The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

อาหารสูตรพระราชทาน

ปี 2565

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระเมตตา ห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า และทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาให้ประชาชนสามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการด ารงชีวิต ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้ง ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎร เพื่อเพิ่มพูนทักษะและมีช่องทางการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักในการด าเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้าง จ านวน 10,600,000.- บาท (สิบล้านหกแสนบาทถ้วน) บนที่ดินในพระนามาภิไธยซึ่ง นางสาววงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อว่า “ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์” โดยเสด็จพระราชด าเนินทรงวาง ศิลาฤกษ์อาคารวงเดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และเสด็จพระราชด าเนินเปิด ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 ศูนย์วงเดือน อาคมสุทัณฑ์ มีบทบาทหน้าที่ คือ จัดฝึกอบรมด้านอาชีพตามพระราชด าริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และอาชีพในท้องถิ่นจังหวัดอุทัยธานีเพื่อการอนุรักษ์และการมีงานท า ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาการศึกษาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น และอาชีพที่เหมาะสมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส าหรับประชาชนในพื้นที่ เป็นแหล่งเรียนรู้และการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในทุกรูปแบบ เป็นศูนย์สาธิต ทดลอง จัดแสดง และจ าหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์และ โครงการพระราชด าริ ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานท า และส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานการจัดอบรมวิชาชีพศิลปวัฒนธรรมไทย แก่ประชาชนทั่วไปในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้สู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ จังหวัดอุทัยธานี


หลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ จังหวัดอุทัยธานี ด าเนินการศึกษาเอกสารหนังสือครัวสระปทุม และหนังสือเมนูพระราชทาน 60 พรรษา ซึ่งน าหลักการเนื้อหา และวิธีการประกอบอาหารไปทดลองฝึกปฏิบัติกับวิทยากรและครูผู้สอน รวบรวมเป็น 16 เมนู ประกอบด้วย ยาพอกหัวเด็ก มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) ผัดพริกอ่อน ผักโขมปั้นก้อนอบ ซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์พายฟักทอง ขนมรวงผึ้ง หมูเสียบไม้ปิ้ง ไก่นาบกระทะ ซุปมะเขือเทศ มันฝรั่งบดทอด น้ าสลัดเมล็ดชา ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน น้ าพริกใบชางาม้อน ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ จึงได้จัดท าหลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในพระปรีชาสามารถเรื่องการประกอบพระกระยาหาร และเผยแพร่อาหารสูตรพระราชทานให้กับประชาชน สามารถประกอบอาหารและขนมที่มีคุณค่า ทางโภชนาการ และสามารถน าความรู้ไปประยุกต์ใช้หรือน าไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดีต่อไป ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ จังหวัดอุทัยธานี ค ำน ำ


หน้า หลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน 1 บทน า 1 หลักการและจุดหมาย 2 โครงสร้างเนื้อหา 2 เมนูอาหารสูตรพระราชทาน เมนูครัวสระปทุม 7 ยาพอกหัวเด็ก 8 มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) 9 กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) 10 ผัดพริกอ่อน 11 ผักโขมปั้นก้อนอบ 12 ซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์ 13 พายฟักทอง 15 ขนมรวงผึ้ง 16 หมูเสียบไม้ปิ้ง 17 ไก่นาบกระทะ 18 เมนูพระราชทาน 60 พรรษา 19 ซุปมะเขือเทศ 20 มันฝรั่งบดทอด 21 น้ าสลัดเมล็ดชา 22 ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา 23 ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน 24 น้ าพริกใบชางาม้อน 25 ภาพผลงานอาหารสูตรพระราชทาน 27 ภาพกิจกรรมฝึกปฏิบัติ 30 คณะผู้จัดท า สำรบัญ


หลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ จังหวัดอุทัยธานี บทน า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกล่าวไว้ใน ไดอารี่ว่า “ข้าพเจ้ามีของขวัญพิเศษ คือต ารากับข้าว 10 อย่างที่ข้าพเจ้าเขียนเอง ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ กับข้าวเหล่านี้ ข้าพเจ้าท าเอง ชิมเอง ถ่ายรูปเอง บางรูป รูปที่ไม่ได้ถ่ายเป็นฝีมือพวกผู้ช่วยในครัว ไม่ใช่ ช่างภาพอาชีพ” เมื่อทรงนึกต ารับอาหารได้แต่ละต ารับ ก็ทรง “เข้าครัว” ทดลองตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทรงทดลองประกอบพระกระยาหารทีละต ารับในวันอาทิตย์ที่จะพอทรงมีเวลาว่าง มีท่านผู้หญิงจันทิมา พึงบารมี ผู้ดูแลพระกระยาหารเป็นผู้ช่วย และมีกลุ่มพระสหายเป็นผู้คอยติชม ทรงกล่าวไว้ในค าน าว่า “ความที่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการเขียนต ารากับข้าว จึงอาจจะใช้ค าพูดไม่ถูกต้อง แต่รับรองว่าอาหารที่เขียนไว้นั้น อร่อยทุกอย่าง” และยังทรงเสริมด้วยพระอารมณ์ขันว่า “ถ้าท่านท าแล้วไม่อร่อยเป็นความผิดของท่านเอง ที่ท าไม่อร่อย” (เชียงใหม่นิวส์, 2549, น. 7) การประกอบพระกระยาหารซึ่งถือเป็นหนึ่งในพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ประชาชนต่าง ประจักษ์แจ้งและประทับใจ ด้วยอาหารที่ทรงปรุงนั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และอร่อยมากด้วยคุณประโยชน์ (มูลนิธิชัยพัฒนา, 2558, น.4)การประกอบพระกระยาหารทรงงานอดิเรกที่โปรดซึ่งมีทั้งที่ทรงคิดต ารับอาหารเอง และทรงประยุกต์จากสูตรอาหารที่มีอยู่แล้ว มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ส่วนใหญ่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ทรงจดบันทึกสูตรอาหารและวิธีท าไว้ทุกครั้ง และได้พระราชทานสูตรอาหารให้ผู้สนใจหรือหน่วยงานต่าง ๆ น าไปเผยแพร่เพื่อสาธารณประโยชน์ต่อไป ต าราอาหารพระราชทานที่ได้มีการตีพิมพ์มีหลายเล่ม เช่น ครัวสระปทุม เมนูพระราชทาน 60 พรรษา อร่อยชัยพัฒน์ อร่อยอุทยาน เป็นต้น ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรตามพระราชด าริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด าเนินงานศึกษา ค้นคว้า ฟื้นฟูองค์ความรู้จากแหล่ง ภูมิปัญญาท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้านเกี่ยวกับวิถีชีวิต และการประกอบอาชีพของประชาชนตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง วิจัย และพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้สู่อาชีพที่เหมาะสมส าหรับประชาชนในพื้นที่ คิดค้นและสร้างนวัตกรรมในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพของประชาชน ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา ประชาชนให้มีความรู้ และทักษะในงานอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการพัฒนาอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยตระหนักถึงการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้ เล็งเห็นว่าเมนูอาหารสูตรพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานเป็นอาหารและขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงได้ด าเนินการจัดท า หลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบด้วย เมนูครัวสระปทุม จ านวน 10 เมนู และเมนูพระราชทาน 60 พรรษา จ านวน 6 เมนู


