E-BOOK
ร ถ ม้ า น ค ร ลำ ป า ง ม า จ า ก ไ ห น ?
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ก
คำนำ
E -BOOK เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา นวัตกรรมมการเรียนเรียนการ
สอนทางสังคมศึกษา (1035401) ซึ่งเนื้อหาของ E-BOOK เล่มนี้ ได้รวบรวมความรู้
เกี่ยวกับ รถม้าของนครลำปาง โดยเนื้อหาประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ เช่น การใช้
รถม้าในประเทศไทย จุดกำเนิดของรถม้าในนครลำปาง รถม้านครลำปางใน
ปัจจุบัน ลักษณะทั่วไปของรถม้า และอนาคตของรถม้า เป็นต้น โดยนำเนื้อหา
ของรถม้าในลำปางนี้มาเป็นแนวทางในการศึกษาให้มองเห็นความสำคัญของ
รถม้า ให้มองเห็นถึงสิ่งสำคัญหลาย ๆอย่างของรถม้าที่มีต่อนครลำปาง การที่
ผู้จัดทำคิดนำเรื่องรถม้าลำปางมาทำ ประการแรกเพื่ออยากให้ทุกคนที่ได้อ่าน E-
BOOK เล่มนี้รู้สึกรักรถม้ามากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยกันสนับสนุนไม่ให้รถม้าจางหายไป
จากนครลำปาง ประการที่สองคือผู้จัดทำต้องการที่จะสื่อความเป็นลำปางผ่าน
รถม้าที่อยู่คู่นครลำปางมานานเพื่อสืบทอดความสวยงามของรถม้าสืบไป
E-BOOK เล่มนี้เป็นการจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการศึกษาภายในชั้นเรียน เนื้อหาใน E-
BOOK มาจากการค้นคว้าของคณะผู้จัดทำเอง เนื้อหาในนี้อาจจะมีคำที่ตกหล่นไป
บ้าง หรือมีความผิดพลาด ไม่สมบูรณ์ไปบ้าง แต่คณะผู้จัดทำเองมีความตั้งใจ
ในการจัดทำเป็นอย่างมาก หากมีความผิดพลาดประการใดคณะผู้จัดทำต้อง
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
ข
สารบัญ
1
บทนำ
คำขวัญของจังหวัดลำปาง
"ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้ นลือนาม
งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก"
นั ก เ รีย น คิ ด ว่ า ทำ ไ ม ถึ ง มี ร ถ ม้ า ใ น คำ ข วั ญ จั ง ห วั ด ลำ ป า ง ?
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ยว่าทำไมถึงมีรถม้าในคำขวัญจังหวัดลำปาง
งั้นก็มาเริ่มอ่านเรื่องราวน่ารู้นี้กัน.....
ไปอ่านกันเลย
บทที่ 1 การใช้รถม้าในประเทศไทย 2
ม า ดู กั น ว่ า มี ก า ร ใ ช้ ร ถ ม้ า ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ค รั้ง แ ร ก เ มื่ อ ไ ห ร่ . . . .
หากย้อนกลับไปในอดีตรถม้าที่เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรก
เริ่มตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล
ที่ 4 โดยเมืองไทยได้รับตกทอดมาจากอังกฤษและอินเดียเป็นส่วน
ใหญ่ โดยถือกันว่ารถม้าเป็นพาหนะคู่บ้านคู่เมือง ถึงขนาดในรัชสมัย
ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสั่งรถม้าเข้ามาเป็นจํา
นวนมากโดยให้ใช้เป็นราชรถหลวงและตั้งกรมดูแล ชื่อว่า “กรมอัศว
ราช” จนกระทั่งรถยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาท รถม้าจึงถูกนําไปอยู่ตาม
หัวเมืองต่างๆ พร้อมๆกับพวกแขกมลายูที่ช่วงหนึ่งเข้ามาขับรถม้าใน
เมืองไทย จนกระทั่งช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป. พิบูล
