โครงการเรื่องไม้กวาดบังคับ

ไม้กวาดบังคับ Forced broom นางสาวพรนิภา เกิดรอด รหัสประจำตัวนักเรียน 64202040010 นางสาวนันทิตา ผุลิจันทร์ รหัสประจำตัวนักเรียน 64202040009 นางสาวพิมลวรรณ วงค์นาค รหัสประจำตัวนักเรียน 64202040011 ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยการอาชีพแกลง อาชีวศึกษาจังหวัดระยอง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

แบบเสนอโครงงาน วิทยาลัยการอาชีพแกลง 1. โครงการ สื่อการเรียนการสอน เรื่อง วิชา ไม้กวาดบังคับ 2. ประเภทของโครงการวิชาชีพ (ให้ทำเครื่องหมาย ✓ลงในประเภทโครงการวิชาชีพให้ถูกต้อง) ❑1. ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ❑ กลุ่มที่ 1 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ กลุ่มที่ 2 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ❑ กลุ่มที่ 3 สิ่งประดิษฐ์ด้านวัตกรรม และเทคโนโลยีพลังงานสิ่งแวดล้อม ❑ กลุ่มที่ 4 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีอาหาร ❑ กลุ่มที่ 5 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (HEATH CARE) ❑ กลุ่มที่ 6 สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ❑ 2. ประเภทงานวิจัย ❑ 3. ประเภทสื่อการเรียนการสอน ใช้ไฟจำนวน........................เฟส ใช้น้ำประปา ❑ ใช้ ไม่ใช้ 3. คณะผู้จัดทำโครงการ 2.1 นางสาวนันทิตา ผุลิจันทร์ นักศึกษาชั้น ปวช.3 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 2.2 นางสาวพรนิภา เกิดรอด นักศึกษาชั้น ปวช.3 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 2.3 นางสาวพิมลรรณ วงศ์นาค นักศึกษาชั้น ปวช.3 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 4. ระยะเวลาดำเนินการ 16 ตุลาคม 2566 – 17 กุมภาพันธ์ 2567

5. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ปัจจุบันพบว่าปัญหาของการกวาดบ้านด้วยไม้กวาดต่างๆก็จะพบกับปัญหาของการกวาดบ้าน ด้วยการกวาดเป็นเวลานานๆ ได้ จึงทำให้เป็นปัญหาอย่างมากเวลากวาดบ้านเพราะว่าจะทำให้ปวด ไหร่และแขนเพาะการเดินเวี่ยงไปเวี่ยงมา ทำให้ปวดไหร่ปวดขาเป็นอย่างมากและพบว่าปัจจุบันได้มี การพัฒนาขึ้นมากมาย ดังนั้นทางคณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำเอาระบบสมองกลฝังตัวมาสร้าง สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรม ไม้กวาดบังคับควบคุมผ่านรีโมท เพื่อช่วยลดภาระในการทำงาน เพิ่มความ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โครงงานของเรานี้สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นๆไปใด้อีกด้วย ปัจจุบันปัญหา "เศษฝุ่นเศษขยะ"นับว่าเป็นปัญหาสำคัญในห้องเรียนสาเหตุมาจากนักเรียน มีพฤติกรรมการทิ้งเศษขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทาง ถึงแม้จะมีจะมีถังขยะรองรับแต่ก็ไม่เพียงพอ สร้าง ปัญหาอย่างมากทางด้านทัศนวิสัยและความสะอาดก่อให้เกิดปัญหาเศษฝุ่นเศษขยะในห้องเรียน ทางผู้จัดทำจึงได้การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาเพื่อความสะอาด นั่นคือ ไม้กวาด บังคับ จะช่วยกวาดเศษขยะฝุ่นที่อยู่ตามพื้นห้อง เช่น เศษขยะชิ้นเล็กๆ เศษผง เส้นผมฝุ่น จากเหตุผลข้างต้นผู้พัฒนาจึงได้จัดทำสิ่งประดิษฐ์ไม้กวาดบังคับเพื่อช่วยทุ่นแรงและเวลาใน การทำความสะอาด ให้เราไม่เสียแรงเวลาถูพื้นแถมบังคับไปได้ตามใจที่เราต้องการ อีกทั้งยังสะดวก และรวดเร็วไม่กีดขวางทางเดินเพื่อให้ได้สนุกกับการทำความสะอาดมากขึ้นและยังได้แนวคิดในการ ออกแบบสิ่งประดิษฐ์ 6. วัตถุประสงค์ 5.1 เพื่อสร้างรถบังคับกวาดพื้นด้วยรีโมทคอนโทรล 5.2 เพื่อเผยแพร่ผ่านโครงการประกวดโครงการวิชาชีพ 5.3 เพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงในการแก้ปัญหา อำนวยความสะดวก 7. เป้าหมาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้และคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพิ่มทักษะในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมผู้เรียนมีการคิดอย่างเป็นกระบวนการ ให้กับนักเรียน/นักศึกษา แผนกวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประยุกต์สร้างสิ่งประดิษฐ์ 8. พื้นที่ดำเนินการ วิทยาลัยการอาชีพแกลง

9. กิจกรรม/แผนการดำเนินงาน สัปดาห์ กิจกรรม ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 1. ศึกษาข้อมูล 2. ออกแบบโครงการ 3. เสนอโครงการ 4. จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ 5. ศึกษาวิธีใช้เคลื่อนวิทยุ 6. จัดทำโครงการ 7. ทดสอบโครงการ 8. เก็บรวบรวมข้อมูล 9. วิเคราะห์ข้อมูล 10. ปรับปรุงแก้ไขโครงการ 11. การทำรูปเล่มรายงาน 12. ส่งโครงการ 10. งบประมาณ 10.1 กระดาษ 200 บาท 10.2 ค่าเข้าเล่ม 300 บาท 10.3 ค่าปริ้นงาน 250 บาท 10.4 รถบังคับแมคโคร 1,120 บาท 10.5 ชุดล้อ 46 บาท 10.6 มอเตอร์เกียร์ DC 12v 200 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 2,116 บาท 11.ผลประโยชน์ที่จะได้รับ 10.1 รู้จักบูรนาการศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์ทางด้านงานฝีมือช่างทางการออกแบบเข้าด้วยกัน 10.2 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของมอเตอร์กับแผงวงจรไฟ 10.3 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการออกแบบโครงสร้าง การเลือกใช้วัสดุ ที่มีความ แข็งแรงและคงทน 10.4 เกิดกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ รู้จักทดลอง แก้ไข เพื่อได้มาซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่มี คุณภาพ 10.5 ได้มีไม้กวาดบังคับ ที่สามารถบังคับกวาดพื้นไปในทุกทิศทาง

11. ขอบเขตการศึกษา 11.1 ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย 11.1.1 ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษา ระดับชั้น ปวช. จำนวน 101 คน 11.1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษา ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษา ระดับชั้น ปวช. จำนวน 80 คน 11.2 ด้านสิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับ ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับไม้กวาดบังคับ การออกแบบและกระบวนการผลิตภัณฑ์ไม้กวาดบังคับ การทดลองใช้งานและเก็บข้อมูล 12. ขั้นตอนการดำเนินการ 12.1. ศึกษาข้อมูล 12.2. ออกแบบโครงการ 12.3. เสนอโครงการ 12.4. วางแผนโครงการและเก็บรวบรวมข้อมูล 12.5. จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ 12.6. ออกแบบและสร้างไม้กวาดบังคับ 12.7. ทดสอบโครงการ 12.8. เก็บรวบรวมข้อมูล 12.9. วิเคราะห์ข้อมูล 12.10. ปรับปรุงแก้ไขโครงการ 12.11. ทำรูปเล่มรายงานโครงการ 12.12. นำเสนอโครงการ

ก ชื่อเรื่อง : ประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์เรื่องไม้ กวาดบังคับ ชื่อ : นางสาวพรนิภา เกิดรอด : นางสาวนันทิตา ผุลิจันทร์ : นางสาวพิมลวรรณ วงค์นาค สาขาวิชา : คอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขางาน : คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่ปรึกษา : นายสมศักดิ์ สีใส : นางแววดี เอ็นดูราษฎร์ : นายถวิล ภาสดา ปีการศึกษา : 2566 บทคัดย่อ โครงการประเภทสิ่งประดิษฐ์เพื่อต่อยอดนวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เรื่องไม้กวาดบังคับ จากผลวิจัยให้ทราบผลว่าประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์เรื่องไม้ กวาดบังคับที่ทางคณะผู้วิจัยได้วิจัยและพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและ เทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์เรื่องไม้กวาดบังคับ เพื่อทดลองปัญญาปนะดิษฐ์เรื่องไม้กวาดบังคับ เพี่อศึกษาความคิดเห็น/ความพึงพอใจของผู้ที่มีปัญญาประดิษฐ์เรื่องไม้กวาดบังคับ ประชากรกลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ศึกษา คือ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 101คน โดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ แบบสอบถามความพึงพอใจทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านโครงสร้างและการดำเนินเรื่อง ด้านการออกแบบ และ ด้านการใช้งาน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-20ปี นักศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส. แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จากการสำรวจความคิดเห็นต่อการพัฒนาปัญญาปนะดิษฐ์เรื่องไม้กวาดบังคับด้านโครงสร้างและ การดำเนินเรื่อง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากที่สุดในเรื่อง การนำไปใช้ ประโยชน์ได้จริง รองลงมาได้แก่ มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาดต่อการนำไปใช้งาน และน้อยที่สุด คือ การเหมาะสมของคุณภาพวัสดุที่นำมาใช้ พบว่า ผู้ตอบแบบส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากที่สุดใน เรื่อง การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงของไม้กวาดบังคับ

