The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงาน เรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการเข้าร่วมทักษะทางวิชาการฯ เทศบาลนครสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by konrakaoun14, 2022-07-12 09:27:54

โครงงาน เรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้

โครงงาน เรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการเข้าร่วมทักษะทางวิชาการฯ เทศบาลนครสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2565

โครงงานกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
เรือ่ ง สวนเกษตรพอเพยี งสร้างรายได้

โดย ออกกิจวัตร
แซ่ล้มิ
1. เด็กหญงิ พลอยชมพู เทศอา่
2. เด็กหญิงณฏั ฐณชิ า
3. เด็กหญงิ ณชิ านนั ท์

ครทู ่ปี รกึ ษา

1. นางสาวสุธาสนิ ยี ์ คุม้ ยงค์
2. นางสาวนยั นา นาอุดม

โรงเรียนเทศบาลวดั ช่องลม (เปยี่ มวทิ ยาคม)
สังกัดเทศบาลนครสมทุ รสาคร จงั หวดั สมุทรสาคร
กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทย

ใช้ประกอบในการประกวดแขง่ ขนั โครงงานกลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 – 6

ระดบั เทศบาลนครสมุทรสาคร ประจา่ ปี 2565



โครงงานกลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี
เรอ่ื ง สวนเกษตรพอเพยี งสร้างรายได้

โดย ออกกิจวัตร
แซ่ล้มิ
1. เด็กหญิงพลอยชมพู เทศอา่
2. เดก็ หญงิ ณฏั ฐณชิ า
3. เด็กหญงิ ณชิ านันท์

ครูทป่ี รกึ ษา

1. นางสาวสธุ าสินยี ์ คุ้มยงค์
2. นางสาวนัยนา นาอดุ ม

โรงเรียนเทศบาลวัดชอ่ งลม (เปย่ี มวทิ ยาคม)
สังกัดเทศบาลนครสมทุ รสาคร จังหวดั สมุทรสาคร
กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ใช้ประกอบในการประกวดแข่งขันโครงงานกลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 – 6

ระดบั เทศบาลนครสมทุ รสาคร ประจา่ ปี 2565



โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาตอนปลาย
ชอ่ื เรอ่ื ง สวนเกษตรพอเพียงสรา้ งรายได้
ชื่อผจู้ ดั ทา 1. เด็กหญงิ พลอยชมพู ออกกิจวัตร

2. เดก็ หญิงณฏั ฐณิชา แซล่ มิ้
3. เด็กหญงิ ณิชานันท์ เทศอา่

ชือ่ ครทู ่ีปรึกษา 1. นางสาวสธุ าสินยี ์ ค้มุ ยงค์
2. นางสาวนัยนา นาอุดม

โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม) สังกัดเทศบาลนครสมุทรสาคร อาเภอเมืองสมุทรสาคร
จงั หวดั สมทุ รสาคร 74000 โทรศพั ท์ 034 – 497207 โทรสาร 034 – 497207

บทคดั ย่อ

โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ เรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ มีจุดมุ่งหมาย
เพื่อศึกษาเก่ียวกับพืชจากสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม) ที่คณะครูและ
นักเรียนได้ร่วมกันปลูกภายในโรงเรียน รวมไปถึงตามครัวเรือนและในท้องถิ่น เพื่อนามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
จากวา่ นหางจระเข้ทัง้ 4 อยา่ ง ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ สบูส่ ครับผสมว่านหางจระเข้ (สตู รใยบวบ
และสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่านหางจระเข้และวุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้ ซึ่งจะสามารถนามาใช้ใน
ชีวิตประจาวันและสอดคล้องกับแนวพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คณะผู้จัดทาได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากส่ือต่าง ๆ หรือสื่ออินเทอร์เน็ต
และลงมือทาสวนเกษตร โดยปลูกพืชผักหลากหลายชนิดท่ีสามารถนามาบริโภค ประกอบอาหารหรอื
แปรรปู เพอ่ื เก็บไวร้ ับประทานได้นานหลายวัน อาทิเชน่ ว่านหางจระเข้ ใบเตยหอมมะระขี้นก ชะอม
มะกรูด ต้นขจร ผักชีฝรั่ง ดอกอัญชัน เป็นต้น หากกล่าวถึงพืชผักต่าง ๆ ที่นามาบริโภคแล้ว ยังมี
คุณประโยชน์และสรรพคุณมากมายต่อสุขภาพร่างกาย คณะผู้จัดทาจึงมีแนวความคิดจัดทาข้ึนเป็น
โครงงานโดยเลือกนาว่านหางจระเขม้ าแปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์ได้ ดังน้ี เจลวา่ นหางจระเข้ สบู่วา่ นหางจระเข้
แชมพูว่านหางจระเข้และว้นุ กรอบว่านหางจระเข้ โครงงานน้ีสามารถนาไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจาวัน
เพื่อเปน็ อาชีพเสรมิ เพม่ิ รายได้ให้กบั ตนเองและครอบครวั ทั้งในปจั จบุ ันและอนาคตได้

จากการศึกษาการทาโครงงานในครั้งนี้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะ
ประโยชนข์ องพืชผกั จากสวนพืชสมนุ ไพรและพืชผักในท้องถน่ิ ตนเอง โดยการนาวา่ นหางจระเข้มาแปรรูป
ผ้เู รียนเกิดความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ การทางานเป็นกลุ่ม มคี วามสนใจในการเรยี นวชิ าการงานอาชีพ
รู้จักนาหลักการในการถนอมอาหาร และการแปรรูปพืชผักจากสวนพืชสมุนไพรในโรงเรียนหรือใน
ทอ้ งถิ่นใหเ้ กดิ ประโยชน์อยา่ งมคี ณุ คา่ ต่อไป



กิตตกิ รรมประกาศ

จากการทาโครงงานเรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ เป็นสว่ นหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชพี จัดทาข้ึนเพื่อส่งเสรมิ การนาว่านหางจระเขม้ าแปรรูปซึ่งถือว่าเป็นพืชผักจากสวนพืชสมนุ ไพร
ทีม่ ีอยู่ในโรงเรยี นหรือตามครัวเรือนและในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ให้เกดิ ประโยชน์ โดยเลอื กนาว่านหาง
จระเข้ มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ท้ัง 4 อย่าง ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้
(สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่านหางจระเข้และวุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้ โดยใช้
หลักการในการถนอมอาหารแบบง่าย ๆ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่และยังมีคุณประโยชน์อีกด้วย
ด้วยความอนุเคราะห์และช่วยเหลือของบุคคลหลายท่าน ซึ่งไม่อาจจะนามากล่าวได้ทั้งหมด ขอบกราบ
ขอบพระคณุ เปน็ อย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ขอกราบขอบพระคุณ ผ้อู านวยการสถานศึกษา คณะครแู ละบคุ คลากรท่ีได้สง่ เสริมและพฒั นา
แหลง่ เรียนรู้ในโรงเรียนที่เอ้ือตอ่ การศกึ ษา จนทาใหไ้ ด้ว่านหางจระเขม้ าใช้ในการแปรรูป อีกท้ังยังช่วย
สนับสนุนในการสืบค้นขอ้ มูล แลกเปลีย่ นความรู้ ความคิด พร้อมท้ังเทคนิคการนาเสนอและให้กาลังใจ
ในการศกึ ษาคน้ ควา้ ตลอดมา จนโครงงานเรื่องนี้สาเรจ็ อย่างสมบูรณ์

คณะผู้จัดทำ



สารบญั

หน้า
บทคดั ยอ่ …………………………….……………………………………………….……..……………………………..…… ก
กิตติกรรมประกาศ………………………………………………………….……………………………………………….. ข
สารบญั ………………………………………………………………………………………………………………...………… ค
สารบญั ตาราง…………………………………………………………………………………………………………………. จ
บทท่ี 1 บทนา…………………………………………………………………………………………………….…..………. 1

ทมี่ าและความสาคัญ......................................................................................................... 1
วตั ถุประสงค์...................................................................................................................... 1
ขอบเขตของการศึกษาคน้ คว้า……………………………………………….……..….……….…………… 2
นิยามศพั ท์เฉพาะ.............................................................................................................. 2
สถานท่ีดาเนนิ งาน............................................................................................................. 3
ระยะเวลาดาเนินงาน.......………………………………………….………..……….….………….………… 3
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วขอ้ ง....................................................................................... 4

วา่ นหางจระเข.้ .................................................................................................................. 4
กลเี ซอรนี ........................................................................................................................... 5
หวั เชือ้ แชมพู...................................................................................................................... 6
ใยบวบ............................................................................................................................... 7
รังไหม................................................................................................................................ 8
ผงวุ้น................................................................................................................................. 9
กระบวนการถนอมอาหาร................................................................................................. 9
การตากแหง้ อาหาร........................................................................................................... 12
บทท่ี 3 วิธีดาเนนิ การทดลอง...................................................................................................... 13
เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศึกษา............................................................................................... 14
14
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล............................................................................................ 14
การนาเสนอข้อมูล.................................................................................................. 15
เจลว่านหางจระเข้.................................................................................................. 17
สบู่สครับผสมวา่ นหางจระเข้ (สูตรผสมใยบวบและสตู รผสมรงั ไหม)...................... 20
แชมพผู สมวา่ นหางจระเข้....................................................................................... 23
วุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้...................................................................................



สารบัญ (ตอ่ )

หน้า
บทท่ี 4 ผลการทดลอง................................................................................................................. 24

ผลการทดลอง......................................................................................................... 24
ตอนท่ี 1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลท่วั ไปเกีย่ วกับผู้ตอบแบบสอบถาม..................... 26
ตอนท่ี 2 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลเกีย่ วกับข้อมูลความพงึ พอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์

จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อย่างของนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 –
5/3 โรงเรยี นเทศบาลวัดชอ่ งลม (เปยี่ มวทิ ยาคม).................................. 28
บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ............................................................................. 31
สรปุ ผล.................................................................................................................... 31
อภิปรายผล............................................................................................................. 32
ข้อเสนอแนะ........................................................................................................... 32
รายงานอ้างองิ .............................................................................................................................. 33
ภาคผนวก..................................................................................................................................... 34
ภาคผนวก ก ภาพกจิ กรรม..................................................................................... 35
ภาคผนวก ข........................................................................................................... 40
ประวตั ิผูจ้ ดั ทาโครงงาน.................................................................................. 41
ประวัติครูท่ีปรึกษา......................................................................................... 42



สารบัญตาราง

ตารางท่ี 1 หน้า
ตารางท่ี 2 คณุ ประโยชน์/สรรพคณุ ของเจลว่านหางจระเข้..................................................... 16
ตารางท่ี 3 แสดงการคานวณตน้ ทนุ ของเจลว่านหางจระเข้..................................................... 16
คุณประโยชน/์ สรรพคุณของสบู่สครับผสมวา่ นหางจระเข้ (สูตรผสมใยบวบ
ตารางที่ 4 และสูตรผสมรังไหม).............................................................................................. 18
แสดงการคานวณตน้ ทนุ ของสบู่สครบั ผสมวา่ นหางจระเข้ (สตู รผสมใยบวบ
ตารางท่ี 5 และสตู รผสมรงั ไหม).............................................................................................. 19
ตารางท่ี 6 คุณประโยชน์/สรรพคุณของแชมพผู สมว่านหางจระเข.้ ......................................... 21
ตารางท่ี 7 แสดงการคานวณต้นทุนของแชมพูผสมวา่ นหางจระเข้.......................................... 22
ตารางที่ 8 คุณประโยชน์/สรรพคณุ ของวุ้นกรอบวา่ นหางจระเข.้ ............................................ 24
ตารางที่ 9 แสดงการคานวณตน้ ทนุ ของวนุ้ กรอบว่านหางจระเข.้ ............................................ 25
ตารางที่ 10 จานวนและร้อยลพของกลุ่มตัวอย่าง จาแนกตามเพศ.......................................... 26
ตารางที่ 11 จานวนและร้อยลพของกลุ่มตัวอย่าง จาแนกตามชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5/1 - 5/3....... 27
ตารางที่ 12 จานวนและร้อยลพของกลุ่มตัวอยา่ ง จาแนกตามอายุ.......................................... 27
จานวนร้อยละ คา่ เฉลี่ยและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจในการใช้
ผลิตภัณฑจ์ ากว่านหางจระเขท้ ง้ั 4 อยา่ งของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี
5/1 – 5/3 โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวทิ ยาคม)...................................... 28
แผนภูมิแท่งแสดงความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ท้ัง 4 อย่าง
ของนกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 - 5/3 โรงเรยี นเทศบาลวดั ช่องลม (เปย่ี มวทิ ยาคม) 30

บทท่ี 1
บทนำ

ที่มำและควำมสำคัญ

เนื่องด้วยคณะผู้จัดทำมีควำมสนใจที่จะศึกษำข้อมูลที่เก่ียวข้องเกี่ยวกับกำรแปรรูปผลิตภัณฑ์
จำกว่ำนหำงจระเข้ ซึ่งเป็นพืชจำกสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนเทศบำลวัดช่องลม (เป่ียมวิทยำคม)
รวมไปถึงตำมครัวเรือนและในท้องถิ่น ซ่ึงจะสำมำรถนำมำใช้ในชีวิตประจำวันและสอดคล้องกับหลัก
ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงตำมแนวพระรำดำรัสของพระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธิเบศรมหำภูมิพล
อดุลยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร โดยคณะผู้จัดทำได้ศึกษำค้นคว้ำข้อมูลจำกกำรสอบถำมครูในโรงเรียน
คนในชุมชน รวมท้ังใช้อินเทอร์เน็ต ลงมือทำสวนพืชสมุนไพรและลงมือปฏิบัติจริงโดยปลูกพืชผัก
หลำกหลำยชนิดที่สำมำรถนำมำบริโภค ประกอบอำหำรหรือแปรรูป เพื่อเก็บไว้รับประทำนได้นำน
หลำยวัน อำทิเช่น ว่ำนหำงจระเข้ ใบเตยหอม มะระขี้นก ชะอม มะกรูด ต้นขจร ผักชีฝรั่ง
ดอกอญั ชนั เปน็ ตน้ จึงมแี นวควำมคิดจดั ทำขนึ้ เปน็ โครงงำน โดยเลือกนำวำ่ นหำงจระเข้มำแปรรปู เป็น
ผลิตภัณฑ์จำกว่ำนหำงจระเข้ท้ัง 4 อย่ำง ได้แก่ เจลว่ำนหำงจระเข้ สบู่สครับผสมว่ำนหำงจระเข้
(สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่ำนหำงจระเข้และวุ้นกรอบผสมว่ำนหำงจระเข้ โครงงำนนี้
สำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน อกี ทง้ั ยงั สร้ำงรำยไดใ้ ห้กบั ตนเองและครอบครัวทั้งในปจั จบุ ัน
และอนำคตได้

