The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มฐานพืชสมุนไพรใกล้ตัว1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kun000999, 2022-05-22 10:43:35

รวมเล่มฐานพืชสมุนไพรใกล้ตัว1

รวมเล่มฐานพืชสมุนไพรใกล้ตัว1

เอกสารประกอบการเรียนรู้
ศนู ยเ์ รียนรูต้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา

(ศรร.)
ฐานการเรียนรพู้ ืชสมนุ ไพรใกลต้ วั

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอคลองหอยโข่ง
สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดสงขลา

คานา

เอกสารประกอบการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ฐานพืชสมุนไพรใกล้ตัว ท่ีบูรณาการ
เข้ากับสาระการเรียนรู้ทักษะการดาเนินชีวิต รายวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ตอนต้น เพ่ือประกอบการศึกษาเรียนรู้ประจาฐานการเรียนรู้พืชสมุนไพรใกล้ตัว ในการประเมิน
สถานศกึ ษาพอเพยี งเปน็ ศนู ย์การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษาและผู้
ทส่ี นใจศกึ ษาเรยี นร้เู กยี่ วกบั พชื สมุนไพร

ในการจัดทาเอกสารเป็นการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในฐานการ
เรียนรู้ ในการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปดาเนินการจัดการศึกษา ตามวิถีชีวิตท่ีสอดคล้อง
กับธรรมชาติ ซง่ึ สมุนไพรสามารถรกั ษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน บางชนิดอาจมี
ราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความ
ปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจุบัน และยังใช้เป็นยาบารุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงได้
อีกด้วย

กศน.อาเภอคลองหอยโข่ง

สารบัญ

เรอื่ ง หนา้
การจาแนกพืชสมุนไพรทมี่ อี ยใู่ นท้องถิน่ ................................................................................................. 1
ฟา้ ทะลายโจร......................................................................................................................................... 3
ขา่ .......................................................................................................................................................... 5
ขมน้ิ ........................................................................................................................................................ 6
กระชาย……………………………………………………………………………………………………………………………………. 7
วา่ นหางขระเข…้ ………………………………………………………………………………………………………………………… 8
ขิง……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 9
ชะพลู………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10
พลูคาว……………………………………………………………………………………………………………………………………… 11
เบญจรงค์ 5 ส…ี ………………………………………………………………………………………………………………………… 12
ปืนนกไส้…………………………………………………………………………………………………………………………………… 13
หนานเฉาเหวย่ หรอื ตน้ ปา่ ชา้ เหงา………………………………………………………………………………………………… 14
กลว้ ยน้าวา้ ………………………………………………………………………………………………………………………………… 15

1

ศนู ย์เรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรียนรู้พชื สมุนไพรใกลต้ ัว

สมุนไพรท่ีมีอยู่ในทกุ ครวั เรอื น มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้
ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผน
ปัจจุบัน และใหค้ วามปลอดภยั แกผ่ ูใ้ ช้มากกว่าแผนปจั จุบัน และยงั ใชเ้ ป็นยาบารุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
หรืออาจจะปลูกไว้เป็นพืชผักสวนครัวไว้รับประทานได้อีกด้วย เรียนรู้การปลูกพืชสมุนไพร เป็นระบบการผลิตพืช
สมุนไพรท่ีปลอดจากการใช้สารเคมีทุกชนิดทุกข้ันตอน ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี สารเคมีกาจัดศัตรูพืช ฮอร์โมน
สังเคราะห์ เปน็ ตน้ โดยอนญุ าตให้ใชเ้ ฉพาะปุย๋ อนิ ทรยี ์ ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุย๋ หมกั ปุ๋ยชวี ภาพ และปุ๋ยพืชสดเท่าน้ัน การ
ปลูกพืชสมุนไพร นอกจากจะสามารถสร้างรายได้ท่ีดีขึ้นให้กับเกษตรกร ที่สาคัญคือไม่มีความเสี่ยงจากอันตราย
ทีม่ าจากการใช้สารเคมที ัง้ ตวั ผู้ปลกู ผู้บรโิ ภค และสงิ่ แวดลอ้ ม
จาแนกพชื สมุนไพรที่มอี ยู่ในทอ้ งถิน่

การจาแนกพชื สมนุ ไพรทม่ี อี ยู่ในทอ้ งถิ่น สามารถจาแนกได้ ดังน้ี

1. การจาแนกตามลักษณะการใช้ประโยชน์
1.1 Essential oil (น้ามนั หอมระเหย) พชื สมนุ ไพรหลายชนิดสามารถนามาสกัด น้ามันหอมระเหยได้โดย

วิธีการกล่ัน ซึ่งจะได้น้ามันหอมระเหยมีกลิ่นหอมแตกต่างกันไปตามชนิดของพืชสมุนไพร เช่น น้ามันตะไคร้หอม
น้ามนั ไพล น้ามันกระวาน นา้ มนั พลู

1.2 ยารับประทาน พืชสมุนไพรหลายชนิด สามารถนามาใช้รับประทานเพ่ือรักษาอาการของโรคได้ เช่น
ฟา้ ทะลายโจร แกไ้ ข้,เจ็บคอ/กระเพรา ไพล ขงิ กระชาย ขม้ิน แกท้ อ้ งอดื ท้องเฟอ้

1.3 ยาสาหรับใช้ภายนอก เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนามาบาบัดโรคที่เกิดข้ึนตามผิวหนัง แผลที่เกิดข้ึน
ตามร่างกาย เช่น บัวบก รกั ษาแผลในปาก วา่ นหางจระเข้ รกั ษาแผลน้ารอ้ นลวก ตาลงึ แกง้ สู วดั

1.4 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องด่ืม พืชสมุนไพรหลายชนิดสามารถนามาทาเป็นผลิตภัณฑ์จาก
ธรรมชาติ ผบู้ รโิ ภคจึงรสู้ ึกปลอดภัยในการนามารบั ประทาน เชน่ หญา้ หนวดแมว บารุงสขุ ภาพ

1.5 เครื่องสาอางค์ เป็นการนาพืชสมุนไพรมาใช้อักลักษณะหน่ึง การนาพืชสมุนไพรมาใช้เป็น
เครื่องสาอางค์ เช่น อญั ชัน ว่านหางจระเข้
การปลูกพชื สมุนไพร ต้องคานึงถงึ พน้ื ที่ แสง อุณหภูมิ และน้า มวี ิธีการปลกู ดงั น้ี

1. ในการเตรยี มดนิ ของพืชสมุนไพร มขี ้นั ตอนดังนี้
1.1 การเตรยี มดนิ ให้มคี วามรว่ นซยุ
1.2 ใส่ปยุ๋ คอกหรือปุ๋ยหมกั
1.3 กาหนดระยะปลูกทเี่ หมาะสมกับพืชแตล่ ะชนิด

2. วิธีการปลกู มหี ลายวิธีข้ึนอยกู่ ับส่วนของพชื ทน่ี ามาปลกู และชนิดของพืช
2.1 การปลกู ดว้ ยเมลด็ สามารถทาให้โดยการหว่านลงแปลง แล้วใช้ดินร่วนหรือทรายหยาบ โรยทับบาง ๆ

แล้วรดน้าให้ช้ืนตลอดทั้งวัน เมื่อเมล็ดงอกเป็นต้นอ่อน ถอนต้นท่ีอ่อนแอออก ให้มีระยะห่างระหว่างต้นพอสมควร
สว่ นการหยอดลงหลมุ โดยตรงมักใชก้ ับพชื ทีม่ ีเมลด็ ใหญ่ โดยหยอดเมล็ดใหม้ ีจานวนมากกว่าท่ีต้องการและถอนออก
ภายหลัง

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอคลองหอยโข่ง
สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดสงขลา

2

ศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรยี นรพู้ ืชสมุนไพรใกลต้ ัว

2.2 การปลูกดว้ ยก่งิ ชาหรอื ก่งิ ตอน ปลูกโดยการนาเอากิ่งชามาปลกู ในถุงพลาสติกให้แข็งแรงดีก่อน แล้วจึง
ย้ายไปปลูกในพ้ืนที่ท่ีต้องการ เตรียมหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างกว่าถุงพลาสติกเล็กน้อย เม่ือนาต้นอ่อนลงปลูกแล้ว
กลบดว้ ยดินร่วนหรอื ดนิ ปนทราย กดดินให้แน่นพอประมาณ คลุมด้วยเศษฟางหรอื หญา้ แหง้ เพ่ือรกั ษาความชุ่มชืน้

2.3 การปลูกด้วยหัว ควรปลูกในท่ีระบายน้าดี ปลูกโดยฝังหัวให้ลึกพอประมาณ กดดินให้แน่นพอสมควร
คลมุ แปลงปลูกดว้ ยฟางหรอื หญ้าแห้ง

2.4 การปลกู ดว้ ยหน่อหรอื เหง้า ในกรณที ม่ี ตี น้ พันธ์ุอยู่แล้วทาการแยกหน่อท่ีแข็งแรง โดยตัดแยกหน่อจาก
ต้นแม่ นาหน่อท่ีได้มา ตัดรากท่ีช้าหรือใบท่ีมากเกินไปออกบ้าง แล้วจึงนาไปปลูกในดินที่เตรียมไว้ กดดินให้แน่น
และรดนา้ ให้ช่มุ ควรบงั รม่ เงาใหจ้ นกว่าต้นจะแขง็ แรง

2.5 การปลกู ดว้ ยไหล ปกตินยิ มเอาสว่ นของไหลมาชาไวก้ อ่ น แล้วจงึ ยา้ ยปลูกในพนื้ ท่ี

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดสงขลา

3

ศูนยเ์ รยี นร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรียนรพู้ ืชสมุนไพรใกลต้ ัว

ฟ้ าทะลายโจร

ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm.f.) Nees (วงศ์ Acanthaceae)
ชอ่ื อื่น : ฟ้าทะลาย หญ้ากนั งู น้าลายพังพอน เมฆทะลาย ฟา้ สะท้าน
สรรพคุณ : “ฟา้ ทะลายโจร” จดั เป็นสมนุ ไพรทมี่ รี สขม อยในกลุ่มยาเย็น มีสรรพคุณทางการแพทยแ์ ผนไทย ใช้
บรรเทาอาการไขห้ วัด แกไ้ อ และเจ็บคอ
ตารบั ยาและวธิ ใี ช้
1.ยาชงมีวิธีทาดังน้ี
- เอาใบสดหรือแหง้ ก็ได้ ประมาณ 5-7 ใบ แตใ่ บสดจะดกี ว่า
- เตมิ น้าเดือดลงจนเกอื บเต็มแก้ว
- ปิดฝาท้งิ ไว้ประมาณครึ่งช่วั โมง หรอื พอยาอนุ่ แลว้ รนิ เอามาดืม่ ขนาดรับประทานครัง้ ละ 1 แกว้ วนั ละ 3-
4 คร้งั กอ่ นอาหาร, ก่อนนอน
2.ยาเมด็ (ลูกกลอน) มวี ธิ ีทาดังน้ี
- เด็ดใบสดมาล้างใหส้ ะอาดผ่ึงในท่ีรม่ หา้ มตากแดด ควรผ่งึ ในท่ีมีลมโกรก ใบจะได้แห้งเรว็
- บดเปน็ ผงใหล้ ะเอยี ด
- ปน้ั กับนา้ ผ้งึ หรอื น้าเชอ่ื ม เป็นเมด็ ขนาดเท่าเม็ดถ่ัวเหลอื ง (หนกั 250 มิลลกิ รัม)แลว้ ผง่ึ ลมให้แหง้ เพราะ
ถา้ ปน้ั รบั ประทานขณะทย่ี ังเปียกอย่จู ะขมมาก ขนาดรบั ประทานคร้งั ละ 4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง กอ่ นอาหาร,
ก่อนนอน
3.แค๊ปซูล มวี ิธที าคอื

แทนทผี่ งยาท่ไี ด้จะปั้นเป็นยาเมด็ กลับเอามาใส่ในแคป๊ ซูล เพ่ือช่วยกลบรสขมของยา แค๊ปซลู ทใี่ ช้ ขนาด
เบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลกิ รมั ) ขนาดรบั