รวมเป็นจ านวน 16 เมนู โดยจัดท าเป็นรายวิชาตามเมนูอาหารสูตรพระราชทาน จ านวน 16 วิชา ตามชื่อ เมนูอาหารสูตรพระราชทาน เพื่อน ามาจัดท าหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นที่จะน าไปใช้ในการจัดฝึกอบรมทักษะอาชีพ ตามความต้องการและความสนใจของประชาชน โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างอาชีพเพื่อการมีงานท า การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ก าลังจะสูญหาย และที่ส าคัญยิ่ง ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ด าเนินการจัด กิจกรรมตามพระราชด าริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้มีการจัดท าและพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพตามพระราชด าริเพื่อการมีงานท าตามความต้องการของ ประชาชนและชุมชน และใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านอาชีพให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ หลักการและจุดหมาย การจัดท าหลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นการจัดการองค์ความรู้ที่ใช้ส าหรับค้นคว้าความรู้ หลังจากที่ได้ปฏิบัติจนเสร็จสิ้น เพื่อพิจารณาถึงความส าเร็จ ข้อดีที่เกิดขึ้น และเป็นการหาข้อผิดพลาดหรือ ปัญหาที่เกิดขึ้น วิเคราะห์สาเหตุ วิธีการ และผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ด้านอาหารและโภชนาการ และน าผลส าเร็จมาต่อยอดขยายผลให้เป็นหลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ ทักษะด้านการประกอบอาชีพ และมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเน้นการ จัดการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ตามเนื้อหาของหลักสูตรที่ก าหนด มุ่งเน้นให้ประชาชนได้พัฒนา ความรู้และทักษะในการประกอบอาหาร เห็นคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร สามารถน าไปเป็นช่องทางใน การประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว อันจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป โครงสร้างเนื้อหา อาหารสูตรพระราชทาน เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย นอกเหนือจาก สารอาหารหลักที่จ าเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้อาจช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ และที่ส าคัญคือการ รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดีประเภท ของอาหารเพื่อสุขภาพ ได้แก่ อาหารธรรมชาติ อาหารออแกนิก และอาหารเสริม เป็นอาหารทางเลือกเพื่อให้มี สุขภาพดี ปัจจัยส าคัญของอาหารที่ดีคือ ความหลากหลาย ซึ่งจะท าให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน หลักการ ที่จะช่วยให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน คือ การเลือกรับประทานอาหารหลากสีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อาหารที่มีสีสันจะมีสารอาหารอยู่มากมาย เช่น สีแดง สีเขียว สีเหลือง สีส้ม เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะมีวิตามิน ป้องกันอนุมูลอิสระ สามารถปกป้องร่างกายจากโรคร้าย และได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่หลากหลาย (พรรณผกา รุ่งเรือง, 2555, น. 15) ผู้บริโภคมุ่งเน้นเป้าหมายเพื่อการมีสุขภาพที่ดีและมีอายุที่ยืนยาว ต้องการควบคุมปริมาณของ อาหารที่รับประทานเข้าไปเพื่อให้ปลอดภัยจากโรค รวมทั้งส่งผลต่อเนื่องไปยังการมีสุขภาพจิตที่ดี ผู้บริโภคมีการ น าเรื่องการบริโภคอาหาร และสุขภาพมาเชื่อมโยงกัน เช่น ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคิดว่าการบริโภคอาหารดีจะมีผลดี ต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ ในทางตรงข้ามหากมีการบริโภคอาหารไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพาต เป็นต้น อีกทั้งมีการมองว่าอายุแต่ละวัยควรได้รับอาหารที่ แตกต่างกันตามวัย เช่น ในวัยเด็ก เนื้อสัตว์ ไข่ และนม ยังเป็นสิ่งจ าเป็นเนื่องจากร่างกายมีการเจริญเติบโต


ในขณะที่วัยผู้ใหญ่ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน หรืออาหารหวานมากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหรือ โรคภัยไข้เจ็บแก่ร่างกาย และการบริโภคอาหารที่ถูกหลัก อาจจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดความเสี่ยงต่อการ เกิดโรค และโรคแทรกซ้อนของผู้บริโภคได้ รวมทั้งมีบางส่วนมองการณ์ไกลว่าจะท าให้อาหารเป็นยาได้อย่างไร ดังนั้นจึงส่งผลให้ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลักในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ 1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ าหนักตัวให้ปกติ 2. รับประทานข้าวให้เป็นอาหารหลัก ข้าวควรรับประทานเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ 3. รับประทานพืชผักผลไม้เป็นประจ า เพราะพืชผักผลไม้มีทั้งสีเขียว สีเหลือง เป็นต้น 4. รับประทานปลาและเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเหลืองเป็นประจ า ดื่มนมให้พอเหมาะตามวัย 5. รับประทานอาหารที่มีไขมันแต่พอควร 6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัด และเค็มจัด 7. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารถนอม เช่น อาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง เป็นต้น 8. งดหรือลดเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เป็นต้น ประโยชน์ของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ช่วยในการส่งเสริมสุขภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ สามารถ รับประทานได้ในคนปกติ รวมทั้งคนป่วย เพราะอาจลดความเสี่ยงในโรคที่จะเกิดขึ้น หรือป้องกันโรคแทรกซ้อน หรือท าให้สุขภาพดีขึ้น ได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค เพิ่มศักยภาพให้ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคลมปัจจุบัน ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์พากินสัน โรคหืดหอบ โรคปอด และโรคที่เกิดจากความเสื่อมชนิดเรื้อรังอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติที่ผ่านการ แปรรูปน้อยที่สุดเพื่อคงไว้ซึ่งองค์ประกอบทางธรรมชาติของอาหารให้มากที่สุด และขึ้นอยู่กับการเลือก รับประทานการผสมผสานให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากที่สุด อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ดีควรยึดหลักความสมดุลหลากหลาย และปริมาณที่เหมาะสมกับกิจกรรมการด ารงชีวิตเป็นหลัก สารอาหาร ที่จ าเป็นส าหรับร่างกายมี 6 ชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และน้ า หลักที่ต้องค านึงในการประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย 1. รับรู้พลังงานจากสารอาหาร (ปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละมื้อ) สารอาหารแต่ละประเภทจะให้ พลังงานที่ไม่เท่ากัน เช่น คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรีโปรตีน 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี และไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรีเป็นต้น 2. เลือกวัตถุดิบที่น ามาปรุงเป็นอย่างดี วัตถุดิบที่ดีไม่จ าเป็นต้องเป็นของราคาแพง เน้นที่วัตถุดิบที่ให้ สารอาหารจ าเป็นต่อร่างกาย คุ้มค่ากับจ านวนเงิน เช่น - เลือกคาร์โบไฮเดรตชนิดดีที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด ธัญพืช ไม่ขัดสี ผักและผลไม้ ให้หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีที่อยู่ในรูปของน้ าตาล ขนม และของหวานต่าง ๆ


