รายงาน
ธุรกิจ STARBUCKS
เสนอ
ดร.ธนกฤต วงศ์มหาเศรษฐ์
จัดทำโดย
วราภรณ์ เมืองเอี่ยม 1630100947 เลขที่ 44
ชไมพร บานสดชื่น 1630102182 เลขที่ 77
นวพรรษ บุษรารังษี 1630102190 เลขที่ 78
ณัฐณิชา ใจห้าว 1630102273 เลขที่ 80
จิรพัฒน์ บุระมาน 1630219168 เลขที่ 99
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งขอ
งวิชาการตลาด MARKETTI
NG (MK212)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2564
คณะบัญชี
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
คำนำ
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการตลาด Marketing (MK212)
โดยวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดของธุรกิจ
Starbucks ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาด 4P's การวิเคราะห์
SWOT รวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวข้องกับธุรกิจ Starbucks
คณะผู้จัดทำได้เลือกธุรกิจ Starbucks เนื่องจากเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ
และการจัดทำรายงานเล่มนี้เป็นการใช้ความรู้ภายในห้องเรียนผสมกับการศึกษา
ค้นคว้าด้วยตัวเอง ซึ่งต้องขอขอบคุณ ดร.ธนกฤต วงศ์มหาเศรษฐ์ ที่ให้ความรู้
และคำแนะนำในการจัดทำรายงานเล่มนี้
คณะผู้จัดทำหวังว่า รายงานฉบับนี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่
ต้องการศึกษาข้อมูลของธุรกิจ Starbucks หากมีข้อผิดพลาดประการใด ทาง
คณะผู้จัดทำต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
ทำไม ?
ต้องชื่อ STARBUCKS
ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) CEO ของสตาร์บัค ซึ่งเป็นคนปั้นแบรนด์ขึ้น
มาจนโด่งดัง แต่ความจริงแล้วผู้ก่อตั้งของสตาร์บัคมี 3 คน คือ เจอร์รี บัลด์วิน (Jerry
Baldwin), เซฟ ซีเกิล (Zev Siegl) และ กอร์ดอน โบว์เกอร์ (Gordon Bowker) ทั้ง
3 คนนี้เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อน ซึ่งทั้ง 3 คน มีความชอบที่เหมือนกันอยู่
อย่างหนึ่งคือ นิยายคลาสสิคชื่อ โมบี้-ดิก (Moby-Dick) ของ เฮอร์แมน เมลวิลล์
(Herman Melville) พวกเขาจึงตั้งชื่อร้านกาแฟตามชื่อสิ่งของและตัวละครที่อยู่ในนิยาย
โดยชื่อแรกที่เขานำมาใช้ในการทำร้านกาแฟ คือ พีควอด (Pequod) เป็นชื่อของเรือที่ลาก
ปลาวาฬในนิยาย
แต่ปรากฎว่า เทอร์รี่ เฮกเลอร์ กราฟฟิกดีไซน์เนอร์ที่ทำงานให้กับ 3 คนนี้ คิดว่าชื่อ
พีควอด นั้นเรียกยากไปนิดหนึ่ง เลยแนะนำให้เปลี่ยนชื่อใหม่ดีกว่า ซึ่งผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน จึง
ได้ตกลงกันว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น “สตาร์บัค” ซึ่งเป็นชื่อต้นหนหรือคนนำทางของเรือพีควอด
นั่นเอง จึงเป็นต้นกำเนิดของชื่อแบรนด์ “สตาร์บัค”
กอร์ดอน โบเคอร์ (GORDON BOWKER)
จอรี่ บัลด์วิน (JERRY BALDWIN)
ซิฟ ซีเกิ้ล (ZEV SIEGL)
ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (HOWARD SCHULTZ)
สตาร์บัคส์ (อังกฤษ: STARBUCKS) เป็นร้านกาแฟจากอเมริกาในเมืองซีแอตเทิลใน
รัฐวอชิงตัน ในปี ค.ศ. 1971 โดย กอร์ดอน โบเคอร์, เจอรี่ บัลด์วิน และซิฟ ซีเกิ้ล โดย
ตอนแรกใช้โลโก้เป็นรูปไซเรน 2 ปลาย ก่อตั้งในฐานะร้านขายเมล็ดกาแฟคั่ว ต่อมาปี
