The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

วนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพครบ ๑๒๐ ปี
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

๒๑ ตลุ าคม ๒๕๖๓

หอ้ งสมุดเพชรรัตน กศน.อำเภอพนุ พนิ

พระราชประวัติ

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทรงมีพระนามเดิมว่า สังวาลย์ ตะละภัฏ พระ
ราชสมภพเม่ือ วันอาทิตย์ท่ี ๒๑ ตุลาคม
พ.ศ. ๒๔๔๓ ทรงเป็นบุตรคนที่ ๓ ใน พระ
ชนกชู และ พระชนนีคา ทรงมีพระภคินี และ
พระเชษฐา ๒ คนซ่ึงได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่
เยาว์วัย คงเหลือแต่พระอนุชาอ่อนกว่า
พระองค์ ๒ ปี คอื คุณถมยา

ห้องสมดุ เพชรรัตน กศน.อำเภอพนุ พนิ

พระชนกชู มีอาชีพเป็นช่างทองเป็นบุตรชายของ คหบดี ช่ือ ชุ่ม แต่ไม่ทราบนามของ
มารดา ชุ่มมีเชื้อสายสืบมาจากผู้ดีเก่าแถวตึกขาว มีนิวาสสถานอยู่ใกล้วัดอนงคาราม ฝั่งธนบุรี
สว่ นพระชนนคี า มมี ารดา ชอื่ ผา แต่ไม่ทราบนามของบดิ า พระชนนคี าเปน็ สตรที ่รี ู้หนงั สือซึง่ หา
ได้ยากในสมัยน้นั จงึ ไดน้ าความร้มู าสอนสมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ดว้ ยพระอปุ นสิ ยั
ท่ีชอบการเรียนรู้ และการอ่านหนังสือตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระองค์จึงทรงเป็นผู้มีไหวพริบ
และเฉลยี วฉลาด

และเช่ือว่าเหล่าเครือญาติ ฝ่ายพระชนนีของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี
เชอ้ื สายชาวเวียงจนั ทร์ เน่ืองจากทางครอบครัวนิยามรับประทานข้าวเหนียว ในพระนิพนธ์ของ
สมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งให้ข้อมูล
เกย่ี วกบั ถ่ินฐานเดมิ ขอ
ครอบครัว คือบ้านช่างทอง ซึ่งตรงกบั ชุมชนชาวลาวด้านใต้ของธนบุรี อันเป็นชุมชนชาวลาวที่
มีช่อื เสยี งดา้ นฝีมอื ชา่ ง

หอ้ งสมุดเพชรรัตน กศน.อำเภอพุนพนิ

พระชนกชูได้ถึงแก่กรรมต้ังแต่พระองค์มีพระชนมายุ 3 พรรษา และ
พระชนนีคาถึงแก่กรรมเมื่อพระองค์มีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา หลังจากนั้น
พระองค์ทรงอยู่ในความอุปการะของป้าซ้วย พี่สาวของพระชนนีคา ซึ่งมีอาชีพ
รับจ้างม้วนบุหร่ี และทาขนมขาย วันหนึ่ง ญาติของครอบครัวพระชนกชู มาแนะนา
พระชนนีคา ให้นาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไปฝากคุณจันทร์ แสงชูโต
ซึ่งเป็นญาติและพระพ่ีเลี้ยงใน สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรม
หลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระเชษฐภคินีใน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดช
วิกรม พระบรมราชชนก และพระราชธิดาใน พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพ่ือ
ถวายตวั เป็นข้าหลวง ในขณะน้นั มีพระชนมายเุ พียง 7-8 พรรษา

ห้องสมดุ เพชรรตั น กศน.อำเภอพนุ พนิ

การศกึ ษา

พระองค์เข้าศึกษาที่ โรงเรียนศกึ ษานารี ได้ไม่นาน พระองค์ก็ได้ถูกส่งไปศึกษาท่ี โรงเรียนสตรีวิทยา โดยประทับอยู่บ้านคุณหวน
หงสกุล วัดมหรรณพาราม โรงเรียนเพื่อประชาชนสามัญแห่งแรก พระองค์ทรงถูกเข็มเย็บผ้าตาฝ่าพระหัตถ์ ต้องเข้ารับผ่าตัดกับพระ
ยาดารงแพทยาคณุ (ฮวด วีระไวทยะ)

