อาหารยโุ รป
ศรีวรรณ พงษ์สำราญ กลุม่ 11 รหสั นักศกึ ษา 116330602004-6
รัชฎาภรณ์ ภเู งิน กล่มุ 11 รหัสนักศกึ ษา 116330602061-6
นชุ สริ ิน ศุภผล กลมุ่ 11 รหสั นักศึกษา 116330602077-2
รายงานเลม่ นเี้ ป็นสว่ นหนึง่ ของวิชาการค้นควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ
ภาควิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
อาหารยโุ รป
ศรีวรรณ พงษ์สำราญ กลุม่ 11 รหสั นักศกึ ษา 116330602004-6
รัชฎาภรณ์ ภเู งิน กล่มุ 11 รหัสนักศกึ ษา 116330602061-6
นชุ สริ ิน ศุภผล กลมุ่ 11 รหสั นักศึกษา 116330602077-2
รายงานเลม่ นเี้ ป็นสว่ นหนึง่ ของวิชาการค้นควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ
ภาควิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้จัดทำขึน้ เพือ่ ปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าที่ถูกตอ้ งอย่างเป็นระบบ อัน
เป็นส่วนหนึง่ ของการศึกษารายวชิ า 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซึ่งจะ
นำไปใช้ในการทำรายงานค้นคว้าสำหรับรายวิชาอื่นได้อีกต่อไป การที่ผู้จัดทำเลือกทำเรื่อง "อาหาร
ยุโรป" เนือ่ งด้วยอาหารยุโรปเป็นอาหารท่มี ีชื่อเสยี งและโด่งดังไปทัว่ โลก แต่หลักการในการทานอาหาร
ยุโรปมีความซับซอ้ นและมเี สน่ห์เฉพาะตวั เป็นอยา่ งมาก ดังนนั้ คณะผจู้ ดั ทำจึงตอ้ งการนำเสนอความรู้
ความเข้าใจที่ถกู ต้องในการทานอาหารยุโรป
รายงานเล่มนี้กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมาของอาหารยุโรป อาหารยุโรปใน
ไทย ลกั ษณะของอาหารยุโรป วฒั นธรรมการรับประทานยุโรป การจดั โตะ๊ อาหารแบบยโุ รป และการ
เสิร์ฟอาหารแบบยุโรป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้ความเข้าใจในการรับประทานอาหารยุโรปท่ี
ถูกตอ้ ง
ขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย
ตลอด และขอขอบคุณบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้จัดทำเว็บไซต์ และห้องสมุดคณะคหกรรมศาสตร์ ที่ให้ความสะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมไปถึง
ทา่ นเจ้าของหนงั สือ บทความ ทผี่ ู้เขียนใช้อา้ งอิงทุกท่าน หากมีขอ้ บกพร่องประการใด ผู้เขียนขอน้อม
รบั ไวเ้ พ่ือปรบั ปรุง
คณะผจู้ ัดทำ
18 กมุ ภาพันธ์ 2565
ข
สารบัญ
หนา้
คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………….. ก
สารบญั …………………………………………………………………………………………………………………….. ข
สารบัญภาพประกอบ…………………………………………………………………………………………………. ง
บทท่ี
1 บทนำ…………………………………………………………………………………………………………… 1
1.1 ความหมายของอาหารยุโรป……………………………………………………………………. 1
1.2 ประวตั ิของอาหารยโุ รป………………………………………………………………………….. 2
1.3 อาหารยโุ รปในไทย………………………………………………………………………………… 3
1.4 มารยาทบนโต๊ะอาหาร…………………………………………………………………………… 3
2 วัฒนธรรมการกินของอาหารยุโรป…………………………………………………………………… 5
2.1 อาหารมื้อเช้า………………………………………………………………………………………… 5
2.1.1 มอ้ื เชา้ แบบอังกฤษ………………………………………………………………….. 5
2.1.2 ม้อื เช้าแบบอเมรกิ ัน…………………………………………………………………. 5
2.2 มอ้ื ว่างเช้า……………………………………………………………………………………………… 6
2.3 ม้อื กลางวัน……………………………………………………………………………………………. 7
2.4 มอื้ ว่างบ่าย……………………………………………………………………………………………. 7
2.4.1 Afternoon tea……………………………………………………………………… 7
2.4.2 High tea ……………………………………………………………………………… 7
2.5 มอ้ื เยน็ ………………………………………………………………………………………………….. 8
3 อุปกรณ์บนโตะ๊ อาหารยโุ รป…………………………………………………………………………….. 9
3.1 อปุ กรณ์บนโต๊ะอาหารยโุ รป…………………………………………………………………….. 9
3.2 การจดั โต๊ะอาหารแบบสากล……………………………………………………………………. 13
3.2.1 แบบเป็นทางการ…………………………………………………………………….. 14
3.2.2 แบบไม่เปน็ ทางการ………………………………………………………………… 15
3.3 รปู แบบการจดั โต๊ะของโรงแรม………………………………………………………………… 16
3.3.1 Breakfast Setting การจดั โตะ๊ อาหารเช้า………………………………….. 16
3.3.2 Lunch Setting การจัดโตะ๊ อาหารกลางวัน………………………………. 16
3.3.3 DinnDinnerTableer Setting การจดั โต๊ะอาหารคำ่ ท่ัวไป…………… 17
ค
สารบญั (ตอ่ )
บทที่ หน้า
3.3.4 Formal Dinner Setting การจดั โตะ๊ อาหารค่ำแบบทางการ……… 17
3.3.5 European Dinner Setting การจัดโต๊ะอาหารค่ำแบบยโุ รป……… 18
3.3.6 Banquet Dinner Setting การจดั โตะ๊ จัดเล้ยี งอาหารค่ำ……………. 18
4 การเสิรฟ์ อาหารแบบยโุ รป………………………………………………………………………………. 20
4.1 การจดั รปู แบบจานประเภทตา่ งๆ……………………………………………………………… 20
4.1.1 การจดั จานแบบก่อนเสิร์ฟ………………………………………………………… 20
4.1.2 การจดั จานสำหรบั เสิร์ฟซปุ ………………………………………………………. 20
4.1.3 การจัดจานสำหรับเสิรฟ์ อาหารทะเล…………………………………………. 21
4.1.4 การจัดจานสำหรับเสริ ์ฟสลัด……………………………………………………. 21
4.1.5 การจดั จานสำหรบั เสิรฟ์ อาหารประเภทเน้ือ………………………………. 21
4.1.6 การจัดจานสำหรับกอ่ นทานอาหารหวาน…………………………………… 21
4.1.7 การจัดจานสำหรบั ทานอาหารหวาน………………………………………….. 21
4.1.8 การจดั จานหลงั ทานอาหารเสร็จ……………………………………………….. 21
4.2 ลักษณะการเสริ ์ฟอาหาร…………………………………………………………………………. 21
4.2.1 ขนมปงั ………………………………………………………………………………….. 21
4.2.2 อาหารเรียกน้ำย่อย………………………………………………………………….. 22
4.2.3 อาหารซปุ ………………………………………………………………………………. 22
4.2.4 อาหารจานหลกั ………………………………………………………………………. 22
4.2.5 ของหวาน…………………………………………………………………………….. 24
4.3 การแต่งกาย………………………………………………………………………………………….. 24
4.3.1 ผชู้ าย…………………………………………………………………………………….. 24
4.3.2 ผู้หญิง……………………………………………………………………………………. 25
4.4 เคล็ดลบั ในการทานอาหารยโุ รป………………………………………………………………. 26
5 สรปุ ……………………………………………………………………………………………………………… 27
บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………………………. 28
ง
สารบัญรปู ภาพประกอบ
ตารางท่ี หน้า
1 มอื้ เชา้ แบบองั กฤษ………………………………………………………………………………………….. 5
2 มือ้ เช้าแบบอเมริกัน………………………………………………………………………………………… 6
3 มื้อว่างเชา้ ……………………………………………………………………………………………………… 6
4 Afternoon tea……………………………………………………………………………………………… 7
5 High tea………………………………………………………………………………………………………. 7
6 จานรอง…………………………………………………………………………………………………………. 9
