The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 63201270084, 2022-09-27 11:15:47

โครงงาน

โครงงาน

รายวชิ า เคร่อื งกลไฟฟา้ และการควบคุม
(Traning set for Electrical Machines and Control)

นาย ศภุ มงคล พัดประดิษฐ์
นาย หสั วรรษ เกตุแจ้
นาย สุนทร จนั ทรม์ ณี

โครงงานนเี้ ปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาหลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) พ.ศ.2562
สาขางาน เมคคาทรอนิกส์ สาขาวชิ า เมคคาทรอนกิ ส์
วทิ ยาลยั เทคนคิ สัตหีบ
ปีการศกึ ษา 2562

รายวชิ า เครือ่ งกลไฟฟา้ และการควบคุม
(Traning set for Electrical Machines and Control)

นาย ศภุ มงคล พดั ประดิษฐ์
นาย หัสวรรษ เกตแุ จ้
นาย สุนทร จันทรม์ ณี

โครงงานนเี้ ปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาหลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) พ.ศ.2562
สาขางาน เมคคาทรอนิกส์ สาขาวิชา เมคคาทรอนกิ ส์
วทิ ยาลยั เทคนคิ สัตหีบ
ปีการศึกษา 2562

ใบเสนอโครงการ

สือ่ การเรยี นการสอนวิชา เคร่ืองกลไฟฟ้าและการควบคุม

ผูเ้ สนอ

1.นาย ศภุ มงคล พดั ประดษิ ฐ์ รหสั 63201270084
2.นาย หัสวรรษ เกตุแจ้ รหัส 63201270090
3.นาย สนุ ทร จันทร์มณี รหสั 63201270088

ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นปที ี่ 3

ทปี่ รึกษา 1. ..........................................................
(นางสาวพิชญช์ นก อ่มิ พิทักษ์)
อนุมัติ ..........................................
(นายสมบตั ิ อนิ ยนิ ) 2. ..........................................................
(นายอธวิ ฒั น์ เห็นชอบดี)
หวั หน้าสาขาวชิ าเมคคาทรอนิกส์

โครงงานนเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.)พ.ศ.2562
สาขางานเมคคาทรอนิกส์ สาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์
วิทยาลัยเทคนคิ สัตหบี
ปีการศกึ ษา 2565

ช่อื โครงงาน ใบรบั รองโครงการ
สาขางานวิชาเมคคาทรอนกิ ส์ วิทยาลัยเทคนคิ สัตหบี

ส่อื การเรียนการสอนวิชา เคร่ืองกลไฟฟ้าและการควบคมุ
(Traning set for Electrical Machines and Control)

โดย นายศภุ มงคล พัดประดิษฐ์ รหสั นกั ศกึ ษา 63201270084
นายสุนทร จนั ทร์มณี รหสั นักศึกษา 63201270088
นายหัสวรรษ เกตุแจ้ รหัสนกั ศึกษา 63201270090

ได้รบั อนุมตั ใิ หน้ บั เป็นสว่ นหน่ึงของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พ.ศ.2562
สาขาวชิ าเมคคาทรอนิกส์ วทิ ยาลยั เทคนิคสตั หบี

............................................หวั หนา้ สาขาวิชาเมคคาทรอนกิ ส์
( นายสมบัติ อนิ ยิน )

วนั ท่ี.......... เดือน.................... พ.ศ............

คณะกรรมการสอบโครงงาน

.............................................ประธานกรรมการ ...............................................กรรมการ

(นายสมบัติ อนิ ยนิ ) (นายสมบัติ ฆ้องส่งเสยี ง)

..............................................กรรมการ ...............................................กรรมการ

(นายอธิวฒั น์ เห็นชอบดี) (นางอนธุ ดิ า ทองพรวน)

...............................................กรรมการ ................................................กรรมการ

(นางสาวพชิ ญช์ นก อมิ่ พทิ ักษ์) (วา่ ทร่ี อ้ ยตรี ศฎิ ฒภิ ตั ธรรมเกสร)

...............................................กรรมการ .................................................กรรมการ

(นางสาววนสิ า ดลี แหละ) (ว่าทเ่ี รอื เอก สมประสงค์ รวยสวัสดิ์)

...............................................กรรมการ .................................................กรรมการ

(นางสาวณฐั สดุ า เกยี รติธิวัฒน์) (นายณฐั กฤต ไชยชะนะ)

แบบฟอร์มนำเสนอหวั ขอ้ วิชาโครงงาน (20127 – 8501)

1. สมาชิกกล่มุ 1. นายศุภมงคล พดั ประดิษฐ์ ระดบั ชน้ั ปวช.3/4

2. นายหสั วรรษ เกตแุ จ้ ระดบั ชัน้ ปวช.3/4

3. นายสุนทร จนั ทรม์ ณี ระดับชั้น ปวช.3/4

2. หวั ข้อโครงงาน สือ่ การเรียนการสอน วชิ า เครอื่ งกลไฟฟ้าและการควบคุม

3. วตั ถุประสงค์

1. เพอ่ื ศึกษาทำความเขา้ ใจเก่ียวกับรายวชิ า เครอื่ งกลไฟฟา้ และการควบคมุ

2. เพอื่ สร้างส่อื การสอนใน รายวิชา เครื่องกลไฟฟ้าและการควบคุม

3. เพอ่ื ใช้เป็นส่ือการเรียนการสอนใหน้ กั ศึกษาที่มีความสนใจในวิชา เคร่อื งกลไฟฟา้ และการควบคมุ

4. งบประมาณ 500 บาท

5. ทมี่ าและปัญหา

ปจั จบุ นั วิทยาลยั เทคนิคสตั หบี ได้เล็งเหน็ ศกั ยภาพด้านการพฒั นาสมรรถนะภาพของนักเรยี น

นกั ศึกษาจากการเรียนในสว่ นวิชาเครอื่ งกลไฟฟา้ และการควบคุม ซ่งึ เป็นสว่ นหน่ึงของสาขาวิชา ช่างเมค

คาทรอนกิ ส์ท่ีทางวทิ ยาลยั เทคนิคสตั หบี ให้ความสำคญั จงึ สนับสนุนใหน้ กั เรยี นนกั ศกึ ษาเรยี นรู้เก่ียวกบั

เครือ่ งกลไฟฟ้าและการควบคุมโดยการศึกษาผ่าน สือ่ การเรยี นการสอน เพ่อื ฝึกทกั ษะให้เรียนรู้เก่ียวกับ

เครือ่ งกลไฟฟา้ และการควบคุม และให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ต่อผู้เรยี น

คณะผูจ้ ดั ทำจึงได้เลง็ เห็นปัญหาทีเ่ กดิ ขึ้นจงึ เกิดแนวคิดในการแก้ไขปัญหาโดยสร้าง “สือ่ การ

เรียนการสอน วิชาเครื่องกลไฟฟา้ และการควบคุม” โดยใช้Contactor, Lamp, Switch, Timer Relay

เพื่อให้มีการศกึ ษาและนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้งานได้จริงในวิทยาลัยเทคนคิ สตั หีบ

โครงงาน เคร่ืองกลไฟฟ้าและการควบคุม

โดย นายศุภมงคล พัดประดิษฐ์

นายหสั วรรษ เกตแุ จ้

นายสนุ ทร จนั ทร์มณี

สาขาวชิ า เมคคาทรอนิกส์

สาขางาน เมคคาทรอนิกส์

ครทู ป่ี รกึ ษา นางสาวพิชญ์ชนก อิ่มพทิ ักษ์

ครูที่ปรึกษาร่วม นายอธวิ ัฒน์ เหน็ ชอบดี

จาํ นวนหน้า 57 หน้า

ปกี ารศึกษา 2562

____________________________________________________________________________

บทคัดย่อ

การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้าและการควบคุม คือการควบคุม ใหม้ อเตอร์ทางานตามวตั ถปุ ระสงคห์ รอื ตาม
ความตอ้ งการของผ้คู วบคุม เชน่ ควบคุมการเร่ิมทำงาน ( Starting)

ควบคุมความเร็ว (Speed) ควบคุมกำลัง (Power) รวมทั้งการกลับทิศทางหมนุ (Reverse) และควบคมุ การ
หยุดทำงาน(Stop) เปน็ ต้น

การเลือกใชอ้ ปุ กรณ์ควบคุมประกอบวงจรจึงมีความจาเปน็ เพ่ือ ความเหมาะสมกบั วตั ถุประสงคแ์ ละชนดิ
ของการควบคุม มอเตอร์ ซงึ่ สามารถแบ่งวธิ ขี องการควบคุมการควบคุม เคร่ืองกลไฟฟา้ หรือการควบคมุ มอเตอร์ คือ
การควบคุม ให้มอเตอร์ทางานตามวัตถุประสงคห์ รอื ตามความต้องการของผคู้ วบคุม เชน่ ควบคุมการเร่ิม ทางาน (
Starting) ควบคุมความเร็ว(Speed) ควบคมุ กาลงั (Power) รวมท้งั การกลับทิศทางหมุน (Reverse) และควบคมุ
การหยุดทำงาน (Stop)เปน็ ต้น

การเลอื กใช้อปุ กรณ์ควบคุมประกอบวงจรจงึ มคี วามจำเป็น เพือ่ ความเหมาะสมกับวตั ถุประสงคแ์ ละชนดิ
ของการควบคุมมอเตอร์

กิตตกิ รรมประกาศ

โครงงานฉบบั น้สี ําเรจ็ ลลุ ่วงไปได้ ก็ดว้ ยความชว่ ยเหลืออย่างดยี ง่ิ จาก ครูอธวิ ัฒน์ เหน็ ชอบดี ครทู ่ี
ปรึกษาโครงงาน ทีไ่ ด้ให้คําแนะนําและข้อคิดเหน็ ตา่ งๆ ในการจัดทาํ โครงงานมาโดยตลอด ขอขอบคุณ
คณะกรรมการสอบโครงงานทุกทา่ นท่ีกรณุ าให้คาํ แนะนําทีเ่ ป็นประโยชน์ ตลอดจนคณะครทู กุ ท่านท่ี
ไมไ่ ดก้ ลา่ วนามไว้ ณ ทีน่ ้ี

