The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1-2563แบบบันทึกการเสวนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wiphaporn29aoy, 2022-05-15 22:11:19

1-2563แบบบันทึกการเสวนา

1-2563แบบบันทึกการเสวนา

รายงานผลการดาเนนิ งาน 1

การจัดกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ
(Professional Learning Community : PLC )
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563

นางสาวพรทิพา นามเคน
ตาแหนง่ ครชู านาญการ

โรงเรียนบา้ นโพนทนั สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 2

2

ศธ 04122.๑๙๒/พเิ ศษ ๑ โรงเรยี นบา้ นโพนทัน
อาเภอเกษตรวิสัย จงั หวดั รอ้ ยเอด็

หนังสือรับรอง

หนังสือฉบบั นใี้ ห้ไวเ้ พอื่ รบั รองวา่ คณะครูโรงเรียนบา้ นโพนทัน กล่มุ “รกั เดก็ อนบุ าล” ซ่ึงมี

รายนามดังตอ่ ไปนี้

๑. นางเณรัชรา กา้ นจักร์ ผอู้ านวยการโรงเรียน

๒. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผู้เช่ียวชาญ

๓. นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ หวั หน้างานวิชาการ

๔. นางสาวประภัสสร สมศรี ทปี่ รึกษา

๕. นางสาวสุดารัตน์ เทียมจนั ทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้
๖. นางณฐั ฐินนั ท์ สมุทรศรี ครูรว่ มเรียนรู้

๗. นายชนาธิป สายวเิ ศษ ครูร่วมเรยี นรู้

๘. นายสรุ ศกั ด์ิ พอกสงู เนิน ครรู ว่ มเรยี นรู้
๙. นายณัฐพิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรยี นรู้

๑๐.นางสาวพรทพิ า นามเคน ครูสอนหลัก/เลขานกุ าร

ได้ปฏิบัติงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community :PLC)
กลมุ่ “รักเด็กอนุบาล” โรงเรียนบ้านโพนทัน ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 256๓ จานวน ๓๐ ชวั่ โมง จริง
จงึ ขอรับรองไว้ ณ โอกาสนี้

ให้ไว้ ณ วันที่ 3๐ มนี าคม 256๓

ลงชอื่ ผรู้ บั รอง

(นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์)
ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทนั



คำนำ

รายงานผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning
Community : PLC ) จัดทาข้ึนเพื่อนาเสนอแนวทางในการดาเนนิ งานของกลุม่ “รกั เด็กอนุบาล” เพื่อแก้ไขปญั หา
นักเรียนระดับชั้นอนุบาล จากความร่วมมือของครูและผู้บริหาร และเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเร่ืองการ
ปฏิบัติด้วยกระบวนการ PLC เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งระดมความคิดแลกเปล่ียนเรียนรู้ การติดตามและ
ประเมินผลในการดาเนินงานของโรงเรยี นบ้านโพนทนั

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้ จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากร
ทางการศึกษา รวมท้งั ผ้สู นใจทว่ั ไป ในการนาไปใชเ้ พอ่ื ศึกษาเรยี นรู้สรา้ งความเขา้ ใจและปฏิบัตติ ามแนวทางดังกล่าว
ไดเ้ ปน็ อย่างดี

กลุ่ม “รกั เด็กอนุบำล”

สำรบญั ข

1. ผลการดาเนินกจิ กรรมชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ หนำ้
2. วตั ถปุ ระสงค์
3. วธิ กี ารดาเนินงาน 1
4. วัน เวลา สถานท่ี ในการดาเนนิ งาน
5. สรปุ ผลการดาเนินงาน 1
6. อภปิ รายผลการดาเนนิ งาน 2
7. ผลท่ีเกิดจากการดาเนินงาน 2
8. ร่องรอย/หลกั ฐาน 3
9. บทเรยี นท่ไี ด้จากการดาเนนิ งาน 4
10.สิ่งทจี่ ะดาเนินการตอ่ ไป 5
11.ปญั หา /อปุ สรรค 5
12.ข้อเสนอแนะ 5
13.บนั ทกึ กิจกรรมชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชพี ภาคเรียนท่ี 1/256๓ 5
14.ภาคผนวก ก. 6
15.ภาคผนวก ข. 6
8
๓2
๓6

1

ผลกำรดำเนนิ กจิ กรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรทู้ ำงวชิ ำชพี

1. หลักกำรและเหตุผล
ชุมชนแห่งการเรยี นรเู้ ชิงวชิ าชพี (Professional Learning community : PLC) หมายถึง การรวม

กลุ่มกันของครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา ในลักษณะของชุมชนเชิงวิชาการท่มี ีเปา้ หมายเพอื่ พฒั นาคุณภาพ
การศึกษา โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ การถอดบทเรียน และการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกันอย่าง
ต่อเนื่อง (ราชบัณฑิตยสถาน, 2558)

จากผลการวิจัยของ สุรพล ธรรมร่มดี (2553) ยืนยันว่าการดาเนินการในรูปแบบ PLC นาไปสู่การ
เปล่ียนแปลงเชิงคุณภาพท้ังด้านวิชาชีพและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน โดย มีผลดีทั้งต่อครูผู้สอนและนักเรียน
ในแง่ผลดีต่อครูผู้สอน พบว่า PLC ส่งผลต่อครูผู้สอนกล่าวคือลดความรู้สึกโดดเดี่ยวในงานสอนของครู
เพม่ิ ความรู้สกึ ผูกพันต่อพันธกิจและเป้าหมายของโรงเรยี นมากขึ้น โดยเพ่ิมความกระตือรือรน้ ที่จะปฏบิ ัติใหบ้ รรลุพนั ธ
กิจอย่างแข็งขัน จนเกิดความรู้สึกว่า ต้องการร่วมกันเรียนรู้และรับผิดชอบต่อพัฒนาการโดยรวมของนักเรียน
ถือเป็นพลังการเรียนรู้ซง่ึ ส่งผลให้การปฏบิ ตั ิการสอนในช้นั เรียนให้มผี ลดียง่ิ ขึ้น รวมท้ังเขา้ ใจบทบาทและพฤติกรรมการ
สอนท่ีจะชว่ ยใหน้ ักเรยี นเกดิ การเรียนรไู้ ด้ดีทส่ี ุด ซึ่งจะเกิดจากการคอยสังเกตอย่างใส่ใจในแงข่ องผลดตี ่อผู้เรียนพบว่า
PLC สามารถลดอัตราการตกซ้าช้ัน และจานวนชั้นเรียนที่ต้องเล่ือนหรือชะลอการจัดการเรียนรู้ให้น้อยลง อัตราการ
ขาดเรียนลดลงมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนท่ีสูงขึ้นอย่างเด่นชัด สุดท้ายคือมีความแตกต่างด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ระหวา่ งกลมุ่ นกั เรียนทมี่ ีภูมหิ ลงั ไมเ่ หมอื นกันลดลงอย่างชดั เจน

จากการศึกษาประโยชน์ของกระบวนการดังกล่าว ผู้จัดทาจึงเกิดความคิดที่จะนากระบวนการ PLC
(Professional Learning Community) เพื่อเป็นการปรับปรุงแก้ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน
และร่วมกันพัฒนานวัตกรรมท่ีใช้ในการแก้ปัญหาเก่ียวกับการจัดการเรียนรู้แก่นักเรียนในแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้
ตลอดจนพัฒนาทกั ษะทางดา้ นคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยขี องนกั เรยี นใหด้ ีย่งิ ขึ้น โดยไดเ้ ริม่ ดาเนนิ กจิ กรรมกบั นักเรียน
ทกุ ระดบั ชั้นของโรงเรียนบา้ นโพนทัน เพ่ือแก้ไขปัญหาทเี่ กิดขึ้นจรงิ ในห้องเรียน คือ “ปัญหาการจดั การเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทาให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอน
ได้ตามปกต”ิ เน่ืองจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จาเป็นตอ้ งมกี าร
เว้นระยะห่างทางสงั คม มีการแบง่ กลุ่มนกั เรยี น แบง่ เวลาเรยี น ทาให้เวลาเรียนในห้องเรียนน้อยลง ส่งผลให้การจัดการ
เรยี นการสอนไมค่ รอบคลมุ ตามเนื้อหาการเรยี นรู้

2. วัตถปุ ระสงค์

1) เพ่ือให้นกั เรียนมที ักษะในการฟังและเหน็ คุณค่าของการเป็นผูฟ้ ังทีด่ ี
2) เพือ่ ให้นกั เรยี นมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นในระดับทสี่ ูงขึน้
3) เพ่มิ โอกาสในการเข้าถงึ เนอ้ื หาการเรียนได้จากอุปกรณต์ ่าง ๆ เช่น เครือ่ งคอมพวิ เตอร์

โทรศัพทม์ อื ถอื ผ่านทางระบบเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต
4) มีนวตั กรรมหรือคมู่ อื การใชท้ ่ีมคี วามเหมาะสมและเรา้ ความสนใจของผู้เรียน

2

3. วิธีกำรดำเนินงำน
 แนวทำงกำรปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกำรสร้ำงชุมชนกำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชีพ (PLC)
1. แบง่ กลมุ่ ยอ่ ย ตามความเหมาะสม
2. ให้แต่ละกลุ่มคิดแนวทางแก้ไขปัญหา 1 เร่ืองจากประเดน็ ตอ่ ไปนี้
1) ปัญหาการเรยี นรขู้ องนักเรยี น 1 เร่อื ง/กลุ่ม
2) ปัญหาดา้ นการจดั การเรียนการสอนของครู หรอื เทคนคิ วิธีการสอนท่ีครูควรพฒั นา
จานวน 1 เร่ือง/กลุ่ม
3. จัดทาโครงการ/กิจกรรม การสร้างชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี (PLC)

 กระบวนกำรของ PLC
ขั้นตอนที่ 1 Community สรา้ งทีมครู
ข้ันตอนท่ี 2 Practice จัดการเรียนรู้ เช่น การวิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ ร่วมกันออกแบบกิจกรรมการ
เรียนรู้ในการจัดทาแผนการเรียนรู้ เพ่ือแก้ปัญหา หรือพัฒนา และนาสู่การปฏิบัติ โดยมีการเปิดห้องเรียน
เพือ่ การสังเกตการณส์ อน

เคร่ืองมือในการประเมิน
- แบบนเิ ทศ 01 แบบสังเกตการณจ์ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั ตอนท่ี 3 Reflection สะทอ้ นคิดเพ่อื การพัฒนาการปฏิบตั ิ
ขนั้ ตอนที่ 4 Evaluation ประเมนิ เพื่อพฒั นาสมรรถนะครู
ขน้ั ตอนที่ 5 Network Development สร้างเครอื ข่ายการพฒั นา

 บทบำทหนำ้ ทข่ี องสมำชิกกลมุ่ ตำมกระบวนกำร PLC
- Model Teacher หมายถึง ครผู ูร้ ับการนเิ ทศ หรือ ครูผสู้ อน
- Buddy Teacher หมายถึง ครคู ู่นิเทศ หรอื ครูร่วมเรยี นรู้
- Mentor หมายถงึ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
- Expert หมายถงึ ผู้เช่ยี วชาญ เช่น ครู คศ.3 นกั วชิ าการ อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั ศกึ ษานเิ ทศก์
- Administrator หมายถงึ ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น
- Recorder หมายถงึ ผู้บนั ทกึ รายงานการประชุม

4. วัน เวลำ สถำนท่ี ในกำรดำเนนิ งำน
ระยะเวลำ : ตั้งแต่ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 256๓ – ๒๘ กันยายน พ.ศ.256๓
สถำนที่ : โรงเรยี นบา้ นโพนทนั

3

5. สรุปผลกำรดำเนินงำน
 ประเดน็ ด้ำนผูเ้ รยี น
- นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนและสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองจากส่ือการสอน/บทเรียน
ออนไลน์ และจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ครูแนะนา ทาให้นักเรียนได้เรียนรู้ และพัฒนาความรู้
ความสามารถครบตามหลักสูตร
- นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความกระตือรือร้นในการเรียนมากกว่าปกติ มีความต้ังใจใฝ่หา
ความรู้ใหม่ ๆ ตรงกับระบบการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ ศูนย์กลาง โดยมีผ้สู อนเป็นเพียงผูแ้ นะนา
ท่ีปรึกษา และแนะนาแหล่งความรู้ใหม่ ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการเรียน ผู้เรียนสามารถทราบผล
ย้อนกลับของการเรียน รู้ความกา้ วหน้าได้จาก E-Mail การประเมินผล การประเมินย่อย โดยใช้
เว็บไซต์เป็นที่ทดสอบและการประเมินผลรวม ที่ใช้การสอบแบบปกติในห้องเรียน เพื่อเป็นการ
ยืนยันว่าผู้เรยี นเรยี นจริงและทาข้อสอบจรงิ ไดห้ รือไม่อย่างไร
- สง่ เสริมให้นักเรียนเกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการใช้สอ่ื สังคมออนไลน์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ในทางที่เหมาะสม เป็นการสร้างภูมิคมุ้ กันให้กับตัวนักเรียน เปรียบเสมือนเป็นตัวกรองที่คอยช่วยให้
นักเรียนสามารถแยกแยะข่าวสารหรือข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้รับรู้ได้อย่างมี
คุณภาพ
- นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนและศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เรียนอย่างมีความสุขและมีปฏิสัมพันธ์
ระหวา่ งครกู บั นกั เรียน และนักเรยี นกับนักเรียนด้วยกนั เองเพม่ิ มากขนึ้
- นักเรียนมีพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์หลายประการ เช่น ได้พูดคุย ถกเถียง อย่างมีเหตุผล และยอมรับ
ฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืนมากขึ้น

 ประเดน็ ด้ำนกิจกรรม
- ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านสื่อเทคโนโลยี ICT ตลอดจนเอกสารประกอบการสอน
เป็นลักษณะการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้นอกชั้นเรียนท่ีทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ี
ทุกเวลา
- การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนออนไลนท์ าใหก้ ารเรียนการสอนครอบคลุมตามเน้อื หา
- ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านสื่อเทคโนโลยี ICT ตลอดจนเอกสารประกอบการสอน
เป็นลักษณะการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้นอกช้ันเรียนท่ีทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุก
เวลา
- ครูและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์/การแลกเปล่ียนเรียนรู้ ทาให้บรรยากาศการเรียนสอนดาเนิน
ไปโดยเน้นผูเ้ รียนเป็นศนู ย์กลางการเรยี นรู้

 ประเดน็ ดำ้ นครู
- ครูจะทาหน้าเป็นผู้อานวยท่ีคอยให้ความช่วยเหลือ คาปรึกษา และดึงศักยภาพของผู้เรียนให้
สามารถเรียนรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง สรา้ งแรงจงู ใจและแรงบนั ดาลใจในการเรียน

4

 ประเดน็ ส่ือกำรสอน
- สอื่ กิจกรรมและแหลง่ การเรยี นรมู้ ีความถูกตอ้ งเหมาะสมมีประสทิ ธิภาพ (ดา้ นคุณภาพ)
- สือ่ มคี วามเพียงพอเหมาะสม (ดา้ นปริมาณ)
- ผู้เรียน และผู้สอนสามารถเข้าถึงส่ือการเรียนการสอนได้ง่าย โดยจะใช้ web browser
ใดก็ได้ ผเู้ รียนสามารถเรียนจากเครือ่ งคอมพิวเตอร์ท่ีใดก็ได้ และในปัจจุบันนีก้ ารเข้าถึงเครอื ขา่ ย
อนิ เตอร์เนต็ กระทาไดง้ า่ ยขนึ้ มาก และยงั มีค่าเชื่อมต่ออนิ เตอรเ์ นต็ ที่มีราคาถกู ลงมากว่าแต่กอ่ น
- นักเรียนได้ใช้เคร่ืองมือที่ตนถนัดคือ เทคโนโลยีการส่ือสารสมัยใหม่ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตและ
สังคมออนไลน์ เม่ือได้ใช้หรือทาอะไรที่ตนชอบหรือถนัด จึงทาให้ผูเ้ รียนศึกษา ค้นคว้าเรียนด้วย
ตนเองได้อย่างอัตโนมตั ิ ผู้เรียนเกิดการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมเปน็ ไปตามท่ีครูต้องการให้เกิดขึ้น
ในตัวผู้เรยี น

 ประเด็นดำ้ นบรรยำกำศ
- การออกแบบบรรยากาศในห้องเรียนแบบออนไลน์ เป็นสิ่งท่ีสาคัญที่จะทาให้ผู้เรียนให้ความสนใจใคร่รู้และ

พรอ้ มท่ีจะร่วมพดู คุยแลกเปล่ยี นเรยี นรู้อย่างมีสว่ นร่วมมากข้ึน
-

6. อภิปรำยผลกำรดำเนินงำน

6.1 ผลลัพธท์ ่ีเกดิ จำกกระบวนกำร
1) มอี งค์ความรู้ นวตั กรรม และประเดน็ ความรทู้ ีน่ า่ สนใจ ท่ีเกิดข้นึ จากการแลกเปลยี่ น

เรียนรู้ของสมาชิกเครือข่าย ท่ีเป็นประโยชน์กับครู และครูสามารถนาไปใช้ในการพัฒนาให้เกิดประโยชน์
กับผู้เรยี นไดอ้ ยา่ งเปน็ รูปธรรม (สมาชิกเครือขา่ ยมกี ารนาไปใช้ได้อย่างชดั เจน)

2) มรี ่องรอยการรายงานผลการนาองคค์ วามรู้ นวตั กรรม และประเดน็ ความรูท้ ีน่ ่าสนใจ
ทีเ่ กิดข้ึนของสมาชกิ เครือขา่ ยไปใชต้ ลอดระยะท่ีดาเนนิ โครงการทุกครงั้ ทม่ี กี ารแลกเปลีย่ นเรยี นรโู้ ดย
สมาชกิ ทกุ คน

3) ผสู้ อนหลักและสมาชกิ ในกลมุ่ PLC สามารถนาผลการปฏิบัตกิ ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
มาอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด โดยมีครูผู้สอนหลักเป็นผู้สะท้อนความคิดเก่ียวกับความสาเร็จ
จุดเด่นและจุดทต่ี ้องพัฒนาในการจดั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