เมื่อปี พ.ศ. 2456 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงตัดสินพระทัยเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาล
แหง่ ศริ ิราช ตามคาชกั ชวนจากพระยาดารงแพทยกุล หลังจากสาเร็จการศกึ ษา ทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษาวิชาพยาบาลตอ่ ที่
โรงเรียนแพทยม์ หาวิทยาลัยฮารว์ าร์ด สหรฐั อเมริกา พร้อมกบั นางสาวอบุ ล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และสมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขนุ สงขลา
นครนิ ทร์

เมอ่ื ไปเรยี นต่างประเทศจาเป็นที่จะมีนามสกุลในหนังสือเดินทาง เมื่อขณะนั้นยังไม่มีนามสกุล จึงจาเป็นต้องมีการหานามสกุลให้
สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนีจึงไดใ้ ช้นามสกุลของขา้ ราชบริพารท่ีมีนามสกุลคนหนึ่งซ่ึงเป็นเจ้ากรมของ สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขุน

สงขลานครนิ ทร์ คอื ขนุ สงขลานครินทร์ (หลี ตะละภัฎ พระองค์จึงมีพระนามในหนงั สอื เดินทางวา่ นางสาวสังวาลย์ ตะละภฏั

(มีพระราชกฤษฎกี าใหใ้ ชค้ านานามสตรี พ.ศ. 2460
ตอ่ มา คณุ ถมยา พระอนุชาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เม่ือเจริญวัยแล้ว ได้ไปขอจดทะเบียนที่อาเภอใช้นามสกุล

"ชูกระมล" ถงึ แมว้ ่าสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีไม่เคยใช้นามสกุลชูกระมล กอ็ ยากจะถือวา่ ทรงเกดิ มาในสกุลน้ี

หอ้ งสมุดเพชรรตั น กศน.อำเภอพนุ พนิ

อภิเสกสมรส

ขณะที่กาลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีที่ 1 สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขุนสงขลานครินทร์ ทรงพบและพอพระทัยกับนางสาว
สังวาลย์ ด้วยมีพระศิรโิ ฉมงดงาม พระอปุ นิสัย และพระคณุ สมบัติอื่น ๆ ดงั นนั้ สมเดจ็ เจา้ ฟา้ ฯ กรมขุนสงขลานครินทร์จงึ ทรงมีลาย
พระหัตถ์กราบบังคมทูล สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระราชมารดา ขอพระราชทานพระราชานุญาตหม้ันกับนางสาวสังวาล
ทั้งนี้สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ได้ทรงกล่าวกับสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าไว้ ความ

ว่า "สังวาลย์เป็นกาพรา้ ...แตง่ งานแล้วก็มาใช้นามสกุลหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ได้เลือกเมียดว้ ยสกุลรุนชาติ ตอ้ งเกิดเป็นอย่างน้ัน
ตอ้ งเกิดเป็นอย่างน้ี คนเราเลือกเกิดไมไ่ ด้ หม่อมฉันเลือกคนดี ทุกขส์ ขุ เป็นเรื่องของหม่อมฉันเอง

พ.ศ. 2463 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ เสด็จฯ กลับประเทศไทยเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จ
พระศรพี ชั รินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
เสกสมรสตามกฎมณเฑยี รบาล เมื่อไดร้ บั พระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว นางสาว
สังวาลย์จึงได้เดินทางกลับมา และเมื่อถึงวันศุกร์ท่ี 10 กันยายน พ.ศ. 2463 ได้มีพิธีอภิเษกสมรสท่ีวังสระประทุมนางสาว
สังวาลย์จงึ มีศกั ดิเ์ ป็น หมอ่ มสงั วาลย์ และหลังจากได้อภเิ ษกสมรสแล้ว ทงั้ 2 พระองคไ์ ดต้ ามเสด็จดว้ ยกันไปประพาสเมืองต่าง ๆ
ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา ต่อมาสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ทรงไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ
สถาบนั เอม็ ไอที เมืองบอสตัน ส่วนหม่อมสังวาล เรยี นหลักสตู รเตรียมพยาบาลที่วิทยาลยั ซิมมอนส์ เมืองบอสตัน

