คู่มือปฏิบัติงานโรงเรียนวัดแม่ริมวิทยา

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโรงเรยี นวัดแมร่ ิมวทิ ยา หนา้ 1

❖ คมู่ ือการปฏิบตั งิ านโรงเรยี นวัดแม่ริมวทิ ยา หนา้ 2

คำนำ

เอกสารคู่มือการบริหารสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานโรงเรียนวัดแมร่ ิมวิทยา เล่มนี้ได้ จัดทำข้ึน
เพื่อให้เป็นแนวทางในการดำเนินการจัดการศึกษาของโรงเรียนตามกรอบการบริหารงาน ท้ัง 4
ด้าน ได้แก่การบริหารงานวิชาการการบริหารงานงบประมาณ การบริหารงานบุคคลและการ
บรหิ ารงานท่ัว ไป ให้เกดิ ความคลอ่ งตัวและรวดเร็วตลอดจนเปน็ ตัวกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ
ใหกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของโรงเรียนได้ปฏิบัติตาม เพื่อให้การดำเนินงานด้านการจัดการศึกษา
ของ โรงเรียนเกดิ ประสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ลสูงสดุ ต่อไป

คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา
โรงเรียนวัดแมร่ มิ วิทยา

❖ คมู่ อื การปฏิบตั งิ านโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วทิ ยา หนา้ 3

สารบญั หนา้
4
บทท่ี 1 บทนำ 4
- ข้อมลู ทว่ั ไป 6
- จุดเนน้ จุดเนน้ การดำเนินงานของโรงเรยี น 8
10
บทท่ี 2 บทนำ บทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา 10
ส่วนที่ 1 คำนยิ ามศัพท์ 10
สว่ นท่ี 2 โครงสร้างการบรหิ ารจดั การสถานศึกษา 10
- การบริหารงานวิชาการ 10
- การบริหารงานงบประมาณ 11
- การบรหิ ารงานบุคคล 14
- การบรหิ ารงานท่ัวไป 17
สว่ นท่ี 3 ขอบข่ายภาระงานตามโครงสร้างการบรหิ ารสถานศึกษา 26

สว่ นท่ี 4 ขอบขา่ ยภาระงานหวั หน้ากลมุ่ งานบริหาร 4 กลุม่ งาน
ส่วนท่ี 5 การปฏบิ ัติตามขอบขา่ ยภาระงานของครู และบุคลากรทางการศึกษา
สว่ นท่ี 6 ผลสมั ฤทธ์ติ ามขอบขา่ ยภาระงานที่ปฏบิ ัติ
บรรณานกุ รม/หนังสืออ้างอิง
ภาคผนวก

แนวปฏิบัตขิ อบข่ายงานการบริหารสถานศกึ ษา

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโรงเรียนวดั แม่รมิ วทิ ยา หน้า 4

ขอ้ มลู ทว่ั ไป

โรงเรยี นวัดแม่ริมวิทยา ช่ือเดมิ โรงเรยี นวัดแม่ริมปริยัติวิทยา ต้ังอยู่ทวี่ ัดแม่ริม เลขที่ ๒๔๐ หมู่ ๑ ตำบล
ริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เดิมเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-บาลี ประจำอำเภอแม่ริม ตั้งอยู่ที่
วัดรตั นาราม (ตน้ แก้ว) ตำบลรมิ ใต้ อำเภอแมร่ ิม จงั หวัดเชยี งใหม่

ปี พ.ศ.๒๔๙๔ พระครูอุดมวุฒิคุณ เจ้าคณะอำเภอแม่ริม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี นายสม สมุทร-
คุปต์ นายอำเภอแม่ริม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมด้วยข้าราชการ ศรัทธา พ่อค้า ประชาชน ได้พร้อมใจกันสร้าง
อาคารเรียนพระปริยตั ิธรรมข้ึน ๑ หลัง ๒ ช้นั เปน็ แบบคร่งึ ตึกครงึ่ ไม้ เมื่อสรา้ งเสร็จจงึ ไดย้ ้ายนักเรียนจากวัดรัตนาราม
มาเรยี นทีว่ ัดแม่ริม

ปี พ.ศ.๒๕๓๓ พระครูอมรธรรมประยุต เจ้าอาวาสวัดแม่ริม/เจ้าคณะอำเภอแม่ริม เป็นประธานฝา่ ยสงฆ์
โดยมี นายสพุ รม หอมยก นายอำเภอแม่รมิ เปน็ ประธานฆราวาส รว่ มดว้ ยข้าราชการ ศรทั ธา พ่อค้า ประชาชน ไดร้ ื้อ
อาคารเรียนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ได้สร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็น
อาคารขนาด ๓ ช้ัน มี ๙ หอ้ งเรยี น แลว้ เสร็จในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ส้นิ ทนุ ทรพั ยใ์ นการก่อสรา้ ง ๒,๕๐๐,๐๐๐.- บาท (สอน
ลา้ นห้าแสนบาทถ้วน)

ปี พ.ศ.๒๕๓๕ เจ้าคณะอำเภอแม่ริม พร้อมด้วยคณะสงฆ์ได้ขออนุญาตเปิดเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม
แผนกสามัญศึกษา ชื่อโรงเรียนวัดแม่ริมปริยตั ิวิทยา ต่อกรมการศาสนาเปิดการเรียนการสอนในปกี ารศีกษา ๒๕๓๕
รับนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ต่อมาในปีเดียวกันนี้ทางโรงเรียนได้
ดำเนินการเปล่ียนชอื่ โรงเรยี นใหม่ จากโรงเรียน “วดั แมร่ มิ ปรยิ ัติวทิ ยา” เปน็ โรงเรียน “วดั แม่ริมวิทยา” ทางกระทรวง
ศกึ ษาได้อนุญาตให้เปลี่ยนช่อื โรงเรียนไดต้ ามท่ขี อ ตง้ั แตว่ ันที่ 30 กนั ยายน พ.ศ.2535
โรงเรียนวัดแม่ริมวิทยา ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จากกรมการศาสนา
ใบอนญุ าตเลขที่ 33/2535 ลงวนั ที่ 9 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕

ปี พ.ศ.๒๕๓๗ ได้ทำการเปิดการเรียนการสอนครบทุกระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอน
ปลาย และไดเ้ ปดิ แผนการเรยี นการสอนสาย วิทย์คณิต และศลิ ป์ภาษา เปน็ ต้นมาจนถึงปัจจบุ ัน

ปี พ.ศ.2554 มูลนธิ ิถาวรอุษาประภา นำโดย พลเอก อาทิตย์ คุณพรสรรค์ กำลังเอก พร้อมด้วยคณะ
ศรัทธาสาธุชน ได้สร้างอาคารเรียน “90 ปี พระครูอมรธรรมประยุต” เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น สิ้นทุน
ทรัพยใ์ นการกอ่ สรา้ ง เป็นจำนวนเงนิ 3,510,000.- บาท (สามลา้ นหา้ แสนหน่ึงหมื่นบาท)

ปี พ.ศ.2560 พระครอู นสุ นธ์ปิ ระชาทร เจา้ สำนกั ปฏบิ ตั ธิ รรมพทุ ธอทุ ยานบูรณรักษธ์ รรม ตำบลแม่แรม
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพสร้างหอประชุม “รัตนปุญญานุศิษย์” หน้าอาคารเรียน สิ้นทุนทรัพย์
1,500,000.- บาท (หน่งึ ลา้ นห้าแสนบาท)

วิสยั ทศั น์

โรงเรียนวดั แมร่ มิ วิทยา มุง่ พฒั นาบคุ ลากรและผเู้ รยี น ให้ทรงศีลจริยวตั รงาม ทรงศาสตรห์ ันสมยั
ทรงธรรมประจำใจ พลานามัยสมบูรณ์แขง็ แรง

จุดเน้นการดำเนินงานของโรงเรียน โดยแบง่ เปน็ ๓ ส่วน ดงั นี้

สว่ นที่ ๑ จดุ เนน้ ด้านผู้เรียน
๑.๑ นักเรียนมีคุณลักษณะสำคญั ดงั ต่อไปน้ี
(๑) เป็นศาสนทายาททดี่ ีของพระพทุ ธศาสนาและพลเมืองท่ดี ขี องสังคม
(๒) มีความรูแ้ ละทักษะในวชิ าการทางพระพุทธศาสนา
(๓) มีนิสยั ใฝห่ าความรู้ ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบและวินยั สงฆ์
(๔) มีสขุ ภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ
(๕) รจู้ ักบำรงุ รักษาศาสนสมบัติ อนรุ ักษ์ และเสรมิ สรา้ งสภาพแวดลอ้ ม
(๖) มีความภมู ใิ จความเป็นสมณะ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
(๗) มีความคดิ สรา้ งสรรค์ และสง่ เสรมิ สนับสนนุ แนวทางปฏิบัตใิ ห้เกิดความเจริญแก่ชมุ ชน

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านโรงเรยี นวดั แม่รมิ วทิ ยา หน้า 5

สงั คม และพระพทุ ธศาสนา

ส่วนท่ี ๒ จุดเน้นด้านครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
2.๑ ครไู ด้รบั การพัฒนาองคค์ วามรู้ และทักษะในการสื่อสารมีสมรรถนะในการสอน อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
(1) ครไู ด้รับการพฒั นาวธิ ีการจัดการเรียนการสอน การสอนคดิ แบบต่างๆ และการวดั

ประเมนิ ผล ใหส้ ามารถพัฒนาและประเมนิ ผลนกั เรียนใหม้ คี ณุ ภาพตามศักยภาพเป็นรายบคุ คล
(๒) ครูสามารถยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา โดยประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบสารสนเทศและการส่ือสาร

อย่างเหมาะสม
(๓) ครูได้รบั การนิเทศแบบกลั ยาณมิตร โดยสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผบู้ ริหารสถานศึกษา

และครทู ั้งในโรงเรยี น ระหว่างโรงเรยี น หรอื ภาคส่วนอืน่ ๆ ตามความพรอ้ มของโรงเรียน
(๔) ครูสรา้ งเครือขา่ ยการเรียนรู้ การมีสว่ นร่วมจากผ้มู สี ว่ นเก่ยี วข้อง และทุกภาคสว่ นให้เกิด

ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้
(๕) ) ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา มีจติ วิญญาณของความเป็นครู การเป็นครูมืออาชพี และ

ยดึ มนั่ ในจรรยาบรรณของวชิ าชีพ
๒.๒ ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา มคี วามสามารถในการบริหารงานทุกด้านให้มปี ระสทิ ธิภาพ และเกิดประสทิ ธผิ ล
๒.๓ ครู และบุคลากรทางการศึกษา มขี วญั กำลงั ใจในการทำงาน

สว่ นที่ ๓ จดุ เน้นด้านการบรหิ ารจดั การ
๓.๑ โรงเรียนบรหิ ารจดั การโดยม่งุ เนน้ การกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบต่อผลการ

ดำเนินงาน
(๑) โรงเรยี นบริหารจดั การอย่างมีคุณภาพ โดยใชม้ าตรฐานการประกันคุณภาพภายใน
(๒) โรงเรียนจัดทำแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ร่วมกับ ผู้ปกครอง ชมุ ชน และองคก์ ร อนื่ ๆ

ที่เก่ียวข้อง
(๓) โรงเรยี นพฒั นาระบบ กำกบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ การบริหารจดั การงบประมาณทม่ี ี

ประสิทธภิ าพ อย่างจริงจัง และตอ่ เนื่อง
(๔) โรงเรยี นเชดิ ชูเกียรตนิ กั เรียน ทม่ี ผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นสงู ขน้ึ และจดั ให้มรี ะบบดูแล

ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น ลดอตั ราการออกกลางคัน พฤติกรรมเสี่ยง อยา่ งจริงจัง และตอ่ เนื่อง
๓.๒ หนว่ ยงานต้นสงั กดั สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งเสรมิ การมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาคุณภาพ

การศกึ ษา
(๑) ประสานความร่วมมอื ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา กบั หนว่ ยงานตน้ สงั กัด
(๒) รบั การสนับสนนุ งบประมาณและทรพั ยากรในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

อัตลักษณ์

“ผู้เรยี น มรี ะเบยี บวนิ ยั มีความรู้ มีคุณธรรม ”

เอกลกั ษณ์

“นักเรียนแต่งกายเรียบรอ้ ย เป็นปรมิ ณฑล ”

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรยี นวดั แมร่ มิ วทิ ยา หน้า 6

บทนำ

บทบาทหนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบของผบู้ ริหารสถานศึกษา
ตามพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพม่ิ เติม พ.ศ. 2545
และ พ.ศ. 2553 และโดยอาศัยอำนาจ ตามความในขอ้ 15 (6) แห่งประกาศคณะกรรมการการศึกษา

พระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา ว่าด้วยพนักงานศาสนการด้านการศึกษา พ.ศ.2555
ข้อบังคับคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัตธิ รรม ว่าดว้ ยการบริหารงานบคุ คลการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม

พ.ศ. 2563

-------------------------

สถานศึกษาเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดการศึกษา เห็นได้จากการที่พระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2545 และ พ.ศ. 2553 และประกาศมหาเถรสมาคม ว่าด้วยโรงเรียน
พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. 2553 กำหนดให้สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้ถึง 3 รูปแบบ ซ่ึง
ได้แก่ (1) การศกึ ษาในระบบโรงเรยี น (2) การศกึ ษานอกระบบโรงเรียน และ (3) การศึกษาตามอัธยาศยั โดยม่งุ เนน้
ภารกจิ หลักในการปฏิรูปการเรยี นรู้เพ่ือให้ผเู้ รียนทุกคนเป็นมนษุ ย์ทสี่ มบรู ณม์ ีความรู้ค่คู ุณธรรม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
อยา่ งมคี วามสขุ ด้วยเหตนุ ี้ การพฒั นาคุณภาพการศึกษาจงึ เปน็ เร่ืองจำเปน็ เพื่อให้สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้
สอดคล้องกับภารกิจหลักตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติด้วยการพัฒนาทั้งระบบ ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพ
ของปัจจัยการผลติ การพัฒนาคุณภาพของกระบวนการบริหารจดั การ และการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน นอกจากนี้
ยังกำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องมีการประกันคุณภาพภายในอยู่ในกระบวนการบริหารจัดการเรียนการสอน
ตามปกติของสถานศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นอย่ตู ลอดเวลา

เพื่อจะได้เป็นหลักประกันว่าสถานศึกษาจะสามารถจัดการศึ กษาได้อย่างมีคุณภาพเป็นไปได้ตาม
มาตรฐานคุณภาพเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์จรรโลงสังคมให้มีความ
สงบและมีสันติสุข การประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพ จึงเป็นเรื่องใหม่ที่มีความสำคัญ เนื่องจาก
ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ได้รับอำนาจตามกฎหมาย ในการมีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการบริหารจัด
การศึกษาให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และประกาศมหาเถรสมาคมว่าด้วย
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนจึงควรจะต้องมีความรู้ มีความเ ข้าใจ และ
สามารถบริหารจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาการศกึ ษาให้มีคุณภาพ อีกทั้งต้องพัฒนาตนเองให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ในด้านต่างๆ ของโลกในยุคข้อมูลข่าวสารและต้องเป็นผู้นำครูบุคลากรในสถานศึกษารวมทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง และ
ประชาชนในชมุ ชนให้เขา้ ใจและตระหนักในความสำคัญของการจัดการศกึ ษาเพื่อพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา

การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จะสำเร็จได้ก็ด้วยความเอาใจใส่ของผู้บริหาร
สถานศกึ ษาอย่างจริงจัง โดยตอ้ งเร่ิมจากการเปล่ียนแนวคิดในการบริหารจัดการเพื่อปฏิรูปการเรียนรู้พร้อมๆ กับการ
ใหค้ วามรู้ สรา้ งความเข้าใจให้กับครูผู้สอน เพราะการมีเจตคติท่ดี ีต่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้นความสำคัญของ
ผู้เรียนจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนได้โดยที่ผู้บริหารจะต้องเป็นผู้ลงมือทำ แนะนำครูผู้สอน โดยการสร้าง
ความตระหนกั ในความสำคัญของการปฏริ ูปการเรียนรูร้ ว่ มกนั วางแผนปรบั เปล่ียนวิธีการจดั การเรียนการสอนด้วยการ
จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกัน กำหนดเป้าหมายคุณภาพของผู้เรียนกำหนดมาตรฐานคุณภาพ มีการ
วางแผนบริหารจัดการให้มีการกำหนดระบบงาน สร้างกลไกความรับผิดชอบที่ชัดเจน มีการปรึกษาหารือเพื่อให้
บุคลากรทุกคนเห็นพ้องต้องกนั แล้วจงึ มอบหมายงานตามบทบาทหน้าที่ความรบั ผิดชอบของแต่ละคน ขณะเดียวกันก็
ร่วมกันคิดกลวิธีหรือกลยุทธ์ เพื่อหาทางพัฒนาการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียน เช่น การสร้างเครือข่าย
ความร่วมมือจากสถานศึกษาอื่น จากผู้นำชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาครูผู้สอน และ
ดำเนินการจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั จดั ระบบการประเมินผลอยา่ งครบวงจร พร้อมท้งั วางแผน

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรียนวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 7

กำกับ ติดตาม ประเมินผลการทำงานอยา่ งสมำ่ เสมอ ถา้ เป็นเชน่ น้กี ารปฏริ ปู การเรยี นการสอนท่เี นน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคัญ
ก็ย่อมจะสัมฤทธ์ิผล

ผู้บริหารสถานศึกษาต้องเป็นผู้เริ่มและเป็นผู้นำทางวิชาการอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
การที่จะเป็นผู้นำที่มีศักยภาพเช่นนี้ได้ผู้บริหารจะต้องมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองพัฒนาครูและผู้เรียน ให้ได้พัฒนาไป
ตามศักยภาพอย่างมีคุณภาพด้วยการเป็นผู้วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและบริหารสถานศึ กษาเพื่อพัฒนา
คณุ ภาพผูเ้ รยี นให้บงั เกดิ ผลสูงสุดแลว้ ผบู้ รหิ ารยงั ต้องมีบทบาทในการนเิ ทศ กำกบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการจดั การเรียน
การสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพอีกด้วย ถ้าผู้บริหารไม่ตระหนักในความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนที่เน้น
ผู้เรยี นเปน็ สำคญั และละเลยไม่สนบั สนุนส่งเสริมให้ครูไดจ้ ดั การเรยี นการสอนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน การปฏิรูปการเรียนรู้ก็จะไม่บังเกิดผลตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษา
แหง่ ชาติ

ในการบริหารสถานศึกษาเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาตามบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษานนั้ ผู้บริหาร
สถานศึกษาจะต้องทำงานด้วยจิตใจที่แน่วแน่ มั่นคง โดยฝึกอุดมคติ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและปัญหานานัปการท่ี
จะต้องเผชิญและต้องหาทางแก้ไขให้สำเร็จ การแสดงบทบาทที่เหมาะสมกับสถานภาพของผู้บริหารและแสดงให้
เหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำสูงสุดในสถานศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็น อีกทั้งจะต้องเป็นบทบาทที่ครูผู้สอน ผู้เรียน
ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคมคาดหวังว่าผู้บริหารควรจะเป็น ซึ่งได้แก่ผู้บริหารควรจะเป็นผู้นำทางวิชาการที่เข้มแข็งมี
การพัฒนางานวิชาการอย่างเป็นระบบ มีกระบวนการบริหารจัดการที่เป็นที่ยอมรับ พร้อมๆ กับการเป็นนักพัฒนา
คุณภาพการศึกษา ผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและลึกซึ้ง ตลอดจนมีความรู้ ความสามารถที่จะก้าวให้ทันต่อการ
เปลี่ยนแปลงต่างๆ ของชุมชน ของสังคม และของโลก ด้วยการพัฒนาสถานศึกษาให้ผู้เรียนมคี ุณภาพ เพื่อสร้างสรรค์
ศรัทธา ความเชื่อมั่นในตัวผู้บรหิ ารใหบ้ งั เกิดแกท่ กุ คน

นอกจากน้ีบทบาทในฐานะผชู้ ่วยเหลอื เกื้อกลู ผู้ร่วมงานและผูใ้ ตบ้ งั คับบัญชาก็ยังเปน็ บทบาททีจ่ ำเป็น ใน
ยุคสมัยของสังคมวัตถุนิยม ซึ่งให้ความสำคัญด้านวัตถุมากกว่าการเห็นความสำคัญของการพัฒนาด้านจิตใจ
ผู้บริหารที่มีจิตใจที่พร้อมจะเป็น “ผู้ให้” ย่อมเป็นผู้ที่สมควรแก่การยกย่อง สรรเสริญ ประการสำคัญ ถ้าผู้บริหาร
สามารถใช้ปัญญาในการกระทำตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านการมีคุณธรรมจริยธรรมก็จะยิ่งทำให้การแสดงบทบาท
ต่างๆ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น บทบาทในการตัดสินใจที่มีประสิทธิผลก็จะทำให้เป็นผู้บริหารมืออาชีพเพราะตัดสินใจไม่พลาด
ส่วนอีกบทบาทหนึ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือการเป็นนักพูดที่มีศิลป์ มีศิลปะในการเจรจาต่อรองตลอดจนเป็นนักฟังที่ดี
พร้อมท่ีจะรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้คนรอบขา้ งเปน็ การสรา้ งขวัญและกำลังใจแกผ่ รู้ ่วมงานอยา่ งดยี ิง่