ข กิตติกรรมประกาศ การจัดทำโครงการ ประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้ กวาดบังคับนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพราะการให้ความอนุเคราะห์ของบุคคลหลายฝ่าย ขอบพระคุณ คณะคุณครูและนักเรียนนักศึกษา แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยการอาชีพ แกลง ขอขอบพระคุณครูที่ปรึกษาโครงการ คือ นายสมศักดิ์ สีใส นางแววดี เอ็นดูราษฎร์นายถวิล ภาสดา ที่ได้เอาใจใส่ดูแลและซักถามอย่างไม่ขาดบกตกพร่อง และให้คำปรึกษาด้วยดีตลอดเวลา ขอขอบพระคุณคุณครูแผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจทุกท่านที่ได้ให้คำปรึกษาต่างๆ ในการจัดทำ โครงการนี้ด้วยดีตลอดมา ขอขอบคุณคณะผู้จัดทุกคนที่ทุ่มเท เสียสละ แรงกายแรงใจเพื่อได้ทำหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถจนทำให้การจัดทำโครงการนี้สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี คุณค่า และประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดทำโครงการครั้งนี้ ขอมอบเป็นเครื่องบูชาพระคุณของคุณพ่อ คุณแม่ และครูอาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอนชี้แนะแนวทางการศึกษาแก่ผู้เรียนตลอดมา

ค สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ 1 วัตถุประสงค์ 1 ขอบเขตการวิจัย 1 ประโยชน์ที่ได้รับ 2 วิธีการดำเนินการ 2 นิยามคำศัพท์เฉพาะ 2 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แนวคิดเกี่ยวกับเครื่องเล่นวิทยุ 3 แนวคิดเกี่ยวกับรถบังคับ 4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 10 กรอบแนวคิด 11 แนวคิดเกี่ยวกับการพึงพอใจ 12 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูล 15 ประชากากรและกลุ่มตัวอย่าง 15 การออกแบบการจัดโครงงาน 16 กิจกรรม/แผนการดำเนินงาน 18 ประกอบและทดลองชิ้นงาน 18 วิธีดำเนินการพัฒนาไม้กวาดบังคับ 21 ระยะเวลาแผนการดำเนินงาน 21 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 22 การวิเคราะห์ข้อมูล 22

ง สารบัญ(ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 4 ผลการวิจัย ขั้นตอนนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 23 ผลการวิเคราะห์ 23 สรุปผลการประเมินแบบสอบถามความพึงพอใจ 26 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ สรุปผล 28 อภิปรายผล 29 ข้อเสนอแนะ 29 บรรณานุกรม 30 ภาคผนวก ภาคผนวก ก รูปภาพการปฏิบัติงาน ภาคผนวก ข แบบประเมิน ภาคผนวก ค ประวัติผู้จัดทำ

จ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 3.7 ระยะเวลาในการดำเนินงาน 19 ตารางที่ 4.2 ตารางแสดงจำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามเพศ อายุ 23 ระดับการศึกษาและสถานภาพ ตารางที่ 4.3 ตารางแสดงความพึงพอใจโดยหาค่าความถี่และค่ารอยละ 24 ตารางที่ 4.4 ตารางแสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 25

ฉ สารบัญรูปภาพ หน้า ภาพที่ 2.1 แสดงสัญลักษณ์คลื่นสัญญาณวิทยุ 4 ภาพที่ 2.2 แสดงสัญลักษณ์รถบังคับสัญญาณวิทยุ 5 ภาพที่ 2.3 แสดงสัญลักษณ์รถบังคับในแบบต่างๆ 7 ภาพที่ 2.4 แสดงสัญลักษณ์อุปกรณ์รถและมอเตอร์ 8 ภาพที่ 2.5 แสดงสัญลักษณ์รีโมทคอนโทรล 9 ภาพที่ 2.6 แสดงสัญลักษณ์รถบังคับที่นิยมที่สุด 10 ภาพที่ 2.7 แสดงสัญลักษณ์กรอบแนวคิดในการวิจัย 11 ภาพที่ 3.3.2 แสดงรูปอุปกรณ์ 18 ภาพที่ 3.3.3 ตัดฐานข้างล่าง 19 ภาพที่ 3.3.4 ตัดฐานข้างบน 19 ภาพที่ 3.3.5 เจาะรูฐานข้างล่าง 19 ภาพที่ 3.3.6 ต่อสายไฟขั่วบวกและขั่วลบที่มอเตอร์ 20 ภาพที่ 3.3.7 ติดชุดล้อที่ฐานข้างล่าง 20 ภาพที่ 3.3.8 ต่อแผงวงจร 20

บทที่ 1 บทนำ 1. ความเป็นมาของโครงการ เนื่องจากในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่เรานำเทคโนโลยีต่างๆมาช่วยในการทำกิจกรรมต่างๆใน ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงการทำความสะอาดเช่นกัน จะเห็นได้จากการที่แรกใช้ไม้ กวาดในการทำความสะอาดบ้านแต่ในยุคต่อมาก็ได้มีการประดิษฐ์สิ่งอุปกร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทำความสะอาดรวมถึงเพื่อเป็น การผ่อนแรงในการทำความสะอาด และช่วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ เปลี่ยนไปทำให้เครื่องมือทำความสะอาดกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในดำเนินชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน การกวาดพื้นผิดวิธีนอกจากจะทำให้คุณเหนื่อยมากขึ้นแล้วยังทำให้การถูพื้นไม่สะอาดเท่าที่ควรด้วย เรามวิธีกวาดพื้นด้วยไม้กวาดพื้นเพื่อที่จะให้การทำความสะอาดบ้านง่ายขึ้น สะอาดขึ้น ประหยัดทั้ง เวลา และแรงอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและทำตามคำแนะนำ ความสะอาดพื้นพื้นบ้านเป็นที่ที่เกิดความสกปรกได้ง่ายมาก เพราะมีทั้งฝุ่น และเศษขยะเล็กๆ การทำความสะอาดเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นห้องนอนการกวาดพื้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และนี่ก็เป็นเคล็ดลับในการทำความสะอาดที่เรานำมาฝากเครื่องไม้กวาดบังคับ เราจึงสร้างรถกวาดพื้นแบบบังคับเพื่อช่วยทุ่นแรงและเวลาในการทำความสะอาด ให้เราไม่เสียแรง เวลากวาดพื้นแถมบังคับไปได้ตามใจที่เราต้องการ อีกทั้งยังสะดวกและรวดเร็วไม่กีดขวางทางเดิน เพื่อให้ได้สนุกกับการทำความสะอาดมากขึ้นและยังได้แนวคิดในการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ 2. วัตถุประสงค์ของโครงการ 2.1 เพื่อสร้างไม้กวาดบังคับพื้นด้วยรีโมทคอนโทรล 2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจและเทคโนโลยีดิจิทัล วิทยาลัยการอาชีพแกลงที่มีต่อไม้กวาดบังคับ 2.3 เพื่อเผยแพร่ผ่านโครงการประกวดโครงการวิชาชีพ วิทยาลัยการอาชีพแกลง 3.ขอบเขตของโครงการ 3.1 เพื่อศึกษาขั้นตอนในการทำไม้กวาดบังคับ 3.1 เพื่อให้เกิดประสบการณ์ในการทำไม้กวาดบังคับ 3.2 ด้านสิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับไม้กวาดบังคับ การออกแบบและกระบวนการผลิตไม้กวาดบังคับ การ ทดลองใช้งานและเก็บข้อมูล