หอ้ งสมดุ เพชรรตั น กศน.อำเภอพุนพนิ

ประสูติพระราชธิดาและพระราชโอรส

หลงั จากทัง้ 2 พระองคท์ รงจบการศกึ ษาแลว้ จึงเสด็จไปทกี่ รงุ ลอนดอน ประเทศ
อังกฤษ ซ่ึงสมเด็จพระบรมราชชนนีได้ประสูติพระราชธดิ าพระองคแ์ รก เมือ่ วนั ที่ 6 พฤษภาคม
พ.ศ. 2466 พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยูห่ ัวไดพ้ ระราชทานพระนามว่า หมอ่ มเจา้
กลั ยาณิวัฒนา มหดิ ล ซง่ึ ภายหลังทรงไดร้ ับการสถาปนาพระอสิ ริยศกั ด์ิ เป็นสมเดจ็ พระเจ้าพน่ี าง
เธอ เจา้ ฟา้ กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์

หอ้ งสมุดเพชรรตั น กศน.อำเภอพนุ พนิ

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2466 ท้ัง 2 พระองค์ได้เสด็จกลับเมืองไทยพร้อมด้วยพระราชธิดา เน่ืองจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระ

กรณุ าโปรดเกล้าฯให้สมเดจ็ พระบรมราชชนกทรงดารงตาแหนง่ อธิบดีกรมมหาวิทยาลัย ประทับอยู่ได้ประมาณ 20 เดือน ก็ประชวร แพทย์จึงถวายคาแนะนาให้

ประทับในท่ีอากาศเย็น ที่เมืองไฮเดลแบร์ก สาธารณรัฐไวมาร์ (ปัจจุบันคือประเทศเยอรมนี สมเด็จพระบรมราชชนนีและพระราชธิดาจึงได้ตามเสด็จไปประทับ

ด้วย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ประสูติพระราชโอรสพระองค์แรก เม่ือวันท่ี 20 กันยายน พ.ศ. 2468พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระราชทานพระนามว่าหม่อมเจ้าอานันทมหิดล ในวันท่ี 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต สมเด็จพระ

บรมราชชนกเสด็จกลับกรุงเทพฯ เพียงพระองค์เดียวเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ และประทับอยู่จนถึงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ พระบาทสม เด็จ

พระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวในปี พ.ศ. 2469

เม่ือวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีประสูติพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ณ โรงพยาบาลเมาท์ออเบิร์น เมืองเคม

บริดจ์ สหรัฐอเมริกา ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างน้ีสมเด็จ

พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนีทรงดแู ลพระโอรสธดิ าอย่างใกล้ชิดดว้ ยความรักและการอบรมส่ังสอน และทรงทูลเร่ืองนี้กับสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ความ

ตอนหน่งึ ว่า "ลกู ของหมอ่ มฉัน หม่อมฉันรักดัง่ ดวงใจ...ถ้าไดช้ ว่ ยลูก ๆ ให้ได้รบั การอบรมและเลา่ เรยี นในสิ่งทจี่ ะเปน็ ประโยชนแ์ กบ่ า้ นเมอื งไดแ้ ล้ว หม่อมฉันก็จะ

รู้สึกอ่ิมใจเหมือนกนั

ขณะท่สี มเด็จพระบรมราชชนกทรงศกึ ษาวิชาแพทย์ปีสุดทา้ ยอยทู่ ่ีเมอื งบอสตนั ประชวรโรคพระวักกะกาเริบ และพระโรคหวัด แต่ก็ยังทรงสามารถสอบ

