The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิชานักดาราศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chalong khunprathum, 2021-06-12 00:36:28

วิชานักดาราศาสตร์

วิชานักดาราศาสตร์

คูม่ ือ

การสอบวิชาพเิ ศษ
ลกู เสือ เนตรนารี สามญั รุน่ ใหญ่

วชิ า นักดาราศาสตร์
ส�ำนกั การลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น
ส�ำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - คู่มือ

การสอบวิชาพิเศษลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่
วชิ า นักดาราศาสตร์

ส�ำนกั การลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน
สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2 ค่มู อื การสอบวิชาพเิ ศษลูกเสอื เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

คำ� นำ� - วิชา ันกดาราศาสตร์ -

เพ่ือให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือในสถานศึกษามีความรู้ ความเข้าใจแนวทาง
การดำ� เนนิ งานสอบวชิ าพเิ ศษลกู เสอื โดยเฉพาะลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่ ดงั นนั้
ส�ำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน จึงแต่งตั้งคณะกรรมการด�ำเนินงาน
การประชุมจัดท�ำคู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่
วิชานกั ดาราศาสตร์
ส�ำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน ขอขอบคุณคณะกรรมการ
ด�ำเนินงานการประชุมจัดท�ำคู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่
โดยมี นางสุวัฒนา ธรรมประภาส นักวิชาการศึกษาช�ำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่าย
ส่งเสริมกิจการลูกเสือ เป็นเลขานุการคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการได้จัดท�ำ
คู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ คร้ังน้ีจนส�ำเร็จลุล่วงด้วย
ความเรยี บรอ้ ย โดยมงุ่ หวงั เผยแพรใ่ หผ้ บู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ในสถานศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษา
ตอนต้นสามารถน�ำไปใช้เป็นคู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่
วชิ านักดาราศาสตร์ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง


ผู้อำ� นวยการส�ำนักการลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน

สำ� นกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น 3ก

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - สารบญั หน้า

เน้อื หา ข
ค�ำน�ำ 1
สารบญั 1
การสอบวิชาพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ ่ 2
วัตถุประสงค ์ 4
หลกั สูตรวิชาพเิ ศษ วชิ านกั ดาราศาสตร์ 7
เนอ้ื หาวชิ า 9
- หลักการดดู าว 14
- การหาทิศเหนือ 21
- กลุม่ ดาวฤดหู นาว 27
- กลุ่มดาว 12 ราศ ี ค
- ระบบสรุ ยิ ะ 40
- ท้องฟา้ จำ� ลองกรุงเทพ ง
ตัวอย่างแบบทดสอบ 42
บรรณานกุ รม จ
ภาคผนวก 59
- ขั้นตอนการดำ� เนินการสอบวชิ าพิเศษ การขออนุมัตแิ ละ
การประดบั เคร่อื งหมาย
ตวั อย่างเอกสาร
- ค�ำสง่ั ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี 141/2561
ลงวันท1ี่ 9 มกราคม 2561

ข4 คมู่ อื การสอบวชิ าพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ่

การสอบวิชาพิเศษลกู เสอื เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ่ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -

1. ลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่ ตอ้ งสอบไดร้ บั เครอ่ื งหมายลกู เสอื โลก และ
ผ่านพิธีเข้าประจ�ำกองแล้ว จึงประดับเคร่ืองหมายลูกเสือโลกท่ีก่ึงกลางกระเป๋าเส้ือ
ขา้ งซ้ายได้
2. ลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ เมื่อสอบได้เคร่ืองหมายลูกเสือโลกแล้ว
จึงมีสิทธิ์เลือกสอบวิชาพิเศษตามที่ตนมีความถนัดและมีความสนใจ โดยสถานศึกษา
เป็นผู้แต่งต้ังกรรมการสอบวิชาพิเศษ และเม่ือด�ำเนินการสอบทั้งภาคปฏิบัติและภาค
ทฤษฎีเรียบร้อยแล้ว ให้สถานศึกษาท�ำเร่ืองขออนุมัติผลการสอบไปยังผู้มีอ�ำนาจ
อนุมัติตอ่ ไป
วัตถุประสงค์
1. เพือ่ เปน็ การสง่ เสรมิ กจิ กรรมการสอบวชิ าพิเศษตามแนวทางการฝกึ อบรม
ตามหลกั สตู รขอ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษ
ลูกเสือสามัญร่นุ ใหญ่
2. เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสอบวิชาพิเศษตามความถนัด ความสนใจและ
ความต้องการของลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่
3. เพอื่ เปน็ ประโยชนต์ อ่ การนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั และการประกอบ
อาชีพในอนาคต

สำ� นกั การลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรยี น 1

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - หลักสูตรวชิ าพเิ ศษ วชิ านกั ดาราศาสตร์

หลกั สตู ร
1. รู้จักดาวและกลุ่มดาวที่ส�ำคัญ ซ่ึงมองเห็นในเขตรุ้งที่ตนอยู่และรู้จัก
ต�ำแหนง่ ท่ีอยขู่ องดาวตามเวลาทีก่ ำ� หนดให้
2. สามารถบอกเวลาโดยการสังเกตดาว
3. รจู้ กั ทางชา้ งเผอื ก (Galactic System) และกลมุ่ ดาว (Star clusters)
4. สร้างหุ่นจ�ำลองอย่างธรรมดา เพ่ือแสดงให้เห็นลักษณะบางประการ
ของระบบสรุ ิยจกั รวาล
5. รู้จักเคร่ืองมือท่ีใช้และงานท่ีปฏิบัติในหอดูดาว รู้จักหอดูดาวท่ีส�ำคัญๆ
ของโลกตลอดจนทต่ี ัง้ และความเหมาะสมในทางธรรมชาติ
รวมท้ังงานพิเศษทหี่ อดูดาวนั้นปฏบิ ัตอิ ยู่ และรายละเอียดบางประการ
เก่ยี วกบั กล้องโทรทศั นข์ องหอดูดาวนน้ั ๆ
6. มีความร้เู ก่ยี วกับกิจกรรมของมนษุ ยใ์ นอวกาศ ดาวเทียม และการที่
มนุษยส์ ามารถข้นึ ไปถงึ ดวงจันทร์
2 คมู่ อื การสอบวชิ าพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่

เนอ้ื หาวชิ า

ดาราศาสตร์ คือ วิทยาศาสตร์ทว่ี ่าดว้ ยเอกภพปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ทีส่ ามารถ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
สังเกตได้ และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับดาว และเทหวัตถุบนท้องฟ้าเอกภพ
Universe (จกั รวาล) คือ ทุกสง่ิ ทุกอย่างท่มี ีอยู่ หรือเคยมอี ยใู่ นทกุ ที่ทกุ แหง่ เชน่ โลก
ดวงอาทิตย์ กาแลกซี่ รวมท้งั ทวี่ า่ ง หรืออวกาศจักรวาลน้ัน มวี ิวัฒนาการ เอกภพและ
สิ่งต่าง ๆ ท่ีอยู่ภายในเอกภพ เปลี่ยนแปลงตามกาล-เวลา ดังน้ันดาราศาสตร์
เป็นการศึกษาปรากฏการณ์ ในเอกภพด้วยวิธีการแบบวิทยาศาสตร์ คือเริ่มด้วย
การสังเกตการณ์เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ ในระยะต้นน้ันอาศัยแสงสว่างท่ีได้รับจาก
พืน้ โลก ขนั้ ต้นใชต้ าเปลา่ เมื่อวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีเจรญิ ข้นึ กป็ ระดษิ ฐ์อุปกรณ์
เพ่ิมการเห็นคือกล้องโทรทัศน์ ต่อมาใช้วิธีการถ่ายรูปช่วยบันทึกภาพแล้วใช้เครื่องวัด
ความเข้มของแสง เม่ือความรู้เร่ืองการแผ่รังสีเพิ่มข้ึนก็ใช้อุปกรณ์รับคลื่นวิทยุและ
รังสีอ่ืนๆ ท่ีแผ่เข้ามาจากท้องฟ้า ในปัจจุบันดาราศาสตร์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ทุกสาขาคอื ฟิสกิ ส์ เคมี ชีววทิ ยา ธรณวี ทิ ยา ฯลฯ และใช้อปุ กรณ์ท่อี าศยั เทคโนโลยี
ทนั สมยั ทสี่ ดุ เพอ่ื ศกึ ษาธรรมชาตขิ องเอกภพในขอบเขตทกี่ วา้ งทส่ี ดุ ซง่ึ ในขณะเดยี วกนั
กต็ อ้ งเรยี นรโู้ ครงสรา้ งเลก็ ทสี่ ดุ และดาราศาสตรค์ รอบคลมุ ทง้ั อดตี ตงั้ แตเ่ อกภพเรม่ิ อบุ ตั ิ
ขึ้นจนปจั จุบันและสภาวะอนาคตท่ีดาวและเอกภพจะพัฒนาไป

