โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์งานกลุ่ม

คำนำ

ตามพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 80 บัญญตั ิ ให้มีการ
พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่งและบางวิทยฐานะ
เพอ่ื เพิ่มพนู ความรู้ ทักษะ เจตคตทิ ่ดี ี คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ที่เหมาะสมในอันทจ่ี ะทำให้

การปฏิบตั ิหน้าท่ีราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ลและความก้าวหนา้ แก่ทางราชการ สำนกั งานเขต
พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 เป็นหน่วยงานท่ีได้รับมอบหมายให้ดำเนินการพัฒนาบุคลากร
ดังกล่าวได้กำหนดให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองตามหมวดการเรียนรู้และสรุปเป็นองค์ความรู้
ซึ่งข้าพเจ้าได้คน้ คว้าสรปุ เป็นองคค์ วามรู้ในการเรียนรู้ใสภาพจรงิ ณ โรงเรียนทงุ่ หว้าวรวิทย์ เพ่ือนำเสนอและเป็น
ประโยชน์แกบ่ คุ คลท่สี นใจตอ่ ไป

นายภรู ิพฒั น์ ยานา

สารบญั

เรื่อง หนา้

คำนำ 1
สารบญั 2
ขอ้ มลู ท่ัวไป 9
12
- การบรหิ ารวชิ าการ 14
- การบรหิ ารงบประมาณ 16
20
- การบรหิ ารงานบคุ คล
- การบรหิ ารงานทั่วไป
- การบริหารงานกิจการนกั เรียน

ภาคผนวก

หน้าท่ี 1

ขอ้ มลู ทว่ั ไปโรงเรียนทงุ่ หวา้ วรวิทย์

ชื่อ สถานศึกษา โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ ที่ตั้งเลขที่ 48 หมู่ที่ 4 ถนน ตรัง – สตูล ตำบลป่าแก่บ่หิน
อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตลู รหัสไปรษณีย์ ๙๑๑๒๐ โทรศพั ท์ ๐๗๔-๗๕๐๗๒๗ โทรสาร : ๐๗๔-๗๕๐๗๒๗
e-mail : [email protected] website :www.tww.ac.th สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา
เขต ๑๖

เริ่มเปิดทำการสอนคร้ังแรกท่ีโรงเรียนอนุบาลทุ่งหว้าวันที่19 มิถุนายน พ.ศ.2518 เนื่องจากท่ีโรงเรียน
ทงุ่ หว้าวรวิทย์กำลังดำเนินการกอ่ สร้างอาคารเรียน ปัจจบุ ันโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ทำการเปิดสอนต้ังแต่ระดบั ชั้น
มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ถงึ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๖

มีเนื้อท่ี ๕๗.๑ ไร่ มีเขตพนื้ ทีบ่ ริการ ๓ ตำบล หม่ทู ่ี ๑-๗ ตำบลปา่ แก่บ่อหิน , หม่ทู ี่ ๑-๑๐ ตำบลทงุ่ หว้า
หมูท่ ่ี ๑-๒ ตำบลนาทอน

ประวัติโรงเรียนโดยย่อ

“ทงุ่ หว้าวรวิทย์”เกิดจากความคิดริเรมิ่ ของประชาชนทงุ่ หวา้ กลุ่มหนึง่ ที่เห็นคุณคา่ ของการศึกษา เห็นว่า
ทุ่งหว้ายังไม่มีโรงเรียนมัธยมศึกษา บุตรหลานชาวทุ่งหว้าจะเล่าเรียนสูงกว่าภาคบังคับต้องไปศึกษาท่ีโรงเรียน
กำแพงวิทยา อำเภอละงู หรอื โรงเรียนสตูลวิทยา จังหวดั สตูล จึงได้เริ่มดำเนินการขอจัดต้งั โรงเรยี มัธยมศึกษาขึ้น
ในอำเภอทงุ่ หวา้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๗โดยมี ร.ต.เอ้ือน ภาระบุญ หัวหน้าก่ิงอำเภอทุง่ หวา้ ในขณะนนั้ ผทู้ ีเ่ ปน็ หัว
เร่ยี วหัวแรงในการจดั หาทดี่ ินเพอื่ เปน็ ท่ตี ้ังโรงเรียนกค็ อื นายค้าย หล่อสุพรรณ-พร กำนันตำบลทุ่งหว้า นายเสยี ง
สินวรพันธ์ุ หัวหน้าการประถมศึกษาก่ิงอำเภอทุ่งหว้ นายชนิตย์ สินจรูญ- ศักดิ์ ผู้ช่วยศึกษาธิการ ก่ิงอำเภอ
ทุ่งหว้า ทา่ นทัง้ สามเป็นผูไ้ ปเจรจาขอท่ดี ินจากชาวบา้ นท่ีมีที่ดนิ บริเวณท่ตี ัง้ โรงเรยี น ในปัจจุบัน

แผนท่โี รงเรยี นทงุ่ หว้าวรวิทย์

หน้าท่ี 2

1. การบรหิ ารวิชาการ

หนา้ ท่ี 3

1. กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ
- งานสารบรรณ และงานสำนักงาน
- งานทะเบยี นนกั เรียน
- งานวดั ผลและประเมินผล
- งานจัดการและพัฒนากระบวนการเรยี นรู้
- งานพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาและหลักสตู รพิเศษ

2. กล่มุ งานนเิ ทศและประกนั คณุ ภาพ
- งานระบบประกนั คุณภาพ
- งานวจิ ยั และนิเทศการสอน
- งานพฒั นาคุณภาพวิชาการ
- งานส่อื นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษา
- งานพัฒนาแหล่งเรียนรู้

3. กลมุ่ งานส่งเสริมวชิ าการ
- งานการศึกษาพเิ ศษ
- ศนู ยก์ ารเรยี นร้อู ทุ ยานธรณี ( Geopark)

1. งานสารบรรณ และงานสำนกั งาน
ขอบเขตการปฏิบัตงิ าน

1. รบั ดำเนินการและจดั เก็บหนังสอื ราชการบันทึกขอ้ ความฯลฯทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั กลุ่มบรหิ ารวิชาการท่ี
ดำเนินการเรยี บรอ้ ยแล้วให้เป็นหมวดหมู่สะดวกในการค้นหา

2. ประสานงานกบั บคุ คลหรอื ผู้เกีย่ วขอ้ งใหด้ ำเนนิ การหรือปฏิบัติตามที่ได้รบั มอบหมาย
3. ดแู ลสำนักงานกลุ่มบรหิ ารวิชาการ และตอ้ นรับใหบ้ รกิ ารแกผ่ ้มู าตดิ ตอ่ ราชการ
4. ประสานติดตาม และรายงานผลเก่ยี วกบั งานที่ได้รบั มอบหมาย
ฝา่ ยวิชากรไดพ้ ฒั นาและนําเทคโนโลยีมาใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน เช่น
- ระบบสาํ นักงานอิเลก็ ทรอนกิ ส์ในโรงเรยี น (E-Office)
- การใช้ Google sheet สำหรบั การจัดทำทะเบียนหนงั สือสง่ ทะเบยี นคำสง่ั
- การใช้ Google drive และ gmail ในการรบั ส่ง คำส่งั และแจ้งขอ้ มลู ของโรงเรยี น
- การใชแ้ อพลิเคชนั line โดยสร้างกลมุ่ ไลน์ในแจ้งขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรียน

2. งานทะเบยี นนกั เรยี น
ขอบเขตการปฏิบตั ิงาน

การรับนักเรียน การทำประวัตินักเรียน การลงทะเบียนเรียน การจัดทำเอกสารหลักฐานการเรียน
การออกเอกสารหลักฐานการเรียน การเทียบโอนผลการเรียน การตรวจสอบและรับรองคุณวุฒิทางการเรียน
การจัดทำรายงานผลการเรยี น เพือ่ ให้บรกิ ารแกผ่ ู้ที่กำลังศึกษาและสำเรจ็ การศกึ ษาไปแล้ว

หน้าท่ี 4

3. งานวดั ผลและประเมนิ ผล
ขอบเขตการปฏบิ ตั งิ าน
1. จดั ทำแนวปฏิบัติเกย่ี วกับการวัดผล และประเมนิ ผล และกำกบั ติดตามใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บ
2. สง่ เสรมิ ให้ครูจดั ทำแผนการวดั ผลแต่ละรายวชิ า เทียบโอนผลการเรยี นจากสถานศกึ ษาอื่น
3. พัฒนาเครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผลให้ได้มาตรฐาน
4. เสนอแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องของ ปพ.๕-ต/ป
5. สำรวจนักเรยี นทไ่ี มม่ สี ิทธสิ อบ จดั ตารางสอบกลางภาค และปลายภาค รายงานผลการสอบปลายภาค

ปลายปี “สรุปผลการเรียน ๐”แต่ละรายวชิ า เสนอผู้อำนวยการเพือ่ อนมุ ัติ และประกาศแจ้งใหน้ ักเรียน ผู้ปกครอง
ทราบ

6. ติดตามนักเรยี นท่มี ีผลการเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ จดั ทำสถิติผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของแตล่ ะกลุม่ สาระ
การเรียนร้เู ป็นภาพรวมของโรงเรยี น

7. สรปุ รายงานผลการเรียน GPA & PR ใช้ระบบทะเบยี นวัดผล SGS ซงึ่ นักเรียนและผู้ปกครองสามารถ
เปิดดูผลการเรียนไดด้ ว้ ยตนเอง https://sgs.boppobec.info/menu/tblNews/ShowTblNewsTable.aspx
4. งานจัดการและพฒั นากระบวนการเรียนรู้
ขอบเขตการปฏิบตั งิ าน
1. บริหารจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับโครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา
2. สง่ เสรมิ ใหค้ รูจัดทำแผนการเรียนรู้ ตดิ ตามการเรียนการสอนและสรุปข้อมูลการเรียนการสอน
3. สง่ เสริมใหม้ ีการพัฒนาครู โดยการจดั ฝึกอบรมตา่ งๆ
4.ดำเนินการจดั ตารางสอน แต่งต้งั ครูผูส้ อนตามตารางสอน และ สรุปรายงานผลการดำเนินงานเมอื่ ส้นิ ภาคเรยี น
5. การพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาและหลักสูตรพิเศษ
ขอบเขตการปฏิบตั งิ าน

จัดทำหลักสูตรสถานศกึ ษา โครงสรา้ งหลกั สูตรสอดคล้องกับหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) กำกับ ดูแล การนำหลกั สตู รสถานศกึ ษาไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน จดั ทำ
แผนนเิ ทศ ติดตาม และประเมินการใช้หลักสตู ร ปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสตู รตามความเหมาะสม ส่งเสริมและ
ประสานงานการศกึ ษาในระบบนอกระบบ และตามอธั ยาศัย

โรงเรียนพัฒนานวัตกรรมหลักสูตรท้องถ่ินสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม“อุทธยานธรณี (SatunGeopark)”
เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้บูรณาการอุทยานธรณีสตูล สำหรับนักเรียนทุกระดับชั้นจึงได้รับรางวัล นวัตกรรม
หลักสูตรหลักสูตรท้องถ่ินสาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม “อุทธยานธรณี (Satun Geopark) ได้รับรางวัล ผลงานหนึ่ง
โรงเรยี นหนึ่งนวัตกรรมประจำปี 2563 “ระดับประเทศ” รางวลั ระดับเหรยี ญทอง เร่ืองการพัฒนาหลกั สูตรท้องถ่ิน
สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม “อุทธยานธรณี (Satun Geopark)” โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์จากคุรุสภาและ โรงเรียน
ไดร้ บั การคัดเลอื กเปน็ “โรงเรยี นอุทยานธรณีแหง่ แรกในประเทศไทย”

หนา้ ท่ี 5

5. งานระบบประกนั คณุ ภาพ
ขอบเขตการปฏบิ ัติงาน
1. วางแผน กำกบั ติดตาม ส่งเสริมสนับสนนุ การจดั การเรียนการสอนให้เปน็ ไปตามมาตรฐานการศกึ ษา

ของชาติ
2. จดั ทำการประเมนิ ทบทวนการประกันคุณภาพการศกึ ษาของทกุ ปีการศึกษา
3. ประเมินและจดั ทำเอกสารรายงานการประเมนิ ตนเองประจำปี
4. ใหข้ ้อเสนอแนะในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนตามผลการประเมิน
5. ปรับปรงุ และพัฒนาเกณฑค์ ุณภาพการศกึ ษาโรงเรยี น
6. จัดทำมาตรฐานการจัดการศึกษาของโรงเรยี น

6. งานวิจัย และนเิ ทศการสอน

ขอบเขตการปฏบิ ัติงาน
1. ส่งเสรมิ ให้ครูมคี วามรูใ้ นการวเิ คราะห์ วิจยั เพ่ือพฒั นาการเรยี นรู้ของผ้เู รียน
2. จดั ให้ครูนำความรู้ไปดำเนินการวิเคราะห์ วจิ ยั
3. นำผลการวิเคราะห์ วิจยั ไปใช้ในการพฒั นาการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน
4. ประเมินผลการดำเนนิ การในการนำผลการวเิ คราะห์ วจิ ัยไปใชใ้ นการพฒั นาการเรยี นรู้
5. เผยแพร่ผลการวิเคราะห์ วิจยั ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรยี น

ผลงานวิจยั ของครผู ูส้ อนที่ไดร้ ับรางวลั เช่น
- การพัฒนาชุดกจิ กรรมการอา่ นจบั ใจความ โดยใช้เทคนคิ 5W1H เพ่ือส่งเสรมิ การ

อา่ น สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
- การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรสั โดย

รปู แบบการจดั การเรียนรู้แบบซิปปา ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2
- การพฒั นาทกั ษะ เรอื่ ง ฟังกช์ ันเอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟังกช์ ันลอการิทมึ โดยการ

จดั การเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) สำหรบั นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4
- การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นรายวิชาเคมี 4 (ว30224) เรอ่ื งไฟฟา้ เคมโี ดยใช้