1982 สตาร์บัคส์มีสาขา 5 สาขา และโฮเวิร์ด ชูลทส์ได้เข้ามาร่วมงานด้วย โดยดูแลด้าน
การตลาดและค้าปลีก ซึ่งเขาเป็นผู้แนะนำให้สตาร์บัคส์เปิดเป็นบาร์กาแฟ แต่หลายคนก็
ไม่เชื่อในวิสัยทัศน์ของเขา ต่อมาชูลทส์ได้ลาออกจากบริษัท ไปเปิดบาร์กาแฟของตนเอง
ชื่อ อิล จิออร์เนล และจำหน่ายกาแฟของสตาร์บัคส์ ในปี 1987 สตาร์บัคส์ประสบปัญหา
ยุ่งยากจากการไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้ ปี 1988 อิล จิออร์เนลจึงซื้อกิจการ
ด้านค้าปลีกไว้พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น และจ้างนักบริหารมือ
อาชีพเข้ามาดูแล ปี 1992 สตาร์บัคส์ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ปี 1996 สตาร์บัคส์ได้ขยาย
สาขาเข้าไปในญี่ปุ่นและสิงคโปร์ โดยบริษัทได้เริ่ม CAFFE STARBUCKS เป็นระบบ
บริการออนไลน์โดยอาศัยเครือข่ายของ เอโอแอล
สัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์ครั้งแรกนั้นเป็นรูปนางเงือก ซึ่งเป็น นางเงือกไซเรนสอง
หาง (NORSE SIREN) ในเทพนิยายปรัมปรา เพื่อให้นึกถึงการผจญภัยในทะเล และปรับ
เปลี่ยนหลายครั้งและล่าสุดคือ ค.ศ. 2011 ในวาระการเฉลิมฉลองครบ 40 ปีของการ
ดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันสตาร์บัคส์ เป็นร้านจำหน่ายกาแฟอันดับที่ 1 ของโลก และเป็นหนึ่ง
ในสัญลักษณ์ของทุนนิยมอเมริกัน มีสาขากว่า 19,972 สาขาทั้งในสหรัฐฯและในอีก 60
ประเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันคือ โฮเวิร์ด ชูลทส์ (HOWARD SCHULTZ)
ในปี ค.ศ. 2012 ประเทศไทยมีจำนวนสาขาทั้งหมด 158 สาขา
ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (HOWARD SCHULTZ) ก่อตั้ง
สตาร์บัคส์สาขาแรกก่อตั้งขึ้นในซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน ในวันที่
31 มีนาคม ค.ศ. 1971 โดย 3 ผู้ก่อตั้งที่ได้รู้จักกันในสมัยเรียน
ที่มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก คือ เจอร์รี บัลด์วิน ซึ่งเขาเป็น
อาจารย์สอนภาษาอังกฤษ, เซฟ ซีเกิล อาจารย์สอน
ประวัติศาสตร์ และ กอร์ดอน โบว์เกอร์ นักเขียน โดยพวกเขามี
แรงบันดาลในที่จะขายเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง และอุปกรณ์คั่ว
กาแฟโดย อัลเฟรด พีท หลังจากที่ได้สอนพวกเขาเกี่ยวกับการ
คั่วเมล็ดกาแฟ บริษัทได้นำชื่อจากหนังสือโมบิดิก คือ สตาร์บัค
(STARBUCK) หลังจากคิดค้นมาหลายชื่อเช่น "คาร์โกเฮาส์"
(CARGO HOUSE) และ "พีควด" (PEQUOD) โบว์เกอร์ได้
ปรึกษากับเทอร์รี เฮกเลอร์ ซึ่งเขากล่าวว่าตัวอักษร "ST" นั้นดู
แข็งแรง ผู้ก่อตั้งจึงรวมหัวกันคิดชื่อที่ขึ้นต้นด้วย "ST" ซึ่งได้มี
คนหนึ่งนำแผนที่เหมืองเก่าของเทือกเขาแคสเคด และเห็นชื่อ
เมืองในเหมืองที่ชื่อว่า "สตาร์โบ" (STARBO) และโบว์เกอร์ก็ได้
ยกตัวละคร "สตาร์บัค" (STARBUCK) และกล่าวว่า โมบิดิก ไม่
ได้มีบทเด่นสำหรับสตาร์บัคส์ และชื่อนี้ฟังดูตรงกับความ
ต้องการของเรา
ขยายตัว
ในปี ค.ศ. 1984 เจ้าของบริษัทสตาร์บัคส์ นำโดยเจอร์รี บัลด์วิน ได้
ทำการซื้อ พีทส์ ซึ่งในช่วงยุค 80 ยอดขายของกาแฟในสหรัฐอเมริกาค่อน
ข้างซบเซา แต่ยอดขายของกาแฟชนิดพิเศษกลับเพิ่มขึ้น 10% ของตลาด