การดูดาวเบ้ืองตน้
เสน้ สมมุตติ ่าง ๆ ท่ีดาราศาสตร์ก�ำหนดข้ึน เพอ่ื ใชห้ าทศิ ทางและต�ำแหนง่ ของเทหวัตถุ
บนท้องฟ้า
1. เสน้ ศนู ย์สูตรฟา้ (Celestial Equator) เปน็ เสน้ ที่ผา่ นจุดทิศตะวันออกไป
ทิศตะวนั ตก เกดิ ขน้ึ จากการทีโ่ ลกหมุนรอบตวั เอง ฉะนนั้ เส้นนจี้ ะตง้ั ฉากกบั แกนหมุน
ของโลก และเป็นแนวเดียวกับเส้นศูนย์สูตรโลกพอดี (Earth Equator) ซ่ึงแนวการ
เคล่อื นทข่ี องดาวก็จะขนานไปกบั เส้นนดี้ ้วย
2. เสน้ สรุ ยิ วถิ ี (Ecliptic) เปน็ เสน้ แนวการเคลอื่ นทขี่ องดวงอาทติ ยผ์ า่ นทอ้ งฟา้
เส้นนเ้ี กิดจากระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์ (ไมใ่ ชเ่ กดิ จากการหมนุ รอบตัวเอง)

สำ� นกั การลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรียน 3

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - ฉะนนั้ แนวเสน้ นจ้ี ะเปน็ แนวเสน้ เดยี วกบั เสน้ ทางโคจรของดาวเคราะหร์ วมทง้ั ดวงจนั ทร์
ดว้ ย ซง่ึ อาจจะสูงหรือต่�ำกวา่ เสน้ อคิ ลิปตดิ เลก็ น้อย
3. เส้นขอบฟ้า (Horizon) คอื แนวระดบั สายตา บางทีก็เรียกวา่ แนวบรรจบ
ของทรงกลมทอ้ งฟ้าส่วนบนกบั ทอ้ งฟา้ ส่วนล่าง
4. จุดเหนือศรี ษะ หรอื จดุ ยอดฟา้ (Zenith) คือจดุ ที่ต้งั ฉากกบั ผู้สงั เกตชีข้ ้ึน
ไปทางทรงกลมฟ้า สว่ นจดุ ทต่ี รงขา้ ม 180 องศา เรียกว่า จุดเนเดอร์ (Nadir)
5. เสน้ เมรเิ ดยี น (Meridian) คอื แนวเสน้ ทลี่ ากจากจดุ ทศิ เหนอื ไปจดุ ทศิ ใตผ้ า่ น
จุดยอดฟา้ (Zenith) พอดี ส่วนเสน้ ท่ไี ม่ไดผ้ ่านจดุ เหนือศีรษะ เราเรียกวา่ เส้นวงกลม
ชว่ั โมง
6. ขั้วฟา้ เหนือ (North Celestial Poles) เปน็ แนวขั้วเหนอื ของทรงกลมฟา้
ซ่ึงช้ีไปทางดาวเหนอื พอดี ส่วนจุดตรงกนั ขา้ ม 180 องศาเราเรียกว่า ขั้วฟ้าใต้ (South
Celestial Poles)

หลักการดดู าว
1. นักดาราศาสตร์ได้จัดรวมกลุ่มดาวฤกษ์ในท้องฟ้าเป็นกลุ่มๆ เรียกว่า
กลุ่มดาว 88 กลุ่ม กลุ่มดาวมีรูปร่างเป็นอย่างไรในอดีตต้ังแต่ดึกด�ำบรรพ์ปัจจุบันก็มี
รปู รา่ งเปน็ อย่างนัน้
2. โลกหมนุ รอบตวั เองจากทศิ ตะวนั ตกไปทางทศิ ตะวนั ออกจงึ เหน็ ดวงดาวขน้ึ
ทางทิศตะวนั ออก และตกทางทิศตะวนั ตก โลกหมุนรอบตัวเองไดช้ ่วั โมงละ 15 องศา
(4 นาที ต่อ 1 องศา) ฉะนั้นดวงดาวที่อยู่ในท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเมื่อตอนหัวค�่ำ
จะเคล่ือนที่ปรากฏอยู่กลางท้องฟ้า ห่างจากจุดเดิม 90 องศาในเวลา 6 ช่ัวโมง
(ในเวลาเทยี่ งคนื ) และเมอื่ ใกลส้ วา่ งจะเคลอ่ื นไปทศิ ตะวนั ตกลบั หายไปในเวลา 12 ชว่ั โมง
(เคลือ่ นท่ีไป 180 องศา)
3. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้วันละ 1 องศา คนบนโลกจึงเห็นดวงอาทิตย์
ปรากฏเคล่ือนท่ีผ่านดวงดาวนักขัตฤกษ์ต่างๆ ตามแนวเส้นสุริยวิถีวันละ 1 องศา
จึงท�ำให้เราเห็นดวงดาวปรากฏข้ึนและตกเร็วข้ึนวันละ 1 องศา (เท่ากับ 4 นาที)
เปน็ อนั วา่ ดวงดาวบนทอ้ งฟ้าข้ึนและตกเรว็ ขน้ึ ทุกวนั วนั ละ 4 นาที (เดือนละ 2 ชว่ั โมง)
4 คู่มอื การสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสอื เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

4. กลุ่มดาวที่เห็นบนท้องฟ้าในตอนหัวค�่ำของแต่ละเดือนจะหมุนเวียน - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
เปลี่ยนไป มีดาวกลุ่มใหม่มาปรากฏให้เห็นทางขอบฟ้าทิศตะวันออก กลุ่มดาวที่อยู่
ขอบฟา้ ทศิ ตะวนั ตกกจ็ ะตกลบั หายไป หมนุ เวยี นไปทกุ เดอื น เชน่ กลมุ่ ดาวเตา่ จะปรากฏ
เหน็ ครบทกุ ดวงทางทศิ ตะวนั ออก ตอนหวั คำ่� ปลายเดอื นธนั วาคมตอนหวั คำ�่ ปลายเดอื น
มกราคมจะอย่สู งู จากขอบฟา้ ทศิ ตะวันออก ตอนหัวคำ�่ เดือนกุมภาพันธ์ จะปรากฏอยู่
แนวกลางท้องฟ้าและจะปรากฏขึ้น – ตกเร็วข้ึนประมาณเดือนละ 2 ช่ัวโมง พอถึง
ปลายเดอื นพฤษภาคม เมือ่ เริ่มมืดกลมุ่ ดาวเตา่ น้จี ะเรมิ่ ตก
ฤดูท่ีเหมาะสมแก่การศึกษากลุ่มดาวคือฤดูหนาว เพราะท้องฟ้าแจ่มใส
จะมองเหน็ กลุ่มดาวท่ีสวยสะดุดตาในฤดอู ่ืนๆ การศึกษากล่มุ ดาวครัง้ แรกๆ ควรศกึ ษา
กลุ่มดาวท่ีเด่นสะดุดตาก่อน และควรเร่ิมศึกษาตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม เป็นต้นไป
ส่วนประเทศไทยจะเร่ิมสังเกตดาวบนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาวดีท่ีสุด เร่ิมต้ังแต่
วันท่ี 10 พฤศจิกายนของทกุ ปี

ดาวฤกษ์
ดวงดาวท่ีเรามองเหน็ บนท้องฟ้าในเวลากลางคืนเกือบทัง้ หมด (ยกเว้น 5 ดวง
คือ ดาวเคราะห์) เป็นดาวฤกษ์แต่ละดวงเป็นก้อนก๊าซใหญ่ แผ่รังสีใช้พลังงานซึ่ง
เกิดจากปฏิกิริยาภายในเช่นดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ดวงที่อยู่ใกล้ระบบสุริยะมากที่สุด
อยู่หา่ งออกไป 4.25 ปีแสง (ระยะทาง 1 ปแี สง = 9,460,000,000,000 กิโลเมตร)
ดวงอ่ืนๆ ล้วนไกลออกไปนับร้อยนับพันเท่า ดาวฤกษ์แต่ละดวงเคล่ือนท่ีไปในอวกาศ
ในทิศทางต่างกันด้วยความเร็วต่างกัน แต่มันอยู่ไกลจากโลกมากมาย ชาวโลกจึง
ไมส่ ามารถสงั เกตเหน็ การเปลย่ี นแปลงตำ� แหนง่ เทยี บเคยี งตอ่ กนั ภายในเวลาเพยี งสอง
สามรอ้ ยปี หรอื แม้ถึงพนั ปกี ารเรียงรายของดาวฤกษ์ทส่ี วา่ งปรากฏเปน็ หมวดหมู่ เช่น
ดาวไถ ดาวจระเข้ เป็นตน้ จึงคงรูปอยูน่ านนับต้งั แตม่ นุษย์เรม่ิ สังเกตทอ้ งฟา้ เปน็ ต้นมา
จนถึงทุกวนั น้ี ถ้าเฝา้ มองต่อไปเปน็ ระยะนานพอ ในอนาคตนบั พนั ปี ก็จะเห็นหมู่ดาว
หลายหมู่ค่อยเปล่ียนแปลงรูปลักษณะไป เพราะการเคลื่อนท่ีในอวกาศของดาวฤกษ์
ในหมดู่ าวเหล่าน้ัน