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรสู้ ำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6
- การพฒั นาบทเรียนออนไลนเ์ รื่องคลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ รายวิชาฟิสกิ ส์ 4 สำหรับ

นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
- บุคลากรในโรงเรียน เข้าร่วมนำเสนอและแลกเปล่ียนเรียนรู้การขยายผลรูปแบบ แนวทางการนิเทศ

ติดตามและประเมนิ ผล การบริหารจัดการด้วยกระบวนการ coaching ระดับภาค ในกิจกรรม “รวมพลังน้อมนำ
พระราโชบาย ยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างเสริมความเป็นพลเมืองดี” ภายใต้โครงการ Coaching Teams
เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2563 จัดโดยศึกษาธิการภาค 6 สำนักงานปลัดกระทรวง
ศกึ ษาธิการ

หน้าที่ 6

7. งานพัฒนาคุณภาพวชิ าการ
ขอบขา่ ย

1. ประสานความร่วมมือ ช่วยเหลือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาของรัฐ เอกชนและองค์กรปกครอง
ส่วนทอ้ งถิน่

2. ส่งเสริมความรู้ เสริมสร้างความคิด และเทคนิค ทกั ษะทางวิชาการ ใหป้ ระชาชนในชุมชนท้องถ่ินได้มีส่วน
รว่ มในกจิ กรรมให้มีการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ประสบการณร์ ะหวา่ งบุคคล
3. สนับสนุนการพัฒนาวิชาการ และคุณภาพการเรียนรู้ตามระบบประกันคุณภาพการศึกษาสร้างเครือข่ายความ
รว่ มมอื ในการพัฒนาวิชาการกบั องค์กรตา่ ง ๆ

โรงเรียนมีการเชิญผู้ปกครองนักเรียน ร่วมประชุมอย่างน้อยปีละ 4 คร้ัง และจัดประชุมคณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เครือข่ายผู้ปกครอง ผู้นำ/ผู้แทนชุมชน อย่างน้อยปีละ 8 ครั้ง เพ่ือร่วมวางแผน ให้
คำปรึกษาในการพัฒนาหลักสูตรและจดั การเรยี นรู้ โดยดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
เพื่อกำหนดนโยบายโรงเรียน ร่วมวางแผนการรับนักเรียน การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีของโรงเรียนและ
พิจารณาอนมุ ัติ จัดให้มีผู้ปกครองเครือข่ายทุกระดับชั้น เพือ่ ความร่วมมอื ในการกำกับดแู ลนกั เรียนและร่วมกันจัด
กิจกรรมเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอน ชุมชนและผู้ปกครอง สละเวลาร่วมเป็นวิทยากรท้องถ่ิน ช่วยสอนวิชาการ
งานอาชีพ เช่น 27 โครงการ การทำขนมไทย การทำผ้ามัดย้อม การซ่อมรถมอเตอร์ไซด์ การสานเชอื กพลาสติก
การร้อยลูกปัด ชุดมโนราห์ การนวดแผนไทย วิชาดนตรนี าฏศิลป์ เช่น การรำมโนราห์ การเล่นเคร่ืองดนตรีสำหรับ
การรำมโนราห์ ทำให้เกิดผลดี สามารถนำผลมาพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ใน
ชมุ ชนและดำเนนิ กิจกรรมอื่น ๆ ตามโครงการ เช่น บันทกึ ข้อตกลงความรว่ มมือเครือข่ายการศกึ ษาในพื้นท่อี ทุ ยาน
ธรณีโลก สตูลของยูเนสโก เพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ัน ยังได้จัดทำกิจกรรม บ้าน วัด
โรงเรียน ในการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรมนกั เรียนด้วยการจดั กิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ เช่น กิจกรรมรักษ์บ้านเกิด
กจิ กรรมรักษ์อันดามัน กจิ กรรมปันรักปันใจ เป็นต้น และเชิญวทิ ยากรท้องถิ่นมาให้ความรู้แกน่ ักเรียน ได้แก่ การ
รำมโนราห์ การเลน่ เคร่ืองดนตรสี ำหรับการรำมโนราห์ การทำผ้ามัดยอ้ ม การสานเชอื กพลาสติก การร้อยลูกปัดชุด
มโนราห์การนวดแผนไทย เป็นตน้
8. งานสื่อนวตั กรรมเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
ขอบเขตการปฏิบตั งิ าน

วางแผนพัฒนาและปฏบิ ตั กิ ารเกย่ี วกับการดำเนนิ งานของงานเทคโนโลยแี ละออกแบ ระบบเครอื ขา่ ย
คอมพิวเตอรข์ องโรงเรยี นศกึ ษาวิเคราะห์ความจำเป็นในการใช้สื่อเทคโนโลยีสง่ เสรมิ และพฒั นาครใู หม้ ีความรู้
ความสามารถในการใช้การผลติ ส่อื การพัฒนาสอ่ื นวัตกรรมการเรยี นการสอนจัดหาพัฒนาการใชส้ อื่ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยีสำรองขอ้ มูล (Backup) ตรวจสอบสภาพเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ (Server) ภายในระบบประเมนิ ผลการ
พัฒนาการใชส้ อ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา

- โรงเรียนมีการส่งเสริม พัฒนาการใช้สื่อเทคโนโลยีแก่ครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง เช่นสนับสนุนให้ครูเข้ารับ
การอบรมกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ เกย่ี วกับการพฒั นาส่อื เทคโนโลยี เช่น Googleapp, EDUdigital2018 เป็นตน้

- โรงเรยี นจดั อบรมให้กับคณะครู เกี่ยวกบั การใช้สื่อและเทคโนโลยใี นการจัดการเรยี น
การสอน เช่น การจัดทําเว็บไซต์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การใชโ้ ปรแกรมตัดต่อวีดีโอเพ่ือพัฒนาการเรียน
การสอน การอบรมครูเก่ยี วกับการใช้งาน Google classroom
- ส่งเสริมให้คณะครใู ชเ้ ครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Line ในการจัดการเรยี นการสอน

หนา้ ท่ี 7

3. การพฒั นาแหล่งเรียนรู้
ขอบเขตการปฏิบตั ิงาน
- สำรวจแหล่งเรยี นรูท้ ่ีเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน ท้องถ่ิน ในเขตพ้ืนที่

การศึกษา และเขตพ้ืนท่ีการศึกษาใกล้เคียงจัดทำเอกสารเผยแพร่แหล่งการเรียนรู้จัดตั้งและพัฒนาแหล่งเรียนรู้

สง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหค้ รใู ช้แหล่งเรยี นรทู้ ง้ั ในและนอกโรงเรียน