ประทานครั้งละ 3-5 แคป๊ ซลู วนั ละ 3-4 ครัง้ ก่อนอาหาร ก่อนนอน

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดสงขลา

4

ศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรยี นรพู้ ืชสมุนไพรใกลต้ วั

ฟ้ าทะลายโจร

ตารับยาและวิธีใช้ (ต่อ)

4.ยาทิงเจอร์หรอื ยาดองเหลา้
เอาผงแหง้ ใสข่ วด แช่สรุ าทีแ่ รง ๆ เช่น สุราโรง 40 ดีกรี ถา้ มี alcohol ทร่ี บั ประทานได้ (Ethyl alcohol) จะ

ดกี ว่าเหล้า แช่พอใหท้ ่วมยาขึ้นมาเลก็
นอ้ ย ปิดฝาใหแ้ นน่ เขยา่ ขวดวนั ละ 1 ครัง้ พอครบ 7 วนั จึงกรองเอาแตน่ า้ เก็บไวใ้ นขวดให้สะอาดปดิ สนิท

รบั ประทานคร้งั ละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (รสขมมาก) วนั ละ 3-4 ครงั้ ก่อนอาหาร
5.ยาผงใชส้ ูดดม
คอื เอายาผงทบี่ ดละเอียด มาใส่ขวดหรือกล่องยา ปดิ ฝาเขยา่ แล้วเปดิ ฝาออก ผงยาจะเปน็ ควนั ลอยออกมา สูด

ดมควันน้ันเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทาใหย้ าไปออกฤทธท์ิ ่ีคอโดยตรง ชว่ ยลดเสมหะ และแก้เจบ็ คอไดด้ ี วิธที ่ดี ีกวา่ น้คี ือ
วธิ ีเป่าคอ กวาดคอ หรือรบั ประทานยาชง ตรงทีค่ อจะรสู้ ึกขมน้อยมาก ไมท่ าใหข้ ยาดเวลาใช้ ใชส้ ะดวกและง่ายมาก
ประโยชนท์ น่ี า่ จะไดร้ บั เพ่ิมก็คอื ผงยาทเี่ ขา้ ไปทางจมกู อาจจะชว่ ยลดน้ามกู และชว่ ยฆา่ เชือ้ ทีจ่ มกู ดว้ ย
ขนาดทใ่ี ช้

สูดดมบ่อย ๆ วนั ละหลาย ๆ ครั้ง ถ้ารู้สึกคลน่ื ไสใ้ หห้ ยุดยาไปสักพกั จนความรสู้ ึกน้ันหายไป จงึ คอ่ ยสูดใหม่
ขอ้ ควรรู้เกยี่ วกับตารับยา

สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สารในตน้ ฟา้ ทะลายโจร ละลายในแอลกอฮอร์ไดด้ ีมาก ละลายใน
น้าไดน้ ้อย ดังน้นั ยาทิงเจอร์ หรอื ยาดองเหล้าฟ้าทะลายโจร จึงมฤี ทธ์แิ รงทสี่ ดุ ยาชงมฤี ทธแิ์ รงรองลงมา ยาเม็ดมีฤทธ์ิ
ออ่ นท่ีสดุ
ขอ้ ควรระวงั

บางคนรบั ประทาน ยาฟา้ ทะลายโจร จะเกิดอาการปวดทอ้ ง ท้องเสีย ปวดเอว เวียนหวั แสดงวา่ แพ้ยา ให้หยุดยา
และเปลี่ยนไปใชย้ าอนื่ หรือลดขนาดรบั ประทานลง

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอคลองหอยโขง่
สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดสงขลา

5

ศูนย์เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรียนรู้พืชสมนุ ไพรใกลต้ ัว

ขา่

ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Alpinia galanga SW.
ข่า เป็นพชื ท่ีมีลำตน้ อยใู่ ตด้ ินเรยี กว่ำ "เหงำ้ " อย่ใู นวงศข์ งิ เป็นไมล้ ม้ ลกุ

เป็นพืชสมนุ ไพรท่ีนำมำใชใ้ นกำรประกอบอำหำร ในประเทศไทยและ
อนิ โดนีเซีย ช่ือสำมญั อ่ืนอีกคือ กฎกุ กโรหินี (กลำง) ข่ำหยวก (เหนือ)
ขำ่ หลวง (ตะวนั ออกเฉียงเหนือ,เหนือ) สะเอเชย
สรรพคุณ
เหง้าหรือลาต้นใต้ดิน รสเผ็ดร้อนขม แก้ฟกช้า แก้บวม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
แก้กลาก เกลื้อน ขับลมในลาไส้ แก้ปวดมวนในท้อง ขับลมในสตรีหลังคลอดบุตร ใช้ภายนอกรักษาอาการคัน
ในโรคลมพิษ ช่วยย่อยอาหาร แก้บิด แก้ลมพิษ แก้โรคปวดบวมตามข้อ หลอดลมอักเสบ มีฤทธิ์กดหัวใจ
กระตนุ้ การหายใจ กดการหายใจ กระต้นุ การหายใจในเดก็ เปน็ ยาธาตุ
ผล รสเผ็ดร้อนฉุน ช่วยย่อยอาหาร แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้บิด แก้แน่น
หนา้ อก
ตน้ แก่ นาไปเค่ยี วกบั นา้ มันมะพร้าว ทาแก้ปวดเม่อื ย เป็นตะครวิ ใบมีรสเผ็ดร้อน แก้พยาธิ
สารสกัดจากขา่ มีฤทธฆ์ิ า่ เช้อื แบคทเี รีย
นา้ มันหอมระเหย นา้ มนั หอมระเหยจากข่ามีฤทธ์ิทาให้ไข่แมลงฝ่อ กาจัดเช้ือราบางชนิดได้ ใช้ผสมกับสะเดา
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกาจัดแมลงข่า ลดการบีบตัวของลาไส้ ขับน้าดี ขับลม ลดการอักเสบ ยับย้ังแผล
ในกระเพาะอาหาร ฆา่ เช้อื แบคทีเรยี ฆา่ เชื้อราใชร้ ักษากลากเกลอ้ื น
ใบ รสเผด็ รอ้ น แกก้ ลากเกล้ือน ฆา่ พยาธิ ตม้ อาบแก้ปวดเมื่อยตามข้อ
ต้น รสเผด็ รอ้ นซา่ ตน้ แกโ่ ขลกผสมน้ามนั มะพร้าวทาแก้ตะครวิ แก้ปวดเมอื่ ยตามกล้ามเนอื้ ตาม
ขอ้ ดอก รสเผ็ดร้อน เปน็ ยาแก้กลากเกล้อื น
หน่อ รสเผ็ดรอ้ นหวาน บารุงไฟธาตุ แก้ลมแนน่ หนา้ อก
เหง้าและราก รสร้อนปร่า ขับลม แกป้ วดท้อง ท้องเสยี จกุ เสยี ด แนน่ ทอ้ ง