สงคราม มีคำสั่ง “ไล่คนต่างประเทศออกจากจังหวัดลำปาง” ทำให้พวก
แขกที่ทำมาหากินด้วยการขับรถม้าที่นครลำปาง ต้องอพยพออกนอก
ประเทศไทย
3
บทที่ 1 การใช้รถม้าในประเทศไทย (ต่อ)
ในปีพ.ศ. 2458 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ประเทศไทยได้วางรางรถไฟขึ้นมาถึงเมืองลําปาง
มีการขนรถม้าจากกรุงเทพฯขึ้นรถไฟมาด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะโครงการ
ต่อเชื่อมถนนสาย 3 ซึ่งเป็นถนนสายแรกหลังจากสถาปนากรมทาง โดย
เป็นสายที่ทอดตัวจากลําปางไปถึงเชียงราย รถม้าจึงได้เข้ามามีบทบาท
สําคัญด้วยการเป็นพาหนะรับส่งผู้โดยสารจากตัวสถานีรถไฟนครลํา
ปางเข้าสู่ตัวเมือง มีระยะทาง 2 กิโลเมตรรถไฟขบวนแรกที่รถม้าได้รับผู้
โดยสารที่นครลำปางวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459
4
บทที่ 2 จุ ดกำเนิดรถม้านครลำปาง
รถม้าที่จอดรอรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟนครลำปาง
จุดกําเนิดรถม้าเมืองนครลําปางมีการอธิบายของนักวิชการต่างๆเป็น 4 แนวทาง
1. สมัยเจ้านรนันทไชยชวลิต คาร์ลบล็อกแห่งสวีเดนบันทึกว่า นั่งรถม้าเทียมคู่
สมัยเจ้าหลวงนรนันทไชยชวลิต ขับโดยอุปราชเมืองเมื่อ พ.ศ. 2424 ต่อมาเมื่อ
รถไฟมาถึงนครลําปาง พร้อมขยายโครงการทางหลวงเชื่อมเชียงแสน พ.ศ. 2459
กรมรถไฟจึงได้ระบายรถม้าในกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมการคมนาคมระหว่างสถานี
รถไฟกับทางหลวงในนครลำปาง จนกลายเป็นกิจการรถม้าสาธารณะรับจ้าง
5
บทที่ 2 จุ ดกำเนิดรถม้านครลำปาง (ต่อ)
2. สมัยเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต (พ.ศ. 2400-65) เจ้าผู้ครองนครลําปางคน
สุดท้าย นํารถม้าคันแรกเข้ามาใช้เป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ พ.ศ. 2450 โดยว่าจ้างแขก
ปากีสถานเป็นสารถีและดูแลม้า ต่อมาแขกคนดังกล่าวได้ชักชวนเพื่อนซื้อรถม้า
มาทําเป็นรถม้าแท็กซี่ในลําปาง ภายหลังได้ว่าจ้างชาวบ้านเมืองนครลําปางเป็น
สารถี พร้อมทั้งฝึกสอนให้คนเมืองนครลําปางรู้จักขับรถม้าและเลี้ยงดูม้า ก่อนจะ
ขายกิจการรถม้าให้คนท้องถิ่นเป็นผู้ดําเนินกิจการ
เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต
3. สมัยบริษัทต่างประเทศเข้ามาดําเนินกิจการป่าไม้ ชาวตะวันตกที่เข้ามาดํา
เนินกิจการป่าไม้มีฐานะ เคยชินความสะดวกสบายเป็นวัฒนธรรมของตนเอง จึง
นํารถม้าเข้ามาเป็นพาหนะเพื่ออำนวยความสบายแก่ตนเอง และแสดงความมี
ฐานะทางสังคม ความนิยมนี้ได้ขยายสู่สังคมเจ้านายชั้นสูง และกลุ่มผู้มีอันจะกิน
ในเมืองนครลําปางในระยะต่อมา
6
บทที่ 2 จุ ดกำเนิดรถม้านครลำปาง (ต่อ)
4. สมัยรถไฟมาถึงเมืองนครลําปาง รถม้าลำปางกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับการ
เปิดเดินรถไฟสายเหนือ ถึงสถานีรถไฟนครลําปาง ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 ซึ่ง
ตรงกับยุคสมัยของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิตเป็นผู้ครองนครลําปาง ซึ่งในวันนั้น
ยังมีการเปิดทางหลวงสาย 3 เชื่อมทางรถไฟจากสถานีนครลำปางไปเมือง