2 4. ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ 4.1 รู้จักบูรนาการศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์ทางด้านงานฝีมือช่างทางการออกแบบเข้าด้วยกัน 4.2 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของมอเตอร์กับแผงวงจรไฟ 4.3 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการออกแบบโครงสร้าง การเลือกใช้วัสดุ ที่มีความแข็งแรง และคงทน 4.4 เกิดกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ รู้จักทดลอง แก้ไข เพื่อได้มาซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่มี คุณภาพ 4.5 ได้มีไม้กวาดบังคับ ที่สามารถบังคับกวาดพื้นไปในทุกทิศทาง 5. วิธีการดำเนินการ 5.1 ศึกษาข้อมูล 5.2 เสนอโครงการต่อคณะกรรมการและผู้บริหาร 5.3 วางแผนโครงการและเก็บรวบรวมข้อมูล 5.4 ออกแบบและสร้างไม้กวาดบังคับ 5.5 ทดลองใช้งานและเก็บข้อมูล 5.6 จัดทำโครงการ 5.7 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ 5.8 นำเสนอโครงการ 6. นิยามศัพท์เฉพาะ 6.1 ไม้กวาด เป็นเครื่องเรือนที่มีการนำวัสดุจากพลาสติก โดยใช้สำหรับกำจัดฝุ่น เป็นไม้กวาด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 6.2 ดีไอวาย (D.I.Y.) นั้นเป็นชื่อย่อที่มาจากคำภาษาอังกฤษว่า Do it yoursel ซึ่งแปลตรงตัว ก็คือ ทำ มันด้วยตนเอง โดยเป็นการนำสิ่งของที่เหลือใช้ หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรืออาจเป็นของใหม่ มาทำการสร้างสรรค์หรือประดิษฐ์ให้กลายเป็นผลงานชิ้นใหม่ด้วยฝีมือของตัวเอง 6.3 นวัตกรรม หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดีซิ่งขึ้น เมื่อนำ นวัตกรรมมาใช้จะ ช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยเรื่องการวิจัยเรื่อง สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับ โดยใช้รถบังคับวิทยุเครื่องเล่นบังคับวิทยุและระบบอัตโนมัติแบบอัจฉริยะแมชซีน เสิร์นนิ่ง ผู้วิจัยได้แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นพื้นฐานในการวิจัยดังต่อไปนี้ 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับเครื่องเล่นวิทยุ 2.1.1 ความหมายของเครื่องเล่นวิทยุ 2.1.2 กลไกของเครื่องเล่นวิทยุ 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับรถบังคับ 2.2.1 ความหมายของรถบังคับ 2.2.2 ประเภทของรถบังคับ 2.2.3 ชุดวิทยุบังคับ 2.2.4 รีโมทคอนโทรล 2.2.5 รถบังคับที่นิยมที่สุด 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.4 กรอบแนวคิดการวิจัย รายละเอียดแต่ละหัวข้อ ดังต่อไปนี้ 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับเครื่องเล่นวิทยุ ในการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องเล่นบังคับวิทยุ มีหัวข้อย่อยคือ ความหมายของเครื่อง เล่นบังคับวิทยุ และ กลไกของเครื่องเล่นวิทยุ รายละเอียดแต่ละหัวข้อย่อยมีดังนี้ 2.1.1 ความหมาย ของเครื่องเล่นบังคับวิทยุ 2.1.1 ความหมายของเครื่องเล่นบังคับวิทยุ 2.1.1.1 มีผู้กล่าวถึง ความหมายของเครื่องเล่นบังคับวิทยุไว้ ดังนี้ (นงลักษณ์บรรยงวิจัย, 2556) กล่าวว่า คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงความถี่ วิทยุ บนเส้นสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นวิทยุ ไม่ต้องอาศัย ตัวกลาง ในการเคลื่อนที่ ใช้ในการสื่อสาร มี 2 ระบบคือ AM. และ F.M. ความถี่ของคลื่น หมายถึง จำนวนรอบของการเปลี่ยนแปลงของคลื่นใน เวลา 1วินาทีคลื่นเสียงที่มีความถี่ช่วงที่หูของคนรับฟังได้ในช่วงระยะคือตั้งแต่ 20 เฮิรตซ์ ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์ (1 Kitz = 1,000 H2) ส่วนคลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงจะถูกกำหนด ให้ใช้ งานด้านต่าง ๆ ตามความเหมาะสม

4 รูปที่ 2.1 แสดงสัญลักษณ์คลื่นสัญญาณวิทยุ 2.1.2 กลไกของเครื่องเล่นวิทยุ 2.1.2.1 มีผู้กล่าวถึง ประเภทของเครื่องเล่นบังคับวิทยุ ไว้ดังนี้ (อัฐกรคงวัย,2556)ได้กล่าวว่าผู้ผลิตเลือกความถี่ของเครื่องเล่นในรุ่นนั้นๆจะใช้ความถี่ใดเพื่อไม่ให้ ความถี่ซ้ำช้อนกัน อย่างไรก็ตามแม้เป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน คุณสามารถเล่นเครื่องเล่นที่เดียวกันได้ พร้อมกัน โดยความถี่ไม่ซ้ำซ้อนกัน โดยที่ผู้ผลิตบางแห่งออกแบบเป็นช่วงความถี่ สามารถใช้ได้กับ รถแข่งจำนวน6คัน ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ และจัดช่วงความถี่ให้เหมาะสมเครื่องเล่นบางรุ่น ที่ตัว ควบคุมมีอยู่ปุ่มเดียว ควบคุมได้ทุกอย่าง เวลากดปุ่มให้รถวิ่งไปข้างหน้า แต่เวลาปล่อยปุ่ม รถจะวิ่ง ถอยหลังซึ่งควบคุมยากอยู่เหมือนกันเวลาจะเลี้ยวซ้าย และขวาจึงไม่ค่อยนิยม เครื่องเล่นแต่ละ ชนิด มีกลไกการควบคุมแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานการบังคับด้วยวิทยุ มีลักษณะเหมือนกัน โดย แยกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆดังนี้ 1) เครื่องส่งควบคุมด้วยมือมีหน้าที่ส่งคลื่นวิทยุไปที่เครื่องรับ 2) เครื่องรับประกอบด้วยเสาอากาศและแผงวงจรไฟฟ้าเพื่อคอยรับสัญญาเครื่อง กระตุ้นให้มอเตอร์ภายในเครื่องเล่นทำงาน 3) มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่หมุนล้อและเสี้ยวสำหรับรถแต่ถ้าเป็นเรือเปลี่ยนเป็นใบพัด 4) แหล่งจ่ายพลังงานคือแบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉาย 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับรถบังคับ ในการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับรถบังคับ มีหัวย่อยดังนี้ ความหมายของรถบังคับ และ ประเภทของรถ บังคับ รายละเอียดแต่ละหัวข้อย่อย มีดังนี้ 2.2.1 ความหมายของรถบังคับ 2.2.1.1 มีผู้กล่าวถึง ความหมายของรถบังคับ ไว้ดังนี้

5 (มาเนตร์ กอบน้ำเพ็ชร, 2558) ได้กล่าวว่า รถบังคับวิทยุ หรือ RC รถยนต์สำหรับระยะสั้น คือ รถยนต์จำลองขนาดเล็กหรือรถบรรทุกที่สามารถควบคุม ได้จากระยะไกลโดยใช้เครื่องส่งสัญญาณ พิเศษหรือรีโมท คำว่า "RC" ถูก นำมาใช้เพื่อหมายถึง รีโมทคอนโทรล" และ "วิทยุควบคุม" โดยที่ "รีโมท คอนโทรล"รวมถึงอุปกรณ์ ยานพาหนะที่ควบคุมด้วยวิทยุ10อินฟราเรดหรือการเชื่อมต่อ ด้วยสายไฟ (รุ่นหลังล้าสมัยแล้ว) การใช้งานทั่วไปของ "RC" ใน ปัจจุบันมักหมายถึง ยานพาหนะที่ ควบคุมด้วยวิทยุเท่านั้นและบทความนี้จะ เน้นไปที่รถบังคับวิทยุ รถยนต์ขับเคลื่อนโดยแหล่งต่างๆ โมเดลไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยขนาดเล็ก แต่ทรงพลัง มอเตอร์ไฟฟ้า และชาร์จใหม่ได้นิกเกิล - แคดเมียม และนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์,หรือลิเธียมโพลิเมอร์เซลล์นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ แปรงหรือแบบไม่มีแปรง – มอเตอร์แบบไม่ มีแปรงมีพลังและประสิทธิภาพมากกว่า แต่ก็มีราคา แพงกว่ามอเตอร์แบบ แปรงมาก รุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงส่วนใหญ่ใช้ ปลั๊กเรืองแสง เครื่องยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์สันดาปภายในเชื้อเพลิงโดย ส่วนผสมพิเศษ ของ ไนโตรมีเทนเมทานอลและน้ำมัน ใน กรณีส่วนใหญ่จะมีส่วนผสม ของน้ำมันและหุ่งและ น้ำมันสังเคราะห์ รถเหล่านี้เรียกว่ารถยนต์ 'ไน โตร" เมื่อเร็วๆนี้มีการเปิดตัว รุ่นใหญ่พิเศษที่ขับเคลื่อนโดยขนาดเล็ก น้ำมันเบนชิน เครื่องยนต์ คล้ายกับ ที่กันจอน มอเตอร์ซึ่งใช้น้ำมันและน้ำมันเบนชินผสมกัน โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ไฟฟ้าถือ ว่าทำงานได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแต่อาจ มีความชับซ้อนพอๆกัน ใน งบประมาณและระดับทักษะที่สูงขึ้น ทั้งรุ่นไฟ และรุ่นไนโตรสามารถทำได้เร็วมากแม้ว่าระบบ ไฟฟ้าจะอัพเกรดได้ง่ายกว่า ใช้งานได้หลากหลายกว่า รูปที่ 2.2. แสดงสัญลักษณ์รถบังคับสัญญาณวิทยุ