อาหารไม่ยอ่ ย
ราก รสรอ้ นปร่า ขบั เสมหะ ขบั โลหิต แกเ้ หนบ็ ชา ขบั หลอดลม

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดสงขลา

6

ศนู ยเ์ รยี นรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรียนรู้พืชสมุนไพรใกลต้ วั

ขม้ิน

ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Curcuma longa L.

ช่ืออื่น ขม้ินแกง ขม้นิ หยอก ขม้ินหัว ตายอ สะยอ ขมนิ้ ชัน ข้ีมิ้น

สรรพคณุ
นา้ มันหอมระเหย มีสรรพคณุ บรรเทำ อำกำรปวดทอ้ ง ทอ้ งอืด แนน่ จดุ เสียด

แกโ้ รคผิวหนงั ขบั ลม แกผ้ ่ืนคนั แกท้ อ้ งรว่ ง ในตำรำยำจีนใชเ้ ป็นยำ แกป้ วดเม่ือย

แกป้ วดประจำเดอื น

ผงขมิน้ เค่ยี วกบั นำ้ มนั พืช ทำนำ้ มนั ใสแ่ ผลสด ผสมนำ้ ทำผวิ แกเ้ มด็ ผดผ่ืนคนั

ขมิน้ สด โขลกกบั ดนิ ประสวิ เล็กนอ้ ย ผสมนำ้ ปนู ใสพอกบำดแผลและแกเ้ คลด็ ขดั ยอก

เผำไฟแลว้ โขลกรวมกบั นำ้ ปนู ใส รบั ประทำนแกท้ อ้ งรว่ ง แกบ้ ดิ

ใบ รสฝำดเอียน ใชผ้ สมกบั ยำนวดเพ่ือคลำยเสน้ ใชเ้ ป็นสว่ นผสมทำยำอำยวุ ฒั นะ

แกป้ วดมวน รดิ สีดวงทวำร รกั ษำอำกำรทอ้ งเดนิ ปวดทอ้ ง

เหงำ้ แหง้ บดเป็นผงใหล้ ะเอียดเค่ยี วในนำ้ มนั พืช ทำนำ้ มนั ใสแ่ ผลสด ผสมนำ้ ใชท้ ำผิวกำย

แกเ้ ม็ดผดผ่ืนคนั

คุณค่าทางอาหารในขม้นิ 100 กรัม

ประกอบไปด้วยพลังงาน 65 กิโลแคลอร่ี นา้ 84 g

คารโ์ บไฮเดรต 12 กรัม ไขมัน 1 กรัม

เสน้ ใย 1 กรมั ฟอสฟอรสั 41 มิลลกิ รัม

โปรตีน 1.7 กรมั วิตามินเอ 187 IU

วติ ามนิ บี 1 และบี 2 อยา่ งละ 0.02 และ 0.03 mg วติ ามนิ ซี 10 mg

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสงขลา

7

ศูนย์เรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรยี นรู้พืชสมุนไพรใกล้ตัว

กระชาย

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda
กระชำย หรอื ขิงจีน เป็นพืชสมนุ ไพรท่ีปลกู เลีย้ งกนั ในประเทศจีนและเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ กระชำยมีช่ือสำมญั
อ่ืนอีกคอื กะแอน กะซำย, ขงิ ซำย จีป๊ ู ซีพู เป๊ ำะซอเรำ้ ะ เป๊ ำะส่ี ละแอน วำ่ นพระอำทิตย์ ช่ือสำมญั กระชำยมี 3
ชนิด คอื กระชำยดำ กระชำยแดง กระชำยเหลือง

สรรพคุณ
1. บรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารอกั เสบ โดยเลือกทานรากของกระชายสดแบบไมต่ ้องปอก
เปลือก วันละ 3 ม้ือกอ่ นอาหาร 15 นาที จะช่วยบรรเทาแสบกระเพาะอาหารได้
2. รกั ษาแผลในปาก กลั้วปากด้วยกระชายปน่ั น้าผสมเกลือเล็กนอ้ ย กรองเอาแตน่ ้ามาบว้ นปาก 3 วัน
3. แกเ้ ชอ้ื ราจากอาการต่างๆ เช่น คันหนงั ศีรษะ กลาก เกลือ้ น น้ากดั เทา้ โดยใช้น้ามันทผ่ี สมกับผง
กระชายมาทาบริเวณท่ีมีอาการ หรอื ผสมยาสระผม เพอื่ แก้อาการคนั ศรี ษะ
4. ลดนา้ ตาลในเลือด โดยปั้นผงกระชายท่ผี สมกับน้าผึง้ เปน็ ก้อนๆ ทานวันละ 3 ลกู ก่อนนอน
5. บารงุ กาลัง เปน็ ยาอายวุ ฒั นะ ชะลอวยั แก้โรคนกเขาไมข่ นั โดยทานเป็นแคปซูลบรรจุผลกระชายแหง้
ทานวนั ละ 1 แคปซูล (250 มลิ ลกิ รมั ) ก่อนอาหารเชา้ หรอื จะใสก่ ระชายลงไปในเมนูอาหารท่ที านกไ็ ด้
6. บารุงหวั ใจ ดืม่ นา้ อนุ่ ท่ชี งด้วยผงกระชายแห้งจากส่วนราก และเหงา้ 1 ชอ้ นชา

