The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by muthita.khr, 2021-03-16 00:35:05

พืช

พืช

อาณาจักรพืช

(Plantkingdom)

อาณาจักรพืชคอื ?

พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีก่ำเนิดขึ้นมำแล้วไม่ต่ำ
กว่ำ 400 ล้ำนปี มีหลักฐำนหลำยอย่ำงที่ท่ำให้
เชื่อว่ำพืชมีวิวัฒนำกำรมำจำกสำหร่ำยสีเขียว
กลุ่ม Charophytesโดยมีกำรปรับตัวจำก
สภำพท่ีเคยอยู่ในน่้ำขึ้นมำอยู่บนบก ด้วยกำร
สร้ำงคุณสมบัติต่ำง ๆ ท่ีเหมำะสมข้ึนมำ เช่น มี
กำรสรำ้ งควิ ติน (cutin)ขน้ึ มำปกคลุมผิวของล่ำ
ต้นและใบเรียกว่ำ คิวทิเคิล (cuticle)เพื่อ
ป้องกันกำรสูญเสียน่้ำ และกำรเกิด สโทมำตำ
( stomata)เ พ่ื อ ท่ ำ ห น้ ำ ท่ี ร ะ บ ำ ย น่้ ำ แ ล ะ
แลกเปล่ยี นกำ๊ ซ เปน็ ต้น

ดิวิชันไบรโอไฟตา

(Division Bryophyta)

เรียกโดยทั่วไปว่ำไบรโอไฟต์ (bryophyte)มีทั้งสิ้นประมำณ
16,000 ชนดิ พืชในดิวชิ ันน้ีมีขนำดเล็ก มีโครงสร้ำงง่ำย ๆ ยังไม่มี
รำก ล่ำตน้ และใบทีแ่ ท้จริง ชอบอำศัยอยู่ตำมที่ชุ่มช้ืน กำรสืบพันธุ์
แบบอำศัยเพศยังต้องอำศัยน้่ำส่ำหรับให้สเปิร์มท่ีมีแฟลกเจลลำ
(flagella) ว่ำยไปผสมกบั ไข่ ต้นท่ีพบเห็นโดยท่ัวไปคือแกมีโทไฟต์
(มีแกมีโทไฟต์เด่น) รูปร่ำงลักษณะมีทั้งที่เป็นแผ่นหรือแทลลัส
(thallus) และคล้ำยล่ำต้นและใบของพืชชั้นสูง (leafy form) มี
ไรซอยด์ (rhizoid) ส่ำหรับยึดต้นให้ติดกับดินและช่วยดูดน่้ำและ
แร่ธำตุ มีส่วนคล้ำยใบ เรียก phylloidและส่วนคล้ำยล่ำต้น
เรียกว่ำ cauloid แกมีโทไฟต์ของไบรโอไฟต์มีสีเขียวเพรำะมี
คลอโรฟิลล์สำมำรถสร้ำงอำหำรได้เอง ท่ำให้อยู่ได้อย่ำงอิสระ เมื่อ
แกมโี ทไฟต์เจริญเต็มที่จะสรำ้ งเซลล์สืบพนั ธคุ์ ือสเปิร์มและไข่ต่อไป

ตวั อยา่ งชนดิ พืช

ดวิ ชิ ันไซโลไฟตา

(Division Psilophyta)

พืชในดิวิชันนี้ที่พบได้ในประเทศไทย ได้แก่ Psilotum รู้จัก
กันในช่ือไทยว่ำ หวำยทะนอย สปอโรไฟต์ของพืชน้ี มีรูปร่ำง
ลักษณะง่ำยๆ คือมีแต่ล่ำต้นยังไม่มีรำกและใบ ล่ำต้นมีลักษณะ
เป็นไม้เนอ้ื ออ่ นขนำดสูงประมำณ 20 –30 เซนติเมตร ข้ึนอยู่ตำม
พ้ืนดิน หรือเกำะติดกับต้นไม้อื่น ล่ำต้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
สว่ นทอ่ี ยใู่ ต้ดนิ เปน็ ล่ำต้นชนิดไรโซม มีสีน้่ำตำล และมีไรซอยด์ท่ำ
หน้ำท่ีดูดน้่ำและแร่ธำตุ ล่ำต้นส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน มีสีเขียว มี
ลักษณะเปน็ เหลี่ยม ลำ่ ต้นส่วนน้ที ำ่ หนำ้ ท่สี ังเครำะห์แสง ทัง้ ล่ำตน้
ใต้ดินและล่ำต้นเหนือพ้ืนดิน แตกกิ่งเป็น 2 แฉก ท่ีส่วนของล่ำ
ต้นเหนือพื้นดินมีระยำงค์เล็กๆ ย่ืนออกมำเห็นได้ท่ัวไป สปอโร
ไฟต์ที่เจริญต้นที่จะสร้ำงอับสปอร์ท่ีมีรูปร่ำงเป็น 3 พู ท่ีซอกของ
ระยำงคบ์ นล่ำต้นเหนือพนื้ ดนิ อับสปอร์สร้ำงสปอร์ชนิดเดียวแกมี
โทไฟต์มีขนำดเล็ก สีน้่ำตำลไม่มีคลอโรฟิลล์ รูปร่ำงเป็นแท่ง
ทรงกระบอก แตกแขนงได้