จำกกำรศกึ ษำกำรทำโครงงำนในครงั้ นี้ สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกับลักษณะ
ประโยชน์ของพชื จำกสวนพืชสมุนไพร โดยนำว่ำนหำงจระเขม้ ำแปรรปู เปน็ ผลิตภัณฑ์ต่ำง ๆ ผ้เู รยี นเกิด
ควำมคิดสร้ำงสรรค์ทำงำนเป็นกลุ่ม มีควำมสนใจในกำรเรียนวิชำกำรงำนอำชีพ รู้จักนำหลักกำรในกำรถนอม
อำหำรมำใช้ ทำให้รจู้ กั ใช้พืชจำกสวนพชื สมุนไพรของโรงเรยี นเทศบำลวัดช่องลม (เป่ียมวิทยำคม) หรือใน
ท้องถ่ินใหเ้ กิดประโยชน์และมีคุณค่ำต่อไป อกี ทั้งยังสำมำรถทำเปน็ อำชีพเสริม เพิม่ รำยได้ใหก้ ับตนเอง
ครอบครัวและชุมชนได้ โดยบูรณำกำรกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ท้ัง 8 กลุ่มสำระ ได้แก่ กลุ่มสำระ
ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสำระ
กำรเรียนร้สู งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้
สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและกลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ

วตั ถปุ ระสงค์

1. เพือ่ ใหน้ กั เรียนแปรรปู ผลิตภัณฑจ์ ำกวำ่ นหำงจระเข้ได้
2. เพอ่ื เปน็ กำรประหยัดรำยจ่ำย
3. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นแปรรปู พืชจำกสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนและในท้องถ่นิ ให้เกบ็ ไว้ได้นำน
4. เพ่ือเป็นอำชีพเสรมิ เพ่มิ รำยได้ให้ตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้

2

ขอบเขตของกำรศึกษำคน้ ควำ้

ศึกษำเกยี่ วกับกำรแปรรูปผลิตภัณฑ์จำกวำ่ นหำงจระเข้ โดยนำพืชจำกสวนพืชสมนุ ไพรของโรงเรียน
หรือในทอ้ งถนิ่ มำประยกุ ต์ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ จำกกำรศึกษำกำรทำโครงงำนในครงั้ นี้ สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียน
มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับลกั ษณะ ประโยชนข์ องพชื จำกสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนหรือในท้องถ่ิน
โดยเลือกนำว่ำนหำงจระเข้มำแปรรปู เป็นผลิตภณั ฑ์จำกวำ่ นหำงจระเข้ทง้ั 4 อย่ำง ได้แก่ เจลวำ่ นหำง
จระเข้ สบู่สครับผสมว่ำนหำงจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่ำนหำงจระเข้และวุ้นกรอบ
ผสมว่ำนหำงจระเข้ ผู้เรียนเกิดควำมคิดสร้ำงสรรค์ทำงำนเป็นกลุ่ม มีควำมสนใจในกำรเรียนวิชำกำรงำน
อำชีพ รู้จักนำหลักกำรในกำรถนอมอำหำรมำใช้ ทำให้รู้จักใช้พืชจำกสวนพชื สมุนไพรในโรงเรียนหรือ
ในท้องถน่ิ ให้เกดิ ประโยชน์และมคี ุณค่ำตอ่ ไป

1. สมมติฐำนของกำรศึกษำคน้ ควำ้
จดั ทำโครงงำนน้ี เพอ่ื ให้นักเรียนเล็งเห็นคณุ คำ่ คณุ ประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ตำ่ ง ๆ ของพืชจำก

สวนพืชสมุนไพรในโรงเรียนหรือในทอ้ งถนิ่ โดยเลือกนำวำ่ นหำงจระเข้มำแปรรูปเปน็ ผลติ ภัณฑ์จำกว่ำน
หำงจระเข้ทั้ง 4 อยำ่ ง ไดแ้ ก่ เจลวำ่ นหำงจระเข้ สบ่สู ครับผสมวำ่ นหำงจระเข้ (สูตรใยบวบและสตู รรัง
ไหม) แชมพูผสมว่ำนหำงจระเขแ้ ละวุ้นกรอบผสมวำ่ นหำงจระเข้ ซ่ึงใช้หลักกำรในกำรถนอมอำหำรแบบ
งำ่ ย ๆ ดว้ ยวิธีกำรต้ม และกำรตำกแดด อีกทัง้ ยงั สำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ในกำรถนอมอำหำรและแปรรูป
ผลิตภณั ฑ์อยำ่ งอ่นื ได้อีกด้วย

2. ตวั แปรท่เี กี่ยวขอ้ ง
2.1 ตวั แปรต้น นำวำ่ นหำงจระเข้ มำแปรรูปรูปเป็นผลิตภัณฑ์จำกว่ำนหำงจระเข้ทั้ง 4 อย่ำง

ไดแ้ ก่ เจลวำ่ นหำงจระเข้ สบสู่ ครบั ผสมวำ่ นหำงจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพผู สมว่ำนหำง
จระเขแ้ ละวนุ้ กรอบผสมวำ่ นหำงจระเข้ โดยใช้หลักกำรในกำรถนอมอำหำรแบบง่ำย ๆ

2.2 ตัวแปรตำม นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ 5/1 – 5/3 ของโรงเรียนเทศบำล
วดั ชอ่ งลม (เปี่ยมวิทยำคม) จำนวน 50 คน

นิยำมศัพทเ์ ฉพำะ

เจลว่ำนหำงจระเข้ ทำมำจำกกำรนำเนื้อว่ำนหำงจระเขม้ ำปั่นให้ละเอียด เทใส่ตะแกรงกรอง
เอำเฉพำะส่วนเมือกมำใช้ หำกต้องกำรสีและกล่ิน ให้นำสีและกลิ่นสังเครำะห์มำผสมกวนให้เข้ำกัน
เม่ือได้เน้ือเจลแล้ว สำมำรถนำมำทำผิวหน้ำ ผิวกำย โดยไม่ต้องล้ำงออกและใช้กับแผ่นมำสก์หน้ำ
เพอื่ มำสก์หน้ำกอ่ นนอนหรอื ตำมตอ้ งกำร มสี รรพคณุ ทำใหผ้ ิวเนยี นนมุ่ ชุ่มช้นื ขึ้น ลดควำมมันบนใบหน้ำ
และรอยแผลเปน็ ดูจำงลงได้

3

สบูส่ ครบั ผสมว่ำนหำงจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) ให้นำเอำเนื้อว่ำนหำงจระเข้ไปปั่น
ให้ละเอยี ด จำกนั้นนำเบสสบ่กู ลีเซอรีนมำตุ๋นใหล้ ะลำย เทว่ำนหำงจระเขท้ ่ปี ่ันละเอยี ดลงไป ใช้พำยไม้
กวนผสมให้เขำ้ กัน เตมิ กลนิ่ และสสี ังเครำะหต์ ำมตอ้ งกำร จำกน้นั จดั เตรียมพมิ พ์สบู่ ตักส่วนผสม ของสบู่
ที่ตุ๋นเสร็จเทลงพิมพ์ จะได้สบู่สครับผสมว่ำนหำงจระเข้ เพ่ือนำไป ใช้ฟอก ขัด ถูทำควำมสะอำด
ผิวหน้ำและผิวกำยได้ หำกต้องกำรเพิม่ ควำมแปลกใหม่สำมำรถนำรงั ไหมหรือใยบวบมำวำงลงพิมพ์สบู่
มีสรรพคุณบำรุงผิวหน้ำและผิวกำยให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น ผิวพรรณผ่องใส รังไหมมีสรรพคุณช่วยกำจัด
เซลล์ผิว ท่ีเสื่อมสภำพ ป้องกันผิวแห้ง ลดกำรอักเสบของผิวพรรณ และใยบวบมีสรรพคุณเร่ง
กระบวนกำรผลดั เซลล์ผวิ เก่ำ คืนควำมขำว กระจ่ำงใสให้กบั สผี ิว เปน็ ตน้

แชมพูผสมว่ำนหำงจระเข้ ทำมำจำกกำรนำเนื้อว่ำนหำงจระเข้มำป่ันให้ละเอียด กรองเอำส่วน
เมือกเทผสมกับหัวเชื้อแชมพู ผงข้น ผงฟอง กลีเซอรีนเหลว กล่ินและสีสังเครำะห์ตำมชอบ กวน
ส่วนผสมให้เข้ำกนั จำกนั้นต้ังท้ิงไว้รอให้ฟองยบุ จึงจะสำมำรถนำมำใช้ในกำรสระทำควำมสะอำดเสน้
ผมและหนังศีรษะ มีสรรพคุณช่วยปรับสภำพเส้นผม ทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก นุ่มล่ืน อีกทั้งยังช่วยเพิ่ม
ควำมชมุ่ ชน้ื ให้เสนั ผมและหนังศรี ษะได้

วนุ้ กรอบผสมว่ำนหำงจระเข้ โดยกำรนำเนื้อวำ่ นหำงจระเข้มำปั่นใหล้ ะเอยี ดพกั ไว้จดั เตรียมน้ำเปล่ำ
จำกนน้ั เทผงว้นุ ลงผสมคนจนผงวุน้ ละลำย ตั้งพกั ไวป้ ระมำณ 10 นำที เพ่อื ใหว้ ุ้นขนึ้ ตวั นำส่วนผสม
วุ้นใส่ภำชนะข้ึนตั้งไฟกลำง ใช้พำยไม้คนส่วนผสมให้ละลำย เทน้ำตำลทรำยขำว แป้งท้ำวยำยม่อม
ละลำยกับน้ำ และเกลือท่เี ตรียมไว้เทผสมลงไป คนส่วนผสมไปเร่อื ย ๆ จนเดือดสังเกตเนื้อวนุ้ ถ้ำใสเป็นใช้ได้
ลดไฟลงเติมสีและกล่ินสังเครำะห์ตำมต้องกำร นำส่วนผสมวุ้นท่ีได้ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้จนหมด รอให้วุ้น
เซ็ทตวั แขง็ แล้วแกะออกจำกพิมพ์ เรยี งใสถ่ ำด นำไปตำกแดดประมำณ 4 – 5 วนั จนวุน้ มเี กล็ดนำ้ ตำลตก
ผลึกและกรอบตำมตอ้ งกำร นำไปใสภ่ ำชนะทีม่ ฝี ำปิดสนิทเก็บไวร้ ับประทำนได้

สถำนทีด่ ำเนนิ งำน

โรงเรยี นเทศบำลวัดชอ่ งลม (เปย่ี มวทิ ยำคม) 817/9 ถนนสุทธิวำตวิถี ตำบลท่ำฉลอม อำเภอ
เมืองสมทุ รสำคร จงั หวัดสมทุ รสำคร

ระยะเวลำดำเนินงำน

วันที่ 20 พฤษภำคม – 30 มถิ ุนำยน 2565

บทที่ 2
เอกสารและงานวิจยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง

จากการศึกษาครั้งนี้ คณะผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษา ค้นคว้าข้อมูลที่เก่ยี วข้องเกี่ยวกบั การแปรรปู
ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ซ่ึงเป็นพืชจากสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เป่ียมวิทยาคม)
รวมไปถึงตามครัวเรอื นและในท้องถ่ิน เพอ่ื นามาแปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อยา่ ง
ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่านหาง
จระเขแ้ ละวนุ้ กรอบผสมวา่ นหางจระเข้ โครงงานนสี้ ามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั อกี ท้งั ยงั
สรา้ งรายได้ใหก้ ับตนเอง ครอบครวั และชมุ ชนท้งั ในปัจจุบนั และอนาคตได้

ว่านหางจระเข้

เป็นต้นพืชท่ีมีเนื้ออ่ิมอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลียม (Lilium)
แหล่งกาเนิดดั้งเดิมอยู่ในคาบสมุทรอาหรับ สายพันธุ์ของว่าน
หางจระเข้มีมากกว่า 300 สายพันธุ์ ซึ่งมีท้ังพันธุ์ท่ีมีขนาดใหญ่
มากจนไปถึงพันธ์ุท่ีมีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะ

พิเศษของว่านหางจระเข้กค็ อื มใี บแหลมคล้ายกับเข็ม เน้อื หนา
และเนือ้ ในมีน้าเมอื กเหนยี ว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะ
มสี ีแตกตา่ งกนั เช่น เหลอื ง ขาว และแดง เปน็ ต้น
คาว่า "อะโล" (Aloe) เป็นภาษากรีกโบราณ หมายถงึ วา่ นหางจระเข้ ซงึ่ แผลงมาจากคาวา่ "Allal"
มีความหมายว่า ฝาดหรือขมในภาษายิว ฉะน้ันเมื่อผู้คนได้ยินช่ือนี้ ก็จะทาให้นึกถึงว่านหางจระเข้ ว่านหาง
จระเข้เดิมเป็นพืชท่ีขึ้นในเขตร้อนต่อมาได้ถูกนาไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย โดยปลูกเพ่ือใช้ใน
การเกษตรและการแพทย์ รวมถงึ สาหรับการตกแตง่ และปลกู เป็นต้นไมก้ ระถาง
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์
ว่านหางจระเข้เป็นพืชชนิดหน่ึงที่พืชอวบน้าลาต้นสั้นหรือไม่มีลาต้นสูง 10- 100 ซม. (24–
39 น้ิว) กระจายพันธ์ุโดยตะเกียง ใบหนาอ้วนมีสีเขียวถึงเทา-เขียว บางสายพันธ์ุมีจุดสีขาวบนและลา่ ง
ของโคนใบ ขอบใบเป็นหยักและมีฟันเล็ก ๆ สีขาว ออกดอกในฤดูร้อนบนช่อเชิงลด สูงได้ถึง 90 ซม. (35 นิ้ว)
ดอกเป็นดอกห้อย วงกลีบดอกสีเหลืองรูปหลอด ยาว 2–3 ซม. (0.8–1.2 น้ิว) ว่านหางจระเข้กเ็ หมอื น
พืชชนิดอ่ืนในสกุลที่สร้างอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา (arbuscular mycorrhiza) ข้ึน ซึ่งเป็นสมชีพที่ทาให้พืช
ดดู ซึมสารอาหารและแร่ธาตใุ นดินไดด้ ขี ึ้น

5

สรรพคณุ ทางยา
วุ้นในใบว่านหางจระเข้มีสารเคมีอยู่หลายชนิด เช่น Aloe-emodin, Aloesin, Aloin, สารประเภท

Glycoprotein และอื่น ๆ ยางท่ีอยู่ในว่านหางจระเข้มีสาร Anthraquinone ทีมีฤทธิ์ขับถ่ายด้วย ใช้ทา
เป็นยาดา มีการศึกษาวิจัยรายงานว่า วุ้นหรือน้าเมอื กของว่านหางจระเข้รักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก
แผลเร้ือรัง และแผลในกระเพาะอาหารได้ดี เพราะในวุ้นใบว่านหางจระเข้นอกจากจะมีสรรพคุณรักษาแผล
ต่อต้านเชอื้ แบคทีเรยี แล้วยงั ชว่ ยสมานแผลได้อีกด้วย
การเพาะปลูก

