รายงาน
เร่ือง นทิ านพน้ื บ้านภาคใต้
เสนอ
นางสาว สุวณชิ ย์ ศริ ิจันทร์
โดย
ด.ช.ญาณพฒั น์ กลนั่ เอี่ยม เลขที่ ๒ ช้นั ๑.๓
ด.ช.วรายสุ ปานเเกว้ เลขท่ี ๑๙ ช้นั ๑.๓
ด.ช.ณฐั ภทั ร พรอ้ มมูล เลขท่ี ๓ ช้นั ๑.๓
ด.ช.พลงั จนั ทร์เเดง เลขท่ี ๔ ช้นั ๑.๓
ด.ช.รัฐธีร์ ภู่ระยา้ เลขที่ ๘ ช้นั ๑.๓
รายงานนเ้ี ป็ นส่วนหนงึ่ ของรหัสวิชา ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย
ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๕
โรงเรียนพษิ ณุโลกพทิ ยาคม
คานา
รายงานเร่ืองนิทานพ้ืนบา้ นภาคใตฉ้ บบั น้ี เป็นส่วนหน่ึงของวชิ าภาษาไทย
โดยมจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื การศกึ ษารวบรวม เเละวิเคราะห์คณุ คา่ ทีไ่ ดร้ บั จากนิทานพ้นื บา้ นของภาคใต้
รายงานน้ีมีเน้ือหาประกอบดว้ ยไปดว้ ย ขอ้ มลู พื้นฐานภาคใตป้ ระเพณีสาคญั ของภาคใตเ้ เละนิทาน
พื้นบา้ นภาคใตจ้ านวน ๕ เรื่อง พรอ้ มขอ้ คดิ คติสอนใจ ซ่ึงไดค้ น้ ควา้ เเละรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ
ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอย่างย่ิงว่า รายงานฉบบั น้ีจะให้ความรู้ เเละเป็นโยชนเ์ เกผ่ ูอ้ ่าน
ทกุ ทา่ น หากมขี อ้ ผดิ พลาดใด ขอภยั มา ณ ท่นี ้ีดว้ ย
ญาณพฒั น์ กลน่ั เอ่ยี ม เเละคณะ
สารบัญ
คานา หน้า
สารบญั ก
เร่ือง งนู ้า
เร่ือง นายด้นั ข
เรื่อง ปลาเเกม้ ช้า ๓
เรื่อง ลูกเนรคณุ ๔
๕
เร่ือง เกาะหนูเกาะเเมว ๖
บรรณานุกรม ๗
๘
ข้อมูลพืน้ ฐานภาคใต้
ลกั ษณะเป็นพ้ืนที่ยาวและแคบ ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ คิดเป็นระยะทางประมาณ ๗๔๐ กโิ ลเมตร ส่วนที่กวา้ งที่สุดของภาคมคี วามกวา้ งประมาณ
๒๒๐กโิ ลเมตรจากฝั่งตะวนั ออกของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ทอ่ี าเภอปากพนังมาถึงฝั่งตะวนั ตกของจงั หวดั พงั งา ทอ่ี าเภอทา้ ยเหมือง ส่วนที่แคบทสี่ ุด
คอื บริเวณ “คอคอดกระ” ในจงั หวดั ระนอง จากฝ่ังกระบรุ ีถงึ ฝ่ังดา้ นตะวนั ออกมคี วามกวา้ ง ๖๔ กิโลเมตรอาณาเขต ดา้ นทศิ เหนือติดกบั จงั หวดั
ประจวบครี ีขนั ธ์ และสหภาพพมา่ ทิศใตต้ ิดกบั ประเทศมาเลเซีย ทศิ ตะวนั ออกติดอา่ วไทย และทิศตะวนั ตกตดิ อ่าวเบงกอลในทะเลอนั ดามนั และ
สหภาพพม่าพ้นื ทท่ี ้งั หมดประมาณ ๔๔.๒ ลา้ นไร่ หรือ ๗๐,๗๑๕.๒ ตารางกโิ ลเมตร คดิ เป็นสัดส่วน ร้อยละ ๑๓.๗๘ ของพ้นื ทท่ี ้งั ประเทศ
ประกอบดว้ ยจงั หวดั ต่าง ๆ ๑๔ จงั หวดั สุราษฎร์ธานีเป็นจงั หวดั ใหญ่ทส่ี ุด มีพื้นที่ประมาณ ๘.๑ ลา้ นไร่ และภูเก็ตเล็กสุด มีพืน้ ทีป่ ระมาณ ๐.๓ ลา้ นไร่
