The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงาน วันที่14มาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 33 เสาวลักษณ์ งามขํา, 2023-02-16 03:09:26

บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงาน วันที่14มาย

บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงาน วันที่14มาย

บทที่ 3 วิธีการดำเนินงานโครงงาน ในการดำเนินโครงงานการสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนด้วยเว็บไซต์ออนไลน์ รายวิชาการบัญชี สหกรณ์ ด้วยโปรแกรม Canva.com , Google Form เข้ามาประกอบการทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ ชิ้นงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบทเรียน การบัญชีสหกรณ์สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัย อาชีวศึกษานครปฐม และเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการศึกษาที่เข้าถึงได้อย่างไม่จำกัด โดยมีวิธีการ ดำเนินงานดังนี้ 3.1 การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 วิธีการดำเนินโครงงาน 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.1.1 ด้านประชากร นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม 3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 กลุ่ม 1 สาขาวิชาการบัญชี จำนวน 38 คน 3.2 วิธีการดำเนินโครงงาน รวบรวมข้อมูลที่จะนำมาสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ด้วย สื่อการเรียนด้วยเว็บไซต์ออนไลน์ วิชาการบัญชีสหกรณ์ ทั้งนี้สำรวจความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่อการเรียนออนไลน์ด้วย เว็บไซต์ออนไลน์วิชาการบัญชีสหกรณ์ สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม และนำขอมูลที่ได้มาจัดทำลงในโปรแกรม Canva , Google Form มีขั้นตอนการทำดังนี้ 3.2.1 การสร้าง Google Sites 3.2.2 การออกแบบ Canva 3.2.3 การสร้าง Anyflip 3.2.4 การสร้าง QR Code


26 3.2.1 การสร้าง Google Sites 3.2.1.1 ขั้นตอนแรกจะเป็นการคัดลอกแทมเพจ (Template) หรือคัดลอกต้นแบบ ให้ทำ การล็อกอิน G-mail และเปิด Google Site และคลิกเข้าสู่ต้นแบบบทเรียนออนไลน์ที่ต้องการ คัดลอก ภาพที่ 3.1 ต้นแบบเว็บไซต์ที่จะคัดลอก 3.2.1.2 สังเกตเมนูด้านบนขวามือจะมีจุดแนวตั้งสามจุด ทำการคลิกเข้าไปจะมีคำว่า “ทำสำเนา” ให้คลิกเลือกเพื่อคัดลอกเว็บไซต์ ตั้งชื่อไฟล์ เลือกโฟลเดอร์ และทำการคลิก “ตกลง” เพื่อเริ่มคัดลอกเว็บไซต์ สามารถตรวจสอบการอัปเดตใน Google Drive ภาพที่ 3.2 การคัดลอกเว็บไซต์ ตั้งชื่อไฟล์ และเลือกโฟลเดอร์เพื่อบันทึก


27 3.2.1.3 กรณีที่ทำสำเนาหลาย ๆ อัน สามารถตรวจสอบได้ใน Google Dive โดยคลิกที่ Google Apps และไปที่ Dive ให้พิมพ์ว่า Sites.google.com จะปรากฏเว็บไซต์ที่ทำสำเนาไว้ ภาพที่ 3.3 สำเนาเว็บไซต์ที่ได้คัดลอกไว้หลายๆอัน 3.2.1.4 การตั้งชื่อเว็บไซต์และการเผยแพร่ ในกรณีที่คัดลอกมาให้เปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ภาพที่ 3.4 หน้าเว็บไซต์ที่ได้ทำการคัดลอกมา


28 3.2.1.5 ถ้ายังไม่มีการเผยแพร่ จะไม่มีลูกศรด้านข้างคำว่าเผยแพร่ ถ้าคลิกเผยแพร่ครั้งแรก จะยังไม่มีชื่อเว็บไซต์ ให้พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกับใครและใช้ชื่อ URL เว็บไซต์ยาว ๆ และคลิก คำว่าเผยแพร่ด้านล่าง ภาพที่ 3.5 การตั้งชื่อหรือการเผยแพร่ 3.2.1.6 ถ้าจะดูการแสดงผลเว็บไซต์ให้คลิกที่แสดงตัวอย่าง ภาพที่ 3.6 การแสดงตัวอย่างเว็บไซต์


