The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสมเด็จย่า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kaewmaneekoson3122, 2021-10-20 05:35:40

หลักสูตรสมเด็จย่า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

หลักสูตรสมเด็จย่า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

(๓๐)

ใบความรู้

สมเดจ็ ยา่ กบั การสงเคราะหต์ ํารวจตระเวนชายแดน

ในการเสดจ็ ฯ ไปเยียมเยยี นตาํ รวจตระเวนชายแดนทฐี านปฏบิ ัติการ สมเดจ็
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทอดพระเนตรเหน็ สภาพความเป็นอยู่ทลี าํ บาก
แร้นแค้นและอนั ตรายทตี าํ รวจตระเวนชายแดนผู้ออกไปปฏบิ ตั หิ น้าทปี กป้ องชาติ
บ้านเมือง บางคร:ังถึงกบั เสยี ชวี ิตหรือสญู เสยี อวยั วะบางส่วนไปในการปฏบิ ตั ิหน้าที
เป็นเหตุให้ครอบครัวทอี ยู่เบ:ืองหลงั ต้องประสบเคราะห์กรรมลาํ บาก เนืองจากต้อง
ขาดหัวหน้าครอบครัวหรือหัวหน้าครอบครัวต้องทุพพลภาพไม่อาจทาํ มาหาเล:ียง
ครอบครัว ได้อกี ต่อไป ด้วยเหตุน:ีสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงได้
พระราชทานพระราชทรพั ยส์ ่วนพระองคใ์ หน้ าํ ไปจดั ต8งั เป็ น “มูลนธิ ิสงเคราะห์
ตํารวจชายแดนและ
ครอบครวั ในพระอุปถมั ภส์ มเด็จพระราชชนนศี รีสงั วาลย”์ มีชือ- ยอ่ ว่า “มส.ชด.สว.”
เมือวนั ที ๑๘ กนั ยายน ๒๕๑๐ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พือช่วยเหลอื สวสั ดิการตาํ รวจและ
ครอบครัวทไี ด้รับบาดเจบ็ หรือถงึ แกก่ รรมลงในขณะปฏบิ ัติหน้าที ตลอดรวมไปถึง
การช่วยเหลอื ในด้านการศึกษาให้แกบ่ ุตรของเหล่าตาํ รวจตระเวนชายแดน ท:งั ยังรับ
เอามลู นธิ แิ ห่งน:ีไว้ในพระอุปถัมภ์ของพระองคอ์ กี ด้วย เป็นผลให้เกดิ ขวญั และกาํ ลงั ใจ
แก่ข้าราชการตาํ รวจตระเวนชายแดน และครอบครัวเป็นอย่างมาก

ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯ สถาปนาสมเดจ็ พระราชชนนีศรีสงั วาลยข์ :ึนเป็น “สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรม
ราชชนนี” ดังน:ันกองบญั ชาการตาํ รวจตระเวนชายแดนจึงได้ขอเปลียนนาม “มลู นธิ ิ
สงเคราะห์ตาํ รวจชายแดนและครอบครัวในอุปถมั ภ์สมเดจ็ พระราชชนนีศรีสงั วาลย์”
(มส.ชด.สว.) เป็น “มูลนธิ ิสงเคราะหต์ ํารวจตระเวนชายแดนและครอบครวั ในพระ
ราชูปถมั ภข์ องสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” (มส.ตชด.สว.)” ต:ังแต่วันที
๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นต้นมา

(๓๑)

เนืองจากสมเดจ็ ย่าทรงเลง็ เหน็ ว่า ตาํ รวจตระเวนชายแดน ได้ทาํ การส้รู บกบั

ผู้กอ่ การร้ายคอมมวิ นสิ ต์ และปกป้ องเอกราช เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจบ็ และสญู เสยี

ชีวิต ต้องพักรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ สมเดจ็ ย่าทรงเลง็ เหน็ ความจาํ เป็นที

จะต้องให้ความช่วยเหลอื ในการพักฟ:ื นอาการเจบ็ ป่ วยเนืองจากการส้รู บ ก่อนทจี ะ

กลบั ไป ปฏบิ ัติภารกจิ และเพือใช้เป็นสถานทรี ับส่งคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ ทจี ะ

เข้ามารักษาในโรงพยาบาลส่วนกลาง เนืองจากคนไข้ไม่สามารถช่วยเหลอื ตนเองได้

หรือเดินทางไปมาไม่ถกู หรือเป็นทพี ักคนไข้ก่อนทจี ะนาํ ตัวส่งไปรักษาใน

โรงพยาบาลและ

ระหว่างรอสง่ ตวั กลับภมู ิลาํ เนา จึงได้พระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองคเ์ ป็นทนุ

ในการกอ่ สร้างโรงพยาบาล

กรมตาํ รวจได้พิจารณาอนุมตั ิให้กองบญั ชาการตาํ รวจตระเวนชายแดน ใช้ทดี นิ

ภายในกองบญั ชาการตาํ รวจตระเวนชายแดนเน:ือท๓ี ๐๐ตารางวา เพือสร้างโรงพยาบาล

ขนาด ๓๐ เตยี ง และอนุมัตเิ พิมอกี ๑๕๓.๔๐ ตารางวา เพือขยายโรงพยาบาลเป็น ๕๐

เตียง กองกาํ กบั การตาํ รวจตระเวนชายแดนได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตอญั เชิญ

พระนามาภิไธย เป็นนามอาคารโรงพยาบาลตาํ รวจตระเวนชายแดนว่า “อาคารศรี

นครินทร”์ ต่อมาทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงพยาบาลว่า “นวุติ

สมเดจ็ ย่า” ซึงมคี วามหมายว่า “สมเดจ็ ยา่ ๙๐ ปี ” เมือวันที ๕ มนี าคม พุทธศกั ราช

๒๕๓๓

(๓๒)

ใบความรู้

สมเดจ็ ย่ากบั การศาสนา

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพทุ ธศาสนิกชนทยี ดึ มันใน
พระพทุ ธศาสนาตลอดมา นอกจากจะทรงทาํ ทาน (ทรงบาํ เพญ็ ทานบารมดี ้วยการให้
และช่วยเหลอื ผู้อนื โดยเฉพาะผู้ป่ วย)รักษาศลี และเจริญภาวนาเป็นกจิ วตั รแล้ว
พระองคย์ งั
ทรงสนพระทยั ในการศกึ ษาปฏบิ ตั ธิ รรมด้วย ยงั ได้ทรงซึมซับให้พระราชธดิ าและพระ
ราชโอรส ได้ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ ามโดยมติ ้องทรงเคียวเขญ็ แต่ประการใด

เมือคร:ังทสี มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นผู้สาํ เรจ็ ราชการแทน
พระองค์ได้ทรงมีพระเมตตาธคิ ุณทจี ะให้ข้าราชการสาํ นักได้มโี อกาสสดบั พระธรรม
เทศนาบ้างเป็นคร:ังคราว จึงโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระเถรานุเถระมาบรรยายธรรม
พร้อมกบั ทรงให้รวบรวมจดั พิมพ์ข:ึนเป็นเล่ม เพือเผยแพร่ให้แก่บุคคลทวั ไปในโอกาส
ต่อมา เช่น เรืองหน้าที ชีวติ กบั ธรรม ปริยตั ิและปฏบิ ัติ และฆราวาสพ:ืนฐานของ
การทาํ ดีและทาํ ชัว เป็นต้น ท:งั น:ีเนืองจากสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรง
มพี ระราชดาํ ริว่า “จิตใจเป็ นรากฐานของการกระทาํ และการกระทาํ เป็ นรากฐานของ
การเกดิ ความสุข หรือความทุกข์ของคน ดังนัน! การฝึ กอบรมจติ จึงเป็ นส%ิงจาํ เป็ น
สาํ หรับทุกคน เพราะทุกคนมจี ิตทีจ% ะตอ้ งรู้ ตอ้ งคิด เหมอื นกันจงึ จาํ เป็ นจะตอ้ ง
บริหารจติ หรือพฒั นาจติ ใหร้ ู้ ใหค้ ดิ ไปในทางทีถ% กู ทีค% วร เพอื% การกระทาํ ต่างๆ ไป
ในทางทีถ% กู ทีค% วร…”

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ยงั ทรงห่วงใยถงึ นกั ศึกษาและข้าราชการ
ทพี าํ นกั อยู่ในต่างประเทศว่าพวกเขาควรจะมหี นงั สอื เกยี วกบั คาํ สงั สอนใน
พระพทุ ธศาสนาเป็นคู่มือสาํ หรับอ่านเพือเป็นแนวทางสาํ หรับปฏบิ ตั ติ นกบั เพือสามารถ
ใช้อธบิ าย ให้กบั ชาวต่างชาตผิ ู้ต้องการทราบถงึ หลกั ธรรมในทางพระพุทธศาสนาให้
เข้าใจได้ จึงทรงอาราธนาสมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสงั ฆราชสกลมหา
สงั ฆปรินายก แห่งวดั บวรนิเทศวหิ าร เมือคร:ังยงั ทรงสมณศักดQิเป็นพระสาสนโสภณ

(๓๓)

ใหท้ รงเรียบเรียง หนงั สอื ธรรมะ “พระพุทธเจา้ ทรงสงั- สอนอะไร ?” โดยในหนังสอื

ได้กล่าวถึงอริยสจั ๔ ไตรลักษณ์ พรหมวิหาร ๔ นิพพาน ตลอดจนการปฏบิ ัติตน

ให้ถูกต้องในทางธรรม อนั จะนาํ ความสขุ ความเจริญมาส่ชู ีวติ ตนเมือพระสาสนโสภณ

เรียบเรียงข:ึนแล้ว สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงตรวจทานในแง่ของ

การใช้ถ้อยคาํ และสาํ นวนภาษาให้เหมาะสมกบั กล่มุ ผู้ทจี ะอ่าน ซึงมใิ ช่ผู้ทรี อบรู้ทาง

พระพุทธศาสนา โดยทรงเอาพระองคเ์ องเป็นเครืองวดั ความยากง่ายของเรือง

จากน:ันได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้พระขันติปาโลและพระนาคเสโน แปลเป็น

ภาษาองั กฤษ แล้วจดั พิมพ์ข:ึนเพือแจกจ่ายไปยังสถานศึกษา และหน่วยงาน

ข้าราชการ ทปี ระจาํ อยู่ในต่างประเทศ

พระจริยวตั รทสี าํ คญั อกี ประการหนึงในทางพระพุทธศาสนาของสมเดจ็ พระศรี

นครนทิ ราบรมราชชนนี ทนี ้อยคนนักจะได้รู้เหน็ กค็ ือ การป:ันพระพทุ ธรปู แม้พระองค์

จะมไิ ด้ทรงศกึ ษาการป:ันในทางศิลปะมาก่อนแต่ด้วยพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ทาํ ให้ทรงสามารถป:ันพระพุทธรูปได้อย่างงดงามด้วยพุทธลักษณะ และพระองคย์ งั ทรง

พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จดั สร้างพระพุทธปฏมิ าในลักษณะต่างๆข:ึน เพือพระราชทาน