- เลือกโปรตีนจากเนื้อ ปลา หรือโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว เพื่อช่วยลดไขมันในเลือด และยังสามารถ ป้องกันโรคหัวใจได้ โปรตีนที่มาจากเนื้อต่าง ๆ ไก่ ปลา ไข่และถั่วล้วนเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินดี วิตามินเค เหล็ก สังกะสีและฟอสฟอรัส นอกจากนั้นหากรับประทาน โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วต่าง ๆ ยังมีองค์ประกอบของวิตามินอี กรดโฟลิก เส้นใยอาหารเพิ่มขึ้น - ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์และอาหารทอดกรอบ นมไขมันเต็ม เนื้อสัตว์ติดมัน เป็นสิ่งที่ต้อง หลีกเลี่ยงอย่างมาก เพราะหากรับประทานทานในปริมาณมากจะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและเพิ่ม การอักเสบของหลอดเลือดได้ ส าหรับไขมันดีสามารถหาได้จากปลาทะเล และถั่วเปลือกแข็ง นักวิชาการ ทางด้านโภชนาการแนะน าว่าอาหารทุก 2,000 แคลอรีที่รับประทานเข้าไป ควรจะมีไขมันดีประมาณ 27 กรัม (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) เช่น น้ ามันมะกอก น้ ามันเมล็ดชา น้ ามันเมล็ดงาม้อน น้ ามันร าข้าว น้ ามันถั่วเหลือง น้ ามันเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น 3. เน้นการบริโภคอาหารจ าพวกผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ า 4. รับประทานอาหารที่มีปริมาณเกลือหรือโซเดียมต่ า แม้โซเดียมจะเป็นแร่ธาตุที่จ าเป็นส าหรับชีวิต จ าเป็นต่อการรักษาความสมดุลของของเหลวในร่างกาย น าสื่อประสาทถ่ายทอดไปยังส่วนต่าง ๆ และช่วยใน การย่อยอาหาร โดยปกติร่างกายเราควรได้รับโซเดียมอย่างน้อย 500 มิลลิกรัม สูงสุดไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา น้ าปลาหรือซีอิ๊ว 1 ช้อนชา จะมีโซเดียมเฉลี่ย 400 มิลลิกรัม หากสามารถลด ปริมาณลงได้ก็จะลดความเสี่ยงการเพิ่มความดันโลหิตได้มากขึ้น น้ ามันเมล็ดชา (Camellia Oleifera Seed Oil) น้ ามันเมล็ดชา เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นที่รู้จัก และน ามาประกอบอาหารกัน แพร่หลาย จากคุณประโยชน์ที่มีอยู่ในตัวของน้ ามัน ท าให้ได้รับสมญานามว่าน้ ามันชานั้นเป็นเสมือน “น้ ามัน มะกอกแห่งโลกตะวันออก” และสามารถน ามาใช้ในการผลิตเครื่องส าอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์บ ารุงเส้นผม ประโยชน์ของน้ ามันเมล็ดชา น้ ามันเมล็ดชา มีสารอาหารหลายชนิด ช่วยบ ารุงร่างกายและป้องกันโรคบางชนิดได้ โดยน้ ามันเมล็ดชา มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้ 1. น้ ามันเมล็ดชามีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoproteins: LDL) เป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกาย หากมีคอเลสเตอรอลชนิดนี้มากเกินไปอาจน าไปสู่ การเกิดโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด 2. น้ ามันเมล็ดชา ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3. น้ ามันเมล็ดชา อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูงอย่างวิตามินอีและสารคาเทชิน 4. น้ ามันเมล็ดชา มีจุดเกิดควันสูงถึง 252 องศาเซลเซียส


น้ ามันเมล็ดชา ที่มา : https://www.teaoilcenter.org น้ ามันเมล็ดชา มีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่มีกรดไขมันทรานส์ ซี่งท าให้ร่างกายสามารถ ดูดซึมวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ ามันเมล็ดชาจะอุดมไป ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูงอย่างวิตามินอีและสารคาเทชิน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ ามันให้นานขึ้น น้ ามันเมล็ดชายังมีจุดเดือดเป็นควันสูงถึง 252 องศาเซลเซียส (486 ฟาเรนไฮต์) ท าให้สามารถประกอบอาหาร ได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทอดหรือการผัดในอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก หรือเป็นส่วนผสมของน้ าสลัดหรือ ซอสหมักเนื้อสัตว์ น้ ามันเมล็ดงาม้อน (Perilla Seed Oil) น้ ามันเมล็ดงาม้อน มีส่วนช่วยในเรื่องความจ าและลดความเสี่ยงของโรคความจ าเสื่อม มีฤทธิ์ต้านการ อักเสบ มีผลดีต่อเรตินาในดวงตา และลดความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ เป็นแหล่งของ กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์และจ าเป็นต่อร่างกาย ประกอบด้วยโอเมก้า 3 ร้อยละ 55 - 60 ของกรดไขมัน ทั้งหมดซึ่งมีบทบาทส าคัญต่อระบบประสาทและสมองที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ นอกจากนี้น้ ามันเมล็ดงาม้อน ยังประกอบด้วย โอเมก้า 6 ร้อยละ 18 - 22 ของกรดไขมันทั้งหมด และโอเมก้า 9 ร้อยละ 11 - 13 ของกรด ไขมันทั้งหมด ทั้งยังพบสาร Luteolin ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม flavonoids ที่มีฤทธิ์ต้านภูมิแพ้ (Anti- allergy) และ ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) ทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุฟอสฟอรัส และแคลเซียม น้ ามันเมล็ดงาม้อน ที่มา : https://www.patpat9.com


อาหารสูตรพระราชทาน เนื้อหาเกี่ยวกับอาหารสูตรพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ านวน 16 เมนูประกอบด้วย เมนูครัวสระปทุม ยาพอกหัวเด็ก มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) ผัดพริกอ่อน ผักโขมปั้นก้อนอบ ซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์ พายฟักทอง ขนมรวงผึ้ง หมูเสียบไม้ปิ้ง ไก่นาบกระทะ เมนูพระราชทาน 60 พรรษา ซุปมะเขือเทศ มันฝรั่งบดทอด น้ าสลัดเมล็ดชา ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน น้ าพริกใบชางาม้อน


ยาพอกหัวเด็ก มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) ผัดพริกอ่อน ผักโขมปั้นก้อนอบ ซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์ พายฟักทอง ขนมรวงผึ้ง หมูเสียบไม้ปิ้ง ไก่นาบกระทะ เมนูครัวสระปทุม


เคล็ดลับ 1. ไม่ต้องบีบน้ าออกจากผักโขมก่อนน าไปปั่น จะช่วยให้ปั่นเป็นเนื้อละเอียดได้ง่ายขึ้น 2. การเลือกใช้เนยให้เลือกใช้เนยเค็ม หรือเนยสด เพราะในเนยสดไม่มีไขมันทรานซ์ หากเลือก เนยเค็มไม่ต้องเติมเกลือเพิ่ม 3. สามารถใช้พาเมซานชีสโรยแทนเนยแข็งขูด หรือใช้มอสซาเรลลาชีทโรยลงบนผักโขมน าไป อบอีกครั้งจะเพิ่มให้มีรสชาติคล้ายกับผักโขมอบชีส รับประทานพร้อมกับซอสมะเขือเทศ และซอสพริก ยาพอกหัวเด็ก วัตถุดิบและส่วนผสม ผักโขมต้มบดสับละเอียด 165 กรัม พริกไทย ¼ ช้อนชา นมข้นจืด 30 กรัม ขนมปัง 10 แผ่น เนยสด 16 กรัม เนยขูดแข็ง (โรยหน้า) เกลือ ¼ ช้อนชา ขั้นตอนการท าเมนูยาพอกหัวเด็ก 1. ต้มผักโขมให้สุก พักไว้ให้สะเด็ดน้ า และบดสับให้ละเอียด (โดยที่ไม่บีบน้ าใบผักโขมออก) 2. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใส่นมข้นจืด เนยสด คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว พักไว้ 3. หั่นขนมปังเป็นชิ้นตามยาว น าไปเข้าเตาอบใช้ไฟบนอุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส อบให้ขนมปังกรอบ ใช้เวลาอบประมาณ 25 – 30 นาที 4. น าผักโขมที่ผสมไว้ ทาลงบนขนมปัง สัดส่วนประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อ 1 ชิ้น โรยเนยแข็งขูด 5. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ เป็นอุบายให้เด็กรับประทานผัก ได้โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร ทรงเรียกว่า “ยาพอกหัวเด็ก” (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550) ยาพอกหัวเด็ก โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์