29 3.2.1.7 การคัดลอกชื่อเว็บไซต์ไปที่ลูกศรด้านขวาของคำว่าเผยแพร่ คลิกต่อไปที่การตั้งค่า การเผยแพร่ ภาพที่ 3.7 การคัดลอกชื่อเว็บไซต์ 3.2.1.8 คัดลอกชื่อเว็บไซต์ และเปิดหน้าต่าง Google ใหม่และวาง ภาพที่ 3.8 การค้นหาชื่อเว็บไซต์ที่ตั้งไว้


30 3.2.1.9 การเพิ่มหน้าเว็บของเว็บไซต์เข้าไปที่เว็บไซต์ที่ต้องการแก้ไขโดย คลิก “หน้าเว็บ” จะปรากฏข้อมูลต่าง ๆ จากนั้นคลิกที่สัญลักษณ์ “+” ใส่ข้อมูลตามต้องการ เช่น แบบทดสอบ คลิก “เสร็จสิ้น” จะปรากฏแบบทดสอบ ภาพที่ 3.9 การเพิ่มหน้าเว็บใหม่ 3.2.1.10 ทุกครั้งที่มีการแก้ไขเว็บไซต์ให้คลิกเผยแพร่หน้าเว็บเพจ เพื่ออัปเดตการ เปลี่ยนแปลง ไปยังเว็บไซต์ ภาพที่ 3.10 การอัปเดตการเปลี่ยนแปลง


31 3.2.1.11 การเพิ่มเมนูย่อยของแต่ละเว็บไซต์คลิก “หน้าเว็บ” และเลือกหน้าเว็บที่ต้องการ เพิ่มเมนูย่อย ภาพที่ 3.11 การเพิ่มหน้าเมนูย่อย 3.2.1.12 การเพิ่มเมนูย่อย โดยเลือกหน้าเว็บที่ต้องการได้แล้วนั้น ให้คลิกที่จุดแนวตั้งสามจุด ด้านข้างของหน้าเว็บ และให้คลิก “เพิ่มหน้าย่อย” ภาพที่ 3.12 การเพิ่มเมนูย่อยตามที่ต้องการ


32 3.2.1.13 ตั้งชื่อหน้าย่อยใหม่ที่ต้องการ เช่น แบบทดสอบก่อนเรียน เมื่อตั้งชื่อเสร็จแล้วให้ คลิก “เสร็จสิ้น” ภาพที่ 3.13การตั้งชื่อหน้าย่อย 3.2.1.14 การเพิ่มข้อความคลิกโดย “แทรก” และเลือกหน้าเว็บที่ต้องการเพิ่มข้อความ และ คลิกที่ “กล่องข้อความ” ภาพที่ 3.14 การเพิ่มข้อความ


33 3.2.1.15 การใส่ข้อความและจัดรูปแบบตามความต้องการ ภาพที่ 3.15 การใส่ข้อความและจัดรูปแบบ 3.2.1.16 การย้ายแถบเมนูโดยคลิก “หน้าเว็บ” และการเคลื่อนย้ายแถบเมนูไปในตำแหน่งที่ ต้องการด้วยวิธีการกดค้างแล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ภาพที่ 3.16 การย้ายแถบเมนู


34 3.2.1.17 การเพิ่มเนื้อหาลงในเว็บเพจโดยพิมพ์เนื้อหาในเว็บเพจที่ต้องการได้เลย ภาพที่ 3.17 การเพิ่มเนื้อหาลงในเว็บเพจ 3.2.1.18 การคัดลอกเนื้อหาจาก ไฟล์เอกสาร Doc โดยคัดลอกเนื้อหาจากไฟล์ประเภทอื่น เช่น ไฟล์เอกสาร Doc ภาพที่ 3.18 การคัดลอกเนื้อหาจาก ไฟล์เอกสาร Doc