พืน้ ที่ภาคใตข้ นาบดว้ ยทะเลท้งั ๒ดา้ นโดยมีความยาวของชายฝงั่ ทะเลรวมท้งั ส้ินประมาณ๑,๖๔๓กโิ ลเมตรภูมปิ ระเทศลกั ษณะเป็นเนินเขาหรือภเู ขา
รอ้ ยละ ๓๕ ของพืน้ ทีท่ ้งั ภาค มเี ทือกเขาท่สี าคญั ๒ แนว คือ ทางตอนบนฝงั่ ตะวนั ตกมีเทือกเขาตะนาวศรี แถวชมุ พร ระนอง ต่อลงมาเป็นเทอื กเขาภูเกต็
ครอบคลุมจงั หวดั พงั งาและกระบี่ และทางฝ่งั ตะวนั ออกเป็นเทือกเขานครศรีธรรมราช เร่ิมจากเขตจงั หวดั นครศรีธรรมราชผ่านเขตจงั หวดั ตรัง สตลู
และสงขลาส่วนทางตอนใตเ้ ป็นเทือกเขาสันกาลาครี ีก้นั เขตแดนไทยและมาเลเซียฝง่ั ตะวนั ออกของภาคเป็นพน้ื ท่รี าบล่มุ กวา้ งใหญ่ เหมาะแก่การ
เพาะปลูกมาก และมกั จะเกดิ น้าท่วมแทบทุกปี ในระหวา่ งเดือนพฤศจกิ ายนถงึ ธันวาคม ส่วนฝัง่ ตะวนั ตกของภาคเป็นท่ีเนิน มพี นื้ ที่ราบน้อย
แมน่ ้าสาคญั มี ๑๐ สาย ไดแ้ ก่ แม่น้าหลงั สวน แม่น้าปากจนั่ หรือแม่น้ากระบรุ ี แมน่ ้าตาปี แมน่ ้าคีรีรฐั หรือแม่น้าพุมดวง แมน่ ้าตรัง แมน่ ้าปากพนงั แม่น้า
สายบุรีแมน่ ้าอู่ตะเภาแม่น้าปัตตานีและแม่น้าโก-ลกภมู อิ ากาศโดยทว่ั ไปอยภู่ ายใตอ้ ิทธิพลของลมมรสุม มีฤดฝู นทย่ี าวนานและฝนตกหนักทว่ั ไป
ฝัง่ ตะวนั ออกของภาคใตร้ ับอทิ ธิพลจากลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ ชว่ งเดือนตลุ าคม-มกราคมจะมฝี นตกมาก โดยตกมากที่สุดเดือนพฤศจิกายน
และธันวาคม ส่วนลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใตม้ อี ทิ ธิพลไม่มาก เพราะติดภเู ขาตะนาวศรี ชว่ งมีฝนน้อยอยรู่ ะหว่างเดือนมนี าคม-เมษายน
ฝง่ั ตะวนั ตกไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ จะมีฝนตกในช่วงเดอื นพฤษภาคม-ตุลาคม โดยฝนจะตกหนักเดอื นกนั ยายน ส่วนชว่ งเดือน
ธันวาคม-มีนาคมเป็นชว่ งทีม่ ฝี นตกนอ้ ยเมอื งสาคญั ๆของภาคใตเ้ มืองหลกั คือ สงขลาและภเู ก็ต เมอื งรองไดแ้ ก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ
ยะลา ส่วนเมอื งอุตสาหกรรมคือ สงขลา สาหรับเมืองท่องเทีย่ วไดแ้ ก่ ภเู กต็ พงั งา สุราษฎร์ธานี กระบ่ี สงขลา (หาดใหญ่) นราธิวาส (สุไหงโก-ลก)
และยะลา (เบตง)
๑
ประเพณีเเละวัฒนธรรมสาคัญของของภาคใต้
ภาคใต้ ดินแดนแห่งความหลากหลายทางประเพณีและวฒั นธรรมทม่ี คี วามนา่ สนใจไมน่ อ้ ยไปกวา่ ภาคอืน่ ของไทย เพราะเป็นเมืองทเี่ ต็มไปดว้ ยเสน่ห์
