The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kulwanee mlw, 2019-11-08 09:18:41

การบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ

การบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ

การบดิ เบอื นข้อเทจ็ จริงเก่ียวกับ

เร่ืองญิน และชัยฏอน

การบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกบั เรื่องญินและชยั ฏอนมมี าตงั้ แตต่ ําราต้นๆ และยงั คงมีอยใู่ นตาํ ราปัจจบุ นั

ตอ่ ไปนีเ้ป็ นการยกตวั อยา่ งเก่ียวกบั ญิน และชยั ฏอนทีป่ รากฏในตาํ รับตําราตา่ งๆ ของนายอบิ รอฮีม กเุ รชี

1. ในหนงั สอื บะยานลุ กรุ อาน เลม่ ที่ 1 บทท่ี 2 ซูเราะฮฺอลั บะกอเราะฮฺ หน้า 117 เขาได้ให้ความหมายคาํ วา่ ญิน
หรือชยั ฏอนวา่ เป็ นลกั ษณะแหง่ ความชวั่ และอ้างจากฮะดีษอมิ ม่ บคุ อรีย์วา่ ทา่ นร่อซู้ล เคยเรียกคนท่มี าขโมย
ของของทา่ นอบฮู รุ อยเราะฮฺ วา่ เป็ นชยั ฏอน นอกจากนีย้ งั อ้างอกี วา่ มีปรากฏในบนั ทกึ ของทา่ นอมิ ามอบิ นุ
มาญะฮฺกลา่ ววา่ :ทา่ นร่อซ้ลู เคยเรียกสนุ ขั ดาํ วา่ ชยั ฏอน และอกี ครงั้ หนงึ่ ทา่ นร่อซ้ลู เคยสงั่ ซอฮาบะฮฺให้ปิ ด
ภาชนะที่มีอาหารอยมู่ ฉิ ะนนั้ ชยั ฏอนจะเข้าไปในอาหารนนั้ ซง่ึ แสดงวา่ ชยั ฏอนในทีน่ ีห้ มายถึงเชือ้ โรคนนั่ เอง

2. ในหนงั สอื กรุ อานมะญีด เลม่ ที่ 1 บทท่ี 6 ซเู ราะฮฺอลั อนั อาม อายะฮฺที่ 129 และอายะฮฺที่ 131 หน้า 317 และ
หน้า 318 พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2513 และพมิ พ์ครัง้ ที่ 2 กนั ยายน พ.ศ. 2526 เขาได้บดิ เบอื นวา่ ญิน
เป็ นหวั โจกอนั ธพาล

3. ในหนงั สอื กรุ อานมะญีด เลม่ ท่ี 1 บทที่ 14 ซเู ราะฮฺอิบรอฮมี อายะฮฺท่ี 22 หน้า 560 พิมพค์ รัง้ ที่ 1 และครัง้ ที่ 2
เขาแปลชยั ฏอนวา่ หมายถงึ หวั โจก

4. เมอื่ พดู ถึงชยั ฏอนทีเ่ คยรับใช้ทา่ นนบสี ไุ ลมาน ตามที่ปรากฏในบทที่ 21 ซเู ราะฮฺอลั อมั บยิ าอฺ อายะฮฺท่ี 82 หน้า
778 และบทที่ 38 ซูเราะฮฺศอ็ ด อายะฮฺท่ี 37 หน้า 115 ในหนงั สอื กรุ อานมะญีดเลม่ ที่ 2 พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1 และครัง้
ลา่ สดุ พ.ศ. 2544 เขาอธิบายความหมายชยั ฏอนวา่ เป็ นหวั โจกอนั ธพาล และในบทท่ี 55 ซเู ราะฮอฺ รั เราะฮมฺ าน
อายะฮฺที่ 31 หน้า 1155 และ 1156 เลม่ ที่ 3 พมิ พค์ รัง้ ท่ี 1 ได้ให้ความหมายมนษุ ย์ และญินวา่ หวั โจกทงั้ สอง

5. ในภาคผนวกหนงั สอื กรุ อานมะญีด เลม่ ที่ 2 หน้า 1318 พมิ พ์ครัง้ ที่ 1 และครัง้ ลา่ สดุ มีข้อความวา่ ในตวั คนนนั้
มอี าํ นาจสองชนดิ ประจาํ อยู่ อํานาจฝ่ ายหนงึ่ เป็ นข้างต่าํ คอื ญินและอีกฝ่ ายหนงึ่ เป็ นข้างสงู คือมลาอกิ ะฮฺ