คณะผจู้ ัดทําโครงงานขอขอบคุณ สาขางานแมคคาทรอนกิ ส์ สาขาวชิ าแมคคาทรอนิกส์ ท่ีได้
เอื้อเฟ้ือสถานท่ีทําการทดลอง เคร่อื งมือและอปุ กรณใ์ นการทําโครงงาน อีกทงั้ ขอขอบคุณผูป้ กครอง ที่
สนบั สนนุ ทุนจดั ทาํ โครงงานในครั้งนี้

สารบัญ
เรอ่ื ง หน้า
บทคดั ยอ่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…ข
กิตตกิ รรมประกาศ………………………………………………………………………………………………………………………………………..…ค
สารบญั ตาราง……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…..ฉ
สารบัญรปู .…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…ช
บทท่ี 1 บทนาํ ...................................................................................................................................................................1

1.1 ทม่ี าและความสาํ คัญ………….………………………………………………………………………………………….………………….….1
1.2 วัตถุประสงค์………………………………………………………...........................................................................................1
1.3 ขอบเขตการทํางาน……..……….………………………………………………………………….…………………………………………...1
1.4 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ บั …….……….…………………………………………..……………………………………………………….…1
บทที่ 2 ทฤษฎีและงานวจิ ัยทเี่ กยี่ วข้อง..……………………………………………………………………………………………………………..2
2.1 ไทมเ์ มอร์ รีเลย์ (Timer Relay)…………………………………………………………………………………………………….………2
2.2 โอเวอรโ์ หลด รีเลย์ (Overload Relay)………………………………………………………………………………………….………4
2.3 Magnetic Contactor (แมกเนติก คอนแทคเตอร์)…..……………………………………………………………………………..5
2.4 เทอรม์ นิ อลบลอ็ ก (Terminal Block)………………………..…………………………………………………………………………..6
2.5 หางปลา (Wire Terminals)………………………………………..………………………………………………………………………..9
2.6 สายไฟ (Electric Wire)…………………………………………………..…………………………………………………….……………10
บทที่ 3 วธิ ีการดำเนินงาน…………..…………………………………………………………………………………………………………………..13
3.1 แผนผังขั้นตอนการดำเนนิ งาน………..…………………....………….……………………………………………………………..….…13
3.2 วสั ดอุ ุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการดำเนนิ งาน………………………..………………………………………………………………………………..15
3.3 ศกึ ษาขอ้ มูลอุปกรณไ์ ฟฟา้ ทนี่ ำมาตอ่ ในกลอ่ ง……………………………………………………………………….....………….…..17
3.4 ขนั้ ตอนการทำช้นิ งาน…………………………….…………………………………………………………………………………………….17

สารบญั (ต่อ)
บทที่ 4 ผลการดำเนนิ การ...............................................................................................................................................20

4.1 สื่อการสอนวิชามอเตอรไ์ ฟฟา้ และการควบคุม..................................................................................................20
4.2 ข้นั ตอนการทดลองสือ่ การเรยี นการสอนวิชามอเตอรไ์ ฟฟา้ และการควบคมุ ......................................................20
บทท่ี 5 การสรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ.............................................................................................................................26
5.1 สรปุ ผลการดำเนนิ การ........................................................................................................................................26
5.2 อภิปรายปัญหา...................................................................................................................................................26
5.3 ข้อเสนอแนะ.......................................................................................................................................................26
เอกสารอา้ งองิ .................................................................................................................................................................27
ภาคผนวก.......................................................................................................................................................................28
ภาคผนวก ก คูม่ อื การใช้งาน..........................................................................................................................................29
ภาคผนวก ข ประวตั ิผู้จัดทำ...........................................................................................................................................30
คณุ ลกั ษณะผลงานโครงการวทิ ยาลยั เทคนคิ สตั หบี
แบบรบั รองการนำผลงานส่งิ ประดษิ ฐใ์ ช้งานจริง

สารบญั ตาราง
เรื่อง หนา้
ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการดำเนนิ การ................................................................................................15
ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการดำเนนิ การ (ต่อ).......................................................................................16
ตารางที่ 4.1 ควบคมุ Lamp ดว้ ย Magnetic Contactor กบั Overload Relay………………………………………………...26
ตารางที่ 4.2 ทามเมอร์รเี ลย์ ต่อเข้ากบั Lamp…………………………………………………………………………………………………27
ตารางท่ี 4.3 ควบคุม Lamp ดว้ ย Magnetic Contactor กบั Overload Relay และตอ่ เขา้ กบั Timer relay……….28

สารบญั รปู ภาพ
เรือ่ ง หนา้
รปู ที่2.1 Timer Relay (ไทม์เมอร์ รีเลย์)แบบ General Timer.....................................................................................2
รูปท่2ี .2 Timer Relay (ไทมเ์ มอร์ รเี ลย)์ แบบ Digital Timer........................................................................................2
รูปที่2.3 Timer Relay (ไทมเ์ มอร์ รีเลย์)แบบ Twin Timer...........................................................................................2
รูปท2่ี .4 Timer Relay (ไทมเ์ มอร์ รีเลย)์ แบบ Star-Delta Timer.................................................................................3
รูปท2ี่ .5 สัญลกั ษณก์ ารทำงานของไทเมอร์ รเี ลย์............................................................................................................3
รปู ท่2ี .6 โอเวอรโ์ หลด รีเลย์ (Overload Relay)............................................................................................................4
รูปท่ี2.7 โอเวอร์โหลด รเี ลย์ (Overload Relay)............................................................................................................4
รูปท2่ี .8 สัญลกั ษณโ์ อเวอรโ์ หลด รีเลย์............................................................................................................................4
รูปท่ี2.9 Magnetic Contactor (แมกเนติก คอนแทคเตอร)์ ..........................................................................................5
รปู ท2่ี .10 ภาพแสดงการทำงานของแมกเนติก คอนแทคเตอร์.......................................................................................5
รปู ท่2ี .11 เทอร์มนิ อลบลอ็ ก (Terminal Block)............................................................................................................6
รูปท2่ี .12 เทอร์มินอลบล็อก แบบ OPEN TYPE.............................................................................................................6
รูปท่2ี .13 เทอร์มินอลบลอ็ ก ประเภท EUROPEAN TYPE ชนิด Screw Type Terminal Block.................................7
รูปท2ี่ .14 เทอร์มนิ อลบล็อก ประเภท EUROPEAN TYPE ชนิด Spring Type Terminal Block................................7
รปู ท่ี2.15 การเลือกใช้เทอรม์ นิ อลบล็อก.........................................................................................................................7
รูปท่2ี .16 รูปแบบของ Terminal จะตอ้ งใช้ถูกกับลกั ษณะงาน......................................................................................8
รูปที่2.17 หางปลา (Wire Terminals)...........................................................................................................................9
รปู ท่2ี .18 หางปลาเปลอื ย...............................................................................................................................................9
รปู ท2่ี .19 หางปลาแบบห้มุ ปลอกฉนวน..........................................................................................................................9
รูปท่2ี .20 หางปลาแบบเสยี บ..........................................................................................................................................9
รูปท่ี2.21 สายไฟ (Electric Wire)................................................................................................................................10

สารบญั รูปภาพ (ต่อ)
รูปท2่ี .22 ชนิดของสายไฟ.............................................................................................................................................10
รูปที2่ .23 ตวั อยา่ งสายไฟทองแดง................................................................................................................................11
รปู ท2่ี .24 ตัวอยา่ งสายไฟ Aluminum.........................................................................................................................11
รูปที2่ .25 ตัวอยา่ งภาพฉนวน.......................................................................................................................................12
รูปท่ี 2.27 ภาพหน้าตดั สายไฟ......................................................................................................................................12
รปู ท่ี 3.1 ข้นั ตอนการนำเสนองานของชุดสาธติ การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า....................................................................14
รูปที่ 3.2 แกะพลาสตกิ สท์ ่หี มุ้ บอร์ดออกแลว้ เตรยี มนำไปเจาะรู...................................................................................17
รูปที่ 3.3 วงจรที่ยึดเสร็จแล้ว........................................................................................................................................17
รูปที่ 3.4 การยำ้ หางปลา..............................................................................................................................................18
รปู ที่ 3.5 หางปลาทต่ี อ่ เสร็จแลว้ ...................................................................................................................................18
รูปที่ 3.6 และ 3.7 นำสายไฟตอ่ ระหวา่ งอุปกรณแ์ ละเทอรม์ ินอล.................................................................................18
รปู ที่ 3.8 ตรวจสอบบอร์ดท้งั 3 บอรด์ ..........................................................................................................................19
รปู ที่ 4.1 ภาพรวมของสอ่ื การเรียนการสอนวชิ ามอเตอรไ์ ฟฟา้ และการควบคุม...........................................................20
รูปที่ 4.2 เตรียมบอรด์ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ .............................................................................................................................21
รปู ท่ี 4.3 ใบงานท่ี 1......................................................................................................................................................21
รูปที่ 4.4 ต่อวงจรเข้าด้วยกัน........................................................................................................................................22
รปู ท่ี 4.5 วงจรท่ีติดแล้ว................................................................................................................................................22
รปู ท่ี 4.6 รปู วงจรทามเมอรร์ ีเลย์..................................................................................................................................23
รปู ที่ 4.7 รูปวงจรทามเมอร์รเี ลย์ ตอนทตี่ อ่ เสดแล้ว.....................................................................................................23
รูปท่ี 4.8 ใบงานท่ี 3 วงจร Magnetic กับ Timer relay.............................................................................................24
รปู ที่ 4.9 วงจรท่ยี ังไม่ติด..............................................................................................................................................24
รปู ที่ 4.10 วงจรทีต่ ่อตดิ แลว้ .........................................................................................................................................25