ในปี ค.ศ. 1989 เทียบกับปี ค.ศ. 1983 ที่ 3% ในปี ค.ศ. 1986 บริษัทได้
เปิดร้านแล้วถึง 6 สาขาในซีแอทเทิล มีสาขาหนึ่งเริ่มทดลองขายกาแฟเอส
เปรสโซ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 ผู้บริหารได้ตัดสินใจขายสาขาของสตาร์บัคส์ให้กับผู้
จัดการสาขา โฮเวิร์ด ชูลซ์ ได้ปรับปรุงร้านกาแฟ อิลจีออร์นาเลคอฟฟี
ของเขาเป็นสตาร์บัคส์ และเริ่มต้นที่จะขยายสาขาออกไป ต่อมาในปี
เดียวกัน สตาร์บัคส์ได้ขยายสาขาไปยังนอกซีแอทเทิลสาขาแรก ที่สถานีวอ
เตอร์ฟรอนต์ ที่แวนคูเวอร์ ใน รัฐบริติชโคลัมเบีย และ ชิคาโก ในรัฐ
อิลลินอยส์ ในปี ค.ศ. 1989 ได้มีร้านถึง 46 สาขาทั้งในเขตนอร์ธเวสต์และ
มิดเวสต์ อีกทั้งสตาร์บัคส์ยังได้ขายกาแฟไปถึง 2,000,000 ปอนด์
(907,185 กก.
และถึงเวลาที่จะทำการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก บน
ตลาดหุ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1992 ซึ่งในขณะนั้นมีร้านถึง 140 สาขา
และรายได้ 73.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน
ปี ค.ศ. 1987 โดยบริษัทมีมูลค่าทางการตลาด 271 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน
ตอนนั้น โดยหุ้น 12% ของบริษัทได้ถูกขายและเพิ่มขึ้นประมาณ 25 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มตามร้านค้าที่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในสองปีถัดมา ใน
เดือนกันยายน ค.ศ. 1992 สตาร์บัคส์ได้มีมูลค่ามากขึ้น 70% และมีกำไร
ต่อหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เท่าจากปีก่อน
4P'S Product
ผลิตภัณฑ์หลัก
กาแฟ ชา เครื่องดื่มอื่นๆ
FRAPPUCCINOBLENDED BEVERAGES venti
tall grande
COFFEE 20 oz.
12 oz. 16 oz.
155
Coffee 125 145 170
155 170
Caramel 140 155 170
155 200
Mocha 140 185
170
Espresso 140 195
195
Matcha White Chocolate Affogato 170 220
CREAM (Coffee-Free) 140 155 145
165 180 145
Chocolate 165 180
Green Tea 190 205
Chocolate Chip
Chocolate Black Tea
wit Earl Grey Jelly
BLENDED JUICE DRINKS 115 130
115 130
Mango Passion Fruit
Raspberry Black Currant
CUSTOMIZE ANY DRINK
- Flavor +15 Baht / drink
Vanilla, Hazelnut, Caramel, Raspberry
- Espresso Shot +15 Baht / shot
- Soy +15 Baht / drink
Price
HANDCRAFTED BEVERAGES
COFFEE tall grande venti
12 oz. 16 oz. 20 oz.
Cold Foam Iced Espresso 130 145 160
Caffè Latte 115 130 145
Cappuccino 115 130 145
Caffè Mocha 130 145 160
Caramel Macchiato 140 155 170
White Chocolate Mocha 140 155 170
Caffè Americano 105 120 135
COLD BREW & NITRO (Selected stores) 145 160
160 175
Cold Brew 130 185
Vanilla Sweet Cream Cold Brew 145 135
Nitro Cold Brew 165 120
160
COFFEE (Selected stores) 105 145
Freshly Brewed Coffee
CHOCOLATE 130
Signature Chocolate
*All hot beverages and Nitro are available in Shot size (8 oz.) for 15 Baht less than Tall size (12 oz.)
T E A V A N A™️ tall grande venti
TEAVANA™️TEA LATTE 12 oz. 16 oz. 20 oz.