ว่านหางจระเข้ปลูกง่าย โดยการใช้หน่ออ่อน ปลูกได้ดีในบริเวณทะเลที่เป็นดินทราย และมีปุ๋ย
อุดมสมบูรณ์ดี จะปลูกเอาไว้ในกระถางก็ได้ ในแปลงปลูกก็ได้ ปลูกห่างกันสัก 1-2 ศอก เป็นพืชท่ี
ต้องการน้ามาก แต่ต้องมีการระบายน้าดีพอ มิฉะนั้นจะทาให้รากเนา่ และตาย ว่านหางจระเข้ชอบแดด
ราไร ถ้าถูกแดดจัดใบจะเปน็ สนี ้าตาลแดง และอกี วิธสี ามารถนาเมลด็ ไปปลกู ในกระถางตน้ ไมไ้ ด้อกี ด้วย
การรกั ษาแผล

ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) ที่เรารู้จักกันดีว่ามีส่วนในการรักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก แผลสด
ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดรอ้ น มีสว่ นชว่ ยในแกร้ กั ษาแผลผา่ ตัดเชน่ กัน

ว่านหางจระเข้ มฤี ทธสิ์ มานแผลการท่ีแผลหายเรว็ ขนึ้ เน่อื งจากในวา่ นหางจระเข้มีสว่ นชว่ ยเร่ง
ให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเพอื่ ซ่อมแซมผิวให้ดีขึ้น หรือหากนาวา่ นหางจระเข้ไปสกดั เปน็ น้า เม่ือนาไปใชใ้ น
การรักษาแผลผา่ ตดั พบวา่ ช่วยให้แผลสมานเร็วข้ึน ป้องกนั การเกิดรอยแผลเปน็ หรอื หากใครท่ีรอยแผล
แล้วเมอ่ื ใช้จะช่วยขจดั รอยแผลเป็นทเ่ี กิดขนึ้ ทาใหแ้ ผลแลดูจางลง

นอกจากจะช่วยในเรอ่ื งของการสมานแผลแลว้ ว่านหางจระเข้ยังมีการนาไปใชป้ ระโยชน์เพื่อลด
การอกั เสบ เราจงึ เห็นผลติ ภณั ฑท์ นี่ าประโยชน์ของว่านหางจระเข้ไปเปน็ ส่วนผสมในรปู แบบต่าง ๆ ทัง้ ครมี ทา
รักษาโรคผิวหนงั และแผลอักเสบ ท่ีช่วยรักษาการอกั เสบของผิวหนงั และเนื้อเย่ืออ่อน หรือการทาเป็น
โลชัน่ โดยมสี ว่ นประกอบของว้นุ ว่านหางจระเข้ เป็นตน้

กลีเซอรนี

กลีเซอรอล (อังกฤษ: glycerol) หรือ กลีเซอรีน (glycerine, glycerin) เป็นสารประกอบ
อินทรีย์ที่มีสูตรเคมีคือ C3H8O3 ลักษณะเป็นของเหลวหนืดไม่
มีสี ไม่มีกล่ิน รสหวาน มีน้าหนักโมเลกุล 92.1 g/mol และ
ระดับความไวไฟ 1 ตาม NFPA 704 หรือต้องให้ความร้อนสูง
ก่อนจึงจะลุกติดไฟ กลีเซอรอลถูกสกัดคร้ังแรกในปี ค.ศ. 1783
โดยคาร์ล วิลเฮ็ล์ม เชเลอ นักเคมีชาวสวีเดน และตั้งชื่อโดยมี
แชล-เออแฌน เชฟเริล นกั เคมชี าวฝร่ังเศสในปี ค.ศ. 1811

6

กลเี ซอรอลเปน็ สารพอลิออลชนดิ นา้ ตาลแอลกอฮอล์ท่ีมอี ะตอมคารบ์ อนเปน็ แกนกลาง 3 อะตอม
และเปน็ โปรไครัล หรือสารที่โครงสร้างสามารถพัฒนาเปน็ ไครัลได้ การผลติ กลีเซอรอลมกั ได้จากไตรกลี
เซอไรด์จากพืชและสัตว์ ทาปฏิกิริยาซาปอนิฟิเคชัน (saponification) กับโซเดียมไฮดรอกไซด์ ได้สบู่
และกลเี ซอรอล นอกจากนย้ี งั สามารถสงั เคราะห์ได้จากโพรพีลีนท่ีทาปฏกิ ิริยาจนได้เอพิคลอโรไฮดรนิ และ
ถูกไฮโดรไลซ์จนได้กลีเซอรอลในร่างกายใช้กลีเซอรอลเป็นสารต้ังต้นในการสังเคราะห์ไตรกลีเซอไรด์
และฟอสโฟลิพิด เมื่อร่างกายใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน จะดึงกลีเซอรอลจากเนื้อเย่ือไขมันแล้ว
เปลย่ี นเปน็ กลูโคสผ่านกระบวนการสร้างกลูโคสกอ่ นจะเข้าสูก่ ระแสเลือด

กลีเซอรอลมีคุณสมบัติเป็นไฮโกรสโคปิก (hygroscopic) หรือสารท่ีสามารถดูดซึมหรือดูดซับ
ความช้ืนจากอากาศ จึงผสมเข้ากับน้าได้ นอกจากนี้ยังละลายในแอซีโทนได้เล็กน้อย แต่ไม่ละลายใน
คลอโรฟอร์ม

กลีเซอรอลเป็นสารที่มีพิษน้อย คือมีแอลดี 50 ในหนู (ทางปาก) อยู่ท่ี 12600 mg/kg กลีเซอรอลใช้
เป็นตัวทาละลาย วัตถุให้ความหวานทดแทนน้าตาล และวัตถุกันเสียในอาหาร โดยมีเลขอีคือ
E422 นอกจากนี้ยังมีฤทธ์ิต้านจุลชีพและไวรัส จึงใช้รักษาบาดแผลและเป็นยาระบาย รวมถึงเป็นสาร
หล่อลนื่ และสารกักเก็บความช่มุ ชืน้ ในเครอ่ื งสาอาง
ประโยชนแ์ ละสรรพคุณ

กลีเซอรนี เป็นสารทดี่ ูดซับความชืน้ ไดด้ ี ซงึ่ หมายความว่ามันดูดซับน้าจากอากาศได้อย่างชาญฉลาด
เพื่อชว่ ยเพิม่ ความชมุ่ ชนื่ ภายในเซลลผ์ ิวของเรา เมือ่ เป็นสว่ นผสมในผลิตภณั ฑบ์ ารุงผวิ จะช่วยให้ผิวออ่ นนมุ่
และเปล่งปล่ัง กลีเซอรีนนั้นพบได้ตามธรรมชาติในรา่ งกาย แต่เราเช่ือว่าการเติมกลีเซอรีนให้ผิวเพ่ิมข้นึ อกี
จะชว่ ยยกระดบั ความชุ่มช้นื ได้ดยี ิ่งขน้ึ น่ีจึงเป็นสว่ นผสมดาวเด่นที่ถกู ใชใ้ นผลติ ภณั ฑห์ ลายชนดิ ของเรา
สรรพคุณ

1. ช่วยเพิ่มระดบั ความช่มุ ช้นื ของผวิ
2. ช่วยรักษานา้ หลอ่ เลี้ยงในผวิ
3. ชว่ ยใหผ้ ิวนมุ่ และเปลง่ ปล่ัง

หัวเชื้อแชมพู

Texapon N70 หรือ หัวแชมพู N70 มีชื่อทางเคมีว่า Sodium
Lauryl ether Sulfateเป็นสารประเภท สารลดแรงตึงผวิ ประจุลบ มีคุณสมบัติ
ในการทาความสะอาดได้ดีทาให้เกิดฟองได้เร็ว Sodium Lauryl Ether
Sulfate(SLES) ถา้ เรยี กตาม INCI Name คือ Sodium laureth sulfate
ซง่ึ เป็นสารคนละตัวกับ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) โดยสังเกตง่ายๆ
ตรงที่มี E ซงึ่ หมายถงึ ผ่านการ Ethoxylation โดยนาสารต้งั ตน้ คือ SLS มาทาปฎิกิรยิ ากับ ethylene oxide

7

ภายใต้แรงดัน และความร้อนสงู + catalyst ผลท่ไี ด้คือ ได้ surfactant ทรี่ ะคายเคอื งน้อยกว่า SLS จึงเอามา
ใช้เปน็ ผลติ ภัณฑ์ทาความสะอาดรา่ งกายได้ดีกว่า

ส่วนประกอบของ Texapon N70 จะมี SLES เป็น active ingredient ประมาณ 70% (จึงเรียกว่า
N-70) ส่วนอีก 30 % ท่ีเหลือ ก็จะเป็นน้า กับ Impurities อื่นๆ เช่น Sodium Chloride (NaCl),
Sodium Sulfate (Na2SO4) เป็นตน้
การนาไปใช้

สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดผิวได้ เช่น แชมพู ครีมอาบน้า สบู่เหลว น้ายาล้างจาน
เป็นต้น โดยสารชนิดนี้จะไม่ละลายเมื่อใช้ความร้อน และจะเกิดการข้นข้ึนเม่ือผสมเข้ากับเกลือแกง
(Sodium Chloride)

ใยบวบ

ใยบวบ เปน็ เส้นใยธรรมชาติ เมอ่ื เปียกช่มุ นา้ จะมคี วามน่ิม
ใชข้ ัดผิว ขจัดสง่ิ สกปรกและเซลล์ผวิ หนังท่ีตายแลว้ ให้หลุดไป ทาจาก
ใยบวบ 100% โดยการนาลูกบวบแหง้ แชน่ า้ 30 นาที แกะเปลอื ก
และเมล็ดออก ต่อจากนั้นนาไปแช่สบู่ฟอกขาว ผ่ึงแดดให้แห้ง
นาไปเยบ็ ให้เป็นรูปทรงตามต้องการ มีผิวขรขุ ระ มคี วามแขง็ ในสภาพ
ปกติแต่จะมีความนุ่มเม่ือถูกน้า มีคุณสมบัติต้านทานมอด แมลง
และเช้ือรา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ทากระเป๋า รองเท้า
ผลติ ภัณฑ์ขดั ผิว เช่น ถงุ สบู่ใยบวบ ไม้ถหู ลังใยบวบ
ประโยชนข์ องใยบวบ
บวบเป็นพืชผักตระกูลแตง (CUCURBITACEAE) คนไทยนิยม เก็บ ผลอ่อนมารับประทานเป็นผัก
สว่ นบวบท่ีไม่ไดเ้ กบ็ จะปลอ่ ยจนแกแ่ หง้ เหลือแต่เส้นใยท่ีเรียกวา่ รังบวบ หรอื ใยบวบ และถกู นามาใช้ใน
การอาบน้า ขัดถูภาชนะโดยไมต่ ้องไปหาซอื้ ฟองน้าให้ส้ินเปลือง บวบที่สามารถปลูกได้ในประเทศไทยมี
หลายชนิด ได้แก่ บวบเหลี่ยม บวบงู บวบหอม "ใยบวบ" เป็น ท่ีเราเลือกนามาใช้ เป็นใยจากบวบหอม
หรือ Smooth loofah ซึ่งมคี ุณสมบัตคิ อื มีเสน้ ใยเหนียว ไม่ยุ่ยงา่ ย มีลักษณะสานกนั เป็นรา่ งแห การถตู วั
ด้วยเส้นใยธรรมชาติจากใยบวบจะช่วยให้ การไหลเวียนของโลหิตดีข้ึน และกระตุ้นผิวหนังให้สดช่ืน
เพราะเชลลผ์ ิวหนังท่ี ตายแลว้ ไดถ้ ูกกาจัดออกไป
การขดั ผวิ คอื การสครับหรือขัดผิว คือกระบวนการกาจัดเซลล์ผิวส่วนที่ตายแล้วหรือเส่ือมสภาพ
ทั้งช่วยขจัดสารพิษและของเสียอื่นๆท่ีตกค้างบนผิวออกไปด้วยวิธกี ารขัด เป็นการนาเอาเซลล์ผิวส่วนท่ี
ตายแลว้ ออกไป เพือ่ เผยเซลล์ผวิ ใหม่ข้ึนมาแทน ถา้ ไม่มกี ารกาจัดเซล์ลผวิ หนังที่ตายแล้วออกไปเสียบ้าง
ผิวก็จะเกิดการอุดตันและหายใจไม่ได้ ผลก็คือ ผิวจะหม่นหมอง ดูแล้วมีความมันหรือบางทีอาจทาให้เกิดอาการ
บางประการเช่น สิวอดุ ตัน รวมทั้งทาให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตใต้ผิวไมด่ ีเพยี งพอ ทาให้ของเสีย

8

และเซลไขมันส่วนเกินเกิดการสะสมตัวเกิดเป็นผิวเปลือกส้ม หรือ เซลลูไลท์ น่ันเอง หากต้องการขัดผิว
เพ่ือกาจดั เซลลไู ลท์ แนะนาใหข้ ดั ผิวบริเวณส่วนที่เป็นทุกวัน โดยใช้สบู่ใยบวบขัดผวิ บริเวณท่ีมปี ัญหาทุกคร้ัง
ทีอ่ าบนา้ เพื่อกระตุ้นการไหลเวยี นของเลือด เพ่ือกาจดั ของเสยี ออกทางระบบนา้ เหลือง

วิธีการขัดผิวท่ีถูกต้อง เริ่มต้นด้วยการเลือกสบู่สมุนไพรที่คุณช่ืนชอบ, ทาบริเวณท่ีต้องการขัด
ใหเ้ ปียก, ใชส้ บแู่ ละใยบวบ นวดบนบริเวณน้ันด้วยการวนมอื เป็นลกั ษณะวงกลมเบา ๆ เพื่อกระต้นุ ระบบ
ไหลเวียน จากนั้นใชน้ ้าล้างออกให้สะอาด ซับใหแ้ ห้ง แลว้ ทาครมี บารงุ ผิวตามปกติ

รงั ไหม

รังไหม คือ เส้นใยท่ีพ่นออกมาจากปากของตัวหนอนไหมทีโ่ ตเต็ม
วัย เพ่ือมาห่อหุ้มตัว ป้องกันศัตรูทางธรรมชาติในขณะท่ีหนอนไหมลอก
คราบจากหนอนไหมเป็นตัวดักแด้ และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หนอนไหม
เป็นแมลงชนิดหน่ึงที่มีการเจริญเติบโตจากไข่ไหม ในขณะท่ีเป็นตัวหนอน
ไหมจะเจริญเติบโตโดยการลอกคราบประมาณ 3 - 4 ครั้งในระยะเวลา
ประมาณ 20 - 22 วัน และจะมีน้าหนักตัวเพิ่มขึ้น 10,000 เท่า โดยการกิน
อาหารเพียงอย่างเดยี ว คอื ใบหมอ่ น และเมอ่ื เจริญเติบโตเตม็ ทีแ่ ล้วจะหยุดกนิ อาหาร แล้วพน่ เส้นใยออกมา
ห่อหมุ้ ตวั เอง ทเี่ รยี กว่ารังไหม