6 2.2.2 ประเภทของรถบังคับ 2.2.2.1 มีผู้กล่าวถึง ประเภทของรถบังคับ ไว้ดังนี้ ( สันติ มงคลสุข, 2557) กล่าวว่า การแบ่งประเภทรถบังคับ 1) แบ่งตามระบบควบคุมบังคับ 2) แบ่งตามขนาดของรถบังคับ 3) แบ่งตามต้นกำลัง 4) แบ่งตามระบบส่งกำลัง 5) แบ่งตามประเภทรถ 5.1) รถทางเรียบ 5.2) รถกระดาน 5.3) บิ๊กฟุต (ล้อโต) 6) แบ่งตามรูปแบบที่วางขาย ชุดคิท (สำหรับประกอบ) มีชิ้นส่วนและคู่มือมาให้ผู้เล่นประกอบเองและที่ชุดพร้อม เล่น RTR รถบังคับและอุปรณ์อื่นๆมาพร้อมจากโรงงานอะไหล่คำถามต่อมา เมื่อท่าน ตกลงปลงใจจะเข้าสู่วงการแล้ว ก็จะต้องคิดว่าจะเล่นรถประเภทไหนรถทางเรียบ = ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับ มีพื้นที่เรียบๆ ให้เล่น ซึ่งท่านก็ต้องเลือกระหว่าง รถขับสอง หรือขับสี่ซึ่งที่นิยมกันก็เป็นประเภท ทัวริ่งคาร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งจะให้การยึดเกาะ ถนนได้ดีกว่าและรถทางฝุ่น = ซึ่งก็มีหลายประเภท มีทั้ง ขับ2 ขับ4รถบักกี้ = สำหรับชาวไฟฟ้า มักจะนิยม บักกี้ ขับสองล้อหลัง ซึ่งยี่ห้อดังก็คือ TEAM LOSI และ อื่นๆรถแบบนี้ จะโดดได้ดี วิ่งได้เร็ว สำหรับบักกี้ขับสี่ จะยึดเกาะถนนได้ดีรถทรัค = คล้ายๆบักกี้ แต่ ล้อจะโตกว่า มีทั้งขับสองและขับสี่ รถแบบนี้จะนิ่งกว่า บักกี้รถล้อโต (บิ๊กฟุต) = สำหรับรถไฟฟ้าล้อโตรถลูกครึ่ง = ก็มีพวกรถแรลลี่ เช่น ทามิย่ะ TB-01 แรลลี่ หรือ พวกรถตรวจการณ์ SUV เทือกนั้น ซึ่งทางเรียบก็พอได้ทางวิบากก็พอไหว เมื่อเลือกได้แล้วก็มารายละเอียดอื่นๆชุดคิทรถ หรือ ตัวรถยี่ห้อที่นิยมในเมืองไทย ก็ เป็น ทามิย่ะ Tamiyaaเอชพีไอ HP! , เคียวโช Kyosho เนื่องจากมีตัวแทนจำหน่ายมี อะไหล่ค่อนข้างพร้อมมีผู้นิยมเล่นเป็นจำนวนมากและมีรถหลากหลายให้เลือกเล่น

7 รูปที่ 2.3 แสดงสัญลักษณ์รถบังคับในแบบต่างๆ 2.2.3 ชุดวิทยุบังคับ 2.2.3.1 มีผู้กล่าวถึง ชุดวิทยุบังคับ ได้ดังนี้ (ศุภลักษณ์ เนตรโพธิ์แก้ว 2555) กล่าวว่า ชุดบังคับวิทยุแบ่งได้ 10 อย่าง 1) ตัวรึโมท ไกปีน ซึ่งตรงไกปืนจะเป็น คันเร่ง-เบรค(หรือถอยหลัง) 2) ตัวเครื่องรับ (รีชีฟเวอร์) ติดตั้งที่ตัวรถมีสายอากาศไว้รับคลื่นจากตัวรึโมท 3) เซอร์โว เป็นอุปกรณ์บังคับเสี้ยวซึ่งรับสัญญาณ มาจาก รีชีฟเวอร์อีกที 4) มอเตอร์ และ สปีดคอนโทรลเป็นต้นกำลังของรถไฟฟ้า ซึ่งมีอยู่ สามสี่แบบ 5) มอเตอร์ขาว มีสองยี่ห้อ มาบูชิ กับ จอห์นสัน เหมาะสำหรับหัดขับประหยัด 6) มอเตอร์สต๊อค 23TURN มีกำลังแรงพอสมควร นิยมใช้ในการแข่งขันทั่วไป 7) มอเตอร์โมดิฟาย มีกำลังแรงมากน้อยตามระดับการโมดิฟาย 8) สปีดคอนโทรล คือ อุปกรณ์จ่ายไฟให้กับมอเตอร์โดยรับคำสั่งจากรีชีฟเวอร์ 9) การจ่ายไฟจะจ่ายมากน้อยตาม น้ำหนักมือที่กดลงรีโมทตรงไกปืน 10) สปีดคอนโทรลจะมีหลายระดับราคา ตั้งแต่ พันกว่าบาทจนถึงเกินหมื่นใน การนำมาใช้คู่กับมอเตอร์ต้องดูสเป็คของสปิดคอนโทรล

8 รูปที่ 2.4 แสดงสัญลักษณ์อุปกรณ์รถและมอเตอร์ 2.2.4 รีโมทคอนโทรล 2.2.4.1 มีผู้กล่าวถึง รึโมทคอนโทรลได้ดังนี้ (ศุภลักษณ์ เนตรโพธิ์แก้ว 2555) กล่าวว่า รีโมตคอนโทรล (remote control) คือเครื่องมือ อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ใช้สำหรับควบคุมการดำเนินการของตางๆ สิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องจักรต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างเช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง เครื่องเล่นดีวีดีจากระยะไกล โดย ไม่ใช้สายไฟเป็นตัว ส่งสัญญาณ แต่ใช้อินฟราเรดแทน (หรือใช้สัญญาณวิทยุแต่พบได้น้อย) ใช้ในที่ พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็กไม่กี่ก้อนเท่านั้น มีขนาดเหมาะมือ และมีปุ่มที่ ฟังก์ชันต่างๆ อยู่ครบ ครันโมตคอนโทรลเป็นการเรียกย่อมาจาก รีโมตสำหรับ คอนโทรลเลอร์ (remote controller)อีกต่อ หนึ่งและสามารถเรียกย่อลงได้อีก เหลือเพียง รีโมต (อ่านว่า รี-โหมด) ในภาษาไทยสามารถใช้คำไทย แทนได้เช่น ว่า เครื่องควบคุมระยะไกล หรือ อุปกรณ์ควบคุมระยะไกลริโมทคอนโทรล จะสามารถ สั่งงานได้ ต้องประกอบด้วย2สิ่งนี้คือ รหัส และ ตัวส่งสัญญาณ รหัส (Code) เป็นระบบสัญญาณจะนำ ออกได้ต้องมีตัวคลื่นพานำออกไป ตัวส่งไป สัญญาณ(Carrier) ตัวรับสัญญาณ เพื่อถอดหรือรับรหัสที่ ถูกส่งมาใช้ควบคุม อุปกรณ์ต่างๆ

