The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ออกแบบแปรนด์กระเป๋า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Suteethida Winakrom, 2024-01-26 00:06:24

กระเป๋าแฟชั่น

ออกแบบแปรนด์กระเป๋า

รายงาน เรื่อง ธุรกิจร้านกระเป๋าแฟชั่น จัดทำโดย นางสาวสุธีธิดา วินากรม เลขที่ 16 นางสาวสรัญยา พิลารัตน์ เลขที่ 13 นางสาวศศิมา เกือบกลาง เลขที่ 14 นางสาวนันทพร พรมวงศ์ศา เลขที่ 9 นายกีรติ แสงพล เลขที่ 6 เสนอ อาจารย์อามรรัตน์ สุดวิสัย รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ รหัสวิชา 20001-1003 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิควังน้ำเย็น


คำนำ เพื่อพัฒนาระบบร้านขายกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถ เลือกชมสินค้าก่อนสั่งซื้อได้ และเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของร้านขายกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อของลูกค้า ระบบร้านขายกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์มีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดความผิดพลาด และความ ซับซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของระบบ ขายกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์สามารถจัดการทำงาน เช่น การสั่งซื้อสินค้า, การตัดสต็อกสินค้า, การเพิ่ม ลบ แก้ไข สินค้า รวมไปถึงการออกรายงานการขาย นอกจากนี้ระบบยังสามารถค้นหาข้อมูลของสินค้ารวมถึง รายละเอียดของสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผลที่ได้รับจากระบบร้านกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้า และสั่งซื้อ สินค้าผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของ ทางร้านขายกระเป๋าแฟชั่นออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินกิจการ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้า ผ่านทางระบบออนไลน์ได้ คณะผู้จัดทำ นางสาว สุธีธิดา วินากรม นางสาว สรัญยา พิลารัตน์ นางสาว ศศิมา เกือบกลาง นางสาว นันทพร พรมวงศ์ศา นาย กีรติ แสงพล


สารบัญ เรื่อง หน้า บทสรุปผู้บริหาร 1 ประวัติกิจการหรือภาพรวมของกิจการ 2 การวิเคราะห์สถานการณ์ 3 แผนการตลาด 4 แผนการบริหารจัดการและแผนการดำเนินงาน 5-10 แผนการผลิต (บริหาร) 11-14 แผนการเงิน 15 แผนการสำรอง (แผนฉุกเฉิน) 16 ภาคผนวก 17 แบบประเมินแผนธุรกิจ


บทสรุปผู้บริหาร ธุรกิจขายกระเป๋าแฟชั่นเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะแน่นอนว่า กระเป๋าคือหนึ่งในปัจจัยที่มนุษย์ทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน จากความเฟื่องฟูของยุคดิจิตอล ส่งผลให้เทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ แพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็ว คนจึงเริ่มสนใจติดตามแฟชั่นมากขึ้น การเติบโตของตลาดแฟชั่นจึงเพิ่มตามไปด้วย นับเป็นโอกาสทองของเหล่าผู้ประกอบการขายส่งกระเป๋าเมื่อผู้ค้าปลีกที่สนใจในตลาดแฟชั่นมักคิดถึงกระเป๋า ภาพของการขายยก กระสอบ จึงเป็นสิ่งที่เห็นจนชินตาตามแหล่งขายส่งสินค้าแฟชั่นขนาดใหญ่ เช่น แพลตตินัม ประตูน้ำ หรือแม้แต่แหล่งอื่น ๆ ที่รู้กันเฉพาะในหมู่แม่ค้า การขายเสื้อผ้าแฟชั่นอาจจัดเป็นธุรกิจปราบเซียนของใครหลายคน แต่เชื่อเถิดว่ามีคน จำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนี้ และโดยมากผู้ที่ประสบความสำเร็จก็มักมีสิ่ง ที่เหมือน ๆ กันคือ ความใส่ใจในรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งผู้ที่ล้มเหลวไม่มีทางเข้าใจ แผนธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ ครอบคลุมการวิเคราะห์ภาพรวม ธุรกิจร้านขายกระเป๋าในปัจจุบัน การวางแผนกระบวนการจัดการร้านตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ รูปแบบสินค้าที่มีมาตรฐาน มีการทำการตลาดโดยเน้นสื่อออนไลน์ การบริหารกำลังคนที่เหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด กลยุทธ์ทางการเงิน รวมถึงการเก็บข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจ จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการจำเป็นต้อง พัฒนารูปแบบสินค้าที่หลากหลาย และมีส่งเสริมการขายด้วยการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์