บทท่ี 1

บทนำ

1.1 ทมี่ าและความสาํ คญั

ปัจจุบันวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบได้เล็งเห็นศักยภาพด้านการพัฒนาสมรรถนะภาพและความสามารถ ของ
นักเรียนนักศึกษาจากการเรยี นในสว่ นวชิ ามอเตอร์ไฟฟ้าและการควบคุม ซง่ึ เปน็ ส่วนหน่ึงของ สาขาวิชาช่างเมคคา
ทรอนกิ ส์ ทางวิทยาลยั เทคนิคสัตหีบให้ความสำคญั จึงสนับสนนุ ใหน้ กั เรียน นกั ศกึ ษาเรียนรูเ้ กยี่ วกับมอเตอร์ไฟฟ้า
และการควบคุม โดยการศึกษาผ่าน สื่อการเรียนการสอน เพื่อฝึกทักษะให้เรียนรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไฟฟ้าและการ
ควบคมุ และให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ต่อผ้เู รยี นและการศกึ ษา

คณะผู้จัดทำจึงได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเกิดแนวคิดในการแก้ไขปัญหาโดยสร้าง “สื่อการเรียน การ
สอน วิชา มอเตอร์ไฟฟ้าและการควบคุม” โดยใช้วงจรและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้มีการศึกษาและ นําความรู้ไป
ประยกุ ตใ์ ชง้ านได้จริงในวิทยาลยั เทคนคิ สัตหบี

1.2 วัตถปุ ระสงค์

1.2.1 ศึกษาเกยี่ วกบั มอเตอรไ์ ฟฟ้าและการควบคุม

1.2.2 เพื่อสรา้ งส่อื การเรยี นการสอนในรายวิชามอเตอร์ไฟฟา้

1.2.3 เพอื่ ใชเ้ ป็นแบบฝึกทกั ษะใหน้ ักเรยี นนกั ศึกษามีความสนใจในวิชามอเตอร์ไฟฟา้ และการควบคุม

1.3 ขอบเขตการทาํ งาน

1.3.1 จดั ทำสื่อการสอนวชิ ามอเตอร์ไฟฟา้ และการควบคุม

1.3.2 จัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเกีย่ วกับมอเตอรไ์ ฟฟ้าและการควบคุม

1.3.3 จัดทำชุดฝกึ สอนเกยี่ วกับมอเตอรไ์ ฟฟา้ และการควบคมุ

1.4 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั

1.4.1 นักศกึ ษามคี วามรู้ ความเข้าใจในวิชามอเตอร์ไฟฟา้ และการควบคุม

1.4.2 นักศึกษามคี วามสามัคคีรว่ มมอื ร่วมใจในการทำงานและปฏิบัติหนา้ ทต่ี นเองได้

1.4.3 โครงงานสื่อการเรียนการสอนวิชามอเตอร์ไฟฟ้าและการควบคุม สามารถนำมาประยุกต์และใช้ใน
ชีวิตประจำวันของการเรยี นการสอนได้ดี

บทที่ 2

ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยที่เกย่ี วขอ้ ง
2.1 ไทมเ์ มอร์ รีเลย์ (Timer Relay)

ใชใ้ นวงจรจะมี 2 แบบ คอื General Timer กบั Digital Timer

รปู ท่ี2.1 Timer Relay (ไทมเ์ มอร์ รเี ลย)์ แบบ General Timer

รูปท่ี2.2 Timer Relay (ไทม์เมอร์ รเี ลย์)แบบ Digital Timer
เปน็ รเี ลย์ประเภทหนึ่งท่ีมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ตามที่เราต้องการ เช่น การตงั้ เวลาเปิด-ปิด (ON-
OFF) ไฟ, ตั้งเวลาเปิด-ปิด (ON-OFF) แอร์ หรือตั้งเวลาเปิด-ปิด (ON-OFF) ปั๊มน้ำ ในอาคารหรือที่พักอาศัย เป็นต้น แต่
ในทางด้านอุตสาหกรรม Timer Relay ได้ถูกนำมาใช้ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในเครื่องจักร หรือในแต่ละ
ภาคส่วนของระบบควบคุม เช่น ควบคุมการทำงานของพัดลมในตู้คอนโทรล, ควบคุมการทำงานของ Compressor เป็น
ต้น โดยการตั้งเวลาก็เป็นไปตามเงือ่ นไขของ Timer ในแต่ละรุ่น และ Timer Relay มีมากมายหลายชนิดในการเลือกใช้
งานให้เหมาะสม ดงั นี้
ชนดิ ของ Timer Relay
1.General Timer คอื ไทม์เมอรแ์ บบตัง้ เวลาการทำงานทว่ั ไป เมอ่ื มกี ารจา่ ยไฟเข้าไปไทมเ์ มอร์จะทำการจับเวลา
จนถึงเวลาทีก่ ำหนดไว้จะสง่ สัญญาณทำใหส้ ถานะหนา้ คอนแทคเปลย่ี น (จาก NO เปน็ NC) และเมื่อไม่มีการจ่ายไฟ Timer
กจ็ ะ Reset และตดั สญั ญาณการทำงานออก (ตัวอย่างในรูปที่ 2.1)
2. Twin Timer คือ ไทมเ์ มอร์ท่สี ามารถตั้งเวลาการทำงานแบบ เปิด-ปิด แยกอสิ ระกัน หรือสลับการทำงาน

รปู ที2่ .3 Timer Relay (ไทม์เมอร์ รเี ลย์)แบบ Twin Timer
3. Star-Delta Timer คอื ไทมเ์ มอรส์ ำหรับ Start Motor ในระบบ 3 เฟส เพอื่ ชว่ ยลดกระแส Peak ในชว่ งที่
เรม่ิ Motor ออกตวั (Start) ซงึ่ ออกแบบมาเพ่อื ใชก้ ับมอเตอร์โดยเฉพาะ

รูปที่2.4 Timer Relay (ไทมเ์ มอร์ รเี ลย)์ แบบ Star-Delta Timer
4. Digital Timer คือ ไทม์เมอร์ตัง้ เวลาแบบดจิ ิตอล ท่มี หี ลาย Function การทำงาน และสามารถต้งั
เวลาไดท้ ห่ี นา้ จอ (Key Pad) เลอื กหน่วยในการตง้ั เวลาได้ เช่น mSec, Sec, Min, Hour เปน็ ต้น (ตวั อยา่ งในรูป
ท่ี 2.2)
หลกั การทำงานของ Timer Relay
การทำงานของสวติ ชไ์ ทเมอร์ รเี ลย์
เมอื่ มกี ารจา่ ยกระแสไฟเขา้ ไปสู่ Timer Relay กจ็ ะทำให้ สญั ญาณไฟ (ON) ติด แสดงว่าแผงอเิ ล็กทรอนิกส์กำลัง
ทำการควบคุมใหเ้ ป็นไปตามเวลาท่ีกำหนด เมื่อถึงเวลาตามที่ได้ตัง้ ไว้ สัญญาณไฟ (UP) จะติด แสดงว่า Timer Relay ได้
เร่มิ ทำงาน
เม่ือถงึ เวลาท่ีกำหนด หน้าสัมผัสทป่ี ิดก็จะเปิด หน้าสมั ผัสทเ่ี ปิดกจ็ ะปดิ และเม่ือหยดุ จา่ ยกระแสไฟ กจ็ ะกลับไปสู่
สภาพเดมิ จงึ สามารถเรมิ่ ทำการต้ังเวลาใหม่ได้ อกี ครั้ง

รูปท่ี

2.5 สญั ลกั ษณ์การทำงานของไทเมอร์ รีเลย์

การประยกุ ต์ใชว้ งจร Timer Relay ทพ่ี บเหน็ ไดท้ ัว่ ไป

Timer Relay เป็นหัวใจสำคัญของการควบคุมอุปกรณ์แบบอัตโนมัติ เนื่องจาก Timer Relay สามารถนำไป
ประยุกต์ใช้งานได้อยา่ งหลากหลาย โดยวงจรทีเ่ ราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวนั น้ันจะได้แก่ วงจรสตารเ์ ดลตา้ วงจรเปิด-ปิด
แอร,์ หรอื วงจรเปิด-ปิด ปั๊มนำ้ เป็นต้น

2.2 โอเวอร์โหลด รีเลย์ (Overload Relay)

รูปท2่ี .6 โอเวอร์โหลด รเี ลย์ (Overload Relay)

โอเวอรโ์ หลด รเี ลย์ (Overload Relay) เปน็ อุปกรณ์ท่ชี ่วยในการตัดวงจรเพ่ือจ่ายกระแสไปให้โหลด ส่วนมากใช้
เป็นสวิตชเ์ ปดิ -ปิดแหลง่ จ่ายไฟไปทมี่ อเตอรห์ รือปัม๊ ซ่งึ จะใช้คกู่ บั แมกเนติก คอนแทคเตอร์

ประโยชน์ของโอเวอร์โหลด รเี ลย์ (Overload Relay)

ใช้ในการป้องกันกระแสเนื่องจากภาระกระแสเกินในงานมอเตอร์ไฟฟ้านั้นมีอยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่มาจากการใช้
งานมอเตอรเ์ กนิ พิกัดจนทำใหม้ อเตอร์เกิดความร้อนสูง สง่ ผลใหต้ วั มอเตอร์เกดิ ความเสยี หายได้ ทั้งฟิวส์หรือเบรกเกอร์ใน