9 รูปที่ 2.5 แสดงสัญลักษณ์รีโมทคอนโทรล 2.2.5 รถบังคับที่นิยมที่สุด 2.2.5.1 มีผู้กล่าว ถึงรถบังคับที่นิยมที่สุดไว้ดังนี้ (ธงไชย ไตรเพรช 2559) กล่าวว่ารถบังคับที่นิยมที่สุด คือรถบังคับวิทยุปอร์เช่ เอาใจคุณลูกกับของเล่น ชิ้นโปรดสุดเท่ กับรถบังคับวิทยุที่มีโมเดลเสมือนจริงยี่ห้อปอร์เช่ ถ้าเป็นรุ่นที่ฮิตที่สุดขอมอบให้กับ 911 GT3 รถยนต์ในตำนานที่สร้าง ประวัติในการแข่งขันมาอย่างยาวนาน สู่ความนิยมที่หลายคนชื่นชอบ และใฝ่ฝันที่ จะครอบครองที่ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของได้ แถมยังบังคับสนุกด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูก ออกแบบมาอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังมีรูปร่างที่เหมือนจริงทุก ประการ ราวกับจำลองปอร์เช่ มาวาง โชว์ในบ้านยังไงอย่างนั้น ในกรณีที่เป็นสินค้า ลิขสิทธิ์แท้ ขณะที่ในแง่ของของเล่นลูกน้อย ไอเทมชิ้น โปรดนี้ก็น่าโดนไม่เบาถือเป็นการสร้างความฝันและจินตนาการให้คุณลูกไปในตัวโดยของเล่นรถบังคับ วิทยุตัวนี้ ยังมีการจำลองทั้งภายในภายนอกที่เหมือนของจริงแบบไม่มีผิดเพี้ยน รุ่นนี้หากลองบังคับ ด้วยวิทยุซึ่งทำงานด้วยระบบไฟฟ้าจากถ่านไฟฉาย จะพบว่าความแรงของรถบังคับกำลังดี เหมาะกับ เด็กผู้ชายที่อยากซิ่งโดยเฉพาะ ทั้งจังหวะการบังคับทางตรงและบังคับทางเลี้ยว ตอนเลี้ยวยังเหมือน รถแข่งที่กำลัง Drift ในสนามยังไงอย่างนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งรถยนต์ในตำนาน และถ้าหากพูดกัน ในแง่ของของเล่น ก็จัดเป็นของเล่นสุดเท่น่าซื้อให้ลูกได้สะสม รุ่นนิยมเป็นโมเดลตัวแต่งสีฟ้าและสีแดง ให้เลือก เวลาบังคับผ่านวิทยุตัวรถสามารถวิ่งได้ทุกทิศทางเหมือนกับรถของเล่นรุ่นอื่นๆ เสียงฟันเฟือง ไม่ดังน่ารำคาญเพราะถูกออกแบบระบบมาอย่างดีเพราะพวงมาลัยชิ้นนี้จะทำให้รู้สึกเหมือนกำลังขับขี่ รถยนต์อยู่จริง เสมือนกับกำลังควบคุมเฟอรารี่ที่รักไปบนท้องถนนยังไงอย่างนั้นเชื่อว่าถ้าให้คุณลูกเล่น รถยนต์บังคับรุ่นนี้ก็คงจะเพลิดเพลินไม่เบา มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้เพื่อการบังคับ ตัว รถยนต์ที่ออกแบบมายังเป็นแบบเปิดประทุนสุดเท่ ไฮไลท์เด็ดอยู่ตรงนี้เองเพราะสามารถปิดปิดประทุน

10 ได้เหมาะกับคนที่ชอบงานโมเดลหรือนักสะสม รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่อยากได้ของเล่นสุดเทให้ลูกสาน ฝันกันไปตามระเบียบ รุ่นนี้ถ้าหากเป็นลิขสิทธิ์แท้ นอกจากจะสามารถบังคับให้เคลื่อนที่ได้ในทุก ทิศทางแล้ว ยังบังคับเปิดปิดประตูได้ด้วย ทำงานด้วยระบบแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ และมีแท่นชาร์จ ในกล่องให้เสร็จสรรพ อีกหนึ่งของเล่นนำเข้าน่าจับจองเป็นเจ้าของ รูปที่ 2.6 แสดงสัญลักษณ์รถบังคับที่นิยมที่สุด 2.3 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.3.1 Ricoh (2562) ได้กล่าวว่า ระบบอัตโนมัติแบบอัจฉริยะแมชชีนเสิร์นนิ่งเครือข่ายต่างๆ และ A สิ่งเหล่านี้ต่างทำให้ชีวิตการทำงานยุคปัจจุบันดูเหมือนหนังวิทยาศาสตร์เข้าทุกที่และเทคโนโลยี เหล่านี้โดยหลักการแล้วดูน่าตื่นเต้น แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักความหมายที่บ่อยครั้งเวลานำเรื่องพวกนี้มา คุยกันในกลุ่มเพื่อนร่วมอาชีพ สิ่งที่ได้กลับมามักเป็นแนวคิดที่อาศัยความเคยชินในการทำงานของแต่ ละคนมาปรับแต่งบริบทกันมากกว่าตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ แชท แบบ A1 ที่หลายครั้งการ ออกแบบอินเทอร์เฟซของแชทบอทนั้นมีทางเลือกที่หลากหลายมาก ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะที่ดีมี แนวโน้มที่จะทำงานอิงตามแพลตฟอร์ม ซึ่ง แหล่งพลังงาน ความสามารถ และ ปริมาณของงานที่ สามารถจัดการได้นอกจากนี้ยังต้องมีการผสานการทางระหว่างระบบที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหมายถึง แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกัน และมีปฎิสัมพันธ์กันแอพพลิเคชั่นอื่นได้ โดยมักรองรับอินเทอร์เฟช ในตลาด ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายทั้ง 2.3.2 จรัส บุญธรรมมา (2560) ได้กล่าวว่า เครื่องเล่นบังคับวิทยุ ทำหน้าที่ส่งรหัสวิทยุและ รหัสที่ส่ง สัญญาณไปที่เครื่องรับโดยใช้คลื่นวิทยุ เพื่อทำความเข้าใจรหัสนี้เครื่องเล่นวิทยุ โดย

11 เฉพาะที่จ่าย เครื่องส่งออกแบบให้เหมาะแก่การจับด้วยมือ มีปุ่มควบคุมใช้ ภายในเครื่องส่งมี แหล่งจ่ายของในพลังงาน ปกติใช้ควบคุมด้วยวิทยุกับSโมทคอนโทรลคือเครื่องเล่นที่ใช้รึโมทคอนโทรล มีสายเล่นใช้ขณะที่เครื่องเล่นวิ่งไม่ต้องใช้สายไฟ 2.3.3 นงลักษณ์ บรรยงวิจัย และคณะ (2563) ได้กล่าวว่า คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ต่างๆในชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงความถี่วิทยุ บนเส้นสเปกตรัมแม่เหล็ก ไฟฟ้า คลื่นวิทยุไม่ต้องอาศัย พลังตัวกลางในการเคลื่อนที่ ใช้ในการสื่อสาร มี 2 ระบบคือ A.M. และ F.m ความถี่ของคลื่น หมายถึง จำนวนรอบของการเปลี่ยนแปลงของคลื่นในเวลา 1 วินาที คลื่นเสียความถี่ช่วงที่หูของคนรับฟังได้ คือ ตั้งแต่ 20 เฮิรตช์ ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์ (1 KHz = 1,000H2) คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ความถี่สูง อาจมีตั้งแต่ 3 กิโลเฮิรตซ์ ไปจนถึง 300กิโลเฮิร์ท คลื่นวิทยุแต่ละช่วงความถี่จะถูกต้อง 2.3.4 มาเนตร์ กอบน้ำเพ็ชร และคณะ (2563) ได้กล่าวว่า รถบังคับเป็นอุปกรณ์เครื่องเล่น หรือแบบจำลองรถยนต์แบบต่างๆทีสามารถนำมาใช้เล่นได้โดยมีตัวสั่งการควบคุมการเคลื่อนที่โดยมีใช้ แบตเตอรี่เป็นพลังงานกำหนดให้ใช้งานด้านต่าง ๆ ตามความเหมาะสมที่เหมาะกับ2.3.5 ยุพิน สรรพคุณ (2548) ได้กล่าวว่า เนื่องจากในปัจจุบัน รถยนต์ต่างตามท้องถนน ต่างๆได้เปรียบเสมือน ปัจจัยที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่จำเป็นเพื่อความสะดวกสบายเนื่องจากรถยนต์มี ราคาที่แพงอีกทั้งราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นตลอดมาจึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาใช้บริการ รถโดยสาร หรือรถเช่าผู้เขียนจึงเกิดแนวความคิดที่จะทำระบบกันขโมยรถหรือขออนุมัติการใช้รถใน กรณีที่เป็นอู่รถยนต์โดยในการเช่ารถยนต์จะต้องมีการทำข้อมูลการเช่าก่อนจึงจะสามารถนำรถออก จากอู่รถยนต์ไปได้ดังนั้นระบบที่เป็นตันแบบขึ้นมานี้จะทำการส่งรหัสของรถคันนั้นๆที่มาทำข้อมูลการ เช่าเรียบร้อยแล้วไปยังรถยนต์คันที่เช่า 2.3 กรอบแนวคิดในการวิจัย รูปที่ 2.7 แสดงสัญลักษณ์กรอบแนวคิดในการวิจัย