อีกหนึ่งมิติสำคัญของ 5G model ที่โรงเรียนมุ่งเน้นในการพัฒนา ก็คือ Good Environments:ส่งเสริม
และ พัฒนาบรรยากาศและส่ิงแวดล้อม หรือสภาพการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ท่ีมี อิทธิพลต่อการเรียนรู้ เพ่ือเป็นส่วน
สนับสนุนให้เกิด Good Knowledge :กระบวนการสร้างองค์ ความรู้ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เก่ียวข้อง สร้าง
คุณภาพให้เกิดคุณภาพแก่นักเรียนทั้งผลสัมฤทธิ์ทาง วิชาการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ Good
Activities :กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มุ่งเน้นนักเรียน เช่ือมโยงองค์ความรู้นำไปสู่การปฏิบัติในการ
แก้ปัญหาและสร้างอาชีพ โดยการ ดำเนินการภายใต้ 5G model เพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ประกอบด้วยมีการ
พัฒนาห้องสมุดที่มีมาตรฐาน มีปริมาณหนังสือท่ีสอดคล้องกับการจัดการ เรียนรู้อย่างพอเพียง ทันสมัยมีการ
สนับสนุน ส่งเสรมิ และจัดให้มีการพัฒนาห้องสมุดท่มี มี าตรฐาน โดยดำเนินการดังน้ี

- ห้องสมดุ ใหโ้ ปรแกรม PLS 3 ในการสบื ค้นข้อมลู ระบบการยมื -ส่งคืนหนงั สอื
- นกั เรียนใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดทุกวันและมสี ถติ กิ ารใช้หอ้ งสมุดเป็นปัจจุบนั
- ห้องสมุดมีปริมาณหนังสอื ท่สี อดคลอ้ งกับการจัดการเรียนรูอ้ ยา่ งพอเพยี ง ทันสมัย
- มีการสำรวจความต้องการ รายช่ือหนงั สอื วสั ดุสารนิเทศของทกุ ฝ่ายสาระฯที่ ต้องการ
- ดำเนินการส่ังซ้ือ จัดเตรียมหนังสือ วัสดุสารนิเทศ สำหรับออกให้ยมื หนังสอื ท่ี ตอ้ งการไปบริการที่ฝ่าย
สาระการเรยี นรหู้ รือหอ้ งตนด้วย
- มมี มุ สำหรับสืบค้นขอ้ มูลผา่ นระบบอินเตอร์เน็ต - มมี ุม Media zone สำหรับบริการสื่อโสตทัศนศกึ ษา
- พัฒนาศูนย์การเรียนรู้อุทยานธรณี ใช้เป็นแหล่งรู้สำหรับผู้เรียนในรายวิชาสตูล จีโอปาร์ค และเป็น
แหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน โดยมีการจัดทำและดำเนินกิจกรรม อุทยานธรณี ในโครงการ
อุทยานการเรียนรู้สู่สากล เพ่ือพัฒนาศูนย์การเรียนรู้อุทยานธรณี ให้เอ้ือต่อ การเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง
และยังพฒั นาให้เป็นแหล่งเรียนรขู้ องอุทยานธรณโี ลกสตูลอีกดว้ ย

- จดั ทำหอ้ งสบื คน้ สำรสนเทศ (Learning resources & education media center) เพ่อื ใชเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรูแ้ ละ

สบื คน้ ขอ้ มลู ผำ่ นระบบอินเทอรเ์ นต็ - เขำ้ รว่ มโครงกำรสวนพฤกษศำสตร์ โรงเรียน มกี ำรใหค้ วำมรูเ้ กี่ยวกบั พชื พรรณ ตำ่ ง ๆ

บรเิ วณโรงเรยี น ถือเป็นแหล่งเรยี นรูท้ ำงดำ้ นพฤกษศำสตรแ์ ก่นกั เรยี นและบุคคลท่วั ไป

แหล่งเรียนรูภ้ ายนอกโรงเรยี นเชน่
- พพิ ธิ ภณั ฑ์ชา้ งดึกดำบรรพ์
- สวนควนข้อง
- ถำ้ เลสเตโกดอน
- ฉิมเมลอน

หน้าท่ี 8

งานการศึกษาพเิ ศษ
- ดำเนินงานพัฒนาวิชาการท่ีเน้นคุณภาพของผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย อย่างเป็นรูปธรรม จดั สภาพแวดล้อมทาง
กายภาพ สังคมทเี่ อ้ือต่อการจดั การ พัฒนาศักยภาพของผู้เรยี นทแี่ สดงออกถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะตามท่ี
ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาศักยภาพให้กับผู้เรียน
สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษเฉพาะบุคคลอย่างเป็นระบบ ใช้ระบบการประกันคุณภาพภายในเพื่อ
ยกระดบั คุณภาพการจดั การศึกษาให้ดยี ง่ิ ขน้ึ
ผลงานทไ่ี ด้รับจาการบรหิ ารวิชาการ
- ผ่าน งานประกนั คณุ ภาพ สมศ รอบ 3
- โรงเรยี นมาตรฐานสากล ระดบั ScQA
1 โรงเรียน 1 นวัตกรรม

หนา้ ท่ี 9

รางวลั ทรงคุณคา่ สพฐ

2. การบรหิ ารจดั การด้านงบประมาณ

1 การจัดหางบประมาณได้อย่างเพียงพอ: มีการดำเนินการจัดหางบประมาณ เพ่ือใช้ในการพัฒนา
สถานศึกษาที่เหมาะสมและเพียงพอ มีการระบุแหล่งท่ีมาของงบประมาณชัดเจน กำหนดนโยบายการใช้เงินใน
สัดสว่ นทเ่ี หมาะสม คำนึงถึงประโยชนท์ นี่ กั เรียนส่วนใหญ่จะไดร้ ับ โดยมี ท่มี าของงบประมาณดงั น้ี

- เงินงบประมาณแผ่นดิน คือ งบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญตั ิ งบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ
เงนิ ท่เี บกิ จ่ายในรายจา่ ยงบกลาง

- เงินงบนอกประมาณ เป็นเงินที่กฎหมายกำหนดไม่ต้องนำส่งเป็นเงินรายได้ แผ่นดิน ยกเว้นเงินอุดหนุนทั่วไป
เหลือจ่ายเกิน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ เงินอุดหนุนทั่วไป เงินรายได้ สถานศึกษา เงินบริจาค เงินภาษีหัก ณ ท่ีจ่าย
และเงนิ ประกันสัญญา

- เงินรายได้แผ่นดิน เป็นเงินท่ีส่วนราชการจัดเก็บหรือได้รับไว้เป็นกรรมสิทธ์ิตาม กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
หรอื นติ ิกรรม ได้แก่ เงนิ รายได้แผ่นดนิ ของสถานศกึ ษาที่มีการจดั เก็บ ดอกเบย้ี เงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์
ของเงนิ อดุ หนุนทวั่ ไป และเงนิ รายไดส้ ถานศึกษา

2 มีแผนการติดตามและควบคุมการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน: มีการดำเนินการ เตรียมการการใช้
งบประมาณให้มีประสิทธภิ าพและเกิดประโยชนส์ งู สุดต่อราชการ และจัดระบบ ควบคุม ตดิ ตามการใช้งบประมาณ
ดงั นี้

หนา้ ท่ี 10

- วเิ คราะหค์ วามตอ้ งการและความจำเปน็ เก่ียวกบั การใชง้ บประมาณ
1) บันทึกขอ้ ความการจดั ทำแผนกลยุทธ์
2) จดั ทำคำสง่ั การจัดทำแผนกลยทุ ธ์
3) สรปุ การดำเนินงานการจัดทำแผนกลยุทธ์ –