ให้แกบ่ ุคคลและหน่วยงานทรี ับสนองพระราชกจิ ในวโรกาสต่างๆ เพือให้บคุ คลดังกล่าว

ได้ใช้เป็นสงิ ยดึ เหนียวจิตใจให้ต:ังอยู่ในศีลธรรมอนั ดี พระเครืองทโี ปรดเกล้าฯ ให้

จัดทาํ ข:ึนน:ีมี พระพุทธเมตตา พระพุทธปฏมิ าทรงเครืองขนาดเลก็ เหรียญพระพุทธ

ปฏมิ ารปู ใบโพธQิ พระกริง สว. เหรียญพระพทุ ธรูปประทานพรรูป ใบโพธQปิ ระดับ

พระนามาภิไธยย่อ สว.เป็นอาทิ

อกี สงิ หนึงทแี สดงให้เหน็ ถึงพระราชศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา ของสมเดจ็

พระศรีนครินทราบรมราชชนนี คอื ได้ทรงพระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองค์

ร่วมกบั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ Qิ พระบรมราชนิ นี าถ

เพือ- ใชเ้ ป็ นทุนในการตรวจชําระ และจัดพมิ พพ์ ระไตรปิ ฎกฉบบั มหาจุฬาลงกรณราช

วิทยาลยั ปี พุทธศกั ราช ๒๕๓๕ และในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพในทกุ ๆ ปี

กจ็ ะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นาํ พระราชทรัพยไ์ ปบริจาคให้แกว่ ดั วาอารามต่างๆ

เพือทาํ นุบาํ รุงให้กจิ การทางพระพุทธศาสนาได้สบื ต่อไป

มิใช่เพียงพระพุทธศาสนาเท่าน:ันทที รงให้ความเก:อื หนุน สมเดจ็ พระศรีนคริน

ทราบรมราชชนนี ยงั ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สาํ นักจุฬาราชมนตรีจัดพิมพ์

หนงั สอื “ศาสนาอสิ ลาม สอนอะไร?” ข:ึนสาํ หรับพระราชทาน ให้แกป่ ระชาชนใน

(๓๔)

จังหวดั ภาคใต้และผู้สนใจทวั ไป เพราะทรงตระหนักว่าทกุ ศาสนาล้วนมจี ุดหมายทจี ะ
สอนให้ผู้ทนี ับถือเป็นคนดี และอยู่ร่วมกบั ผู้อนื ได้อย่างสนั ต

คาํ กล่าวถวายรายงานและกราบบงั คมทูลในการรบั เสดจ็
สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี

๑. คาํ ถวายรายงาน สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี
(สาํ หรับข้าราชการ ทหาร ตาํ รวจ)

“ขอพระราชทานกราบบงั คมทูลทราบฝ่ าละอองพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า ……………………………(ยศ, ชือ, ตาํ แหน่ง) ………………………………….
พระพทุ ธเจ้าข้า ขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”

๒. คาํ ถวายรายงาน สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
(สาํ หรับผู้มีตาํ แหน่งในการถวายความปลอดภยั )

“ขอพระราชทานกราบบังคมทลู ทราบ ฝ่ าละอองพระบาท
ข้าพระพทุ ธเจ้า ……………………….. (ตาํ แหน่งในการถวายความปลอดภยั )
พระพุทธเจ้าข้า ขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”

๓. คาํ กราบบงั คมทลู สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี

“ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบ ฝ่ าละอองพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า …………………………. (ชือ, สกุล, ตาํ แหน่ง)
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม หรือ ควรมคิ วรแล้วแต่จะทรงพระกรณุ าโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อม”

ความหมายของคํากราบบงั คมทูล

- ขอพระราชทานกราบบังคมทูล ใช้เป็นคาํ ข:ึนต้นกอ่ นประโยคอนื ๆ
- ฝ่ าละอองพระบาท เป็นคาํ สรรพนามแทนพระบรมวงศ์ (สมเดจ็ พระเทพ
รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี)
- ข้าพระพุทธเจ้า เป็นคาํ สรรพนามแทนผู้กราบบังคมทูล (ความหมาย
เช่นเดยี วกบั ข้าพเจ้า, ดิฉัน)

(๓๕)

- ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม หรือ ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อม ใช้เป็นคาํ ลงท้ายเมือกล่าวจบ

เพลงพระมิง- ขวญั บุคคลสาํ คญั ของโลก

คาํ รอ้ ง – ทํานอง : น.ท.พยงค์ มุกดา ร.น.
เรียบเรียงเสยี งประสาน : วชิ ยั ต่อเนือง (อนชุ ิตสงคราม)
บรรเลง – ขบั รอ้ ง : วงดนตรีกรมประชาสมั พนั ธ์

สมเด็จย่า แม่ฟ้ าหลวง ของปวงไทย
ผู้ทรงพระคณุ ยิงใหญ่ สุดนาํ วจีคาํ ใด กล่าวขาน
ภารกจิ อุทศิ พระองค์ ทรงงาน
ป่ าดอยเขาสงู ตระหง่าน บุกแดนทุรกนั ดาร ไม่ครันคร้าม

ดอยท:งั ปวง แม่ฟ้ าหลวง ทรงพันผูก
เขาทกุ ลูก แม่ฟ้ าหลวง ทรงบุกข้าม
พระกรณุ า ข้ามฟ้ าข้ามดอย ลอยเหน็ เด่นงาม
ดอยตุงสยาม เชียงราย หมายถงึ ธง

สมเดจ็ ย่า คู่ฟ้ าเหมือนธงไตรรงค์
โลกถวายพระนามสงู ส่ง เทดิ องค์พระชนนี ศรีนครินทร์

*สมเดจ็ ย่า คู่ฟ้ าเหมือน ธงไตรรงค์
โลกถวายพระนาเมพสลงู งสส่งดุดเทีสดิ มอเงดคจ็ พ์ ยร่าะชนนี ศรีนครินทร์

พระเกคยี ํารรตอ้ ิคงุณ:ท่วตมัดฟต้ าอนพมราะจการกณุ เพาทลง่วพมดระนิ มิงขวญั บคุ คลสาํ คญั ของโลก
สมเดจ็ พระศรีนคโรดินยทรนา.ทบ.พรยมงรคา์ชชมนุกนดี ามริง.ขนว.ญั
คือบคุ ทคาํ ลนสอาํ งคัญ: รขาอตงรโีปลกระเอดยบั ดาวสองช:ัน

(ซาํ: *)

(๓๖)

เพลงค่าน8าํ นม

แม่น:ีมีบญุ คุณอนั ใหญ่หลวง ทเี ฝ้ าหวงห่วงลกู แต่หลงั
เมือยังนอนเปล แม่เราเฝ้ าโอละเห่ กล่อมลกู น้อยนอนเปล
ไม่ห่างหันเห ไปจนไกล

แต่เลก็ จนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกดิ จากรัก
ลกู ปักดวงใจ เตบิ โตโอ้เลก็ จนใหญ่ นีแหละหนาอะไร มิใช่
ใดหนาเพราะค่านา:ํ นม

**ควรคดิ พินจิ ให้ดี ค่านาํ: นมแม่น:ี จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋าลกู คดิ ถึงค่านาํ: นม เลือดในอกผสม กลันเป็นนา:ํ นม
ให้ลกู ดืมกนิ

ค่านาํ: นมควรชวนให้ลกู ฝัง แต่เมือหลงั เปรียบดังผืนฟ้ า
หนกั กว่าแผ่นดิน บวชเรียนพากเพียรจนส:นิ หยดหนึง
นาํ: นมกนิ ทดแทนไม่ส:นิ พระคุณแม่เอย

(ซาํ: **)

*****************************

(๓๗)

เพลงความเอ8 ือเฟ8 ื อเผือ- แผ่

(สรอ้ ย) เอ8 ือเฟ8 ื อกนั ผูกพนั ไมตรี ช่วยเหลอื กนั สรา้ งสรรคค์ วามดี
ดุด ดุด๊ ดู ดุด ดู ดุด ดู ดุด ดุด๊ ดู ดุด ดู๋ ดุด ดู่

(ญ.) ฉนั มีขนมมาฝาก ขนมจากสมทุ รปราการ
ทองหยิบ ทองหยอด ขนมตาล หวานมนั จริงๆ นะเธอ

(ช.) เมือวานเธอไปไหนมา
(ญ.) คุณย่าทา่ นน่าสงสาร ไม่ได้ไปเยียมเสยี นาน
เมือวานจงึ ไปเยียมทา่ นมา
(ช.) เป็นอะไรไปล่ะน้องสาว
(ญ.) กข็ า ฉนั แพลงนะซี
(ช.) ช่วยอุ้มเอาไหมคนดี
(ญ.) อย่าเลยพี น้องมพี ยาบาล (สร้อย)

(๓๘)

เพลงหนา้ ทีเ- ด็ก

เดก็ เอย๋ เดก็ ดี ต้องมหี น้าทสิ บอย่างด้วยกนั (ซาํ: )
สอง รักษาวาจามัน
หนึง- นบั ถือศาสนา สี- วาจาน:ันต้องสภุ าพอ่อนหวาน
สาม เชือพ่อแม่ครูอาจารย์ หก เป็นผู้รู้รักการงาน
หา้ ยดึ มันกตญั Xู ต้องมานะบากบัน ไม่เกยี จไม่คร้าน
เจ็ด ต้องศกึ ษาให้เชียวชาญ
แปด รู้จักออมประหยดั เกา้ ต้องซือสตั ย์ตลอดกาล
นาํ: ใจนักกฬี ากล้าหาญ ให้เหมาะกบั กาล สมัยชาติพัฒนา
รู้บาปบญุ คณุ โทษ สมบตั ิชาติต้องรักษา
สิบ บาํ เพญ็ ตน เป็นประโยชน์ ต้องเป็นเดก็ ทพี า ชาตไิ ทยเจริญ
เดก็ สมัยชาตพิ ัฒนา

(๓๙)

คณะกรรมการจดั ทําหลกั สูตรสมเดจ็ ย่า

คณะทีป- รึกษา กองบญั ชาการตํารวจตระเวนชายแดน

๑. พล.ต.ท. สาโรจน์ ปัญญา ผบช.ตชด.

๒. พล.ต.ต. สมศกั ดQิ แขวงโสภา รอง ผบช.ตชด.

๓. พล.ต.ต. ฉัตรพล คัคโนภาส รอง ผบช.ตชด.

๔. พล.ต.ต. บวร สงคศริ ิ รอง ผบช.ตชด.

๕. พล.ต.ต. ถาวร จันทร์ย:ิม รอง ผบช.ตชด.

๖. พล.ต.ต. วรพจน์ อนิ ทเส รอง ผบช.ตชด.

๗. พล.ต.ต. ธรี ะเดช รอดโพธQทิ อง รอง ผบช.ตชด.

๘. พล.ต.ต. นพิ นธ์ ศริ ิวงศ์ รอง ผบช.ตชด.

๙. พล.ต.ต. เธยี รชยั เอยี มรักษา รอง ผบช.ตชด.

๑๐. พล.ต.ต. ดเิ รก พงษ์ภมร รอง ผบช.ตชด.

๑๑. พล.ต.ต. นพรัตน์ มีปรีชา ผบก.อก.ตชด.