ตวั อยา่ งชนดิ พืช

ดิวิชันไลโคไฟตา

(Division Lycophyta)

สปอโรไฟต์ของพืชดิวิชันน้ีมีรำก ล่ำต้น และใบครบทุกส่วน
มีลักษณะเป็นไม้เน้ืออ่อนท่ีมีขนำดไม่ใหญ่มำกนัก พวกท่ีเจริญ
อยู่บนพ้ืนดิน อำจมีล่ำต้นต้ังตรงหรือทอดนอน บำงชนิดอำศัย
เกำะบนตน้ ไม้อื่น ล่ำต้นแตกก่ิงเป็น 2 แฉก ใบมีขนำดเล็ก เป็น
ใบแบบไมโครฟิลล์ คือเป็นใบท่ีมีเส้นใบเพียงเส้นเดียว สปอโร
ไฟต์ท่เี จริญเต็มท่ีแล้ว จะสร้ำงอับสปอร์บนใบที่มักมีรูปร่ำงและ
ขนำดแตกต่ำงไปจำกใบที่พบท่ัวไป เรียกใบชนิดน้ีว่ำ สปอโร
ฟิลล์ ซ่ึงจะมำเรียงซ้อนกันแน่นอยู่ท่ีปลำยกิ่งเป็นโครงสร้ำงท่ี
เรียกว่ำ สโตรบิลัส หรือโคน พืชในดิวิชันน้ีมีทั้งที่สร้ำงสปอร์
ชนิดเดียวและ 2 ชนิด ตัวอย่ำงท่ีรู้จักกันดีได้แก่ รู้จักในชื่อไทย
ว่ำ ช้องนำงคลี่ สร้อยสุกรม สำมร้อยยอด และหำงสิงห์เป็นต้น
ท่พี บในปจั จบุ ันมปี ระมำณ 200 ชนิด

ตวั อย่างพืช

ดิวชิ ันสฟีโนไฟตา

(Division Sphenophyta)

ดวิ ิชันสฟโี นไฟตำ(DivisionSphenophyta)
พชื ท่ีมที ่อลำ่ เลยี งในดิวิชนั นมี้ ีเพยี ง วงศ์เดยี ว คอื Equisetaceae
แกมีโตไฟต์มขี นำดเลก็ เจรญิ อย่ใู ต้ดนิ สปอโรไฟตม์ ขี นำดใหญ่
อำยยุ นื มีซลิ ิกำ ล่ำตน้ เปน็ ขอ้ ปล้องชดั เจน ปล้องเปน็ รอ่ งและสนั
ขอ้ มีใบแบบไมโครฟลิ ล์อยู่รอบขอ้ เรียงแบบwhorlเปน็
homosporous plant โดยสปอแรงเจียมเจริญอยู่บนโครงสรำ้ ง
ทีเ่ รียกว่ำสปอแรงจโิ อฟอร์ (sporangiophore)

ตวั อย่างพืช

ดวิ ิชันเทอโรไฟตา

(Division Pterophyta)

พืชดิวิชนั นี้มีช่อื ท่วั ไปว่ำ เฟริ ์น (fern) มจี ่ำนวนมำกทสี่ ุด
ในบรรดำพโรไฟต์ของเฟิร์นมีรำก ล่ำตน้ และใบเจรญิ ดี เฟิร์นสว่ น
ใหญม่ ีลำ่ ตน้ ใตด้ ิน ใบของเฟริ ์นเรยี กว่ำ ฟรอนด์ เปน็ ส่วนทเี่ ห็น
เดน่ ชดั มขี นำดใหญ่เปน็ ใบแบบเมกะฟลิ ล์ มีรปู ร่ำงลกั ษณะเปน็
หลำยแบบ มีทง้ั ท่เี ปน็ ใบเด่ียว และใบประกอบ ใบออ่ นของเฟิร์น
มีลักษณะพิเศษคอื จะม้วนเป็นวง สปอโรไฟตท์ ่เี จริญเตม็ ทีจ่ ะ
สรำ้ งอบั สปอร์ ซึ่งมำรวมกล่มุ อยู่ทด่ี ำ้ นได้ใบ แต่ละกลมุ่ ของอบั
สปอร์เรียกวำ่ ซอรัส เฟิรน์ สว่ นใหญส่ ร้ำงสปอร์ชนดิ เดยี ว ยกเว้น
เฟริ ์นบำงชนดิ ท่อี ยูใ่ นน้่ำ และทชี่ นื้ แฉะ ได้แก่ จอกหหู นู แหนแดง
และผกั แวน่ มกี ำรสรำ้ งสปอร์ 2 ชนิด แกมีโทไฟตข์ องเฟิร์นทส่ี ร้ำง
สปอร์ชนดิ เดียว มลี กั ษณะเปน็ แผ่นแบนบำงสีเขยี ว
(มีคลอโรฟิลล)์ ดำ้ นล่ำงมีไรซอยด์ ส่วนใหญ่มักมีรูปร่ำงคลำ้ ยรปู
หัวใจ