ได้ปรญิ ญาแพทยศ์ าสตร์ ขัน้ เกียรตนิ ิยม แตห่ ลงั จากสอบเสร็จ และประชวรพระโรคไสต้ งิ่ อกั เสบ ทัง้ สองพระองคไ์ ด้พาพระราชโอรสธิดาเดินทางกลบั ประเทศไทย

โดยประทับท่ีพระตาหนักใหมส่ ร้างข้นึ ในวังสระปทมุ ถนนพญาไท

เม่ือเดือนเมษายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกทรงรับเชิญเป็นแพทย์ประจาบ้านจากโรงพยาบาลแมคคอร์มิก จังหวัดชียงใหม่ ในเดือน

ต่อมาก็เสด็จกลับกรุงเทพมหานคร หลังจากน้ันก็ทรงพระประชวรอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนก็เสด็จสวรรคต เม่ือวันท่ี 24 กันยายน พ.ศ. 2472 ที่

พระตาหนักใหม่ วังสระปทุมในขณะที่สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จสวรรคต สมเด็จพระบรมราชชนนีมีพระชนมายุเพียง 29 พรรษา ทรงต้องรับหน้าท่ีอบรม

เล้ียงดูพระราชโอรสพระราชธิดาท้ังสามพระองค์ตามลาพัง จนเม่ือวันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎร ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบ

ประชาธิปไตร ท่ีมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สมเด็จพระศรีสวนินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสอัยยิกาเจ้า จึงทรงแนะให้สมเด็จพระบรมราชชนนีพาพระร าช

นดั ดาทง้ั 3 พระองค์ เสดจ็ ไปศกึ ษาต่อที่เมืองเมอื งโลซาน ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์ หอ้ งสมดุ เพชรรตั น กศน.อำเภอพนุ พิน

โครงการในพระราชดาริ

ดา้ นการศึกษา

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรง
ก่อตั้งและจัดสร้างโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน
ตามท่ีหา่ งไกลและทุรกันดาร จากพระราชทรัพย์ส่วน
พระองค์ การมีโรงเรียนเป็นการเสริมสร้างคุณภาพ
ชีวิตใหก้ ับครอบครวั ของตารวจตระเวนชายแดนท่ีอยู่
ห่างไกลจากชุมชน เป็นการเพ่ิมโอกาสให้กับชุมชน
ชาวเขา และชาวอพยพได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน
ภาษาและวัฒนธรรมไทย รวมถึงการสร้างความ
ผกู พนั กับแผ่นดินไทย

ห้องสมดุ เพชรรัตน กศน.อำเภอพุนพนิ

ดา้ นการสาธารณสขุ และการพยาบาล

พระองค์ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับทุกข์สุขของประชาชนชาวไทย และมีความ
ห่วงใยตอ่ ผู้เจบ็ ปว่ ยและดอ้ ยโอกาส สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงทรง
ใหค้ วามสาคญั ทางด้านการแพทย์และการพยาบาลพระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์
ส่วนพระองค์ให้แก่แพทย์ที่เป็นนักเรียนทุน เพ่ือใช้เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงระหว่างเรียน
พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธคิ ุณจัดต้ังหนว่ ยงาน

เพื่อมอบทนุ าการศึกษาทจ่ี ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย และมหาวิทยาลัยมหดิ ล
เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนให้กับนักศึกษาแพทย์ที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศและพระองค์ยัง
ทรงก่อตั้งสมาคมพยาบาลไทย และทรงประทานพระราชทรัพย์ ในการจัดการ
ประชุมพยาบาลระดับชาติ เม่ือปี พ.ศ.2503 และทรงริเร่ิมก่อสร้างโรงพยาบาล
และวิทยาลัยพยาบาลหลายแหง่ ท่ัวประเทศ