ประวัติกิจการหรือภาพรวมของกิจการ เกิดขึ้นจาก อยากมีรายได้เสริม จึงปรึกษากับครอบครัวและเพื่อนที่สนิท ว่าอยากขายของแต่ไม่รู้จะขายอะไร แม่จึงแนะนำให้ขายประเป๋าเเฟชั่น โดยทำเป็นแบรนด์ของตัวเอง แม่จึงแนะนำโรงงานผลิตกระเป๋าของเพื่อน ที่กรุงเทพ จึงลงทุนกับเพื่อนทั้งหมด 5 คน คนละ 15000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 75000 บาท และนัดวันเวลาเพื่อไปโรงงานกระเป๋าที่กรุงเทพและช่วยกันออกแบบกระเป๋าหลากหลายแบบ เมื่อถึงวันที่กำหนดก็ได้ทำการเดินทางไปที่โรงงานผลิตกระเป๋าที่กรุงเทพโดยไปกับเพื่อน 2 คน เมื่อถึงโรงงาน ได้นำรูปแบบกระเป๋าที่จะผลิตให้กับโรงงานดูเพื่อผลิตกระเป๋าในแบบที่ตามที่ต้องการ เมื่อให้โรงงานดูแบบกระเป๋าแล้วสามารถทำได้ โรงงานได้ทำการให้เราเลือกหนังของกระเป๋า เมื่อเลือกหนังกระเป๋าที่ต้องการได้แล้ว ได้ทำการทำมัดจำ จำนวน 25000 บาท และทำสัญญาระหว่างโรงงานผลิตกระเป๋า เมื่อโรงงานได้ทำกระเป๋าจนเสร็จ วันมารับให้จ่ายส่วนที่เหลืออีกจำนวน 50000 รวมที่มัดจำเป็นเงินทั้งสิ้น 75000 บาท เมื่อจ่ายเงินครบแล้วโรงงานได้ทำการส่งกระเป๋าที่เราสั่งทำทั้งหมดมาที่บ้าน เมื่อได้รับกระเป๋ามาแล้วได้ทำการนัดเพื่อนๆมารวมกันเพื่อไลฟ์สดในช่องทาง TikTok วันแรกขายยังไม่ได้ดีมาก ได้ปรึกษากันทำการศึกษาทำการตลาดให้มากขึ้น เช่น การสร้างตัวตน การสร้างคอนเทนต์ และตามเทรนด์ในช่วงๆนั้นให้ทัน เมื่อได้ทำการศึกษามาสักพักเรามีคนรู้จักในตัวแบรนด์เราและสินค้ามากขึ้น ได้กลับมาไลฟ์สดขายใน TikTok อีกครั้ง ในครั้งนี้เราสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้นมากกว่าครั้งแรก จึงทำการติดต่อโรงงานกลับไปอีกครั่งเพื่อผลิตกระเป๋าครั้งนี้เราได้ส่งแบบกระเป๋าไปมากขึ้น ได้ทำการจ้างพนักงานมาแพ็คของเพื่อขยายกิจการ เมื่อได้กระเป่าจากโรงงานในรอบนี้สินค้าของเราเป็นที่ต้องการมากในตลาดออนไลน์ แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นทำให้กิจการในการขายกระเป๋าของเราค่อยๆเติบโตขึ้น


การวิเคราะห์สถานการณ์ จุดแข็ง 1. แบรนด์เป็นที่รู้จักค่อนข้างมาก 2. กระเป๋าที่รับมาเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นจึงทำให้ขายได้ง่าย 3. กระเป๋ามีคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 4. สร้างคอนเทนต์และตามกระแสอยู่ตลอดทำให้ติดเทรนด์ 5. ราคาจับต้องได้ ไม่สูงมากเกินไป จุดอ่อน 1. ถูกปิดการมองเห็นในช่องทาง TikTok 2. ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้ง่าย ทำให้มีคู่แข่งจำนวนมาก โอกาส 1.ตลาดสินค้ากระเป๋าแฟชั่น เปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการทุกรายทั้งรายเล็กและรายใหญ่ 2. ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ของสินค้าแต่เลือกซื้อเพราะรูปแบบคุณภาพและราคาเป็นสำคัญ 3. มีผู้คนอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์เราทำให้กิจการขยายตัวได้เร็วขึ้น อุปสรรค 1.ลูกค้าบางรายอาจไม่ชอบรูปแบบของกระเป๋าที่เรามี 2. ในบางครั้งอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าเพราะบางช่วงกระเป๋าเป็นที่นิยมมาก 3. กระเป๋าเป็นประเภทที่มีคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม 4. ขนส่งทำการส่งสินค้าล้าช้าทำให้ลูกค้าไม่พอใจ 5. ขนส่งทำสินค้าตกหล่นทำให้ตัวสินค้าเกิดมีปัญหาฉีกขาด