7 ผา้ เชด็ ปาก…………………………………………………………………………………………………….. 9
8 ชอ้ นซุป…………………………………………………………….…………………………………………… 9
9 มีดสำหรับหน่ั …………………………………………………………….…………………………………… 10
10 ช้อนสอ้ ม…………………………………………………………….………………………………………… 10
11 จานใส่ขนมปงั …………………………………………………………….………………………………….. 10
12 ชอ้ นกาแฟ…………………………………………………………….……………………………………….. 11
13 สอ้ มสำหรับทานผลไม้…………………………………………………………….……………………….. 11
14 ท่ที าเนย………………………………………………………………………………………………………… 11
15 แกว้ นำ้ เปล่า…………………………………………………………………………………………………… 12
16 แก้วแชมเปญ…………………………………………………………………………………………………. 12
17 แก้วไวน์แดง…………………………..………………………………………………………………………. 12
18 แก้วไวนข์ าว…………………………………………………………………………………………………… 13
19 โตะ๊ แบบไม่เป็นทางการ…………………………………………………………………………………… 13
20 โต๊ะแบบไมเ่ ปน็ ทางการ…………………………………………………………………………………… 14
21 โต๊ะแบบเปน็ ทางการ………………………………………………………………………………………. 15
22 โตะ๊ อาหารเช้า………………………………………………………………………………………………… 16
23 โต๊ะอาหารกลางวนั …………………………………………………………………………………………. 17
24 การจดั โตะ๊ อาหารค่ำทว่ั ไป……………………………………………………………………………….. 17
25 การจดั โต๊ะอาหารค่ำแบบทางการ…………………………………………………………………….. 18
26 การจัดโตะ๊ อาหารค่ำแบบยุโรป………………………………………………………………………… 18
27 การจัดโต๊ะจดั เลย้ี งอาหารค่ำ……………………………………………………………………………. 19
จ
สารบัญรูปภาพประกอบ (ตอ่ )
ตารางที่ หน้า
28 การจัดจานก่อนเสิร์ฟ………………………………………………………………………………. 20
29 การจัดจานสำหรับเสริ ์ฟซปุ ………………………………………………………………………. 20
30 อาหารเรยี กนำ้ ย่อย…………………………………………………………………………………. 22
31 อาหารประเภทซุป………………………………………………………………………………….. 22
32 การจดั จานสำหรบั เสริ ์ฟอาหารทะเล…………………………………………………………. 23
33 การจัดจานสำหรบั เสริ ์ฟสลัด……………………………………………………………………. 23
34 การจัดจานสำหรับเสิร์ฟเน้ือ…………………………………………………………………….. 23
35 การจดั จานสำหรับเสริ ์ฟของหวาน…………………………………………………………….. 24
36 การแตง่ กายของผชู้ าย……………………………………………………………………………… 24
37 การแต่งกายของผหู้ ญงิ …………………………………………………………………………….. 25
38 เคล็ดลับในการทานอาหารยุโรป……………………………………………………………….. 26
1
บทท่ี 1
บทนำ
อาหารยุโรปเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ทว่าอาหารยุโรปที่แท้จริงมี
ประวตั คิ วามเป็นมา วธิ กี ารรบั ประทาน วัฒนธรรมการรับประทานท่ีพิเศษและแตกต่างกว่าวัฒนธรรม
ของชนชาติอืน่ เป็นอย่างมาก
1.1 ความหมายของอาหารยโุ รป
อาหารยุโรปหรือ อาหารตะวันตก เปน็ คำท่ีใชอ้ า้ งถงึ อาหารในทวีปยุโรป และประเทศตะวันตก
อื่นๆรวมทั้ง (ขึ้นกับคำจำกัดความ) รัสเซีย, เช่นเดียวกับอาหารที่ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองในออสเตรเลีย
ทวีปอเมริกา แอฟริกาใต้และโอเชยี เนีย ซ่งึ ไดร้ บั อทิ ธิพลจากยโุ รป นยิ ามนี้ใชโ้ ดยชาวเอเชียตะวันออก
เพื่อให้ต่างจากอาหารแบบเอเชีย (นี่เป็นแบบเดียวกับที่ชาวตะวันตกให้นิยามอาหารของประเทศใน
เอเชยี ตะวันออกว่ ่าเป็นอาหารเอเชีย) ในขณะท่ีชาวตะวันตก คำน้ใี นบางครง้ั จะหมายถึงเฉพาะอาหาร
บนพื้นแผ่นดินของทวีปยุโรป และมีความหมายเช่นเดียวกับยุโรปภาคพื้นแผ่นดินโดยเฉพาะใน
ภาษาอังกฤษแบบองั กฤษ
อาหารของประเทศตะวันตกความหลากหลายภายในกลุ่ม แม้ว่าจะมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้
แตกต่างจากอาหารเอเชยี และอื่นๆ เมือ่ เปรียบเทยี บกับการปรุงอาหารในเอเชีย ตัวอย่างเช่น เน้ือสัตว์
มีความโดดเด่นจะเสิร์ฟในขนาดที่รับประทานสเต็กและเนื้อแล่เป็นแผ่นเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปใน
ประเทศตะวันตก นิยมใช้ไวน์องุ่นและซอสเป็นเครื่องเคียง ใช้ผลิตภัณฑ์จากนมหลายชนิดใน
กระบวนการปรุงอาหาร ยกเว้นในอาหาร nouvelle มีการผลิต ชีส ในหลากหลายรูปแบบ
และ ผลิตภัณฑ์นมหมัก มีให้เลือกใช้ได้หลายชนิดเช่นกัน ขนมปังจากแป้งสาลีเป็นแหล่งของแป้งท่ี
สำคัญ เช่นเดียวกับ พาสตา เกี๊ยว และ แพสตรี มันฝรั่งก็เป็นแหล่งของแป้งที่สำคัญในอาหารยุโรป
และแพร่หลายในอาณานิคมของยุโรปในทวีปอเมริกา ข้าวโพดพบในอาหารยุโรปน้อยกว่าใน ทวีป
อเมริกา แม้ว่าอาหารท่ีทำจากขา้ วโพด (polenta or mămăligă) เป็นส่วนสำคัญในอาหารอิตาลีและ
ในคาบสมทุ รบอลขา่ น ขนมปังแบน โดยเฉพาะท่ีมีการแต่งหน้า เช่น พซิ ซาหรือ tarte flambée และ
ข้าวมีรับประทานในยุโรปตะวนั ออกแตไ่ มใ่ ช่อาหารหลกั สลดั ถอื เปน็ สว่ นสำคัญของอาหารยุโรป
อาหารเย็นแบบยุโรปทเี่ ปน็ ทางการจะแยกเป็นจานต่างๆ โดยพฒั นามาจากการนำอาหารหลายจานมา
วางบนโต๊ะพร้อมๆกัน ไปเป็นการเสิร์ฟอาหารตามลำดับ ในแบบที่เคร่งครัด อาหารที่เย็น ร้อม เผ็ด
และหวานจะจัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือซุป จากนั้นเป็นจานหลัก และสุดท้ายเป็นของหวาน
อาหารที่ทง้ั หวานและเผ็ดเป็นอาหารที่พบได้ท่ัวไปในสมัยจักรวรรดิโรมันโบราณ แต่ไม่ปกติในปัจจุบัน
2
อาหารที่หวานจัดเป็นของหวานเท่านั้น การจัดเสิร์ฟที่ผู้รับประทานออกไปตักอาหารอย่างเป็นอิสระ
ดว้ ยตนเองเรียกวา่ บุฟเฟต์ พบไดเ้ ฉพาะในงานเลีย้ งหรือวนั หยุด (อบเชย อิ่มสบาย, 2552: ออนไลน)์
1.2 ประวัติของอาหารยโุ รป
ยุโรปอาหารประกอบด้วยอาหารของยุโรปรวมทั้งอาหารที่นำไปยังประเทศอื่น ๆ โดยตั้งถิ่น
ฐานในยุโรปและอาณานิคม บางคร้งั คำว่า "ยุโรป" หรือมากขนึ้ โดยเฉพาะด้านอาหาร "คอนติเนน" ถูก
นำมาใชเ้ พอื่ หมายอยา่ งเครง่ ครดั มากขึน้ อาหารของสว่ นตะวันตกของแผน่ ดินใหญ่ยโุ รป
อาหารของประเทศตะวันตกมีความหลากหลายแมว้ ่าจะมีลักษณะทั่วไปท่ีแตกต่างจากภูมิภาค
อื่น ๆ เมื่อเทียบกับการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของเอเชียตะวันออกแล้วเนื้อสัตว์มีความโดดเด่นกว่า
และมีขนาดใหญ่กว่าสเต็กและทอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่พบบ่อยในเวสต์ อาหารฝรั่งเน้ นไวน์
องุ่นด้วยและซอสเป็นเครื่องปรุงรสเครื่องปรุงรสหรืออาหารเสริม (ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความ
ยากลำบากในการปรุงรสที่เจาะเนื้อชิ้นใหญ่ที่มักใช้ในการปรุงอาหารแบบตะวันตก) ผลิตภัณฑ์นม
หลายชนิดถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารมีหลายร้อยสายพันธุ์ของมีชีสและอื่น ๆผลิตภัณฑ์นมหมัก สี