35 3.2.1.19 การวางเนื้อหาและตกแต่งโดยวางเนื้อหาลงในเพจ แล้วตกแต่งให้สวยงาม ภาพที่ 3.19 การวางเนื้อหา และตกแต่ง 3.2.1.20 การอัปโหลดรูปภาพโดยดับเบิลคลิกที่หน้าเว็บเพจ เลือก “อัปโหลด” จะปรากฏ หน้าต่างให้เลือกรูปที่ต้องการอัปโหลดลงหน้าเว็บเพจ แล้วคลิก “เปิด” เพื่ออัปโหลดรูปภาพลง เว็บไซต์ ภาพที่ 3.20 การอัปโหลดรูปภาพ


36 3.2.1.21 การเชื่อมโยงหน้าเว็บโดยคลิก “หน้าเว็บ” และเลือกหน้าเว็บที่ต้องกาเชื่อมโยง ภาพที่ 3.21 การเชื่อมโยงหน้าเว็บ 3.2.1.22 การเลือกลิงค์ที่จะเชื่อมโยงโดยวิธีทำคือให้ทำการเลือกที่รูปภาพหรือข้อความที่ ต้องการเชื่อมโยงจะมีสัญลักษณ์แทรกลิงค์ ภาพที่ 3.22 การเลือกลิงค์ที่จะเชื่อมโยง


37 3.2.1.23 การเชื่อมโยงไปที่ตามลิงค์ที่เลือกไว้โดยเมื่อเลือกเสร็จแล้ว คลิกไปที่ “ใช้” ภาพที่ 3.23 การเชื่อมโยงไปที่ตามลิงค์ที่เลือกไว้ 3.2.2 การสร้าง Google form 3.2.2.1 เข้าเว็บไซต์https://forms.google.com หรือสามารถเพิ่มจาก Google Drive ภาพที่ 3.24 หน้าแรก Google Form


38 3.2.2.2 เลือกสร้างรูปแบบ (Form) จากต้นแบบ (Template) และสามารถเปลี่ยน หัวข้อ (Header) และ ธีม (Theme) ได้ตามต้องการ ภาพที่ 3.25 ตัวอย่าง Template 3.2.2.3 กำหนดรูปแบบของชุดคำตอบ พร้อมทั้งใส่คำถามและชุดคำตอบ โดยรูปแบบของชุด คำตอบสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ โดยจะใช้รูปแบบของชุดคำตอบ 2 รูปแบบ ดังนี้ ส่วนที่ 1 คำตอบสั้นๆ เป็นฟอร์มที่ใช้สำหรับการตอบคำถามข้อความสั้นๆ เช่น ชื่อนามสกุล หรืออีเมล์เป็นต้น ภาพที่ 3.26 คำถามที่ต้องตอบข้อความสั้นๆ


39 ส่วนที่ 2 หลายตัวเลือก เป็นฟอร์มสำหรับการสร้างคำตอบแบบตัวเลือก โดยผู้ตอบสามารถเลือกตอบได้แค่คำตอบเดียว เช่น การเลือกตอบข้อสอบคำนวณ เป็นต้น ภาพที่ 3.27 คำถามที่ต้องการคำตอบเพียงข้อเดียว 3.2.2.4 เมื่อแบบฟอร์มได้รับการสร้างเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบความถูกต้องและ ความสวยงามของแบบฟอร์ม โดยคลิกที่สัญลักษณ์รูปตา (แสดงตัวอย่าง) ภาพที่ 3.28 การแสดงตัวอย่างของแบบฟอร์ม


40 3.2.2.5 การส่งแบบฟอร์มเพื่อให้คนตอบแบบฟอร์มได้รับ ให้คลิก "ส่ง" ที่อยู่มุมบนขวาของ หน้าสร้างแบบฟอร์ม โดยสามารถเลือกรูปแบบการส่งได้หลายแบบ เช่น ส่งผ่านอีเมล์,แนบ ลิงค์หรือ เพิ่มเข้าไปในเว็บไชโดยการฝังโค้ด ภาพที่ 3.29 การส่งแบบฟอร์ม 3.2.3 การใช้เว็บไซต์ www.canva.com 3.2.3.1 ผู้ใช้งานสามารถสมัครใช้งานด้วยบัญชี Facebook,Google mail (G-mail) หรือ สมัครด้วยอีเมล์อื่นๆ ภาพที่ 3.30 การสมัครเข้าใช้งาน