มนตข์ ลงั ชวนใหน้ ่าข้นึ ไปสมั ผสั ความงดงามเหล่าน้ียิง่ นักภาคใตม้ ที ้งั ส้ิน ๑๔ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั กระบ่ี จงั หวดั ชุมพร จงั หวดั ตรงั จงั หวดั
นครศรีธรรมราช จงั หวดั นราธิวาส จงั หวดั ปัตตานี จงั หวดั พงั งา จงั หวดั พทั ลงุ จงั หวดั ภูเกต็ จงั หวดั ระนอง จงั หวดั สตลู จงั หวดั สงขลา จงั หวดั
สุราษฎร์ธานี จงั หวดั ยะลา
ประเพณลี อยเรือชาวเล
เป็นงานประเพณีเก่าแกท่ ่ีหาดูไดย้ ากของชาวเลเกาะลนั ตา งานน้ีจดั ข้ึนตรงกบั วนั เพญ็ เดอื น ๖ และเดอื น ๑๑ โดยกล่มุ ชาวเลที่เกาะลนั ตาและ
เกาะใกลเ้ คยี ง จะมาชมุ นุมกนั ทาพิธีลอยเรือ เพื่อสะเดาะเคราะห์ บริเวณชายหาดใกลก้ บั บา้ นศาลาดา่ น มกี ารรอ้ งราทาเพลง และการร่ายรารอบลาเรือ
ดว้ ยจงั หวะและทานองเพลงรองเงง็
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ชาวนครฯ เชื่อมน่ั วา่ ระบรมธาตุเจดียเ์ ป็นเสมอื นตวั แทนของพระพทุ ธศาสนา ภายในเจดียบ์ รรจพุ ระบรมสารีริกธาตุ ทุกปี หน่ึงๆ จะมีการบชู า
บวงสรวง ปี ละ ๒ คร้ัง คอื วนั มาฆบูชา และในวนั วิสาขบชู า โดยนาผา้ มาห่อหุม้ องค์เจดยี ์ เพอ่ื ความเป็นสิริมงคล มกี ารจดั ขบวนแห่ผา้ พระบฏนาข้ึน
ไปถวายสกั การะ ในเวลากลางคืน จะเวยี นเทียน
ประเพณชี ิงเปรต
เป็นประเพณีเน่ืองในเทศกาลวนั สารท เดอื นสิบของชาวไทยท่นี ับถอื ศาสนาพุทธ จดั ทาในวดั ทุกวดั ในวนั แรม ๑๔ หรือ ๑๕ ค่า เดือนสิบ โดย
ทารา้ นจดั สารับอาหารคาวหวานไปวางอทุ ศิ ส่วนกุศลให้เปรตชน (ป่ ู ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษทลี่ ่วงลบั ไปแลว้ ) รา้ นท่ีวางอาหารเรียกวา่ ร้านเปรต
ซ่ึงสร้างไวก้ ลางวดั ยกเสาสูง มีสี่เสาบา้ ง เสาเดียวบา้ ง บนร้านเปรตจะมีสายสิญจ์วงไวร้ อบและตอ่ ยาวไปถงึ ท่พี ระสงฆน์ งั่ ทาพิธีกรรม พิธีเสร็จ
บรรดาผูม้ าร่วมทาบญุ ก็จะเขา้ ไปรุมแย่งอาหารสิ่งของ อาหารคาวหวาน ทอ่ี ยูบ่ นรา้ นเปรตอยา่ งสนุกสนาน จากน้นั ก็จะจดั อาหารถวายเพลแก่พระภกิ ษุ
สงฆ์ทกุ รูปทีอ่ ยใู่ นวดั ตอ่ จากน้นั ผูม้ าร่วมงานทุกคนกจ็ ะกนิ อาหารร่วมกนั
๒
นทิ านพ้นื บ้านภาคใต้
เร่ือง งนู ้า
นิทานเรื่องงูนา้ เป็นนิทานประเภทอธิบายความวา่ เหตใุ ดงจู งึ ไม่มพี ิษ เลา่ กนั วา่ แตเ่ ดิม งนู ้าเป็นงูชนิดเดียวทีม่ ีพิษและมีพิษร้ายแรงมากเพยี งแตก่ ดั
รอยเทา้ ของใครเขา้ เจา้ ของรอยเทา้ น้นั ก็จะถึงแกค่ วามตาย อย่มู าวนั หน่ึงงนู ้าไดก้ ดั ชายคนหน่ึงซ่ึงมชี ื่อวา่ "อา้ ยไมต่ าย"
หลงั จากนายอา้ ยไม่ตายถูกงนู ้ากดั ตายแลว้ ชาวบา้ นก็ลอื กนั ว่า "งนู ้ากดั นายอา้ ยไม่ตายเสียแลว้ " บางก็พูดวา่ "งนู ้ากดั นายอา้ ยไม่ตายแลว้ " เม่อื งนู ้า
