The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 16950, 2022-07-09 23:20:38

รายงาน

รายงาน

รายงาน

เรื่อง คำบุพบท

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เสนอโดย
ครูมรรคณา คาระวะ

จัดทำโดย
นาย อภินันท์ ชอบธรรม เลขที่ 30
นาย วีรวัฒน์ อ้นมั่น เลขที่ 11
นาย ชัยธวัช ศร

ีสระสมทรัพย์ เลขที่15
นาย สุรัตน์ นิพนธ์ เลขที่ 9
นาย ณัฐภัทร ดิษกร เลขที่ 10
นาย เตชธรรม ซ่อนกลิ่น เลขที่ 24
นาย ณพงส์ ถมนาม เลขที่ 25

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของรายงานคำบุพบท
มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนขาณุวิทยา

คำนำ ก

รายงานฉบับนี้ทำขึ้นมาเพื่อส่งเสริมความรู้ ต้องขอขอบคุณคณะทีมงาน
เพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่ม นอกจากนี้คณะผู้จัดทำโครงการ ขอบพระคุณ พี่ป้า
น้า อา ที่ให้ความรู้ช้ีแนะคำแนะนำให้ความ

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ ข

หัวข้อเรื่อง หน้า

ความหมาย.......................................................................................1-4

ความสำคัญ......................................................................................5

ตัวอย่าง การนำไปใช้..........................................................................6-11
ตัวอย่างแบบทดสอบ.........................................................................12-15

ภาคผนวก.........................................................................................16

ใบงาน ใบความรู้.................................................................................17

นวัตกรรม...........................................................................................17

คำบุพบทคืออะไร 1

ก่อนอื่นมารู้จักความหมายของคำบุพบทกันก่อน สำหรับ คำบุพบท ก็คือ คำที่
ใช้นำหน้าคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา หรือคำวิเศษณ์ เพื่อบอกสถานภาพของ
คำเหล่านั้น หรือเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือประโยค

คำบุพบท มีอะไรบ้าง

คำบุพบทที่ใช้กันในภาษาไทยมีมากมายหลายคำ แต่ที่ทุกคนน่าจะใช้กันบ่อย ๆ
ก็อย่างเช่น กับ ใน ของ ด้วย โดย แก่ แต่ แด่ ต่อ ซึ่ง เฉพาะ ตาม กระทั่ง จน เมื่อ
ณ ที่ ใต้ บน เหนือ ใกล้ ไกล ริม ข้าง ตั้งแต่ เกือบ กว่า ตลอด ราว จาก สัก และ
สำหรับ เป็นต้น ซึ่งคำเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในการนำหน้าคำนาม คำสรรพนาม
หรือคำกริยา เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของคำ

ประเภทของคำบุพบท

คำบุพบทแต่ละคำย่อมมีหน้าที่ และความหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น
การนำมาใช้ก็แตกต่างกันไปด้วย โดยตามหลักภาษาไทยแล้ว คำบุพบท แบ่งออก
เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการนำมาใช้ คือ คำบุพบทที่ต้องเชื่อมกับคำอื่น และ
คำบุพบทที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมกับคำอื่น

2

1. คำบุพบทที่ต้องเชื่อมกับคำอื่น เพื่อบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างคำ และ
บอกสถานการณ์ให้ชัดเจน ได้แก่

บอกสถานภาพความเป็นเจ้าของ เช่น
- ฉันซื้อสวนของนางอุบล
- สระว่ายน้ำของเขาใหญ่โตแท้ ๆ
- อะไรของเธออยู่ในกระเป๋า
- รถของฉันอยู่ในบ้าน

บอกความเกี่ยวข้อง เช่น
- เธอต้องการขนมในถุงนี้
- พี่เห็นแก่น้อง
- เธอไปกับฉัน
- เขาอยู่กับฉันที่บ้าน

บอกการให้และบอกความประสงค์ เช่น
- ไข่เจียวจานนี้เป็นของสำหรับพระ
- ครูให้รางวัลแก่เด็กนักเรียน
- แม่ให้ของที่ระลึกแก่โรงเรียน
- นักเรียนมอบของที่ระลึกแด่ครู