6.2 ผลลพั ธ์ที่เกิดกับผเู้ รียน / ครู / สมำชกิ ทเี่ ขำ้ ร่วมเครอื ขำ่ ย PLC
1) ผู้เรียนได้การเรียนรู้ตามเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ทุกประการ และมีความ
ชัดเจนท้งั เชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรยี นดขี ้ึน และทาให้ผู้เรียนได้พัฒนาและเกิดคุณลักษณะอย่าง
ชัดเจน
3) ผู้สอนได้รับความรู้และประสบการณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาแผนการ
จัดการเรียนรู้ และผู้สอนไดร้ บั นวตั กรรมและเริ่มวางแผนจดั ทาวิจัยปฏบิ ตั กิ ารในช้นั เรยี น
4) ผู้สอนสามารถนาความรู้และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรไู้ ปประยุกตใ์ ช้
ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ และสามารถนาวัตกรรมการเรียนรู้ท่ีได้รับจากการทา
วิจัยปฏบิ ตั กิ ารในชัน้ เรยี นไปใชพ้ ัฒนาคุณภาพการจดั การเรยี นรู้

5

6.3 คณุ ค่ำทเ่ี กิดตอ่ วงกำรศกึ ษำ
1) มีเครือข่ายท่ีชัดเจน และการขยายเครือข่ายแล้วและมีความชัดเจน เป็นรูปธรรมและมี
แนวโน้มการเกิดเครอื ข่ายเพม่ิ ขนึ้
2) การร่วมกันรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ให้ผลการเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดข้ึนในตัว
นกั เรยี น โดยครูท่เี ป็นสมาชิกในชมุ ชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพทกุ คนวางเปา้ หมายร่วมกนั

7. ผลทเี่ กดิ จำกกำรดำเนินงำน
7.1 ไดน้ วัตกรรมในการแกไ้ ขปญั หา
7.2 ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนกั เรยี นดขี ้ึน หรอื เป็นไปตามเกณฑท์ ต่ี กลงกนั ไว้
7.3 พฤตกิ รรมของนักเรยี นท่มี ีปญั หาเปลย่ี นไปในทางท่ดี ขี ึ้นตามขอ้ ตกลงท่ีต้ังไว้
7.4 นาไปสกู่ ารอบรมคปู องพฒั นาครู และรวบรวมส่ง เพ่ือเก็บเป็นหลกั ฐานในการรายงานตอ่ ไป

8. รอ่ งรอย/หลกั ฐำน
8.1 แผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมบนั ทึกหลังการสอน
8.2 ภาพการพดู คยุ ปรึกษากับสมาชกิ กลุ่ม PLC
8.3 ภาพกิจกรรมการเรยี นการสอน
8.4 แบบสงั เกตการณ์จัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
8.5 ภาพการนิเทศการสอน

9. บทเรียนท่ไี ด้จำกกำรดำเนนิ งำน
ครูผู้สอนได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่หลากหลายในห้องเรียน และพฤติกรรมของนักเรียนท่ีแตกต่างกันใน

แต่ละบคุ คล รวมไปถึงเรียนรู้ท่ีจะหาแนวทางในการแก้ปัญหาในสถานการณท์ ่ีแตกต่างกันผ่านการอภิปรายร่วมกัน
กับเพ่อื นครูและนกั เรียน

ชมุ ชนการเรยี นร้วู ิชาชีพ (Professional Learning Community) เปน็ กระบวนการท่มี ีประโยชน์และคุ้มค่า
สะท้อนผลเชงิ วชิ าชีพ โดยการพดู คุยสนทนากนั ระหวา่ งสมาชิกในชุมชนการเรียนรู้ ท่ีจะก่อให้เกิดผลทางบวกต่อการ
เรียนการสอนและคุณภาพการจัดการศกึ ษาในสถานศกึ ษา หรือช่วยพฒั นาการจัดการเรียนรูแ้ ละสง่ ผลใหน้ ักเรียนมี
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึน้

10. สิง่ ท่ีจะดำเนินกำรต่อไป
การจัดการเรียนการสอนออนไลน์มาใช้ในการแก้ไขปัญหา และเพิ่มศักยภาพในการจัดการเรียนการสอน

เพื่ออานวยความสะดวกให้ผู้สอนสามารถจัดเตรียมการสอนด้วยสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย น่าสนใจ
โดยพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นแบบ distance learning การเรียนการสอนทางไกล ใชส้ ื่อ
การเรียนออนไลน์ เชน่ Google Classroom , Google Site มาช่วยเพ่มิ เติมจากการเรียนในห้องเรยี นปกติ และทา
ให้ผู้เรียนสามารถอ่านทบทวนเนื้อหาย้อนหลังได้และยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
จงึ ตอ้ งการเผยแพรเ่ ทคนิคในการดูแลและบรหิ ารชั้นเรยี นให้กบั เพ่ือนครใู นชน้ั เรียนอ่นื ๆ และผ้ทู ีส่ นใจตอ่ ไป

6

11. ปญั หำ /อุปสรรค
การพบปะพูดคุยระหว่างครูผู้สอนประจาวิชาไม่ค่อยตอ่ เนื่องเท่าที่ควร เน่ืองด้วยคาบสอนตรงกัน และใน

บางครัง้ ครผู ูส้ อนมภี าระนอกเหนืองานสอนมาก จึงไมส่ ะดวกในการแลกเปล่ยี นเรียนรู้

12. ขอ้ เสนอแนะ
ควรมีเครอื ข่ายออนไลน์เปน็ สอ่ื กลางในการติดต่อแลกเปลยี่ นประสบการณ์ระหว่างครูที่ทางานร่วมกัน เช่น

กลุ่ม Line หรือ Facebook และควรมีการวิจัยเพื่อหารูปแบบของบทเรียนออนไลน์ ท่ีเหมาะสมกับการเรียนการ
สอนในระดับช้ันต่าง ๆ เพื่อรองรับการเรียนการสอน เพราะผู้เรียนแต่ละช่วงวัยมีด้านความรู้ และทักษะท่ี
แตกตา่ งกนั

7

บันทกึ กิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนร้ทู างวชิ าชีพ
ภาคเรยี นที่ 1/2563

8

บันทึกกิจกรรมชุมชนแหง่ กำรเรียนรทู้ ำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รักเด็กอนบุ ำล”

โรงเรียนบำ้ นโพนทัน ต.ดงครงั่ ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ช่อื กลุ่ม “รักเดก็ อนบุ ำล”
ครัง้ ท่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วนั /เดอื น/ปี : 5 กรกฎาคม 2563
เร่มิ ดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ สิ้นเวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทั้งส้นิ 2 ชัว่ โมง
กิจกรรมครั้งน้ีอยูค่ วำมสอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำบทเรยี นรว่ มกัน (Lesson study)

 ขั้นที่ 1 วเิ คราะห์และวางแผนการจดั การเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ข้นั ที่ 2 ปฏบิ ตั แิ ละสงั เกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ขนั้ ท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรับปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครูท่เี ขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายชื่อและบทบาทต่อกจิ กรรม ดงั น้ี

ท่ี ชอื่ -สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมือชือ่

1. นางเณรัชรา ก้านจักร์ ผอู้ านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวนี นั ท์ ผู้เชย่ี วชาญ

3. นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ หวั หนา้ งานวิชาการ

4. นางสาวประภสั สร สมศรี ทปี่ รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารตั น์ เทยี มจนั ทร์ ครรู ่วมเรยี นรู้

๖ นางณัฐฐนิ นั ท์ สมุทรศรี ครรู ว่ มเรยี นรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครูรว่ มเรียนรู้

๘ นายสุรศกั ดิ์ พอกสูงเนิน ครรู ว่ มเรียนรู้

๙ นายณัฐพิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานุการ

1. งำน/กจิ กรรม การจดั การเรยี นรู้แบบ On-Hand ช่วงสถานการณโ์ ควดิ -19

2. ประเด็นปัญหำ/ส่ิงทตี่ ้องกำรพฒั นำ (เน้นที่ห้องเรยี น)
เน่ืองด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดใหมข่ องโรคติดเชือ้ ไวรัสโควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้

สถานศึกษา เล่ือนเปิดเทอมจากวันท่ี 17 พฤษภาคม 2564 เปน็ วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทางโรงเรียนบ้านโพน
ทนั จึงจัดการเรียนการสอนตามแนวทางท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนด คือ จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand
เรยี นทบี่ ้านโดยหนงั สอื เรยี นฝกึ หัด ครูประจาชั้นจดั ทาใบงาน และใบความรู้ ที่สอดคลอ้ งกบั เนอื้ หาที่เรียน เพ่ือแจก
ใบงาน ใบความรตู้ ามบ้านของนกั เรียน และมีการตดิ ตามให้คาแนะนา ช่วยเหลอื ผูเ้ รียนที่บา้ นอย่างใกลช้ ดิ

3. สำเหตุของปัญหำ
การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกดิ ความเส่ียงกับพนื้ ทใ่ี นสถานศึกษาหากมี

การรวมกลุม่ กนั เป็นจานวนมากของนกั เรียน

9

4. ควำมรูแ้ ละหลักกำรท่นี ำมำใช้
ครรู ่วมเรยี นรู้ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครผู ู้เช่ียวชาญได้เสนอแนะแนวทางในการแกป้ ัญหาการจัดการเรยี น

การสอนแบบ On-Hand เรียนท่บี ้านโดยหนงั สอื เรียนฝึกหดั ครูประจาชัน้ จดั ทาใบงาน และใบความรู้ ท่ีสอดคล้อง
กับเน้ือหาท่ีเรยี น เพื่อแจกใบงาน ใบความรู้ตามบ้านของนักเรยี น และมกี ารติดตามใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือผู้เรียนท่ี
บา้ นอย่างใกล้ชิด จากน้ันผู้เชย่ี วชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการ
จัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้สอนหลักนาไปปรับปรุงแผนการจัดการเรียนให้เหมาะสมมากยิ่งข้ึน โดยการจัดทาชุดใบงาน
และใบกจิ กรรมนักเรียนระดับชัน้ อนบุ าลใหเ้ หมาะสมตอ่ ไป
5. แนวทำงกำรแก้ปญั หำ

ผู้สอนหลัก ได้นาเสนอปัญหาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม PLC รับทราบ และนาเสนอแผนการปฏิบัติกิจกรรม
จากน้ันผู้เช่ียวชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการปฏิบัติกิจกรรม
เพ่ือใหผ้ สู้ อนหลักนาไปปรับปรงุ แผนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ใหเ้ หมาะสมมากยง่ิ ขน้ึ
6. ผลทไ่ี ดร้ บั จำกกจิ กรรม

ผู้สอนหลักมีแผนการปฏบิ ัตกิ ารดาเนนิ การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของโรค
ตดิ เชื้อไวรัสโควิด-19 และส่ือใบงาน ใบกจิ กรรมสาหรับเดก็ ปฐมวัยไดร้ ับการแกไ้ ขและพัฒนาตามข้อเสนอแนะของ
สมาชกิ ในกลุ่ม PLC
๗. กำรนำผลทไี่ ดไ้ ปใช้

ครูสามารถนาแผนการปฏิบัติการดาเนินการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของ
โรคติดเช้ือไวรัสโควิด-19 และส่อื ใบงาน ใบกิจกรรมสาหรบั เด็กปฐมวัย ไปปรับใช้ในระดับชั้นอ่ืน ๆ ภายในโรงเรียน
และสามารถประยกุ ต์ใช้สื่อใบงาน ใบกิจกรรมการเรยี นรู้แบบ On-Hand ในพัฒนาและปรับปรงุ กิจกรรมกบั ปญั หา
อื่น ๆ ท่ีมีสาเหตขุ องปญั หาคล้ายคลึงกนั ได้

เลิกประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงช่ือ...................... ............. ....................... ผู้บนั ทกึ ลงช่อื ผเู้ ชยี่ วชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี นั ท์)

ลงชื่อ ลงชื่อ........................ .... ...........................ผ้รู ับรอง
(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์)

หวั หน้ากลมุ่ บริหารงานวิชาการ ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทัน

10

บันทึกกจิ กรรมชมุ ชนแห่งกำรเรยี นรทู้ ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลมุ่ “รกั เดก็ อนุบำล”

โรงเรยี นบำ้ นโพนทัน ต.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชอื่ กลมุ่ “รกั เด็กอนบุ ำล”
ครัง้ ท่ี ๒ ภำคเรยี นท่ี 1/256๓ วัน/เดอื น/ปี : 10 กรกฎาคม 2563
เร่มิ ดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ ส้นิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำท้งั สนิ้ 2 ช่วั โมง
กจิ กรรมคร้ังน้อี ยคู่ วำมสอดคลอ้ งกบั กำรพัฒนำบทเรยี นร่วมกนั (Lesson study)

 ขั้นที่ 1 วเิ คราะห์และวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขัน้ ที่ 2 ปฏิบตั แิ ละสงั เกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ขัน้ ท่ี 3 สะทอ้ นความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู เ่ี ข้ำร่วมกจิ กรรม 10 คน โดยมรี ายช่ือและบทบาทตอ่ กจิ กรรม ดังน้ี

ท่ี ช่ือ-สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมอื ช่ือ

1. นางเณรัชรา ก้านจกั ร์ ผูอ้ านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวนี ันท์ ผู้เชย่ี วชาญ

3. นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ หัวหน้างานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ท่ีปรึกษา

5. นางสาวสุดารัตน์ เทียมจันทร์ ครรู ่วมเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครูรว่ มเรยี นรู้

๗ นายชนาธิป สายวเิ ศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสรุ ศักดิ์ พอกสงู เนนิ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๙ นายณัฐพสิ ิษฐ์ ไชยคต ครูร่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การจดั การเรยี นรแู้ บบ On-Hand ชว่ งสถานการณ์โควิด-19

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิ่งที่ต้องกำรพัฒนำ (เน้นท่ีห้องเรียน)
เน่ืองด้วยสถานการณ์การแพรร่ ะบาดใหมข่ องโรคติดเช้ือไวรัสโควดิ -19 กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกาศให้

สถานศึกษา เล่อื นเปิดเทอมจากวันท่ี 17 พฤษภาคม 2564 เป็นวันท่ี 1 มิถุนายน 2564 ทางโรงเรียนบ้านโพน
ทัน จึงจัดการเรียนการสอนตามแนวทางท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนด คือ จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand
เรียนทีบ่ ้านโดยหนงั สอื เรียนฝกึ หัด ครูประจาชั้นจดั ทาใบงาน และใบความรู้ ที่สอดคลอ้ งกับเน้ือหาท่ีเรียน เพื่อแจก
ใบงาน ใบความรู้ตามบา้ นของนักเรียน และมีการติดตามให้คาแนะนา ชว่ ยเหลอื ผู้เรยี นทบี่ ้านอยา่ งใกลช้ ดิ
3. สำเหตขุ องปัญหำ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเร็ว ส่งผลใหเ้ กิดความเส่ียงกบั พ้นื ทีใ่ นสถานศึกษาหากมี
การรวมกลุ่มกันเป็นจานวนมากของนักเรียน

11

4. ควำมร้แู ละหลกั กำรท่ีนำมำใช้
จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand เรียนทบ่ี ้านโดยหนังสือเรียนฝกึ หดั ครปู ระจาชัน้ จัดทาใบงาน และใบ

ความรู้ ที่สอดคล้องกับเน้อื หาที่เรยี น เพอ่ื แจกใบงาน ใบความรตู้ ามบา้ นของนักเรียน และมกี ารติดตามให้คาแนะนา
ช่วยเหลือผเู้ รียนทีบ่ า้ นอย่างใกลช้ ดิ

5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ
นาการจัดการเรียนการสอนแบบ On Hand เรียนที่บ้านโดยหนังสอื เรียนฝกึ หดั ครปู ระจาช้นั จดั ทาใบงาน

และใบความรู้ ท่ีสอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน เพื่อแจกใบงาน ใบความรู้ตามบ้านของนักเรียนมาแก้ไขปรับปรุงตาม
คาแนะนาของครรู ว่ มเรยี นรู้ ผู้เชย่ี วชาญ และครผู ู้สอนหลัก นามาใช้ในการจดั กิจกรรมเพอ่ื สง่ เสริมเด็กปฐมวัย โดยมี
ชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพร่วมสงั เกตการณ์ ซึ่งกิจกรรมมีขั้นตอนสาคัญในการจัดกิจกรรม คือ มีการอธิบาย
ความรู้ การทดลองทากิจกรรม การลงมือปฏิบตั ิการจดั การเรยี นการสอนแบบ On Hand
6. ผลที่ได้รับจำกกิจกรรม

ผสู้ อนหลักมแี ผนการปฏิบัตกิ ารดาเนินการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดใหม่ของโรค
ตดิ เชือ้ ไวรสั โควิด-19 และส่ือใบงาน ใบกิจกรรมสาหรับเด็กปฐมวัยได้รับการแกไ้ ขและพัฒนาตามข้อเสนอแนะของ
สมาชิกในกลุ่ม PLC นักเรียนได้รับการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเน่ือง เพ่ือเตรียมความพร้อมสาหรับการเปิด
ภาคเรียน
๗. กำรนำผลท่ีได้ไปใช้

ผสู้ อนหลกั และสมาชกิ ในกลุ่ม PLC สามารถนาผลการจดั การเรยี นการสอนแบบ On Hand มาอภปิ ราย
เพอื่ แลกเปลย่ี นความคิด โดยมคี รผู ู้สอนหลกั เปน็ ผู้สะทอ้ นความคิดเกีย่ วกบั ความสาเรจ็ จุดเดน่ และจุดท่ีต้องพฒั นา
ในการจัดการกจิ กรรมสง่ เสริมเดก็ ปฐมวยั อยา่ งองค์รวมในครัง้ ต่อ ๆไป

เลิกประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชอ่ื ...................... ............. ....................... ผบู้ นั ทกึ ลงช่ือ ผ้เู ชย่ี วชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี นั ท์)

ลงช่อื ลงชอ่ื ........................ .... ...........................ผู้รับรอง
(นางวันทนา ฉัตรสวุ รรณ) (นางเณรชั รา กา้ นจักร์)
หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านโพนทนั

12

บนั ทกึ กจิ กรรมชมุ ชนแห่งกำรเรียนรทู้ ำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลมุ่ “รกั เดก็ อนุบำล”

โรงเรยี นบำ้ นโพนทัน ต.ดงคร่งั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ช่ือกลุ่ม “รกั เดก็ อนุบำล”
ครัง้ ที่ ๓ ภำคเรียนที่ 1/256๓ วัน/เดอื น/ปี : 1๗ กรกฎาคม 2563
เริ่มดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ ส้นิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำท้งั สิ้น 2 ช่ัวโมง
กจิ กรรมคร้ังนอ้ี ยู่ควำมสอดคล้องกับกำรพฒั นำบทเรียนร่วมกนั (Lesson study)

 ขัน้ ที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขั้นที่ 2 ปฏบิ ัติและสงั เกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ขั้นที่ 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครูท่เี ขำ้ รว่ มกจิ กรรม 10 คน โดยมรี ายชื่อและบทบาทตอ่ กจิ กรรม ดังนี้