กระชายเป็นสมนุ ไพรทม่ี ีรสชาตเิ ผด็ ร้อน และอาจมีรสชาตเิ ฝ่ือนได้บา้ ง ดังนั้นหากทานไม่ได้
ทนทานไมไ่ หว ก็อาจจะปรับลดความเข้มขน้ หรอื ปริมาณทท่ี านลงได้นะคะ นอกจากนี้หากใครมโี รค
ประจาตัวทีม่ คี วามจาเปน็ ตอ้ งควบคุมอาหารที่ทานมากเปน็ พิเศษ เชน่ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ หรือ
โรคหวั ใจ ควรปรกึ ษาคณุ หมอประจาตัวกอ่ นทาน

ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดสงขลา

8

ศนู ยเ์ รยี นรู้เศรษฐกิจพอเพยี ง ฐานการเรยี นรพู้ ืชสมนุ ไพรใกล้ตัว

ว่านหางจระเข้

ช่อื วิทยาศาสตร์ Aloe vera (L.) Burm.f.

สมนุ ไพรวา่ นหางจระเข้ มชี ื่อท้องถิ่นอ่ืน ๆ เชน่ วา่ นไฟไหม้ (ภาคเหนอื ), หางตะเข้

สรรพคณุ (ภาคกลาง) เป็นต้น

นอกจากคนไทยจะร้จู ักสรรพคณุ ของวา่ นหางจระเข้เป็นอยา่ งดี หลายๆ ประเทศกร็ ู้จกั นาว่านหาง

จระเขม้ าใช้ในการรักษาโรคต่างๆ มานานหลายศตวรรษ อย่างประเทศจนี ก็มีรายงานการใช้ว่านหาง

จระเขใ้ นการทาเป็นยาเช่นกัน

สรรพคุณของวุ้นว่านหางจระเข้ เป็นยาฆ่าเช้ือ ฝาดสมานแผล ห้ามเลือด ในขณะเดียวกันก็เป็น

ตัวกระตุ้นเซลล์เน้ือเย่ือให้เจริญเติบโต ทาให้แผลหายเร็วข้ึน ประเทศสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ญี่ปุ่น

ออสเตรีย ได้ทดลองพบว่า ว่านหางจระเข้สามารถนามาใช้รักษาแผลธรรมดา แผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก

แผลที่เกิดจากการฉายรังสี ลดอาการอักเสบ ฆ่าเช้ือโรค ป้องกันผิวไหม้เพราะแดด บารุงผิวหน้า กาจัด

ฝา้ ยาระบาย แกไ้ อ เจบ็ คอ รกั ษามะเร็ง แกพ้ ิษแมงกะพรนุ ชว่ ยประสานกระดกู รกั ษาโรคตับและรักษา

สมองผิดปกติ ด้วยสรรพคุณที่มากมายน้ีเอง “ว่านหางจระเข้” จึงถูกขนานนามว่า “สมุนไพรมหัศจรรย์

จากธรรมชาติ” สารโพลียูโรไนด์และโพลีแซคคาไรด์ สารสาคัญที่ช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็วและยัง

ช่วยป้องกันไม่ให้เช้ือโรค บาดแผลท่ีเกิดจากไฟไหม้ น้าร้อนลวก แบ่งได้เป็น 4 ระดับ ว่านหางจระเข้จะ

เปน็ บาดแผลไหม้ไม่เกนิ ระดบั ที่ 2

ระดบั ท่ี 1 ผิวหนังไมแ่ ตก

ระดับที่ 2 มีตุ่มพองและหนังแตก

ระดบั ที่ 3 ผิวหนังทุกชัน้ ถูกทาลายและเป็นแผลเปดิ

ระดับที่ 4 ผิวหนังมีรอยไหมด้ า

วา่ นหางจระเขจ้ งึ เปน็ สมนุ ไพร มหศั จรรย์ทช่ี ว่ ยรกั ษา

บาดแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก แผลทีเ่ กดิ จากการฉายรังสีได้ดี

นอกจากน้ยี งั สามารถใช้ในลกั ษณะ ของเครอื่ งสาอางไดด้ ว้ ย

คอื ป้องกนั ผิวไหม้เพราะแดดและบารุงผวิ

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดสงขลา

9

ศนู ย์เรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรียนรู้พืชสมนุ ไพรใกล้ตวั

ขิง

ช่อื วิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe
จดั อยู่ในวงศ์ขงิ (ZINGIBERACEAE)

ขิงจดั เป็นสมนุ ไพรชนิดหน่งึ ท่ีมีประโยชนต์ อ่ รำ่ งกำยในหลำย ๆ ดำ้ น เพรำะอดุ ม
ไปดว้ ยวติ ำมนิ และแรธ่ ำตทุ ่ีมีควำมสำคญั อยำ่ งมำกตอ่ รำ่ งกำยของเรำ เชน่ วิตำมินเอ
วิตำมินบี 1 วิตำมินบี 2 วติ ำมนิ บี 3 วติ ำมนิ ซี เบตำ้ แคโรทีน ธำตเุ หล็ก ธำตแุ คลเซียม
ธำตฟุ อสฟอรสั แถมยังมีโปรตีน คำรโ์ บไฮเดรต และเสน้ ใยจำนวนมำกอีกดว้ ย ซ่ึง
ประโยชนข์ องขิงนนั้ เรำสำมำรถนำมำใชไ้ ดห้ ลำยอย่ำง ไม่ว่ำจะเป็นรำก เหงำ้ ตน้
ใบ ดอก แกน่ และผลก็ไดท้ งั้ นนั้
สรรพคุณ
1.ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะช้ันยอด
2.มสี ารตอ่ ตา้ นอนมุ ลู อสิ ระเปน็ จานวนมาก ช่วยชะลอความแกแ่ ละชะลอการเกิดร้วิ รอย
3.มสี ่วนชว่ ยในการปอ้ งกนั ตอ่ ตา้ นการเกิดโรคมะเร็ง ตอ่ ต้านการเจรญิ เติบโตของเซลล์มะเร็ง
4.ชว่ ยลดผลขา้ งเคยี งจากสารเคมีทใ่ี ช้ในการรกั ษามะเรง็ ดงั น้ันควรรับประทานขงิ ควบคไู่ ปกับการรกั ษามะเรง็ จะเปน็ ผลดี
5.ขงิ มฤี ทธอิ์ นุ่ ช่วยใหร้ า่ งกายอบอนุ่ และช่วยในการขบั เหงือ่
6.ชว่ ยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใชล้ าต้นสด ๆ นามาทุบใหแ้ หลกประมาณ 1 กามือ แล้วต้มกับน้าด่มื
7.ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดดู ซึมคอเลสเตอรอลจากลาไส้ แล้วปลอ่ ยให้รา่ งกายกาจัดออก