แผนการตลาด 1 เป้าหมายทางการตลาด 1.1 เป้าหมายระยะสั้น สร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งและขยายกลุ่มลูกค้าให้หลากหลาย และสร้างการรับรู้ใน แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ กิจกรรม หรือรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าได้ 1.2 เป้าหมายระยะกลาง ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ สร้างเว็บไซต์ขายสินค้า สร้างตัวแทนในการขายสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางขายสินค้าให้กระจายมากขึ้น 1.3 เป้าหมายระยะยาว การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แบบ 100% โดยลูกค้าจะชำระเงินผ่านบัตร เครดิต หรือระบบการจ่ายเงินออนไลน์ต่าง ๆ บนหน้าเว็บได้เลย และสามารถทำกำไรได้อย่าง ต่อเนื่อง - ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีต่อตราสินค้า 2 กลยุทธ์ทางการตลาด 2.1 ราคา (Price) ร้านขายกระเป๋าออนไลน์ใช้วิธีตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งขันเล็กน้อย เพื่อให้แตกต่างจากคู่แข่งขัน และทำให้ลูกค้าสนใจในสินค้าของเรามากกว่าสินค้าของคู่แข่งขัน 2.2 ช่องทางการจัดจําหน่าย (Place) ปัจจุบันทางร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทาง ออนไลน์ Facebook Page ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากทางร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง 2.3 สินค้า (Product) กระเป๋าแฟชั่น และกระเป๋าทำงาน ที่มีรูปแบบหลากหลาย สวยงาม สามารถสะพายได้หลากหลายโอกาส 2.4 การส่งเสริมการตลาด (Promotion) จัดรายการส่งเสริมการขายในช่วงแรกของการเปิดกิจการ ด้วยการจำหน่ายสินค้าใน ราคาพิเศษ เพื่อเป็นการกระตุ้นการซื้อสินค้าของลูกค้า และเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักกับร้านขายกระเป๋าของเราได้เร็วที่สุด และทำการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์


แผนการบริหารจัดการและแผนการดำเนินงาน แผนการบริหารของแบรนด์ ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายการจัดซื้อ ทำรายรับรายจ่ายของแบร นด์ ตรวจสอบความถู กต้องของบัญชีใน ทุกๆเดือน ทำราคาโปรโมชั่น สินค้า ในช่วงเทศกาลทำ การศึกษาสิ่งที่ลูก ค้าต้องการ ตามคอนเทนต์ แนะนำสินค้าแก่ลูกค้าและตอบคำถาม จากลูกค้าที่สอบถามเข้ามาทุกช่องทาง ตรวจเช็คสินค้าอยู่เสมอ จัดหาออเดอร์ที่ลูกค้าต้องก ารอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ รับออเดอร์ แพ็คสินค้า จดัส่งสินคา ้ บริการหลังการขาย


แผนการผลิตในโรงงาน ออกแบบรูปแบบกระเป๋า เลือกเกรดของหนังกระเป๋า ขั้นตอนการผลิต 1.การเตรียมวัตถุดิบ 2.การเป่าถุง 3.การระเบิดผิว 4.การพิมพ์ลาย 5.การพับข้าง 6.การตัดและซีนถุง 7.การตัดปากและเจาะรู 8.การบรรจุหีบห่อ ขั้นตอนการตรวจเช็คสินค้า