มัตสยาเกษียรสมุทร(ปลาช่อนอบ) มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม ปลาช่อนแล่เป็นชิ้นเอาก้างออก 380 กรัม ต้นหอมหั่นฝอย (ตกแต่ง) 10 กรัม นมสดรสจืด 220 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย (ตกแต่ง) 10 กรัม เนยละลาย 40 กรัม ผักสดส าหรับตกแต่ง เกล็ดขนมปัง 50 กรัม เกลือ (ส าหรับล้างปลา) ขั้นตอนการท าเมนูมัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) 1. ล้างปลาด้วยเกลือให้หมดเมือก ซับน้ าให้แห้ง แล่เนื้อปลาช่อนเป็นชิ้น เลาะก้างออกให้หมด 2. แช่เนื้อปลาช่อนลงในนมสด 1 ชั่วโมง เพื่อให้กลิ่นคาวปลาหายไป 3. ซับนมสดในชิ้นปลาให้แห้ง 4. ทาด้วยเนยละลายบนชิ้นปลาให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน และน าไปชุบเกล็ดขนมปัง 5. วางเนื้อปลาที่ชุบเกล็ดขนมปังบนถาดอบ โดยวางเอาหนังปลาขึ้นด้านบน 6. ขูดเนยแข็งโรยหน้า บนเนื้อปลาให้มีกลิ่นหอม 7. น าไปเข้าเตาอบใช้ไฟบนล่างอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 นาที หรือจนกว่าจะสุก 8. น าออกมาจัดจานด้วยผัดสด โรยหน้าด้วยต้นหอมและพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย พร้อมเสิร์ฟ วันหนึ่งไปวิทยาลัยเกษตรกรรม เด็กนักศึกษา เสนองานวิจัย เรื่องการเตรียมบ่อเลี้ยงปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลาทับทิม ก่อนจะปล่อยลูกปลาลงบ่อ ต้องล้างบ่อให้สะอาดใช้สารธรรมชาติที่พวกเขาคิดขึ้น ฆ่าปลาช่อน ซึ่งเป็นศัตรูของปลาที่เขาเลี้ยง พอฟังปุ๊บนึกขึ้นมาถึงปลาช่อนอบที่ชอบกินมาตั้งแต่เด็ก ๆ อร่อยกว่าปลาสมัยใหม่เป็นไหน ๆ จึงขอเล่าวิธีท าปลา... (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550) เคล็ดลับ 1. ขนาดของชิ้นปลา ควรหั่นเนื้อปลาที่แล่ออกมาแล้วออก เป็นชิ้นด้านละ 3 ชิ้น เท่า ๆ กัน 2. การสังเกตว่าเนื้อปลาสุกแล้วนั้น ควรสังเกตจากสีของเนื้อปลาช่อนขาวทั้งหมด ถ้าใช้นิ้วกดเนื้อ ปลาจะแน่น 3. ต้นหอมและพริกชี้ฟ้าแดงส าหรับตกแต่ง ควรหั่นฝอยและแช่ในน้ าเย็นจะช่วยให้ต้นหอมและ พริกชี้ฟ้าแดงขดหยิกสวยงาม


เคล็ดลับ 1. กุ้งที่น ามาเผาจะต้องสด ให้เลือกกุ้งที่มีก้ามมีสีเหลืองนิด ๆ ก้ามไม่ใหญ่มาก เปลือกค่อนข้าง แข็งแรง ไม่นิ่ม ไม่เละ และออกสีเข้มเขียวใส ไม่คล้ า ที่ส าคัญให้สังเกตดูว่าหัวกุ้งติดแน่นกับตัว และไม่มี กลิ่นคาว 2. เมื่อเผากุ้งต้องจะต้องเผาแบบสุกก าลังดี หากเผากุ้งนานเกินไป เนื้อกุ้งจะกระด้างและ เหนียว 3. ขั้นตอนการผ่ากุ้ง ต้องใช้มีดที่คมและใช้แรงผ่าลงไปที่ตัวกุ้งในครั้งเดียว หากเฉือนไปมาจะ ท าให้เนื้อกุ้งเละ และเนื้อจะไม่ฟูเด้ง กุ้งบ่อมรกต(กุ้งเผาสาหร่าย) กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม กุ้งแม่น้ า 3 ตัว เนยละลาย 2 ช้อนโต๊ะ สาหร่าย 3 แผ่น เกลือเล็กน้อย ขั้นตอนการท าเมนูกุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) 1. เผาหินแกรนิตแบบที่ใช้ปูถนน (ไม่ขัดมันถ้าเคยใช้ปูถนนแล้วจะดีเป็นพิเศษ) บนเตาถ่านร้อนจัด 2. หยอดเนยลงไปบนหินให้ทั่ว โรยด้วยเกลือน าสาหร่ายที่ล้างสะอาดแล้ววางบนหิน 3. วางกุ้งบนสาหร่าย กลับไปกลับมาจนสุก แล้วผ่ากุ้งตามยาวออกเป็น 2 ซีก ย่างไฟอ่อน และหยอดเนย ลงบนเนื้อกุ้ง ยกขึ้นเสิร์ฟทันทีรับประทานกับข้าวสวย เสิร์ฟคู่กับน้ าจิ้มซีฟู้ด รับประทานกับข้าวสวย ใส่น้ าปลา มะนาว พริก กระเทียม หมายเหตุ ไม่ต้องเอาหินกลับไปปูพื้นอีก ล้างให้สะอาดแล้วเก็บไว้ใช้คราวต่อไป (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550)


ผัดพริกอ่อน ผัดพริกอ่อน โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม ส่วนผสมที่ 1 เครื่องแกง หัวหอมแดง 100 กรัม กะปิ 25 กรัม กระเทียม 50 กรัม (ห่อใบตองจี่กระทะ) ส่วนผสมที่ 2 ผัดพริกอ่อน น้ ามันเมล็ดชา 12 กรัม เนื้อหมู 500 กรัม (หากไม่มีสามารถใช้น้ ามันพืช เช่น น้ ามันดอกค าฝอย) กุ้ง (ขนาดตามน้ าหนัก) 300 กรัม ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนชา น้ าส้มสายชู 1 ช้อนชา น้ าตาล (แบ่งใส่หมู ½ ช้อนชา) 6 กรัม ใบโหระพาทอดกรอบ 15 กรัม พริกขี้หนูอ่อนที่ยังไม่มีเมล็ด (ต้องปลูกเอง) 20 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูผัดพริกอ่อน 1. โขลกหัวหอมแดง กระเทียม กะปิ ให้เข้ากัน พอหยาบ ๆ 2. ตั้งกระทะให้ร้อนใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ ามันเมล็ดชา ผัดเครื่องแกงลงไปจนกลิ่นกะปิหอม ปรับไฟ ระดับแรง ใส่หมูผัดจนเนื้อหมูและเครื่องแกงเข้ากัน สังเกตเมื่อหมูสุก ใส่กุ้งที่ลวกแล้ว ตามด้วยพริกอ่อน 3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ าส้มสายชู และน้ าตาลทราย ผัดให้เข้ากัน 4. จัดจานพร้อมเสิร์ฟตกแต่งด้วยผักกาดขาว ใบโหระพาทอด กินกับข้าวสวยร้อน ๆ หมายเหตุ ตามท้องตลาดจะไม่มีพริกอ่อนขนาดนี้ ถ้ามีสะตอ ก็ผัดสะตอใส่พริกอ่อนด้วยก็ได้ (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550) เคล็ดลับ 1. ควรเลือกหมูสันในมาผัด และน ากุ้งลวกพอสุกด้วยน้ าร้อนก่อนน าไปผัด 2. หากจะให้เนื้อหมูนุ่ม และรสชาติเข้าเนื้อ ควรน าหมูมากับซีอิ๊วขาว ½ ช้อนชา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที 3. พริกขี้หนูอ่อน คือ พริกที่ก าลังออก รสชาติไม่เผ็ดเพราะเมล็ดก าลังโตไม่เต็มที่ มีสารเบต้า แคโรทีวิตามินเอ วิตามินซี ป้องกันโรคหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น


