The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 3 เงินลงทุนชั่วคราว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wimonwanngoenyodrak, 2023-01-19 07:16:44

หน่วยที่ 3 เงินลงทุนชั่วคราว

หน่วยที่ 3 เงินลงทุนชั่วคราว

หน่วยที่ 3 เงินลงทุนชั่วคราว


หน่วยที่ 3 เงินลงทุนชั่วคราว ความหมายของเงินลงทุนชั่วคราว เงินลงทุน (Investments) หมายถึง สินทรัพย์ที่กิจการมีไว้เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับกิจการไม่ว่าจะ อยู่ในรูปของส่วนแบ่งที่จะได้ (เช่น ดอกเบี้ย ค่าสิทธิ และเงินปันผล) ในรูปของราคาที่เพิ่มขึ้นหรือในรูปของ ประโยชน์อย่างอื่นที่กิจการได้รับ (เช่น ประโยชนืที่ได้รับจากความสัมพันธ์ทางการค้า) รายการต่อไปนี้ไม่ถือ เป็นเงินลงทุน ก. สินค้าคงเหลือ ข. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เงินลงทุนชั่วคราว (Temporary investments) หมายถึง เงินลงทุนที่กิจการตั้งใจจะถือไว้ไม่เกิน 1 ปี เงินลงทุนชั่วคราวรวมถึงหลักทรัพย์เพื่อค้า หลักทรัพย์เผื่อขาย เงินลงทุนทั่วไป และตราสารหนี้ที่จะถือจน ครบกำหนดภายใน 1 ปี ประเภทของเงินลงทุนชั่วคราว มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 (ปรับปรุง 2559) เรื่องการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้และ ตราสารทุน ของสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดประเภทของเงินลงทุนชั่วคราว 2 ประเภท ดังนี้ 1. ตราสารหนี้ทุกชนิดและตราสารทุนในความต้องการของตลาด ดังต่อไปนี้ 1.1 หลักทรัพย์เพื่อค้า 1.2 หลักทรัพย์เผื่อขาย 1.3 ตราสารหนี้ที่จถือจนครบกำหนดภายใน 1 ปี 2. ตราสารทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการของตลาดเป็นเงินลงทุนทั่วไป หลักทรัพย์เพื่อค้า (Trading Securities) หมายถึง เงินลงทุนในตราสารหนี้ทุกชนิดหรือตราสารทุน ในความต้องการของตลาด ที่กิจการถือไว้โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขายในอนาคตอันใกล้ ทำให้กิจการถือ หลักทรัพย์นั้นไว้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อหากำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ ดังนั้น หลักทรัพย์ เพื่อค้าจึงมีอัตราหมุนเวียนสูง หลักทรัพย์เผื่อขาย (Available for sale securities) หมายถึง เงินลงทุนในตราสารหนี้ทุกชนิด หรือตราสารทุนในความต้องการของตลาด ซึ่งไม่ถือเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า และในขณะเดียวกันไม่ถือเป็นตรา สารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนดหรือเงินลงทุนในบริษัทย่อย หรือบริษัทรวม การร่วมค้า หลักทรัพย์เผื่อขาย สามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราวหรือเงินลงทุนระยะยาว หากกิจการจะขายภายใน 1 ปี เป็นเงิน ลงทุนชั่วคราว หากกิจการตั้งใจถือไว้มากกว่า 1 ปีแล้วขายเป็นเงินลงทุนระยะยาว


ตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนด (Hold to maturiry debt securities) หมายถึง เงินลงทุนใน หลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่กิจการมีความตั้งใจแน่วแน่และมีความสามารถที่จะถือไว้จนครบกำหนดไถ่ ถอน หากตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนดภายใน ปี เป็นเงินลงทุนชั่วคราว ตราสารหนี้ที่จะถือจนครบ กำหนดนานกว่า 1 ปี เป็นเงินลงทุนระยะยาว เงินลงทุนทั่วไป (General Investment) หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการ ของตลาดทำให้กิจการไม่สามารถจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้าหรือหลักทรัพย์เผื่อขาย เงินลงทุนทั่วไป สามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราวหรือระยะยาว ความหมายของหลักทรัพย์ หลักทรัพย์ (Securities) หมายถึง หนังสือตราสารหรือหลักฐานแสดงสิทธิในทรัพย์สิน เช่น ตั๋วเงิน คลัง พันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้น หุ้นกู้ หน่วยลงทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุน ความหมายของหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาด หลักทรัพย์หรือเงินลงทุนในความต้องการของตลาด (Marketable security) หมายถึง หลักทรัพย์หรือเงินลงทุนอื่นที่มีการซื้อขายในตลาดที่มีสภาพคล่องจึงทำให้สามารถวัดมูลค่ายุติธรรมของ หลักทรัพย์หรือเงินลงทุนนั้นได้ในทันที ประเภทหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาด หลักทรัพย์หรือเงินลงทุนในความต้องการของตลาด จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ตราสารทุน หมายถึง สัญญาที่แสดงว่าผู้ถือตราสารมีความเป็นเจ้าของส่วนได้เสียคงเหลือของกิจการ ที่ไปลงทุน เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ 2. ตราสารหนี้ หมายถึง สัญญาที่แสดงว่าผู้ออกตราสารมีภาระผูกพันทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะต้อง จ่ายเงินสดหรือสินทรัพย์อื่นให้แก่ผู้ถือตราสารตามจำนวนและเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้โดยชัดเจนหรือ โดยปริยาย เช่น หุ้นกู้ พันธบัตร รวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นกู้ การบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนชั่วคราว ต้นทุนของเงินลงทุน ราคาทุนของเงินลงทุนจะต้องรวมรายจ่ายโดยตรงทั้งสิ้นที่กิจการจ่ายเพื่อให้ได้ เงินลงทุนนั้นมา ได้แก่ 1. ราคาจ่ายซื้อเงินลงทุน 2. ค่านายหน้า 3. ค่าธรรมเนียมและค่าภาษี 4. ต้นทุนการทำรายการ


การจำหน่ายเงินลงทุน ในการจำหน่ายเงินลงทุน กิจการต้องบันทึกผลต่างระหว่างสิ่งตอบแทนสุทธิที่ได้รับกับมูลค่าตามบัญชี ของเงินลงทุนเป็นกำไรหรือขาดทุนทันทีที่เกิดรายการ กิจการต้องบันทึกกลับรายการบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง กับเงินลงทุนที่จำหน่ายเพื่อรับรู้ในกำไรหรือขาดทุน เช่น กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย ค่า เผื่อการด้อยค่าของหลักทรัพย์ หากกิจการจำหน่ายเงินลงทุนเพียงบางส่วน มูลค่าตามบัญชีต่อหน่วยที่ใช้ในการบันทึกกำไรหรือ ขาดทุนของเงินลงทุนชนิดเดียวกันต้องคำนวณโดยใช้วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักหรือวิธีเข้าก่อน-ออกก่อน การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อค้า ตัวอย่างที่1 2562 มิ.ย. 5 บริษัท ผกากรอง จำกัด ตกลงซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอ จำกัด จำนวน 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 102 บาท เสียค่านายหน้า 1,000 บาท และค่าธรรมเนียม 500 บาท ตั้งใจถือไว้เพื่อ ค้า ก.ค. 3 ขายหุ้นสามัญของบริษัท เอ จำกัด ทั้งหมดในราคาหุ้นละ 110 บาท เสียค่านายหน้า 1,500 บาท และค่าธรรมเนียมและภาษี 1,000 บาท ให้ทำ บันทึกรายการข้างต้นในสมุดรายวันทั่วไป 2562 มิ.ย. 5 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท เอ จำกัด 103,5003.- Cr. เงินสด 103,500.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหุ้นสามัญ บริษัท เอ จำกัด การคำนวณราคาทุน ราคาซื้อ 1,000 หุ้น หุ้นละ 102 บาท 102,000.- บวก ค่านายหน้า 1,000.- ค่าธรรมเนียม 500.- รวมต้นทุนของเงินลงทุน 103,500.- ก.ค. 3 Dr. เงินสด 107,500.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท เอ จำกัด 103,500.- กำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 4,000.- บันทึกจำหน่ายเงินลงทุน


