47
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูพี่เลยี้ ง
25. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
26. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
27. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
28. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................... (ครพู ่ี
เลี้ยง)
(นางชาลสิ า สรรพโส)
.
48
ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
29. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
30. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
31. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้
32. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงช่ือ..............................................................
(นายรชตพล มีช้ันช่วง)
รองผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
49
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้อู านวยการโรงเรยี น
33. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
34. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
35. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นาไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้
36. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชื่อ ............................................................
(นายเชวง ชืน่ ตา)
ผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวทิ ยา
50
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 24
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
รหสั วชิ า ค21101 ภาคเรยี นที่ 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ทศนิยม
เรื่อง การลบทศนิยม เวลาเรยี น 8 ชว่ั โมง
ผู้สอน นายธนวทิ ย์ กองธรรม เวลา 1 ชว่ั โมง
โรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การและนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสมั พันธ์ของจานวนตรรกยะและใช้สมบัตขิ องจานวน
ตรรกยะในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ติ จริง
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การลบทศนิยมใช้หลักการเดียวกับการลบจานวนเต็ม ทาได้โดยนาจานวนท่ีอยู่ในหลักเดียวกันมา
ลบกัน (ตัวตั้ง-ตัวลบ=ตวั ตงั้ +จานวนตรงข้ามตวั ลบ)
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 หาผลลบทศนิยมโดยได้ (K)
3.2 ปฏบิ ัติตามใบกิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง การลบทศนยิ มได้ (P1)
3.3 ทาถาดกระดาษลายการลบทศนยิ ม เปน็ รายบุคคลได้ (P2)
3.4 แสดงความมุ่งมั่นในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 การลบทศนิยม
4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
4.2.2 ทกั ษะการสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
4.3 คุณลกั ษณะและค่านิยม
4.3.1 แสดงความมุ่งม่ันในการทางาน
4.4 สมรรถนะ
4.4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร (ฟงั พดู อา่ น เขยี น)
4.4.2 ความสามารถในการคดิ (การสังเกต และการเช่ือมโยง)
51
4.4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ (ทางานแบบร่วมมือ)
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (Co-5-steps)
5.1 ขน้ั เสนอสิ่งเร้าและระบุคาถามสาคัญ (Stimulating and Key Questioning Collaboratively)
(10 นาที)
5.1.1 ครทู บทวนการบวกลบจานวนเต็ม โดยครนู าบตั รโจทยก์ ารลบตดิ บนกระดานและให้นกั เรยี นแต่
ละกลมุ่ ชว่ ยกันทา
11-8 8-11 (-5) – 5 5 – (-5) (-8) - (-5) (-5) - (-8)
5.1.2 ครตู ดิ โจทย์การลบทศนิยมบนกระดาน
(-5.2) - (8.54)
วธิ ีทา จาก ตัวต้งั -ตัวลบ=ตวั ตั้ง+จานวนตรงขา้ มตวั ลบ
จะไดว้ ่า 5.2 8.54 5.2 8.54 8.54 5.2
8.54-
5.20
3.34
ตอบ ค่าสมั บูรณ์ 8.54 มากกวา่ (-5.2) คาตอบเป็นจานวนเตม็ บวก 3.34
5.1.3 ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกต และรว่ มบอกสงิ่ ที่เห็น ครคู อยกระตุน้ ใหน้ ักเรยี นถามคาถามทตี่ นอยากรู้
5.2 ข้ันแสวงหาสารสนเทศ และวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (searching and analyzing collaboratively)
(20 นาที)
5.2.1 นักเรียนแต่ละกลมุ่ สุ่มจบั ไมไ้ อติมการลบ 3 แซ่บ และรว่ มบอกสง่ิ ทีเ่ ห็นในกลุม่
(1.2) - (1.19)
(-0.5) - (-0.45)
(0.45) - (-0.5)
52
5.2.2 ครูแจกใบกิจกรรมท่ี 4 เร่อื ง การลบทศนยิ ม ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่
5.2.3 ครอู ธิบายการลบทศนยิ ม โดยใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คดิ หาวธิ ีเพอื่ ใหไ้ ด้มาซึง่ คาตอบ และนักเรยี น
สามารถใช้โทรศพั ท์มอื ถอื ช่วยในการค้นหาคาตอบ
5.2.4 ครใู หน้ ักเรียนเรียนรู้และบนั ทกึ ผลลงในใบกจิ กรรมที่ 4 เรือ่ ง การลบทศนยิ ม
5.3 ข้ันรวมพลังอภิปรายผลและสร้างความรู้ ( Discussing and Constructing Collaboratively)
(20 นาที)
5.3.1 ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนองานตัวเองกบั กลมุ่ อ่นื และแลกเปลย่ี นกันถามตอบ
5.3.2 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เก่ียวกับการลบทศนิยมวา่
การลบทศนิยมใช้หลักการเดียวกับการลบจานวนเต็ม ทาได้โดยนาจานวนที่อยู่ในหลักเดียวกัน
มาลบกัน (ตัวตั้ง-ตัวลบ=ตัวตง้ั +จานวนตรงขา้ มตัวลบ)
5.3.3 ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดท่ี 4.2 ก หน้าที่ 181 ข้อ 5 ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์
ม.1 เลม่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช
2560 (สสวท.)