๑๒. พล.ต.ต. สทุ นิ เขียวรัตน์ ผบก.ตชด.ภาค ๒

๑๓. พล.ต.อ. เฉลิมชยั พิมลศรี รอง ผบก.อก.ตชด.

๑๔. พ.ต.อ. ธาํ รง สาริกลั ยะ รอง ผบก.ตชด.ภาค ๒

๑๕. พ.ต.อ. ชยั ธชั ยอดอานนท์ รอง ผบก.ตชด.ภาค ๒

๑๖. พ.ต.อ. ยุทธนา ตงุ คะเสน รอง ผบก.ตชด.ภาค ๒

๑๗. พ.ต.อ. โกสนิ ทร์ เทยี มทศั น์ รอง ผบก.ตชด.ภาค ๒

๑๘. พ.ต.อ. เอนก ณ นคร ผกก.๕ บก.อก.ตชด.

๑๙. พ.ต.อ. โชติ ไทยยิง ผกก.ตชด.๒๑

๒๐. พ.ต.อ. ปรีชา บญุ สขุ ผกก.ตชด.๒๓

๒๑. พ.ต.ท. ประจวบ จรญู ธรรม รอง ผกก.ตชด.๒๓

๒๒. พ.ต.ท. คณู โคตาสตู ร รอง ผกก.๕ บก.อก.ตชด.

๒๓. พ.ต.ท. บวร มทุ ขอนแก่น ผบ.ร้อย(สบ.๒)ร้อย ตชด.๒๓๒

๒๔. พ.ต.ท. ปราโมทย์ ตระกลู โชคเสถยี ร สว.ผ.๕ กก.ตชด.๒๓

๒๕. พ.ต.ต. นรินทร์ เกษกาญจนานุช อดตี สว.ผ.๕ กก.ตชด.๒๓

๒๖. พ.ต.ท. หญงิ อมั พร โอฬารสกุล สว.ผ.๒ กก.๕ บก.อก.ตชด.

๒๗. ร.ต.อ. หญิง เสาวนยี ์ เรืองสภุ าชาติ รอง สว.ผ.๒ กก.๕ บก.อก.ตชด.

(๔๐)

๒๘. อาจารย์ กติ ติ ขันธมิตร สาํ นักงานโครงการสมเดจ็ พระเทพรัตน
๒๙. อาจารย์ อภสิ ทิ ธQิ พึงพร ราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี (สสท.)
สาํ นักงานโครงการสมเดจ็ พระเทพรัตน
ราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี (สสท.)

คณะทีป- รึกษา สถาบนั ราชภฏั สกลนคร

๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา สวุ รรณไตรย์ อธกิ ารบดี

๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพิ นธ์ อนิ สนิ อดีตอธกิ ารบดี

๓. นายพิศิษฐ์ แสงวงศ์ รองอธกิ ารบดีฝ่ ายกจิ การพิเศษ

๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สเุ ทพ การุณย์ลญั จกร คณบดีคณะครุศาสตร์

คณะกรรมการดาํ เนนิ งาน

๑. นายคมสนั อดุ มสารเสวี หัวหน้าคณะกรรมการดาํ เนนิ งาน
๒. นางลดั ดา พนสั นอก กรรมการ
๓. นางสาวสายใจ มาลัยกรอง กรรมการ
๔. นายยงยศ วงศ์แพงสอน กรรมการ
๕. ดร.ปัญญา นาแพงหมืน กรรมการ
๖. ร.ต.อ. มานะ ดรเถือน กรรมการ
๗. ร.ต.อ. เชิดชูพงศ์ วงศรียา กรรมการ
๘. ด.ต. ธนากร คฒั มาตร กรรมการ
๙. นางลดั ดาศรี อดุ มสารเสวี กรรมการและเลขานุการ
๑๐. ส.ต.ต.หญิง ปาริชาติ บัวรอด กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
๑๑. นางสาวอจั ฉรา ประมาพันธ์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

(๔๑)

ผูท้ รงคุณวุฒิ / ผูเ้ ชีย- วชาญดา้ นหลกั สูตรและการสอน
สถาบนั ราชภฏั สกลนคร

๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วฒั นา สวุ รรณไตรย์ อธกิ ารบดี
๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพร จนิ ดาสมุทร์ รองอธกิ ารบดฝี ่ ายวิชาการ
๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วนั เพญ็ จนั ทร์เจริญ รองคณบดีคณะครุศาสตร์
๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสรรค์ บษุ ยะมา ข้าราชการบาํ นาญ
๕. ดร.ประยูร บญุ ใช้ รองคณบดคี ณะครุศาสตร์

(๔๒)

รายชื-อผูเ้ ขา้ ประชมุ พฒั นาปรบั ปรุงหลกั สูตรสมเดจ็ ยา่

คร8งั ที- ๑
วนั ที- ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๖
ณ กองบญั ชาการตํารวจตระเวนชายแดน กรุงเทพฯ

---------------

๑. พล.ต.ต. สมศักดQิ แขวงโสภา รอง ผบช.ตชด.
๒. พล.ต.ต. เธยี รชัย เอยี มรักษา รอง ผบช.ตชด.
๓. พล.ต.ต. ดเิ รก พงษภ์ มร รอง ผบช.ตชด.
๔. พล.ต.ต. นพรัตน์ มีปรีชา ผบก.อก.ตชด.
๕. พ.ต.อ. เฉลิมชัย พิมลศรี รอง ผบก.อก.ตชด.
๖. พ.ต.อ. ชัยธชั ยอดอานนท์ รอง ผบก.ตชด.ภาค ๒
๗. พ.ต.อ. เอนก ณ นคร ผกก.๕ บก.อก.ตชด.
๘. พ.ต.ท. คูณ โคตาสตู ร รอง ผกก.๕ บก.อก.ตชด.
๙. พ.ต.ท. สมศกั ดQิ ศรีบุญเรือง รอง ผกก.๕ บก. อก.ตชด.
๑๐. พ.ต.ท. ประจวบ จรญู ธรรม รอง ผกก.ตชด.๒๓
๑๑. พ.ต.ต. นรินทร์ เกษกาญจนานุช อดตี สว.ผ.๕ กก.ตชด.๒๓
๑๒. อาจารย์ กติ ติ ขนั ธมติ ร สาํ นักงานโครงการสมเดจ็ พระ-
เทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช
๑๓. อาจารย์ อภสิ ทิ ธQิ พึงพร กุมารี (สสท.)
สาํ นกั งานโครงการสมเดจ็ พระ-
๑๔. อาจารย์ คมสนั อดุ มสารเสวี เทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช
๑๕. อาจารย์ ลัดดาศรี อุดมสารเสวี กมุ ารี (สสท.)
๑๖. อาจารย์ ยงยศ วงศ์แพงสอน สถาบนั ราชภฏั สกลนคร
สถาบันราชภัฏสกลนคร
สถาบนั ราชภัฏสกลนคร

(๔๓)

รายชือ- ผูเ้ ขา้ ประชมุ พฒั นาปรบั ปรุงหลกั สูตรสมเดจ็ ยา่

คร8งั ที- ๒
วนั ที- ๔ มนี าคม ๒๕๔๗
ณ กองบญั ชาการตํารวจตระเวนชายแดน กรุงเทพฯ

---------------

๑. พล.ต.ต. สมศกั ดQิ แขวงโสภา รอง ผบช.ตชด.
รอง ผบก.อก.ตชด.
๒. พ.ต.อ. เฉลิมชัย พิมลศรี ผกก.๕ บก.อก.ตชด.
รอง ผกก.๕ บก. อก.ตชด.
๓. พ.ต.อ. เอนก ณ นคร รอง ผกก.ตชด.๒๓
รอง สว.กก.๕ บก.อก.ตชด.
๔. พ.ต.ท. พีระศกั ดQิ กลบี จนั ทร์ รอง สว.ผ.๕ กก.ตชด.๒๓
สถาบนั ราชภฏั สกลนคร
๕. พ.ต.ท. ประจวบ จรญู ธรรม สถาบันราชภัฏสกลนคร
สถาบนั ราชภฏั สกลนคร
๖. ร.ต.อ.หญงิ เสาวนีย์ เรืองสภุ าชาติ สถาบนั ราชภฏั นครศรีธรรมราช
สาํ นกั งานคณะกรรมการการอุดม
๗. ร.ต.อ. เชดิ ชูพงศ์ วงศรียา ศกึ ษา
สาํ นักงานคณะกรรมการการอุดม
๘. อาจารย์ คมสนั อุดมสารเสวี ศึกษา
สาํ นกั งานโครงการสมเดจ็ พระ-
๙. อาจารย์ ลดั ดาศรี อุดมสารเสวี เทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช
กุมารี (สสท.)
๑๐. อาจารย์ ยงยศ วงศ์แพงสอน

๑๑. ผศ.ณรงค์ อุ้ยนอง

๑๒. น.ส.สภุ าพร ศรีหามี

๑๓. นางกรรณิการ์ ภริ มย์รัตน์

๑๔. อาจารย์ อภิสทิ ธQิ พึงพร

ภาคผนวก

(๒)

เนือหา
เรือง “สมเดจ็ ยา่ ”

หลกั สูตร ป.๑- ป.๖ โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.๒๓

ความสําคญั ของสมเดจ็ ย่า

สมเดจ็ ย่า ทรงเป็นพระราชชนนี ผู้ให้กาํ เนดิ และถวายการอภิบาลเล&ียงดู
พระมหากษตั ริย์ผู้ทรงคุณอนั ประเสริฐย/ิงต่อคนไทยถึงสองพระองค์ โดยเฉพาะอย่างย/ิง
พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภมู ิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันผู้ทรง
เป็นศนู ยร์ วมยึดเหน/ียวจิตใจของคนไทยท&งั ชาติ ตลอดพระชนม์ชีพของสมเดจ็ ย่า
พระองคท์ า่ นได้ทรงทุม่ เทพระวรกาย และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพ/ือ
ช่วยเหลือราษฎรไทยผู้ยากไร้ ท/อี าศยั อยู่ในถน/ิ ทรุ กนั ดารห่างไกลความเจริญให้พ้น
จากความทกุ ขย์ าก และทรงปฏบิ ตั พิ ระราชภารกจิ ต่างๆ มากมาย

นอกจากน&ันสมเดจ็ ย่ายงั ทรงเลง็ เหน็ ว่า การศึกษาเป็นสง/ิ สาํ คญั ท/ที าํ ให้เยาวชน
ในชนบทมีความรู้ ความคดิ และสติปัญญาท/เี ฉลียวฉลาด อนั จะเป็นปัจจัยสาํ คญั ใน
การพัฒนาชนบท เม/ือทรงทราบว่ากองกาํ กบั การตาํ รวจตระเวนชายแดนมีโครงการท/ี
จะสร้างโรงเรียนในเขตพ&ืนท/ตี ามแนวชายแดน จงึ ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์
เพ/ือนาํ ไปสร้างโรงเรียนตาํ รวจตระเวนชายแดน และได้พระราชทานช/ือโรงเรียนตามช/ือ
ผู้บริจาคเงินในการจัดสร้างด้วย เม/ือโรงเรียนแต่ละแห่งสร้างเสรจ็ แล้ว พระองคก์ จ็ ะ
เสดจ็ ฯ ไปทรงเปิ ดโรงเรียนแห่งน&ันด้วยพระองค์เอง พร้อมกบั พระราชทานอุปกรณ์
การเรียนการสอนท/จี าํ เป็นให้กบั เดก็ นักเรียนด้วย

