The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ ๒ การเปรียบเทียบองค์ประกอบของนาฏศิลป์ [ม.๓]

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panupong2256, 2021-06-05 09:54:13

หน่วยที่ ๒ การเปรียบเทียบองค์ประกอบของนาฏศิลป์ [ม.๓]

หน่วยที่ ๒ การเปรียบเทียบองค์ประกอบของนาฏศิลป์ [ม.๓]

หนว่ ยที่ ๒ The Comparison Of Thai Dance Elements

การเปรยี บเทยี บองคป์ ระกอบของนาฏศิลป์

ตัวช้ีวดั ม. ๓/๕ วจิ ารณ์เปรียบเทยี บงานนาฏศลิ ป์ ท่มี คี วามแตกต่างกันโดยใชค้ วามรู้

เร่ืององค์ประกอบนาฏศิลป์

ราํ มโนห์ราบูชายัญ เปน็ การแสดงท่ารา่ ยราํ ของนางมโนหร์ า กอ่ นทีจ่ ะถูกบูชายัญ
อนั เป็นการรําทีแ่ ทรกอยู่ในละครเรื่องมโนหร์ า ฉากที่ ๓ ฉากหน้าพระลาน นครปญั จาล
เครดิตภาพ : Pinterest

ฟอ้ นมโนราห์เล่นน้ํา เปน็ ตอนท่ีมโนราหแ์ ละพี่ๆ ท้ังหก มาเล่นน้าํ ทีส่ ระโบกขรณี
เม่อื นายพรานปา่ มาพบเห็นกนิ รเี ล่นนา้ํ อยู่ จงึ อยากจะจบั ไปถวายแกท่ ้าวสีทน
การฟอ้ นชดุ มโนราห์เลน่ นา้ํ ใช้ดนตรพี ้นื เมอื งอีสานประกอบการฟอ้ น ท่าฟ้อนท่ีใช้
เปน็ ท่าฟอ้ นของหมอลาํ เพลนิ หรอื ลาํ กกขาขาว และการลาํ สังขศ์ ลิ ป์ชยั มาปรับปรุง
ให้สอดคล้องกับการเล่นนํา้ ของนางมโนราห์ โดย อาจารย์ฉวีวรรณ ดําเนิน

เครดิตภาพ : Facebook “Biooil Kcp”



การเปรียบเทยี บองคป์ ระกอบของนาฏศิลป์

๑. การฟอ้ นราํ องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์ ๗. อุปกรณ์
หรือลลี าการใชท้ า่ ราํ สามารถจาํ แนกได้ ๗ องคป์ ระกอบ ดงั น้ี การแสดง

๒. การแต่งกาย ๔. จงั หวะ ๖. เครอ่ื งดนตรีทีบ่ รรเลง
๓. การแตง่ หนา้ ประกอบการแสดง

๕. คํารอ้ งหรอื เนือ้ ร้อง



๑. การฟอ้ นรํา หรือลีลาการใช้ทา่ รํา

การแสดงนาฏศิลปไ์ ทยทสี่ วยงาม จะใชก้ ารฟ้อนรําและลลี าท่าทางต่าง ๆ
เพ่ือใหก้ ารแสดงมีความงดงาม การแสดงจงึ ตอ้ งใช้นาฏยศพั ท์ และภาษา
ทา่ ทางนาฏศิลปแ์ ละมาเป็นสว่ นสร้างสรรค์ท่าทางในการร่ายราํ

การแสดงโขน เร่อื ง รามเกียรต์ิ ตอน นางลอย เครดิตภาพ : https://www.bloggang.com/
นางลอย เปน็ ตอนท่ีเกดิ ขนึ้ หลังจากทท่ี า้ วทศกัณฐ์ พญายกั ษ์แห่งกรงุ ลงกาได้ลักพานางสีดามาจาก mainblog.php?id=aksorn

พระรามผเู้ ปน็ พระสวามีไปน้นั ได้ทําให้เกดิ ศกึ สงครามระหวา่ งพระรามกบั บรรดายกั ษแ์ หง่ กรุงลงกา
ครัน้ พระรามยกทพั มาประชดิ กรุงลงกา ทศกัณฐ์จึงหาทางคดิ ตดั ศกึ จึงออกกลอุบายให้นางเบญกาย
จาํ แลงแปลงกายเป็นนางสีดาทําทีเป็นตายลอยนาํ้ ไปติดยังริมฝ่งั แม่นํา้ ทพ่ี ระรามทรงใช้สรงสนาน
เพื่อใหพ้ ระรามเข้าใจผดิ วา่ นางสดี าตายและยกทพั กลับไป