ห้องสมุดเพชรรัตน กศน.อำเภอพนุ พนิ

ด้านการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงสน
พระทัย ในความเป็นอยู่ของชาวเขาที่อาศัยอยู่บนดอย
ห่างไกลจากความเจริญ ท่านทรงริเริ่มโครงการพัฒนา
ดอยตุง ซ่ึงมีพื้นที่ทามาหากินในป่าและบนเขา พระองค์
ไม่คชต้องการให้ผืนแผ่นดินถูกทาลายหรือประชาชนปลูก
พชื ผดิ กฎหมาย จึงทรงแนะนาพืชผลและวธิ ีการเพาะปลูก
ที่สามารถสร้างรายได้ ให้กับครอบครัว และชุมชน อกี ทั้ง
ไม่ทาลายทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีอยู่ ปัจจุบันพื้นท่ีดอย
ตุงมีความอุดมสมบูรณ์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
ชาวเขาอยา่ งน่าภาคภมู ใิ จ

หอ้ งสมุดเพชรรตั น กศน.อำเภอพุนพนิ

ด้านสงั คมและสวสั ดิการ

สมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี ทรง
พระราชทานพระราชทรพั ย์ เปน็ เงนิ จานวน 1 แสนบาทในปี
พ.ศ.2515 เพ่ือก่อตั้งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เพ่ือช่วย
ส่งเสริมรายได้ให้กบั ชุมชนชาวเขา ปัจจุบันโครงการพัฒนา
ดอยตุงได้รับการยอมรับว่าโครงการพัฒนาดอยตุงได้รับ
การยอมรับว่าเป็นโครงการเสริมสร้างสังคมที่ยั่งยืน และ
ช่วยพัฒนาสภาพความเปน็ อยขู่ องประชาชนทีอ่ ยหู่ ่างไกล

ห้องสมดุ เพชรรตั น กศน.อำเภอพุนพนิ

สวรรคต

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระอาการทาง
พระหทัยกาเริบและทรงเหน่ือยอ่อน คณะแพทย์ถวายการ
รกั ษาเบื้องต้นทีว่ งั สระปทมุ จนกระทง่ั วนั ท่ี 2 มิถุนายน พ.ศ.
2538 จึงเชิญเสด็จพระราชดาเนินเข้าประทับรักษาพระองค์
ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการประทับรักษาที่
โรงพยาบาล คณะแพทย์พบว่าเกิดการติดเชื้อในกระแสพระ
โลหิต จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะเพ่ิม ต่อมา มีพระอาการ
แทรกซ้อน มีการอักเสบท่ีพระอันตะ พระอันตคุณ (ลาไสใ้ หญ่
ลาไส้เลก็ ) และท่ีพระปับผาสะ (ปอด) ข้างขวา คณะแพทย์
ได้พยายามถวายการรกั ษาจนพระอาการทว่ั ไปดขี ึ้นบ้าง

หอ้ งสมุดเพชรรัตน กศน.อำเภอพุนพนิ

เมื่อวนั ที่ 17 กรกฎาคม สมเดจ็ พระบรมราชชนนีมีพระอาการทรุดลง เน่ืองด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยกนะ
(ตับ) และพระวักกะ (ไต) ไม่ทางาน พระหทัย (หัวใจ) ทางานไม่ปกติ ความดนั พระโลหิตต่าทาให้เกิดภาวะเป็นกรดใน
พระโลหิต คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบต่าง ๆ รวมท้ังการฟอกพระโลหิตด้วยเครื่องไตเทียมและ
กรองสารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แตพ่ ระอาการตั้งแต่เช้าจนเที่ยงของวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
คงอยู่ในภาวะวิกฤต จนกระท่ัง เวลา 21:17 น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต รวมพระชนมายุ 94
พรรษา สานักนายกรัฐมนตรีประกาศให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา 3 วัน และให้
ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน ต้ังแต่วันท่ี 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ต่อมา ในวันที่ 24
สิงหาคม พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ขยายเวลาลดธงคร่ึงเสาต่อไปจนครบ 50 วัน เพื่อให้
สอดคล้องกับการแต่งกายไวท้ กุ ขถ์ วาย โดยใหล้ ดธงครึง่ เสาต่อไปจนถึงวนั ที่ 2 สงิ หาคม พ.ศ. 2538

หอ้ งสมดุ เพชรรัตน กศน.อำเภอพุนพิน


Click to View FlipBook Version