ท่ี ชื่อ-สกลุ บทบำทหน้ำที่ ลำยมือช่อื

1. นางเณรัชรา ก้านจกั ร์ ผอู้ านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวนี ันท์ ผเู้ ชยี่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หน้างานวชิ าการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ท่ีปรกึ ษา

5. นางสาวสุดารตั น์ เทียมจนั ทร์ ครรู ่วมเรียนรู้

๖ นางณัฐฐินนั ท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวิเศษ ครูร่วมเรยี นรู้

๘ นายสุรศักด์ิ พอกสงู เนนิ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๙ นายณัฐพิสษิ ฐ์ ไชยคต ครูร่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานุการ

1. งำน/กิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบ On-Hand ชว่ งสถานการณ์โควดิ -19

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิง่ ทตี่ ้องกำรพัฒนำ (เนน้ ทหี่ ้องเรียน)
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพรร่ ะบาดใหม่ของโรคติดเชือ้ ไวรัสโควิด-19 กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกาศให้

สถานศึกษา เลอ่ื นเปิดเทอมจากวันท่ี 17 พฤษภาคม 2564 เปน็ วันท่ี 1 มิถุนายน 2564 ทางโรงเรียนบ้านโพน
ทนั จึงจัดการเรียนการสอนตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด คือ จัดการเรียนการสอนแบบ On Hand
เรยี นทบี่ ้านโดยหนังสอื เรยี นฝกึ หดั ครูประจาช้ันจัดทาใบงาน และใบความรู้ ท่ีสอดคลอ้ งกบั เนื้อหาที่เรียน เพือ่ แจก
ใบงาน ใบความรตู้ ามบ้านของนักเรียน และมีการติดตามใหค้ าแนะนา ช่วยเหลอื ผเู้ รยี นทบี่ า้ นอย่างใกล้ชิด
3. สำเหตุของปญั หำ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเรว็ ส่งผลให้เกดิ ความเส่ียงกับพ้นื ทีใ่ นสถานศึกษาหากมี
การรวมกลมุ่ กนั เปน็ จานวนมากของนักเรยี น

13

4. ควำมร้แู ละหลักกำรทนี่ ำมำใช้
ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้เชงิ วิชาชพี ร่วมกันสะท้อนความคิดท้งั จุดเด่น จดุ ด้อย ปญั หา-อปุ สรรค รวมท้ังแนะนา

วธิ กี ารแก้ปญั หาในการจดั การเรียนการสอนแบบ On Hand เรยี นท่บี ้านโดยหนังสือเรียนฝกึ หัด ครปู ระจาช้ันจดั ทา
ใบงาน และใบความรู้ ที่สอดคล้องกับเน้ือหาที่เรียน เพื่อแจกใบงาน ใบความรู้ตามบ้านของนักเรียน และมีการ
ติดตามให้คาแนะนา
5. แนวทำงกำรแกป้ ญั หำ

ผู้สอนนาเสนอผลการปฏิบัติการ การจัดการเรียนการสอนแบบ On Hand เรียนที่บ้านโดยหนังสือเรียน
ฝึกหัด ครูประจาชั้นจัดทาใบงาน และใบความรู้ ท่ีสอดคล้องกับเนื้อหาท่ีเรียน เพื่อแจกใบงาน ใบความรู้ตามบ้าน
ของนักเรียน และมกี ารติดตามให้คาแนะนา จากนน้ั ครูร่วมเรียนรู้ หัวหน้ากลมุ่ สาระฯ และผู้เชี่ยวชาญให้ข้อคิดเห็น
เกย่ี วกับจุดเดน่ จดุ ด้อย ปญั หาและอปุ สรรค รวมท้งั ให้คาแนะนาในการพฒั นาการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เมื่อส้นิ สุด
ข้ันตอนการสะท้อนคดิ แล้ว ผ้สู อนบันทึกผลจากนั้นปรับปรงุ แผนการจดั กจิ กรรม เพ่ือนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมครั้ง
ต่อไป อกี ทั้งการนากิจกรรมไปรว่ มใช้กับนกั เรียนช้นั อ่ืนภายในโรงเรยี น
6. ผลทไ่ี ดร้ บั จำกกิจกรรม

ผสู้ อนไดร้ ับความรูแ้ ละประสบการณ์การจดั การเรียนการสอนแบบ On Hand เรียนท่ีบ้านโดยหนังสอื เรียน
ฝกึ หัด ครูประจาชั้นจัดทาใบงาน และใบความรู้ ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน เพื่อแจกใบงาน ใบความรู้ตามบ้าน
ของนักเรียน และมีการติดตามให้คาแนะนา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนา และผู้สอนได้รับเรียนรู้
แนวคิดและเพื่อเร่มิ วางแผนการจดั ทาวจิ ยั ปฏบิ ตั กิ ารในช้นั เรยี น
๗. กำรนำผลท่ไี ดไ้ ปใช้

ผู้สอนสามารถนาความรแู้ ละประสบการณ์ท่ีได้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ
ออกแบบกจิ กรรม และสามารถนาการเรียนรู้ทีไ่ ด้รับจากการทาวิจยั ปฏบิ ตั ิการในชั้นเรยี นไปใชพ้ ัฒนาคณุ ภาพการ
จัดการเรยี นรู้

เลกิ ประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชือ่ ...................... ............. ....................... ผบู้ ันทึก ลงชือ่ ผู้เชยี่ วชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี ันท์)

ลงชอ่ื ลงช่ือ........................ .... ...........................ผรู้ บั รอง
(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรัชรา กา้ นจักร์)
หัวหนา้ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ
ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านโพนทัน

14

บนั ทกึ กจิ กรรมชุมชนแหง่ กำรเรียนรทู้ ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community : PLC)

กลุ่ม “รกั เด็กอนุบำล”
โรงเรียนบ้ำนโพนทนั ต.ดงครัง่ ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชือ่ กลุ่ม “รกั เด็กอนุบำล”
ครัง้ ท่ี ๔ ภำคเรยี นที่ 1/256๓ วัน/เดอื น/ปี : ๒๔ กรกฎาคม 2563
เรมิ่ ดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสิ้นเวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทั้งสิ้น 2 ชว่ั โมง
กิจกรรมครั้งนีอ้ ยู่ควำมสอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำบทเรยี นรว่ มกัน (Lesson study)

 ขน้ั ที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ข้นั ที่ 2 ปฏบิ ตั แิ ละสังเกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ข้ันท่ี 3 สะทอ้ นความคิดและปรับปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ี่เขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายชื่อและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั น้ี

ท่ี ชอ่ื -สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมอื ชอื่

1. นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์ ผอู้ านวยการโรงเรยี น

2. นางสายยนต์ ทวนี ันท์ ผเู้ ช่ยี วชาญ

3. นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ หวั หนา้ งานวชิ าการ

4. นางสาวประภสั สร สมศรี ทีป่ รึกษา

5. นางสาวสุดารัตน์ เทียมจันทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐินันท์ สมุทรศรี ครูรว่ มเรยี นรู้

๗ นายชนาธิป สายวิเศษ ครูรว่ มเรยี นรู้

๘ นายสรุ ศกั ด์ิ พอกสงู เนิน ครูร่วมเรยี นรู้

๙ นายณฐั พสิ ษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรยี นรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การจดั การเรยี นรแู้ บบ On-Site ช่วงสถานการณ์โควิด-19

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิง่ ที่ตอ้ งกำรพัฒนำ (เน้นทีห่ อ้ งเรยี น)
การจัดการเรียนรตู้ ามปกติแบบ On-Site คอื การเรยี นในโรงเรียนพืน้ ท่ปี ลอดภยั ภายใต้เงื่อนไขของ สบค.

จงั หวัด สถานศึกษาสามารถจดั การเรียนการสอนตามความเหมาะสมและบริบทของตัวเอง เหมาะสาหรับโรงเรียน
ประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษา ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ท่ีมีขนาดพ้ืนทข่ี องโรงเรียนบริเวณกว้าง สามารถ
จดั การเรียนการสอนให้มกี ารเว้นระยะห่างทางสังคมไดอ้ ย่างสะดวกภายไดช้ ีวติ วธิ ีใหม่ ซึ่งทางโรงเรียนบ้านโพนทัน
ไดเ้ ตรยี มความพรอ้ มสาหรบั การจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On-Site สลับวันมาเรียน โดยแบง่ กลุ่ม A และ กลุ่ม B
เพ่ือปฏิบัติตามมาตรการการปอ้ งกันการแพร่ระบาดของเชอ้ื ไวรสั โควิด-19 ในโรงเรยี น

15

3. สำเหตขุ องปัญหำ
การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ระลอกท่ี 3 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในสถานศึกษาหากมีการ

รวมกลุ่มกันเป็นจานวนมากของนักเรียนและคุณครู ทางโรงเรียนบ้านโพนทัน จึงได้จัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ
On -Site สลับวนั มาเรียน โดยแบ่งกลมุ่ A และ กลมุ่ B เพือ่ ปฏิบตั ิตามมาตรการการป้องกันการแพรร่ ะบาดของเชื้อ
ไวรสั โควดิ -19 ในโรงเรยี น
4. ควำมร้แู ละหลักกำรทนี่ ำมำใช้

ครรู ว่ มเรียนรู้ หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ และครูผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะแนวทางในการเรยี นรตู้ ามปกตแิ บบ On-
Site สลับวนั มาเรียน โดยแบ่งกลุ่ม A และ กลมุ่ B เพ่ือปฏบิ ตั ิตามมาตรการการปอ้ งกันการแพร่ระบาดของเชอ้ื ไวรัส
โควิด-19 ในโรงเรียน จากน้ันผู้เช่ียวชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้ เพือ่ ให้ผู้สอนหลักนาไปปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรียนให้เหมาะสมมากย่ิงขน้ึ โดยการแบง่ กลุ่ม
นักเรียน กลุ่ม A และกลุ่ม B จัดทาปฏิทินการมาเรียนในโรงเรียนของนักเรียนให้เหมาะสม และจัดทาใบกิจกรรม
สาหรบั นักเรียนท่เี รยี นรอู้ ยูท่ บ่ี ้านโดยมีผ้ปู กครองดแู ลอย่างใกล้ชดิ
5. แนวทำงกำรแกป้ ญั หำ

ผู้สอนหลัก ได้นาเสนอปัญหาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม PLC รับทราบ และนาเสนอแผนการปฏิบัติกิจกรรม

จากนั้นผู้เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการปฏิบัติกิจกรรม

เพ่ือใหผ้ ูส้ อนหลกั นาไปปรบั ปรุงแผนการปฏิบัตกิ ิจกรรม ให้เหมาะสมมากยงิ่ ขน้ึ

6. ผลที่ได้รบั จำกกจิ กรรม
ผสู้ อนหลักมแี ผนการปฏิบัตกิ ารดาเนินการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดใหม่ของโรค

ตดิ เชอื้ ไวรสั โควิด-19 และสื่อใบงาน ใบกิจกรรมสาหรับเด็กปฐมวัยไดร้ ับการแกไ้ ขและพฒั นาตามข้อเสนอแนะของ

สมาชกิ ในกลุม่ PLC

๗. กำรนำผลท่ไี ดไ้ ปใช้
ครูสามารถนาแผนการปฏบิ ตั ิการดาเนินการจดั การเรียนการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดใหมข่ อง

โรคติดเชอ้ื ไวรสั โควิด-19 และสือ่ ใบงาน ใบกิจกรรมสาหรบั เด็กปฐมวัย ไปปรับใช้ในระดบั ชั้นอื่น ๆ ภายในโรงเรียน

และสามารถประยุกต์ใช้ส่อื ใบงาน ใบกจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบ On-Site ในพัฒนาและปรบั ปรุงกิจกรรมกบั ปญั หาอืน่

ๆ ท่มี สี าเหตขุ องปญั หาคลา้ ยคลึงกันได้

เลิกประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงช่อื ...................... ............. ....................... ผู้บนั ทกึ ลงช่ือ ผู้เช่ียวชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี นั ท์)

ลงชอื่ ลงชอื่ ........................ .... ...........................ผูร้ บั รอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ) (นางเณรัชรา ก้านจกั ร์)
หัวหน้ากลุม่ บริหารงานวิชาการ
ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นโพนทัน

16

บนั ทึกกิจกรรมชุมชนแหง่ กำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลมุ่ “รักเด็กอนุบำล”

โรงเรยี นบ้ำนโพนทนั ต.ดงครง่ั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ช่อื กลุ่ม “รักเดก็ อนบุ ำล”
คร้งั ที่ ๕ ภำคเรยี นท่ี 1/256๓ วัน/เดือน/ปี 31 กรกฎาคม 2563
เริ่มดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสิ้นเวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำท้งั ส้นิ 2 ชั่วโมง
กจิ กรรมคร้ังน้อี ยคู่ วำมสอดคลอ้ งกบั กำรพัฒนำบทเรียนรว่ มกัน (Lesson study)

 ขั้นท่ี 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขน้ั ท่ี 2 ปฏิบตั ิและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ขนั้ ท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู เ่ี ข้ำร่วมกิจกรรม 10 คน โดยมรี ายช่ือและบทบาทตอ่ กจิ กรรม ดงั นี้

ท่ี ช่อื -สกุล บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมอื ช่ือ

1. นางเณรัชรา กา้ นจักร์ ผ้อู านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวนี นั ท์ ผูเ้ ชี่ยวชาญ

3. นางวนั ทนา ฉตั รสวุ รรณ หัวหน้างานวิชาการ

4. นางสาวประภสั สร สมศรี ท่ปี รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทียมจนั ทร์ ครรู ่วมเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐินันท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรยี นรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครูร่วมเรียนรู้

๘ นายสรุ ศกั ด์ิ พอกสูงเนิน ครรู ว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พสิ ิษฐ์ ไชยคต ครูรว่ มเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การจัดการเรียนรแู้ บบ On-Site ช่วงสถานการณโ์ ควดิ -19

2. ประเดน็ ปัญหำ/สงิ่ ที่ต้องกำรพัฒนำ (เน้นที่หอ้ งเรยี น)
การจัดการเรยี นรตู้ ามปกติแบบ On-Site คือ การเรียนในโรงเรยี นพ้นื ท่ีปลอดภยั ภายใตเ้ งื่อนไขของ สบค.

จงั หวัด สถานศึกษาสามารถจดั การเรยี นการสอนตามความเหมาะสมและบริบทของตัวเอง เหมาะสาหรับโรงเรียน
ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ที่มีขนาดพื้นทีข่ องโรงเรียนบริเวณกว้าง สามารถ
จัดการเรียนการสอนให้มกี ารเว้นระยะหา่ งทางสังคมได้อยา่ งสะดวกภายไดช้ ีวิตวิธใี หม่ ซ่ึงทางโรงเรียนบ้านโพนทัน
ได้เตรียมความพร้อมสาหรับการจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On-Site สลบั วนั มาเรียน โดยแบง่ กลมุ่ A และ กลุ่ม B
เพือ่ ปฏิบัตติ ามมาตรการการป้องกนั การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควดิ -19 ในโรงเรียน
3. สำเหตุของปัญหำ

การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ระลอกท่ี 3 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในสถานศึกษาหากมีการ
รวมกลุ่มกันเป็นจานวนมากของนักเรียนและคุณครู ทางโรงเรียนบ้านโพนทัน จึงได้จัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ

17

On -Site สลบั วันมาเรยี น โดยแบ่งกล่มุ A และ กลมุ่ B เพ่ือปฏิบัตติ ามมาตรการการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของเชื้อ
ไวรสั โควิด-19 ในโรงเรียน
4. ควำมรู้และหลกั กำรทน่ี ำมำใช้

จัดการเรยี นรู้ตามปกติแบบ On-Site คือ การเรียนในโรงเรียนพื้นท่ีปลอดภัย สถานศึกษาสามารถจัดการ
เรียนการสอนตามความเหมาะสมและบริบทของตัวเอง ที่มีขนาดพ้ืนที่ของโรงเรียนบริเวณกว้าง สามารถจัดการ
เรียนการสอนให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างสะดวกภายได้ชีวิตวิธีใหม่ ซ่ึงทางโรงเรียน บ้านโพนทัน ได้
เตรียมความพร้อมสาหรับการจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On-Site สลับวันมาเรียน โดยแบ่งกลุ่ม A และ กลุ่ม B
เพอ่ื ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั โควิด-19 ในโรงเรยี น
5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ

นาการจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On-Site แบบสลับวันมาเรียน โดยแบ่งกลุม่ A และ กลมุ่ B เพอื่ ปฏิบัติ
ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงเรยี น และจดั ทาใบกจิ กรรมสาหรบั นักเรียนท่ี
เรยี นรอู้ ย่ทู ีบ่ ้านโดยมผี ูป้ กครองดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ มาแก้ไขปรับปรุงตามคาแนะนาของครูร่วมเรียนรู้ ผเู้ ชีย่ วชาญ และ
ครูผู้สอนหลัก นามาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเด็กปฐมวัย โดยมีชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพร่วม
สังเกตการณ์ ซึ่งกิจกรรมมีข้นั ตอนสาคัญในการจดั กิจกรรม คอื มีการอธบิ ายความรู้ การทดลองทากิจกรรม การลง
มอื ปฏบิ ตั ิการจดั การเรียนการสอนแบบ On-Site
6. ผลทีไ่ ดร้ บั จำกกิจกรรม

ผ้สู อนหลักมแี ผนการปฏิบัติการดาเนินการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดใหม่ของเชื้อ
ไวรัสโควิด-19 และสื่อใบงาน ใบกิจกรรมสาหรบั เด็กปฐมวัย ได้รับการแก้ไขและพัฒนาตามข้อเสนอแนะของสมาชิก
ในกล่มุ PLC

นักเรียนไดร้ ับการจดั การเรียนการสอนอย่างต่อเน่อื ง ทั้ง กลุ่ม A และกลมุ่ B โดยได้รับการดูแลจากคุณครู
และผู้ปกครองอย่างใกลช้ ิด
๗. กำรนำผลทีไ่ ดไ้ ปใช้

ผ้สู อนหลกั และสมาชกิ ในกลุม่ PLC สามารถนาผลการจัดการเรียนการสอนแบบ On-Site มาอภิปรายเพื่อ
แลกเปล่ียนความคิด โดยมีครผู ู้สอนหลักเป็นผสู้ ะท้อนความคิดเก่ียวกับความสาเร็จ จุดเดน่ และจดุ ท่ีต้องพัฒนาใน
การจดั การกจิ กรรมสง่ เสรมิ เด็กปฐมวยั ใหเ้ หมาะสมตามพฒั นาการต่อไป

เลกิ ประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงช่ือ...................... ............. ....................... ผบู้ ันทึก ลงชอื่ ผู้เช่ยี วชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวีนนั ท์)

ลงชอื่ ลงชื่อ........................ .... ...........................ผรู้ บั รอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา ก้านจกั ร์)

หวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นโพนทัน

18

บันทกึ กิจกรรมชมุ ชนแห่งกำรเรยี นร้ทู ำงวชิ ำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลมุ่ “รักเด็กอนุบำล”

โรงเรยี นบ้ำนโพนทนั ต.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย

ช่ือกลมุ่ “รักเด็กอนบุ ำล”
คร้ังท่ี ๖ ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วนั /เดือน/ปี 7 สิงหาคม 2563
เริ่มดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ สน้ิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทัง้ ส้ิน 2 ชัว่ โมง
กิจกรรมคร้ังนี้อยคู่ วำมสอดคลอ้ งกับกำรพัฒนำบทเรยี นรว่ มกัน (Lesson study)

ข้ันที่ 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขนั้ ที่ 2 ปฏบิ ัติและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ขน้ั ที่ 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ่ีเข้ำร่วมกิจกรรม 10 คน โดยมีรายชื่อและบทบาทต่อกิจกรรม ดังน้ี

ท่ี ช่อื -สกลุ บทบำทหน้ำท่ี ลำยมือชื่อ

1. นางเณรัชรา ก้านจักร์ ผอู้ านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวนี ันท์ ผ้เู ชีย่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หัวหน้างานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ที่ปรกึ ษา

5. นางสาวสุดารตั น์ เทียมจนั ทร์ ครูร่วมเรียนรู้

๖ นางณฐั ฐินนั ท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธิป สายวเิ ศษ ครรู ่วมเรยี นรู้

๘ นายสรุ ศกั ดิ์ พอกสงู เนิน ครูรว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พสิ ษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การจัดการเรยี นรู้แบบ On-Site ช่วงสถานการณโ์ ควดิ -19

2. ประเดน็ ปัญหำ/ส่ิงท่ตี อ้ งกำรพัฒนำ (เน้นท่หี อ้ งเรยี น)
การจัดการเรียนรตู้ ามปกติแบบ On-Site คือ การเรยี นในโรงเรียนพืน้ ท่ปี ลอดภยั ภายใตเ้ ง่ือนไขของ สบค.

