The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เทคนิคการสอน Teaching techniques book

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sangkla.sp, 2022-04-09 11:17:21

เทคนิคการสอน(Teaching techniques)

เทคนิคการสอน Teaching techniques book

เทคนิคการสอน

(Teaching techniques )

ในศตวรรษท่ี 21

คำนำ

เทคนคิ การสอน เป็นกลวธิ ีต่าง ๆที่ ใชเ้ สริมกระบวนการ สอน ขนั้ ตอนการสอน
วิธีการสอน หรือการดาเนินการทางการสอนใด ๆ เพื่อช่วยให้การสอนมีคุณภาพและ
ประสิทธิภาพมากขึ้น มีเทคนิคการสอนทห่ี ลากหลายวธิ ที ี่เหมาะสมกับเน้ือหาสาระ ความสนใจ
และความต้องการของผเู้ รียนและสามารถเออ้ื ให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรูแ้ ละบรรลุจุดมงุ่ หมายที่
กาหนด

หนงั สือเทคนิคการสอน (Teaching techniques ) ในศตวรรษที่ 21นี้ รวบรวมเทคนิค
การสอนรปู แบบตา่ ง ๆ เพ่ือให้ผ้อู า่ นไดเ้ กรด็ ความรูเ้ ลก็ ๆ น้อย ๆ ไปปรับใช้ในการดาเนนิ การ
จัดการเรยี นรใู้ นชีวิตประจาวนั ในยุคศตวรรษที่ 21 ทม่ี ีการจัดการเรยี นรใู้ นหลายรูปแบบ
ผู้เขียนหวงั ว่าหนงั สอื เลม่ น้ีจะใหค้ วามรู้ และประโยชนแ์ ก่ผู้อ่านทกุ ๆ ท่าน

ผจู้ ดั ทา

สำรบัญ 1
2
เทคนิคการเตรยี มหอ้ งเรยี น 5
การจดั เตรยี มหอ้ งเรียนทางกายภาพ 9
การจดั เตรียมหอ้ งเรียนทางจติ วทิ ยา 9
15
เทคนคิ การสอนในช้ันเรยี น 18
เทคนคิ การสอนแบบรว่ มมอื 18
เทคนิคการสอนแบบคน้ พบ 20

เทคนิคการสอนออนไลน์
เทคนิคการเตรยี มตัวสอนออนไลน์
เทคนคิ การสอนมดั ใจเด็ก

เทคนคิ กำรเตรยี มห้องเรียน

การจดั ห้องเรียนและการเรยี นการสอนท่ีมกี ิจกรรมหลาย ๆ ประเภท เป็นส่ิงเร้าสาคญั
อยา่ งย่งิ สาหรับเด็ก เป็นส่ิงทีก่ ระตุ้นใหอ้ ยากเรียน ซ่ึงจะส่งผลต่อการเรียน ครูนบั เปน็ คนทมี่ สี ่วน
สาคัญทีจ่ ะช่วยสนบั สนุนให้เด็กแตล่ ะคนพบความสามารถของตนเองผ่านทางกิจกรรมและปัจจัย
หน่งึ ทส่ี าคัญไมแ่ พ้กนั นั่นก็คือการสรา้ งสิ่งแวดล้อมในการเรียนให้น่าเรยี นได้ การจัดหอ้ งเรียนทมี่ ี
โตะ๊ เกา้ อี้ หรือการจัดทน่ี ั่งให้เหมาะสมกับกจิ กรรมการเรียนการสอน ย่อมทาใหผ้ ู้เรยี นมีความสุข
และสะดวกสบาย หากการจัดท่ีนง่ั ไมเ่ หมาะสมอาจทาใหค้ รผู สู้ อนควบคมุ การสอนยาก เพราะ
ตรวจสอบนักเรียนไดไ้ ม่ทั่วถึง หรอื แม้กระทั่งการใช้ส่ือการเรียนการสอนในชนั้ ถา้ หากนกั เรยี นน่งั
อยใู่ นจุดที่ไมส่ ามารถมองเห็นก็ทาให้เป็นอปุ สรรคได้

1

กำรจดั เตรยี มหอ้ งเรียนทำงกำยภำพ
การจัดบรรยากาศทางดา้ นกายภาพ เป็นการจัดวัสดอุ ุปกรณส์ ่ิงอานวยความสะดวกต่าง ๆ

ทีเ่ ก่ยี วกบั การเรียนการสอน รวมตลอดไปถงึ สิง่ ต่าง ๆ ท่เี สรมิ ความรู้ เชน่ ป้ายนเิ ทศ มมุ วิชาการ
ช้นั วางหนงั สือ โตะ๊ วางส่อื การสอน ฯลฯ ให้เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย ทาให้เกดิ ความสบายตา สบาย
ใจ แก่ผู้พบเหน็ ถา้ จะกลา่ วโดยละเอยี ดแลว้ การจัดบรรยากาศทางด้ายกายภาพ ได้แก่ การจดั สงิ่
ตอ่ ไปน้ี

1. การจดั โต๊ะเรียนและเกา้ อขี้ องนักเรียน
1.1 ใหม้ ีขนาดเหมาะสมกับรูปรา่ งและวยั ของนักเรียน
1.2 ให้มีช่องว่างระหว่างแถวท่นี กั เรียนจะลกุ น่ังได้สะดวก และทากจิ กรรมไดค้ ลอ่ งตัว
1.3 ให้มคี วามสะดวกต่อการทาความสะอาดและเคล่อื นย้ายเปลี่ยนรูปแบบท่นี ่ังเรยี น
1.4 ให้มรี ปู แบบทไ่ี มจ่ าเจ เช่น อาจเปลยี่ นเปน็ รูปตัวที ตวั ยู รูปครึ่งวงกลม หรอื เข้า

กลุ่มเป็นวงกลม ได้อย่างเหมาะสมกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน
1.5 ให้นกั เรียนทน่ี ั่งทุกจุดอา่ นกระดานดาไดช้ ัดเจน
1.6 แถวหน้าของโตะ๊ เรียนควรอยูห่ ่างจากกระดานดาพอสมควร ไมน่ ้อยกวา่ 3 เมตร

ไม่ควรจัดโตะ๊ ตดิ กระดานดามากเกนิ ไป ทาให้นกั เรยี นต้องแหงนมองกระดานดา และ
หายใจเอาฝ่นุ ชอล์กเขา้ ไปมากจะทาให้เสยี สุขภาพ

2

2. การจัดโต๊ะครู
2.1 ให้อยใู่ นจดุ ท่ีเหมาะสม อาจจัดไวห้ น้าห้อง ข้างหอ้ ง หรือหลงั ห้องก็ได้ การจัดโต๊ะ

ครนู ั้นข้ึนอยู่กับรูปแบบการจัดทีน่ ั่งของนกั เรยี นดว้ ย
2.2 ให้มีความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย ท้ังบนโตะ๊ และในล้ินชกั โต๊ะ เพ่ือสะดวกต่อการ

ทางานของครู และการวางสมดุ งานของนักเรียน ตลอดจนเพอ่ื ปลกู ฝังลักษณะนิสัยความ
เป็นระเบยี บเรียบร้อยแก่นักเรยี น

3. การจดั สภาพห้องเรียน ตอ้ งให้ถกู สุขลกั ษณะ กล่าวคอื
3.1 มอี ากาศถ่ายเทได้ดี มหี น้าต่างพอเพียง และมีประตเู ข้าออกไดส้ ะดวก
3.2 มแี สงสว่างพอเหมาะ เพ่อื ชว่ ยให้ผู้เรยี นอา่ นหนังสอื ไดช้ ดั เจน เพอื่ เปน็ การถนอม