จากภาพจะเห็นได้วา่ ผู้แสดงทําทา่ “โศกเศร้า เสยี ใจ” โดยจะมลี กั ษณะท่ีแตกต่างกันออกไป
ตามลกั ษณะของตัวละคร เพื่อสอื่ สารใหผ้ ู้รับชมการแสดงรับรู้ได้ถงึ ความร้สู ึกของการแสดงในชว่ งนน้ั ๆ

๒. การแตง่ กาย ๔

ในการแสดงนาฏศลิ ป์ สามารถบ่งบอกถึงยศ และบรรดาศักดิ์
ของนกั แสดงละครตวั น้ัน ๆ โดยเฉพาะการแสดงโขน การแต่งกาย
จะเปรียบเสมือนแทนสีกายของตวั ละคร เช่น เมอ่ื แสดงเปน็ หนุมาน
นักแสดงจะต้องแต่งกายดว้ ยชดุ สขี าวมีลายปกั เปน็ ลายทกั ษณิ าวตั ร
สวมหวั โขนลิงสขี าว ปากอา้ เปน็ ต้น

นางสุพรรณมัจฉา เป็นธิดาของทศกัณฑ์ กบั นางปลา ซ่ึงเปน็ สตั วเ์ ดยี รัจฉานแต่ทศกณั ฑ์ไดแ้ ปลงกายเป็นปลา ☐
ลงไปสมสู่จนกาํ เนิดธิดาขนึ้ มาแม้ทศกัณฑจ์ ะเปน็ ยักษ์ แต่ในวรรณคดอี นโุ ลมใหท้ ศกัณฑ์เปน็ มนุษย์ ดว้ ยเหตุนี้ เครดิตภาพ : Facebook “BIGGYPHOTO”
ในงานจติ รกรรมฝาผนังเธอจงึ มีรูปลกั ษณ์ทท่ี อ่ นบนเป็นมนษุ ย์ส่วนท่อนลา่ งเปน็ ปลา คอื กลายเป็น นางเงอื ก
กระนน้ั นางสพุ รรณมจั ฉากม็ รี ปู โฉมท่ีงดงาม มีผิวกายผ่องพรรณเป็นสีทอง

จากภาพจะเหน็ ไดว้ ่า การแต่งกายของผแู้ สดง ที่รับบทเปน็ นางสุพรรณมัจฉา จะมกี ารแตง่ เติมในส่วนทีเ่ ปน็
“หางปลา” เพ่ือบ่งชค้ี วามเป็นเอกลกั ษณข์ องตัวละครให้ผู้รบั ชมเข้าใจ และได้รับอรรถรสในการรับชมการแสดง
อย่างชดั เจน

๓. การแตง่ หนา้ ๕

เปน็ องคป์ ระกอบหนงึ่ ทีท่ าํ ให้นักแสดงสวยงาม และอําพราง

ขอ้ บกพรอ่ งบนใบหน้าของนักแสดงได้ นอกจากนก้ี ย็ งั สามารถใช้วิธีการแต่งหน้า

เพ่อื บอกวยั บอกลักษณะเฉพาะของตัวละครได้ เช่น แตง่ หน้านักแสดงหนุ่มใหเ้ ปน็ คนแก่

แต่งหน้าใหน้ กั แสดงเปน็ ตัวตลก เปน็ ต้น

การแต่งหน้าประกอบการแสดง เนอ่ื งจากองคป์ ระกอบอื่นๆ ในการแสดง อาทิ แสงสะทอ้ น
จากเครือ่ งแต่งกาย แสงไฟสปอรต์ ไลทจ์ ากบนเวที จะสง่ ผลใหค้ วามคมชดั ของใบหน้าของผแู้ สดง
ถกู ลดลงไป ดังนนั้ จึงมคี วามจาํ เป็นที่จะตอ้ งแตง่ หน้าค่อนข้างเขม้ และชดั เจน เพอ่ื ให้ผู้รบั ชม
การแสดงสามารถมองเหน็ ใบหน้าของผแู้ สดงไดอ้ ยา่ งชัดเจน

เครดติ ภาพ : Facebook “ภาณิภรณ์”



๔. จังหวะ

เป็นสว่ นยอ่ ยของบทเพลงท่ีดําเนนิ ไปเป็นระยะ และสม่าํ เสมอการฝกึ หดั นาฏศิลป์ไทย

จําเป็นต้องใชจ้ ังหวะเป็นพื้นฐานในการฝึกหัด เพราะจังหวะเปน็ สง่ิ ทเ่ี กิดขนึ้ จากธรรมชาติ