จังหวัด สถานศึกษาสามารถจดั การเรยี นการสอนตามความเหมาะสมและบริบทของตัวเอง เหมาะสาหรับโรงเรียน
ประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษา ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ท่ีมีขนาดพื้นท่ีของโรงเรียนบริเวณกว้าง สามารถ
จัดการเรียนการสอนใหม้ กี ารเว้นระยะหา่ งทางสังคมได้อย่างสะดวกภายได้ชีวิตวิธใี หม่ ซ่ึงทางโรงเรียนบ้านโพนทัน
ได้เตรียมความพร้อมสาหรับการจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On-Site สลบั วันมาเรียน โดยแบ่งกล่มุ A และ กลุ่ม B
เพอื่ ปฏิบตั ติ ามมาตรการการป้องกันการแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรสั โควดิ -19 ในโรงเรยี น
3. สำเหตุของปัญหำ

การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ระลอกท่ี 3 ส่งผลให้เกิดความเส่ียงในสถานศึกษาหากมีการ
รวมกลุ่มกันเป็นจานวนมากของนักเรียนและคุณครู ทางโรงเรียนบ้านโพนทัน จึงได้จัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ

19

On -Site สลบั วันมาเรียน โดยแบง่ กลมุ่ A และ กลมุ่ B เพอื่ ปฏิบตั ติ ามมาตรการการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของเชื้อ
ไวรัสโควดิ -19 ในโรงเรียน
4. ควำมรแู้ ละหลักกำรทน่ี ำมำใช้

ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้เชงิ วิชาชีพรว่ มกันสะท้อนความคดิ ท้ังจดุ เด่น จุดด้อย ปัญหา-อปุ สรรค รวมทั้งแนะนา
วิธีการแก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On -Site สลับวันมาเรียน โดยแบ่งกลุ่ม A และ กลุ่ม B เพื่อ
ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรสั โควดิ -19 ในโรงเรยี น
5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ

ผู้สอนนาเสนอผลการปฏิบัติการ การจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On -Site สลับวันมาเรยี น โดยแบ่งกลุ่ม
A และ กลุ่ม B เพ่ือปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ในโรงเรียน จากน้ันครู
รว่ มเรยี นรู้ หัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ และผ้เู ชย่ี วชาญให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับจุดเดน่ จุดด้อย ปัญหาและอปุ สรรค รวมทั้งให้
คาแนะนาในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เมื่อส้ินสุดข้ันตอนการสะท้อนคิดแล้ว ผู้สอนบันทึกผลจากนั้น
ปรับปรงุ แผนการจัดกิจกรรม เพ่ือนาไปใชใ้ นการจดั กิจกรรมคร้ังต่อไป อีกท้ังการนากิจกรรมไปรว่ มใช้กบั นักเรียนชัน้
อน่ื ภายในโรงเรียน
6. ผลทีไ่ ด้รับจำกกิจกรรม

ผู้สอนได้รับความรู้และประสบการณ์การจัดการเรียนรู้ตามปกติแบบ On -Site สลับวันมาเรียน โดย
แบง่ กล่มุ A และ กลุ่ม B เพอ่ื ปฏิบตั ิตามมาตรการการป้องกนั การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ในโรงเรยี น ซ่ึง
เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรงุ พฒั นาการเรยี นการสอน และลดความเสีย่ งตามมาตรการการปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาด
ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สาคญั ผู้สอนได้เรียนรูแ้ นวคิด เทคนิควิธีในการจดั การเรียนการสอนท่ีแตกต่างจากเดิมเพ่ือ
วางแผนการรบั มือกับสถานการณต์ ่าง ๆ ที่จะเกดิ ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๗. กำรนำผลทีไ่ ด้ไปใช้

ผู้สอนสามารถนาความรู้และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ
ออกแบบกิจกรรม และสามารถนาการเรียนร้ทู ี่ได้รับจากการทาวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนไปใช้พัฒนาคุณภาพการ
จัดการเรียนรู้

เลกิ ประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชอ่ื ...................... ............. ....................... ผู้บนั ทกึ ลงชือ่ ผูเ้ ช่ียวชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวีนนั ท์)

ลงช่อื ลงชอ่ื ........................ .... ...........................ผูร้ บั รอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา กา้ นจักร์)

หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ ผ้อู านวยการโรงเรยี นบา้ นโพนทัน

20

บนั ทึกกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ กำรเรียนรทู้ ำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รักเดก็ อนบุ ำล”

โรงเรยี นบำ้ นโพนทนั ต.ดงครง่ั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชอ่ื กลุ่ม “รักเด็กอนุบำล”
คร้ังที่ ๗ ภำคเรียนที่ 1/256๓ วัน/เดือน/ปี 14 สิงหาคม 2563
เร่ิมดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสน้ิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำท้งั สน้ิ 2 ชั่วโมง
กจิ กรรมคร้ังนอี้ ยู่ควำมสอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำบทเรียนรว่ มกัน (Lesson study)

 ขั้นที่ 1 วเิ คราะหแ์ ละวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขนั้ ที่ 2 ปฏิบตั แิ ละสงั เกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้ันท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรบั ปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ีเ่ ขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายช่ือและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั นี้

ท่ี ช่อื -สกุล บทบำทหน้ำที่ ลำยมอื ชอื่

1. นางเณรัชรา ก้านจักร์ ผู้อานวยการโรงเรยี น

2. นางสายยนต์ ทวนี นั ท์ ผเู้ ชีย่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หน้างานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ท่ีปรึกษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทยี มจันทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสุรศักด์ิ พอกสงู เนิน ครรู ว่ มเรียนรู้

๙ นายณฐั พิสิษฐ์ ไชยคต ครรู ่วมเรยี นรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานกุ าร

1. งำน/กจิ กรรม การสง่ เสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มตน้ ท่ีตัวหนู”

2. ประเด็นปัญหำ/สง่ิ ที่ต้องกำรพัฒนำ (เน้นทหี่ ้องเรียน)
การตอบสนองความต้องการขัน้ พื้นฐาน และการสง่ เสรมิ พัฒนาการท่ดี ีในแตล่ ะด้าน จะทาให้เด็กน้นั เติบโต

เป็นผู้ใหญ่ท่ีมคี ุณภาพในอนาคต ซง่ึ พฒั นาการเด็กเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงหลายด้านผสมผสานกนั โดยพัฒนาการ
ทุกด้าน ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ล้วนมีความสาคัญต่อการเปล่ียนแปลงของพัฒนาการ
เช่น เด็กท่ีมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มักเคล่ือนไหวคล่องแคล่ว สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รู้จัก
ควบคุมอารมณ์ เขา้ กบั ผู้อื่นได้ดี และมีความสนใจเรียนร้สู ่ิงรอบตัว ในทางตรงกนั ข้ามเด็กท่ีมีสขุ ภาพไม่ดี มักประสบ
ปญั หาดา้ นการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายลา่ ช้า หรือหยดุ ชะงักชั่วขณะ อารมณ์หงุดหงิดง่าย มอี าการเศร้าซึม ปรบั ตัว
เข้ากับผู้อ่ืนได้ยาก และขาดสมาธิในการเรียนรู้ส่ิงต่าง การส่งเสริมพัฒนาการให้ถูกวิธี มีการจัดประสบการณ์ท่ี
หลากหลายทง้ั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน อนั จะช่วยใหเ้ ดก็ เกดิ การเจรญิ เตบิ โต และมีพัฒนาการอย่างเหมาะสม

21

ได้รับประสบการณ์ตรงจากสถานที่จริง สร้างสรรค์การเห็นคุณค่าของตนเอง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับ
ครอบครัวและสังคม ได้แลกเปลี่ยนความรรู้ ะหว่างครูผ้ดู ูแลเดก็ และผู้ปกครอง
3. สำเหตุของปญั หำ

การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยอย่างองค์รวมเพื่อให้มีสุขภาพร่างกาย -สุขภาพจิตใจที่สมบูรณ์
แข็งแรงตามวัย พรอ้ มตอ่ การเรยี นร้แู ละมีความสุขกับการร่วมทากจิ กรรมตา่ ง ๆในช้นั เรยี นและนอกห้องเรียน
4. ควำมรู้และหลักกำรทนี่ ำมำใช้

ครูร่วมเรียนรู้ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะแนวทางในการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริม
สุขภาพ “สุขภาพดีเร่ิมต้นที่ตัวหนู” ผ่านการลงมอื ปฏิบัตจิ ริงโดยจัดกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับวัยจากนั้น
ผเู้ ชย่ี วชาญ หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ และครรู ่วมเรยี นรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการจดั การเรียนรู้ เพือ่ ให้ผสู้ อน
หลกั นาไปปรบั ปรุงแผนการจดั การเรยี นใหเ้ หมาะสมมากยงิ่ ข้ึน
5. แนวทำงกำรแก้ปญั หำ

ผู้สอนหลัก ได้นาเสนอปัญหาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม PLC รับทราบ และนาเสนอแผนการปฏิบัติกิจกรรม
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการปฏิบัติกิจกรรม
เพือ่ ใหผ้ ู้สอนหลกั นาไปปรบั ปรงุ แผนการปฏิบตั ิกจิ กรรม ให้เหมาะสมมากยิง่ ขึน้
6. ผลท่ีไดร้ ับจำกกิจกรรม

ผู้สอนหลักมีแผนการปฏิบัติการดาเนินการกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ “สุขภาพดีเร่ิมต้นที่ตัวหนู” ผ่าน
การลงมือปฏิบัติจริงโดยจัดกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับวยั ได้รับการแก้ไขและพัฒนาตามข้อเสนอแนะของ
สมาชกิ ในกล่มุ PLC
๗. กำรนำผลทไี่ ด้ไปใช้

ครูสามารถนาแผนการปฏิบตั กิ ารดาเนนิ การเพ่อื ส่งเสรมิ สุขภาพ “สขุ ภาพดเี รม่ิ ต้นทีต่ วั หนู” ผ่านการลงมอื
ปฏิบัตจิ ริงโดยจัดกิจกรรมทห่ี ลากหลายเหมาะสมกบั วยั ไปปรบั ใชใ้ นระดบั ชั้นอ่ืน ๆ ภายในโรงเรียน และสามารถ
ประยุกตใ์ ช้กจิ กรรม “สขุ ภาพดเี ร่ิมต้นที่ตัวหนู” ในพฒั นาและปรับปรุงกิจกรรมกบั ปญั หาอื่น ๆ ทีม่ สี าเหตุของ
ปญั หาคล้ายคลงึ กันได้

เลกิ ประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชื่อ...................... ............. ....................... ผูบ้ ันทกึ ลงชอื่ ผู้เชีย่ วชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี ันท์)

ลงช่อื ลงชื่อ........................ .... ...........................ผรู้ บั รอง

(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา ก้านจกั ร์)
หัวหนา้ กลุม่ บริหารงานวิชาการ ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นโพนทนั

22

บนั ทึกกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ กำรเรียนรูท้ ำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รกั เดก็ อนุบำล”

โรงเรยี นบำ้ นโพนทัน ต.ดงคร่งั ใหญ่ อ.เกษตรวิสัย

ชอ่ื กลุ่ม “รักเด็กอนุบำล”
คร้ังที่ ๘ ภำคเรยี นที่ 1/256๓ วัน/เดือน/ปี ๒๑ สงิ หาคม 2563
เร่ิมดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสน้ิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทั้งสิ้น 2 ชวั่ โมง
กจิ กรรมคร้ังนอี้ ยู่ควำมสอดคลอ้ งกับกำรพฒั นำบทเรยี นรว่ มกัน (Lesson study)

 ขั้นที่ 1 วเิ คราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขนั้ ที่ 2 ปฏิบตั แิ ละสงั เกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้ันท่ี 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ีเ่ ขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายชื่อและบทบาทต่อกิจกรรม ดังน้ี

ท่ี ชื่อ-สกุล บทบำทหน้ำท่ี ลำยมอื ชอื่

1. นางเณรัชรา ก้านจักร์ ผู้อานวยการโรงเรยี น

2. นางสายยนต์ ทวนี นั ท์ ผู้เชีย่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสุวรรณ หวั หน้างานวชิ าการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทีป่ รึกษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทยี มจันทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณัฐฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครูร่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวิเศษ ครูรว่ มเรียนรู้

๘ นายสรุ ศักด์ิ พอกสงู เนิน ครูรว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พิสิษฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรยี นรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานุการ

1. งำน/กิจกรรม การสง่ เสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเรม่ิ ตน้ ทต่ี ัวหนู”

2. ประเด็นปัญหำ/สง่ิ ทีต่ อ้ งกำรพัฒนำ (เน้นทหี่ อ้ งเรียน)
การตอบสนองความต้องการขัน้ พื้นฐาน และการสง่ เสริมพัฒนาการที่ดีในแต่ละด้าน จะทาใหเ้ ด็กนน้ั เตบิ โต

เป็นผู้ใหญ่ท่ีมคี ุณภาพในอนาคต ซง่ึ พฒั นาการเด็กเกิดจากการเปล่ียนแปลงหลายด้านผสมผสานกนั โดยพัฒนาการ
ทุกด้าน ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ล้วนมีความสาคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการ
เช่น เด็กท่ีมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มักเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รู้จัก
ควบคุมอารมณ์ เขา้ กบั ผู้อ่ืนไดด้ ี และมีความสนใจเรยี นรู้ส่งิ รอบตัว ในทางตรงกนั ขา้ มเดก็ ท่ีมสี ุขภาพไมด่ ี มักประสบ
ปญั หาดา้ นการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายลา่ ช้า หรือหยดุ ชะงักชั่วขณะ อารมณ์หงดุ หงดิ งา่ ย มอี าการเศรา้ ซึม ปรบั ตัว
เข้ากับผู้อื่นได้ยาก และขาดสมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง การส่งเสริมพัฒนาการให้ถูกวิธี มีการจัดประสบการณ์ท่ี
หลากหลายท้ังในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน อันจะช่วยใหเ้ ด็กเกิดการเจรญิ เตบิ โต และมีพัฒนาการอยา่ งเหมาะสม

23

ได้รับประสบการณ์ตรงจากสถานท่ีจริง สร้างสรรค์การเห็นคุณค่าของตนเอง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับ
ครอบครัวและสงั คม ไดแ้ ลกเปล่ยี นความรรู้ ะหวา่ งครผู ดู้ แู ลเดก็ และผูป้ กครอง
3. สำเหตขุ องปัญหำ

การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยอย่างองค์รวมเพ่ือให้มีสุขภาพร่างกาย -สุขภาพจิตใจที่สมบูรณ์
แข็งแรงตามวัย พรอ้ มตอ่ การเรยี นร้แู ละมีความสุขกับการรว่ มทากจิ กรรมต่าง ๆในช้นั เรยี นและนอกห้องเรยี น
4. ควำมร้แู ละหลกั กำรทน่ี ำมำใช้

การจัดกิจกรรมเพ่ือสง่ เสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเริม่ ต้นที่ตัวหนู” ผา่ นการลงมือปฏิบตั ิจรงิ โดยจัดกิจกรรมท่ี
หลากหลายเหมาะสมกับวยั บรู ณาการกับกิจกรรมหลกั 6 กจิ กรรม ดังนี้ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ กิจกรรมเสรมิ
ประสบการณ์ กจิ กรรมเกมการศึกษา กจิ กรรมกลางแจ้ง กจิ กรรมเสรี กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ
5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ

นาการจัดกิจกรรมเพ่อื สง่ เสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มต้นท่ีตวั หนู” ผา่ นการลงมอื ปฏบิ ตั จิ ริงโดยจดั กจิ กรรม
ท่ีหลากหลายเหมาะสมกับวัย บูรณาการกับกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม มาแก้ไขปรับปรุงตามคาแนะนาของครูร่วม
เรียนรู้ ผู้เชยี่ วชาญ และครผู ูส้ อนหลัก นามาใชใ้ นการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมเดก็ ปฐมวยั โดยมชี ุมชนแห่งการเรยี นรู้
เชิงวชิ าชพี ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งกิจกรรมมีข้ันตอนสาคัญในการจดั กิจกรรม คือ มีการอธิบายความรู้ การทดลองทา
กจิ กรรม การลงมือปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
6. ผลที่ได้รบั จำกกจิ กรรม