รูข้ ่าวน้ีกเ็ สียใจและเจ็บใจตวั เองว่าพิษรา้ ยของตนเองเสื่อมถึงที่สุดแลว้ เพราะแตก่ ่อนเพียงกดั แค่รอยเทา้ ใครผนู้ ้นั กต็ าย มาคราวน้ีกดั ถกู เทา้ จริง ๆ กลบั
ไม่ตาย งูน้าน้อยใจมากจงึ ไปสารอกพิษทงิ้ ท้งั หมด พษิ ท่ีสารอกออกมาน้ันไปตดิ อยู่ทต่ี น้ รงั ทงั ชา้ งรังทงั ไก่ หมามยุ่
พวกงูชนิดอน่ื ๆ พากนั ไปอมพิษน้ันไว้ งทู ไ่ี ปถึงกอ่ นกไ็ ดแ้ ก่ งจู งอาง งูเห่า งูกะปะ เป็นตน้ พวกน้ีจึงมพี ิษร้ายแรง ส่วนงแู ละสตั วอ์ ่นื ๆ ทีไ่ ปทหี ลงั
จะไดพ้ ษิ ลดนอ้ ยลงเร่ือย ๆ เชน่ งเู ขียว ตะขาบ ส่วนตน้ รังทงั ชา้ ง รงั ทงั ไก่ หมามุ่ย ก็มีพิษเหลอื อยู่บา้ งใครไปถูกก็โดนพิษดงั ทเ่ี ป็นอย่ตู ราบเท่าทกุ วนั น้ี
ในปัจจุบนั งูน้าจงึ ไมม่ พี ษิ รา้ ยแรง
นิทานเร่ืองนใ้ี ห้ข้อคดิ
การไดย้ ินคาร่าลอื ต่างๆจะตอ้ งคดิ ไตร่ตรองให้รอบคอบไม่คดิ ตดั สินใจอะไรดว้ ยความรีบรอ้ นเพราะการกระทาบางอย่างเมอ่ื ผดิ พลาดไปแลว้
ไม่มโี อกาสเเกไ้ ขไดอ้ กี
๓
เร่ือง นายด้นั
นิทานเร่ือง นายด้นั เขียนบนั ทกึ ลงในสมุดข่อย ตน้ ฉบบั เป็นของวดั ทา่ เสริม อาเภอหวั ไทร จงั หวดั นครศรีธรรมราช ระยะเวลาทแ่ี ต่งนิทาน คงอยู่
ในระยะรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลท่ี 3 แต่งดว้ ยกาพย์ 3 ชนิดคือ กาพยย์ านี 11, กาพยฉ์ บงั 16 และกาพยส์ ุรางคนางค์ 28 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อ
ความบนั เทงิ สวดอ่านนิทานในยามว่าง โดยนิทานเรื่องนายด้นั มเี นื้อเรื่องดงั น้ี
นายด้นั เป็นคนตาบอดใส อยากไดน้ างริ้งไรเป็นภรรยา จึงส่งคนไปสู่ขอและนัดวนั แตง่ โดยฝ่ายนางริ้งไรไม่รูว้ า่ ตาบอด เมอื่ ถงึ วนั แต่งงานนายด้นั
พยายามกลบเกลือ่ นความพกิ ารของตนโดยใชส้ ติปัญญาและไหวพริบตา่ ง ๆ แกป้ ัญหา เมื่อขบวนขนั หมากมาถึงบา้ นเจา้ สาว เจา้ ภาพข้นึ บนบา้ น นาย
ด้นั กลบั นัง่ ตรงนอกชาน เมอ่ื คนทกั นายด้นั จึงแกต้ วั ว่า "ขอน้าสักน้อย ลา้ งตีนเรียบรอ้ ย จงึ ค่อยคลาไคล ทาดมทาเช็ด เสร็จแลว้ ดว้ ยไว แลว้ จึงข้ึนไป ยอ
ไหวซ้ า้ ยขวา"
ขณะอย่กู นิ กบั นางริ้งไร วนั หน่ึงนางริ้งไรจดั สารับไวใ้ ห้แลว้ ลงไปทอผา้ ใตถ้ นุ บา้ น นายด้นั เขา้ ครัวหาขา้ วกินเองทาขา้ วหกเรี่ยราดลงใตถ้ นุ ครวั นาง
ริ้งไรรอ้ งทกั ว่าเทขา้ วทาไม นายด้นั จึงแกต้ วั ว่า "เป็ดไกเ่ ล็กน้อยบา้ งง่อยบา้ งเพลีย ตวั ผตู้ วั เมยี ผอมไปส้ินท่ี อกเหมอื นคมพร้า แตเ่ พียงเรามา มขี ้นึ ดบิ ดี
