ภาพตดั (Sectional View)
ประโยชน์ของการเขียนภาพตัดคือ สามารถแสดงรายละเอียดของ
ภาพได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะภาพที่มีเส้ นประและเส้นเต็ม
จํานวนมากซ่ึงอาจทําให้เกิดความสับสนในการอ่านแบบได้
ระนาบตดั (Cutting Plane)
เป็ นระนาบที่สมมติขนึ้ ให้ตัดผ่านวตั ถุ เพอื่ ให้เห็นผิวหน้าท่ีถูกตัด และสามารถแสดงใน
ลักษณะภาพฉายออร์โทกราฟิ กได้
สัญลกั ษณ์ของเส้นระนาบตดั
ชนิดของภาพตดั
1) ภาพตัดเต็ม (full section)
2) ภาพตัดคร่ึง (haft section)
3) ภาพตัดบางส่วน (broken or partial section)
4) ภาพตัดฉาย (offset section)
5) ภาพตัดหมุน (revolved section)
6) ภาพตัดย้าย (removed section)
1. ภาพตดั เตม็ 2. ภาพตดั คร่ึง 3.ภาพตดั บางส่วน
4. ภาพตดั ฉาย
5. ภาพตดั หมุน
5. ภาพตดั หมุน
6. ภาพตดั ย้าย
เส้นลายตดั (Section Lining)
เป็ นเส้นเบาปรากฏเป็ นเส้นลายที่ผิวชิ้นงานท่ีถูกตัด เพอ่ื เน้นให้เห็นโครงร่าง
ของผวิ หน้าภายในของชิ้นงาน โดยท่ัวไปถ้าเส้นรอบรูปของชิ้นงานวางตัวในแนวระดับ
เส้นลายตัดจะเขียนให้เอียงทํามุม 45° กับแนวระดับ แต่ถ้ากรณีเมื่อเขียนเส้นลายตัด
แล้วเกิดวางตัวขนาดกบั เส้นรอบรูปควรหลีกเลี่ยงไปใช้มุมเอียงเป็ น 30°, 60° หรือ 75°
ส่วนระยะห่างระหว่างเส้นลายตัดน้ันขึน้ อยู่กับพืน้ ที่ที่ถูกตัด น้ันคือถ้าพนื้ ที่ท่ีถูกตัดมี
ขนาดเล็กควรเขียนเส้นลายตัดให้ชิดกันประมาณ 0.8 มม. และถ้าพนื้ ท่ีที่ถูกตัดมีขนาด
ใหญ่มากขึน้ ก็เขียนห่างกันมากขึน้ ซึ่งอาจเป็ น 1, 2 หรือ 3 มม. หรือมากกว่านี้ขึน้ กับ
ความเหมาะสมและความสวยงามในการเขยี น
เส้นลายตดั (Section Lining)
เส้นลายตดั (Section Lining)
การเขยี นเส้นลายตัดในภาพตัดจะต้องมีลกั ษณะดงั นี้
1) ความหนักของเส้นจะต้องน้อยกว่าความหนักของเส้นรอบรูป
2) เส้นลายตัดต้องมีระยะห่างกันอย่างสมํ่าเสมอตลอดผิวหน้าท่ีถูกตัด และ
ความหนักของเส้ นต้ องสมํ่าเสมอตลอดเส้ นด้วย
3) เส้นลายตัดต้องมีระยะห่างระหว่างเส้นเหมาะสม คือไม่ห่างหรือชิดกัน
มากเกนิ ไปเมื่อเทียบกับพนื้ ที่ที่ถูกตัด
เส้นลายตดั (Section Lining)
เส้นลายตดั (Section Lining)
เมื่อชิ้นงานมีขนาดบางซ่ึงไม่สะดวกต่อการเขียนเส้นลายตัด จึงนิยมเขียนเป็ นเส้นทึบ
ท้ังหมด ตัวอย่างของชิ้นงานท่ีมีขนาดบางได้แก่ แผ่นโลหะปะเก็น แผ่นรอง และ
รูปทรงโครงสร้างต่างๆ
เส้นลายตดั (Section Lining)
ในกรณีท่ีชิ้นงานประกอบด้วยวัตถุหลายชิ้นวางชิดกัน หน้าตัดของแต่ละชิ้นงาน