การสตาร์มอเตอร์แบบ DOL นั้น จะมีกระแสเริ่มเดินสูงมาก ดังนั้นการเลือกใช้ฟิวสห์ รือเบรกเกอร์จึงต้องมีพิกัดกระแสท่ี
สูงข้ึน เพ่ือไว้ปอ้ งกันการปลดวงจรจากการเรม่ิ เดินมอเตอร์ และหากมอเตอรท์ ำงานเกนิ ขนาดจะทำใหเ้ กดิ ความร้อนสะสม
เพิ่มสูงขึ้น แต่ทั้งฟวิ ส์หรือเบรกเกอร์จะไม่สามารถป้องกันในส่วนนี้ได้ ทำให้ต้องตดิ ตั้งโอเวอร์โหลด รีเลย์เพิ่มเติม เพื่อทำ
หนา้ ท่ปี อ้ งกันมอเตอร์ในกรณที ่มี ีการใช้โหลดเกินดังนั้นจงึ มีความจำเป็นอยา่ งยงิ่ ท่คี วรจะต้องทำการตดิ ตัง้ โอเวอร์โหลดท่ีมี
ขนาดเหมาะสมในอปุ กรณส์ ตารท์ มอเตอร์ เพือ่ ทำการป้องกนั มอเตอรจ์ ากการเกดิ โอเวอร์โหลด หรือความร้อนเกนิ พิกัด ซึ่ง
จะสง่ ผลต่ออายุการใช้งานของมอเตอร์ได้

หลกั การทำงานของโอเวอรโ์ หลด รีเลย์ (Overload Relay)

ภายในโอเวอร์โหลดมีขดลวดความร้อน (Heater) พันกับแผ่นไบเมทัล (Bimetal หรือแผ่นโลหะผลิตจากโลหะ
ต่างชนิดกัน) เชื่อมติดกัน เมื่อได้รับความร้อนแผ่นโลหะจะโก่งตัว ขดลวดความร้อนซึ่งเป็นทางผ่านของกระแสไฟฟ้าจาก
แหล่งจ่ายไฟไปมอเตอร์ เมื่อกระแสไหลเข้าสูงในระดับค่าหนึ่ง ส่งผลขดลวดความร้อนทำให้แผ่นไบเมทัลร้อนและโก่งตัว
ดนั ใหห้ น้าสัมผสั ปกติปิด NC ของโอเวอรโ์ หลดที่ต่ออนุกรมอยู่กับแผงควบคุมเปิดวงจรตดั กระแสไฟฟา้ จากคอยล์แม่เหล็ก
ของคอนแทคเตอร์ทำให้หน้าสัมผัสหลัก (Main Contact) ของคอนแทคเตอร์ปลดมอเตอร์ออกจากแหล่งจ่ายไฟป้องกัน
มอเตอร์เสยี หายจากไฟเกนิ ได้

รปู ที่2.7 โอเวอรโ์ หลด รีเลย์ (Overload Relay) รูปที่2.8 ศญํ ลกั ษณ์โอเวอร์โหลด รเี ลย์

2.3 Magnetic Contactor (แมกเนติก คอนแทคเตอร์)

รปู ท2่ี .9 Magnetic Contactor (แมกเนติก คอนแทคเตอร์)

แมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ คอื อุปกรณส์ วิทชต์ ดั ตอ่ วงจรไฟฟ้า เพอื่ การเปิด-ปิด ของหน้าสัมผสั (Contact) ทำงาน
โดยอาศัยอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าชว่ ยในการเปดิ -ปดิ หน้าสัมผัส ในการตัดตอ่ วงจรไฟฟ้า เช่น เปิด-ปิด การทำงานของวงจร
ควบคุมมอเตอร์ นิยมใช้ในวงจรของระบบแอร์ , ระบบควบคุมมอเตอร์ หรือใช้ในการควบคุมเครื่องจักรต่างๆ โดยแมก
เนตกิ คอนแทคเตอรน์ นั้ จะมีสว่ นประกอบหลกั ท่สี ำคญั ต่อการทำงาน ไดแ้ ก่ แกนเหลก็ (Core) ,ขดลวด (Coil) ,หน้าสมั ผสั
(Contact) และสปริง (Spring)
หลกั การทำงานแมกเนติก คอนเเทคเตอร์

เมอื่ มีกระแสไฟฟา้ ไหลผ่านไปยังขดลวดสนามแม่เหลก็ ที่อยู่ขากลางของแกนเหล็ก ขดลวดจะสร้างสนามแม่เหล็ก
ที่แรงสนามแมเ่ หลก็ ชนะแรงสปรงิ ดึงให้แกนเหล็กชดุ ที่เคล่ือนที่ (Stationary Core) เคลอ่ื นที่ลงมาในสภาวะนี้ (ON) คอน
แทคทั้งสองชุดจะเปลี่ยนสภาวะการทำงานคือ คอนแทคปกติปิดจะเปิดวงจรจุดสัมผัสออก และคอนแทคปกติเปิดจะต่อ
วงจรของจุดสัมผัส เมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไปยังขดลวด สนามแม่เหล็กคอนแทคทั้งสองชุดจะกลับไปสู่สภาวะ
เดิม

รปู ที่2.10 ภาพแสดงการทำงานของแมกเนติก คอนแทคเตอร์
จะเห็นไดว้ า่ ส่วนประกอบต่างๆ คือ ปัจจยั สำคัญทจ่ี ำเปน็ ตอ่ กระบวนการทำงานของแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ แต่
ถ้าหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการทำงานให้ดี เราจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการทำงานด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลือกใช้แมกเนติก คอนแทคเตอร์ อย่างไรให้ได้ผล และเราควรเลือกใช้แมกเนติก คอนแทคเตอ ร์
ประเภทไหนให้เหมาะกับงาน รวมไปถงึ เรอื่ งอุปกรณ์เสรมิ ของแมกเนติก คอนแทคเตอรท์ จี่ ำเป็นต้องรู้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือ
ข้อมลู สำคัญทีจ่ ะช่วยเพิ่มประสิทธภิ าพและสามารถแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในการทำงาน

2.4 เทอรม์ ินอลบล็อก (Terminal Block)

รูปที่2.11 เทอร์มินอลบลอ็ ก (Terminal Block)
Terminal Block คอื อปุ กรณ์เช่อื มตอ่ ระหวา่ งสายไฟดา้ นหนง่ึ เข้ากับสายไฟอกี ด้านหนง่ึ หรอื ใชเ้ ปน็ จุดพัก
สายไฟ เพอ่ื ให้งา่ ยและรวดเร็วในการซอ่ มบำรุงอปุ กรณ์ หรือเพอ่ื เกบ็ สายไฟให้เป็นระเบยี บ สามารถตรวจสอบจดุ ท่มี ี
ปญั หาตา่ งๆ ไดง้ ่าย เราสามารถเหน็ เทอรม์ ินอลบลอ็ กได้ทุกท่ที ม่ี ีสายไฟ ไม่วา่ จะเปน็ โรงงานอตุ สาหกรรม อาคาร
สำนกั งานตา่ งๆ การทำงานของผู้รับเหมาระบบไฟฟา้
ประเภทของเทอร์มนิ อลบลอ็ ก Terminal Block
Terminal Block มีหลากหลายประเภทดว้ ยกันแต่ทนี่ ยิ มใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมมี 2 ประเภท
1.ประเภท OPEN TYPE
OPEN TYPE เป็นเทอร์มินอลท่ีสามารถหาซื้อไดท้ ัว่ ไป ราคาถูกแต่ไท้สามารถป้องกนั อนั ตรายจากไฟฟ้าได้ถา้ ไป
สมั ผสั โดน เน่ืองจากไม่ได้รับมาตราฐาน IP 20 และทนอุณหภูมไิ ด้ต่ำ

รูปท2ี่ .12 เทอร์มนิ อลบล็อก แบบ OPEN TYPE
2.ประเภท EUROPEAN TYPE

EUROPEAN TYPE เปน็ เทอร์มินอลที่ถกู ออกแบบมาเพ่ือเพิ่มความปลอดภยั ใหก้ ับผู้ใชง้ าน IP20 และสะดวก
รวดเร็วในการซ่อมบำรงุ อุปกรณ์ โดย EUROPEAN TYPE ถกู ผลติ และทดสอบตามมาตราฐานสากลได้แก่
IEC,UL,CSA,DIN และ VDE วัสดเุ ปน็ พลาสติกวิศวกรรม Polyamide ได้รับมาตราฐาน UL94-V0 เพือ่ ป้องกันการลามไฟ
ซ่งึ สามารถแบง่ ประเภทอย่างงา่ ยด้วยลกั ษณะการเขา้ สาย 2 แบบ คอื แบบสกรู (Screw Type) และแบบสปริง (Spring
Type)
2.1) ชนิด Screw Type Terminal Block

ลักษณะการใชง้ านจะเปน็ แบบขนั สกรูลงไปเพื่อบบี รดั สายไฟให้แนน่ เป็นที่นยิ มใชก้ ันแพรห่ ลายเนื่องจากราคา
คอ่ นข้างถูก แต่ไม่เหมาะสำหรบั หน้างานทม่ี ีแรงสนั่ สะเทอื นมากๆ เพราะจะทำให้สกรูมีการคลายตวั จนทำให้สายไฟหลวม
จนทำให้เกดิ การลัดวงจรของสายไฟได้

รูปที่2.13 เทอรม์ ินอลบล็อก ประเภท EUROPEAN TYPE ชนิด Screw Type Terminal Block
2.2) ชนดิ Spring Type Terminal Block