5.4 ขนั้ รวมพลังสือ่ สารและสะทอ้ นคดิ (Communicating and Reflecting Collaboratively) (5 นาที)
ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอความรเู้ พ่มิ เติมท่ไี ดจ้ ากการร่วมกจิ กรรม เรื่อง การลบทศนยิ ม
บอกข้อดี ข้อบกพรอ่ ง และส่ิงทีต่ ้องเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ
5.5 ขนั้ รวมพลงั ประยุกต์และตอบแทนสงั คม (Applying and Serving Collaboratively) (5 นาที)
5.5.1 ครใู ห้การบา้ น ทาถาดกระดาษลายการลบทศนิยมรายบุคคล
53
6. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้
6.1 สอื่ การเรยี นรู้
6.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 4 เรอื่ ง การลบทศนิยม
6.1.2 ไม้ไอตมิ การลบ 3 แซบ่
6.1.3 หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2560 จัดทาโดย สถาบนั สง่ เสริมการสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธกิ าร (สสวท.)
6.2 แหลง่ การเรยี นรู้
6.2.1 ห้องสมุดโรงเรียนหนองสาโรงวิทยา
6.2.2 https://dltv.ac.th/teachplan/episode/23260
7. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครื่องมอื ท่ใี ช้ วธิ ีการ เกณฑ์การ
สงิ่ ท่ตี ้องการวดั /ประเมิน ประเมนิ
-ถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์ร้อย
-หาผลลบทศนยิ มได้ -คาถาม -แบบฝึกหัดที่ 4.2 ก ละ 70 ขน้ึ ไป
-แบบฝึกหดั ที่ 4.2 ก หนา้ ท่ี 181 ข้อ 5
หนา้ ที่ 181 ข้อ 5
-ปฏิบตั ิตามใบกจิ กรรมท่ี 3 เร่อื ง -ใบกิจกรรมที่ 4 เร่อื ง -ตรวจใบกจิ กรรม -ถกู ตอ้ งรอ้ ยละ
การลบทศนิยมได้ (P1) การลบทศนิยม ท่ี 4 เรื่อง การลบ 70 ข้ึนไป
ทศนยิ ม
-ถาดกระดาษลายการลบทศนิยม -ชน้ิ งานถาดกระดาษ -ตรวจช้ินงานถาด -ผ่านเกณฑ์ใน
เป็นรายบุคคลได้ (P2) ลายการลบทศนิยม กระดาษลายการลบ ระดบั ดีข้ึนไป
ทศนิยม
-แสดงความมุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมิน สังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑใ์ น
คณุ ลักษณะ ระหวา่ งเรียน ระดบั ดขี ึน้ ไป
อนั พึงประสงค์
54
แบบบนั ทึกการสังเกตการร่วมกจิ กรรม
เลขท่ี รายการท่ีประเมนิ ปรับปรุง สรุป
ความมงุ่ มัน่ ในการทางาน ผ่าน ไมผ่ ่าน
ดีเยย่ี ม
ดี พอใช้
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นกั เรียนมีพฤตกิ รรมการรว่ มกิจกรรมในตัง้ แต่ระดับดี ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น
แบบบันทกึ การประเมินแบบฝกึ หัด 55
คะแนน สรปุ
ผา่ น ไม่ผา่ น
เลขที่ แบบฝกึ หดั ชนิ้ งาน ใบกิจกรรม รวม เฉลีย่
() () ()
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นักเรยี นไดค้ ะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน
56
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจัดการเรียนรู้
ต ประสง ไก หน สามารถ บรร กครบ วน จาก การตรวจ แบบ ง
าน 1 กรน อย ละ 100
ง นเ ยนก แสดง ความ ใน การ งเกงาน จาก การ ใบและ น ก พฤ กรรม
านเกณ อยละ 100
ปัญหาและอปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ขปญั หา
ไฟลงชื่อ .............ช......น......................... (ผสู้ อน)
(นายธนวิทย์ กองธรรม)
์ิ ่ ั ้ผิตึทับุตัสิท่ฑมุ่มีรัน้ร์ฑ่ผัยีป้ถ้ด์คุถัวุล์รธิน
57
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูพี่เลยี้ ง
37. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
38. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
39. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
40. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................... (ครพู ี่
เล้ียง)
(นางชาลิสา สรรพโส)
.
58
ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
41. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
42. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
43. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้
44. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายรชตพล มีช้ันชว่ ง)
รองผอู้ านวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
59
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผอู้ านวยการโรงเรียน
45. เป็นแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
46. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงและพฒั นาต่อไป
47. เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้
48. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................................
(นายเชวง ชืน่ ตา)
ผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวทิ ยา
60
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง ทศนยิ ม
เรือ่ ง การคณู ทศนยิ ม เวลาเรยี น 8 ชั่วโมง
ผสู้ อน นายธนวิทย์ กองธรรม เวลา 1 ชั่วโมง
โรงเรยี นหนองสาโรงวทิ ยา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดขนึ้ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวช้วี ดั ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสมั พันธข์ องจานวนตรรกยะและใชส้ มบัตขิ องจานวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวิตจรงิ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การคณู ทศนยิ มจานวนบวกดว้ ยทศนยิ มจานวนลบ หรอื การคณู ทศนยิ มจานวนลบด้วยทศนยิ มจานวน
บวก จะไดผ้ ลลัพธเ์ ปน็ จานวนเต็มลบเสมอ (บวก × ลบ = ลบ) หรือ (ลบ × บวก = ลบ)
การคูณทศนิยมจานวนลบด้วยทศนิยมจานวนลบ จะได้ผลลัพธ์เป็นทศนิยม จานวนบวกเสมอ
(ลบ × ลบ = บวก)
เมอ่ื a และ b เป็นจานวนเต็มใด ๆ a × b = b × a
สมบตั นิ เี้ รียกวา่ สมบัติการสลับท่กี ารคูณ (commutative property for multiplication)
เมื่อ a, b และ c เปน็ จานวนเต็มใด ๆ (a × b) × c = a × (b × c) สมบัตนิ ีเ้ รียกว่า สมบตั ิการเปลี่ยน
หมกู่ ารคูณ (assocaitive property for multiplication)
เมอ่ื a และ b เป็นจานวนเต็มใด ๆ แล้ว a × 0 = 0 = 0 × a
สมบัติน้เี รียกวา่ สมบตั กิ ารคณู ดว้ ยศนู ย์
เมอ่ื a และ b เปน็ จานวนเต็มใด ๆ แลว้ a × 1 = a =1 × a สมบตั นิ ้เี รียกว่า
สมบัตกิ ารคูณด้วยหนง่ึ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ
3.1 หาผลคณู ทศนิยมโดยได้ (K)
3.2 ปฏิบัติตามใบกจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง การคูณทศนยิ มได้ (P1)
3.3 แสดงความมงุ่ ม่ันในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ความรู้ (K)
61
4.1.1 การคณู ทศนิยม
4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
4.2.2 ทกั ษะการส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
4.3 คณุ ลักษณะและค่านยิ ม
4.3.1 แสดงความมุ่งมน่ั ในการทางาน
4.4 สมรรถนะ
4.4.1 ความสามารถในการส่ือสาร (ฟัง พดู อา่ น เขยี น)
4.4.2 ความสามารถในการคดิ (การสงั เกต และการเชอื่ มโยง)
4.4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ (ทางานแบบร่วมมือ)
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Co-5-steps)
5.1 ขนั้ เสนอส่ิงเรา้ และระบุคาถามสาคัญ (Stimulating and Key Questioning Collaboratively)
(10 นาที)
5.1.1 ครทู บทวนการคณู จานวนเตม็ โดยครูนาบัตรโจทยก์ ารคณู ติดบนกระดานและให้นกั เรียนแต่ละ
กลมุ่ ชว่ ยกันทา
9 × 10 = 90
-8 × -5 = 40
-40 × 10 = -400
5.1.2 ครตู ิดโจทยก์ ารคณู ทศนยิ มบนกระดาน (-0.12) x (-1.23) (-0.14) x (2.222)
(-0.1) x (1.2) (-0.12) x (1.1)
5.1.3 นกั เรียนสงั เกตใชเ้ ครอื่ งคดิ เลขหาคาตอบ และร่วมบอกสง่ิ ทเี่ ห็น ครคู อยกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นถาม
คาถามท่ตี นอยากรู้
62
5.2 ข้ันแสวงหาสารสนเทศ และวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (searching and analyzing collaboratively)
(20 นาที)
5.2.1 ครูให้นกั เรียนแต่ละสุ่มจับ ไม้ไอตมิ การคูณ 3 สหาย และร่วมบอกสิง่ ทีเ่ หน็ ในกลุ่ม
(1.2) x (1.19)
(-0.5) x (-0.45)
(0.45) x (-0.5)
5.2.2 ครูแจกใบกิจกรรมท่ี 5 เร่อื ง การคูณทศนยิ ม ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม
5.2.3 ครอู ธบิ ายการคณู ทศนยิ ม โดยให้แต่ละกลมุ่ คิดหาวธิ เี พอื่ ให้ได้มาซง่ึ คาตอบ
5.2.4 นกั เรยี นเรยี นร้แู ละบันทึกผลลงในใบกจิ กรรมท่ี 5 เรื่อง การคณู ทศนยิ ม
5.3 ขั้นรวมพลังอภิปรายผลและสร้างความรู้ ( Discussing and Constructing Collaboratively)
(10 นาที)
5.3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนองานตัวเองกบั กลุม่ อนื่ และแลกเปลีย่ นกนั ถามตอบ
5.3.2 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกีย่ วกับการคณู ทศนยิ มว่า
การคณู ทศนิยมจานวนบวกดว้ ยทศนยิ มจานวนลบ หรือ การคูณทศนยิ มจานวนลบด้วยทศนยิ มจานวน
บวก จะไดผ้ ลลพั ธเ์ ปน็ จานวนเต็มลบเสมอ (บวก × ลบ = ลบ) หรอื (ลบ × บวก = ลบ)
การคูณทศนิยมจานวนลบด้วยทศนิยมจานวนลบ จะได้ผลลัพธ์เป็นทศนิยม จานวนบวกเสมอ
(ลบ × ลบ = บวก)
เมือ่ a และ b เป็นจานวนเต็มใด ๆ a × b = b × a
63
สมบตั ิน้ีเรยี กว่า สมบัตกิ ารสลับทีก่ ารคูณ (commutative property for multiplication)
เมอื่ a, b และ c เปน็ จานวนเต็มใด ๆ (a × b) × c = a × (b × c) สมบตั ินเ้ี รียกวา่ สมบัติการเปล่ียน
หมู่การคูณ (assocaitive property for multiplication)
เมื่อ a และ b เปน็ จานวนเต็มใด ๆ แล้ว a × 0 = 0 = 0 × a
สมบตั นิ ้ีเรียกว่า สมบตั ิการคูณดว้ ยศนู ย์
เมอื่ a และ b เปน็ จานวนเต็มใด ๆ แลว้ a × 1 = a =1 × a สมบัตนิ ้ีเรียกว่า
สมบัตกิ ารคูณด้วยหน่ึง
5.4 ข้นั รวมพลังสอื่ สารและสะทอ้ นคิด (Communicating and Reflecting Collaboratively) (10 นาที)
นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอความรู้เพ่ิมเติมที่ได้จากการร่วมกิจกรรม เรื่อง การคูณทศนิยม
บอกข้อดี ข้อบกพรอ่ ง และสงิ่ ทตี่ ้องเรียนรู้เพ่ิมเติม
5.5 ขั้นรวมพลงั ประยกุ ตแ์ ละตอบแทนสงั คม (Applying and Serving Collaboratively) (10 นาที)
นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั ที่ 4.3 ก หน้าที่ 187 ขอ้ 5 ในหนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ม.1
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
6.1 สื่อการเรียนรู้
6.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 5 เรอื่ ง การคณู ทศนยิ ม
6.1.2 ไม้ไอตมิ การคณู 3 สหาย
6.1.3 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2560 จัดทาโดย สถาบันสง่ เสรมิ การสอน
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธิการ (สสวท.)