41 3.2.3.2 เมื่อสมัครเข้าใช้งานจะปรากฏหน้าเว็บไซต์ หน้าแรกของเว็บไซต์ Canva จะแบ่งส่วนต่างๆ ดังนี้ 2.1 ส่วนจัดการออกแบบ จัดกลุ่มหรือที่ได้ลบไปแล้ว 2.2 ส่วนการสร้างโดยแต่ละงานออกแบบจะมีขนาดที่กำหนดมาให้ และกำหนดขนาดได้ 2.3 เป็นงานออกแบบทั้งหมดที่ได้ทำไว้แล้วหรือส่วนงานที่ออกแบบเอง ภาพที่ 3.31 อธิบายส่วนประกอบหน้าแรกของเว็บไซต์ 3.2.3.3 ต้นแบบ (Template) เป็นเมนูตัวเลือกสำหรับสร้างรูปแบบ สามารถค้นหารูปได้ ตามความต้องการ ภาพที่ 3.32 ต้นแบบ 2.2 2.1 2.3


42 3.2.3.4 การอัปโหลด(Uploads) เป็นเมนูที่ใช้อัปโหลดรูปภาพจากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ภาพที่ 3.33อัปโหลด 3.2.3.5 องค์ประกอบ (Elements) มีเมนูย่อยสำหรับใส่รูปทรง กรอบรูป กราฟ และ สัญลักษณ์ต่างๆ ภาพที่ 3.34 องค์ประกอบ


43 3.2.3.6 ข้อความ (Text) เป็นเมนูสำหรับเลือกข้อความต่างๆ ใส่ลงในงานออกแบบ ภาพที่ 3.35 ข้อความ 3.2.3.7 เมนูด้านซ้ายบน 1) หน้าหลัก (Home) กลับสู่หน้าหลัก, 2) ไฟล์(File) เมนูตัวเลือกสำหรับแสดงขนาดกระดาษ ตั้งชื่อไฟล์แสดงพิมพ์ระยะ ตัดตก สร้างงานออกแบบใหม่การบันทึก ดาวน์โหลด 3) ปรับขนาด (Resize) เปลี่ยนแปลงขนาด 4) ย้อนกลับ (Undo) เมนูย้อนกลับการทำงานไปทีละขั้นตอน ใช้สำหรับย้อนกลับ งานที่ทำผิดพลาด ภาพที่ 3.36 แสดงเมนูด้านบนซ้าย


44 3.2.3.8 เมนูด้านขวา 1) Blog Title-Untitled งานออกแบบที่ไม่มีชื่อ 2) แชร์(Share) ใช้สำหรับแชร์ไปยัง Facebook, twitter หรือส่งทางอีเมล์, 3) ดาวน์โหลด (Download) ใช้ในการดาวน์โหลดไฟล์ ซึ่งสามารถเลือกดาวน์โหลด เป็นไฟล์นามสกุล .png jpg .pdg .gif mp4 4) 3 จุด (...) เครื่องมือต่างๆ ที่ทางเว็บไซต์แนะนำให้เลือกใช้งาน ภาพที่ 3.37เมนูด้านขวา 3.2.4 วิธีการสร้างเนื้อหาและแบบฝึกทักษะด้วยโปรแกรม Anyflip.com 3.2.4.1 เปิดเว็บบราวเซอร์ Google Chrome จากนั้นทำการค้นหาเว็บไซต์ https://anyflip.com ภาพที่ 3.38 การค้นหาเว็บไซต์ anyflip.com


45 3.2.4.2 ทำการล็อกอิน คลิก ลงชื่อเข้าใช้ (Sing In) จากนั้นทำการกรอกข้อมูล เลือก เข้าสู่ระบบ (Log In) ภาพที่ 3.39การล็อกอินเข้าใช้งานเว็บไซต์anyflip.com 3.2.4.3 คลิก ที่เก็บข้อมูล (MY FLIPS) เลือก แฟ้มใหม่ (New Folder) จากนั้นทำการตั้งชื่อ เช่น การบัญชีสหกรณ์ ภาพที่ 3.40 การตั้งชื่อแฟ้มใหม่