และมีอยูใ่ นตวั มนุษย์ทกุ คน หากผ้เู รียนมีทักษะทางการฟังจังหวะแล้วกส็ ามารถรําได้

สวยงาม แตถ่ า้ ผู้เรียนไม่เข้าใจจงั หวะก็จะทาํ ให้ราํ ไม่ถูกจงั หวะหรือเรียกว่า “ บอดจังหวะ”

การรํากจ็ ะไมส่ วยงามและไมถ่ ูกตอ้ ง เปน็ สว่ นย่อยของบทเพลงที่ดําเนนิ ไปเปน็ ระยะ

และสม่าํ เสมอ

“เต้นเสา”

เป็นการฝึกหดั โขนเบื้องต้น เพือ่ ฝึกทกั ษะการใชจ้ งั หวะเตน้ โขน
และสรา้ งเสริมความแข็งแรงของอวยั วะสว่ นขา

เครดิตภาพ : Youtube “ทวีศกั ดิ์ วรี ะพงศ์”

๕. คําร้อง หรอื เน้ือรอ้ ง ๗

การแสดงนาฏศิลปไ์ ทยมีท้งั ชดุ การแสดงทีม่ ีบทร้อง

และไมม่ ีบทรอ้ งประกอบการแสดง ซง่ึ ในการแสดงทีม่ ีเนือ้ รอ้ งประกอบการแสดง

จะทําใหผ้ ชู้ มเขา้ ใจการแสดงมากขึ้น ตลอดจนผ้คู ดิ คน้ ประดิษฐท์ ่าราํ ใหเ้ หมาะสมกบั

คาํ ร้องเพือ่ ใหผ้ ชู้ มเข้าใจการแสดงมากขึน้ และเพื่อใหผ้ แู้ สดงสามารถถา่ ยทอดอารมณ์

ได้ถกู ต้องและมีควาสวยงาม เชน่ ระบาํ ดาวดงึ ส์ เปน็ การแสดงท่ีมบี ทรอ้ งประกอบ

มที ่ารา่ ยรําทสี่ ่อื ความหมายตามบทรอ้ งท่มี คี วามยนิ ดีปรีดา เป็นตน้

“ระบําดาวดงึ ส”์ เป็นการแสดงมาตรฐานทีเ่ ปน็ ฉบับไทยอกี ชดุ หน่ึง ซ่ึงสมเด็จเจา้ ฟา้ กรมพระยานริศรา

นุวดั ติวงศไ์ ด้ทรงนพิ นธบ์ ทร้องขน้ึ ประกอบการแสดงในบทละครดึกดาํ บรรพ์ เรอ่ื งสงั ข์ทองตอนตคี ลี

ดาวดงึ ส์ ในฉากน้ีมีพระอนิ ทรก์ บั พระมเหสปี ระทับอย่บู นแท่นพระวิศนกุ รรม และพระมาตลุ ี

นง่ั อย่ชู ั้นลดสองข้าง เหลา่ คนธรรพป์ ระจาํ เครื่องดนตรีอยดู่ ้านหน้า เหล่าเทวดานางฟา้ นงั่ เฝ้าสองข้าง

เร่ิมเปิดฉากเหล่าเทวดานางฟา้ ก็จบั ระบาํ ถวาย

จากภาพผแู้ สดงปฏบิ ัติในท่า “พรหมส่หี น้า” สอดรับกับคํารอ้ ง “เทวโลก” ซึง่ แสดงถงึ

“ความย่งิ ใหญข่ องสวรรคช์ น้ั ดาวดงึ ส”์ เครดิตภาพ : http://rabamthai.com/

๖. เครือ่ งดนตรีทบ่ี รรเลงประกอบการแสดง ๘

การแสดงนาฏศิลปจ์ าํ เป็นอยา่ งย่งิ ทีจ่ ะตอ้ งใช้เคร่ืองดนตรี

บรรเลงประกอบการแสดง ดงั นน้ั นกั แสดงจะตอ้ งรําให้สอดคลอ้ งตามเน้อื รอ้ ง

และทาํ นองเพลง ในขณะเดยี วกนั ดนตรกี ็เป็นองคป์ ระกอบหลักทส่ี ําคญั

ในการช่วยเสริมให้การแสดงสมบรู ณ์ และสามารถสือ่ ความหมายได้ชัดเจนมากข้นึ

วงดนตรพี ้นื บา้ นอสี าน หรอื วงโปงลาง ประกอบดว้ ย พิณ พิณเบส
แคน โหวด โปงลาง ปี่ผูไ้ ท ซออีสาน กลองหาง ๔ใบ กลองรํามะนา ฉ่งิ ฉาบ
และไหซอง ใช้บรรเลงประกอบการฟ้อนแบบพืน้ บ้านของทางภาคอสี าน
เพอ่ื ใหผ้ ู้รับชมการแสดง เกิดความเขา้ ใจ ไดร้ บั อรรถรส และสัมผัสถงึ
กลน่ิ อายของศลิ ปวัฒนธรรมพืน้ บา้ นทางภาคอีสาน