1 กลยุทธ์ด้านกระบวนการหรือบริการ (Process Strategy) จากการสัมภาษณ์เชิงลึกของผู้บริโภคในงานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับกระบวนการด้าน บริการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการซื้อสินค้าในเครือข่ายสังคมออนไลน์มากที่สุดคือ การให้บริการที่รวดเร็ว รองลงมาเป็นการน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และสุดท้ายคือ ความสะดวกใน การซื้อสินค้า ซึ่งรวมถึงการมีช่องทางการชำระเงินหลากหลาย สะดวกรวดเร็ว โดย มีกระบวนการด้านต่างๆ ดังนี้ 1) กระบวนการออกแบบกระเป๋า: การออกแบบของกระเป๋าในแต่ละ เดือนจะมีการนำเสนอรูปแบบและลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน โดยมีการออกแบบใหม่ 5-10 แบบต่อเดือน เพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ กรณีที่แบบใดเป็นที่นิยม จะมีการนำแบบนั้นมาผลิตเพิ่มตามจำนวนที่ เหมาะสม โดยระยะเวลาในขั้นตอนนี้ เพียง 1 สัปดาห์ 2) กระบวนการทำแพทเทิร์นและตัวอย่างกระเป๋า: โดยปกติขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลา 1 สัปดาห์จนถึง 1.5 เดือน แต่อย่างไรก็ตามทางแบรนด์จะมีการส่งแบบกระเป๋าให้กับทาง ผู้ทำแพทเทิร์นล่วงหน้า 2 เดือน ก่อนที่จะมีการลงขายสินค้าจริง เนื่องจากขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ไม่ แน่นอน ระยะเวลาการผลิตขึ้นอยู่กับผู้ทำ ณ ขณะนั้น หรือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้ไม่สามารถผลิต ได้รวมทั้งมีกรณีที่มีการแก้ไขแบบ จึงได้มีการเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าค่อนข้างนาน 3) กระบวนการผลิตกระเป๋า: หลังจากที่แพทเทิร์นและตัวอย่างกระเป๋าเรียบร้อย แล้ว จะทำการส่งให้กับผู้ผลิตเสื้อผ้าทันที โดยระยะเวลาในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จนถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับการรอคิว และองค์ประกอบอื่นๆ 4) กระบวนการจัดเก็บ ถ่ายภาพ และลงขายสินค้า: หลังจากที่ขั้นตอนการผลิต เรียบร้อยแล้ว สินค้าจะถูกจัดเก็บตามรหัสประเภทสินค้าที่ถูกกำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความ ผิดพลาดในการนับจำนวนสินค้าและช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาสินค้า ส่วนการถ่ายภาพสินค้านั้น ใช้เวลาเพียง 1 วัน และสามารถลงขายสินค้าได้ภายในวันถัดไป จากการวางแผนกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้น จะทำให้มีสินค้าใหม่ทุกเดือน และสามารถลงขายสินค้าในช่องทางต่างๆ ได้ในทุกๆต้นเดือน โดยสามารถสรุปการวางแผนระยะเวลา ในแต่ละกระบวรการได้ 5) กระบวนการจัดส่งสินค้า: การจัดส่งสินค้าของกระเป๋า จะทำการส่งภายใน 1 วันหลังจากวันที่ได้รับการโอนเงินจากลูกค้า โดยส่งผ่าน Line man ไปรษณีย์ไทย และ Kerry Express นอกจากนี้จะมีการแจ้งเลขพัสดุไปยังลูกค้าทุกครั้งที่มีการจัดส่งเรียบร้อย เพื่อให้ลูกค้า สามารถติดตามสินค้าได้ นอกจากกระบวนการ 5 กระบวนการที่กล่าวมาข้างต้น ทางแบรนด์ยังมีบริการด้านอื่นๆ ได้แก่ รับเปลี่ยนสินค้ากรณีไม่ตรงตามที่สั่ง หรือชำรุดเสียหาย มีการตอบกลับ ข้อความลูกค้าอย่างช้าสุดไม่เกิน 6 ชั่วโมง


การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบ 6.3.1 ผู้บริหารระดับสูงสุด (Chief Executive Officer) ธุรกิจกระเป๋า ออนไลน์มีผู้บริหาร 2 คนนั่นคือ โดยจะแบ่งหน้าที่ในการ ดูแลตามความถนัดของแต่ละคน โดยต้องเป็นผู้ร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ นโยบายและทิศทางการดำเนิน ธุรกิจ และควบคุมการบริหารงานและกิจการให้เป็นไปตามกลยุทธ์ และเป้าหมายที่กำหนด โดยหน้าที่ความรับผิดชอบมีดังนี้ 1) ผู้บริหารฝ่ายการผลิต และฝ่ายการเงิน - ดูแลบัญชีและการเงินของธุรกิจ - ควบคุมกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด - ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ 2) ผู้บริหารฝ่ายการขายและการตลาด และฝ่ายดูแล E-commerce - พัฒนาและดูแลระบบ Ecommerce ทั้งในแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์ให้ทำงานอย่างมีเสถียรภาพ - ควบคุมและบริหาร E-commerce ให้ทำงานอย่างมีเถียรภาพและ เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ รวมทั้งตัดสินใจและให้คำปรึกษาพนักงาน หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน - ควบคุมและคอยติดตามยอดขายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ 6.3.2 ฝ่ายผลิต 1) ผู้ออกแบบเสื้อผ้า: ผู้ประกอบการและหุ้นส่วน ท าการออกแบบเสื้อผ้าร่วมกับ ช่างทำแพทเทิร์น 2) ช่างทำแพทเทิร์น และผลิตเสื้อผ้า: ทำหน้าที่ในการขึ้นต้นแบบเพื่อใช้ในการผลิตต่อไป รวมทั้งผู้ทำแพทเทิร์นสามารถตัดเย็บได้ หรืออาจมีทีมงานของผู้จัดทำเอง โดยการจัดการ และควบคุมการผลิตจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายผู้จัดทำทั้งหมด โดยคุณสมบัติที่ต้องการคือ - เพศหญิง อายุ 25-40 ปี - ไม่จำกัดระดับการศึกษา - ประสบการณ์ทำงาน 2 ปี - มีความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างแบบของเสื้อผ้าตามการออกแบบที่ต้องการได้ - มีความรู้ด้านดีไซน์ -สามารถเย็บตัดเสื้อผ้าตามแบบที่กำหนดได้