เคล็ดลับ 1. การเลือกใช้เนยให้เลือกใช้เนยเค็ม หรือเนยสด เพราะในเนยสดไม่มีไขมันทรานซ์ หากเลือก เนยเค็มไม่ต้องเติมเกลือเพิ่ม 2. รับประทานพร้อมกับซอสมะเขือเทศ และซอสพริก ผักโขมปั้นก้อนอบ ผักโขมปั้นก้อนอบ โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม ผักโขมต้มบดสับละเอียด 145 กรัม เนยสด 32 กรัม ไก่หั่นเต๋าสี่เหลี่ยม 200 กรัม นมสด 25 กรัม มันฝรั่งต้มบดละเอียด 140 กรัม เกลือ ½ ช้อนชา เกล็ดขนมปัง 25 กรัม พริกไทย ¼ ช้อนชา ขั้นตอนการท าเมนูผักโขมป้นนก้อนอบ 1. ทาเนยที่ก้นหม้อ ใส่ผักโขม ไก่บด มันต้มบดในหม้อ และคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 2. ใส่นมสด เนยสด เกลือ และพริกไทย คนให้เข้ากัน น าไปตั้งไฟคนจนสุก 3. เทส่วนผสมที่ตั้งไฟสุกแล้วใส่ชาม และโรยด้วยเกล็ดขนมปัง คนจนแห้งพอที่จะปั้นเป็นก้อนขนาด 25 กรัม 4. ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนกลม ๆ แล้วกดให้แบนลงไปนิด ๆ แล้วน าไปคลุกในเกล็ดขนมปัง 5. ทาเนยบนถาดจนทั่ว วางส่วนผสมที่ปั้นและคลุกเกล็ดขนมปังวางเรียงในถาด น าไปเข้าเตาอบใช้ไฟ บนล่างอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาที 5. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ เป็นของว่างที่ชอบรับประทานตั้งแต่เด็ก ๆ คนที่ไม่ยอมรับประทานผักยังชอบ (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550)


ซุปฟักทองวัตเตนเมียร์ ซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์ โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม ฟักทอง 250 กรัม เกลือ ½ ช้อนชา หอมใหญ่ 120 กรัม พริกไทย ¼ ช้อนชา เนยสด 50 กรัม ลูกจันทร์ (Nutmeg) ขูดเป็นผง ¼ ช้อนชา น้ าซุป (หน้า 14) 900 กรัม เมล็ดฟักทอง (ตกแต่ง) 10 - 15เมล็ด วิปปิ้งครีม 120 กรัม กุ้ง (ตกแต่ง) 1 ตัว น้ ามันพืช 1 ช้อนชา หน่อไม้ฝรั่ง (ตกแต่ง) 2 ต้น ฟักทองหั่นชิ้นต้มสุก (ลูกซุป) 2 ชิ้น ขั้นตอนการท าเมนูซุปฟ้กทอง วัตเตนเมียร์ 1. หั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็ก ๆ หั่นหอมหัวใหญ่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเต๋า 2. ใส่เนยในกระทะ ผัดหอมหัวใหญ่ให้สุก ใส่ฟักทองลงผัดด้วยไฟกลาง 3. เติมเกลือ และน้ าซุป ต้มต่อจนฟักทองสุก ยกลงจากเตา และพักให้เย็น 4. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดที่เย็นแล้วให้ละเอียด และกรองด้วยกระชอนละเอียด 5. เทซุปลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด เติมวิปปิ้งครีม และน้ ามันพืช 6. โรยผงลูกจันทร์ และพริกไทย ปรุงรสตามชอบ ยกลงจากเตา 7. จัดเสิร์ฟตกแต่งด้วยฟักทองหั่นชิ้น (ลูกซุป) หน่อไม้ฝรั่ง และกุ้งต้มสุก เม็ดฟักทองอบ และวิปปิ้งครีม เมื่อประมาณ 10 ปี ข้าพเจ้าไปอุทยานวัตเตนเมียร์ ทางเหนือของเยอรมนี หัวหน้าอุทยานขณะนั้น คือ ดร. แบร์นด์ เชเรอร์ จากนั้นเราติดต่อกันมาตลอด ปีนี้เป็นปีครบรอบ 20 ปี ของอุทยาน แบร์นด์จึงเชิญข้าพเจ้ากลับไปวัตเตนเมียร์อีก คืนแรกค้างที่บ้านแบร์นด์ เราไปถึงบ้านแบร์นด์ตรงเวลาอาหารกลางวัน แบร์นด์ท าซุปฟักทองให้รับประทาน (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550) เคล็ดลับ 1. การท าซุปฟักทอง วัตเตนเมียร์ จ าเป็นต้องใช้น้ ามันพืชเป็นวัตถุดิบ เพราะวิตามินเอและอี สามารถละลายได้ในไขมันเท่านั้น 2. สามารถใช้ลูกจันทร์ผง แทนการใช้ลูกจันทร์อบแห้งแล้วน ามาขูดเป็นผงได้ 3. การหั่นชิ้นฟักทองส าหรับท าลูกซุป ควรหั่นให้มีขนาดและความสูงกว่าก้นของจานซุป และไม่ควรนึ่ง จนเละเกินไป


ขั้นตอนการท าน้ าซุป น้ าซุป โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม โครงไก่ 3 โครง หอมหัวใหญ่ 1 หัว แครอท 1 หัว น้ าสะอาด 16 ถ้วยตวง ขั้นตอนการท าน้ าซุป 1. ล้างโครงไก่ เลาะเศษเนื้อไก่ออกให้หมด สับโครงไก่ต่อตัวประมาณ 3 ชิ้น แล้วน าไปล้างน้ าให้ สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ า 2. แช่โครงไก่ลงไปแช่ในน้ าสะอาด แช่พักไว้ประมาณ 20 นาที 3. หั่นแครอทและหัวหอมใหญ่เป็นชิ้นพอประมาณ พักไว้ 4. ตั้งไฟหม้อที่ใส่โครงไก่แช่ไว้ใช้ไฟแรงให้น้ าเดือด ตักฟองออก ลดไฟใช้ไฟอ่อน เคี่ยวน้ าซุปประมาณ 1 ชั่วโมง หมั่นตักฟองออกบ่อย ๆ เพื่อให้น้ าซุปใสน่ารับประทาน


พายฟักทอง พายฟักทอง โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม พายฟ้กทอง ฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด 200 กรัม เนยสด 15 กรัม มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 50 กรัม วิปปิ้งครีม 15 กรัม ไส้พายฟ้กทอง หอมหัวใหญ่หั่นละเอียด 20 กรัม น้ าตาลทราย 1 ช้อนชา เนยสด (ผัดกับหอมใหญ่) 15 กรัม ไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 200 กรัม น้ ามันพืช 1 ช้อนชา แป้งข้าวโพด ¼ ช้อนชา ซอสมะเขือเทศ 15 กรัม น้ าซุป (หน้า 14) 1 ถ้วยตวง ซอสปรุงรสแม็กกี้ ½ ช้อนชา เกลือ ½ ช้อนชา ซอสมะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) 25 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูพายฟ้กทอง 1. ท าพาย นึ่งฟักทองนึ่งให้สุกบดให้ละเอียดโดยการยีในกระชอน น ามันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 2. ผสมฟักทอง มันฝรั่ง เนยสด และวิปปิ้งครีม คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ 3. น าไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กผสมกับเนย และแป้งข้าวโพด พักไว้ 4. ตั้งกระทะใส่เนยสด ใส่หอมใหญ่หั่นละเอียดผัดจนหอมใหญ่สุก ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปรุงรส ด้วยซอสปรุงรส น้ าตาลทราย เกลือ และซอสมะเขือเทศ ใส่เนื้อไก่ที่หมักไว้แล้ว ผัดให้เข้ากันจนสุก พักไว้ 5. ตักไส้ที่ผัดสุกแล้วใส่ถ้วยพิมพ์ ประมาณ 1/2 ของถ้วยพิมพ์ แล้วใส่พายฟักทองด้านบนให้เต็มถ้วยพิมพ์ น าเข้าเตาอบ ใช้ไฟอบที่ 200 องศาเซลเซียส อบประมาณ 20 นาที ตกแต่งพายฟักทองให้สวยงามน่ารับประทาน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ สมัยเด็ก ๆ อ่านหนังสือเด็กชายชาวนา ที่สุคนธรส แปลจากเรื่อง Farmer Boy ของ Laura Ingalls Wilder มีเรื่องกินเยอะแยะที่มีกล่าวถึงบ่อย ๆ คือพายฟักทอง ในหนังสือไม่ได้มีวิธีท าพาย แต่เราก็ท ากันคงไม่เหมือนของฝรั่ง (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550) เคล็ดลับ 1. ผสมฟักทองบดละเอียด มันฝรั่งบดละเอียด เนยสด และวิปปิ้งครีม ต้องผสม ตอนที่ยังร้อนอยู่ เพราะจะท าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น 2. ควรเลือกฟักทองที่แก่จัด เพราะจะได้ความมันและความหวานของฟักทอง