เชียงราย เชียงแสน มณฑลพายัพ ซึ่งทำให้เกิดบริการรถม้าสาธารณะ หรือรถม้า
แท็กซี่ รับจ้างบนเส้นดังกล่าว
รถไฟสายเหนือในอดีต
บทที่ 3 รถม้านครลำปางในปัจจุ บัน 7
โดยรถม้าในปัจจุบันนั้น ปัจจุบันรถม้าในจังหวัดลำปางวิ่งพานักท่อง
เที่ยวชมเมือง ซึ่งจะคอยให้บริการสลับสับเปลี่ยนพานักท่องเที่ยวชมเมือง
ทั้งกลางวันและกลางคืน การพัฒนาความเจริญทางด้านเทคโนโลยีตะวัน
ตก ส่งผลให้นครลำปางพบกับความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้านตามลำดับ
ในฐานะของมณฑลพายัพ อันประกอบด้วยนครต่าง ๆ ลำปาง โดยมีการ
พลิกบทบาทจากราชพาหนะชั้นสูงมาสู่วงจรของการท่องเที่ยว ในฐานะ
ของพาหนะสำคัญคู่เมืองลำปางในการต้อนรับคนต่างถิ่น ถือว่ารถม้ามี
บทบาทที่สำคัญมากต่อการคมนาคม การขนส่งการพัฒนาเศรษฐกิจการ
สังคมของจังหวัดลำปาง มายาวนานแล้ว ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการ
ท่องเที่ยว ในจังหวัดลำปาง ในฐานะเมืองรอง ที่ผ่านมารถม้าลำปางยัง
สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับชุมชน และชาวบ้านที่
นำมาออกมาวิ่งบริการนักท่องเที่ยว
8
บทที่ 4 ลักษณะทั่วไปของรถม้า
ลักษณะทั่วไปของรถม้าในนครลำปางนั้นเป็นรถแบบเปิดประทุน ที่
นั่งผู้โดยสารคล้ายคลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อ แต่มีขนาดใหญ่
กว่า อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับ ซึ่งมีระดับสูงกว่าเล็กน้อย
นั่งได้คันละไม่เกิน 4
บทที่ 5 พิพิธภัณฑ์รถม้าฯ 9
ดูแลโดยนายอัครินทร์กล่าว
ว่าว่า ได้ประดิษฐ์รถมามายาวนาน
หลายปีแล้ว โดยตนเองนั้นยังมีการอนุรักษ์ และ พิพิธภัณฑ์รถม้าและ
ยังประกอบรถม้าเพื่อการท่องเที่ยว และรถม้าจำลองต่างๆ ชมการ
ประกอบและการทำรถม้าต่างๆ ซึ่งการประกอบรถม้าต่างๆ โดยจะมี
การทำชิ้นส่วน ต่างๆ กว่าจะได้รถม้าแต่ละคัน ใช้เวลาเป็นเดือน ซึ่งรถ
ม้าแต่ละคันมีอยู่หลายชิ้นส่วน ที่มีการออกแบบขนาดรูปร่าง รถม้า
แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนประกอบของรถม้านั้น ก็จะมีตัวถัง ล้อ หลังคา
แหนบ แม่แรง คานรถม้าต่างๆ ในราคาเริ่มต้นจะเริ่มอยู่ที่ราคา 75,000
บาท จนถึงหลายแสนบาท ซึ่งรถม้าแต่ละคัน ที่ผลิตนั้น มีหลายรูป
แบบและหลายโครงสร้าง ซึ่งหากใครสนใจจะมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถ
ม้า หรือชมกการประกอบรถม้า ก็สามารถเดินทางมาได้ที่ถนนเลียบ
ลำน้ำวังใกล้กับสำนักงานป่าไม้ลำปาง ซึ่งเป็นที่ทำการของสมาคมรถ
ม้าลำปาง
10
บทที่ 6 แหล่งรถม้าที่สำคัญและเส้นทางการท่องเที่ยวโดยรถม้า
แหล่งรถม้าที่สคัญ
1.สถานีรถม้าของจังหวัดลำปางอยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธร อ.เมืองลำปาง
บนถนนบุญวาทย์ ฝั่ งเดียวกับศาลากลางจังหวัดหลังเก่า นอกจากนี้ยังมีสมาคม
รถม้าที่มีสมาชิกรวมแล้วประมาณ 100 กว่าคัน
2.หน้าศาลากลางหลังเก่าบริการระหว่างเวลา 6.00-16.00 น.
3.หน้าโรงแรมทิพย์ช้างลำปาง โรงแรมเวียงลคอร และโรงแรมลำปางเวียง
ทอง บริการระหว่างเวลา 6.00 – 23.00 น.