สามารถเข้าสายได้ง่ายและสามารถเข้า-ถอดสายได้หลายครั้ง และหลังจากเข้าสายแล้วสายจะแน่นดึงออกยาก
ทำให้ง่ายตอ่ การตดิ ตงั้ และยังเหมาะกบั สภาพหนา้ งานที่มกี ารสน่ั สะเทอื น ไมต่ อ้ งทำการ Maintenance บอ่ ยๆ

รูปท2ี่ .13 เทอรม์ นิ อลบลอ็ ก ประเภท EUROPEAN TYPE ชนดิ Spring Type Terminal Block

การเลือกใช้เทอรม์ ินอลบล็อก / terminal block
การเลอื กใช้ Terminal ตอ้ งคำนึงถึง

รปู ท่2ี .14 การเลือกใชเ้ ทอรม์ นิ อลบล็อก
1.การทนกระแสไฟฟา้

การเลอื กเทอรม์ ินอลบลอ็ ก ต้องเลอื กเทอรม์ ินอลบลอ็ กทที่ นกระแสไฟได้ตามสเป็คทต่ี อ้ งการใชง้ าน ข้อดขี องการ
เลอื กเทอรม์ ินอลบลอ็ กท่ีทนกระแสไฟ จะชว่ ยรักษา Contact และแผน่ ทองแดงที่เปน็ ตัวนำกระแส ไมใ่ ห้เกิดความรอ้ นท่ี
สงู เกนิ พิกัด ซง่ึ จะสง่ ผลให้ แผน่ ทองแดงและบอด้ี ไหมไ้ ด้
2.การทนแรงดนั ไฟฟา้ ตามมาตรฐานสากล

การเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอนั้นคือ พิกัดแรงดัน การเลือกเทอร์มินอลบล็อก ควรเลือกที่ทน
แรงดันได้ตามสเป็คที่ต้องการใช้งาน เพราะว่า แต่ละขนาดของ เทอร์มินอลบล็อกถูกออกแบบ Contact และแผ่นทอง
ทองแดงมาเพอื่ ลองรบั การใชง้ านทไ่ี มเ่ ทา่ กัน
3.ขนาดของสายไฟท่ีตอ้ งการตอ่ สาย

การเลอื กขนาดสายไฟฟา้ ใหม้ ีความเหมาะสมกบั อุปกรณ์ตอ่ สาย (Terminal Block) ควรเลือกเทอร์มนิ อลบลอ็ ก
ทม่ี ีขนาดช่องเสยี บสายหรือเสน้ ผ่านศนู ย์กลางทีพ่ อดี ซ่ึงมีหน่วยเป็น mm.
4.การทนอณุ หภมู ิขณะใช้งาน

ควรเลือกอปุ กรณ์ที่ผลติ จากวัสดุทไ่ี ด้รบั มาตรฐาน เพราะเวลาใช้งานจริงนน้ั จะตอ้ งพบเจอ สภาวะทไี่ มค่ าดคิด
เช่น อุณหภูมิ ฝนุ่ และนำ้ สาเหตุเหลา่ น้ีจะทำใหอ้ ปุ กรณ์ กรอบแตก และเส่ือมสภาพลง
5.มาตรฐานการลามไฟ

ต้องเลือกเทอร์มินอลบล็อกที่ได้มาตรฐาน UL94-V0 เนื่องจากเป็นมาตรฐานสากลของป้องกันการลามไฟ
สามารถดบั เปลวไฟด้วยตวั อุปกรณ์เองภายใน 5 วนิ าที เนือ่ งจากเทอร์มนิ อลบลอ็ กน้ีสรา้ งจากวัสดทุ ี่ทนตอ่ ความร้อน

6.รูปแบบของ Terminal จะต้องใช้ถูกกบั ลกั ษณะงาน
เทอรม์ นิ อลบล็อกมีดว้ ยกันอย่หู ลายชนดิ การใชง้ านของเทอรม์ ินอลบลอ็ กนน้ั ข้ึนอยกู่ ับหลายๆองค์ประกอบ เชน่

การตดิ ต้งั CT (Current Transformer) กับ Power Meter ควรเลือกเทอรม์ ินอลบลอ็ กท่ีเปน็ Instrument isolating
terminal with screw connection เพ่อื ใหง้ า่ ยต่อการซ่อมบำรุง เปน็ ต้น

รปู ที่2.15 รูปแบบของ Terminal จะต้องใชถ้ กู กับลักษณะงาน
7.ความแขง็ แรงของการขันเกลียว

การยดึ สายทน่ี ิยมและใชก้ ันมากท่สี ุดคือ การเข้าสายแบบ Screw ใช้หลกั การยดึ สายดว้ ยสกรบู บี อัดลอ็ ค ใหก้ าร
ยึดแนน่ ทีด่ ี ควรเลอื กวัสดุทท่ี ำจากทองแดงชบุ ดบี ุกเพ่ือเพ่มิ ความแขง็ ในการขันน็อต เพอ่ื ความปลอดภยั ที่สูงกวา่
8.มแี รงสน่ั สะเทอื นหรือไม่

แรงสัน่ สะเทอื นสามารถเกดิ ขน้ึ ได้กับงานหลายประเภท ถา้ หากสภาพหนา้ งานมแี รงสั่นสะเทอื นควรเลอื กใช้เทอร
มินอลบล็อกแบบสปริง เพ่อื ลดปัญหาการคลายตัวของนอ็ ต ซงึ่ เปน็ อีกวิธหี น่ึง ทเี่ ทอรม์ นิ อลบลอ็ กถกู ออกแบบขึน้ มา
2.5 หางปลา (Wire Terminals)

รูปท2่ี .16 หางปลา (Wire Terminals)
หางปลาเป็นอุปกรณส์ ำหรับเชือ่ มตอ่ สายไฟกับเทอรม์ ินอลตา่ งๆ โดยการตอ่ หางปลากบั สายไฟทำได้โดยการลอก
ปลายสายไฟแล้วสวมหางปลาให้ทองแดงของสายไฟสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะของหางปลา แล้วใช้คีมย้ำหางปลา ( Wire

Crimper) ย้ำที่ตัวหางปลาเพื่อทำให้ยึดติดกับสายไฟให้แน่นการใช้หางปลาจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างสายไฟกับ
เทอร์มินอลทำได้โดยง่าย เนื่องจากไม่ต้องถอดสกรูออกมาทั้งหมด เพียงแค่ขันสกรูให้หลวม แล้วสอดหางปลาเข้าไปที่
เทอร์มินอล แล้วขันสกรูให้แน่น ก็สามารถยึดสายไฟเข้ากับเทอร์มินอลได้ประเภทของประเภทของหางปลา (Wire
Terminals)

หางปลาแบ่งออกเปน็ 3 ประเภทดงั น้ี
1.หางปลาเปลอื ย มรี าคาประหยัด นำไปประยกุ ต์ใชง้ านไดห้ ลากหลาย

รูปที2่ .17 หางปลาเปลอื ย
2.หางปลาแบบหุ้มปลอกฉนวน ทนตอ่ อุณหภูมสิ งู เพมิ่ ความแนน่ หนาในการเชื่อมต่อสาย ป้องกันสิ่งรบกวน

รูปท่2ี .18 หางปลาแบบหุม้ ปลอกฉนวน
3.หางปลาแบบเสียบ เชื่อมต่อสายไฟได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว เหมาะกับงานที่มีการเคลื่อนย้าย ซึ่งหางปลาแต่ละ
ประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกหางปลาให้ตรงกับการใช้งานจะช่วยลดต้นทุน ป้องกันความ
เสียหายท่ีจะเกดิ ข้ึน และยังชว่ ยลดเวลาการทำงานได้อีกดว้ ย

รปู ที่2.19 หางปลาแบบเสียบ

2.6 สายไฟ (Electric Wire)

รูปท2ี่ .20 สายไฟ (Electric Wire)
สายไฟฟ้า คือ วัสดทุ ีป่ ระกอบไปดว้ ยธาตโุ ลหะทมี่ ีคุณสมบตั ใิ นการนำไฟฟา้ และนำความรอ้ นไดด้ ี เนือ่ งจากเนือ้
โลหะที่มีความแขง็ และเหนยี ว โดยเฉพาะทองแดงทสี่ ามารถนำมาแปรรปู ไดต้ ามตอ้ งการ สายไฟแต่ละชนิดจะได้รบั การ
ออกแบบแตกตา่ งกันออกไปตามโครงสรา้ งและคณุ สมบตั กิ ารใชง้ าน เชน่
1.สายที่ประกอบไปดว้ ยตวั นำไฟฟา้ เพียงอยา่ งเดยี ว (Conductor)
2.สายทปี่ ระกอบดว้ ยฉนวนหมุ้ ตวั นำไฟฟา้ (Insulation)
3.สายทปี่ ระกอบด้วยเปลอื กหมุ้ หรือช้ันป้องกนั เสริมเปน็ สว่ นประกอบอยภู่ ายใน(Sheath)

รูปที่2.21 ชนิดของสายไฟ

ส่วนประกอบของสายไฟ (Electric Wire)
1. ตวั นำไฟฟา้ (Conductor)

ทำหน้าที่ส่งผา่ นกระแสไฟฟา้ หรือสัญญาณไฟฟ้า ตัวนำไฟฟา้ ทำจากโลหะทม่ี ีคา่ ความตา้ นทานไฟฟา้ ต่ำและมีคา่ ความนำ
ไฟฟา้ สูง ซึง่ โลหะทนี่ ยิ มใช้ทำเปน็ ตัวนำไฟฟา้ ได้แก่ ทองแดง และอลูมิเนยี ม โดยมีคณุ สมบตั ิ ดงั น้ี