- วางแผนการใช้งบประมาณอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
1) การประชมุ พจิ ารณาเพ่อื จัดทำแผนการใช้จ่ายเงิน
2) จดั ทำคำสงั่ แตง่ ต้งั เจา้ หน้าทก่ี ารเงนิ -บญั ชี
3) จัดทำแผนการใชจ้ ่ายเงนิ

- ดำเนนิ การใชง้ บประมาณอย่างมีประสิทธภิ าพ
1) ดำเนินการเบกิ -จ่ายเงินตามแผน

- มแี ผนการตดิ ตาม ควบคุมการใช้งบประมาณ การใชง้ บประมาณทงั้ หมด เป็นไปตามแผนการใช้อยา่ งประหยดั
และเกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งคมุ้ ค่า โดยดำเนนิ การ ดงั น้ี

1) แผนควบคมุ ภายใน
2) แผนการตดิ ตามตรวจสอบของงานการเงิน-บัญชแี ละพัสดุ
3) แผนการตดิ ตาม / ตรวจสอบของงานการเงนิ และพัสดุ
4) มกี ารจัดทำคำส่ังแต่งตง้ั เจา้ หนา้ ที่ผรู้ ับผิดชอบ
5) การประชุมเพ่อื พิจารณาการใชจ้ ่ายงบประมาณ
6) การจัดทำแผนการใชจ้ ่ายเงนิ งบประมาณ
7) ดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณตามแผน
8) การบันทึกบัญชใี นสมดุ รายงานเงนิ คงเหลือประจำวัน
9) การบนั ทกึ บัญชใี นสมุดเงินสด
10) การจัดทำทะเบยี นคมุ เงินแยกประเภท
11) การจดั ทำทะเบียนคุมเช็ค
12) การจัดทำทะเบยี นคุมลกู หนี้
13) การบนั ทกึ การเบิก-จ่ายเงินตามระบบ GFMIS
14) การจัดเกบ็ หลักฐานการเบิก-จา่ ย
15) รายงานผลการดำเนนิ งานเมือ่ สิ้นสุดปีงบประมาณ
- มกี ารรายงานผลการใชง้ บประมาณตามความจริง ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นปจั จุบนั การใช้
งบประมาณสอดคลอ้ งกับเป้าหมายท่กี ำหนด โดยดำเนนิ การดังน้ี
1) การจดั ทำรายงานสาธารณูปโภค (https://e-budget.jobobec.in.th/)
2) การจัดทำรายงานผลการปฏบิ ัติงานด้านบญั ชี
3) การจัดทำรายงานงบเทียบยอดเงินฝากธนาคาร
4) การจัดทำรายงานผลการจัดซอ้ื -จดั จ้างและโต้ตอบหนังสอื
5) สรปุ การติดตามการใชเ้ งนิ งบประมาณ
6) สรุปการดำเนินงาน/โครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบตั ิการประจำปี
7) รายงานผลการดำเนนิ งานเมอื่ ส้นิ สดุ ปงี บประมาณ

หน้าท่ี 11

3. มกี ารจัดทำบัญชกี ารใช้งบอย่างเป็นระบบ เป็นปจั จุบัน และตรวจสอบได้ ตลอดเวลา โรงเรียนมีการ
จัดทำบัญชีการใช้งบประมาณตามความจริง ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็น ปัจจุบัน และให้สอดคล้องกับ
เป้าหมายของโรงเรยี น มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนของหน่วยงาน เพ่ือให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
ในตัวช้ีวัดการเปิดเผยข้อมูลและการป้องกันการทุจริต สำหรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการ
ดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) จากการ ประเมนิ ความโปรง่ ใสโรงเรยี นได้รับรางวัลเกยี รตบิ ตั รการประเมิน
คณุ ธรรมและความโปร่งใสในการ ดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ ปงี บประมาณ ๒๕๖๓ (ITA) โรงเรียนมีการ
จดั ทำบญั ชกี ารใช้ งบประมาณอย่างเป็นระบบ ประกอบดว้ ย

- การบนั ทึกบญั ชใี นสมดุ รายงานเงนิ คงเหลอื ประจำวัน
- การบันทกึ บัญชใี นสมุดเงนิ สด
- การจัดทำทะเบียนคุมเงนิ แยกประเภท
- การจัดทำทะเบยี นคมุ เชค็
- การจัดทำทะเบยี นคมุ ลกู หนี้
- การบันทกึ การเบิก
- จา่ ยเงนิ ตามระบบ GFMIS
4. มีการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ : มกี ารควบคุม ตดิ ตามการใช้ งบประมาณตามแผนการ
ใช้อย่างประหยัดและเกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับเป้าหมายที่ โรงเรียนกำหนด โดยมีการบริหาร
งบประมาณเหมาะสมและเพียงพอ มีการกำหนดนโยบายการใช้เงิน ในสัดส่วนท่ีเหมาะสม คำนึงถึงประโยชน์ท่ี
นักเรียนส่วนใหญ่จะได้รับ ซ่ึงปรากฏผลในรายงานต่างๆ เช่น รายงานผลการดำเนินงาน / โครงการเม่ือสิ้นสุด
ปีงบประมาณ รายงานสาธารณูปโภค การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานด้านบัญชี การจัดทำรายงานงบเทียบ
ยอดเงินฝากธนาคารรายงานผล การ จัดซื้อ-จัดจ้าง สรุปการติดตามการใช้เงินงบประมาณ สรุปการดำเนินงาน/
โครงการ/กิจกรรมตาม แผนปฏบิ ตั ิการประจำปี

โมเดลนวตั กรรมในบรหิ ารจดั การดา้ นงบประมาณ

หน้าท่ี 12

3. การบรหิ ารงานดา้ นบุคคล
ในการบริหารงานด้านบุคคล โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์มุ่งเน้นใช้หลักธรรมาภิบาล ตามโครงสร้างการ

บริหารงานของโรงเรียน 5G model คือ Good Governance: หลักธรรมาภิบาล เป็นแนวทางและเครื่องมือใน
การบริหารจัดการ ประกอบดว้ ย

1. มีการจัดโครงสร้างการบริหารงานอย่างชัดเจน เป็นปัจจุบนั มีการจัดโครงสร้างการบรหิ ารงานฝ่ายงาน
จัดทำคู่มือการบริหารงาน พรรณนางาน คำส่ังโรงเรียน มีผู้รับผิดชอบงานตามโครงสร้างอย่างชัดเจนและเป็น
ระบบ โดยใหบ้ คุ ลากรทกุ ฝ่ายมีสว่ นรว่ มในการจัดทำคู่มอื โครงสร้างการบริหารงานฝ่ายงาน ซ่ึงโรงเรียนทุ่งหวา้ ว
รวทิ ย์ บรหิ ารงานตามกรอบงานโรงเรยี นนิตบิ คุ คล ท้ัง 5 ฝ่ายงาน คอื ฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
ฝ่ายบริหารงบประมาณ ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายบริหารทวั่ ไป ฝ่ายบรหิ ารกิจการนกั เรยี น ดงั นี้