หวา่ นลงทกุ วนั ชิงกนั อ่ึงมี่ กลบั วา่ เราน้ี ข้ึงโกรธโกรธา"
วนั หน่ึงนางร้ิงไรใหน้ ายด้นั ไปไถนา นายด้นั บงั คบั ววั ไมไ่ ด้ ววั หกั แอกหกั ไถหนีเตลดิ ไป นายด้นั จึงเทยี่ วตามววั ไดย้ นิ เสียงลมพดั ใบไมแ้ ห้งชายป่ า
เขา้ ใจวา่ เป็นววั จงึ วดิ น้าเขา้ ใส่เพ่อื ใหว้ วั เชอ่ื ง นางริ้งไรมาเห็นเขา้ จึงถามว่าทาอะไร นายด้นั ไดแ้ กต้ วั ว่า "พีเ่ ดินไปตามววั ปะรังแตนแล่นไมท่ นั จะเอา
ไฟหาไม่ไฟ วดิ น้าใส่ตายเหมือนกนั คร้ันแมบ่ นิ ออกพลนั เอารังมนั จมน้าเสีย" อยู่มาวนั หน่ึงนายด้นั จะกนิ หมาก แต่ในเช่ียนหมากไมม่ ปี นู จงึ รอ้ ง
ถามนางร้ิงไร นางบอกทว่ี างปนู ให้ แตน่ ายด้นั หาไม่พบ ไดร้ อ้ งถามอีกหลายคร้ังแต่กย็ งั หาไมพ่ บ นายด้นั จึงร้องทา้ ใหน้ างริ้งไรข้นึ บา้ นมาดู หากปูนมี
ตามทบ่ี อก จะยอมใหน้ างริ้งไรเอาปนู มาทาขย้ีตา นางริ้งไรจงึ เอาปูนมาทาขย้ตี านายด้นั นายด้นั ถือโอกาสจึงร้องบอกว่าตาบอดเพราะปูนทา นางริ้งไร
จึงตอ้ งหายามารักษาจนตาหายบอดไดบ้ วชเรียน
นทิ านเร่ืองน้ใี ห้เเนวคิด
๑. สะทอ้ นภาพของสังคมชนบทนครศรีธรรมราช ทีช่ าวบา้ นยึดถือความมนี ้าใจตอ่ กนั คอยช่วยเหลอื กนั โดยไม่เหน็ แก่ความเหน็ดเหนื่อย
๒. ผมู้ ีปัญหาและปฏิภาณไหวพริบดี จะเป็นผทู้ ่ีสามารถแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆไดส้ าเร็จแมจ้ ะประกอบกิจการงานใดกจ็ ะสาเร็จดว้ ยดี
๓.ลกั ษณะความเป็นอยูข่ องชาวบา้ นในชนบทที่เนน้ ความเรียบงา่ ยไม่มีพธิ ีรีตองใหย้ ุ่งยากถือเอาความเรียบงา่ ย
๔
เรื่อง ปลาเเกม้ ช้า
กาลคร้งั หน่ึงนานมาแลว้ มีครอบครวั อยู่ครอบครวั หน่ึง มีอยู่ดว้ ยกนั 4 ชีวิต ไดแ้ ก่ ตา ยาย หมา และแมว ยายน้ันมีแหวนอย่วู งหน่ึงงามมาก หมาเมอื่
ไดเ้ หน็ แหวนของยายแลว้ กน็ ึกชอบอย่ใู นใจของมนั ยิง่ นกั ต่อมาไม่นาน หมากไ็ ดล้ กั แหวนของยายไปเสีย ตายายจึงใชใ้ ห้แมวตามไปเอาแหวนคนื มา
จากหมาใหไ้ ด้ แมวกไ็ ดต้ ามไปทนั หมาท่สี ะพานแห่งหน่ึงซ่ึงหมากาลงั ขา้ มอยู่บนสะพานน้ันพอดี แมวจึงไดร้ อ้ งถามหมาข้นึ ว่าไดล้ กั แหวนของยายมา
บา้ งไหม หมาจงึ อา้ ปากจะพดู โตต้ อบกบั แมวเลยทาใหแ้ หวนท่ีมนั คาบอยูน่ ัน่ หลน่ ลงไปในคลองเสีย และกบ็ งั เอญิ ในคลองน้ันไดม้ ฝี ูงปลาฝงู หน่ึงอาศยั
อยู่ แหวนวงน้ันจงึ ไดถ้ กู ปลาตวั หน่ึงคาบเอาไป เม่ือแหวนไดต้ กลงไปในคลองเสียเชน่ น้ันแลว้ หมากบั แมวกไ็ ดห้ ันหนา้ เขา้ หากนั เพ่อื ปรึกษาหารือท่ี