ตวั อย่างพืช

ดวิ ชิ ันโคนิเฟอโรไฟตา
(Division Coniferophyta)

เป็นจิมโนสเปริ ม์ ท่ีมีจำ่ นวนมำกทสี่ ดุ มหี ลำยสกลุ ดว้ ยกนั
ทร่ี ้จู กั กนั ดีคือ Pinus ได้แก่ สนสองใบ และสนสำมใบ เป็นต้น สปอโร
ไฟต์ของ Pinus มีลกั ษณะเปน็ ไม้ยนื ตน้ ขนำดค่อนขำ้ งใหญ่ และแตก
กง่ิ กำ้ นสำขำจำ่ นวนมำก ใบมขี นำดเลก็ รูปรำ่ งคล้ำยเข็ม อยรู่ วมกัน
เปน็ กลุ่ม สปอโรไฟตท์ ีเ่ จริญเตม็ ท่จี ะสร้ำงโคนเพศผทู้ ม่ี ีขนำดเล็กและ
โคนเพศเมียท่ีมีขนำดใหญบ่ นต้นเดียวกัน

ตวั อยา่ งตน้ ไม้

ดวิ ชิ ันไซแคโดไฟตา
(Division Cycadophyta)

พชื ดวิ ชิ ันน้ีมีอยู่ประมำณ 60 ชนิด ตัวอย่ำงท่ีรู้จักกันดี
คือ พวกปรง (Cycas) สปอโรไฟต์มีล่ำต้นอวบ เต้ีย และมัก
ไม่แตกแขนง มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกขนำดใหญ่
เกดิ เปน็ กระจุกท่ีบริเวณยอดของล่ำต้น ใบยอ่ ยมรี ปู ร่ำงเรียว
ยำว และแข็งสปอโรไฟต์ท่ีเจริญเต็มที่จะสร้ำงโคนเพศผู้
และโคนเพศเมยี แยกตวั กนั

ตวั อย่างพืช

ดิวชิ ันกงิ โกไฟตา
(Division Ginkophyta)

ปัจจุบันมีเพียงชนิดเดียวคือ Ginkgo biloba
หรือแปะก๊วย เป็นพืชที่ขึ้นอยู่ในเขตอบอุ่น เช่น ใน
ประเทศจีน สปอโรไฟต์มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนำดสูง
ใหญ่ แตกก่ิงก้ำนสำขำเป็นจ่ำนวนมำก ใบมีรูปร่ำง
คล้ำยพัด สปอโรไฟต์ท่ีเจริญเติบโตเต็มท่ีจะสร้ำงโคน
เพศผแู้ ละโคนเพศเมียแยกตน้ กนั

ตวั อย่างพืช

ดิวชิ ันอแนโทไฟตา
(Division Anthophyta)

แบ่งออกได้เป็น 2 คลำส คือ 1.คลำสไดคอทีเลโดเนส
(Class Dicotyledones) ได้แก่ พืชใบเล้ียงคู่ทั้งหมด มี
อย่ปู ระมำณ 170,000 ชนิด ลักษณะท่ัวไปคือ มีใบเล้ียง
2 ใบ เส้นใบเป็นร่ำงแห รำกเป็นระบบรำกแก้ว และ
ส่วนประกอบของดอก (เช่น กลีบเล้ียง กลีบดอก) มี
จำ่ นวนเปน็ 4–5 หรือ ทวีคณู ของ 4–5

2.คลำสมอโนคอทีเลโดส (Class Monocotyledones)

ได้แก่ พืชใบเลี้ยงเด่ียวท้ังหมดมีอยู่ประมำณ 60,000
ชนิด ลักษณะทั่วไป คือ มีใบเล้ียงใบเดียว ใบมีเส้นใบ
เรยี งตัวแบบขนำน รำกเปน็ ระบบรำกฝอย ส่วนประกอบ
ของดอกมจี ่ำนวนเปน็ 3 หรอื ทวีคณู ของ 3

ตวั อย่างพืช


Click to View FlipBook Version