ขาวข้าวสาลีขนมปัง -flour มีมานานศักดิ์ศรีแป้งแต่ในอดีตคนส่วนใหญ่กินขนมปัง flatcakes หรือ
โจ๊กท่ีทำจากขา้ วไรย์ , สะกด , ขา้ วบาร์เลย์และข้าวโอ๊ต ทด่ี กี ว่าออกยังทำพาสต้า , เก๊ียวและขนมอบ
มันฝรั่งได้กลายเป็นพืชแป้งที่สำคัญในการรับประทานอาหารของชาวยุโรปและพ ลัดถิ่นของพวกเขา
ตงั้ แตอ่ าณานิคมของยุโรปอเมริกา ข้าวโพดเล้ียงสัตวท์ ่ีมีมากน้อยที่พบบ่อยในอาหารในยุโรปส่วนใหญ่
มากกว่าที่เป็นอยู่ในอเมริกา ; แต่ข้าวโพด ( polentaหรือmămăligă ) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ
อาหารของอิตาลีและคาบสมุทรบอลข่าน แม้ว่าขนมปังแผ่นเรียบ (โดยเฉพาะที่มีท็อปปิ้งเช่นพิซซ่า
หรือทาร์ตฟลัมเบะ ) และข้าวจะรับประทานในยุโรป แต่ก็เป็นเพียงอาหารหลักในพื้นที่ จำกัด
โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้ สลัด (อาหารจานเยน็ ที่มีผักดิบหรือปรุงสุกบางครัง้ อาจมีน้ำสลัด) เป็นส่วน
สำคัญของอาหารยุโรป
อาหารค่ำแบบยุโรปอย่างเป็นทางการให้บริการในหลักสูตรที่แตกต่างกัน การนำเสนอแบบยุโรป
พัฒนามาจากการเสิร์ฟแบบฝรั่งเศสหรือการนำอาหารหลาย ๆ รายการมาที่โต๊ะพร้อมกันในรูปแบบ
บรกิ ารà la russeซ่งึ จะนำเสนออาหารตามลำดบั โดยปกตแิ ลว้ เย็นอาหารจานรอ้ นและเผ็ดและหวาน
จะทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดแยกต่างหากในคำสั่งนี้เป็นhors d'ผลงาน (เรียกน้ำย่อย) หรือน้ำซุปเป็น
อาหารจานหลักและหลักสูตรหลักและเป็นขนม อาหารที่มีทั้งหวานและคาวเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไป
ในอาหารโรมันโบราณ แต่ปัจจุบันเป็นอาหารที่ไม่ธรรมดาโดยอาหารหวานจะเสิร์ฟเป็นของหวาน
เท่าน้ัน บริการทีแ่ ขกมีอสิ ระในการรับประทานอาหารด้วยตวั เองเรียกวา่ บฟุ เฟต่ แ์ ละโดยปกติจะ จำกดั
เฉพาะงานเลี้ยงหรือวันหยุด อย่างไรก็ตามผู้เข้าพักจะต้องปฏิบัติตามรูปแบบเดียวกัน (อบเชย อิ่ม
สบาย, 2552: ออนไลน์)
3
1.3 อาหารยโุ รปในไทย
อาหารยุโรป Filet Salmon อาหารยุโรปเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีแพร่หลายในประเทศ
ไทย เนอ่ื งจากการรบั เอาวฒั นธรรมตะวนั ตกมาหลายร้อยปี แรกเรมิ่ จากสังคมชั้นสูงก่อน ดังจะเห็นได้
ว่าปัจจุบันการหาอาหารยโุ รปมารับประทานน้ันไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากมีร้านอาหารยุโรปเปิดบริการ
กันเป็นจำนวนมาก การออกแบบภัตตาคารและการจัดร้านมีเอกลักษณ์แบบยุโรปชั้นสูงเพื่อดึงดูด
ความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ อาหารยุโรปเต็มรูปแบบจะถูกนำมาเสิร์ฟทีละอย่าง ๆ
ตามลำดับ ไม่ได้นำมาวางพร้อมกันกลางโต๊ะอาหารแบบอาหารไทย การรับประทานนั้นก็จะรับประะ
ทานทีละอยา่ ง ๆ ตามลำดับจนจบ การจัดโต๊ะ การเตรียมอปุ กรณร์ ับประทานอาหาร เชน่ สอ้ มและมีด
จะเปล่ยี นไปตามอาหารนั้น ๆ และจะถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อนก่อนบนโต๊ะอาหาร เวลาท่ีจะ
รบั ประทานกใ็ ช้เครื่องมือชิ้นท่ีจัดวางไวด้ า้ นนอกสุดไล่เข้ามาตามลำดับ สว่ นของหวานช้อนส้อมจะวาง
ไว้บนเหนอื สดุ ด้านบนของจานในความเปน็ จรงิ แม้จะเป็นดินเนอร์อยา่ งเป็นพธิ ีการ แต่ส่วนใหญ่จะมี
การตัดอาหารบางอย่างออกไป เสิร์ฟอาหารจำพวกเนื้อเพียงครั้งเดียวบ้าง หรืออาจจะตัดไอศกรีม
ออกไปบ้าง เปน็ ตน้ เมอ่ื เสิร์ฟอาหารจานแรก ออเดิรฟ์ ไวน์จะเสริ ์ฟตามทันที ออเดริ ์ฟรับประทานกับ
ไวน์ขาว ซุป เว้นไม่เสิร์ฟเหล้าองุน่ ปลารับประทานกับไวน์ขาว อาหารจานหลัก main course เหล้า
องุ่นจะเสิร์ฟตามชนิดอาหาร เช่นเนื้อวัว เป็ด แกะ รับประทานกับ ไวน์แดง ไก่ และอาหารทะเล
รับประทานพร้อมกับไวน์ขาว เป็นต้น (ชตุ ิพงศ์ เสนา, 2562: ออนไลน์)
1.4 มารยาทบนโต๊ะอาหาร
มารยาทในการรับประทานอาหารแบบยุโรป สำหรับอาหารยุโรป จะแบ่งการรับประทาน
ออกเป็น 2 แบบ ตามลกั ษณะของกบั ใชอ้ ุปกรณ์ คอื
แบบท่ี 1 แบบอเมรกิ ัน
เป็นแบบที่ใช้ส้อมด้วยมือขวา และเมื่อจะรับประทานอาหาร ต้องยกปลายส้อมขึ้นข้างบน
แล้วใช้ส้อมตกั อาหาร ส่วนมีดหากไมใ่ ช้ให้วางไว้ขา้ ง ๆ จาน
แบบที่ 2 แบบยโุ รป
เป็นแบบที่ใช้ส้อมดว้ ยมือซ้าย และเมื่อจะรับประทานอาหาร ให้คว่ำปลายสอ้ มลง และถือมีด
ไวด้ ว้ ยมือขวา
อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ เราควรหยิบมาใช้ให้ถูกต้อง
เหมาะสม ดงั นี้
1.4.1 อันดับแรกควรหยิบผ้าเช็ดปากที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารมาคลี่ออก แล้วนำมาวางไว้บน
ตกั เพอื่ ใช้ซบั อาหารทตี่ ดิ ปาก
1.4.2 ถ้าผ้าเชด็ ปากตก ให้พยายามหยิบโดยไม่สรา้ งความรำคาญให้กบั ผูอ้ นื่
4
1.4.3 ถ้ามีความจำเป็นต้องลุกจากโต๊ะอาหาร ในระหว่างที่ยังรับประทานอาหารอยู่ ให้วาง
ผ้าเชด็ ปากไว้ทเ่ี ก้าอี้
1.4.4 เมื่อใชผ้ า้ เชด็ ปากเสรจ็ แล้วไม่ต้องพับ ให้วางไว้บนโตะ๊ ด้านซา้ ยมอื
1.4.5 ถ้าเป็นการรับประทานอาหารในแบบอเมริกัน ให้ใช้มือขวาจับส้อม และใช้มือซ้ายจับ
มดี หรือช้อน แต่ถา้ เป็นการรบั ประทานอาหารใน แบบยุโรป ใหใ้ ช้มือซา้ ยจับส้อม และใชม้ ือขวาจับมีด
หรอื ช้อน
1.4.6 สว่ นการรับประทานซปุ ให้ใชช้ อ้ นตักซุปออกจากตัว และรบั ประทานซปุ ด้านขา้ งชอ้ น
1.4.7 สำหรับการใช้มีด เราควรพึงระลึกอยู่เสมอว่ามีดมีไว้ใช้หั่นอาหารเท่านั้น จึงไม่ควรใช้
มดี ตกั หรอื จม้ิ อาหารเข้าปาก
1.4.8 แก้วน้ำให้หยิบด้านขวามือของตัวเอง อย่าเผลอไปหยิบด้านซ้าย เพราะจะทำให้โต๊ะ
อาหารรวนไปทง้ั โต๊ะ
1.4.9 เมื่อเลิกใช้ช้อน ส้อม และมีดแล้ว ให้วางไว้บนจานรอง หรือจานอาหาร อย่าวางไว้บน
โต๊ะเดด็ ขาด
5
บทที่ 2
วฒั นธรรมการกินของอาหารยุโรป
2.1 อาหารม้ือเช้า
2.1.1 มอ้ื เชา้ แบบองั กฤษ
อาหารเช้าแบบอังกฤษเป็นอาหารเช้า ที่ไม่เหมือนกับของทางอเมริกันตรงที่ไม่เน้นเนื้อสัตว์
แตจ่ ะเนน้ พวกผลไม้ ชา กาแฟมากกวา่ อาจเปน็ อาหารมื้อไม่ใหญ่มากเหมือนอเมริกัน อาหารเช้าแบบ
อังกฤษ ซงึ่ ส่วนมากแล้วจะประกอบด้วย
- เครอ่ื งดม่ื เป็นหลัก ได้แก่ ชา กาแฟ นมสด โกโก้ น้ำผลไม้ แตเ่ ท่าที่เหน็ มาสว่ นใหญ่
มักเป็นชา เชน่ ชามะลิ เปน็ ต้น
- ขนมปงั หรอื ประเภทครวั ซองเสียเปน็ ส่วนใหญ่
- ชีสห่ัน เพอื่ เอาไว้กินกนั ขนมปงั
- โยเกิรต์
- ผลไม้สด ตามฤดกู าล ถ้าเป็นในโรงแรมบ้านเรากม็ ี แตงโม สบั ปะรด มะละกอ แก้ว
มงั กร กล้วย เป็นตน้
- ซีเรียล ประเภทธัญพืชทั้งอบ หรือแห้ง เพื่อแกล้ากับนมสด (David Ball, 2560:
ออนไลน์)
ภาพที่ 1 : มือ้ เช้าแบบองั กฤษ (David Ball, 2560: ออนไลน์)
2.1.2 ม้ือเช้าแบบอเมรกิ นั
อาหารหลักของอาหารเช้าแบบอเมริกันจะได้แก่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งจะมีทั้งแฮม
เบคอน ซอสเซท ซ่งึ ทางโรงแรมจะใส่ไว้ในถาดใหเ้ ลอื กหยบิ ได้โดยสะดวก
6
จากนั้นก็จะมีไข่ ซึ่งก็จะเลือกได้ว่าต้องการเป็นไข่ประเภทไหน ชอบสุกหรือไม่สุกอย่างไร ก็
สามารถสั่งได้พ่อครัวทำให้ได้ ตามต้องการ เช่น ถ้าเป็นไข่ดาวซึ่งส่วนใหญ่ก็จะชอบแบบไข่แดงไม่สุก
มากนัก ไขม่ ว้ นไดแ้ ก่ ไขผ่ สมเนย โรยดว้ ยหอมหรอื มะเขือเทศ แลว้ นำไปม้วนเพอื่ ทอดในกระทะ ไขค่ น
มีส่วนผสมเหมือนไข่ม้วน แต่วิธีทอดต้องนำไปทอดในกระทะแล้วคน ๆ ให้ไข่แดงแตกรวมกันไข่ขาว
ไข่น้ำ ก็คือไข่ลวกที่ผสมน้ำนั่นเอง ให้ตอกไข่ใส่น้ำร้อนที่ไม่เดือดมาก รอให้ไข่ขาวสุก ไข่แดงจะออก
เยิ้ม ๆ เหมาะกับผู้ที่ชอบไข่ดาวและไม่ต้องการทอดกับน้ำมันในกระทะ ทั้งนี้เพื่อการหลีกเลี่ยงคอล
เลสเตอรอล
อาหารเช้าแบอเมริกัน จะประกอบด้วย
- เคร่อื งดื่ม ซงึ่ อาจเปน็ ชาหรอื กาแฟ นำ้ ผลไม้ หรือนมสดใหเ้ ลือกตามชอบ
- ผลไม้สดตามฤดูกาล
- ขนมปังปงิ้ ทานกบั แยมหรอื เนย หรอื อาจเลือกเปน็ แพนเค้ก วาลเฟิลด้วยก็ได้
ภาพที่ 2 : มื้อเชา้ แบบอเมริกัน (อรอ่ ยมาก, 2561: ออนไลน์)
2.2 มือ้ วา่ งเชา้
เป็นมื้ออาหารที่รับประทาน 2 มื้อ คือ มื้อเช้า และมื้อกลางวันควบกัน หรือที่เรียกกันว่า
Brunch สำหรบั ผู้ทีย่ งั ไม่ได้รับประทานอาหารเชา้ หรือตน่ื เลยเวลาเสิรฟ์ อาหารเช้าไปแล้วนั่นเอง ส่วน
ใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 – 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น (David
Ball, 2560: ออนไลน์)
ภาพที่ 3 : มอ้ื วา่ งเช้า (David Ball, 2560: ออนไลน์)
7
2.3 มอ้ื กลางวัน
มื้อกลางวัน ถือว่าเป็นมื้อหลักในช่วงกลางวัน นิยมรับประทานเป็นอาหารจานเดียวหรือสอง
จาน แล้วตามด้วยของหวาน เครื่องดื่มชาหรือกาแฟ เนื่องจากระยะเวลาในการรับประทานอาหาร
ค่อนข้างสั้น เพราะอาจจะตอ้ งกลับไปทำงานต่อจงึ เน้นรับประทานอะไรที่ง่าย และสะดวกรวดเร็ว
2.4 มอ้ื ว่างบา่ ย
2.4.1 Afternoon tea
มักเสิร์ฟในช่วงเวลาประมาณ 14.00-17.00 น. นิยมรับประทานกันในช่วงบ่ายหรือช่วง
ระหว่างการพักการประชุมสั้น ๆ มีทั้งของคาวและหวานแบบไม่หนักท้องแต่ช่วยคลายหิวได้ดี เช่น
คกุ ก้ี ผลไม้ รับประทานคกู่ ันกบั กาแฟ โกโก้ หรือชา (แกรนด์ทัวริสโม่, 2551: ออนไลน์)
ภาพที่ 4 : Afternoon tea (แกรนด์ทวั ริสโม่, 2551: ออนไลน์)
2.4.2 High tea
เป็นมื้อว่างที่ลักษณะคล้ายกับ Afternoon Tea แตกต่างกันตรงที่เสิร์ฟหรือรับประทาน
อาหารทห่ี นกั ท้องกวา่ เช่น แซนวิช สลดั เนอื้ สัตว์ มกั เสิร์ฟในช่วงเวลาที่อย่รู ะหว่างรอทำกจิ กรรมอะไร
อยา่ งใดอย่างหนงึ่ อยู่ (แกรนดท์ วั ริสโม่, 2551: ออนไลน์)
ภาพที่ 5 : High tea (แกรนด์ทวั รสิ โม่, 2551: ออนไลน)์
8
2.5 มอ้ื เย็น
เปน็ มื้อที่หนกั ท่สี ุดของวนั เริ่มต้ังแต่เวลาประมาณ 19.00 น. นยิ มรบั ประทานอาหารประเภท
เนอ้ื สตั ว์ พรอ้ มกับเครื่องด่ืมแอลกฮอล์ คลา้ ยกบั เป็นชว่ งเวลาแห่งการผ่อนคลาย แต่มีการรับประทาน
และการเสริ ์ฟเปน็ ลำดบั ขั้นตอนหรือเรยี กกันวา่ Fine Dining แบง่ ออกเปน็ 5 ลำดับ ดงั นี้
2.5.1 อาหารจานแรก (Appetizers): อาหารเรียกน้ำย่อย เสิร์ฟในปริมาณไม่มาก เช่น สลัด
สปาเก็ตตีอ้ าหารประเภทซปุ (Soup): จะเสิร์ฟทงั้ ซุปขน้ และซปุ ใส เสริ ์ฟในปรมิ าณไม่มากเชน่ กัน และ
ทสี่ ำคญั ตอ้ งเสริ ์ฟรอ้ น
2.5.2 อาหารจานรอง (Entree): อาหารชิ้นเล็ก ๆ ท่ีมักทำจากอาหารทะเลประเภทปลา กุ้ง
หรอื หอยเชลล์ เสิรฟ์ ในปริมาณไม่มาก และเสริ ฟ์ คกู่ ับเครอื่ งดืม่ เรียกนำ้ ยอ่ ย
2.5.3 อาหารจานหลกั (Main Course): จานสดุ ทา้ ยของประเภทอาหารคาว นยิ มรับประทาน
เป็นเนอื้ สตั ว์ แกลม้ ด้วยผัก เชน่ สเตก็ ทานคู่กบั ไวน์ขาวหรอื ไวน์แดง
2.5.4 ของหวานและเครื่องดื่ม (Dessert): ของหวานหลังจากอาหารคาวทั้งหมด อาจเป็นได้
ทง้ั ไอศกรีม ผลไม้ และอาจเสิรฟ์ เหล้าหรอื เคร่อื งด่มื แอลกฮอลห์ ลงั จากรับประทานเสร็จ
2.6 ม้อื ค่ำ
อาหารมอ้ื สุดท้ายของวัน สำหรับผทู้ ่ีไม่ไดร้ ับประทานอาหารมื้อเยน็ มักจะรบั ประทานอาหาร
เบา ๆ กนั ก่อนนอน ในเวลาประมาณ 23.00 – 02.00 น.
วิถีชีวิตประจำวันของชาวตะวันตกในปัจจุบันอาจมีการลดทอนบางมื้อออกไปบ้างตามความ
ประสงค์ของแต่ละคน ซึ่งการรับประทานอาหารแบบตะวันตกที่ครบทั้ง 6 มื้อนี้อาจเป็นมื้ออาหารท่ี
ค่อนข้างเป็นทางการ นิยมรับประทานกันตามร้านอาหารมากกว่า หากใครอยากลองสัมผัสประเพณี
การรับประทานมื้ออาหารแบบตะวันตกอย่างแท้จริงก็สามารถหาร้านอาหารที่เสิร์ฟในรูปนี้ได้ไม่ยาก
เพราะในประเทศไทยก็มอี ยู่หลายรา้ นเลยทีเดยี ว (ชตุ พิ งศ์ เสนา, 2562: ออนไลน์)
9
บทที่ 3
การจัดโตะ๊ อาหารแบบยโุ รป
3.1 อุปกรณ์บนโตะ๊ อาหารยุโรป
3.1.1จานรอง
ภาพท่ี 6 : จานรอง (โศรยา บุนนาค, 2558: ออนไลน์)
3.1.2 ผ้าเช็ดปาก
ภาพท่ี 7 : ผ้าเช็ดปาก (โศรยา บนุ นาค, 2558: ออนไลน)์
3.1.3 ชอ้ นซปุ
ภาพท่ี 8 : ช้อนซุป (twinfish, 2559: ออนไลน์)
10
3.1.4 มดี สำหรับหั่น
ภาพท่ี 9 : มดี สำหรับหนั่ (twinfish, 2559: ออนไลน์)
3.1.5 ชอ้ นสอ้ ม
ภาพท่ี 10 : ชอ้ นส้อม (Jjthaibarsupply, 2556: ออนไลน์)
3.1.6 จานใสข่ นมปัง
ภาพที่ 11 : จานใส่ขนมปัง (Note Iron Wok, 2559: ออนไลน์)
11
3.1.7 ช้อนกาแฟ
ภาพที่ 12 : ช้อนกาแฟ (Shopeesarawutmob, 2564: ออนไลน)์
3.1.8 ส้อมสำหรบั ทานผลไม้
ภาพที่ 13 : ส้อมสำหรบั ทานผลไม้ (thaipick, 2563: ออนไลน)์
3.1.9 ที่ทาเนย
ภาพที่ 14 : ทีท่ าเนย (thaipick, 2563: ออนไลน์)
12
3.1.10 แก้วนำ้ เปลา่
ภาพที่ 15 : แกว้ น้ำเปล่า (central, 2564: ออนไลน์)
3.1.11 แกว้ แชมเปญ
ภาพท่ี 16 : แกว้ แชมเปญ (central, 2564: ออนไลน์)
3.1.12 แกว้ ไวนแ์ ดง
ภาพที่ 17 : แกว้ ไวนแ์ ดง (central, 2564: ออนไลน์)
13
3.1.13 แกว้ ไวน์ขาว
ภาพที่ 18 : แกว้ ไวน์ขาว (central, 2564: ออนไลน์)
3.2 การจัดโต๊ะอาหารแบบสากล
หลักการจัดโต๊ะอาหารในแบบสากลส่วนใหญ่ จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ตามรูปแบบของ
ตะวันตก นั้นก็คือ การจัดโต๊ะแบบไม่เป็นทางการ (Informal) และการจัดโต๊ะแบบเป็นทางการ
(Formal) โดยการจัดเรียง ตามหลักที่ใช้กันโดยทั่วไปในภัตตาคารหรือโรงแรมหรูที่เสิร์ฟอาหารใน