ทองแดง เปน็ โลหะทม่ี คี า่ การนำไฟฟา้ สงู มาก (สงู เปน็ อนั ดบั สองรองจากโลหะเงิน) มคี วามแขง็ แรง สามารถ
นำมารีดเปน็ เส้นลวดขนาดเลก็ และดัดโค้งงอได้โดยไม่เปราะหกั ง่าย นำความร้อนไดด้ ี แต่มนี ำ้ หนักค่อนข้างมาก และราคา
สงู กวา่ อลมู ิเนียม ดงั นนั้ จงึ นยิ มใช้ทองแดงเป็นตัวนำไฟฟา้ สำรหบั สายไฟฟา้ ทใี่ ชต้ ิดตั้งในอาคารและติดตงั้ ใต้ดนิ
(Underground cable)

รปู ที่2.22 ตวั อยา่ งสายไฟทองแดง

อลมู ิเนยี ม มีคา่ การนำไฟฟา้ ตำ่ กวา่ ทองแดง (ประมาณ 62% ของทองแดง) แต่เปราะหักไดง้ า่ ยกวา่ จึงไมส่ ามารถ
รีดเปน็ เส้นลวดขนาดเล็กมากได้ อลูมิเนยี มมขี ้อได้เปรียบทองแดงคอื มนี ้ำหนักเบากวา่ มาก (อลมู ิเนยี มมีน้ำหนักประมาณ
1 ใน 3 ของทองแดงท่ีปรมิ าตรเท่ากนั ) และราคาถูกกวา่ ดงั นนั้ อลูมเิ นยี มจงึ เหมาะสำหรับทำเปน็ ตวั นำของสายไฟฟา้ ที่
ติดตงั้ แบบแขวนลอยในอากาศ เชน่ สายส่งไฟฟา้ แรงสูงเหนอื พ้นื ดนิ ที่ต้องเดนิ เปน็ ระยะทางไกล ทำใหก้ ารลงทนุ ในสายส่ง
และโครงสรา้ งเสาและอุปกรณร์ บั นำ้ หนกั นอ้ ยลงจากนำ้ หนกั ท่ีเบากวา่ ของสายตัวนำอลมู ิเนยี ม และเนอื่ งจากอลมู ิเนียม
เปราะหักไดง้ ่ายกวา่ ทองแดง ดงั นน้ั จงึ ไมน่ ยิ มใชท้ ำเปน็ ตัวนำสายตีเกลยี วหรือสายอ่อนขนาดเลก็ และตวั นำท่ีตดิ ตั้งใน
อาคารซงึ่ ต้องการการดัดโคง้ ของสายในการตดิ ตัง้ มากกวา่

รูปท่ี2.23 ตัวอย่างสายไฟ Aluminum

2. ฉนวน (Insulation)
ทำหน้าที่ป้องกันกระแสไฟฟ้าไม่ให้ไหลผ่านไปยังส่วนอื่นๆที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่นไฟรั่ว หรือไฟฟ้า

ลัดวงจร ฉนวนส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกโพลีเมอร์หรือยางที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและป้องกันของเหลวไหลผ่าน
สามารถป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าไหลผ่านได้ วัสดุที่ใช้ทำฉนวนมดี ้วยกนั หลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบตั ิทีแ่ ตกต่างกันออกไป
ซึ่งวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด คือ โพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride: PVC) และ ครอสลิงค์ โพลีเอททีลีน (Cross-
Linked Polyethylene: XLPE)

ฉนวน PVC มคี วามนิม่ และอ่อนตัว สามารถดดั โคง้ งอได้งา่ ย นิยมใชเ้ ปน็ ฉนวนสายแรงดันต่ำ โดยเฉพาะสายทีใ่ ช้
ติดตั้งในอาคารเนือ่ งจาก PVC มีคุณสมบัตติ ้านทานการลุกไหม้ไฟในตวั เอง ฉนวน PVC ใช้กับสายไฟฟ้าท่ีมีพกิ ัดอุณหภูมิ
ตัวนำสูงสุด 70 oC

ฉนวน XLPE ผลิตโดยการทำให้ โพลเี อททลี นี (PE) เกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมเี ปลย่ี นเปน็ ครอสลิงค์ โพลเี อททลี นี (XLPE)
ซึ่งมีความแข็งแรงและทนความร้อนได้มากขึ้น ฉนวน XLPE ใช้กับสายไฟฟ้าที่มีพกิ ัดอุณหภูมิตัวนำสูงสุด 90 oC นิยมใช้
เปน็ ฉนวนสายไฟฟ้ากำลัง โดยเฉพาะสายไฟฟ้าแรงดนั สูง ฉนวน XLPE มคี ณุ สมบัติทีเ่ หนือกวา่ PVC ได้แก่ ทนอุณหภูมิได้
สูงกว่า มีความแข็งแรงมากกว่า ความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่า ป้องกันการซึมผ่านของนำ้ ได้ดกี ว่า แต่มีข้อเสียคือเมื่อติดไฟ
แลว้ จะลุกลามไฟได้อยา่ งรวดเรว็ จึงไม่นิยมใชส้ ายไฟฟา้ ฉนวน XLPE ตดิ ต้งั ในอาคาร ยกเว้นแตเ่ ป็นสายท่อี อกแบบให้ผ่าน
การทดสอบการลกุ ลามไฟเป็นพิเศษ

รูปท่ี2.24 ตวั อย่างภาพฉนวน
3. เปลอื กนอก (Sheath)

เปลือกนอก หรือ Over Sheath คอื พลาสติกโพลิเมอร์ทอ่ี ยูช่ ้ันนอกสดุ ของสายไฟฟ้า ทำหน้าทป่ี กปอ้ งสายไฟฟา้
จากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น การขูดขีดระหว่างติดตั้ง แรงกระแทกกดทับ แสงแดด น้ำและความชื้น และการกัดกร่ อน
จากสภาพแวดล้อมตา่ งๆ เชน่

PVC มีคุณสมบตั เิ ช่นเดยี วกับฉนวนพวี ซี ีเหมาะกบั สายไฟฟา้ ทใ่ี ชต้ ิดตง้ั ภายในอาคาร
PE มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการขูดขีดและแรงกระแทกกดทับได้ดี และป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดี แต่มี
ขอ้ เสยี เรอื่ งการลุกลามไฟเชน่ เดยี วกบั ฉนวน XLPE ดงั นั้นจงึ เหมาะสำหรบั ใชเ้ ปน็ เปลอื กของสายท่ใี ช้ตดิ ตงั้ ใต้ดนิ
LSHF (Low Smoke Halogen Free) พัฒนาขึ้นสำหรับสายไฟฟา้ ที่ใช้ติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภยั
มากเป็นพเิ ศษ เนอื่ งจากเปลือก LSHF มีคุณสมบัติต้านทานการลุกลามไฟ ควนั น้อยและไมป่ ลอ่ ยกา๊ ซท่ีมีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อ

ถกู ไฟไหม้ มีข้อเสียคือ ความแขง็ แรงไม่สูงมากเทา่ PVC และ PE และไม่เหมาะกบั การตดิ ต้ังแบบฝังดิน เนอ่ื งจากมีการดูด
ซมึ ความชนื้ สูง

รูปท่ี 2.25ตัวอยา่ งภาพแสดงเปลือกนอก Sheath
ช่อื เรยี กสายไฟทช่ี ่างนิยมเรียก

1.สายเด่ยี ว หรือ สายกลม หมายถึง สายไฟ THW
2.สายตีก๊ฟิ หรือ สายแบน หมายถงึ สายไฟ VAF
3.สายฝงั ดนิ หมายถึง สายไฟ NYY
4.สายอ่อน สายฝอย หมายถึง สายไฟ VCT
5.สายคอนโทรล หมายถงึ สายไฟ VSF และ CVV

รปู ท่ี 2.26 ภาพหน้าตัดสายไฟ

บทที่ 3
วธิ กี ารดำเนนิ งาน
ในการศึกษาสร้างสื่อการเรียนการสอนวิชา มอเตอร์ไฟฟ้าและการควบคุม ที่ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน
ในแผนกวิชาช่างเมคคาทรอนิกส์ โดยมีรายละเอียดในการจัดซื้ออุปกรณ์และวิธีการออกแบบติดตั้ง ซึ่งได้ทำการ
กำหนดวิธีการดำเนนิ การดังตอ่ ไปน้ี
3.1 แผนผังขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน

เริ่มต้น

ศกึ ษาทฤษฎเี กยี่ วกับวชิ า
ไมโครคอนโทรลเลอร์

ออกแบบชุดฝกึ การควบคุมของ
ไมโครคอนโทรลเลอร์

จดั หาวสั ดุอุปกรณ์

1

1

ประกอบอุปกรณ์ควบคมุ ลงบอร์ด
จำลอง

ทดสอบการทำงานของ ไม่ผ่าน
อุปกรณ์บนบอร์ดจำลอง

ผ่าน

สรปุ ผลการทำงานและจัดทำรปู เลม่ ของแตล่ ะบอร์ด
อปุ กรณ์

จบการทำงาน
รปู ท่ี 3.1 ข้ันตอนการนำเสนองานของชดุ สาธติ การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า

3.2 วัสดอุ ุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการดำเนนิ งาน จำนวน
ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการดำเนนิ การ 3 กลอ่ ง
ลำดับที่ รูปภาพ อปุ กรณ์

1 บอรด์ พลาสติก

2 สายไฟ 1 มดั

3 หางปลา 50 ตัว

4 เทอร์มินอล 12 3 ตัว

5 เทอรม์ ินอล 6 3 ตัว

6 แมกเนติกคอนแทคเตอร์ 1 ตัว

ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงอุปกรณท์ ่ีใช้ในการดำเนนิ การ (ตอ่ ) 1 ตวั
7 Timer relay