46 3.2.4.4 การเพิ่มไฟล์ PDF คลิก เพิ่มหนังสือใหม่ (ADD NEW BOOK) จากนั้นเลือก อัปโหลดไฟล์ PDF (UPLOAD YOUR PDF) ภาพที่ 3.41 การเพิ่มไฟล์ PDF 3.2.4.5 การอัปโหลดไฟล์ PDF เมื่อทำการอัปโหลดเสร็จแล้ว ทำการพิมพ์ชื่อตามหน่วยการ เรียนรู้จากนั้นกดบันทึกและปิด ภาพที่ 3.42 การพิมพ์ชื่อตามหน่วยการเรียนรู้


47 3.2.5 การสร้าง QR Code 3.2.5.1 การเลือกเว็บไซต์เพื่อทำการเปิด โดยเข้า Google Drive และพิมพ์ว่า Sites เลือก New Google Sites ภาพที่ 3.43 เลือกเว็บไซต์เพื่อทำการเปิด 3.2.5.2 การเปิดเว็บไซต์ที่ได้ทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ภาพที่ 3.44 เว็บไซที่ได้ทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว


48 3.2.5.3 การเข้าสู่การตั้งค่าการเผยแพร่โดยไปที่ลูกศรชี้ลงด้านข้างคำว่า “เผยแพร่” เลือก “การตั้งค่าการเผยแพร่” ภาพที่ 3.45 การเข้าสู่การตั้งค่าการเผยแพร่ 3.2.5.4 การคัดลอกชื่อเว็บไซต์แบบยาวโดยเลือกคลุมชื่อเว็บไซต์แบบยาว จะอยู่ด้านล่างและ ทำการคัดลอก ภาพที่ 3.46 การคัดลอกชื่อเว็บไซต์แบบยาว


49 3.2.5.5 เปิดหน้าต่าง www.google.com ขึ้นมาใหม่ และเปิดเว็บไซต์ที่ชื่อว่า https//www.qrcode-monkey.com เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ในการทำ QR Code ภาพที่ 3.47 หน้าเว็บไซต์ qrcode-monkey 3.2.5.6 การวางลิงค์เพื่อทำ QR Code โดยการวางชื่อเว็บไซต์ที่ได้ทำการคัดลอกมาที่ ช่องว่าง “Your URL” ภาพที่ 3.48 การวางลิงค์เพื่อทำ QR Code


50 3.2.5.7 การสร้าง QR Code โดยคลิกปุ่ม "Create QR Code" เพื่อสร้าง QR Code ภาพที่ 3.49 การสร้าง QR Code 3.2.5.8 การดาวน์โหลด QR Codeโดยคลิก “Download PNG” เพื่อดาวน์โหลด QR Code ภาพที่ 3.50 การดาวน์โหลด QR Code


51 3.2.5.5 ได้ภาพ QR Code ที่ใช้ในการสแกนเพื่อเข้าเว็บไซต์ออนไลน์รายวิชาการบัญชีสหกรณ์ ภาพที่ 3.51 QR Code วิชาการบัญชีสหกรณ์ จากขั้นตอนข้างต้นที่ได้กล่าวมานั้น เมื่อเสร็จสิ้นจะได้สื่อการเรียนออนไลน์รายวิชาการบัญชี สหกรณ์ ที่สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาไม่จำกัดเฉพาะในห้องเรียนโดยมีองค์ประกอบ เป็น แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน แบบฝึกทักษะให้ได้ประเมินความรู้ ความเข้าใจ โดยสามารถเข้าใช้ งานได้โดยแสกนคิวอาร์โค้ดหรือค้นหาชื่อเว็บไซต์https://sites.google.com/view/mind 20201-2108 ภาพที่ 3.52 เว็บไซต์ออนไลน์ Google Site รายวิชา การบัญชีสหกรณ์