สไตล์ยุโรปจะจัดเริ่มใช้อุปกรณ์จากด้านนอกเข้าสู่ด้านใน เริ่มจาก ช้อน ส้อม มีด เรียงจากออเดิร์ฟ
เขา้ มาส่อู าหารจานหลกั โดยลักษณะในการจัดโตะ๊ อาหารจะเป็นดงั นี้
ภาพท่ี 19 : โตะ๊ แบบไม่เปน็ ทางการ (central, 2564: ออนไลน์)
14
แบบยุโรป ( European Dinning Style )
- ใช้ส้อมมือซา้ ย และ มีดมือขวา
- หน่ั อาหารในเมนู เช่น สเตก็ ทีล่ ะชิ้นแลว้ ทาน
- ใช้ส้อมจากมือซ้ายจิม้ อาหารโดยท่ีส้อมจะควำ่ ลงอยเู่ สมอ
- ใช้มดี เพ่อื ดันอาหารให้ส้อมจ้ิมได้ดีขน้ึ
- ถา้ ต้องการพักรบั ประทานอาหาร ให้วางสอ้ ม และมดี เป็นมุม ฉากทจ่ี านอาหาร โดยมือ
และข้อมือจะต้องอยูเ่ หนอื โต๊ะตลอดเวลา
แบบอเมริกัน ( American Dining Style )
- ใชส้ อ้ มมอื ซ้าย และ มดี มอื ขวา
- ห่ันอาหารให้เป็นช้ินพอดีคำทั้งหมด แล้วทานทเี ดยี ว
- เม่อื หนั่ อาหารเสรจ็ จะเปล่ียนส้อมไปอยมู่ ือขวา และใช้ส้อมเพื่อรับประทานอาหาร
- ถ้าตอ้ งการพักรบั ประทานอาหาร ใหว้ างส้อม และมีดเป็นมุม ฉากท่ีจานอาหาร จากน้นั เอามอื
วางบนตกั
การจัดโตะ๊ อาหารแบบตะวันตกนน้ั เราจะแบ่งเป็นสองแบบคือ
- แบบเป็นทางการ (formal)
- แบบไมเ่ ป็นทางการ (Informal)
3.2.1 แบบไมเ่ ปน็ ทางการ (Informal)
โดยการจดั โตะ๊ อาหารแบบไมเ่ ปน็ ทางการนน้ั จะใช้สำหรับรับประทานอาหารกนั เองภายใน
ครอบครัว หรือเหลา่ เพือนสนทิ เทา่ นน้ั
ภาพที่ 20 : โต๊ะแบบไม่เป็นทางการ (central, 2564: ออนไลน์)
15
สำหรบั อปุ กรณใ์ นเซทน้ีจะมไี ม่มากนัก เรมิ่ จาก
- วางจานอาหารลงตรงกลางบนที่รองจาน จากนั้นทำผ้าพับให้เป็นสี่เหลี่ยมแล้ววางลงตรง
กลาง
- ดา้ นขวา วางมดี อาหาร, ชอ้ นอาหาร,ช้อนซปุ เรียงจากซ้ายไปขวา หา่ งกนั พอประมาณ
- ดา้ นซา้ ย วางส้อมอาหาร, สอ้ มสลัด เรียงจากขวาไปซา้ ย ห่างกันพอประมาณ
- ด้านบนขวามือ ให้วางแกว้ ไวน์ และแก้วนำ้ เฉยี งประมาณ 45 องศา
ลักษณะอาหารจะเสิร์ฟให้กับแขกทานกจ็ ะต้องเรียงตามลำดับอุปกรณ์จากด้านนอก เข้าด้าน
ใน เช่น ซุป สลัด อาหารจานหลักสามารถดัดแปลงเมนูอาหารได้ตามรูปแบบของเรา จะถูกปากกว่า
อย่างบียอนชอบรสชาติอาหารไทย ก็อาจจะดัดแปลงจานแรกให้เป็นซุปต้มยำแบบไทย ที่อาจจะทำ
โดยท่ีรสชาตไิ ม่ตอ้ งจัดมากนัก เปน็ การเรยี กน้ำยอ่ ยได้ดีเลยทเี ดยี ว
3.2.2 แบบเป็นทางการ (formal)
โดยการจัดโต๊ะอาหารแบบเป็นทางการนี้ จะมีให้เห็นได้ในเฉพาะร้านอาหารระดับท็อปหรือ
ร้านอาหารในโรงแรมใหญ่สุดหรู โดยทั่วไปแล้วจะไม่นิยมจัดโต๊ะอาหารแบบเป็นทางการ ในการ
รับประทานอาหารกับครอบครัว เนื่องด้วยอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเยอะ จะทำให้โต๊ะอาหารของเรานั้นดู
แคบและอดึ อัด
ภาพท่ี 21 : โตะ๊ แบบไมเ่ ปน็ ทางการ (central, 2564: ออนไลน์)
สำหรับอปุ กรณใ์ นเซทนจี้ ะมีไมม่ ากนกั เริม่ จาก
- วางจานอาหารลงตรงกลางบนทีร่ องจาน จากน้นั นำจานสลัดวางซอ้ นไปบนจานหลัก
- ดา้ นขวา วางมดี อาหาร, ชอ้ นอาหาร ,ช้อนซปุ เรยี งจากซา้ ยไปขวา หา่ งกันพอประมาณ
16
- ด้านซา้ ย วางส้อมอาหาร, ส้อมสลดั เรยี งจากขวาไปซ้าย ห่างกันพอประมาณ จากนัน้ พับผ้า
เช็ดปากเปนสี่เหลี่ยมวางไว้ทางดา้ นซ้ายมือ
- ดา้ นบนจาน วางช้อนอาหารว่าง หันปลายชอ้ นไปทางด้านซ้าย และวางช้อนส้อมสำหรบั เค้ก
ดา้ นลา่ งหันปลายชอ้ นไปทางขวา
- ด้านบนซา้ ยมอื วางจานกับมีดสำหรบั ขนมปงั
- ดา้ นบนขวามอื ให้วางแกว้ นำ้ ไวน์แดง ไวน์ขาว เรียงตามลำดบั เฉียงประมาณ 45 องศา
- ด้านขวามอื สุด ใหว้ างเปน็ แก้วชาหรอื กาแฟ
- สดุ ท้าย ให้วางป้ายช่ือ เพ่อื กำหนดบคุ คลท่ีจะนง่ั ในม้อื อาหารนี
3.3 รปู แบบการจัดโต๊ะของโรงแรม
3.3.1 Breakfast Setting การจดั โตะ๊ อาหารเชา้
- อุปกรณต์ กั อาหาร: สอ้ มหลัก มดี หลัก ชอ้ นชา
- ภาชนะอาหาร: จานขนมปังและเนย จานอาหารหลัก ถ้วยชา/กาแฟ จานรองถ้วย
- แก้วเคร่อื งดืม่ : แกว้ นำ้ แกว้ นำ้ ผลไม่(ไมไ่ ด้แสดงในภาพ)
- ผา้ เช็ดปาก: พบั แบบทะแยงมมุ วางดา้ นซ้ายมอื สุด โดยให้มมุ สามเหลี่ยมอยดู่ ้านนอก
ภาพท่ี 22 : โต๊ะอาหารเชา้ (ภัชรีย์ ศรีวิสุทธ,์ิ 2562: ออนไลน์)
3.3.2 Lunch Setting การจดั โต๊ะอาหารกลางวน้
- อุปกรณต์ ักอาหาร: ส้อมสลัด ส้อมหลัก มีดหลัก ช้อนชา
- ภาชนะอาหาร: จานขนมปังและเนย จานอาหารกลางวัน
- แกว้ เครอื่ งดื่ม: แกว้ น้ำ แกว้ ไวน์ (ไม่ได้แสดงไวใ้ นภาพ)
- ผ้าเช็ดปาก: พับในลักษณะส่ีเหลย่ี มขนาด 1 ใน 4 วางไวด้ ้านซา้ ยมอื สุด
17
ภาพท่ี 23 : โต๊ะอาหารกลางวัน (ภัชรยี ์ ศรีวิสทุ ธ,ิ์ 2562: ออนไลน)์
3.3.3 DinnDinnerTableer Setting การจดั โต๊ะอาหารคำ่ ทวั่ ไป
- อปุ กรณ์ตักอาหาร: มดี เนย (วางบนจานขนมปงั และเนย) มดี สลัด มีดหลัก ชอ้ นชา
- ภาชนะอาหาร: จานขนมปังและเนย จานหลกั จานสลัด
- แก้วเครื่องดื่ม: แก้วน้ำขาสงู (Water Goblet) แกว้ ไวน์
- ผ้าเช็ดปาก: พบั ในลกั ษณะส่ีเหล่ยี มขนาด 1 ใน 4 วางซ่อมทับไว้ด้านบน
ภาพท่ี 24 : การจดั โต๊ะอาหารคำ่ ท่วั ไป (ภัชรยี ์ ศรวี สิ ทุ ธิ์, 2562: ออนไลน์)
3.3.4 Formal Dinner Setting การจัดโตะ๊ อาหารค่ำแบบทางการ
- อปุ กรณต์ ักอาหาร: มีดเนFormalDinnerTableย (วางบนจานขนมปงั และเนย)
ส้อมสลัด ส้อมหลัก มีดหลกั ชอ้ นซุป ชอ้ นชา
-ภาชนะอาหาร: จานสลัด จากขนมปงั และเนย จานบริการ จานสลัดบนจานบรกิ าร
ถ้วยชา/กาแฟรพรอ้ มจานรอง
- แก้วเคร่ืองด่ืม: แกว้ น้ำขาสูง (Water Goblet) แก้วไวน์ แกว้ เชมเปญ (วางไว้นอก
สดุ หลงั แก้ว 2 ใบแรก)
18
- ผา้ เชด็ ปาก: พบั ในรปู แบบที่สวยงามสะดุดตา มีความสรา้ งสรร วางไว้บนจานสลดั
ทีว่ างซ้อนอยบู่ นจานบริการ
ภาพที่ 25 : การจัดโตะ๊ อาหารคำ่ แบบทางการ (ภัชรยี ์ ศรีวิสทุ ธิ์, 2562: ออนไลน์)
3.3.5 European Dinner Setting การจดั โตะ๊ อาหารคำ่ แบบยุโรป
- อุปกรณ์ตักอาหาร: มีเนย (วางไว้บนจานขนมปังและเนย) ส้อมอาหารค่ำขนาด
ยุโรป/ขนาดอเมรกิ ัน สอ้ มปลา มีดปลา มีดอาหารคำ่ ขนาดยโุ รป มีดอาหารหวาน ชอ้ นซปุ ชอ้ นชา
- ภาชนะอาหาร: จานขนมปังและเนย จานบริการ จานสลัดวางซ้อนไว้บนจาน
บริการ
- แก้วเครื่องดื่ม: แก้วน้ำขาสูง (Water Goblet) แก้วไวน์แดง แก้วไวน์ขาว แก้วเชม
เปญ (วางไวน้ อกสุดหลังแกว้ 2 ใบแรก)
- ผ้าเช็ดปาก: พับในรูปแบบที่สวยงามสะดุดตา มีความสร้างสรร วางไว้บนจานสลัด
ทีว่ างซ้อนอยบู่ นจานบริการ
ภาพท่ี 26 : การจดั โต๊ะอาหารคำ่ แบบยโุ รป (ภชั รยี ์ ศรวี ิสทุ ธิ์, 2562: ออนไลน)์