จะงมแหวนจากคลองน้ันใหไ้ ด้ โดยหมาไดร้ ูส้ ึกนึกผิดท่ไี ดล้ กั เอาของมีคา่ ของผูม้ พี ระคุณของมนั มา มนั จึงไดบ้ อกกบั แมวว่า มนั จะตอ้ งเอาแหวนน้ัน
ไปคนื ยายให้ได้ มฉิ ะน้นั แลว้ มนั ก็จะไมก่ ลบั ไปบา้ นของตายายอีกเป็นอนั ขาด หมาจึงไดล้ งไปดาวา่ ยอย่ใู นคลองเพ่อื หาแหวนแต่ก็ไม่พบแตอ่ ย่างใด
มนั จงึ คดิ ท่จี ะวดิ น้าในคลองน้นั ให้แห้งเสียเลย หมาจึงไดล้ งไปในคลองน้ันแลว้ กข็ ้ึนมาสะบดั น้า ออกจากตวั มนั ไดท้ าอยู่เชน่ น้นั ท้งั วนั ท้งั คนื ฝ่ายปลา
ทอี่ าศยั อยู่ในคลองน้นั ตา่ งก็ตกใจกลวั วา่ น้าจะแห้งแลว้ พวกตนกจ็ ะพากนั ตายหมด หัวหนา้ ฝงู ปลาจงึ ไดม้ าพดู ขอรอ้ งกบั หมาทนั ทีโดยให้หมายุติการ
วดิ คลองเสีย แลว้ ตนกอ็ าสาเอาแหวนมาคืนให้ หัวหนา้ ฝงู ปลาจึงไดพ้ าบริวารออกคน้ หาปลาตวั ทค่ี าบแหวนน้ันไปจนพบ แลว้ ก็ไดข้ อแหวนคืนให้
หมาแต่โดยดี แต่ปลาตวั น้ันก็ ไม่ยอมคืนให้ ปลาท้งั ฝูงโกรธปลาตวั น้นั จึงพากนั เขา้ ตบตยี อื้ แย่งเอาแหวนวงน้ันมา และไดน้ าไปให้หมาไดใ้ นที่สุด ใน
การยอ้ื แย่งเอาแหวนจากปลาดว้ ยกนั คร้ังน้นั ปลาตวั ที่มแี หวนอยใู่ นครอบครองกไ็ ดถ้ กู เพือ่ น ๆ ปลาตบตีเอาจนแกม้ ท้งั สองช้าชอกยง่ิ นัก ปลาตวั น้นั จึง
ไดแ้ กม้ ช้ามาต้งั แต่บดั น้ันและมนั กไ็ ดม้ เี ผา่ พนั ธุต์ อ่ มา ปลาทกุ ตวั ทส่ี ืบเช้อื สายมาจากปลาตวั น้ีก็ลว้ นแต่มีลกั ษณะคลา้ ยกบั แกม้ ช้าเหมือนกนั หมด จงึ ได้
เรียกชอ่ื ปลาชนิดน้ีตามลกั ษณะของมนั ว่า "ปลาแกม้ ช้า" มาจนทุกวนั น้ี
นทิ านเรื่องนใ้ี ห้ข้อคดิ ๑. ไม่ควรโลภ อยากไดข้ องของผอู้ นื่
๒. ไมว่ ่าจะเป็นเพื่อน คนรูจ้ กั หรือคนในครอบครัว หากเรามีความเห็นเเก่ตวั กไ็ ม่มใี ครอยากมาสนิทชิดดว้ ย
๕
เรื่องลูกเนรคุณ
นทิ านเร่ือง ลูกเนรคณุ มียายแก่คนหน่ึงอยูก่ ินกบั ลกู ชายและลกู สะใภ้ แกม่ ากแลว้ ทาอะไรก็ไม่คอ่ ยได้ ลูกสะใภจ้ ึงไม่ชอบ เท่ียวด่าว่าแมย่ ายอย่างน้ัน
อยา่ งน้ี ในตอนท่ีรับประทานขา้ วกจ็ ะเอาน้าท่อี ยู่ในบ่อใส่น้าแกง ทาให้น้าแกงจดื รบั ประทานไม่ได้ บางคร้ังแกงเผด็ จนเกินไป แต่ตอนทีท่ าให้สามี
รบั ประทานก็จะทาอาหารดี ๆพอถึงเวลาลูกชายกลบั มาบา้ น แมก่ บ็ อกลูกชายว่าสะใภท้ าแกงรับประทานไมไ่ ด้ บางคร้ังเผด็ บางคร้งั เค็ม บางคร้ังจืด
ขา้ งฝ่ายลูกเห็นวา่ แม่พูดเร่ือย ๆ กห็ าวา่ แมแ่ ก่ปากเปี ยก เพราะแกงทเี่ มียทาไวใ้ หส้ ามีน้ันอร่อยดี ลกู ชายก็โกรธจงึ ชวนกนั สองคนสามีภรรยา เอาแม่ห่อ
เส่ือไวว้ ่าจะพาไปเผาในป่ าชา้ พอถงึ ป่ าชา้ กล็ ืมไมข้ ีดไฟและก็ใกลค้ า่ แลว้ ดว้ ย ฝ่ายสามีก็ใชภ้ รรยาไปเอาไมข้ ดี ทบี่ า้ น ภรรยากไ็ ม่กลา้ ไป สามีจะมาเอา