6.2 แหลง่ การเรยี นรู้
6.2.1 ห้องสมดุ โรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
6.2.2 https://dltv.ac.th/teachplan/episode/48709
64
7. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครื่องมอื ทใ่ี ช้ วธิ ีการ เกณฑ์การ
สง่ิ ท่ตี ้องการวดั /ประเมนิ
ประเมนิ
-หาผลลบทศนยิ มได้ -คาถาม -ถาม-ตอบ ผ่านเกณฑ์รอ้ ย
-แบบฝกึ หัดท่ี 4.3 ก
หน้าท่ี 187 ขอ้ 2 ขอ้ 5 -ตรวจแบบฝกึ หัดที่ ละ 70 ขน้ึ ไป
และข้อ 6
4.3 ก หนา้ ที่ 187 ข้อ2
ขอ้ 5 และขอ้ 6
-ปฏิบตั ิตามใบกจิ กรรมท่ี 3 เร่ือง -ใบกิจกรรมท่ี 5 เรือ่ ง -ตรวจใบกิจกรรม -ถกู ต้องรอ้ ยละ
การคูณทศนยิ มได้ (P1) การคูณทศนยิ ม ท่ี 5 เรื่อง การคูณ 75 ขนึ้ ไป
ทศนิยม
-แสดงความมุ่งมน่ั ในการทางาน แบบประเมิน สังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ใน
คณุ ลกั ษณะ ระหว่างเรียน ระดบั ดขี ึ้นไป
อนั พงึ ประสงค์
65
แบบบนั ทึกการสังเกตการร่วมกจิ กรรม
เลขท่ี รายการท่ีประเมนิ ปรับปรุง สรุป
ความมงุ่ มัน่ ในการทางาน ผ่าน ไมผ่ ่าน
ดีเยย่ี ม
ดี พอใช้
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นกั เรียนมีพฤตกิ รรมการรว่ มกิจกรรมในตัง้ แต่ระดับดี ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น
แบบบันทึกการประเมนิ แบบฝกึ หัด 66
คะแนน สรปุ
ผา่ น ไม่ผา่ น
เลขที่ แบบฝกึ หดั ชนิ้ งาน ใบกจิ กรรม รวม เฉลีย่
() () ()
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นักเรยี นไดค้ ะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน
67
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจดั การเรียนรู้
ต ประสง ไก หน สามารถ บรร กครบ วน จาก การตรวจ แบบ ง
าน 1 กรน อย ละ 100
ง นเ ยนก แสดง ความ ใน การ งเกงาน จาก การ ใบและ น ก พฤ กรรม
านเกณ อยละ 100
ปญั หาและอปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
ไฟลงช่ือ ............ช......น.......................... (ผู้สอน)
(นายธนวทิ ย์ กองธรรม)
์ิ ่ ั ้ผิตึทับุตัสิท่ฑมุ่มีรัน้ร์ฑ่ผัยีป้ถ้ด์คุถัวุล์รธิน
68
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูพี่เลยี้ ง
49. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
50. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
51. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
52. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................... (ครพู ่ี
เลี้ยง)
(นางชาลสิ า สรรพโส)
.
