นาฏศิศิ ศิศิ ลป์ป์ป์ป์ไทย สมัมั มั ย มั ยพระบาทสมเด็ด็ ด็ จด็ จ พระปรเมนทร มหาอานันั นั น นั นทมหิหิ หิ ด หิ ดล
คำคำคำคำ คำคำ นำนำนำนำ นำนำ รายงานเล่มนี้จั นี้ ด จั ทำ ขึ้น ขึ้ เพื่อ พื่ เป็น ป็ ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ของวิชาศิล ศิ ปะ 5 (ศ33101) ชั้น ชั้ มัธ มั ยมศึกษาปีที่ ปี ที่ 6 เพื่อ พื่ ให้ไห้ ด้ศึกษาหาความรู้ใรู้นเรื่อ รื่ งนาฏศิล ศิ ป์ไป์ ทยในสมัย มั พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรมหาอานัน นั ทมหิด หิ ล (รัช รั กาลที่ 8) และได้ศึก ศึ ษา อย่า ย่ งเข้า ข้ ใจเพื่อ พื่ เป็น ป็ ประโยชน์กั น์ กั บการเรีย รี น ผู้จัผู้ ด จั ทำ หวังว่า รายงานเล่มนี้จ นี้ ะเป็น ป็ ประโยชน์กั น์ กั บผู้อ่ผู้ อ่ าน หรือ รื นัก นั เรีย รี น นัก นั ศึกษา ที่กำ ที่ กำ ลังหาข้อ ข้ มูล มู เรื่อ รื่ งนี้อ นี้ ยู่ หากมีข้ มี อ ข้ แนะนำ หรือ รื ข้อ ข้ ผิด ผิ พลาด ประการใด ผู้จัผู้ ด จั ทำ ขอน้อ น้ มรับ รั ไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ ที่ ด้ นี้ ด้ วย
หน้า 1 พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร มหาอานันทมหิดล หน้า 2 ความเป็นมาของนาฏศิลป์ไทยสมัยร.8 หน้า 3 ประวัติหลวงวิจิตรวาทการ หน้า 4 ละครหลวงวิจิตรวาทการ หน้า 5 ผู้แสดง, การแต่งกาย, เรื่องที่แสดง หน้า 6 ดนตรี, สถานที่แสดง หน้า 7 ละคร เรื่อง เจ้าหญิงแสนหวี หน้า 8 ประวัติโรงเรียนนาฏดุริยางคศิลป์ หน้า 9 ชื่อสมาชิก สารบับั บับั ญ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลอดุลยเดชวิมลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทรสยามมินทราธิราชบรมนาถบพิตร ทรงมีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าอานันทมหิดล ในสมัยรัชกาล ที่ 7 สถาปนาเป็น ป็ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล ทรงเป็น ป็ พระราชโอรสพระองค์แรกในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งมีฐานเป็น ป็ พระอนุชา ในรัชกาลที่ 6 และเป็น ป็ พระเชษฐาในรัชกาลที่ 7 ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากวงการการแพทย์แผนไทยว่า ทรงเป็น ป็ “ พระบิดาแห่งวงการแพทย์แผนปัจปัจุบันของไทย” และสมเด็จพระ ศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชสมภพ ณ วันอาทิตย์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีฉปีลู ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ณ เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี เวลา 1.00 นาฬิกา ตรงกับรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีสมเด็จพระเชษฐภคินีพระองค์หนึ่ง คือ พระองค์เจ้ากัลยาณิวัฒนา ประสูติเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 ได้รับการสถาปนาเป็น ป็ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าฟ้กัลยาณิ วัฒนาในภายหลัง