การคำนวณ กำไรหรือขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน ขายเงินลงทุน 1,000 หุ้น หุ้นละ 110 บาท 110,000.- หัก ค่านายหน้า 1,500.- ค่าธรรมเนียมและค่าภาษี 1,000.- 2,500.- คงเหลือเงินจากการขายเงินลงทุน 107,500.- หัก ต้นทุนในการซื้อเงินลงทุน 103,500.- เกิดผลกำไรจากการขายเงินลงทุน 4,000.- ในกรณีที่กิจการขายเงินลงทุนเพียงบางส่วน ให้กิจการเฉลี่ยราคาทุนของเงินลงทุนจากตัวอย่างดังล่าว กิจการซื้อหุ้นทุนมาทั้งสิ้น 1,000 หุ้น มรต้นทุนเงินลงทุนทั้งสิ้น 103,500 บาท เฉลี่ยหุ้นละ 103.50 บาท ตัวอย่างที่ 2 จากตัวอย่างที่ 1 ถ้าในวันที่ 3 ก.ค. ขายหุ้นสามัญของบริษัท เอ จำกัด 600 หุ้น ในราคาหุ้นละ 105 บาท เสียค่านายหน้า 1,500 บาท และค่าธรรมเนียมและภาษี 1,000 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 ก.ค. 3 Dr. เงินสด 60,500.- ขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 1,600.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท เอ จำกัด 62,100.- บันทึกการจำหน่ายเงินลงทุน บัญชีกำรที่เกิดจากการจำหน่ายเงินลงทุน แสดงภายใต้หัวข้อรายได้อื่น ในงบกำไรขาดทุน และบัญชี ขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน แสดงภายใต้หัวข้อค่าใช้จ่ายอื่น ในงบกำไรขาดทุน ถ้ากิจการซื้อเงินลงทุนประเภทตราสารหนี้ เช่น ลงทุนซื้อหุ้นกู้ กิจการจะต้องพิจารณาถึงดอกเบี้ยของ เงินกู้ด้วย หากกิจการซื้อหุ้นกู้มาตรงกับงวดการจ่ายดอกเบี้ย ราคาทุนของหุ้นกู้ก็คำนวณเช่นเดียวกับหุ้นทุน ได้แก่ รายจ่ายซื้อเงินลงทุน ค่านายหน้า ค่าธรรมเนียมและค่าภาษีต้นทุนการทำรายการ


ตัวอย่างที่ 3 วันที่ 31 ตุลาคม 2562 กิจการซื้อหุ้นกู้ 6% จากบริษัท ดาวเรือง จำกัด จำนวน 1,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 98 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้น 1,200 บาท หุ้นกู้ดังกล่าวจ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 30 เมษายน และ 31 ตุลาคม กิจการตั้งใจถือไว้เพื่อค้า การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 ต.ค. 31 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นกู้ 6% บริษัท ดาวเรือง จำกัด 99,200.- Cr. เงินสด 99,200.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหุ้นบริษัท ดาวเรือง จำกัด ถ้าการซื้อหุ้นกู้ของบริษัท ดาวเรือง จำกัด ดังกล่าว ไม่ตรงกับงวดการจ่ายดอกเบี้ยกิจการจะต้อง จ่ายเงินซื้อดอกเบี้ยติดมาด้วย ดอกเบี้ยที่ต้องซื้อติดมาคิดตั้งแต่วันที่หุ้นกู้นั้นจ่ายดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย จนถึงวันที่ กิจการซื้อหุ้นกู้นั้น จากตัวอย่างข้างต้น หากกิจการซื้อหุ้นกู้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 จะเห็นได้ว่าหุ้นกู้จ่าย ดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายคือวันที่ 30 เมษายน แต่กิจการซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งซื้อหลังจากวันจ่าย ดอกเบี้ย 2 เดือน คือเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน กิจการจะต้องซื้อดอกเบี้ยติดมาด้วย 2 เดือน ซึ่งดอกเบี้ยที่ซื้อติดมานั้น มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 (ปรับปรุง 2559) เรื่องการบัญชีสำหรับเงิน ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน ไม่ให้นำมารวมคำนวณเป็นต้นทุนของเงินลงทุน ให้บันทึกไว้ในบัญชี ดอกเบี้ยรับ ด้านเดบิต เพราะในเวลาต่อมาคือ วันที่ 3 ตุลาคม กิจการจะได้รับดอกเบี้ยนั้นคืนทั้งจำนวน ตัวอย่างที่ 4 จากตัวอย่างที่ 3 หากกิจการซื้อเงินลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท ดาวเรือง จำกัด ในวันที่ 1 กรกฎาคม การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 ก.ค. 1 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นกู้ 6% บริษัท ดาวเรือง จำกัด 99,200.- ดอกเบี้ยรับ (1,000 หุ้น x 100 บาท x 6% x 2/12) 1,000.- Cr. เงินสด 100,200.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ยบริษัท ดาวเรือง จำกัด เมื่อถึงงวดดอกเบี้ย กิจการได้รับดอกเบี้ย บันทึกเป็นรายได้ของกิจการ