เอง ภรรยาก็ไมก่ ลา้ อยู่คนเดยี ว กเ็ ลยชวนกนั กลบั บา้ น ท้งั สองคนปล่อยใหแ้ ม่อยใู่ นป่ าชา้ ฝ่ายแม่เม่อื ลูกกลบั ไปบา้ นแลว้ ก็คลานออกจากเส่ือไปในป่า
พอดี ในป่ าน้ันก็มโี จรไปปลน้ บา้ นเขามา และนงั่ แบง่ เงนิ กนั อยู่ แต่ยายแกไ่ มร่ ูเ้ ร่ืองว่าโจรปลน้ เงินมา พอคลานไปถงึ ก็พูดข้นึ วา่ "ไอค้ นเนรคุณ" โจร
ไดย้ นิ ก็ตกใจหนีหมด ทิ้งเงินไวม้ ากมายยายแก่ก็เกบ็ เงินน้ันแลว้ ก็พาไปบา้ น ฝ่ายลกู เหน็ แมพ่ าเงนิ มามากก็พดู ว่า เราท้ิงแมไ่ วใ้ นป่ าชา้ แม่ไดเ้ งิน
มากมายแตแ่ ม่กไ็ ม่ให้ใช้ ฝ่ายแมไ่ ดย้ ินก็บอกวา่ เงนิ น้นั แมใ่ หท้ ้งั หมด แตใ่ หเ้ อาเงินน้นั ไปซ้ือแม่มาใหค้ นหน่ึง ซ้ือแม่ใครก็ไดท้ เี่ ขาขาย ลกู ชายกพ็ าเงนิ
น้ันเดินไปทว่ั ทกุ เมอื งกห็ าซ้ือไมไ่ ดก้ เ็ ลยตอ้ งกลบั บา้ นแต่พอมาถึงบา้ นแมก่ ็บอกให้ลองไปหาซ้ือเมยี ดูบา้ ง พอให้ไปหาซ้ือเมียมากป็ รากฏว่าซ้ือได้ นี่
แหละเขาวา่ ซ้ืออ่นื ซ้ือไดแ้ ต่ซ้ือแมซ่ ้ือไมไ่ ด้ ฝ่ายเมียเมอื่ เหน็ วา่ ตนเองและสามพี าแมไ่ ปปล่อยในป่าชา้ ไดเ้ งินมามากมาย กใ็ ชส้ ามพี าตนเองไปเผามงั่
สามกี ็เอาเสื่อมว้ นพาไปในป่ าชา้ และกจ็ ุดไฟเผาภรรยา ภรรยาก็ถูกไฟคลอกตาย
นทิ านเรื่องน้ใี ห้ข้อคดิ : สอนให้ลูกรูจ้ กั บญุ คณุ ของพ่อเเม่ เเละช้ใี หเ้ ห็นถึงผลการเนรคณุ พ่อเเม่
๖
เรื่อง เกาะหนูเกาะเเมว
นานมาแลว้ มีพ่อคา้ จนี คนหน่ึงคมุ เรือสาเภาจากเมอื งจนี มาคา้ ขายทีเ่ มอื งสงขลา เม่ือขายสินคา้ หมดแลว้ จะซ้ือสินคา้ จากสงขลากลบั ไปเมืองจนี เป็น
ประจา วนั หน่ึงขณะที่เดินซ้ือสินคา้ อยู่น้นั พอ่ คา้ ไดเ้ ห็นหมากบั แมวคหู่ น่ึงมีรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู จึงขอซ้ือพาลงเรือไปดว้ ย หมากบั แมวเมือ่ อย่ใู น
เรือนาน ๆ ก็เกดิ ความเบอื่ หน่ายและอยากจะกลบั ไปอยูบ่ า้ นท่ีสงขลา จงึ ปรึกษาหาวธิ ีการทีจ่ ะกลบั บา้ น หมาไดบ้ อกกบั แมววา่ พอ่ คา้ มีดวงแก้ววิเศษท่ี
ใครเกาะแลว้ จะไม่จมน้า แมวจงึ คดิ ทจ่ี ะไดแ้ กว้ วิเศษน้นั มาครอบครอง จงึ ไปขม่ ขู่หนใู ห้ขโมยใหแ้ ละอนุญาตให้หนูหนีข้นึ ฝงั่ ไปดว้ ยคร้ันเรือกลบั มาท่ี
สงขลาอกี คร้ังหน่ึง หนูก็เขา้ ไปลอบเขา้ ไปลกั ดวงแกว้ วิเศษของพอ่ คา้ โดยอมไวใ้ นปาก แลว้ ท้งั สาม ไดแ้ ก่ หมา แมว และหนู หนีลงจากเรือว่ายน้าจะ
ไปข้นึ ฝั่งทห่ี นา้ เมอื งสงขลา ขณะที่วา่ ยน้ามาดว้ ยกนั หนซู ่ึงวา่ ยน้านาหน้ามาก่อนก็นึกข้นึ ไดว้ า่ ดวงแกว้ ทีต่ นอมไวใ้ นปากน้ันมีคา่ มหาศาล เม่ือถงึ ฝัง่