ถึงแม้ว่าสมเดจ็ ย่าจะทรงเจริญพระชนมายุมากข&ึน กม็ ไิ ด้ทอดท&งิ โรงเรียนตาํ รวจ
ตระเวนชายแดน พระองคไ์ ด้ทรงฝากให้สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช
กมุ ารี ทรงช่วยดูแลแทน ดังพระราชกระแสท/วี ่า “ยา่ แก่แลว้ ไปไหนไม่ค่อยไหว ถา้
สมเด็จพระเทพฯ เสดจ็ ฯ กใ็ หเ้ ยียมแทนยา่ ดว้ ย” นบั เป็นพระมหากรุณาธคิ ุณท/ที รง
มีต่อเยาวชนในท้องถ/ินชนบทห่างไกลเป็ นล้ นพ้ น

(๓)

จากพระราชกรณยี กจิ ท/ที รงบาํ เพญ็ ตลอดพระชนม์ชพี สมเดจ็ ย่าจงึ ได้รับการ
ประกาศเฉลิมพระเกยี รติคณุ จาก UNESCO ให้ทรงเป็นบุคคลสาํ คญั ของโลกประจาํ ปี
พุทธศกั ราช ๒๕๔๓ - ๒๕๔๔

พระราชประวตั ิ

ชาติกําเนิด

“สมเด็จย่า” เป็นพระสมัญญานามของ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ทรงมพี ระนามเดิมว่า “สงั วาลย”์ เสดจ็ พระราชสมภพเม/ือวนั อาทติ ยท์ /ี ๒๑ ตุลาคม
พุทธศกั ราช ๒๔๔๓ ท/จี งั หวดั นนทบรุ ี ในครอบครัวสามญั ชนท/ปี ระกอบอาชพี เป็น
ช่างทอง ทรงมพี /ีน้องรวม ๔ คน โดยทรงเป็นบุตรคนท/ี ๓ ของพระชนกช/ือ “ชู” และ
พระชนนชี /ือ “คาํ ” ท&งั น&ีพระภคินแี ละพระเชษฐาของพระองค์ได้ถึงแกอ่ นจิ กรรมต&ังแต่
วยั เยาว์ ส่วนพระอนุชา “ถมยา” ได้มชี ีวติ อยู่ต่อมาจนอายุราว ๒๗-๒๘ ปี จึงถงึ
แก่กรรมลงด้วยโรคเย/ือหุ้มสมองอกั เสบ

ครอบครัวของพระชนกชูและพระชนนีคาํ ได้พาํ นักอยู่ท/จี งั หวัดนนทบุรี เป็น
เวลานานเทา่ ใดไม่ปรากฏ แต่เม/ือสมเดจ็ ย่าทรงจาํ ความได้กพ็ บว่าครอบครัวของ
พระองค์ได้ย้ายมาต&ังถ/ินฐานอยู่ท/ซี อยวดั อนงค์ บริเวณเชิงสะพานสมเดจ็ พระพทุ ธ
ยอดฟ้ าจุฬาโลก ย่านฝ/ังธนบรุ ีแล้ว โดยบ้านท/ที รงพาํ นกั เป็นเหมอื นห้องแถวช&ัน
เดียว ก่อด้วยอฐิ มุงหลังคากระเบ&ือง สมเดจ็ ย่าทรงเป็นกาํ พร้าต&ังแต่ยงั เยาว์ เน/ือง
ด้วยพระชนกชูได้ถึงแกก่ รรมลงในขณะท/สี มเดจ็ ย่ายงั ทรงเลก็ อยู่ พระชนนีคาํ จึงต้อง
รับภาระในการเล&ียงดสู มเดจ็ ย่าและพระอนุชาโดยลาํ พังต่อมา

(๔)

การศึกษา

สมเดจ็ ย่า ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนวดั อนงคารามเป็นแห่งแรก หลงั จากน&ัน
ได้ย้ายไปเรียนต่อท/โี รงเรียนศึกษานารี และเม/ือพระชนมายุราว ๗-๘ พรรษา ได้ถูก
นาํ ข&ึนถวายตวั เป็นข้าหลวง ณ สวนส/ฤี ดใู นพระราชวงั ดสุ ติ ต่อมาได้ทรงพาํ นกั อยู่ท/ี
บ้านพระพ/ีเล&ียงของสมเดจ็ พระบรมราชชนกและถูกสง่ ไปศึกษาทโ/ี รงเรียนสตรีวิทยา
ขณะน&ัน สมเดจ็ ย่าทรงมีพระชนมายุราว ๙ พรรษา พระชนนีคาํ ได้ถึงแกอ่ นิจกรรม

ในปี พทุ ธศักราช ๒๔๕๖ สมเดจ็ ย่าได้ทรงเข้าเป็นนักเรียนพยาบาล ณ โรงเรียน
แพทย์ผดุงครรภแ์ ละหญิงแห่งศิริราช ท&งั ๆ ท/มี ีพระชนมายุเพียง ๑๓ พรรษา เทา่ น&ัน
จึงทรงเป็นนักเรียนพยาบาลท/มี ีอายุน้อยท/สี ดุ ในเวลาน&ัน

ในช่วงท/สี มเดจ็ ย่าทรงฝึกงานการพยาบาลอยู่น&ัน เป็นระยะเวลาท/ที างราชการ
ได้พยายามปรับปรุงงานด้านการแพทย์และสาธารณสขุ ให้แพร่หลายและมีประสทิ ธภิ าพ
มากย/ิงข&ึน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขนุ ชัยนาทนเรนทร (ซ/ึงต่อมาทรงดาํ รงพระยศ
เป็น สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร) ได้ทรงคัดเลือกนักเรียน
แพทยแ์ ละนกั เรียนพยาบาลอย่างละ ๒ คน ให้ไปศึกษาต่อท/ปี ระเทศสหรัฐอเมริกา
ด้วยทุนของสมเดจ็ พระมหิตลาธเิ บศร อดุลยเดชวิกรม บรมราชชนก ท/พี ระราชทาน
ให้แกน่ กั เรียนแพทย์ และทนุ ของสมเดจ็ พระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวสั สา
อยั ยิกาเจ้า ท/พี ระราชทานให้แกน่ กั เรียนพยาบาล ซ/ึงนกั เรียนพยาบาล “สงั วาลย”์
และนกั เรียนพยาบาล “อบุ ล” ได้รับการคดั เลือกให้ไปศกึ ษาท/ปี ระเทศสหรัฐอเมริกา
ในคร&ังน&ี

(๕)

ชีวิตสมรส

ในช่วงท/สี มเดจ็ ย่าศึกษาต่อในวชิ าพยาบาลท/ปี ระเทศสหรัฐอเมริกา ท่านได้พบ
กบั สมเดจ็ เจ้าฟ้ ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ พระราชโอรสของ
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท/ี ๕ กบั สมเดจ็ พระศรีสวรินทราบ
รมราชเทวี (สมเดจ็ พระพันวสั สาอยั ยิกาเจ้า) ท/เี สดจ็ ไปศึกษาวิชาแพทย์ และได้
อภเิ ษกสมรส เม/ือวันท/ี ๑๐ กนั ยายน พ.ศ.๒๔๖๓ โดยมพี ระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยู่หัวรัชกาลท/ี ๖ มาพระราชทานนา&ํ สงั ข์ ณ วงั สระประทมุ ภายหลังสมรส
ฐานะของสมเดจ็ ย่า จากนางสาวสงั วาลย์ เป็น หม่อมสงั วาลย์ มหิดล ณ อยุธยา มี
พระราชธดิ า และพระราชโอรส รวม ๓ พระองค์ คือ

๑. สมเดจ็ พระเจ้าพ/ีนางเธอเจ้าฟ้ ากลั ยาณวิ ัฒนากรมหลวงนราธวิ าส
ราชนครินทร์

๒. พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวอานนั ทมหิดล (รัชกาลท/ี ๘)
๓. พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภมู พิ ลอดุลยเดช (รัชกาลท/ี ๙)

ทรงเป็ นพระราชชนนี

ในตอนเช้ามดื วันท/ี ๒๔ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ คณะราษฎร์ ได้ทาํ การปฏวิ ัติ

เปล/ียนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์มาเป็นระบอบ

ประชาธิปไตย พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยอมรับท/จี ะเป็นพระมหา

กษตั ริย์ภายใต้การปกครองระบอบใหม่น&ี สมเดจ็ พระศรีสวรินทราบรมราชเทวี

พระพันวสั สาอยั ยิกาเจ้า ทรงตัดสนิ พระทยั ให้หม่อมสงั วาลย์ พระธดิ า พระโอรส ไป

พาํ นักณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองคต์ ้องรับภาระในการอบรม

เล&ียงดพู ระธิดา และพระโอรสท&งั ๓ พระองคโ์ ดยลาํ พัง

(๖)

เม/ือวนั ท/ี ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง
ประกาศสละราชสมบัติ ด้วยเหตุท/พี ระองค์ไม่ทรงมพี ระราชโอรสและพระราชธดิ า
รัฐบาลไทยในสมัยน&ันจึงได้กราบบงั คมทูลอญั เชญิ พระวรวงศ์เธอพระองคเ์ จ้าอานันท
มหิดล พระชนมายุ ๙ พรรษา พระราชโอรสองคโ์ ตในสมเดจ็ เจ้าฟ้ ามหิดลอดลุ ยเดช
กรมหลวงสงขลานครินทร์ (พระบรมราชชนก) กบั หม่อมสงั วาลย์ มหิดล ณ อยุธยา
ข&ึนครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริยร์ ัชกาลท/ี ๘ ทาํ ให้ฐานะของหม่อมสงั วาลย์
เปล/ียนเป็น พระราชชนนีศรีสงั วาลย์ ต่อมาสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลได้ทรง
พระกรณุ าโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระราชชนนีศรีสงั วาลยข์ &ึนเป็น สมเดจ็ พระราชชนนีศรี
สงั วาลย์ ทรงดาํ รงพระยศเป็นพระบรมวงศฝ์ ่ ายในช&ันสงู เม/ือวนั ท/ี ๑๖ พฤศจกิ ายน
พุทธศักราช ๒๔๘๑