69
ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
53. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
54. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
55. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้
56. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายรชตพล มีช้ันชว่ ง)
รองผอู้ านวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
70
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผอู้ านวยการโรงเรียน
57. เป็นแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
58. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงและพฒั นาต่อไป
59. เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้
60. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................................
(นายเชวง ช่นื ตา)
ผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวทิ ยา
71
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 26
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ทศนิยม
เรือ่ ง การหารทศนยิ ม เวลาเรียน 8 ชว่ั โมง
ผ้สู อน นายธนวิทย์ กองธรรม เวลา 1 ชั่วโมง
โรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชว้ี ัด
สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวช้ีวดั ม.1/1 เข้าใจจานวนตรรกยะและความสมั พนั ธข์ องจานวนตรรกยะและใชส้ มบัติของจานวน
ตรรกยะในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชวี ติ จริง
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การหาผลคณู ของทศนยิ มทาได้โดยใช้หลกั การเดยี วกบั การคณู จานวนเตม็ แล้วพจิ ารณาตาแหน่ง
ของทศนิยมของผลคณู เท่ากับผลบวกของจานวนตาแหนง่ ทศนิยมของตัวต้งั กับตวั คณู ส่วนการหาผลหาร
ของทศนิยม ต้องทาให้ตวั สว่ นเปน็ จานวนนบั ก่อน โดยคณู ดว้ ย 10, 100, 1000, … แล้วจึงใชห้ ลักการหาร
ทศนยิ มด้วยจานวนนับ
การหารทศนิยมจานวนบวกด้วยทศนยิ มจานวนบวก จะได้ผลลพั ธ์เป็นทศนยิ ม จานวนบวกเสมอ
(บวก ÷ บวก = บวก)
การหารทศนยิ มจานวนบวกด้วยทศนิยมจานวนลบ หรอื การหารทศนิยมจานวนลบ ดว้ ยทศนยิ ม
จานวนบวก จะได้ผลลัพธ์เปน็ จานวนเตม็ ลบเสมอ (บวก ÷ ลบ = ลบ) หรอื (ลบ ÷ บวก = ลบ)
การหารทศนยิ มจานวนลบดว้ ยทศนยิ มจานวนลบ จะได้ผลลพั ธเ์ ปน็ ทศนยิ มจานวนบวกเสมอ
(ลบ ÷ ลบ = บวก)
หลกั การปดั เศษ จะต้องคานวณใหไ้ ดผ้ ลหารเป็นทศนยิ มทม่ี ตี าแหนง่ มากกว่าทตี่ ้องการ อกี หนง่ึ
ตาแหน่ง แลว้ พจิ ารณาเลขโดดทเี่ กินมาน้นั ถ้านอ้ ยกว่า 5 ใหต้ ดั เลขโดดในตาแหนง่ นที้ ง้ิ หรอื ถา้ มากกวา่ หรอื
เทา่ กับ 5 ให้ปดั เลขโดดตาแหน่งก่อนหนา้ นีข้ ึน้ อีก 1 เชน่ 4.678 ตอ้ งการให้เป็นจานวนทศนิยมสองตาแหนง่
จะได้เป็น 4.68
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ
3.1 หาผลหารทศนิยมโดยได้ (K)
3.2 ใบกจิ กรรมที่ 6 เร่ือง การหารทศนิยมได้ (P1)
3.3 แสดงความมงุ่ ม่นั ในการทางาน (A)
72
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 การหารทศนยิ ม
4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 ทักษะการให้เหตุผล
4.2.2 ทักษะการส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
4.3 คุณลักษณะและคา่ นยิ ม (A)
4.3.1 แสดงความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4.4 สมรรถนะ
4.4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร (ฟัง พดู อา่ น เขียน)
4.4.2 ความสามารถในการคิด (การสงั เกต และการเชอ่ื มโยง)
4.4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ (ทางานแบบร่วมมือ)