ทางอจุ จาระ
8.ชว่ ยรักษาอาการปวดศรี ษะและไมเกรน ด้วยการรบั ประทานน้าขงิ บอ่ ย ๆ
9. ช่วยรกั ษาโรคความดนั โลหติ ด้วยการนาขงิ สดมาฝานต้มกับน้าดมื่
10. ช่วยบารุงหัวใจของคุณใหแ้ ขง็ แรง
11. ช่วยบรรเทาอาการของโรคประสาท ซึง่ ทาให้จติ ใจขุน่ มวั (ดอก)
12. ช่วยฟน้ื ฟูรา่ งการสาหรับมารดาหลงั คลอดบตุ ร
13. ใชบ้ ารงุ น้านมของมารดา (ผล)
14. ชว่ ยทาใหน้ อนหลบั ไดอ้ ยา่ งสบาย
15. การรับประทานขงิ จะช่วยทาใหเ้ ลอื ดแข็งตวั เป็นลม่ิ เลือดได้ช้าลง

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดสงขลา

10

ศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรยี นรู้พืชสมุนไพรใกล้ตวั

ชะพล ู

ชอื่ วิทยาศาสตร์ Piper sarmentosum Roxb. จัดอยใู่ นวงศพ์ รกิ ไทย (PIPERACEAE)
สมุนไพรชะพลู มีช่ือเรียกตามทอ้ งถน่ิ อ่นื ๆ วา่ ผักพลูนก พลลู งิ ปูลิง ปลู งิ นก ผักปูนา (ภาคเหนือ),
ผักแค ผักอเี ลิด ผกั นางเลิด (ภาคอสี าน), ช้าพลู (ภาคกลาง), นมวา (ภาคใต)้ เปน็ ตน้

ชะพลู มักมีการจาสับสนกับพลูทั้งท่ีเป็นคนละชนิดกัน ซ่ึงใบจะรสไม่จัดเท่ากับพลูและ
ยังมีขนาดเล็กกว่า สาหรับสรรพคุณของชะพลูท่ีสาคัญน้ันก็ได้แก่ ช่วยบารุงธาตุ ขับลม แก้อาการ
ทอ้ งอดื ท้องเฟอ้ และชว่ ยในการขับเสมหะ เปน็ ต้น และประโยชนข์ องชะพลูในด้านของสุขภาพนั้น
ก็คือ มีวิตามินเอและธาตุแคลเซียมในปริมาณสูงเป็นพิเศษ และยังมีธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส
คลอโรฟลิ ล์ เสน้ ใยอกี ด้วย ซง่ึ ลว้ นแลว้ แต่มปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกายแทบท้งั สิ้น
สรรพคณุ
1. ช่วยตอ่ ต้านอนมุ ูลอสิ ระตา่ ง ๆ (ใบ)
2. ใบชะพลมู รี สเผ็ดร้อน ชว่ ยทาใหเ้ จริญอาหารมากยง่ิ ขนึ้ (ใบ)
3. ใบชะพลูมีเบตา้ แคโรทนี ในปรมิ าณมากซ่ึงชว่ ยบารงุ และรักษาสายตา ช่วยในการมองเห็น

ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคนื แกโ้ รคตาฟาง เปน็ ตน้ (ใบ)
4. ช่วยยบั ย้งั และชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเรง็ (ใบ)
5. ชว่ ยรกั ษาโรคเบาหวาน ด้วยการใชช้ ะพลูสดทั้งต้นประมาณ 7 ต้น นามาล้างนา้ ใหส้ ะอาด ใส่น้า
พอท่วมแล้วตม้ ใหเ้ ดอื ดสักพัก แลว้ นามาดม่ื เป็นชา (ท้ังตน้ )

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดสงขลา

11

ศนู ย์เรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง ฐานการเรียนรู้พืชสมนุ ไพรใกล้ตวั

พลคู าว

ช่ือทางวทิ ยาศาสตร์ Houttuynia cordata Thunb. จัดอยู่ในวงศ์ผักคาวตอง (SAURURACEAE)
พลูคาว เป็นอีกหน่ึงสมุนไพรไทยทางเลือกท่ีเป็นกระแสมาแรงในช่วง2-3ปีท่ีผ่านเนื่องจากมีงานวิจัยออกมา

มากมายเก่ียวกับสรรพคุณต่างๆไม่ว่าจะเป็นการยับย้ังการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหรือการช่วยเสริมสร้าง
ภูมิคุ้มกนั ให้แกร้ า่ งกายเปน็ ต้นนอกจากน้ียงั มีสรรพคณุ ช่วยควบคุมระดบั นา้ ตาลในเส้นเลือดอีกดว้ ย
สรรพคณุ
ชว่ ยตอ่ ต้านและยับยัง้ การเจริญเติบโตของเซลล์มะเรง็
ชว่ ยบาบดั ฟนื้ ฟูโรคความดันโลหติ สูง
ชว่ ยเสรมิ สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ใหก้ บั ร่างกาย ตา้ นทานโรค
ช่วยควบคมุ ระดับน้าตาลในเลือดและรกั ษาสมดุลภายในรา่ งกาย
ชว่ ยต้านเชอื้ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่
ชว่ ยรักษาและบรรเทาอาการไอ
ชว่ ยรกั ษาอาการตดิ เช้ือเฉยี บพลัน ติดเชื้อทางเดินหายใจ
ช่วยรักษาภาวะภูมแิ พ้ หอบหดื
ชว่ ยรักษาอาการปอดบวม ปอดอกั เสบ
รักษาอาการทอ้ งเสยี แกโ้ รคบิด ชว่ ยขับพยาธิ
ชว่ ยรักษาริดสีดวงทวาร
รักษาอาการไต รกั ษานิ่ว
มฤี ทธยิ์ ับยัง้ ต่อตา้ นเชือ้ แบคทเี รียและไวรัส