"ซิริซิน" Sirisin เป็นโปรตีนธรรมชาติท่ีได้จากเส้นไหมหรือรังไหมที่ช่วยป้องกันผิวแห้ง ลดการเติบโต
ของเชอ้ื จุลินทรยี ์บางชนิดและเปน็ สารต้านอนมุ ลู อิสระ อีกทง้ั กรดอะมิโน 18 ชนิดซง่ึ ละลายนา้ ไดด้ ีและมี
คุณสมบัติพิเศษสามารถกักเก็บน้าได้ดีจึงถูกนามาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะนิยมนามาใช้เป็นสารเพ่ิม
ความช่มุ ชืน้ ในผลติ ภณั ฑ์เครอ่ื งสาอาง สิง่ ทอ และทางการแพทย์ คณุ ประโยชนข์ องสารสกดั จากรังไหม
สรรพคณุ

1. ช่วยกาจัดเซลล์ผิวท่ีเส่ือมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยยับยั้งการ เส่ือมสภาพของ
เซลล์ผิวที่ไม่แข็งแรง ลดการเกิดเซลล์สีผิวที่ผิดปกติที่เป็นสาเหตุของรอยด่างดาบนใบหน้า ทาให้
ผวิ พรรณเนียนนุ่ม กระชบั เปล่งปลง่ั

2. มีกรดอะมิโน 16 - 18 ชนิดท่ีตรงกับ Natural Moisturizing Factor ท่ีพบตามธรรมชาติ
ในร่างกายมนุษย์ ซ่ึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารประกอบของคอลลาเจน จึงเป็นการให้ความชุ่มชื้น
ตามกลไกธรรมชาตโิ ดยการเติมกรดอะมิโนทีส่ ูญเสียไป

3. มสี ารชว่ ยดูดซับความชนื้ ในอากาศ สามารถซมึ เขา้ ไปในผวิ พรรณของเราได้ทนั ที
4. มีสารต่อต้านเช้อื จุลินทรยี ์ทที่ าใหเ้ กดิ โรคผวิ หนงั และชว่ ยลดการอกั เสบของผิวพรรณ
5. มีคุณสมบัติปกป้องตามธรรมชาติ เพิ่มความสามารถเก็บกกั ความชุ่มชื้นของผิวพรรณ ทาให้
ผิวพรรณดเู รียบเนยี นขึ้น ลดริ้วรอยและไม่เกดิ ความหยาบกร้าน

9

ผงวนุ้

ผงวุ้น (Agar-Agar powder) เป็นสารประกอบของน้าตาลหลายโมเลกุล 2 กลุ่ม
คือ เอกาโรสและเอกาโรเพกติน ซึ่งสกัดไดจ้ ากสาหรา่ ยทะเลให้วุ้น เป็นสาหรา่ ยสีแดง
ในดิวิชั่นโรโดไฟตา้ สาหร่ายวุ้น อย่ใู นกลมุ่ Red algae มหี ลายสีเกอื บทุกชนิดสามารถ
รับประทานได้ หรือนามาสกดั วุน้ จงึ รวมเรียกว่า สาหรา่ ยว้นุ มชี ื่อพนื้ เมอื งว่า สาหรา่ ยผมนาง
(Gracilaria fisheri) สาหร่ายวุ้น มแี พร่กระจายอยทู่ ว่ั โลก ทงั้ ในเขตรอ้ นและเขตอบอุ่น
ส่วนมากพบบริเวณน้าขึ้น-น้าลง และบริเวณท่ีอยู่ใต้น้าตลอดเวลา สาหรับในประเทศไทยจะพบแพร่กระจาย
อยู่ตามชายฝ่ังของอ่าวไทยและฝั่งมหาสมุทรอินเดีย สาหร่ายวุ้น มีประโยชน์และโทษในด้านต่าง ๆ
มากมาย

กระบวนการถนอมอาหาร

การถนอมอาหารน้ันมักจะเกี่ยวข้องกับการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อราและจุลินทรีย์
อื่นๆ และการหน่วงปฏิกิริยาระหว่างไขมันกับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเน่าเสีย
(rancidity) ของอาหาร การถนอมอาหารนี้อาจรวมถึงการรักษาอายุตามธรรมชาติและสีสนั ของอาหาร
ซ่งึ เกิดจากการปรุงอาหาร เชน่ การเปล่ียน เป็นสีน้าตาลของเนอ้ื แอปเปิ้ลเม่ือสัมผัสกับอากาศและการถนอม
อาหารบางประเภทจาเป็นต้องปิดผนึกอาหารหลังจากที่ผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพ่ือป้องกันการเกิดปัจจัย
ของการเนา่ เสีย ทาให้อาหารนนั้ สามารถเกบ็ ไวไ้ ด้นานมากกว่าปกติ

กระบวนการถนอมอาหาร อาจประกอบด้วย
1. การให้ความรอ้ นเพอ่ื กาจัดหรือทาจลุ ินทรีย์ใหเ้ สือ่ มสภาพ เช่น การตม้
2. การใช้สารเคมเี พ่ือให้เกิดปฏิกิรยิ ากบั ออกซเิ จน เช่น การใช้ซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์
3. การยับยั้งการเกิดสารพิษ เช่น การรมควัน การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ น้าส้มสายชู

แอลกอฮอล์ ฯลฯ
4. การขจัดน้าออกจากอาหาร เช่น การตากแห้ง
5. การยบั ยั้งการดดู ซึมสารอาหารของจุลินทรีย์ เช่น การเชื่อม การดอง
6. การเกบ็ รักษาอาหารในอณุ หภูมติ ่า เชน่ การแช่แขง็ การทาให้เยน็ ขน้ึ
7. กระบวนการถนอมอาหารหลายๆ ขอ้ รวมกัน

วธิ กี ารถนอมอาหารท่ีนามาใช้กันอย่างแพรห่ ลาย ในปจั จบุ นั มอี ยู่ด้วยกนั 6 วธิ ี คอื
1. การถนอมอาหารโดยการใช้ความร้อน
2. การถนอมอาหารโดยการใชค้ วามเย็น
3. การถนอมอาหารโดยการหมักดอง
4. การถนอมอาหารโดยการทาให้แห้ง

10

5. การถนอมอาหารโดยการใช้สารเคมี
6. การถนอมอาหารโดยการใช้รงั สี

การถนอมอาหารโดยการใช้ความร้อน
การถนอมอาหารโดยการใช้ความร้อน ไดแ้ ก่
1. การต้ม เป็นการทาให้อาหารสุกด้วยน้าเดือด วิธีต้ม คือ ต้มน้าให้เดือดก่อน แล้วค่อยใส่

อาหารลงในภาชนะ แต่อาหารบางชนิด เช่น เน้ือวัว ต้องใส่เน้ือในภาชนะ ใส่น้าก่อนต้มก็ได้รอจนอาหาร
สกุ แล้วยกลง ทง้ิ ไว้ใหอ้ นุ่ ก่อนตักมารับประทาน

2. การทอด (frying) หมายถงึ การทาอาหารให้สุกโดยใช้น้ามันพืชหรือไขมันสัตว์เป็นตัวกลาง
แลกเปลยี่ นความรอ้ น โดยปกตจิ ะใชอ้ ุณหภมู ิในชว่ ง 170-210 องศาเซลเซยี ส

ประเภทของการทอด
1. การทอดโดยใช้น้ามันน้อย (pan frying) เป็นการทอดโดยใช้น้ามันหรือไขมนั

ปรมิ าณเล็กน้อย เพียงเพือ่ ไม่ใหอ้ าหารตดิ ภาชนะทอด กระทะทใี่ ช้เปน็ กระทะกน้ ตนื้ ระหว่างการทอด
อาจมีการกลับด้านเพื่อให้อาหารสกุ ทัว่ ถงึ เพ่อื ใหเ้ กดิ กลนิ่ รสท่ตี ้องการ เช่น การทอดแฮมเบอเกอร์ ไขด่ าว
เบคอน เปน็ ตน้

2. การทอดโดยใช้น้ามันมากหรือน้ามันท่วม (deep fat frying) เป็นการทอดที่
ใช้น้ามันปริมาณมาก โดยอาหารจมอยู่ภาชนะที่บรรจุน้ามัน เกิดลักษณะผิวหน้าท่ีแห้งกรอบ เป็น
เปลือกสนี า้ ตาล

3. การน่งึ หมายถงึ (steaming) หรือ การอบไอนา้ เป็นกระบวนการทาอาหารให้สุกโดยการผ่าน
ความร้อนจากไอน้า จากการต้มน้าให้ถึงจุดเดือด การนึ่งเป็นกระบวนการทาอาหารท่ีเหมาะสมกับ
อาหารเกอื บทุกชนดิ ซงึ่ สามารถรกั ษาและคงความช้ืนไวใ้ นอาหารไดเ้ ปน็ อย่างดี

4. การถนอมอาหารโดยตากแห้งเป็นวิธีท่ีง่ายและประหยัดมากท่ีสุด ใช้ได้กับอาหาร
ประเภทเน้ือสัตว์ ผักและผลไม้ เป็นวิธีที่ทาให้อาหารหมดความช้ืนหรือมีความช้ืนอยู่เพียงเล็กน้อย เพ่ือ
ไมใ่ ห้จลุ นิ ทรีย์สามารถเกาะอาศัยและเจริญเตบิ โตได้ ทาใหอ้ าหารไม่เกิดการบูดเน่า โดยการนาน้าหรือ
ความช้นื ออกจากอาหารให้มากท่ีสดุ เช่น เน้ือเค็ม ปลาเคม็ กลว้ ยตาก เป็นตน้

5. การเค่ียว หมายถึง ตม้ ใหเ้ ดือดนาน ๆ เพ่ือใหง้ วดให้เป่อื ย
6. การตุ๋น (ฝร่ังเศส: Braiser; อังกฤษ: Braising) เป็นการผสมผสานรูปแบบการทาอาหาร
โดยใช้ทั้งความชื้นและความร้อน โดยทั่วไปแล้ว อาหารจะถูกให้ความร้อนท่ีอุณหภูมิสูง และนาไปไว้ใน
หมอ้ มีฝาปิดที่มีของเหลวปรมิ าณไมค่ งที่ ทาใหเ้ กิดรสชาติพเิ ศษขึ้นมา
ในปัจจุบันถ้าหากไม่มีการถนอมอาหารประชากรของประเทศไทยและพลโลกจะต้องประสบ
ปัญหาการขาดแคลนอาหาร ในทางตรงกันข้ามบางพ้ืนท่ีอาจจะประสบปัญหากับผลผลิตล้นตลาดใน
ฤดูกาลการผลิต ราคาผลผลิตตกต่า ผลผลิตเกิดการเน่าเสีย การบริโภคอาหาร ในชีวิตประจาวันไม่ได้รับความ
สะดวก ประชาชนจานวนมากในบางภาคของประเทศท่ีอยู่ห่างไกลจากทะเล อาจประสบปัญหาโรคคอ

11

พอกทเ่ี กดิ จาการขาดไอโอดีน ปัจจุบนั เทคโนโลยที างด้านการถนอมอาหารเจริญขน้ึ จงึ ทาใหป้ ัญหาตา่ ง
ๆ ดังได้กลา่ วมาแลว้ ลดลงอยา่ งมาก
ประโยชน์ของการถนอมอาหาร มีดงั นี้

1. ทาให้มอี าหารบริโภคตลอดปี และมอี าหารนอกฤดูกาลไว้รับประทาน
2. ชว่ ยรักษาคุณคา่ และคณุ ภาพของอาหารให้คงทนอยูไ่ ดน้ าน
3. ชว่ ยประหยัดรายจ่ายค่าอาหาร เพราะสามารถเก็บรักษาอาหารไว้ได้
4. ทาใหม้ อี าหารลักษณะแปลก ๆ มีกลน่ิ สี รสชาตติ ่าง ๆ รับประทาน เช่น มะขามแก้ว มะขามแช่อิ่ม
5. ชว่ ยเหลือเศรษฐกิจของเกษตรมิให้เกิดภาวะสนิ ค้าล้นตลาด และช่วยเหลือในครอบครัว โดยทา
เปน็ อาชพี เสรมิ
6. ส่งเสริมการผลิตในครอบครัว ให้ช่วยประหยัดรายจ่ายค่าอาหาร และเพิ่มรายได้ให้กับ
ครอบครัวอีกด้วย
7. ทาให้อาหารมีนา้ หนักเบา สะดวกในการเกบ็ สง่ ไปขายหรือส่งใหผ้ ้อู ่ืนท่ีอยูห่ ่างไกล
8. ชว่ ยยืดอายกุ ารเก็บรักษาอาหารไว้ไดน้ าน เชน่ อาหารกระป๋อง อาหารแหง้ อาหาร ฉายรงั สี
อาหารแช่เยอื กแข็ง
9. ใช้อาหารเหลือให้เกิดประโยชน์ กระบวนการแปรรูปมีวัตถุดิบเหลือท้ิง แต่ปัจจุบันมีการนา
อาหารเหลือมาแปรรปู
10. ช่วยเพม่ิ มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรลดปัญหาผลผลติ ล้นตลาด
การแปรรปู อาหาร
(อังกฤษ : Food Processing) เป็นขั้นตอนและวิธีการในการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบให้เป็นอาหาร
สาหรบั บรโิ ภค ตวั อยา่ งของการแปรรูปอาหาร เช่น

- สบั ละเอียดแลว้ ทาให้เป่อื ยยุ่ย
- คัน้ เอาของเหลว อย่างเช่นการทาน้าผลไม้
- ผสมใหเ้ ปน็ เนือ้ เดียวกนั
- ปรงุ ให้สุกดว้ ยการต้ม ทอด นง่ึ ย่างหรอื แกงเป็นต้น
ประโยชนข์ องการแปรรปู อาหาร
ประโยชน์ที่ได้จากการแปรรูปอาหารมีทั้งการได้ทาลายสารท่ีเป็นพิษในอาหาร ช่วยถนอม
อาหาร ทาให้มีกล่ิน และรสชาติดีข้ึน สามารถจาหน่ายได้สะดวกขึ้น และเพ่ิมความเข้มข้นของอาหาร
การแปรรปู อาหารในสมยั ใหม่ยังชว่ ยพัฒนาคุณภาพชวี ิตของผู้ท่ีเปน็ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวานและผู้ที่ไม่
สามารถบริโภคอาหารไดอ้ ยา่ งปกติ และสามารถเตมิ สารอาหารท่ีเป็นประโยชนไ์ ดอ้ ีกด้วย