52 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ ผู้จัดทำโครงงานได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง โดยมีวิธีการดังนี้ 3.3.1 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.3.1.1 แบบทดสอบ เป็นแบบทดสอบวัดระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประมาณค่า 3 ระดับ โดยแบ่งแบบทดสอบออกเป็น 2 แบบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียน ดำเนินการทดสอบด้วยแบบทดสอบจำนวน 20 ข้อ จากสื่อ การเรียนด้วยเว็บไซต์ออนไลน์ รายวิชาการบัญชีสหกรณ์ 2) แบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้แบบทดสอบชุดเดียวกับแบบทดสอบก่อนเรียน (สลับข้อคำถาม) จากสื่อการเรียนด้วยเว็บไซต์ออนไลน์ รายวิชาการบัญชีสหกรณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบทดสอบ เพื่อวัดระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีการประมาณค่า 5 ระดับและนำเสนอในรูปแบบของตาราง โดยใช้เกณฑ์การวัดระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดังนี้ เกณฑ์การวัดระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 14-20 หมายถึง มีผลสัมฤทธิ์ระดับ ดีมาก 9-13 หมายถึง มีผลสัมฤทธิ์ระดับ ดี 0-8 หมายถึง มีผลสัมฤทธิ์ระดับ พอใช้ 3.3.1.2 แบบสอบถามปลายเปิด วิเคราะห์หาค่าความถี่ด้วยการจัดกลุ่มคำตอบที่ไปใน ทิศทางเดียวกัน สรุปผลในภาพรวม แล้วนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงบรรยาย (Descriptive Statistics) 3.3.1.3 แบบสอบถามปลายปิดเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ทำการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและนำเสนอ ใน รูปแบบตาราง ตอนที่ 2 วิเคราะห์ข้อคำถามจากแบบประเมินความพึงพอใจต่อการสร้างและพัฒนาสื่อเพื่อ การเรียนด้วยเว็บไซต์ออนไลน์ รายวิชาการบัญชีสหกรณ์ สาขาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษา นครปฐม เป็นแบบสอบถามประมาณ 5 ระดับ โดยหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำเสนอใน รูปแบบของตาราง โดยใช้เกณฑ์การแปลผลดังนี้


53 เกณฑ์การให้คะแนนความพึงพอใจ 5 หมายถึง มีความพึงพอใจระดับ มากที่สุด 4 หมายถึง มีความพึงพอใจระดับ มาก 3 หมายถึง มีความพึงพอใจระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มีความพึงพอใจระดับ น้อย 1 หมายถึง มีความพึงพอใจระดับ น้อยที่สุด ค่าเฉลี่ยระดับ 4.51 - 5.00 หมายถึง มีความคิดเห็นระดับ มากที่สุด 3.51 - 4.50 หมายถึง มีความคิดเห็นระดับ มาก 2.51 - 3.50 หมายถึง มีความคิดเห็นระดับ ปานกลาง 1.51 - 2.50 หมายถึง มีความคิดเห็นระดับ น้อย 1.00 - 1.50 หมายถึง มีความคิดเห็นระดับ น้อยที่สุด 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.4.1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อคำถาม มีดังนี้ 3.4.1.1 ค่าร้อยละ (Percentage) เป็นค่าสถิติที่นิยมใช้กันมาก ในการเปรียบเทียบ ความถี่ หรือจำนวนที่ต้องการกับความถี่หรือจำนวนทั้งหมดที่เทียบเป็น 100 ใช้สูตรต่อไปนี้ p=fn x 100 เมื่อ P แทนค่า ค่าร้อยละ F แทนค่า ความถี่ที่ต้องการแปลงให้เป็นค่าร้อยละ N แทนค่า จำนวนความถี่ทั้งหมด ค่าร้อยละจะแสดงความหมายของค่าและสามารถนำค่าที่ได้ไปเปรียบเทียบได้


54 3.4.1.2 ค่าเฉลี่ย (Mean) หรือเรียกว่า ค่ากลางเลขคณิต ค่าเฉลี่ย ค่ามัชฌิมาเลขคณิต โดย มีสูตรการคำนวณ ดังนี้ X=Xn เมื่อ S.D. แทนค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทนค่า ค่าเฉลี่ย X แทนค่า ค่าคะแนน N แทนค่า จำนวนคะแนน 3.4.1.3 การหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เป็นค่าวัดการกระจายที่สำคัญทางสถิติโดยมี สูตรการคำนวณ ดังนี้ S.D.=(x-x)2n-1 เมื่อ S.D. แทนค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทนค่า ค่าคะแนน X แทนค่า จำนวนคะแนน N แทนค่า ผลรวม


Click to View FlipBook Version