12 2.4 แนวคิดเกี่ยวกับการพึงพอใจ มอส (Morse.1958:19) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง สภาวะจิตที่ปราศจาก ความเครียดทั้งนี้เพราะธรรมชาติของมนุษย์มีความต้องการ ถ้าความต้องการได้รับการตอบสนอง ทั้งหมดหรือบางส่วน ความเครียดก็จะน้อยลง ความพึงพอใจก็จะเกิดขึ้นและในทางกลับกันถ้าความ ต้องการนั้นไม่ได้รับการตอบสนอง ความเครียดและความไม่พึงพอใจก็จะเกิดขึ้น วรูม (Vroom.1964:8) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึงผลที่ได้จากการที่บุคคลเข้าไปมีส่วน ร่วมในสิ่งนั้น ทัศนคติด้านบวกจะแสดงให้เป็นสภาพความพึงพอใจในสิ่งนั้น และทัศนคติด้านลบจะ แสดงให้เห็นสภาพความไม่พึงพอใจนั่นเอง เมนาร์ด ดับบริล เชลลี่ (Maynard W.Shelly.1975:9) ได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับความพึง พอใจ ซึ่งสรุปได้ว่าความพึงพอใจเป็นความรู้สึก แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ความรู้สึกในทางบวกและ ความรู้สึกในทางลบ ความรู้สึกในทางบวกเป็นความรู้สึกที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดความสุข ความสุขนี้ เป็นความสุขที่แตกต่างจากความรู้สึกทางบวกอื่นๆกล่าวคือเป็นความรู้สึกที่มีระบบย้อนกลับความสุข สามารถทำให้เกิดความสุขหรือความรู้สึกทางบวกอื่นๆ ความรู้สึกทางลบ ความรู้สึกทางบวกและ ความรู้สึกที่มีความสัมพันธ์กันอย่างสลับซับซ้อนและระบบความสัมพันธ์ของความรู้สึกทั้งสาม นี้เรียกว่า ระบบความพึงพอใจ ความสำคัญของความพึงพอใจ ความพึงพอใจ เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้งานสำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็น งานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ นอกจากผู้บริหารจะดำเนินการให้ผู้ปฏิบัติงานให้บริการเกิดความพึง พอใจในการทำงานแล้ว ยังจำเป็นต้องดำเนินการที่จะให้ผู้มาใช้บริการเกิดความพึงพอใจด้วย เพราะ ความเจริญเติบโตของงานบริการ ปัจจัยที่เป็นตัวบ่งชี้ คือ จำนวนผู้มาใช้บริการ ดังนั้นผู้บริหารที่ชาญ ฉลาดจึงควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาให้ลึกซึ้งถึงปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆที่จะทำให้เกิดความพึงพอใจทั้ง ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ การวัดระดับความพึงพอใจ ที่กล่าวมาข้างต้น ความพึงพอใจจะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้บริการขององค์กรประกอบ กับระดับความรู้สึกของผู้มารับบริการในมิติต่างๆของแต่ละบุคคล ดังนั้นการวัดระดับความพึงพอใจ สามารถกระทำได้หลายวิธีต่อไปนี้ 1. การใช้แบบสอบถาม ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โยการขอความร่วมมือ จากกลุ่มบุคคลที่ต้องการวัด แสดงความคิดเห็นลงในแบบฟอร์มที่กำหนด 2. การสัมภาษณ์ ต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญพิเศษของผู้สัมภาษณ์ที่จะจูงใจ ให้ผู้ตอบคำถามตอบตามข้อเท็จจริง

13 3. การสังเกต เป็นการสังเกตพฤติกรรมทั้งก่อนการรับบริการ ขณะรับบริการและ หลังการรับบริการ การวัดโดยวิธีนี้จะต้องกระทำอย่างจริงจังและมีแบบแผนที่แน่นอนจะเห็นได้ว่าการ วัดความพึงพอใจต่อการให้บริการนั้นสามารถกระทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวก เหมาะสม ตลอดจนจุดมุ่งหมายของการวัดด้วย จึงจะส่งผลให้การวัดนั้นมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือได้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ประเมินโครงการในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม มี 3 ตอนดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นแบบเลือก (Check list) เกี่ยวกับ เพศ อายุระดับ การศึกษา และสถานภาพ ตอนที่ 2 การประเมินโครงการสื่อการเรียนการสอนเรื่อง การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นแบบประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ (บุญชู ศรีสะอาด และคณะ. 2545:103) มีเกณฑ์ประเมิน ดังนี้ ระดับ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ มากที่สุด ระดับ 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ มาก ระดับ 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ น้อย ระดับ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ น้อยมาก ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะหรืออื่น ๆ การวิเคราะห์ข้อมูล ในการประเมินโครงการในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล จากข้อมูลที่สร้างขึ้น และรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง ดังนี้ 1. นำข้อมูลตอนที่ 1 และตอนที่ 2 มาจัดระบบข้อมูลเพื่อเตรียมวิเคราะห์ผล หาค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้การประมวลผล จากคอมพิวเตอร์และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ (SPSS) นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากการวิเคราะห์ มา เปรียบเทียบกับเกณฑ์กำหนด ดังนี้ (บุญชู ศรีสะอาด และคณะ. 2545:103) ผลการประเมินเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ มากที่สุด ผลการประเมินเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ มาก ผลการประเมินเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง ผลการประเมินเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ น้อย ผลการประเมินเฉลี่ย 1.00 – 51.50 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ น้อยที่สุด

14 2. ข้อมูลตอนที่ 3 วิเคราะห์จากข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถามสามารถซึ่งความคิดเห็น และ ข้อเสนอแนะแนวทางโดยอิสระ นำเสนอในรูปแบบบรรยาย

บทที่ 3 วิธีดำเนินการจัดทำโครงงาน สื่อการเรียนการสอนเรื่อง การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์คณะผู้จัดทำได้มีวิธีการดำเนินการ ดังนี้ 3.1 ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูล 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.3 การออกแบบการจัดสร้างโครงงาน 3.4 กิจกรรม/แผนการดำเนินงาน 3.5 ประกอบและทดลองชิ้นงาน 3.6 ระยะเวลาแผนการดำเนินงาน 3.7 วิธีดำเนินพัฒนาไม้กวาดบังคับ 3.8 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.9 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูล 3.1.1 ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างไม้ กวาดบังคับ ที่ได้นำมาศึกษาเพื่อทดลองที่จะทำไม้กวาดบังคับ และการวิเคราะห์ของระบบจะต้อง ศึกษาระบบการทำงานของมอเตอร์และแผงวงจร 3.1.2 ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลการสร้างและวิธีออกแบบไม้กวาดบังคับ ศึกษาเก็บรวบรวม ข้อมูลของแผงวงจรและเคลื่อนวิทยุในการสร้างไม้กวาดบังคับ รวมทั้งการสอบถามข้อมูลจากบุคคลที่มี ความรู้ด้านนี้และนำข้อมูลทั้งหมดมาประยุกต์ใช้ในการสร้างไม้กวาดบังคับ 3.1.3 อธิบายขั้นตอนการทำงานของไม้กวาดบังคับวิทยุและการทำแบบประเมินความพึง พอใจ 3.1.4 แจกแบบประเมินความพึงพอใจของนักศึกษา สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจและ เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล และทำการประเมินหลังการใช้งานไม้กวาดบังคับวิทยุ 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2.1 ประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษา แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จำนวน 101 คน 3.2.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษา ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษา แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จำนวน 80 คน

16 2 3.3 การออกแบบการจัดสร้างโครงงาน 3.3.1 Flowchart แสดงขั้นตอนการออกแบบการจัดสร้างโครงงาน 1 วิเคราะห์ปัญหา/ประเมินความต้องการของของผู้ใช้ เริ่มต้น ศึกษาทฤษฎีและหลักการที่เกี่ยวข้อง อ กำหนดขอบเขตของชิ้นงานและฐานข้อมูลที่ใช้ในการ การ ออกแบบชิ้นงาน สร้างชิ้นงานจากการออกแบบ ปรับปรุง

17 จัดทำเอกสารรูปเล่ม 1 ทดสอบการทำงาน 2 ตรวจสอบโดยอาจารย์ ปรึกษา ใช้ชิ้นงาน ประเมินความพึงพอใจหลังใช้งาน เข้าเล่มโครงการ จบการทำงาน

18 3.4 กิจกรรม/แผนการดำเนินงาน อุปกรณ์ ชื่ออุปกรณ์ รถแม็คโครบังคับhuina-1550 15ch 2.4ghz มอเตอร์เกียร์ DC 3v-12v ไม้กวาดอัจฉริยะ ชุดล้อ + มอเตอร์ สายไฟ 28awg ภาพที่ 3.3.2 แสดงรูปอุปกรณ์ 3.5 ประกอบและทดลองชิ้นงาน 3.5.1 ถอดชิ้นส่วนของไม้กวาด 3.5.2 ตัดฐานข้างล่างและฝาข้างบนเพื่อจะใส่ล้อและมอเตอร์

19 ภาพที่ 3.3.3 ตัดฐานข้างล่าง ภาพที่ 3.3.4 ตัดฐานข้างบน 3.5.3 เจาะรูฐานข้างล้าง ภาพที่ 3.3.5 เจาะรูฐานข้างล่าง

20 3.5.4 ต่อสายไฟขั่วบวกและขั่วลบที่มอเตอร์ ภาพที่ 3.3.6 ต่อสายไฟขั่วบวกและขั่วลบที่มอเตอร์ 3.5.5 ติดชุล้อที่ฐานข้างล่าง ภาพที่ 3.3.7 ติดชุดล้อที่ฐานข้างล่าง 3.5.6 ต่อแผงวงจร ภาพที่ 3.3.8 ต่อแผงวงจร