สายตา ควรใชไ้ ฟฟ้าชว่ ย ถ้ามีแสงสว่างน้อยเกินไป
3.3 ปราศจากส่ิงรบกวนต่าง ๆ เชน่ เสียง กลนิ่ ควัน ฝุน่ ฯลฯ
3.4 มีความสะอาด โดยฝกึ ให้นกั เรียนรบั ผิดชอบชว่ ยกันเก็บกวาด เช็ดถู เป็นการ

ปลกู ฝังนสิ ัยรกั ความสะอาด และฝึกการทางานรว่ มกัน

3

4. การจัดมมุ ต่าง ๆ ในห้องเรียน ได้แก่
4.1 มุมหนังสือ ควรมีไว้เพ่ือฝกึ นิสยั รักการอ่าน ส่งเสริมให้นกั เรยี นอ่านคลอ่ ง สง่ เสริม

การค้นคว้าหาความรู้ และการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ครคู วรหาหนงั สอื หลาย ๆ
ประเภท ทีม่ ีความยากงา่ ย เหมาะสมกับวัยของนกั เรียนมาให้อ่าน และควรหาหนงั สอื ชดุ
ใหมม่ าเปลย่ี นบ่อย ๆ การจัดมุมหนังสือควรจัดใหเ้ ป็นระเบยี บเรยี บร้อยเพื่อสะดวกตอ่ การ
หยิบอ่าน

4.2 มมุ เสรมิ ความรู้ กลุม่ ประสบการณต์ ่าง ๆ ควรจดั ไว้ใหน้ ่าสนใจ ชว่ ยเสริม ความรู้
ทบทวนความรู้ เช่น มมุ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา มมุ ความร้ขู ่าว
เหตุการณ์ ฯลฯ

4.3 มมุ แสดงผลงานของนกั เรยี น ครูควรตดิ บนปา้ ยนเิ ทศ แขวนหรือจัดวางไวบ้ น
โต๊ะ เพ่อื ให้นกั เรยี นเกดิ ความภมู ิใจในความสาเร็จ และมีกาลงั ใจในการเรยี นตอ่ ไป อกี ท้งั
ยังสามารถแกไ้ ขพัฒนาผลงานของนักเรยี นใหด้ ขี นึ้ โดยลาดบั ได้อีกด้วย

4.4 ตู้เกบ็ สอื่ การเรยี นการสอน เช่น บตั รคา แผนภูมิ ภาพพลิก กระดาษ สี กาว ฯลฯ
ควรจดั ไวใ้ หเ้ ปน็ ระเบียบ เปน็ สดั ส่วน สะดวกตอ่ การหยิบใช้ อุปกรณ์ชิน้ ใดทีเ่ ก่าเกนิ ไป
หรือไม่ใช้แลว้ ไมค่ วรเกบ็ ไว้ในตูใ้ หด้ ูรกรุงรัง

4.5 การประดบั ตกแต่งหอ้ งเรยี น ครูส่วนใหญ่มักนิยมประดับตกแต่งหอ้ งเรียนดว้ ยสงิ่
ตา่ ง ๆ เชน่ มา่ น มู่ลี่ ภาพ ดอกไม้ คาขวญั สุภาษติ ควรตกแต่งพอเหมาะไมใ่ หด้ รู กรุงรัง
สสี ันท่ใี ช้ไมค่ วรฉดู ฉาด หรือใช้สสี ะทน้ แสง อาจทาให้นกั เรียนเสยี สายตาได้ การประดบั
ตกแตง่ หอ้ งเรยี น ควรคานึงถงึ หลกั ความเรียบง่าย เป็นระเบยี บ ประหยดั มงุ่ ประโยชน์
และสวยงาม

4.6 มมุ เกบ็ อุปกรณ์ทาความสะอาด ตลอดจนชัน้ วางเครื่องมอื เคร่อื งใชข้ องนักเรยี น
เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แกว้ นา้ กล่องอาหาร ป่นิ โต ฯลฯ ควรจัดวางไวอ้ ยา่ งเป็นระเบียบ
และหมัน่ เช็ดถใู ห้สะอาดเสมอ

4

กำรจัดเตรียมหอ้ งเรยี นทำงจิตวิทยำ

บรรยากาศทางจติ วทิ ยา หมายถึง บรรยากาศทางดา้ นจติ ใจทน่ี ักเรียนรสู้ กึ สบายใจ มคี วาม
อบอนุ่ มีความเป็นกนั เอง มีความสัมพันธอ์ ันดตี อ่ กนั และมคี วามรักความศรัทธาตอ่ ผู้สอน
ตลอดจนมอี สิ ระในความกลา้ แสดงออกอย่างมรี ะเบียบวนิ ยั ในชน้ั เรยี น
การจดั บรรยากาศทางดา้ นจติ วิทยา การจัดบรรยากาศทางดา้ นจิตวิทยาหรอื ทางดา้ นจิตใจ จะ
ช่วยสรา้ งความรู้สกึ ใหน้ ักเรยี นเกิดความสบายใจในการเรียน ปราศจากความกลวั และวติ กกงั วล มี
บรรยากาศของการสร้างสรรค์เร้าความสนใจ ใหน้ ักเรียนร่วมกจิ กรรมการเรียนการสอนดว้ ย
ความสุข นักเรียนจะเกดิ ความรเู้ ช่นน้ี ข้ึนอยูก่ ับ “ คร”ู เป็นสาคญั

1. บุคลกิ ภาพของครู
สภาพบรรยากาศของห้องเรียนมสี ่วนสัมพนั ธ์กับบุคลกิ ภาพของครู ครูท่มี บี คุ ลิกภาพดี

เช่น การแต่งกาย การยนื การเต้น ท่าทาง น้าเสียง การใชค้ าพูด การแสดงออกทางสีหน้า
แววตา ฯลฯ เหมาะสมกับการเป็นครู จะช่วยสง่ เสริมบรรยากาศการเรยี นรไู้ ดด้ ี

2. พฤตกิ รรมการสอนของครู
พฤติกรรมการสอนของครมู บี ทบาทในการสร้างความรู้สกึ ทดี่ ีใหแ้ กน่ กั เรยี น

เช่นเดยี วกบั บุคลิกภาพของครู ในการสอนครูต้องใช้เทคนคิ และทกั ษะการสอนทสี่ อดคล้อง
เหมาะสมกบั นักเรียนและบทเรียน เพ่ือใหน้ กั เรยี นเกิดความรู้ เจตคติ และทกั ษะตามที่
หลกั สตู รกาหนด พฤติกรรมของครคู วรเป็นดังน้ี

2.1 ตอบสนองพฤตกิ รรมของนกั เรยี นโดยใช้เทคนคิ การเสรมิ แรงท่ีเหมาะสม เช่น ใช้
วาจา ใช้ท่าทาง ให้รางวลั และสัญลกั ษณต์ า่ ง ๆ ตลอดจนใหท้ ากิจกรรมที่นกั เรียนชอบ ครู
ควรเรมิ แรงให้ท่วั ถึงและเหมาะสม

2.2 เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคดิ เห็นของ
นักเรียน แสดงใหน้ กั เรียนเหน็ วา่ ความคดิ ของเขามีประโยชน์ พยายามนาความคิดเหลา่ น้ัน
มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นการเรียนรู้

2.3 ฝึกการทางานเป็นกลมุ่ การให้ทางานเปน็ กลุม่ จะช่วยให้นกั เรียนรู้จกั ทางาน
ร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ใชค้ วามรู้ความคดิ ความสามารถท่ีมีอยู่ใหเ้ กิดประโยชน์ ฝึกการสร้างมนุษย
สมั พนั ธ์ท่ีดแี ละได้ผลงานนามาสคู่ วามภาคภูมใิ จในกลมุ่ และตนเอง ในการมอบหมายงาน
ให้กลมุ่ ทานัน้ ครคู วรคานึงถึงความยากง่ายของงาน ความร้แู ละความสามารถของนกั เรยี น
ในกลุ่ม เพ่อื ให้งานกลุ่มประสบความสาเร็จ เปน็ การสร้างความรสู้ กึ ทางบวกให้แก่นกั เรยี น
งานใดทคี่ รูเห็นว่ายาก ครูควรเข้าไปดูแลกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันคิดแก้ปญั หาในกลุ่มของ
ตน ครจู ะตอ้ งมคี วามอดทนทีจ่ ะไม่รีบชี้แนะ หรอื บอกวิธีการแกป้ ญั หาตรง ๆ ตอ้ งฝึกให้