ส�ำนักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น 5

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - ทางช้างเผอื ก
ในอวกาศระหว่างดาวฤกษ์ในบางทิศทาง มีฝุ่นและก๊าซซึ่งหนาทึบบังแสง
ดาวฤกษท์ อี่ ยเู่ บอื้ งหลงั เสยี ถา้ เราสำ� รวจปรมิ าณความหนาแนน่ ของดาวฤกษซ์ ง่ึ ปรากฏ
ในทศิ ทางตา่ ง ๆ บนทอ้ งฟา้ โดยรอบ จะสงั เกตเหน็ วา่ ในบางทศิ ทางมดี าวฤกษห์ นาแนน่
เรยี งรายซอ้ นกนั แผก่ ระจายไปในอวกาศ จนทอ้ งฟา้ ปรากฏเรอื งดว้ ยธลุ สี วา่ งมลี กั ษณะ
เป็นแถบกว้างแผ่พาดคาดไปบนท้องฟ้า ชาวโลกได้สังเกตเห็นทางขาวเรืองบนท้องฟ้า
มาแล้วตั้งแต่สมัยโบราณ และให้ชื่อเรียกต่างกัน เช่น ชาวยุโรปเรียกว่า ทางน�้ำนม
(Milky Way) ชาวอินเดียเรียกว่า คงคาสวรรค์ ชาวไทยเรียกว่า ทางช้างเผือก
การทด่ี าวฤกษร์ วมกลมุ่ กนั อยเู่ ปน็ ระบบในอวกาศ โดยมรี ปู ลกั ษณะเปน็ แผน่ แบนคลา้ ย
ล้อรถหรือขนมฝักบัว และดวงอาทิตย์กับระบบสุริยะอยู่ภายในระบบน้ี เม่ือเรามอง
ออกไปตามแนวระนาบของระบบ จึงเห็นดาวฤกษ์เป็นจ�ำนวนมากมายซับซ้อนกันจน
ปรากฏเปน็ ทางชา้ งเผอื ก เราเรยี กระบบดาวฤกษ์ใหญ่น้ีว่า กาแลก็ ซ่ที างช้างเผือก

กระจกุ ดาว
ถ้าใช้ความสังเกตดาวฤกษ์บนท้องฟ้า จะเห็นดาวฤกษ์มีสีแตกต่างกัน เช่น
ดาวสไปก้าในหมู่ดาวราศีกันย์มีสีน้�ำเงิน ดาวสิริอุส สีน�้ำเงินขาว ดาวคาเพลล่าใน
หมู่ดาวออริกา มีสีเหลือง ดาวอันทาเรสในหมู่ดาวแมงป่องมีสีแดง เป็นต้น
ทงั้ น้ี เพราะดาวฤกษม์ อี ณุ หภมู พิ นื้ ผวิ ตา่ งกนั กระจกุ ดาวเปน็ ดาวฤกษท์ มี่ อี ายไุ ลเ่ ลยี่ กนั
สีใกล้เคียงกัน ระยะเวลาระหว่างดาวฤกษ์แต่ละดวงในกระจุกนั้นห่างกันนับปีแสง
แต่มันอยู่ห่างจากโลกมาก กระจุกดาวมี 2 ประเภท คือ กระจุกดาวทรงกลม เช่น
กลมุ่ ดาวสนุ ขั ลา่ สตั ว์ กระจกุ ดาวเปดิ หรอื กระจกุ ดาวกาแลกตกิ เชน่ กระจกุ ดาวลกู ไก่

6 คู่มือการสอบวชิ าพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ่

การหาทศิ เหนือ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
ตอ้ งดูจากดาวเหนือ
ดาวเหนือ (Polaris)
เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกเป็นระยะ 465 ปีแสง สว่างกว่าดวงอาทิตย์
2,500 เทา่ อยใู่ นกลุม่ ดาวหมีเลก็ การหาดาวเหนอื ต้องดจู ากกลุ่มดาวหมใี หญ่ หรือ
กลุ่มดาวจระเข้ ผู้ที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรเท่านั้นจึงจะมองเห็นดาวเหนือ ถ้าไปอยู่ที่
ขวั้ โลกเหนอื จะเหน็ ดาวเหนอื อยตู่ รงศรี ษะและดาวดวงตา่ งๆ จะหมนุ ไปรอบๆ ดาวเหนอื
กลุ่มดาวหมใี หญห่ รอื กลุ่มดาวจระเข้

ส�ำนักการลกู เสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน 7

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ -

กลุ่มดาว
หมายถึงอาณาเขตแคบๆ ของท้องฟ้าซ่ึงดาวฤกษ์ปรากฏอยู่ สุนทรภู่
ได้แต่งกลอนชมดาวไว้ตอนหน่ึงว่า “...ดูโน่นแน่ะแม่อรุณรัศมี ตรงมือช้ีดาวเต่านั่น
คันไถ โน่นดาวธงตรงหนา้ อาชาไนย ดาวลกู ไก่เคียงคเู่ ป็นหมู่กัน...”
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์ค�ำกลอนไว้ใน
ละครเรอ่ื งอเิ หนา ตอนหนงึ่ วา่ “...โรหณิ สี สี ดบรสิ ทุ ธ์ิ กตั ตกิ าโลกสมมตดิ าวลกู ไก่ ทสี่ าม
ดวงชว่ งเรยี งเคียงกนั ไป เรยี กดาวไถแต่บุราณ...”
อีกตอนหนึ่งว่า “...จระเข้เหราปลาเต่า ดาวส�ำเภา หัวทรง ดาวหงส์ห่าน
ดาวเคราะหเ์ หน็ จ�ำเพาะแตด่ าวอังคาร สดี าวห้าวหาญกวา่ ทุกดวง...”
8 คู่มอื การสอบวิชาพเิ ศษลูกเสือ เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่

กลุม่ ดาวฤดหู นาว - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
ฤดหู นาวเปน็ ฤดทู เ่ี หมาะแกก่ ารศกึ ษากลมุ่ ดาวบนทอ้ งฟา้ เพราะทอ้ งฟา้ แจม่ ใส
จะเห็นกลุ่มดาวที่สวยสะดุดตาอยู่กลางท้องฟ้า เวลาประมาณ 3 ทุ่มของฤดูหนาว
ฤดหู นาวของประเทศโซนอบอ่นุ เรมิ่ ตงั้ แต่ 21 มนี าคม จะเหน็ กลมุ่ ดาวเตา่ และดาวไถ
กระจุกดาวลูกไก่ กลุม่ ดาวธง ดาวสนุ ัขใหญแ่ ละสนุ ัขเล็ก กลุ่มดาวสารภี ฯลฯ
1. กลมุ่ ดาวนายพรานใหญห่ รอื กลมุ่ ดาวเตา่
ประกอบด้วยดาวฤกษ์ 7 ดวง ถา้ ลากเส้นตรงเชื่อมดาว 4 ดวง รอบนอกจะได้
รปู สเ่ี หล่ยี ม คนไทยจนิ ตนาการเป็นรูปเต่าหนั หัวไปทางทศิ เหนือ (ทีห่ ัวเตา่ มีดาวเล็กๆ
3 ดวง) ในรปู สี่เหล่ียมมีดาวสวา่ งเทา่ กนั 3 ดวงเรียงกันเป็นเส้นตรง คนไทยจินตนาการ
เป็นรูปไถ คันไถ ชี้ไปทางขาหลังของเต่า ชาวกรีกโบราณจินตนาการดาว 2 กลุ่มน้ี
เป็นรปู นายพรานใหญ่ ดาว 4 ดวง รอบนอกเป็นร่างกาย 3 ดวงเปน็ เขม็ ขดั นายพราน
กลุ่มดาวนายพรานใหญ่ มีดาวท่ีสว่างสุกใส 2 ดวงคือ ไรเจล (Rigel) สว่าง
อนั ดับ 7 เหน็ เป็นสขี าวแกมน้ำ� เงนิ ทีไ่ หลข่ องนายพรานมีดาวสแี ดงสว่างอนั ดับ 12 ชื่อ
บเี ทลจสุ (Betelgeuse) ใกลๆ้ กลมุ่ ดาวนายพรานใหญ่ หรอื ดาวเตา่ มดี าวธง ดาวลกู ไก่
และทศิ ตะวนั ตกมกี ลมุ่ ดาวม้า จะอยตู่ รงศีรษะเวลา 3 ท่มุ ในวนั ที่ 25 มกราคมทุกปี