3

บอกเวลา เช่น



- เธอมาตั้งแต่เช้า

- - ตลอดสายวันนี้



- ฝนตกตั้งแต่เช้ายันบ่าย



- เขาอยู่เมืองนอกเมื่อปีที่แล้ว
บอกสถานที่ เช่น

- สมชายมาจากขอนแก่น

- เขาขับรถอยู่บนทางเท้า

- ใครอยู่ในห้องน้ำ

- ณ ที่แห่งนี้คือที่ไหน

บอกความเปรียบเทียบ เช่น

- เขาหนักกว่าฉัน

- เขาสูงกว่าพ่อ

- เธอสูงแต่ฉันเตี้ย

- เขามีรถแต่ฉันไม่มี

- บ้านเธออยู่ใกล้แต่บ้านฉันอยู่ไกล

- เหนือฟ้ายังมีฟ้า

4

2. คำบุพบทที่ไม่มีความสัมพันธ์กับคำอื่น ไม่จำเป็นต้องเชื่อมกับคำอื่น
ส่วนมากจะอยู่ต้นประโยค เช่น

- ดูกร ดูก้อน ดูราช้าแต่

- ดูกร ท่านพราหมณ์

- ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย
- ดูรา สหายเอ๋ย

- ช้าแต่ ท่านทั้งหลาย
จะเห็นได้ว่าคำบุพบทประเภทนี้ มักไม่เป็นที่นิยมใช้กันเท่าไรนัก ส่วนมากจะ
เห็นในบทประพันธ์มากกว่า

5

ชนิดของคำบุพบท
หลักภาษาไทยได้แบ่งคำบุพบทออกเป็น ๖ ชนิด ดังนี้

๑. คำบุพบทบอกสถานที่ ได้แก่คำว่า ใต้ บน ริม ชิด ใกล้ ไกล ที่ นอก
ใน เช่น เสื้อสีขาวอยู่ในตู้เสื้อผ้า เขาขายส้มตำอยู่ใกล้สถานีตำรวจ

๒. คำบุพบทบอกเวลา ได้แก่คำว่า แต่ ตั้งแต่ ณ เมื่อ จน จนกระทั่ง
เช่น เขาอ่านหนังสือจนดึก คุณพ่อไปทำงานแต่เช้า

๓. คำบุพบทบอกความเป็นเจ้าของ ได้แก่คำว่า แห่ง ของ เช่น เขา
ทำงานอยู่วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เงินของฉันหาย

๔. คำบุพบทบอกที่มาหรือสาเหตุ ได้แก่คำว่า แต่ จาก กว่า เหตุ ตั้งแต่
เช่น คุณแม่ซื้อผักมาจากตลาด ชาวนาเดินมาตั้งแต่ที่นาถึงบ้าน

๕. คำบุพบทบอกฐานะเป็นผู้รับ ได้แก่คำว่า เพื่อ ต่อ แก่ แด่ เฉพาะ
สำหรับ เช่น ฉันทำทุกอย่างเพื่อแม่ เขาถวายปัจจัยแด่พระสงฆ์

๖. คำบุพบทบอกฐานะเครื่องใช้ หรือติดต่อกัน ได้แก่คำว่า โดย ด้วย
อัน ตาม กับ เช่น เขาเดินทางโดยสวัสดิภาพ เขาทำตามคำสั่ง

หน้ าที่ของคำบุพบท 6

นอกจากจะสามารถแบ่งคำบุพบทออกเป็น 2 ประเภทแล้ว เรายังสามารถแบ่งคำ
บุพบทได้ตามลักษณะหน้าที่ของคำนั้นที่่ใช้เชื่อมคำหรือประโยคด้วย ซึ่งเราแบ่ง
ออกได้ 5 ประเภท คือ

1. นำหน้าคำนาม เช่น 2. นำหน้าคำสรรพนาม เช่น
- ในตู้มีอะไร - รถของเธอ
- บนโต๊ะว่างเปล่า - ปากกาของฉัน
- จนกระจกแตก - ไปกับฉันไหม
- เขาไปกับน้องสาว - หมาเดินตามคุณ
- ผึ้งอยู่ใกล้ผม
3. นำหน้าคำกริยา เช่น - เนื่องด้วยข้าพเจ้า
- ขอไปด้วยคน
- มาไกลไปไหม
- เดินบนทางเท้า
- ขอฟังต่ออีกสักหน่อย
- เขาพูดราว 1 ชั่วโมงแล้วนะ
- ผมใกล้อ่านหนังสือออกแล้ว