ทรงอภิบาลดูแลยวุ กษตั ริย์

หลังส&นิ พระชนม์ของสมเดจ็ เจ้าฟ้ ามหิดลอดลุ ยเดช หรือสมเดจ็ พระบรมราช
ชนก ในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ แล้ว สมเดจ็ ย่า หรือ หม่อมสงั วาลย์ มหิดล ณ อยุธยา
ขณะน&ัน พระชนมายุ ๒๙ พรรษา ต้องทรงรับพระราชภาระในการอภบิ าลบาํ รุงพระ
ราชธดิ า พระราชโอรส ถงึ ๓ พระองค์ โดยทาํ หน้าท/ใี นฐานะ “พอ่ ” และ “แม่” ผู้
ประเสริฐ ยดึ หลักในการอภบิ าล ๒ ประการ คือ เด็กตอ้ งมีอนามยั สมบูรณ์ และเดก็
ตอ้ งอยู่ในระเบียบวินยั โดยไม่บงั คบั เขม้ งวดมากเกนิ ไป นอกจากน&ีสมเดจ็ ย่ายงั
ทรงอบรม
สงั สอน ใหพ้ ระราชธิดา พระราชโอรส เป็ นเดก็ ดี มีมารยาทดี และมีเหตุผล ย/ิง
เม/ือหม่อมสงั วาลย์ มหิดล เปล/ียนฐานะเป็นพระราชชนนี การอภบิ าลว่าท/ี
พระมหากษตั ริย์ พระองค์น้อย เป็นพระราชภารกจิ ท/ยี /ิงใหญ่ ทง&ั น&ีเพราะมพี ระราช
ประสงคอ์ นั แรงกล้าท/จี ะให้พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวท/เี สดจ็ ข&ึนครองราชย์ภายใต้
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ทรงสามารถปฏบิ ตั หิ น้าท/ปี ระมุขของชาตใิ ห้ได้
ประโยชน์เตม็ ท/ี มิใช่เพียงแต่รับราชสมบัติแล้วมทิ รงทะนุบาํ รุงอาณาประชาราษฎร์
จากพระปณิธานน&ีเองทาํ ให้สมเดจ็ ย่าต้องทรงเพ/ิมความเอาพระทยั ใสใ่ นการอบรมเล&ียง
ดพู ระราชธดิ า และพระราชโอรสมากย/ิงข&ึนเป็นเทา่ ทวีคณู ซ/ึงการถวายอภบิ าลองค์ยุ

(๗)

วกษตั ริย์ของสมเดจ็ ย่าน&ัน เป็นท/ยี อมรับจากท&งั พระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชน
โดยท/วั ไป

ทรงสูญเสยี พระราชโอรส “อานนั ทมหิดล”

ในวันท/ี ๙ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๔๘๙ สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดสวรรคต

ณ พระท/นี /ังบรมพิมานในพระบรมมหาราชวงั การเสดจ็ สวรรคตของสมเดจ็ พระ

เจ้าอยู่หัวอย่างกระทนั หัน ก่อให้เกดิ ความเศร้าโศกสะเทอื นพระราชหฤทยั แกส่ มเดจ็ ย่า

เป็นท/ยี /ิง จนพระวรกายซบู ลงอย่างรวดเรว็ แม้จะทรงเสยี พระทยั มากเพียงใดสมเดจ็

ย่ากท็ รงพระองคด์ ้วยความเข้มแขง็ เป็นท/นี ่าสรรเสริญย/ิง

ในวันเดยี วกบั ท/สี มเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสดจ็ สวรรคต สภา

ผู้แทนราษฎรได้ลงมติเป็นเอกฉนั ทใ์ ห้คณะรัฐมนตรีกราบบงั คมทูลเชิญ สมเดจ็ พระเจ้า

น้องยาเธอ เจ้าฟ้ าภมู ิพลอดลุ ยเดชเสดจ็ ข&ึนสบื ราชสนั ตตวิ งศ์ เป็นพระมหากษตั ริย์

แห่งบรม

ราชจกั รีวงศ์ ซ/ึงขณะน&ันทรงมีพระชนมพรรษาเพียง ๑๘ พรรษา สมเดจ็ ย่าจึงยงั คง

ต้องรับพระราชภาระในการถวายพระอภบิ าลพระเจ้าแผ่นดนิ พระองค์ใหม่ต่อไป

ทรงเป็ นสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี

ต่อมาพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภมู ิพลอดลุ ยเดช รัชกาลท/ี ๙ ได้ทรง
พระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเฉลิมพระนามพระราชบิดา สมเดจ็ เจา้ ฟ้ ามหิดล
อดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ เป็น สมเดจ็ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดช
วิกรม พระบรมราชชนก และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
ประกาศเฉลมิ พระนาม สมเดจ็ พระราชชนนศี รีสงั วาลย์ เป็น สมเดจ็ พระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี เม/ือวันท/ี ๙ มิถนุ ายน พทุ ธศักราช ๒๕๑๓

(๘)

พระราชนดั ดาของสมเด็จยา่

สมเดจ็ ย่าทรงมีพระราชนัดดา ท/ปี ระสูตแิ ต่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภมู พิ ล
อดุลยเดช และสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ตVิ พระบรมราชนิ ีนาถ รวม ๔ พระองค์ คอื

๑. สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟ้ าอบุ ลรัตนร์ าชกญั ญาฯ
๒. สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจ้าฟ้ ามหาวชริ าลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร
๓. สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า เจ้าฟ้ ามหาจักรีสริ ินธร รัฐสมี าคุณากรปิ ยชาติ

สยามบรมราชกุมารี
๔. สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ าจุฬาภรณ์วลัยลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี

พระราชนัดดาท/ปี ระสตู ิแต่สมเดจ็ พระเจ้าพ/ีนางเธอ เจ้าฟ้ ากลั ยาณวิ ัฒนากรม
หลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ คอื ท่านผู้หญงิ ทศั นาวลยั ศรสงคราม

(๙)

สมเดจ็ ย่าเสดจ็ สวรรคต

ในวนั ท/ี ๒ มถิ ุนายน พ.ศ.๒๕๓๘ สมเดจ็ ย่าทรงประชวรด้วยโรคพระหทยั
กาํ เริบ ต้องเสดจ็ ฯ เข้ารบั การรักษาท/ตี กึ ๘๔ ปี โรงพยาบาลศิริราช แม้คณะแพทย์จะ
ถวายการรักษาอย่างสดุ ความสามารถแล้ว แต่พระอาการกลบั ทรงและค่อยๆ ทรดุ ลง
เป็นลาํ ดับ จนกระทง/ั เวลา ๒๑.๑๗ น. ของคืนวันท/ี ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๘
สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงได้เสดจ็ สวรรคตโดยพระอาการสงบ สิริ
พระชนมายุ ๙๔ พรรษา ๗ เดือน ๒๘ วัน

เม/ือสมเดจ็ ย่าเสดจ็ สวรรคตแล้ว พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว มพี ระบรมราช
โองการโปรดเกล้าฯ ให้สาํ นักพระราชวังจดั การพระบรมศพ ถวายพระเกยี รติยศสงู สดุ
ตามพระราชประเพณี ประดษิ ฐานพระบรมศพ ณ พระท/นี /ังดุสติ มหาปราสาท ใน
พระบรมมหาราชวงั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทลู
ละอองธลุ พี ระบาทในราชสาํ นกั ไว้ทุกข์ถวายมกี าํ หนด ๑๐๐ วนั ต&ังแต่วันสวรรคตเป็น
ต้นไป พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายนาํ& สรงพระบรมศพหน้า
พระบรม
ฉายาลักษณ์ หลงั พระราชพิธบี าํ เพญ็ พระราชกุศลทกั ษณิ านุปทาน ๑๐๐ วัน ถวาย
พระบรมศพสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนีแล้ว พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชทานพิธถี วายพระเพลงิ พระ
บรมศพสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ข&ึนในวนั ท/ี ๑๐ มนี าคม พ.ศ.๒๕๓๙
โดยใช้บริเวณทางด้านทศิ ใต้ของท้องสนามหลวง โดยสร้างองค์เมรมุ าศเป็นแบบทรง
ปราสาท ๓ องค์เรียงกนั งานพระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพสมเดจ็ ย่า เป็นไป
อย่างสมพระเกยี รติยศ ท่ามกลางความโศกสลดและอาลยั รักของพสกนิกรชาวไทยโดย
ท/วั กนั

(๑๐)

พระราชกรณยี กิจ

สมเดจ็ ย่าได้ทรงบาํ เพญ็ พระราชกรณียกจิ เพ/ือพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของประชาชน
โดยเฉพาะในท้องถ/ินทรุ กนั ดาร เพราะทรงเหน็ ว่าถ้าพระราชทานโอกาสแกพ่ สกนิกร
ในท้องถ/ินห่างไกลให้มคี วามรู้ แม้พออา่ นออกเขยี นได้ รู้จกั รักษาสขุ ภาพอนามัยของ
ตนเอง รู้จกั ประกอบสมั มาอาชพี ประชาชนเหล่าน&ันกจ็ ะเป็นทรัพยากรท/มี คี ุณค่าของ
ชาติ พระราชกรณียกจิ ของสมเดจ็ ย่าสว่ นใหญ่จึงมุ่งพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตของประชาชน
ในถ/ินทรุ กนั ดาร เช่น

๑. การส่งเสริมการศึกษาเดก็ และเยาวชนในถ/ินทรุ กนั ดาร (โรงเรียนตาํ รวจ
ตระเวนชายแดน)

๒. การเสดจ็ ฯ เย/ียมเยยี น และพระราชทานความช่วยเหลือประชาชน
๓. การจัดต&ังหน่วยแพทย์อาสาสมเดจ็ พระราชชนนศี รีสงั วาลย์
๔. การสนับสนุนกจิ การลูกเสอื ชาวบ้าน
๕. การกอ่ สร้างโรงพยาบาลเพ/ือการพักฟ&ื นตาํ รวจตระเวนชายแดน ท/สี ้รู บกบั

ผู้ก่อการร้าย และปกป้ องเอกราชของประเทศชาติ
๖. การฟ&ื นฟูสภาพป่ าโดยรอบดอยตงุ และพัฒนาสภาพชีวติ ความเป็นอยู่ของ

ราษฎรท/อี ยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคยี ง

(๑๑)

สมเดจ็ ย่ากบั การสงเคราะหโ์ รงเรียน ตชด.