Matcha & Espresso Fusion 150 165 180
Green tea Latte 135 150 165
Hojicha Tea Latte 135 150 165
Full-Leaf Tea Latte 125 140 155
TEAVANA™️ICE SHALEN TEA 145 160
Iced Shaken Hibiscus Tea 130 125 135
with Pomegranate Pearls 100 110
Lemonade 115 90 105
Black or Caffeine-Free 90 105 120
Hibiscus Herbal
FULL-LEAF BREWED TEA
Earl Grey, English Breakfast, Chai 90
Teavana Emperar's Clouds & Mist™️ 105
*All hot beverages (except Full-Leaf Brewed Tea) are available in
Shot size (8 oz.) for 15 Baht less than Tall size (12 oz.)
Price
Highlight Beverages เครื่องดื่มใหม่
Highlight Food เมนูอาหารใหม่
Exclusive at Starbucks Reserve® Price
Chao Phraya Riverfront
รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา ริเวอร์ฟร้อนท์
Place
บริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ ซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
สาขาในประเทศไทย
เปิดร้านสาขาแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 409
สาขา ทั่วประเทศไทย
Starbucks 10 สาขาที่สวยโดดเด่นสะดุดตาในไทย
สตาร์บัคส์ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค สตาร์บัคส์ หลังสวน
สตาร์บัคส์นิคมมินิแฟคทอรี่
ฟาสท์แฟค วังน้อย สตาร์บัคส์ เกษรวิลเลจ
สตาร์บัคส์ โซโห วาไรตี้ มอลล์ สตาร์บัคส์ ศูนย์การค้า ZPELL รังสิต
สตาร์บัคส์ JAS URBAN
สตาร์บัคส์ กาดฝรั่ง เชียงใหม่ สตาร์บัคส์ บ้านชาติ
สตาร์บัคส์ พอร์โตชิโน่
Promotion
บัตรสมาชิก
STARBUCKS
REWARDS
Promotion
Everyday Bag 1 ใบ กว้าง 11 ซม. x สูง 20 ชม. (ลายสีดำ หรือ ลายสปริงค์) มูลค่า 400 บาท
ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาในประเทศไทย
กรุณาเก็บใบเสร็จเพื่อใช้ในการกรอกข้อมูลและตรวจสอบสถานะคูปอง
ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ และการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท
ยกเว้นการซื้อผ่านบริการ Mobile Order-ahead & Pick Up at Store และบริการจัดส่ง
คูปองส่วนลด ได้แก่ คูปองส่วนลดเครื่องดื่มไอศกรีม 20% จำนวน 1 ใบ, คูปองส่วนลด 20% เครื่องดื่ม
ขนาด 12 ออนซ์ขึ้นไป เมื่อซื้อคู่เค้กหรือแซนด์วิช จำนวน 5 ใบ และคูปองส่วนลดซื้อ Starbucks VIA™
หรือ Starbucks ORIGAMI™ ประเภทใดก็ได้ จำนวน 2 กล่อง รับฟรี 1 กล่อง จำนวน 1 ใบ
Promotion
Promotion
วิเคราะห์ S W O T
STTRRENAGETNH GTH
1.คุณภาพของกาแฟที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์
2.มาตรฐานในการบริการที่ดีในการบริการแก่ลูกค้า
3.การให้ความสำคัญกับพนักงาน
4.การให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
5.เป็นร้านกาแฟที่ติดอันดับ 84 ของโลก
6.เป็นร้านกาแฟที่มีแฟรนไชน์
7.เป็นร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับลูกค้า
WEAKNESS
1.การจัดการทางด้านการบริหารยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะยังมีการหา
บุคคลภายนอกเข้ามาช่วยใน การบริหาร
2.Starbuck นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องการพัฒนาและคิดค้นสินค้าใหม่
แต่อย่างไรก็แล้วแต่สินค้าของทาง starbuck นั้นก็ยังมีโอกาสที่ด้อย