12

ผลเสียของการแปรรูปอาหาร
การแปรรูปอาหารมักจะทาให้คุณค่าทางโภชนาการลดลง และบางครง้ั อาจจะมีสารเคมีท่ีเป็นพิษ

ปะปนเข้าไปกบั อาหาร ในระหว่างการแปรรปู อย่างเช่นสารประกอบประเภทไนไตรท์หรืออะโรมาติก
ไฮโดรคาร์บอน ซ่งึ สารหลายชนิดที่ใช้เจอื ปนในอาหารก็พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพ ขณะทก่ี ารแปรรูปบางวิธี
กท็ าใหอ้ าหารมกี ลิ่นและรสชาตินา่ รบั ประทานน้อยลง

การตากแหง้ อาหาร

การตากแห้งอาหาร เป็นอีกหนึ่งวธิ ี ในการถนอมอาหาร ที่ง่ายดายและ ยังประหยัดค่าใช้จา่ ย
โดยใช้แดดที่มีอยู่ทกุ ๆ วนั ไมม่ วี นั หมด ตากในชว่ งเชา้ เมอ่ื มีแดดออก ไปจนถึงชว่ งบ่ายแก่ ๆ ก็เกบ็ ใส่
ภาชนะ อยา่ ใหถ้ งึ ค่า เพราะสงิ่ ท่ีตากไว้ จะกลับมาดูดความชืน้ กลบั กลายเปน็ ไม่แห้ง แถมยงั อาจขน้ึ ราได้

โดยหลักการคือ การไล่ความช้ืน หรือน้าออกจาก อาหารที่เราต้องการ จะเก็บรักษา เพ่ือยืด
อายุอาหารนนั้ ใหเ้ ก็บไว้รับประทาน ได้นาน ๆ หรอื หลงั จากตากแหง้ แลว้ ก็เก็บใส่ตู้เย็น กจ็ ะเกบ็ ไดน้ านขึน้

อาหารทีค่ นไทย นิยมนามาตากแห้ง ก็มหี ลากหลายชนิด อาจจะด้วยอาหารบางอย่าง มีเฉพาะ
ช่วงฤดูกาลเดียว เวลาออกทีก็เยอะเสียจน กินกันไม่หมด เลยต้องคิดหาวิธี การถนอมอาหาร เพื่อให้เก็บ
รักษา ไวท้ านได้นาน ๆ

ไม่ว่าจะเป็น ปลาตากแห้ง ตามบ้านนอกเวลา ช่วงฤดูน้าหลาก ชาวบ้านมักจะจับปลาได้
ค่อนข้างเยอะ ส่วนหน่ึงก็นามาปรุง เป็นอาหารกินทุกวัน แต่ถ้าเยอะเสียจน กินไม่ทันแล้วล่ะก็ บ้างก็
นามาทา ปลาร้าบ้าง ตากแหง้ บา้ ง

จาพวกเนื้อหมู ก็นิยมนามาซอย เป็นชิ้นพอดีคา แล้วตากแต่ไม่ถึงกับแห้ง แค่พอหมาด ๆ
เรยี กว่าเนอ้ื /หมูแดดเดยี ว เปน็ เมนูรา้ นลาบ ยอดนยิ มเลยทเี ดียว

ส่วนผกั ผลไม้ ก็ทาได้เช่นกัน อยา่ งเชน่ ผลไมต้ ามฤดกู าลตา่ ง ๆ มกั นามาตากแหง้ แล้วเกบ็ ใสข่ วดโหล
ใส่ซองกนั ช้ืนซักหน่อย กเ็ กบ็ ไวก้ นิ เปน็ อาหารวา่ งอร่อย ๆ ไดส้ บาย

บทที่ 3
วิธีดำเนนิ กำรทดลอง

จากการศกึ ษา ค้นควา้ คณะผูจ้ ดั ทาโครงงานมแี นวคิดและสนใจท่ีจะศึกษาข้อมูลท่ีเกีย่ วข้องกับ
การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ซ่ึงเป็นพืชจากสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม
(เปยี่ มวิทยาคม) รวมไปถึงตามครัวเรอื นและในท้องถิ่น เพื่อนามาแปรรปู เปน็ ผลิตภัณฑ์จากวา่ นหางจระเข้
ท้ัง 4 อย่าง ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม)
แชมพูผสมว่านหางจระเข้และวุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้ของกลุ่มตัวอย่าง เพื่อที่จะศึกษา ค้นคว้า
และเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลที่เก่ียวข้องในการจัดทาโครงงานเร่ือง สวนเกษตรพอเพยี งสร้างรายได้ โดยการลงมือ
ทาและนาผลติ ภณั ฑ์จากวา่ นหางจระเข้ทงั้ 4 อย่างมาใช้ ดงั น้ี เจลว่ำนหำงจระเข้ ทามาจากการนาเน้ือ
ว่านหางจระเข้มาป่ันให้ละเอยี ด เทใส่ตะแกรงกรองเอาเฉพาะส่วนเมือกมาใช้ หากต้องการสีและกล่ิน
ใหน้ าสีและกล่นิ สงั เคราะห์มาผสมกวนให้เข้ากัน เม่อื ได้เนือ้ เจลแล้ว สามารถนามาทาผิวหน้า ผวิ กาย
โดยไม่ต้องล้างออกและใช้กับแผ่นมาสก์หนา้ เพ่ือมาสก์หนา้ ก่อนนอนหรอื ตามต้องการ มีสรรพคุณทาให้
ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น ลดความมันบนใบหน้า และรอยแผลเป็นดูจางลงได้ สบู่สครับผสมว่ำนหำง
จระเข้ (สตู รใยบวบและสตู รรงั ไหม) ให้นาเอาเนอ้ื ว่านหางจระเข้ไปปนั่ ให้ละเอยี ด จากนัน้ นาเบสสบู่
กลีเซอรีนมาตุ๋นให้ละลาย เทว่านหางจระเข้ท่ีปั่นละเอียดลงไปใช้พายไม้กวนผสมให้เข้ากัน เติมกลิ่น
และสีสังเคราะห์ตามต้องการ จากน้ันจัดเตรยี มพิมพส์ บู่ ตักส่วนผสมของสบู่ท่ีตุ๋นเสรจ็ เทลงพิมพ์ จะได้
สบู่สครบั ผสมว่านหางจระเข้ เพื่อนาไปใชฟ้ อกตัว ฟอกผวิ ขดั ถทู าความสะอาดผวิ หน้าและผิวกายได้
หากต้องการเพ่ิมความแปลกใหม่สามารถนารังไหมหรือใยบวบมาวางลงพิมพ์สบู่ มีสรรพคุณบารุง
ผิวหน้าและผิวกาย ให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น ผิวพรรณผ่องใส รังไหมมีสรรพคุณช่วยกาจัดเซลล์ผิวท่ี
เส่ือมสภาพ ป้องกันผิวแห้ง ลดการอักเสบของผิวพรรณ และใยบวบมีสรรพคุณเร่งกระบวนการผลดั
เซลล์ผวิ เกา่ คืนความขาว กระจ่างใสให้กับสีผิว เปน็ ต้น แชมพผู สมว่ำนหำงจระเข้ ทามาจากการนา
เนื้อว่านหางจระเข้มาปั่นให้ละเอียดกรองเอาส่วนเมือกเทผสมกับหัวเชื้อแชมพู ผงข้น ผงฟอง กลีเซอรีนเหลว
กล่ินและสีสงั เคราะห์ตามชอบกวนสว่ นผสมให้เข้ากนั จากน้ันตง้ั ท้ิงไวร้ อให้ฟองยบุ จึงจะสามารถนามาใช้
ในการสระทาความสะอาดหนังศีรษะ เส้นผมมสี รรพคณุ ชว่ ยปรับสภาพเส้นผม ทาให้ผมมนี า้ หนัก น่มุ
ลื่น อีกท้ังยังช่วยเพ่ิมความชุ่มชื้นให้เสันผมและหนงั ศีรษะได้ และวุ้นกรอบผสมว่ำนหำงจระเข้ โดยการนา
เน้ือว่านหางจระเข้มาป่นั ให้ละเอียดพักไว้จัดเตรียมนา้ เปล่า จากน้ันเทผงวุ้นลงผสมคนจนผงวุ้นละลาย
ตงั้ พักไวป้ ระมาณ 10 นาที เพ่ือให้วุ้นขึน้ ตวั นาสว่ นผสมวุ้นใสภ่ าชนะข้ึนต้ังไฟกลาง ใชพ้ ายไมก้ วนส่วนผสม
ใหล้ ะลาย เทนา้ ตาลทรายขาว แปง้ ทา้ วยายม่อมละลายกับน้าและเกลือท่ีเตรียมไว้เทผสมลงไป คนส่วนผสม
ไปเรอ่ื ย ๆ จนเดอื ดสังเกตเนอ้ื วนุ้ ถ้าใสเป็นใช้ได้ ลดไฟลงเติมสีและกลน่ิ สังเคราะห์ตามต้องการ นาส่วนผสม
วุ้นที่ได้ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้จนหมด รอให้วุ้นเซ็ทตัวแข็งแล้วแกะออกจากพิมพ์ เรียงใส่ถาด นาไปตากแดด
ประมาณ 4 – 5 วันจนวุ้นมีเกล็ดน้าตาลตกผลึกและกรอบตามต้องการ นาไปใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

14

เก็บไว้รับประทานได้ ดังนั้นจึงเปน็ การเพ่ิมความแปลกใหม่และยงั มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการและทาง
สมุนไพร อีกท้ังยังทาให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้พืชผักท่ีมีอยู่ในโรงเรียน ท้องถิ่นและครัวเรือนให้เกิด
ประโยชนเ์ ป็นอาชพี เสริมเพมิ่ รายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้ โดยมวี สั ดอุ ุปกรณใ์ นการจัดทา
โครงงาน ดังนี้

เครือ่ งมือที่ใชใ้ นกำรศึกษำ
เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้ และเกบ็ รวบรวมครัง้ น้ี ไดแ้ ก่
1. ขอ้ มูลจากสือ่ ออนไลน์
2. ข้อมูลจากบุคคลในท้องถ่นิ จังหวัดสมุทรสาคร
3. เคร่อื งคอมพิวเตอร์
4. กลอ้ งถ่ายรปู
5. เอกสารและแผ่นพับต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ท้ัง 4 อย่าง

ของกลุม่ ตวั อยา่ ง

กำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในการศึกษาครัง้ นี้ได้ดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลตามข้ันตอน ดงั น้ี
1. คณะผู้จดั ทาได้นาเสนอชื่อโครงงานแก่ครูทีป่ รึกษาโครงงานเพ่ือวางแผนการทาโครงงานกลุ่มสาระ

การเรยี นรู้การงานอาชพี
2. คณะผ้จู ดั ทาได้ทาการศึกษาขอ้ มลู จากสื่อออนไลน์
3. คณะผ้จู ดั ทาไดท้ าการศกึ ษาขอ้ มลู จากบุคคลในชมุ ชนท้องถ่นิ จงั หวดั สมทุ รสาคร
4. คณะผู้จัดทาสรุปสาระสาคัญจากการรวบรวมข้อมูลของการทาและจัดทาเป็นหนังสือ ส่ือเก่ียวกับ

การแปรรูปผลติ ภัณฑ์จากวา่ นหางจระเข้ท้ัง 4 อยา่ งของกลมุ่ ตวั อย่าง

กำรนำเสนอข้อมูล
ข้อมูลท่ีได้จากการศึกษาคร้ังนี้ คณะผู้จัดทาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้า โดยจัดทา

เป็นรูปเล่มโครงงาน เอกสาร แผ่นพับ สื่อและหนังสือเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้
โดยแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์จากวา่ นหางจระเขท้ ั้ง 4 อยา่ ง ได้แก่ เจลวา่ นหางจระเข้ สบู่สครบั ผสมวา่ นหางจระเข้
(สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่านหางจระเข้และวุ้นกรอบผสมวา่ นหางจระเข้มรี ายละเอยี ด
ดงั นี้

15

เจลวำ่ นหำงจระเข้

วัสดอุ ุปกรณ์
1. กะละมงั (สาหรบั ใสส่ ่วนผสม)
2. มดี
3. เขยี ง
4. กระชอน (สาหรับกรองเมอื กว่านหางจระเข้)
5. เครื่องป่นั ไฟฟา้
6. ตาชงั่
7. พายไม้
8. บรรจุภณั ฑ์หรอื ภาชนะทีม่ ฝี าปดิ สนทิ

วตั ถดุ บิ สำหรบั ทำเจลวำ่ นหำงจระเข้

1. วา่ นหางจระเขส้ ด ปรมิ าณ 500 กรัม

2. คาร์โบเมอร์ 2 % (สร้างเน้อื เจล) ปริมาณ 120 กรมั

3. ไตรเอทาโนลามนี TEA (ปรับคา่ pH) ปริมาณ 3 กรัม

4. นา้ หอมกลิ่น Aloe Vera ปรมิ าณ 3 กรัม

5. สารแตง่ สี (สเี ขยี ว) ปริมาณ 3 กรมั

6. บรรจภุ ัณฑ์ (หลอดขนาด 30 มล.) จานวน 24 หลอด

วธิ ที ำ

1. นาว่านหางจระเข้สดท่ีเตรียมไว้มาปอกเปลือกเอาเฉพาะส่วนเน้ือแล้วนาไปล้างน้าเปล่าท่ี

ผสมเกลือในกะละมังที่เตรียมไว้ ประมาณ 4 – 5 นา้

2. นาเน้ือว่านหางจระเข้ทไี่ ดไ้ ปปนั่ ด้วยเครือ่ งป่ันไฟฟ้าใหล้ ะเอียด

3. จากน้ันนาภาชนะมารองกระชอน เทเนื้อว่านหางท่ีปั่นละเอยี ดใสล่ งในกระชอน ใช้ช้อน

คนให้เมือกของเน้อื วา่ นหางจระเขห้ ยดลงในภาชนะรองจนเมอื กหมด

4. นาสารแต่งสี (สีเขียว) เทผสมลงในเมือกว่านหางจระเข้ที่ได้ ใช้พายไม้กวนให้สีละลาย

ทวั่ กนั

5. จากน้นั เตมิ คาร์โบเมอร์ 2 % ลงไป แลว้ ค่อย ๆ กวนผสมชา้ ๆ จนละลายเข้ากนั

6. นาน้าหอมกล่ิน Aloe Vera มาเติมลงไป กวนผสมให้เข้ากัน และหยด TEA ลงไป

พรอ้ มกบั ค่อย ๆ กวนชา้ ๆ จนได้เป็นเนื้อเจลใส นามาบรรจลุ งภาชนะทเี่ ตรียมไว้ตามตอ้ งการ

16

ตำรำงท่ี 1 คุณประโยชน/์ สรรพคุณของเจลวำ่ นหำงจระเข้

ท่ี รำยกำร คณุ ประโยชน์/สรรพคุณ

1 ว่านหางจระเขส้ ด - ทาใหผ้ วิ นนุ่ ชมุ่ ชน้ื ไม่หยาบกร้าน

- รกั ษาอาการผิวไหมแ้ สบรอ้ นจากแสงแดด และใชท้ ารักษาฝ้าบนใบหน้า

- ช่วยลดการเกดิ รอยจากสิว และลดการอักเสบของผิว

- สรา้ งภูมิคมุ้ กนั ตา้ นอนมุ ูลอิสระ ดีท็อกและชะลอความแกข่ องเซลล์

ตา่ ง ๆ

2 คารโ์ บเมอร์ ๒% - เป็นสารเพมิ่ ความเขม้ ขน้ และความหนืดที่ดี

3 ไตรเอทาโนลามีน TEA - ดา่ งเหลว นิยมใชป้ รับคา่ pH ในสูตรเครือ่ งสาอาง

(ปรับค่า pH) - ทาใหค้ ่า pH เหมาะสมในการพองตวั

4 นา้ หอมกลิน่ Aloe Vera - ใหค้ วามหอมสดชนื่

5 สารแตง่ สี (สีเขยี ว) - ให้สสี นั กบั ผลติ ภัณฑ์

ตำรำงที่ ๒ แสดงกำรคำนวณต้นทุนของเจลวำ่ นหำงจระเข้

ท่ี รำยกำรวตั ถุดบิ รำคำวตั ถุดิบ (บำท)/ ปรมิ ำณทใี่ ช้ รำคำ/หน่วย ต้นทุน
หน่วย วตั ถดุ บิ
--
1 ว่านหางจระเข้สด - - 1,000 กรัม 2.00 1 กรมั -
1.00 1 กรมั 144.00
2 คาร์โบเมอร์ 240 200 กรมั 120 กรัม 13.33 1 กรมั
1.00 1 กรัม 300
3 ไตรเอทาโนลามีน TEA 30 30 กรมั 3 กรัม 0.30 1 กรมั 7.80
0.75
4 นา้ หอมกล่ิน Aloe Vera 40 15 กรมั 3 กรัม 118.00
273.55
5 สารแตง่ สี 3 12 กรัม 3 กรมั 720
24
6 ภาชนะ/บรรจุภัณฑ์ 118 720 กรัม 720 กรัม 25
600
ตน้ ทนุ วตั ถดุ บิ รวม (บำท) 326.45

ปรมิ ำณท่ไี ด้ (กรมั )

ปริมำณที่ได้เมอ่ื ใส่บรรจุภณั ฑ์ (หลอด)

รำคำขำย (บำท)/หลอด

ขำยได้เงินสทุ ธิ (บำท)

กำไรจำกกำรขำย (บำท)

17

สบสู่ ครบั ผสมว่ำนหำงจระเข้ (สูตรผสมใยบวบและสตู รผสมรงั ไหม)

วสั ดุอุปกรณ์
1. เตาไฟฟา้ (สาหรบั ใช้ทาความรอ้ นใหภ้ าชนะกวนส่วนผสมสบู่)
2. หมอ้ หรือกระทะ (สาหรบั ใส่สว่ นผสมสบ)ู่
3. พายไม้
4. ตาชงั่
5. ถว้ ยตวง
6. กระชอน (สาหรบั กรองเมือกวา่ นหางจระเข้)
7. เคร่อื งป่นั ไฟฟ้า
8. พิมพ์สบู่ (ขนาด 50 กรัม)
9. บรรจภุ ัณฑ์ (สาหรับใส่สบู่)
วตั ถุดิบสำหรับทำแปง้ พันกล้วย

1. วา่ นหางจระเขส้ ด ปรมิ าณ 1,000 กรมั
2. เบสสบู่กลีเซอรนี ปริมาณ 180 กรมั
3. ผงฟอง ปริมาณ 180 กรมั
4. น้าหอมกล่นิ Aloe Vera ปรมิ าณ 3 กรมั
5. สารแต่งสี (สีเขียว) ปริมาณ 3 กรัม
6. รังไหม ปรมิ าณ 20 กรมั
7. ใยบวบ ปรมิ าณ 20 กรมั

วิธที ำ
1. นาว่านหางจระเข้สดที่เตรียมไว้มาปอกเปลือกเอาเฉพาะส่วนเนื้อแล้วนาไปล้างน้าเปล่าท่ี

ผสมเกลือในกะละมงั ท่ีเตรียมไว้ ประมาณ 4 – 5 น้า
2. นาเนอื้ วา่ นหางจระเข้ทไ่ี ด้ไปปั่นดว้ ยเครือ่ งป่นั ไฟฟา้ ให้ละเอยี ด
3. นาภาชนะมาวางรองกระชอน เทเน้ือว่านหางท่ีป่ันละเอียดใส่ลงในกระชอน ใช้ช้อนคนให้

เมือกของเนือ้ วา่ นหางจระเข้หยดลงในภาชนะท่ีวางรองจนเมือกหมด
4. นาสารแต่งสี (สีเขียว) เทผสมลงในเมือกว่านหางจระเข้ท่ีได้ ใช้พายไม้กวนให้สีละลายทั่วกัน

และเทผงฟองผสมกวนจนละลายใหเ้ ขา้ กันอีกครง้ั ต้ังพักไว้
5. นาภาชนะใสน่ า้ ข้ึนตง้ั ไฟ และนาภาชนะอีกใบทเ่ี ลก็ กวา่ วางบนน้า เทเบสสบ่กู ลีเซอรีนก้อน

ลงไป แลว้ ใช้วิธีการตุน๋ เบสสบู่กลีเซอรีนกอ้ นใหล้ ะลายจนหมด

18

6. เทเมือกว่านหางจระเข้ผสมลงในเบสสบกู่ ลีเซอรีน กวนให้เขา้ กัน พยายามอย่าใหเ้ ดือด
เพราะสบู่จะเกดิ ฟองเวลาเทลงพิมพ์

7. จากนน้ั เบาไฟ นานา้ หอมกล่ิน Aloe Vera เตมิ ลงไป กวนผสมให้เข้ากนั และใส่สารแต่งสี
(สเี ขยี ว) ลงไปพร้อมกับค่อย ๆ กวนจนได้เน้อื สบู่ใส

8. นาส่วนผสมสบู่ท่ีได้เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้จนหมด สามารถนาใยบวบหรือรังไหมวางใน
พมิ พส์ บู่ เพ่ือเพิ่มมูลค่าหรอื ความแปลกใหม่ให้สบู่ จากนนั้ จึงเทสว่ นผสมสบู่ลงไปทิง้ ไวใ้ ห้สบู่เซ็ทตวั เป็นก้อน
นาออกจากพิมพใ์ ส่บรรจุภณั ฑท์ ่ีมีฝาปิดหรือถุงซีลเก็บไวใ้ ช้ตามต้องการ

ตำรำงท่ี 3 ประโยชน/์ สรรพคณุ ของสบ่สู ครับผสมวำ่ นหำงจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม)

ท่ี รำยกำร คณุ ประโยชน์/สรรพคณุ

1 ว่านหางจระเข้สด - ทาให้ผวิ นนุ่ ชุ่มช้นื ไม่หยาบกรา้ น

- รักษาอาการผวิ ไหมแ้ สบร้อนจากแสงแดด และใชท้ ารกั ษาฝ้าบนใบหนา้

- ช่วยลดการเกดิ รอยจากสิว และลดการอกั เสบของผวิ

- สรา้ งภมู คิ ุ้มกัน ต้านอนมุ ูลอสิ ระ ดีทอ็ กและชะลอความแกข่ องเซลล์

ต่าง ๆ

2 เบสสบู่กลีเซอรีน - ช่วยเพ่มิ ระดบั ความชุ่มชน้ื ของผิว

- ชว่ ยรกั ษาน้าหล่อเลีย้ งในผวิ

- ช่วยให้ผิวน่มุ และเปล่งปลง่ั

3 ผงฟอง - เป็นสารสังเคราะห์ขน้ึ มา เป็นแรงตงึ ผิวของนา้ ทาใหเ้ กดิ ฟอง

- ช่วยใหส้ ิ่งสกปรก คราบไขมนั หลดุ ออกไปไดง้ า่ ยข้ึน

4 น้าหอมกลิ่น Aloe Vera - ใหค้ วามหอมสดชนื่

5 สารแตง่ สี (สเี ขยี ว) - เพมิ่ สีสนั ให้กบั ผลิตภณั ฑ์

6 ใยบวบ - เร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผวิ เก่า

- คืนความขาวกระจ่างใสให้กบั สีผิว

- ผวิ นมุ่ ล่นื

7 รงั ไหม - มี “ซิริซิน" เป็นโปรตีนธรรมชาติท่ีได้จากเส้นไหมหรือรังไหมท่ีช่วย

ป้องกันผวิ แห้ง

- ลดการเตบิ โตของเชอื้ จลุ ินทรียบ์ างชนิดและเปน็ สารตา้ นอนมุ ูลอิสระ

- มีสารช่วยดูดซับความชื้นในอากาศ สามารถซึมเข้าไปในผิวพรรณของ

เราไดท้ ันที

- ชว่ ยลดการอักเสบของผิวพรรณ

19

ตำรำงที่ 4 แสดงกำรคำนวณต้นทุนของวตั ถุดิบในกำรทำสบู่สครับผสมวำ่ นหำงจระเข้

(สูตรใยบวบและสตู รรังไหม)

ท่ี รำยกำรวัตถดุ ิบ รำคำวตั ถุดิบ (บำท)/ ปรมิ ำณท่ใี ช้ รำคำ/หน่วย ต้นทุน
หนว่ ย วัตถุดบิ

1 ว่านหางจระเข้สด - - 500 กรัม - - -
125.00
2 เบสสบกู่ ลีเซอรีน 125 1,000 กรมั 1,000 กรัม 0.125 1 กรัม
1.50
3 ผงฟอง 30 60 กรัม 3 กรัม 10.00 1 กรมั 8.01
0.75
4 น้าหอมกลน่ิ Aloe Vera 40 15 กรมั 3 กรัม 13.33 1 กรัม 20.00
10.00
5 สารแตง่ สี 3 12 กรมั 3 กรัม 1.00 1 กรมั 4.17
169.43
6 ใยบวบ 40 20 กรัม 10 กรัม 4.00 1 กรัม 1,500

7 รงั ไหม 40 20 กรมั 5 กรมั 0.30 1 กรัม 30
20
8 ภาชนะ/บรรจภุ ณั ฑ์ 25 30 กรัม 5 กรัม 5.00 1 กรมั 600
430.57
ตน้ ทนุ วตั ถดุ บิ รวม (บำท)

ปริมำณท่ไี ด้ (กรมั )

ปริมำณทไี่ ดเ้ ม่ือใสบ่ รรจภุ ณั ฑ์ (กอ้ น)

รำคำขำย (บำท)/กอ้ น

ขำยได้เงนิ สุทธิ (บำท)

กำไรจำกกำรขำย (บำท)

20

แชมพผู สมว่ำนหำงจระเข้

วสั ดอุ ปุ กรณ์

1. ภาชนะสาหรบั กวนสว่ นผสมแชมพู

2. พายไม้

3. ตาชงั่

4. ถว้ ยตวง

๕. กระชอน (สาหรบั กรองเมอื กว่านหางจระเข)้

๖. เครอ่ื งปน่ั ไฟฟา้

7. บรรจุภณั ฑ์ (สาหรบั ใสแ่ ชมพ)ู

วตั ถุดิบสำหรับทำแชมพผู สมวำ่ นหำงจระเข้

1. ว่านหางจระเข้สด ปริมาณ 1,000 กรัม

2. หัวเช้อื แชมพู ปรมิ าณ 1,000 กรมั

3. ผงปรับขน้ ปริมาณ 150 กรัม

4. กลเี ซอรีนเหลว ปรมิ าณ 60 กรัม

5. ผงฟอง ปรมิ าณ 100 กรัม

6. นา้ หอมกลน่ิ กหุ ลาบ ปริมาณ 20 กรมั

7. สารแตง่ สี (สีเขยี ว) ปรมิ าณ 20 กรมั

8. น้าสะอาด ปรมิ าณ 3,500 กรมั

วธิ ีทำ

1. นาว่านหางจระเข้สดท่ีเตรียมไว้มาปอกเปลือกเอาเฉพาะส่วนเน้ือแล้วนาไปล้างน้าเปล่าท่ี

ผสมเกลอื ในกะละมังทเ่ี ตรียมไว้ ประมาณ 4 – 5 ครั้ง

2. นาเน้อื ว่านหางจระเขท้ ่ไี ด้ไปป่นั ดว้ ยเครือ่ งป่ันไฟฟ้าให้ละเอยี ด

3. นาภาชนะมาวางรองกระชอน เทเน้ือว่านหางที่ป่ันละเอียดใส่ลงในกระชอน ใช้ช้อนคนให้

เมอื กของเนอ้ื ว่านหางจระเข้หยดลงในภาชนะวางรองจนเมอื กหมด

4. นาภาชนะท่ีเตรียมไว้ใส่ส่วนผสมหัวเช้ือแชมพู, เมือกของเน้ือว่านหางจระเข้, กลีเซอรีนเหลว

และผงฟอง ผสมเขา้ กนั ทีละอย่าง คนใหเ้ ขา้ กนั ดว้ ยพายไม้ประมาณ 10 นาที

5. จากน้ันจึงค่อย ๆ เติมสารแต่งสี (สีเขียว) และน้าหอมกลิ่นกุหลาบตามต้องการ แล้วค่อย ๆ