7

4. นำหน้าคำวิเศษณ์ เช่น 5. นำหน้าประโยค เช่น

- เขาต้องมาหาฉันโดยเร็ว - เมื่อไหร่เขาจะมาสักที

- เขาเลวสิ้นดี - กระทั่งน้องเลิกโรงเรียน

- ปากกาของฉันสีม่วง - ตั้งแต่เมื่อวานเขายังไม่กลับบ้านเลย

- ขนมอร่อยมากแต่หมดแล้ว - ข้างบ้านไม่มีใครอยู่เลย

- ฉันมองไม่เห็นที่นั่น - เกือบเดือนแล้วที่ไม่ได้อาบน้ำ

- ฉันรักแม่เหนือสิ่งอื่นใด - ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์

ทั้งนี้ ยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคำบุพบทว่า ในบางประโยคที่เราใช้พูดคุยกัน อาจ
ละคำบุพบทนั้นไว้ แต่ยังมีความหมายตามเดิม และก็ยังเป็นที่เข้าใจกันอยู่ เช่น พี่
ให้เงิน (แก่) น้อง, แม่ (ของ) ฉันเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ

นอกจากนี้ บางครั้งคำบุพบทก็มีลักษณะคล้ายคำวิเศษณ์ แต่ต่างกันตรง
ที่คำบุพบทจะวางไว้หน้าคำ ส่วนคำวิเศษณ์จะทำหน้าที่ขยายอยู่หลังคำนั้น ดังนั้น
แล้ว หากไม่มีคำนาม หรือสรรพนามตามหลัง คำนั้นจะเป็นคำวิเศษณ์ เช่น เธอ
อยู่ใน พ่อยืนอยู่ริม, ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง ฯลฯ

เห็นไหมว่าการนำคำบุพบทมาใช้ในการเชื่อมรูปประโยคไม่ใช่เรื่องยากเลย
ขอเพียงให้เราเข้าใจหลักการของการนำมาใช้ให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การ
สื่อสารไปยังผู้รับสารประสบผลสำเร็จได้

ข้อสังเกตการใช้คำบุพบท 8

1. คำบุพบทต้องนำหน้าคำนาม คำสรรพนาม หรือคำกริยาสภาวมาลา เช่น

เขามุ่งหน้าสู่เรือน
ป้ากินข้าวด้วยมือ
ทุกคนควรซื่อสัตย์ต่อหน้าที่

2. คำบุพบทสามารถละได้ และความหมายยังคงเดิม เช่น

เขาเป็นลูกฉัน (เขาเป็นลูกของฉัน)
แม่ให้เงินลูก (แม่ให้เงินแก่ลูก)
ครูคนนี้เชี่ยวชาญภาษาไทยมาก (ครูคนนี้เชี่ยวชาญทางภาษาไทยมาก)

3. ถ้าไม่มีคำนาม หรือคำสรรพนามตามหลัง คำนั้นจะเป็นคำวิเศษณ์ เช่น
เธออยู่ใน พ่อยืนอยู่ริม
เขานั่งหน้า ใครมาก่อน
ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง

9
อีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความสับสนให้กับใครหลาย ๆ คนได้ คือ การเขียนภาษาไทย
ซึ่งเวลาเขียนก็มักจะลังเลกันว่าจะใช้คำไหนดีอยู่หลายครั้ง และการเขียนที่คน
สับสนอยู่บ่อย ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหลักการใช้คำบุพบทอย่างแน่นอน เพราะคำ
บุพบท 1 คำ ล้วนใช้เชื่อมความหมายได้เยอะมาก ซึ่งสามารถใช้เชื่อมได้ทั้งคำนาม
คำสรรพนาม คำกริยา หรือใช้กับคำวิเศษณ์ให้เกิดความหมายในการสื่อสาร แต่
ถ้าน้อง ๆ หยิบคำเหล่านี้มาใช้อย่างผิด ๆ ความหมายที่เราต้องการจะสื่อสาร ก็จะ
สื่อสารไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่