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดสงขลา

12

ศนู ยเ์ รียนรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรยี นรู้พืชสมุนไพรใกลต้ วั

เบญจรงค์ 5 สี

ชื่อวิทยาศาสตร์ Asystasia gangetica (L.) T. Anders.
เบญจรงค์ 5 สี มีช่ือเรียกหลายช่ือ เช่น บุษบาริมทาง ตาลึงหวาน อ่อมแซ่บ

บุษบาริมทาง บาหยา ย่าหยา เปน็ สมุนไพรท่มี ีสมี ่วง เปน็ ทง้ั ผกั และสมุนไพร

สรรพคณุ

ประจาเดอื นมาไม่สมา่ เสมอ มีระดขู าว - นาดอกชบาสด 4 ดอกมาตาใหแ้ หลก แล้วกินตอนท้องวา่ งใน
ตอนเชา้ ตดิ ตอ่ กนั 7 วนั นาดอกชบามาตากใหแ้ หง้ ในท่ีร่ม เมอ่ื แห้งสนิทดีแล้ว เอามาบดเป็นผง กนิ ครัง้ ละ 1 ชอ้ น
ชาตอนเชา้ ตดิ ตอ่ กนั นาน 7 วนั

ประจาเดือนไมม่ า ใชด้ อกชบา 3 ดอกบดใหแ้ หลก แล้วผสมกบั นา้ มะนาวสกั 2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมกบั นม
1 แก้ว แล้วด่มื ตอนทอ้ งวา่ งตอนเช้า จะชว่ ยปรบั เรือ่ งประจาเดือนได้ เอาเฉพาะกลีบดอกชบาผสมกบั น้าตาลอ้อย
หรือน้าตาลป๊บี อย่างละเทา่ ๆ กันใสใ่ นโถแก้วมีฝาปิด แล้วเอาโถแกว้ ออกตากแดดติดต่อกันสัก 21 วัน นา้ ตาลจะ
ละลายผสมกับดอกชบา พอครบกาหนดแล้วเอามากนิ ครง้ั ละ 2 ชอ้ นชา วันละ 2 คร้ัง นานสองถึงสามสปั ดาห์ ยา
สูตรนีถ้ ือว่า เป็นยาบารุงประจาเดือน

ดบั ร้อนและแก้ไข้ - ใช้ดอกชบา 4 ดอกแชใ่ นนา้ ต้มสุก 2 แกว้ แล้วดืม่ ตา่ งน้า จะช่วยดบั รอ้ นผ่อน
กระหายและแกไ้ ขไ้ ด้ดี

รักษาโรคผิวหนงั ท่เี กดิ จากเชื้อรา เชน่ ฮ่องกงฟตุ - ใช้เปลอื กต้น 50 กรมั
แชใ่ นแอลกอฮอล์ 150 ซีซี นานหนงึ่ วนั แล้วกรองเอาแตน่ ้ายาไวท้ าบริเวณทีเ่ ปน็
ฮอ่ งกงฟุต

รักษาแผลไฟไหม้น้ารอ้ นลวก – ใช้ใบชบาหรอื ฐานดอกกไ็ ดม้ าตาใหแ้ หลก
แลว้ เอามาพอกบรเิ วณที่ถูกไฟไหมน้ า้ ร้อนลวก นา้ เมือกจากใบจะช่วยรักษาแผล
ได้เป็นอย่างดี

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอคลองหอยโขง่
สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดสงขลา

13

ศนู ยเ์ รยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพยี ง ฐานการเรยี นรู้พชื สมุนไพรใกล้ตวั

ปื นนกไส้

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Bidens pilosa L
ปนื นกไส้ หรือ กี่นกไส้ หรือ หญ้าก้นจ้าขาว เป็นวัชพืชในวงศ์ทานตะวัน
เป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว สูงได้ถึง 1 เมตร ลาต้นเป็นสัน ใบเป็นใบ
ประกอบขนนกช้ันเดียว มี 3 ใบย่อย แผ่นใบรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบ
ใบหยกั ดอกออกเป็นช่อกระจุกแนน่ ทป่ี ลายยอดและซอกใบ ก้านช่อดอก
ยาว วงใบประดับมี 2 ชั้นแยกกัน ดอกวงนอกมีกลีบดอกรูปล้ินสีขาวไม่
สมบูรณ์เพศ ดอกวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบดอก 5 กลีบเช่ือม
ติดกันเปน็ หลอดสีเหลือง เกสรเพศผูส้ ีน้าตาล เกสรเพศเมียสีเหลืองปลาย
แยกเป็น 2 แฉก ผลเป็นแบบผลแห้งเมล็ดลอ่ นสนี า้ ตาลเข้ม
สรรพคณุ
รากใชต้ ม้ กับนา้ ด่ืมเปน็ ยาแกห้ วัด (ราก)
ปืนนกไส้ทั้งตน้ (อีกตาราระบุว่าใช้ราก) ใช้ผสมกบั รากสาบเสือ รากมะเหลย่ี มหนิ กน้ จ้าทั้งต้น
และผกั ปลาบทง้ั ตน้ นามาตม้ กับนา้ ด่ืมเปน็ ยาแกไ้ อมีนา้ มูกขน้ (ทัง้ ตน้ )
ใบใชเ้ ปน็ ยาหา้ มเลอื ด รกั ษาบาดแผล แผลบวม แผลเน่า (ใบ)
มีบางข้อมูลระบสุ รรพคุณนอกเหนอื จากที่กลา่ วมาว่าทั้งตน้ นามาต้มกบั น้าด่ืมเปน็ ยาแก้ท้องรว่ ง
จุกเสยี ด ส่วนใบสดใช้เป็นยาแกป้ วดฟนั