21 3.6 วิธีดำเนินการพัฒนาไม้กวาดบังคับ 3.6.1 กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อกำหนดขอบเขตเนื้อหาแต่ละตอนในการทำไม้กวาด บังคับ ให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมาย 3.6.2 กำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เพื่อกำหนดวิธีการใช้ไม้กวาดบังคับ และขั้นตอนการ ใช้รีโมทคอนโทรล 3.6.3 พัฒนาการของผลงานสิ่งประดิษฐ์และมีการถอดบทเรียนจากผู้มีส่วนร่วมในการ ดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพความคิดสร้างสรรค์และมีรูปแบบการบริหารจัดการพัฒนา ศักยภาพความคิด 3.7 ระยะเวลาแผนการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม/ขั้นตอนการดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนินการ ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ.สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 ศึกษาข้อมูล 2 เสนอโครงการต่อคณะกรรมการและ ผู้บริหาร 3 วางแผนโครงการและเก็บรวบรวม ข้อมูล 4 ออกแบบและสร้างไม้กวาดบังคับ 5 ทดลองใช้งานและเก็บข้อมูล 6 จัดทำโครงการ 7 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงงาน 8 นำเสนอโครงการ

22 3.8 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.8.1 ค่าร้อยล่ะ (Percentage) โดยใช้สูตรดังนี้ เมื่อ P = ×100 เมื่อ P แทน ร้อยล่ะ F แทน ความถี่ที่ต้องแปลงเป็นร้อยล่ะ N แทน จำนวนข้อมูลทั้งหมด 3.7.2 การหาค่าเฉลี่ย (Mean) โดยใช้สูตรดังนี้ ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด N แทน จำนวนในกลุ่มตัวอย่าง 3.8.3 การหาค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้สูตรดังนี้ S = √ ∑ 2−(∑ 2) (−1) เมื่อ S แทน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ 2 แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวเลขยกกำลัง (∑ 2 ) แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละตัวเลขยกกำลัง N แทน จำนวนในกลุ่มตัวอย่าง 3.9 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.8.1 การวิเคราะห์ที่ได้จากแบบสอบถามนำมาวิเคราะห์ดังนี้ ตอนที่1 ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้สถิติร้อยล่ะ ตอนที่ 2 ข้อมูลความพึงพอใจในการเข้าใช้สื่อการเรียนการสอน เรื่องโปรแกรมกราฟิก วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยใช้หลักเกณฑ์และรายการประเมินตามวิถีการของ ลิเคอร์ท ดังนี้ 5 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจ มากที่สุด 4 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจ มาก 3 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจ ปานกลาง 2 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจ น้อย 1 หมายถึง มีระดับความพึงพอใจ น้อยที่สุด

23 เกณฑ์ในการแปลความหมายความพึงพอใจในการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานใน แต่ล่ะช่วงมีดังนี้ ค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.50-5.00 หมายถึงมีระดับความพึงพอใจ มากที่สุด ค่าเฉลี่ยระหว่าง 3.50-4.59 หมายถึงมีระดับความพึงพอใจ มาก ค่าเฉลี่ยระหว่าง 2.50-3.49 หมายถึงมีระดับความพึงพอใจ ปานกลาง ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.50-2.49 หมายถึงมีระดับความพึงพอใจ น้อย ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.00-1.49 หมายถึงมีระดับความพึงพอใจ น้อยที่สุด ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอื่นๆ วิเคราะห์โดยการบรรยาย

บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน การนำเสนอผลการวิเคราะห์โครงการประเภทสิ่งประดิษฐ์เพื่อต่อยอดนวัตกรรมใหม่และ เทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์เรื่องไม้กวาดบังคับ ผู้ศึกษาได้นำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลและการ แปลผลข้อมูลตามลำดับดังนี้ 4.1 ขั้นตอนนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 4.2 ผลการวิเคราะห์ 4.3 สรุปผลการประเมินแบบสอถามความพึงพอใจของใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ 4.1 ขั้นตอนนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 เป็นผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ว่าเป็นเพศขายหรือเพศ หญิง อายุ ระดับการศึกษา และสถานภาพ ตอนที่ 2 เป็นผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ ตอนที่ 3 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจโดยรวมและรายด้าน จำแนก ตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา และสถานภาพของกลุ่ม ตัวอย่าง 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 เป็นผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง แสดงไว้ในตารางที่ 1 ดังนี้ ตอนที่1 จำนวนร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา และสถานภาพ สภาพของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน (คน) ร้อยละ 1.เพศ 1.1 เพศชาย 1.2 เพศหญิง 41 39 51.2 48.8 รวม 80 100

24 สภาพของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน (คน) ร้อยละ 2.อายุ 2.1 15-20 ปี 2.2 21-25 ปี 67 13 83.8 16.3 รวม 80 100 3.ระดับการศึกษา 3.1 ปวช. 3.2 ปวส. 54 26 67.5 32.5 รวม 226 100 4.สถานภาพ 4.2 นักเรียน/นักศึกษา 80 100 รวม 80 100 จากตารางที่ 1 ผลวิเคราะห์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในการเข้าเยี่ยมชมต่อห้องน้ำของ วิทยาลัยการอาชีพแกลง ซึ่งผู้จัดทำโครงการได้ทำแบบทดสอบจำนวน 226 ชุด ตอนที่ 2 เป็นผลการวิเคราะห์เกี่ยวกับค่าความพึงพอใจในการใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและ เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ ซึ่งแสดงไว้ในตารางที่ 2 ดังนี้ ตอนที่2 ตารางแสดงความพึงพอใจโดยหาค่าความถี่และค่ารอยละ ที่ ด้าน ระดับความพอใจ ดีมาก 5 ดี 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 น้อย มาก 1 1 คุณภาพการใช้งานจริง 48 27 5 0 0 คิดเป็นร้อยละ 60 34 6.3 0 0 2 มีความคิดสร้างสรรค์ในงาน 43 33 4 0 0 คิดเป็นร้อยละ 53.8 41 5 0 0 3 ประหยัดและคุ้มค่า 49 24 7 0 0 คิดเป็นร้อยละ 61.3 30 8.8 0 0 4 การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 53 23 4 0 0 คิดเป็นร้อยละ 66.3 29 5 0 0

25 ที่ ด้าน ระดับความพอใจ ดีมาก 5 ดี 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 น้อย มาก 1 5 การตอบซักถาม/การนำเสนอผลงาน 44 32 2 2 0 คิดเป็นร้อยละ 55 40 2.5 2.5 0 6 มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้งานได้จริง 48 29 3 0 0 คิดเป็นร้อยละ 60 36 3.8 0 0 7 ความเหมาะสมของคุณภาพวัสดุที่นำมาใช้ 41 36 3 0 0 คิดเป็นร้อยละ 51.2 45 3.8 0 0 8 วัสดุความแข็งแรงทนทาน 47 26 7 0 0 คิดเป็นร้อยละ 58.8 33 8.8 0 0 9 วัสดุที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย 43 32 5 0 0 คิดเป็นร้อยละ 53.8 40 6.3 0 0 10 ความเหมาะสมของราคาวัสดุที่นำมาใช้งาน 47 30 3 0 0 คิดเป็นร้อยละ 58.8 38 3.8 0 0 11 มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาด ต่อการนำไปใช้งาน 47 32 1 0 0 คิดเป็นร้อยละ 58.8 40 1.3 0 0 จากตารางที่ 2 ความพึงพอใจโดยหาค่าความถี่และค่าร้อยละ พบว่าระดับความพึงพอใจของ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะอยู่เกณฑ์มากและมากที่สุด ตอนที่ 3 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจโดยรวม ตอนที่2 ตารางแสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อ ที่ ความคิดเห็น S.D ระดับ 1 คุณภาพการใช้งานจริง 4.54 0.615 มากที่สุด 2 มีความคิดสร้างสรรค์ในงาน 4.49 0.595 มาก 3 ประหยัดและคุ้มค่า 4.53 0.656 มากที่สุด 4 การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 4.61 0.584 มากที่สุด