- ฝ่ายบรหิ ารวิชาการ มี3 กลุ่มงาน ไดแ้ ก่กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ กลุ่มงานนิเทศและประกันคุณภาพและ
กลุ่มงานส่งเสริมวชิ าการ

- ฝ่ายบริหารงบประมาณ มี 3 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงานนโยบายและแผนงาน กลุ่มงานบริหารพัสดุและ
สนิ ทรพั ย์ กลุม่ งานการเงินและบัญชี

- ฝ่ายบริหารงานบุคคล มี 2 กลมุ่ งาน ได้แก่ กลุ่มบริหารงานบุคคล กลมุ่ งานส่งเสรมิ ประสทิ ธภิ าพบคุ คล
- ฝ่ายบรหิ ารทัว่ ไป มี 3 กลมุ่ งาน ไดแ้ ก่ ฝา่ ยงานกจิ การนกั เรียน ฝา่ ยงานธุรการ และฝา่ ยงานบริการ
- ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน มี 4 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงานส่งเสริมวินัยและ คุณธรรม กลุ่มงานส่งเสริม
สขุ ภาพ กล่มุ งานสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย และกล่มุ งานระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน
2. มกี ารสรา้ งขวัญและกำลงั ใจใหก้ ับบุคลากรอยา่ งเหมาะสม โดยจัดให้โรงเรียนทุง่ หว้าวรวิทย์มกี ารจดั ให้
มีโครงสร้างการบริหารงานกลุ่มงานส่งเสริมและการพัฒนาบุคลากร และกำหนดให้มีงานสร้างขวัญและกำลังใจ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีพรรณนางาน คำสั่งโรงเรียน มีผู้รับผิดชอบงานตามโครงสร้างอย่าง
ชดั เจน โดยดำเนนิ การดังนี้
- สร้างขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการยกย่องเชิดชูเกียรติ ผู้มี
ผลงานดีเดน่ และมคี ุณงามความดี โดยยกย่อง มอบเกียรติบัตรก่อนเร่ิมประชุมประจำเดือน หน้าเสาธง ลงวารสาร
ประชาสมั พันธ์ และเว็บไซต์ของโรงเรียน
- จัดระบบการสรา้ งขวัญและกำลังใจแก่บคุ ลากรในโอกาสต่างๆ ได้แก่ การมอบ
ของขวญั วนั เกดิ ก่อนเร่มิ ประชมุ ประจำเดอื น
- มีการจดั ต้งั กองทุนทายาทวรวิทย์ ใช้เป็นกองทุนสำหรับชว่ ยเหลือครูและบุคลากรกรณีเจ็บปว่ ย
- มีสวัสดิการบ้านพักครูอย่างเพียงพอ สภาพแวดล้อมบริเวณบ้านพักครูมีความสวยงามน่าอยู่
และปลอดภัย
3. มีการสง่ เสรมิ พฒั นาบคุ ลากรอย่างต่อเน่อื งและทวั่ ถงึ
โรงเรยี นส่งเสรมิ การพฒั นาขา้ ราชการครแู ละบุคลกรทางการศกึ ษาของโรงเรยี นอยา่ ง
ต่อเนอ่ื ง โดยดำเนนิ การดงั น้ี
- ส่งบุคลากรเข้ารับพัฒนาความรู้ความสามารถเพ่ือใหม้ ีทกั ษะและจัดการเรยี น
การสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพและเน้นนกั เรยี นเปน็ สำคญั
- จัดให้มีการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการพฒั นาพฒั นาทักษะความรู้ในการปฏบิ ัติงานเปน็ ประจำทุกปี
- ส่งเสริมและพัฒนาครูให้เป็นครูผ้รู ่วมนิเทศ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก 5กลุ่มสาระ และมาขยายผลสู่
บคุ ลากรในโรงเรียนเพอื่ ถ่ายทอดสนู่ ักเรียนอยา่ งเปน็ ระบบและมมี าตรฐาน

หน้าท่ี 13

- ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการอย่างมีคุณภาพ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และให้ครูทุกคนเข้าร่วมประกวด
ห้องเรียนคุณภาพ ของสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล ผลการประกวด ได้รับรางวัล
หอ้ งเรียนคุณภาพ 28 รางวัล

4. บคุ ลากรร้อยละ 80 มคี วามพงึ พอใจ ต่อการปฏบิ ตั ิงานตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย บคุ ลากรมีความพึงพอใจ
ตอ่ การปฏิบัติงานตามที่ไดร้ บั มอบหมาย อยใู่ นระดบั มาก และมากทีส่ ดุ คิดเปน็ รอ้ ยละ 100

โมเดลในการบริหารงาน

หนา้ ท่ี 14

4. การบรหิ ารท่วั ไป
1. การให้บรกิ ารด้านอาคารสถานท่ี อาคารในสถานศกึ ษาอย่ใู นสภาพสะอาด ปลอดภัย และถูกสขุ ลักษณะ:

มีการ ปรับปรุงและพัฒนาอาคารเรียนและโรงอาหารประกอบให้สามารถใช้การได้ สภาพมั่นคงแข็งแรง มี ระบบ
ดูแลความสะอาดเพ่ือรองรับการใช้งานในสถานการณ์โควิด 19 โดยมีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติ ในสถานการณ์
COVID-19 ซง่ึ โรงเรยี นทุ่งหว้าวรวิทย์ มีอาคารเรียนและอาคารประกอบ ดงั นี้

มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก ให้บริการอาคารสถานท่ีอย่าง เหมาะสม: โรงเรียนมี
อปุ กรณแ์ ละสิ่งอำนวยความสะดวกประจำอาคารใช้การได้ดี และมปี ริมาณ เพียงพอ รอบบรเิ วณอยใู่ นสภาพดแี ละ
ปลอดภัย โดยมีการดำเนนิ การ ดังน้ี

- มีการติดต้ังอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการต่างๆ ทุกห้องปฏิบัติการ ได้แก่ การติดต้ัง
โปรเจคเตอร์พร้อมจอและมีเครื่องขยายเสียงพร้อมไมโครโฟน

- มกี ารติดต้งั คอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนและสืบค้นขอ้ มลู ใน ทุกห้องปฏบิ ตั กิ าร
- มีห้องสืบค้นสารสนเทศ (Learning resources & education media center) เพื่อให้นักเรียนสบื ค้น
ขอ้ มูล
- มีการจัดซ้ืออุปกรณ์ประกอบห้องวิทยาศาสตร์ สารเคมี โดยได้รับงบประมาณจาก โครงการขยายผล
องค์ความรู้ทางวิชาการและวิธีการจัดการเรียนการสอนไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษา ตอนปลาย สังกัด สพฐ.
ในจงั หวดั สตูลและงบประมาณท่ไี ดร้ บั กาจัดสรรจากโรงเรียน พรอ้ มสำหรบั การจัดการเรียนการสอนทกุ ภาคเรียน
- มีการติดตง้ั โทรทศั นใ์ นห้องเรียนเพื่อใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
- ภายในอาคารเรียนมีโต๊ะ เกา้ อี้ สำหรบั ให้นกั เรยี นนงั่ เรียนครบทุกหอ้ งและอยู่ใน สภาพใช้การไดด้ ี พร้อม
ใชง้ าน