คุณภาพไปตามกาลเวลา
3.บริษัทนี้นั้นมีความแข็งแรงทางด้านการตลาดในประเทศอเมริกา โดยที่
3 ใน 4 ของร้านทั้งหมดนั้นอยู่ภายในประเทศ และบ่อยครั้งที่มีการทก
เที่ยงกันว่าพวกเค้าควรที่จะเปิดตลาดใหม่ในประเทศอื่นบ้างเพื่อลด
อัตราการเสี่ยงทางเศษฐกิจ
OPPORTUNITIES
STRENGTH
ปัจจุบันประชากรทั่วโลกมีความรุ้และมีการใช้อินเตอร์เนตมากขึ้น
กว่าเดิมน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจ DOT COM
มีสาขามาก
มีการจัดร้านเป็นเอกลักษณ์
สร้างความรู้สึกให้ผู้บริโภคได้ว่าสตาร์บัคเปรียบเหมือนบ้านหลังที่ 2
สร้างความรู้สึกภาคภูมิใจให้ผู้บริโภคอีกด้วย
สตาร์บั๊คได้สร้างประโยชน์จากโอกาสได้เป็นอย่างดี ในปี 2004 ได้
เปิดบริการสร้างแผ่นซีดีในซานตาโมนิก้า แคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา
ร่วมกับบริษัท Hewlett Packard ให้ลูกค้าสร้างแผ่นซีดีของตัว
เอง โดยใส่รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่และบริการต่างๆ ใน
ร้านคาเฟ่ของลูกค้ารวมไปถึงการแสดงสินค้าตัวอย่างของร้านด้วย
และบริษัทิยังใช้โอกาศนี้ในการขยายกิจการไปทั่วโลกโดยจุดเริ่มอยู่ที่
อินเดียและประเทศแถบมหาสุมทรแปซิฟิกซึ่งเป็นตลาดใหม่ และร่วม
ธุรกิจกับบริษัทอื่นๆ อาหารเครื่องดื่มและแฟรนชายด์
THREATS
ในภาวะที่ราคาน้ำมันสูงและค่าครองชีพที่สูงขึ้นกว่าอดีตมาก น่าจะ
ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ Starbucks เนื่องจากค่าใช้จ่าย
ต่างๆที่สูงขึ้น คนส่วนใหญ่ก็จะประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม
สตาร์บัคยังต้องเผชิญปัญหากับการขึ้นราคาของผลิตภัณฑ์การ
แฟและนม
มีคู่แข่งในตลาดมากอย่าง
กลยุทธ์การตลาดมาตรฐานของสตาร์บัคส์
เป็นแบรนด์ระดับโลก ต้องมีนโยบายชัดเจนว่าจะเดินเกมกลยุทธ์การตลาดไปด้วยทิศทางใด สตาร์บัคส์ก็
เป็นแบรนด์ที่แม่ในเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสตาร์บัคส์ที่ไหนผู้บริโภคก็จะได้รับประสบการณ์จาก
แบรนด์ในลักษณะที่ไม่ต่างกัน โดยกลยุทธ์มาตรฐานที่สตาร์บัคส์ใช้อยู่ในช่วงแผน 5 ปี (2017-2021) นั้น
เริ่มตั้งแต่
ใช้ร้านโมเดลใหม่ที่ใช้ชื่อว่า STARBUCKS ROASTERY AND RESERVE TASTING ROOM ที่เปิดตัว
ตั้งแต่เมื่อปี 2014 เป็นต้นมา เป็นกลยุทธ์หลักในการพัฒนาแบรนด์และประสบการณ์ของลูกค้า โดยใน
ไทยสตาร์บัคส์เพิ่งเริ่มใช้โมเดลใหม่นี้ในการปรับปรุงสาขาในย่านธุรกิจกลางเมืองในปี 2017 ที่ผ่านมานี้
เอง
ด้านกลยุทธ์การเติบโต สตาร์บัคส์เน้นขยายสาขา ซึ่งไม่ได้มีแค่เป้าหมายสร้างรายได้จากการเน้นขายแค่
กาแฟเท่านั้น แต่ยังมีทั้งเมนูอาหาร ขนม เครื่องดื่มอื่ น ๆ หรือล่าสุดในไทยคือการเพิ่มเมนูขนมแบบโค
แบรนด์ดิ้งกับอาฟเตอร์ยู หรือแม้แต่แก้วสตาร์บัคส์แบบต่าง ๆ ที่กลายเป็นของสะสมที่ผู้คนตามซื้อมา
ขึ้น โดยบริษัทแม่ถึงกับวางเป้าหมายไว้ว่า ในอนาคตสตาร์บัคส์จะมีรายได้อื่ นที่ไม่ใช่กาแฟอย่างน้อย 1 ใน
4 หรือ 25% จากยอดขายเลยทีเดียว
การใช้กลยุทธ์ PREMIUMMIZATION พัฒนาประสบการณ์กาแฟให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า
พรีเมียม ด้วยการนำเสนอประสบการณ์กาแฟในด้านต่าง ๆ สอดคล้องกับการพัฒนาสตาร์บัคส์
RESERVE เพื่อทำให้เป็นร้านกาแฟที่พรีเมียมยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการตอกย้ำแบรนด์อิมเมจของความเป็น