6. ในภาคผนวกหนงั สอื กรุ อานมะญีด เลม่ ท่ี 2 หน้า 1320 พิมพ์ครัง้ ที่ 1 ผ้เู ขยี นได้อธิบายวา่ =
“มคี วามเข้าใจสบั สนเกิดขนึ ้ เกี่ยวกบั พวกญิน และชยั ฏอนทีท่ ํางานให้ทา่ นนบีสไุ ลมานวา่ เป็ นอรูปตาม

ความเข้าใจกนั หรือวา่ เป็ นการเปรียบเทียบลกั ษณะของคนประเภทหนง่ึ จึงขอให้สงั เกตเลก็ น้อยในบทท่ี 34 ซู
เราะฮฺสะบะอฺ อายะฮฺท่ี 12013 และในบทท่ี 38
ซูเราะฮฺศอ็ ด อายะฮฺท่ี 37 บกวา่ มพี วกญิน และพวกชยั ฏอนทํางานก่อสร้างหอ,ป้ อม,หม้อหงุ ต้ม และเป็ น
ประดานาํ ้ ให้ทา่ นนบสี ไุ ลมาน แล้วพวกนยี ้ งั ถกู ลา่ มโซต่ ดิ กนั ด้วย”

ผ้เู ขยี นหนงั สอื กนุ อานมะญีดบดิ เบือนวา่ “พวกเขาเหลา่ น(ี ้ ญินและชยั ฏอน)อาจจะเป็ นชนชาติหรืออนื่
หรือ พวกหวั เหด็ ทีม่ าทาํ งานก็ได้ เพราะถ้าเป็ นอรูปแล้วแล้วจะมาก่อสร้าง ขนวสั ดตุ า่ ง ๆ และถกู ลา่ มโซใ่ ห้เห็น
ได้อยา่ งไร”
7. ในบทท่ี 46 ซเู ราะฮฺอลั อะฮฺก็อฟ อายะฮฺที่ 32 หน้า 1451 เลม่ ท่ี 3 พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 ได้ให้ความหมายญินวา่ เป็ น
พวกแปลกหน้าซง่ึ ทา่ นนบี ได้พบในทตี่ า่ ง ๆ ในที่นีห้ มายถงึ พวกยวิ แหง่ นะศบี นี (เป็ นเมืองหนงึ่ ในอรี ัก)
8. ในบทที่ 72 ซเู ราะฮฺอลั ญิน หน้า 1674 เลม่ ที่ 3 พมิ พ์ครัง้ ที่ 1 ทีการบิดเบอื นวา่ “พวกชยั ฏอนไมม่ โี อกาสแอบ
ฟังวะฮีย์จากฟากฟ้ าและฟังไมไ่ ด้ด้วย” และเขากลา่ ววา่ ชยั ฏอนท่กี ลา่ วถงึ ในซูเราะฮฺนีห้ มายถงึ พวกหมอดู
ทํานายทายทกั ทใ่ี ช้ดวงดาวทาํ นายโชคชะตาราศรี

ทีก่ ลา่ วไปแล้วเบอื ้ งต้นเป็ นตวั อยา่ งจากการบิดเบือนในตาํ รับตาํ ราทต่ี พี มิ พค์ รัง้ ก่อน ๆ
สาํ หรับหนงั สอื ความหมายกรุ อานมะญีดฉบบั ตพั มิ พ์ครัง้ ลา่ สดุ (3 เลม่ ) ปี พ.ศ. 2544 การบดิ เบือน
เกี่ยวกบั เร่ืองญิน และชยั ฏอน ยงั คงปรากฏให้เห็นกระจดั กระจายในสามเลม่ แม้นวา่ ผ้แู ปลจะตดั ข้อความบาง
ข้อความออกจากการตพี ิมพ์ครงั้ กอ่ น ๆ ออกไปก็ตาม

กลุ่มต่าง ๆ ท่ปี ฏเิ สธการมญี ิน

ด.ร.อมุ รั สไุ ลมาน อลั อชั ก็อร ได้เขียนในหนงั สอื ของทา่ นทีม่ ชี ่ือวา่ โลกของญินและชยั ฏอน ภายใต้หวั
ของเรื่อง “ไมม่ ีทางปฏเิ สธการมญี ิน” โดยกลา่ ววา่ =