จะต้องแสดงเส้นลายตัดให้มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เส้นลายตัดเอียงกลับทิศกัน หรือ
เอียงทํามุมไม่เท่ากนั หรืออาจเปล่ยี นระยะห่างของเส้นลายตัดให้ต่างไปจากชิ้นงานอืน่
เส้นลายตดั (Section Lining)
สําหรับสลกั เกลยี ว แป้ นเกลียว สลักล่ิม หมุดยํา้
ลูกปื น และอ่ืนๆ ท่ีคล้ายกัน เมื่อถูกตัดด้วย
ระนาบตัดมักไม่นิยมเขียนภาพตัด เพราะ
ชิ้นส่ วนดังกล่าวไม่มีโครงสร้ างภายในท่ีจะต้ อง
แสดงให้เห็นจงึ เขยี นเหมอื นภาพฉายตามปกติ
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
ในการเขยี นภาพตัดของชิ้นงานบางคร้ังอาจผิดไปจากกฎเกณฑ์ของการเขียนภาพออร์
โทกราฟิ ก ได้แก่ ชิ้นงานในลักษณะของแขน ครีบ หู รู และซี่ล้อ ซ่ึงมีข้อตกลงท่ียอมรับ
และใช้โดยทั่วไปดังนี้
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขียนแขนในภาพตดั
ในการแสดงภาพตัดของชิ้นส่วนที่ประกอบเป็ นแขน จะแสดงภาพตัดเม่ือจัด
แนวของแขนให้อยู่ในแนวต้ังฉากกับทิศทางการมอง แล้วจึงจะแสดงเส้นลายตัดใน
ภาพฉายออร์โทกราฟิ กท่ีจดั แนวแล้ว
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขียนครีบในภาพตดั
ครีบถึงแม้ว่าจะถูกระนาบตัดผ่านก็ตามแต่ไม่นิยมเขียนเส้ นรอยตัด เพ่ือ
หลีกเลยี่ งไม่ให้เกดิ ความสับสนกบั ภาพตัดของกรวย
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขียนซ่ีล้อในภาพตดั
ในภาพตัดที่มีซี่ล้อ (spoke) รวมอยู่ด้วยจะไม่นิยมเขียนเส้นลอยตัดลงในซ่ี
ล้อและภาพของซี่ล้อจะต้องเขียนเป็ นภาพจัดแนวเท่าน้ัน
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขียนหูในภาพตดั
ในกรณีท่ีหูมีขนาดเล็กจะไม่มีเส้นลายตัดที่หู แต่ถ้าหูมีขนาดใหญ่และถือว่า
เป็ นส่วนฐานของชิ้นงานก็ให้แสดงเส้นลายตัดด้วย
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขยี นภาพตดั จดั แนว
ในกรณี ครีบ หู รู และซี่ล้อบนชิ้นงานไม่สมมาตรกัน มักนิยมเขียนภาพตัด
จดั แนวโดยการหมุนชิ้นส่วนดงั กล่าวให้มาอยู่ในแนวที่ทําให้เกิดความสมมาตรกัน และ
ทําให้เกิดระยะจริงในภาพ และระนาบตัดสามารถหักเลี้ยวไปยังส่วนต่างๆ ท่ีต้องการ
แสดงรายละเอยี ดได้
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
การเขียนภาพตดั จดั แนว
ข้อตกลงในการเขยี นภาพตดั
เส้นรอยตดั โค้งลบมมุ
การเขียนภาพฉายของโค้งลบมุมนอกและโค้งลบมุมใน จะต้องแสดงเส้นตาม
แนวโค้งลบมุมด้วย
สัญลกั ษณ์เส้นลายตดั ของวตั ถุชนิดต่างๆ