4.คิวเล็กๆ อยู่หน้าโรงแรมบางโรงแรม และตามสถานที่ท่องเที่ยวในลำปาง
เช่น วัดพระธาตุลำปางหลวง
5.แหล่งรถม้าลำปางที่สำคัญอยู่ที่บ้านเชียงราย หรือบ้านสิงห์ชัย แต่ปัจจุบัน
แหล่งใหญ่อยู่บริเวณบ้านวังหม้อ ตําบลต้นธงชัย อำเภอเมืองลำปาง มีทั้งโรงฝึก
โรงเลี้ยงม้า โรงงานประกอบรถม้าจำหน่าย นอกนั้นก็อยู่กระจัดกระจายตามที่
ต่างๆ บ้านประตูม้า บ้านศรีบุญเรือง บ้านนาก่วมเหนือ-ใต้ ฯลฯ
สถานีรถม้า หน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง
11
บทที่ 6 แหล่งรถม้าที่สำคัญและเส้นทางการท่องเที่ยวโดยรถม้า (ต่อ)
เส้นทางรถม้าลำปาง
1.เส้นทางรอบเมืองเล็ก
ขึ้นที่ศาลากลางเก่ารถจะเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกเข้าถนนทิพย์ช้าง สอง
ข้างถนนจะมีร้านค้าลักษณะเป็นตึกแถวเก่าแนวโบราณ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้า
ถนนบ้านเชียงราย จะมองเห็นแม่น้ำวังไหลขนาบไปกับถนนทาง ด้านขวาผ่าน
ห้าแยกหอนาฬิกาซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง จุดนี้สามารถถ่ายภาพคู่กับ
รถม้าเป็นที่ระลึกได้ จากนั้นรถม้าจะพาเข้าถนนบุญวาทย์ซึ่งเป็นย่านใจกลาง
ธุรกิจการค้า และมาสิ้นสุดตรงจุดเดิมใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ห้าแยกหอนาฬิกา
12
บทที่ 6 แหล่งรถม้าที่สำคัญและเส้นทางการท่องเที่ยวโดยรถม้า (ต่อ)
เส้นทางรถม้าลำปาง
1.2.เส้นทางรอบเมืองใหญ่
ขึ้นที่ศาลากลางเก่าเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางรถม้ารอบเมืองเล็กไปจนถึง สาม
แถยนกนถวังนขนวทิาพเลียย์ชบ้าแงม–่นถ้ำนวันงบผ้่าานนเบช้ีายนงไรม้าเยก่แาชตื่่อไมบ่้เาลนี้ยบวะซเ้กา่ายทไปางหดอ้านนาซฬ้ิากยามืแอต่ผจ่าะนตสรงวนไป
ตาม
สาธารณะเขลางค์นคร เลี้ยวซ้ายข้างสวนมาผ่านย่านตลาดอัศวิน ซึ่งเป็นแหล่งบันเทิง
ยามค่ำคืนที่คึกคักบนถนนท่าคราวน้อย ผ่านห้าแยกหอนาฬิกาเข้าถนนบุญวาทย์สิ้น
สุดทางที่จุดเดิม ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
3.เส้นทางอื่น ๆ
หากเหมาเป็นชั่วโมงสามารถเลือกเส้นทางชมเมืองได้ตามความต้องการ เช่น
ข้ามแม่น้ำวังบนสะพานรัษฎาภิเศก ชมบ้านเสานัก ชมวัดพระแก้วดอนเต้าและวัด
ต่าง ๆ และนมัสการหลวงพ่อเกษม เขมโก ราคา 300 บาท
อีกเส้นทางหนึ่งคือชมย่าน ตลาดจีนบนถนนตลาดเก่า (กาดกองต้า) ซึ่งเป็น
ถนนเศรษฐกิจในอดีตที่ยังคงสภาพอาคารตึกแถวแบบโบราณไว้ทั้งสองข้างทาง
ซึ่งบ้านเก่าหลายหลังมีลวดลายไม้ฉลุที่งดงาม ชมสถานีรถไฟที่เป็นอาคารแบบ
โบราณ แวะถ่ายภาพที่ห้าแยกหอนาฬิกา หรือแวะซื้อผลิตภัณฑ์เซรามิคบริเวณ
หน้าโรงเรียนเทศบาล 4 ที่อยู่ใกล้ๆกับหอนาฬิกา ซึ่งมีให้เลือกหลายร้าน
หลวงพ่อเกษม กาดกองต้า
13
บทที่ 7 งานรถไฟ-รถม้าลำปาง
จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ
เปิดประตูนครแห่งความสุข ต้อนรับประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค เข้า
ร่วมสัมผัสบรรยากาศย้อนยุค “เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา” ในงาน
“วันรำลึกประวัติ ศาสตร์รถไฟ-รถม้าลำปาง”