มีคนจาํ นวนน้อยท่ีปฏิเสธการมญี ินโดยสนิ ้ เชิง และผ้ตู งั้ ภาคบี างคนอ้างวา่ ญินหมายถึงวญิ ญาณ
ดวงดาว (ดใู นหนงั สอื รวมฟัตวาของทา่ นอิมามอบิ นิตยั มยี ะฮฺ เลม่ ที่ 24 หน้า 280) และกลมุ่ หนง่ึ จากนกั
ปรัชญาได้อ้างวา่ ญินหมายถงึ อารมณ์ใฝ่ ตาํ่ หรืออารมณ์แหง่ ความชวั่ ในจิตใจมนษุ ย์ในทาํ นองเดียวกนั เขา
ตคี วามหมายมลาอกิ ะฮฺวา่ หมายถงึ อารมณ์ใฝ่ สงู (ดใู นหนงั สอื รวมฟัตวาของทา่ นอมิ ามอิบนติ ยั มยี ะฮฺ เลม่ ท่ี 4
หน้า 346) และมกี ลมุ่ หนง่ึ จากผ้ทู ีอ่ ้าวตวั วา่ เป็ นผ้รู ู้ในปัจจบุ นั อ้างวา่ ญินหมายถงึ เชือ้ โรค

สาํ หรับกลมุ่ ท่ปี ฏเิ สธการมญี ินในปัจจบุ นั คอื พวกก็อดยานยี ์ซง่ึ เป็นกลมุ่ ชนทแ่ี หวกแนวและไมช่ ามสุ ลมิ
แม้นวา่ จะอ้างตวั เป็ นมสุ ลมิ ก็ตาม

เชคมฮุ มั มดั นาศริ ุดดีน อลั อลั บานยี ์ ได้กลา่ วไว้ในหนงั สอื ของทา่ น ชื่อ ศฟิ ะตเุ ศาะลาตนิ นะบีย์
(ลกั ษณะการละหมาดของทา่ นนบ)ี หลงั จากที่ทา่ นได้นาํ หะดสี ที่ระบวุ า่ ชยั ฏอนตนหนง่ึ ต้องการท่ีจะเดนิ ผา่ น
หน้าทา่ นร่อซูล ขณะท่ที า่ นกําลงั ละหมาดอยู่ ทา่ นเชคมฮุ มั มดั นาศริ ุดดีนได้อธิบายในเชิงอรรธรสวา่

แท้จริงความหมายของหะดีสนไี ้ ด้ปรากฏอซั ซอฮีฮยั นิ หมายถึง ซอฮีฮ้ ฺของทา่ นอิมามอลั บคุ อรีย์และซอฮี ้
ฮฺของทา่ นอิมามมสุ ลมิ และตาํ ราฮะดีสอืน่ นอกจากนซี ้ ง่ึ ได้จากซอฮาบะฮฺกลมุ่ หนงึ่

และนบั ได้สา่ เป็ นฮะดีสหนง่ึ จากฮะดสี หลายบททพี่ วกก็อดยานยี ์ปฏิสธ เน่ืองจากพวกเขาไมศ่ รัทธาตอ่
โลกญิน ซง่ึ มีการระบไุ ว้ในอลั กรุ อาน และอซั ซนุ นะฮฺ และแนวทางของพวกนคี ้ ือปฏิเสธตวั บทเกยี่ วกบั เรื่องนีซ้ ง่ึ

เป็ นที่ทราบกนั ดี หากเป็ นตวั บททม่ี าจากอลั กรุ อานพวกเขาก็บิดเบอื นความหมายของตวั บทบทนนั้ เชน่ ดาํ รัส
ของอลั ลอฮฺ ทม่ี ีความหมายวา่ =

“(มฮุ มั มดั )จงกลา่ วเถิดวา่ ได้มวี ะฮีย์แกฉ่ นั วา่ ญินกลมุ่ หนงึ่ ได้ฟัง(อลั กรุ อาน)” อลั ญิน 72 =1

2. ผ้ใู ห้ความหมายอลั กรุ อานมะญีด ได้ให้ความหมายคําวา่ ชยั ฏอนวา่ หมายถึง มาร ในหลยาอายะฮฺ
และหลายซเู ราะฮฺดงั น=ี ้ -