ตัวอย่างที่ 5 จากตัวอย่างที่ 3 และ 4 เมื่อถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ถ้ากิจการยังถทอหุ้นกู้ บริษัท ดาวเรือง จำกัด อยู่ ก็จะได้รับดอกเบี้ยหุ้นกู้นั้น การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 ต.ค. 31 Dr. เงินสด 3,000.- Cr. ดอกเบี้ยรับ 3,000.- บันทึกดอกเบี้ยหุ้นกู้ การขายเงินลงทุนในหุ้นกู้ ให้พิจารณาเช่นเดียวกับตอนซื้อหุ้นกู้ว่า ในวันที่ขายตรงกับงวดการจ่าย ดอกเบี้ยหรือไม่ ถ้าตรงกับงวดการจ่ายดอกเบี้ย กิจการจะบันทึกรับดอกเบี้ยก่อน แล้วจึงบันทึกขายเงินลงทุน แต่ถ้าการขายหุ้นกู้นั้นไม่ตรงกับงวดจ่ายดอกเบี้ย กิจการก็จะขายดอกเบี้ยติดไปด้วย ตัวอย่างที่ 6 จากตัวอย่างที่ 3 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 กิจการนำหุ้นกู้ของบริษัท ดาวเรือง จำกัด ขายทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 101 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการขาย 800 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 พ.ย. 30 Dr. เงินสด 100,700.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นกู้ 6% บริษัท ดาวเรือง จำกัด 99,200.- ดอกเบี้ยรับ 500.- กำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 1,000.- บันทึกจำหน่ายเงินลงทุน การคำนวณ ขายเงินลงทุน 1,000 หุ้น หุ้นละ 101 บาท 101,000.- หัก ค่าใช้จ่ายในการขาย 800.- คงเหลือเงินจากการขายเงินลงทุน 100,200.- หัก ต้นทุนในการซื้อเงินลงทุน 99,200.- เกิดผลกำไรจาการขายเงินลงทุน 1,000.- เงินสดที่ได้รับ คำนวณได้จาก เงินสดคงเหลือจากการขายเงินลงทุน 100,200.- บวก ดอกเบี้ยรับ 500.- 100,700.-


การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์เผื่อขาย การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย บันทึกเหมือนกับหลักทรัพย์เพื่อค้า ทุกประการ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อบัญชีจากหลักทรัพย์เพื่อค้า เป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย สำหรับวิธีการคำนวณ ต้นทุนเงินลงทุน กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน หรือขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนเหมือนกันทุกประการ สำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่ถือครบกำหนดภายใน 1 ปี และเงินลงทุนทั่วไป มีหลักการคำนวณ ต้นทุนเงินลงทุนกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน หรือขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน และวิธีการบันทึกบัญชี เกี่ยวกับการซื้อและขาย เหมือนกับหลักทรัพย์เพื่อค้า เพียงแต่เปลี่ยนชื่อบัญชีเป็น ตราสารหนี้ที่ถือจนครบ กำหนดภายใน 1 ปี หรือบัญชีเงินลงทุนทั่วไป หากกิจการจำหน่ายเงินลงทุนเพียงบางส่วน มูลค่าตามบัญชีต่อหน่วยที่ใช้ในการบันทึกกำไรหรือ ขาดทุนชนิดเดียวกันต้องคำนวณโดยใช้วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักหรือวิธีเข้าก่อน-ออกก่อน ตัวอย่างที่ 7 บริษัท บานชื่น จำกัด ลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท น้อยหน่า จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในความต้องการ ของตลาด โดยมีความตั้งใจถือไว้เพื่อค้า รายการซื้อขายหุ้นในระหว่างปี 2562 มีดังนี้ 2562 ม.ค. 10 ซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 102 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการ ซื้อ 1,000 บาท เม.ย. 8 ขายหุ้นสามัญ จำนวน 400 หุ้น ราคาหุ้นละ 90 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการขาย 500 บาท มิ.ย. 15 ซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 2,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 98 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ 1,500 บาท ก.ค. 22 ขายหุ้นสามัญ จำนวน 2,500 หุ้น ในราคาหุ้นละ 105 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการขายหุ้นละ 1 บาท ให้ทำ บันทึกรายการเกี่ยวกับการซื้อขายเงินลงทุนหุ้นสามัญ ดังนี้ 1. ต้นทุนของเงินลงทุนวิธีเข้าก่อน-ออกก่อน 2. ต้นทุนของเงินลงทุนวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 1. กิจการคำนวณต้นทุนเงินลงทุนที่จำหน่ายในระหว่างงวดด้วยวิธีเข้าก่อน-ออกก่อน 2562 ม.ค. 10 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 103,000.- Cr. เงินสด 103,000.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บ.น้อยหน่า จำกัด คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย ราคาซื้อ (1,000 หุ้น x 102) + 1,000 = 103,000/1,000 หุ้น ราคาทุนต่อหุ้น =103 บาท