ผสู้ อนหลักมีแผนการปฏบิ ัติการดาเนินการ การจดั กิจกรรมเพ่อื ส่งเสรมิ สุขภาพ “สขุ ภาพดีเรม่ิ ต้นทีต่ ัวหนู”
ผ่านการลงมือปฏบิ ัตจิ ริงโดยจัดกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับวัย บรู ณาการกับกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมไดร้ ับ
การแกไ้ ขและพัฒนาตามขอ้ เสนอแนะของสมาชิกในกลมุ่ PLC

นักเรียนได้รับการจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการอย่างองค์รวม มีสุขภาพร่างกาย-สุขภาพจิตท่ี
สมบูรณแ์ ขง็ แรง พรอ้ มตอ่ การเรยี นรใู้ นระดบั ชน้ั ต่อไป
๗. กำรนำผลท่ีได้ไปใช้

ผูส้ อนหลกั และสมาชิกในกลุ่ม PLC สามารถนาผลการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ “สุขภาพดีเร่ิมต้นที่
ตัวหนู” มาอภิปรายเพื่อแลกเปล่ียนความคดิ โดยมีครูผู้สอนหลักเป็นผู้สะท้อนความคิดเก่ียวกับความสาเร็จ จดุ เด่น
และจุดที่ตอ้ งพฒั นาในการจัดการกจิ กรรมสง่ เสริมเดก็ ปฐมวยั ให้เหมาะสมตามพัฒนาการตอ่ ไป

เลิกประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงชอื่ ...................... ............. ....................... ผบู้ นั ทึก ลงช่อื ผเู้ ช่ียวชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวีนันท์)

ลงชอื่ ลงชื่อ........................ .... ...........................ผู้รบั รอง
(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรัชรา ก้านจกั ร์)
หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นโพนทนั

24

บนั ทึกกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ กำรเรียนรูท้ ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รกั เดก็ อนุบำล”

โรงเรยี นบำ้ นโพนทัน ต.ดงคร่งั ใหญ่ อ.เกษตรวิสัย

ชอ่ื กลุ่ม “รักเด็กอนุบำล”
คร้ังที่ ๙ ภำคเรียนที่ 1/256๓ วัน/เดือน/ปี ๒๘ สงิ หาคม 2563
เร่ิมดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสน้ิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทง้ั สน้ิ 2 ชัว่ โมง
กจิ กรรมคร้ังนอี้ ยู่ควำมสอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำบทเรยี นรว่ มกนั (Lesson study)

 ขั้นที่ 1 วเิ คราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขนั้ ที่ 2 ปฏิบตั ิและสงั เกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้ันท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรบั ปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ีเ่ ขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายช่ือและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั นี้

ท่ี ชือ่ -สกุล บทบำทหน้ำที่ ลำยมอื ชื่อ

1. นางเณรัชรา กา้ นจักร์ ผู้อานวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวีนนั ท์ ผู้เชีย่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หัวหน้างานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทีป่ รึกษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทยี มจันทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณัฐฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครูร่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครูรว่ มเรียนรู้

๘ นายสุรศักด์ิ พอกสงู เนิน ครูรว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พิสิษฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานกุ าร

1. งำน/กจิ กรรม การส่งเสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มตน้ ทต่ี ัวหนู”

2. ประเด็นปัญหำ/สง่ิ ทีต่ อ้ งกำรพัฒนำ (เน้นทหี่ ้องเรียน)
การตอบสนองความต้องการขัน้ พื้นฐาน และการสง่ เสรมิ พัฒนาการท่ดี ีในแต่ละด้าน จะทาให้เด็กนนั้ เตบิ โต

เป็นผู้ใหญ่ท่ีมคี ุณภาพในอนาคต ซง่ึ พฒั นาการเด็กเกิดจากการเปลย่ี นแปลงหลายด้านผสมผสานกัน โดยพัฒนาการ
ทุกด้าน ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ล้วนมีความสาคัญต่อการเปล่ียนแปลงของพัฒนาการ
เช่น เด็กท่ีมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มักเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รู้จัก
ควบคุมอารมณ์ เขา้ กบั ผู้อื่นได้ดี และมีความสนใจเรยี นรู้ส่งิ รอบตัว ในทางตรงกันข้ามเดก็ ท่ีมสี ขุ ภาพไมด่ ี มักประสบ
ปญั หาดา้ นการเจรญิ เติบโตของร่างกายล่าช้า หรือหยุดชะงักชั่วขณะ อารมณ์หงุดหงิดงา่ ย มีอาการเศรา้ ซึม ปรับตัว
เข้ากับผู้อ่ืนได้ยาก และขาดสมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง การส่งเสริมพัฒนาการให้ถูกวิธี มีการจัดประสบการณ์ท่ี
หลากหลายทง้ั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน อนั จะชว่ ยใหเ้ ด็กเกดิ การเจรญิ เตบิ โต และมพี ัฒนาการอย่างเหมาะสม

25

ได้รับประสบการณ์ตรงจากสถานที่จริง สร้างสรรค์การเห็นคุณค่าของตนเอง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับ
ครอบครัวและสังคม ได้แลกเปล่ยี นความรู้ระหวา่ งครผู ู้ดูแลเด็กและผู้ปกครอง
3. สำเหตุของปัญหำ

การ ส่งเสริมพัฒน าการของเด็กปฐมวัยอย่างอง ค์รวมเพื่อให้มีสุขภาพ ร่าง กาย -สุขภาพ จิตใจที่สมบูร ณ์
แข็งแรงตามวยั พรอ้ มต่อการเรยี นรู้และมคี วามสขุ กับการร่วมทากิจกรรมตา่ ง ๆในชน้ั เรียนและนอกห้องเรยี น
4. ควำมรู้และหลกั กำรที่นำมำใช้

ชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชพี ร่วมกนั สะท้อนความคิดทง้ั จดุ เด่น จุดดอ้ ย ปญั หา-อปุ สรรค รวมท้งั แนะนา
วธิ ีการแก้ปัญหาในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มต้นท่ีตัวหนู” ผ่านการลงมือปฏิบตั ิจริงโดยจัด
กิจกรรมท่ีหลากหลายเหมาะสมกับวัย บูรณาการกับกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรม
เสริมประสบการณ์ กจิ กรรมเกมการศึกษา กิจกรรมกลางแจง้ กจิ กรรมเสรี กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ
5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ

ผสู้ อนนาเสนอผลการปฏิบัติการ การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มต้นท่ีตัวหนู” จากนั้น
ครรู ่วมเรียนรู้ หวั หนา้ กล่มุ สาระฯ และผเู้ ชยี่ วชาญใหข้ ้อคิดเห็นเก่ียวกบั จุดเด่น จดุ ด้อย ปัญหาและอุปสรรค รวมทั้ง
ให้คาแนะนาในการพัฒนาการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เมอื่ ส้ินสดุ ขั้นตอนการสะท้อนคดิ แล้ว ผู้สอนบันทึกผลจากน้ัน
ปรับปรุงแผนการจัดกจิ กรรม เพือ่ นาไปใชใ้ นการจัดกิจกรรมคร้งั ต่อไป อีกท้งั การนากิจกรรมไปร่วมใชก้ บั นกั เรยี นช้ัน
อืน่ ภายในโรงเรยี น
6. ผลท่ีได้รบั จำกกิจกรรม

ผูส้ อนไดร้ บั ความรู้และประสบการณก์ ารจัดกิจกรรมเพือ่ ส่งเสรมิ สขุ ภาพ “สขุ ภาพดเี ริ่มตน้ ที่ตัวหนู” ซึ่งเป็น
ประโยชน์ต่อการปรับปรุงพัฒนาการเรียน ได้เรียนรู้เทคนิควิธีในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
อย่างองคร์ วมต่อไป
๗. กำรนำผลท่ีไดไ้ ปใช้

ผู้สอนสามารถนาความรู้และประสบการณ์ท่ีได้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ
ออกแบบกิจกรรม และสามารถนาการเรียนรู้ท่ีได้รบั จากการทาวิจัยปฏิบตั ิการในชั้นเรียนไปใช้พัฒนาคุณภาพการ
จัดการเรยี นรู้

เลกิ ประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงช่ือ...................... ............. ....................... ผู้บนั ทึก ลงช่ือ ผ้เู ชี่ยวชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี ันท์)

ลงชอ่ื ลงชอื่ ........................ .... ...........................ผรู้ บั รอง
(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา ก้านจกั ร์)
หวั หน้ากล่มุ บริหารงานวิชาการ
ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทัน

26

บนั ทกึ กิจกรรมชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รักเดก็ อนบุ ำล”

โรงเรียนบำ้ นโพนทัน ต.ดงคร่ังใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชอื่ กลมุ่ “รกั เดก็ อนุบำล”
ครัง้ ท่ี ๑๐ ภำคเรยี นที่ 1/256๓ วัน/เดอื น/ปี 4 กันยายน 2563
เร่ิมดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสิ้นเวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำท้งั สิ้น 2 ชัว่ โมง
กจิ กรรมครั้งน้ีอยคู่ วำมสอดคล้องกับกำรพัฒนำบทเรยี นร่วมกัน (Lesson study)

 ขัน้ ท่ี 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขัน้ ท่ี 2 ปฏบิ ตั ิและสงั เกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ขน้ั ที่ 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู ีเ่ ข้ำรว่ มกจิ กรรม 10 คน โดยมีรายชื่อและบทบาทตอ่ กิจกรรม ดงั น้ี

ท่ี ชอื่ -สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมอื ชอ่ื

1. นางเณรัชรา ก้านจกั ร์ ผ้อู านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผู้เชย่ี วชาญ

3. นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ หัวหนา้ งานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทปี่ รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารตั น์ เทียมจนั ทร์ ครรู ว่ มเรียนรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครูร่วมเรยี นรู้

๗ นายชนาธิป สายวเิ ศษ ครูร่วมเรยี นรู้

๘ นายสรุ ศกั ดิ์ พอกสงู เนิน ครรู ว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พสิ ิษฐ์ ไชยคต ครูร่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานุการ

1. งำน/กจิ กรรม โยคะนิทานสาหรับเดก็ ปฐมวยั

2. ประเด็นปญั หำ/ส่งิ ทต่ี ้องกำรพฒั นำ (เน้นทห่ี ้องเรียน)
เด็กปฐมวัยจัดอยู่ในช่วงระยะที่มีพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา จึงเป็น

จงั หวะที่ดีในการเสริมสร้างพฒั นาการเดก็ เพ่อื วางรากฐานของการพฒั นาความเจริญเตบิ โตทกุ ดา้ น โดยเฉพาะด้าน

สมอง ซึ่งเติบโตและพัฒนาเร็วท่ีสุด การอบรมดูแลในช่วงนี้มีผลต่อคุณภาพของคนตลอดชีวิต ผู้ที่เก่ียวข้องกับ
เด็ก คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแล ควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กปฐมวัย มีแนวทางหลักการท่ี

ชดั เจนท่จี ะนาไปใช้ในการพัฒนาเด็กปฐมวัย สง่ เสริมพัฒนาการท้งั ดา้ นร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสตปิ ัญญา
ให้แข็งแกร่ง เพ่ือเป็นรากฐานของการพัฒนาไปสู่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์พร้อมเป็นคนดี คนเก่ง ที่มี
ความสขุ มีคุณภาพชวี ิตทดี่ ี สาหรบั ผปู้ กครองและคณุ ครู เมือ่ นาเด็กในความดูแลฝกึ โยคะมีสว่ นหน่งึ ในโปรแกรมการ

ฝึกท่ีเด็ก ๆจะต้องเรยี นรู้ คอื การมีระเบยี บวนิ ยั ซ่ึงเป็นการช่วยวางรากฐานให้ชวี ิต จากการศึกษาเชื่อว่าเด็ก ๆตอ้ ง
ใช้การแสดงท่าทาง ประกอบการเรียนการสอน เพ่ือให้เขาเกิดความต้ังใจมากข้ึน เด็ก ๆสามารถเรียนรู้ผ่านการ

27

ฝึกฝนเป็นรายคน หรือรายกลุ่มได้ดีพอๆกัน มีการออกกาลังกายโดยการฝึกโยคะจะช่วยให้เขาได้รับคุณสมบัติที่ดี
รวมไปถงึ การรับรู้ถึงความอ่อนโยน การมีวนิ ัยในตนเอง การทรงตัว การพ่ึงพาตนเอง และความเคารพในตวั เอง
3. สำเหตุของปัญหำ

โยคะถือเป็นการออกกาลังกายในอีกรูปแบบหนึ่งท่ีช่วยเสริมสร้างร่างกายเด็กให้แข็งแรง ช่วยการ
เจริญเติบโตของกระดูกและกลา้ มเนือ้ ทาให้กล้ามเนอ้ื มคี วามยืดเหยียด มีความอ่อนตวั (Flexibility) รวมถงึ ช่วยฝึก
การทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน เมื่อนามาผสมผสานกับนิทานแล้วจะทาให้เด็ก
สนกุ สนานและมีจินตนาการตามเน้อื เร่อื งนทิ านด้วย
4. ควำมรู้และหลกั กำรท่ีนำมำใช้

ครรู ว่ มเรียนรู้ หวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ และครูผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะแนวทางในการจดั โครงการโยคะนทิ าน
เพื่อส่งเสริมพฒั นาการเด็กปฐมวัย จากนนั้ ผูเ้ ช่ยี วชาญ หวั หน้ากล่มุ สาระฯ และครูรว่ มเรยี นรู้ เสนอแนะแนวทางการ
พฒั นาแผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื ใหผ้ สู้ อนหลกั นาไปปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรียนใหเ้ หมาะสมมากย่งิ ขน้ึ
5. แนวทำงกำรแกป้ ญั หำ

ผู้สอนหลัก ได้นาเสนอปัญหาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม PLC รับทราบ และนาเสนอแผนการปฏิบัติกิจกรรม
จากนั้นผู้เช่ียวชาญ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทางการพัฒนาแผนการปฏิบัติกิจกรรม
เพือ่ ให้ผู้สอนหลกั นาไปปรบั ปรุงแผนการปฏิบัตกิ ิจกรรม ให้เหมาะสมมากยง่ิ ขน้ึ
6. ผลที่ได้รบั จำกกิจกรรม

ผู้สอนหลักมีแผนการปฏิบัติการดาเนินการโครงการโยคะนิทานสาหรับเด็กปฐมวัย ได้รับการแก้ไขและ
พัฒนาตามขอ้ เสนอแนะของสมาชกิ ในกลมุ่ PLC
๗. กำรนำผลทีไ่ ด้ไปใช้

ครูสามารถนาแผนการปฏิบตั ิการดาเนนิ การโครงการโบคะนทิ านสาหรบั เด็กปฐมวัย ไปปรับใชใ้ นระดบั ช้ัน
อ่ืน ๆ ภายในโรงเรียน และสามารถประยกุ ต์ใช้โครงการโยคะนทิ านในพฒั นาและปรบั ปรุงกจิ กรรมกับปัญหาอน่ื ๆ
ท่มี สี าเหตุของปญั หาคล้ายคลึงกนั ได้

เลิกประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงชอื่ ...................... ............. ....................... ผบู้ ันทกึ ลงชอ่ื ผู้เชยี่ วชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี นั ท์)

ลงชื่อ ลงชือ่ ........................ .... ...........................ผรู้ ับรอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ) (นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์)
หัวหนา้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านโพนทนั

28

บนั ทกึ กิจกรรมชมุ ชนแห่งกำรเรยี นร้ทู ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กล่มุ “รักเดก็ อนุบำล”

โรงเรยี นบ้ำนโพนทัน ต.ดงครง่ั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชอ่ื กลุม่ “รักเด็กอนบุ ำล”
คร้งั ที่ ๑๑ ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วัน/เดอื น/ปี ๑๑ กนั ยายน 2563
เร่ิมดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ ส้นิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทง้ั สน้ิ 2 ช่วั โมง
กิจกรรมครั้งนอี้ ย่คู วำมสอดคล้องกับกำรพัฒนำบทเรียนร่วมกนั (Lesson study)

 ขนั้ ที่ 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขัน้ ท่ี 2 ปฏบิ ตั แิ ละสังเกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้นั ท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรับปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู เี่ ข้ำรว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมีรายช่ือและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั นี้

ท่ี ชอื่ -สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมอื ชอื่

1. นางเณรชั รา กา้ นจักร์ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

2. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผ้เู ชี่ยวชาญ

3. นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ หัวหนา้ งานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทีป่ รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารตั น์ เทยี มจนั ทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสุรศักด์ิ พอกสงู เนนิ ครูร่วมเรยี นรู้

๙ นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานุการ

1. งำน/กจิ กรรม โยคะนิทานสาหรบั เดก็ ปฐมวยั

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิง่ ท่ตี ้องกำรพัฒนำ (เน้นท่ีหอ้ งเรยี น)
เด็กปฐมวัยจัดอยู่ในช่วงระยะท่ีมีพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา จึงเป็น

จังหวะท่ีดีในการเสริมสรา้ งพฒั นาการเดก็ เพอื่ วางรากฐานของการพัฒนาความเจริญเตบิ โตทุกดา้ น โดยเฉพาะด้าน

สมอง ซึ่งเติบโตและพัฒนาเร็วท่ีสุด การอบรมดูแลในช่วงนี้มีผลต่อคุณภาพของคนตลอดชีวิต ผู้ท่ีเก่ียวข้องกับ
เด็ก คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแล ควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กปฐมวัย มีแนวทางหลักการท่ี

ชดั เจนที่จะนาไปใชใ้ นการพัฒนาเด็กปฐมวัย ส่งเสริมพัฒนาการท้ังด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สงั คมและสตปิ ัญญา
ให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาไปสู่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ท่ีมีความสมบูรณ์พร้อมเป็นคนดี คนเก่ง ที่มี
ความสุข มีคุณภาพชวี ิตทดี่ ี สาหรบั ผู้ปกครองและคณุ ครู เม่ือนาเด็กในความดูแลฝกึ โยคะมีสว่ นหนงึ่ ในโปรแกรมการ

ฝึกที่เด็ก ๆจะต้องเรยี นรู้ คอื การมีระเบยี บวนิ ยั ซึ่งเป็นการช่วยวางรากฐานให้ชวี ติ จากการศึกษาเช่ือวา่ เด็ก ๆต้อง
ใช้การแสดงท่าทาง ประกอบการเรียนการสอน เพื่อให้เขาเกิดความตั้งใจมากข้ึน เด็ก ๆสามารถเรียนรู้ผ่านการ