หมากบั แมวคงแย่งเอาไป จงึ คดิ ทีจ่ ะหนีหมากบั แมวข้ึนฝ่ังไปตามลาพงั ดวงแกว้ จะไดเ้ ป็นของตนเองแต่เพยี งผูเ้ ดียวตลอดไป แต่แมวท่วี ่ายตามหลงั มา
กค็ ดิ จะไดด้ วงแกว้ ไวค้ รอบครองเชน่ กนั จึงวา่ ยน้าตรงร่ีเขา้ ไปหาหนู ฝ่ายหนูเห็นแมวตรงเขา้ มากต็ กใจกลวั แมวจะตะปบจงึ วา่ ยหนีสุดแรงและไมท่ นั
ระวงั ตวั ดวงแกว้ วเิ ศษทอี่ มไวใ้ นปากกต็ กลงจมหายไปในทะเลเมอื่ ดวงแกว้ วิเศษจมน้าไปท้งั หนแู ละแมวตา่ งหมดแรงไม่อาจว่ายน้าต่อไปได้ สตั วท์ ้งั
สองจงึ จมน้าตายกลายเป็น "เกาะหนเู กาะแมว" อยทู่ ี่อ่าวหน้าเมืองสงขลา ส่วนหมากต็ ะเกียกตะกายวา่ ยน้าไปจนถงึ ฝั่ง แต่ดว้ ยความเหน็ดเหน่ือยจึง
ขาดใจตายกลายเป็นหินเรียกว่า "เขาตงั กวน" เป็นภูเขาต้งั อย่รู ิมอา่ วสงขลา ส่วนดวงแกว้ วเิ ศษทีห่ ลน่ จากปากหนูกแ็ ตกแหลกละเอยี ดเป็นหาดทราย
เรียกสถานทนี่ ้ีว่า "หาดทรายแกว้ " ต้งั อยทู่ างเหนือของอา่ วสงขลา
นิทานเรื่องน้ีให้ข้อคดิ : อย่าโลภมาก ให้มคี วามสามคั คเี เละเเบ่งปันเอ้ือเฟื้ อตอ่ กนั
๗
บรรณานุกรม
ขนุ สิทธ์ิ. (๒๕๑๐). งูน้า. (ออนไลน)์ . เเหลง่ ทม่ี า
https://sites.google.com/site/phasathinti/nithan-phun-ban-phakh-
ti/reuxng-keaa-hnu-keaa-maew (วนั ท่ีคน้ ขอ้ มูล: ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕)
เชวง ไชยานุพง์. (ม.ป.ป) นายดั้น. (ออนไลน์). เเหลง่ ทีม่ า
https://sites.google.com/site/phasathinti/nithan-phun-ban-phakh-
ti/reuxng-keaa-hnu-keaa-maew (วนั ทค่ี น้ ขอ้ มูล: ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕)
ภีมระพฒั น์ รองสวสั ด์ิ. (ม.ป.ป.). ปลาเเก้มช้า. (ออนไลน์). เเหลง่ ทมี่ า
https://sites.google.com/site/phasathinti/nithan-phun-ban-phakh-
ti/reuxng-keaa-hnu-keaa-maew (วนั ทีค่ น้ ขอ้ มูล: ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕)
สาตรา. (ม.ป.ป.) ลกู เนรคุณ. (ออนไลน์). แหล่งท่มี า
https://sites.google.com/site/phasathinti/nithan-phun-ban-phakh-
ti/reuxng-keaa-hnu-keaa-maew ( วนั ท่ีคน้ ขอ้ มูล ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕)
นวพร เรืองสกลุ . (ม.ป.ป). เกาะหนเู กาะเเมว. (ออนไลน์). เเหล่งทม่ี า
https://sites.google.com/site/phasathinti/nithan-phun-ban-phakh-
ti/reuxng-keaa-hnu-keaa-maew ( วนั ท่คี น้ ขอ้ มลู ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕)
๘