5

นกั เรียนใชว้ ิธกี ารต่าง ๆ หลาย ๆ แบบจนสามารถแกป้ ัญหาไดส้ าเรจ็
2.4 ใชเ้ ทคนิคและวิธสี อนที่ไม่ทาให้นักเรยี นเบือ่ หน่ายในการเรียน ครคู วรคดิ คน้

คว้าและแสวงหาแนวทางวิธกี ารใหม่ ๆ มาใชจ้ ัดการเรยี นการสอน วธิ ีการสอนควรเปน็ วิธที ี่
ยึดนักเรยี นเป็นศนู ย์กลาง หรอื นกั เรียนเปน็ ผกู้ ระทากจิ กรรม เช่น วิธีการสอนแบบทดลอง
แบบแกป้ ญั หา แบบแสดงบทบาทสมมุติ แบบสืบสวนสอบสวน แบบแบ่งกลุ่มทากิจกรรม
แบบอภิปราย แบบศนู ยก์ ารเรียน ตลอดจนนวัตกรรมการสอนทนี่ ่าสนใจ การจะใชว้ ธิ สี อน
แบบใดนั้นครตู อ้ งเลือกใหเ้ หมาะสมกับบทเรียน ระยะเวลา สติปญั ญา และวยั ของนกั เรยี น

3. เทคนิคการปกครองชั้นเรียนของครู
เทคนิคหรอื วธิ ีการทีค่ รูใชป้ กครองชั้นเรียนมีสว่ นส่งเสรมิ ในการสร้างบรรยากาศทาง

จิตวทิ ยา กลา่ วคอื ถ้าครปู กครองชนั้ เรยี นด้วยความยุติธรรม ยึดหลกั ประชาธปิ ไตย ใช้
ระเบียบกฎเกณฑ์ท่ีทุกคนยอมรบั ยินดปี ฏิบัติ นกั เรียนก็จะอย่ใู นหอ้ งเรียนอย่างมีความสุข
เกิดความรสู้ กึ อบอ่นุ พอใจและสบายใจ ในทางตรงกันขา้ ม ถา้ ครโู ลเล ไมย่ ตุ ธิ รรม เลอื กที่
รกั มักทช่ี ัง ปกครองชั้นเรียนแบบเผด็จการ นกั เรียนจะเกดิ ความรสู้ กึ ไมศ่ รัทธาครู ไมเ่ ห็น
คณุ ค่าของระเบียบกฎเกณฑ์ ส่งผลให้นกั เรียนไม่สนใจเรยี น ไม่อยากมาโรงเรยี นในที่สุด
ดงั นนั้ เทคนิควิธีการปกครองชน้ั เรียนของครจู ึงมคี วามสาคญั ต่อการสร้างบรรยากาศทาง
จติ วทิ ยาด้วย

6

4. ปฏสิ ัมพนั ธ์ในหอ้ งเรยี น
ปฏสิ มั พันธ์ ( interaction) หมายถงึ ความสมั พนั ธ์ทางสังคมระหว่างบคุ คล 2 คน หรือ

บุคคล 2 ฝ่าย โดยต่างฝา่ ยตา่ งมีอทิ ธพิ ลซง่ึ กนั และกนั ปฏสิ ัมพันธใ์ นห้องเรียน
มี 3 ลักษณะ ได้แก่

4.1 ปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งครกู ับนกั เรยี น ถ้าปฏสิ มั พันธ์ระหว่างครกู ับนกั เรยี นเป็นไป
ด้วยดีหมายถึง ทั้งครูและนักเรยี นตา่ งมคี วามสัมพนั ธอ์ นั ดีตอ่ กัน ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียน
ได้ซกั ถาม ครใู ห้ความเป็นกันเองแกน่ ักเรยี น ให้นักเรียนมีอสิ ระ และมีความสบายใจในการ
ทากิจกรรม บรรยากาศภายในห้องเรยี นกจ็ ะไม่ตึงเครยี ด เป็นบรรยากาศที่รน่ื รมย์ นา่ เรียน
น่าสอน ซึง่ จะส่งเสริมใหเ้ กิดการเรียนรทู้ ดี่ ี

4.2 ปฏิสมั พันธ์ระหว่างนกั เรยี นกับนักเรยี น บรรยากาศในห้องเรียนจะเตม็ ไปด้วย
ความอบอุ่น สร้างความรู้สึกทดี่ ใี หแ้ กน่ ักเรียนได้ถ้านักเรยี นมปี ฏิสมั พันธ์ท่ีดตี ่อกนั คือ มี
ความสมคั รสมานสามัคคี รักใครก่ ลมเกลียวกนั ชว่ ยเหลือซ่ึงกันและกนั มีนา้ ใจ
เอ้อื เฟ้อื เผ่อื แผ่ซ่งึ กันและกนั นักเรียนจะมีปฏสิ มั พนั ธ์ที่ดีต่อกนั ไดน้ ั้น ข้นึ อย่กู บั ครูเปน็
สาคญั คอื เปน็ แบบอย่างทดี่ แี กน่ กั เรียน ปกครองดูแลนักเรียนไดท้ ่ัวถงึ สง่ั สอนอบรมบม่
นิสัย และแก้ไขพฤติกรรมทไี่ ม่เหมาะสมของนกั เรียนไดถ้ ูกต้อง นักเรียนก็จะคอ่ ยๆ ซึมซาบ
และซับเอาสิ่งท่ดี ีงามไวป้ ฏิบัตจิ นเป็นคุณลกั ษณะเฉพาะตนที่พึงประสงค์ เมื่อนักเรียนทุก
คนตา่ งเปน็ คนดี เพราะมีครดู ี ทกุ คนกจ็ ะมปี ฏิสมั พันธท์ ่ดี ตี อ่ กัน อนั เป็นส่วนสร้างเสรมิ ให้
เกดิ บรรยากาศท่พี ึงปรารถนาขึ้นในห้องเรียน

4.3 ปฏิสมั พันธ์ทางวาจา หมายถงึ การพูดจาร่วมกันในชั้นเรยี นระหวา่ งครูกับ
นกั เรยี น อาจเปน็ การบรรยาย การอภปิ ราย การถามคาถาม การมอบหมายงาน การพูด
ของนกั เรียน เป็นต้น ทั้งหมดน้มี อี ทิ ธิพลต่อการสร้างบรรยากาศในช้นั เรยี นเช่นกัน

7

การจดั เตรียมห้องเรยี นหรือการจดั บรรยากาศในช้ันเรยี น เป็นส่งิ สาคญั ในการช่วยส่งเสรมิ
การเรียนรขู้ องผเู้ รยี นและสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนสามารถรับผดิ ชอบควบคุมดูแลตนเอง ได้ในอนาคต
การจัดบรรยากาศมีท้ังดา้ นกายภาพ เป็นการจัดสภาพแวดล้อมในหอ้ งเรียนทั้งการจดั ตกแตง่ ใน
ห้องเรียน จดั ทีน่ ั่ง จัดมมุ เสริมความรู้ตา่ ง ๆ ใหส้ ะดวกตอ่ การเรียนการสอน ทางดา้ นจิตวิทยา เป็น
การสรา้ งความอบอุ่น ความสขุ สบายใจให้กบั ผ้เู รยี น ผสู้ อนควรจดั บรรยากาศท้ัง 2 ดา้ นน้ีให้
เหมาะสม นอกจากนี้การสรา้ งบรรยากาศการเรียนรู้ใหเ้ กิดความสุขแก่ผเู้ รยี นเป็นองคป์ ระกอบ
สาคญั ประการหน่ึงที่จะสร้างคณุ ลักษณะนิสัยของการใฝ่เรียนรู้ การมีนิสัยรักการเรยี นรู้ การเปน็
คนดี และการมีสขุ ภาพจิตท่ีดี สามารถอย่ใู นสังคมได้อยา่ งมีความสุขทั่งในปจั จุบนั และอนาคต
ต่อไป ซงึ่ บุคคลสาคัญทีจ่ ะสรา้ งบรรยากาศการเรียนรอู้ ย่างมีความสุขให้เกิดขึน้ ได้คอื ครผู นู้ าทาง
แหง่ การเรยี นรนู้ ั่นเอง