29

ฝึกฝนเป็นรายคน หรือรายกลุ่มได้ดีพอๆกัน มีการออกกาลังกายโดยการฝึกโยคะจะช่วยให้เขาได้รับคุณสมบัติที่ดี
รวมไปถึงการรบั รู้ถึงความออ่ นโยน การมวี นิ ัยในตนเอง การทรงตวั การพงึ่ พาตนเอง และความเคารพในตวั เอง
3. สำเหตขุ องปัญหำ

โยคะถือเป็นการออกกาลังกายในอีกรูปแบบหน่ึงที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายเด็กให้แข็งแรง ช่วยการ
เจริญเติบโตของกระดกู และกลา้ มเน้ือ ทาให้กล้ามเนื้อมคี วามยดื เหยียด มีความออ่ นตวั (Flexibility) รวมถงึ ช่วยฝึก
การทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน เมื่อนามาผสมผสานกับนิทานแล้วจะทาให้เด็ก
สนุกสนานและมีจนิ ตนาการตามเนอื้ เรื่องนทิ านดว้ ย
4. ควำมรูแ้ ละหลกั กำรท่นี ำมำใช้

โยคะนทิ าน จะเป็นการให้เด็กได้เคลอื่ นไหวสว่ นตา่ ง ๆของร่างกายโดยการเลน่ โยคะอยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อ
สง่ เสรมิ พฒั นาการท้งั 4 ด้าน คือ ด้านรา่ งกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ให้เหมาะสมกับวัย
ของเด็กปฐมวยั ซึ่งในกจิ กรรมสอดแทรกกบั นิทานทเี่ ด็กชอบ และมีเนือ้ เรอ่ื งที่สนกุ สนาน โดยทางผู้รับผดิ ชอบ
โครงการจะเลือกทา่ โยคะที่เหมาะสมกับเดก็ ปฐมวัย และผ้ปู กครองสามารถนาไปฝึกปฏบิ ัตกิ ับเด็กได้งา่ ย กจิ กรรมนี้
สามารถประยกุ ต์ใช้กบั เด็กปฐมวัยไดอ้ ย่างหลากหลายตามความสนใจและความตอ้ งการของผู้ปกครอง
การฝึกโยคะสาหรับเด็กจะแตกตา่ งจากโยคะผใู้ หญต่ รงทจี่ ะมุง่ เนน้ ไปในการทาท่าที่ไม่เข้มงวด ไม่สลับซบั ซอ้ น และ
เนน้ ฝึกเพียงไมก่ ท่ี า่ พ้นื ฐานทเี่ ด็กสามารถทาได้ ซ่ึงผู้เขยี นมที ่าโยคะเบ้ืองต้นงา่ ย ๆ สาหรับเดก็ ดงั นี้

1.ฝกึ การหายใจเขา้ ออกและการทาสมาธิ
2.อบอน่ รา่ งกายโดยการยืด เหยยี ดส่วนตา่ ง ๆของร่างกาย
3.การทาท่าโยคะโดยผสมผสานกับนทิ าน เช่น ท่างู ท่าแมว ทา่ ยงิ ธนู ทา่ สงิ โต ท่าผเี สอ้ื เป็นต้น
4.การพกั คลายกล้ามเนอ้ื โดยการนอนในทา่ สบายเปิดเพลงเบา ๆ หรอื ยดื เหยียดร่างกาย
5. แนวทำงกำรแกป้ ัญหำ
นาการจัดกจิ กรรมโยคะนิทาน มาแกไ้ ขปรับปรุงตามคาแนะนาของครูร่วมเรยี นรู้ ผเู้ ช่ียวชาญ และครผู สู้ อน
หลัก นามาใช้ในการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมเด็กปฐมวัย โดยมีชมุ ชนแห่งการเรยี นรเู้ ชิงวิชาชีพร่วมสังเกตการณ์ ซ่ึง
กิจกรรมมีขั้นตอนสาคัญในการจัดกิจกรรม คือ มีการอธิบายความรู้ การทดลองทากิจกรรม การลงมือปฏิ บัติ
กจิ กรรม
6. ผลท่ไี ดร้ ับจำกกิจกรรม
ผู้สอนหลักมีแผนการปฏบิ ตั ิการดาเนินการ การจัดกิจกรรมโยคะนิทาน กิจกรรมไดร้ ับการแก้ไขและพัฒนา
ตามข้อเสนอแนะของสมาชิกในกลุ่ม PLC
เดก็ ได้เคล่อื นไหวสว่ นต่าง ๆของรา่ งกายผา่ นการเล่นโยคะสาหรบั เดก็ ปฐมวยั
เด็กได้ยดื หยนุ่ กลา้ มเนื้อในการเล่นโยคะ
เดก็ สนกุ สนานกบั การรว่ มกิจกรรมโยคะนทิ านและสร้างจนิ ตนาการผ่านเนื้อเรื่องนทิ าน
๗. กำรนำผลที่ไดไ้ ปใช้
ผูส้ อนหลกั และสมาชกิ ในกลมุ่ PLC สามารถนาผลการจดั กิจกรรมโยคะนทิ าน มาอภิปรายเพ่ือแลกเปล่ียน
ความคดิ โดยมีครูผู้สอนหลักเป็นผสู้ ะท้อนความคิดเกยี่ วกับความสาเรจ็ จดุ เด่นและจดุ ที่ตอ้ งพฒั นาในการจัดการ
กิจกรรมส่งเสริมเดก็ ปฐมวยั ใหเ้ หมาะสมตามพฒั นาการตอ่ ไป

30

เลกิ ประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงชอื่ ...................... ............. ....................... ผบู้ นั ทึก ลงชื่อ ผูเ้ ชี่ยวชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวีนันท์)

ลงชื่อ ลงช่อื ........................ .... ...........................ผู้รบั รอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ) (นางเณรชั รา ก้านจักร์)
หัวหนา้ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทนั

31

บนั ทกึ กิจกรรมชมุ ชนแห่งกำรเรียนร้ทู ำงวชิ ำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กล่มุ “รักเดก็ อนุบำล”

โรงเรียนบ้ำนโพนทนั ต.ดงครง่ั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ชอ่ื กลุม่ “รักเด็กอนบุ ำล”
คร้งั ที่ ๑๒ ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วนั /เดอื น/ปี ๑๘ กันยายน 2563
เร่ิมดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ ส้นิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทงั้ สน้ิ 2 ช่วั โมง
กิจกรรมครั้งนอี้ ย่คู วำมสอดคล้องกับกำรพัฒนำบทเรียนร่วมกนั (Lesson study)

 ขนั้ ที่ 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขัน้ ท่ี 2 ปฏบิ ตั แิ ละสังเกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้นั ท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครทู เี่ ข้ำรว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมรี ายช่ือและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั น้ี

ท่ี ชือ่ -สกลุ บทบำทหนำ้ ท่ี ลำยมือชอื่

1. นางเณรชั รา กา้ นจักร์ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

2. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผ้เู ช่ียวชาญ

3. นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ หัวหนา้ งานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทีป่ รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารตั น์ เทยี มจนั ทร์ ครรู ว่ มเรยี นรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรียนรู้

๗ นายชนาธปิ สายวเิ ศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสุรศักด์ิ พอกสงู เนนิ ครูร่วมเรยี นรู้

๙ นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลัก/เลขานกุ าร

1. งำน/กจิ กรรม โยคะนิทานสาหรบั เดก็ ปฐมวยั

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิง่ ท่ตี ้องกำรพัฒนำ (เน้นท่ีหอ้ งเรยี น)
เด็กปฐมวัยจัดอยู่ในช่วงระยะท่ีมีพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา จึงเป็น

จังหวะท่ีดีในการเสริมสรา้ งพฒั นาการเดก็ เพอ่ื วางรากฐานของการพัฒนาความเจริญเตบิ โตทกุ ดา้ น โดยเฉพาะด้าน

สมอง ซึ่งเติบโตและพัฒนาเร็วท่ีสุด การอบรมดูแลในช่วงนี้มีผลต่อคุณภาพของคนตลอดชีวิต ผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับ
เด็ก คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแล ควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กปฐมวัย มีแนวทางหลักการท่ี

ชดั เจนที่จะนาไปใชใ้ นการพัฒนาเด็กปฐมวัย สง่ เสริมพัฒนาการท้ังดา้ นร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สงั คมและสตปิ ัญญา
ให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาไปสู่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ท่ีมีความสมบูรณ์พร้อมเป็นคนดี คนเก่ง ที่มี
ความสุข มีคุณภาพชวี ิตทดี่ ี สาหรบั ผปู้ กครองและคุณครู เม่ือนาเด็กในความดูแลฝึกโยคะมีสว่ นหนงึ่ ในโปรแกรมการ

ฝึกที่เด็ก ๆจะต้องเรยี นรู้ คอื การมีระเบยี บวินัย ซึ่งเป็นการช่วยวางรากฐานให้ชวี ิต จากการศึกษาเช่ือว่าเด็ก ๆต้อง
ใช้การแสดงท่าทาง ประกอบการเรียนการสอน เพื่อให้เขาเกิดความต้ังใจมากข้ึน เด็ก ๆสามารถเรียนรู้ผ่านการ

32

ฝึกฝนเป็นรายคน หรือรายกลุ่มได้ดีพอๆกัน มีการออกกาลังกายโดยการฝึกโยคะจะช่วยให้เขาได้รับคุณสมบัติที่ดี
รวมไปถึงการรับรู้ถึงความออ่ นโยน การมวี ินัยในตนเอง การทรงตัว การพึง่ พาตนเอง และความเคารพในตวั เอง
3. สำเหตุของปญั หำ

โยคะถือเป็นการออกกาลังกายในอีกรูปแบบหน่ึงท่ีช่วยเสริมสร้างร่างกายเด็กให้แข็งแรง ช่วยการ
เจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนือ้ ทาให้กลา้ มเนอื้ มีความยืดเหยียด มีความออ่ นตวั (Flexibility) รวมถึงช่วยฝึก
การทรงตัว ส่งผลให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสัมพันธ์กัน เมื่อนามาผสมผสานกับนิทานแล้วจะทาให้เด็ก
สนุกสนานและมจี ินตนาการตามเนอ้ื เร่ืองนิทานด้วย
4. ควำมรแู้ ละหลกั กำรท่ีนำมำใช้

ชุมชนแห่งการเรยี นรูเ้ ชงิ วิชาชีพร่วมกันสะท้อนความคิดทัง้ จุดเด่น จุดดอ้ ย ปัญหา-อุปสรรค รวมทง้ั แนะนา
วิธกี ารแกป้ ัญหาในการจดั กจิ กรรมโยคะนิทาน
5. แนวทำงกำรแก้ปญั หำ

ผูส้ อนนาเสนอผลการปฏิบัตกิ าร การกิจกรรมโยคะนทิ าน จากน้ันครูรว่ มเรียนรู้ หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ และ
ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อคิดเห็นเก่ียวกับจุดเด่น จุดด้อย ปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งให้คาแนะนาในการพัฒนาการจัด
กจิ กรรมการเรียนรู้ เมอ่ื สนิ้ สุดขัน้ ตอนการสะท้อนคิดแล้ว ผู้สอนบนั ทกึ ผลจากนนั้ ปรับปรุงแผนการจัดกจิ กรรม เพ่ือ
นาไปใช้ในการจัดกิจกรรมครง้ั ต่อไป อกี ทัง้ การนากจิ กรรมไปร่วมใชก้ บั นกั เรยี นช้นั อนื่ ภายในโรงเรียน
6. ผลทไี่ ดร้ ับจำกกจิ กรรม

ผู้สอนได้รับความรู้และประสบการณ์การจัดกิจกรรมโยคะนิทาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุง
พฒั นาการเรียนการ ไดเ้ รยี นรู้เทคนิควธิ ีในการจดั การเรียนการสอนเพอ่ื พฒั นาเด็กปฐมวยั อย่างองคร์ วม และต่อยอด
ในการจดั ทาโครงการโยคะนทิ านสาหรบั เด็กปฐมวัยตอ่ ไป
๗. กำรนำผลทีไ่ ดไ้ ปใช้

ผู้สอนสามารถนาความรู้และประสบการณท์ ไี่ ด้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนร้ไู ปประยุกต์ใชใ้ นการ
ออกแบบกจิ กรรม และสามารถนาการเรียนรู้ที่ได้รับจากการทาโครงการไปใชพ้ ฒั นาคณุ ภาพการจดั การเรยี นรู้ต่อไป

เลิกประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชอื่ ...................... ............. ....................... ผูบ้ ันทกึ ลงชื่อ ผ้เู ชีย่ วชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี ันท์)

ลงช่อื ลงช่อื ........................ .... ...........................ผรู้ ับรอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา ก้านจักร์)
หัวหน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทัน

33

บนั ทกึ กิจกรรมชุมชนแหง่ กำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชีพ (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รักเดก็ อนบุ ำล”

โรงเรียนบำ้ นโพนทัน ต.ดงครง่ั ใหญ่ อ.เกษตรวิสัย

ชื่อกลุ่ม “รักเดก็ อนุบำล”
คร้ังท่ี ๑๓ ภำคเรยี นท่ี 1/256๓ วนั /เดอื น/ปี ๒๕ กันยายน 2563
เรม่ิ ดำเนินกำรเวลำ 1๕.๓0น. เสร็จสน้ิ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทัง้ ส้นิ 2 ชั่วโมง
กิจกรรมครั้งนี้อยคู่ วำมสอดคลอ้ งกับกำรพฒั นำบทเรียนรว่ มกัน (Lesson study)

 ขั้นท่ี 1 วิเคราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ข้นั ที่ 2 ปฏิบัติและสังเกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ขั้นท่ี 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครูทีเ่ ขำ้ รว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมรี ายชื่อและบทบาทต่อกิจกรรม ดงั นี้

ท่ี ช่ือ-สกุล บทบำทหนำ้ ที่ ลำยมอื ชื่อ

1. นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์ ผอู้ านวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผ้เู ชยี่ วชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หน้างานวชิ าการ

4. นางสาวประภสั สร สมศรี ท่ปี รึกษา

5. นางสาวสุดารตั น์ เทยี มจนั ทร์ ครรู ่วมเรียนรู้

๖ นางณฐั ฐนิ ันท์ สมุทรศรี ครูรว่ มเรยี นรู้

๗ นายชนาธปิ สายวิเศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสุรศกั ดิ์ พอกสูงเนิน ครรู ว่ มเรยี นรู้

๙ นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ว่ มเรยี นรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครสู อนหลกั /เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การส่งเสรมิ วินัยเชิงบวกสาหรับเดก็ ปฐมวัย

2. ประเดน็ ปัญหำ/สิง่ ทีต่ ้องกำรพัฒนำ (เนน้ ท่ีหอ้ งเรยี น)
การเรียนรู้ของเด็ก เราต้องมองให้ออกว่าธรรมชาติของเด็กต้องการอะไร สิ่งสาคัญที่เด็กควรจะได้รับ คือ

การเรยี นรู้ทกั ษะพ้นื ฐานในชีวิต และการเล่นอย่างมอี ิสระ งานบ้าน งานครวั งานสวน คือวชิ าพืน้ ฐานของชวี ิตทเี่ ด็ก
ๆ จะต้องเรียนรดู้ ้วยตนเอง เด็กตอ้ งเรียนรูผ้ า่ นการเล่น เพ่ือให้เกดิ Mind Drive คือเกดิ แรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ด้วยตนเอง และ Mind Education คือ การที่เด็กรู้ว่าตัวเองถนัดและมีความสามารถ มีพรสวรรค์ในเร่ืองไหน
เพื่อใหเ้ กิดการต่อยอดต่อไป โดยมีครูและพ่อแม่เป็นผู้สนับสนุน และพอ่ แม่เองไมค่ วรเอาความต้องการ และความ
คาดหวังไปไว้ในตัวเด็ก “การดูแลเด็กปฐมวัยนั้น พ่อแม่และครู ต้องเป็นทีมเดียวกัน โดยมีเด็กเป็นเป้าหมาย เป็น
ศูนย์กลาง ใช้ความรู้สมัยใหม่ในการเล้ียงดูเด็ก หรือท่ีเรียกว่า วินัยเชิงบวก ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะพ้ืนฐานชีวิต
ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองท่ีสมบูรณ์และมีประสทิ ธิภาพ ซึ่งการพัฒนาเด็ก
ปฐมวยั เปน็ ภารกิจที่หลายหนว่ ยงานมีหน้าทร่ี ่วมกัน โดยประเทศไทยมีกลไกระดับชาตทิ าหน้าที่กาหนดทิศทาง”

34

3. สำเหตุของปัญหำ
การส่งเสริมวินัยเชิงบวก เพ่ือให้เด็กมีทักษะพ้ืนฐานชีวิต ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพ่ือให้เด็กมี

พฒั นาการทางสมองท่ีสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ซ่ึงการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นภารกิจท่ีหลายหน่วยงานมีหน้าที่
ร่วมกัน
4. ควำมรแู้ ละหลักกำรทน่ี ำมำใช้

ครรู ่วมเรียนรู้ หัวหน้ากลมุ่ สาระฯ และครูผู้เช่ียวชาญได้เสนอแนะแนวทางในการจัดกิจกรรมเพือ่ สง่ เสรมิ
วินัยเชงิ บวกของเด็กปฐมวยั จากน้นั ผเู้ ชยี่ วชาญ หัวหน้ากล่มุ สาระฯ และครรู ่วมเรยี นรู้ เสนอแนะแนวทางการ
พฒั นาแผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือใหผ้ สู้ อนหลักนาไปปรับปรุงแผนการจัดการเรยี นใหเ้ หมาะสมมากยิง่ ขนึ้
5. แนวทำงกำรแกป้ ัญหำ

ผู้สอนหลัก ได้นำเสนอปัญหำให้ผู้เข้ำร่วมกิจกรรม PLC รับทรำบ และนำเสนอแผนกำรปฏิบัติกิจกรรม
จำกนั้นผู้เช่ียวชำญ หัวหน้ำกลุ่มสำระฯ และครูร่วมเรียนรู้ เสนอแนะแนวทำงกำรพัฒนำแผนกำรปฏิบัติกิจกรรม
เพ่อื ใหผ้ ู้สอนหลกั นำไปปรับปรงุ แผนกำรปฏิบัตกิ ิจกรรม ใหเ้ หมำะสมมำกยิง่ ข้ึน
6. ผลทไี่ ด้รับจำกกิจกรรม

ผสู้ อนหลักมีแผนกำรปฏิบัตกิ ำรดำเนินกำร กำรจัดกิจกรรมเพื่อสง่ เสริมวินัยเชิงบวกของเด็กปฐมวัย ได้รับ
กำรแกไ้ ขและพัฒนำตำมขอ้ เสนอแนะของสมำชกิ ในกลุ่ม PLC
๗. กำรนำผลทีไ่ ด้ไปใช้