หนา้ ท่ี 15

มีระบบซ่อมบำรุงอาคารสถานท่ีให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง สะอาด และปลอดภัยอยู่ เสมอ: โรงเรียนมีการ
จัดระบบการซ่อมบำรงุ อาคารเรียน อาคารประกอบ ที่เหมาะสม ทันต่อ เหตุการณ์ ซ่ึงผลการดำเนินงานปรากฏ
ดังนี้

- มีแผนงาน/โครงการ ซ่อมบำรุงอาคารเรยี น อาคารประกอบ
- มีการมอบหมายบุคลากรใหร้ บั ผดิ ชอบอย่างชัดเจน ในการซอ่ มแซมอาคาร สถานท่ี
- มีการประชมุ มอบหมายงานใหบ้ ุคลากรสนบั สนนุ รับผิดชอบในการดแู ลและซ่อม บำรงุ ทุกวนั
- มีโครงการปรับปรุงห้องปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงห้องวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษและสังคมศกึ ษา เพือ่ ใหม้ สี ภาพท่ีเหมาะสมและเอ้ือต่อการ จัดการเรยี นรู้
มีการจัดระบบสาธารณปู โภคอยู่ในสภาพทใ่ี ช้การได้และปลอดภัย: โรงเรยี นมีการ จดั ใหม้ ีระบบสาธารณูปโภคที่
ทันสมัย ใช้การได้ และปลอดภัยแก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการ ศึกษาในโรงเรียน ซ่ึงผลการดำเนินงาน
ปรากฏผลดังน้ี
- มรี ะบบน้ำด่มื ใชใ้ นโรงเรียนทสี่ ะอาด ปลอดภยั และมมี าตรฐาน
- มรี ะบบไฟฟ้าทป่ี ลอดภัยและมมี าตรฐาน
- มรี ะบบอินเตอร์เน็ตที่รวดเรว็ ทว่ั ทกุ ทใ่ี นโรงเรียน

2. งานประชาสมั พนั ธ์ โรงเรยี นมีการประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมต่างๆของโรงเรยี นตามช่องทางตอ่ ไปนี้
โรงเรยี นดำเนินการเผยแพรข่ ้อมูลสารสนเทศทเ่ี กย่ี วกับกิจกรรมของสถานศึกษาอย่าง สม่ำเสมอ โดยการ

ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาผ่านวารสารของโรงเรียนในช่องทางท่ี หลากหลาย เช่น ฝ่ายไลน์
ประชาสัมพันธ์ PR สพม.สงขลา สตูล ฝ่ายไลน์สหวิทยาเขตอันดามัน ฝ่าย ไลน์ผู้ปฏิบัติงาน ปชส. สังกัด สพม.
สงขลา สตูล เว็บไซต์สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา สงขลา สตูล มีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
ข้อมูลและกิจกรรมข่าวสารของโรงเรียนผ่านทาง เว็บไซต์โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ : www.tww.ac.th และเพจ
เฟสบคุ๊ ของโรงเรยี น และเผยแพร่สือ่ วีดี ทัศนต์ ่าง ๆ ของเรยี นเรียนผา่ นทางช่องยทู ปู ของโรงเรียน : TWW chanal

3. งานสมั พันธช์ มุ ชน
- ดำเนินกิจกรรมสัมพันธ์ชุมชนภายในและภายนอกสถานศึกษาเช่น กิจกรรมเรียนรู้วิถีพุทธ-มุสลิม ทอดผ้าป่า
สามคั คจี ดั ซ้อื อปุ กรณก์ ารแพทย์ใหก้ บั โรงพยาบาลทงุ่ หว้า เปน็ ต้น
โมเดลในการบรหิ ารงานทวั่ ไป

หน้าท่ี 16

5. งานกิจการนกั เรยี น

หนา้ ท่ี 17

กระบวนการในการดำเนินงานการจัดกิจกรรมนักเรียน
ในการจดั กิจการนกั เรยี นไดด้ ำเนินงานจนประสบผลสำเรจ็ เปน็ อย่างดี ใช้กระบวนการในการบรหิ ารมาเป็น
แนวทางในการปฏิบตั ิ กระบวนการในการบริหารงานท่ีสำคัญๆมดี ังตอ่ ไปนี้

1. การวางแผนงานการจัดกจิ การนักเรียน
วางนโยบายในการปฏบิ ตั ิงานทีเ่ ก่ียวข้องกับการจัดกิจกรรมนกั เรยี นทั้งหมดไว้ใหช้ ดั เจน วา่ มีงานด้านใดบ้างท่ี
โรงเรยี นจะปฏบิ ตั ใิ นแตล่ ะปกี ารศกึ ษา จะตอ้ งกำหนดวัตถปุ ระสงคท์ ีต่ ้งั ไว้ การวางแผนงานที่ดผี บู้ รหิ ารไม่ควร
ปฏบิ ัตติ ามลำดับการจะจัดตั้งคณะกรรมการโรงเรยี นให้เข้ามามีส่วนในการวางแผนดว้ ย

2. การจดั บุคคลท่รี บั ผิดชอบในแต่ละกจิ กรรม
ขา้ พเจา้ ไดก้ ำหนดลงไปวา่ งานแตล่ ะกจิ กรรมหรือแตล่ ะโครงการนนั้ ควรจะมอบอำนาจความรับผิดชอบให้แก่ใคร
พร้อมท้ังจะต้องกำหนดโครงสร้างอำนาจหนา้ ท่ีการแบ่งสว่ นงานและการจดั สายงานให้เดน่ ชัด เพื่อใหก้ าร
ปฏบิ ัติงานเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละไม่เกิดความซบั ซ้อน

3. ควบคุมดแู ลการปฏบิ ตั ิงาน หลงั จากท่ีบุคคลท่รี ับผิดชอบงานได้เร่มิ ดำเนนิ กจิ กรรมแล้วข้าพเจ้าจะดูแล
อย่างใกลช้ ดิ เพ่อื ใหก้ ารปฏบิ ตั ิงาน ดำเนินไปตามแผนการทวี่ างไว้ ถ้าหากมสี ่งิ ใดบกพร่องหรือไม่สามารถปฏิบตั ิ
ตามแผนที่วางไว้ได้ ขา้ พเจา้ ก็สั่งการแก้ไขปรบั ปรงุ ไดท้ นั ท่วงที

4. การจดั ประสานสัมพันธข์ องหน่วยงาน ในการจดั กิจการนกั เรยี นนัน้ จะต้องอาศยั หลายๆ หนว่ ยงาน
รว่ มมือกนั ทำขา้ พเจา้ พยายามใช้ เทคนคิ วธิ ตี ่างๆ ทำใหก้ ารดำเนนิ งานทกุ หน่วยงานประสานสัมพนั ธก์ นั ได้ดี ทัง้ น้ี
เพื่อให้งานดำเนนิ ไปสู่จดุ หมายเดยี วกัน ไมเ่ กิดความซ้ำซอ้ น เกิดความขดั แย้ง