เคล็ดลับ 1. วิธีตะล่อมให้ตักส่วนผสมด้านล่างขึ้นมาไว้ข้างบน เหมือนพับตลบไปอาจจะเริ่มจากกึ่งกลาง หรือจากริมอ่างผสม 2. หากจะให้เนื้อขนมมีความหอม อาจจะเติมกลิ่นวานิลลา หรือกลิ่นอื่น ๆ ตามชอบ ขนมรวงผึ้ง ขนมรวงผึ้ง โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม แป้งสาลี 180 กรัม นมสด 360 กรัม ไข่แดง (ไข่ไก่) 34 กรัม เนยละลาย 60 กรัม ไข่ขาว 65 กรัม เกลือป่น 2.5 กรัม น้ าตาลทราย 75 กรัม ผงฟู 12 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูขนมรวงผ ้ง 1. ร่อนแป้งสาลี เกลือป่น และผงฟู รวมกันพักไว้ 2. ผสมนมสด ไข่แดง และเนยละลายรวมกัน เติมส่วนผสมของแป้งสาลี เกลือป่น และผงฟู ผสมให้เข้ากัน ค่อย ๆ ตะล่อมแป้งให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ 3. ตีไข่ขาวกับน้ าตาลทรายให้ขึ้นฟูจนตั้งยอดแข็ง (หากใช้เครื่องผสมอาหารให้ใช้ความเร็วสูงสุดเสมอ) แล้วน าไปผสมกับแป้งที่พักไว้ คนเบา ๆ ให้ส่วนผสมแป้งกับไข่ขาวเข้ากัน 4. ทาเนยที่ที่เครื่องพิมพ์วาฟเฟิล ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ อบขนมไว้ประมาณ 5 นาที จนขนมสุก 5. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟตกแต่งด้วยน้ าตาลไอซิ่ง หรือราดด้วยน้ าผึ้ง ขนมชนิดนี้พวกเราชอบมาก ป้าจันจดต าราไว้ในสมุดจดเวรท างาน บอกว่า เป็นต าราของท่านผู้หญิงประยงค์ (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550)


เคล็ดลับ 1. พักหมูที่คลุกเคล้าไว้ ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เครื่องซึมเข้าสู่เนื้อหมู 2. เติมนมสดเพื่อเพิ่มความนุ่มของหมู 3. หมูปิ้งเสียบไม้ ควรทานคู่กับผักดอง (แครอท แตงกวา หัวไชเท้า) เพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม หมูเสียบไม้ปิ้ง หมูเสียบไม้ปิ้ง โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม เนื้อหมู 500 กรัม น้ ามันหอย 15 กรัม กระเทียมไทย 15 กรัม ซีอิ๊วขาวลดโซเดียม 20 กรัม รากผักชี 20 กรัม น้ ามันพืช 20 กรัม พริกไทยเม็ด 2 กรัม นมสด 20 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูหมูเสียบไม้ปินง 1. แล่หมู เป็นชิ้นบาง ๆ 2. โขลก (สามเกลอ) กระเทียม รากผักชี และพริกไทย รวมกันให้ละเอียด คลุกกับหมูที่แล่ไว้ 3. ใส่ซีอิ๊วขาว น้ ามันหอย นมสด นวดให้เข้ากัน เอาหมูที่คลุกไว้หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ไปนาบ กระทะเพื่อชิมรส ถ้ารสชาติยังไม่ดีก็ปรุงต่อ เมื่อรสชาติดีแล้วน าหมูเสียบไม้ปิ้งเตาถ่านไฟอ่อน อาหารต ารับนี้กินมานานแล้ว จนไม่รู้ว่า เป็นต าราของป้าจันหรือป้าอ๊ะ (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม, 2550)


ไก่นาบกระทะ ไก่นาบกระทะ โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม เนื้อไก่หั่นบาง ยาว 3 นิ้ว 300 กรัม กระเทียม 20 กรัม น้ ามันพืช (ใช้ทากระทะ) 50 กรัม รากผักชี 20 กรัม ซีอิ๊วขาว 15 กรัม น้ ามันใบโหระพา (ตกแต่ง) 2 ช้อนโต๊ะ น้ ามันหอย 15 กรัม แครอทหั่นฝอย (ตกแต่ง) 10 กรัม น้ ามันพืช (หมักไก่) 10 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย (ตกแต่ง) 10 กรัม พริกไทยเม็ด 5 กรัม ยอดใบผักเป็ดญี่ปุ่น (ตกแต่ง) 1 ยอด ขั้นตอนการท าเมนูไก่นาบกระทะ 1. โขลกกระเทียม พริกไทย และรากผักชี รวมกันให้ละเอียด แบ่งสามเกลอออกเป็น 2 ส่วน น าสามเกลอ 1 ส่วนไปคั่วพอเหลือง 2. หั่นไก่เป็นชิ้นบาง ๆ ยาวประมาณ 3 นิ้ว 3. หมักไก่ด้วยซีอิ๊วขาว น้ ามันหอย และน้ ามันพืช ขย าให้ทั่ว เติมสามเกลอส่วนที่เหลือลงในไก่ ขย าให้ เข้ากันอีกครั้ง 4. สับชิ้นไก่เบาๆ ด้วยมีดก่อนน าไปนาบกระทะ ตั้งกระทะบนเตาไฟ ใส่น้ ามันเล็กน้อย 5. น าชิ้นไก่ที่ใส่ส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว มากดนาบบนกระทะให้สุกทั้งสองด้าน 6. โรยสามเกลอที่คั่วสุกแล้ว บนหน้าชิ้นเนื้อไก่ ตกแต่งด้วยน้ ามันใบโหระพา แครอทหั่นฝอย พริกชี้ฟ้า แดงหั่นฝอย และยอดใบผักเป็ดญี่ปุ่น เคล็ดลับ 1. ไม่ควรหั่นไก่ชิ้นหนาเกินไป และควรใช้มีดสับชิ้นไก่เบา ๆ ก่อนน าไปนาบกระทะ จะช่วยท าให้ เนื้อไก่สุกง่ายขึ้น 2. กระทะที่ใช้ส าหรับนาบไก่ ควรใช้กระทะเทฟล่อน หรือกระทะเคลือบ เพื่อช่วยให้ไก่ไม่ติดกระทะ 3. การท าน้ ามันใบโหระพา ทอดใบโหระพา 100 กรัม ด้วยน้ ามันคาโนล่าพอสุก พักให้เย็นสนิท ปั่นผสมกับน้ ามันคาโนล่าที่ใช้ทอดใบโหระพา 180 กรัม กรองด้วยกระชอนละเอียด


ซุปมะเขือเทศ มันฝรั่งบดทอด น้ าสลัดเมล็ดชา ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน น้ าพริกใบชางาม้อน เมนูพระราชทาน 60 พรรษา