---------------------------------------

❖ คมู่ ือการปฏิบตั ิงานโรงเรยี นวดั แม่รมิ วทิ ยา หน้า 8

สว่ นที่ 1

คำนิยามศพั ท์

คู่มอื การบริหารสถานศกึ ษา หมายถงึ คู่มือการบรหิ ารสถานศึกษา โรงเรยี นวัดแม่ริมวทิ ยา
สำนักเขตการศกึ ษาพระปริยัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา เขต 5 หมายถงึ สำนักเขตการศึกษาพระปรยิ ัติ-
ธรรม แผนกสามญั ศึกษา เขต 5 (เชยี งใหม่ ลำพนู และแม่ฮ่องสอน)
สถานศกึ ษา หมายถึง โรงเรยี นวัดแม่รมิ วทิ ยา
มาตรฐานผู้บริหาร หมายถงึ มาตรฐานวิชาชพี ด้านผบู้ รหิ ารตามข้อบังคบั ของครุ สุ ภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
และจรรยาบรรณของวิชาชพี พ.ศ. 2548
คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน หมายถึง คณะบุคคลทไ่ี ด้รับการสรรหาตามพระราชบัญญตั ิการศึกษา
แหง่ ชาติ พ.ศ.2542 แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 40 วรรค 1 วรรค 2 และวรรค 3 และระเบยี บ
กระทรวงศกึ ษาธิการ วา่ ดว้ ยคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2543
คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน หมายถึง คณะกรรมการตามข้อ 5
แหง่ ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ.
2544
คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา หมายถงึ คณะกรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษาที่รบั ผดิ ชอบในการบริหาร
จัดการสถานศึกษา
ผู้รับใบอนุญาต หมายถึง เจ้าอาวาสวดั ท่ีขอจัดต้งั สถานศกึ ษา (โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา)
ผจู้ ดั การ หมายถึง เจา้ อาวาสทรี่ ับใบอนุญาตจัดตัง้ สถานศกึ ษา (โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา)
หรือพระภกิ ษทุ ่ีเจา้ อาวาสมอบหมายเปน็ ลายลักษณ์อักษร
ผอู้ ำนวยการ หมายถงึ พระภิกษผุ ้ทู ำหนา้ ทเ่ี ป็นผอู้ ำนวยการในสถานศกึ ษา
รองผู้อำนวยการ หมายถึง พระภิกษหุ รือคฤหัสถผ์ ทู้ ำหน้าท่เี ป็นผชู้ ว่ ยผ้อู ำนวยการ
หัวหนา้ กลุ่มงานบรหิ าร หมายถึง หัวหนา้ กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ หัวหนา้ กลมุ่ งานบริหารงบประมาณ
หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารบคุ คล และหัวหน้ากลุ่มงานบริหารท่ัวไป
ครู หมายถึง บุคลากรวิชาชีพผูท้ ำหนา้ ที่หลักทางดา้ นการเรียนการสอนและสง่ เสรมิ การเรยี นรู้แก่ผูเ้ รยี นด้วย
วิธีการตา่ งๆ รวมถงึ พระภกิ ษุผูส้ อนในสถานศึกษา
จศป. หมายถึง บรรพชิตและคฤหัสถต์ ้องไดร้ ับการสรรหา บรรจแุ ละแตง่ ต้ัง ตามทกี่ ำหนดไว้ในหมวด 2 การ
บรหิ ารงานบุคคล ข้อ 14 เวน้ แตก่ รณีท่ีมีกฎหมายบญั ญตั ิไวเ้ ป็นอย่างอื่น
นกั เรียน หมายถึง ภกิ ษุ-สามเณร หรือผทู้ ก่ี ำลงั ศึกษาในหลักสตู รพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
บุคลากรทางการศึกษา หมายถึง ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ผู้บรหิ ารการศกึ ษา รวมท้งั ผสู้ นับสนนุ การศึกษาซึ่ง
เป็นผูท้ ำหน้าท่ใี หบ้ ริการหรอื ปฏบิ ตั งิ านเกีย่ วเน่ืองกบั การจัดกระบวนการเรยี นการสอน การนิเทศและการบริหาร
การศึกษาในหนว่ ยงานการศึกษาต่างๆ
ครูทปี่ รกึ ษา หมายถึง ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมายและแต่งตง้ั ให้ดูแล รับผดิ ชอบ ให้คำปรกึ ษาและข้อเสนอแนะแก่
นักเรียนในแตล่ ะห้องเรยี น
ครเู วรประจำวนั หมายถงึ ผู้ท่ีได้รับมอบหมายและแต่งตง้ั ให้ดแู ล รับผิดชอบเหตกุ ารณ์ในแตล่ ะวัน
ครเู วรวนั หยดุ หมายถงึ ผู้ท่ีได้รับมอบหมายและแต่งต้ังให้ดูแล รับผดิ ชอบ ในการปฏิบัตหิ นา้ ทอี่ ย่เู วรวนั หยดุ
ใหเ้ ป็นไปดว้ ยความเรียบร้อย
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ หมายถึง ผ้ทู ี่ได้รบั การแต่งตัง้ ใหร้ ับผดิ ชอบ ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่
ครูภายในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
เจา้ หน้าทีแ่ นะแนว หมายถึง ผู้ท่ไี ดร้ บั การแตง่ ตั้งให้รบั ผดิ ชอบ ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่นักเรียน

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโรงเรียนวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 9

เจา้ หนา้ ทว่ี ดั และประเมินผล หมายถึง ผู้ทไี่ ดร้ บั การแต่งตง้ั ให้รบั ผดิ ชอบเกีย่ วกับงานวดั และประเมนิ ผลของ
สถานศึกษา

เจ้าหนา้ ทพ่ี สั ดุ หมายถงึ ผทู้ ี่ไดร้ บั การแตง่ ตั้งใหด้ แู ล และรับผดิ ชอบในการรบั -เบิกจา่ ยเกย่ี วกบั พสั ดุของ
สถานศึกษา

นายทะเบียน หมายถึง ผทู้ ่ไี ด้รบั การแต่งตั้งใหร้ ับผิดชอบเกย่ี วกบั งานทะเบียนของสถานศึกษา
เจ้าหน้าที่การเงินและการบญั ชี หมายถงึ ผู้ท่ีไดร้ บั การแต่งตั้งให้ดูแล และรบั ผิดชอบเก่ียวกบั งานด้าน
การเงินและบญั ชขี องสถานศึกษา
เจา้ หนา้ ท่ปี ระชาสมั พนั ธ์ หมายถงึ ผูท้ ่ไี ด้รบั การแต่งตงั้ ใหด้ ูแล และรบั ผิดชอบเกย่ี วกับงานประชาสมั พนั ธ์
หรือแนะแนวเพ่ือการศึกษาของสถานศึกษา
เจ้าหน้าทส่ี ารบรรณ หมายถึง ผู้ท่ีไดร้ บั การแตง่ ตัง้ ใหร้ บั ผิดชอบเกี่ยวกับงานสารบรรณของสถานศกึ ษา
นกั การภารโรง หมายถึง ผ้ทู ่ีได้รับการแต่งตั้งใหด้ แู ล และรบั ผิดชอบเกี่ยวกับงานการภารโรงของสถานศึกษา
พนักงานขับรถ หมายถึง ผทู้ ี่ได้รบั การแต่งต้ังใหด้ ูแลและทำหน้าที่ขบั รถในโรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนก
สามญั ศกึ ษา หรือผทู้ ีผ่ ู้อำนวยการมอบหมายให้ทำหน้าทแี่ ทน

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโรงเรยี นวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 10

สว่ นที่ 2

โครงสร้างการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาโรงเรียนวดั แม่ริมวิทยา

โครงสรา้ งการบริหารงาน
โรงเรยี นวัดแมร่ มิ วทิ ยา อำเภอแมร่ มิ จังหวดั เชยี งใหม่

สำนกั เขตการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม ผู้จัดการ คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
แผนกสามัญศกึ ษา เขต 5 ผอู้ ำนวยการ
รองผ้อู ำนวยการ

กล่มุ บรหิ ารท่ัวไป กล่มุ บรหิ ารงบประมาณ กลมุ่ บรหิ ารงานบุคคล กลมุ่ บริหารวชิ าการ

กลุม่ งานทว่ั ไป กลมุ่ งานแผนงาน กลุม่ งานบคุ ลากร กลุ่มงานวชิ าการ
1. งานอาคารสถานที่ 1. งานแผนงาน 1. งานสารบรรณ 1. งานทะเบยี นวัดผล
2. งานสง่ิ แวดล้อม 2. งานทะเบียนและ 2. งานรบั สมัครนักเรยี น
3. งานสมั พนั ธช์ มุ ชน - งานตดิ ตามตรวจสอบ อัตรากำลัง 3. งานกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
4. งานบริการนกั เรยี น และประเมินผลการดำเนิน 3. งานวนิ ัยและการรักษา 4. งานสง่ เสริมวิชาการ
โครงการ วนิ ยั
- งานอนามยั 4. งานประเมนิ ผลการ - งานห้องสมดุ และแหลง่
- งานโภชนาการ - งานปฏิทินปฏิบตั งิ าน ปฏบิ ัติงาน เรียนรู้
5. งานโสตทัศนูปกรณ์ 2. งานสารสนเทศโรงเรยี น 5. งานปฏคิ ม
6. งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ 6. งานเวรประจำวัน - งานสอ่ื นวัตกรรมแหล่ง
และการสอื่ สาร และการสอ่ื สาร 7. งานสมาคมศิษยเ์ กา่ เรยี นรู้ และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน
- งานพฒั นาเทคโนโลยี ผู้ปกครองและครู 5. งานแนะแนว
- งานพัฒนาโปรแกรม - งานพฒั นาเทคโนโลยี กลุม่ งานพัฒนาบคุ ลากร 6. งานจดั การขอ้ มลู นกั เรยี น
บรหิ ารและระบบเครือขา่ ย - งานพฒั นาโปรแกรม 1. งานพฒั นาบคุ ลากร (E-citizen)
กลมุ่ งานกจิ การนักเรียน บรหิ ารและระบบเครือขา่ ย 7. งานพฒั นาระบบการ
1. งานแก้ไขพฤติกรรมและ 4. งานควบคุมภายใน - งานธรุ การบคุ ลากร เรียนรู้
วินยั นกั เรียน 5. งานจดั การขอ้ มลู นกั เรียน 2. งานนิเทศบุคลากร กลุ่มงานพัฒนาวิชาการ
2. งานโรงเรยี นสีขาว กลมุ่ งานงบประมาณ 3. งานสวัสดกิ าร 1. งานนเิ ทศภายใน และ
- งานป้องกนั และแก้ไข 1. งานการเงิน 4. งานคณะกรรมการ บริหารกล่มุ สาระ
ปัญหายาเสพตดิ 2. งานบญั ชี สถานศกึ ษา 2. งานพัฒนาหลักสตู ร
3. งานส่งเสรมิ คุณธรรม 3. งานพัสดแุ ละสนิ ทรัพย์ 5. งานประชาสมั พันธ์ สถานศึกษา
จรยิ ธรรม 4. งานระดมทรพั ยากรเพื่อ 3. งานวิจัยและพฒั นา
4. งานระบบดแู ลชว่ ยเหลือ การศกึ ษา คณุ ภาพการศึกษา
นักเรียน 5. งานประกันชวี ิตนกั เรียน 4. งานประกันคุณภาพ
5. งานระดับชั้นและครูท่ี การศกึ ษา
ปรกึ ษา
6. งานเครือขา่ ยผปู้ กครอง
7. งานสภานักเรยี นและ
กิจกรรมนกั เรยี น
8. งานเอกลกั ษณ์โรงเรยี น
9. งานอตั ลักษณ์โรงเรียน

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วิทยา หน้า 11

ส่วนท่ี 3

ขอบขา่ ยภาระงานตามโครงสร้างการบริหารสถานศึกษา

3.1 คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานมีขอบขา่ ยภาระงานทต่ี อ้ งปฏิบัติตามทกี่ ำหนดไวใ้ นระเบยี บ
กระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ.2543 ขอ้ 13 (1) ถึง (12) ดังน้ี
(1) กำหนดนโยบายและแผนพฒั นาของสถานศึกษา
(2) ให้ความเหน็ ชอบแผนปฏิบตั ิการประจำปีของสถานศึกษา
(3) ใหค้ วามเห็นชอบในการจดั ทำสาระหลักสูตรให้สอดคล้องกับความตอ้ งการของท้องถน่ิ
(4) กำกับ และตดิ ตามการดำเนนิ งานตามแผนของสถานศึกษา
(5) ส่งเสรมิ และสนับสนุนให้เดก็ ทุกคนในเขตบริการ ได้รับการศึกษาข้นั พน้ื ฐานอยา่ งทั่วถงึ มคี ุณภาพและ
ไดม้ าตรฐาน
(6) ส่งเสรมิ ให้มกี ารพทิ ักษ์สิทธเิ ด็ก ดแู ลเดก็ พกิ าร เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่มีความสามารถพิเศษให้
ได้รบั การพัฒนาเต็มตามศักยภาพ
(7) เสนอแนวทางและมีส่วนรว่ มในการบรหิ ารจดั การดา้ นวชิ าการ ด้านงบประมาณ ดา้ นการบริหารงาน
บคุ คล และดา้ นการบรหิ ารท่ัวไป ของสถานศึกษา
(8) ส่งเสรมิ ให้มกี ารระดมทรพั ยากรเพื่อการศึกษา ตลอดจนวทิ ยากรภายนอกและภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน เพ่ือ
เสรมิ สรา้ งการพัฒนาการของนักเรยี นทกุ ด้าน รวมท้ังสืบสานจารีตประเพณี ศิลปวฒั นธรรมของ
ทอ้ งถน่ิ และของชาติ
(9) เสรมิ สรา้ งความสมั พันธ์ระหว่างสถานศึกษากับชุมชน ตลอดจนประสานงานกับองค์กรทั้งภาครัฐและ
เอกชน เพ่ือให้สถานศึกษาเป็นแหล่งวทิ ยาการของชุมชน และมสี ่วนในการพัฒนาชุมชนและทอ้ งถ่ิน
(10)ให้ความเหน็ ชอบรายงานผลการดำเนินงานประจำปขี องสถานศึกษาก่อนเสนอต่อสาธารณชน
(11)แตง่ ตัง้ ทป่ี รึกษาและหรอื คณะอนุกรรมการเพ่ือการดำเนินงานตามระเบยี บนี้ ตามทเี่ ห็นสมควร
(12)ปฏิบัติการอน่ื ตามท่ีได้รบั มอบหมายจากหนว่ ยงานตน้ สงั กดั ของสถานศกึ ษานั้น

3.2 คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน มีขอบข่ายภาระงานทต่ี อ้ งปฏิบตั ิ
ตามที่กำหนดในระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ดว้ ยคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวิชาการ
สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. 2544 ข้อ 6 (1) ถึง (9) ดังนี้
(1) วางแผนดำเนินงานวชิ าการ กำหนดสาระ รายละเอียดของหลกั สูตรระดบั สถานศึกษา และแนวการจัด
สัดสว่ นสาระการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนของสถานศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกับหลกั สูตรการศึกษา
ขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2544 หรือหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 ตามกรณีสภาพ
เศรษฐกจิ สังคม ศลิ ปวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาของท้องถน่ิ
(2) จัดทำค่มู ือการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการของสถานศึกษา นเิ ทศ กำกับ ติดตาม ให้คำปรึกษา
เก่ียวกับการพฒั นาหลักสตู ร การจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล และการแนะแนวให้
สอดคลอ้ งและเปน็ ไปตามมาตรฐานหลักสตู ร
(3) สง่ เสริมและสนับสนุนการพฒั นาบคุ ลากรเกย่ี วกับการพฒั นาหลกั สตู ร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การ
วดั และประเมนิ ผล และการแนะแนวให้เปน็ ไปตามจุดหมายและแนวทางการดำเนินการของหลกั สูตร
(4) ประสานความรว่ มมือจากบุคคล หนว่ ยงาน องค์กรตา่ งๆ และชมุ ชนเพอ่ื ใหก้ ารใช้หลักสตู รเปน็ ไปอย่าง
มีประสิทธภิ าพและมีคุณภาพ
(5) ประชาสมั พันธห์ ลกั สตู รและการใช้หลักสตู รแกน่ กั เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผทู้ ่เี กย่ี วขอ้ งและนำ
ข้อมลู ป้อนกลับจากฝ่ายต่างๆ มาพจิ ารณาเพ่ือการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรของสถานศกึ ษา
(6) สง่ เสริมและสนับสนนุ การวจิ ัยเกี่ยวกบั การพฒั นาหลักสตู รและกระบวนการเรยี นรู้

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านโรงเรยี นวัดแม่ริมวทิ ยา หนา้ 12

(7) ตดิ ตามผลการเรยี นของนักเรียนรายบุคคล ระดบั ชัน้ ระดับชว่ งช้ัน และระดบั กลุม่ วชิ าในแต่ละปี
การศกึ ษา เพ่ือปรบั ปรุงแก้ไขและพฒั นาการดำเนนิ งานด้านตา่ งๆ ของสถานศึกษา

(8) ตรวจสอบ ทบทวน ประเมินมาตรฐานการปฏิบัตงิ านของครูและการบริหารหลักสูตรระดับสถานศกึ ษา
ในรอบปที ีผ่ า่ นมา แลว้ ใชผ้ ลการประเมนิ เพื่อวางแผนพฒั นาการปฏิบตั งิ านของครูและการบริหาร
หลักสตู รปกี ารศึกษาต่อไป

(9) รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานและผลการบรหิ ารหลกั สตู รสถานศึกษา โดยเน้นผลการพัฒนาคณุ ภาพ
นกั เรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐานคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรระดับเหนือ
สถานศึกษาสาธารณชนและผู้เกีย่ วข้อง

3.3 คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา มีขอบขา่ ยภาระงานท่ีตอ้ งปฏิบัติ ดังน้ี
(1) รว่ มวางแผนนโยบาย ระบบ มาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการเก่ียวกับการบริหารจัดการสถานศกึ ษา
ให้สอดคล้องกบั นโยบายของสถานศึกษาสำนกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและกระทรวงศกึ ษาธิการ
(2) กำหนดนโยบาย วัตถปุ ระสงค์ และเป้าหมายในการดำเนินงานของสถานศึกษา
(3) รว่ มพิจารณาการบริหารงานหรือการดำเนินงานแล้วแต่กรณีเพื่อนำเสนอต่อหัวหนา้ กลมุ่ งานบรหิ าร
วชิ าการ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงบประมาณ หวั หน้ากลุม่ งานบริหารบคุ คล และหัวหนา้ กลุ่มงาน
บริหารทว่ั ไป และสว่ นอื่นๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง
(4) เสนอแนะหรือให้คำปรกึ ษาแกค่ รูและบุคลากรทางการศกึ ษาเก่ียวกบั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้หรอื
กจิ กรรมอืน่ ๆ รวมทง้ั ส่งเสริมและสนับสนนุ กิจการของสถานศึกษา
(5) ร่วมพจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ชี้ขาดเมื่อมีปัญหาเกดิ ขนึ้ ภายในสถานศกึ ษา
(6) ร่วมพจิ ารณาแต่งตงั้ และถอดถอนครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
(7) ปฏิบัติตามขอบข่ายภาระงานของคณะกรรมการบรหิ ารสถานศึกษาตามทสี่ ถานศึกษากำหนด
(8) กำหนดแผนปฏบิ ตั ิการประจำปขี องสถานศกึ ษาให้ครอบคลุมทกุ แผนงาน
(9) ควบคมุ กำกับ ติดตาม และนิเทศงานของสถานศึกษาในทกุ ดา้ น
(10)ใหค้ วามเห็นในการพิจารณาความดีความชอบประจำปีของครูบคุ ลากรในสถานศึกษา
(11)พิจารณาจัดสวสั ดกิ ารเพ่ืออำนวยความสะดวกและดแู ลช่วยเหลือครบู คุ ลากร
(12)ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานของคณะกรรมการฝา่ ยตา่ งๆ
(13)นำผลการประเมนิ มาวางแผนในการทำงานตอ่ ไป

3.4 ผรู้ ับใบอนุญาต มีขอบข่ายภาระงานที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ดังน้ี
(1) ส่งเสริมและสนับสนุนการจดั ทำนโยบายและแผนพฒั นาสถานศึกษา
(2) ส่งเสริมและสนบั สนุนการบริหารและการจัดการสถานศกึ ษาให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ขอ้ บังคบั ประกาศ คำส่งั และนโยบายของสำนกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และของ
กระทรวงศกึ ษาธิการ
(3) เสนอแนะการกำหนดนโยบาย วางแผนเกี่ยวกับการบรหิ ารจัดการศึกษา โดยให้เปน็ ไปตามปรชั ญา
เปา้ หมาย วสิ ัยทัศน์ วัตถปุ ระสงค์ และนโยบายของสถานศึกษา
(4) ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ให้การอบรมสงั่ สอน
ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม ค่านยิ ม และความเปน็ เอกลักษณ์ไทย
(5) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การปฏิบัติหนา้ ท่ขี องครู และบคุ ลากรทางการศึกษา
(6) ส่งเสริมและสนบั สนุนแหล่งงบประมาณ พสั ดุ ครภุ ณั ฑ์ สถานท่ี และทรัพยส์ นิ อื่นๆ เพื่อนำมาพฒั นา
สถานศกึ ษา
(7) ควบคุมดแู ลรับผิดชอบการดำเนนิ กจิ การของสถานศึกษาในการดำรงและเลกิ ล้มกิจการสถานศึกษาให้
เป็นไปตามกฎหมาย ระเบยี บ คำสง่ั ประกาศและนโยบายของทางราชการ

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านโรงเรียนวดั แม่ริมวทิ ยา หน้า 13

(8) ใหค้ วามร่วมมือการบรหิ ารงานตา่ งๆ ทีเ่ กี่ยวกับชมุ ชนเมอื่ ทางราชการร้องขอ
(9) สนบั สนนุ และส่งเสริมใหค้ รูได้เพิม่ พนู ความรูโ้ ดยเขา้ ศกึ ษาต่อตามโอกาสอนั ควร
(10)สนับสนุนและเผยแพรข่ ่าวสารทางราชการทเ่ี กี่ยวกบั สทิ ธแิ ละผลประโยชน์ท่ีบุคลากรของสถานศึกษา

พงึ ได้รบั
(11)ไม่กระทำการอนั ใดอนั อาจก่อให้เกดิ ความเดอื ดร้อนแกผ่ ู้อืน่ ในการดำเนินกจิ การของสถานศกึ ษา