ในบทที่ 14 ซเู ราะฮฺอิบรอฮีม อายะฮฺท่ี 22

ในบทที่ 15 ซเู ราะฮฺอลั ฮิจรฺ อายะฮฺท่ี 17

ในบทที่ 21 ซเู ราะฮฺอลั อมั บยิ าอฺ อายะฮฺที่ 82

ในบทท่ี 22 ซเู ราะฮฺอลั ฮิจรฺ อายะฮฺที่ 3

ในบทที่ 23 ซเู ราะฮฺอลั มอุ ฺมินนู อายะฮฺท่ี 97

ในบทท่ี 37 ซเู ราะฮฺอศั ศอ็ ฟฟาต อายะฮฺท่ี 7

ผ้ทู ่ไี ด้อา่ นทายาตดงั กลา่ วเหลา่ นโี ้ ดยผวิ เผนิ แล้ว จะไมพ่ บวา่ มสี ง่ิ ผดิ ปกตใิ ด ๆ ในการตคี วามคาํ วา่
ชยั ฏอน เพราะเรามกั จะแปลชยั ฏอนวา่ หมายถงึ มาร หากแตผ่ ้เู ขยี นกรุ อานมะญีดรวบรวมและโยงอายาตดงั กลา่ วเบือ้ งต้น
ไว้ในดรรชนีท้ายเลม่ ท่ี 3 หน้า 1915-1916 ภายใต้คําวา่ มาร และให้ความหมายคาํ วา่ มารในอายาตดงั กลา่ ววา่ หมายถึง หวั
โจกของมนษุ ย์หรือพวกอนั ธพาล

เหตใุ ดผ้เู ขียนจึงไมแ่ ปลชยั ฏอน วา่ หมายถงึ หวั โจกมนษุ ย์ เสยี ตงั้ แตต่ ้น เหจใุ ดจงึ แฝงความหมายทีเ่ ขา
ยดึ มนั่ วา่ ถกู ต้องไว้ในดรรชนี การกระทาํ เช่นนีม้ ิได้สอื่ ให้เห็นถึงเจตนาบืดเบือน และอาํ พรางดอกหรือ?

3. ให้ความหมายคาํ วา่ อชั ชะยาฏีน (พหพู จน์ของคาํ วา่ ชยั ฏอน) วา่ หมายถงึ หวั โจก ในบทท่ี 38 ซู
เราะฮฺศ็อด อายะฮฺท่ี 37 ดงั น=ี ้ #-

(37.รวมทงั้ พวกหวั โจก(ชยาฏนี -จากญิน) ทงั้ หลายแหลพ่ วกก่อสร้างและประดานาํ ้ )

และในบทที่ 21 ซเู ราะฮฺอลั อมั บยิ าอฺ อายะฮฺท่ี 82 ดงั นี=้ -

(82. และ(เราได้ทาํ ให้)บางตนในหมหู่ วั โจก (ชยาฏนี -ญิน) ดํานาํ ้ (หามกุ ) ให้เขา (สไุ ลมาน) และพวกเขาทาํ งานอน่ื (เช่น
สร้างอาคาร34=12-13,38=37-38) และเราเราเป็ นผ้เู ฝ้ ารักษาพวกเขา(จงึ สามารถทาํ งานเหลา่ นีไ้ ด้))

ดกู รุ อานมะญีดเลม่ ท่ี 2 หน้า 778

ข้อสังเกต
เมื่อพิจารณาสองอายะฮฺดงั กลา่ วเบือ้ งต้นจะเห็นวา่ ในการตพี มิ พ์ครัง้ ลา่ สดุ ผ้ขู ยี น
กรุ อานมะญีดได้เสริมคาํ วา่ ชะยาฏีนจากญิน ภายในวงเลบ็ ตอ่ จากคาํ วา่ หวั โจก ซงึ่ ในการพมิ พค์ รัง้ กอ่ น ๆ ไม่
มคี าํ วา่ ชะยาฏนี จากญิน ปรากฏให้เห็น

คาํ แปล
ข้อชขี้ าดเก่ียวกับความหมายท่ีแท้จริงของคาํ ว่า ชะยาฏนี โดยสาํ นักงานชขี้ าดปัญหาศาสนา
ประเทศซาอุดอิ ารเบยี

คาํ ถาม


Click to View FlipBook Version