8

เทคนคิ กำรสอนในชน้ั เรียน

เทคนิคการสอน กลวิธตี า่ ง ๆ ทีใ่ ช้เสริมกระบวนการสอน ขนั้ ตอนการสอน วิธีการสอน
หรือการดาเนินการทางการสอนใด ๆ เพื่อชว่ ยให้การสอนมีคุณภาพและประสิทธภิ าพมากขึ้น

เทคนิคกำรสอนแบบคน้ พบ
การจัดการเรียนรแู้ บบค้นพบ เปน็ กระบวนการเรยี นรทู้ ่เี น้นให้ผู้เรียนคน้ หาคาตอบ หรอื

ความรดู้ ้วยตนเอง โดยผู้สอนจะเปน็ ผสู้ รา้ งสถานการณ์ในลักษณะทีผ่ ู้เรียนจะเผชิญกับปญั หา ซง่ึ ใน
การแก้ปญั หานั้น ผู้เรยี นจะใชก้ ระบวนการที่ตรงกับธรรมชาติของวิชาหรือปัญหาน้นั เชน่ ผูเ้ รียน
จะศึกษาปัญหาทางชวี วทิ ยา กจ็ ะใช้วิธีเดยี วกนั กับนักชีววิทยาศกึ ษา หรือผูเ้ รียนจะศกึ ษาปัญหา
ประวตั ศิ าสตร์กจ็ ะใช้วิธีการเชน่ เดียวกบั นักประวัตศิ าสตร์ศึกษา ดังนน้ั จึงเปน็ วิธีจดั การเรียนรู้ที่
เนน้ กระบวนการเหมาะสาหรบั วิชา

เทคนคิ กำรสอนแบบใช้โครงงำนเป็นฐำน Project-based Learning
การเรียนรแู้ บบโครงงานเป็นรปู แบบหนงึ่ ที่เปิดโอกาสให้ผ้เู รียนไดท้ างาน ตามระดบั ทกั ษะ ที่
ตนเองมีอยู่ เปน็ เร่ืองทส่ี นใจและรู้สกึ สบายใจท่จี ะทา ผเู้ รยี นไดร้ ับสิทธิในการเลือกวา่ จะตั้งคาถาม
อะไร และต้องการผลผลติ อะไรจากการทางานชน้ิ นี้ โดยอาจารยท์ าหนา้ ทเ่ี ป็นผสู้ นบั สนนุ อุปกรณ์
และจดั ประสบการณ์ ให้แก่ผเู้ รียน สนับสนนุ การแก้ไขปญั หา และสร้างแรงจงู ใจใหแ้ กผ่ เู้ รียน โดย
ลักษณะของการเรียนรแู้ บบโครงงาน มดี ังนี้

ขนั้ ที่ 1 ข้นั กระตุ้นควำมสนใจ เป็นการสร้างสิ่งซึ่งเร้าให้นักเรียนเกดิ ความสนใจ โดยควร
เริ่มจากการสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนก่อน ควรสรา้ งบรรยากาศที่เป็นกันเองไมเ่ ครียด เพือ่
นกั เรียนเกิดความพร้อมในการเรียนรู้ จากน้ันจบั กลุ่มนักเรยี นดว้ ยวิธีการท่ที าให้นกั เรียนเกดิ ความ
สนกุ สนาน มคี วามสุข และเกดิ ความสนใจในเรอ่ื งที่จะเรียน สาหรับวิธกี ารจับกลุ่มสามารถกระทา
ได้โดยวธิ ีท่หี ลากหลาย เช่น การใช้เกม ใช้เน้ือเพลง ใช้เนื้อหาทจ่ี ะเรยี น จบั ฉลาก เป็นตน้

ข้นั ท่ี 2 ข้ันกำหนดปญั หำ เป็นการเลอื กกาหนดปญั หาท่ีจะศกึ ษา ซึ่งตอ้ งเร่ิมจากความ
สนใจของนกั เรยี น ครูพยายามใหน้ กั เรยี นไดเ้ ลือกศกึ ษาปญั หาท่ีเหมาะสมกบั ความรูค้ วามสามารถ
ของนักเรยี น และมแี นวทางที่สามารถพิสจู น์ ทดสอบ หาคาตอบได้ ครูควรกระตุน้ ใหน้ กั เรียนเกดิ
ความกระตือรอื ร้นในการกาหนดปัญหาด้วยวธิ ีการที่หลากหลายดงั น้ี

9

- การต้ังคาถามจากเร่อื งใกล้ตัว
- ใช้การสารวจ โดยการมอบหมายให้นกั เรียนไปสารวจในทอ้ งถิ่น
- ใช้การศึกษานอกสถานท่ี เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในหอ้ งเรียนและนกั เรียนได้รับ

ประสบการณต์ รงท่ีหลากหลาย
- การสร้างบรรยากาศทีเ่ อือ้ ให้เกดิ ปัญหาและความสงสยั กบั ตัวผูเ้ รียน เชน่ การจัด

สภาพห้องเรียน สือ่ ปา้ ย นิเทศ เป็นตน้

ขัน้ เลือกหรอื กาหนดปญั หาน้ีเปน็ ข้ันทีค่ รตู อ้ งใชค้ วามพยายามในการกระตนุ้ นักเรียน แม้
ปัญหาที่นักเรยี นรว่ มกันกาหนดจะมีความหลายหลาย ครูตอ้ งพยายามตะล่อมให้นักเรียนเลือก
ปญั หาทสี่ อดคลอ้ งกบั หน่วยการเรียนรู้ท่วี ิเคราะหไ์ ว้

ขั้นท่ี 3 ขน้ั วำงแผน เปน็ ขนั้ ท่คี รูให้นกั เรยี นรว่ มกนั เขียนโครงร่างของโครงงาน โดย
ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาประกอบทแี่ สดงข้ันตอนของโครงงาน เพ่ือให้เกิดความชัดเจนในภาพรวมของ
โครงงานแต่ละขนั้ อย่างตอ่ เนอ่ื งดว้ ยการเรมิ่ ทีละข้นั ตอนดังน้ี

3.1 การกาหนดปญั หา แต่ละกลุ่มเขียนปญั หาหรือความสาคญั ของปญั หาให้ชดั เจนถ
1) สาเหตุของปัญหา
2) ความสาคัญของปัญหา
3) แนวทางการแก้ไข

3.2 การตั้งสมมตฐิ าน เป็นการหาแนวโนม้ และคาดคะเนคาตอบไวล้ ่วงหน้า เป็นการ
กระต้นุ นักเรียนใหต้ อ้ งการทราบถึงผลลัพธท์ ไ่ี ด้ว่าตรงกบั สมมตฐิ านทีต่ ง้ั ไว้หรือไม่