งาน “วันรำลึกประวัติศาสตร์รถไฟ-รถม้าลำปาง” เป็นงานกิจกรรม
ที่ได้จัดขึ้น เพื่อต้องการให้ประชาชนชาวลำปาง ได้ร่วมกันรำลึกถึง
ความสำคัญของกิจการรถไฟ ที่ได้เปิดเส้นทางรถไฟสายเหนือมาสิ้น
สุดที่ จังหวัดลำปาง เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2459 ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งได้สร้างความ
เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ให้แก่ประชาชนชาวนครลำปาง
มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการผลักดันแผนงานวาระจังหวัดลำปาง ที่
ต้องการจะขับเคลื่ อนให้นครลำปาง ไปสู่การเป็นนครแห่งความสุข
และเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวใหม่ที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะ “ลำปาง…ปลาย
ทางฝัน”
รูปขบวนรถม้า ภายในงานรถไฟ-รถม้าลำปาง
14
บทที่ 7 งานรถไฟ-รถม้าลำปาง (ต่อ)
ซึ่งการจัดงานมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อต้องการให้งาน “วัน
รำลึกประวัติศาสตร์รถไฟ-รถม้าลำปาง” ได้เป็นกิจกรรมในการกระ
ตุ้นภาคการท่องเที่ยว เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับ
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในพื้ นที่ให้เกิดความ
ยั่งยืน ด้วยการอาศัยสถาปัตยกรรมที่มีอยู่ รวมทั้งวัฒนธรรม
และวิถีชีวิตชุมชน อันเป็นอัตลักษณ์ที่ได้รับการสืบทอดต่อกันมา
ยาวนานจากเมื่อครั้งอดีต มาเป็นจุดขายทำการ โปรโมทแหล่ง
ท่องเที่ยวในพื้นที่โดยทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนชาวลำปาง ได้เกิด
ความภาคภูมิใจตระหนักและเห็นคุณค่าในการที่จะดำรง
เอกลักษณ์ประเพณีที่งดงามไว้ และช่วยกันสืบสาน อนุรักษ์ ฟื้ นฟู
นำเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนนักท่องเที่ยวอย่างแพร่
หลาย
15
บทที่ 8 อนาคตรถม้านครลำปาง
รถม้ามีความผูกพันกับชาวลำป
างมายาวนานเป็นร้อยปี หากย้อนกลับ
ไปในอดีต รถม้าเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาเมื่อ
สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงสั่งรถม้าเข้ามาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นรถหลวง แต่
ภายหลังรถยนต์เข้ามามีบทบาท รถม้าจึงถูกกระจายออกจากกรุงเทพฯ
และในช่วง พ.ศ.2458 ได้มีการวางรางรถไฟขึ้นไปจนถึงลำปาง พร้อมบรรทุก
รถม้าขึ้นไปด้วย ทำให้รถม้ามีบทบาทสำคัญในการเป็นยานพาหนะรับส่งผู้
โดยสารจากสถานีรถไฟจังหวัดลำปางเข้าสู่ตัวเมือง
รถม้าคันแรกของลำปางเป็นของ เจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าผู้ครอง
นครลำปาง หลังจากนั้นรถม้าจึงเริ่มมีแพร่หลายทั้งในลำปางและตามเมือง
หลักต่าง ๆ เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญของเทคโนโลยีการคมนาคมทำให้
รถม้าค่อยๆเลือนหายไป เหลือเพียงที่จังหวัดลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้า
เป็นยานพาหนะอยู่ตราบจนถึงทุกวันนี้
16
บทที่ 8 อนาคตรถม้านครลำปาง (ต่อ)
นายอัครินทร์ พิชญกุล นายกสมาคมรถม้าจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ขณะ