- มีความรับผิดชอบ ส่งงานตรงตามกำหนด 6.3.3 ฝ่ายขายและการตลาด 1) พนักงานขายและบริการลูกค้า: ปฏิบัติงานด้านการขาย ติดต่อ มีการพูดคุยตอบคำถาม และให้คำแนะนำกับลูกค้าในทุกช่องทางขาย รวมทั้งประสานงานกับฝ่ายอื่นๆ เมื่อลูกค้าติดขัดหรือมีข้อสงสัยในการใช้งานเว็บไซต์ โดยคุณสมบัติมีดังนี้ - เพศหญิงหรือชาย อายุไม่เกิน 35 ปี - วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการขาย การตลาดหรือสาขาที่ เกี่ยวข้อง - มีประสบการณ์การท างานด้านการขาย 2 ปีขึ้นไป - บุคลิกดี เข้ากับคนง่าย เรียนรู้ไว สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี 6.3.4 ฝ่ายดูแล E-commerce 1) พนักงานดูแล E-commerce และกราฟฟิกดีไซน์: ทำหน้าที่ดูแลการ ทำงานของเว็บไซต์ และในแอพพลิเคชั่นต่างๆ ควบคุมทิศทางของหน้าเว็บไซต์น่าจะไปทิศทางใด ตั้ง เนื้อหาภายในเว็บไซต์ตลอดจนถึงหน้าตาของเว็บ จัดระเบียนข้อมูลและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ตรวจสอบเนื้อหาทั้งหมดในเว็บไซต์ โดยรวบรวมเนื้อหาที่ประโยชน์และน่าสนใจให้กับ ผู้ใช้สม่ำเสมอ รวมทั้งมีการประสานงานกับฝ่ายขาย ให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการใช้ E-commerce ให้กับผู้ใช้งานหรือลูกค้า โดยมีคุณสมบัติดังนี้ - เพศหญิงหรือชาย อายุไม่เกิน 35 ปี - วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาออกแบบ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง - เรียนรู้เร็ว และมีความคิดสร้างสรรค์ - มีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิ้นงานให้เข้ากับการตลาดE-commerce อย่างน้อย 2 ปี - มีความรู้ทางศิลปะและความสามารถใช้โปรแกรมกราฟิกต่างๆ ได้เป็น อย่างดี เช่น Photoshop หรือ lIImustrator เป็นต้น - มีพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารจักการข้อมูล 6.3.5 ฝ่ายการเงินและบัญชีเนื่องจากเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากของธุรกิจ ผู้รับผิดชอบตำแหน่งนี้จึง เป็นผู้ประกอบการและหุ้นส่วน


โครงสร้างองค์กรกระเป๋ า ผู้บริหาร ฝ่ายการผลิตและการเงิ น ผู้บริหาร ฝ่ ายขาย การตลาด และเว็บไซต์ ฝ่ายผลิต ฝ่ายการเงิน และบัญชี ฝ่ายขายและ การตลาด ฝ่ายขายและ การตลาด ผู้ออกแบบ ท าแพทเทิร์นและผลิต ผู้ออกแบบแพทเทิร์นแ ละผลิต - พนักงานดูแล E-commerce และกราฟฟิ กดีไซน์


แผนการผลิต เจ้าของกิจการโพสต์สินค้าใหม่ลงในช่องทางการจำหน่ายทุกช่องทางของร้านค้าโดย หรือทางไลฟ์สดของทาง ร้าน ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าโดยตรงกบทางร้าน เมื่อทางร้านได้รับ Order จากลูกค้า จัดส่งรายละเอียดการ สั่งซื้อ และที่อยู่จัดส่งสินค้าของลูกค้า พร้อมกับชำระเงินค่าสินค้า ให้กับทางร้าน ทางร้านรับ Order บันทึก รายการสั่งซื้อสินค้า เริ่มแพ็คสินค้า และจัดส่งในวันถัดไป จากการวิเคราะห์วัฎจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ของธุรกิจกระเป๋าแฟชั่น จากทบทวนวรรณกรรมและการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่าง ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดังนี้ 1. กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Target Market) กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ เพศหญิง เป็นกลุ่มนักศึกษา และวัยคนทำงานตอนต้น ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-35 ปีสำหรับคนทำงานตอนต้น มีรายได้ระดับขึ้นไป โดยกลุ่มเป้าหมายทั้งสอง กลุ่มนี้ มีพฤติกรรมในการซื้อสินค้าออนไลน์บนมือถือ หรือแท็บเล็ตเป็นหลัก เป็นคนที่มีสไตล์การ แต่งตัวที่มีสีสัน มีชีวิตชีวา ชอบกระเป๋าที่เรียบง่าย ใส่สบาย ไม่หวือหวาแต่ต้องดูดีไม่จำเจและใส่ได้หลากหลายโอกาส 2. การวางตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) ตำแหน่งทางการตลาดคือ การกำหนดลักษณะพิเศษของแบรนด์และสินค้าให้ชัดเจนว่า จะไปในทิศทางใด เพื่อให้เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้องและสามารถแข่งขันกับสินค้าอื่นๆได้นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการควบคุมทิศทางการทำการตลาดอื่นๆได้ เช่น การกำหนดสโลแกน การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ดังนั้นการวางตำแหน่งของกระเป๋าจะสื่อถึงความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้งใน เรื่องของดีไซน์การออกแบบที่แสดงถึงความสดใส คุณภาพดีในราคาถูก อีกทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพ ให้ดูดี และมีความมั่นใจในทุกๆวัน จากตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ จึงได้กำหนดแบรนด์กระเป๋านี้ขึ้นมา ดังนี้“กระเป๋าแฟชั่น เป็นกระเป๋าที่ทันสมัย ออกแบบมาพร้อมลวดลายหลากสีสัน เพิ่มความมีชีวิตชีวาและความมั่นใจในทุกๆการเคลื่อนไหวของผู้สะพาย ด้วยงานคุณภาพดีในราคา ย่อมเยานี้ จึงเหมาะกับสาวๆ รุ่นใหม่ทุกคนที่อยากดูดี”


1 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) กระเป๋าจะออกแบบกระเป๋าใหม่ขั้นต่ำ 5 แบบต่อเดือน ซึ่งอ้างอิงจากผล ที่ได้จากแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ในการออกแบบใหม่ โดยการออกแบบกระเป๋าของแต่ ละแบบจะใช้หนังที่เป็นวัตถุดิบ สีและลวดลายที่แตกต่างกัน รวมทั้งออกแบบกระเป๋าให้ครอบคลุมทุก ประเภทการใช้งานเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการสะพายในโอกาสต่างๆ 1.1 กระเป๋าปรับความยาวได้มีการออกแบบเพื่อให้สามารถปรับความยาวกระเป๋าได้ เนื่องจากความสูงของผู้สะพายแต่ละคนต่างกัน ความชอบของแต่ละคนก็ต่างกัน บางคน ชอบใส่ยาว บางคนชอบใส่แบบสั้น ทางแบรนด์จึงได้ออกแบบกระเป๋าเพื่อให้สามารถปรับความสั้นหรือ ยาวได้ตามความต้องการของผู้สวมใส่ 1.2 สะพายได้หลายรูปแบบ มีการออกแบบกระเป๋าที่สามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงที่มีความสูง 145-170 ทั้งยังสามารถใส่ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสะพายข้างสะพายคาดอก โดยปรับความสั้น-ยาวของสายได้ 3.กลยุทธ์ด้านราคา (Price Strategy) สำหรับกลยุทธ์ในการตั้งราคาจะมุ่งเน้นผลกำไร และการแข่งขัน เพื่อให้สามารถ แข่งขันกับคู่แข่งเดิมและคู่แข่งใหม่ในตลาดได้ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ในการตั้งราคาขายกระเป๋านั้น ได้ พิจารณาจาก 1) ต้นทุน ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร เช่น ราคาหนัง ต้นทุนการตัดเย็บ ต้นทุนโฆษณา และต้นทุนในการดำเนินงานต่างๆ เป็นต้น 2) คู่แข่ง โดยมีการสำรวจราคาของคู่แข่งในตลาด เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาและกำหนดราคาขาย เพื่อให้สอดคล้องกับระดับราคาในตลาด และเป็นราคาที่กลุ่มเป้าหมายยอมรับได้ 3) กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มลูกค้าของกระเป๋า คือกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษา และ กลุ่มคนวัยทำงานตอนต้น ดังนั้นการกำหนดราคาจึงมีราคาที่ไม่สูงมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าวัยนี้ จะ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีแรงขับเคลื่อนในการแต่งตัวสูง เป็นกลุ่มที่ชอบการแต่งตัวที่มีแนว หรือเอกลักษณ์เป็นของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดราคาสินค้าที่ต่ำเกินไป อาจไม่สร้างคุณค่าให้กับสินค้า ลูกค้าจะมองว่าสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน จากการพิจารณาดังที่กล่าวมาข้างต้นคือ ต้นทุน คู่แข่ง และกลุ่มเป้าหมาย ทาง ผู้ประกอบการจึงได้กำหนดราคากระเป๋า อยู่ในช่วงระดับปานกลาง เพื่อให้กลุ่มลูกค้าหลักและ กลุ่มลูกค้าทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งราคาของกระเป๋า อยู่ในระดับต่ำกว่าคู่แข่ง เล็กน้อย โดยคุณภาพการตัดเย็บและการออกแบบอยู่ในระดับเทียบเท่ากับคู่แข่ง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบ ราคาและคุณภาพของกระเป๋า แล้วเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดที่ลูกค้าจะได้รับ 4.ช่องทางขายที่จะการขยายเพิ่ม