3.3.6 Banquet Dinner Setting การจัดโต๊ะจัดเลี้ยงอาหารคำ่
- อปุ กรณ์ตักอาหาร: มดี เนย (วางไวบ้ นจานขนมปังและเนย) สอ้ มสลดั ส้อมหลัก มีด
หลัก ชอ้ นซุป ช้อนชา
19
- ภาชนะอาหาร: จานขนมปงั และเนย จานหลกั จานสลดั วางบนจากหลัก ถ้วยชา/
กาแฟและจานรอง
- แก้วเครอ่ื งด่ืม: แกว้ น้ำขาสูง แกว้ ไวน์แดง แก้วไวน์ขาว
- ผา้ เชด็ ปาก: พับเปน็ รูปส่ีเหลยี่ มขนาด 1 ใน 4 วางไวบ้ นจานสลัดท่ีวางซ้อนอยู่บน
จานหลกั
ภาพที่ 27 : การจดั โตะ๊ จัดเลย้ี งอาหารค่ำ (ภชั รยี ์ ศรวี สิ ุทธ์ิ, 2562: ออนไลน์)
Tips : การจัดโต๊ะอาหารควรมีความกว้างของพื้นที่ประมาณ 24 นิ้ว (2 ฟุต) เป็นอย่างน้อย
วางจานหลกั ใหข้ อบจานห่างจากขอบโต๊ะประมาณ 1 นิว้ วางมีดให้หนั ด้านมีคมเข้าหาจานการจัดเรียง
อุปกรณ์ตักอาหาร ให้จัดเรียงตามลำดับการใช้งาน หรือลำดับของอาหารที่เสิร์ฟแต่ละคอร์ส โดย
อุปกรณ์ตักอาหารที่ใช้งานก่อนอยู่ด้านนอกสุด เรียงเข้ามาอาหารคอร์สสุดท้ายที่จะวางอุปกรณ์ตัก
อาหารไว้ด้านในสดุ การวาง แก้วเครื่องดื่ม จัดเรียงจากขวามาซา้ ย ดงั น้ี แก้วไวน์ขาว แกว้ ไวนแ์ ดง แก้ว
น้ำ หรือแก้วเครื่องดื่มเย็นอื่นๆถ้ามีการเสิร์ฟแชมเปญด้วย แก้วเชมเปญจะวางไว้ที่ด้านหลังแก้วไวน์
แดงและไวน์ขาวส้อมสำหรับอาหารทะเลจะ วางไว้ด้านขวามือของช้อนซุป ยกเว้นเป็นการเสิร์ฟแบบ
ค็อกเทลอาหารทะเลที่จะวางไว้บนจานค็อกเทลต่างหาก ไม่ได้จัดวางไว้บนโต๊ะ (ภัชรีย์ ศรีวิสุทธ์ิ,
2562: ออนไลน์)
20
บทท่ี 4
การเสริ ์ฟอาหารแบบยุโรป
4.1 การจัดรูปแบบจานประเภทต่างๆ
4.1.1 การจดั จานแบบกอ่ นเสริ ฟ์
วัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบตะวันตกกลายเป็นวัฒนธรรมสากลเป็นที่ยอมรับและ
ปฏิบัติกันทั่วโลก เวลาจัดเลี้ยงรับรองแขกด้วยความเป็นกลางหรือสากลก็จะใช้การจัดจานแบบ
ตะวันตก ซึ่งประเทศที่เป็นอารยประเทศหรือประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วก็จะต้องรู้และวิธีปฏิบัติ
ทัง้ ในสว่ นท่ีเป็นผูจ้ ดั เลยี้ งหรอื การเป็นเจา้ ภาพและการไปเปน็ แขกทไี่ ดร้ บั เชิญรว่ มงานเลีย้ งนน้ั ๆ
ภาพที่ 28 : การจัดจานก่อนเสิร์ฟ (Thaihome, 2561: ออนไลน์)
4.1.2 การจัดจานสำหรับเสริ ฟ์ ซุป
การจัดโต๊ะสำหรับซปุ สำหรับอาหารคอร์สแรกท่เี ป็นซุปจะมีอยู่สองทางเลือก นำถ้วยท่ีใส่ซุป
แบบเดียวกนั ออกมาจากครัวหรือนำชามซปุ ที่เป็นน้ำหรือครีมออกมาเสิร์ฟในถว้ ยใหม่ท่โี ต๊ะ อย่างแรก
นั้นจะตักซปุ ใส่ถ้วยเสิร์ฟออกมาจากครัว ส่วนอย่างหลังจะเสริ ์ฟกันทีโ่ ต๊ะใสใ่ นถ้วยใหม่สะอาด ควรจะ
หยบิ ถ้วยซุปเข้าไปใกล้ๆ เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้หกเลอะเทอะ เมื่อแขกรบั ประทานซุปเสร็จสิ้น ช้อนซุปควร
วางอยู่ทางด้านขวาของถ้วยซุป (วางหงายข้างถ้วย) บนจานที่เสิร์ฟ จาน ถ้วย และช้อนซุปจะถูกเก็บ
หลงั จากจบคอรส์ แรก จานเนยกับขนมปงั จะยงั วางอยบู่ นโตะ๊ แม้วา่ มันจะถูกใช้ทานร่วมกบั ซุปก็ตาม
ภาพที่ 29 : การจดั จานสำหรับเสิรฟ์ ซปุ (Kitchen and home, 2558: ออนไลน์)
21
4.1.3 การจดั จานสำหรบั เสิร์ฟอาหารทะเล
การเสิร์ฟอาหารทะเลเมื่อเก็บจานซุปเรียบร้อยแล้ว คอร์สอาหารทะเลควรถูกนำออกมาใน
จานของมันเองเสิร์ฟพร้อมไวน์ขาว นำมาวางบนจานบริการและรับประทานด้วยมีดและส้อมสำหรับ
ปลา (เป็นอปุ กรณต์ ักอาหารที่อยู่ห่างจากจานมากท่ีสุดจากท้ังสองด้าน) เม่ือแขกรบั ประทานปลาหมด
ส้อมและมีดปลาจะถูกวางเป็นแนวทแยงมุมขวางจาน โดยให้ด้ามจับของแต่ละชิ้นวางอยู่ตรงจุด
‘4:00’ เสมอื นว่าจานนัน้ เป็นหนา้ ปัดนาฬกิ า
4.1.4 การจดั จานสำหรับเสิร์ฟอาหารประเภทสลดั
ก่อนทจี่ ะกนิ อาหารจานหลกั เมนตู ่อไป ตอ้ งคน่ั ดว้ ยสลัด เพื่อปรับรสชาติทีย่ ังคงคา้ งอย่ใู นปาก
จากอาหารจานท่ีแลว้ ใหน้ อ้ ยลง
4.1.5 การจดั จานสำหรับเสิรฟ์ อาหารประเภทเน้ือ
การจัดเสิร์ฟอาหารประเภทเนื้อหรืออาหารหลัก (Main Course) จะเสิร์ฟพร้อมกับไวน์แดง
ควรถูกนำออกมาจากครัวในจานใหญ่ที่ได้รับการอุ่นมา ให้นำมาวางบนจานบริการและรับประทาน
ด้วยมีดและส้อมหลัก เม่ือทกุ คนรับประทานอาหารจานหลักเรียบร้อยแล้ว จานจะถกู เก็บไปพร้อมกับ
จานบรกิ าร มดี และสอ้ มหลัก มีดและสอ้ มนั้นมกั วางทแยงมุมบนจานในรปู แบบเดียวกับจานปลา
4.1.6 การจดั จานสำหรบั กอ่ นทานอาหารหวาน
การจัดเครื่องมือสำหรับรับประทานอาหารหวาน ด้านซ้ายจะมีส้อมขนมหวาน ด้านขวาจะมี
มดี ขนมหวานวางจดั เรียงไว้ ในสว่ นดา้ นบนซ้ายจะมแี กว้ น้ำเปลา่ วางไว้
4.1.7 การจัดจานสำหรับทานอาหารหวาน
การจัดเสิร์ฟอาหารหวานพนักงานจะเสิร์ฟอาหารหวานพร้อมชาหรือกาแฟ ตามที่แขก
ตอ้ งการทางดา้ นขวามือ
4.1.8 การจดั จานหลงั ทานอาหารเสรจ็
เมื่อแขกรับประทานอาหารหวานเสร็จพนักงานจะเก็บจานและอุปกรณ์มีด ส้อม ออกไปจาก
โต๊ะ เหลือไว้เพียงชุดชาหรือกาแฟและแก้วน้ำ และจะคอยเติมให้จนกว่างานเลี้ยงจะเลิก(Wongnai,
2560: ออนไลน์)
4.2 ลกั ษณะการเสิร์ฟอาหาร
4.2.1 ขนมปงั
เมื่อเรานั่งลงเก้าอี้ พนักงานจะเสิร์ฟขนมปัง และเนย เป็นอันดับแรก ตามด้วยน้ำเปล่า หรือ
น้ำแร่ และคล่ีผา้ เช็ดปากวางลงบนตักให้
22
ภาพที่ 30 : อาหารเรียกนำ้ ย่อย (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
4.2.2 อาหารเรียกนำ้ ย่อย
อาหารเรียกน้ำย่อยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารรสจัด มีทั้งแบบร้อน และเย็น มักจะเสิร์ฟเป็นคำ
เล็ก ๆ เพอื่ กระตุ้นตอ่ มรบั รส ก่อนกินม้ือหลัก เช่น ค็อกเทลกงุ้
4.2.3 อาหารซปุ
ซุปจะถูกเสิร์ฟเป็นจานแรก หรือรองจากเมนูเรียกน้ำย่อย จานซุปจะมีลักษณะเป็นหลุม จะ
วางไว้ชน้ั บนสดุ และช้อนซปุ ก็จะถกู วางไวด้ า้ นนอกสุด(Wongnai, 2560: ออนไลน์)
ภาพที่ 31 : อาหารประเภทซุป (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
4.2.4 อาหารจานหลกั
อาหารจานหลักจะเสิร์ฟบนจานอาหารเย็นเป็นจานที่หนักที่สุดในมื้ออาหาร วัตถุดิบหลักจะ
เปน็ ได้ท้ังปลา หรอื เนอ้ื และจะเสริ ์ฟสลัดเพอ่ื ลา้ งปากกอ่ นท่จี ะเสิร์ฟเมนูถดั ไป
- เมนูปลา เป็นจานที่เบาที่สุด ปลาจึงเป็นอาหารจานหลักที่จะเสิร์ฟเป็นอันดับแรกและ
กินพรอ้ มไวน์ขาวเพราะจะช่วยตดั ความคาวของปลา
23
ภาพท่ี 32 : การจัดจานสำหรับเสิร์ฟอาหารทะเล (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
- เมนูสลัด กอ่ นทีจ่ ะกินอาหารจานหลกั เมนตู ่อไป ตอ้ งคัน่ ด้วยสลดั เพอื่ ปรบั รสชาติท่ียังคง
