ตน้ สุดทา้ ย (mL)
1
2
3
เฉลยี่ - --
อนิ ดิเคเตอรท์ ี่ใช้ ........................................
การทดลองคร้งั ที่ ปรมิ าตรสารละลาย สารละลายมาตรฐานโซเดยี มไฮดรอกไซด์
CH3COOH (mL) ขีดวดั ปริมาตร ขดี วัดปริมาตร ปรมิ าตรท่ใี ช้
เริม่ ต้น สดุ ท้าย (mL)
1
2
3
เฉล่ีย - --
สรปุ ผลกำรทดลอง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
คำถำมทำ้ ยกำรทดลอง
1. ปริมาตรของ NaOH ท่ีใช้ในการไทเทรตจนถึงจุดยุติของอินดิเคเตอร์แต่ละชนิดแตกต่างกันหรือไม่
อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปริมาตรของ NaOH ทคี่ วรใชใ้ นการไทเทรตเพื่อให้ทาปฏิกริ ิยาพอดีกบั CH3COOH เปน็ เท่าใด
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................