3.3 วางแผนการรวบรวมขอ้ มลู เปน็ การวางแผน กาหนดหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในการศึกษา
ข้อมลู ความรู้ และกาหนดวิธีการศกึ ษาท่ีหลากหลายเพื่อเปน็ หนทางส่คู าตอบ เช่น การ
สงั เกต การสมั ภาษณ์ การทดลอง การค้นควา้ จากอนิ เทอร์เนต็ การศกึ ษานอกสถานท่ี
เปน็ ต้น โดยนักเรียนควรเลอื กตามความถนัดหรอื ความเหมาะสม

3.4 วางแผนการวเิ คราะห์ข้อมลู เป็นการนาขอ้ มูลท่ีไดม้ าจดั เรยี บเรียงอย่างเปน็ ระบบ
และทาการวเิ คราะห์ โดยข้อมลู จากการวิเคราะห์อาจทาเปน็ คาอธบิ าย ตัวเลข ตารางเปรยี บเทียบ
คา่ สถติ ิ เปอร์เซน็ ต์ เปน็ ต้น

3.5 วางแผนการนาเสนอขอ้ งมูล โดยครูอาจนารปู เลม่ และแผงโครงงานได้ศกึ ษาเปน็
ตวั อยา่ ง เพื่อใหน้ ักเรียนเกิดความเขา้ ใจวิธกี ารนาเสนอและนาเสนอไดอ้ ย่างถูกต้อง

10

ขัน้ ที่ 4 ขัน้ ลงมอื ปฏิบตั ิ เป็นขนั้ ท่ีมีความสาคญั มาก คอื การดาเนินการ หรือลงมอื
ปฏบิ ัตติ ามแผนที่วางไว้ในขัน้ ท่ี 3 ครตู ้องใช้การเสริมแรงและสนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนเลือกวิธีการ
ตามที่นกั เรียนตอ้ งการ แต่ตอ้ งอยู่บนพ้ืนฐานของการนาขอ้ มลู มาจดั หมวดหมู่ วิเคราะห์ สังเคราะห์
และเชอ่ื มโยงข้อมูลตา่ ง ๆ

ข้ันที่ 5 ขน้ั สรุปและนำเสนอ เป็นการให้นักเรยี นสรุปข้อมูลจากการวิเคราะห์ และ
สังเคราะห์เปน็ ผลงาน นาเสนอขอ้ มูลและเผยแพร่ขอ้ มูล โดยนกั เรยี นสามารถนาเสนอในส่วนที่เป็น
กระบวนการ วิธกี าร ขั้นตอนและผลลพั ธห์ รอื ผลท่ไี ด้จากการศกึ ษา ครคู วรใหค้ าแนะนา กระตุ้นให้
เกดิ การซักถามภายในชั้นเรยี น และควรมกี ารนาเสนอผลงานต่อโรงเรียน ชมุ ชน เขตพ้ืนท่ี
การศึกษา หรอื ในระดบั อื่น ๆ

ขนั้ ท่ี 6 กำรประเมินผล เป็นการประเมินจากการปฏิบตั ขิ องนกั เรียนสามารถประเมิน
ได้เปน็ สองสว่ น คือ 1) ส่วนของนกั เรียนที่ประเมินการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง โดยดูท่คี ุณภาพเปน็
เกณฑ์ ลักษณะและวิธกี ารท่ใี ช้ในการประเมินใช้การอภิปรายจากการทางานและชน้ิ งาน ซึง่ ในสว่ น
นน้ี กั เรียนจะเป็นผมู้ ีบทบาทในการแสดงความคดิ เห็นพรอ้ มใหค้ า่ คะแนนตามเกณฑท์ ต่ี กลงรว่ มกัน
และ 2) ส่วนทีค่ รปู ระเมินการทาโครงงาน ซึง่ ครจู ะประเมนิ ในดา้ นของเนื้อหาสาระของโครงงาน
กระบวนการทางาน การนาเสนอโครงงาน โดยใชว้ ธิ ีให้คะแนนตามเกณฑ์ที่สร้างขนึ้ และควรให้
ผู้เรยี นรับทราบเกณฑด์ ังกล่าวดว้ ยเพ่ือความเขา้ ใจที่ตรงกัน

11

เทคนิคกำรสอนแบบใช้ปญั หำเป็นพนื้ ฐำน (Problem-based learning)
การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้ท่เี ริม่ ต้นจากปญั หา ที่
เกดิ ขน้ึ โดยการสรา้ งความรู้จากกระบวนการทางานกลมุ่ เพอ่ื แก้ปญั หาหรือสถานการณ์เกยี่ วกับ
ชีวติ ประจาวนั ท่มี ีความสาคัญตอ่ ผูเ้ รยี น มุ่งพฒั นาผู้เรียนในด้านทกั ษะและกระบวนการ
เรียนรู้ สามารถเรียนรู้โดยการชน้ี าตนเอง สร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการคิดดว้ ยการ
แก้ปญั หา

สง่ิ สาคัญในการจดั การเรียนรแู้ บบใชป้ ญั หาเป็นฐาน คือ ปัญหา เพราะปัญหาทดี่ จี ะเป็นสง่ิ
กระตนุ้ ใหผ้ ้เู รียนเกิดแรงจูงใจใฝ่หาความรู้ ในการเลือกศกึ ษาปัญหาท่มี ีประสิทธภิ าพ จะตอ้ ง
คานงึ ถงึ พื้นฐานความรู้ ความสามารถของผูข้ องผ้เู รียน ประสบการณค์ วามสนใจ และภมู ิหลัง
เพราะคนเรามีแนวโนม้ ทสี่ นใจเร่ืองใกลต้ ัวมากกวา่ เรื่องไกลตวั สนใจส่ิงท่มี คี วามหมาย มี
ความสาคญั ต่อตนเองและเปน็ เรื่องทต่ี นเองใครร่ ู้

ขัน้ ตอนการจดั การเรียนรู้

ขัน้ ท่ี 1 กำหนดปัญหำ จดั สถานการณ์ตา่ งๆกระตุ้นใหผ้ ู้เรียนเกิดความสนใจ และ
มองเหน็ ปัญหา สามารถกาหนดส่ิงทีเ่ ปน็ ปญั หาทผี่ ้เู รียนอยากรู้ อยากเรียนเกิดความสนใจท่ีจะ
คน้ หาคาตอบ

ขัน้ ท่ี 2 ทำควำมเข้ำใจกับปญั หำ ปัญหาท่ตี ้องการเรียนรู้ ต้องสามารถอธิบายสงิ่
ต่างๆที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาได้

ขัน้ ที่ 3 ดำเนนิ กำรศึกษำค้นควำ้ ผู้เรยี นศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเองดว้ ยวิธกี าร
หลากหลาย

ขน้ั ท่ี 4 สังเครำะห์ควำมรู้ ผู้เรยี นนาความรทู้ ่ีไดค้ ้นควา้ มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกนั

12

ข้นั ที่ 5 สรปุ และประเมินคำ่ หำคำตอบ ผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่ม สรุปผลงานของกลุ่ม
ตนเอง และประเมนิ ผลงานวา่ ข้อมลู ทีศ่ ึกษาค้นคว้ามีความเหมาะสม หรอื ไม่เพียงใด โดย
พยายามตรวจสอบแนวคิดภายในกลมุ่ ของตนเองอย่างอิสระ ทกุ กลมุ่ ช่วยกนั สรุปองค์ความรู้ ใน
ภาพรวมของปญั หาอีกครงั้

ขน้ั ท่ี 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงำน ผู้เรียนนาขอ้ มูลทไี่ ด้มาจดั ระบบองค์
ความรู้ และนาเสนอเป็นผลงานในรูปแบบที่หลากหลาย ผู้เรยี นทุกกลมุ่ ท้ังผู้ที่เกย่ี วข้องกับ
ปญั หารว่ มกันประเมนิ ผลงาน

13

ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงเทคนคิ กำรสอนแบบใช้โครงงำนเป็นฐำน Project-based Learning

กบั
เทคนคิ กำรสอนแบบใช้ปัญหำเป็นพื้นฐำน (Problem-based learning)

14

เทคนิคกำรสอนแบบร่วมมอื

เปน็ การจัดประสบการณ์เรียนร้ทู ี่ผู้เรียนทางานร่วมกนั และช่วยเหลอื กนั ในช้นั เรยี น ซ่งึ จะ
สร้างบรรยากาศท่ีดีในชน้ั เรียน และยงั เพ่ิมปฏิสัมพนั ธท์ ่ียอมรับซง่ึ กนั และกัน สรา้ งความภาคภมู ิใจ
ให้ผูเ้ รียนทุกคน นอกจากนยี้ งั เพิม่ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนอีกดว้ ย เพราะใน ชั้นเรยี นมคี วาม
ร่วมมือ ผู้เรียนจะไดฟ้ งั เขียน อา่ น ทวนความ อธิบาย และปฏิสมั พนั ธ์ ผเู้ รยี น จะเรียนดว้ ยการลง
มอื กระทา ผู้เรยี นทีม่ จี ดุ บกพร่องจะไดร้ บั การช่วยเหลอื จากเพื่อนในกลุ่ม

15

เทคนคิ กำรสอนแบบทำงำนรบั ผิดชอบร่วมกนั Co-operative Learning

การจดั การเรียนรแู้ บบทางานรับผดิ ชอบร่วมกนั คือ การให้สมาชกิ ทุกคนใชค้ วามสามารถ
อยา่ งเต็มท่ีในการทางานกลุ่ม โดยยังคงรกั ษา สมั พนั ธภาพท่ีดตี ่อสมาชิกกลมุ่ ในการเรียนเป็นกลุ่ม
แบบเดิมนน้ั จดุ มงุ่ หมายอยทู่ กี่ ารทางานให้ สาเร็จเท่านั้น
ขน้ั ตอนการสอนมี 5 ชน้ั ดงั น้ี

1. แนะนา ด้วยการบอกว่าชั้นเรยี นแบง่ เป็นก่ีกลมุ่ กลุ่มละกคี่ น สมาชกิ แต่ละคน ต้อง
รับผดิ ชอบที่จะเรียนเกี่ยวกบั หวั ข้อทก่ี ลุม่ ไดร้ บั ใหไ้ ดม้ ากท่ีสดุ แตล่ ะกลุม่ เปน็ ผู้เชยี่ วชาญใน หัวข้อ
นนั้ มหี นา้ ที่จะสอนกลุ่มอื่น ๆ ดัวย ทุกคนจะได้รับเกรดรายบคุ คล และเปน็ กลุ่ม

2. แบ่งกลมุ่ ให้คละกนั แล้วใหก้ ลุ่มตงั้ ชือ่ กลุ่ม เขยี นชื่อกลุม่ และสมาชิกบนปา้ ย นิเทศ
ผู้สอนแจง้ กฎเกณฑ์ทต่ี ้องปฏิบตั ริ ะหว่างการประชมุ กลุ่ม
ก. หา้ มคนใดออกจากกลมุ่ กอ่ นที่จะเสร็จงานกลมุ่
ข. แตล่ ะคนในกล่มุ ตอ้ งรบั ผดิ ชอบท่จี ะให้สมาชิกทุกคนเข้าใจและทางานให้ เสรจ็ สมบรู ณ์
ค. ถา้ ผู้เรยี นคนใดไม่เข้าใจเรือ่ งใด ต้องขอความช่วยเหลอื จากเพือ่ นในกลมุ่ ก่อนทีจ่ ะถามผู้สอน

3. สร้างกล่มุ ผู้เชี่ยวชาญ โดยผู้สอนแจกเอกสารหวั ข้อต่าง ๆ ซ่งึ ภายในบรรจุด้วย เน้อื หา
ถ้ามีกลุ่ม 6 กลุ่ม ผู้สอนต้องเตรียมเอกสาร 6 ชุด ผู้เรยี นทีไ่ ดร้ ับหวั ขอ้ เดยี วกันจะศกึ ษา เร่ืองนนั้
ด้วยกนั เม่ือทกุ คนเขา้ ใจดีแล้ว ก็เตรยี มตัววางแผนกการสอนเพ่ือกลับไปสอนสมาชิกใน กลมุ่ เดมิ
ของตน

4. ผู้เชี่ยวชาญสอนเพื่อนในกลมุ่ ทกุ คนจะผลดั กันสอนเร่อื งทีไ่ ปศึกษามา ตรวจสอบความ
เขา้ ใจ และช่วยเพ่อื นสมาชกิ ในการเรียน
5. ประเมนิ ผลและให้คะแนนแตล่ ะคน ผู้สอนทาการทดสอบเพ่อื ดวู า่ ต้องสอน เพิ่มเตมิ หรือไมใ่ ห้
เกรด และคิดคะแนนกลมุ่

16

เทคนคิ กำรสอนแบบระดมพลงั สมอง( Brainstorming )
กำรระดมสมอง
ความหมาย หมายถึง วธิ ีสอนทีใ่ ชใ้ นการอภปิ รายโดยทันที ไม่มีใครกระตุ้น กลมุ่ ผู้เรยี นเพอ่ื หา
คาตอบหรอื ทางเลอื กสาหรบั ปัญหาทกี่ าหนดอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาส้นั โดย ในขณะน้นั จะไมม่ ี
การตัดสินวา่ คาตอบหรือทางเลือกใดดีหรอื ไม่อยา่ งไร
ลกั ษณะสาคญั ผูเ้ รียนแบ่งเป็นกลมุ่ เลก็ ๆ ช่วยกนั คดิ หาคาตอบหรือทางเลอื ก สาหรับปญั หาที่
กาหนดใหม้ ากทส่ี ดุ และเร็วที่สุดเทา่ ท่จี ะทาได้ แลว้ ช่วยกันพิจารณาเลือกทางเลือก ทด่ี ีท่ีสุด ซึ่งอาจ
มีมากกว่าหน่งึ ทาง
ขั้นตอนในกำรระดมสมอง

1. กาหนดปญั หา
2. แบ่งกลมุ่ ผู้เรยี น และอาจเลอื กประธานหรือเลขา เพ่อื ชว่ ยในการอภปิ รายและ บันทึก
ผล
3. สมาชกิ ทุกคนในกลุม่ ช่วยกนั คิดหาคาตอบหรอื ทางเลอื กสาหรบั ปญั หาทีก่ าหนด
ใหม้ ากทีส่ ดุ ภายในเวลาท่กี าหนด โดยปัญหาของแตล่ ะกลมุ่ อาจเปน็ ปัญหาเดียวกันหรือ
ตา่ งกนั กไ็ ด้
4. คัดเลือกเฉพาะทางเลอื กท่ีน่าจะเป็นไปได้ หรือเหมาะสมทีส่ ุด
5. แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลงานของตน ( ข้อ 4 และ 5 อาจสลบั กนั ได้ )
6. อภปิ รายและสรปุ ผล

17

เทคนิคกำรสอนออนไลน์

“จะเปิดหรอื ไมเ่ ปิดโรงเรียน” เป็นคาถามสาคญั ทท่ี ั้งครู นกั เรียน และผปู้ กครองต่างลุ้นรอ
คาตอบ แมช้ ่วงทผ่ี ่านมา หลายคนจะปรับตัวให้เข้ากบั ชีวิตวิถใี หม่และการเรยี นการสอนแบบ
ออนไลน์ไดบ้ า้ งแลว้ แต่กอ็ ดคิดถงึ การเรียนการสอนในหอ้ งไม่ได้ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดโควิด-
19 ยังไมน่ ่งิ การเปิดเรียนแบบออนไซตอ์ ย่างเตม็ รูปแบบกเ็ ปน็ เรื่องท่หี ลายฝ่ายกงั วลใจ