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (Co-5-steps)
(ชัว่ โมงที่ 1)
5.1 ขน้ั เสนอสงิ่ เร้าและระบคุ าถามสาคญั (Stimulating and Key Questioning Collaboratively)
5.1.1 ครทู บทวนการหารจานวนเตม็ โดยครนู าบัตรโจทยก์ ารหารติดบนกระดานและให้นกั เรยี นแต่ละ
กล่มุ ช่วยกันทา
90 ÷ 10 =9
-80 ÷ -5 = 16
-40 ÷ 8 = -5
5.1.2 ครตู ดิ โจทย์การหารทศนยิ มบนกระดาน
27.3 3 112.8 (-8) (-3.92) (-28) 2.132 (-4.1)
5.1.3 นกั เรียนสังเกตใชเ้ ครื่องคิดเลขหาคาตอบ และร่วมบอกสง่ิ ที่เหน็ ครคู อยกระต้นุ ให้นักเรยี นถาม
คาถามทต่ี นอยากรู้
73
5.2 ข้ันแสวงหาสารสนเทศ และวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (searching and analyzing collaboratively)
5.2.1 นกั เรียนแต่ละสมุ่ จบั ไม้ไอติมการหาร 3 แม่ครัว และร่วมบอกสิง่ ท่ีเห็นในกลมุ่
5.4 0.6
(0.7) 0.8
5.2.2 ครแู จกใบกจิ กรรมท่ี 6 เรอื่ ง การหารทศนยิ ม ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่
5.2.3 ครอู ธบิ ายการหารทศนยิ ม โดยให้แตล่ ะกลมุ่ คิดหาวิธีเพอ่ื ให้ไดม้ าซ่งึ คาตอบ และนักเรยี น
สามารถชว่ ยในการคน้ หาคาตอบ
5.2.4 นักเรียนเรียนรแู้ ละบันทกึ ผลลงในใบกิจกรรมท่ี 6 เรอื่ ง การหารทศนยิ ม
5.3 ขน้ั รวมพลังอภิปรายผลและสรา้ งความรู้ (Discussing and Constructing Collaboratively)
5.3.1 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนองานตัวเองกบั กลมุ่ อ่ืนและแลกเปลีย่ นกันถามตอบ
5.3.2 ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกยี่ วกบั การหารทศนิยมวา่
การหารทศนิยมจานวนบวกดว้ ยทศนิยมจานวนลบ หรือ การหารทศนิยมจานวนลบด้วยทศนยิ ม
จานวนบวก จะไดผ้ ลลพั ธ์เป็นจานวนเตม็ ลบเสมอ (บวก × ลบ = ลบ) หรือ (ลบ × บวก = ลบ)
การหารทศนิยมจานวนลบด้วยทศนิยมจานวนลบ จะได้ผลลัพธ์เป็นทศนิยม จานวนบวกเสมอ
(ลบ × ลบ = บวก)
เมื่อ a และ b เป็นจานวนเต็มใด ๆ a × b = b × a
สมบัตินเ้ี รยี กวา่ สมบตั ิการสลบั ทก่ี ารคูณ (commutative property for multiplication)
74
เมือ่ a, b และ c เป็นจานวนเต็มใด ๆ (a × b) × c = a × (b × c)
สมบัตินเ้ี รยี กวา่ สมบตั ิการเปลีย่ นหมกู่ ารคูณ (assocaitive property for multiplication)
เมื่อ a และ b เปน็ จานวนเตม็ ใด ๆ แล้ว a × 0 = 0 = 0 × a
สมบัตนิ เ้ี รยี กว่า สมบตั กิ ารคูณด้วยศนู ย์
เมือ่ a และ b เปน็ จานวนเต็มใด ๆ แลว้ a × 1 = a =1 × a สมบัตนิ ี้เรียกวา่
สมบตั ิการคูณดว้ ยหน่ึง
5.4 ข้นั รวมพลังสอื่ สารและสะท้อนคิด (Communicating and Reflecting Collaboratively)
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอความรู้เพ่ิมเติมท่ีได้จากการร่วมกิจกรรม เรื่อง การหาร
ทศนิยม บอกข้อดี ข้อบกพร่อง และสิง่ ที่ตอ้ งเรียนรูเ้ พมิ่ เตมิ
5.5 ขนั้ รวมพลังประยกุ ต์และตอบแทนสงั คม (Applying and Serving Collaboratively)
5.5.1 ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด โดยการให้ทาแบบฝกึ หดั ท่ี 4.3 ข หน้าที่ 196 ขอ้ 7. ในหนังสอื เรยี น
รายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ม.1 เลม่ 1
(ชั่วโมงท่ี 2) นกั เรียนทาแบบทดสอบประจาหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ทศนยิ ม จานวน 20 ข้อ
6. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
6.1 ส่ือการเรยี นรู้
6.1.1 ใบกจิ กรรมที่ 6 เรอ่ื ง การหารทศนิยม
6.1.2 ไม้ไอติมการหาร 3 แมค่ รัว
6.1.3 หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2560 จดั ทาโดย สถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธกิ าร (สสวท.)