สำ� นักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น 9

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - กลุ่มดาวนายพรานใหญ่ (ORION) คนไทยเห็นเป็นกลุ่มดาวเต่า และกลุ่มดาวไถ
อยู่รวมกัน ดาวกลมุ่ นี้สวยงามทส่ี ดุ
2. กลมุ่ ดาวววั ตวั ผู้


เปน็ กลมุ่ ดาวราศพี ฤษภ คนไทยเหน็ เปน็ ดาวธงเพราะเปน็ รปู สามเหลยี่ มคลา้ ย
ธงสงครามสมัยโบราณ อยู่ทางขวามือของกลุ่มดาวเต่า ใกล้ๆ กระจุกดาวลูกไก่
กลมุ่ ดาวววั มดี าวสกุ ใสตรงยอดซกี หนง่ึ ของตวั V ชอื่ อลั ดบิ าแรนเปน็ ตาขา้ งหนงึ่ ของววั
(สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 100 เท่า) กลุ่มดาวธงหรือกลุ่มดาววัว จะอยู่กลางท้องฟ้า
ตรงศรี ษะเวลา 3 ท่มุ ในวันท่ี 15 มกราคมทุกปี
10 คมู่ อื การสอบวิชาพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

3. กระจุกดาวลกู ไก่ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
อยู่ใกล้ดาวธงมี 7 ดวง กระจุกดาวลูกไก่เป็นกระจุกดาวใช้กล้อง 2 ตาส่อง
จะเหน็ 14-15 ดวง ถา้ ใชก้ ลอ้ งโทรทรรศนข์ นาด 2 นว้ิ จะเหน็ 78 ดวง ถา้ ใชก้ ลอ้ งโทรทรรศน์
ขนาดใหญ่จะเหน็ 625 ดวง ถ้าถา่ ยภาพนบั จากฟลิ ์ม จะไดม้ ากกว่า 2,362 ดวง
4. กลุ่มดาวสนุ ัขใหญแ่ ละสนุ ขั เลก็

กลมุ่ ดาวสนุ ขั อยใู่ กล้ ๆ กบั กลมุ่ ดาวนายพรานใหญ่ (ดาวของไทย) เพราะสนุ ขั
2 ตวั นี้ เปน็ สนุ ขั ของนายพราน หวั ใจของสนุ ขั ใหญม่ ดี าวฤกษ์ ทสี่ วา่ งทสี่ ดุ ในทอ้ งฟา้ คอื
ดาวฤกษ์ซิริอุส และดาวฤกษ์โปรซิยิน ตรงหัวใจสุนัขเล็กเป็นดาวที่สว่างเป็นอันดับ 3
ในท้องฟ้า กลมุ่ ดาวสุนัขจะเห็นอย่กู ลางทอ้ งฟา้ เมื่อเวลา 3 ทุม่ ในวนั ที่ 15 กุมภาพนั ธ์
ของทุกปี

ส�ำนกั การลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนกั เรยี น 11

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 5. กลุ่มดาวกระต่ายปา่ และนกพริ าบ
ดาว 2 กลุ่มน้ี อยู่ใกล้ ๆ กลุ่มดาวนายพรานใหญ่ ท้ังกลุ่มดาวกระต่ายและ
นกพิราบอยู่ทางปลายเท้าของกลุ่มดาวนายพราน ดาว 2 กลุ่มนี้ จะอยู่กลางท้องฟ้า
เมอ่ื เวลา 3 ท่มุ ในวันที่ 25 มกราคมของทกุ ปี
12 คู่มอื การสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสอื เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ่

6. กลุม่ ดาวสารถี (คนขับรถ)

- วิชา ันกดาราศาสตร์ -

กลุ่มดาวสารถี มีลักษณะคล้ายรูปห้าเหล่ียม มีดาวฤกษ์ คาร์พิลล่า
ซึ่งสว่างเป็นอันดับท่ี 5 ในท้องฟ้าเป็นที่สังเกต กลุ่มดาวนี้แทนกษัตริย์กรีกผู้ประดิษฐ์
รถสองล้อเทียมม้า 4 ตัวได้ ตามรูปมือหน่ึงถือแส้ม้าอีกมือหนึ่งอุ้มแพะพร้อมกับ
ลูก 3 ตวั กลมุ่ ดาวสารถอี ยู่ใกล้ ๆ กลุม่ ดาวววั และดาวคนคู่ จะเหน็ อยูก่ ลางทอ้ งฟ้า
เมอ่ื เวลา 3 ทมุ่ ในวันที่ 30 มกราคมของทุกปี

ส�ำนักการลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนักเรยี น 13

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - กล่มุ ดาว 12 ราศี
การหากลุ่มดาว 12 ราศี คร้ังแรกต้องหากลุ่มดาว 12 ราศีกลุ่มใดกลุ่มหน่ึง
ที่สงั เกตง่ายใหพ้ บกอ่ น เม่ือพบแลว้ ให้แบง่ ท้องฟา้ เป็น 6 สว่ น ๆ ละ 30 องศา โดยเริ่ม
สังเกตขณะดวงอาทิตย์ตก กลุ่มดาว 12 ราศีประจ�ำเดือนนั้น จะปรากฏบนท้องฟ้า
บริเวณดวงอาทิตย์ตกสูงขึ้นมา 30 องศา จะเป็นกลุ่มดาว 12 ราศีประจ�ำเดือน
ถัดไปเร่ือยๆ ทางขอบฟ้าทิศตะวันออกจะเป็นกลุ่มดาว 12 ราศีประมาณราศีท่ี 6 ที่
นบั จากราศีเดอื นนนั้ มา
ถา้ ดดู าวเวลา 3 ทมุ่ จะเหน็ กลมุ่ ดาว 12 ราศอี ยกู่ ลางทอ้ งฟา้ ตรงศรี ษะในเดอื น
ต่างๆ ตามลำ� ดบั ดังนี้

กลมุ่ ดาว ราศี วันท่ี เดอื น
แกะ เมษ 10 ธันวาคม
วัว พฤษภ 15 มกราคม
คนคู่ เมถนุ 20 กมุ ภาพนั ธ์
ปู กรกฎ 15 มีนาคม
สิงโต สงิ ห์ 10 เมษายน
กันย์ 25 พฤษภาคม
หญิงสาว ตลุ ย์ 20 มิถนุ ายน
คนั ชงั่ พิจกิ 20 กรกฎาคม
แมงปอ่ ง ธนู 20 สงิ หาคม
คนถอื ธนู มังกร 20 กันยายน
แพะทะเล กมุ ภ์ 10 ตลุ าคม
คนแบกหมอ้ น้ำ� มีน 10 พฤศจกิ ายน
ปลา

14 คมู่ ือการสอบวิชาพเิ ศษลกู เสอื เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

1. กลมุ่ ดาวแกะ (ราศีเมษ)

- วิชา ันกดาราศาสตร์ -

สังเกตง่าย จะเห็นดาวสว่าง 3 ดวง คล้ายสามเหล่ียมมุมป้านตรงหัวแกะ
การสังเกตให้ดูจากกลุ่มดาวลูกไก่ทางทิศตะวันตกของดาวลูกไก่ คือ กลุ่มดาวแกะ
ถดั ไปเป็นกลุ่มดาวม้า
2. กลุ่มดาววัว (ราศพี ฤษภ)

ดาวฤกษด์ าวอลั ดบิ าแรน สวา่ งเป็นอนั ดบั ท่ี 14 มีเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 31,000,000
ไมล์ คนไทยเห็นเป็นกลุ่มดาวธง สังเกตง่าย เมื่อเห็นดาวลูกไก่ ซ่ึงอยู่บนหนอกขวา
ของวัว ทิศตะวันออกของกลุ่มดาวลูกไก่ จะเห็นกลุ่มดาวธงรูปสามเหล่ียมคล้ายตัว V
มดี าวสีแดงอยู่ตรงยอดธง

สำ� นักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนักเรยี น 15

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 3. กล่มุ ดาวคนคู่ (ราศีเมถนุ )

กลมุ่ ดาวคนคเู่ ปน็ กลมุ่ ดาวทอี่ ยตู่ ดิ กบั กลมุ่ ดาวฤดหู นาว คอื ใกลๆ้ กบั กลมุ่ ดาว
สนุ ขั เลก็ มดี าวฤกษ์ 2 ดวงสว่างเหน็ ไดเ้ ด่นชัด คอื ดาวฤกษ์ท่ีเปน็ ศีรษะของคนท้ังสอง
ดาวฤกษ์ Pollux สว่างเป็นอันดับท่ี 15 ในท้องฟ้า ดาวกลุ่มนี้จะอยู่กลางท้องฟ้าใน
ตอนหวั ค่�ำเมือ่ เรม่ิ ฤดใู บไม้ผลิ
4. กลุ่มดาวปู (ราศีกรกฎ)

ดาวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มดาวที่ไม่สะดุดตาและหาได้ยากท่ีสุดในกลุ่มดาว 12 ราศี
กลุ่มดาวกลุ่มนี้อยู่ระหว่างกลุ่มดาวคนคู่และกลุ่มดาวสิงโต มีดาวฤกษ์สว่างจางๆ อยู่
8 ดวง ประกอบเป็นรปู ตวั ปู วธิ กี ารหากลุม่ ดาวน้ี คือตอ้ งหากลุ่มดาวคนคแู่ ละกลมุ่ ดาว
สิงโตให้ได้ก่อน
16 ค่มู อื การสอบวิชาพเิ ศษลูกเสอื เนตรนารี สามัญร่นุ ใหญ่

5. กลมุ่ ดาวสิงโต (ราศสี ิงห)์

- วิชา ันกดาราศาสตร์ -

เป็นกลุ่มดาวท่ีเก่าแก่ท่ีสุดตามท่ีได้มีการบันทึกมา ดาวกลุ่มน้ีเกี่ยวข้องกับ
ดวงอาทิตยอ์ ย่างใกล้ชดิ นบั แต่แรกเกดิ ระบบสุริยะ มีดาวฤกษท์ ่ีสว่างทสี่ ุด ในกลมุ่ ดาว
สงิ โต อยทู่ ห่ี วั ใจสงิ โต คอื ดาวเรกกวิ ลสั ชาวเปอรเ์ ซยี ถอื เปน็ ดาวทวารบาลดวงหนงึ่ ของ
สวรรคห์ รือทอ้ งฟา้
6. กลุม่ ดาวหญิงสาว (ราศีกนั ย)์

อยู่ระหว่างกลุ่มดาวสิงโตและกลุ่มดาวคันช่ัง มีดาวฤกษ์สไปกา สุกใส
(Spica = รวงขา้ ว) ตรงกบั ดาว 27 นกั ษตั ร ชอื่ “จติ ราฤกษ”์ เปน็ จดุ ตดั ของเสน้ ศนู ยส์ ตู ร
ท้องฟ้า และเส้นสุริยวิถี เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีตุลย์ วันที่ 23 กันยายน
เปน็ วนั ทก่ี ลางวันและกลางคนื เทา่ กัน

ส�ำนกั การลูกเสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น 17

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 7. กล่มุ ดาวคันช่ัง (ราศีตุลย)์

กลุ่มดาวคันชั่ง อยู่ทางทิศตะวันตกของกลุ่มดาวแมงป่อง มีรูปร่างคล้าย
ขนมเปยี กปนู
8. กล่มุ ดาวแมงปอ่ ง (ราศพี ิจกิ )


เปน็ กลมุ่ ดาวทม่ี รี ปู รา่ งเหมอื นชื่อท่สี ุด ประกอบดว้ ยสว่ นหวั สว่ นตัว สว่ นหาง
และจะงอยของหาง เหมือนแมงป่องจริง เม่ือเห็นดาวกลุ่มน้ีจะมองเห็นทางช้างเผือก
เปน็ สีขาวสลัวใกลๆ้ ตัวแมงป่อง กล่มุ ดาวนี้จะมดี าวแอนทาเรส เปน็ ดาวท่ีมแี สงสวา่ ง
มากทส่ี ดุ ต้ังอยู่ใจกลางของแมงป่อง
18 คู่มือการสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่

9. กลุ่มดาวคนถอื ธนู (ราศีธน)ู

- วิชา ันกดาราศาสตร์ -


ดาวกลมุ่ นอ้ี ยใู่ นแนวทางชา้ งเผอื ก มรี ปู รา่ งคลา้ ยกาตม้ นำ้� อยทู่ างทศิ ตะวนั ออก
ของกลุ่มดาวแมงป่องศูนย์กลางของกาแล็กซี่ ท่ีระบบสุริยะเราอยู่ อยู่บริเวณ
กลมุ่ ดาวน้ี
10. กลมุ่ ดาวมังกร (ราศีมงั กร)

กลุ่มดาวมังกรอยู่ตรงข้ามกับกลุ่ดาวมราศีปู กลุ่มดาวส่วนใหญ่อยู่เลยไปทาง
ทศิ ใตข้ องเสน้ Ecliptic ระหวา่ งกลุ่มดาวคนถือหม้อน�ำ้ และกลุม่ ดาวราศีธนู ดาวกลมุ่ น้ี
ไมม่ ดี าวทส่ี วา่ งสกุ ใสพอทจี่ ะสงั เกตเหน็ ไดง้ า่ ย จนิ ตนาการเหน็ เปน็ มงั กร หรอื แพะทะเล
หัวเป็นแพะหางเป็นปลา

สำ� นกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนกั เรียน 19

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 11. กล่มุ ดาวคนแบกหมอ้ น�้ำ (ราศกี มุ ภ)์

กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้�ำ เป็นกลุ่มดาวใหญ่แต่ไม่สะดุดตา อยู่ทางทิศใต้
ของกล่มุ ดาวม้า คนโบราณเหน็ เป็นรูปคนก�ำลังเทหม้อนำ้� ออกจากหมอ้
12. กลุม่ ดาวปลา (ราศีมนี )


เปน็ กลุ่มดาวท่หี ายาก เพราะไม่สะดุดตา กลุม่ ดาวน้แี ทนปลา 2 ตัว ผกู ตดิ กัน
ด้วยริบบิ้นท่ีหางและสัญลักษณ์แทนดาวกลุ่มน้ีก็ใช้ปลาเหมือนกัน คนไทยท่ัวไปถือว่า
ปลาเป็นสัญลกั ษณ์แหง่ การนำ� โชค ส่วนชาวอยี ปิ ตแ์ ละนักโหราศาสตร์สากลถือวา่ ปลา
เปน็ สัญลกั ษณแ์ ห่งความอับโชค
20 คมู่ อื การสอบวิชาพเิ ศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

- วิชา ันกดาราศาสตร์ -

ระบบสุรยิ ะ (Solar Systems)
มวี ตั ถจุ ำ� นวนหนงึ่ ถกู แรงโนม้ ถว่ งดงึ ดดู ใหโ้ คจรวนรอบดวงอาทติ ย์ และตดิ ตาม
การเคล่ือนที่ของดวงอาทิตย์ไปในอวกาศ วัตถุเหล่าน้ี ได้แก่ ดาวเคราะห์กับบริวาร
ของตน ดาวเคราะห์น้อย วัตถุช้ินเล็กน้อยพวกอุกกาบาตและดาวหางเราเรียกสิ่ง
เหลา่ น้ีรวมกับดวงอาทิตย์ซง่ึ เปน็ ประธานอยู่ตรงกลางวา่ “ระบบสุรยิ ะ” หรอื “สรุ ยิ ะ
จกั รวาล” สมาชกิ ทสี่ ำ� คญั ของระบบสรุ ยิ ะถดั จากดวงอาทติ ย์ คอื ดาวเคราะห์ มี 9 ดวง
ต่างโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรีเกือบวงกลม ส่วนมากเกือบอยู่ในระนาบเดียวกัน
เรยี งรายหา่ งจากดวงอาทติ ยต์ ามลำ� ดบั ดงั น้ี ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลกดาวองั คาร ดาวพฤหสั
ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจนู และดาวพลโู ต