เครดิตภาพ : Youtube.com

๗. อุปกรณ์การแสดง ๙

การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยบางชดุ อาจตอ้ งมอี ปุ กรณ์
ประกอบการแสดงละครดว้ ยเชน่ ระบาํ พัด ฟอ้ นเลบ็ ฟอ้ นร่ม เปน็ ต้น
อุปกรณแ์ ต่ละชนิดทใี่ ชป้ ระกอบการแสดงจะต้องมีความสมบรู ณ์ สวยงาม
และสวมใส่ไดพ้ อดี

“ไหซอง”

เปน็ เครือ่ งดนตรไี ทยภาคอสี าน ทาํ มาจากไหนา้ํ ปลาหรือ
ไหปลาร้าทีไ่ มใ่ ชแ้ ลว้ ขึงด้วยยางหนังสตก๊ิ หรือยางอ่ืน ๆ บริเวณ
ปากไห จดั เป็นชุด ชุดละหลายใบ โดยมีขนาดลดหลั่นกัน บรรเลง
โดยการดีดด้วยนวิ้ ใหเ้ สียงทุ้มคล้ายกตี าร์ทําหน้าทเ่ี ปน็ เครอื่ ง
ประกอบจงั หวะ

การดีดไหซองในปัจจุบันเปน็ เพียงการแสดงลีลาการดีด
ประกอบทา่ ฟ้อนราํ นิยมใช้ผหู้ ญิงเป็นผ้ดู ีด เรยี กวา่ “นางไห”
ใช้แสดงในงานรนื่ เริงตา่ ง ๆ

เครดติ ภาพ : Facebook “สกุ ญั ญา รกั ษาภักด”ี

ตัวอยา่ งการเปรียบเทยี บองคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์ ๑๐

ระหว่างการแสดงชุด “ฟ้อนเง้ยี ว” กบั “แก่งฟายเฟอื ยฟ้อน”

“ฟอ้ นเงีย้ ว” เป็นการแสดงพืน้ เมืองของชาวเขาเผ่าหนงึ่ ซึ่งเรียกวา่ “เงย้ี ว” มภี มู ิลาํ เนาอยู่ทางภาคเหนอื ของประเทศไทย
นางลมุล ยมะคปุ ต์ (ผู้เชย่ี วชาญการสอนนาฏศลิ ป์ไทย) ไดม้ ีโอกาสไปสอนละครท่ีคมุ้ หลวง เจ้าแกว้ นวรฐั ผูค้ รองนครเชยี งใหม่
และไดเ้ ห็นการแสดงฟอ้ นเงย้ี วท่ีคุ้มหลวง ซึ่งมนี างหลง บุญจหู ลงเปน็ ผูฝ้ ึกสอน โดยความควบคุมของพระราชชายาเจา้ ดารารศั มี
ในรัชกาลที่ 5 ฟอ้ นเงยี้ วมีลกั ษณะเปน็ บทอวยพร อาราธนา พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ และขอใหเ้ ทพยดาสง่ิ ศกั ด์ิท้ังหลาย
มาปกปอ้ งคุ้มครองอวยชยั ใหพ้ รเป็นสวัสดมิ งคลสบื ไป

เครื่องดนตรี ใชว้ งปพี่ าทย์ ซึ่งอาจเปน็ เครือ่ งห้า เครอ่ื งคู่ หรือเครอ่ื งใหญต่ ามเหมาะสม
การแต่งกาย แต่งได้ทง้ั แบบชาวเขาและแบบที่กรมศลิ ปากรประดษิ ฐ์ข้นึ
สามารถแสดงไดท้ งั้ ชดุ หญงิ -ชายและหญงิ ลว้ น ทีน่ า่ สังเกตคอื ผ้แู สดงจะถอื ก่งิ ไม้ไวใ้ นมือทั้งสอง
เครดิตภาพ : https://www.bloggang.com “เกศรุ ิยง” เพ่ือเปน็ การปัดเป่าสิ่งท่ไี มด่ ีใหพ้ น้ ไป