5 . การรายงานผล ขา้ พเจ้าไดจ้ ดั ใหม้ ีการรายงานผลเป็นระยะ เพ่อื จะไดท้ ราบปญั หาและอปุ สรรคในการ
ดำเนนิ งานเพ่ือทีจ่ ะได้มีการปรบั ปรงุ แก้ไขปัญหาทีเ่ กิดข้นึ ทุกระยะการดำเนินการ

6. การประเมนิ ผลงาน
มีสว่ นรว่ มในการประเมนิ ผลงาน และในการประเมินผลงาน ควรประเมนิ เป็นระยะในระหวา่ งโครงการกำลังดำเนิน
อยู่ และประเมนิ เม่ือส้นิ สดุ โครงการอกี ครัง้ เพอ่ื ดูว่าไดผ้ ลตามวัตถปุ ระสงค์ท่ีตัง้ ไวห้ รือไม่เพือ่ จะได้นำข้อมูลเหล่าน้ี
มาเป็นแนวทางในการปรับปรุงกิจกรรมต่อไป และวิธีท่ีใช้ในการประเมินน้ันควรจะใช้หลายๆวิธี เช่น การสังเกต
การออกแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ และการพิจารณาจากผลงาน เป็นตน้
บทบาทหน้าที่ของงานกจิ การนักเรียน

งานกจิ การนักเรียน เปน็ กิจกรรมทโ่ี รงเรียนจัดข้นึ นอกเหนือจากการเรียนการสอนปกติ เป็นงานที่เกีย่ วขอ้ ง
กบั ตวั นกั เรียนและกิจกรรมนกั เรียนทงั้ หมด เพ่ือช่วยพัฒนาท้ังอารมณ์ สังคม และจติ ใจ และชว่ ยส่งเสริมการเรียน
การสอนในหลักสูตรให้บรรลุสำเร็จวัตถุประสงค์ของงานกิจการนักเรียน เป็นงานที่มุ่งไปที่นักเรียนโดยตรง เพ่ือ
พัฒนานักเรียนให้เกิดความเจริญงอกงามทุกด้าน สถานศึกษาจึงควรให้การช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะให้บรรลุ
เป้าหมายตามโอกาสท่ีนักเรยี นควรจะไดร้ ับดังน้ี

1. สง่ เสริมใหน้ ักเรยี น เรียนร้กู ารอยรู่ ่วมกนั ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ
2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างกว้างขวางยิ่งข้ึนโดยเรียนรู้จากบุคคลอ่ืน เรียนรู้ซ่ึงกันและกัน
ไมใ่ ช่เฉพาะการเรียนรูใ้ นห้องเรียนเทา่ นนั้
3. ให้การสนับสนุนทางด้านความคิด และพลังกายท่ีนักเรียนมีอยใู่ ห้สามารถใช้ไปในทศิ ทางทถี่ ูกตอ้ งและ
ควรจะเป็น
4. สง่ เสรมิ ให้นักเรียนเจริญงอกงาม เปน็ คนท่สี มบรู ณ์ทัง้ ทางกาย สติปญั ญา สังคมและอารมณ์
5. ส่งเสรมิ ให้นักเรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มคี วามเป็นเจา้ ของ และมีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียน

หนา้ ท่ี 18

6. สง่ เสริมให้นักเรยี น ได้เกิดประสบการณ์ เพ่ือนำไปสู่งานอาชีพทนี่ อกเหนอื จากการเรยี นในหอ้ งเรยี น
7. สง่ เสรมิ และกระตุน้ ให้นักเรยี น ได้บูรณาการ การเรียนร้จู ากประสบการณท์ ไ่ี ดร้ ับ
8. ส่งเสริมความถนัด ความสนใจ และความสามารถของนกั เรยี นแต่ละคน
9. ชว่ ยสร้างความสมั พนั ธ์อันดรี ะหวา่ งครูกบั นกั เรียน
10. ฝึกประสบการณ์ในการปกครองแบบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นพระประมุข มุ่งให้
นกั เรยี นเปน็ คนดขี องสังคม
11. สง่ เสริมจรรยามารยาทอันดงี ามในสงั คม และเทดิ ทูน
วฒั นธรรมอันดงี ามของชาติ
12. ช่วยประชาสมั พันธแ์ ละสรา้ งความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชน

หลกั การบริหารงานกิจการนกั เรยี น
การบรหิ ารงานกจิ การนกั เรยี นเปน็ การส่งเสริมในการดำเนนิ กจิ กรรมตา่ งๆของนักเรยี นในการแก้ปญั หาอปุ สรรค
ตา่ งๆให้สำเร็จลุลว่ งไปด้วยดี ผทู้ ่ีรบั ผิดชอบบรหิ ารงานกจิ การนกั เรียนต้องมีความเข้าใจในภารกิจความรบั ผดิ ชอบ
และความต้องการของนกั เรยี น ดงั น้ี
1. สำรวจความต้องการและปญั หาของนักเรียน เพ่อื เปน็ ขอ้ มลู ในการจดั กจิ กรรมของโรงเรียน
2. พจิ ารณานโยบายของโรงเรียนวา่ มีจุดเน้นท่กี ิจกรรมประเภทใด
3. สำรวจความเปน็ ไปไดแ้ ละความสะดวกในการขอความรว่ มมือกบั หน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง
4. สำรวจความพร้อมและความเขา้ ใจของครทู ี่เกย่ี วขอ้ งว่ามคี วามเขา้ ใจบทบาทหนา้ ที่มากน้อยเพยี งใด
5. สำรวจแหล่งทนุ และงบประมาณที่จะสนับสนนุ กิจการนกั เรียน
6. จดั บุคลากรให้เหมาะสมกบั กิจกรรม เพ่อื ให้การจัดกิจกรรมเกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ
7. ศกึ ษากจิ กรรม พจิ ารณาว่ากิจกรรมใดควรปรบั ปรงุ และกจิ กรรมใดควรพฒั นาและสร้างสรรคข์ ึ้นมาใหม่
8. กจิ กรรมใดที่ประสบความสำเรจ็ ยอดเยย่ี ม ควรพิมพเ์ ผยแพร่ กจิ กรรมใดทไี่ มป่ ระสบความสำเรจ็ กป็ ระเมินไว้
เปน็ แนวทางในการปรบปรงุ ต่อไป
9. มกี ารประชาสัมพันธ์ เพอ่ื กระตุ้นให้เกิดความสนใจตอ้ การเข้าร่วมกิจกรรมมากขน้ึ

หนา้ ท่ี 19

การนำ 1 โรงเรียน 1 นวัตกรรม ดา้ นการส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เตม็ ศกั ยภาพ
เรอ่ื ง การพัฒนาระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี นโดยใช้ P-care Model

หนา้ ท่ี 20

ภาคผนวก

หนา้ ท่ี 21

หนา้ ท่ี 22

หนา้ ท่ี 23

หนา้ ท่ี 24

หนา้ ท่ี 25

หนา้ ท่ี 26

หนา้ ท่ี 27

หนา้ ท่ี 28

หน้าท่ี 29

งานกจิ การนกั เรยี น