แด่ แต่ แก่ ต่อ สรุปใช้อย่างไรกันแน่
โดยเฉพาะคำว่า แด่ แต่ แก่ ต่อ ที่หลายคนใช้กันแบบผิด ๆ บ่อยมาก

คำว่า แด่
เป็นคำบุพบทที่ใช้แทนความหมายถึงผู้รับ โดยจะใช้ในกรณีที่ผู้รับเป็นบุคคลที่
เคารพ และมีสถานะสูงกว่า เช่น ฉันมอบดอกไม้แด่คุณครู, เธอตั้งใจเขียนการด์
แด่พ่อ และแม่ เป็นต้น

คำว่า แต่
เป็นคำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำนาม เพื่อใช้บอกเวลา เช่น เขามาโรงเรียนแต่เช้าเลย,
ฝนตกตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแล้ว

คำว่า แก่
เป็นคำบุพบทที่ใช้แทนความหมายถึงผู้รับ โดยจะใช้ในกรณีที่ผู้รับเป็นบุคคลที่
มีอายุน้อยกว่า หรือมีสถานะน้อยกว่าผู้พูด เช่น ฉันซื้อขนมมาแจกให้แก่เด็ก ๆ ,
ครูให้รางวัลแก่เด็กนักเรียนเป็นประจำ

คำว่า ต่อ
เป็นคำบุพบทที่ใช้เชื่อมคำนามเข้าด้วยกัน เพื่อแสดงความหมายของการมอบ
สิ่งของให้ต่อหน้า หรืออยู่ในบริบทของการประจันหน้า เช่น ทุกคนควรซื่อสัตย์
ต่อหน้าที่ของตนเอง, เด็กนักเรียนแสดงความเคารพต่อหน้าครูใหญ่

คำบุพบทภาษาอังกฤษที่มักใช้บ่อยที่สุด 10

ยกตัวอย่างเช่น A

Against — หมายความว่า ต่อต้าน, คัดค้าน, ต้าน, พิง

Most people voted against the new dam. คนส่วนมากโหวตคัดค้าน
เขื่อนแห่งใหม่
We’re cycling against the wind. พวกเรากำลังปั่ นจักรยานต้านลม
He’s leaning against the wall. เขากำลังเอนหลังพิงกำแพง
Along — หมายความว่า ไปตาม

They’re walking along the beach. พวกเขากำลังเดินไปตามชายหาด
Amid(st) — หมายความว่า ในท่ามกลาง

We are camping in the forest amid the tall trees. พวกเราตั้งแคมป์
ในป่าท่ามกลางต้นไม้สูง
Among — หมายความว่า ในท่ามกลาง

The little kids are standing among the crowd. เด็กตัวเล็กกำลังยืนอยู่
ในท่ามกลางฝูงชน
Around — หมายความว่า รอบ ๆ

The earth goes around the sun. โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
The kids are sitting around the teacher. เด็กนั่งล้อมรอบครู
At — หมายความว่า ที่, เวลา, มาที่, ไปที่, ในเรื่อง

She’s at home. แปลว่า หล่อนอยู่ที่บ้าน
I get up at six o’clock. ฉันตื่นนอนเวลา 6 นาฬิกา
She’s looking at me. หล่อนกำลังมองมาที่ฉัน
Sam is pointing at the lion. แซมกำลังชี้ไปที่สิงโต
We’re not good at sports. พวกเราไม่เก่งในเรื่องกีฬา

11

ยกตัวอย่างเช่น B – E

Before — หมายความว่า ก่อน

Please come back before noon. กรุณากลับมาก่อนเที่ยง
Behind — หมายความว่า ข้างหลัง

The little boy is standing behind his dad. เด็กชายตัวน้อยกำลังยืนอยู่
ข้างหลังพ่อของเขา
Below — หมายความว่า ข้างใต้, ต่ำกว่า

Your name is below mine. ชื่อของคุณอยู่ใต้ชื่อของฉัน
Your score is below average. คะแนนของคุณต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
Beneath — หมายความว่า ใต้