6.2 แหล่งการเรียนรู้
6.2.1 ห้องสมุดโรงเรียนหนองสาโรงวิทยา
6.2.2 https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/15118
75
7. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั /ประเมิน เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ วธิ ีการ เกณฑ์การประเมิน
-ถาม-ตอบ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
-หาผลลบทศนยิ มได้ -คาถาม -ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 4.3 70 ข้นึ ไป
ข หนา้ ที่ 196 ขอ้ 7.
-แบบฝกึ หดั ท่ี 4.3 ข
หน้าที่ 196 ขอ้ 7.
-ปฏบิ ัติตามใบกจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง -ใบกิจกรรมท่ี 6 เร่ือง -ตรวจใบกจิ กรรม -ถกู ต้องร้อยละ 70
การหารทศนยิ มได้ (P1) การหารทศนิยม
ท่ี 6 เรอ่ื ง การหาร ขน้ึ ไป
-แสดงความม่งุ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ
คณุ ลักษณะ ทศนิยม
อนั พงึ ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมระหวา่ ง ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั
เรยี น ดขี ้นึ ไป
76
แบบบนั ทึกการสังเกตการร่วมกจิ กรรม
เลขท่ี รายการท่ีประเมนิ ปรับปรุง สรุป
ความมงุ่ มัน่ ในการทางาน ผ่าน ไมผ่ ่าน
ดีเยย่ี ม
ดี พอใช้
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นกั เรียนมีพฤตกิ รรมการรว่ มกิจกรรมในตัง้ แต่ระดับดี ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น
แบบบันทึกการประเมนิ แบบฝกึ หัด 77
คะแนน สรปุ
ผา่ น ไม่ผา่ น
เลขที่ แบบฝกึ หดั ชนิ้ งาน ใบกจิ กรรม รวม เฉลีย่
() () ()
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
หมายเหตุ นักเรยี นไดค้ ะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน
78
บันทึกผลหลังการสอน
ผลการจัดการเรยี นรู้
ต ประสง ไก หน สามารถ บรร
กครบ วน จาก การตรวจ แบบ ง
าน 1 กรน อย ละ 100
ใน การ งาน จาก การ ใบและ น ก พฤ กรรม
ง น งเกเ ยนก แสดง ความ
านเกณ อยละ 100
ปญั หาและอุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
ไฟลงชื่อ .............ช......น......................... (ผสู้ อน)
(นายธนวิทย์ กองธรรม)
์ิ ่ ั ้ผิตึทับุตัสิท่ฑมุ่มีรัน้ร์ฑ่ผัยีป้ถ้ด์คุถัวุล์รธิน
79
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูพี่เลยี้ ง
61. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
62. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
63. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
64. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................... (ครพู ่ี
เลี้ยง)
(นางชาลสิ า สรรพโส)
.
80
ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร/ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
65. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
66. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ยงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรับปรุงและพัฒนาตอ่ ไป
67. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนาไปใช้
68. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงช่ือ..............................................................
(นายรชตพล มีช้ันช่วง)
รองผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวิทยา
81
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้อู านวยการโรงเรยี น
69. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
70. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยังไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ และพฒั นาต่อไป
71. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
นาไปใชไ้ ดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้
72. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
ลงชื่อ ............................................................
(นายเชวง ชืน่ ตา)
ผู้อานวยการโรงเรยี นหนองสาโรงวทิ ยา