เม.ย. 8 Dr. เงินสด (400 x 90) 39,100.- ขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 2,100.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 41,200.- บันทึกจำหน่ายเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด มิ.ย. 15 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 197,000.- Cr. เงินสด 197,000.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย ราคาซื้อ (2,000 หุ้น x 98) + 1,000 = 197,000/2,000 หุ้น ราคาทุนต่อหุ้น = 98.50 บาท ก.ค. 22 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า – หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 102,500.- Cr. เงินสด 102,500.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย ราคาซื้อ (1,000 หุ้น x 101) + 1,500 = 102,500/1,000 หุ้น ราคาทุนต่อหุ้น = 102.50 บาท ส.ค. 31 Dr. เงินสด (2,500 x 105) – 2,500 260,000.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 248,950.- กำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 11,050.- บันทึกจำหน่ายเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด คำนวณต้นทุนเข้าก่อน-ออกก่อน 10 ม.ค. ซื้อ 1,000 หุ้น - ขาย 400 หุ้น เหลือ 600 x 103 = 61,800.- 15 มิ.ย. 1,900 หุ้น x 98.50 = 187,150.- รวมราคาทุน = 248,950.- 2. กิจการคำนวณต้นทุนเงินลงทุนที่จำหน่ายในระหว่างงวดด้วยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 2562 ม.ค. 10 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 103,000.- Cr. เงินสด 103,000.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด


คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย ราคาซื้อ (1,000 หุ้น x 102) + 1,000 = 103,000/1,000 หุ้น ราคาทุนต่อหุ้น = 103 บาท เม.ย. 8 Dr. เงินสด (400 x 99) – 500 39,100.- ขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 2,100.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า – หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 41,200.- (400 หุ้น ราคาทุนต่อหุ้น 103 บาท) บันทึกจำหน่ายเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด มิ.ย. 15 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 197,000.- Cr. เงินสด 197,000.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย คงเหลือจากการซื้อ 10 ม.ค. 600 หุ้น x 103 = 61,800.- บวก ราคาซื้อ (2,000 หน่วย x 98) + 1,000 = 197,000 = 197,000.- = 258,800.- ราคาทุนถัวเฉลี่ยต่อหน่วย 258,800.-/2,600 หุ้น = 99.54 ก.ค. 22 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด 102,500.- Cr. เงินสด 102,500.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าหุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด คำนวณ ต้นทุนต่อหน่วย คงเหลือจากการซื้อ 10 ม.ค. 600 หุ้น x 103 = 61,800.- 15 มิ.ย. 2,000 หุ้น = 197,000.- บวก ราคาซื้อ (1,000 หุ้น x 101) + 1,500 = 102,500.- = 361,300.- ราคาทุนถัวเฉลี่ยต่อหน่วย 361,300.-/3,600 หุ้น = 100.36 ส.ค. 31 Dr. เงินสด (2,500 x 105) – 2,500 260,000.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด (2,500 x 100.36) 250,900.- กำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน 9,100.- บันทึกการจำหน่ายเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท น้อยหน่า จำกัด


การโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน หลังจากที่กิจการถือเงินลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่งไปได้ระยะหนึ่ง แล้วมีความประสงค์จะโอน เปลี่ยนประเภทของเงินลงทุนไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง ต้องปฏิบัติดังนี้ 1. การโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เพื่อค้าไปเป็นเงินลงทุนประเภทอื่น กิจการต้องใช้มูลค่า ยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่า ยุติธรรม ณ วันนั้นในกำไรหรือขาดทุนทันที กำไรหรือขาดทุนจากการโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน จะแสดงในงบกำไรขาดทุนทันที กรณีโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เพื่อค้าไปเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ Dr. หลักทรัพย์เผื่อขาย (มูลค่ายุติธรรม ณ วันโอนเปลี่ยน) XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า (ราคาตามบัญชี) XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX ตัวอย่างที่ 8 วันที่ 5 เมษายน 2562 บริษัท บานชื่น จำกัด ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด จำนวน 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ในราคาหุ้นละ 112.50 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ 1,250 บาท โดยตั้งใจถือไว้เพื่อ ค้า ต่อมาในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 มีความต้องการโอนเปลี่ยนจากหลักทรัพย์เผื่อนขาย ในวันนี้หุ้นสามัญดังกล่าวมี มูลค่ายุติธรรม หุ้นละ 115 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 เม.ย. 5 Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด 113,750.- Cr. เงินสด 113,750.- บันทึกซื้อเงินลงทุนหุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด การคำนวณราคาทุน ราคาซื้อ 1,000 หุ้น หุ้นละ 112.50 112,500.- บวกค่าใช้จ่ายในการซื้อ 1,250.- รวมต้นทุนของเงินลงทุน 113,750.- ต.ค. 31 Dr. หลักทรัพย์เผื่อขาย – หุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด 115,000.- Cr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด 113,750.- กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนโอน 1,250.- บันทึกโอนเปลี่ยนเงินลงทุนหลักทรัพย์เพื่อค้าไปเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย


2. การโอนเปลี่ยนเงินลงทุนประเภทอื่นไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า กิจการจะต้องใช้มูลค่า ยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่า ยุติธรรม ณ วันนั้นพร้อมทั้งกลับบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนที่โอนเปลี่ยนใน กำไรหรือขาดทุนทันที กรณีโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เผื่อขายไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า ถ้าหลักทรัพย์เผื่อขายที่โอนเปลี่ยนเป็น หลักทรัพย์ที่กิจการซื้อไว้ในงวดบัญชีก่อน ณ วันสิ้นงวดบัญชีกิจการต้องวัดมูลค่าเงินลงทุนเป็นมูลค่ายุติธรรม กิจการอาจมีบัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขายยกมา กิจการจะต้องโอนปิดบัญชีที่มีอยู่ ทั้งหมด ผลต่างจึงบันทึกในบัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน กรณีโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เผื่อขายไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า ❖ มีบัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขายยกมาด้านเครดิต การบันทึกบัญชี เป็นดังนี้ Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า (มูลค่ายุติธรรม ณ วันโอนเปลี่ยน) XX กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX Cr. หลักทรัพย์เผื่อขาย (ราคาตามบัญชี) XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX ❖ บัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขายยกมาด้านเดบิต การบันทึกบัญชีเป็น ดังนี้ Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า (มูลค่ายุติธรรม ณ วันโอนเปลี่ยน) XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX Cr. หลักทรัพย์เผื่อขาย (ราคาตามบัญชี) XX กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย XX กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) XX ตัวอย่างที่ 9 บริษัท บานชื่น จำกัด ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท บานไม่รู้โรย โดยตั้งใจถือไว้เผื่อขาย ต่อมาในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 มีความต้องการโอนเปลี่ยนจากหลักทรัพย์เผื่อขายไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า โดยหุ้นดังกล่าวมี ราคาตามบัญชี 127,000 บาท มีบัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย ด้านเครดิต 1,400 บาท มูลค่ายุติธรรม 133,000 บาท


การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ Dr. หลักทรัพย์เพื่อค้า - หุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด 133,000.- (มูลค่ายุติธรรม ณ วันโอนเปลี่ยน) กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย 1,400.- Cr. หลักทรัพย์เผื่อขาย หุ้นสามัญ บริษัท บานไม่รู้โรย จำกัด 127,000.- (ราคาตามบัญชี) กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการโอนเปลี่ยน (ผลต่าง) 4,000.- บันทึกโอนเปลี่ยนเงินลงทุนหลักทรัพย์เผื่อขายไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า การวัดมูลค่าเงินลงทุน มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 (ปรับปรุง 2559) เรื่องการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้และ ตราสารทุน ได้กำหนดให้วัดมูลค่าเงินลงทุนชั่วคราว ในงบแสดงฐานะการเงิน ดังนี้ 1. หลักทรัพย์เพื่อค้าและหลักทรัพย์เผื่อขาย ต้องแสดงด้วยมูลค่ายุติธรรม 2. เงินลงทุนทั่วไป ต้องแสดงด้วยราคาทุน 3. ตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนดภายใน 1 ปี ต้องแสดงด้วยราคาทุนตัดจำหน่าย การวัดมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อค้าและหลักทรัพย์เผื่อขาย ต้องแสดงด้วยมูลค่ายุติธรรม โดยไม่ต้อง คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดจากการขายเงินลงทุนนั้น โดยมีหลักปฏิบัติดังนี้ • ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์เพื่อค้า เป็นกำไร หรือขาดทุนที่ยังไม่ เกิดขึ้น • ผลกำไรและขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นของหลักทรัพย์เพื่อค้าทุกรายการให้นำมารวม เพื่อแสดงเป็นกำไร หรือขาดทุนในงบกำไรขาดทุนทันทีในงวดนั้น • ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์เผื่อขาย เป็นกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ เกิดขึ้น • ผลกำไรและขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นของหลักทรัพย์เผื่อขาย แสดงภายใต้หัวข้อองค์ประกอบอื่นของส่วน ของเจ้าของ ในงบแสดงฐานะการเงิน และจะตั้งพักไว้จนกระทั่งหลักทรัพย์นั้นขายไป จึงจะโอนปิด บัญชี ผลต่างให้บันทึกบัญชีกำไรหรือขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ โดยผลกำไรแสดงภายใต้ หัวข้อรายได้อื่นในงบกำไรขาดทุน ผลขาดทุนแสดงภายใต้หัวข้อค่าใช้จ่ายอื่นในงบกำไรขาดทุน • การปรับมูลค่าตามบัญชีของเงินลงทุนให้เท่ากับมูลค่ายุติธรรม โดยใช้บัญชีค่าเผื่อการปรับมูลค่า ยุติธรรมของเงินลงทุน


ตัวอย่างที่ 10 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2562 กิจการซื้อหุ้นบุริมสิทธิ 10% บริษัท พวงคราว จำกัด 2,000 หุ้น หุ้นละ 50 บาท ในราคา 51 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นละ 1 บาท ตั้งใจถือไว้เพื่อค้า ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันสิ้นงวดบัญชี หุ้นบุริมสิทธิ 10% ของบริษัท พวงคราว จำกัด มีมูลค่ายุติธรรม หุ้นละ 50 บาท การ บันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 2562 ธ.ค. 31 Dr. กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เพื่อค้า 4,000.- Cr. ค่าเผื่อการปรับมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อค้า 4,000.- บันทึกปรับปรุงมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อค้าให้เป็นมูลค่ายุติธรรม การคำนวณ มูลค่าตามบัญชี - ราคาซื้อหลักทรัพย์ 2,000 หุ้น หุ้นละ 51 บาท 102,000.- บวก ค่าใช้จ่ายในการซื้อ 2,000 หุ้น หุ้นละ 1 บาท 2,000.- 104,000.- มูลค่ายุติธรรม 2,000 หุ้น หุ้นละ 50 บาท 100,000.- ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น 4,000.- (เนื่องจากมูลค่ายุติธรรมต่ำกว่าราคาทุน หรือราคาตามบัญชี) บัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เพื่อค้าด้านเดบิต แสดงว่าเป็นผลขาดทุนให้นำไปแสดง ในงบกำไรขาดทุนภายใต้หัวข้อค่าใช้จ่ายอื่น และบัญชีค่าเผื่อการปรับมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อค้าให้นำไปแสดงเป็น รายการหักบัญชีหลักทรัพย์เพื่อค้าในงบแสดงฐานะการเงิน เพื่อให้หลักทรัพย์เพื่อค้าแสดงด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นงวดบัญชี ตัวอย่างที่ 11 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 กิจการซื้อหุ้นกู้ 12% บริษัท พวงชมพู จำกัด 3,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท ในราคา 99 บาท เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นละ 1 บาท ตั้งใจถือไว้เผื่อขาย ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่ง เป็นวันสิ้นงวดบัญชี หุ้นกู้ 12% ของบริษัท พวงชมพู จำกัด มีมูลค่ายุติธรรม หุ้นละ 104 บาท การบันทึกบัญชี เป็นดังนี้ 2562 ธ.ค. 31 Dr. ค่าเผื่อการปรับมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขาย 12,000.- Cr. กำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขาย 12,000.- บันทึกปรับปรุงมูลค่าหลักทรัพย์เพื่อค้าให้เป็นมูลค่ายุติธรรม