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงสนพระทยั และเป็นห่วงในเร/ือง

การศกึ ษาของเยาวชนในเขตชนบทเป็นอย่างมาก ด้วยทรงมีพระราชดาํ ริว่า

“การศึกษาเป็ นสิงสําคญั ทีจะทําใหเ้ ยาวชนในชนบทมคี วามรู้ ความคิดและ

สติปัญญาทีเฉลียวฉลาด อนั จะเป็ นปัจจัยสาํ คญั ในการพฒั นาชนบท” สมเดจ็

ย่าทรงพบว่าเยาวชน ในถ/ินทรุ กนั ดารขาดโรงเรียน หรือสถานศกึ ษา เพราะ

กระทรวงศกึ ษาธกิ ารยังขยาย

ออกไปไม่ถงึ เม/ือทรงทราบว่ากองกาํ กบั การตาํ รวจตระเวนชายแดน มีโครงการขยาย

การจดั ต&ังโรงเรียนตาํ รวจตระเวนชายแดน จึงทรงพระราชทานพระราชทรัพย์สว่ น

พระองค์ ให้นาํ ไปสร้างโรงเรียนตาํ รวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนชาวเขา ต่อมา

มีผู้มจี ิตศรัทธาทูลเกล้าฯ ถวายเงนิ สมทบเพ/ือจัดสร้างโรงเรียนชาวเขาหรือโรงเรียน

ตาํ รวจตระเวนชายแดนเพ/ิมมากข&ึนในภมู ภิ าคต่างๆ

ไม่เพียงเท่าน&ันสมเดจ็ ย่ายังได้ทรงรับเอาโครงการของโรงเรียนตาํ รวจตระเวน

ชายแดน ไว้ในพระราชูปถัมภ์ และเม/ือสมเดจ็ ย่าทรงเจริญพระชนมายุมากข&ึนกม็ ิได้

ทรงทอดท&งิ พระองคไ์ ด้ทรงฝากให้สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี

ทรงช่วยดแู ลแทนดังพระราชกระแสท/วี ่า “ย่าแก่แลว้ ไปไหนไม่ค่อยไหว ถา้ สมเด็จ

พระเทพฯ เสดจ็ ฯ ก็ใหเ้ ยียมแทนย่าดว้ ย” สมเดจ็ ย่าจงึ มพี ระคุณย/ิงสาํ หรับพวกเรา

นักเรียนโรงเรียนตาํ รวจตระเวนชายแดน ถ้าไม่มสี มเดจ็ ย่าและสมเดจ็ พระเทพ

รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เดก็ และเยาวชนในถ/ินทุรกนั ดาร คงไม่ได้รับ

การศึกษา ไม่มีความรู้ ครอบครัวของพวกเขาคงลาํ บาก ไม่ได้รับความช่วยเหลือ

และพัฒนาคุณภาพชวี ติ เช่นปัจจุบันน&ี

(๑๒)

สมเดจ็ ยา่ กบั ช่วยเหลอื ประชาชน

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี แม้จะเป็นพระชนนี (มารดา) ของ
พระมหากษตั ริยไ์ ทย ๒ พระองค์ คอื รัชกาลท/ี ๘ และรัชกาลท/ี ๙ กม็ ไิ ด้ทรงเสวยสขุ
อยู่แต่ในพระราชวงั พระองคท์ รงแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยู่หัว ในการดแู ลความทุกข์สขุ ของราษฎรในชนบทอย่างจริงจงั ทรงเสดจ็ พระ
ราชดาํ เนนิ เย/ียมชาวไทยภเู ขาท/อี ยู่ห่างไกล ชาวชนบทในถ/ินทุรกนั ดาร แม้จะอยู่
บน
เกาะกลางทะเลท/โี ดดเด/ียว ทรงพระราชทานความช่วยเหลือท/ตี รงตามความต้องการ
และความจาํ เป็น ชาวไทยทว/ั ไปจงึ ร่วมใจถวายพระราชสมัญญา “สมเดจ็ ยา่ ”และชาว
ไทยภเู ขากถ็ วายพระราชสมญั ญา “แม่ฟ้ าหลวง” ด้วยความเคารพรัก และเทดิ ทูนอย่าง
บริสทุ ธVใิ จ

สมเด็จย่ากบั งานดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

จากการท/สี มเดจ็ ย่าได้เสดจ็ ฯ เย/ียมเยยี นชาวบ้านตามหมู่บ้านในป่ าเขา ทาํ ให้
ได้ทรงพบเหน็ ราษฎรจาํ นวนมากได้รับทุกขเวทนาอนั เกดิ จากโรคภัยไข้เจบ็ ต่างๆ แล้ว
มไิ ด้รับการรักษาพยาบาลท/ถี กู ต้อง เน/ืองจากพวกเขาเหล่าน&ันอยู่ในถน/ิ ทรุ กนั ดาร
ห่างไกล จากสถานพยาบาล สมเดจ็ ย่าจงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์และ
พยาบาลผู้ตามเสดจ็ ทาํ การตรวจรักษาชาวบ้านท/เี จบ็ ป่ วยเหล่าน&ัน นบั เป็นจุดเร/ิมต้น
ของหน่วยแพทย์อาสาเคล/ือนท/ใี นพระองค์

เม/ือปี พ.ศ.๒๕๑๑ จงึ ทรงมีพระราชดาํ ริจัดต&ังหน่วยแพทยอ์ าสาในพระองค์ข&ึน
เป็น “หนว่ ยแพทยอ์ าสาสมเด็จพระราชชนนศี รีสงั วาลย”์ : (พอ.สว) หน่วยแพทย์
พอ.สว. ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าท/สี าธารณสขุ ท/เี ป็นอาสาสมคั ร
ทาํ งานด้วยความเสยี สละโดยมไิ ด้รับเงินหรือค่าตอบแทนอ/นื ใด จะออกไปให้บริการ
ตรวจรักษาชาวบ้านตามท้องถ/ินท/กี นั ดาร ห่างไกลความเจริญ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๗
สมเดจ็ ย่าจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทุน ๑ ล้านบาท จดั ต&ังเป็นมลู นธิ ิ ใช้ช/ือ

(๑๓)

ในการจดทะเบยี นว่า “มูลนิธิแพทยอ์ าสาสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี” ใช้
ช/ือย่อว่า “พอ.สว.” โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ/ือให้ความช่วยเหลือ รักษาพยาบาลแก่
ประชาชนและเจ้าหน้าท/ที /ปี ฏบิ ัติงานในท้องถ/ินทรุ กนั ดารตามชายแดน โดยไม่จาํ กดั
เช&ือชาติ ศาสนา และไม่คิดมูลค่า

สมเด็จย่ากบั กจิ การลูกเสือชาวบา้ น

ระหว่างวนั ท/ี ๒๕-๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๔ กองกาํ กบั การตาํ รวจตระเวน
ชายแดน เขต ๔ ได้ฝึกอบรมลูกเสอื ชาวบ้านรุ่นท/ี ๙ ท/บี ้านทรายมูล ตาํ บลอุม่ เหม้า
อาํ เภอธาตพุ นม จังหวดั นครพนม มีผู้เข้ารับการฝึกจาํ นวน ๒๓๘ คน เวลาน&ัน
สมเดจ็ ย่าเสดจ็ ฯ เย/ียมราษฎร และประทบั แรมอยู่ท/โี ครงการชลประทานเข/ือนนาํ& อูน
จังหวดั สกลนคร พระองคไ์ ด้เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรการฝึกและทรงเป็นประธานใน
พิธปี ิ ด พระองคท์ รงมรี ับสง/ั กบั คณะวิทยากรว่า “พยายามพัฒนาการฝึกให้เกดิ ผลดี
ต่อชาติ บ้านเมือง ให้ประชาชนรู้จกั พ/ึงตนเอง ช่วยตนเอง รู้จักนาํ วิธที /ฝี ึกไปพัฒนา
ตัวเอง ครอบครัวและชุมชน”

สมเดจ็ ย่าได้พระราชทานพระราชทรัพย์สว่ นพระองคจ์ าํ นวน ๒๓๘,๐๐๐ บาท
สนับสนุนกจิ การลูกเสอื ชาวบ้าน ทาํ ให้สามารถขยายกจิ การลกู เสอื ชาวบ้านไปได้ทว/ั
ประเทศ ต่อมาพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงรับกจิ การลูกเสอื ชาวบ้านไว้ในพระ
บรมราชานุเคราะห์ เม/ือวนั ท/ี ๒๙ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๑๕

สมเดจ็ ย่า ทรงมีพระมหากรณุ าธคิ ุณต่อกจิ การลูกเสอื ชาวบ้านอย่างย/ิง พระองค์
ได้เสดจ็ ฯ ไปพระราชทานธงประจาํ รุ่นลูกเสอื ชาวบ้านเป็นคร&ังแรก ท/อี าํ เภอเมอื ง
จังหวัดอุดรธานี เม/ือวนั ท/ี ๑๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ และพระราชทานเหรียญ
อนุสรณม์ หาราชแก่คณะวทิ ยากร และเหรียญลูกเสอื แกผ่ ู้เข้าอบรมทุกคน มูลนธิ ิ
วิทยากรลูกเสือชาวบา้ น (มวส.) ได้ก่อต&ังข&ึนในวนั ท/ี ๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๒๘ โดย
ได้รับพระราชทานเงินทนุ จากสมเดจ็ ย่า เป็นเงนิ แปดแสนบาท รวมกบั มีผู้บริจาคอกี
ส่วนหน/ึง รวมเป็นเงนิ ท&งั ส&นิ ๑ ล้านบาท

(๑๔)

สมเด็จย่ากบั การสงเคราะหต์ ํารวจตระเวนชายแดน

ในการเสดจ็ ฯ ไปเย/ียมเยียนตาํ รวจตระเวนชายแดนท/ฐี านปฏบิ ัติการ สมเดจ็
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทอดพระเนตรเหน็ สภาพความเป็นอยู่ท/ลี าํ บาก
แร้นแค้นและอนั ตรายท/ตี าํ รวจตระเวนชายแดนผู้ออกไปปฏบิ ตั ิหน้าท/ปี กป้ องชาติ
บ้านเมอื ง บางคร&ังถึงกบั เสยี ชีวิตหรือสญู เสยี อวยั วะบางสว่ นไปในการปฏบิ ตั หิ น้าท/ี
เป็นเหตใุ ห้ครอบครัวท/อี ยู่เบ&ืองหลงั ต้องประสบเคราะห์กรรมลาํ บาก เน/ืองจากต้อง
ขาดหัวหน้าครอบครัวหรือหัวหน้าครอบครัวต้องทพุ พลภาพไม่อาจทาํ มาหาเล&ียง
ครอบครัว ได้อกี ต่อไป ด้วยเหตุน&ีสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จงึ ได้
พระราชทานพระราชทรพั ยส์ ่วนพระองคใ์ หน้ าํ ไปจดั ตงั เป็ น “มูลนิธิสงเคราะห์
ตํารวจชายแดนและ
ครอบครวั ในพระอปุ ถมั ภส์ มเด็จพระราชชนนศี รีสงั วาลย”์ มีชือย่อว่า “มส.ชด.สว.”
เม/ือวนั ท/ี ๑๘ กนั ยายน ๒๕๑๐ มีวัตถุประสงค์เพ/ือช่วยเหลอื สวัสดิการตาํ รวจและ
ครอบครัวท/ไี ด้รับบาดเจบ็ หรือถึงแก่กรรมลงในขณะปฏบิ ัตหิ น้าท/ี ตลอดรวมไปถงึ
การช่วยเหลอื ในด้านการศึกษาให้แก่บุตรของเหล่าตาํ รวจตระเวนชายแดน ท&งั ยงั รับ
เอามลู นิธแิ ห่งน&ีไว้ในพระอุปถัมภ์ของพระองค์อกี ด้วย เป็นผลให้เกดิ ขวญั และกาํ ลังใจ
แกข่ ้าราชการตาํ รวจตระเวนชายแดน และครอบครัวเป็นอย่างมาก

ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรด
เกล้าฯ สถาปนาสมเดจ็ พระราชชนนศี รีสงั วาลย์ข&ึนเป็น “สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรม
ราชชนนี” ดังน&ันกองบัญชาการตาํ รวจตระเวนชายแดนจึงได้ขอเปล/ียนนาม “มูลนธิ ิ
สงเคราะห์ตาํ รวจชายแดนและครอบครัวในอปุ ถมั ภ์สมเดจ็ พระราชชนนีศรีสงั วาลย์”
(มส.ชด.สว.) เป็น “มูลนธิ ิสงเคราะหต์ ํารวจตระเวนชายแดนและครอบครวั ในพระ
ราชูปถมั ภข์ องสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี” (มส.ตชด.สว.)” ต&ังแต่วนั ท/ี
๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นต้นมา