สำ� นักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนกั เรยี น 21

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - ดาวพธุ (Mercury)
เปน็ ดาวเคราะหท์ เ่ี ลก็ ทสี่ ดุ จงึ ไดช้ อื่ วา่ นอ้ งนชุ สดุ ทอ้ ง มขี นาดโตกวา่ ดวงจนั ทร์
ราวเทา่ ครึ่ง เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 4,880 กม. อยูใ่ กลด้ วงอาทิตยม์ ากท่ีสุดจงึ มโี อกาสเหน็
ได้ยาก จะเห็นเฉพาะก่อนดวงอาทิตย์ข้ึนหรือหลังดวงอาทิตย์ตกราวหนึ่งช่ัวโมง
บางโอกาสมองไมเ่ หน็ เลย ดาวพุธโคจรรอบดวงอาทติ ยอ์ ยา่ งรวดเร็วและผา่ นกลมุ่ ดาว
12 ราศไี ปอยา่ งรวดเรว็ คอื ผา่ นแตล่ ะกลมุ่ ในเวลา 1 เดอื น ดาวพธุ โคจรรอบดวงอาทติ ย์
ใช้เวลา 88 วัน หมุนรอบตัวเองครบรอบใช้เวลา 58-65 วัน ดาวพุธหมุนรอบตัวเอง
ช้ามาก ด้านที่ถูกแสงอาทิตย์จึงมีอุณหภูมิสูงถึง 400 องศาเซลเซียสสามารถ
หลอมตะก่ัวได้ ด้านท่ีอยู่ตรงข้ามอุณหภูมิเป็น 0 องศาเซลเซียสมีนามว่า “เตาไฟแช่
แขง็ ” ดาวพธุ โคจรเปน็ วงรี เอยี งจากระนาบ หา่ งจากโลก 91 ลา้ นกม. ถงึ 206 ลา้ นกม.
ห่างจากดวงอาทิตย์ราว 46-70 ลา้ นกม.
ดาวศุกร์ (Venus)
“เทพเจ้าแห่งความงาม” เป็นดาวเคราะห์ท่ีมีขนาดใกล้เคียงกับโลก
จึงได้ช่ือว่า “น้องสาวฝาแฝดของโลก” ถ้าเห็นดาวศุกร์ตอนเช้าก่อนดวงอาทิตย์ข้ึน
ทางขอบฟ้าทิศตะวันออกเรียกดาวดวงนี้ว่า “ดาวประกายพรึก” หรือ “ดาวรุ่ง”
(Morning Star) ถ้าปรากฏในท้องฟ้าทางทิศตะวันตกตอนหัวค�่ำเรียก “ดาวประจำ�
เมอื ง”(Evening Star) จะเหน็ ดาวศกุ รป์ รากฏในทอ้ งฟา้ ไดส้ งู ไมเ่ กนิ 47 องศา เปน็ ดาว
ทส่ี วา่ งสกุ ใสทส่ี ดุ ในทอ้ งฟา้ จะโคจรผา่ นกลมุ่ ดาว 12 ราศี ไปแตล่ ะกลมุ่ ในเวลา 1 เดอื น
ดาวศุกร์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12,100 กม. หมุนรอบตัวเองตามเข็มนาฬิกา
ในเวลา 247 วนั แกนเอยี ง 6 องศา กับแนวต้งั ฉากกับระนาบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์
หมุนรอบดวงอาทติ ยใ์ ช้เวลา 224.7 วัน หา่ งจากโลก 42 ลา้ นกม.

22 คู่มอื การสอบวิชาพิเศษลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่

โลก (Earth) - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
มสี ณั ฐานคลา้ ยสม้ จกุ หรอื สม้ โอ ขวั้ โลกเหนอื นนู ขว้ั โลกใตแ้ ฟบ มเี สน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง
7,926.68 ไมล์ (ตอนเส้นศูนย์สูตร ขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ยาว 7,899.98 ไมล์
แตกต่างกัน 27 ไมล์) อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 93 ล้านไมล์ หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ
กินเวลา 23 ช่ัวโมง 56 นาที 4.0906 วนิ าที โลกหมนุ ทวนเขม็ นาฬิกา

ดาวอังคาร (Mars) “เทพเจา้ แหง่ สงคราม”
มองเห็นเป็นสีแดง จึงได้ฉายาว่า “ดาวเคราะห์สีแดง” (The Red Planet)
ตอนท่ีสว่างที่สุด มีความสว่างเท่ากับดาวพฤหัส ดาวอังคารมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
6,792 กม. โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรีมาก ห่างจากโลกเพียง 56 ล้านกม.
ดาวองั คารโคจรรอบดวงอาทติ ยร์ อบละ 687 วนั ทุก ๆ 2 ปี หรอื 780 วนั หมุนรอบ
ตัวเองเกือบเท่าโลกคือ 24 ชัว่ โมง 37 นาที 23 วนิ าที

ดาวพฤหสั บดี (Jupiter) “จอมเทพผูย้ ิ่งใหญ”่
มมี วลมากกวา่ ดาวเคราะหท์ กุ ดวงรวมกนั ใหญก่ วา่ โลก 1,300 เทา่ จงึ ได้ ฉายา
“โลกยกั ษ”์ สวา่ งสกุ ใสกวา่ ดาวฤกษท์ กุ ดวงในทอ้ งฟา้ จะอยใู่ กลโ้ ลกทสี่ ดุ ทกุ ๆ 399 วนั
(1 ปี 34 วนั ) จะเรมิ่ เหน็ ดาวพฤหสั บดตี อนเชา้ มดื กอ่ นดวงอาทติ ยข์ น้ึ และจะเหน็ เรว็ ขน้ึ
เดอื นละ 2 ชว่ั โมง เปน็ เวลา 4 เดอื นครง่ึ หลงั จากนน้ั จะเหน็ ตอนเทย่ี งคนื ดาวพฤหสั บดี
เคล่ือนผ่านกลุ่มดาว12 ราศี แต่ละกลุ่มในเวลา 1 ปี อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์
768 ล้านกม. อาจเข้ามาใกล้โลกในระยะ 591 ล้านกม. และไกลออกไประยะ
967 ลา้ นกม. โคจรรอบดวงอาทติ ย์ 11.86 ปี หมุนรอบตัวเอง 399 วัน

ดาวเสาร์ (Saturn) “เทพเจ้าแหง่ การเกษตร”
เปน็ ดาวเคราะหด์ วงสดุ ทา้ ยทเี่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ เปน็ ดาวทส่ี วยงามแปลกประหลาด
ทสี่ ดุ มองด้วยกลอ้ งโทรทรรศนจ์ ะเห็นวงแหวนล้อมรอบ 7 ช้ัน แตล่ ะชน้ั ประกอบดว้ ย
วงเล็กๆ ซ้อนกันอยู่เป็นพันๆ วง วงแหวนไม่ใช่วัตถุของแข็งไม่ใช่ของเหลวแต่เป็น
อนุภาคเล็กๆ หลายชนิดหมุนอยู่รอบตัวดาวเสาร์ ดาวเสาร์มีดวงจันทร์เป็นบริวาร

ส�ำนกั การลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น 23

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 23 ดวง ขนาดใหญ่สุดมเี สน้ ผา่ ศูนย์กลาง 2,400 กม. จนถึงเล็กสุดมีเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง
99 กม. ดาวเสารอ์ ยหู่ า่ งจากดวงอาทติ ย์ 1,440 ลา้ นกม. อยใู่ กลโ้ ลกระยะ 1,420-1,460
ลา้ นกม. โคจรรอบดวงอาทติ ย์ 29 ปคี ร่ึง หมุนรอบตัวเอง 10 ช่ัวโมง 14 นาที
ดาวยเู รนสั (Uranus) “มฤตย”ู
ไมส่ ามารถเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปลา่ โคจรเปน็ วงรรี อบดวงอาทติ ย์ หา่ งจากดวงอาทติ ย์
2,980 ลา้ นกม. โคจรรอบดวงอาทติ ยใ์ ชเ้ วลา 84 ปี หมนุ รอบตวั เอง รอบละ 10 ช่ัวโมง
49 นาที เพราะมีรูปร่างแป้น เอียงจากวงโคจร 98 องศา แกนหมุนของดาวยูเรนัส
กดลงไปโดยข้วั เหนือตำ่� กว่าระนาบวงโคจรถึง 80 องศาเมื่อมองจากโลก จงึ ดูคลา้ ย
กับวา่ ดาวยเู รนสั หมนุ รอบตัวเองขา้ มกับดาวเคราะหด์ วงอ่ืน ๆ
ดาวเนปจนู (Neptune) “ดาวเกต”ุ
พบโดยการค�ำนวณ ใหญเ่ ป็นอันดับ 4 มเี ส้นผา่ ศูนย์กลาง 45,500 กม. อยหู่ ่าง
จากดวงอาทิตย์ 4,510 ล้านกม. ทางโคจรเกือบเป็นวงกลม ระนาบทางโคจรเอียง
1 องศา 47’ โคจรรอบดวงอาทติ ย์ 165 ปี รอบตวั เอง 15 ช่วั โมง 40 นาที มดี วงจันทร์
บริวาร 2 ดวง
ดาวพลโู ต (Pluto) “ดาวยม”
พบโดยการถ่ายรูป อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 7,400 ล้านกม. โคจรรอบ
ดวงอาทิตย์ 248 ปี โคจรค่อนข้างถมี่ าก มดี วงจนั ทร์บริวาร 1 ดวง ดาวพลูโตอย่ไู กล
จากโลกประมาณ 40 เท่า ของระยะจากโลกถงึ ดวงอาทติ ย์

24 ค่มู อื การสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสือ เนตรนารี สามญั รุ่นใหญ่