การสอนแบบออนไลนม์ ีความทา้ ทายหลายดา้ น ครผู ู้สอนทางานหนกั ข้ึน ทั้งในการเตรยี ม
บทเรียนท่ีจะสอน และกระบวนการสอนทม่ี าพรอ้ มกับการใช้เทคโนโลยี เพือ่ กระตุ้นความสนใจ
ของนกั เรยี น ส่วนนักเรียนเองก็มีความเครียดไมแ่ พผ้ สู้ อนเชน่ กนั ดงั นนั้ เราตอ้ งมเี ทคนคิ ในการ
สอนออนไลน์ด้วย

เทคนิคกำรเตรยี มตวั สอนออนไลน์
1.กำรวำงแผน
1.ปรบั แผนการสอนใหม่ โดยเขียนแผนการสอน
2. ทบทวนและเลอื กวธิ กี ารสอนใหเ้ หมาะสม
3. จัดลาดบั ตามความสาคัญของเนอ้ื หาใหม่ การปรบั โครงสร้างของเน้ือหา แบ่ง
เนอ้ื หาให้เหมาะสมกับการ เรยี นออนไลน์
4. ศึกษารูปแบบการสอนออนไลน์ โปรแกรมที่ใชส้ อน ให้ สามารถใชก้ ับมือถือได้
และเตรยี มการสอนออนไลน์ ตามความเหมาะสมของกจิ กรรม
5. เตรียมสอื่ การสอน เนื้อหาการสอนแบบฝึกหดั ปรับปรงุ ใบงาน ใบมอบงาน
ไฟล์ Power Point เกมส์ แบบทดสอบย่อย และจดั ทาคลปิ VDO ในรายวชิ า ปฏิบัติ เป็น
ต้น
6. ศกึ ษาเลอื กรูปแบบหรือ Application การประเมนิ ผล ออนไลน์ ที่เหมาะสม

18

2.เคร่ืองมือ วสั ดอุ ุปกรณก์ ำรเรยี นกำรสอน
1.ศกึ ษาการใชเ้ ครอื่ งมือทเี่ หมาะสมในแต่ละกจิ กรรม เชน่
• LMS เชน่ MS Teams ,D-Learn สาหรบั การสอนออนไลน์
• Google Classroom สาหรบั Upload ไฟลเ์ อกสารตา่ งๆ
• ประกาศขา่ ว การมอบหมายงาน กาหนดเวลาส่งงาน การให้คะแนน
• Ms form, Google Form, Quizzes
• สาหรับ เชค็ ช่อื ท าข้อสอบออนไลน์ การวัดและประเมินผล
• Line Group, เฟสบุก๊ ส าหรับการตดิ ตอ่ สือ่ สาร
2. ควรแชร์เครอ่ื งมอื ที่ตอ้ งใชใ้ ห้นักศกึ ษาไดเ้ รยี นรู้ และช้ีแจงนักศกึ ษาทราบถงึ
โปรแกรมทใี่ ชเ้ รียนก่อนเรียน
3. หาวธิ ีลดข้อจากดั ของอุปกรณใ์ นการเข้าถงึ ระบบออนไลน์ โดยการสารวจ
เบอ้ื งต้น ความพร้อมของอุปกรณข์ อง นกั ศกึ ษา
4. วิชาสอนปฏบิ ตั ิ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้เปน็ วสั ดุฝึก อุปกรณ์ชุด ควรเตรยี มไวส้ าหรบั ให้
นักศึกษานาไปฝึกทีบ่ า้ นได้
5. ใหน้ กั ศึกษาสามารถประยกุ ต์ใช้อุปกรณท์ มี่ ีความใกล้เคียง หรอื หาไดง้ า่ ย
6. ใช้วิธีการชว่ ยเหลอื เพื่อนชว่ ยเพือ่ น ในการแชรไ์ ฟล์ กรณีนกั ศึกษาใช้อปุ กรณท์ ่ี
ไมส่ ามารถแชรไ์ ฟล์ไดร์

3.กำรจัดสภำพแวดลอ้ มกำรจดั กำรเรียนรู้
1. สร้างบรรยากาศการเรียนรรู้ ว่ มกัน
2. สร้างความท้าทาย ประยกุ ต์การใหโ้ จทย์ ใหน้ กั ศกึ ษา ทางานท่ีบ้านได้ การ
ประยุกต์ใช้วสั ดุอุปกรณ์อ่ืนๆ ที่ใกล้เคยี งได้
3. สร้างความร่วมมอื ความรบั ผดิ ชอบ การปรบั ตวั / ระหวา่ งนกั ศกึ ษาและผ้สู อน
4. ทาวีดีโอ ให้นักศึกษาดูก่อน ส่งใบงานไปให้ทา

19

เทคนิคกำรสอนมัดใจเด็ก
เผยตวั ตนของครอู อกมำครชู อบอะไร ถนัดด้ำนไหน และมคี วำมเชยี่ วชำญเรื่องอะไร

ส่ิงแรกท่คี ณุ ครตู อ้ งทาเลยน่ันกค็ อื ปลุกความม่นั ใจของตนเองครับ การสอนออนไลน์ให้
น่าสนใจนั้น ผู้สอนจะต้องทราบความถนดั ของตนเอง เพราะการถา่ ยทอดความรู้ หากครูไมม่ ่นั ใจ
ในองค์ความรู้เรอ่ื งนัน้ ๆ อาจจะก่อให้เกิดความสบั สนระหวา่ งผู้เรยี นและผู้สอนไดน้ ่ันเองครับ และ
หนง่ึ ในการสอนออนไลนน์ ั้น ผูส้ อนสามารถคัดเลือกความถนัดด้านใดด้านหนง่ึ มาสอนได้ เช่น
คณุ ครูภาษาองั กฤษทีช่ อบฟงั เพลง ก็จะขลุกอย่กู บั เพลงได้ทง้ั วนั แล้วกจ็ ะเขา้ ถึงการสอน
ภาษาองั กฤษผ่านบทเพลงไดด้ ี กจ็ ะช่วยใหผ้ เู้ รียนสนุกกับการฟังเพลงและเพ่ิมความจาให้ผเู้ รียนได้
ง่ายย่งิ ขึน้ อีกด้วย

รับบทเป็นครสู ำยย่อ ยง่ิ สรปุ และยอ่ บทเรยี นใหเ้ ข้ำใจง่ำยมำกเท่ำไหร่ ยิ่งไดป้ ระโยชน์ดี

ส่งิ ท่ีสาคญั สาหรับการสอนออนไลน์ ก็คือ การสอนทไี่ มน่ ่าเบ่อื แตกต่างจากในห้องเรยี น
คณุ ครูจะต้องมวี ธิ ีการพดู และสรุปบทเรียนใหน้ ่าสนใจ กระชบั และทีส่ าคัญบทเรยี นนัน้ จะตอ้ ง
เข้าใจง่าย คณุ ครูจะตอ้ งเน้นไปที่การพูดคุยแบบไม่ท่องตามหนงั สือเรียน เพราะการพดู ดว้ ยสไตล์
ของตนเองจะทาใหก้ ารสอนมีความน่าสนใจขึ้น เพราะผู้เรียนจะรูส้ กึ ไดถ้ ึงความแตกต่างระหว่าง
การอ่านหนังสอื เอง การเรียนในห้องเรยี น และความรสู้ ึกแปลกใหม่จะช่วยทาใหห้ อ้ งเรียนออนไลน์
ของคณุ ครูน้นั สนุกจนไมอ่ ยากจบคาบเลยครับ