กวนสว่ นผสมให้เข้ากัน

6. รอให้ฟองยบุ แลว้ จึงบรรจใุ สภ่ าชนะท่ีเตรยี มไว้ ใชเ้ ป็นนา้ ยาสระผม

21

ตำรำงท่ี 5 ประโยชน/์ สรรพคุณของแชมพผู สมว่ำนหำงจระเข้

ท่ี รำยกำร คณุ ประโยชน์/สรรพคณุ

1 ว่านหางจระเขส้ ด - ทาใหผ้ วิ นุ่นช่มุ ชืน้ ไมห่ ยาบกรา้ น

- รักษาอาการผวิ ไหม้แสบรอ้ นจากแสงแดด และใชท้ ารักษาฝ้าบนใบหนา้

- ช่วยลดการเกิดรอยจากสวิ และลดการอักเสบของผิว

- สรา้ งภูมิคุม้ กนั ต้านอนมุ ูลอิสระ ดีท็อกและชะลอความแก่ของเซลลต์ ่าง ๆ

- ปรับสภาพเส้นผมแหง้ เสีย ให้มคี วามชุ่มชืน้ มีนา้ หนกั

2 หัวเช้อื แชมพู - มีคุณสมบัติในการทาความสะอาดไดด้ ี

- ทาใหเ้ กิดฟองไดเ้ รว็

3 ผงปรับข้น - คุณสมบตั เิ ปน็ สารเพ่มิ ความหนดื

กลีเซอรีนเหลว - ชว่ ยรักษาระดบั ความชมุ่ ช้นื ในผวิ หนัง

- ทางานรว่ มกับสารทีช่ ว่ ยเพม่ิ ความชุ่มชื้นหรือน้ามัน ทาใหผ้ วิ ทแ่ี หง้

รู้สกึ นุ่มข้นึ

ผงฟอง - เปน็ สารสงั เคราะห์ข้นึ มา เป็นแรงตงึ ผวิ ของน้าทาใหเ้ กดิ ฟอง

- ชว่ ยให้สิง่ สกปรก คราบไขมนั หลดุ ออกไปได้งา่ ยขน้ึ

4 นา้ หอมกลิ่นกหุ ลาบ - ใหค้ วามหอมสดชืน่

5 สารแตง่ สี (สเี ขียว) - ใหส้ สี นั กบั ผลติ ภณั ฑ์

22

ตำรำงท่ี 6 แสดงกำรคำนวณต้นทนุ ของวตั ถุดิบในกำรทำแชมพผู สมวำ่ นหำงจระเข้

ท่ี รำยกำรวัตถดุ ิบ รำคำวัตถุดิบ (บำท)/ ปริมำณที่ใช้ รำคำ/หน่วย ตน้ ทุน
หน่วย วัตถดุ ิบ

1 วา่ นหางจระเขส้ ด - - 500 กรมั - - -
125.00
2 หัวเชื้อแชมพู 125 1,000 กรัม 1,000 กรมั 0.125 1 กรัม
1.50
3 ผงปรับขน้ 30 60 กรมั 3 กรัม 10.00 1 กรมั 8.01
0.75
4 กลเี ซอรีนเหลว 40 15 กรมั 3 กรัม 13.33 1 กรมั 8.01
0.75
5 ผงฟอง 3 12 กรมั 3 กรัม 1.00 1 กรัม 33.00
250.00
6 นา้ หอมกล่ินกหุ ลาบ 40 20 กรัม 3 กรมั 13.33 1 กรัม 427.02
5,500
7 สารแตง่ สี (สีเขยี ว) 40 20 กรัม 3 กรัม 1.00 1 กรัม
22
8 นา้ สะอาด 42 4,500 กรมั 3,500 กรมั 0.012 1 กรัม 30
660
9 ภาชนะ/บรรจุภณั ฑ์ 300 300 กรัม 250 กรัม 1.20 1 กรมั 232.98

ต้นทนุ วตั ถดุ บิ รวม (บำท)

ปรมิ ำณท่ีได้ (กรัม)

ปรมิ ำณที่ไดเ้ ม่อื ใส่บรรจภุ ณั ฑ์ (ขวด)

รำคำขำย (บำท)/ขวด

ขำยไดเ้ งนิ สุทธิ (บำท)

กำไรจำกกำรขำย (บำท)

23

ว้นุ กรอบผสมวำ่ นหำงจระเข้

วสั ดุอุปกรณ์

1. ภาชนะสาหรับกวนสว่ นผสมแชมพู

2. พายไม้

3. ตาชงั่

4. ถว้ ยตวง

5. ชอ้ นตวง

6. กระบวย (สาหรับตกั ส่วนผสมวุ้นหยอดลงพิมพ)์

7. เคร่ืองปน่ั ไฟฟ้า

8. พมิ พ์ซิลิโคน (สาหรับใสว่ ุ้น)

9. ภาชนะ/บรรจุภณั ฑ์ (สาหรับใส่วุ้นกรอบ)

วัตถุดิบสำหรบั ทำวนุ้ กรอบผสมวำ่ นหำงจระเข้

1. วา่ นหางจระเข้สด ปริมาณ 500 กรัม

2. ผงวุน้ ปรมิ าณ 25 กรัม

3. น้าตาลทรายขาว ปริมาณ 740 กรัม

4. เกลือปน่ ปรมิ าณ 10 กรมั

5. วานิลา ปรมิ าณ 5 กรมั

6. สารแต่งสี (สีเขียว) ปริมาณ 5 กรมั

7. นา้ สะอาด ปรมิ าณ 1,320 กรัม

วิธที ำ

1. นาวา่ นหางจระเขส้ ดที่เตรยี มไวม้ าปอกเปลือกเอาเฉพาะสว่ นเนอ้ื แลว้ นาไปล้างนา้ เปล่าที่

ผสมเกลอื ในกะละมงั ทเี่ ตรียมไว้ ประมาณ 4 – 5 น้า

2. นาเนอื้ วา่ นหางจระเขท้ ไี่ ดไ้ ปป่นั ดว้ ยเคร่ืองป่ันไฟฟ้าใหล้ ะเอยี ด ตัง้ พักไว้

3. จากนน้ั นาน้าใสภ่ าชนะที่เตรยี มไว้ แล้วเทผงวุ้นลงไปผสม คนให้เข้ากนั ตง้ั พักไว้ 10 - 15 นาที

เพือ่ ใหว้ ุ้นขึ้นตวั หรอื อม่ิ ตัว

4. นาวุน้ ขึ้นตงั้ ไฟปานกลาง กวนวุ้นให้เดือดแล้วเตมิ น้าตาลทรายขาวลงไป กวนใหน้ ้าตาล

ละลาย แล้วจึงเอาแป้งท้าวยายมอ่ มท่ลี ะลายน้าแล้วเทลงไปผสม

5. จากน้ันกวนวนุ้ ใหเ้ ดือดงวด ปิดไฟ เติมสีและกลน่ิ ตามตอ้ งการกวนผสมใหเ้ ข้ากนั

6. เทส่วนผสมวุ้นที่ได้ใส่ลงในพิมพท์ ่ีเตรียมไว้จนหมด ตั้งพักไว้ให้วุ้นเซ็ทตัวแข็ง แกะออก

จากพมิ พว์ างเรียงใส่ถาด

24

8. นาว้นุ ไปตากแดดประมาณ 4 – 5 วัน ให้กลบั ด้านวนุ้ ตากแดดจนเนอื้ ว้นุ มีเกล็ดน้าตาล
เกาะหรอื ตกผลกึ ตามตอ้ งการแลว้ นามาใส่กล่องหรือภาชนะที่มีฝาปดิ สนิท เก็บไว้รบั ประทาน

ตำรำงท่ี 7 ประโยชน์/สรรพคุณของวุ้นกรอบผสมว่ำนหำงจระเข้

ท่ี รำยกำร สำรอำหำรประเภท คณุ ประโยชน์

1 ว่านหางจระเขส้ ด - วิตามิน - มีสรรพคุณทางยาในการชว่ ยประสาน

กระดูก และช่วยบารุงขอ้ กระดกู

- นามาปอกเปลือก ล้างเมอื กออก ต้มนา้ ใช้

เป็นยาระบาย ยาแกไ้ อ และยาแกเ้ จบ็ คอ

- บรรเทาอาการปวดฟันได้ ตดั เปน็ ชน้ิ เล็กๆ

เหน็บตามซอกฟัน

2 ผงวุ้น - คารโ์ บไฮเดรต - ลดไขมันในเลอื ด

- ลดความดันโลหิตสงู

- บารุงหวั ใจ และบารงุ ประสาท

3 น้าตาลทรายขาว - คารโ์ บไฮเดรต - ลดไขมันในเลือด

- ลดความดนั โลหิตสูง

- บารุงหัวใจ

- บารุงประสาท

4 เกลอื ปน่ - สารไอโอดีน - ให้พลงั งานแก่รา่ งกาย

- วติ ามนิ และเกลอื แร่ - ให้ความอบอ่นุ แกร่ า่ งกาย

5 วานลิ า * กลนิ่ สังเคราะห์ -

6 สารแตง่ สี (สีเขียว) *สารแต่งสี -

7 นา้ สะอาด - มีความสาคญั ที่สดุ ของร่างกาย - ชว่ ยใหผ้ วิ พรรณสดชนื่

เพราะวา่ 4/5 ส่วนของนา้ หนกั ตวั -ช่วยนาสารอาหารไปเล้ียงภายในส่วนต่าง ๆ ของ

กค็ ือนา้ รา่ งกาย และชว่ ยในการขบั ถา่ ยของเสยี ออกจาก

- เป็นสารอาหารทไ่ี มใ่ ห้พลังงาน รา่ งกาย

แต่มคี วามจาเปน็ ต่อรา่ งกาย -ช่วยในการสะสมอาหาร เช่นไขมันหรือโปรตนี

- ชว่ ยรกั ษาระดบั อณุ หภมู ิของร่างกาย

25

ตำรำงที่ 8 แสดงกำรคำนวณต้นทุนของวตั ถุดิบในกำรทำวนุ้ กรอบผสมว่ำนหำงจระเข้

ท่ี รำยกำรวตั ถุดบิ รำคำวัตถุดิบ (บำท)/ ปริมำณที่ใช้ รำคำ/หนว่ ย ต้นทุน
หน่วย วัตถดุ บิ

1 วา่ นหางจระเขส้ ด - - 500 กรัม - - -
125.00
2 ผงวนุ้ 59 25 กรัม 25 กรมั 2.36 1 กรัม
1.50
3 น้าตาลทรายขาว 25 1,000 กรัม 740 กรมั 0.03 1 กรัม 8.01
0.75
4 เกลือป่น 3 20 กรมั 10 กรัม 0.30 1 กรมั 0.20
11.88
5 วานิลา 18 50 กรัม 5 กรัม 1.00 1 กรัม 12.00
159.34
6 สารแต่งสี (สเี ขยี ว) 40 20 กรมั 5 กรัม 8.00 1 กรัม 2,500

7 นา้ สะอาด 14 1,500 กรัม 1,320 กรมั 0.01 1 กรมั 25
12
8 ภาชนะ/บรรจภุ ณั ฑ์ 30 500 กรมั 200 กรัม 0.15 1 กรมั 300
140.66
ต้นทนุ วตั ถุดบิ รวม (บำท)

ปริมำณที่ได้ (กรัม)

ปริมำณทไี่ ด้เมือ่ ใส่บรรจภุ ณั ฑ์ (ถุง)

รำคำขำย (บำท)/ถุง

ขำยได้เงินสุทธิ (บำท)

กำไรจำกกำรขำย (บำท)

บทที่ 4
ผลการทดลอง

ผลการทดลอง

จากผลการสารวจและวิเคราะห์ขอ้ มลู จากแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑจ์ าก
ว่านหางจระเขท้ ั้ง 4 อย่าง ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ แชมพผู สมวา่ นหางจระเข้ สบู่สครับวา่ นหาง
จระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) และวนุ้ กรอบผสมวา่ นหางจระเขข้ องนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี
5/1 - 5/3 โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม) อีกท้ังการนาว่านหางจระเข้ไปแปรรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์และทาให้เกิดโครงงานเรื่อง สวนเกษตรพอเพียงสร้างรายได้ ผู้จัดทาโครงงานเรียงลาดับ
ความพึงพอใจที่กลุ่มตัวอย่างความชอบจากมากท่สี ุดไปหาน้อยทสี่ ุด โดยแจกแบบสอบถามให้กับกลุ่ม
ตัวอย่าง จานวน 50 ชุด ซ่ึงผู้จัดทาโครงงานสามารถนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล พร้อมทั้ง
นาเสนอตารางแสดงการคานวณต้นทุนของสว่ นผสมผลติ ภณั ฑ์ทัง้ 4 อยา่ ง ตามลาดบั หวั ขอ้ ดังต่อไปน้ี

ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู เก่ียวกบั ข้อมลู ท่ัวไปเกี่ยวกบั ผ้ตู อบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู เกีย่ วกบั ขอ้ มลู ความพงึ พอใจในการใชผ้ ลิตภัณฑจ์ ากว่านหางจระเข้
ทั้ง 4 อยา่ งของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5/1 – 5/3 โรงเรียนเทศบาลวดั ชอ่ งลม (เป่ยี มวทิ ยาคม)

สัญลักษณ์ท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดทาโครงงานคร้ังนี้ใช้สัญลักษณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ดงั น้ี

N คอื จานวนกลมุ่ ตัวอยา่ ง
คือ คา่ เฉล่ยี (Mean)
SD คอื ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ท่ัวไปเกีย่ วกับผู้ตอบแบบสอบถาม
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่างท่ีนามาวิเคราะห์ ได้แก่ เพศ

ช้ันประถมศึกษาปีที่ อายุ ซึ่งนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้จานวนและร้อยละ ดังแสดงใน
ตาราง ดงั นี้
ตารางท่ี 9 : จานวนและร้อยละของกลมุ่ ตวั อยา่ ง จาแนกตามเพศ

เพศ จานวน รอ้ ยละ
ชาย 22 44.0
หญงิ 28 56.0
รวม 50 100.0

27

จากตารางท่ี 9 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย คือ เพศหญิง
จานวน 28 คน คิดเปน็ ร้อยละ 56.0 และเพศชาย จานวน 22 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 44.0

ตารางที่ 10 : จานวนและร้อยละของกล่มุ ตัวอย่าง จาแนกตามชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 – ป.5/3

ช้ัน ป. จานวน ร้อยละ
ป.5/1 12 24.0
ป.5/2 18 36.0
ป.5/3 21 42.0
รวม 50 100.0

จากตารางที่ 10 พบวา่ กลมุ่ ตัวอย่างส่วนใหญเ่ ปน็ นักเรียนช้ัน ป.5/3 จานวน 21 คน คิดเป็น
รอ้ ยละ 42.0 นกั เรียนช้ัน ป.5/2 จานวน 18 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 36.0 และนักเรียนชั้น ป.5/1 จานวน
12 คน คิดเปน็ ร้อยละ 24.0 ตามลาดับ

ตารางที่ 11 : จานวนและร้อยละของกลุ่มตัวอยา่ ง จาแนกตามอายุ

อายุ จานวน ร้อยละ
10 ปี 8 16.0
11 ปี 37 74.0
12 ปี 5 10.0
13 ปี ขึ้นไป -
รวม 50 -
100.0

จากตารางที่ 11 พบว่า กลมุ่ ตวั อย่างส่วนใหญ่อายุ 11 ปี จานวน 37 คน คดิ เป็นร้อยละ 74.0
อายุ 10 ปี จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 16.0 และอายุ 12 ปี จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0
ตามลาดบั

ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลความพึงพอใจในการใช้ผลิตภ

โรงเรียนเทศบาลวดั ชอ่ งลม (เป่ยี มวิทยาคม)

ความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ทั้ง 4 อยา่ งข

คุณประโยชน์/สรรพคุณ มีลักษณะเป็นอันตรภาคชั้น 5 ระดับ ซึ่งนาเสนอผลการว

ซ่งึ กาหนดเกณฑก์ ารให้คะแนนค่าเฉลี่ย ดงั นี้

คะแนนเฉล่ยี ระดบั ความ

4.21 - 5.00 มคี วามพึงพ

3.41 - 4.20 มคี วามพึงพ

2.61 - 3.40 มคี วามพึงพ

1.81 - 2.60 มีความพึงพ

1.00 - 1.80 มีความพึงพ

ตารางท่ี 12 : จานวนร้อยละ ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึง
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5/1 - 5/3 โรงเรยี นเทศบาลวัดชอ่ งลม (เ

หัวขอ้ รูปร่าง ขนาด/ สสี ัน กลิ่น คุณประโยช
ชนิด ปริมาณ สรรพคุณ

เจลว่านหางจระเข้ 18 22 19 27 24

แชมพผู สมวา่ นหาง 11 13 14 12 16

จระเข้

28
ภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ ท้ัง 4 อย่างของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5/1 – 5/3

ของกลุ่มตัวอย่างท่ีผู้จัดทาโครงงานนามาวิเคราะห์ ได้แก่ รูปร่าง ขนาด/ปริมาณ สี กล่ิน
วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้จานวนร้อยละ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานดังแสดงในตาราง

มพึงพอใจ
พอใจมากทสี่ ุด
พอใจมาก
พอใจปานกลาง
พอใจนอ้ ย
พอใจน้อยท่ีสุด

งพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อย่างของนักเรียน
เป่ยี มวทิ ยาคม)

ชน์/ ร้อยละ SD ระดบั อนั ดบั หมายเหตุ


22.0 4.40 0.88 มาก 1

13.2 2.64 0.53 นอ้ ย 2

หัวขอ้ รปู รา่ ง ขนาด/ สีสัน กลนิ่ คณุ ป
ชนิด ปรมิ าณ สรร

สบ่สู ครับผสมว่านหาง 7 3 6 2

จระเข้ (สูตรรังไหม)

สบคู่ รับผสมวา่ นหาง 9 10 9 6

จระเข้ (สตู รใยบวบ)

วุ้นกรอบ 5 2 23

ผสมว่านหางจระเข้

N 50 50 50 50

จากตารางท่ี 12 พบว่า กลุ่มตวั อย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ
22.0 ( = 4.40, SD = 0.88) แชมพูผสมว่านหางจระเข้ คิดเป็นร้อยละ 13.0
( = 1.60, SD = 0.32) สบู่สครับว่านหางจระเข้ (สูตรรังไหม) คิดเป็นร้อยละ 4
SD = 0.12) ตามลาดบั

ประโยชน์/ ร้อยละ SD ระดบั อันดับ 29
รพคุณ หมายเหตุ

2 4.0 0.80 0.16 นอ้ ยทส่ี ดุ 4

5 7.8 1.60 0.32 นอ้ ยทีส่ ดุ 3

3 3.0 0.60 0.12 น้อยทส่ี ุด 5

50 100.0 3.25 0.40

ฑ์จากว่านหางจระเข้ ทัง้ ๔ อย่างมากเป็นอันดับ 1 คือ เจลวา่ นหางจระเข้ คิดเป็นร้อยละ
0 ( = 2.64, SD = 0.53) สบู่สครับว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบ) คิดเป็นร้อยละ 7.8
4.0 ( = 0.80, SD = 0.16) และวุ้นกรอบว่านหางจระเข้คิดเป็นร้อยละ 3.0 ( = 0.60,

30

แผนภูมิแทง่ แสดงความพงึ พอใจในการใช้ผลติ ภัณฑจ์ ากวา่ นหางจระเขท้ งั้ 4 อยา่ ง
ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 - 5/3 โรงเรยี นเทศบาลวัดช่องลม (เปย่ี มวิทยาคม)

บทที่ 5
สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

จากการศกึ ษาค้นควา้ และรวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกับโครงงานเร่อื ง สวนเกษตรพอเพยี งสรา้ งรายได้
โดยการนาว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นพืชจากสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม)
รวมไปถึงตามครัวเรือนและในท้องถิ่น มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อย่าง ได้แก่
เจลว่านหางจระเข้ สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม) แชมพูผสมว่านหางจระเข้
และวุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยจัดทาแบบสอบถามขึ้นมา เพ่ือสารวจ
ความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อย่างของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 –
5/3 โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เป่ียมวิทยาคม) จานวน 50 คน จากผลการศึกษาจะนาเสนอ
ตามลาดับ ดังนี้

สรปุ
1. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ท่ัวไปเก่ียวกบั ผูต้ อบแบบสอบถาม
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลท่ัวไปเก่ยี วกับผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง

มากกว่าเพศชาย คือ เพศหญิง จานวน 28 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 56.0 และเพศชาย จานวน 22 คน คิดเป็น
รอ้ ยละ 44.0 ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 5/3 มากที่สุด จานวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ
42.0 และสว่ นใหญ่มอี ายุ 11 ปี จานวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 74.0

2. การวิเคราะห์ความพึงพอใจในการใช้ผลติ ภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ท้ัง 4 อยา่ งของนักเรยี น
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 – 5/3 โรงเรยี นเทศบาลวัดชอ่ งลม (เปยี่ มวิทยาคม)

ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้ทั้ง 4 อย่างของนักเรียน
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5/1 – 5/3 โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เป่ียมวิทยาคม) พบว่า สวนใหญ่ชอบเจล
ว่านหางจระเข้มากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 22.0 ( = 4.40, SD = 0.88) ลาดับท่ีสองเป็นแชมพูผสมว่านหาง
จระเข้คิดเป็นรอ้ ยละ 13.2 ( = 2.64, SD = 0.53) ลาดับท่ีสามสบู่สครับผสมวา่ นหางจระเข้ (สูตรใยบวบ)
คิดเป็นร้อยละ 7.5 ( = 1.60, SD = 0.32) สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้ สูตรรังไม คิดเป็นร้อยละ 4.0
( = 0.80, SD = 0.15) และลาดับสุดท้ายเป็นวุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้ คิดเป็นร้อยละ 3.0 ( = 0.60,
SD = 0.12)

32

อภปิ รายผล
จากผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า ระดับความพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้

ท้ัง 4 อย่างของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5/1 – 5/3 โรงเรียนเทศบาลวัดช่องลม (เปี่ยมวิทยาคม)
โดยการนาว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นพืชจากสวนพืชสมุนไพรของโรงเรียนรวมไปถึงตามครัวเรือนและใน
ท้องถิ่น มาแปรรปู เป็นผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเขท้ ้ัง 4 อย่าง ได้แก่ เจลว่านหางจระเข้ สบู่สครับ
ผสมว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรงั ไหม) แชมพูผสมว่านหางจระเข้และวุน้ กรอบผสมว่านหาง
จระเข้ แล้วนามาจดั ทาเปน็ โครงงานเร่ือง สวนเกษตรพอเพยี งสรา้ งรายได้

ขอ้ เสนอแนะ
1. สบู่ สามารถนาพืชสมุนไพรธรรมชาติชนิดอ่ืนมาเป็นส่วนผสมได้ เช่น นา้ ผ้ึง ผงขมิ้น

ผงทานาคา เปน็ ตน้
2. แชมพู สามารถนาน้ามนั มะพรา้ วหรือดอกอัญชนั มาเป็นส่วนผสมได้
3. เจล สามารถนามาผสมเกลือ เพือ่ ทาเป็นเจลสครบั ขดั ผิวได้
4. ว่านหางจระเข้ สามารถนามาแปรรูปเป็นอาหารเมนูอ่ืน ๆ ได้ เช่น เครื่องด่ืมสมุนไพร

ว่านหางจระเขล้ อยแก้ว เปน็ ต้น

รายงานอ้างองิ

ข้อมูลจากสื่อออนไลน์

ความรู้เร่อื งอาหารและสขุ ภาพ. ประโยชนข์ องใยบวบ. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://www.facebook.com/FoodandHealthforyou/photos/809911905724490

เดลนิ ิวส์.อา่ นความจริง อา่ นเดลนิ วิ ส์.เรือ่ งน่ารู้ : รงั ไหม. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://d.dailynews.co.th/agriculture/570530/

ธรรมดีเคมภี ัณฑ.์ Texapon N70 หรอื หัวแชมพู N70. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก :
http://www.tamdee.biz/product/5/texapon-n7หวั แชมพู-n70

วิกิพเี ดีย สารานุกรมเสร.ี กรีเซอรอล. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://th.wikipedia.org/wiki/
กรเี ซอรอล

วิกพิ เี ดีย สารานุกรมเสร.ี ว่านหางจระเข้. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/
วา่ นหางจระเข้

แหลง่ เรียนรู้ออนไลน์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี. งานบา้ น การประกอบอาหาร. [ออนไลน์].
เข้าถงึ ได้จาก : http://pirun.ku.ac.th/~b521060245/01179334/page/home.html

Healthcarethai.com.บทความการดูแลสขุ ภาพ และเคล็ดลับเพ่อื สุขภาพดีฯ. ประโยชนข์ องน้า
ต่อร่างกาย. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : http://www.healthcarethai.com

PapaSierra pAt.BLOGGANG.ผงวุ้นและเจลาตนิ ทา้ มาจากอะไร.[ออนไลน์]
เข้าถงึ ได้จาก : https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=papasierra-pat

Simple.Unilever. กลเี ซอรนี . [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.simpleskincare.com/th/
ingredients/glycerin.html

TAMBRAND.COM. ประโยชนข์ องรงั ไหม. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก :
https://www.tambrand.com/article/92/ประโยชน์ของรงั ไหม.

TCDC MATERIAL DATABASE. กลมุ่ “ไทเมอื งเพยี ”. ใยบวบ. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก :
https://www.tcdcmaterial.com/th/material/13/other-natural-materials/aiybwb-
mi00542-01

Top Sausages.การตากแหง้ อาหารเปน็ การถนอมอาหารทีง่ า่ ยและประหยดั ทส่ี ดุ .[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก : https://www.topsausages.com/การตากแหง้ อาหาร/

34

ภาคผนวก

 ภาคผนวก ก ภาพกจิ กรรม
 ภาคผนวก ข

- ประวตั ผิ จู้ ัดทาโครงงาน
- ประวตั คิ รูทปี่ รกึ ษา

35

ภาคผนวก ก

ภาพกิจกรรม

36

ภาพกจิ กรรม

เจลว่านหางจระเข้

จัดเตรียมวัตถุดบิ ในการทาเจลวา่ นหางขระเข้ จากนั้นวา่ นหางจระเขไ้ ปลา้ งเมือกสเี ขยี วออก
ด้วยนา้ ผสมเกลอื ประมาณ 4 – 5 ครัง้ นาไปปอกเปลือก แล้วนาไปปนั่ ใหล้ ะเอยี ด

เมอ่ื ป่นั เน้ือว่านหางจระเข้จนละเอยี ด เทใส่กระชอนกรองเอาเมือกไวใ้ ชท้ าเจล
จากนั้นนาส่วนผสมที่เตรยี มไว้มากวนผสมให้เขา้ กัน เทเกบ็ ใส่ภาชนะทมี่ ฝี าปิดสนิท
สามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เจลวา่ นหางจระเข้ โดยนามามาสก์หน้า ทาผวิ หน้า ผิวกายได้

37

สบู่สครับผสมว่านหางจระเข้ (สูตรใยบวบและสูตรรังไหม)

จดั เตรยี มวัตถุดบิ ในการทาสบู่สครับผสมว่านหางขระเข้ จากนนั้ นาวา่ นหางจระเข้ไปล้างเมอื ก
สีเขียวออกดว้ ยนา้ ผสมเกลอื ประมาณ 4 – 5 ครัง้ นาไปปอกเปลือก
แลว้ นาไปป่นั ให้ละเอียด นากลีเซอรนี ขึ้นตนุ๋ ให้ละลาย

นาวา่ นหางจระเขท้ ป่ี นั่ ละเอียดและสว่ นผสมอื่นเทผสมลงไป ค่อย ๆ กวนจนสว่ นผสมเข้ากนั
จากนน้ั นาใยบวบและรังไหมวางในพมิ พส์ บู่ เทสว่ นผสมสบูล่ งในพิมพจ์ นหมด
ทงิ้ ใหส้ บู่เซ็ทตวั แข็ง แกะออกจากพิมพ์ ใส่บรรจภุ ัณฑไ์ วใ้ ชต้ ามตอ้ งการ

38

แชมพูผสมวา่ นหางจระเข้

จดั เตรยี มวตั ถุดบิ ในการทาแชมพผู สมว่านหางขระเข้ จากนัน้ นาวา่ นหางจระเขไ้ ปลา้ งเมือกสีเขยี ว
ออกด้วยน้าผสมเกลอื ประมาณ 4 – 5 คร้ัง นาไปปอกเปลอื กแล้วนาไปปน่ั ให้ละเอียด
นาหัวเชื้อแชมพู และว่านหางจระเขท้ ่ีได้เทผสมลงไปคนใหเ้ ข้ากัน

เทส่วนผสมทุกอย่างลงไป คอ่ ย ๆ คน จนสว่ นผสมเข้ากนั ทิ้งไวใ้ หฟ้ องยบุ
จากนน้นั นาไปใส่ภาชนะทม่ี ีฝาปดิ สนทิ เพอื่ เกบ็ ไว้ใชต้ ามตอ้ งการต่อไป

39

วุ้นกรอบผสมว่านหางจระเข้

จดั เตรียมวัตถุดิบในการทาว้นุ กรอบไว้ จากนนน้ั นาว่านหางจระเขไ้ ปลา้ งให้หมดเมือกด้วยน้าเกลอื
ล้างเสรจ็ แล้วให้ลา้ งนา้ เปลา่ อกี ครัง้ จากนัน้ นาว่านหางจระเขไ้ ปป่นั ให้ละเอียด นาว่านหางจระเข้ใส่

ภาชนะ เทผงวุน้ ลงไปผสม ต้ังทิ้งไวใ้ หว้ นุ้ อม่ิ ตวั

จากนั้นนาขน้ึ ตง้ั ไฟกลาง เทนา้ ตาลทรายขาวและแป้งท้าวยายม่อมละลายนา้ ลงไป คนด้วยพายไม้
ใหล้ ะลาย ปิดไฟ รอให้อุ่น เทสว่ นผสมที่ได้ใสพ่ ิมพท์ เ่ี ตรยี มไว้ รอเซท็ ตัวแขง็ แกะออกจากพิมพ์

ไปตากแดด 4 – 5 วนั จนว้นุ ตกผลึก เก็บใส่ภาชนะไวร้ ับประทานไดน้ าน

40

ภาคผนวก ข

- ประวัติผูจ้ ัดทาโครงงาน
- ประวัติครูทีป่ รึกษา


Click to View FlipBook Version