(๑๕)

เน/ืองจากสมเดจ็ ย่าทรงเลง็ เหน็ ว่า ตาํ รวจตระเวนชายแดน ได้ทาํ การส้รู บกบั

ผู้กอ่ การร้ายคอมมิวนสิ ต์ และปกป้ องเอกราช เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจบ็ และสญู เสยี

ชวี ิต ต้องพักรักษาตวั ตามโรงพยาบาลต่างๆ สมเดจ็ ย่าทรงเลง็ เหน็ ความจาํ เป็นท/ี

จะต้องให้ความช่วยเหลือในการพักฟ&ื นอาการเจบ็ ป่ วยเน/ืองจากการส้รู บ กอ่ นท/จี ะ

กลับไป ปฏบิ ตั ิภารกจิ และเพ/ือใช้เป็นสถานท/รี ับสง่ คนไข้ในพระราชานุเคราะห์ ท/จี ะ

เข้ามารักษาในโรงพยาบาลส่วนกลาง เน/ืองจากคนไข้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

หรือเดนิ ทางไปมาไม่ถกู หรือเป็นท/พี ักคนไข้ก่อนท/จี ะนาํ ตัวส่งไปรักษาใน

โรงพยาบาลและ

ระหว่างรอส่งตัวกลบั ภมู ิลาํ เนา จงึ ได้พระราชทานพระราชทรัพยส์ ่วนพระองค์เป็นทนุ

ในการกอ่ สร้างโรงพยาบาล

กรมตาํ รวจได้พิจารณาอนุมัติให้กองบัญชาการตาํ รวจตระเวนชายแดน ใช้ท/ดี นิ

ภายในกองบญั ชาการตาํ รวจตระเวนชายแดนเน&ือท/๓ี ๐๐ตารางวา เพ/ือสร้างโรงพยาบาล

ขนาด ๓๐ เตียง และอนุมัตเิ พ/ิมอกี ๑๕๓.๔๐ ตารางวา เพ/ือขยายโรงพยาบาลเป็น ๕๐

เตยี ง กองกาํ กบั การตาํ รวจตระเวนชายแดนได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตอญั เชิญ

พระนามาภิไธย เป็นนามอาคารโรงพยาบาลตาํ รวจตระเวนชายแดนว่า “อาคารศรี

นครินทร”์ ต่อมาทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงพยาบาลว่า “นวุติ

สมเดจ็ ยา่ ” ซ/ึงมีความหมายว่า “สมเด็จยา่ ๙๐ ปี ” เม/ือวนั ท/ี ๕ มนี าคม พุทธศักราช

๒๕๓๓

(๑๖)

สมเดจ็ ย่ากบั การศาสนา

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพทุ ธศาสนกิ ชนท/ยี ึดม/ันใน
พระพทุ ธศาสนาตลอดมา นอกจากจะทรงทาํ ทาน (ทรงบาํ เพญ็ ทานบารมีด้วยการให้
และช่วยเหลอื ผู้อ/นื โดยเฉพาะผู้ป่ วย)รักษาศีลและเจริญภาวนาเป็นกจิ วัตรแล้ว
พระองคย์ ัง
ทรงสนพระทยั ในการศึกษาปฏบิ ัตธิ รรมด้วย ยงั ได้ทรงซมึ ซับให้พระราชธิดาและพระ
ราชโอรส ได้ประพฤติปฏบิ ัติตามโดยมิต้องทรงเค/ียวเขญ็ แต่ประการใด

เม/ือคร&ังท/สี มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นผู้สาํ เรจ็ ราชการแทน
พระองค์ได้ทรงมพี ระเมตตาธคิ ณุ ท/จี ะให้ข้าราชการสาํ นกั ได้มีโอกาสสดบั พระธรรม
เทศนาบ้างเป็นคร&ังคราว จงึ โปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระเถรานุเถระมาบรรยายธรรม
พร้อมกบั ทรงให้รวบรวมจัดพิมพ์ข&ึนเป็นเล่ม เพ/ือเผยแพร่ให้แกบ่ คุ คลทว/ั ไปในโอกาส
ต่อมา เช่น เร/ืองหน้าท/ี ชวี ติ กบั ธรรม ปริยตั ิและปฏบิ ัติ และฆราวาสพ&ืนฐานของ
การทาํ ดีและทาํ ช/ัว เป็นต้น ท&งั น&ีเน/ืองจากสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรง
มพี ระราชดาํ ริว่า “จิตใจเป็ นรากฐานของการกระทาํ และการกระทาํ เป็ นรากฐานของ
การเกิดความสุข หรือความทุกขข์ องคน ดังนัน! การฝึ กอบรมจิตจึงเป็ นส%ิงจาํ เป็ น
สาํ หรับทุกคน เพราะทุกคนมจี ิตทีจ% ะตอ้ งรู้ ตอ้ งคดิ เหมอื นกันจึงจาํ เป็ นจะตอ้ ง
บริหารจติ หรือพฒั นาจิตใหร้ ู้ ใหค้ ิดไปในทางทีถ% กู ทีค% วร เพอื% การกระทาํ ต่างๆ ไป
ในทางทีถ% กู ทีค% วร…”

สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ยงั ทรงห่วงใยถึงนกั ศึกษาและข้าราชการ
ท/พี าํ นักอยู่ในต่างประเทศว่าพวกเขาควรจะมหี นงั สอื เก/ยี วกบั คาํ สง/ั สอนใน
พระพุทธศาสนาเป็นคู่มอื สาํ หรับอา่ นเพ/ือเป็นแนวทางสาํ หรับปฏบิ ัติตนกบั เพ/ือสามารถ
ใช้อธบิ าย ให้กบั ชาวต่างชาติผู้ต้องการทราบถงึ หลกั ธรรมในทางพระพุทธศาสนาให้
เข้าใจได้ จึงทรงอาราธนาสมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเด็จพระสงั ฆราชสกลมหา
สงั ฆปรินายก แห่งวดั บวรนิเทศวหิ าร เม/ือคร&ังยงั ทรงสมณศักดVิเป็นพระสาสนโสภณ

(๑๗)

ใหท้ รงเรียบเรียง หนงั สอื ธรรมะ “พระพุทธเจา้ ทรงสงั สอนอะไร ?” โดยในหนังสอื

ได้กล่าวถงึ อริยสจั ๔ ไตรลักษณ์ พรหมวิหาร ๔ นพิ พาน ตลอดจนการปฏบิ ตั ิตน

ให้ถกู ต้องในทางธรรม อนั จะนาํ ความสขุ ความเจริญมาสชู่ วี ติ ตนเม/ือพระสาสนโสภณ

เรียบเรียงข&ึนแล้ว สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงตรวจทานในแง่ของ

การใช้ถ้อยคาํ และสาํ นวนภาษาให้เหมาะสมกบั กล่มุ ผู้ท/จี ะอ่าน ซ/ึงมใิ ช่ผู้ท/รี อบรู้ทาง

พระพุทธศาสนา โดยทรงเอาพระองค์เองเป็นเคร/ืองวดั ความยากง่ายของเร/ือง

จากน&ันได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้พระขนั ติปาโลและพระนาคเสโน แปลเป็น

ภาษาองั กฤษ แล้วจดั พิมพ์ข&ึนเพ/ือแจกจ่ายไปยงั สถานศึกษา และหน่วยงาน

ข้าราชการ ท/ปี ระจาํ อยู่ในต่างประเทศ

พระจริยวตั รท/สี าํ คัญอกี ประการหน/ึงในทางพระพทุ ธศาสนาของสมเดจ็ พระศรี

นครนทิ ราบรมราชชนนี ท/นี ้อยคนนักจะได้รู้เหน็ กค็ อื การป&ันพระพทุ ธรูป แม้พระองค์

จะมไิ ด้ทรงศึกษาการป&ันในทางศลิ ปะมากอ่ นแต่ด้วยพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา

ทาํ ให้ทรงสามารถป&ันพระพุทธรปู ได้อย่างงดงามด้วยพทุ ธลักษณะ และพระองค์ยังทรง

พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จดั สร้างพระพุทธปฏมิ าในลกั ษณะต่างๆข&ึน เพ/ือพระราชทาน

ให้แกบ่ ุคคลและหน่วยงานท/รี ับสนองพระราชกจิ ในวโรกาสต่างๆ เพ/ือให้บคุ คลดงั กล่าว

ได้ใช้เป็นสง/ิ ยดึ เหน/ียวจติ ใจให้ต&ังอยู่ในศลี ธรรมอนั ดี พระเคร/ืองท/โี ปรดเกล้าฯ ให้

จัดทาํ ข&ึนน&ีมี พระพทุ ธเมตตา พระพุทธปฏมิ าทรงเคร/ืองขนาดเลก็ เหรียญพระพทุ ธ

ปฏมิ ารูปใบโพธVิ พระกร/ิง สว. เหรียญพระพุทธรูปประทานพรรูป ใบโพธVปิ ระดับ

พระนามาภไิ ธยย่อ สว.เป็นอาทิ

อกี ส/งิ หน/ึงท/แี สดงให้เหน็ ถึงพระราชศรัทธาในพระพทุ ธศาสนา ของสมเดจ็

พระศรีนครินทราบรมราชชนนี คอื ได้ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์

ร่วมกบั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว และสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ Vิ พระบรมราชนิ นี าถ

เพือใชเ้ ป็ นทนุ ในการตรวจชําระ และจัดพิมพพ์ ระไตรปิ ฎกฉบบั มหาจุฬาลงกรณราช

วิทยาลยั ปี พุทธศกั ราช ๒๕๓๕ และในวโรกาสวนั คล้ายวันพระราชสมภพในทกุ ๆ ปี

กจ็ ะทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้นาํ พระราชทรัพยไ์ ปบริจาคให้แกว่ ดั วาอารามต่างๆ

เพ/ือทาํ นุบาํ รงุ ให้กจิ การทางพระพุทธศาสนาได้สบื ต่อไป

มใิ ช่เพียงพระพทุ ธศาสนาเท่าน&ันท/ที รงให้ความเก&อื หนุน สมเดจ็ พระศรีนคริน

ทราบรมราชชนนี ยงั ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สาํ นักจุฬาราชมนตรีจดั พิมพ์

หนังสอื “ศาสนาอสิ ลาม สอนอะไร?” ข&ึนสาํ หรับพระราชทาน ให้แกป่ ระชาชนใน

(๑๘)

จงั หวัดภาคใต้และผู้สนใจท/วั ไป เพราะทรงตระหนกั ว่าทกุ ศาสนาล้วนมจี ุดหมายท/จี ะ
สอนให้ผู้ท/นี ับถอื เป็นคนดี และอยู่ร่วมกบั ผู้อ/นื ได้อย่างสนั ติ