เรยี นร้แู บบผอ่ นคลำยจัดลำดับเน้ือหำ พร้อมสอดแทรกควำมร้เู ลก็ ๆ ในบทเรยี น

การเรียนร้คู วรเร่ิมตน้ ดว้ ยความผอ่ นคลาย ให้ผู้เรียนค่อย ๆ ปรับตัวและคดิ ตามสิ่งทผ่ี ู้สอน
ต้องการจะสื่อ แลว้ จงึ นาเขา้ สู่บทเรียนอย่างชาญฉลาด เร่ิมต้นคาบเรยี นจงึ ไมค่ วรเข้าสู่ใจความ
หลักในทนั ทีทีเ่ รมิ่ สอน เพราะผู้เรยี นอาจต้ังตวั ไมท่ นั และยังสับสน ดังนนั้ คุณครูจงึ ต้องวางแผนการ
สอนมาเป็นอย่างดี พรอ้ มทัง้ แทรกเกร็ดความรู้ หรอื เทคนิคการจาต่าง ๆ เพื่อให้ผเู้ รยี นรสู้ กึ วา่
เน้อื หาไม่ซบั ซอ้ นจนหมดกาลังใจที่จะเรยี นต่อ รวมไปถงึ การมีมกุ ตลก หรือเรอ่ื งเล่าที่ชว่ ยดงึ ความ
สนใจของผู้เรียน กม็ สี ่วนช่วยเปน็ อย่างมากท่ที าใหก้ ารเรียนนน้ั มีความสนกุ ได้ตลอดคาบ

20

ดึงควำมสนใจดว้ ยภำพหำสื่อกำรสอนทนี่ ่ำสนใจ มสี ีสนั และภำพประกอบ
สอื่ ประกอบการเรยี นการสอน เป็นอีกหนงึ่ ตัวเลอื กท่ีคุณครสู ามารถดึงความสนใจของ

ผู้เรยี นได้ โดยส่อื ประกอบการสอนทช่ี ่วยกระตุน้ ให้ผู้เรยี นสนใจและสามารถจาเนอื้ หาไดง้ ่าย
พร้อมสรุปเนื้อหาออกเปน็ ประเดน็ ย่อย ๆ ยกตวั อยา่ งเช่น สีสันของภาพ ภาพกราฟิกประกอบต่าง
ๆ หรอื คลิปวดิ ีโอท่ีอธิบายเนื้อหามคี วามสวยงาม ครบถว้ น กช็ ว่ ยให้การสอนง่ายขน้ึ เปน็ การเพิ่ม
ประสทิ ธภิ าพการจดจาบทเรยี นให้ผเู้ รียนดว้ ย เน่อื งจากภาพและสีตา่ ง ๆ จะกระตนุ้ กระบวนการ
ทางานของสมอง เรา้ ความสนใจ และทาให้เกดิ การจดจาภาพและสไี ด้ดกี ว่าตวั อักษรนน่ั เอง
พำครเู สยี งสองมำดว้ ยฝกึ ทักษะกำรพดู ให้ลนื่ ไหล รจู้ ักใช้นำ้ เสยี ง

การสอนออนไลน์มกั จะเป็นการสอ่ื สารทางเดียว คือ ทาให้การวางแผนการสอนอาจจะ
ลาบากขึ้น เพราะฉะน้นั คณุ ครคู วรเตรยี มการพูดให้นา่ ฟงั มคี วามตนื่ เต้น ใชโ้ ทนเสียงสูงตา่
เหมาะสม หลีกเลย่ี งการอ่าน หรือการท่องด้วยนา้ เสียงโทนเดียว เพราะน่ันทาใหผ้ ู้เรยี นอาจจะละ
ความสนใจไปจากคุณครไู ด้ ฉะนน้ั การฝึกซ้อมพดู เป็นประจาจะชว่ ยใหค้ ุณครมู ่ันใจ กลา้ ทีจ่ ะ
ถา่ ยทอดความรู้ใหผ้ ู้เรียน และคุณครตู อ้ งสามารถคาดเดาปฏิกริ ิยาของผเู้ รยี นได้ ซึ่งสิง่ น้ีจะเป็น
ประโยชน์ต่อการเตรยี มวางแผนแก้ไขสถานการณ์ในการสอนออนไลน์ได้ดว้ ย

21

สอนจนใชไ้ ดใ้ นชวี ติ จรงิ พยำยำมโยงบทเรียนเขำ้ สปู่ ระสบกำรณช์ ีวติ
การสอนแบบเล่าเรอื่ งนน้ั ช่วยกระตนุ้ ความสนใจไดด้ เี สมอ เพราะการเลา่ เร่อื งช่วยใหผ้ ู้เรยี น

ร้สู ึกผ่อนคลาย ซึง่ คณุ ครูควรเลอื กเร่อื งเลา่ ให้สอดคล้อง และเชื่อมโยงเรื่องนน้ั เข้าส่บู ทเรียนให้ได้
เพอ่ื สะทอ้ นใหผ้ ู้เรยี นเหน็ ความสาคญั และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง การเล่าเรอื่ งเปน็ อกี หนง่ึ วธิ ี
ท่ีชว่ ยกระตุน้ ให้ผู้เรียนสามารถจดจาบทเรยี นไดน้ านขึ้น และเปน็ วิธีที่นิยมในการสอนทั่วไปและ
เห็นผลจรงิ
รับบทเปน็ คณุ ครูช่ำงฟังหำวธิ ีรบั ฟังคำถำมและควำมคิดเห็นของผ้เู รียน

สว่ นมากปญั หาของการเรียนออนไลน์ คือ ในบางคร้ังคุณครไู ม่ทราบถึงความคิดเหน็ ของ
ผเู้ รียน และบางครง้ั ผู้เรยี นกไ็ มส่ ามารถตั้งคาถามถงึ คุณครูไดเ้ ม่ือเกดิ ขอ้ สงสยั ดังน้นั การมีช่องทาง
ในการรบั ฟังคาแนะนา ความรู้สกึ ของผ้เู รียน รวมถึงคาถามระหว่างบทเรียนตา่ ง ๆ จะช่วยให้
คณุ ครูสามารถนาความคิดเห็นเหล่าน้ันไปปรับปรุง และวางแผนการสอนของตนเองตอ่ ไปใน
อนาคตได้ ทาใหก้ ารสอนออนไลนใ์ นคร้ังถดั ไปสนกุ มากย่งิ ข้ึน ดังนน้ั คุณครจู งึ ควรหาชอ่ งทางใน
การรับฟังผู้เรียนหลงั การเรียนการสอนอยู่เสมอ

22

บรรณำนกุ รม

กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ. (2543). เอกสารชุดเทคนคิ การจัดกระบวนการเรียนรู้
ท่ีผเู้ รียนเป็นสาคญั การบูรณาการ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนากรมการศาสนา.

กาญจนา คุณารักษ์. (2541). การเรียนรู้แบบร่วมมือกนในช้นั นเรียนบูรณาการ. คณะ
ศึกษาศาสตร์ : มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร.

การนานวัตกรรมและเทคโนโลยมี าใช้สถานศกึ ษา. [ออนไลน์] เข้าถงึ ได้
จาก http://suksandee.blogspot.com/2013/01/blog-post.html

ถนอมพร เลาหจรสั แสง. (2545). Designing e-Learning หลักการออกแบบและสรา้ ง
เวบ็ เพือ่ การเรยี นการสอน.กรงุ เทพฯ. ห้างหุน้ ส่วนจากัดอรุณการพิมพ.์

วชั ราภรณ์ วังมนตร. (2552). โปรแกรมภาษาซี หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ
ชน้ั สูง 2 การพัฒนาบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคปญั หาเป็นฐาน วิชาการเขียน . วิทยานิพนธ์
ปรญิ ญา ครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมมหาบัณฑิต2, เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สาขาวชิ า
เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์มหาวิทยาลัย

สรุ ะ บญุ ม.ี (2537). การสอนูสค่ วามเปน็ ครูมืออาชีพ. กรงุ เทพฯ : หจก. ภาพพิมพ์.
อรทยั มลู คา และคณะ. (2542). การบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนท่เี นน้
ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั . กรงุ เทพฯ : ภาพพมิ พ.์

23


Click to View FlipBook Version