3.5 ผ้จู ัดการโรงเรียน มขี อบข่ายภาระงานทตี่ อ้ งปฏิบัติ ดังน้ี
(1) ส่งเสริม และสนบั สนนุ ในการดำเนินกจิ การของสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ขอ้ บังคบั ประกาศ คำสั่ง และนโยบายของสำนกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
(2) เสนอแนะการกำหนดนโยบาย วางแผนเกยี่ วกบั การบรหิ ารจัดการศึกษา โดยใหเ้ ป็นไปตามปรชั ญา
เป้าหมาย วสิ ัยทัศน์ วัตถปุ ระสงค์ และนโยบายของสถานศึกษา
(3) ส่งเสรมิ และสนับสนุนการปฏิบัติหนา้ ทข่ี องครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา
(4) สง่ เสรมิ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุขให้การอบรมส่ังสอน
ปลูกฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม วฒั นธรรม คา่ นยิ ม และความเป็นเอกลกั ษณ์ไทย
(5) เอาใจใสต่อการปฏิบัตหิ นา้ ทีอ่ ยา่ งสมำ่ เสมอ และไมท่ อดทง้ิ หนา้ ที่การงาน
(6) สรา้ งความสมั พนั ธ์อนั ดตี ่อครู นักเรียน และผปู้ กครอง เพ่ือใหก้ ารเรียนการสอนนักเรียนได้ผลดี
(7) เสนอผรู้ บั ใบอนญุ าตให้ทำการบำรุงซ่อมแซมทรพั ย์สินทต่ี ้องใชเ้ ก่ียวกบั กจิ การของสถานศึกษา รวมทงั้
บรเิ วณสถานท่ี อาคารและอ่ืนๆ ที่จำเป็นเพ่ือให้มสี ภาพทจี่ ะใชก้ ารไดด้ ีและปลอดภยั
(8) หน้าท่ีอ่ืนๆ ทต่ี ้องปฏิบตั ติ ามระเบียบราชการ

3.6 ผู้อำนวยการโรงเรียน มีขอบข่ายภาระงานทต่ี ้องปฏิบัติ ดังน้ี
(1) บรหิ ารจัดการสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสงั่ และนโยบาย
ของสำนักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ และกระทรวงศกึ ษาธิการ
(2) กำหนดนโยบาย วางแผนเกีย่ วกบั การบริหารจัดการศกึ ษา โดยให้เป็นไปตามปรชั ญา เปา้ หมาย
วสิ ยั ทศั น์ วัตถุประสงค์ และนโยบายของสถานศกึ ษา
(3) ส่งเสรมิ ให้มีการประเมินหลักสูตรสถานศึกษาและอื่นๆ ท่ีจำเปน็ ตอ่ สถานศึกษา
(4) พัฒนา ครู และบุคลากรทางการศึกษา
(5) สง่ เสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุขให้การอบรมสงั่ สอน
ปลกู ฝงั คุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม คา่ นิยม และความเปน็ เอกลกั ษณ์ไทย
(6) ตระหนักและปฏบิ ัติหนา้ ที่อย่างสม่ำเสมอสรา้ งความสมั พนั ธ์อนั ดตี ่อครู นักเรยี น ผู้ปกครอง และชุมชน
(7) ปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
(8) กำกับ ติดตาม การปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา
(9) เสนอผ้รู ับใบอนญุ าตและผู้จัดการในการสนบั สนุนวัสดุและอุปกรณ์ทางการศึกษาให้เหมาะสมกบั ความ
จำเป็นของสถานศึกษา

3.7 รองผู้อำนวยการโรงเรียน มีขอบข่ายภาระงานที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ดังน้ี
(1) บรหิ ารจัดการสถานศึกษาใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คำสง่ั และนโยบาย
ของสำนักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ และกระทรวงศกึ ษาธิการ
(2) กำหนดนโยบาย วางแผนเกี่ยวกบั การบริหารจดั การศึกษา โดยให้เปน็ ไปตามปรัชญา เป้าหมาย
วิสยั ทศั น์ วัตถปุ ระสงค์ และนโยบายของสถานศึกษา
(3) ส่งเสริมให้มกี ารประเมินหลกั สูตรสถานศึกษาและอน่ื ๆ ท่จี ำเปน็ ตอ่ สถานศกึ ษา

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านโรงเรียนวดั แม่ริมวิทยา หน้า 14

(4) พฒั นา ครู และบุคลากรทางการศึกษา
(5) ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ให้การอบรมสงั่ สอน

ปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม วัฒนธรรม ค่านิยม และความเป็นเอกลักษณ์ไทย
(6) ตระหนกั และปฏบิ ัตหิ น้าที่อย่างสมำ่ เสมอ
(7) สรา้ งความสมั พนั ธ์อนั ดีต่อครู นักเรียน ผปู้ กครอง และชุมชน
(8) ปฏิบัตติ ามมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
(9) กำกบั ตดิ ตาม การปฏบิ ตั งิ านของครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา
(10) เสนอผรู้ บั ใบอนญุ าตและผู้จัดการในการสนับสนนุ วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ทางการศึกษาใหเ้ หมาะสมกบั

ความจำเป็นของสถานศึกษา
(11) เปน็ ผชู้ ่วยผ้อู ำนวยการและทำหน้าที่ตามผู้อำนวยการมอบหมาย

3.8 จรรยา และมรรยาทของครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ดงั นี้
(1) ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา และไมล่ บหลดู่ หู ม่ินศาสนาอนื่
(2) ต้งั ใจปฏบิ ตั ิหนา้ ทข่ี องตนใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ การศกึ ษา
(3) ปฏบิ ัติต่อบุคคลอ่ืนโดยสุภาพเรยี บร้อย
(4) ประพฤติตนอยู่ในความสุจรติ และปฏบิ ัติหนา้ ที่ด้วยความซ่ือสัตย์เท่ียงธรรม
(5) ไมก่ ระทำการใดอันอาจทำใหเ้ ส่ือมเสยี เกียรติและชื่อเสยี งของตนและสถานศึกษา
(6) ไม่กระทำการใดที่จะกอ่ ให้เกิดความแตกความสามัคคีในหมคู่ รูและนักเรยี น
(7) ไม่ยนิ ยอมให้ผอู้ น่ื อาศยั อำนาจหนา้ ท่ไี มว่ า่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม เพื่อหาประโยชนอ์ ันมชิ อบ
(8) ไมย่ ุยงสง่ เสริมหรือสนับสนนุ ใหน้ กั เรียนเดนิ ขบวนเรยี กร้องหรอื นัดหยดุ เรียนก่อความไม่สงบเพือ่ หา
ผลประโยชน์แกต่ นเองหรือผ้อู ่ืน
(9) นุ่งห่มหรอื แต่งกายสภุ าพเรียบรอ้ ย
(10) สร้างความสมั พนั ธ์ทด่ี ีในหมูค่ รู นักเรยี น ผปู้ กครองนักเรยี น เพ่อื ให้การเรียนการสอนนักเรยี นได้ผลดี

❖ คมู่ อื การปฏบิ ตั ิงานโรงเรียนวัดแมร่ มิ วทิ ยา หนา้ 15

ส่วนที่ 4

ขอบขา่ ยภาระงานหัวหนา้ กลุ่มงานบริหาร 4 กลุม่ งาน

4.1 หวั หนา้ กลุ่มงานบริหารวิชาการ มขี อบข่ายภาระงานท่ีต้องปฏิบตั ิ ดังน้ี
(๑) การวางแผนด้านวชิ าการ
(2) การจดั การเรยี นการสอน
(3) การพฒั นาหลกั สูตร
(4) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้
(5) การวดั ผลประเมนิ ผลและเทยี บโอนผลการเรยี น
(6) การวจิ ยั เพ่ือพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา
(7) การพฒั นาและสง่ เสริมให้มแี หล่งเรียนรู้
(8) การนิเทศการศึกษา
(9) การแนะแนว
(๑0) การพัฒนาระบบประกันคณุ ภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา
(๑1) การส่งเสริมใหช้ มุ ชนมีความเข้มแข็งทางวิชาการ
(๑2) การประสานความรว่ มมือในการพฒั นาวชิ าการกบั สถานศึกษาพระปริยตั ิธรรมและองค์กรอ่นื
(๑3) การส่งเสรมิ และสนบั สนุนงานวชิ าการแก่บุคคล ครอบครัว องค์กร หนว่ ยงาน สถานประกอบการ และ

สถาบันอน่ื ทีจ่ ัดการศึกษา
(๑4) การจัดทำระเบียบและแนวปฏิบัติเกีย่ วกับงานด้านวชิ าการ
(๑5) การคดั เลือกหนงั สือแบบเรยี นเพ่ือใช้ใสถานศึกษา
(๑6) การพฒั นาและใช้ส่ือเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา
(๑7) งานอ่ืนๆ ที่ได้รบั มอบหมาย

4.2หวั หนา้ กลุ่มงานบรหิ ารงบประมาณ มขี อบขา่ ยภาระงานทตี่ ้องปฏิบตั ิ ดังน้ี
(๑) จัดทำแผนงบประมาณ และคำขอจดั ตัง้ งบประมาณเพื่อเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด
(2) จัดทำแผนปฏิบัติการใช้จ่ายเงินทไ่ี ด้รับจดั สรรงบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด
(3) การอนุมตั ิการใชจ้ ่ายงบประมาณท่ีไดร้ ับจัดสรร
(4) การขอโอนและการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ
(5) การรายงานผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณ
(6) การตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ
(7) การตรวจสอบตดิ ตามและรายงานการใชผ้ ลผลติ จากงบประมาณ
(8) การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพ่ือการศกึ ษา
(9) การจดั ทำเพื่อจดั หาพัสดุ การจดั หาพัสดุ การควบคุมดูแล บำรงุ รักษาและจำหนา่ ยพัสดุ
(๑0) การเบกิ เงินจากคลงั การรับเงนิ การเก็บรักษาเงินการจ่ายเงนิ และการนำเงินส่งคลัง
(๑0) การจัดทำบัญชีการเงนิ
(๑2) การจดั ทำรายงานทางการเงนิ และงบการเงิน
(๑3) งานสวสั ดกิ ารครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
(๑4) งานอ่ืนๆ ที่ได้รับมอบหมาย

4.3 หัวหน้ากลุ่มงานบริหารบคุ คล มขี อบข่ายภาระงานท่ตี ้องปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
(๑) วางแผนกำลงั อัตราบุคลากร
(๒) การจดั สรรอตั รากำลงั ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วิทยา หนา้ 16

(๓) งานสรรหาและบรรจแุ ต่งต้ัง
(4) การเปลย่ี นตำแหน่งให้สูงขนึ้
(5) การย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา
(6) การดำเนินการเกย่ี วกับการเลอื่ นข้ันเงนิ เดือน
(7) การลาทุกประเภท
(8) การประเมินผลการปฏิบัติงาน
(9) การดำเนินการทางวนิ ัยและการลงโทษ การสงั่ พักและสง่ั ให้พ้นจากครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา
(10) การรายงานการดำเนนิ การทางวนิ ัยและการลงโทษ
(11) การส่งเสรมิ การประเมินวทิ ยฐานะครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
(12) การสง่ เสริมและการยกยอ่ งเชิดชเู กียรติ การส่งเสรมิ มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชพี

อัตรากำลงั และการสรรหา
(13) การส่งเสรมิ วินัยคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา
(14) สง่ เสรมิ รับใบอนุญาต
(15) การพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
(16) งานสวสั ดกิ ารครูและบุคลากรทางการศึกษา
(17) งานทะเบียนประวตั ิและงานฐานข้อมูลครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
(18) งานอนื่ ๆ ท่ีได้รับมอบหมาย
4.4 หัวหน้ากลุ่มงานบริหารท่ัวไป มีขอบขา่ ยภาระงานที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ดงั นี้
(๑) งานพัฒนาระบบและเครอื ข่ายสารสนเทศ
(๒) การวางแผนกาบรหิ ารงานศึกษา
(๓) งานวจิ ัยเพือ่ พัฒนนโยบายและแผนการจัดการศึกษา
(๔) การจดั ระบบบริหารและพฒั นาองค์กร
(๕) การพฒั นามาตรฐานปฏบิ ตั ิงาน
(๖) งานเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
(7) งานธรุ การ
(8) งานดแู ลอาคารสถานท่ีและสภาพแวดล้อม
(9) การจดั ทำสำมะโนผูเ้ รียนการรบั นักเรียน
(10) การเสนอความเหน็ เกี่ยวกบั การจดั ตง้ั สถานศกึ ษาขยายหอ้ งเรยี น เปดิ ห้องเรียนสาขา ยุบ ยุบรวม ยา้ ย

ทต่ี งั้ เปล่ียนช่อื หยุดดำเนนิ การชั่วคราวหรอื เลิกดำเนินการ
(11) การประสานการจัดการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั
(12) การระดมทรัพยากรเพ่ือการศกึ ษา
(13) การทัศนศึกษา
(14) งานกิจการนักเรียน
(15) การประชาสัมพนั ธ์
(16) งานการศึกษา การส่งเสรมิ สนบั สนนุ และประมานงานการจดั การศึกษาของบุคคล ชุมชน องค์กร

หน่วยงานและสถาบนั สังคมอ่นื ที่จัดการศึกษา
(17) งานประสานราชการกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถ่ิน
(18) รายงานผลการปฏิบัติงาน
(19) จดั ระบบควบคุมภายในหนว่ ยงาน
(20) แนวทางการจดั กิจกรรมเพ่ือปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมในการลงโทษนักเรียน
(21) งานอนื่ ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

❖ คมู่ อื การปฏิบัตงิ านโรงเรียนวดั แมร่ ิมวทิ ยา หนา้ 17

สว่ นที่ 5

การปฏบิ ตั ติ ามขอบข่ายภาระงานของครู และบคุ ลากรทางการศึกษา

5.1 เจ้าหน้าท่ีพัสดุ มีขอบขา่ ยภาระงานท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
(1) จดั ทำทะเบยี นควบคุมพัสดคุ รุภัณฑข์ องสถานศกึ ษาให้เป็นหมวดหมู่อยา่ งเป็นระบบและง่ายตอ่ การ
ตรวจสอบ
(2) จดั ทำรายงานเสนอการจดั ซ้ือ จดั จ้าง พัสดคุ รภุ ัณฑ์ และการขนย้าย จดั วาง จดั ต้ังพสั ดุครภุ ัณฑใ์ ห้
เหมาะสมกับการใชง้ าน
(3) ซ่อมแซมบำรุงรักษาพัสดุครภุ ัณฑ์ให้อยูใ่ นสภาพใชง้ านไดเ้ สมอ
(4) ทำหนา้ ทีเ่ บกิ จ่ายพสั ดุครภุ ณั ฑใ์ หก้ ับฝา่ ยหรือหมวดต่างๆ และควบคุมการใช้งานให้ถกู ต้องโดยเน้น
ความประหยัดเป็นสำคญั
(5) สำรวจพัสดุครภุ ัณฑท์ ่ีคงเหลอื ในแต่ละรายปี และเสนอแต่งต้งั คณะกรรมการตรวจสอบการใชจ้ า่ ยและ
จำหนา่ ยพสั ดุครุภณั ฑจ์ ากบัญชที ะเบยี น
(6) ทำความรแู้ ละเข้าใจเกี่ยวกับประเภทพสั ดุครภุ ณั ฑด์ ว้ ยการสืบราคามาตรฐานก่อนทำการจัดซอื้ และจัด
จ้าง
(7) บริการพัสดุครุภัณฑ์แกค่ รูบุคลากรของสถานศึกษาตามสมควรและสทิ ธทิ ่พี ึงจะได้รบั ตามหนา้ ท่ขี อง
งานหรือสายงาน
(8) ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั เจา้ หน้าทกี่ ารเงินและการบญั ชี กอ่ นท่จี ะนำเสนอเพ่ือเบิกจ่ายในการจดั ซ้อื และ
การจดั จา้ ง
(9) จดั ทำบญั ชกี ารยมื การส่งคืน และการชดใช้พสั ดุครภุ ัณฑ์ของผทู้ ี่ยมื ไปกรณีเกดิ ความเสียหาย
(10) จดั ทำคำชี้แจง แนะนำวิธีการใช้ การทำนบุ ำรุงและการปรับซ่อมแกค่ รูบุคลากร
(11) งานอนื่ ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับพัสดุครุภัณฑ์ หรือท่ีได้รบั มอบหมายจากผ้อู ำนวยการหรือผทู้ ผี่ ู้อำนวยการ
มอบหมาย

5.2 เจ้าหน้าทกี่ ารเงนิ และการบัญชี มีขอบข่ายภาระงานที่ต้องปฏิบตั ิ ดังน้ี
(1) รับเงินบำรงุ การศกึ ษาและเงินบริจาคอ่นื ๆ พร้อมทง้ั ดูแลบัญชีการเงินทกุ ประเภท
(2) ออกใบเสรจ็ หรือใบอนโุ มทนาการรบั เงนิ โดยลงทะเบยี นรบั เกบ็ รักษาเอกสารทีเ่ ก่ียวข้องกับการเงนิ ทุก
ประเภท
(3) จดั ทำใบสำหรับเบิกเงนิ ใบนำส่ง ฎกี าเบกิ เงนิ ตลอดถงึ รับและส่งเงนิ แกเ่ จ้าหนา้ ทห่ี รอื หน่วยงานต้น
สังกัด
(4) นำเงินฝากและเบิกเงินจากธนาคาร
(5) ตรวจสอบใบสำคญั ลงทะเบยี น และเกบ็ รกั ษาหลกั ฐาน เอกสารเกย่ี วกับการเงนิ และการบัญชี
(6) จดั ทำบัญชีและทะเบยี นคุมเงินงบประมาณ
(7) รวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี การอนมุ ัติเบกิ จา่ ยเงนิ ทุกประเภทเพอ่ื
สง่ ตอ่ เจ้าหนา้ ทห่ี รือหน่วยงานตน้ สงั กัดหรือผู้อำนวยการ
(8) จดั เกบ็ รักษาเอกสารที่เก่ียวข้องกบั การรับ-การจา่ ยเงนิ ทุกประเภทไว้อย่างปลอดภยั และเป็นระบบ
พรอ้ มท่จี ะนำมาเปดิ เผยและแสดงอ้างองิ ต่อสาธารณชนได้
(9) แจงรายละเอียดใหค้ รูบุคลากรของสถานศกึ ษาไดร้ บั ทราบถึงระเบยี บวธิ ปี ฏิบัติเก่ียวกบั การรับ-การ
จ่ายเงนิ ของสถานศึกษาหรือหนว่ ยงานท่ีเกยี่ วข้อง
(10) จัดทำงบดุลแสดงฐานะทางการเงนิ ใหผ้ ู้อำนวยการทราบทุกคราวไป
(11) ควบคุมการจา่ ยเงนิ ใหเ้ ป็นไปตามแผนการใชเ้ งนิ ทีก่ ำหนดไวแ้ ผนงบประมาณประจำปีและตรวจสอบ
ภายในเกี่ยวกบั บญั ชีการเงินทุกประเภท

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโรงเรียนวดั แมร่ ิมวทิ ยา หนา้ 18

(12) จัดหา จัดเก็บวสั ดุ อปุ กรณ์ แบบฟอรม์ และเทคโนโลยเี พ่ือใช้ในงานการเงนิ
(13) จดั เกบ็ ระเบยี บปฏบิ ตั เิ กี่ยวกับการเงินและเอกสารการเงนิ ให้เปน็ ระบบ
(14) งานอนื่ ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกบั การเงินและการบัญชี หรือท่ีไดร้ บั มอบหมายจากผู้อำนวยการ หรอื ผู้ท่ี

ผู้อำนวยการมอบหมาย
5.3 เจ้าหนา้ ทสี่ ารบรรณ มขี อบขา่ ยภาระงานทีต่ ้องปฏิบตั ิ ดังนี้

(1) ดูแลควบคุมและวางแผนงานสารบรรณใหเ้ ป็นไปอยา่ งมรี ะบบและถูกต้องตามท่ที างราชการกำหนด
(2) จัดทำทะเบยี นหนังสือรบั -ส่ง ทะเบียนหนังสือคำสัง่ หนังสือรบั รอง ประกาศ ในแตล่ ะปีการศกึ ษา
(3) ติดตาม ประสานงานกบั ฝา่ ยท่ีเกีย่ วข้องกบั เรื่องต่างๆ ตามหนังสอื ทไ่ี ดร้ ับและการเดินเอกสารและ

หนังสือเวยี นของสถานศึกษาท้งั ในและนอกสถานศึกษา
(4) ดำเนนิ การตอบจดหมายท่ที างสถานศกึ ษาได้รับตลอดถึงรา่ ง พมิ พ์ และตรวจทานกอ่ นท่ีจะนำเสนอให้

ผู้มีอำนาจลงนาม
(5) เขียนหนงั สอื เพอื่ เสนอ แจ้งผ้รู ับผิดชอบทราบเพือ่ ปฏบิ ัติ
(6) ควบคมุ และปฏิบตั งิ านเก่ียวกับการเกบ็ พิมพ์ คดั สำเนา ค้นหา ตดิ ตามเรอื่ งราวเอกสารหลักฐาน

หนงั สือโต้-ตอบ ทำบนั ทกึ ย่อเร่ือง สรุปความเห็นและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐาน
(7) รวบรวมขอ้ มลู และสถติ ิ เอกสาร หลักฐาน หรอื ระเบยี บและวธิ ปี ฏิบตั ทิ ี่เกี่ยวขอ้ ง
(8) ติดตอ่ ประสานงานกบั หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชว่ ยช้แี จงและอำนวยความสะดวกแกผ่ ู้มาติดตอ่
(9) จัดเกบ็ และทำลายเอกสารทางราชการหรอื สถานศึกษาใหถ้ ูกตอ้ งตามระเบียบ
(10)ติดต่อประสานงาน หมวด ฝ่ายตา่ งๆ เพื่อให้ปฏบิ ตั ิตามหนงั สือสงั่ การของสถานศกึ ษาให้ทันกำหนด
(11)ทำหน้าท่เี ปน็ เลขานุการในการประชุม
5.4 เจา้ หน้าที่บคุ คล มีขอบขา่ ยภาระงานทต่ี อ้ งปฏิบัติ ดังนี้
(1) ดแู ลควบคุมและวางแผนงานบคุ คลให้เปน็ ไปอย่างมรี ะบบ และดำเนนิ งานตามแผนที่สถานศึกษา