และมีสมเด็จพระราชอนุชาพระองค์หนึ่ง คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจปัจุบัน ทรงพระราชสมภพ ณ วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เมื่อยังทรงพระเยาว์ทรงตามเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนีไปประทับยังต่างประเทศจนพระชนมายุ 3 พรรษา จึงได้เสด็จกลับ ประเทศไทย ประทับ ณ วังสระปทุม กรุงเทพมหานคร และเมื่อทรงพระชนมายุ 4 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนกก็เสด็จทิวงคต การอบรมอภิบาลจึงอยู่ในพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชชนนี แต่เพียงพระองค์เดียว เมื่อพระชนมายุ 7 พรรษา ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีแล้วจึงทรงย้ายไปเข้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ สภาพบ้านเมืองในระหว่างนี้มีความผันผวนทางการเมือง และเศรษฐกิจครั้ง ใหญ่ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คณะราษฎร์ก่อการปฏิวัติเข้ายึดอำ นาจเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า ทรงเห็นเป็น ป็ โอกาส ที่จะส่งพระราชนัดดาทั้งสามพระองค์ไปศึกษาต่อยังประเทศที่เหมาะสม ประกอบกับพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงมีพระพลานามัยที่ไม่แข็งแรงมาตลอด จึง ทรงไปเพื่อเป็น ป็ การรักษาพระพลานามัยของพระนัดดาด้วย สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงเลือกเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็น ป็ สถานที่ประทับ ความเป็น ป็ อยู่ของพระองค์เป็น ป็ ไปอย่างธรรมดาเรียบง่ายท่ามกลางความสุข ตราบจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปประทับรักษาพระเนตรที่อังกฤษ และได้ ทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ด้วยการสืบราชสมบัติตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม ซึ่งเป็น ป็ ไปตามนัยแห่งกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 และด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติอัญเชิญ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์สืบราชสันติราชวงศ์ เป็น ป็ พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 8 พรรษา 5 เดือน 13 วัน พระราชประวัวั วัวั ติติ ติติ พระบาท สมเด็ด็ ด็ด็ จพระปรเมนทร มหาอานันั นันั นทมหิหิ หิหิ ดล
เพื่อ พื่ ป้อ ป้ งกันไม่ใม่ ห้ศิ ห้ ลปะทางด้านนาฏศิลป์สู ป์ ญสู หายไป หลวงวิจิต จิ รวาทการ อธิบดีของ กรมศิลปาการ ได้ก่อตั้งโรงเรีย รี นนาฏดุริ ดุ ย ริ างคศาสตร์ขึ้ ร์ น ขึ้ มา ในสมัย มั นี้ไนี้ ด้เกิดละครวิจิต จิ ร ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ ละครปลุก ลุ ใจให้รั ห้ ก รั ชาติ และเป็น ป็ การสร้า ร้ งแรง จูง จู ใจให้ค ห้ นไทยหัน หั มาสนใจนาฏศิลป์ไป์ ทย และได้มีก มี ารตั้งโรงเรีย รี นนาฏศิล ศิ ป์แ ป์ ทนโรงเรีย รี น นาฏดุริ ดุ ย ริ างคศาสตร์ ซึ่ง ซึ่ ถูก ถู ทำ ลายตอนสงครามโลกครั้ง รั้ ที่ 2 เพื่อเป็น ป็ สถานศึก ศึ ษา นาฏศิลป์แ ป์ ละดุริ ดุ ย ริ างคศิลป์ข ป์ องทางราชการ และเป็น ป็ การทุบำ ทุ บำรุง รุ เผยแพร่น ร่ าฏศิล ศิ ป์ไป์ ทย ให้เ ห้ป็น ป็ ที่ย ที่ กย่อ ย่ งนานาอารยาประเทศ ความเป็ป็ป็ น ป็ นมาของนาฏศิศิ ศิ ล ศิ ลป์ป์ป์ไป์ ทยในสมัมั มั ย มั ย รัรั รั ช รั ชกาลที่ที่ ที่ที่ 8
พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ มีนามเดิมว่ากิมเหลียง วัฒนปฤดา (ภายหลังเปลี่ยนเป็น ป็ วิจิตรวาท การ) มีบิดาชื่อ นายอิน วัฒนปฤดา และมารดาชื่อ นางคล้าย วัฒนปฤดา หลวงวิจิตรวาทการ เกิดที่จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2441 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน ภาย หลังสมรสกับภรรยาชื่อ คุณหญิงประภาพรรณ วิจิตรวาทการ (ประภา รพิพันธุ์) หลวงวิจิตราวาทการ จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดขวิด ตำ บลสะแก กรัง อำ เภอน้ำ ซึม จังหวัดอุทัยธานีเมื่ออายุได้ 10 ขวบ และสอบได้เปรียญ 5 ประโยคจากสำ นัก วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2459 จากนั้นจึงได้มีโอกาสไปศึกษาทางด้านกฎหมายที่ ฝรั่งเศส ณ มหาวิทยาลัยปารีส แต่ไม่ทันได้รับปริญญาก็ต้องย้ายไปประจำ ที่สถานทูตไทยที่กรุง ลอนดอนเสียก่อน ต่อมาก็เข้าศึกษาด้านรัฐศาสตร์พร้อมกับการศึกษากฎหมายที่กรุงปารีส แต่ ต้องย้ายไปลอนดอนก่อนการสอบขั้นสุดท้าย และนอกจากนี้ยังได้รับปริญญาระดับดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ วิชาการทูตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ วิชาเศรษฐศาสตร์สหกรณ์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้รับปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎี บัณฑิต กิตติมศักดิ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประวัวั วัวั ติติ ติติ หลวง วิวิ วิวิ จิจิ จิจิ ตรวาทการ
ละครไทย เป็น ป็ ศิล ศิ ปะและวัฒนธรรมไทย ซึ่ง ซึ่ มีม มี าตั้งแต่สมัย มั โบราณ หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. ๒๔๗๕ กรมศิล ศิ ปากรได้รวบรวม ศิล ศิ ปิน ปิ โขน ละคร และนัก นั ดนตรี ขึ้น ขึ้ มารวมกันใหม่อี ม่ อี กครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ตั้งเป็น ป็ กองขึ้น ขึ้ ในกรมศิล ศิ ปากร ทั้ง ทั้ ได้ตั้งโรงเรีย รี นนาฏดุริ ดุ ย ริ างค์ศาสตร์ ขึ้น ขึ้ฝึก ฝึฝนนัก นั เรีย รี นด้วย เพื่อ พื่ รัก รั ษาศิล ศิ ปะของชาติไว้มิใมิ ห้เ ห้ สื่อ สื่ มสูญสู ในระยะนี้ห นี้ ลวงวิจิต จิ รวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา) ดำ รงตำ แหน่ง น่ อธิบดีกรมศิล ศิ ปากร เป็น ป็ ทั้ง ทั้ นัก นั การทูต ทู และนัก นั ประวัติศาสตร์ ท่า ท่ นจึง จึ มองเห็น ห็ คุณ คุ ค่าทางการละครที่จ ที่ ะใช้เ ช้ป็น ป็ สื่อ สื่ ปลุก ลุ ใจ ให้ปห้ ระชานเกิดความรัก รั ชาติ เนื้อ นื้ หาจะนำ มาจากประวัติศาสตร์ต ร์ อนใด ตอนหนึ่ง นึ่ บทละครจะมีทั้ง ทั้ รัก รั รบ อารมณ์ส ณ์ ะเทือ ทื นใจ ความรัก รั ที่มี ที่ ต่ มี ต่ อคู่รั คู่ ก รั ถึงแม้ จะมากมายเพีย พี งไร ก็ไม่เท่า ท่ กับความรัก รั ชาติ ตัวเอกของเรื่อ รื่ งเสีย สี สละชีวิ ชีวิ ต พลี ชีพ ชี เพื่อ พื่ ชาติ ด้วยเหตุที่ ตุ ล ที่ ะครของท่า ท่ นไม่เ ม่ หมือ มื นการแสดงละครที่มี ที่ อ มี ยู่ก่ยู่ ก่ อน คน ทั้ง ทั้ หลายจึง จึ เรีย รี กละครของท่า ท่ นว่า "ละครหลวงวิจิต จิ รวาทการ" ผู้แผู้ สดง มัก มั ใช้ผู้ ช้ ผู้ แสดงทั้ง ทั้ ผู้ชผู้ าย และผู้หผู้ ญิง ญิ แสดงตามบทบาทในเรื่อ รื่ งที่กำ ที่ กำ หนด ละครหลวงวิวิ วิวิ จิจิ จิจิ ตรวาทการ
การแต่งกาย ผู้แผู้ สดง ผู้แผู้ สดง จะใช้ผู้ ช้ แผู้ สดงที่เ ที่ ป็น ป็ ทั้ง ทั้ ผู้ชผู้ ายและ ผู้หผู้ ญิง ญิ แสดงจริงตามบทบาทในเรื่อง แต่งกายตามเนื้อ นื้ เรื่อ รื่ งและให้ถู ห้ ก ถู ต้องตาม ประวัติศาสตร์ที่ ร์ เ ที่ กี่ยวข้องในเรื่อ รื่ งนั้น นั้ ๆ เรื่อ รื่ งที่แสดง ได้แก่ ราชมนู พระเจ้า จ้ กรุง รุ ธน ศึก ศึ ถลาง เจ้า จ้ หญิง ญิ แสนหวี พระมหาเทวี เบญจเพส น่านเจ้า จ้ อนุสาวรีย์ รี ไย์ ทย พ่อ พ่ ขุน ขุ ผาเมือ มื ง ดาบแสนเมือ มื ง ชนะมาร เจ้า จ้ หญิง ญิ กรรณิก ณิ าร์ สีห สี ราชเดโช ตายดาบหน้า ลานเลือดลานรัก รั เพชรรัต รั น์-น์ พัช พั รา ลูก ลู พระคเณศ ครุฑ รุ ดา โชคชีวิ ชีวิ ต อานุภ นุ าพ พ่อ พ่ ขุน ขุ- รามคำ แหง อานุภ นุ าพแห่ง ห่ ความเสีย สี สละ อานุภาพแห่ง ห่ ความรัก รั อานุภ นุ าพแห่ง ห่ ศีล ศี สัต สั ย์ และเลือดสุพ สุ รรณ
ดนตรีรีแ รีรี ละสถานที่ที่ ที่ที่ แสดง ดนตรี ดนตรีบรรเลงด้วยวงดนตรีไทยและวงดนตรีสากลประกอบกัน เพลงร้อง มีทั้งเพลงไทยเดิมและเพลงไทย สากล ซึ่งการใช้เพลงไทยสากลจะมี ๓ ลักษณะ คือ ๑. เพลงไทยสากลที่ให้ตัวละครร้องโต้ตอบกัน มักเป็นเพลงรัก เช่น เพลงดวงจันทร์ ในบทละครเรื่อง เลือดสุพรรณ ๒. เพลงไทยสากลที่ให้ตัวละครร้องประกอบการแสดง เนื้อร้องและท่วงทานองมัก สอดคล้องกับบรรยากาศในท้องเรื่อง เช่น เพลงยากเย็น ในบทละครเรื่องเลือดสุพรรณ ๓. เพลงไทยสากลอีกประเภท คือ เพลงปลุกใจ ซึ่งมักแทรกอยู่ในบทละคร ประวัติศาสตร์ของท่านแทบทุกเรื่อง เช่น เพลงเลือดสุพรรณ ในบทละครเรื่องเลือดสุพรรณ สถานที่แสดง สถานที่แสดง แสดงได้ทุกสถานที่ และจะมีการจัด ฉากที่วิจิตรบรรจงประกอบการแสดง
บทคัคั คัคั ดย่ย่ ย่ย่ อ ละคร เรื่รื่ รื่รื่ อ รื่รื่ งเจ้จ้ จ้จ้ าหญิญิ ญิญิ งแสนหวีวี วีวี ละครเรื่อ รื่ ง เจ้า จ้ หญิง ญิ แสนหวี บทประพัน พั ธ์ของ พลตรีห รี ลวงวิจิต จิ รวาท การเป็นละครอิงประวัติศาสตร์ก่ ร์ ก่ อนสมัย มั สุโ สุ ขทัย ทั เป็นเรื่อ รื่ งราวความรัก รั และ ความขัด ขั แย้ง ย้ ระหว่างรัฐ รั ไทยสองรัฐ รั ในอดีต คือ แสนหวี กับ เขมรัฐ รั ซึ่ง ซึ่ ตาม ประวัติศาสตร์ คือ ไทยน้อ น้ ย และไทยใหญ่เ ญ่ นื้อ นื้ เรื่อ รื่ ง เจ้า จ้ หญิง ญิ แสนหวี เริ่ม ริ่ ต้นด้วย ความรัก รั ความรื่น รื่ รมย์ ซึ่ง ซึ่ เกิดจากการผูก ผู ไมตรีข รี องรัฐ รั ทั้ง ทั้ สอง แต่ต่อมาเกิด ความขุ่นขุ่ ข้อ ข้ งหมองใจกันขึ้น ขึ้ จึง จึ ลงเอยด้วยความโศกเศร้า ร้ แต่โศกนาฏกรรมใน ครั้ง รั้ นี้ก นี้ ลับเป็นเครื่อ รื่ งเตือนใจให้ช ห้ าวไทยน้อ น้ ยและไทยใหญ่มี ญ่ ค มี วามสัม สั พัน พั ธ์ที่ แน่น น่ แฟ้น ฟ้ ยิ่ง ยิ่ ขึ้น ขึ้ นอกจากนี้ เนื้อ นื้ เรื่อ รื่ งยัง ยั ให้ค ห้ ติสอนใจ ถึงการกระท าตามใจ ตนเองของผู้นผู้ า โดยไม่คิ ม่ คิ ดถึงผลร้า ร้ ยที่จ ที่ ะเกิดขึ้น ขึ้ แก่ประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น นั้ ละครเรื่อ รื่ งนี้จึ นี้ ง จึ เป็น ป็ เรื่อ รื่ งราวที่ปที่ ลุก ลุ จิต จิ ส านึก นึ ของความรัก รั ชาติ ดังค าที่ว่ ที่ ว่ า “รัก รั ชาติยิ่ง ยิ่ ชีพ ชี ”
โรงเรีรีย รีรี นนาฏ ดุดุ ดุดุ ริริย ริริ างคศาสตร์ร์ ร์ร์ วิทยาลัยนาฏศิลศิ ป เดิมมีชื่ มี อ ชื่ ว่า "โรงเรีย รี นนาฏดุริ ดุ ยริางคศาสตร์"ร์ เปิดปิสอนครั้ง รั้ แรก เมื่อ มื่ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 นับ นั เป็นสถาบัน บั ของชาติแห่ง ห่ แรกที่ใที่ ห้ก ห้ ารศึก ศึ ษาทั้ง ทั้ วิชาสามัญ มั และวิชาศิลศิ ป ขึ้น ขึ้ อยู่กัยู่ กั บกรมศิลศิ ปากร กระทรวงศึก ศึ ษาธิการ ผู้ก่ผู้ ก่ อตั้งโรงเรีย รี นนี้คื นี้ คื อ พลตรีห รี ลวงวิจิตจิรวาทการ อธิบดีคนแรกของกรมศิลศิ ปากร ต่อมาเมื่อ มื่ พ.ศ. 2478 ทางการมี ความประสงค์ที่จ ที่ ะให้วิ ห้ วิชาศิลศิ ปทางโขน ละคร และดนตรี มารวมอยู่ใยู่ นสัง สั กัดเดียวกัน จึง จึได้ โอนครูอ รู าจารย์ท ย์ างนาฏศิลศิ ป์แ ป์ ละดุริ ดุ ยริางคศิลศิ ป์ กับศิลศิ ปินปิ ประจำ ราชสำ นัก นั ของพระมหา กษัตริย์ริ ย์ รวมทั้ง ทั้ เครื่อ รื่ งดนตรี เครื่อ รื่ งโขน เครื่อ รื่ งละครของหลวงบางส่ว ส่ นจากกระทรวงวัง (สำ นัก นั พระราชวัง ในปัจ ปั จุบั จุ น บั ) ให้ม ห้ าสัง สั กัดกรมศิลศิ ปากร กรมศิลศิ ปากรจึง จึได้แก้ไขปรับ รั ปรุง รุ การศึก ศึ ษาของโรงเรีย รี นนาฏดุริ ดุ ยริางคศาสตร์ใร์ ห้ก ห้ ว้างขวางยิ่งยิ่ขึ้น ขึ้ ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ได้มีคำ มี คำ สั่ง สั่ ตั้งโรงเรีย รี นศิลศิ ปากร (มหาวิทยาลัยศิลศิ ปากร ในปัจ ปั จุบั จุ น บั ) สอนวิชาช่า ช่ งปั้น ปั้ ช่า ช่ งเขีย ขี น และช่า ช่ งรัก รั ขึ้น ขึ้ อยู่กัยู่ กั บกรมศิลศิ ปากร และให้โห้ รงเรีย รี นนาฏดุริ ดุ ยริางคศาสตร์ไร์ปรวม เป็นแผนกหนึ่ง นึ่ ของโรงเรีย รี นศิลศิ ปากร
สมาชิชิ ชิชิ กในกลุ่ลุ่ลุ่ลุ่ม นายกรภัทร์ ฟองละมุล มุ ม.6/12 เลขที่ 1 นางสาวจิรั จิ ช รั ยา ไชยสิท สิ ธิ์ ม.6/12 เลขที่ 22 นางสาวภูริ ภู ช ริ ญา เกื้อท่า ท่ ดี ม.6/12 เลขที่ 30 นางสาวกนกนภา คงประดิษฐ์ ม.6/12 เลขที่ 39 นางสาวณิช ณิ ารีย์ รี ย์ แก้วศรี ม.6/12 เลขที่ 40