“แก่งฟายเฟือยฟ้อน” แรงบันดาลใจและแนวความคดิ จากภาพถ่ายฟอ้ นหางนกยูงเมื่อคร้ังรับเสดจ็

ณ วดั พระธาตพุ นมวรมหาวหิ าร เมือ่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ทมี่ าของภาพศาลากลาง จังหวัดนครพนม

หางนกยูงความเชอื่ ด้งั เดมิ แถบลุม่ นาํ้ โขง ปรากฏกระจายอยใู่ นชาดกวรรณกรรม นิทานมขุ ปาถะ สญั ลักษณ์

ของการเร่ิมตน้ อนั เป็นศริ ิมงคล และอาํ นาจการปัดปอ้ งสิง่ อวมงคลทง้ั มวลจากการศึกษาวเิ คราะห์หางนกยงู ในรูปแบบ

สัญญะทางคติความเชือ่ ดงั กล่าวสูผ่ ลงานสร้างสรรคท์ างดา้ นนาฏยศลิ ป์พ้นื เมือง ชุด “แกง่ ฟายเฟอื ยฟอ้ น”

ผ้สู รา้ งสรรค์ผลงาน -นายกฤษดากร บรรลอื -นายศุภวัฒน์ นามปญั ญา, อาจารย์ท่ีปรึกษาหลกั -อาจารยร์ ัตตยิ า โกมินทรชาติ

อาจารยท์ ี่ปรกึ ษารว่ ม -อาจารยธ์ รี วัฒน์ เจยี งคํา เครดติ ภาพ : https://www.bloggang.com “เกศุริยง”

ตัวอย่างการเปรียบเทียบองค์ประกอบของนาฏศิลป์ ๑๑

ระหว่างการแสดงชุด “ฟ้อนเงย้ี ว” กับ “แก่งฟายเฟือยฟ้อน”

องคป์ ระกอบฯ ฟอ้ นเงี้ยว สง่ิ ที่เหมือนกัน แก่งฟายเฟือยฟอ้ น

๑. การฟ้อนรํา ลลี าไมเ่ น้นความอ่อนช้อย เป็นการแสดงท่ีสอื่ ให้เห็นถงึ ความเดน่ ชัด เนน้ การใชส้ รีระ และความอ่อนช้อย
๒. การแตง่ กาย แต่งกายแบบชาวเขา หรือตามแบบ ของกลุ่มชาติพนั ธ์ุ
๓. การแตง่ หนา้ ของกรมศลิ ปากรปรบั ปรุงขน้ึ แตง่ กายแบบพื้นบ้านอสี านนยิ ม
๔. จงั หวะ -
- -
แต่งเพื่อความสวยงาม และอาํ พราจดุ บกพรอ่ ง -
- บนใบหนา้ ของผแู้ สดง
ปรากฏเฉพาะบทขบั ลําเกรน่ิ นํา
๕. คํารอ้ ง มีคําร้องตลอดทั้งบทเพลง เปน็ การแสดงที่มจี งั หวะสนกุ สนาน
๖. ดนตรี เหมาะสาํ หรับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง วงดนตรพี ื้นบา้ นอสี าน (วงโปงลาง)
ใชว้ งปพ่ี าทย์ ซ่ึงอาจเป็นเครื่องห้า เคร่ืองคู่ ผแู้ สดงชายถอื “หางนกยูง” ทั้ง ๒มือ
หรือเคร่ืองใหญ่ตามเหมาะสม มลี ักษณะเปน็ บทอวยพร ขอใหป้ กปอ้ งคุม้ ครอง ผู้แสดงหญงิ ถอื “หางนกยูง” เพยี งมอื เดียว
ใหส้ วสั ดมิ งคลสบื ไป
๗. อุปกรณฯ์ มอื ทั้ง ๒ข้างถือ “ก่งิ ไม้”
-

มีความหมายเพือ่ เป็นการปัดเป่าสิ่งทไี่ มด่ ีใหพ้ ้นไป

คาํ ถามพฒั นากระบวนการคิด ๑๒
เครดิตภาพ : Facebook “Worawitnu Photobook”

๑. องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์มีความสาํ คญั ต่อการแสดงอย่างไร?
๒. ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ มีความสําคัญต่อการแสดงอยา่ งไร?
๓. หากนกั เรยี นได้รับมอบหมายใหจ้ ัดการแสดงในหวั ข้อ “Covid กบั วิถชี ีวติ คนไทย”
นกั เรยี นจะใชค้ วามรู้ดา้ นองคป์ ระกอบของนาฏศิลปจ์ ัดการแสดงออกมาในรปู แบบใด?


Click to View FlipBook Version