กำหนด
(2) จัดทำบันทึกการลาออกของครูบคุ ลากร ตลอดถงึ นำเสนอเพือ่ ขอรบั สมัครบุคคลเข้าทำงานต่อ

ผูอ้ ำนวยการ กรณตี ำแหน่งว่างลงหรือกรณตี ้องการบุคลากรเพิม่
(3) จดั ทำการประเมนิ และพัฒนาครบู คุ ลากรของสถานศึกษา
(4) จดั ทำทะเบียนประวัติครบู ุคลากร สถติ ิข้อมลู ครูบุคลากรประจำวัน/เดือน/ปี และการลาหรอื มาสาย

ของครูบคุ ลากรในแตล่ ะวัน
(5) ดแู ลงานสวัสดิการของครูบุคลากรของสถานศึกษา
(6) ควบคมุ ดูแล ตรวจเชค็ การลงเวลาปฏิบตั ิงานในแต่ละวนั ของครบู ุคลากร และรายงานใหผ้ อู้ ำนวยการ

ทราบตามลำดบั ข้นั ตอน
(7) จดั ทำข้อมูลการลา การขาด ประจำปีงบประมาณใหผ้ อู้ ำนวยการทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการ

พิจารณาเล่ือนขั้นเงนิ เดอื น
(8) จดั ทำสถติ กิ ารมาปฏบิ ัตงิ าน การลา การขาดราชการของครบู คุ ลากร และรายงานประจำเดือน

❖ คมู่ ือการปฏิบตั งิ านโรงเรียนวดั แม่ริมวทิ ยา หนา้ 19

5.5 เจ้าหน้าทีป่ ระชาสัมพนั ธ์ มีขอบข่ายภาระงานทตี่ ้องปฏิบตั ิ ดงั นี้
(1) ดูแลควบคมุ และวางแผนงานประชาสมั พันธ์ของสถานศึกษาใหเ้ ปน็ ไปอย่างมรี ะบบ สอดคล้อง

ตามแผนงานทีส่ ถานศึกษากำหนด
(2) จัดให้มีการประชาสมั พนั ธ์ การลงข่าวสารกจิ กรรมของสถานศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง
(3) ตดิ ต่อประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานหรือองคก์ รอ่นื ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การประชาสัมพันธ์

ของสถานศกึ ษา และ
(4) เป็นผ้รู ับผิดชอบโดยตรงตอ่ โครงการประชาสัมพนั ธ์ และการแนะแนวเพ่ือการศึกษาต่อของ

สถานศึกษา
(5) ประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพรช่ ่ือเสยี งของสถานศึกษาท้ังภายในและภายนอก
(6) จัดเสนอขา่ วสารต่างๆ เก่ียวกับกิจกรรมของสถานศึกษาให้ครูบุคลากร นักเรยี น และนกั การภาร

โรงเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี
(7) ทำหน้าทเี่ ป็นพิธกี รในงานกจิ กรรมของสถานศกึ ษา
(8) ผลติ หรือจัดเขียนป้ายประกาศ ปา้ ยโฆษณาเกยี่ วกับกจิ กรรมของสถานศึกษา

5.6 ครทู ี่ปรึกษา มขี อบขา่ ยภาระงานท่ตี อ้ งปฏิบตั ิ ดังนี้
(1) ดแู ลและจัดห้องเรียนให้เป็นแหล่งเรยี นรู้ที่ทนั ต่อเหตุการณ์เสมอ เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยและมี

ความสะอาดอยู่เสมอ
(2) นกั เรียนรูปใดมปี ัญหา มคี วามก้าวร้าวด้านความประพฤติ ต้องรบี แจง้ ให้ฝา่ ยปกครองทราบหรือ

ผู้ที่ผ้อู ำนวยการมอบหมาย เพ่ือร่วมกนั หาแนวทางแก้ไขปัญหา
(3) ดูแลและควบคุมนกั เรียนให้อยใู่ นระเบียบวนิ ัยที่เหมาะสม ทัง้ ในและนอกสถานศึกษา
(4) ดแู ลและควบคุมการสวดมนต์ทำวตั รเช้าและเช็คเวลากจิ สงฆข์ องนักเรยี นทุกวนั
(5) จัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียนแต่ละรูป เพ่ือนำเสนอใหผ้ อู้ ำนวยการทราบ
(6) กรณนี ักเรยี นในห้องเรียนลา ขาด เกนิ 3 วนั ตอ้ งรีบแจ้งให้ฝ่ายปกครองทราบหรือผู้ที่

ผอู้ ำนวยการมอบหมาย
(7) ดูแลและรบั ผิดชอบเกย่ี วกบั เงินประจำห้องเรยี นรว่ มกบั หัวหนา้ หอ้ งเรียน หรอื รองหวั หนา้

หอ้ งเรยี น หรอื เหรัญญิกของห้องเรียนแล้วแตก่ รณี
(8) ตรวจสมดุ บันทึกการเขา้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ของครผู ู้สอนในแตล่ ะวนั พร้อมทง้ั ลงลายมอื ชอ่ื

กำกบั รว่ มกับหัวหนา้ หอ้ งเรียนหรือรองหวั หนา้ ห้องเรียนแล้วแต่กรณี
(9) ใหค้ ำปรกึ ษาปัญหาการเรยี นการสอน ปัญหาสว่ นตวั ปัญหาการเงิน ปญั หาการเดนิ ทาง การ

เตรยี มความพร้อมในอาชพี และอ่นื ๆ แกน่ กั เรยี น
(10)รบั ผดิ ชอบ ดแู ล และอบรมนักเรยี นในชั้นเรยี น โดยให้คำปรกึ ษา แก้ปญั หาการเรียนใหแ้ ก่

นกั เรียน โดยรับผดิ ชอบดูแลนักเรียนใหจ้ บหลกั สตู รเอาใจใส่ช่วยเหลือนักเรยี นในดา้ นการเรยี นซ่อมเสริม การสอบ
ซอ่ ม การสอบแก้ตัว

(11) ตรวจตราดแู ลสุขภาพอนามัยของนักเรยี น จดั ห้องเรียนใหส้ ะอาด เหมาะสมกบั การเรียนการสอน
(12) จดั ทำเอกสารธุรการประจำช้ันให้เปน็ ปัจจบุ นั
(13) จดั ทำขอ้ มูลนักเรียนที่รับผิดชอบใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั
(14) จัดระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียน โดยสังเกต ตดิ ตาม ดแู ลการประพฤติ ปฏบิ ัตติ นของนักเรยี น
เพื่อ การช่วยเหลือ ป้องกัน แกไ้ ขและพฒั นา
(15) ติดต่อ ส่ือสารกับผปู้ กครองนักเรียนในความรับผดิ ชอบ เพื่อการมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา
ของนักเรียน

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโรงเรยี นวัดแมร่ ิมวิทยา หนา้ 20

5.7 หัวหน้างานกจิ กรรม มีขอบข่ายภาระงานที่ต้องปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
(1) วางแผนหรอื จดั ทำปฏทิ นิ การจดั กิจกรรมตลอดปกี ารศกึ ษา
(2) ดูแลควบคุมให้การดำเนนิ การเป็นไปตาม (1) และแกไ้ ขปัญหาท่อี าจจะเกดิ ขึ้นจากการจัดกจิ กรรม
(3) รบั ผดิ ชอบเกยี่ วกับการจัดหาสถานท่ี การใช้กลุ่มคนหรอื คณะบคุ คลในการทำงาน วสั ดอุ ุปกรณห์ รือ
ยานพาหนะทใี่ ช้ในการจดั กิจกรรม
(4) ประชุมปรึกษากบั คณะครู อาจารย์ เพ่ือแบง่ หน้าทก่ี จิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั เนื้องานทรี่ ับผดิ ชอบ
(5) ศกึ ษาวจิ ัยและประเมินผลจากการจดั กจิ กรรมตลอดถึงรายงานผลการจัดกิจกรรมใหผ้ อู้ ำนวยการหรอื
ผ้ทู ี่ผู้อำนวยการมอบหมายทราบ

5.8 ครูเวรประจำวนั มีขอบขา่ ยภาระงานทีต่ ้องปฏบิ ัติ ดังนี้
(1) ตรวจสอบความสะอาดเรยี บร้อยท่ัวไปทัง้ ภายในและนอกสถานศกึ ษา
(2) จัดทำบนั ทึก สถิติ การขาด ลา มาสาย ของนักเรยี นและเหตุการณป์ ระจำวนั และให้ความ

เห็นชอบอนญุ าตหรือไมอ่ นุญาตในการออกนอกสถานศึกษาของนักเรยี นในแต่ละวัน
(3) กรณีนักเรยี นรูปใดเจบ็ ไขไ้ ด้ป่วย ตอ้ งรับเป็นธุระ ภาระ เอาใจใส่เป็นพเิ ศษ และติดต่อ

ประสานงานเพ่อื นำส่งโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกลส้ ถานศึกษา
(4) ตรวจตราหรือว่ากล่าวตักเตือนนกั เรยี นท่กี ระทำผดิ ระเบยี บของสถานศึกษา และแจ้งใหค้ รู

ปรกึ ษาหรอื ฝา่ ยปกครองหรือผู้ทีผ่ อู้ ำนวยการมอบหมายเพ่ือพิจารณาโทษต่อไป
(5) มาปฏบิ ตั หิ น้าท่คี รูเวรประจำวันกอ่ นเวลาเริม่ ตน้ ทำการปกติ และต้องรออยจู่ นกว่านกั เรียนจะ

กลับหมดหรืออย่างช้าหลังหมดเวลาเลกิ เรยี น 10 นาที
(6) รับผดิ ชอบเหตกุ ารณป์ ระจำวันให้เป็นไปดว้ ยความเรียบร้อย หากมีปญั หาใหร้ ายงานฝ่ายปกครอง
(7) รบั ผดิ ชอบการเขา้ แถวสวดมนต์ทำวัตรของนักเรยี นท้ังภาคเชา้ และหลงั เลิกเรียน
(8) บันทกึ เหตกุ ารณป์ ระจำวนั ลงในสมุดบนั เวรประจำวัน

5.9 ครูเวรวันหยุด มขี อบขา่ ยภาระงานทตี่ ้องปฏบิ ตั ิ ดังนี้
(1) มาปฏิบตั หิ น้าที่ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
(2) ควบคุมดแู ลเหตุการณ์ในวันหยดุ เรียน
(3) รบั หนงั สอื ราชการ เปดิ อ่าน (ยกเว้นหนงั สอื ปกปิดหรือลับ) และลงสมดุ รบั ราชการ
(4) ต้อนรับผมู้ าตดิ ต่อสถานศึกษาในวันหยดุ
(5) ทำหนา้ ทค่ี รูเวรในวันนั้นๆ รบั ผิดชอบดูแลทรพั ยส์ นิ ของราชการหรือสถานศกึ ษา
(6) บนั ทกึ เหตุการณ์ประจำวันลงในสมดุ บนั ทึกเวรอยา่ งละเอียด

5.10 เจา้ หน้าท่ีวดั และประเมินผล มีขอบขา่ ยภาระงานทตี่ ้องปฏบิ ัติ ดังนี้
(1) สำรวจ/สรุปรายชอ่ื นักเรียนที่ไม่มสี ิทธสิ อบวดั ผลปลายภาคเรยี นในแตล่ ะรายสาระการเรียนร้แู ลว้ แจง้
ใหผ้ ู้อำนวยการหรอื ผู้ทผี่ ู้อำนวยการมอบหมาย
(2) จัดเก็บและรักษาเอกสารงานวัดและประเมินผลทุกชนิดให้เปน็ เอกสารสำคัญทางวิชาการ
(3) ดำเนนิ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นตามปฏิทินการศึกษาและแนวปฏิบัตทิ ี่กำหนด
(4) ติดตามประเมนิ ผลและตรวจสอบหลักฐานการวดั และประเมินผลการเรียนการสอน
(5) สรา้ งและปรับปรุงเคร่อื งมอื ในการวัดและประเมินผลตามตัวชีว้ ดั หรือผลการเรียนรู้
(6) จัดใหม้ ีการรายงานผลการเรียนตามระเบยี บการวัดและประเมินผลใหถ้ กู ต้องเปน็ ปัจจุบนั
(7) ควบคุมและตรวจสอบการวัดและประเมนิ ผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตามระเบียบโดยเคร่งครดั
(8) ชแ้ี จงแนวปฏิบตั แิ ละปฏิทินปฏิบตั งิ านการวดั และประเมินผลการเรียนให้ได้รบั ทราบทวั่ กัน

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโรงเรยี นวัดแม่รมิ วิทยา หนา้ 21

5.11 นายทะเบยี น มีขอบข่ายภาระงานทต่ี อ้ งปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
(1) จัดทำทะเบยี นนกั เรียนใหมใ่ นแต่ละปีการศึกษาโดยตรวจสอบวัน เดือน ปี ช่ือ สกลุ และหลกั ฐาน

อน่ื ๆ ของนกั เรียนใหต้ รงกับทะเบียนบา้ นและทะเบยี นนักเรยี นของสถานศึกษา
(2) จดั เกบ็ และรักษาเอกสารงานทะเบยี นทุกชนดิ ให้เปน็ เอกสารสำคัญทางวิชาการ
(3) แก้ไขการเปลี่ยนช่ือ สกลุ วนั เดอื น ปเี กิดของนักเรียนที่มีการเปลีย่ นแปลงภายหลังพร้อมท้ังลง

นามกำกบั และแจง้ ใหผ้ ทู้ ่เี กยี่ วขอ้ งทราบ
(4) ตรวจสอบเกี่ยวกบั การชำระเงินบำรุงการศึกษา หลกั ฐานการวดั และประเมินผล การยืมหนงั สอื

หอ้ งสมุด วสั ดุ อุปกรณก์ ารศึกษาและอืน่ ๆ กบั เจา้ หนา้ ที่ท่ีเก่ียวขอ้ งกอ่ นออกเอกสารหลักฐานสำคัญให้
(5) แจ้งใหค้ รทู ่เี กีย่ วข้องกบั นักเรียนรปู นน้ั ๆ ได้ทราบถงึ การเข้า-ออก โยกยา้ ย หรอื เปลีย่ นแปลงชื่อ

สกุล ในการประชมุ ประจำเดือนหรือในวาระอืน่ ๆ
(6) ประสานงานกับเจ้าหนา้ ทว่ี ัดและประเมนิ ผลหรือผูท้ เ่ี กย่ี วข้อง ในการออกใบรับรองผลการเรยี น

ทกุ ประเภท (ปพ.1 – ปพ.9) ตามที่กระทรวงศึกษาธกิ ารและสถานศึกษากำหนด
(7) จดั ทำ GPA รว่ มกับเจา้ หน้าที่ฝา่ ยวดั ผลในแต่ละปกี ารศึกษา
(8) จัดให้มที ะเบยี นนกั เรียนหลกั ฐานทะเบยี นนักเรียน พรอ้ มทั้งจดั ระบบการเกบ็ รักษาไวใ้ นท่ี

ปลอดภัยและให้มรี ะบบการใหบ้ รกิ ารที่สะดวกรวดเรว็
(9) ดำเนินการควบคุม ตรวจสอบการออก การจำหน่าย ใบรบั รองผลการเรยี น (ปพ.1 - ปพ.9)
(10) จัดหาแบบฟอร์ม ปพ.1 – ปพ.9 และเกบ็ รักษาหลักฐาน
(11) ตรวจสอบ ทวงถาม เกบ็ รักษาหลักฐานการมอบตัวและการสมคั รเรียนของนักเรยี น
(12) จดั ทำทะเบยี นนักเรียนและออกเลขประจำตวั ให้
(13) รายงานประจำเดือนเสนอผบู้ รหิ ารในเดอื นท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลง กรณมี กี ารจำหนา่ ยนักเรียนหรือ

ออกหลักฐานการจำหน่าย หรืองดใชห้ ลักฐาน
(14) วางแผนดำเนนิ การเก่ยี วกับงานทะเบยี นนักเรียน
(15) รวบรวมหลักฐานทะเบียนประจำสาระการเรยี นรู้ (ปพ.5)
(16) รวบรวมรกั ษาและดำเนินการออกใบประกาศนยี บตั ร
(17) รวบรวมรักษาและดำเนนิ การออกใบรบั รองตา่ งๆ
(18) รวบรวมรักษาและดำเนนิ การจัดทำ ปพ.1 ปพ.2 และ ปพ.3 ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
(19) วางแผนดำเนินการการลงทะเบียนนักเรยี นในแต่ละภาคเรียน
(20) ตดิ ตามข้อมูลนกั เรยี นใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ัน
(21) จดั เกบ็ รวบรวมหลกั ฐานแบบยื่นคำร้องต่างๆ โดยประสานงานกบั เจา้ หน้าท่วี ดั และประเมินผล
(22) ตอบรบั การตรวจสอบวฒุ กิ ารศึกษาของนกั เรยี น
(23) บันทึกตรวจทานเอกสารหลกั ฐานของนักเรยี นทกุ ประเภท

5.12 เจา้ หน้าทีแ่ นะแนว มขี อบข่ายภาระงานที่ตอ้ งปฏบิ ัติ ดงั นี้
(1) ให้คำปรกึ ษาในปัญหาการเรยี นการสอน ปญั หาส่วนตวั ปญั หาการเงนิ ปัญหาการเดินทางมา

เรียน ปญั หาการศึกษาต่อ และการเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพอนื่ ๆ
(2) ตดิ ตามผลการเรียน การสอบของนักเรียนท่ีสำเร็จการศึกษาในแตล่ ะปีการศึกษา
(3) จดั หาวารสาร ขา่ วบริการสารสนเทศ ข่าวสารเกีย่ วกบั การประกอบอาชีพ การศึกษาตอ่ เพ่ือนำมา

เผยแพร่ให้แกน่ กั เรียน
(4) บริการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดว้ ยการจัดหาทนุ การศกึ ษาและอุปกรณ์การศึกษา
(5) สำรวจและจัดทำทะเบียนเพื่อหาขอ้ มลู โดยการวเิ คราะหจ์ ากแบบสอบถามหรือพฤตกิ รรมของ

นกั เรียนเพ่ือประกอบการพิจารณาให้คำแนะนำ วางแผน และแก้ไขปัญหาร่วมกบั ครูที่ปรึกษาหรือผู้ทีเ่ กย่ี วข้อง

❖ คมู่ อื การปฏิบตั ิงานโรงเรียนวดั แมร่ ิมวทิ ยา หนา้ 22

(6) จัดใหม้ ีสัปดาหแ์ นะแนวเพ่ือการศกึ ษาตอ่ สปั ดาห์แห่งการส่งเสรมิ สขุ ภาพ และการพบปะ
สังสรรคก์ ับบุคคลตวั อยา่ งหรือบคุ คลท่ปี ระสบความสำเรจ็ เพอ่ื ให้เปน็ ตวั อย่างตามความเหมาะสม

(7) นำนักเรียนไปร่วมการสัมมนา อภปิ ราย โต้วาที ชมนทิ รรศการ นอกสถานศกึ ษาเพื่อเป็นการ
เพ่มิ พูนความรูแ้ ละเสริมสรา้ งประสบการณจ์ ากสภาพจริง

(8) จัดทำห้องแนะแนวใหเ้ กิดความสนใจแกน่ ักเรียนเหมาะสมกับการบริหารให้คำปรึกษาและแนะแนว
อาชีพ

(9) ตรวจสอบบุคลิกภาพของนักเรียนและหาทางแก้ไขบุคลิกภาพที่ไม่พึงประสงค์ตามหลักการแนะแนว
(10)จดั ทำสถิติ ข้อมูล วเิ คราะห์ ประเมินผล รายงานผล เพือ่ แก้ปญั หาและพัฒนางาน
5.13 หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ มขี อบขา่ ยภาระงานท่ตี อ้ งปฏิบตั ิ ดังน้ี
(1) กำหนดแผนจดั กิจกรรมการเรียนรูร้ ว่ มกบั ครภู ายในกลุ่มสาระโดยจดั ทำเป็นปฏิทินปฏบิ ัตงิ านเปน็
รายสัปดาห์ รายเดือน รายภาค หรือรายปกี ารศกึ ษา ให้สอดคลอ้ งกับหลกั สูตรสถานศกึ ษา
(2) สำรวจหนังสอื แบบเรยี น หนังสืออ่านประกอบ ปรับปรงุ อุปกรณก์ ารเรยี นการสอน วิธกี ารสอน
และการจัดกจิ กรรมเสริมหลักสูตรทีส่ ำคัญสำหรับกล่มุ สาระการเรยี นร้นู นั้ ๆ
(3) ดูแลและควบคุมการเรยี นการสอนในกลมุ่ สาระท่ีตนรับผดิ ชอบให้เป็นไปตามแผนจัดกจิ กรรมการ
เรียนรู้และหลักสตู รสถานศึกษา
(4) จดั ครูภายในกลุ่มสาระเขา้ สอนแทนในกรณีครปู ระจำสาระภายในกลมุ่ ไม่สามารถดำเนินการเรยี น
การสอนได้
(5) จดั ประชมุ ครภู ายในกลุม่ สาระอยา่ งนอ้ ยเดือนละ 1 คร้งั เพ่ือรบั ฟงั ใหค้ ำเสนอแนะ ในการ
ปรึกษาหรอื ช่วยแกไ้ ขปญั หาทางวชิ าการ
(6) จดั ทำข้อสอบวดั ผลระหวา่ งภาคเรียนหรือปลายภาคเรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บการวัดผลและ
ประเมินผลของสถานศึกษา
(7) ประเมินผลการเรยี นการสอนภายในกลมุ่ สาระ สรปุ รายงานการปฏิบตั ิงานและนำเสนอข้อคิดเหน็
ของครภู ายในกลุ่มสาระต่อผู้อำนวยการ หรือผ้ทู ผี่ ู้อำนวยการมอบหมาย
(8) จัดนทิ รรศการ กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร โครงการประจำกลุ่มสาระ เพื่อช่วยให้นักเรียนเกิดทกั ษะ
ประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในเนื้อหากลุ่มสาระเพ่ิมขึน้
(9) สง่ เสริมครภู ายในกล่มุ สาระใหม้ ีโอกาสพฒั นาตนเองใหม้ ีความรคู้ วามสามารถเพิ่มขึน้
(10) ควบคมุ ดแู ลการวัดและประเมนิ ผลให้เป็นไปตามระเบียบการวัดและประเมนิ ผล จุดมงุ่ หมายของ
การเรียนการสอนรายสาระน้ันๆ และรวบรวมสถิติผลการสอบของนกั เรียนไว้เปน็ หลกั ฐาน
(11) ประเมินผลงานของรายสาระการเรยี นรใู้ นกลมุ่ สาระ สรุปรายงานการปฏิบัติงานนำเสนอ
ข้อคิดเหน็ ของครูในกลุม่ สาระใหผ้ อู้ ำนวยการทราบ
(12) ตรวจ วิเคราะห์ เสนอแนะ ข้อสอบ ของครูในกลมุ่ สาระให้ตรงกับตวั ชี้วัดหรอื ผลการเรยี นรู้
(13) รกั ษาคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการของกลุ่มสาระ
(14) เรียกตรวจ ปพ.5 และรวบรวมส่งหวั หน้ากลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ภาคเรยี นละ 3 ครัง้ ตาม
ปฏิทิน ปฏิบตั ิงาน
(15) รับผดิ ชอบในการจัดทำข้อสอบ การวัดและประเมนิ ผล และแบบรายงานต่างๆ เกี่ยวกับการวัด
และประเมนิ ผล
(16)รวบรวมและจดั ทำแผนประเมินผลรายสาระส่งหวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการหลงั สิ้นสุดภาคเรยี น
(17)พจิ ารณาความดีความชอบและเก็บขอ้ มูลครใู นกลุ่มสาระ