สมเด็จยา่ กบั งานอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ

ในปี พทุ ธศักราช ๒๕๓๐ เป็นปี ท/สี มเดจ็ ย่าทรงเจริญพระชนมายุครบ ๙๐
พรรษา รัฐบาลภายใต้การนาํ ของพลเอกเปรม ติณสลู านนท์ ได้ดาํ เนินการก่อสร้างพระ
ตาํ หนัก ดอยตงุ บนเทอื กเขานางนอน จังหวดั เชียงราย ข&ึนถวายเพ/ือทรงใช้เป็นท/ี
ประทบั แทนการเสดจ็ ฯ แปรพระราชฐานไปประทบั ยังประเทศสวติ เซอร์แลนด์ ก่อน
หน้าน&ี สมเดจ็ ย่าทรงสงั เกตเหน็ ว่าพ&ืนท/สี ่วนใหญ่โดยรอบดอยตุง มีสภาพเป็นป่ า
เส/อื มโทรม เน/ืองจากถูกบกุ รกุ ทาํ ลายเพ/ือการทาํ ไร่เล/ือนลอยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ของชาวไทยภเู ขา พระองคจ์ งึ ทรงมพี ระราชดาํ ริท/จี ะพลกิ ฟ&ื นผืนป่ าให้กลับมามชี วี ิต
ใหม่อกี คร&ัง โครงการพัฒนาดอยตุงจึงถือกาํ เนิดข&ึน โดยมวี ตั ถปุ ระสงคฟ์ &ื นฟูสภาพป่ า
โดยรอบดอยตงุ ให้กลบั ฟ&ื นคืนสภาพ สาํ หรับเป็นแหล่งต้นนาํ& ลาํ ธาร และเพ/ือการ
พัฒนาสง่ เสริมสภาพชีวติ ความเป็นอยู่ของราษฎรซ/ึงอาศยั อยู่บริเวณใกล้เคียง ให้มี
คณุ ภาพชวี ิตท/ดี ขี &ึน ต&ังถ/ินฐานเป็นหลกั แหล่งม/ันคง มอี าชพี ท/สี จุ ริต หยุดการปลูกพืช
เสพตดิ ทุกชนิด และหยุดการบุกรกุ ทาํ ลายป่ าอย่างส&นิ เชิง รวมท&งั พัฒนาดอยตุงให้
เป็นแหล่งท่องเท/ยี วระดบั ประเทศด้วย

(๑๙)

งานอดิเรกของสมเดจ็ ยา่

ทรงโปรดอยูต่ ามเขาลาํ เนาป่ า

ผู้มโี อกาสเข้าเฝ้ าทูลละอองพระบาทสมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนแี ต่ละ
คนจะมีเหตกุ ารณท์ /ปี ระทบั ใจเก/ยี วกบั พระองคเ์ สมอ พลตาํ รวจตรี สเุ ทพ สขุ สงวน
(สมั ภาษณ์, ๑๕ มถิ ุนายน ๒๕๔๓ ) เล่าว่า

…เม/ือเดอื นธนั วาคม ปี พ.ศ.๒๕๑๓ ขณะน&ันยศร้อยตาํ รวจโท
เป็นผู้บงั คบั หมวดชายแดนพร้อมด้วยกาํ ลงั ตาํ รวจชายแดน ๑๕ นาย ทาํ
หน้าท/ถี วายความปลอดภยั สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ท/พี ระ
ตาํ หนักภพู ิงคราชนิเวศนจ์ งั หวัดเชียงใหม่

สมเดจ็ ย่าโปรดทรงพระดาํ เนินตามภเู ขา ทอดพระเนตรดอกไม้
และธรรมชาติมาก หลังจากเสวยพระกระยาหารกลางวนั แล้ว ตอนบ่าย
ทรงพระดาํ เนนิ ไปตามป่ าเขา โปรดความสะอาดและความเป็นระเบียบ
เรียบร้อย เม/ือทรงพระดาํ เนนิ ไปตามทาง ทอดพระเนตรเหน็ ส/งิ ของซ/ึง
ไม่ควรจะอยู่ในธรรมชาติ เช่น เศษกระดาษ ก้นบุหร/ี ถงุ พลาสติก ทรง
ก้มเกบ็ สง/ิ เหล่าน&ันด้วยพระองคเ์ อง พวกเราจึงจดั ให้ตาํ รวจชายแดน
มยี ่ามสะพายหรือถงุ คอยเกบ็ ล่วงหน้ากอ่ น แต่บางคร&ังกย็ ังหลงหูหลง
ตาบ้าง ทรงมพี ระราชกระแสรับสง/ั ให้ตาํ รวจชายแดนช่วยกนั รักษาความ
สะอาดและรักษาสง/ิ แวดล้อมต้องให้เป็นธรรมชาติ ระหว่างพักการ
เดนิ ทางพระองค์จะประทบั บนขอนไม้ ตาํ รวจชายแดนจะน/ังเรียงราย
ล้อมพระองค์ โปรดให้ตาํ รวจตระเวนชายแดนร้องเพลงถวายเป็นเพลง
พระราชทาน คอื เพลงตาํ รวจตระเวนชายแดน (เน&ือร้องโดย ทา่ นผู้หญิง
ม.ล.มณรี ัตน์ บุนนาค) และตามด้วยเพลงลูกท่งุ บางคร&ังตาํ รวจ
ชายแดนร้องลิเกถวาย พระองค์สาํ ราญพระราชหฤทยั มาก เป็นพระราช
จริยาวัตรท/เี ป/ี ยมไปด้วยพระเมตตาและพระกรุณาธิคณุ ย/ิงนกั …

(๒๐)

ดา้ นศิลปะ

แม้สมเดจ็ ย่า จะมไิ ด้ทรงศึกษาวิชาทางศลิ ปะโดยตรง แต่พระปรีชาสามารถ
สว่ นพระองค์ ในด้านงานศลิ ป์ กลับมีปรากฎในหลายแขนง อาทงิ านป&ัน งานปัก
งานวาด และงานปะดษิ ฐ์ต่างๆ ผลงานศลิ ปะเหล่าน&ีส่วนใหญ่จะทรงเป็นงานอดิเรก
ยามว่าง และผลงานเหล่าน&ีพระองค์จะพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ในโอกาส
ต่างๆ แก่ข้าราชการและบุคคลใกล้ชิด รวมท&งั มอบแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ร่วม
โดยเสดจ็ พระราชกุศลสมทบมูลนธิ ติ ่างๆ ท/อี ยู่ในพระอุปถมั ภ์ของพระองค์ ช&ินงาน
ศิลป์ ท/สี มเดจ็ ย่าทรงสรรค์สร้างได้แก่ งานป&ันพระพทุ ธรูป งานป&ันเคร/ืองเคลือบ
ดนิ เผา งานปักผ้าครอสตซิ งานประดษิ ฐ์บตั รอวยพร ซ/ึงทรงนาํ เอาดอกไม้แห้งท/ี
เสดจ็ ฯ ไปทรงเกบ็ และอดั แห้งด้วยพระองคเ์ อง มาประดบั ไว้ในบัตรน&ันๆ

นอกจากน&ียงั มีงานถกั ผ้าพันคอสาํ หรับกนั หนาว เพ/ือจะพระราชทานให้แก่
ทหาร ตาํ รวจ และบรรดาอาสาสมคั รท/ปี ฏบิ ัติราชการตามแนวชายแดน และถ/ิน
ทรุ กนั ดาร สาํ หรับเป็นท/รี ะลึกและเป็นขวัญกาํ ลงั ใจแก่ผ้ไู ด้รับ

ดา้ นกีฬา

สมเดจ็ ย่าทรงเล่นกฬี าหลายประเภทเพ/ือการออกพระกาํ ลงั มาโดยตลอด
สมเดจ็ ย่าทรงเหน็ ความสาํ คญั ของกฬี า ท/เี ป็นประโยชน์ต่อชีวติ และสขุ ภาพเช่น ทรงสกี
ข/ีม้า เทนนสิ แบดมนิ ตนั เดินข&ึนเขาเพ/ือเกบ็ ดอกไม้ แต่เม/ือทรงเจริญพระชนมพรรษา
มากข&ึน จาํ เป็นท/จี ะต้องทรงเลอื กกฬี าท/เี หมาะสมกบั พระกาํ ลงั และพระวรกาย พระองค์
ทรงรู้จกั กฬี า “เปตอง” คร&ังแรกในปี พุทธศกั ราช ๒๕๒๑ ต่อมากท็ รงโปรดกฬี าชนดิ น&ี
มากและทรงเปตองอย่างจริงจังเร/ือยมาสลบั กบั กฬี าประเภทอ/นื ๆ มักจะทรงเปตองใน
เวลาว่างหรือช่วงเยน็ ๆ อยู่เสมอ การทรงกฬี าเปตองน&ี บ่อยคร&ังจะร่วมทรงกบั บรรดา
ข้าราชการและตาํ รวจตระเวนชายแดน ในการเล่นกฬี าเปตองนอกจากจะได้ความ
สนุกสนานแล้ว สมเดจ็ ย่ายงั ทรงปลูกฝังเร/ืองความสามัคคีและการรู้แพ้รู้ชนะให้แก่ผู้
ร่วมแข่งขันด้วย หลายคร&ังทรงประดิษฐ์ท/คี /ันหนังสอื ใบลานประดับดอกไม้แห้งเลก็ ๆ

(๒๑)

พระราชทานเป็นรางวัลแก่ผู้แข่งขันไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ แม้บางคนไม่เคยชนะ
เลยแต่มนี า&ํ ใจลงแข่งอยู่เสมอ กไ็ ด้รับพระราชทานรางวลั ปลอบใจเช่นกนั

สมเดจ็ ย่างทรงเล่นกฬี าเปตองอย่างจริงจังมานานแล้ว และทรงมีบทบาทสาํ คญั
ย/ิงในฐานะผู้ทรงสนับสนุนกฬี าชนดิ น&ี ทรงสง่ เสริมให้มกี ารเล่นเปตองจนแพร่หลาย
บางคร&ังเสดจ็ ฯ ไปทรงให้กาํ ลงั ใจนักกฬี าไทยท/ไี ปแข่งขนั เปตองยงั ต่างแดน พระองค์
จงึ ทรงเป็นท/รี ู้จกั ของชาวต่างชาตใิ นวงการกฬี าเปตอง ส/งิ สาํ คญั ท/ไี ด้จากกฬี าเปตอง
นอกจากท/ไี ด้กล่าวมาแล้ว คอื ทรงนาํ กฬี าเปตองให้เป็นกฬี าเช/ือมความสามคั คีระหว่าง
ข้าราชการในพ&ืนท/ี ข้าราชบริพารท/ตี ามเสดจ็ และตาํ รวจตระเวนชายแดนท/ถี วายงาน
และถวายความปลอดภยั

ภาพสมเดจ็ ยา่ ทีทรงเล่นเปตองกบั ตํารวจตระเวนชายแดน เป็ นภาพทียงั
ฉายอยู่ในหวั ใจของคนไทยทงั ชาติ

หลกั สตู รสมเดจ็ ย่า
ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 5

ป.5

โรงเรยี นตำรวจตระเวนชำยแดนบำ้ นควนตะแบก
324 หมู่ท่ี 9 ต.เกำะเตำ่ อ.ปำ่ พะยอม จ.พทั ลงุ


Click to View FlipBook Version