ครูสามารถนาแผนการปฏิบัติการ ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเพ่ือสง่ เสริมวินัยเชิงบวกของเด็กปฐมวัยไปปรบั ใช้
ในระดับช้ันอ่ืน ๆ ภายในโรงเรยี น และสามารถประยุกต์ใช้ในพัฒนาและปรบั ปรุงกจิ กรรมกับปัญหาอื่น ๆ ทมี่ ีสาเหตุ
ของปญั หาคล้ายคลึงกันได้

เลกิ ประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชอื่ ...................... ............. ....................... ผบู้ ันทึก ลงชอ่ื ผูเ้ ช่ียวชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวีนนั ท์)

ลงชือ่ ลงชื่อ........................ .... ...........................ผู้รบั รอง

(นางวนั ทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรชั รา กา้ นจักร์)
หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นโพนทนั

35

บันทกึ กจิ กรรมชมุ ชนแห่งกำรเรยี นรู้ทำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รกั เด็กอนุบำล”

โรงเรยี นบ้ำนโพนทัน ต.ดงคร่งั ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ช่ือกลุม่ “รักเด็กอนบุ ำล”
ครงั้ ท่ี ๑๔ ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วนั /เดือน/ปี 2 ตลุ าคม 2563
เรม่ิ ดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ สิน้ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทั้งสน้ิ 2 ช่วั โมง
กจิ กรรมครั้งนี้อย่คู วำมสอดคลอ้ งกบั กำรพัฒนำบทเรยี นร่วมกัน (Lesson study)

 ขัน้ ท่ี 1 วิเคราะห์และวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan)
 ขน้ั ท่ี 2 ปฏิบตั ิและสังเกตการเรยี นรู้ (Do & See)
 ข้นั ท่ี 3 สะทอ้ นความคิดและปรบั ปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครูท่ีเข้ำรว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมรี ายชื่อและบทบาทตอ่ กิจกรรม ดงั น้ี

ท่ี ช่ือ-สกลุ บทบำทหน้ำท่ี ลำยมอื ชอื่

1. นางเณรัชรา ก้านจกั ร์ ผู้อานวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวีนนั ท์ ผเู้ ชี่ยวชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หนา้ งานวชิ าการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ทป่ี รกึ ษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทยี มจนั ทร์ ครูรว่ มเรยี นรู้

๖ นางณัฐฐนิ นั ท์ สมุทรศรี ครรู ว่ มเรยี นรู้

๗ นายชนาธปิ สายวิเศษ ครูรว่ มเรยี นรู้

๘ นายสุรศกั ดิ์ พอกสงู เนิน ครรู ว่ มเรียนรู้

๙ นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครูร่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครูสอนหลกั /เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การส่งเสริมวนิ ัยเชงิ บวกสาหรับเด็กปฐมวัย

2. ประเด็นปญั หำ/สิ่งทตี่ ้องกำรพัฒนำ (เน้นที่ห้องเรยี น)
การเรียนรู้ของเด็ก เราต้องมองให้ออกว่าธรรมชาติของเด็กต้องการอะไร สิ่งสาคัญท่ีเด็กควรจะได้รับ คือ

การเรียนรู้ทกั ษะพ้ืนฐานในชีวติ และการเลน่ อย่างมอี ิสระ งานบา้ น งานครัว งานสวน คือวชิ าพืน้ ฐานของชวี ติ ทเี่ ด็ก
ๆ จะต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง เดก็ ตอ้ งเรียนรู้ผ่านการเลน่ เพอ่ื ให้เกิด Mind Drive คอื เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ด้วยตนเอง และ Mind Education คือ การที่เด็กรู้ว่าตัวเองถนัดและมีความสามารถ มีพรสวรรค์ในเรื่องไหน
เพื่อใหเ้ กิดการต่อยอดตอ่ ไป โดยมีครูและพ่อแม่เป็นผู้สนับสนุน และพ่อแม่เองไมค่ วรเอาความต้องการ และความ
คาดหวังไปไว้ในตัวเด็ก “การดูแลเด็กปฐมวัยน้ัน พ่อแม่และครู ต้องเป็นทีมเดียวกัน โดยมีเด็กเป็นเป้าหมาย เป็น
ศูนย์กลาง ใช้ความรู้สมัยใหม่ในการเลี้ยงดูเด็ก หรือท่ีเรียกว่า วินัยเชิงบวก ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะพื้นฐานชีวิต
สง่ เสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพ่อื ให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่สมบูรณ์และมีประสทิ ธิภาพ ซ่ึงการพัฒนาเด็ก
ปฐมวัยเป็นภารกิจท่หี ลายหน่วยงานมีหนา้ ที่รว่ มกัน โดยประเทศไทยมีกลไกระดบั ชาติทาหนา้ ทกี่ าหนดทิศทาง”

36

3. สำเหตขุ องปัญหำ
การส่งเสริมวินัยเชิงบวก เพ่ือให้เด็กมีทักษะพื้นฐานชีวิต ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กมี

พัฒนาการทางสมองที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นภารกิจที่หลายหน่วยงานมีหน้าที่
ร่วมกนั
4. ควำมร้แู ละหลกั กำรที่นำมำใช้

“การดแู ลเด็กปฐมวัยนั้น พอ่ แมแ่ ละครู ตอ้ งเป็นทีมเดยี วกัน โดยมเี ด็กเป็นเป้าหมาย เปน็ ศูนยก์ ลาง ใช้
ความรู้สมยั ใหม่ในการเลีย้ งดเู ดก็ หรือทเ่ี รยี กวา่ วินัยเชงิ บวก ส่งเสริมให้เดก็ มีทักษะพน้ื ฐานชีวติ สง่ เสริมการเรยี นรู้
ผ่านการเล่น เพ่ือให้เด็กมีพฒั นาการทางสมองทส่ี มบูรณแ์ ละมปี ระสทิ ธิภาพ ซ่ึงการพฒั นาเด็กปฐมวัยเป็นภารกิจท่ี
หลายหน่วยงานมหี น้าท่ีร่วมกนั โดยประเทศไทยมีกลไกระดับชาติทาหน้าท่ีกาหนดทิศทาง” ความมีวินัยในตนเอง
ของเดก็ ปฐมวัย คือ การทีเ่ ด็กสามารถประพฤติปฏบิ ตั ิให้เปน็ ไปในลักษณะทีส่ ังคมยอมรบั และเกดิ ความสานกึ ว่าเปน็
ค่านยิ มที่ดีในด้านตา่ ง ๆ

1. ความรับผดิ ชอบ หมายถึง พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกในรูปของความตง้ั ใจทางานหรือกิจกรรมทไี่ ด้รับ
มอบหมายการดแู ลเก็บรักษาของใช้ของตนเองและส่วนรวมให้อยู่ในสภาพเรียบรอ้ ยรวมทั้งการปฏบิ ัติตนกฎระเบยี บ
ข้อตกลงของหอ้ ง

2. การรูจ้ ักเวลา หมายถึง พฤติกรรมท่แี สดงออกในรปู ของการปฏบิ ัติกิจกรรมได้ตามเวลาที่กาหนด การฟงั
สัญญาณ รวมทง้ั การปฏบิ ัติตนได้เหมาะสมในช่วงเวลาของกจิ กรรม

3. ความอดทน อดกลน้ั หมายถงึ พฤติกรรมที่แสดงออกในรปู ของการรอคอยการควบคมุ อารมณต์ นเองใน
การทากจิ กรรม ความพากเพียรพยายามทาส่ิงทยี่ ากให้สาเรจ็

4. ความเชือ่ มั่นในตนเอง หมายถึง พฤตกิ รรมท่แี สดงออกในรปู ของความกล้าแสดงออกท้ังความคดิ เหน็
และท่าทาง รวมท้งั ความพยายามในการแกไ้ ขปญั หาด้วยตนเอง

5. ความเปน็ ผู้นา ผ้ตู าม หมายถงึ พฤติกรรมทแี่ สดงออกในรปู ของความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ การแสดงความ
คดิ เหน็ รบั ฟังความคิดเหน็ การให้ความช่วยเหลือ และรับความช่วยเหลอื จากเพ่อื น ตลอดจนความเออ้ื เฟือ้ เผือ่ แผ่
รจู้ กั แบง่ ปันหมาย

10 เทคนิคการสร้างวินยั เชิงบวกใหก้ บั เดก็ ปฐมวัย
1. หลักการทาใหเ้ ป็นเรื่องใหญ่ ช่นื ชมอย่างเฉพาะเจาะจงเดก็ แบบตวั ต่อตวั ในพฤตกิ รรมท่เี ดก็ แสดงออก
เชน่ หนเู กง่ มากเลยเกบ็ ของเลน่ กอ่ นแมท่ ากับข้าวเสร็จเสียอกี
2. หลักการมองระดับสายตา คอื การทาให้เดก็ รู้สึกว่าไดร้ บั การใส่ใจ มีคุณคา่ และเชอื่ ใจ
3. หลกั การให้ทางเลือกเชิงบวก 2 ทาง เพอ่ื ฝึกให้เดก็ คิดเป็น ฝึกตัดสนิ ใจ มีความคดิ ยืดหยุ่น
4. หลักการเบี่ยงเบนพฤติกรรม เชน่ เดก็ เคาะโตะ๊ ไมส่ งั่ หา้ มให้หยดุ ทาแต่ให้ทาอยา่ งอน่ื แทน
5. หลักการให้ความสาคัญ ทาใหเ้ ดก็ ร้สู ึกมีสว่ นสาคญั ในครอบครวั โดยมอบหมายหน้าทีค่ วามรบั ผดิ ชอบให้
เดก็ เชน่ การช่วยทางานบ้าน เมือ่ เดก็ ทากช็ นื่ ชมตัวเดก็
6. หลกั การกระซิบ ไม่ตะโกนใสเ่ ดก็ เพ่ือใหท้ าตามคาสัง่ หากเป็นเสียงกระซิบเด็กจะใส่ใจฟงั สนใจและยอม
ทาตามมากกวา่

37

7. หลกั การอะไรก่อนหลงั กาหนดเงอ่ื นไขทน่ี ่าสนใจเพอื่ ลดการต่อต้าน เชน่ ทาการบา้ นเสรจ็ แลว้ ไปเลน่ ได้
8. หลกั การตง้ั เวลา ฝึกใหร้ ู้จักการวางแผน
9. หลักการส่งความรู้สกึ เพื่อบอกความรสู้ ึกของเราทาให้เดก็ เรียนรู้ว่าทกุ การกระทาของเขาส่งผลต่อผู้อ่นื
เสมอ
10. หลกั การแสดงความเข้าใจ ทาใหเ้ ดก็ รูต้ ัววา่ กาลังมีอารมณ์อะไร ร้สู กึ อยา่ งไร รบั รอู้ ารมณต์ วั เอง รู้ว่า
ต้องจดั การอยา่ งไรกบั อารมณข์ องตวั เอง
5. แนวทำงกำรแกป้ ญั หำ
นำกำรจัดกิจกรรมสง่ เสริมวนิ ยั เชงิ บวก มำแก้ไขปรับปรงุ ตำมคำแนะนำของครูร่วมเรียนรู้ ผ้เู ช่ียวชำญ และ
ครูผู้สอนหลัก นำมำใช้ในกำรจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมเด็กปฐมวัย โดยมีชุมชนแห่งกำรเรียนรู้เชิงวิชำชีพร่วม
สังเกตกำรณ์ ซึ่งกจิ กรรมมีขัน้ ตอนสำคัญในกำรจดั กิจกรรม คอื มีกำรอธบิ ำยควำมรู้ กำรทดลองทำกิจกรรม กำรลง
มอื ปฏบิ ัติกจิ กรรม
6. ผลท่ีไดร้ ับจำกกจิ กรรม
ผู้สอนหลักมีแผนกำรปฏิบัติกำรดำเนินกำร กำรจัดกิจกรรมส่งเสริมวินัยเชิงบวกกิจกรรมได้รับกำรแก้ไข
และพัฒนำตำมข้อเสนอแนะของสมำชกิ ในกลุ่ม PLC
เด็กปฐมวัยมีสุขภำวะท่ีดี เติบโตสมวัย มีพื้นฐำนทำงร่ำงกำยและจิตใจที่แข็งแรง เด็กได้เรียนรู้ มีทักษะ
พื้นฐำนสำคญั ในชีวิต และเปน็ กำลงั สำคญั ในกำรพัฒนำสังคมไทยต่อไป
๗. กำรนำผลท่ไี ดไ้ ปใช้
ผู้สอนหลกั และสมาชิกในกลุ่ม PLC สามารถนาผลการจดั กิจกรรมสง่ เสริมวินัยเชิงบวก มาอภิปรายเพ่อื
แลกเปล่ียนความคิด โดยมคี รูผู้สอนหลกั เปน็ ผู้สะทอ้ นความคดิ เกย่ี วกับความสาเรจ็ จดุ เดน่ และจุดท่ีต้องพฒั นาใน
การจัดการกิจกรรมส่งเสริมเด็กปฐมวยั ใหเ้ หมาะสมตามพัฒนาการต่อไป

เลกิ ประชุมเวลา 1๗.๓0น.

ลงช่ือ...................... ............. ....................... ผู้บนั ทึก ลงช่อื ผเู้ ชยี่ วชาญ
(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี นั ท์)

ลงชื่อ ลงชือ่ ........................ .... ...........................ผรู้ บั รอง
(นางวันทนา ฉัตรสุวรรณ) (นางเณรัชรา กา้ นจักร์)
หัวหน้ากลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นโพนทัน

38

บันทกึ กจิ กรรมชมุ ชนแหง่ กำรเรยี นรทู้ ำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC)
กลุ่ม “รกั เด็กอนุบำล”

โรงเรียนบ้ำนโพนทัน ต.ดงครงั่ ใหญ่ อ.เกษตรวิสยั

ช่ือกลุม่ “รักเด็กอนบุ ำล”
ครงั้ ท่ี ๑๕ ภำคเรียนท่ี 1/256๓ วัน/เดือน/ปี ๙ ตลุ าคม 2563
เรม่ิ ดำเนนิ กำรเวลำ 1๕.๓0น. เสรจ็ สิน้ เวลำ 1๗.๓0น. รวมระยะเวลำทัง้ สนิ้ 2 ชวั่ โมง
กจิ กรรมครั้งนี้อย่คู วำมสอดคลอ้ งกบั กำรพฒั นำบทเรียนร่วมกัน (Lesson study)

 ขัน้ ท่ี 1 วิเคราะห์และวางแผนการจดั การเรยี นรู้ (Analyze & Plan)
 ขน้ั ท่ี 2 ปฏบิ ตั แิ ละสังเกตการเรียนรู้ (Do & See)
 ข้นั ท่ี 3 สะท้อนความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign)

จำนวนครูท่ีเข้ำรว่ มกิจกรรม 10 คน โดยมรี ายชื่อและบทบาทตอ่ กิจกรรม ดงั นี้

ท่ี ชอ่ื -สกุล บทบำทหน้ำที่ ลำยมอื ชือ่

1. นางเณรัชรา ก้านจกั ร์ ผู้อานวยการโรงเรียน

2. นางสายยนต์ ทวีนันท์ ผู้เช่ียวชาญ

3. นางวันทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หนา้ งานวิชาการ

4. นางสาวประภัสสร สมศรี ท่ีปรึกษา

5. นางสาวสดุ ารัตน์ เทยี มจนั ทร์ ครูร่วมเรยี นรู้

๖ นางณัฐฐนิ นั ท์ สมุทรศรี ครรู ่วมเรยี นรู้

๗ นายชนาธปิ สายวิเศษ ครรู ่วมเรียนรู้

๘ นายสุรศกั ดิ์ พอกสงู เนนิ ครรู ว่ มเรียนรู้

๙ นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครูรว่ มเรยี นรู้

๑๐ นางสาวพรทพิ า นามเคน ครูสอนหลัก/เลขานกุ าร

1. งำน/กิจกรรม การส่งเสริมวนิ ัยเชิงบวกสาหรับเด็กปฐมวัย

2. ประเด็นปญั หำ/สง่ิ ท่ีต้องกำรพัฒนำ (เนน้ ที่ห้องเรยี น)
การเรียนรู้ของเด็ก เราต้องมองให้ออกว่าธรรมชาติของเด็กต้องการอะไร สิ่งสาคัญที่เด็กควรจะได้รับ คือ

การเรียนรู้ทกั ษะพ้ืนฐานในชีวติ และการเลน่ อย่างมอี ิสระ งานบา้ น งานครวั งานสวน คือวิชาพนื้ ฐานของชวี ติ ทเี่ ด็ก
ๆ จะต้องเรียนรดู้ ้วยตนเอง เดก็ ตอ้ งเรียนรู้ผ่านการเลน่ เพือ่ ให้เกิด Mind Drive คอื เกดิ แรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ด้วยตนเอง และ Mind Education คือ การที่เด็กรู้ว่าตัวเองถนัดและมีความสามารถ มีพรสวรรค์ในเรื่องไหน
เพื่อใหเ้ กิดการต่อยอดต่อไป โดยมีครูและพ่อแม่เป็นผู้สนับสนุน และพ่อแม่เองไม่ควรเอาความต้องการ และความ
คาดหวังไปไว้ในตัวเด็ก “การดูแลเด็กปฐมวัยน้ัน พ่อแม่และครู ต้องเป็นทีมเดียวกัน โดยมีเด็กเป็นเป้าหมาย เป็น
ศูนย์กลาง ใช้ความรู้สมัยใหม่ในการเลี้ยงดูเด็ก หรือท่ีเรียกว่า วินัยเชิงบวก ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะพ้ืนฐานชีวิต
สง่ เสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพ่อื ให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองท่ีสมบูรณ์และมีประสทิ ธิภาพ ซ่ึงการพัฒนาเด็ก
ปฐมวัยเป็นภารกิจท่หี ลายหน่วยงานมหี นา้ ท่รี ่วมกัน โดยประเทศไทยมีกลไกระดบั ชาติทาหนา้ ท่กี าหนดทิศทาง”

39

3. สำเหตขุ องปัญหำ
การส่งเสริมวินัยเชิงบวก เพื่อให้เด็กมีทักษะพื้นฐานชีวิต ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กมี

พฒั นาการทางสมองท่ีสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ซ่ึงการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นภารกิจท่ีหลายหน่วยงานมีหน้าท่ี
ร่วมกนั
4. ควำมร้แู ละหลกั กำรทน่ี ำมำใช้

ชมุ ชนแหง่ การเรียนรเู้ ชงิ วชิ าชีพร่วมกนั สะท้อนความคดิ ทั้งจุดเด่น จุดด้อย ปญั หา-อุปสรรค รวมท้ังแนะนา
วิธีการแกป้ ญั หาในการจดั กิจกรรมการส่งเสรมิ วนิ ยั เชงิ บวกสาหรบั เดก็ ปฐมวยั
5. แนวทำงกำรแก้ปัญหำ

ผูส้ อนนำเสนอผลกำรปฏิบัติกำร กำรจดั กจิ กรรมกำรส่งเสรมิ วินัยเชิงบวกสำหรับเดก็ ปฐมวัย จำกนน้ั ครรู ่วม
เรียนรู้ หัวหน้ำกลุ่มสำระฯ และผู้เช่ียวชำญให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับจุดเด่น จุดด้อย ปัญหำและอุปสรรค รวมท้ังให้
คำแนะนำในกำรพัฒนำกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เม่ือส้ินสุดขั้นตอนกำรสะท้อนคิดแล้ว ผู้สอนบันทึกผลจำกนั้น
ปรบั ปรุงแผนกำรจัดกิจกรรม เพอื่ นำไปใชใ้ นกำรจัดกจิ กรรมครั้งตอ่ ไป อีกทง้ั กำรนำกจิ กรรมไปรว่ มใชก้ ับนกั เรยี นช้นั
อ่นื ภำยในโรงเรียน
6. ผลทไ่ี ดร้ ับจำกกจิ กรรม

ผู้สอนได้รับควำมรู้และประสบกำรณ์กำรจัดกิจกรรมกำรส่งเสริมวินัยเชิงบวกสำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็น
ประโยชน์ตอ่ กำรปรบั ปรงุ พัฒนำกำรเรียนกำร ไดเ้ รียนรู้เทคนคิ วิธีในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนเพอ่ื พฒั นำเด็กปฐมวยั
อยำ่ งองค์รวมสำหรบั เดก็ ปฐมวยั ต่อไป
๗. กำรนำผลทไี่ ดไ้ ปใช้

ผู้สอนสามารถนาความรูแ้ ละประสบการณ์ทไ่ี ดร้ บั จากการจดั กิจกรรมการเรียนร้ไู ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ
ออกแบบกิจกรรม และสามารถนาการเรยี นรู้ที่ได้รบั จากการจดั กจิ กรรมการสง่ เสรมิ วินยั เชิงบวกสาหรับเด็กปฐมวัย
ไปใช้พฒั นาคุณภาพการจัดการเรียนร้ตู อ่ ไป

เลิกประชมุ เวลา 1๗.๓0น.