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโรงเรียนวัดแมร่ มิ วทิ ยา หนา้ 23

(18)พัฒนางานวิชาการในกลมุ่ สาระการเรยี นรใู้ ห้มคี วามก้าวหน้า เหมาะสม และสอดคลอ้ งกับ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551

(19)สง่ เสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวชิ าการ (การประกวด แข่งขนั ต่างๆ)
(20)ร่วมวางแผน จัดทำแผน และดำเนินงานตามแผนให้เป็นไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย
(21)นิเทศครผู ู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้
(22) เสนอผลการปฏิบัตงิ านของครูในกลุ่มสาระการเรียนรตู้ ่อผูอ้ ำนวยการ
5.14 ครปู ระจำสาระการเรยี นรู้ (ครผู ้สู อน) มีขอบข่ายภาระงานทตี่ ้องปฏิบัติ ดังนี้
(1) ทำการสอน อบรมนักเรยี น ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบยี บ คำสัง่ ประกาศ และนโยบายของ
ทางราชการ
(2) จดั ทำบนั ทึกการเรียนการสอนในสาระการเรยี นรู้ทตี่ นเองรับผิดชอบทกุ คราวไป
(3) จดั ทำหลักสตู รสถานศึกษา โครงร่างจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ หนว่ ยจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และแผน
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
(4) จดั ทำวจิ ัยในช้ันเรยี นทั้งรายสาระและรายบุคคล เพ่ือนำมาเป็นข้อมลู ประกอบพิจารณาการเรียน
การสอนของนักเรียนรปู นน้ั ๆ
(5) ตดิ ตอ่ ประสานงานรว่ มมือกบั หวั หน้ากลุ่มสาระและครูสาระอน่ื ๆ ในการจดั กจิ กรรมเสริมการ
เรยี นการสอน
(6) ดำเนินการวัดและประเมนิ ผลใหถ้ กู ต้องตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษาหรอื กระทรวงศึกษาธกิ ารกำหนด
(7) ในช่ัวโมงการเรยี นการสอนของตน หรอื กรณเี ปน็ ชว่ั โมงท่ีเข้าสอนแทน ให้ถอื วา่ ครปู ระจำราย
สาระนั้นๆ เปน็ ผู้รบั ผิดชอบต่อนกั เรียนในช้นั เรียนน้นั
(8) ครูผู้สอนจะต้องเขา้ ทำหน้าท่ีในการเรียนการสอนอยา่ งช้าไม่เกิน 10 นาที
(9) ลงเวลาและบนั ทกึ การเรยี นการสอนในสมดุ บนั ทึกประจำห้องเรยี นทุกครัง้ หลังจากทำการเรยี น
การสอนเสรจ็ ส้ินในแต่ละชั่วโมง
(10) วิเคราะห์ข้อบกพรอ่ งเพ่ือนำมาปรับปรงุ การเรยี นการสอนในรายสาระที่ตนเองรบั ผิดชอบ
(11)จัดทำข้อสอบและดำเนนิ การสอบในรายสาระทรี่ บั ผดิ ชอบพร้อมทั้งวดั และประเมนิ ผลการเรียน
ของนักเรยี น
(12) ตรวจเชค็ เวลาเรยี นของนกั เรียนทุกรูป ทกุ คาบ และส่งใหต้ รวจสอบตามปฏทิ นิ การศึกษา
(13) จัดทำและรบั ผดิ ชอบ ปพ.5 และจัดสง่ ให้หวั หนา้ กลุม่ งานบริหารวิชาการตามปฏทิ ินการศกึ ษา
(14) จัดทำเครอื่ งมือวดั และประเมินผล เพอื่ พฒั นาการเรยี นการสอนและตดั สนิ ผลการเรียน
(15) รบั ผิดชอบแก้ไขนักเรียนทีม่ ผี ลการเรียน 0, ร, มส, และ มผ ตามขน้ั ตอนที่สถานศึกษากำหนด
(16) จดั สร้างส่ือ อปุ กรณ์การเรียนการสอน ใบความรู้ ใบงาน บทเรียนสำเร็จรูป เปน็ ตน้ ซง่ึ จะช่วยให้
กระบวนการเรียนการสอนมปี ระสิทธภิ าพยงิ่ ขน้ึ
(17) เตรียมการจัดการเรียนรู้ โดยวิเคราะห์หลกั สตู ร วิเคราะหผ์ ู้เรียน จดั ทำแผนการเรียนรู้ การสอน
ซ่อมเสริม การผลิตและใช้ส่อื ประกอบการจัดการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
(18) สอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้
(19) ซอ่ มเสรมิ ตามแผนการสอนซ่อมเสรมิ
(20) สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน
(21) จดั บรรยากาศการเรียนการสอนใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้
(22) จดั การเรียนร้โู ดยยึดผ้เู รียนเป็นสำคัญ
(23) ผลติ และใชส้ ่อื นวัตกรรมเทคโนโลยใี นการจัดการเรยี นรู้

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านโรงเรียนวัดแม่ริมวทิ ยา หนา้ 24

(24) วดั ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ด้วยวิธกี ารหลากหลาย
(25) นำบนั ทกึ ผลหลงั สอนมาวางแผน ปรบั ปรงุ พฒั นาการเรียนการสอน
(26) ปฏิบตั ิงานตามแผนงาน โครงการและกิจกรรมทีร่ ับผดิ ชอบ
(27) ปฏิบัตหิ นา้ ทห่ี รอื งานอื่นตามที่ผ้อู ำนวยการ ผู้ชว่ ยผู้อำนวยการ คณะกรรมการบรหิ ารสถานศกึ ษา

หวั หนา้ สายชน้ั หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ และหวั หน้างาน มอบหมาย
5.15 กำหนดให้นักการภารโรง มหี นา้ ท่ีรบั ผดิ ชอบงาน 3 ลักษณะ ประกอบด้วย

(1) งานประจำ เป็นงานที่ไดร้ บั มอบหมายจากผอู้ ำนวยการมีขอบเขตงานรบั ผิดชอบที่กำหนดแนน่ อน
(2) งานไม่ประจำ เป็นงานทเ่ี กิดจากความจำเป็นหรืองานตามนโยบายเปน็ ครัง้ คราว นอกเหนอื จาก
งานประจำ
(3) งานระดม เป็นงานดว่ นท่จี ำเป็นต้องระดมกันจัดทำในขณะนัน้ และใหค้ วามรว่ มมืออยา่ งเตม็
ความสามารถ
มขี อบขา่ ยภาระงานทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
(1) ดแู ลควบคุมสวสั ดิการของครู-นักเรียน เกี่ยวกับนำ้ ดื่ม นำ้ ใช้ ห้องนำ้ ห้องสุขา ห้องครัว หอ้ งเรยี น
และห้องพกั ครู
(2) ตรวจตราเฝา้ ดูแลทรพั ย์สนิ ของสถานศกึ ษา ครู-นกั เรยี น ไม่ให้เกดิ ชำรดุ เสยี หายจากการกระทำ
ของคน สตั ว์ และอุบัตภิ ยั ต่างๆ เวน้ แต่เปน็ เหตุสดุ วิสยั
(3) เปิด-ปิด ประตู หนา้ ตา่ ง ห้องเรียน อาคารเรยี นให้อยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ยและพรอ้ มใชอ้ ยูเ่ สมอ
และดแู ลการเปิด-ปดิ ไฟฟ้าตามอาคารสถานทีต่ ามความจำเปน็
(4) ทำความสะอาดบริเวณสถานศกึ ษา อาคารสถานท่ีต่างๆ ตลอดถึงนำขยะไปทงิ้ ให้ถูกทตี่ ามทท่ี าง
วดั กำหนดใหท้ ้งิ
(5) บำรุงรกั ษาต้นไม้ ไมด้ อก ไม้ประดับ ตดั หญ้า รดน้ำ พรวนดิน และรกั ษาสภาพแวดล้อมทิวทัศน์
บริเวณอาคารสถานท่ใี หเ้ หมาะสมกบั ฤดูกาล
(6) รายงานเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ทจ่ี ะก่อให้เกดิ ความเสียหายสญู หาย หรืออุบัติภัย ใหผ้ ู้อำนวยการหรอื ผู้
ทีผ่ ูอ้ ำนวยการมอบหมายทราบ
(7) ดแู ลและซ่อมแซมไฟฟา้ อปุ กรณ์ไฟฟา้ ท่อประปา ก๊อกน้ำ ให้อยู่ในสภาพพรอ้ มใชง้ านได้และ
ป้องกันมิใหเ้ กิดการสญู เปล่าในการใชน้ ำ้
(8) รบั -สง่ เอกสารการพมิ พ์ หนังสอื พมิ พป์ ระจำวนั วารสาร และพัสดุจากภายนอก
(9) อำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเยือนและมาเยย่ี มชมกิจกรรมของสถานศกึ ษาตามความเหมาะสม
(10)ปรับปรงุ ซ่อมแซมสิ่งชำรุด และเก็บวัสดุอุปกรณต์ ่างๆ เชน่ โตะ๊ เกา้ อ้ี มา้ นัง่ ฯลฯ มาเก็บไว้ใน
สถานท่ีอนั สมควร
(11)จัดเกบ็ หรอื ทำลายข้อสอบท่ีทำการสอบวดั ผลเรยี บร้อยแลว้ โดยไดร้ บั อนุญาตจากผอู้ ำนวยการ
หรอื ผ้ทู ี่ผ้อู ำนวยการมอบหมาย
(12)งานหรอื หน้าท่ีอื่นๆ ท่ีได้รบั มอบหมายจากผอู้ ำนวยการหรือผู้ทีผ่ ู้อำนวยการมอบหมาย
5.16 พนกั งานขับรถ มีขอบข่ายภาระงานที่ตอ้ งปฏบิ ตั ิ ดังนี้
(1) ตรวจเช็ดสภาพเครอ่ื งยนต์กอ่ นออกรถ หากพบข้อบกพร่องให้แจง้ ผ้อู ำนวยการหรือผู้ท่ีผูอ้ ำนวยการ
มอบหมายในทันที และเหน็ ว่าขอ้ บกพร่องนี้มีอนั ตรายต่อการเดินทางต้องไมน่ ำรถออก
(2) ทำความสะอาดรถทงั้ ภายในและภายนอก โดยกระทำภายในพืน้ ที่ทีส่ ถานศึกษากำหนด หรอื แล้วแต่
กรณี
(3) นำรถไป ณ จุดท่ีกำหนดพรอ้ มลงชอื่ ปฏิบัตงิ าน
(4) ขับรถในอัตราความเรว็ ตามพระราชบัญญตั ิจราจรทางบก กำหนด
(5) ขบั รถดว้ ยมารยาทท่ดี ี และมีน้ำใจใหแ้ ก่ผใู้ ช้ถนนอนื่ และผู้โดยสาร

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโรงเรยี นวดั แม่ริมวิทยา หนา้ 25

(6) กอ่ นออกรถต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าผรู้ ่วมเดนิ ทางหรือคณะเดนิ ทาง ได้ขึ้นหรอื ลงรถเรยี บร้อยแลว้
(7) หากมเี หตุอันใดท่ีตอ้ งพดู คุยหรอื แจ้งข้อขดั ขอ้ งกบั ผ้รู ว่ มเดินทางหรือคณะเดนิ ทางต้องใช้วาจาและ
ทา่ ทางที่สภุ าพ ไม่แสดงกริยาทไี่ ม่ดีกบั ผรู้ ่วมเดินทาง ไม่วา่ ตนเองนัน้ จะถกู หรือผดิ
(8) ไมใ่ ชโ้ ทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ
(9) ไม่สูบบหุ รี่ ไม่เสพสงิ่ มนึ เมา หรอื สิ่งเสพติดใดๆ ในระหว่างปฏบิ ตั ิงาน
(10)เชื่อฟังคำส่งั ของหัวหนา้ คณะเดนิ ทาง หรือผู้ท่ีผู้อำนวยการมอบหมาย อย่างเคร่งครัด
(11)ขับรถตามเวลา และเสน้ ทางท่ีกำหนด และต้องให้ถึงปลายทาง
(12)เม่อื หมดเวลาหรือถึงจดุ หมายปลายทางให้ตรวจสอบความสะอาดของรถและลงเวลาบันทึกการใชร้ ถ
กอ่ นนำรถไปเก็บ ณ สถานท่ีกำหนด
(13)ตรวจสอบสภาพความพรอ้ มของรถยนต์ก่อนการใชง้ านและหลังการใชง้ าน
(14)ตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ได้แก่ ลอ้ รถ ท่ีปัดนำ้ ฝน สัญญาณไฟเล้ียว หน้า - หลงั แตร เบรก
นำ้ มันเบรค น้ำมนั เคร่อื ง น้ำในหม้อน้ำ น้ำลา้ งกระจก น้ำมันเชื้อเพลงิ
(15)ทำความสะอาดรถ/เครื่องยนตส์ ัปดาห์ละ 1 ครงั้
(16)ทำความสะอาดภายในรถทุกครั้งที่ใชร้ ถเสร็จแล้ว
(17)ไมว่ างส่งิ ใดๆ ที่กระจังหน้ารถ
(18)ไมห่ อ้ ยส่งิ ใดๆ ที่กระจกสอ่ งหลงั
(19)อุปกรณ์การเขียน เอกสารต่างๆ ตอ้ งเก็บในซองรถใหเ้ รยี บร้อย
(20)ตรวจสอบยางอะไหลเ่ ดือนละ 1 ครั้ง
(21)ตรวจสอบทำความสะอาด บำรุงแบตเตอรี่ ทุก 2 สปั ดาห์
(22)มีใบอนญุ าตขับขปี่ ระจำตวั ทุกคร้งั ท่ีขับรถ
(23)ตรวจสอบความสมบูรณ์ของเข็มขดั นิรภยั และคาดเข็มขัดนิรภัยทกุ ครัง้ ขณะขับรถ
(24)ตรวจสอบใบสั่งงานและวางแผนการเดนิ ทางอย่างรดั กมุ ก่อนออกรถตอ้ งทบทวน จดุ หมายปลายทางและ

จำนวนสมาชิกทีร่ ่วมเดนิ ทาง

❖ คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ านโรงเรยี นวัดแม่ริมวิทยา หน้า 26

ส่วนที่ 6

ผลสัมฤทธิ์ตามขอบข่ายภาระงานทป่ี ฏบิ ตั ิ

6.1 ผลสัมฤทธติ์ ามขอบขา่ ยภาระงานของผู้อำนวยการ ดังนี้
(1) มแี ผนปฏบิ ตั งิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของผู้อำนวยการ
(2) มีนโยบาย แผนงาน และยุทธศาสตรส์ ถานศึกษา
(3) มแี บบบันทึกการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบภาระงาน
(4) มีแบบสรุปบนั ทกึ ผลการนิเทศ กำกบั ตดิ ตาม ภาระงานของครบู ุคลากรสถานศกึ ษา
(5) มีชิ้นงานหรือผลงานทแ่ี สดงถึงผลสมั ฤทธิ์ตาม (1) (2) (3) และ (4) หรอื ข้อมลู สารสนเทศประจำปี
การศึกษาของผู้อำนวยการ

6.2 ผลสมั ฤทธ์ิตามขอบข่ายภาระงานของรองผอู้ ำนวยการ ดังนี้
(1) มีแผนปฏบิ ัติงานประจำปีการศึกษาตามภาระงานของรองผ้อู ำนวยการ
(2) มปี ฏิทินภาระงานตามแผนท่ตี ั้งไว้ตาม (1)
(3) มแี บบสรุปบนั ทกึ ผลการนเิ ทศ กำกบั ติดตาม ตามภาระงานทร่ี บั ผิดชอบ
(4) มแี บบบันทึกการประชุมของฝ่าย และมแี ผนผงั ระบบงานของฝา่ ยท่เี ป็นปจั จบุ นั
(5) มชี ้ินงานหรือผลงานทแี่ สดงถึงผลสมั ฤทธิ์ตาม (1) (2) (3) และ (4) หรอื ขอ้ มลู สารสนเทศประจำปี
การศกึ ษาของรองผู้อำนวยการ

6.3 ผลสัมฤทธ์ิงานนายทะเบยี นตามขอบข่ายภาระงาน ดงั น้ี
(1) มีแผนปฏิบัติงานประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของนายทะเบยี น
(2) มีแผนผังและระบบการในการขอรบั เอกสารงานทะเบียน
(3) มีทะเบียนเอกสารที่เกย่ี วข้องกบั งานทะเบยี นทุกประเภท
(4) มีระบบการจัด-เก็บเอกสารงานทะเบยี น
(5) มีสถติ ิข้อมลู นักเรยี นด้านต่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
(6) มีข้อมูลการแจง้ นักเรียนเข้า-ออก หรือลาออก-จำหนา่ ย ของสถานศึกษาในแตล่ ะเดือน
(7) มีผลการเรยี นเฉลยี่ (GPA) ของนักเรียนในแตล่ ะปกี ารศกึ ษา
(8) มชี น้ิ งานหรือผลงานท่ีแสดงถึงผลสัมฤทธิ์ตาม (1) (2) (3) (4) (5) (6) และ (7) หรอื ข้อมูลสารสนเทศ
ประจำปีการศกึ ษาของนายทะเบยี น

6.4 สัมฤทธิง์ านครูทีป่ รกึ ษาตามขอบขา่ ยภาระงาน ดังนี้
(1) มแี ผนปฏิบัตงิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของครูท่ีปรึกษา
(2) มแี ฟ้มสะสมงานประจำปีการศึกษาของหอ้ งเรยี น/สมดุ บันทึกความดีของนักเรยี น
(3) มแี บบสรุปบนั ทกึ กจิ กรรมโฮมรมู บันทึกสถติ ิของนกั เรยี นในห้องเรยี นและจัดทำสมดุ ปพ.6 หรอื

ปพ.8
(4) มชี นิ้ งานหรอื ผลงานที่แสดงถึงผลสมั ฤทธ์ิตาม (1) (2) และ (3) หรือข้อมลู สารสนเทศประจำปกี าร

ศกึ ษาของครูที่ปรึกษา
6.5 ผลสมั ฤทธ์ิงานหวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรูต้ ามขอบขา่ ยภาระงาน ดังนี้

(1) มีปฏทิ ินการปฏิบตั ิงานภายในกล่มุ สาระการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษารายสาระการจดั กิจกรรมการ
เรยี นร้ภู ายในกลุ่มสาระตามภาระงานของหัวหนา้ กลุ่มสาระ

(2) มีข้อมูลแหล่งเรยี นรู้ หนังสือ แบบเรียน ส่อื อปุ กรณ์ และอื่นๆ ภายในกลมุ่ สาระ

(3) มีแบบสรุปการจัดครเู ขา้ สอนแทนและงานด้านวิชาการของกลมุ่ สาระ
(4) มโี ครงการพัฒนากล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ยา่ งนอ้ ย 1 โครงการ/ภาคการศึกษา

❖ คมู่ อื การปฏิบตั ิงานโรงเรียนวดั แมร่ มิ วิทยา หน้า 27

(5) มชี ้ินงานหรอื ผลงานที่แสดงถึงผลสัมฤทธิต์ าม (1) (2) (3) และ (4) หรือข้อมูลสารสนเทศประจำปี
การศกึ ษาของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้

6.6 ผลสมั ฤทธ์ิงานครูผจู้ ดั กิจกรรมการเรียนรู้ (ครผู สู้ อน) ตามขอบขา่ ยภาระงาน ดังน้ี
(1) มีปฏทิ นิ การปฏบิ ัตงิ านประจำปกี ารศึกษาตามภาระงานของครผู ู้จัดกจิ กรรมการเรียนรู้
(2) มีการจัดทำ-จัดส่งโครงร่างกำหนดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ครบทุกสาระทีต่ นสอน
(3) มกี ารจดั ทำ-จดั ส่งแผนจดั กิจกรรมการเรียนร้ตู ามทวี่ ชิ าการกำหนด หรือ
(4) มกี ารจดั ทำ-จัดสง่ แผนบรู ณาการอย่างน้อย 1 แผนบรู ณาการ/ภาคการศึกษา
(5) มีการจดั ทำ-จัดส่งโครงร่างการวจิ ยั ในชัน้ เรียนท้ังด้านรายสาระการเรียนรู้และดา้ นบุคคลอยา่ งน้อย