8 Timer relay 1 ตัว

9 overload relay 1 ตวั

10 คีมย้ำหางปลา 1 อนั

11 ไขควง 1 อัน

12 ไขควงวัดไฟ 1 อัน

3.3 ศกึ ษาข้อมลู อปุ กรณ์ไฟฟ้าทีน่ ำมาตอ่ ในกล่อง
1.การศึกษาหาขอ้ มลู การใช้งาน Automation Studio
2.การหาข้อมลู การใชง้ านของแมกเนติกคอนแทคเตอรแ์ ละการทำงานของหน้าสมั ผสั ต่างๆ
3.การใชง้ านของทามเมอรร์ ีเลย์และหลักการทำงานชองตวั อุปกรณ์แล้วการตอ่ ตวั อปุ กรณช์ ้นิ งาน
4.การคาดวา่ ชน้ิ งานจะสมบรู ณ์ไมม่ อี ะไรผิดพลาด
3.4 ขั้นตอนการทำช้ินงาน
1. เตรียมบอร์ดพลาสตกิ 3 กลอ่ ง

รูปท่ี 3.2 แกะพลาสตกิ ส์ที่หุ้มบอรด์ ออกแลว้ เตรียมนำไปเจาะรู
2. นำบอร์ดมาเจาะ แลว้ ยึดอุปกรณใ์ ห้เรยี บร้อย

รูปที่ 3.3 วงจรทีย่ ึดเสร็จแลว้

3.ยำ้ หางปลาเพ่ือนำไปต่อกับอุปกรณ์

รูปที่ 3.4 การย้ำหางปลา

4.ต่อหางปลาใหค้ รบท้ัง2ด้าน

รูปที่ 3.5 หางปลาทต่ี ่อเสร็จแลว้
5.นำสายไฟต่อระหวา่ งอปุ กรณแ์ ละเทอรม์ นิ อล

รปู ที่ 3.6 และ 3.7 นำสายไฟตอ่ ระหวา่ งอปุ กรณแ์ ละเทอร์มนิ อล

6.ตรวจสอบความเรยี บร้อยของตัวอปุ กรณ์และบอร์ดท้ัง 3 บอรด์
รปู ที่ 3.8 ตรวจสอบบอรด์ ท้ัง 3 บอรด์

บทที่4
ผลการดำเนนิ การ
การดำเนินการครั้งนี้เพื่อสร้างสื่อการสอนวิชามอเตอร์ไฟฟ้าและการควรคุม และทำใบงานการทดลอง
เพื่อจดั ให้มีอุปกรณใ์ นการนำมาใช้ศึกษาในรายวิชามอเตอร์ไฟฟ้าทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติคณะผู้จัดทำนำเสนอส่ือ
การสอนวชิ ามอเตอร์ไฟฟา้ และการควบคมุ และใบงานการทดลอง
4.1 ส่อื การสอนวชิ าเครอ่ื งกลไฟฟ้าและการควบคุม
4.1.1 ภาพรวมของสอื่ การสอนวิชาเคร่อื งกลไฟฟา้ และการควบคมุ

รปู ท่ี 4.1 ภาพรวมของสอื่ การเรยี นการสอนวชิ ามอเตอร์ไฟฟา้ และการควบคุม
4.2 ข้ันตอนการทดลองสอื่ การเรยี นการสอนวชิ าเคร่ืองกลไฟฟา้ และการควบคมุ

การทดลองสื่อการเรยี นการสอนวชิ าเครื่องกลไฟฟา้ และการควบคุมจะทำการทดลองโดยการ
ต่อวงจรตามใบงานที่ออกแบบไว้ ซง่ึ ใบงานมี2ใบงานเพื่อที่จะตอ่ อุปกรณต์ ่างๆ

รูปที่ 4.2 เตรยี มบอรด์ อุปกรณ์ไฟฟา้
4.2.1 ใบงานท่ี 1 ควบคุม Lamp ดว้ ย Magnetic Contactor กบั Overload Relay

รูปท่ี 4.3 ใบงานท่ี 1

รปู ท่ี 4.4 ตอ่ วงจรเขา้ ดว้ ยกัน

รูปท่ี 4.5 วงจรทีต่ ดิ แลว้

ผลการทดลอง

การทดลอง L1 L2

ตดิ ไม่ติด ติด ไมต่ ดิ

ยังไม่ทำการกดสวติ ช์ / /

ทำการกดสวิตช์ / /

ตารางท่ี 4.1 ควบคุม Lamp ดว้ ย Magnetic Contactor กบั Overload Relay

4.2.2 ใบงานท่ี 2 ทามเมอร์รเี ลย์ ตอ่ เข้ากับ Lamp

รปู ท่ี 4.6 รูปวงจรทามเมอรร์ ีเลย์

รูปที่ 4.7 รูปวงจรทามเมอรร์ เี ลย์ ตอนที่ตอ่ เสดแลว้

การทดลอง ผลการทดลอง L2
L1 ไม่ตดิ
ยังไม่ทำการกดสวติ ช์ ตดิ ไมต่ ิด ติด
ทำการกดสวิตช์ /
/ /
/

ตารางท่ี 4.2 ทามเมอร์รเี ลย์ ตอ่ เข้ากบั Lamp

4.2.3 ใบงานที่ 3 ควบคุม Lamp ด้วย Magnetic Contactor กับ Overload Relay และต่อเข้ากับ
Timer relay

รปู ท่ี 4.8 ใบงานที่ 3 วงจร Magnetic กบั Timer relay

รูปท่ี 4.9 วงจรทย่ี ังไม่ติดและรูปท่ี 4.10 วงจรทตี่ ่อตดิ แล้ว

รปู ท่ี 4.10 วงจรที่ต่อติดแล้ว

ผลการทดลอง

การทดลอง L1 L2

ติด ไม่ตดิ ตดิ ไมต่ ดิ

ยังไม่ทำการกดสวิตช์ / /

ทำการกดสวิตช์ / /

ตารางท่ี 4.3 ควบคุม Lamp ด้วย Magnetic Contactor กับ Overload Relay และต่อเข้ากบั Timer relay

บทที่ 5

การสรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ

ในการทำชุดสาธติ การควบคมุ มอเตอร์ มีวตั ถุประสงคข์ องโครงงานคอื เพอื่ ทำการทดลองออกแบบชุด
สาธติ การควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟ้า เพอ่ื นำมาใช้เปน็ สื่อประกอบการเรยี นรู้เรื่องการควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ และ
สามารถนำไปใช้ในการสอบคุณวฒุ วิ ิชาเพอื่ ศกึ ษาในทกั ษะในการควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ รวมถึงการแก้ไขปัญหา
เฉพาะซงึ่ มรี ายละเอยี ดในการ สรุปดัง น้ี

5.1 สรุปผลการดำเนนิ การ
โครงงานนี้ได้ทำการศกึ ษาวัสดอุ ุปกรณ์เพื่อสรา้ งเป็นโครงสรา้ งสำหรับกลอ่ งเพ่อื ติดตงั้ อุปกรณ์การ

ทดลองการควบคุมและการต่อส่วนของชดุ สาธติ การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้า
จากการทดลองทดสอบการต่อวงจรตามใบงานท่ีกำหนด จะพบได้ว่าการต่อวงจรโดยสมาชกิ ของแต่ละ

โครงงานใช้เวลาในการปฏบิ ตั นิ อ้ ยกว่าผทู้ ่ตี รวจสอบท่ไี ม่ใช่สมาชกิ ภายในกลมุ่ ในการต่อวงจรท่คี นภายในกลุ่ม
แล้วแบบ แตห่ ากใชเ้ วลาฝึกฝนทักษะเพ่ิม ระยะเวลาในการต่อวงจรไฟฟ้า จะลดลงโดยสามารถใชเ้ วลา
เทียบเทา่ กบั สมาชกิ ในกล่มุ หรอื ว่าจะน้อยกว่าขน้ึ อยู่กบั ทักษะในการเรยี นรู้ของตวั บคุ คล

5.2 อภิปรายปัญหา
1. การติดตั้งอุปกรณจ์ ะตอ้ งเตรียมเครอ่ื งมือที่เกีย่ วข้อง
2. การติดตงั้ อุปกรณ์ควรใช้วธิ ีที่เหมาะสไมค่ วรใช้วิธที ่ีทำใหเ้ กดิ อนั ตราย
3. ควรทำการอปุ กรณ์อยา่ งระมัดระวงั

5.3 ขอ้ เสนอแนะ

ในการทำชดุ สาธติ การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ ข้อเสนอแนะคือ
1. เรอ่ื งอุปกรณ์ที่ยดึ ตดิ กับอุปกรณท์ ี่มีลักษณะพร้อมใช้งานและไม่ชำรดุ
2. ควรหมน่ั ตรวจเชค็ อุปกรณบ์ นกลอ่ งและหน้าสมั ผัสอปุ กรณต์ า่ งๆ
3. ควรเชค็ สายไฟก่อนวา่ ใช้งานได้หรือไม่