26 ข้อ ที่ ความคิดเห็น S.D ระดับ 6 มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้งานได้จริง 4.56 0.57 มากที่สุด 7 ความเหมาะสมของคุณภาพวัสดุที่นำมาใช้ 4.48 0.573 มาก 8 วัสดุความแข็งแรงทนทาน 4.5 0.656 มากที่สุด 9 วัสดุที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย 4.48 0.616 มาก 10 ความเหมาะสมของราคาวัสดุที่นำมาใช้งาน 4.55 0.571 มากที่สุด 11 มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาด ต่อการนำไปใช้งาน 4.58 0.552 มากที่สุด จากตารางที่ 3 ผลวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของความพึงพอใจที่ใช้ สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ 4.3 สรุปผลการประเมินแบบสอถามความพึงพอใจของผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและ เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ จากการสำรวจความพอใจการใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับโดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจให้กับผู้ทดลองใช้สิ่งประดิษฐ์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์เรื่อง ไม้กวาดบังคับ โดยทำการประเมินจำนวน 80 ชุด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีสามารถรวบรวมได้ครบตามจำนวนที่แจกจ่ายไป ดังนั้นจึงขอ สรุปรายละเอียดให้ทราบดังนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 51.2% รองลงมาเป็นเพศหญิง จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 48.8% ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี จำนวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 83.8% รองลงมาช่วงอายุ 21-25 ปี จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 16.3% ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษาระดับชั้น ปวช. จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5% รองลงมาเป็นนักเรียน/นักศึกษา ระดับชั้น ปวส. จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 32.5% ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามสถานภาพ พบว่า เป็นนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด จำนวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 100% ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจที่ใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีเฉลี่ยเท่ากับ 3.30ค่าส่วน

27 เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.818เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็น มากที่สุดในเรื่อง การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง(X̅=4.61.D=0.584) มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาด ต่อการนำไปใช้งาน(X̅=4.58,S.D=0.552)มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ได้จริง(X̅=4.56,S.D=0.570) ความเหมาะสมของราคาวัสดุที่นำมาใช้งาน (X̅=4.55,S.D=0.571)คุณภาพการใช้งานจริง (X̅=4.54,S.D=0.615)ประหยัดและคุ้มค่า(X̅=4.53,S.D=0.656)วัสดุความแข็งแรงทนทาน (X̅=4.50,S.D=0.656)มีความคิดสร้างสรรค์ในงาน(X̅=4.49,S.D=0.595)การตอบซักถาม/การนำเสนอ (X̅=4.48,S.D=0.675)วัสดุที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย(X̅=4.48,S.D=0.616) การเหมาะสมของ คุณภาพวัสดุที่นำมาใช้(X̅=4.48,S.D=0.573)

บทที่5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การศึกษาเรื่อง “ประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาด บังคับ” เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้รับชมสื่อประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 5.1 สรุปผล 5.2 อภิปรายผล 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผล ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 51.2% รองลงมาเป็นเพศหญิง จำนวน 39คน คิดเป็นร้อยละ 48.8% ผู้ตอบ แบบสอบถามจำแนกตามอายุ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15-20 ปี จำนวน 67คน คิด เป็นร้อยละ 83.8% รองลงมาช่วงอายุ 21-25 ปี จำนวน 13คน คิดเป็นร้อยละ 16.3% ผู้ตอบ แบบสอบถามจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาระดับชั้น ปวช. จำนวน 54คน คิดเป็นร้อยละ 67.5% รองลงมาเป็นนักเรียน/นักศึกษาระดับชั้น ปวส. จำนวน 26คน คิดเป็นร้อยละ 32.5% ผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามสถานภาพ พบว่า เป็นนักเรียนนักศึกษา ทั้งหมด จำนวน 80คน คิดเป็นร้อยละ 100% ตอนที่ 2 ความคิดเห็นต่อสิ่งประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจที่ใช้สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีเฉลี่ยเท่ากับ 3.30ค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.818เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็น มากที่สุดในเรื่อง การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง(X̅=4.61.D=0.584) มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาด ต่อการนำไปใช้งาน(X̅=4.58,S.D=0.552)มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ได้จริง(X̅=4.56,S.D=0.570) ความเหมาะสมของราคาวัสดุที่นำมาใช้งาน (X̅=4.55,S.D=0.571)คุณภาพการใช้งานจริง (X̅=4.54,S.D=0.615)ประหยัดและคุ้มค่า(X̅=4.53,S.D=0.656)วัสดุความแข็งแรงทนทาน (X̅=4.50,S.D=0.656)มีความคิดสร้างสรรค์ในงาน(X̅=4.49,S.D=0.595)การตอบซักถาม/การนำเสนอ

29 (X̅=4.48,S.D=0.675)วัสดุที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย(X̅=4.48,S.D=0.616) การเหมาะสมของ คุณภาพวัสดุที่นำมาใช้(X̅=4.48,S.D=0.573) 5.2 อภิปรายผล จากการวิจัยให้ทราบผลว่า การประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับที่ทางคณะผู้วิจัยได้วัย และพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับเพื่อทดลอง ปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับและเพื่อศึกษาความคิดเห็น/ ความพึงพอใจของผู้ที่มีต่อการประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้ กวาดบังคับ จากผู้วิเคราะห์ข้อมูลทั่งไปของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อยู่ ในช่วงอายุ 15-20 ปี เป็นนักเรียน/นักศึกษาระดับชั้น ปวช. จากการสำรวจเห็นต่อการประดิษฐ์ด้านวัต กรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาดบังคับผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นมากที่สุดในเรื่อง ความแข็งแรงของโครงสร้าง รองลงมาได้แก่ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างไม้ กวาดบังคับ ความน่าสนใจในการดำเนินเรื่อง และน้อยที่สุดคือ ความสอดคล้องระหว่างเนื้อหากับ วัตถุประสงค์ ด้านการออกแบบ พบว่า ผู้ตอบแบบส่วนใหญ่มีความคิดเห็นมากที่สุดในเรื่อง การ นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 การเสนอแนะการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ 5.3.1.1 นำผลวิจัยไปใช้ด้านทำความสะอาด 5.3.1.2 ควรมีการดำเนินการวางแผนที่ดี 5.3.2 ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป 5.3.2.1 เพิ่มความเข็งแรงของล้อเพื่อวิ่งให้ทุกสภาพของพื้นผิว 5.3.2.2 เพิ่มความแข็งแรงของใบพัดกวาดฝุ่น 5.3.2.3 ปรับให้สามารถเช็ดฝุ่นเพิ่มได้

บรรณานุกรม จรัส บุญธรรมมา และคณะ. (พ.ศ.2560), เครื่องเล่นบังคับวิทยุ เข้าได้จาก http://www.rmutphysics.com/ (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) นงลักษณ์ บรรยงวิจัย และคณะ. (พ.ศ.2554). คลื่นวิทยุ เข้าได้จาก https://www.siweb1.dss.go.th/ (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) มาเนตร์ กอบน้ำเพ็ชร และคณะ. (พ.ศ.2559), รถบังคับวิทยุ เข้าได้จาก https://www.scimath.org/ (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) สันติ มงคลสุข และคณะ. (พ.ศ.2557). การแบ่งประเภทรถบังคับ เข้าได้จาก http://thairctoys.blogspot.com/2009/11/blog-post.html (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) ศุภลักษณ์ เนตรโพธิ์แก้ว และคณะ. (พ.ศ.2555). รีโมตคอนโทรล เข้าได้จาก http://self_all/selfaccess9/m3/527/more/lesson3/p12.php (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) ธงไชย ไตรเพรช และคณะ. (พ.ศ.2559). รถบังคับที่นิยมที่สุด เข้าได้จาก https://productnation.co/th (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2566) ประเภทไม้กวาดอัจฉริยะ เข้าได้จาก https://nunglen.com/best-smart-brooms/ (ค้นคว้าหาเมื่อ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566)

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก รูปภาพการปฏิบัติงาน

ภาคผนวก ข แบบประเมิน

แบบประเมินความพึงพอใจประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาปนะดิษฐ์ เรื่อง ไม้ กวาดบังคับ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม คำชี้แจ้ง : โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่อง ในช่องว่างให้ตรงกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด 1. เพศ 1. ชาย 2. หญิง 2. อายุ 1. 15-20ปี 2. 21-25ปี 3. อื่นๆ 3. ระดับการศึกษา 1. ปวช. 2. ปวส. 4. สถานภาพ 1. ผู้บริหาร/ครู 2. นักเรียน/นักศึกษา ตอนที่2 แบบประเมินความพึงพอใจสิ่งประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาปนะดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาด บังคับ คำชี้แจง : โปรดเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องระดับความคิดเห็นหรือความพึงพอใจของท่าน ข้อที่ รายการประเมิน ระดับความพึ่งพอใจ 5 4 3 2 1 1 คุณภาพการใช้งานได้จริง 2 มีความคิดสร้างสรรค์ในงาน 3 ประหยัดและคุ้มค่า 4 การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง 5 การตอบข้อซักถาม/การนำเสนอผลงาน 6 มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้งานจริง 7 ความเหมาะสมของคุณภาพวัสดุที่นำมาใช้งาน 8 วัสดุมีความแข็งแรง ทนทาน 9 วัสดุที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย 10 ความเหมาะสมของราคาวัสดุที่นำมาใช้งาน 11 มีความเหมาะสมของรูปร่าง ขนาด ต่อการนำไปใช้งาน ความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ......................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ......................................................

คิวอาร์โค้ดแบบประเมินความพึงพอใจประดิษฐ์ด้านวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาปนะดิษฐ์ เรื่อง ไม้กวาด บังคับ