กาแฟพรีเมียมให้คงอยู่ท่ามกลางการแข่งขันของแบรนด์ท้องถิ่นที่ค่อย ๆ ยกระดับขึ้นมาเป็นคู่แข่ง
สร้างโอกาสและกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการเพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่เข้าไปในร้าน เช่น อาหารที่ทาน
ง่าย ๆ อย่างแซนด์วิชสำหรับลูกค้าที่มีเวลาจำกัดสำหรับมื้อกลางวัน เพิ่มเมนู COLD BREW ในบางสาขา
เป็นทางเลือกให้ลูกค้า
ขยายการใช้งานในส่วนของดิจิทัล เมื่อลูกค้าหันมาใช้มือถือสำหรับการจ่ายเงินมากขึ้น ในร้านสตาร์บัคส์
เองก็มีลูกค้าถึง 1 ใน 4 ที่เริ่มจ่ายเงินผ่านมือถือตั้งแต่ 2 ปีก่อน (สถิติจากทั่วโลก) และมียอดผู้ใช้เติบโต
ขึ้นเรื่อย ๆ สตาร์บัคส์ก็ตอบสนองลูกค้าด้วยการหันมาเน้นพัฒนาในส่วนของดิจิทัลมากขึ้น พร้อม ๆ กับ
การทำลอยัลตี้โปรแกรมเพิ่มความถี่ในการซื้อของลูกค้ามากขึ้น
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักและ
กลุ่มเป้าหมายรอง
เป้าหมายหลัก มีตั้งแต่อายุ 20 – 50 ปี
โดยกลุ่มใหญ่สุดคือ กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ถึง 40 ปีขึ้นไป
ซึ่งส่วนใหญ่และจะเป็น วัยทำงาน พนักงาน
เป้าหมายรอง กลุ่มวัยรุ่น / นักศึกษา และคนทั่วไป
ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เ พิ่ ม เ ติ ม ที่
อ ย า ก จ ะ ใ ห้ ป รับ ป รุ ง
การตลาดของทาง Starbucks เป็นการตลาดที่ใช้ช่องทางโชเชียลส่วนใหญ่
แต่ก็ไม่ได้มีการโปรโมทโดยทางแบรด์นเอง ทางเรามีความคิดเห็นว่าทาง
Starbucks น่าจะมีการทำการตลาดเพิ่มจากที่มีเพียงโชเชียล อาจมีสื่อ
โฆษณาออกมาบ้างเพื่อให้คนนอกพื้นที่รู้จักมากขึ้นถึงความเป็นมาของตัวแบ
รด์น Starbucks เพราะทาง Starbucks จะเป็นการดูแลลูกค้าเก่าเป็น
ส่วนใหญ่ ด้วยการดูแลนี้ทำให้ลูกค้าเก่าอยู่กับทางแบรด์น ส่วนของราคา
อาจจะถือว่ามีการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มคนด้วยราคาที่แพงสำหรับประเทศเราที่
ค่าแรงเริ่มที่ 300 บาท แต่กาแฟเริ่มที่ 120 -170 บาท แต่ด้วยความเป็น
เอกลักษณ์ของ Starbucks คุณภาพของสินค้าหรือบริการเองก็ถือว่า
เหมาะสม
ทางเราคิดว่า Starbucks ควรจะเปลี่ยนแปลงในด้านผลิตภัณฑ์ให้มี
รูปแบบที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดความสนใจ และควรจะเพิ่มโปรโมชั่น
เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นหรือเพื่อให้กลุ่มลูกค้าทั่วไปหันมา
สนใจ เนื่องจาก Starbucks เป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง ถ้าเพิ่ม
โปรโมชั่นเป็นการแถม เช่น การซื้อ 4 แถม 1 รับคะแนนสะสมสองเท่า
เมื่อซื้อน้ำ 3 แก้ว และควรขยายสาขาให้มีในทุกจังหวัดและเพิ่มการ
โฆษณาผ่านทางสื่อโซเชียลทุกสื่อ เนื่องจากตอนนี้จะสังเกตเห็นได้ว่า
สาขาในต่างจังหวัดมีน้อยมาก
บรรณานุกรม
https://www.mangozero.com/10-most-beautiful-starbucks-in-thailand/
https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/starbuck-coffee/prawati-swn/khwam-
pen-ma-khxng-starbuck
https://www.smmagonline.com/2018/02/16/สตาร์บัคส์-ลุยกลยุทธ์-premiumization/
http://rockyzone-zweetrip.blogspot.com/2011/08/swot-analysis-starbucks.html
https://th.wikipedia.org/wiki/สตาร์บัคส์