เอกสารอ้างอิง
[1] สว่านไฟฟา้ ทำใหเ้ ร่ืองเจาะเปน็ เร่อื งง่าย, 2562.แหล่งที่มา:
https://th.misumi-ec.com/th/pr/recommend_category/electric_drill201906/ [กันยายน
2565]
[2] รเี ลย์ต้ังเวลา (Timer Relays) Tips Electrical Products บทความเผยแพร่ความรู้และแนะนำเร่ือง
ต่างๆ, 2561.แหล่งที่มา:
http://www.praguynakorn.com/tips/17/ (timer_relays) [กันยายน 2565]
[3] หลักการทำงานง่ายๆ ของ Timer Relay | Factomart, 2562.แหล่งทมี่ า:
https://mall.factomart.com/principle-of-timer-relay/ [กันยายน 2565]
[4] อุปกรณเ์ สรมิ ของแมกเนติกคอนแทคเตอร์ ที่คณุ จำเป็นต้องรู้ | Factomart, 2561.แหล่งทีม่ า:
https://mall.factomart.com/accessories-of-magnetic-contactor/ [กนั ยายน 2565]
[5] Terminal Block เทอร์มินอล บลอ็ ก คืออะไร | Factomart, 2562.แหลง่ ทีม่ า:
https://mall.factomart.com/what-is-terminal-block/ [กันยายน 2565]
[6] สายไฟ คอื อะไร วธิ ีเลือกสายไฟให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน - Phelps Dodge, 2562.แหลง่ ท่มี า:
https://www.pdcable.com/ [กนั ยายน 2565]
[7] สายไฟมกี ป่ี ระเภท อะไรบ้าง, 2020.แหล่งทม่ี า:
https://www.cablegland-center.com/power-cable/ [กันยายน 2565]
[8] แมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ หลกั การทำงาน ถอดใหเ้ หน็ ข้างในแบบละเอียด, 2561.แหล่งทีม่ า:
https://www.electric108.com/article/21/ [กนั ยายน 2565]
[9] ส่วนประกอบของแมกเนติก (Magnetic Contactor), มีอะไรบา้ ง, 2558 แหลง่ ทม่ี า:
https://mall.factomart.com/component-of-magnetic-contactor/ [กนั ยายน 2565]

[10] สายไฟฟา้ สำหรับวงจรควบคุม สายไฟชนิด CVV และ CVV-S, 2564.แหลง่ ที่มา:
https://www.pdcable.com/-cvv/ (กันยายน 2565]

[11] สัญลักษณ์อุปกรณ์ต่างๆ, 2555.แหล่งท่มี า:
https://elearnkrutung.blogspot.com/2017/02/blog-post_92.html [กนั ยายน 2565]

[12] ชนดิ และขอ้ มลู การใชง้ านหางปลา (Crimp Terminal), 2564.แหล่งทมี่ า:
https://misumitechnical.com/technical/selection-guide/type-of-crimp/ [กันยายน 2565]

[13] หางปลา คือ? หางปลาต่อสายไฟมีกี่แบบ? การเลือกใช้ หางปลา, 2558.แหล่งท่มี า:
https://northpower.co.th/pages/หางปลา-คือ หางปลาต่อสายไฟมีกแี่ บบ การเลือกใช้-หางปลา
[กนั ยายน 2565]

ภาคผนวก ก
คู่มือการใช้งาน

How to use the Demonstration Set of Electric Motor Control

วธิ ีการใช้งานชดุ ฝึกมอเตอร์ไฟฟ้า
1.ลักษณะของชุดฝึก

2

13

2.อุปกรณ์ภายในชุดฝกึ มีทัง้ หมด 3 ชนดิ ประกอบดว้ ยดงั นี้ 1 กล่อง
2.1 กล่องที่ 1 รีเลยต์ งั้ เวลา (Timer Relays) 1 กลอ่ ง
2.2 กลอ่ งท่ี 2 รเี ลย์ตั้งเวลา (Timer Relays) 1 กล่อง
2.3 กล่องท่ี 3 คอนโทรลรีเลย์ (Control Relay)

3.รายละเอยี ดแตล่ ะกลอ่ ง

กลอ่ งที่ 1 รเี ลย์ต้งั เวลา (Timer Relays)

รูปที่ 1 กลอ่ งรเี ลย์ตงั้ เวลา (Timer Relays)

ใช้สำหรับต่อเขา้ กบั กล่องท่ี 2 สวติ ช์ปุ่มกดและหลอดไฟสญั ญาณ (Switch Push button) เพ่อื ทำหนา้ ท่ี
ในการเริม่ และตัดการทำงานสวติ ช์ป่มุ กดและหลอดไฟสัญญาณ

1 2

รายชอื่ อปุ กรณ์
1. เทอมินอล (Terminal)
2. รีเลยต์ ั้งเวลา (Timer Relay)

กลอ่ งท่ี 2 รีเลย์ตัง้ เวลา (Timer Relays)

รูปที่ 2 กล่องรีเลย์ต้งั เวลา (Timer Relays)

ใชส้ ำหรับตอ่ เขา้ กับกล่องท่ี 2 สวิตชป์ ุ่มกดและหลอดไฟสญั ญาณ (Switch Push button) เพื่อทำหน้าท่ี
ในการเริ่มและตัดการทำงานสวติ ชป์ มุ่ กดและหลอดไฟสัญญาณ

1 2

รายชอ่ื อุปกรณ์
1. รีเลย์ต้ังเวลา (Timer Relay)
2. เทอรม์ ินอล (Terminal)

รปู ท่ี 3 แมคเนติกคอนแทกเตอร์ (magnatic contactor)

เปน็ อปุ กรณท์ ีเ่ ปลีย่ นพลงั งานไฟฟ้าให้เปน็ พลังงานแม่เหล็ก เพื่อใช้ในการดึงดูดหน้าสัมผัสของคอนแทคให้
เปล่ียนสภาวะ โดยการปอ้ นกระแสไฟฟ้าให้กับขดลวด เพื่อทำการปดิ หรือเปดิ หน้าสมั ผัสคล้ายกบั สวิตช์
อิเล็กทรอนิกส์ ซง่ึ เราสามารถนำรีเลยไ์ ปประยุกตใ์ ช้ ในการควบคมุ วงจรต่างใช้สำหรบั ควบคมุ การทำงานของรีเลย์
หรอื สวิตชป์ มุ่ กด หรือหลอดไฟสญั ญาณ เพือ่ ควบคมุ การทำงานและการแสดงผลของวงจร

1 3
2
รายช่อื อปุ กรณ์

1.แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor)
2.โอเวอร์โหลด รีเลย์ (Overload Relay)
3. เทอรม์ นิ อล (Terminal)

ใบงานการทดลองท่ี 1

การตอ่ ใช้งานรีเลยต์ งั้ เวลาแบบปกตเิ ปดิ และปกตปิ ิด (NO, NC) กับหลอดไฟสัญญาณ (L1, L2)

วตั ถุประสงค์

1. เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจถงึ การทำงานของรีเลยต์ ัง้ เวลา
2. เพื่อให้สามรถใช้รเี ลยต์ ้งั เวลาควบคมุ การทำงานของอปุ กรณไ์ ฟฟ้าอ่นื ๆได้
3. เพอ่ื ให้สามารถอา่ นวงจรควบคุมได้
4. เพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อวงจรควบคุมอปุ กรณ์ไฟฟ้าผ่านรีเลยต์ ัง้ เวลา

เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์

1. สวิตชป์ มุ่ กด 2 ตวั
2. รเี ลย์ต้งั เวลา 1 ตวั
3. หลอดไฟสัญญาณ 2 ตวั

หลกั การทำงาน

เมื่อกดสวิตช์ปุ่มกด (NO) หลอดไฟสัญญาณ (L1) จะทำงานทันที เมื่อกดสวิตช์ (NO) ค้างไว้
เป็นเวลา 5 วินาที รีเลย์ตั้งเวลาจะทำงาน ทำให้หลอดไฟสัญญาณ (L2) ติดและค้างสถานการณ์ทำงานไว้
ส่วนหลอดไฟสัญญาณ (L1) จะดับ เมื่อปล่อยสวิตช์ (NO) จะมีเพียงหลอดไฟสัญญาณ (L2) ที่ยังคงค้าง
สถานการณ์ทำงานไว้ และเมื่อกดสวิตช์ (NC) จะเป็นการตัดการทำงานของวงจร ให้อุปกรณ์ทั้งหมดหยุด
การทำงาน

ใบงานการทดลองที่ 2

แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor) กับหลอดไฟสญั ญาณ (L1, L2)

วตั ถุประสงค์

1. เพ่อื ให้เขา้ ใจถึงการทำงานของแมกเนติกคอนแทคเตอร์
2. เพ่ือให้สามรถใช้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าอน่ื ๆได้
3. เพอ่ื ให้สามารถอา่ นวงจรควบคมุ ได้
4. เพ่ือใหเ้ พ่ิมประสิทธิภาพในการต่อวงจรควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์

เคร่อื งมืออปุ กรณ์

1. สวติ ช์ปุม่ กด 2 ตวั
2. แมกเนติกคอนแทคเตอร์ 1 ตวั
3.โอเวอร์โหลด รีเลย์ 1 ตวั
4. หลอดไฟสญั ญาณ 2 ตวั

หลกั การทำงาน

เมอ่ื มีการจ่ายแหลง่ ไฟเข้าโอเวอรโ์ หลด รีเลย์ไฟจะไหลตอิ ไปท่ีแมกเนติกคอนแทคเตอร์ เมอ่ื ทำการกด

สวิตช์L1 หลอดL1 (สเี ขยี ว) ไฟจะตดิ และเม่ือกดปมุ่ สวติ ช์L2 (สีแดง) ไฟที่ L1 (สเี ขียว) จะดบั และไฟ
L2 (สีแดง) จะติดแทน

ใบงานการทดลองท่ี 3
แมกเนติกคอนแทคเตอร์ (Magnetic Contactor) และรีเลยต์ งั้ เวลา (Timer Relays) กับหลอดไฟ
สัญญาณ (L1, L2)
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพ่อื ใหเ้ ข้าใจถึงการทำงานของแมกเนติกคอนแทคเตอร์
2. เพ่ือให้สามรถใช้แมกเนติกคอนแทคเตอร์ ควบคมุ การทำงานของอปุ กรณ์ไฟฟา้ อนื่ ๆได้
3. เพื่อให้สามารถอ่านวงจรควบคมุ ได้
4. เพอ่ื ให้เพิ่มประสิทธภิ าพในการต่อวงจรควบคุมอุปกรณไ์ ฟฟา้ แมกเนตกิ คอนแทคเตอร์
เครื่องมืออปุ กรณ์


Click to View FlipBook Version