นี้หลายฝ่ายวิตกกันว่าในอนาคตจะไม่มีรถม้าวิ่งใน จ.ลำปาง อีกต่อไป เพราะ
รถม้าที่วิ่งทุกวันนี้มีคนรุ่นปู่รุ่นพ่อเป็นสารถี ส่วนรุ่นลูกไม่สานต่อ อ้างว่า
เป็นงานหนัก พากันไปทำงานบนห้างฯกันหมดทุกวันนี้มีบริษัททัวร์ใน
ประเทศ และต่างประเทศ เช่น ทัวร์จีน ทัวร์ยุโรป-ญี่ปุ่น ซื้อแพ็กเกจทัวร์มา
เที่ยวและนั่งรถม้า เป็นการต่อลมหายใจให้กับคนทำอาชีพรถม้าที่ยังเหลือ
อยู่
หากมองเผินๆ เหมือนไม่มีคนขึ้นรถม้า ยอมรับว่าคนลำปางไม่ขึ้นรถม้า
เลย คนที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติและคนต่างจังหวัด สาเหตุที่
ทำให้คนลำปางไม่ขึ้นรถม้าเพราะเขาคงจะเห็นรถม้าทุกวันจนชินตาในขณะ
ที่นักท่องเที่ยวมองว่าเป็นเมืองพิเศษ มีรถม้าโบราณวิ่งอยู่ หากมาลำปาง
ไม่ได้ขึ้นรถม้าก็เหมือนมาไม่ถึงลำปาง ในอนาคตเป็นไปได้สูงว่า หากหมด
ยุคคนรุ่นเก่า รถม้าอาจจะสูญพันธุ์ หรือเหลือเพียงตำนาน หากลูกหลาน
คนขับรถม้าไม่สืบทอดอาชีพสารถีขับรถม้า เพราะทุกคนมุ่งอาชีพรับ
ราชการและทำงานในห้างฯ คนขับรถม้าต้องเอาใจมารวมกับม้า คือใจคน
กับใจม้าต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่เหมือนเครื่องยนต์ คนรุ่นใหม่ต้องศึกษา
อีกมากมาย
17
บทที่ 8 อนาคตรถม้านครลำปาง (ต่อ)
นายณรงค์ชัย ชัยรุ่งเรือง อายุ 61 ปี หนึ่งในสารถีรถม้าที่ยังคงยึดอาชีพขับ
รถม้าอยู่ในปัจจุบัน เล่าว่า ขับรถม้ามานานกว่า 40 ปี ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วง
เพราะโอกาสรถม้าลำปางจะสูญพันธุ์มีสูงมาก ปัจจัยแรกคือคนรุ่นลูกรุ่น
หลานไม่สืบทอดอาชีพนี้ บวกกับความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ “เมื่อ
40 ปีก่อน ผมมีรายได้จากการตระเวนขับรถม้า สามารถส่งลูกเรียนจบ
ปริญญาได้ มาวันนี้บางวันไม่มีคนมาขึ้นรถม้าเลย รอมีเพียงทัวร์มาลง
เท่านั้น ประกอบกับสมาคมรถม้าลำปางไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ
ต้องดูแลกันเอง ช่วยเหลือกันเอง วันนี้ยังไม่ถึงนับถอยหลัง แต่วันนั้น
ต้องมาถึงแน่นอน นครลำปางจะเหลือเพียงตำนานเล่าขานว่าในอดีตเป็น
เมืองรถม้าเท่านั้น” นายณรงค์ชัย กล่าวด้วยความเป็นห่วง
ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของคนรุ่นเก่าที่มีความผูกพันต่ออาชีพรถม้า
มาอย่างยาวนาน หากคนรุ่นหลังไม่สานต่อและหน่วยงานของรัฐไม่ยื่นมือ
เข้าไปดูแลสนับสนุน
18
บ ท ส รุ ป
ร ถ ม้ า . . . ถื อ เ ป็ น เ อ ก ลั ก ษ ณ์ สำ คั ญ ข อ ง จั ง ห วั ด ลำ ป า ง ที่ ผู้ ค น นึ ก ถึ ง เ ป็ น
อันดับต้นๆ เพราะเป็นเพียงจังหวัดเดียวในเมืองไทยที่ยังคงใช้รถม้า
เป็นพาหนะในการเดินทาง ถึงขนาดมีคำกล่าวกันว่า “หากใครมาเที่ยว
เมืองลำปางแล้ว ไม่ได้นั่งรถม้าถือว่ายังมาไม่ถึงลำปาง”
ฉะนั้นแล้ว “รถม้า” จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำบ้านเมืองของจังหวัด
ลำปาง ที่นักท่องส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวนั้นต้องได้นั่งรถม้าชมบ้านเมือง
ของจังหวัดลำปางที่ให้บรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวายวิถีชีวิตของ
ชาวลำปางที่มีความเรียบง่าย เที่ยวชมโดยการนั่งรถม้าชมเมืองพร้อม
เสียงของเกือกม้าที่ดังเป็นจังหวะของการวิ่งของม้า เสพบรรยากาศ
ย้อนยุคจึงทำให้เห็นว่า รถม้า ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ดี
งามของนครลำปาง ไม่ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่ารถม้ามี
ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในอดีตมีความสำคัญด้านการใช้เป็นยาน
พาหนะให้กับเจ้าเมืองหรือเจ้านครต่าง ๆแต่ในปัจจุบันนั้นมีความแตก
ต่างออกไป คือมีความสำคัญต่อการการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดัง
นั้ น จึ ง ทำ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า ร ถ ม้ า น ค ร ลำ ป า ง มี ค ว า ม สำ คั ญ ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น อ อ ก ไ ป
ตามช่วงเวลาการอนุรักษ์รถม้าในนครลำปางจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่า
ณ ปัจจุบันนี้ หรือในอนาคตข้างหน้ารถม้าก็จะยังคงมีความสำคัญต่อ
นครลำปาง และเป็นเอกลักษณ์ให้กับนครลำปางสืบไปนั่นเอง
19
รูปรถม้าลำปางในอดีต
รูปรถม้าลำปาง ในปัจจุบัน
20
คำ ถ า ม ช ว น คิ ด
1.นักเรียนเคยขึ้นรถม้าหรือไม่ หากเคยนักเรียนรู้สึกอย่างไร และนักเรียนที่
ไม่เคยขึ้นรถม้า อยากขึ้นรถม้าหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.รถม้าเข้ามาในจังหวัดลำปางได้อย่างไร
2.นักเรียนคิดว่ารถม้ามีความสำคัญอย่างไรกับจังหวัดลำปาง
3.นักเรียนอยากให้รถม้าอยู่คู่ลำปางต่อไปหรือไม่ เพราะเหตุใด
4.นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์รถม้าได้อย่างไร
21
บรรณานุกรม
ชัยวัฒน์ ศุภดิลกลักษณ์. (2562). “รถไฟ รถม้า รัษฎา นาฬิกา” ใน, 2 ฟากแม่วัง
2 ฝั่ งนครลำปาง, เทศบาลนครลำปาง, ศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัย
สุโขทัยธรรมาธิราช ลำปาง.
เชียงใหม่นิวส์. (2562).เปิดแล้วงาน “วันรำลึกประวัติศาสตร์รถไฟ-รถม้า
ลำปาง”. สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64. แหล่งที่มา
HTTPS://WWW.CHIANGMAINEWS.CO.TH
ทูเดย์. (2562). ชมพิพิธภัณฑ์รถม้าฯ พาหนะที่อยู่คู่เมืองลำปาง มากว่า 103 ปี.
สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64. แหล่งที่มา HTTPS://WORKPOINTTODAY.COM
นิตยสารท่องเที่ยวออนไลน์. (2561). รถม้าลำปาง ราคา จุ ดขึ้นรถม้า.
สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64. แหล่งที่มา
HTTPS://WWW.EMAGTRAVEL.COM/ABOUT-US
ไทยรัฐออนไลน์. (2562). ห่วง "รถม้าเมืองลำปาง" อนาคตเหลือแค่ตำนาน.
สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64. แหล่งที่มา HTTPS://WWW.THAIRATH.CO.TH
มิวเซียมไทยแลนด์. (2558). รถม้าแห่งนครลำปางเสพศิลป์กลิ่นอายนคร
ลำปางด้วยรถม้าคู่กาย. สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64. แหล่งที่มา
HTTPS://WWW.MUSEUMTHAILAND.COM
เรื่องเล่าชาวล้านนา.(2561).ประวัติศาสตร์. สืบค้นเมื่ อ 12 กันยายน 64.
แหล่งที่มา HTTPS://WWW.FACEBOOK.COM