The cat is sleeping beneath the chair. แมวกำลังนอนหลับอยู่ใต้เก้าอี้
Beside — หมายความว่า ข้าง ๆ

Come and stand beside me! มายืนข้าง ๆ ฉัน
Besides — หมายความว่า นอกเหนือ, นอกจาก

Except — หมายความว่า ยกเว้น

Dad works everyday exept Sundays. พ่อทำงานทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์

นำคำบุพบทที่กำหนดเติมลงในช่ิงว่างให้ถูกต้อง 12

ของ ถึง บน โดย เพื่อ ใต้
สำหรับ ตลอด ด้วย ตั้งแต่

1) ฉันไม่ได้นอน......................................ทั้งคืน
2) นัทระบายสี..........................................พู่กัน
3) เรือแล่นลอด.................................ใต้สะพาน
4) นกทำรังอยู่.................................ต้นไม้ใหญ่
5) คุณพ่อ..................................ฉันเป็นชาวสวน
6) ดอกไม้ช่อนี้..............................เธอคนเดียวจ๊ะ
7) น้องเดินทางมาโรงเรียน......................ทางเรือ
8) ฉันมา.............................โรงเรียนเวลา 07.00 น.
9) โรงเรียนเปิดเรียน......................วันที่ 19 พฤษภาคม
10) พ่อแม่ทำงานหาเงิน..............ให้ลูกอยู่อย่างสบาย

เเบบทดสอบ เรื่องคำบุพบท 13

๑.ข้อใดคือความหมายของคำบุพบท
ก.คำที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ
ข.คำที่ใช้นำหน้าคำหรือกลุ่มคำ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของประโยค
ค.คำที่บอกสภาพของคำนาม หรือคำสรรพนาม
ง.คำที่ใช้เชื่อมประโยคหรือข้อความ

๒. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคำบุพบท
ก.นำหน้าคำนาม
ข.นำหน้าประโยค
ค.นำหน้าคำสรรพนาม
ง.นำหน้าคำอุทาน

๓. ข้อใดคือคำบุพบทบอกเวลา ๔. ข้อใดคือคำบุพบทบอกความเป็นเจ้าของ
ก.จนกระทั่ง ก.อัน
ข.จาก ข.จน
ค.แด่ ค.ใน
ง.กับ ง. แห่ง

14

๕. ประโยคในข้อใดใช้คำบุพบทไม่เหมาะสม
ก.ครูมอบทุนการศึกษาแด่นักเรียนเรียนดี
ข.เขายังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน
ค.ร้านขายรองเท้าอยู่ใกล้ตลาดสด
ง.ร้องเท้าสีแดงของฉันหาย

๖. “พ่อแม่ทำงานหนักเพื่อฉัน”
จากประโยคนี้คำใดเป็นคำบุพบท
ก.แม่
ข.ฉัน
ค.เพื่อ
ง.ทำ

๗.ประโยคใดมีคำบุพบทในประโยคมากที่สุด
ก.วันนี้ฉันตื่นตั้งแต่เช้า
ข.ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก
ค.แม่ทำงานหาเงินเพื่อให้ฉันมีชีวิตที่ดี
ง.เสื้อสีฟ้าอยู่ในตู้

๘. “ฉันกับแม่ไปทำธุระที่ห้างแห่งหนึ่งตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึก” 15
จากประโยคนี้มีคำบุพบทกี่คำ

ก.๓คำ

ข.๔คำ

ค.๕คำ

ง.๖คำ

๙.“ฉันตื่น….เช้า…..จะมาทำบุญใส่บาตร” ควรเติมคำบุพบทใดลงในช่องว่าง
ก. เมื่อ, สำหรับ
ข.จน, เพื่อ
ค.ตั้งแต่, เฉพาะ
ง.แต่, เพื่อ
๑๐.“เขาทำความดี….ไม่หวังสิ่งตอบแทน” ควรเติมคำบุพบทใดในช่องว่าง
ก.โดย
ข.ด้วย
ค.เพื่อ
ง.เฉพาะ

https://quizizz.com/admin/quiz/5c8d0b5c2acd72001cca243d/-

16

ภาพผนวก

17

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แอปฟิเคชั่นของเราได้


Click to View FlipBook Version