1 โครงรา่ งการวิจัย/ภาคการศึกษา
(6) มแี บบรายการสื่อสำหรับประกอบการเรียนการสอน ตารางชัว่ โมงการเรียนการสอน
(7) มกี ารจดั ทำ-จัดส่งสมุด ปพ.5 ตามทกี่ ำหนดและมีข้อมลู เป็นปัจจบุ นั
(8) มกี ารจัดทำ-จัดส่งข้อสอบวัดผลกลางภาคเรยี น ปลายภาคเรียน และเครื่องมอื การวดั ประเมนิ ผล

การ อ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี นส่ือความ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามรายสาระ
(9) มชี ้นิ งานหรือผลงานท่ีแสดงถึงผลสัมฤทธต์ิ าม (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) และ (9) หรอื ข้อมลู

สารสนเทศประจำปีการศึกษาของครผู ้จู ัดกจิ กรรมการเรียนรู้
6.7 ผลสมั ฤทธ์ิงานวัดและประเมินผลตามขอบข่ายภาระงาน ดงั น้ี

(1) มปี ฏิทินการปฏิบตั งิ านประจำปีการศึกษาตามภาระงานของวดั ผล
(2) มีแผนผัง ข้นั ตอน เอกสารการย่ืนคำร้อง และทะเบียนงานวดั ผลทุกประเภท
(3) มขี อ้ มูลรายการเอกสารงานวัดและประเมินผลท่ีเป็นปจั จุบัน
(4) มีสถติ ขิ ้อมูลนักเรียนเกีย่ วกับผลการเรียน ผลการสอบแกต้ ัว
(5) มีชน้ิ งานหรอื ผลงานทแี่ สดงถึงผลสมั ฤทธิต์ าม (1) (2) (3) และ (4) หรอื ข้อมูลสารสนเทศประจำปี
การศกึ ษาของงานวดั และประเมนิ ผล
6.8 ผลสมั ฤทธิ์งานพสั ดุครภุ ณั ฑ์ตามขอบขา่ ยภาระงาน ดังน้ี
(1) มีแผนปฏบิ ัตงิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของพัสดุ
(2) มีรายการทะเบียนพัสดุ ครุภณั ฑ์ ที่เป็นปัจจบุ ัน
(3) มแี บบบนั ทึกการจัดซ้ือ-จัดจา้ ง การยืม หรอื การใช้อืน่ ๆ ตามความจำเป็น
(4) มีระเบียบหรือข้อบังคับเก่ยี วกับการใช้งานพัสดุตาม (8.3)
(5) มชี ้นิ งานหรือผลงานทแี่ สดงถึงผลสมั ฤทธต์ิ าม (1) (2) (3) และ (4) หรือขอ้ มลู สารสนเทศประจำปี
การศกึ ษาของงานพสั ดุ
6.9 ผลสมั ฤทธ์ิงานการเงินและการบัญชีตามขอบขา่ ยภาระงาน ดังน้ี
(1) มีแผนปฏบิ ัตงิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของการเงินและการบญั ชี
(2) มรี ายการทะเบยี นเอกสารงานเงนิ แบบบันทึกข้อความเกย่ี วกับการเงิน หรือ
(3) มีสถติ ิข้อมูลการรับ-การจา่ ยเงิน หนงั สือเข้า-ออก และบันทึกขอ้ ความ
(4) มีบนั ทึกการประชมุ ของสถานศกึ ษาท้งั การประชุมสมยั สามัญและสมัยวสิ ามญั
(5) มีแผนผงั หรือขน้ั ตอนในการขออนุมัติการใชจ้ ่ายเงิน ระบบบญั ชี การรับ-ส่งหนงั สือ และการบนั ทึก
ขอ้ ความ
(6) มีชน้ิ งานหรอื ผลงานทีแ่ สดงถึงผลสมั ฤทธติ์ าม (1) (2) (3) (4) และ (5) หรอื ขอ้ มูลสารสนเทศ
ประจำปีการศกึ ษาของงานการเงินและการบัญชี
6.10 ผลสมั ฤทธิ์งานกิจกรรมแนะแนวตามขอบข่ายภาระงาน ดังน้ี

(1) มแี ผนปฏบิ ัตงิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานกจิ กรรมแนะแนว
(2) มปี ฏิทนิ ช่ัวโมงการจดั กิจกรรมแนะแนว ในแตล่ ะภาคการศึกษาหรือปกี ารศึกษา

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโรงเรียนวัดแม่ริมวทิ ยา หนา้ 28

(3) มกี ารจัดเก็บข้อมูลนกั เรียนเกี่ยวกับทนุ การศึกษาทกุ ประเภท
(4) มตี ารางหรือขอ้ มูลการแนะแนวเพ่ือการศกึ ษาต่อในแต่ละปกี ารศกึ ษาทั้งภายในและนอกสถานศึกษา
(5) มีแบบบนั ทึกผลสัมฤทธิข์ องนักเรียนที่เกดิ จากกิจกรรมแนะแนว
(6) มชี น้ิ งานหรือผลงานทแี่ สดงถึงผลสัมฤทธติ์ าม (1) (2) (3) (4) และ (5) หรือข้อมลู สารสนเทศประจำปี

การศกึ ษาของงานกิจกรรมแนะแนว
6.11 ผลสัมฤทธ์งิ านกจิ กรรมชุมนุมตามขอบข่ายภาระงาน ดงั น้ี

(1) มีแผนปฏิบตั ิงานประจำปีการศึกษาตามภาระงานกจิ กรรมชุมนมุ
(2) มีปฏทิ นิ ชัว่ โมงการจดั กจิ กรรมชมุ นุม ในแต่ละภาคการศึกษาหรอื ปีการศกึ ษา
(3) มแี บบบนั ทึกผลสัมฤทธข์ิ องนักเรยี นท่ีเกิดจากกิจกรรมชมุ นุม
(4) มีช้ินงานหรือผลงานที่แสดงถึงผลสัมฤทธิต์ าม (1) (2) และ (3) หรือข้อมูลสารสนเทศประจำปี

การศกึ ษาของงานกิจกรรมชุมนมุ
6.12 ผลสมั ฤทธง์ิ านกจิ กรรมสาธารณประโยชนต์ ามขอบข่ายภาระงาน ดังน้ี

(1) มแี ผนปฏบิ ัติงานประจำปีการศึกษาตามภาระงานกิจกรรมสาธารณประโยชน์
(2) มปี ฏิทินชว่ั โมงการกจิ กรรมสาธารณประโยชน์ ในแตล่ ะภาคการศกึ ษาหรือปีการศึกษา
(3) มีแบบบนั ทึกผลสมั ฤทธข์ิ องนักเรยี นทเ่ี กดิ จากกจิ กรรมสาธารณประโยชน์
(4) มชี ้นิ งานหรือผลงานทแี่ สดงถึงผลสมั ฤทธต์ิ าม (1) (2) และ (3) หรือข้อมลู สารสนเทศประจำปี

การศกึ ษาของงานกิจกรรมสาธารณประโยชน์
6.13 ผลสัมฤทธง์ิ านสารบรรณตามขอบขา่ ยภาระงาน ดังนี้

(1) มีแผนปฏิบตั งิ านประจำปีการศึกษาตามภาระงานของสารบรรณ
(2) มสี ถิตขิ ้อมูลทะเบยี นรบั -สง่ หนงั สือ ทะเบยี นหนังสอื คำสง่ั ทะเบียนหนังสือประกาศ และทะเบียน

หนงั สือบันทึกข้อความ และทะเบียนหนังสอื รับรอง
(3) มีสรุปบันทึกการประชมุ ประจำเดอื นของครูบคุ ลากร
(4) มสี รปุ บนั ทกึ การประชุมของคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
(5) มีสรุปบนั ทึกการประชมุ ของคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา
(6) มีแผนผงั หรอื ข้นั ตอนในการออกจดหมาย คำสง่ั ประกาศ บนั ทึกข้อความ และหนังสือรับรอง
(7) มชี นิ้ งานหรือผลงานท่ีแสดงถึงผลสมั ฤทธิต์ าม (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) หรือข้อมูลสารสนเทศ

ประจำปีการศึกษาของงานสารบรรณ
6.14 ผลสมั ฤทธง์ิ านเจ้าหน้าท่บี คุ คลตามขอบขา่ ยภาระงาน ดงั นี้

(1) มีแผนปฏิบตั งิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของเจ้าหนา้ ทบ่ี ุคคล
(2) มสี ถติ ิข้อมูลการลา การขาด การมาสาย ของครูบุคลากร
(3) มขี ้อมลู ทะเบยี นประวตั ขิ องครูบุคลากรทเี่ ปน็ ปัจจุบัน
(4) มกี องทนุ สวัสดิการครูบุคลากร
(5) มีโครงการพฒั นาองคก์ รบุคลากรสถานศึกษา
(6) มีชิ้นงานหรือผลงานทแี่ สดงถึงผลสัมฤทธ์ติ าม (1) (2) (3) (4) และ (5) หรอื ข้อมลู สารสนเทศ

ประจำปกี ารศกึ ษาของงานเจ้าหนา้ ท่บี คุ คล
6.15 ผลสัมฤทธง์ิ านเจา้ หน้าท่ีประชาสัมพนั ธ์ตามขอบข่ายภาระงาน ดงั นี้

(1) มีแผนปฏิบตั งิ านประจำปีการศกึ ษาตามภาระงานของเจา้ หนา้ ทป่ี ระชาสัมพันธ์
(2) มีสถิตกิ ารลงขา่ วประชาสมั พันธใ์ นส่อื สงิ่ พิมพ์ เว็ปไซต์ หรือสถติ กิ ารประชาสมั พันธ์ในสถานีวทิ ยุ และ

โทรทศั น์
(3) มจี ุลสาร วารสาร และบทความของสถานศึกษาทีอ่ อกเผยแพรท่ างส่ือสารมวลชน

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วทิ ยา หนา้ 29

(4) มสี ถิติการนำเสนอข่าวสารหรือกจิ กรรมสถานศึกษาใหค้ รูบุคลากร นกั เรยี น ทราบเปน็ รายสปั ดาห์
รายเดอื น และรายปีการศึกษา

(5) มโี ครงการประชาสมั พันธส์ ถานศึกษาและการแนะแนวต่อเพื่อการศึกษา
(6) มีชิ้นงานหรอื ผลงานทีแ่ สดงถึงผลสัมฤทธติ์ าม (1) (2) (3) (4) และ (5) หรอื ขอ้ มูลสารสนเทศ

ประจำปกี ารศึกษาของงานเจ้าหน้าทป่ี ระชาสมั พนั ธ์

❖ คมู่ อื การปฏิบัตงิ านโรงเรียนวัดแม่รมิ วิทยา หน้า 30

บรรณานกุ รม/หนังสืออ้างอิง

1. พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี กไ้ ขเพมิ่ เติม ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2545
2. พระราชบัญญตั ิโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550
3. กฎกระทรวง วา่ ดว้ ยสทิ ธใิ นการจัดการศึกษาข้ันพ้นื ฐานในสถาบนั พระพุทธศาสนา พ.ศ. 2548
4. ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร วา่ ด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ. 2543
5. ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ าร ว่าดว้ ยคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวิชาการสถานศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ.

2544
6. ระเบยี บสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. 2546
7. ระเบยี บมหาเถรสมาคม (ฉบับรา่ ง) ว่าดว้ ยโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ………..
8. ประกาศมหาเถรสมาคม ว่าด้วยโรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. 2553
9. คมู่ ือการบรหิ ารโรงเรียน กล่มุ โรงเรยี นพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุม่ ที่ 5
10.ระเบียบโรงเรยี นบาลีสาธติ ศกึ ษา มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตเชียงใหม่ พ.ศ. 2549
11.คมู่ ือการใชก้ ฎหมาย ระเบยี บ ข้อบงั คับ โรงเรยี นบาลีสาธติ ศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขต

เชยี งใหม่ พ.ศ. 2549
12.คมู่ ือแนวทางการบริหารโรงเรยี นนติ บิ คุ คล พ.ศ. 2551 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
13.ระเบยี บคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน (ฉบบั รา่ ง) ว่าด้วยจรรยา มรรยาท วนิ ัย และหนา้ ทข่ี องผรู้ ับ

ใบอนญุ าต ผู้อำนวยการ ผบู้ ริหาร ผู้จัดการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ท่ไี ม่อยู่ในบงั คบั ของกฎหมาย ว่า
ด้วยสภาครู และบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ………..
14.บทความเร่ือง “บทบาทของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาในการจัดการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานในชว่ งชั้นที่ 3 และ 4” ของ
นักศกึ ษาระดับปรญิ ญาโท มหาวิทยาลัยราชภฏั บ้านสมเด็จเจ้าพระยา
15.บทบาทหน้าท่ีความรบั ผิดชอบของผบู้ ริหารโรงเรียนตามพระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
16.คูม่ ือการบริหารสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่เี ป็นนติ บิ ุคคล กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546
17.ข้อบังคับครุ ุสภา วา่ ด้วยมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณของวชิ าชพี พ.ศ. 2548

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรียนวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 31

ภาคผนวก

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านโรงเรียนวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 32

แนวปฏิบตั ขิ อบขา่ ยงานการบรหิ ารสถานศึกษา

❖ การบริหารงานวชิ าการ

1. การพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา
1.1 การศกึ ษาวิเคราะหเ์ อกสารหลักสูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2544 และเอกสารประกอบหลกั สตู ร
เพื่อปรบั ปรุงพัฒนาใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการของผู้เรียน สังคม ชุมชนและท้องถนิ่
1.2 การปรับปรุงโครงสรา้ งหลกั สูตรใหส้ อดคล้องกับวสิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ และเป้าประสงค์ ตลอดจน
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ท่ีสถานศึกษากำหนด
1.3 การนำหลักสูตรไปใชใ้ นการจัดการเรยี นรู้
1.4 การนเิ ทศ
1.5 การตดิ ตามและประเมินผลการใช้หลกั สตู ร

2. การพฒั นากระบวนการเรียนรู้
2.1 สง่ เสริมใหค้ รูจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ ตามสาระและหน่วยการเรียนรู้ โดยยดึ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั
รวมทงั้ การปลกู ฝงั ค่านิยม คุณธรรม จรยิ ธรรม อันดีงาม การสง่ เสรมิ ให้นักเรียนรักการอ่านและใฝร่ ใู้ ฝ่
เรยี น
2.2 จดั ห้องเรยี นและห้องพเิ ศษให้เหมาะสมและสอดคลอ้ งกับจำนวนนกั เรยี นรวมถงึ จัดวสั ดุครุภัณฑแ์ ละส่งิ
อำนวยความสะดวกใหเ้ พียงพอตามความจำเปน็
2.3 จดั ทำหรือจดั หาเอกสารประกอบหลักสตู รและแบบพิมพ์ตา่ งๆ ทสี่ นบั สนุนการสอนเช่น แผนการสอน
คมู่ ือครู และเอกสารทเี่ ก่ยี วข้องสำหรบั ครูผู้สอนใหเ้ พียงพอ
2.4 เยีย่ มช้ันเรียนนเิ ทศการสอนโดยเนน้ ความเป็นกัลยาณมิตร การแลกเปลี่ยนเรยี นร้แู ละการเสนอแนะ
ชว่ ยเหลือเพอ่ื การพัฒนาการเรยี นการสอน
2.5 ส่งเสรมิ การพฒั นาบุคลากรให้ไดร้ บั ความรู้เพ่ือการพัฒนางานอย่างต่อเน่อื ง

3. การวดั ผล ประเมินผลและเทยี บโอนผลการเรยี น
3.1 กำหนดระเบยี บ แนวปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับการวดั ผลและประเมินผลของสถานศกึ ษา
3.2 ส่งเสริมให้ครูวัดและประเมินผล โดยให้ครอบคลุมทั้งดา้ นพุทธิพิสยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พสิ ยั โดย
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง และกิจกรรมการเรียนรู้
3.3 สง่ เสรมิ การประเมนิ ผลกอ่ นเรียน ระหว่างเรยี น และหลงั เรียน โดยใช้วิธกี ารหลากหลาย
3.4 จัดใหม้ ีการเทยี บโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และผลการเรยี นจากสถานศกึ ษาอน่ื ตามท่ี
กระทรวงกำหนด
3.5 พฒั นาเคร่ืองมือวดั ผล ประเมินผลให้ไดม้ าตรฐาน
3.6 วางแผนกำหนดระยะเวลาการวัดผลและประเมนิ ผล จัดทำปฏทิ ินปฏิบตั งิ านให้สอดคล้องกบั หลักสูตร
และเวลาเรยี น

4. การวจิ ัยเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา
4.1 ส่งเสรมิ การพฒั นาบุคลากรให้ได้รบั ความรู้ด้านการวิจัยในชั้นเรียน
4.2 สง่ เสรมิ การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาโดยการทำวจิ ยั ในช้ันเรยี น อย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ 1 เรอื่ ง
4.3 ประสานความรว่ มมือในการศึกษา วิเคราะห์ วจิ ยั ตลอดจนการเผยแพรผ่ ลงานวจิ ัย และผลงานทาง
วิชาการกับสถานศึกษา บุคคล ครอบครวั องคก์ ร หนว่ ยงานและสถาบันอื่น

❖ คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโรงเรียนวดั แมร่ ิมวิทยา หน้า 33

5. การพัฒนาสอื่ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา
5.1 ศกึ ษา วิเคราะห์ ความจำเปน็ ในการใช้สอื่ และเทคโนโลยีเพ่อื การจดั การเรียนการสอนและการ
บรหิ ารงานวชิ าการ
5.2 ส่งเสริมการผลติ พัฒนาสอ่ื นวัตกรรมและการใชส้ อื่ ประกอบการเรยี นการสอน
5.3 จัดหา สือ่ และเทคโนโลยเี พอ่ื ใชใ้ นการพัฒนางานวชิ าการ
5.4 ประสานความรว่ มมือในการผลติ จัดหา พัฒนา การใช้ส่อื นวัตกรรม เพ่ือการจดั การเรยี นการสอนและ
การพฒั นางานวชิ าการกับสถานศึกษา บุคคล ครอบครวั องค์กร หน่วยงานและสถาบนั อื่น
5.5 การประเมนิ ผลการพัฒนา การใช้ส่ือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษา

6. การพฒั นาแหล่งเรียนรู้
6.1 สำรวจแหล่งเรียนรู้ ทีเ่ กี่ยวข้องกบั การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และท้องถิ่น
6.2 จัดใหม้ พี เิ ศษ หอ้ งปฏบิ ัติการ หอ้ งสมุดหรือมุมหนังสือทเี่ หมาะสมและสอดคลอ้ งกับจำนวนนักเรยี น
6.3 จดั หาหนงั สอื วสั ดุ ครภุ ณั ฑ์ ทจ่ี ำเปน็ สำหรับห้องพเิ ศษ ห้องปฏบิ ัติการ ห้องสมุดใหเ้ พยี งพอ
6.4 สง่ เสรมิ สนับสนุนใหค้ รูใช้แหล่งเรียนรูแ้ ละภมู ิปญั ญาท้องถ่ินทั้งในและนอกโรงเรียนในการจดั
กระบวนการเรยี นรู้

7. การนิเทศการศึกษา
7.1 ศึกษาและทำความเข้าใจถึงหลักการ และวิธกี ารปฏิบตั ิในการนเิ ทศ
7.2 สร้างความเขา้ ใจร่วมกนั ระหว่างผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาและคณะครเู พ่ือการยอมรับซ่ึงกนั และกัน
7.3 แต่งต้ังคณะกรรมการนเิ ทศภายใน โดยมผี ู้บริหารสถานศึกษาเปน็ ประธาน รองผู้บรหิ ารสถานศึกษา
ฝ่ายวชิ าการ รองผู้บรหิ ารสถานศึกษาฝา่ ยธรุ การ หัวหน้าวชิ าการ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ และ
คณะครทู ่ีมีความเหมาะสมร่วมเปน็ กรรมการและดำเนินkการนิเทศ ตามกำหนด
7.4 ประเมินผลการจดั ระบบ และกระบวนการนิเทศการศึกษาของสถานศึกษา
7.5 ติดตามประสานงานกบั เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาเพื่อพฒั นาระบบ และกระบวนการนเิ ทศงานวิชาการและ
การเรียนการสอน

8. การแนะแนวการศกึ ษา
8.1 จัดระบบการแนะแนวการศึกษาโดยเชอ่ื มโยงกับระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน และกระบวนการเรียน
การสอน
8.2 ดำเนินการแนะแนวการศึกษา โดยความรว่ มมอื ของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา
8.3 ติดตามและประเมินผลการแนะแนวการศึกษาในสถานศึกษา
8.4 ประสานความร่วมมือ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ และประสบการณ์ดา้ นการแนะแนวการศึกษากับสถานศกึ ษา
อน่ื หรือเครือข่ายการแนะแนวที่เกย่ี วข้อง

9. การพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา
9.1 จัดระบบโครงสรา้ งองค์กร ให้สอดรับการจดั ระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา
9.2 กำหนดเกณฑ์การประเมนิ เป้าหมายความสำเร็จของสถานศกึ ษา ตามมาตรฐานการศึกษาของ
กระทรวงศึกษาธกิ ารและมาตรฐานการศกึ ษาของสำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาโดยใช้หลักเกณฑ์และ
วิธกี ารประเมนิ ของสำนักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา องค์การมหาชน
9.3 วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตามระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาใหบ้ รรลผุ ลตาม
เป้าหมายความสำเรจ็ ของสถานศึกษา
9.4 ดำเนินการพัฒนาตามแผน กำกับ ตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมินคณุ ภาพ และปรับปรงุ พัฒนาอยา่ ง
ต่อเน่อื ง

❖ คมู่ ือการปฏิบตั ิงานโรงเรยี นวดั แม่ริมวทิ ยา หน้า 34

9.5 ประสานความรว่ มมือกับสถานศึกษาและหน่วยงานอน่ื ในการปรับปรุงและพฒั นาระบบประกนั
คุณภาพภายในสถานศึกษา

9.6 ประสานงานกับเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาเพื่อการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาตามมาตรฐาน
การศกึ ษาของเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา

10. การสง่ เสรมิ ความรู้ทางวิชาการแกช่ มุ ชน
10.1 ศึกษา สำรวจความต้องการ และสนบั สนนุ งานวิชาการแก่ชุมชน
10.2 การส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ชมุ ชน ทอ้ งถิ่น เขา้ มามีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรมทางวชิ าการของ
สถานศกึ ษา และทจ่ี ดั โดยบุคคล องค์กร หน่วยงาน และสถาบันอ่ืนทีจ่ ดั การศึกษา
10.3 ส่งเสริมการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ประสบการณ์ด้านการใช้เทคโนโลยีระหว่างสถานศกึ ษา บุคคล ชมุ ชน
ครอบครวั และท้องถิ่น

11. การประสานความร่วมมอื ในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองคก์ รอื่น
11.1 ประสานความร่วมมือ ช่วยเหลือในการพัฒนาวชิ าการกับสถานศกึ ษาของรฐั เอกชน และองคก์ ร
ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ท้งั ทจ่ี ัดการศึกษาขั้นพ้นื ฐานและระดับอุดมศกึ ษา ทั้งภายในเขตพื้นทีก่ ารศึกษา
และนอกเขตพื้นท่ีการศึกษา
11.2 สรา้ งเครือข่ายความรว่ มมือในการพัฒนาวชิ าการกบั องคก์ รต่างๆ

12. การสง่ เสรมิ และสนบั สนุนงานวิชาการแก่บุคคล ครอบครัว องคก์ ร หนว่ ยงานและสถาบันอ่นื ทจ่ี ดั
การศกึ ษา
12.1 ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาวิชาการ และการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ในการจัดการศกึ ษาของบุคคล
ครอบครวั องค์กร หน่วยงานและสถาบันอ่ืนที่จดั การศึกษา

❖ การบรหิ ารงานบคุ คล

1. การวางแผนอตั รากำลงั คนและการกำหนดตำแหนง่
1.1 การวิเคราะห์การวางแผนอตั รากำลงั คน

1.1.1 วิเคราะหภ์ ารกจิ และประเมนิ สภาพความต้องการกำลงั คนกับภารกิจของสถานศึกษา
1.1.2 จดั ทำแผนอัตรากำลังครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา
1.1.3 นำเสนอแผนอตั รากำลังเพ่ือขอความเหน็ ชอบตอ่ กบป. สำนกั เขตการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนก

สามญั ศึกษา เขต 5
1.1.4 นำแผนอัตรากำลงั ของสถานศึกษาสกู่ ารปฏบิ ัติ
1.2 การกำหนดตำแหนง่
1.2.1 ใหเ้ ป็นไปตามการกำหนดตำแหน่งและความเหน็ ชอบของ กบป. สำนักเขตการศกึ ษาพระปริยัตธิ รรม

แผนกสามญั ศึกษา เขต 5
1.2.2 สถานศึกษากำหนดภาระงานสำหรับครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศึกษา
2. การสรรหาและบรรจแุ ต่งต้งั
2.1 การดำเนินการสรรหาและบรรจแุ ตง่ ต้งั ให้เปน็ ไปตามข้อกำหนด และวธิ กี ารของสำนักเขตเขตการศึกษา

พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เขต 5 หรือ กบป. แลว้ แต่กรณี
2.2 การจ้างลูกจ้างประจำและลกู จ้างชวั่ คราว
2.3 กรณกี ารจ้างลกู จ้างประจำและลกู จ้างช่ัวคราวโดยใช้เงนิ งบประมาณให้ดำเนินการตามหลกั เกณฑ์และ

วิธกี ารท่กี ระทรวงการคลงั กำหนด หรือตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารทีส่ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขัน้ พ้นื ฐานกำหนด

❖ คมู่ ือการปฏิบตั งิ านโรงเรียนวดั แม่ริมวิทยา หน้า 35

2.4 กรณกี ารจา้ งลูกจ้างประจำและลูกจา้ งชั่วคราวกรณีอ่ืนนอกเหนือจาก 2.5.1 สถานศึกษาสามารถ
ดำเนนิ การจา้ งลกู จ้างประจำและลกู จา้ งชว่ั คราวของสถานศึกษาได้ โดยใช้เงินรายได้ของสถานศึกษา
ภายใต้หลักเกณฑ์และวธิ กี ารท่ีสถานศึกษากำหนด

2.5 การแต่งต้งั ย้าย โอน ครูและบุคลากรทางการศึกษา
2.6 เสนอคำร้องขอยา้ ย โอน ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ต่อสำนกั เขตเขตการศึกษาพระปรยิ ัตธิ รรม

แผนกสามัญศึกษา เขต 5 เพื่อนำเสนอ กบป. สำนักเขตการศกึ ษา เพื่อพิจารณาอนุมัติ
2.7 กรณรี ับย้ายให้รายงานการบรรจุแตง่ ตง้ั รับย้าย ไปยงั สำนักเขตการศกึ ษา เพื่อจัดทำทะเบยี นประวตั ิ

ต่อไป
3. การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏบิ ัตริ าชการ

3.1 การพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
3.1.1การพฒั นากอ่ นมอบหมายการปฏบิ ตั ิหน้าที่
3.1.2ผ้บู ริหารปฐมนเิ ทศ บุคลากรทีไ่ ดร้ ับการสรรหา บรรจุ แต่งต้ังเป็นครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาใน
สถานศึกษา
3.1.3แจง้ ภาระงาน มาตรฐานคุณภาพงาน มาตรฐานวชิ าชพี จรรยาบรรณวิชาชีพ เกณฑ์การประเมนิ ผล
งาน แก่ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศกึ ษา ก่อนมอบหมายหนา้ ท่ีการปฏบิ ัตงิ าน
3.1.4ดำเนินการตดิ ตาม ประเมนิ ผล และจัดใหม้ กี ารพัฒนาตามความเหมาะสม ตอ่ เน่ือง
3.1.5การพัฒนาระหวา่ งปฏิบัตหิ น้าท่รี าชการ
3.1.6ศึกษา วิเคราะห์ ความต้องการ ในการพัฒนาตนเองของครูและบคุ ลากรทางการศึกษาใน
สถานศึกษา
3.1.7กำหนดหลกั สูตร การพฒั นาใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการ ความจำเปน็ ในการพัฒนาตนเองของ
ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา
3.1.8ดำเนนิ การพัฒนาตามหลกั สตู ร
3.1.9ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการพฒั นา และรายงานผล
3.1.10การพัฒนาเพือ่ เลอื่ นตำแหน่ง
3.1.11ศกึ ษา วเิ คราะห์ คุณลกั ษณะเฉพาะสำหรบั ตำแหน่งทข่ี อปรับปรุง กำหนดตำแหนง่ ของ
ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา
3.1.12ส่งเสริมการพัฒนา เพ่อื เพิ่มพูนความรู้ ทกั ษะ เจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ
วชิ าชพี ของครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา
3.1.13ตดิ ตาม ประเมินผลการพัฒนา และรายงานผล

3.2 การเล่ือนขัน้ เงินเดือนครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
3.2.1การเล่ือนข้ันเงนิ เดือน กรณี ปกตแิ ละกรณีพิเศษ
3.2.2ผู้บริหารสถานศกึ ษาแตง่ ต้ังคณะกรรมการพจิ ารณาความดีความชอบของครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาในสถานศึกษา
3.2.3ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาพิจารณาสั่งเลอ่ื นขั้นเงินเดือนของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา
กรณสี ่ังไม่เลือ่ นขน้ั เงนิ เดือนใหแ้ กค่ รแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาในสถานศึกษา ต้องชแี้ จงใหค้ รแู ละ
บคุ ลากรทางการศึกษาดงั กล่าวทราบ
3.2.4รายงานการสั่งเลื่อนและไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนของครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศึกษาไปยัง
หนว่ ยงานต้นสังกดั เพื่อดำเนินการต่อไป

3.3 การดำเนินการเกีย่ วกบั บญั ชีถือจ่ายเงนิ เดือน และคา่ ตอบแทนอนื่ ใหด้ ำเนนิ การตามความเหมาะสม
3.4 งานทะเบยี นประวัติ

❖ คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วิทยา หน้า 36

3.5 สถานศกึ ษา รวบรวมสำเนาทะเบียนประวัติของครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศึกษาบันทึกการ
เปลย่ี นแปลงข้อมลู ลงในทะเบียนประวตั ิ

4. วินยั และการรักษาวนิ ัย
4.1 ดำเนนิ การตามท่กี ฎหมายกำหนด

5. การออกจากราชการ
5.1 ดำเนนิ การตามที่กฎหมายกำหนด

❖ การบรหิ ารงบประมาณ

1. การจดั ทำและเสนอของบประมาณ
1.1 การวเิ คราะห์ และพฒั นานโยบายทางการศึกษา
1.1.1ศกึ ษา วิเคราะห์ กรอบทิศทางการจัดการศกึ ษาของเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา
1.1.2วิเคราะหผ์ ลการดำเนินงานของสถานศึกษา ด้านปรมิ าณ คุณภาพ เวลา ตน้ ทนุ การผลติ
1.2 การจดั ทำแผนกลยทุ ธ์หรือแผนพฒั นาการศึกษา
ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา นกั เรยี น ผูป้ กครอง ชมุ ชนและคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐานรว่ ม

ดำเนินการ ดงั น้ี
1.2.1 ทบทวนผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา โดยศกึ ษารายงานข้อมูลสารสนเทศทีเ่ กย่ี วข้อง
1.2.2 วิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มของสถานศกึ ษาที่มีผลกระทบตอ่ การจัดการศกึ ษา( SWOT) และ
ประเมินสถานภาพของสถานศกึ ษา
1.2.3 กำหนดวสิ ยั ทศั น์ (Vision) พันธกจิ (Mission) และเปา้ ประสงค์ (Corporative Objective) ของ
สถานศกึ ษา
1.2.4 กำหนดกลยทุ ธ์ของสถานศึกษา
1.2.5 กำหนดผลผลติ (Outputs) ผลลพั ธ์ (Outcomes) และตัวช้ีวัดความสำเรจ็ (Key Performance
Indicators)
1.2.6 จัดทำรายละเอียด โครงสรา้ ง แผนงาน งาน/โครงการ และกิจกรรมหลกั
1.2.7 นำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบตอ่ คณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
1.2.8 เผยแพรป่ ระกาศต่อสาธารณชนและผ้เู กี่ยวขอ้ ง

1.3 การวิเคราะห์ความเหมาะสมการเสนอของบประมาณ
1.3.1 จัดทำรายละเอียดแผนงบประมาณ แผนงาน โครงการ ให้มีความเชื่อมโยงกับผลผลิต ผลลัพธ์
และตัวชี้วัดความสำเรจ็ ของสถานศกึ ษา พร้อมกบั วเิ คราะห์จดั ลำดบั ความสำคัญของแผนงาน
โครงการ
1.3.2 จดั ทำกรอบงบประมาณรายจ่ายระยะปานกลาง (MTEF) โดยพิจารณาผลการดำเนนิ งานใน
ปงี บประมาณทผ่ี า่ นมาของสถานศึกษา เพ่ือปรับเป้าหมายผลผลติ ท่ีต้องการดำเนนิ การใน 3 ปี
ข้างหน้า พร้อมกบั ปรับแผนงาน โครงการและกจิ กรรมหลัก ใหส้ อดคล้องกับงบประมาณท่ี
สถานศกึ ษาได้รับ

2. การจัดสรรงบประมาณ
2.1การจดั สรรงบประมาณในสถานศกึ ษา
2.1.1 จดั ทำข้อตกลงบริการผลผลติ ของสถานศกึ ษากับเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาเม่ือได้รบั การจดั สรร
งบประมาณ
2.1.2 ตรวจสอบกรอบเงินงบประมาณท่ีไดร้ ับตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการจัดสรรทสี่ ำนกั งานเขตพืน้ ท่ี
การศกึ ษาแจ้งตลอดจนตรวจสอบวงเงินนอกงบประมาณที่ได้จากแผนการระดมทรัพยากร

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรยี นวดั แม่รมิ วทิ ยา หนา้ 37

2.1.3 วเิ คราะหก์ จิ กรรมตามภารกิจงานที่ตอ้ งดำเนนิ การตามมาตรฐานการศกึ ษา เพื่อจัดลำดับ
ความสำคญั และกำหนดงบประมาณ ทรพั ยากรของแต่ละฝ่ายงาน/ โครงการ /กิจกรรม ให้เปน็ ไป
ตามกรอบวงเงนิ งบประมาณ

2.1.4 จัดทำรายละเอยี ดแผนปฏบิ ัติการประจำปงี บประมาณ ซ่ึงระบแุ ผนงาน งาน โครงการทสี่ อดคล้อง
กบั วงเงินงบประมาณทไ่ี ด้รบั และวงเงนิ นอกงบประมาณจากการระดมทรัพยากร

2.1.5 จัดทำรา่ งข้อตกลงผลผลิตของหนว่ ยงานภายในสถานศกึ ษา และกำหนดผู้รับผิดชอบ
2.1.6 นำเสนอแผนปฏิบัตกิ ารประจำปีงบประมาณ และร่างข้อตกลงผลผลติ เพื่อขอความเหน็ ชอบตอ่

คณะกรรมการสถานศึกษา
2.1.7 แจง้ จดั สรรวงเงนิ งบประมาณและจัดทำขอ้ ตกลงผลผลิต ให้หน่วยงานภายในสถานศกึ ษารบั ไป

ดำเนนิ การตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ
2.2การเบกิ จา่ ยและการอนุมัติงบประมาณ

2.2.1 จัดทำแผนการใชง้ บประมาณ โดยกำหนดปฏทิ ินปฏบิ ตั ิงานตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี แยกเป็น
งบบุคลากร งบอดุ หนนุ งบลงทุน และงบดำเนนิ การ

2.2.2 เสนอแผนการใชง้ บประมาณวงเงนิ รวมเพื่อขออนุมตั ิเงินประจำงวด ต่อเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา
2.2.3 เบิกจ่ายงบประมาณประเภทตา่ งๆ ให้เปน็ ไปตามแผนปฏบิ ัติการประจำปี และอนุมตั กิ ารใช้

งบประมาณของสถานศกึ ษาตามประเภทและรายการท่ีไดร้ ับงบประมาณ
3. การตรวจสอบ ติดตามผล ประเมนิ ผลและรายงานผลการใชเ้ งินและผลการดำเนนิ งาน

3.1การตรวจสอบ ตดิ ตามการใชเ้ งนิ และผลการดำเนินงาน
3.1.1 จัดทำแผนการตรวจสอบ ติดตามการใช้เงนิ งบประมาณและเงินนอกงบประมาณของสถานศึกษา
ให้เป็นไปตามแผนปฏิบตั กิ ารประจำปงี บประมาณ
3.1.2 จัดทำแผนการตรวจสอบ ตดิ ตามผลการดำเนนิ งานตามข้อตกลงการใหบ้ ริการผลผลิตของ
สถานศึกษาใหเ้ ปน็ ไปตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปงี บประมาณ
3.1.3 จดั ทำข้อสรุปผลการตรวจสอบ ติดตาม นิเทศ พร้อมท้งั เสนอข้อปญั หาที่อาจทำใหก้ ารดำเนินงาน
ไม่ประสบผลสำเรจ็ เพ่ือเป็นแนวทางในการแกไ้ ข ปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3.1.4 สรุปขอ้ มูลสารสนเทศท่ีได้และจัดทำรายงานข้อมูลการใชง้ บประมาณผลการดำเนินงานของ
สถานศึกษาต่อเขตพน้ื ที่การศึกษา

3.2การประเมนิ ผลการใช้เงินและผลการดำเนินงาน
3.2.1 กำหนดปัจจัยหลักความสำเร็จ และตวั ช้วี ัด ของสถานศึกษา
3.2.2 จัดทำตวั ช้ีวัดความสำเร็จของผลผลิตท่กี ำหนดตามข้อตกลงการใหบ้ รกิ ารผลผลิตของสถานศกึ ษา
3.2.3 สรา้ งเครื่องมอื เพื่อการวัด ประเมินผล ผลผลิต ตามตัวชีว้ ัดความสำเร็จของผลผลติ ท่กี ำหนดตาม
ข้อตกลงการใหบ้ ริการผลผลิตของสถานศกึ ษา
3.2.4 ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน ตามแผนการปฏิบัตงิ านประจำปีของสถานศกึ ษา และจัดทำรายงาน
ประจำปี
3.2.5 รายงานผลการประเมินตอ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานและเขตพนื้ ท่ีการศึกษา

4. การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพอ่ื การศกึ ษา
4.1 การจัดการทรัพยากร
4.2 ประชาสัมพันธใ์ หห้ นว่ ยงานภายในสถานศึกษาและสถานศึกษาในเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาทราบรายการ
สินทรพั ยข์ องสถานศกึ ษาเพ่ือการใชท้ รัพยากรรว่ มกัน
4.3 วางระบบการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธภิ าพรว่ มกับบคุ ลและหน่วยงานทงั้ ภาครัฐและเอกชน
4.4 สนับสนนุ ให้บคุ ลากรและสถานศกึ ษารว่ มมือกันใช้ทรัพยากรในชมุ ชนให้เกิดประโยชนต์ ่อกระบวนการ
จัดการเรียนการสอนของสถานศกึ ษา

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรยี นวัดแมร่ มิ วทิ ยา หนา้ 38

4.5 การระดมทรัพยากร
4.6 สำรวจข้อมลู ความต้องการความช่วยเหลอื ในการจดั การศึกษาในทุกด้านของสถานศึกษา
4.7 ศกึ ษาวเิ คราะห์แหลง่ ทรพั ยากร จากบุคคล หน่วยงาน องค์กรทอ้ งถนิ่ ที่มีศกั ยภาพให้การสนับสนนุ การ

จดั การศกึ ษา ตลอดจนการติดต่อประสานความร่วมมืออยา่ งเป็นรูปธรรม
4.8 จดั ทำแผนการระดมทรพั ยากรทางการศกึ ษาและทนุ การศึกษา โดยกำหนดวธิ ีการ แหล่งสนบั สนุน

เปา้ หมาย ระยะเวลาดำเนนิ การ และผูร้ ับผดิ ชอบ
4.9 เสนอแผนการระดมทรัพยากรทางการศกึ ษาและทนุ การศกึ ษา ต่อคณะกรรมการสถานศึกษาเพอื่ ขอ

ความเห็นชอบและดำเนินการในรปู คณะกรรมการ
๔.๑๐ การจัดหารายไดแ้ ละผลประโยชน์
๔.๑๑ วเิ คราะห์ศกั ยภาพของสถานศึกษาที่ดำเนนิ การจดั หารายไดแ้ ละสนิ ทรพั ย์ในส่วนที่จะนำมาซ่ึงรายได้
และผลประโยชน์ของสถานศึกษาเพื่อจดั ทำทะเบยี นข้อมลู
๔.๑๒ จัดทำแนวปฏิบัติ หรือระเบยี บของสถานศึกษาเพ่ือจัดหารายได้ และบรหิ ารรายไดแ้ ละผลประโยชน์
ตามสภาพของสถานศึกษาโดยไม่ขดั ตอ่ กฎหมายและระเบียบท่เี กีย่ วข้อง
๔.๑๓ จัดหารายได้และผลประโยชนแ์ ละจัดทำทะเบยี นคุมเก็บรักษาเงนิ และเบิกจา่ ยใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย
และระเบยี บทเี่ กีย่ วข้อง
5. การบรหิ ารการเงิน
การเบิกเงนิ การรบั เงนิ การเก็บรักษาเงนิ การจา่ ยเงิน การนำส่งเงิน การโอนเงนิ การกันเงนิ ไวเ้ บิกเหลอื่ มปี
ให้เปน็ ไปตามข้ันตอนวิธีการท่ีกระทรวงการคลังกำหนด
6. การบริหารการบญั ชี
6.1 การจัดทำบัญชกี ารเงนิ
6.2 บันทกึ บญั ชกี ารรบั จ่าย ยอดเงินคงเหลือประจำวัน สรปุ รายการบนั ทกึ บัญชี ทุกวันทำการ สรุปรายการ

รับหรือจ่ายเงินผา่ นไปบัญชแี ยกประเภทเงนิ สด เงินฝากธนาคาร และเงนิ ฝากคลัง สำหรับรายการอืน่
และรายการในสมดุ รายวันทัว่ ไปให้ผ่านรายการเขา้ บญั ชแี ยกประเภท ณ วันทำการสุดทา้ ยของเดือน
6.3 ปรับปรุงบญั ชีเมอื่ ส้นิ ปีงบประมาณ
6.4 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของตัวเงนิ สดและเงนิ ฝากธนาคารตามรายงานคงเหลอื ประจำวัน ตลอดจน
ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีแยกประเภททัว่ ไป และตรวจสอบความถูกต้องของบัญชียอ่ ย และ
ทะเบยี น
6.5 การจดั ทำรายงานทางการเงนิ และงบการเงิน
6.6 จัดทำรายงานประจำเดอื นสง่ หน่วยงานตน้ สงั กดั ภายในวันที่ 10 ของเดือนถดั ไป โดยจดั ทำรายงาน
รายได้แผ่นดนิ รายงานรายได้และคา่ ใชจ้ ่ายรายงานประจำงวด
6.7 จัดทำรายงานประจำปี โดยจัดทำงบแสดงฐานะการเงิน จัดทำงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
จดั ทำหมายเหตุประกอบงบการเงนิ และจัดสง่ รายงานประจำปีใหเ้ ขตพืน้ ที่การศึกษาเพอ่ื จัดสง่ สำนักงาน
ตรวจเงินแผ่นดนิ และกรมบญั ชีกลางตามระยะเวลาที่กำหนด
6.8 การจัดทำและจัดหาแบบพิมพ์บญั ชี ทะเบยี นและรายงานจดั ทำและจัดหาแบบพิมพ์ขนึ้ ใชเ้ องเว้นแต่เป็น
แบบพมิ พ์ทห่ี นว่ ยงานหรือสว่ นราชการจดั ทำข้ึน
7. การบรหิ ารพสั ดแุ ละสนิ ทรัพย์
7.1 การจดั ทำฐานข้อมลู และสนิ ทรพั ย์ของสถานศึกษา
7.2 จัดตัง้ คณะกรรมการสำรวจวสั ดุ ครุภัณฑ์ ท่ีดิน สง่ิ ก่อสรา้ งของสถานศึกษาเพ่ือทราบขอ้ มูลและสภาพการ
ใชง้ าน
7.3 การจำหนา่ ย ขายทอดตลาด ให้เป็นไปตามระเบยี บในกรณีทีห่ มดสภาพหรอื ไม่ไดใ้ ช้ประโยชน์
7.4 จัดทำทะเบยี นคุมทรพั ย์สินทีเ่ ปน็ วสั ดุ ครภุ ัณฑ์ สงิ่ ก่อสร้าง ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ัน