ค้างอยใู่ นปากจากอาหารจานท่ีแลว้ ใหน้ อ้ ยลง (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
ภาพท่ี 33 : การจดั จานสำหรับเสริ ์ฟสลดั (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
- เมนูเนื้อ เป็นอาหารจานหลักที่จะถูกเสิร์ฟเป็นลำดับสุดท้าย และจะกินคู่กับไวน์แดง
เหมาะกับอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ใหญ่เพราะความฝาดจะไปตัดความมันที่ปนในเนื้อไม่ให้
เลี่ยน แต่ถ้ากินคู่กับปลาหรืออาหารทะเลจะยิ่งดันความคาวออกมา (Wongnai, 2560:
ออนไลน์)
ภาพที่ 34 : การจดั จานสำหรับเสิร์ฟเนอื้ (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
24
4.2.5 ของหวาน
ของหวานจะเสิร์ฟบนจานอาหารจานเล็ก ๆ ท่มี ีชอ้ นขนมหวานหรอื สอ้ ม ซ่ึงมกั ประกอบด้วย
ช้นิ เคก้ พายหรืออืน่ ๆ เสริ ฟ์ พรอ้ มชาหรือกาแฟ เช่น เค้กช็อกโกแลตกับชารอ้ น (Wongnai, 2560:
ออนไลน)์
ภาพท่ี 35 : การจดั จานสำหรับเสิรฟ์ ของหวาน (Wongnai, 2560: ออนไลน)์
4.3 การแต่งกาย
4.3.1 ผชู้ าย
- ปกคอเสอื้ สูท และเส้อื เชิ้ตด้านบนควรห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ไมค่ วรมีช่องว่าง หรือชิดมาก
เกนิ ไป
- กระดุมข้อมือเสอ้ื เชิ้ตดา้ นในควรโผล่พ้นเสือ้ สทู ออกมาประมาณ ½ น้วิ
- สีเสื้อสูทควรเปน็ สีสภุ าพ เช่น ดำ กรม และเทา
- เขม็ ขดั ควรเปน็ สเี ดยี วกบั รองเท้า
- ความยาวของเส้ือสทู ควรจะยาวปดิ กระดมุ หรือซิปกางเกง (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
ภาพที่ 36 : การแตง่ กายของผชู้ าย (Wongnai, 2560: ออนไลน)์
25
4.3.1 ผู้หญงิ
- ใสไ่ ดท้ ้งั ชดุ เดรส และกางเกงขายาว แต่ห้ามใส่กางเกงขาสั้น
- สวมรองเทา้ ส้นสูง หรอื สน้ เต้ยี ก็ได้ แต่ห้ามสวมรองเทา้ แตะ และรองเทา้ ผ้าใบ
ภาพที่ 37 : การแตง่ กายของผู้หญิง (Wongnai, 2560: ออนไลน์)
4.4 เคล็ดลับในการรบั ประทานอาหารยโุ รป
การวางช้อนส้อมหลงั รับประทานเสรจ็
- หากยังทานไม่เสร็จให้วางส้อมและมีดไขว้กันเป็นรูปกากบาทไว้บนจาน หรือหากคอร์สนั้น
ใชเ้ พยี งสิ่งเดยี วใหว้ างตะแคงเอาดา้ นขา้ งต้งั ลงบนจาน
- เมื่อทานคอร์สนั้นเสร็จแล้วให้วางขนานกันลงตรงกลางจานหันปลายไปข้างหน้าและวาง
ด้านคมของมดี ใหห้ ันไปทางซา้ ยมอื
การรบั ประทานซุป
- ให้ตักซปุ ออกดา้ นนอกและค่อยๆ จิบจากด้านขา้ งช้อน
การหนั่
- “ตัด พับ ดัน” คือ เทคนิคง่าย ๆ เช่น การทานสลัด ให้ใช้มีดตัดผักให้มีขนาดพอดีคำ
จากนั้นใช้มีดกบั สอ้ มพบั ช้นิ ผกั แลว้ คอ่ ยๆ ดันผกั เขา้ ไปอยูใ่ นสอ้ มเพื่อรบั ประทานในคำเดียว
การดม่ื
- ก่อนดื่มน้ำหรือไวน์ทุกครั้ง แนะนำว่าควรซับปากก่อนเพื่อป้องกันคราบไขมันจากริมฝีปาก
ลงไปปะปนในแกว้ หรอื เลอะขอบแกว้ เปน็ อกี หนึ่งเทคนคิ ระดบั เซยี นในการเข้าสงั คม
การใชม้ ดี และส้อม
- การใช้มีด - ส้อม เริ่มใช้จากด้านนอกสุดเข้าหาด้านในสดุ ตามลำดับประเภทอาหารทีเ่ สิร์ฟ
มือขวาจับมีด มือซ้ายถือส้อม ให้คว่ำส้อมจิ้มจับอาหารให้นิง่ เพื่อใช้มีดในมือขวาตัดอาหารเป็นชิ้น ๆ
26
พอดีคำ แต่ถ้าเป็นข้าวหรือถั่ว ให้หงายส้อมขึ้น แล้วใช้มีดช่วยปาดอาหารเข้าไปอยู่ในส้อม ไม่ว่าใน
กรณใี ดก็ตามจะไมม่ ีการใชม้ ดี นำอาหารเขา้ ปากโดยเดด็ ขาด
การใชผ้ า้ เช็ดปาก
- พับครึ่งเป็นรูปส่เี หลย่ี มวางไว้ บนตกั หากต้องการซบั ปากใหย้ กผา้ ดา้ นในขึน้ แตะปากเบาๆ
เม่ือวางกลับลงไป รอยเป้ือนก็จะถูกซ่อนอยู่ด้านในเมื่อต้องลุกจากโตะ๊ ระหวา่ งรบั ประทานอ
(Wongnai, 2560: ออนไลน)์
ภาพท่ี 38 : เคล็ดลับในการทานอาหารยุโรป (Wongnai, 2560: ออนไลน)์
27
บทที่ 5
สรุป
จากการศึกษาค้นคว้าพบว่าอาหารยุโรปหรืออาหารตะวันตกมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจาก
อาหารเอเชียและอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการปรุงอาหารในเอเชีย เช่น เนื้อสัตว์มีความโดดเด่นจะ
เสิร์ฟในขนาดที่รับประทาน สเต็กและเนื้อแล่เป็นแผ่นเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในประเทศตะวันตก
นิยมใช้ไวน์องุ่นและซอสเป็นเครื่องเคียง ใช้ผลิตภัณฑ์จากนมหลายชนิดในกระบวนการปรุงอาหาร มี
การผลติ ชีสในหลากหลายรูปแบบและผลิตภณั ฑ์นมหมัก มีให้เลือกใชห้ ลายชนิด อาหารเย็นแบบยุโรป
ทีเ่ ปน็ ทางการจะแยกเป็นจานต่างๆ โดยพัฒนามาจากการนำอาหารหลายจานมาวางบนโต๊ะพร้อมกัน
ไปเป็นการเสิร์ฟอาหารตามลำดับ อาหารที่เย็น รอ้ น เผด็ และหวานจะจดั เป็นอาหารเรยี กน้ำย่อยหรือ
ซปุ จากนัน้ เปน็ จานหลัก และสดุ ท้ายเปน็ ของหวาน
นอกจากนี้ยังได้มีการศึกษาเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบยุโรปว่าถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ
ตามลักษณะการใช้อุปกรณ์ ได้แก่ แบบอเมริกันซึ่งเป็นแบบที่ใช้ส้อมด้วยมือขวา เมื่อจะรับประทาน
อาหารต้องยกปลายส้อมขึ้นข้างบนแลว้ ใช้ส้อมตักอาหาร ส่วนมีดหากไม่ใช้ใหว้ างไว้ข้าง ๆ จาน แบบ
ยุโรปจะเป็นแบบที่ใช้ส้อมด้วยมือซ้าย เมื่อจะรับประทานอาหาร ให้คว่ำปลายส้อมลง และถือมีดไว้
ด้วยมือขวา และยงั รวมไปถึงการศึกษาอุปกรณ์ในการรับประทานอาหารตา่ ง ๆ ท่ีวางอยบู่ นโต๊ะ
วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของยุโรปซึ่งแบ่งออกได้เปน็ 6 มื้อ ได้แก่ อาหารมื้อเช้า จะ
มีการแบ่งอีก 2 แบบคือ อาหารเช้าแบบอังกฤษจะเน้นพวกผลไม้ ชา กาแฟมากกว่า และอาหารเช้า
แบบอเมริกันจะเน้นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งจะมีทั้งแฮม เบคอน ซอสเซท เป็นต้น อาหารมื้อว่าง
เช้าคือ มื้อเช้า และมื้อกลางวันควบกัน หรือที่เรียกกันว่า Brunch สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับประทาน
อาหารเช้า หรือตื่นเลยเวลาเสิร์ฟอาหารเช้า อาหารมื้อกลางวันเป็นมื้อหลักในช่วงกลางวัน นิยม
รับประทานเปน็ อาหารจานเดียวหรือสองจาน แลว้ ตามด้วยของหวาน เครอื่ งดม่ื ชาหรอื กาแฟ อาหาร
มื้อว่างบ่าย แบ่งได้ 2 แบบคือ Afternoon tea กับ High tea อาหารมื้อเย็นนั้นจะมีการรับประทาน
และการเสริ ฟ์ เป็นลำดับขั้นตอนหรอื เรียกกนั วา่ Fine Dining แบง่ ออกเป็น 5 ลำดบั ได้แก่ อาหารจาน
แรก (Appetizers) อาหารจานรอง (Entree) อาหารจานหลัก (Main Course) ของหวานและ
เครื่องดื่ม (Dessert) และอาหารมื้อสุดท้ายของวันอาหารมื้อค่ำ มักจะรับประทานอาหารเบา ๆ กัน
กอ่ นนอนในเวลาประมาณ 23.00 – 02.00 น
การเสิร์ฟอาหารแบบยุโรปจะเริ่มจากการจัดรูปแบบการเสิร์ฟประเภทต่าง ๆ แบ่งได้ 7 แบบ