ลงชือ่ ...................... ............. ....................... ผบู้ ันทึก ลงชอ่ื ผู้เช่ยี วชาญ
(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางสายยนต์ ทวนี ันท์)

ลงชื่อ ลงช่ือ........................ .... ...........................ผู้รับรอง
(นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ) (นางเณรัชรา กา้ นจกั ร์)
หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
ผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นโพนทนั

40

ภำคผนวก ก.
 บันทกึ ขอ้ ควำมขออนุญำตจัดกจิ กรรมฯ
 ปฏทิ นิ กำรดำเนินงำนชมุ ชนกำรเรยี นร้วู ิชำชพี (PLC)
 แบบสังเกตกำรณจ์ ัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน

41

บันทึกข้อควำม

สว่ นรำชกำร โรงเรียนบ้านโพนทนั ต.ดงคร่ังใหญ่ อ.เกษตรวสิ ยั จ.รอ้ ยเอ็ด

ท่ี พเิ ศษ/๒๕๖๓ วนั ที่ ๑ กรกฏาคม ๒๕๖๓

เรอ่ื ง ขออนญุ าตจัดกิจกรรมสรา้ งชุมชนการเรยี นรวู้ ชิ าชีพ (Professional Learning Community)

เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นโพนทนั

คณะครูโรงเรียนบ้านโพนทัน มีความประสงค์จะสร้างชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (Professional

Learning Community) ชื่อกลุ่ม “รักเด็กอนุบาล” ภายในกลุ่มคณะครูโรงเรียนบ้านโพนทัน เน่ืองจากมี
บริบทใกล้เคียงกันท้ังเน้ือหาสาระ ขอ้ มลู ด้านนกั เรียน และสภาพปัญหา ดังนั้นเพ่ือเป็นการปรบั ปรุงแก้ปญั หา
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ร่วมกัน และรว่ มกันพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ในการแกป้ ัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้

แก่นักเรียนในแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดจนพัฒนาทักษะ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนให้ดียิ่งข้ึน
โดยมกี ลุ่มในการสร้างชุมชนการเรยี นร้วู ิชาชพี ไดแ้ ก่

1. นางเณรชั รา ก้านจักร์ ผอู้ านวยการโรงเรยี น
2. นางสายยนต์ ทวนี นั ท์ ผูเ้ ชี่ยวชาญ

3. นางวนั ทนา ฉตั รสวุ รรณ หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ

4. นางสาวประภสั สร สมศรี ท่ีปรึกษา

5. นางสาวสุดารัตน์ เทียมจันทร์ ครูรว่ มเรียนรู้
๖. นางณฐั ฐนิ ันท์ สมทุ รศรี ครูรว่ มเรยี นรู้

๗. นายชนาธปิ สายวิเศษ ครรู ว่ มเรยี นรู้
๘. นายสุรศักดิ์ พอกสงู เนนิ ครรู ว่ มเรียนรู้
๙. นายณฐั พิสษิ ฐ์ ไชยคต ครรู ่วมเรียนรู้

๑๐ นางสาวพรทิพา นามเคน ครูรว่ มเรยี นรู้

การนี้ ข้าพเจา้ ขออนญุ าตจัดกิจกรรมการสรา้ งชมุ ชนการเรยี นร้ทู างวิชาชพี (Professional Learning

Community) ทุกวันศกุ ร์ ต้งั แต่เวลา ๑๕.๓๐ - ๑๗.๓๐ และเวลานิเทศตามปฏิทนิ

จึงเรยี นมาเพือ่ โปรดพิจารณาอนุญาต

(นางวันทนา ฉตั รสุวรรณ)

หัวหนา้ กลุม่ บริหารงานวิชาการ

(นางเณรัชรา กา้ นจักร์)
ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านโพนทัน

42

ปฏทิ นิ การดาเนนิ งานชุมชนการเรียนรูว้ ชิ าชีพ (PLC) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563

กล่มุ “รักเดก็ อนบุ าล”

ช่วงเวลา กิจกรรม ผู้รบั ผิดชอบ จานวนชวั่ โมง
ครง้ั ท่ี 1 2
5 กรกฎาคม 2563 -การจัดการเรยี นร้แู บบ On-Hand ชว่ งสถานการณ์ Model Teacher 2
ครง้ั ท่ี 2 2
10 กรกฎาคม 2563 โควิด-19 รว่ มกับสมาชิกในกล่มุ PLC 2
ครั้งที่ 3 2
17 กรกฎาคม 2563 -การจัดการเรยี นรแู้ บบ On-Hand ช่วงสถานการณ์ Model Teacher 2
คร้ังท่ี 4 2
24 กรกฎาคม 2563 โควิด-19 รว่ มกบั สมาชิกในกลุ่ม PLC 2
ครง้ั ที่ 5 2
31 กรกฎาคม 2563 -การจัดการเรียนรูแ้ บบ On-Hand ชว่ งสถานการณ์ Model Teacher 2
ครั้งที่ 6 2
7 สิงหาคม 2563 โควิด-19 รว่ มกับสมาชกิ ในกลุ่ม PLC 2
คร้งั ท่ี 7 2
14 สิงหาคม 2563 - การจดั การเรยี นรู้แบบ On-Site ชว่ งสถานการณ์ Model Teacher 2
2
คร้ังที่ 8 โควดิ -19 รว่ มกบั สมาชกิ ในกลมุ่ PLC
21 สงิ หาคม 2563 30 ช่วั โมง
- การจัดการเรยี นร้แู บบ On-Site ชว่ งสถานการณ์ Model Teacher
ครั้งที่ 9
28 สงิ หาคม 2563 โควดิ -19 ร่วมกบั สมาชิกในกลมุ่ PLC

ครัง้ ท่ี 10 - การจดั การเรยี นรแู้ บบ On-Site ชว่ งสถานการณ์ Model Teacher
4 กนั ยายน 2563
โควดิ -19 รว่ มกับสมาชกิ ในกลมุ่ PLC
คร้งั ท่ี 11
11 กันยายน 2563 - การสง่ เสรมิ สุขภาพ “สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตวั หนู” Model Teacher

ครัง้ ท่ี 12 ร่วมกับสมาชิกในกล่มุ PLC
18 กันยายน 2563
- การส่งเสริมสุขภาพ “สุขภาพดีเร่มิ ต้นท่ีตัวหนู” Model Teacher
ครั้งที่ 13
25 กนั ยายน 2563 ร่วมกบั สมาชกิ ในกลุ่ม PLC

ครงั้ ท่ี 14 - การส่งเสริมสขุ ภาพ “สขุ ภาพดีเร่ิมตน้ ที่ตัวหน”ู - Model Teacher
2 ตุลาคม 2563
ร่วมกบั สมาชกิ ในกลุ่ม PLC
ครั้งท่ี 15
9 ตุลาคม 2563 - โยคะนิทานสาหรับเด็กปฐมวัย Model Teacher

ร่วมกับสมาชิกในกลมุ่ PLC

- โยคะนิทานสาหรับเดก็ ปฐมวยั Model Teacher

ร่วมกับสมาชกิ ในกลมุ่ PLC

- โยคะนทิ านสาหรับเดก็ ปฐมวัย Model Teacher

รว่ มกับสมาชิกในกลมุ่ PLC

-การส่งเสรมิ วินัยเชิงบวกสาหรบั เด็กปฐมวัย Model Teacher

ร่วมกบั สมาชิกในกลมุ่ PLC

-การสง่ เสริมวนิ ัยเชงิ บวกสาหรบั เดก็ ปฐมวัย Model Teacher

รว่ มกบั สมาชิกในกลมุ่ PLC

-การสง่ เสรมิ วนิ ัยเชิงบวกสาหรบั เดก็ ปฐมวยั Model Teacher

รว่ มกบั สมาชกิ ในกลมุ่ PLC

รวม

หมายเหตุ : แผนการดาเนินการอาจมกี ารปรบั เปลี่ยนตามความเหมาะสม

แบบสังเกตกำรณ์จดั กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน 43
นิเทศ 01
ช่ือครผู ู้สอน ห้องทส่ี อน
ข้อสังเกต
รายวิชา รหสั วิชา เร่อื ง

วันท่ี เดือน พ.ศ.

ท่ี รำยกำร ระดบั คุณภำพ
54321

1 ครูดาเนนิ การสอนตามลาดับของแผนการจัดการเรียนรู้

2 จดั กิจกรรมการเรียนรดู้ ้วยวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย

3 จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ใหผ้ ู้เรียนฝึกค้นคว้า สังเกต
รวบรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ คิดอยา่ งหลากหลายและ

สร้างสรรค์ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ดว้ ยตนเอง

4 กระต้นุ ให้ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมแสดงความคดิ เหน็ คน้ ควา้
แสวงหาคาตอบด้วยตนเอง

5 ให้ผู้เรยี นมีการเรียนร้จู ากสอ่ื ที่หลากหลายรูปแบบ

6 มกี ารสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ใหแ้ รงเสริมกับ
ผูเ้ รียนในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

7 จัดบรรยากาศการเรยี นรู้ที่ดงึ ดดู ความสนใจ ก่อให้เกดิ

ความสุขและเพลดิ เพลินแก่ผู้เรยี น

8 มีกระบวนการวดั ผลและประเมินผลตามสภาพจริง

9 มีเครื่องมือการวัดผลและประเมนิ ผลทมี่ คี ุณภาพ

10 การมีสว่ นร่วมในการวดั ผลและประเมนิ ผล
รวม

ระดับคุณภำพ 5 = มากท่สี ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1= ไม่ปฏบิ ตั ิ

สรปุ เรอ่ื งท่ตี อ้ งปรับปรงุ
................................................................................................................................................................................................. ......
............................................................................................................................. ..........................................................................

ข้อเสนอแนะในการนาผลการปรับปรงุ ไปพัฒนาให้ดกี ว่าเดมิ
............................................................................................................................. ..........................................................................
............................................................................................................................. .............................................................. ............

ลงชอ่ื ....................................................ผูน้ เิ ทศการสอน

44

ภำคผนวก ข.

 สรปุ ผลการสงั เกตการณจ์ ัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
รายบคุ คล

 รปู ภาพกจิ กรรม PLC

45

นิเทศ 01

สรปุ ผลแบบสงั เกตกำรณจ์ ัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน
ชื่อครผู ู้สอน.......นางสาวพรทิพา นามเคน............หอ้ งทส่ี อน......ชั้น........ปฐมวยั ..............................................

รายวิชา ……กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ......เร่ือง...กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจงั หวะ.......................................

วนั ท่ี............10.................เดอื น..........สิงหาคม.................พ.ศ...........256๓.............…......................................

ท่ี รำยกำร ระดบั คุณภำพ คิดเป็นร้อยละ
54321

1 ครดู าเนนิ การสอนตามลาดบั ของแผนการจดั การเรียนรู้ 29 มาก = ร้อยละ 81
มาก = รอ้ ยละ 100
2 จดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยวิธกี ารทีห่ ลากหลาย 1
มาก = รอ้ ยละ 81
1

3 จัดกิจกรรมการเรียนรใู้ หผ้ เู้ รียนฝึกค้นควา้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล 1 9 1

วเิ คราะห์ คิดอยา่ งหลากหลายและสร้างสรรค์ สามารถสรา้ งองค์

ความรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง

4 กระตุ้นใหผ้ ้เู รียนมสี ่วนรว่ มแสดงความคดิ เห็น คน้ คว้า แสวงหา 182 มาก = ร้อยละ 73
คาตอบด้วยตนเอง 191 มาก = รอ้ ยละ 81

5 ใหผ้ ้เู รยี นมกี ารเรยี นรจู้ ากสือ่ ท่หี ลากหลายรูปแบบ

6 มกี ารสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม ใหแ้ รงเสริมกบั ผู้เรยี นในการ 1 8 2 มาก = รอ้ ยละ 73
มาก = ร้อยละ 91
จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ มาก = ร้อยละ 81

7 จดั บรรยากาศการเรยี นรูท้ ี่ดึงดดู ความสนใจ กอ่ ให้เกิดความสุข 1 1

และเพลิดเพลินแก่ผู้เรยี น 0

8 มกี ระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผลตามสภาพจริง 191

9 มีเครอ่ื งมือการวัดผลและประเมนิ ผลทมี่ ีคุณภาพ 191 มาก = รอ้ ยละ 81
10 การมีส่วนรว่ มในการวดั ผลและประเมินผล มาก = ร้อยละ 91
11
รวม 0 มำก = ร้อยละ 83.3

ระดบั คุณภำพ 5 = มากทสี่ ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = น้อย 1= ไมป่ ฏิบัติ

สรุปผลกำรสงั เกตกำรจดั กิจกรรมกำรสอน ของ นำงสำวพรทพิ ำ นำมเคน

พบว่า นางสาวพรทิพา นามเคน จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในกิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ อยูท่ ่รี ะดบั

คณุ ภาพ มาก คดิ เป็นร้อยละ 83.3

(นางสาวพรทิพา นามเคน) (นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ)
ผู้รบั การนเิ ทศ หวั หน้ากล่มุ บริหารงานวชิ าการ

(นางเณรชั รา ก้านจักร)์
ผ้อู านวยการโรงเรยี นบา้ นโพนทัน

46

นิเทศ 02

สรุปผลแบบสังเกตกำรณจ์ ดั กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน
ชอ่ื ครูผู้สอน.......นางสาวพรทิพา นามเคน............ห้องที่สอน......ชนั้ ........ปฐมวัย..............................................

รายวิชา กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ (หน่วย ปฐมนเิ ทศ)......เรอื่ ง...กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์...........................

วันที่............4.................เดือน..........กันยายน....................พ.ศ...........256๓.............…......................................

ท่ี รำยกำร ระดบั คณุ ภำพ คดิ เป็นร้อยละ
54321

1 ครูดาเนนิ การสอนตามลาดับของแผนการจดั การเรยี นรู้ 29 มาก = รอ้ ยละ 81
มาก = ร้อยละ 100
2 จัดกจิ กรรมการเรียนร้ดู ้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย 1
มาก = ร้อยละ 81
1

3 จัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้ผู้เรยี นฝกึ คน้ คว้า สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล 1 9 1

วิเคราะห์ คดิ อยา่ งหลากหลายและสรา้ งสรรค์ สามารถสรา้ งองค์

ความรู้ได้ด้วยตนเอง

4 กระตุ้นใหผ้ ้เู รยี นมสี ่วนรว่ มแสดงความคิดเหน็ ค้นควา้ แสวงหา 182 มาก = รอ้ ยละ 73
คาตอบดว้ ยตนเอง 191 มาก = ร้อยละ 81

5 ใหผ้ ู้เรียนมีการเรยี นรจู้ ากส่อื ทห่ี ลากหลายรูปแบบ

6 มีการสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม ใหแ้ รงเสริมกับผ้เู รียนในการ 1 8 2 มาก = รอ้ ยละ 73
มาก = รอ้ ยละ 91
จดั กิจกรรมการเรียนรู้ มาก = รอ้ ยละ 81

7 จัดบรรยากาศการเรียนรู้ท่ดี งึ ดดู ความสนใจ กอ่ ให้เกิดความสขุ 1 1

และเพลิดเพลนิ แกผ่ ูเ้ รียน 0

8 มีกระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผลตามสภาพจริง 191

9 มเี ครอื่ งมือการวัดผลและประเมินผลท่ีมคี ุณภาพ 191 มาก = รอ้ ยละ 81
10 การมีส่วนรว่ มในการวดั ผลและประเมินผล มาก = รอ้ ยละ 91
11
รวม 0 มำก = ร้อยละ 83.3

ระดบั คุณภำพ 5 = มากท่สี ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1= ไม่ปฏิบตั ิ

สรุปผลกำรสงั เกตกำรจดั กิจกรรมกำรสอน ของ นำงสำวพรทิพำ นำมเคน

พบว่า นางสาวพรทิพา นามเคน จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในกิจกรรมเสริมประสบการณ์ (หนว่ ย

ปฐมนเิ ทศ) อยู่ท่รี ะดับ คุณภาพ มาก คิดเป็นรอ้ ยละ 83.3

(นางสาวพรทพิ า นามเคน) (นางวนั ทนา ฉัตรสวุ รรณ)
ผรู้ บั การนิเทศ หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ

(นางเณรชั รา ก้านจกั ร)์
ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นโพนทัน


Click to View FlipBook Version