นามาประกอบอาหาร ตากแหง้

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสงขลา

14

ศนู ย์เรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรียนรู้พชื สมุนไพรใกลต้ ัว

หนานเฉาเหว่ยหรอื

ตน้ ป่ าชา้ เหงา

ช่ือวิทยาศาสตร์ : Gymnanthemum extensum
ถูกจัดเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมาก เพราะตั้งแต่ปี 2547 ท่ีทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัย
ภูเบศร จัดทาโครงการ “ชลอวัยไกลโรค” ได้สืบหาสมุนไพรสาหรับผู้สูงอายุ ก็ได้พบผมท่ี
“บ้านสามขา” จังหวัดลาปาง เร่ิมวิจัย จัดทาข้อมูล สรรพคุณพบว่า ป้องกันไม่ให้ตับถูกทาลาย
โดยอัลฟาท็อกซิน ป้องกันสารพิษไม่ให้ตับเสียจากเบาหวาน และไตวาย ปัจจุบันมีขายทั้งต้นสด
แห้ง และแบบผง
สรรพคณุ

ใบป่าช้าเหงามีฤทธ์ิในการต้านมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และป้องกันผลข้างเคียงของยาเคมี
บาบัด ต้านการแพ้ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมตับที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเป็นพิษได้
นอกจากนีย้ งั มีรายงานถงึ ความสามารถในการปกป้องเซลล์ปกตจิ ากกัมมนั ตรงั สไี ด้อีกด้วย

มีข้อมูลทางโภชนาการยืนยันว่า “ป่าช้าเหงา” มีประโยชน์ในการช่วยบรรเทาปัญหาการขาด
สารอาหาร เพราะอุดมไปดว้ ยโปนตีน วติ ามนิ และแร่ธาตุ ทง้ั ฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม ซิงค์ คอปเปอร์
กรดโพลิก และกรดแอสคอบิก หมอยาไทใหญ่และชาวมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้นิยมใช้เป็นยารักษาโรคฮิตอีก
หลายโรค เช่น เบาหวาน ความดนั ไขมันในเลือดสูง และมีการศกึ ษาทย่ี ืนยันว่าสารสกัดป่าเฮ่วหมอง สามารถลด
ความเข้มข้นของน้าตาลกลูโคสในกระแสเลือดได้ ทั้งในคนท่ีระดับน้าตาลปกติและคนเบาหวาน โดยไม่มีผลให้
ระดบั น้าตาลตก และช่วยปกป้องตบั ปอ้ งกนั ไตเสอ่ื มจากเบาหวานได้

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโขง่
สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสงขลา

15

ศูนย์เรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรยี นรพู้ ืชสมนุ ไพรใกล้ตวั

กลว้ ยน้าวา้

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Musa acuminata × Musa balbisiana 'Pisang Awak'
“กล้วย” โดยเฉพาะ “กล้วยน้าว้า” ทก่ี ็นับได้ว่าเป็นอาหารชนดิ แรก
ในชวี ิตของคนเรา รองลงมาน้านม และกล้วยน้าว้าน้ี นอกจากจะ
กนิ ผลสุกเป็นอาหารแล้ว กย็ งั สามารถนาไปทาขนมต่างๆ หรอื จะ
ใชล้ าตน้ และใบมาใช้ประโยชนอ์ ื่นๆ ได้ด้วย
สรรพคุณ
1. กล้วยน้าว้าสุกกนั ช่วยในเรื่องการขับถา่ ย มีฤทธิ์ต้านแบคทเี รยี และเชอื้ รา แก้ท้องผูก บารงุ รา่ งกาย
บารงุ กาลงั และรกั ษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร
2. สว่ นผลดบิ ของกล้วยน้าว้า มสี รรพคุณมากเชน่ กนั คือ ช่วยปอ้ งกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
รักษาทอ้ งเสยี เรือ้ รงั อาหารไมย่ อ่ ย โดยการห่นั ผลดบิ ทัง้ เปลือกเปน็ แว่นแล้วตากใหแ้ ห้ง บดเป็นผง ป้นั เป็น
เม็ดหรอื ใช้ชงน้าร้อนดืม่ ใชค้ รง้ั ละประมาณเทา่ กับกล้วยครึ่งถึงหนง่ึ ผล หรอื นาผงมาใช้โรยรักษาแผลเนา่
เป่ือย แผลตดิ เช้อื แผลเรือ้ รัง
3. หวั ปลี ใชแ้ กโ้ รคลาไส้ โลหิตจาง ลดน้าตาลในเลือด แก้ร้อนในกระหายน้า บารุงนา้ นม บารงุ โลหิต
4. ยางกลว้ ย ชว่ ยสมานแผล ห้ามเลอื ด
5. ใบกลว้ ย ใชต้ ม้ อาบแกเ้ มด็ ผดผ่ืนคัน ใชใ้ บไปป้ิงนามาปิดแผลไฟไหม้
6. ราก ใช้ต้มดม่ื แก้รอ้ นใน กระหายนา้ แกท้ ้องเสยี แกบ้ ิด แกผ้ น่ื คัน

ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอคลองหอยโข่ง
สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดสงขลา

คณะผจู้ ดั ทา

ทีป่ รึกษา

นางสาวพชั รี ไชยโรจน์ ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอคลองหอยโขง่
นางสาวยพุ เรศ สวุ รรณะ ครู
นางสาวอนุสรา ยาพระจนั ทร์ ครูผู้ชว่ ย

ผูร้ ับผดิ ชอบฐานเรยี นร้พู ืชสมนุ ไพรใกล้ตวั

นายภูธร มณรี ตั น์ พนกั งานพมิ พ์

คณะทางานจัดทาเอกสาร

นางสาวอนสุ รา ยาพระจันทร์ ครผู ูช้ ่วย

นายภูธร มณีรัตน์ พนกั งานพิมพ์

นางสาวกนั ติชา ดาอาไพ ครู กศน.ตาบล


Click to View FlipBook Version