กล้องโทรทรรศน์ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
อปุ กรณท์ สี่ ำ� คญั ในการศกึ ษาวชิ าดาราศาสตร์ คอื กลอ้ งโทรทรรศน์ กลอ้ งโทรทรรศน์
ที่ใหญ่ท่ีสุดในโลกคือ กล้องโทรทรรศน์ของหอดูดาวมลรัฐแคลิฟอเนียร์ตั้งอยู่บนเขา
พาโลมา มเี สน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 200 น้ิว
หอดดู าวของทอ้ งฟา้ จำ� ลองกรงุ เทพ กม็ รี ปู ทรงเหมอื นหอดดู าวแหง่ นแ้ี ตม่ ขี นาด
เลก็ กวา่ กล้องโทรทรรศน์ของหอดูดาวทอ้ งฟ้าจำ� ลองกรุงเทพ มีเลนสห์ น้ากลอ้ งขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลาง 150 มม. ความยาวโฟกัส 2,250 มม. ประดิษฐ์ตามแบบคูเด้ของ
คาร์ลไซซ์ โดยให้ผู้ตรวจน่ังประจ�ำที่ และมีอุปกรณ์ไฟฟ้าในการขับเคล่ือนให้กล้อง
หันเบนติดตามดวงดาวท่ีก�ำลังท�ำการตรวจอยู่ได้ทุกระยะโดยอัตโนมัติ มีก�ำลังขยาย
ตำ�่ สดุ 36 เทา่ และสงู สดุ 360 เทา่ นอกจากจะใชใ้ นการดภู าพวตั ถทุ อ้ งฟา้ แลว้ ยงั สามารถ
รบั ภาพดวงอาทติ ย์ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 250 มม. ให้ปรากฏบนจอไดอ้ ีกดว้ ย

ส่วนสำ� คญั ของกล้องโทรทรรศน์
1. เลนส์หนา้ กล้อง มีหนา้ ทรี่ ับภาพดวงดาวหรอื วตั ถทุ อ้ งฟ้าอืน่ และรวมแสง
ใหป้ รากฏเปน็ ภาพของวตั ถุนน้ั ทจ่ี ดุ โฟกสั

2. อายพีส ท�ำหน้าทขี่ ยายภาพซึ่งปรากฏท่จี ดุ โฟกสั ให้ปรากฏเห็นภาพดวงดาว
หรอื วัตถุท้องฟ้าทท่ี ำ� การตรวจมขี นาดโตขึน้ ตามก�ำลังขยายของอายพีสนนั้ ๆ

ประโยชนข์ องกล้องโทรทรรศน์
1. เพือ่ รวมแสงวัตถุท้องฟ้าใหป้ รากฏภาพท่ีจุดโฟกสั และขยายภาพใหโ้ ตขน้ึ
เพื่อท�ำการวดั หรือถ่ายภาพ
2. เพ่ือรวมแสงของวัตถุท้องฟ้า แล้วป้อนเข้าสู่เคร่ืองตรวจแสงสว่าง
เคร่ืองแยกสีของแสง ฯลฯ
3. เพ่อื หาวัตถุท้องฟา้ ในทศิ ทางทตี่ อ้ งการ
กลอ้ งโทรทรรศนเ์ ปน็ เครอื่ งมอื ทนี่ กั ดาราศาสตรใ์ ชค้ น้ ควา้ หาสง่ิ ทอ่ี ยใู่ นอวกาศ
ไกลออกไป วัตถุท้องฟ้าท่ีไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าเพราะแสงจางกล้องโทรทรรศน์
สามารถทำ� ใหเ้ หน็ ภาพวตั ถุทอ้ งฟา้ ปรากฏได้ชดั เจน

ส�ำนกั การลูกเสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น 25

สว่ นประกอบต่าง ๆ ของกลอ้ งโทรทรรศนต์ ามภาพ
1. ฐานรปู สามเหล่ียม 9. ลำ� กลอ้ ง
2. เสาตง้ั รปู สเ่ี หลี่ยม 10. เกลียวท่อนล่าง
3. ปลอกรัดสว่ นบนของเสารูปส เ่ี หลยี่ ม 11. กล้องนำ� หาภาพ
- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - 4. น้ำ� หนกั ถว่ ง 12. สว่ นกลางกล้อง
5. มอเตอรไ์ ฟฟ้า 13. จอรบั ภาพ
6. เกลียวหมนุ ปดิ – เปิดหน้ากล อ้ ง 14. ชุดอายพิซดดู าว
7. ชุดอายฟีซสำ� หรบั ดดู วงอาทติ ย์ 15. แผงสวิตซบ์ งั คับกลอ้ ง
8. เลนสห์ น้ากล้อง

26 คู่มอื การสอบวชิ าพเิ ศษลกู เสือ เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่

ทอ้ งฟ้าจำ� ลองกรุงเทพ - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
(Bangkok′s Planetarium)
ท้องฟ้าจ�ำลองกรุงเทพ ตง้ั อยูท่ ่ี ตำ� บลบ้านกลว้ ย (ตดิ กบั สถานีขนส่งผ้โู ดยสาร
กรุงเทพฯ เอกมัย) ถนนสุขุมวิท คลองเตย จังหวัดกรุงเทพ พระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลท่ี ๙) เสด็จพระราชดำ� เนิน
มาประกอบพิธีเปดิ อาคารทอ้ งฟา้ จำ� ลองกรุงเทพ เมอ่ื วนั อังคารท่ี 18 สิงหาคม 2507
“ท้องฟ้าจ�ำลอง” (Planetarium) หมายถึง ท้องฟ้าท่ีมนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น
เพอื่ แสดงปรากฏต่าง ๆ ในทอ้ งฟ้า ดว้ ยเครื่องฉายดาว และอปุ กรณ์อ่นื ๆ โดยเลยี น
แบบธรรมชาติ
เคร่ืองฉายดาวของทอ้ งฟา้ จำ� ลองกรงุ เทพ
เปน็ อปุ กรณท์ ส่ี �ำคญั ทสี่ ุดในท้องฟ้าจ�ำลอง โดยใช้เคร่ืองฉายภาพระบบครสิ ต้ี
ซ่ึงเป็นโปรเจคเตอร์ท่ีดีที่สุด มีความสว่างสูงและมีเลนส์ฉายภาพท่ีกว้างมากยิ่งขึ้น
ปรับระบบควบคุมโดยใช้ซอฟแวร์ ดิจิสตาร5์ ซึ่งมีความคมชัดสูงระดับ 4K สามารถ
ฉายดาวและภาพยนตรไ์ ด้ ถอื ได้วา่ เป็นเทคโนโลยที ใ่ี หมท่ ีส่ ดุ ในประเทศไทย


เครอ่ื งฉายดาว เปน็ หอ้ งวงกลมขนาดใหญ่ ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 20.60 เมตร
หลงั คาเป็นรปู โดม สงู 13 เมตร เพดานเปน็ แผ่นอะลูมเิ นยี มพรุน ทาสขี าวเพือ่ รบั แสง
ที่ฉายออกจากเคร่อื งฉายดาว ปรากฎเปน็ ดวงดาวบนท้องฟา้ จ�ำลอง คลา้ ยกับดวงดาว
ในท้องฟ้าจริง ความจุ 370 ที่น่ัง ตรงกลางห้องตั้งเคร่ืองฉายดาวระบบเลนส์
ของ Carl Zeiss ของบริษัทคารล์ ไซซ์ ประเทศเยอรมนี

สำ� นกั การลูกเสือ ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น 27

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - เครื่องฉายดาว นับเป็นประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่มีระบบการท�ำงาน
ซบั ซ้อน ประกอบด้วยระบบเครือ่ งกล ระบบไฟฟ้าและระบบแสงท่ปี ระณีต ฉายภาพ
วัตถุท้องฟ้า และปรากฏการณ์หลายชนิดเลียนแบบธรรมชาติ สามารถปรับเครื่อง
ขึ้นลงเพ่ือแสดงดวงดาวในท้องฟ้าของประเทศใดก็ได้ตามวันและเวลาที่ต้องการ
ทง้ั ดวงดาวในอดตี ปจั จบุ นั และอนาคต และยงั เปน็ เครอื่ งฉายดาวขนาดใหญเ่ ครอ่ื งแรก
ในย่านเอเชยี อาคเนย์ด้วย

ความรเู้ กยี่ วกบั กจิ กรรมของมนษุ ยใ์ นอวกาศ ดาวเทยี มและการทม่ี นษุ ยส์ ามารถขน้ึ
ไปถงึ ดวงจนั ทร์
การสำ� รวจอวกาศของสหรัฐอเมริกา
สหรัฐแบ่งการสำ� รวจอวกาศเปน็ 2 รายการใหญ่ ๆ
- การบินอวกาศปราศจากผูข้ ับคุม
(Unmanned Space Flight)
- การบนิ อวกาศมผี ูข้ ับคุม (Manned Space Flight)
การบินอวกาศปราศจากผู้ขบั คุม ม่งุ ปฏบิ ตั กิ ารค้นควา้ 4 ดา้ น คอื
1.1 วทิ ยาศาสตรอ์ วกาศ (Space Science)
1.2 คณุ ประโยชน์ดา้ นต่าง ๆ ของเทคโนโลยี
(Applications of Space Technology)
1.3 คน้ ควา้ เพอื่ ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ
(Research to Advance Space Technology)
1.4 การร่วมมอื ระหว่างชาติในดา้ นอวกาศ
(International Co-operation in Space)
ปฏิบตั ิการเหล่านใี้ ชด้ าวเทียม (Satellites)
และยานอวกาศ (Space-craft)