❖ คมู่ อื การปฏิบตั ิงานโรงเรียนวดั แม่ริมวิทยา หนา้ 39

7.5 จดั ทำระบบฐานข้อมูลทรพั ย์สินของสถานศกึ ษา หากมีความพร้อม
7.6 จดั ทำระเบียบการใช้ทรัพย์สิน
7.7 การจดั หาพัสดุ
7.8 สำรวจความต้องการพสั ดุท่ีจำเปน็ ต้องใชต้ ามแผนงาน โครงการ และยงั ไม่มีตามทะเบยี นคมุ ทรัพยส์ ิน
7.9 จดั หาพัสดทุ ง้ั ในส่วนที่สถานศึกษาจดั หาเองและทร่ี ว่ มมือกับสถานศึกษาหรอื หนว่ ยงานอื่นจดั หา
๗.๑๐ การกำหนดรูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะและการจดั ซ้ือจดั จา้ ง
๗.๑๑ จดั ทำเอกสาร รปู แบบรายการ หรือคุณลกั ษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างในกรณีที่เปน็ แบบ

มาตรฐาน
๗.๑๒ ตงั้ คณะกรรมการกำหนดรปู แบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์ สง่ิ ก่อสร้างในกรณีที่ไม่
เปน็ แบบมาตรฐานโดยดำเนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบ
๗.๑๓ จัดซ้ือ จัดจา้ ง โดยตรวจสอบงบประมาณ รายละเอยี ด เกณฑ์ คุณลกั ษณะเฉพาะ ประกาศ จ่าย/ขาย
รูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ พจิ ารณาซองโดยคณะกรรมการ จดั ทำสัญญาและเม่ือตรวจรับงานใหม้ อบ
เร่อื งแกเ่ จา้ หนา้ ที่การวางเงนิ วางฎีกาเบกิ เงนิ เพ่ือจ่ายแกผ่ ขู้ าย/ผู้จา้ ง
๗.๑๔ การควบคุม บำรงุ รักษาและจำหนา่ ยพสั ดุ
๗.๑๕ จดั ทำทะเบยี นคุมทรัพยส์ นิ ใหเ้ ป็นปจั จบุ ัน
๗.๑๖ กำหนดระเบยี บ และแนวปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การใชท้ รัพย์สิน
๗.๑๗ กำหนดใหม้ ีผรู้ ับผิดชอบในการจดั เกบ็ ควบคุม และเบิกจ่าย ให้เป็นไปตามระบบ และแต่งตง้ั
คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุประจำปีอย่างสมำ่ เสมอ
๗.๑๘ ตรวจสอบสภาพ บำรงุ รกั ษาและซ่อมแซมทัง้ กอ่ นและหลงั การใช้งาน สำหรบั ทรพั ยส์ นิ ทมี่ ีสภาพไม่
สามารถใช้งานได้ ให้ตง้ั คณะกรรมการข้ึนเพ่ือพิจารณาและจำหนา่ ย หรือขอร้ือถอนกรณีเป็นสิ่งปลูกสรา้ ง

❖ การบริหารท่ัวไป

1. การดำเนนิ งานธรุ การ
1.1ศึกษาวเิ คราะห์ สภาพงานธุรการของสถานศึกษาและระเบียบกฎหมายแนวปฏบิ ตั ทิ ่เี กย่ี วขอ้ ง
1.2วางระบบการดำเนนิ งานธรุ การ ใหม้ ีประสิทธภิ าพ
1.3 จดั บคุ ลากรรับผดิ ชอบและพฒั นาความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ตั ิงานธรุ การตามระบบทีก่ ำหนด
1.4 จัดหา Hardware และ Software ให้สามารถรองรบั การปฏบิ ัตงิ านธุรการตามระบบ
1.5 ดำเนินงานธรุ การตามระบบทก่ี ำหนดไว้ โดยยดึ หลกั ความถูกต้อง รวดเรว็ ประหยดั และคมุ้ ค่า
1.6 ติดตาม ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงงานธรุ การใหม้ ีประสิทธภิ าพ

2. งานเลขานกุ ารคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
2.1รวบรวม ประมวล วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมูล ที่จะใช้ในการประชุมของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั
พ้นื ฐาน
2.2สนับสนุนข้อมูล รับทราบหรือดำเนนิ งานตามมติของคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
2.3ดำเนินงานธุรการในการจดั ประชุมคณะกรมการสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
2.4จัดทำรายงานการประชุม แจ้งมติทปี่ ระชมุ ใหผ้ ู้เกย่ี วข้องทราบ เพือ่ ดำเนินการหรือถือปฏิบตั ิแล้วแตก่ รณี
2.5ประสานการดำเนินงานตามมตกิ ารประชมุ ในเร่ืองการอนุมัติ อนญุ าต สงั่ การ เรง่ รัดการดำเนนิ การและ
รายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พื้นฐานทราบ

3. การพัฒนาระบบเครือขา่ ยขอ้ มลู สารสนเทศ
3.1 สำรวจระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ
3.2 จัดทำทะเบยี นเครือขา่ ยขอ้ มลู สารสนเทศ
3.3 จดั ระบบฐานข้อมลู ของสถานศึกษาเพื่อใชใ้ นการบรหิ ารจดั การภายในสถานศึกษาให้สอดคลอ้ งกับระบบ
ฐานขอ้ มลู ของเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา

❖ คมู่ ือการปฏิบัติงานโรงเรยี นวดั แม่รมิ วิทยา หนา้ 40

3.4 พฒั นาบุคลากรผรู้ ับผิดชอบระบบเครือขา่ ยข้อมูลสารสนเทศใหม้ คี วามรู้ ความสามารถในการปฏบิ ตั ิ
ภารกิจ

3.5 จัดระบบเครือข่ายขอ้ มลู สารสนเทศเชือ่ มโยงกับสถานศึกษาอื่น เขตพื้นท่กี ารศกึ ษาและสว่ นกลาง
3.6 นำเสนอและเผยแพรข่ ้อมูลสารสนเทศเพื่อการบรหิ าร การบริการและการประชาสัมพันธ์
3.7 ประเมนิ ผลการจดั ระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ และปรับปรุงพัฒนา
4. การประสานและพฒั นาเครือข่ายการศึกษา
4.1 จัดใหม้ ีระบบการประสานงานและพฒั นาระบบเครอื ข่ายการศกึ ษา
4.2 พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาระบบเครือข่ายการศึกษา
4.3 ประสานงานกบั ระบบเครือขา่ ยการศกึ ษาเพ่อื แสวงหาความร่วมมือ ชว่ ยเหลือเพ่ือสง่ เสริมสนับสนุนงาน

การศึกษา
4.4 เผยแพร่ข้อมูลเครือข่ายการศึกษาใหบ้ ุคลากรในสถานศึกษาและผู้เกีย่ วข้องทราบ
4.5 กำหนดแผนโครงการ/กิจกรรมเพื่อการแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ะหว่างเครือข่ายการศึกษาทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ

สถานศึกษา
4.6 ให้ความรว่ มมือและสนับสนุนทางวิชาการแก่เครอื ขา่ ยการศึกษาของสถานศกึ ษาและเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา

หน่วยงานต้นสังกดั อย่างต่อเน่ือง
5. การจดั ระบบการบริหารและพัฒนาองคก์ ร

5.1 การจัดระบบการบริหาร
5.2 ศกึ ษา วเิ คราะห์ โครงสร้าง ภารกิจ การดำเนนิ งาน ปรมิ าณ คุณภาพ และสภาพของสถานศึกษา
5.3 วางแผนการจัดระบบโครงสรา้ งระบบการทำงานและการบริหารงานของสถานศึกษา
5.4 นำเสนอคณะกรรมการเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา พจิ ารณา ให้ความเหน็ ชอบในการวางระบบการบริหารงาน

ในสถานศกึ ษา
5.5 ประกาศและประชาสัมพันธ์ใหส้ ว่ นราชการ และผู้เกย่ี วขอ้ งทราบ
5.6 ดำเนินการบรหิ ารจดั การให้เป็นไปตามโครงสรา้ งการบริหารงาน
5.7 ตดิ ตาม ประเมินผลและปรบั ปรงุ การจดั ระบบบริหารใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ
5.8 การพฒั นาองค์กร
5.9 ศกึ ษาวเิ คราะหข์ ้อมูล สภาพปัจจบุ ัน ปญั หา ความตอ้ งการ ความจำเปน็ ในการพฒั นาองค์การของ

สถานศึกษา
5.10 กำหนดแนวทางการพฒั นาองค์การให้ครอบคลมุ โครงสรา้ งภารกิจ บคุ ลากร เทคโนโลยีและกล

ยทุ ธใ์ หส้ อดคล้องกบั สภาพปัจจุบันปัญหาความต้องการความจำเป็นในการพัฒนาองค์การของ
สถานศกึ ษา
๕.๑๑ ดำเนนิ การพฒั นาบคุ ลากรให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ ความสามารถท่เี หมาะสมกับโครงสร้างภารกิจ
เทคโนโลยีและกลยทุ ธ์ของสถานศกึ ษา
๕.๑๒ กำหนดเป้าหมาย ผลผลติ ตัวชี้วัดในการปฏิบัตงิ านของบุคลากร
๕.๑๓ ติดตาม ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานตามแนวทางการพัฒนาองค์การเป็นระยะ อยา่ งต่อเนื่องสม่ำเสมอ
๕.๑๔ นำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรงุ พฒั นาองค์การและกระบวนการปฏบิ ัตงิ านใหเ้ หมาะสมและมี
ประสทิ ธภิ าพ

❖ คมู่ อื การปฏบิ ตั ิงานโรงเรยี นวดั แม่ริมวทิ ยา หน้า 41

6. งานเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา
6.1 สำรวจข้อมูลดา้ นเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของสถานศึกษา
6.2 วางแผน กำหนดนโยบายและแนวทางการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาใช้ในการบริหารและ
พฒั นาการศึกษาของสถานศึกษา
6.3 ระดมจดั หาเทคโนโลยีเพ่อื การศกึ ษาให้เพยี งพอต่อการดำเนินงานตา่ งๆ ของสถานศกึ ษา
6.4 สนับสนุนใหบ้ คุ ลากรนำนวตั กรรมและเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษามาใช้ในการบรหิ ารและพัฒนาการศึกษา
ของสถานศกึ ษา
6.5 สง่ เสริมให้มกี ารพฒั นาบุคลากรใหม้ คี วามรู้ความสามารถและทกั ษะในการผลิตรวมท้ังการใชเ้ ทคโนโลยี
ที่เหมาะสมมคี ุณภาพและประสิทธิภาพ
6.6 ส่งเสริมให้มีการวิจยั และพัฒนาการผลิตเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
6.7 ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาใหเ้ กิดการใช้ที่คุ้มคา่ และเหมาะสมกับกระบวนการ
เรียนรู้

7. การส่งเสริมสนับสนนุ ด้านวิชาการ งบประมาณ บคุ ลากรและบริหารท่ัวไป
7.1 สำรวจปญั หา ความตอ้ งการ ความจำเปน็ ของภาระงานดา้ นวชิ าการ งบประมาณ บุคลากรและการ
บริหารทว่ั ไป
7.2 จัดระบบสง่ เสริม สนบั สนนุ และอำนวยความสะดวกในการบริหารงานวิชาการ งบประมาณ บคุ ลากร
และการบริหารท่ัวไป
7.3 จัดหาส่ือ วัสดุ อปุ กรณ์ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเพอื่ สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน
ในทกุ ดา้ น
7.4 ติดตาม ประเมินผลการสนับสนนุ และอำนวยความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงานในดา้ นต่างๆ
7.5 นำผลการประเมินมาปรบั ปรงุ แก้ไขเพ่ือให้การสนับสนนุ และอำนวยความสะดวกในการปฏิบตั ิงานใน
ด้านตา่ งๆ ใหม้ ีความยดื หยนุ่ คลอ่ งตัวและมีประสิทธภิ าพ

8. การบริหารจดั การอาคารสถานทแี่ ละส่ิงแวดล้อม
8.1 กำหนดแนวทาง จดั ระบบการบรหิ ารจดั การอาคารสถานทแี่ ละสง่ิ แวดลอ้ มของสถานศึกษา
8.2 บำรงุ รกั ษาดูแลและพฒั นาอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมของสถานศกึ ษาให้อยู่ในสภาพมั่นคง
ปลอดภัยเหมาะสม พร้อมใช้ประโยชน์
8.3 ติดตาม และตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่และสภาพแวดลอ้ มของสถานศึกษา เพื่อใหเ้ กิดความคุ้มคา่
และเอ้ือต่อการเรียนรู้
8.4 สรุป ประเมินผลและรายงานการใช้อาคารสถานท่ีและสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา

9. การจัดทำสำมะโนผเู้ รียน
9.1 ประสานงานกบั ชมุ ชนท้องถิน่ ในการสำรวจขอ้ มลู จำนวนนกั เรยี นท่ีต้องเข้ารบั บริการทางการศกึ ษาใน
เขตบริการของสถานศึกษา
9.2 จดั ทำสำมะโนผ้เู รียนทีเ่ ข้ารบั บรกิ ารทางการศึกษาของสถานศกึ ษา
9.3 จดั ระบบข้อมลู สารสนเทศจากการทำสำมะโนผูเ้ รยี น เพื่อให้สามารถนำข้อมลู มาใช้ในการจดั การศึกษา
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
9.4 เสนอขอ้ มลู สารสนเทศการทำสำมะโนผู้เรยี น ใหเ้ ขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดทราบ

10.การรบั นกั เรียน
10.1 กำหนดแผนการรบั นักเรียนของสถานศกึ ษา โดยประสานงานกับหน่วยงานตน้ สังกดั และเขตพ้นื ที่
การศกึ ษา
10.2 ดำเนนิ การรับนักเรยี นตามแผนทีก่ ำหนด

❖ คมู่ อื การปฏิบัตงิ านโรงเรยี นวัดแมร่ ิมวทิ ยา หนา้ 42

10.3 ร่วมมอื กับองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ชมุ ชน ในการตดิ ตามช่วยเหลอื นักเรยี นทม่ี ปี ัญหาในการเขา้
เรียน

10.4 ประเมินผล และรายงานผลการรบั เด็กเขา้ เรียนใหเ้ ขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาทราบ
11.การสง่ เสรมิ และประสานงานการจัดการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั

11.1 สำรวจความต้องการในการรบั บรกิ ารการศึกษาทุกรูปแบบทัง้ ในระบบ นอกระบบ และตาม
อัธยาศัยกำหนดแนวทางและความเชอ่ื มโยงในการจัดและพฒั นาการศึกษาของสถานศกึ ษาใน

ระบบนอกระบบและตามอัธยาศัย ตามความตอ้ งการของผ้เู รียนและท้องถ่นิ ทสี่ อดคล้องกับแนวทางของ
เขตพืน้ ที่การศึกษา

11.2 ดำเนินการจัดการศกึ ษาตามความเหมาะสมและศักยภาพของสถานศกึ ษา
11.3 ประสานความร่วมมอื และสง่ เสริมสนับสนุนการจดั การศึกษาของบุคคล ชมุ ชน องค์กร หนว่ ยงาน

และสถาบนั อ่ืนทจ่ี ัดการศึกษา
11.4 ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการส่งเสรมิ และประสานงานการจัดการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตาม
อธั ยาศัย เพื่อปรบั ปรุงแกไ้ ข พัฒนาให้มีประสทิ ธิภาพต่อไป
12. การสง่ เสรมิ กจิ การนกั เรยี น
12.1 วางแผนกำหนดแนวทางการส่งเสรมิ การจดั กจิ กรรมนักเรยี นของสถานศกึ ษาโดยสนบั สนุนนักเรยี นให้

มสี ่วนรว่ มในกระบวนการวางแผน
12.2 ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมนักเรียนและส่งเสรมิ สนับสนุนใหน้ กั เรยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมอย่าง

หลากหลายตามความถนดั และความสนใจของนักเรียน
12.3 จัดกจิ กรรมใหผ้ ้เู รียนไดเ้ รยี นรู้จากประสบการณจ์ ริง ฝึกการปฏิบตั ิ คิดเป็น ทำเปน็ แก้ปัญหาได้ รกั การ

อา่ นใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน
12.4 สรุปและประเมินผลเพอื่ ปรบั ปรุงแก้ไข การส่งเสริมกิจการนักเรียนใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ผู้เรียนอยา่ ง

แทจ้ ริง
13. การประชาสมั พนั ธ์

13.1 ศึกษาความต้องการในการเผยแพร่ข่าวสารข้อมลู และผลงานของสถานศกึ ษารวมทัง้ ความต้องการใน
การได้รบั ข่าวสารขอ้ มลู ทางการศกึ ษาของุชมชน

13.2 วางแผนการประชาสมั พนั ธ์ของสถานศึกษา โดยการมีสว่ นร่วมของบุคคล ชุมชน องค์กร สถาบนั และ
ส่อื มวลชนในท้องถนิ่

13.3 จดั ให้มีเครือข่ายการประสานงานประชาสมั พันธ์
13.4 พฒั นาบุคลากรผูร้ ับผดิ ชอบงานประชาสัมพนั ธ์ใหม้ ีความรู้ความสามารถในการดำเนินการ

ประชาสมั พันธข์ องสถานศึกษา
13.5 สร้างกิจกรรมประชาสัมพันธใ์ นหลากหลายรูปแบบ โดยยึดหลกั การมสี ่วนร่วมของเครือข่าย

ประชาสมั พันธ์
13.6 ตดิ ตาม ประเมินผลการประชาสมั พันธ์ เพื่อให้ทราบถงึ ผลท่ีได้รบั และนำไปปรับปรุง แกไ้ ข พฒั นาให้

เหมาะสมต่อไป
14. การส่งเสรมิ สนบั สนุนและประสานงานการศึกษาของบคุ คล ชุมชน องค์กรและหนว่ ยงานอื่น

14.1 กำหนดแนวทางการส่งเสริมสนบั สนนุ และประสานงานการศึกษาของบุคคล ชมุ ชน องค์กรและ
หนว่ ยงานอ่ืน

14.2 ให้คำปรกึ ษา แนะนำ สง่ เสริม สนับสนนุ และประสานความรว่ มมือในการจัดการศึกษารว่ มกบั บคุ คล
ชุมชน องค์กรและหนว่ ยงานและสถาบันสังคมอน่ื ที่จัดการศึกษา

❖ คมู่ อื การปฏิบัตงิ านโรงเรียนวดั แม่รมิ วิทยา หน้า 43

15. การจัดระบบการควบคุมภายในหนว่ ยงาน
15.1 วเิ คราะหส์ ภาพปจั จบุ นั ปญั หา ตามโครงสรา้ งและภารกิจสถานศึกษา
15.2 วเิ คราะหค์ วามเสยี่ งของการดำเนนิ งาน กำหนดปจั จัยเสยี่ ง และจดั ลำดับความเสยี่ ง
15.3 กำหนดมาตรการในการป้องกันความเส่ียงในการดำเนินงานของสถานศึกษา
15.4 วางแผนการจัดระบบการควบคุมภายในสถานศึกษา
15.5 ใหบ้ คุ ลากรทีเ่ กยี่ วข้องทุกฝ่าย นำมาตรการป้องกนั ความเส่ียงไปใช้ในการควบคุมการดำเนินงานตาม
ภารกิจ
15.6 ดำเนนิ การควบคุมตามหลักเกณฑ์ มาตรการและวิธกี ารทีห่ น่วยงานตน้ สงั กัดและสำนักงานตรวจเงนิ
แผ่นดนิ กำหนด
15.7 ประเมินผลการดำเนนิ การควบคุมภายในตามมาตรการทก่ี ำหนดและปรับปรงุ ให้ถูกต้องเหมาะสม
15.8 รายงานผลการประเมินการควบคุมภายใน

16. งานบรกิ ารสาธารณะ
16.1 จัดใหม้ ีการบรกิ ารสาธารณะ
16.2 จดั ระบบข้อมลู ข่าวสารของสถานศกึ ษาเพอื่ พร้อมให้บริการสาธารณะ
16.3 ให้บรกิ ารข้อมูลขา่ วสาร และบรกิ ารอ่นื ๆแกส่ าธารณชน ตามความเหมาะสมและศักยภาพของ
สถานศกึ ษา
16.4 พัฒนาระบบการใหบ้ ริการแก่สาธารณชนให้มปี ระสิทธิภาพ เกดิ ความพงึ พอใจแกผ่ ้รู บั บริการ
16.5 ประเมนิ ความพึงพอใจงานบริการสาธารณะ
16.6 นำผลการประเมนิ มาปรับปรงุ แก้ไขพฒั นาระบบงานบริการสาธารณะ

17. งานที่ไมไ่ ดร้ ะบไุ วใ้ นงานอืน่
17.1 จัดให้บุคลากร รับผดิ ชอบตามความเหมาะสมและศักยภาพของผูป้ ฏิบตั ิงาน
17.2 ให้ผ้ทู ร่ี บั ผิดชอบวางแผนการปฏิบตั งิ าน และดำเนินงานให้เสร็จสิ้นตามภารกิจทไี่ ด้รบั มอบหมาย
17.3 กำกบั ตดิ ตาม การดำเนนิ งานของผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
17.4 ประเมินผลการปฏิบัติงาน

…………………………………………………….