จากการวิเคราะห์ตลาดที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์และจากการสัมภาษณ์เชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้ทำการขยายช่องทางขายสินค้าอื่นๆ ได้แก่ Shopee Tiktokและ Lazada โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวจะมีแพลตฟอร์มทั้งบน Application ดังนี้ 1) Shopee จุดเด่นของแพลตฟอร์มบน Shopee คือ สะดวกรวดเร็ว มีความเป็นโซเชียลคล้ายกับ อินสตาแกรม คือตัวลูกค้าสามารถกดติดตามร้านหรือกดถูกใจสินค้าได้ มีระบบแฮชแท็ก รวมถึงระบบแชทติดต่อกับคนขายโดยตรง สำหรับร้านค้า ก็สามารถลงสินค้าใหม่ได้ง่าย ทั้งนี้ Shopee มีการจัดโปรโมชั่นตลอด ตั้งแต่ฟรีค่าจัดส่ง หรือสินค้าดีลราคาพิเศษทุกวัน ทุกช่วงเวลา ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อ สินค้าในราคาถูกกว่าที่อื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าบน Shopee มาก ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับส่วนลดพิเศษที่ทาง Shopee จัดขึ้นให้กับลูกค้านี้ ทางร้านค้าไม่ต้องเสียค่าส่วนลด ใดๆ ยังคงได้รับเงินในจำนวนเต็มของราคาสินค้านั้นๆ และไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นในการขายสินค้า 2. Tiktok Shop จุดเด่นที่ทำให้แพลตฟอร์ม E-Commerce นี้แตกต่างก็คือ การสร้างคอนเทนต์โปรโมทด้วยวิดีโอสั้น และการไลฟ์เมื่อผู้ซื้อเลื่อนผ่านวีดีโอแล้วสนใจ สามารถกดสั่งซื้อและชำระเงินได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างจาก Social Commerce ชนิดหนึ่งที่เราเล่นโซเชียลไปเรื่อย ๆ เจอสินค้าน่าสนใจ แล้วสั่งซื้อได้เลยง่ายมาก ๆ 3) Lazada: ประโยชน์ที่ผู้ขายจะได้รับจากการขายสินค้าคือ - สินค้าของเราจะถูกเห็นมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Lazada เนื่องจาก Lazada เป็นแพลตฟอร์ม ECommerce ที่ใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งร้านค้าจะได้รับรางวัลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออันดับเรทติ้งของร้านค้าสูงขึ้น - ค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ หรืออาจจะไม่มีเลย (สินค้าบางหมวดหมู่) - ร้านค้าสามารถเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ในแต่ละปีเช่น แคมเปญวัน เกิด Lazada และแคมเปญ Online Revolutionและล่าสุดคือ แคมเปญ 11.11 ซึ่งท าให้ผู้ขายกว่า 50,000 รายสามารถเพิ่ม ยอดขายได้เป็นจ านวนมากในช่วงแคมเปญดังกล่าว - ร้านค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจของร้านค้านั้นๆ - ร้านค้าสามารถศึกษาข้อมูลและหาความรู้ได้ตลอดเวลา โดยทาง Lazada มีศูนย์การเรียนรู้ซึ่งจะสอนการตั้งราคาสินค้า การ สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ รวมทั้งการออกแบบร้านค้า เพื่อดึงดูดให้ ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า - มีระบบแชทออนไลน์ ซึ่งทำให้ร้านค้าสามารถโต้ตอบบทสนทนา กับลูกค้าได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง


5.กลยุทธ์ด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion Strategy) - การสร้างความสนใจแรกที่ลูกค้ามีต่อตราสินค้า ซึ่งการสร้างความสนใจนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการออกแบบที่ดี คุณภาพของเนื้อหาต้องสอดคล้องกับความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย - มีการลงภาพรีวิวของลูกค้าทั่วไปรวมทั้งรีวิวจากไมโครอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างกระแส ความน่าสนใจ และดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายที่ทั้งเคยซื้อ และไม่เคยซื้อเข้ามามากขึ้น 6.นโยบายทางการเงิน (Financial Policy) - มีเงินสดย่อยสำรองไว้ในสำนักงาน เพื่อใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายบริหารในส่วนที่ เป็นค่าน้ำมัน และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิต - เงินฝากธนาคารประเภทเงินออมทรัพย์ เพื่อใช้เป็นเงินสดหมุนเวียนขั้นต่ำ สำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในงวดถัดไป เพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น - แหล่งที่มาของเงินทุนในการดำเนินกิจการ จำเป็นต้องใช้แหล่งเงินทุนระยะยาว ในการลงทุนเริ่มแรก โดยกำหนดโครงสร้างเงินทุน หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 40:60 ซึ่งจะ นำมาเพื่อการดำเนินงานในส่วนของการจัดหาพื้นที่ อุปกรณ์ของสำนักงาน และเพื่อการดำเนินงาน อื่นๆ - บริษัทกำหนดให้มีจำนวนเงินสดและเงินฝากธนาคารตามนโยบายการถือ เงินสดที่บริษัทกำหนดไว้ สำหรับเงินสดส่วนเกินจะสำรองไว้กรณีที่บริษัทมีนโยบายขยายธุรกิจใน อนาคต - ยอดขาย (Sales Volume): เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของธุรกิจ ดังนั้นการ ประเมินว่าธุรกิจสามารถทำยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ จะเป็นแนวทางในการกำหนดแผนด้านการตลาดสำหรับการดำเนินงานในภายภาคหน้า ซึ่งหากธุรกิจมียอดขายที่เติบโตผิดปกติ จะสามารถบ่งชี้ถึงปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเร่งการเติบโตให้กับธุรกิจได้


แผนการเงิน 1 เป้าหมายทางการเงิน เป้าหมายทางการเงินของธุรกิจ คือ การทำกำไรสูงสุด โดยยังสามารถรักษาสภาพ คล่องของธุรกิจ จำหน่ายสินค้าด้วยเงินสด เพื่อรักษาสภาพคล่องของกิจการ และป้องกันปัญหา การเรียกเก็บหนี้ 2 การวิเคราะห์ด้านการเงิน เมื่อกิจการดำเนินงานผ่านไป 1 ปี ควรได้รับเงินทุนคืนได้แล้ว


แผนการสำรอง (แผนฉุกเฉิน) 1. ยอดขายต่ำกว่าเป้าหมาย จัดรายการส่งเสริมการขาย รับส่วนลด เมื่อซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด เพื่อเพิ่มจํานวนลูกค้าและรายได้ 2. ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พิจารณายอดสต็อกสินค้าว่าต้องเพิ่มสต็อกสินค้าหรือไม่ ให้เพียงพอกับความต้องการ ซื้อสินค้าของลูกค้าและ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า 3. กรณีเผชิญปัญหาด้านบุคลากร ประชุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่ทำให้บุคลากรน้อยลง และนำ ข้อมูลมาหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 4. กรณีขาดสภาพคล่องทางการเงิน อาจจัดหาแห่งกู้ยืมเงินระยะสั้นจากแหล่งเงินทุนต่างๆ เพื่อนำมาหมุนเวียนภายใน เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกิจการน้อยที่สุด 5. กรณีมีคู่แข่งเพิ่ม กิจการจะทำการประเมินสถานการณ์การแข่งขันใหม่เพื่อให้ทราบถึงจุดเด่นจุดด้อย ของคู่แข่งขันรายนั้น ๆ แล้วนำกลับมาวิเคราะห์ว่ากิจการจะต้องปรับตัวไปในทิศทางใดเพื่อให้ กิจการเกิดความได้เปรียบทางการค้ามากกว่าคู่แข่งขัน


ภาคผนวก แหล่งที่มาของข้อมูล : https://grad.dpu.ac.th/upload/content/files/year8-1/8026.pdf


Click to View FlipBook Version