28 คมู่ อื การสอบวชิ าพเิ ศษลูกเสือ เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ่

การส�ำรวจดวงจันทร์ ใชย้ านอวกาศทง้ั ทมี่ ีมนษุ ยข์ ับคุม (โครงการอะพอลโล) - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
และปราศจากมนุษยข์ บั คุมมี 3 โครงการ
1. เรนเจอร์ (Ranger) สง่ ไปพงุ่ ชนดวงจนั ทรร์ วม 9 ลำ� ตง้ั แตป่ พี .ศ. 2504-2505
ก่อนพุ่งชนได้ส่งภาพโทรทัศน์กลับมาสู่โลกขณะอยู่ห่างพ้ืนผิวดวงจันทร์ตั้งแต่ระดับ
1 พันกว่าไมล์ จนภาพสุดท้ายอยู่เหนือพื้นผิวดวงจันทร์ไม่กี่ไมล์ประสบความส�ำเร็จ
ตามเป้าหมายเพียง 3 ลำ� คอื เรนเจอร์ 7, 8 และ 9
2. ลนู ารอ์ อบิเตอร์ (Lunor Orbiter) สง่ ขึน้ ไปรวม 5 ล�ำ ระหวา่ ง พ.ศ. 2509-
2510 โครงการนใ้ี หย้ านอวกาศ ไปวนถา่ ยภาพรอบดวงจนั ทร์ ไมพ่ งุ่ ชนเหมอื นเรนเจอร์
3. โครงการเซอเวเยอร์ (Surveyor) มุ่งลงไปลงจอดบนพื้นดวงจันทร์อย่าง
นุ่มนวล สง่ ขึน้ ไปรวม 7 ลำ� ประสบความสำ� เร็จเพียง 5 ล�ำ คือ 1, 3, 5, 6 และ 7
แตล่ ะลำ� สง่ ภาพมาเปน็ หมนื่ ๆ ภาพ โครงการนป้ี พู น้ื ใหม้ นษุ ยน์ ำ� ยานไปลงพนื้ ดวงจนั ทร์
ไดส้ �ำเรจ็ อันเปน็ เกียรตปิ ระวัตขิ องมนษุ ยชาติในโครงการอะพอลโลในเวลาถดั มา
การบนิ อวกาศมีผ้ขู ับคุม
ยานอวกาศทม่ี ีมนษุ ย์ขบั คุมขน้ึ ไปมี 6 โครงการ
1. โครงการเมอคิวรี (Mercury)
2. โครงการเจมินี (Gemini)
3. โครงการอะพอลโล (Apollo)
4. โครงการสกายแล็บ (Skylab)
5. โครงการอะพอลโล – โซยูส (Apollo – Soyuz)
6. โครงการยานขนส่งอวกาศ (Space Shuttle)

ส�ำนกั การลกู เสือ ยุวกาชาดและกจิ การนกั เรียน 29

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - บรรณานกุ รม
คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง่ ชาติ, สำ� นกั งาน. แนวการสอบวชิ าพิเศษ
ลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่. พมิ พ์คร้ังท่ี 1 กรงุ เทพฯ : สกสค., 2542.
คณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหง่ ชาติ, ส�ำนกั งาน. ข้อบงั คบั คณะลกู เสอื
แหง่ ชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลักสตู รและวชิ าพิเศษลกู เสอื สามัญ
รนุ่ ใหญ่ (ฉบับท่ี 14) พ.ศ. 2528. กรุงเทพฯ : สกสค., 2548.
คณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาติ, สำ� นกั งาน. วชิ าพิเศษลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่
นักดาราศาสตร์. พมิ พ์ครัง้ ท่ี 3. กรงุ เทพฯ : สกสค., 2548.
ณัฏฐ์ ยุวยทุ ธ. ค่มู ือการสอบเครอ่ื งหมายวิชาพเิ ศษลกู เสอื เนตรนารี สามญั รนุ่ ใหญ.่
พมิ พ์ครั้งท่ี 5. กรุงเทพฯ : สกสค., 2551.
ลกู เสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน, สำ� นกั การ. คูม่ ือการสอบเครอ่ื งหมายลกู เสือ
โลกการสอบเครือ่ งหมายชัน้ พิเศษ การสอบเคร่ืองหมายลกู เสอื หลวง.
กรุงเทพ : ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย., 2560.

40 ค่มู อื การสอบวชิ าพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามญั รุน่ ใหญ่

(สำ� เนา)

ค�ำสง่ั ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร - วิชา ันกดาราศาสตร์ -
ท่ี ๑๔๑ / ๒๕๖๑
59
เร่อื ง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการดำ� เนนิ งานการประชมุ จัดท�ำคมู่ อื การสอบวิชาพเิ ศษ
ลกู เสอื เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่

..................................................................
เพ่ือให้การด�ำเนินงานการประชุมจัดท�ำคู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ
เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่ ซ่ึงก�ำหนดจดั ระหวา่ งวนั ที่ ๒๙ มกราคม - ๒ กุมภาพนั ธ์
๒๕๖๑ ณ หอ้ งประชมุ อภยั จนั ทวมิ ล ชน้ั ๒ อาคารเสมารกั ษ์ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงเห็นควรแต่งตั้งบุคคล
ต่อไปน้ี เป็นคณะกรรมการด�ำเนินงานการประชุมจัดท�ำคู่มือการสอบวิชาพิเศษ
ลูกเสือ เนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ ดงั นี้

๑. ผอู้ ำ� นวยการส�ำนกั การลูกเสือ ประธานกรรมการ
ยุวกาชาดและกจิ การนักเรียน

๒. นายโอฬาร เกง่ รกั ษ์สตั ว์ รองประธานกรรมการ
๓. ว่าทร่ี อ้ ยโท ณฏั ฐ์ ยวุ ยุทธ กรรมการ
๔. นายวชิ ัย ผกผ่า กรรมการ
๕. นางธญั มน ยุวยทุ ธ กรรมการ
๖. นางสาวเปลง่ ศรี ปน้ั พล กรรมการ
๗. นายยนิ ดี ปั้นแววงาม กรรมการ
๘. นางสายหยดุ บญุ ทนิมติ กรรมการ
๙. นางดารณี ทพั จันทร์ กรรมการ
๑๐. นางสภุ ชั ชกา ศรแกว้ กรรมการ
๑๑. ว่าทรี่ ้อยตรี สเุ มธ สจุ ริยวงศ ์ กรรมการ

ส�ำนักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรียน

- วชิ า นกั ดาราศาสตร์ - ๑๒. นางมาลยั วงศ์ฤทัยวัฒนา กรรมการ
๑๓. นางสาวณภัทร กลุ จติ ตธิ ร กรรมการ
๑๔. นายลิขติ ป้ันแววงาม กรรมการ
๑๕. นายพชิ าน แหยมเจรญิ กรรมการ
๑๖. นายเอกพนั ธ์ ชูแกว้ กรรมการ
๑๗. นายกฤตพฒั น์ พิชัยวรุตมะ กรรมการ
๑๘. นางสุธินี ขาวออ่ น กรรมการ
๑๙. นางวนั ทนา ศรที องคำ� กรรมการ
๒๐. นางชุติมา กมุทะรัตน ์ กรรมการ
๒๑. นายอรุณ ศรวี รนารถ กรรมการ
๒๒. นางสาวปวณี า จุธากรณ์ กรรมการ
๒๓. นางสาวสพุ ิชญา อาภาวศนิ กรรมการ
๒๔. นายสมบรู ณ์ วัฒนมงคลสขุ กรรมการ
๒๕. นางสวุ ัฒนา ธรรมประภาส กรรมการและเลขานกุ าร
๒๖. นางกนกวรรณ นม่ิ เจริญ กรรมการและ
ผชู้ ่วยเลขานุการ
๒๗. นางสาวศิรฐา กรวาทนิ กรรมการและ
ผชู้ ่วยเลขานกุ าร
โดยใหค้ ณะกรรมการดาํ เนนิ งานมหี นา้ ท่ี ดาํ เนนิ การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร
จัดทําคู่มือการสอบวิชาพิเศษลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ ให้ส�ำเร็จลุล่วง
เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ท่ีกําหนดไว้ ท้งั นี้ ต้ังแตบ่ ดั นี้เปน็ ต้นไป

สงั่ ณ วันท่ี ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑

(ลงช่อื ) ประเสริฐ บญุ เรือง
(นายประเสริฐ บญุ เรือง)

รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ปฏิบตั ิราชการแทนปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

60 คมู่ อื การสอบวชิ าพิเศษลกู เสือ เนตรนารี สามัญรนุ่ ใหญ่


Click to View FlipBook Version