ซุปมะเขือเทศ ซุปมะเขือเทศ โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม มะเขือเทศสุกหั่นเต๋า 1,300 กรัม น้ ามันเมล็ดชา 2 ช้อนชา หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า 220 กรัม เกลือ ½ ช้อนชา ใบโหระพาซอย 5 ใบ พริกไทย ½ ช้อนชา น้ าโครงกระดูกไก่ 450 กรัม วิปปิ้งครีม 60 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูซุปมะเขือเทศ 1. น าหม้อตั้งเตาใช้ไฟกลาง เทน้ ามันเมล็ดชาลงในหม้อ 2. น าหัวหอมใหญ่หั่นเต๋า ลงไปผัดจนหัวหอมใหญ่เริ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม 3. น ามะเขือเทศหั่นเต๋า และใบโหระพาซอยใส่ลงในหม้อ ผัดคนไปเรื่อย ๆ จนน้ ามะเขือเทศออก เพื่อให้ได้รสชาติของมะเขือเทศ 4. เทน้ าโครงกระดูกไก่ลงในหม้อ คนให้เข้ากัน และตั้งไฟไว้ตุ๋นจนเดือดประมาณ 15 นาที หรือจนกว่า มะเขือเทศจะนิ่ม 5. ปิดไฟพักไว้ให้เย็น แล้วน าส่วนผสมที่ได้ไปปั่นจนละเอียด และน ามากรองเศษมะเขือเทศออก 6. น าไปตั้งไฟ ใส่วิปปิ้งครีม และปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย คนให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วชิม รสชาติตามที่ต้องการ เคล็ดลับ 1. ควรเลือกใช้มะเขือเทศที่สุก ๆ เพื่อให้ซุปมีรสชาติเปรี้ยวหวาน และคว้านเอาเมล็ดออกทุกลูก 2. ระยะเวลาที่ใช้ตุ๋นส่วนผสมขึ้นอยู่กับความแรงของไฟและความแข็งของเนื้อมะเขือเทศ 3. หากตุ๋นส่วนผสมไปนาน ๆ จนซุปงวด สามารถเติมน้ าซุปและวิปครีมได้


เคล็ดลับ 1. น ามอสซาเรลล่าชีสใส่เพิ่มตรงกลางมันฝรั่งขณะปั้นก้อน เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้ น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น 2. เพิ่มรสชาติด้วยการท าซอสจิ้ม น าซอสพริกผสมกับมายองเนสผสมให้เข้ากัน จะได้น้ าจิ้มที่ สามารถเพิ่มรสชาติมันฝรั่งบดทอดให้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น มันฝรั่งบดทอด มันฝรั่งบดทอด โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 1,000 กรัม ไข่ไก่ (ตีจนไข่แดง-ขาว เข้ากันดี) 4 ฟอง เบคอนทอดกรอบด้วยน้ ามันเมล็ดชา 500 กรัม แป้งสาลี(ใช้คลุกก่อนทอด พอประมาณ) พริกไทยด า 20 กรัม เกล็ดขนมปังป่นหยาบ เกลือ 5 กรัม น้ ามันเมล็ดชา (ส าหรับทอด) ขั้นตอนการท าเมนูมันฝรั่งบดทอด 1. ต้มมันฝรั่งให้สุก สะเด็ดมันฝรั่งให้แห้ง และบดให้ละเอียด พักมันฝรั่งบดไว้ให้เย็น ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย 2. หั่นเบคอนเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ น าไปทอดด้วยน้ ามันเมล็ดชา ทอดพอเบคอนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ 3. น าเบคอนทอดมาผสมกับมันฝรั่งบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อน น้ าหนักประมาณก้อนละ 20 กรัม 4. น ามันฝรั่งที่ปั้นก้อนไว้ มาคลุกแป้งสาลี ชุบไข่ และคลุกเกล็ดขนมปังตามล าดับ 5. น ากระทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ ามันเมล็ดชา พอน้ ามันร้อนได้ที่น ามันฝรั่งบดลงทอดให้เป็นสีเหลืองทอง 6. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ


เคล็ดลับ 1. การท าน้ าสลัดเมล็ดชา ควรใส่กระปุกแก้วที่มีฝาปิดใส่ส่วนผสม เพื่อเขย่าส่วนผสมให้เข้ากันได้ เร็วขึ้น 2. ล้างผักสลัดกรีนโอ๊ค กะหล่ าปลีม่วง มะเขือเทศราชินี ผึ่งให้สะเด็ดน้ าแล้วเก็บไว้ในช่องส าหรับ เก็บผัก เพื่อให้ผักสดและกรอบอร่อยมากขึ้น น้ าสลัดเมล็ดชา น้ าสลัดเมล็ดชา โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม น้ ามันเมล็ดชา 140 กรัม เกลือ ½ ช้อนชา น้ าส้มสายชูหมักจากผลไม้ (Balsamic) 120 กรัม พริกไทย ½ ช้อนชา น้ าตาลทรายแดง 10 กรัม ผักสลัดกรีนโอ๊ค 3 ต้น หอมแดงสับละเอียด 20 กรัม แครอท 1 หัว กระเทียมป่นละเอียด 10 กรัม กะหล่ าปลีม่วง 1 หัว ใบออริกาโน่ ½ ช้อนชา มะเขือเทศราชินี200 กรัม ใบไทม์ ½ ช้อนชา ไข่นกกระทา 20 ใบ ขั้นตอนการท าเมนูน้ าสลัดเมล็ดชา 1. ปอกเปลือกแครอท ให้สะอาดแล้วหั่นฝอย กะหล่ าปลีม่วง หั่นฝอยให้สวยงาม เก็บไว้ในตู้เย็นช่อง ส าหรับเก็บผัก 2. ต้มน้ าใส่ไข่นกกระทาลงไปต้มประมาณ 5 - 7 นาที 3. ใส่น้ ามันเมล็ดชา น้ าส้มสายชูหมักจากผลไม้มาผสมให้เข้ากัน 4. ใส่น้ าตาลทรายแดง คนให้ละลาย ใส่หอมแดงสับละเอียด กระเทียมป่น ใบออริกาโน่ ใบไทม์ เกลือ พริกไทย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ประมาณ 30 นาที จะได้น้ าสลัดเมล็ดชา


ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม มะเขือเทศหั่นแบบลูกเต๋า 280 กรัม น้ ามันเมล็ดชา 6 กรัม หอมแดงลูกใหญ่หั่นแบบลูกเต๋า 60 กรัม พริกชี้ฟ้าสด 13 กรัม ผักชีหั่นหยาบ 10 กรัม ผงยี่หร่า 1 กรัม พริกชี้ฟ้าดอง 5 กรัม ผงลูกจันทร์ป่น 2 กรัม กระเทียมสับละเอียด 10 กรัม เกลือ 4 กรัม มะนาว 8 กรัม น้ าตาลทรายแดง 5 กรัม ซอสมะเขือเทศ 72 กรัม น้ ามะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 17 กรัม ข้าวตัง 30 แผ่น ขั้นตอนการท าเมนูข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา 1. น ามะเขือเทศ หอมแดง พริกชี้ฟ้าดอง และผักชีมาคลุกรวมกัน 2. ใส่ส่วนประกอบที่เหลือทั้งหมด คลุกส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากัน 3. น าเสิร์ฟกับข้าวตังกรอบ ๆเป็นอาหารว่างแสนอร่อยเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างเต็มเปี่ยม เคล็ดลับ 1. วิธีการท าข้าวตัง หุงข้าวสวยให้นิ่มเมล็ดข้าวแตกฟู น ามาบดและใช้พิมพ์กดเป็นรูปทรง น าไป ตากให้แห้งสนิท 2. ทอดข้าวตังด้วยน้ ามันปาล์ม เพื่อความกรอบฟู


ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม สตรอเบอรี่สด 200 กรัมกุ้ง แห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 25 กรัม มะเขือเทศสีดาผ่าซีก 60 กรัม หอมแดงซอย 40 กรัม แฮมหั่นเส้น 100 กรัม รากผักชีหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่นเป็นเส้นเล็ก 60 กรัม พริกขี้หนูสวนซอยหยาบ 10 - 15เมล็ด น้ ามันเมล็ดงาม้อน 40 กรัม ใบสะระแหน่ / ผักกาดหอม / เห็ดเข็มทองลวก ขั้นตอนการท าเมนูย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน 1. ล้างสตรอเบอรี่สด ผ่าครึ่ง 2. ผสมน้ าปรุงรส ประกอบด้วยกระเทียมสับ หอมแดงซอย รากผักชีหั่นฝอย พริกขี้หนูซอย กุ้งแห้งป่น น้ ามันเมล็ดงาม้อน (น้ าตาลทราย มะนาว เกลือป่น) เคล้าให้เข้ากัน 3. จัดเสิร์ฟ โดยวางสตรอเบอรี่ แครอท มะเขือเทศ และแฮม บนผักกาดหอม ราดน้ าปรุงรส ตกแต่ง ด้วยใบสะระแหน่ เคล็ดลับ 1. สตรอเบอรี่มีความเปรี้ยวหวานไม่เท่ากัน ปรุงรสชาติน้ าย าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม ความชอบ 2. สามารถใส่เครื่องได้ตามความชอบ เช่น หมูยอ ปูอัด หมูสับ เป็นต้น


น้ าพริกใบชางาม้อน น้ าพริกใบชางาม้อน โดย ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ วัตถุดิบและส่วนผสม ส่วนผสมที่ 1 เครื่องแกง มะขามอ่อนสด 170 กรัม กระเทียม 40 กรัม พริกขี้หนูสวน 20 กรัม กะปิ 15 กรัม ส่วนผสมที่ 2 น้ าพริกใบชางาม้อน ไข่เค็ม (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง น้ ามะนาว 20 กรัม กุ้งแห้งป่น 50 กรัม หมูติดมันสับละเอียด 200 กรัม น้ าตาลปี๊บ 120 กรัม น้ าซุป (หน้า 14) 50 กรัม น้ าปลา 40 กรัม น้ ามันงาม้อน 25 กรัม ยอดใบชาอ่อน 100 กรัม ขั้นตอนการท าเมนูน้ าพริกใบชางาม้อน 1. ล้างมะขามอ่อนให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ า ขูดผิวมะขามอ่อน และหั่นเป็นชิ้น ๆ ล้างน้ าอีกครั้ง 2. โขลกมะขามอ่อนกับกระเทียมจนละเอียด ใส่กะปิ ไข่เค็ม กุ้งแห้งป่น พริกขี้หนูสวนโขลกพอแตก โขลกให้เข้ากัน 3. ใส่หมูติดมันสับละเอียด เติมน้ าตาลปี๊บ น้ าปลา และน้ ามะนาว 4. ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ ามันเมล็ดงาม้อนลงในกระทะ น าส่วนผสมทั้งหมดลงผัด ใส่น้ าซุป ใบชาอ่อน ลงไป ผัดจนหมูสุก และน้ าพริกเริ่มแห้ง 5. ปรุงรสด้วยน้ าตาลปี๊บ น้ าปลา และน้ ามะนาว อีกครั้ง 6. เสิร์ฟพร้อมปลาดุกฟู ไข่ดาววงเดือน และผักสด


ขั้นตอนการท าไข่ดาววงเดือน 1. น าไข่เค็มมาแยกไข่ขาวและไข่แดง 2. ปั้นไข่แดงเป็นก้อนกลม ๆ เล็ก ๆ คล้ายไข่ปลา 3. น าไข่ขาวไปนึ่ง ใช้ไฟกลาง ประมาณ 2 นาทีจากนั้นหยอดไข่แดงเว้นระยะห่างกันพอประมาณ เพื่อให้พิมพ์สามารถวางได้ใช้ไฟกลาง นึ่งต่ออีก 5 นาที 4. น าพิมพ์รูปแบบต่าง ๆ วางครอบไข่แดง ก็จะได้ไข่ดาววงเดือน เคล็ดลับ 1. ควรใช้มะขามสดที่เป็นฝักอ่อน ยังไม่มีเม็ด เมื่อน ามาโขลกท าน้ าพริก เนื้อที่ได้จะนุ่มละเอียด ไม่เป็นกากแข็งเวลารับประทาน 2. น ากะปิห่อด้วยใบตองแล้วน าไปเผาไฟด้วยเตาถ่านให้หอม เพื่อให้น้ าพริกมีรสชาติหอมอร่อย มากยิ่งขึ้น


ยาพอกหัวเด็ก มัตสยาเกษียรสมุทร (ปลาช่อนอบ) กุ้งบ่อมรกต (กุ้งเผาสาหร่าย) ผักโขมป้นนก้อนอบ ผัดพริกอ่อน ซุปฟ้กทอง วัตเตนเมียร์ อำหำรสูตรพระรำชทำน


อำหำรสูตรพระรำชทำน พายฟ้กทอง ขนมรวงผ ้ง หมูเสียบไม้ปินง ไก่นาบกระทะ ซุปมะเขือเทศ มันฝรั่งบดทอด


อำหำรสูตรพระรำชทำน น้ ามันสลัดเมล็ดชา ข้าวตังน้ ามันเมล็ดชา ย าสตรอเบอรี่น้ ามันเมล็ดงาม้อน น้ าพริกใบชางาม้อน


ภำพกิจกรรมฝึกปฏิบัติ อำหำรสูตรพระรำชทำน ระรำชทำน


คณะผู้จัดท ำ ที่ปรึกษำ นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร เลขาธิการ กศน. นางสาวทรงศรี วิระรังษิยากรณ์ รองเลขาธิการ กศน. นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ รองเลขาธิการ กศน. นายภูมิพัทธ เรืองแหล่ รองเลขาธิการ กศน. คณะผู้จัดท ำ นางอุทัยวรรณ โพธิ์กระจ่าง ผู้อ านวยการศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ นางอุมาพร แขดอน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและขนม นางวัชรินทร์ พลอยส่งศรี ครูผู้ช่วย นางรุ่งนภา ศรีชัย ครูผู้ช่วย นายบดินทร์ภัทร์ พุ่มพันธ์วงศ์ ครูผู้ช่วย นางสาวพัฒนีนาถ ภักดีอักษร ครูผู้ช่วย นายวิทวัส เทียนข า ครูผู้ช่วย นางสาวดาววดี เครืออ่อน นักจัดการงานทั่วไป นางสาวนุชจรี หอมสมบัติ นักวิชาการเงินและบัญชี นายสิทธิชัย ศาสตร์ประสิทธิ์ นักจัดการงานทั่วไป นายสมเกียรติ หน่วงกลาง นักวิชาการศึกษา นางสุรีย์รัตน์ แพ่งประสิทธิ์ เจ้าพนักงานธุรการ นางสุรีฉาย จันทร เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี นางสาวชวัลพัชร เพียรกสิกรรม นักวิชาการโสตทัศนศึกษา นางสาวอุนนดา ชูรัศมี นักวิชาการศึกษา นางสาวสุวิมล อินเฉียน นักวิชาการพัสดุ นางสาวณัฐกานต์ ครุธพันธ์ นักจัดการงานทั่วไป นางสาวศิริพร เกตุประทุม เจ้าหน้าที่เกษตร รูปเล่ม / หน้ำปก นางสุรีย์รัตน์ แพ่งประสิทธิ์ เจ้าพนักงานธุรการ นางสาวชวัลพัชร เพียรกสิกรรม นักวิชาการโสตทัศนศึกษา


Click to View FlipBook Version