ได้แก่ การจัดจานแบบก่อนเสิร์ฟ การจัดจานสำหรับเสิร์ฟซุป การจัดจานสำหรับเสิร์ฟอาหารทะเล
การจัดจานสำหรับเสิร์ฟอาหารประเภทเนื้อ การจัดจานสำหรับก่อนทานอาหารหวาน การจัดจาน
สำหรบั ทานอาหารหวาน การจัดจานหลงั ทานอาหารเสรจ็ และศกึ ษาลกั ษณะการเสริ ์ฟอาหาร แบ่งได้
28
4 แบบ ไดแ้ ก่ อาหารเรียกน้ำย่อย มกั เปน็ อาหารรสจัด มีทง้ั แบบรอ้ น และเยน็ เสริ ฟ์ เป็นคำเล็ก ๆ ซุป
จะถูกเสริ ฟ์ เป็นจานแรก หรือรองจากเมนูเรยี กน้ำย่อย จานซปุ จะมีลักษณะเป็นหลุม และช้อนซุปก็จะ
ถูกวางไว้ด้านนอกสุด อาหารจานหลักจะเสิร์ฟบนจานอาหารเย็นเป็นจานที่หนักที่สุดในมื้ออาหาร
วัตถุดิบหลักจะเป็นได้ทั้งปลา หรือเนื้อ และจะเสิร์ฟสลัดเพื่อล้างปากก่อนที่จะเสิร์ฟเมนูถัดไป และ
ของหวานจะเสิรฟ์ บนจานอาหารจานเลก็ ๆ ที่มชี อ้ นขนมหวานหรือสอ้ มเสิร์ฟพร้อมชาหรอื กาแฟ
29
บรรณานกุ รม
“การใชเ้ คร่ืองมือบนโต๊ะอาหารแบบสากล” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก
https://trainingreform.com/index.php/component/k2/item/82-new-training-
blog-25. 2562. [สืบค้นเม่ือวันที่ 4 มกราคม 2565].
“การจดั โต๊ะในโรงแรม” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก https://sites.google.com/site/svc60g8/rup-
baeb-kar-cad-toa-xahar.2560 [สืบคน้ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565].
“กนิ ประวตั ิศาสตรอ์ ยา่ งเอร็ดอรอ่ ยดว้ ยหนงั สือมองโลกผา่ น (ประวัตศิ าสตร์) อาหารเช้า” [ออนไลน์].
เข้าถึงไดจ้ าก https://adaybulletin.com/life-review-book-breakfast-and-world-
history/57155. 2563. [สืบคน้ เมอื่ วันที่ 4 มกราคม 2565].
“ความรู้เกี่ยวกับอาหารและม้ืออาหาร” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://sites.google.com/site/foodandbeveragefortourism/bth-thi-2-xahar-
tarab-matrthan. 2563. [สืบค้นเม่อื วันท่ี 4 มกราคม 2565].
คณาจารย์ภาควชิ าภาษาอังกฤษ. ดื่มกนิ ถน่ิ ฝร่ัง. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2548.
“จัดโต๊ะอาหารสไตลต์ ะวนั ตก” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก http://www.bareo-isyss.com/design-
tips/267-western-style.html.2561. [สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 4 มกราคม 2565].
“ความแตกตา่ งระหวา่ ง อาหารเชา้ แบบอเมริกัน กับอาหารเช้าแบบยุโรป ทที่ ำเองได้งา่ ย ๆ”
[ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก https://aroi-mark.com/archives/881.2561. [สืบคน้ เมื่อวันท่ี 4
มกราคม 2565].
“ความแตกตา่ งระหว่า high tea กับ afternoon tea” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก
https://www.grandtourismo.co.th/.2564. [สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 4 มกราคม 2565].
ดารามาศ แกว้ แดง. อาหารฝร่งั = Easy meals at home. กรุงเทพฯ: โรงพิมพแ์ ม่บ้าน, 2549.
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั . ตำราทำกับข้าวฝร่ัง. พมิ พ์คร้ังท่ี 3. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์
อมรินทร์ พริ้นตง้ิ แอนด์ พับลิชช่ิง, 2545.
มันส์ฝรง่ั . ครวั ฝรง่ั อยา่ งงา่ ย. พมิ พค์ รง้ั ที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เพชรประกาย, 2563.
“มื้ออาหารแบบตะวันตก” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก https://waterlibrary.com/. 2562. [สืบค้น
เมอื่ วนั ท่ี 4 มกราคม 2565].
เยาวภา ขวัญดุษฎี. อาหารฝรั่งตำรบั เชฟ. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพแ์ สงแดด, 2553.
รติพร ปติ ลุ ยา. อาหารยโุ รป. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บา้ นหนังสอื , 2549.
รตพิ ร ปิตลุ ยา. Desserts ของวา่ งอยา่ งฝรั่ง. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บ้านหนงั สือ, 2549.
ศรสี มร คงพันธ์ุ. แซนดว์ ิชกับอาหารฝรงั่ . พิมพค์ รง้ั ที่ 11. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์แสงแดด, 2549.
30
สมี น. อาหารไทยบนโตะ๊ ฝรั่ง. พมิ พ์ครงั้ ที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ วริ ยิ ะ, 2546.
สำนกั พิมพแ์ สงแดด. อาหารฝร่งั . กรงุ เทพฯ: โรงพิมพแ์ สงแดด, 2552.
สำนกั พิมพ์แสงแดด. อาหารฝรง่ั อย่างง่าย.พมิ พ์ครงั้ ที่ 11. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์แสงแดด, 2548.
สำนักพิมพ์อมรนิ ทร์. ขนมฝรั่ง. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์อมรินทร์, 2552.
อบเชย อ่มิ สบาย. อาหารฝรงั่ . กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พแ์ สงแดด, 2552.
โตมน ศุขปรีชา. มองโลกผ่าน (ประวัติศาสตร)์ อาหารเช้า. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์อมรินทร์, 2563.
ไมเคลิ ครอนเดลิ . เครื่องเทศ : ประวตั ิศาสตรร์ สจัดจ้าน. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ มตชิ น, 2553.
“มารยาทบนโต๊ะอาหาร ฉบบั Fine dining ทจ่ี ะทำใหค้ ุณออกงานแบบมือโปร” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก https://www.wongnai.com/food-tips/good-manners-for-dining?ref=ct.2563.
[สืบค้นเมือ่ วันท่ี 15 กมุ ภาพันธ์ 2565].
“อาหารตะวนั ตกคอื อะไร มเี มนอู ะไรบ้าง”เขา้ ถงึ ไดจ้ าก
https://www.unileverfoodsolutions.co.th/th/chef-inspiration/world-
cuisines/what-exactly-is-western-cuisine.html. 2564. [สบื ค้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม
2565].
“อาหารยุโรป” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%
B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%
9B. 2564. [สืบค้นเม่ือวันท่ี 4 มกราคม 2565].
“Breakfast Tea เวลาน้ำชายามเช้าของชาวอังกฤษ” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก
https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=heritagerose&month=10-
2010&date=23&group=27&gblog=1.2560. [สบื ค้นเมอ่ื วันที่ 4 มกราคม 2565].
“Full Course Dinner วธิ กี ารเสิร์ฟมอ้ื อาหารแบบเต็มรูปแบบ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก
https://goterrestrial.com/2017/11/16/full-course-dinner/. 2560. [สืบค้นเม่ือวันที่ 4
มกราคม 2565].
31
32