การคำนวณ มูลค่าตามบัญชี – ราคาซื้อหลักทรัพย์ 3,000 หุ้น หุ้นละ 99 บาท 297,000.- บวก ค่าใช้จ่ายในการซื้อ 3,000 หุ้น หุ้นละ 1 บาท 3,000.- 300,000.- มูลค่ายุติธรรม 3,000 หุ้น หุ้นละ 104 บาท 312,000.- กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น (เนื่องจากมูลค่ายุติธรรมสูงกว่าราคาทุนหรือราคาตามบัญชี) 12,000.- บัญชีกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์เผื่อขายด้านเครดิต แสดงว่าเป้นกำไร นำไปแสดงในงบ แสดงฐานะการเงินภายใต้หัวข้อองค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น และบัญชีค่าเผื่อการปรับมูลค่า หลักทรัพย์เผื่อขาย นำไปแสดงเป็นรายการบวกบัญชีหลักทรัพย์เผื่อขายในงบแสดงฐานะการเงิน เพื่อให้ หลักทรัพย์เผื่อขายแสดงด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นงวดบัญชี การแสดงรายการเงินลงทุนชั่วคราวในงบการเงิน ณ วันสิ้นงวดบัญชี กิจการต้องแสดงเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงิน แยกเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินลงทุนชั่วคราว แสดงภายใต้ประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน ในงบแสดงฐานะการเงิน ประกอบด้วย 1. หลักทรัพย์เพื่อค้า 2. หลักทรัพย์เผื่อขาย (ตั้งใจจะขายภายใน 1 ปี) 3. ตราสารหนี้ที่ถือจนครบกำหนดภายใน 1 ปี 4. เงินลงทุนทั่วไป ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการแสดงรายการเงินลงทุนชั่วคราวในงบแสดงฐานะการเงิน บริษัท พวงแสด จำกัด งบแสดงฐานะการเงิน (บางส่วน) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และ 2561 หน่วย : บาท หมายเหตุ 2562 2561 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด XX XX เงินลงทุนชั่วคราว 2 10,100,000.- XX รวมสินทรัพย์หมุนเวียน XX XX


สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ................. XX XX รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน XX XX รวมสินทรัพย์ XX XX หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน ................. XX XX หนี้สินไม่หมุนเวียน ................. XX XX รวมหนี้สิน XX XX ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้น ทุนจดทะเบียน หุ้นบุริมสิทธิ XX XX หุ้นสามัญ XX XX ทุนที่ชำระแล้ว ส่วนเกินมูลค่าหุ้น XX XX กำไร (ขาดทุน) สะสม จัดสรรแล้ว ทุนสำรองตามกฎหมาย XX XX อื่น ๆ XX XX ยังไม่ได้จัดสรร XX XX องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น 3 (30,000.-) XX รวมส่วนของผู้ถือหุ้น XX XX รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น XX XX


บริษัท พวงแสด จำกัด งบกำไรขาดทุน (บางส่วน) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 หน่วย : บาท หมายเหตุ 2562 2561 รายได้ รายได้จากการขาย XX XX รายได้อื่น 4 173,000.- XX รวมรายได้ XX XX ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขาย XX XX ค่าใช้จ่ายในการขาย XX XX ค่าใช้จ่ายในการบริหาร XX XX ค่าใช้จ่ายอื่น 5 35,000.- XX รวมค่าใช้จ่าย XX XX กำไร (ขาดทุน) ก่อนต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ XX XX ต้นทุนทางการเงิน XX XX กำไร (ขาดทุน) ก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ XX XX ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ XX XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX XX


Click to View FlipBook Version