สรรพคุณและประโยชน์ ของชะอม ห้องสมุดประชาชนอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดนราธิวาส
ชะอม สรรพคุณและประโยชน์ของชะอม 9 ข้อ ! โดย เมดไทย ปรับปรุงเมื่อ 14 กรกฎาคม 2020 (เวลา 12:20 น.) ชะอม ชะอม ชื่อสามัญ Climbing wattle, Acacia, Cha-om ชะอม ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia pennata (L.) Willd. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ ในวงศ์ย่อยสีเสียด (MIMOSOIDEAE หรือ MIMOSACEAE) ผักชะอม มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น ผักหละ (ภาคเหนือ), อม (ภาคใต้), ผักขา (ภาคอีสาน อุดรธานี), พูซูเด๊าะ (แม่ฮ่องสอน), โพซุยโดะ (กะเหรี่ยง) เป็นต้น ลักษณะของชะอม ต้นชะอม เป็นไม้พุ่มขนาดย่อม มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ลำต้นและกิ่งก้านจะมีหนาม แหลม ส่วนลักษณะของใบชะอมเป็นใบประกอบสีเขียวขนาดเล็ก มีก้านใบย่อยแตกออกจากแกนกลางใบ มีลักษณะคล้ายกับ ใบส้มป่อยหรือใบกระถิน ใบอ่อนจะมีกลิ่นฉุน ใบย่อยมีขนาดเล็กออกตรงข้ามกัน คล้ายรูปรีประมาณ 13-28 คู่ ปลายใบ แหลมขอบใบเรียบ ใบย่อยจะหุบในเวลาเย็น และแผ่ออกเพื่อรับแสงในช่วงกลางวัน ส่วนดอกชะอม มีขนาดเล็กออกตามซอก ใบ มีสีขาวถึงขาวนวล วิธีการปลูกชะอม ปลูกโดย การปักชำ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง หรือการโน้มกิ่งลงดิน โดยไม่ต้องต่อตาหรือชำกิ่ง การปลูกผักชะอมส่วนมากจะใช้วิธีการเพาะเมล็ด เพราะจะได้ต้นที่แข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม มีหนามหนากว่าการ ปลูกด้วยวิธีอื่น การปลูกชะอม ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยนำมาเมล็ดชะอมมาใส่ถุงพลาสติก รดน้ำวันละครั้ง เมื่อเมล็ดงอกก็ให้ทำ การย้ายลงดิน โดยปลูกห่างกันประมาณ 1 เมตร และให้ปุ๋ยสดหรือมูลสัตว์ในการบำรุงต้น ถ้าปลูกในฤดูร้อนแล้วหมั่นรดน้ำจะ
เจริญเติบโตได้ดีกว่าการปลูกในฤดูฝน เพราะเมล็ดชะอมมีโอกาสเน่าได้สูง ผักชะอม ปกติแล้วจะไม่ค่อยมีโรคและแมลงศัตรูพืช มารบกวนเท่าไหร่ หากพบก็ใช้ปูนขาวโรยไว้รอบโคนต้น แต่ถ้าเป็นแมลงมีหนอนกินยอดชะอมก็ให้ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดทุก ๆ 8 วัน การเก็บยอดชะอม ควรเก็บให้เลือกยอดไว้ 3-4 ยอดเพื่อให้ต้นได้โต เพื่อความปลอดภัยควรเก็บหลังจากการฉีดยาฆ่าแมลง แล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน และสามารถเก็บเกี่ยวจากต้นที่ปลูกกิ่งตอนได้ 10-15 วัน และตัดยอดขายได้ทุก ๆ 2 วัน สรรพคุณของชะอม • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง • ยอดชะอมช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ • ผักรสมันอย่างชะอมมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ • ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก • รากชะอมนำมาฝนกินช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และช่วยขับลมในลำไส้ • มีส่วนช่วยบำรุงเส้นเอ็น • ช่วยแก้อาการลิ้นอักเสบเป็นผื่นแดง ประโยชน์ของชะอม • ประโยชน์ของชะอม ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย แตกปลาย ด้วยสูตรน้ำชะอมหมักผม เพียงแค่นำใบชะอมประมาณ 1 กำ มือมาต้มกับน้ำเปล่า 3 ถ้วย จนได้น้ำชะอมเข้มข้น กรองเอาแต่น้ำ เมื่อสระผมเสร็จให้นำผ้าขนหนูมาชุบน้ำชะอมที่ เตรียมไว้ บิดพอหมาด นำมาเช็ดผมให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยทำให้ผมแห้ง ๆ กลับมามี ชีวิตชีวาอีกครั้ง • ชะอม ประโยชน์นำมาทำเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายเมนู เมนูชะอม เช่น ไข่ชะอม ไข่ทอดชะอม ชะอมชุบไข่ แกง ส้มชะอมกุ้ง แกงส้มชะอมไข่ นำมาลวกหรือนึ่งใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก น้ำพริกกะปิ รับประทานร่วมกับส้มตำมะม่วง ตำส้มโอ หรือจะนำไปปรุงเป็นแกงรวมกับปลา เนื้อ ไก่ กบ เขียด หรือต้มเป็นอ่อม ทำแกงลาว แกงแค เป็นต้น คุณค่าทางโภชนาการของยอดชะอม 100 กรัม • พลังงาน 57 กิโลแคลอรี • เส้นใยอาหาร 5.7 กรัม • ธาตุแคลเซียม 58 มิลลิกรัม • ธาตุฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม
• ธาตุเหล็ก 4.1 มิลลิกรัม • วิตามินเอ 10066 IU • วิตามินบี 1 0.05 มิลลิกรัม • วิตามินบี 2 0.25 มิลลิกรัม • วิตามินบี 3 1.5 มิลลิกรัม • วิตามินซี 58 มิลลิกรัม โทษของชะอม • สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งมีบุตรอ่อน ไม่ควรรับประทานผักชะอม เพราะจะทำให้น้ำนมแม่แห้งได้ • ผักชะอม สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน จะแพ้กลิ่นของผักชนิดนี้อย่างมาก ดังนั้นควรอยู่ห่าง ๆ • การรับประทานผักชะอมในหน้าฝน อาจจะมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุน บางครั้งอาจทำให้มีอาการปวดท้องได้ (ปกตินิยม รับประทานผักชะอมหน้าร้อน) • กรดยูริกเป็นตัวการที่ทำให้เกิดข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์ ซึ่งเกิดมาจากสารพิวรีน (Purine) โดยผักชะอมนั้นก็มีสา รพิวรีนในระดับปานกลางถึงระดับสูง ผู้ป่วยโรคเกาต์สามารถรับประทานได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด หากเป็นมากก็ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้ปวดกระดูกได้ • อาจพบเชื้อก่อโรคอย่างซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถพบได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ อากาศ เมื่อเรานำผักชะอมที่ปนเปื้อนสารชนิดนี้มาประกอบอาหารโดยไม่ล้างทำความสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หรือไม่ นำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อชนิดนี้ได้ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อชนิดอาจจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำสีเขียว หรือถ่ายเป็นมูกมีเลือดปน มีไข้ เป็นต้น แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์เดออะแดนดอตคอม, สถาบันการแพทย์แผนไทย, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), สำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ภาพประกอบ : เว็บไซต์pantip.com (by Lifeguard), www.khlung.chanthaburi.doae.go.th เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai) เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่ และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด Tag: FABACEAE, LEGUMINOSAE, MIMOSACEAE, MIMOSOIDEAE หน้าแรก / ผัก (Vegetable) / ชะอม Disclaimer: เนื้อหาในเว็บไซต์มีไว้เพื่อการศึกษาและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หรือใช้แทน คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาแต่อย่างใด ทางเว็บไซต์ไม่มีคำตอบสำหรับปัญหาทั้งหมด คำตอบ สำหรับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงอาจใช้ไม่ได้กับทุกคน หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบายควรปรึกษาแพทย์ สำหรับ ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดอ่านเงื่อนไขการใช้งานของเรา © 2023 Medthai. All rights reserved. Load More ข้อมูลอ้างอิง (Source) : https://medthai.com/%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A1/ | Medthai
ห้องสมุดประชาชนอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดนราธิวาส