The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลถ้ำทะลุ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yalajustice, 2022-12-26 21:32:08

รายงานสรุปการเรียน (Coaching Technique)

ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลถ้ำทะลุ

รายงานสรปุ การเรยี น (Coaching Techniques)

นางสุทธิดา พรหมศรียา

ศูนยย์ ตุ ธิ รรมชุมชนตา้ บลถ้าทะลุ อา้ เภอบนั นงั สตา จังหวดั ยะลา
๑๔ ถึง ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕



ค้าน้า

รายงานสรุปการเรียน (CoachingTechniques) ฉบับนี้ จัดทาขึ้นเพื่อสรุปการเรียนรู้งานเก่ียวกับ
สานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา ซึ่งในรายงานฉบับน้ีประกอบด้วยเน้ือหาเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่กระทรวงยุติธรรม
สานักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดยะลา ศูนยย์ ตุ ธิ รรมชุมชน เป็นตน้ รวมทัง้ เป็นการเพม่ิ ความรู้ ความเขา้ ใจรูปแบบแผนงาน
และกระบวนการทางานของแต่ละกลุ่มงานในสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลาอย่างถูกต้องโดยได้ศึกษาผ่านแหล่ง
ความรตู้ า่ งๆ อาทิเช่น แหลง่ ความรู้จากหนงั สือ เว็บไซต์ และความรู้จากเจา้ หนา้ ที่ในแต่ละฝาุ ย

ผู้จัดทาขอขอบคุณ ดร.อภิรัชศักด์ิ รัชนีวงศ์ ผู้อานวยการสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลาท่ีเปิดโอกาส
ให้ได้เรียนรู้ ศึกษา และขอขอบคุณเจ้าหน้าท่ีสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลาทุกท่านที่สละเวลาให้ความรู้
ให้คาปรึกษาและแนวทางการศกึ ษา

ผู้จัดหวังเป็นอย่างย่ิงว่ารายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับแนวทางด้านการบริการ
ประชาชนของสานกั งานยตุ ิธรรมจังหวัดยะลา

สุทธดิ า พรหมศรียา



สารบญั

เรอื่ ง หนา้

คานา................................................................................................................................................................ก
สารบญั .............................................................................................................................................................ข
กระทรวงยตุ ธิ รรม............................................................................................................................................๑
โครงสร้างสานกั งานยุติธรรมจงั หวดั ยะลา........................................................................................................๔
ฝุายอานวยการ................................................................................................................................................๔
กลุม่ อานวยความยุตธิ รรมและนิติการ.............................................................................................................๙
การบริการประชาชนของสานักงานยตุ ิธรรมจงั หวดั ยะลา...............................................................................๙
ยุตธิ รรมใส่ใจ..................................................................................................................................................๑๐
กองทนุ ยตุ ธิ รรม.............................................................................................................................................๑๐
พ.ร.บ.กองทนุ ยตุ ิธรรม พ.ศ.๒๕๕๘...............................................................................................................๑๑
พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผูเ้ สยี หายและค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยแก่จาเลยในคดอี าญาพ.ศ.๒๕๔๔........................๑๒
พ.ร.บ.ไกลเ่ กลีย่ ขอ้ พพิ าท พ.ศ.๒๕๖๒...........................................................................................................๑๕
กลุ่มพฒั นาและสง่ เสรมิ งานยตุ ิธรรม..............................................................................................................๑๘
คลินิกยตุ ธิ รรม...............................................................................................................................................๑๘
งาน ๕ ส.......................................................................................................................................................๑๘
การเย่ียมผูต้ อ้ งขงั ผา่ นระบบจอภาพ Video conference...........................................................................๑๙
ศูนยย์ ุติธรรมชมุ ชน.......................................................................................................................................๒๐
ภารกิจศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชน............................................................................................................................๒๐
ผังกระบวนการให้บริการของศนู ย์ยตุ ธิ รรม...................................................................................................๒๑

- ด้านการใหค้ าปรกึ ษากฎหมาย.................................................................................................๒๒
- ด้านการรับเร่ืองราวรอ้ งทุกข.์ ..................................................................................................๒๓
- การใหบ้ ริการกองทนุ ยุติธรรม.................................................................................................๒๔
- การใหค้ าช่วยเหลือทางการเงินแกผ่ ู้เสยี หายแก่ผู้เสียหายและจาเลยในคดอี าญา....................๒๕
- การไกลเ่ กล่ียประนอมขอ้ พพิ าท..............................................................................................๒๖
- การคืนคนดีสสู่ ังคม..................................................................................................................๒๗
- อา้ งองิ .....................................................................................................................................๒๘
ภาพการเข้ารว่ มชั้นเรยี นและสรุปการเรยี นในแตล่ ะวัน...............................................................................๒๙
ประวตั ิผ้จู ัดทา.............................................................................................................................................๓๐



กระทรวงยุติธรรม (Ministry of Justice)

กระทรวงยุติธรรม (Ministry of Justice) เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางประเภทกระทรวงของไทย
ก่อตั้งเมื่อ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๔ ซ่ึงมีภารกิจเป็นหน่วยงานหลักของกระบวนการยุติธรรม ในการดาเนินการ
เพื่อพัฒนากฎหมายและระบบบริหารจัดการของกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นเอกภาพ โปร่งใส คุ้มครองสิทธิ
เสรีภาพของประชาชน ช่วยเหลือและให้ความรู้แก่ประชาชนทางกฎหมายปูองกัน ปราบปราม แก้ไข ฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งปูองกัน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมในสังคมและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
การฟ้นื ฟกู จิ การของลกู หนี้ การบงั คบั คดแี พง่ บงั คบั คดีล้มละลาย บังคับคดีทางอาญา บาบดั แกไ้ ขฟืน้ ฟู ผกู้ ระทาผดิ

ส่วนราชการในสังกัดของกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย (๑) สานักงานรัฐมนตรี (๒) สานักงาน
ปลัดกระทรวงยุตธิ รรม (๓) กรมบังคับคดี (๔) กรมคุมประพฤติ (๕) กรมราชทัณฑ์ (๖) กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(๗) กรมคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรีภาพ (๘) กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (๙) สานักงานกิจการยุติธรรม
(๑๐) สถาบนั นิติวทิ ยาศาสตร์

หน่วยงานในบังคับบัญชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สานักงานคณะกรรมการปูองกัน
และปราบปรามยาเสพติด (สานักงาน ป.ป.ส.) องค์การมหาชน (๑) สถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่งประเทศไทย
(องค์การมหาชน) เป็นองค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ (๒) สถาบัน
อนญุ าโตตุลาการเปน็ องคก์ ารมหาชนตามพระราชบัญญตั ิเฉพาะ

หนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงยตุ ธิ รรม จังหวดั ยะลา

๑. สา้ นกั งานยุตธิ รรมจงั หวดั
อานาจหน้าที่ของสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสานักงาน

ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๒ ข้อ ๑๘ สานักงานยุติธรรมจังหวัด ๑ – ๑๘ มีอานาจและหน้าที่
ดงั ต่อไปน้ี

๑. จัดทาแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงยุติธรรมในระดับจังหวัดให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา
จังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจาปี
ของกลุ่มจังหวดั รวมท้งั คาของบประมาณจงั หวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด

๒. พัฒนาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในภารกิจของกระทรวงยุติธรรม ศูนย์ยุติธรรม
ชมุ ชนและเครอื ข่ายกระทรวงยตุ ิธรรม

๓. ดาเนินงานกองทุนยุติธรรมและงานช่วยเหลือประชาชนท่ีตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม รวมทั้ง
จาเลยท่ีถูกดาเนินคดีอาญาโดยมิไดเ้ ปน็ ผู้กระทาความผิดตามกฎหมายวา่ ด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน
และค่าใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญาในระดับจังหวัด เพ่ือให้เกิดการอานวยความยุติธรรม และลดความเหลื่อมล้า
ในการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชน ดาเนินงานเก่ียวกับงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหาร
งานยตุ ิธรรมและคณะอนุกรรมการทค่ี ณะกรรมการดงั กลา่ วแต่งตั้ง

๔. ดาเนินงานเกี่ยวกับงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัดและ
คณะอนกุ รรมการท่คี ณะกรรมการดังกลา่ วแต่งต้ัง

๕.ปฏิบตั ิงานรว่ มกบั หรอื สนับสนุนการปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องหรือทไ่ี ด้รบั มอบหมาย



งานบริการประชาชนของสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา และสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา
สาขาเบตง ดังนี้ (๑) สร้างการรับรู้กฎหมาย (๒) ให้คาปรึกษากฎหมาย (๓) คุ้มครองพยานในคดีอาญา
(๔) ไกล่เกล่ียระงับข้อพิพาท (๕) รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ (๖) ช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลย
ในคดีอาญา (๗) ให้บริการกองทุนยุติธรรม เช่น ค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดี เงินประกันตัว (๘) เบิกจ่ายเงินรางวัล
และค่าใชจ้ า่ ยในชนั้ สอบสวนคดีอาญา

มีศูนย์ยุติธรรมชุมชนท่ีรับผิดชอบ ประกอบด้วย ศูนย์เก่า (ศูนย์ที่จัดต้ังโดยภาคประชาชน)
จานวน ๒๐ ศนู ย์ และศูนยใ์ หม่ (ศูนย์ทตี่ ัง้ โดยการจัดทา MOU ณ อปท.) จานวน ๖๓ ศูนย์

๒. สา้ นักงานคมุ ประพฤติจังหวัดยะลา
มีภารกิจหลักในการแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทาผิด เพ่ือปรับเปล่ียนพฤติกรรม โดยมีพนักงานคุมประพฤติ

คอยดูแลภายใต้การช่วยเหลือของชุมชนท่ีจะเข้าร่วมรับผิดชอบในการปูองกันอาชญากรรมและการแก้ไขฟื้นฟู
คอยดูแลภายใต้การช่วยเหลือของชุมชนที่จะเข้าร่วมรับผิดชอบในการปูองกันอาชญากรรมและการแก้ไขฟื้นฟู
ผ้กู ระทาผิดเพ่อื คนื คนดีส่สู ังคม
ภารกิจงานคมุ ประพฤติ

๑. งานสืบเสาะและพินิจ เป็นกระบวนการแสงหาข้อเท็จจริงเก่ียวกับประวัติภูมิหลังทางสังคม
ของผ้กู ระทาผดิ และสภาพความผดิ และสาเหตุอนื่ อันควรปรานกี ่อศาลมีคาพิพากษา

๒. งานควบคุมและสอดส่อง เป็นกระบวนการติดตามดูแล ให้คาแนะนา และช่วยเหลือผู้กระทา
ผิดท่ีอยู่ระหว่างการคุมประพฤติ โดยมีคนจากกรมคุมประพฤติเป็นผู้ควบคุมดูแลตามสภาพปัญหา
และความต้องการรายบุคคล แบ่งออกเป็น (๑) ผู้กระทาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ซ่ึงรอ
การกาหนดโทษหรือรอการลงโทษและกาหนดเง่ือนไชเพื่อความควา มประพฤติผู้กระทาผิดน้ัน
(๒) นักโทษในเรือนจาท่ีได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ได้รับการพักการลงโทษหรือลดวันต้องโทษและเข้ามาอยู่
ในความดแู ลของกรมคุมประพฤติ

๓. งานตรวจพิสูจน์และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ รัฐบาลมีนโยบายว่า ผู้เสพ/ผู้เสพติดยาเสพติดเป็นผู้ปุวย ที่จาเป็นต้องได้รับการดูแล
รักษา บาบดั ฟื้นฟฯู อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมแทนการลงโทษทางอาญา จึงตรา พ.ร.บ.นี้ข้ึน เพ่ือผู้เสพ/ผู้ตดิ ยาเสพติด
จะได้รับการดูแล บาบัดฟ้ืนฟูฯ ในฐานะผู้ปุวย ในระหว่างการบาบัดฟ้ืนฟูฯ โดยพนักงานอัยการจะชะลอฟูองคดี
ไว้ก่อนเพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีมีความผิดได้รับโอกาสเข้ารับบาบัดฟ้ืนฟูก่อนและเมื่อผ่านการบาบัดฟื้นฟูฯแล้วผลการ
ฟื้นฟูเป็นที่พอใจจากคณะอนุกรรมการฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ก็จะไม่ถูกดาเนินคดีใน ทางอาญา
และพน้ สภาพผู้กระทาผดิ ไมม่ ีคดีอาญาติดตวั

๓. สถานพนิ จิ เด็กและเยาวชนจงั หวดั ยะลา

มีภารกจิ เกยี่ วกับการพนิ ิจเดก็ และเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและการคุ้มครอง
ผู้เยาว์ในคดคี รอบครัว โดยการแก้ไข บาบัด ฟื้นฟกู ารสงเคราะห์เด็กและเยาวชนและการกากับการปกครองเพ่ือให้
เด็กและเยาวชนสามารถกลับเข้าสู่ครอบครัวดาเนินชีวิตโดยปกติในสังคมและผู้เยาว์ได้รับการคุ้มครอง
สวสั ดภิ าพรวมท้งั ปูองกนั เด็กและเยาวชนในการกระทาความผิด โดยให้มหี นา้ ทแี่ ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) สบื เสาะและพนิ จิ ขอ้ เทจ็ จรงิ และส่ิงแวดล้อมเกี่ยวกับเดก็ และเยาวชน และบุคคลอ่ืนแล้วจัดทา
รายงานและความเห็นเก่ียวกับสาเหตุแห่งการกระทาผิดแล้วส่งรายงานให้พนักงานสอบสวนเพ่ือเสนอพนักงาน
อัยการพิจารณาส่ังฟูองหรือไม่ฟูอง เมื่อมีการฟูองคดีต่อศาลให้ส่งรายงานพร้อมความเห็นเก่ียวกับการลงโทษหรือ
ใช้วิธีการสาหรับเดก็ และเยาวชนต่อศาลเยาวชนและครอบครัว



(๒) ดาเนินการและประสานงานร่วมกับหน่วยงานและองค์กรอ่ืนในการสงเคราะห์ แก้ไข
และบาบัดฟ้ืนฟูเด็กหรือเยาวชน

หลังพิพากษา
ในกรณีศาลมีคาพิพากษาหรือคาสั่งให้เด็กและเยาวชนรับการฝึกอบรม เด็กและเยาวชน
จะถูกส่งไปรับการฝึกอบรมยังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนซึ่งในการอบรมจะมีการประเมินและจัดทาแผน
การฝึกอบรมให้เหมาะสมแก่เด็กหรือเยาวชนแต่ละราย ทั้งน้ีศาลอาจจะกาหนดระยะเวลาการฝึกอบรมข้ึนต่า
และข้ันสูงไว้ก็ได้ หากเด็กและเยาวชนรายนั้นมีผลการฝึกอบรมก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์หรือได้ทาความชอบ
เป็นพิเศษให้ได้รับประโยชน์ คือ เล่ือนช้ัน ลาเย่ียมบ้าน ลดวันฝึกอบรม หรือพักการฝึกอบรมนอกจากนี้หากผ่าน
หลักสูตรการฝึกอบรมศาลอาจมีคาสั่งให้ปล่อยตัวไปก่อนกาหนดครบระยะเวลาขั้นต่าได้ หากเด็กและเยาวชน
ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ ไม่ต้ังใจรับการฝึกอบรมหลบหนีหรือพยายามหลบหนี หรือกระทาการอนั ก่อให้เกิด
ความเดือดร้อน ราคาญ หรือขัดต่อความสงบสุขของเด็กและเยาวชนอ่ืนหรือก่อความไม่สงบเรียบร้อยในศูนย์ฝึก
และอบรม ต้องถูกตัดประโยชน์หรืออาจจะต้องอยู่รับการฝึกอบรมไปจนกว่าจะครบขึ้นสูงหรือศาลอาจให้เพิ่ม
ระยะเวลาการฝกึ อบรมได้

๔. ศนู ย์ฝึกและอบรมเดก็ และเยาวชนเขต ๙
เป็นหน่วยงานราชการสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม มีภารกิจ

ในการบาบัดดูแลรักษา พัฒนา แก้ไขฟ้ืนฟู ตลอดจนให้การสงเคราะห์แก่เด็กและเยาวชนซ่ึ งศาลเยาวชน
และครอบครัว รวมทั้งศาลอ่ืนในเขต ๙ (๗ จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง : จังหวัดสงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี
นราธิวาส และยะลา) ได้มีคาพิพากษาฐานะความผิดต่างๆ และให้ส่งตัวมารับการฝึกและอบรมระยะเวลาหน่ึง
เพือ่ ใหเ้ กิดความสานกึ และเปลยี่ นแปลงพฤติกรรมไปในทางทถี่ กู ท่คี วร มภี ารกจิ หลัก ๕ ด้าน คอื (๑) ด้านการบาบัด
แกไ้ ขฟ้ืนฟเู ดก็ และเยาวชน (๒) ดา้ นการเรียนการสอน (๓) ดา้ นการฝึกงานและจ้างงาน (๔) ดา้ นการกากบั ติดตาม

โดยมีวตั ถุประสงค์
๑.เพ่ือให้เด็กและเยาวชนรับการสนับสนุนจากเครือข่ายในด้านการศึกษา การแก้ไขบาบัดฟ้ืนฟู
และการฝกึ งานและจ้างงานตามสภาพความเป็นจริง
๒. เด็กและเยาวชนท่ีอยู่ในระยะเตรียมปล่อยตัวจากศูนย์ฝึกและอบรมมีเครือข่ายมารองรับ
ในดา้ นการศึกษาตอ่ และการประกอบอาชีพ
๓. เด็กและเยาวชนได้รับการกากับติดตามช่วยเหลือตามสภาพความต้องการจากเครือข่าย
ภายหลังได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต ๙ มีภารกิจท้ัง ๔ ดา้ น (ด้านการบาบัดแก้ไข
ฟื้นฟเู ดก็ และเยาวชน ด้านการเรียนการสอน ดา้ นการฝึกงานและจ้างงาน และด้านการกากับติดตาม) เพื่อประสาน
สนบั สนุนจากศูนย์ยตุ ิธรรมชุมชนจังหวัดยะลาในการดแู ลเด็กและเยาวชนที่มีภมู ิลาเนาในจงั หวดั ยะลา

๕. ส้านักงานบังคบั คดจี ังหวัดยะลา
มีอานาจหนา้ ที่ดงั ต่อไปนี้
(๑) การบงั คบั คดแี พง่ และการวางทรัพย์ในจังหวดั
(๒) การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในช้ันบังคับคดี งานที่ดาเนินการ เช่น การขายทอดตลาดทรัพ ย์

โครงการไกล่เกล่ียทั่วไทยร่วมใจช่วยเหลือลูกหน้ีท่ีได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙)
โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพงานยุติธรรมเพ่ือการสร้างความเป็นธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหกรรมไกล่
เกลี่ยหนบี้ ตั รเครดติ และสินเชอื่ ส่วนบุคคล



๖. เรอื นจา้ กลางยะลา
อานาจหน้าทีก่ รมราชทณั ฑ์ ไดแ้ ก่
(๑) ปฏิบัติต่อผู้กระทาผิดให้เป็นไปตามคาพิพากษาหรือคาสั่งตามกฎหมายโดยดาเนินการตาม

กฎหมายว่าด้วยการราชทัณฑ์และกฎหมายอืน่ ที่เก่ียวขอ้ ง
(๒) กาหนดแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังโดยให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย

ของกระทรวงหลักอาชญาวิทยาและหลักทัณฑวิทยาตลอดจนข้อกาหนดมาตรฐานข้ันต่าสาหรับปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง
และข้อเสนอแนะในเรือ่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งของสหประชาชาติ

(๓) ดาเนนิ การเก่ียวกบั สวัสดิภาพและการสงเคราะหแ์ ก่ผู้ต้องขงั
(๔) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่กระทรวงหรือ
คณะรฐั มนตรมี อบหมาย

หน่วยงานราชการสงั กัดส่วนราชการภูมิภาคในระดบั อา้ เภอ คือ
๑. เรอื นจาอาเภอเบตง
๒. สานกั งานบังคบั คดีจังหวดั ยะลา สาขาเบตง
๓. สานักงานยตุ ธิ รรมจังหวัดยะลา สาขาเบตง

โครงสร้างของส้านกั งานยตุ ธิ รรมจงั หวดั ยะลา

สานักงานยุติธรรมจังหวดั ยะลา

ฝ่ายอานวยการ กล่มุ อานวยความยุตธิ รรม กลุ่มพัฒนาและส่งเสรมิ
และนติ กิ าร ระบบงานยุตธิ รรม

๑. ฝา่ ยอ้านวยการ
มีหน้าที่ความรับผิดชอบเก่ียวกับงานเลขานุการของยุติธรรมจังหวัด งานธุรการทั่วไป

งานบริหารงานบุคคล งานการเงิน งานงบประมาณ งานพัสดุ อาคารสถานที่และยานพาหนะ งานประสัมพันธ์
งานศูนย์บริการข้อมูลกระทรวงยุติธรรม งานประสานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวง
ยุติธรรมที่ไม่มีหน่วยงานในจังหวัด งานกรรมการจังหวัดในฐานะผู้แทนกระทรวงยุติธรรม งานสนับสนุนการตรวจ
ราชการของกระทรวงยตุ ิธรรมและส่วนราชการสงั กัดกระทรวงยตุ ิธรรม

งานทฝี่ าุ ยอานวยการต้องรบั ผดิ ชอบ มดี ังนี้
งานสารบรรณ ได้แก่
๑. งานรบั -สง่ และลงทะเบียนหนงั สอื ราชการ
๒. งานคดั แยกหนังสือและการเสนอหนังสอื
๓. งานร่างโตต้ อบหนงั สอื ราชการ
๔. งานเก็บรักษา ยมื และทาลายหนงั สอื ราชการ
๕. งานแจ้งเวียนหนังสือราชการ คาส่ัง ประกาศ ให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อ
ถือปฏิบัติ



๖. งานคน้ หาเอกสารตา่ งๆ ใหก้ บั งานต่างๆ ในฝุาย/กลุ่ม
๗. งานลงเวลาและตรวจสอบการปฏบิ ตั ริ าชการ
๘. งานเดนิ หนังสือ
๙. การจัดทาคาส่ังเวรรกั ษาการณ์
งานเอกสารการพิมพ์ ได้แก่
๑. การพมิ พ์หนงั สือราชการ
๒. การพิมพแ์ บบฟอร์มต่างๆ
๓. การทาสาเนาหนงั สอื เชน่ ถ่ายเอกสาร อัดสาเนา
๔. การเรียบเรยี งและจดั ทารปู เลม่
๕. การจัดพิมพ์คาส่ัง
งานประชุม ไดแ้ ก่
๑. การจดั ทาหนังสือเชิญประชมุ และเชญิ ประชุม
๒. การประสานดา้ นสถานที่และอาหารในการประชมุ
๓. การจดั เตรียมเอกสารในการประชุม
๔. การบันทกึ การประชุม
๕. การจดั ส่งรายงานกรประชุม
งานประชาสมั พันธ์ ไดแ้ ก่
๑. การนาเสนอขอ้ มูลขา่ วสารผา่ นเฟสบุ๊ค line
๒. การประสานงานกับหน่วยงานภายในและภายนอกในการประชาสมั พันธ์
งานพสั ดุ ได้แก่
๑. งานประสานการจดั ซ้ือจดั จ้าง
๒. งานทะเบยี นคุมพสั ดแุ ละรายงานการเบิกจา่ ยพัสดุ
๓. งานเบิกจา่ ยพสั ดุ
งานการเงนิ ได้แก่
๑. การเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ ของสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา เช่น ค่าพัสดุ ค่าจ้าง
และคา่ ตอบแทน
๒. การเบิกจา่ ยค่าตอบแทนอ่นื ๆที่เกี่ยวข้อง
งานงบประมาณ ไดแ้ ก่
๑. การจดั ทาคาขอตั้งงบประมาณ
๒. การจดั ทาแผนการใช้จ่าย
๓. การควบคุม ดูแลและกากับการเบกิ จ่ายงบประมาณ
งานบคุ คล ไดแ้ ก่
๑. การบริหารและพัฒนาระบบบริหารทรพั ยากรบคุ คลของสานักงานยุติธรรมจังหวดั ยะลา
๒. การเล่อื นข้นั เงินเดือน
๓. การสรรหา บรรจุ แตง่ ตง้ั โอน ยา้ ยสับเปลี่ยนและการให้ออกจากราชการ
๔. จัดทาทะเบียนประวัติและข้อมลู บุคคล
๕. การประเมินประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลการปฏบิ ัติงาน
๖. การพจิ ารณาบาเหนจ็ ความชอบเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์
๗. การเกษยี ณอายุ บาเหน็จบานาญ สิทธิทดแทน
๘. การดาเนินการทางวนิ ยั และพทิ ักษร์ ะบบคณุ ธรรม



งานสารบรรณ
“งานสารบรรณ” หมายถึง งานท่ีเกี่ยวกับการบริหารงานเอกสาร เร่ิมต้ังแต่ การจัดทา การรับ

การสง่ การเกบ็ รกั ษา การยืม จนถงึ การทาลาย
“หนงั สอื ” หมายถึง หนังสือราชการ
“อิเล็กทรอนิกส์” หมายถึง การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟูา คลื่นแม่เหล็กไฟฟูา

หรือวิธีอ่ืนใดในลักษณะคล้ายกันและให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก
หรอื อปุ กรณท์ ี่เก่ียวข้องกับการประยุกตใ์ ช้วิธตี ่างๆ

“ระบบสารบรรณอิเลก็ ทรอนิกส์” หมายถึง การรับส่งข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือผ่านระบบส่ือสาร
ด้วยวิธีการทางอเิ ล็กทรอนิกส์

“ส่วนราชการ” หมายความวา่ กระทรวง ทบวง กรม สานักงาน หรือหน่วยงานอืน่ ใดของรัฐท้ังใน
ราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภูมิภาค ราชการบริหารส่วนท้องถ่ิน หรือในต่าง ประเทศ
และใหห้ มายความรวมถงึ คณะกรรมการด้วย

“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะบุคคลท่ีได้รับมอบหมายจากทางราชการให้ปฏิบัติงาน
ในเรื่องใดๆ และให้หมายความรวมถึงคณะอนุกรรมการ คณะทางาน หรือคณะบุคคลอ่ืนท่ีปฏิบัติงานในลักษณะ
เดียวกนั

หนังสือเวียน คือ หนังสือที่มีถึงผู้รับเป็นจานวนมากมีใจความอย่างเดียวกันให้เพ่ิมรหัส
ตวั พยัญชนะ ว หน้าเลขทะเบียนหนังสือส่ง ซึ่งกาหนดเป็นเลขที่หนังสือเวียนโดยเฉพาะ เร่ิมต้ังแต่เลข ๑ เรียงเป็น
ลาดับไปจนถงึ สิ้นปีปฏทิ ิน หรือใช้เลขท่ีของหนังสือทั่วไปตามแบบหนังสือภายนอกอย่างหนึ่งอย่างใด เม่ือผู้รับไดร้ ับ
หนังสือเวียนแล้วเห็นว่าเรื่องนั้นจะต้องให้หน่วยงานหรือบุคคล ในบังคับบัญชาในระดับต่างๆ ได้รับทราบด้วยก็ให้
มหี น้าท่ีจัดทาสาเนาหรอื จัดสง่ ให้หน่วยงาน หรือบคุ คลเหลา่ นนั้ โดยเรว็

ชนดิ ของหนังสอื ราชการ
หนงั สือราชการ มี ๗ ชนิด คอื
๑. หนังสือภายนอก คือ หนังสือติดต่อราชการที่เป็นแบบพิธีโดยใชก้ ระดาษตราครุฑ เปน็ หนังสือ

ตดิ ต่อระหว่างส่วนราชการหรอื สว่ นราชการมีถงึ หนว่ ยงานอนื่ ใดซึ่งมใิ ชส่ ว่ นราชการหรอื ทม่ี ีถงึ บุคคลภายนอก
๒. หนังสือภายใน คือ หนังสือติดต่อราชการท่ีเป็นแบบพิธีน้อยกว่าหนังสือภายนอกเป็นหนังสือ

ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวัดเดยี วกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึกข้อความ
๓. หนังสือประทับตรา คือ หนังสือที่ใช้ประทับตราแทนการลงช่ือของหัวหน้าส่วนราชการ

ระดับกรมข้ึนไปโดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
ขึน้ ไปเปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบลงชอื่ ยอ่ กากบั ตรา

๔. หนังสือส่ังการ มี ๓ ชนดิ ได้แก่
๔.๑. คาสั่ง คือ บรรดาข้อความที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย

ใชก้ ระดาษตราครุฑ
๔.๒. ระเบียบ คือ บรรดาข้อความท่ีผู้มีอานาจหน้าท่ีไดว้ างไว้โดยจะอาศัยอานาจของกฎหมาย

หรอื ไม่กไ็ ดเ้ พอ่ื ถือเป็นหลกั ปฏบิ ัติงานเป็นการประจาใชก้ ระดาษตราครุฑ
๔.๓. ข้อบังคับ คือ บรรดาข้อความที่ผู้มีอานาจหน้าท่ีกาหนดให้ใช้โดยอาศัยอานาจของ

กฎหมายทบ่ี ญั ญตั ใิ ห้กระทาได้ ใชก้ ระดาษตราครุฑ



๕. หนังสอื ประชาสมั พนั ธ์ มี ๓ ชนดิ ไดแ้ ก่
๕.๑ ประกาศ คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการประกาศหรือช้ีแจงให้ทราบหรือแนะแนวทาง

ปฏบิ ตั ใิ ช้กระดาษตราครฑุ
๕.๒ แถลงการณ์ คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการแถลงเพ่ือทาความเข้าใจในกิจการของทาง

ราชการ หรอื เหตุการณห์ รอื กรณีใดๆ ใหท้ ราบชัดเจนโดยทวั่ กัน ใชก้ ระดาษตราครุฑ
๕.๓ ขา่ ว คือ บรรดาข้อความทีท่ างราชการเหน็ สมควรเผยแพร่ใหท้ ราบ

๖. หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทาขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ คือ หนังสือที่ทางราชการทาขึ้น
นอกจากท่ีกล่าวมาแล้วข้างต้น หรือหนังสือที่หน่วยงานอื่นใดซ่ึงมิใช่ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอก
มมี าถึงส่วนราชการและส่วนราชการรับไว้เป็นหลกั ฐานของทางราชการมี ๔ ชนดิ คือ

๖.๑ หนังสือรับรอง คือ หนังสือท่ีส่วนราชการออกให้เพื่อรับรองแก่บุคคล นิติบุคคล
หรือหน่วยงานเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดให้ปรากฏแก่บุคคลโดยท่ัวไป ไม่จาเพาะเจาะจง
ใช้กระดาษตราครฑุ

๖.๒ รายงานการประชุม คือ การบันทึกความคิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมและมติ
ของทปี่ ระชมุ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน

๖.๓ บันทึก คือ ข้อความซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอต่อผู้บังคับบัญชาหรือผู้บังคับบัญชาสั่งการ
แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือข้อความที่เจ้าหน้าท่ีหรือหน่วยงานระดับต่ากว่าส่วนราชการระดับกรมติดต่อกันใน
การปฏบิ ตั ริ าชการโดยปกติให้ใชก้ ระดาษบันทกึ ข้อความ

๖.๔ หนังสืออ่นื คือ หนังสือหรือเอกสารอ่ืนใดท่ีเกิดข้ึนเนื่องจากการปฏิบัตงิ านของเจ้าหน้าท่ี
เพอื่ เป็นหลักฐานในราชการซึ่งรวมถึงภาพถา่ ย ฟิลม์ แถบบันทกึ เสียง แถบบนั ทึกภาพและสื่อกลางบันทึกข้อมูลด้วย
หรือหนังสือของบุคคลภายนอกท่ีย่ืนต่อเจ้าหน้าท่ีและเจ้าหน้าท่ีได้รับเข้าทะเบียนรับหนังสือของทางราชการ
แล้วมีรูปแบบตามที่กระทรวง ทบวง กรม จะกาหนดข้ึนใช้ตามความเหมาะสม เว้นแต่มีแบบตามกฎหมายเฉพาะ
เรอื่ งให้ทาตามแบบ เช่น โฉนด แผนท่ี แบบ แผนผัง สัญญา หลักฐาน การสบื สวนและสอบสวน และคาร้อง เป็นต้น

๗. หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Book)
E-Book ย่อมาจากคาวา่ Electronic Book หมายถึง หนงั สือท่สี รา้ งข้ึนด้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็นแฟูมข้อมูลท่ีสามารถอ่านเอกสารผ่านทาง
หนา้ จอคอมพวิ เตอร์ ทงั้ ในระบบออฟไลน์ และออนไลน์
คุณลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถเช่ือมโยงจุดไปยังส่วนต่างๆ ของหนังสือ เว็บไซต์
ตา่ งๆ ตลอดจนมีปฏิสัมพันธแ์ ละโต้ตอบกับผู้เรียนได้ นอกจากน้ันหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง
ภาพเคล่ือนไหว แบบทดสอบและสามารถส่ังพิมพ์เอกสารที่ต้องการออกทางเครื่องพิมพ์ได้ อีกประการหนึ่ง
ท่ีสาคัญคือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้ตลอดเวลาซ่ึงคุณสมบัติเหล่าน้ีจะไม่มีในหนังสือ
ธรรมดาท่ัวไป

ประเภทของหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีการจัดเก็บข้อมูลอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง
ภาพเคล่ือนไหว ซงึ่ แบง่ ออกได้หลายประเภทตามคณุ สมบตั ิดงั นี้
๑. Text books บรรจุข้อมูลในรูปตัวหนังสือในลักษณะเชิงเส้นตรงซ่ึงใช้ในการค้นหา
โดยเครื่องมือช่วยสบื ค้น (search engine) หรอื ใช้ browser
๒. Picture books บรรจภุ าพนง่ิ ชนิดต่างๆ ซึง่ ไม่มเี สยี ง
๓. Talking books เป็นหนังสือที่มีเสียงพูด เสียงบรรยาย ดนตรีและเสียงประกอบเพ่ือประกอบ
การนาเสนอขอ้ มูลซึง่ นิยมใชใ้ นกลุ่มผสู้ ญู เสยี การมองเห็น



๔. Moving picture books บรรจุภาพเคล่ือนไหวต่างๆ ซึ่งอยู่บนฐานของเทคนิคภาพเคล่ือนไหว
หรือวดี โี อ

๕. Multimedia books เป็นหนังสือท่ีประกอบไปด้วยส่ือ 3 ส่วนคือ ข้อความ เสียงและรูปภาพ
ซ่ึงเป็นลกั ษณะของหนงั สือสอื่ ประสม

๖. Polymedia books จะใช้ส่ือท้ังแบบอิเล็กทรอนิกส์และไม่ใช่อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน
เชน่ กระดาษ และซีด–ี รอม

๗. Hypermedia books ลักษณะคล้ายกับ Multimedia books ข้อมูลมีลักษณะไม่เป็นเส้นตรง
มีการเชื่อมโยงข้อมูลโยงใยเปน็ เครือข่ายทซ่ี บั ซอ้ น

๘. Intelligent electronic books เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการวิเคราะห์พฤติกรรม
และความตอ้ งการของผู้ใช้เพ่ือปรับให้เหมาะท่ีจะปฏิสัมพันธ์กับผใู้ ชแ้ ต่ละคน

๙. Telemedia books เป็นหนังสือท่ีสร้างเพื่อความสะดวกในการติดตอ่ เกี่ยวกับการส่งข้อความ
หรอื ปรบั ปรงุ ข้อมูลให้ทนั สมัย

๑๐. Cyber books บรรจุข้อมูลในลักษณะเสมือนจริงไว้ เพ่ือทดลองปฏิบัติการ เช่น ห้องฝึกงาน
ของช่างเครื่อง เปน็ ต้น ซ่ึงจะเป็นการเตรียมประสบการณใ์ ห้ผู้อา่ นในส่งิ ที่สนใจ

งานการเงนิ การบญั ชี
ความรู้เรื่องงบประมาณแผ่นดิน คือ เงินของแผ่นดินที่กฎหมายอนุญาตให้รัฐบาลนาไปใช้จ่าย

ในการบริราชการแผ่นดิน และรวมทั้งท่ีองค์กรอื่นๆของรัฐนาไปใช้จ่ายตามอานาจหน้าที่และภารกิจท่ีกาหนด
ไว้ในรัฐธรรมนูญ งบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินน้ีได้มาจากเงินภาษีอากรของประชาชน โดยผ่านความเห็นชอบ
จากตัวแทนของประชาชนคือรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาผู้แทนราษฎรก่อน ด้วยเหตุน้ีรัฐธรรมนูญ
จึงได้มีการบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ งบประมาณรายจ่ายเป็นจานวนเงินที่อนุญาตให้จ่าย
หรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ซึ่งตามบทบัญญัติแห่งพระราบัญญัติวิธีงบประมาณ มาตรา ๔ กาหนดหลักการของงบประมาณแผ่นดินและการ
จัดทางบประมาณดงั นี้

๑. งบประมาณรายจ่ายเป็นอานาจการใช้จ่ายเงินแผ่นดินของรัฐบาลได้อนุญาตให้ไว้ในรูปแบบ
ของพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี ซ่ึงรัฐบาลกระทาภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ในระยะเวลา
ทก่ี ฎหมายกาหนดหรืออนญุ าตไว้ เท่าน้ัน

๒. การใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี จะกระทาได้เฉพาะ
ภายในงบประมาณน้ันๆ เม่ือล่วงพันปีงบประมาณไปแล้วจะไม่ถือเป็นการจ่ายเงินในระบบงบประมาณแผ่นดิน
กล่าวคือ ตอ้ งนาสง่ คลงั เว้นแตจ่ ะได้ดาเนนิ การโดยวิธีการกนั เงินไวเ้ บกิ เหลอื มข้ามปตี ามวธิ ีการท่ีกฎหมายบัญญตั ิไว้

ประเภทของงบประมาณแผน่ ดิน แบง่ ได้ดังน้ี
๑. งบประมาณสมดุล (Balance Budget) หมายถึง งบประมาณท่ีรายได้ของรัฐบาลรวมกันแล้ว
เท่ากบั รายจ่ายของรฐั บาลพอดี ดงั นน้ั รัฐบาลไมจ่ าเปน็ ตอ้ งกเู้ งนิ มาใช้จ่ายหรอื นาเงินคงคลังออกมาใช้
๒. งบประมาณไม่สมดลุ (Unbalanced Budget) หมายถึง งบประมาณท่ีรายได้ของรัฐบาล
ไม่เท่ากับรายจ่ายของรัฐบาล ถ้ารายได้ของรัฐบาลสูงกว่ารายจ่ายของรัฐบาลเรียกว่า งบประมาณเกินดุล
(Surplus Budget) ซง่ึ รฐั บาลจะมีรายได้เหลือจากการใชจ้ า่ ย เงนิ คงคลังของรัฐบาลจะเพ่มิ ขึ้น ถ้ารายได้ของรัฐบาล
ต่ากว่ารายจ่ายของรัฐบาล เรียกว่า งบประมาณขาดดุล (Deficit Budget) ซึ่งรัฐบาลจะต้องกู้เงิน หรือนาเงิน
คงคลังออกมาใช้จา่ ย



หลกั การจา้ แนกประเภทรายจา่ ยตามงบประมาณ จาแนกออกเปน็ ๒ ลักษณะ ได้แก่
๑. รายจ่ายของส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ
๒. งบรายจา่ ยกลาง

๒. กลมุ่ อา้ นวยความยตุ ิธรรมและนติ ิการ
รับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมายและกระบวนการ

ยุติธรรม งานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน งานเสริมสร้างความเป็นธรรมและอานวยความยุติธรรม
ที่ได้รับมอบหมาย การให้คาปรึกษากฎหมาย การรับเรื่องราวร้องทุกข์ การไกล่เกล่ียประนีประนอมข้อพิพาท
กองทนุ ยุติธรรม บนั ทกึ ข้อมลู เข้าส่รู ะบบกรมคมุ้ ครองสิทธิแ์ ละเสรีภาพ เชน่ การช่วยเหลอื ประชาชนทางกฎหมาย
คือ ให้คาปรึกษากฎหมาย ร้องเรียนเร่ืองราวร้องทุกข์ ส่งเสริมสิทธิผู้ต้องหาในการสอบสวนคดีอาญาติดตาม
ค่าตอบแทนผเู้ สยี หายหรือค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายจาเลย

การอานวยความสะดวกในเรื่องความเป็นธรรมในสังคมส่ิงที่สาคัญคือต้องมีสานสัมพันธ์ท่ีดี
ทาตัวให้เล็กกว่าชาวบ้านและจับมือร่วมมือกับผู้นาชุมชนเปรียบตัวเองให้เหมือนถังขยะสามารถรับรู้เร่ืองราว
ทุกอยา่ งที่ชาวบ้านขอความชว่ ยเหลือและร้องทุกข์

การบรกิ ารประชาชนของสา้ นกั งานยุติธรรม
การร้องเรียน/ร้องทุกข์ คือทุกเรื่องราว ท่ีประชาชนเดือดร้อน บอกเล่าต่อหน่วยงานรัฐเพื่อขอให้

ช่วยเหลือ แก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงอันเน่ืองมาจากการได้รับความเดือดร้อนความ
ไมเ่ ป็นธรรม สามารถมาร้องเรยี นต่อหน่วยงานได้

ศูนยร์ อ้ งเรยี นรอ้ งทกุ ข์ มี ๒ ศูนย์
๑. ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดของกระทรวงมหาดไทยสามารถร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านผู้นาชุมชน
กานัน ผใู้ หญ่บ้าน เป็นต้น
๒. สานักงานยุติธรรมจังหวัด ช่องทางการติดต่อสามารถติดต่อทางจดหมาย ติดต่อด้วยตนเอง
ทสี่ านกั งาน โทรศัพท์ โทรสาร ซ่ึงปัจจุบันสามารถร้องเรียนร้องทกุ ข์ผ่าน App justice care
แนวปฏบิ ตั ิการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ได้แก่
๑. ประชาชนมาขอรับบรกิ าร
๒. สอบถามขอ้ เทจ็ จริงบนั ทึกในแบบฟอร์มของใบคาขอใช้ระยะเวลา ๓๐ นาที
๓. ลงทะเบยี นของผ้ขู อรับบรกิ าร ระยะเวลา ๑๐ นาที
๔. หัวหน้ากล่มุ งานมอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีผูร้ บั ผิดชอบระยะเวลา ๒ วนั
๕. แสวงหาข้อเทจ็ จริง หาข้อมูลและเอกสารท่เี กย่ี วข้องเพิ่มเตมิ ระยะเวลา ๑๐ วัน
๖. ทาความเห็นเสนอยตุ ิธรรมจงั หวัดระยะเวลา ๒ วัน
๗. พิจารณา
๘. ดาเนินการประสานหน่วยงานท่ีเกยี่ วข้อง
๙. ออกหนังสือประสานหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งระยะเวลา ๒ วัน
๑๐. หน่วยงานท่ีเกยี่ วขอ้ งประสานตอบกลับระยะเวลา ๑๕ วนั
๑๑. ทาหนงั สือแจ้งผลผ้รู อ้ งระยะเวลา ๒ วัน

๑๐

ยุติธรรมใส่ใจ (Justice Care) คือ แนวทางการดาเนินงานเชิงรุกท่ีกระทรวงยุติธรรมได้จัดทา แนวทางการ
ช่วยเหลอื เหย่ือ ผู้เสยี หาย และผู้ไมไ่ ด้รบั ความเป็นธรรมแบบบูรณาการ ภายใตแ้ นวคิด “ยุตธิ รรมใส่ใจ 24 ช่วั โมง”
(Justice Care) ซึ่งเป็นแนวทางการดาเนินงานเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการอานวยความยุติธรรม
ลดความเหล่ือมล้าในสังคมเพ่ือให้ประชาชนเข้าถึงความยุตธิ รรม ดว้ ยการนาบริการด้านงานยุติธรรมไปสู่ประชาชน
ในระดับพ้ืนที่โดยที่ประชาชนไม่ต้องร้องขอภายใน ๒๔ ช่ัวโมง ผ่านบูรณาการ การทางานของหน่วยงาน
ในกระบวนการยุติธรรม และหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้องท้ังระบบ โดยมีสานักงานยุติธรรมจังหวัดที่กระจาย
อยู่ ๘๑ แห่ง ท่ัวประเทศเป็นหน่วยงานหลักในระดับพ้ืนท่ีท่ีจะนาความเป็นธรรมแบบครบวงจร ท้ังทางด้าน
กฎหมาย ด้านร่างกาย และด้านจติ ใจส่งถึงมอื ใหป้ ระชาชนฟรีโดยไมม่ คี ่าใช้จ่าย

การชว่ ยเหลือประชาชนของ Justice Care น้ันประกอบไปด้วย
๑. การช่วยเหลือประชาชนผ่านกองทุนยุติธรรม ในด้านการช่วยเหลือประชาชนในการดาเนินคดี
(ค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายอ่นื ๆ เกี่ยวกับการดาเนินคด)ี การปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจาเลย
(ช้ันสอบสวน ช้ันพนักงาน อัยการชั้นศาล การควบคุมตัวกรณีอื่น) การช่วยเหลือผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือได้รับ
ผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟ้ืนฟูร่างกายจิตใจ ค่าขาดประโยชน์
ทามาหาได้ และเงินช่วยเหลืออื่นๆ) การให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแก่ประชาชนเพ่ือทาให้ประชาชนท่ีเป็น
คนยากจนและด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ซ่ึงปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพ
การดาเนินงานในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนในรัฐระยะเวลามาตรฐานในการดาเนินการจากเดิม
๗๐วัน ลดลงเหลือ ๔๕ วัน อยู่ระหว่างการลดระยะเวลาให้เหลือเพียง ๒๑ วัน เพื่อให้ประชาชนได้รับความ
ชว่ ยเหลืออยา่ งรวดเรว็ ยงิ่ ข้ึน
๒. การช่วยเหลือโดยสานักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลยในคดีอาญา (สชง.)
ด้วยการเยียวยาเหยื่อในคดีอาญา แพะ ซึ่งหากคุณตกเป็นเหยื่อโดยยิง โดยแทง โดยลูกหลง ความผิดเกี่ยวกับเพศ
ต่อชีวิต ต่อร่างกายทาให้แท้งลูก ทอดทิ้งเด็ก คนเจ็บปุวยหรือคนชรา รับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน
และคา่ ใชจ้ า่ ยแก่จาเลยในคดีอาญา
การดาเนินงานให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมตามแนวทาง
“ยุติธรรมใส่ใจ Justice Care” นั้น เริ่มดาเนินการตง้ั แตว่ ันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซ่ึงเพยี งระยะเวลาไม่กี่เดือน
แต่สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนใน ๗๗ จังหวัดท่ัวประเทศได้จานวนค่อนข้างเยอะ หากประชาชน
ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วนยุติธรรมโทร ๑๑๑๑ กด ๗๗ ฟรี
ตลอด ๒๔ ชัว่ โมง หรือสานกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั ทกุ แหง่ หรอื ศูนยย์ ตุ ธิ รรมชมุ ชนใกล้บา้ นทา่ นท่ัวประเทศ

กองทุนยตุ ิธรรม

ในอดีตที่ผ่านมาการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชนเป็นเรื่องยากเพราะการไม่มีความรู้
ไม่เข้าใจบทบัญญัติของกฎหมาย และสิทธิเสรีภาพท่ีพึงมีพึงได้โดยชอบธรรมทาให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ
และถูกล่วงละเมิดจากบุคคลที่อยู่ในภาวะท่ีเหนือกว่า ความยากจนเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงความยุติธรรม
เพราะกระบวนการดาเนินคดีมีคา่ ใชจ้ า่ ยสงู

เพื่อลดช่องว่างและลดความเหล่ือมล้าท่ีเกิดขึ้นในสังคมไทย ในการชว่ ยเหลือผู้ยากไร้ คนยากจน
ให้เขา้ ถงึ ความยุติธรรมกระทรวงยุติธรรม จึงไดจ้ ดั ตั้ง "กองทุนยุติธรรม" ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยมีวัตถุประสงค์
เพ่ือให้การสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านกฎหมาย การฟูองร้อง
การดาเนินคดี หรือการบังคับคดี การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ได้รับความเดือดร้อนหรื อไม่ได้รับ
ความเป็นธรรมโดยมีการออกระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าดว้ ยกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๓ ขึ้น

๑๑

ข้อจากัดของระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๓ มีหลายประการ
เช่น การไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลที่จะทานิติกรรมสัญญาท่ีสมบูรณ์ รายได้มาจากงบประมาณของรัฐ
เพยี งอย่างเดียว วตั ถปุ ระสงค์ค่อนขา้ งจากดั ไม่สอดคลอ้ งกับมาตรฐานสากล

จึงได้พัฒนายกระดับระเบียบกระทรวงยุติธรรม เป็นพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ และมีผลบังคับใช้วันท่ี
๒๔ เมษายน ๒๕๕๙ ซึง่ พระราชบัญญตั ินคี้ รอบคลมุ การช่วยเหลอื มากข้นึ และเกิดความคลอ่ งตัวในการดาเนนิ งาน

พระราชบัญญัตกิ องทุนยตุ ิธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๕ ให้จัดตั้งกองทุนข้ึนกองทุนหน่ึงในสานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เรียกว่า

“กองทุนยุตธิ รรม” มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นแหล่งเงนิ ทุนสาหรับใช้จ่ายเก่ียวกับการช่วยเหลือ
ประชาชนในการดาเนนิ คดี การขอปล่อยช่ัวคราวผู้ต้องหาหรือจาเลย การถูกละเมิดสิทธิมนษุ ยชนและการให้ความรู้
ทางกฎหมายแก่ประชาชน มสี าระสาคัญ ดงั น้ี

๑. ค้าจ้ากัดความ “กองทุน” หมายความวา่ กองทุนยุติธรรม “คณะกรรมการ” หมายความ
วา่ คณะกรรมการกองทุนยุติธรรม “กองทุนยุติธรรม” เป็นกองทุนที่จัดต้ังข้ึนเพ่ือเป็นแหล่งเงินทุนสาหรับใช้จ่าย
เก่ียวกับ การช่วยเหลือประชาชนในการดาเนินคดี การขอปล่อยช่ัวคราวผู้ต้องหาหรือจาเลย การถูกละเมิดสิทธิ
มนุษยชนและการใหค้ วามรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน

๒. การให้ความชว่ ยเหลอื ของกองทนุ ยตุ ธิ รรม ให้ความช่วยเหลือ ๔ กรณี ดังน้ี
๒.๑. การให้ความช่วยเหลือประชาชนในภาคการดาเนินคดี เช่น ค่าจ้างทนายความ

คา่ ธรรมเนยี มศาล หรอื คา่ ใช้จ่ายอ่ืนๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง
๒.๒. การปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจาเลยขอได้ในแต่ละช้ัน ได้แก่ ช้ันสอบสวน

ชั้นพนกั งานอยั การ ช้ันศาล การควบคุมกรณอี ื่นๆ
๒.๓. การช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิ

มนุษยชน เช่น ค่ารกั ษาพยาบาล คา่ ฟ้ืนฟรู า่ งกายจิตใจ ค่าขาดผลประโยชนท์ ามาหาได้ เงนิ ชว่ ยเหลืออ่ืนๆ
๒.๔. การสนบั สนุนโครงการใหค้ วามรู้ทางกฎหมายแกป่ ระชาชน เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดทา

โครงการใหค้ วามรูก้ ฎหมายแก่ประชาชน เปน็ ตน้
๓. กองทนุ ประกอบดว้ ยเงินและทรัพย์สนิ ดงั ตอ่ ไปนี้
๓.๑. เงินหรอื ทรัพย์สนิ ทไี่ ดร้ บั โอนมาตามมาตรา ๔๐
๓.๒. เงนิ อุดหนนุ ทไี่ ดร้ ับจากรฐั บาลหรอื เงนิ ทไี่ ด้รบั จากงบประมาณรายจา่ ยประจาปี
๓.๓. เงนิ ทไี่ ด้รบั ตามมาตรา ๘
๓.๔. เงินหรือทรพั ยส์ นิ ทม่ี ีผบู้ รจิ าคให้แก่กองทุน
๓.๕. ดอกผลของเงนิ หรือทรัพยส์ ินของกองทุน
๓.๖. เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ อืน่ ใดที่กองทนุ ไดร้ บั ไมว่ ่ากรณีใด เงนิ และทรัพยส์ นิ ของกองทนุ ไม่ต้อง

สง่ คลังเป็นรายได้แผน่ ดิน
๔. คดีที่กองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ คดีอาญา คดีแพ่ง คดีปกครอง

คดเี ยาวชนและครอบครัว คดศี าลชานาญพิเศษและคดอี ื่น รวมถงึ การบังคับคดี
การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม กรณีผู้ขอรับความช่วยเหลืออยู่ใน

กรงุ เทพมหานคร ใหไ้ ปขอรบั ความชว่ ยเหลอื ท่ี “สานักงานกองทุนยุติธรรม” ในกรณีจังหวัดอ่นื ๆ ให้ไปขอรับความ
ชว่ ยเหลือทส่ี านักงานยุตธิ รรมจงั หวัด

๑๒

พระราชบัญญัติคา่ ตอบแทนผูเ้ สยี หายและคา่ ทดแทนและค่าใชจ้ า่ ยแก่จ้าเลยในคดอี าญา พ.ศ. ๒๕๔๔
สาระสาคัญพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลย

ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มีดังน้ี
๑. ค้าจ้ากัดความ
“ผู้เสียหาย” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิตหรือร่างกายหรือจิตใจ

เน่อื งจากการกระทาความผดิ อาญาของผู้อ่นื โดยตนมิไดม้ ีสว่ นเกยี่ วข้องกับการกระทาความผดิ นนั้
“จาเลย” หมายความว่า บคุ คลซง่ึ ถูกฟูองต่อศาลว่าไดก้ ระทาความผดิ อาญา
“ค่าตอบแทน” หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใดที่ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับ

เพอื่ ตอบแทนความเสยี หายทเี่ กิดขน้ึ หรือเนือ่ งจากมีการกระทาความผดิ อาญาของผู้อ่ืน
“ค่าทดแทน” หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดท่ีจาเลยมีสิทธิได้รับเนื่องจาก

เป็นจาเลยในคดีอาญาและถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีและมีคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีน้ันฟังเป็นยุติว่าจาเลย
มิไดเ้ ปน็ ผู้กระทาความผดิ หรอื การกระทาความผดิ ของจาเลยไมเ่ ป็นความผดิ

การให้ความช่วยเหลือของพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย
แก่จาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยจะให้ความชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ แก่บคุ คล ๒ ประเภท ได้แก่

๑. ผูเ้ สียหายในคดอี าญา
๒. จาเลยในคดีอาญา
๒. ผ้เู สียหายทมี่ ีสิทธิได้รบั คา่ ตอบแทนตามพระราชบญั ญตั นิ ต้ี ้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
๒.๑. เป็นบุคคลซ่ึงได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกายหรือจิตใจ เนื่องจากการกระทา
ความผดิ อาญาของผู้อน่ื
๒.๒. ตอ้ งเปน็ ความเสยี หายที่เกดิ จากการกระทาความผดิ ทางอาญาของบคุ คลอื่น
๒.๓. ผทู้ ไี่ ดร้ ับความเสยี หายต้องไม่มีส่วนรว่ มหรือสนับสนุนการกระทาผดิ ดงั กลา่ ว
๒.๔ ความผดิ น้นั ตอ้ งเป็นความผดิ ตามรายการทรี่ ะบุไวท้ า้ ยพระราชบญั ญัตนิ เี้ ทา่ นั้น ซ่ึงไดแ้ ก่

- ความผิดเกีย่ วกบั เพศ (มาตรา ๒๗๖ – ๒๘๗)
- ความผดิ ต่อชวี ิต (มาตรา ๒๘๘ – ๒๙๔)
- ความผดิ ต่อรา่ งกาย (มาตรา ๒๙๕ – ๓๐๐)
- ความผดิ ฐานทาให้แท้งลกู (มาตรา ๓๐๑ - ๓๐๕)
- ความผิดฐานทอดท้งิ เด็ก คนปุวย หรือคนชรา (มาตรา ๓๐๖ – ๓๐๘)
๓. วิธกี ารย่นื และระยะเวลาในการยน่ื คา้ ขอรบั สิทธิ์กรณผี ู้เสยี หาย
ผู้เสียหาย ทายาทของผู้เสียหายหรือผู้รับมอบอานาจสามารถย่ืนเร่ืองขอรับสิทธิ์ได้ที่สานักงาน
ยตุ ธิ รรมจงั หวัดท่ัวประเทศ ผู้เสียหายสามารถยื่นคาขอภายใน ๑ ปี นับแตว่ ันท่ีผู้เสียหายไดร้ ู้ถึงการกระทาความผิด
จาเลย นับแต่วันท่ีถอนฟูองหรือมคี าพิพากษาจากศาลอนั ถึงทสี่ ดุ ว่าจาเลยไม่มีความผิด
๔. เอกสารทผ่ี ู้เสยี หายต้องย่นื
๑. สาเนาบัตรประจาตวั ประชาชน/บัตรประจาตวั เจา้ หน้าที่ของรัฐ (ผูเ้ สยี หายและผมู้ ีสิทธิ์ย่ืน)
๒. สาเนาทะเบยี นบา้ นของผเู้ สียหายและผู้มสี ทิ ธิย์ ื่น
๓. สาเนาทะเบยี นสมรส

๔. สาเนาสูติบตั ร

๕. สาเนาใบเปลีย่ นชือ่ /สกุล

๖. หนังสอื มอบอานาจ

๗. ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลและอ่นื ๆ (ถ้ามี)

๑๓

๘. สาเนาใบรบั รองแพทย์

๙. สาเนาบันทกึ รายงานการสอบสวนของสถานตี ารวจและสาเนารายงานประจาวนั เกย่ี วกับคดี

๑๐. สาเนาใบมรณะบตั ร

๑๑. สาเนาใบชันสตู รแพทย์

๑๒. สาเนาหลักฐานการได้รบั ค่าชดเชยคา่ เสยี จากหน่วยงานอน่ื

๑๓. ใบแต่งต้ังทนาย (ถ้าม)ี

๑๔. สัญญาจา้ งวา่ ความพร้อมสาเนาบตั รของทนายความ

๑๕. หนงั สอื รบั รองรายได้

๑๖. สาเนาบัตรประจาตัวของผู้รบั รองรายได้ (ผูใ้ หญบ่ า้ น กานนั หรือบคุ คลท่ีนา่ เชือ่ ถอื )

๑๗. สาเนาทะเบียนบ้านของผรู้ บั รองรายได้

๕. อตั ราการจา่ ยคา่ ตอบแทนของผู้เสียหายในคดีอาญา

กรณีบาดเจบ็
๑. ค่าใชจ้ ่ายทจ่ี าเป็นในการรกั ษาพยาบาล ใหจ้ ่ายเท่าทีจ่ ่ายจรงิ แต่ไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท
๒. ค่าฟนื้ ฟสู มรรถภาพทางรา่ งกายและจติ ใจ ให้จา่ ยเท่าท่จี า่ ยจริงแต่ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท
๓. ค่าขาดประโยชน์ทามาหาได้ในระหว่างท่ีไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติให้จ่ายตาม
อตั ราจ้างข้ันตา่ ตามจงั หวดั ทเี่ กิดเหตุ เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี นบั แต่วันที่ไมส่ ามารถประกอบการงานได้ตามปกติ
๔. คา่ ตอบแทนความเสียหายอ่นื ตามท่คี ณะกรรมการเหน็ สมควร ใหจ้ ่ายไม่เกนิ ๕๐,๐๐๐ บาท
กรณเี สียชีวติ
๑. คา่ ตอบแทน ใหจ้ า่ ยเปน็ เงนิ ตงั้ แต่ ๓๐,๐๐๐ บาท แตไ่ ม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
๒. คา่ จัดการศพ ใหจ้ า่ ยจานวน ๒๐,๐๐๐ บาท
๓. คา่ ขาดอุปการะเล้ียงดู ใหจ้ ่ายจานวนไมเ่ กนิ ๔๐,๐๐๐ บาท
๔. คา่ เสยี หายอน่ื ใหจ้ ่ายตามท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรแต่ไมเ่ กิน ๔๐,๐๐๐ บาท
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราท่ีกาหนดในกฎกระทรวง คณะกรรมการจะกาหนด
ใหผ้ เู้ สียหายไดร้ บั ค่าตอบแทนเพียงใดหรือไม่ก็ได้ โดยคานึงถึงพฤตกิ ารณ์และความร้ายแรงของการกระทาความผิด
และสภาพความเสียหายท่ีผู้เสียหายได้รับ รวมทั้งโอกาสที่ผู้เสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหาย
โดยทางอืน่
๖. การไดร้ บั คา่ ทดแทนและค่าใชจ้ ่ายแก่จ้าเลยในคดอี าญา
จาเลยทมี่ สี ทิ ธไิ ด้รบั ค่าทดแทนและคา่ ใช้จา่ ยตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ตอ้ งมลี ักษณะดังต่อไปนี้
๑. เป็นบคุ คลซงึ่ ถูกฟอู งได้วา่ กระทาความผิดอาญา
๒. จาเลยทีถ่ ูกดาเนนิ คดีโดยพนักงานอยั การ
๓. ถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีและปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาความผิด
และมีการถอนฟอู งในระหว่างดาเนินคดี หรือปรากฏตามคาพพิ ากษาอันถึงท่สี ดุ ในคดนี น้ั
๔. ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาความผิดหรือการกระทาของจาเลยไม่เป็น
ความผิด
ในคดีที่มจี าเลยหลายคน จาเลยคนใดถึงแกค่ วามตายก่อนมีคาพพิ ากษาถึงทสี่ ดุ และคณะกรรมการ
เห็นสมควรจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่จาเลยอื่ นที่ยังมีชีวิตอยู่ถ้าเป็นเหตุอยู่ในลักษณะคดี
จาเลยทีถ่ งึ แก่ความตายนัน้ มีสทิ ธไิ ด้รับคา่ ทดแทนและค่าใช้จา่ ยตามพระราชบญั ญัตินี้ไดด้ ว้ ย

๑๔

๗. วิธีการย่ืนและระยะเวลาในการย่ืนค้าขอรบั สิทธก์ิ รณจี า้ เลย
๑. จาเลยหรือผู้รับมอบอานาจสามารถยื่นเรื่องขอรับสิทธ์ิได้ที่สานักงานยุติธรรมจังหวัด

ทวั่ ประเทศหรอื สานักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผเู้ สยี หายและจาเลยในคดีอาญา
๒. กรณีจาเลยขอรับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย จาเลยต้องขอรับสิทธิ์ภายใน ๑ ปีนับแต่วันที่มี

คาพพิ ากษาถงึ ท่ีสดุ หรอื วนั ทศ่ี าลมีคาสั่งอนญุ าตพนักงานอยั การถอนฟูอง
๘. เอกสารทจ่ี า้ เลยตอ้ งย่นื
๑. สาเนาบตั รประจาตวั ประชาชนของจาเลยและผู้มสี ิทธิ์ยื่น
๒. สาเนาทะเบยี นบา้ นของจาเลยและผมู้ ีสทิ ธิย์ ่ืน
๓. สาเนาทะเบียนสมรส
๔. สาเนาสตู บิ ัตร
๕. สาเนาใบเปล่ยี นชอื่ /สกลุ
๖. หนงั สอื มอบอานาจ
๗. ใบเสร็จคา่ รักษาพยาบาลและอ่นื ๆ (ถ้าม)ี
๘. สาเนาใบรับรองแพทย์
๙. คาพิพากษาอันถึงท่ีสุดว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาความผิด

หรือการกระทาของจาเลยไม่เป็นความผิดหรือปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาความผิด
และมีการถอนฟูองในกรณใี นระหว่างดาเนนิ คดี

๑๐. หมายขงั ระหวา่ งไตส่ วนมูลฟอู งหรือพิจารณาและหมายปอง
๑๑. สาเนาใบมรณะบตั ร
๑๒. สาเนาใบชันสตู รแพทย์
๑๓. ใบสาคญั แสดงวา่ คาพพิ ากษาหรือคาสั่งในคดนี ัน้ ไดถ้ งึ ทสี่ ดุ
๑๔. ใบแตง่ ตั้งทนายความ (ถ้ามี)
๑๕. สัญญาจ้างว่าความพร้อมสาเนาขอสาเนาบัตรของทนายความ
๙. อัตราการจา่ ยค่าทดแทนและค่าใชจ้ ่ายแก่จ้าเลย
กรณีทว่ั ไป
๑. ค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็นในการรักษาพยาบาลซ่ึงความเจ็บปุวยต้องเป็นผลโดยตรง
จากการถูกดาเนนิ คดี ใหจ้ ่ายเทา่ ท่ีจ่ายจริง แตไ่ ม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท
๒. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเนื่องจากจาเลยได้รับความเจ็บปุวย
เปน็ ผลโดยตรงจากการถูกดาเนินคดี ให้จ่ายเทา่ ที่จ่ายจรงิ แตไ่ ม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท
๓. คา่ ทดแทนการถกู คุมขัง วนั ละ ๕๐๐ บาท
๔. ค่าขาดประโยชน์ทามาหาได้ในระหว่างถูกดาเนินคดีให้จ่ายตามอัตราค่าจ้างข้ันต่า
ของจงั หวดั
๕. ค่าใชจ้ า่ ยทจ่ี าเปน็ ในการดาเนินคดี

๕.๑ คา่ ทนายความเทา่ ทีจ่ า่ ยจรงิ แต่ไม่เกนิ อตั รากฎกระทรวงกาหนด
๕.๒ คา่ ใช้จ่ายอ่นื ในการดาเนนิ คดี
กรณจี ้าเลยถงึ แกค่ วามตายอ้นเป็นผลจากการถกู ด้าเนินคดี
๑. ค่าตอบแทนถงึ แก่ความตาย จานวน ๑๐๐.๐๐๐ บาท
๒. คา่ จัดการศพ จานวน ๒๐,๐๐๐ บาท
๓. คา่ ขาดอปุ การะเลี้ยงดู จานวนไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท

๑๕

๔. ค่าเสยี หายอนื่ ตามทค่ี ณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไมเ่ กนิ ๔๐,๐๐๐ บาท

การอุทธรณ์
๑. ผู้ย่ืนคาขอท่ีไม่เห็นดว้ ยกับคาวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการฯ มีสิทธอิ ุทธรณ์ตอ่ คณะกรรมการ

ภายใน ๓๐ วันนบั แต่วนั ทีไ่ ด้รบั แจง้ คาวนิ จิ ฉัยของคณะอนกุ รรมการโดยยืน่ อุทธรณไ์ ด้ทส่ี านกั งานยตุ ธิ รรมจังหวดั
๒. ผู้ย่ืนคาขอไม่เห็นด้วยกับวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภายใน

๓๐ วัน นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งคาวินิจฉัย คาวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด โดยย่ืนอุทธรณ์ได้ท่ีสานักงาน
ยตุ ธิ รรมจังหวดั หรอื ศาลจังหวัดทีผ่ นู้ น้ั มีภูมิลาเนาอยู่ในเขต

พระราชบญั ญตั ิไกลเ่ กลย่ี ขอ้ พิพาท พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบญั ญัติไกล่เกลีย่ ข้อพพิ าท พ.ศ.๒๕๖๒ มีสาระสาคัญ ดังน้ี

๑. คา้ จ้ากัดความ

“การไกล่เกล่ียข้อพิพาท” หมายความว่า การดาเนินการเพื่อให้คู่กรณีมีโอกาสเจรจาตกลงกัน
ระงับ ข้อพิพาททางแพ่งและทางอาญาโดยสันติวิธีและปราศจากการวินิจฉัยช้ีขาดข้อพิพาท ท้ังนี้ไม่รวมถึง
การไกลเ่ กล่ยี ขอ้ พพิ าททด่ี าเนินการในช้นั ศาลและในช้นั การบงั คับคดี

“ผู้ไกล่เกลี่ย” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนและได้รับการแต่งต้ังให้ทาหน้าที่
ในการไกล่เกลย่ี ข้อพพิ าทเป็นผู้ทม่ี ีประสบการณใ์ นด้านต่างๆ อันเปน็ ประโยชนแ์ ก่การไกล่เกล่ียข้อพพิ าท

“ข้อตกลงระงับข้อพิพาท” หมายความว่า ข้อตกลงท่ีคู่กรณีตกลงให้มีผลผูกพันโดยชอบด้วย
กฎหมายเพ่ือระงับข้อพิพาทหรือข้อเรียกร้องใดๆ ท่ีแต่ละฝุายมีอยู่และให้คู่กรณีแต่ละฝุายต่างมีสิทธิหน้าท่ีหรือ
ความรับผดิ เพยี งเทา่ ท่กี าหนดไวใ้ นข้อตกลงนัน้

“หน่วยงานซึ่งดาเนินการไกล่เกล่ียข้อพิพาท” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐซ่ึงดาเนินการ
ระงับขอ้ พิพาทโดยวิธกี ารไกลเ่ กลย่ี ขอ้ พิพาท

“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค สานักงาน
ศาลยุติธรรม สานักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกาหนด
ในกฎกระทรวง

“นายทะเบียน” หมายความว่า หัวหน้าหน่วยงานของรัฐซ่ึงดาเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ผู้ไกล่เกล่ียมีหน้าที่และอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) กาหนดแนวทางและจัดให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (๒) ช่วยเหลือ
อานวยความสะดวกและเสนอแนะคู่กรณีในการหาแนวทางยุติข้อพิพาท (๓) ดาเนินการไกล่เกล่ียข้อพิพาท
ด้วยความเป็นกลาง (๔) จดั ทาข้อตกลงระงับขอ้ พพิ าทตามผลของการไกลเ่ กล่ียขอ้ พิพาท
๒. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่ง

การไกลเ่ กลยี่ ขอ้ พิพาททางแพง่ ใหก้ ระทาได้ในกรณี ดงั ตอ่ ไปนี้
๑. ขอ้ พพิ าทเก่ยี วกบั ท่ีดนิ ท่มี ใิ ชข่ ้อพพิ าทเกย่ี วด้วยกรรมสิทธ์ิ (โดยสิทธใิ นทด่ี นิ )

๑.๑ กรรมสิทธิ์ หมายถึง ความเป็นเจ้าของที่จะต้องให้รัฐจะหนังสือสาคัญแสดงกรรมสิทธ์ิ
ได้แก่ โฉนดที่ดิน เป็นต้น การแยกการครอบครองที่ดินโดยสงบ เปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา ๑๐ ปี
(การครอบครองปรปกั ษ์) จงึ จะสามารถเสรจ็ กรณีเช่นน้ีไมส่ ามารถเคลยี ร์ไดต้ ้องใชอ้ านาจของศาลได้ตดั สินช้ขี าด

๑.๒ สิทธิครอบครอง หมายถึง สิทธิครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของโดยการทาประโยชน์
หรือการถือครอง เช่น การออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ เช่น น.ส.๓, น.ส. ๓ ก, น.ส. ๓ ข เอกสารตรา
ของเอกสารการครอบครองที่ดนิ โดยสงบ เปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของตดิ ต่อกันเป็นเวลา ๑ ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์
กรณีเช่นนี้ ไมส่ ามารถไกล่เกลี่ยได้ ต้องใช้อานาจของศาลเป็นผู้ตดั สินช้ีขาด

๑๖

๒. ข้อพพิ าทระหวา่ งทายาทเกี่ยวกับทรัพยม์ รดก
๓. ข้อพิพาทอืน่ ตามท่กี าหนดในพระราชกฤษฎกี า
๔.ข้อพิพาทอ่ืนนอกจาก (๑) (๒) และ (๓) ท่ีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าล้านบาทหรือไม่เกิน
จานวนตามทกี่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา
๓. การไกลเ่ กล่ียข้อพพิ าททางแพง่ ทไี่ มส่ ามารถกระท้าได้ ดังต่อไปน้ี
๓.๑. คดเี ก่ียวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล หมายถึง สิทธิตา่ งๆเก่ียวกับสภาพบคุ คล ความสามารถ
ของบุคคล การใช้ชอ่ื นาม การเป็นคนไรค้ วามสามารถ การทาการแทนบุคคล การถอื สญั ชาติ เปน็ ตน้
๓.๒. คดีเก่ียวกับสิทธิในครอบครัว หมายถึง สิทธทิ ี่เกิดจากความสัมพันธส์ ามี ภรรยา หรือ บิดา
มารดา เช่น การหย่า ภรรยาเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามี การฟูองเรียกค่าเสียหายจากหญิงหรือชายอ่ืน
กรณแี อบคบชู้ เป็นตน้
๓.๓. ข้อพิพาทเก่ียวด้วยกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพย์ เร่ืองท่ีดิน ทรัพย์ที่ติดกับที่ดิน
การเป็นเจ้าของการอ้างให้เปิดทางจาเป็น การรกุ ล้าทีด่ นิ เป็นต้น
๔. การไกล่เกลยี่ ข้อพิพาททางอาญา
การไกลเ่ กลย่ี ขอ้ พิพาททางอาญาให้กระทาไดใ้ นกรณี ดงั ต่อไปน้ี
๑. ความผิดอันยอมความได้ คือ คดีที่ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายโดยตรง
(ความผิดส่วนตัว) สังคมไม่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากการกระทาความผิดน้ัน เช่น ยักยอก ฉ้อโกง
หมิ่นประมาท บกุ รุก ลักทรัพย์ (ระหวา่ งบดิ ากบั บตุ ร) ทาให้เสียหาย
๒. ความผิดลหุโทษ หมายความว่า ความผิดอาญาแผ่นที่เกิดจากการกระทาความผิดเล็กน้อย
อัตราโทษจาคุกไม่เกิน ๑ เดือน ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่พระราชบัญญัติ
นี้กาหนดใหศ้ นู ย์ไกลเ่ กล่ยี ข้อพิพาทภาคประชาชนสามารถนาความผดิ ลหุโทษสามารถไกลเ่ กลี่ยได้
๕. ประโยชน์ของการไกลเ่ กล่ีย
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อให้เกิดประโยชน์ท้ังกับคู่กรณีและยังเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพ
ในการอานวยความยตุ ธิ รรมใหแ้ กป่ ระชาชน ซงึ่ อาจจะสรปุ ได้ดงั น้ี

๑. ประหยัดเวลาและค่าใชจ้ ่าย (Saving of Time and Money) การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
หรือ อนุญาโตตุลาการแล้วอาจใช้เวลาเพียงสัปดาห์ วันหรือช่ัวโมง อันเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของทั้งคู่ความ
และทางราชการโดยที่หน่วยงานหรือองค์กรผู้จัดการไกล่เกลี่ยจัดบริการให้ฟรี คู่กรณีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ไม่เสียค่าปุวยการ ผู้ไกล่เกลี่ยและการไกล่เกล่ียไม่จาเป็นต้องมีทนายความ ดังน้ัน การจัดการความขัดแย้ง
ด้วยวธิ กี ารไกลเ่ กล่ียจึงประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยได้มาก

๒. เปน็ ทย่ี ุติ (Finality) คดีท่ีคู่พิพาทสามารถตกลงกันได้โดยวิธีการไกล่เกลี่ยน้ัน ทาให้ข้อพิพาท
ไดข้ ้อยตุ ิลดปัญหาของการอทุ ธรณต์ อ่ ไป

๓. การยอมรับของคู่พิพาท (Compliance) การท่ีคู่ความสามารถหาข้อยุติได้ด้วยตนเอง
มกี ารยอมรับปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงนนั้ มากกว่าการที่ศาลมีคาพิพากษาซงึ่ จะตอ้ งมีการบงั คบั คดตี อ่ ไป

๔. ข้อยุติท่ีได้นั้นมีความเหมาะสมกับคู่พิพาท (Custom Made Solution) เนื่องจากคู่พิพาท
สามารถเลอื กที่จะทาให้ขอ้ ตกลง อย่างไรก็ได้ตราบเท่าที่ไมข่ ดั ตอ่ กฎหมาย

๕. เป็นความลับ (Confidentiality) การไกล่เกลี่ยเป็นเร่ืองเฉพาะระหว่างคู่กรณีการประชุม
ไกล่เกล่ีย จะมีเฉพาะคู่กรณีกับผู้ไกล่เกล่ียและบุคคลภายนอกท่ีคู่กรณีเห็นพ้องต้องกันให้เข้าร่วมประชุมได้เท่าน้ัน
ท้ังข้อเท็จจริงท่ีคู่กรณีพูดคุยกันในการไกล่เกลี่ยถือเป็นความลับ ห้ามคู่กรณีและผู้ไกล่เกลี่ยเปิดเผย
ต่อ บุคคลภายนอก นอกจากน้ี คู่กรณียังอาจมีข้อตกลงกันอีกด้วยว่า ข้อเท็จจริงท่ีได้จากการไกล่เกล่ีย ห้ามไม่ให้
คู่กรณนี าไปใช้อา้ งองิ ในการพจิ ารณาคดขี องศาล

๑๗

๖. การควบคุมกระบวนการระงับข้อพิพาท (Process Control) คู่พิพาทสามารถควบคุม
กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้มากกว่าการดาเนินคดีในศาล โดยสามารถคัดเลือกบุคคลท่ีเป็นกลางให้มา
ทาหนา้ ท่กี าหนดประเดน็ หรอื ความตอ้ งการทีแ่ ทจ้ รงิ ในการไกลเ่ กลี่ยข้อพิพาทและแสวงหาทางออกเพื่อยตุ ิขอ้ พิพาท
โดยคู่พิพาทมีโอกาสที่จะได้พูดและตดั สินวา่ ผลที่ได้รับจะผูกพันกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการหลีกเล่ียงความไม่แน่นอน
ท่ีอาจเกิดข้ึนโดยการพพิ ากษาคดี

๗. ข้อตกลงระหว่างคู่พพิ าทสามารถบงั คับได้ (Enforceable Agreement) ผลของการระงับ
ข้อพิพาทจากวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นข้อตกลงร่วมกันอันมีลักษณะสัญญาท่ีคู่พิพาทลงนามและมีผลผูกพัน
เป็นสัญญาประนปี ระนอมยอมความ แมว้ า่ อาจมีการตรวจสอบจากศาลในบางกรณี

๘. รักษาความสมั พันธร์ ะหว่างกันไดห้ รือก่อใหเ้ กดิ ความสมั พันธ์ในระยะยาว (Preservation or
Enhancement of Long-term Relationships) การระงับข้อพิพาทเปิดโอกาสให้คู่พิพาทสามารถหาข้อยุติ
ในปัญหาทีแ่ ท้จรงิ ไดแ้ ละค่พู พิ าทย่อมสามารถแกไ้ ขปัญหาระหว่างกันได้

๙. ความยืดหยุ่น (Flexibility) คู่พิพาทสามารถเลือกใช้การไกล่เกล่ียข้อพิพาททั้งหมดหรือ
ในประเดน็ ใดประเดน็ หนง่ึ ในคดกี ไ็ ด้ ส่วนทเี่ หลอื อาจให้มกี ารดาเนินคดีในศาลตอ่ ไป

๑๐. คุณภาพ (Quality) บุคคลท่ีมาทาหน้าท่ีในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมักเป็นบุคคล
ทม่ี ีความสามารถ หรือเชยี่ วชาญในเร่ืองน้ันๆ โดยมีการควบคุมการทางานโดยประมวลจริยธรรม

๑๑. ยังคงสิทธิในการดาเนินคดีในศาล (Right to Trial) การไกล่เกล่ียข้อพิพาทเป็นเพียง
ส่วนเสริมสาหรับการดาเนินคดีในศาลไม่ใช่เป็นการแทนท่ี คู่กรณียังคงมีสิทธิในการดาเนินคดีในศาลหากคู่กรณี
มีความต้องการเช่นน้นั

๑ ๒ .ไ ม่ เ ป็น ท าง ก าร ก า รไก ล่ เ กล่ี ย มี วิ ธีพิจ าร ณาที่ แ ต กต่า งจ ากก าร พิจา รณ าค ดี
ของอนุญาโตตุลาการ หรือศาล โดยการไกล่เกลี่ยต้องการบรรยากาศการพูดคุยเจรจาที่ไม่เป็นทางการ
แต่เป็นกันเอง และยืดหยุ่น ผ่อนคลาย ไม่เคร่งครัด เพื่อให้คู่กรณีได้พูดคุยเจรจากันด้วยความสบายใจไม่ตึงเครียด
เกดิ ความไวว้ างใจและกล้าเปดิ เผยความต้องการทีแ่ ท้จริงของตน

๖. คณุ ลกั ษณะและการขนึ้ ทะเบยี นของผูไ้ กล่เกลยี่
ผู้ไกลเ่ กลี่ยต้องเปน็ ผมู้ ีคณุ สมบัตแิ ละไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ตอ่ ไปนี้
๖.๑ คณุ สมบัติ

- ผ่านการอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามหลักสูตรท่ีคณะกรรมการพัฒนาการบริหาร
งานยุตธิ รรมตามกฎหมายว่าดว้ ยการพัฒนาการบรหิ ารงานยุติธรรมแห่งชาตริ ับรอง

- เปน็ ผมู้ ีประสบการณ์ในด้านตา่ งๆ อันจะเป็นประโยชนแ์ ก่การไกลเ่ กลี่ยขอ้ พพิ าท
๖.๒ ลักษณะต้องห้าม

- เคยรับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิด
ทไ่ี ด้กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ

- เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนวิกลจริตหรือจิตฟ่ันเฟือน
ไม่สมประกอบ

- เคยถูกเพิกถอนการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตามพระราชบัญญัติน้ีและยังไม่พ้นห้าปีนับถึงวันย่ืน
คาขอรบั หนังสือรับรองการขน้ึ ทะเบียนเปน็ ผ้ไู กลเ่ กลยี่

บุคคลใดมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๑ และมีความประสงค์จะข้ึนทะเบียน
เป็นผู้ไกล่เกล่ียให้ย่ืนคาขอต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งมีหน้าท่ีและอานาจกากับดูแลการไกล่เกล่ีย
ข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ทั้งนี้การย่ืนคาขอข้ึนทะเบียนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขทน่ี ายทะเบยี นประกาศกาหนด

๑๘

๓. กลมุ่ พฒั นาและส่งเสรมิ ระบบงานยตุ ิธรรม

รับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมระบบงานยุติธรรมในจังหวัด งานพัฒนาและส่งเสริม

งานยุติธรรมทางเลือก งานจัดทาและบริหารแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงยุติธรรมระดับจังหวัด งานติดตาม
และประเมิลผลการดาเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรมระดับจังหวัด งานจัดทาและพัฒนาระบบ
ฐานข้อมูล เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารและการวางแผนของหน่วยงาน งานจัดการความรู้ในหน่วยงาน
งานจัดทาแผนและโครงการพฒั นาบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในจังหวัด งานฝุายเลขานุการ
คณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด งานคณะกรรมการบริหารงานจังหวัด

แบบบูรณาการและคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการในฐานะผู้แทนกระทรวงยุติธรรม

งานลงพ้ืนท่ีติดตามและประเมินผลการดาเนินงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชน โครงการถ่ายทอดความรู้และวิธี

ปฏิบัตงิ านเป็นเครอื ขา่ ยยตุ ธิ รรมชุมชน จัดโครงการตา่ งๆตามแผนการปฏิบตั ริ าชการ

คลินิกยตุ ธิ รรม

คลีนิกยุติธรรม ทาหน้าที่ในการให้คาปรึกษา แนะนาด้านกฎหมายและสิทธิต่างๆแก่ประชาชน
โดยจัดใหม้ ีทป่ี รึกษากฎหมายประจาคลนิ ิกยุติธรรม ๘๓ แหง่ ทว่ั ประเทศให้บริการโดยไม่เสียค่าใชจ้ ่าย ซ่ึงจะมีทนาย
ให้คาปรึกษาทุกวันให้แก่ประชาชน ณ .สานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา ท่ีปรึกษากฎหมายจะให้คาปรึกษาแนะนา
ข้อกฎหมาย คดีความ รับเร่ืองราวร้องเรียน/ร้องทุกข์จากประชาชน ซึ่งท่ีปรึกษากฎหมายจะมาจากการคัดเลือก
โดยมีสญั ญาจ้าง ๒ ปี

กระบวนการใหค้ า้ ปรกึ ษาทางกฎหมาย มีดงั น้ี
๑. ลงทะเบียนผู้รับบริการ ลงทะเบียนสาระสนเทศกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพสอบถามข้อมูล
และความประสงค์ ตามแบบสอบขอ้ เทจ็ จริง กพส.-๑๗-๐๑
๒. การให้คาปรึกษา ที่ปรึกษาให้คาปรึกษาทางกฎหมาย ผู้รับบริการพงึ พอใจจึงยุติเรื่องประสงค์
ขอรบั ความชว่ ยเหลอื จงึ ดาเนนิ การตามขั้นตอนท่ี ๓ ตามแบบสอบขอ้ เทจ็ จริง กพส.-๑๗-๐๑
๓. ส่งต่อความช่วยเหลือ ให้ความช่วยเหลือตามภารกิจหรือส่งต่อหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้องตามแบบ
สอบข้อเท็จจรงิ กพส.-๑๗-๐๑
๔. ประเมินผล ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครบถว้ น ของการให้คาปรึกษา
๕. ตรวจสอบคุณภาพการให้คาปรึกษากฎหมาย Service Center ให้มีความถูกต้องครบถ้วน
ของข้อมลู รายละเอยี ดและข้อกฎหมายตา่ งๆ
๖. การรายงานผล สรุปผลการดาเนินงานจัดเก็บ/รวบรวมรายงานภาพรวมตามแบบสอบข้อเท็จจริง
กพส.-๑๗-๐๑

งาน ๕ ส.
๕ ส. คือ เทคนิควิธีการจัดปรับปรุงสถานที่ทางาน หรือสภาพทางานให้เกิดความสะดวก

ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด หรือเอ้ืออานวยให้เกิดประสิทธิภาพในการทางาน ความปลอดภัยและคุณภาพ
ของงาน อันเป็นพน้ื ฐานในการเพม่ิ ผลผลิต

วัตถุประสงค์ (๑) ทุกพ้นื ท่ีของสานักงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสะดวกตอ่ การใชง้ านมีความ
สะอาดถูกสุขลักษณะและปลอดภัย (๒)บุคลากรทุกระดับมีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรม ๕ ส. อย่างจริงจัง
สม่าเสมอ และตอ่ เนือ่ ง (๓) มีการคดิ สร้างสรรค์และการปรับปรุงการทางานมากขึน้

๑๙

๕ ส. ประกอบไปด้วย ดังนี้ (๑) สะสาง คือ การแยกส่ิงของต่างๆท่ีจาเป็นออกจากส่ิงของ
ท่ีไม่จาเป็นและขจัดสิ่งของท่ีไม่จาเป็นออกไป (๒) สะดวก คือ กาหนดวิธีการจัดเก็บเป็นระเบียบ แบ่งหมวดหมู่
กาหนดท่ีอยู่สินค้าให้แน่นอนชัดเจน (๓) สะอาด คือ การทาความสะอาดอุปกรณ์เคร่ืองมือเครื่องใช้และสถานที่
ทางานเพ่ือให้ปราศจากฝุนละอองเพ่ือปูองกันความสกปรก (๔) สุขลักษณะ คือ หม่ันรักษาและปรับปรุงการปฏิบตั ิ
๓ ข้อแรกโดยกาหนดเป็นมาตรฐานและปฏิบตั ใิ ห้ดขี ้นึ และรกั ษาใหด้ ีตลอดไป (๕) สร้างนิสัย คือ สร้างนิสัยให้ปฎิบตั ิ
ตามเปน็ ประจาจนกลายเปน็ สิง่ ท่ีเกิดขน้ึ เองโดยอตั โนมัติ

ความสาคัญของ ๕ ส.

๕ ส.เป็นหลักเบ้ืองต้นพ้ืนฐานเพื่อทาให้หน่วยงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด
ปลอดภัย นา่ อยู่ นา่ ทางาน

ข้นั ตอนการทากิจกรรม ๕ ส. มีดงั นี้
๑. ใหค้ วามร้เู ร่ือง ๕ ส.
๒. ประกาศนโยบาย ๕ ส.
๓. ตั้งคณะกรรมการ ๕ ส.
๔. ถ่ายรปู ก่อนทาแบ่งพืน้ ท่รี บั ผิดชอบ
๕. ประกาศวันทาความสะอาดครงั้ ใหญ่
๖. ดาเนินการ
๗. ตรวจสอบการดาเนนิ การ
๘. ถ่ายภาพพื้นทห่ี ลงั ทา ๕ ส.
๙. ต้ังมาตรฐาน ๕ ส.
๑๐. รณรงค์อย่างตอ่ เน่ืองถึงประโยชน์ของกิจกรรม
ประโยชน์ของกิจกรรม ๕ ส. มีดงั น้ี
๑. ประโยชน์ของบุคลากรผู้ปฎิบัติ สามารถทางานได้อย่างสะดวกรวดเร็วข้ึน บรรยากาศ
การทางานและสถานทที่ างานดีขึน้ เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน มีสถานท่ที างานท่เี ปน็ ระบบเรียบร้อย
๒. ประโยชน์ของหนว่ ยงาน ลดการสูญเสียและความส้ินเปลืองมีพนื้ ท่ีและเนื้อท่ีใชง้ านมากข้ึน
ผรู้ ับบริการให้ความเชื่อถอื และเช่อื ม่นั มากขึน้ เพ่ิมประสิทธภิ าพในการผลิตและสรา้ งผลงาน

การเยยี่ มผู้ตอ้ งขงั ผา่ นระบบจอภาพ Video conference

เรอื นจาทสี่ ามารถเย่ยี มได้ มดี ังน้ี เรือนจาอาเภอนาทวี เรือนจาอาเภอเบตง เรือนจากลางยะลา
เรือนจากลางสงขลา เรือนจากลางปตั ตานี เรือนจาจังหวัดนราธิวาส เรือนจาจังหวัดสงขลา ทัณฑสถานหญิงสงขลา
ทัณฑสถานบาบัดพิเศษสงขลา

การเย่ยี มญาตผิ า่ นจอของจงั หวัดยะลามี ๒ สถานท่ี
๑. สานักงานยุติธรรมจังหวดั ยะลา ตั้งอยทู่ ่ศี าลากลางจงั หวัดยะลา
๒. ศนู ยย์ ตุ ิธรรมชุมชนตาบลยะลา ตง้ั อยูท่ ่ีองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลยะลา

การเยีย่ มญาติผ่านจอของจังหวดั ปัตตานี มี ๒ สถานที่
๑. สานกั งานยุตธิ รรมจังหวัดปัตตานี ตงั้ อย่ทู ีอ่ าคารบรู ณาการกระทรวงยุตธิ รรม
๒. ศนู ยย์ ตุ ธิ รรมชุมชนอาเภอสายบุรี ตัง้ อยู่ที่อาเภอสายบุรี จังหวดั ปัตตานี

การเยยี่ มญาติผา่ นจอของจงั หวัดนราธวิ าส มี ๒ สถานท่ี
๑. สานักงานยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส ต้ังอยู่ท่ีสานักงานคุมประพฤติจังหวัดนราธิวาส
๒. ศูนย์ยุตธิ รรมชุมชนตาบลมโู นะ ตัง้ อยทู่ ี่ตาบลมูโนะ

๒๐

ข้อปฏิบตั ใิ นการขอเยย่ี มผู้ตอ้ งขังผ่านระบบจอภาพ Video conference ได้แก่
๑. ตอ้ งแต่งกายให้สุภาพ เรียบรอ้ ย
๒. ห้ามนาสงิ่ ของใดๆ เข้าไปห้องเยย่ี มญาตผิ ่านระบบจอภาพ
๓. ยินยอมใหเ้ จ้าหน้าที่ตรวจค้นร่างกายกอ่ นเขา้ เยยี่ ม
๔. หา้ มถ่ายภาพ วดี โี อ และห้ามใช้เครอ่ื งบนั ทึกเสยี งขณะเขา้ เย่ยี มผู้ต้องขงั
๕. ยินยอมให้เจ้าหน้าท่ีฟังการสนทนา บันทึกเสียงและถ่ายภาพในการพูดคุยและตัดการส่ือสาร

เมอื่ เห็นวา่ ขอ้ ความทสี่ นทนาเปน็ ไปโดยไม่เหมาะสม
๖. ผู้เข้าเย่ียมทกุ คนจะตอ้ งปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่โี ดยเครง่ ครดั

ศูนย์ยุติธรรมชุมชน
ยุติธรรมชุมชน คือ การดาเนินกิจกรรมชุมชนโดยร่วมกันเองหรือร่วมกับภาครัฐในลักษณะ

ของหุ้นส่วน โดยการนาทุนทางสังคมท่ีดีงามและศักยภาพของชุมชนมาใช้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันความปลอดภัย
จากอาชญากรรม ความเป็นธรรม และความสงบสุขของชุมชน ด้วยการเสริมพลัง การปูองกันและสร้างภูมิคุ้มกัน
จากปญั หาอาชญากรรม การเยียวยาและการจัดการความขัดแย้ง ทาให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงความยุติธรรมดขี ึ้น
เส ริ ม ปร ะสิ ท ธิภาพ แ ละล ดภาร ะข องกระบวนการยุติธรรม หลั ก ส ร้างส านึกความ เป็นชุม ชน
และรักษาขนบธรรมเนียมจารีตประเพณแี ละภมู ิปัญญาท้องถิ่นใหค้ งอยู่

ศูนย์ยุติธรรมชุมชน (ศยช.) หมายถึง สถานที่ที่อยู่ในชุมชนและสมาชิกเครือข่ายยุติธรรมชุมชน
ตลอดจนประชาชนเห็นชอบให้จัดตั้งเป็นศูนย์ยุติธรรมชุมชน เพื่อใช้เป็นสถานที่ดาเนินงานของคณะกรรมการ
ประจาศูนย์ยุตธิ รรมชุมชนหรือดาเนินงานในกิจกรรมตา่ งๆ ของชุมชน ซึ่งศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชนจังหวัดยะลาประกอบ
ไปด้วยศนู ยเ์ กา่ ๒๐ ศนู ย์ และศูนย์ใหม่ ๖๓ ศูนย์

คณะกรรมการประจาศนู ยย์ ตุ ิธรรมชุมชน (คกก.ศยช.) หมายถึง สมาชิกท่ไี ด้รบั การคดั เลือกให้เป็น
ตวั แทนของประชาชนในชมุ ชนในการประสานงานระหว่างประชาชน ชมุ ชนและองค์กรตา่ งๆ ท้ังภาครัฐและเอกชน
เพ่ือใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมในชมุ ชนและความสงบสุขของชมุ ชน

ภารกจิ ของศูนยย์ ุติธรรมชุมชน
๑. ปอู งกันและควบคุมอาชญากรรมในชุมชน (Crime Control & Prevention) ด้วยการยับยั้ง

หรือชะลอสถานการณ์มิให้เกิดความขัดแย้ง ข้อพิพาท หรือการกระทาผิดทางอาญาโดยการเฝูาระวังปูองกัน
การใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจแก่ประชาชน เช่น ระเบยี บ กฎหมายท่ีประชาชนควรรู้ เปน็ ตน้

๒. การรับเรื่องราวร้องทุกข์ แจ้งเบาะแสการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อน
ของผู้ด้อยโอกาส (เด็ก สตรี คนชรา ผู้พิการ) แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เก่ียวข้องดาเนินการต่อไปและติดตามผล
การดาเนนิ งานและแจ้งให้ผู้รับบรกิ ารรับทราบเป็นระยะ

๓. การไกล่เกล่ียประนอมข้อพิพาท (Conflict Management) ตามหลักยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
หรือหลกั สันตวิ ัฒนธรรม

๔. การเยียวยาเสริมพลัง แก่เหยื่ออาชญากรรมและความรู้สึกของชุมชน (Community &
Empowerment) ด้วยการให้ความเข้าใจกาลังใจช่วยเหลือสนับสนุนให้เหยื่ออาชญากรรมและชุมชนนั้น
มีความรสู้ ึกท่ีดแี ละใชช้ วี ิตเป็นปกติ

๕. การรับผพู้ น้ โทษหรือผู้ถูกคุมประพฤติกลบั สชู่ ุมชน (Reintegration) เพ่ือใหบ้ ุคคลน้นั สามารถ
ดารงชีวิตอยูใ่ นชมุ ชนสงั คมไดเ้ ปน็ ปกตแิ ละไมห่ วนกลบั ไปกระทาผดิ ซา้ อีกตอ่ ไป

๒๑

๒๒

๒๓

๒๔

๒๕

๒๖

๒๗

๒๘

อ้างอิง

กองวิชาการและแผนงานธุรการ คู่มือการปฏิบัติงานธรุ การและสารบรรณ” เขา้ ถึงได้จาก
https:/amphuncity.go.th สบื คน้ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕.

คณุ ัญช์ ถ่นิ กลาง (2565) “ศกั ดิ์ของกฎหมายและสาระสาคญั ” เข้าถงึ ได้จาก https://shorturl.asia

สืบค้น ๒๗ พฤศจิกายน 2๕๖๕.
ปรกฟาู (2565) “ภารกจิ ๕ ดา้ นของศูนยย์ ตุ ธิ รรมชมุ ชน” เข้าถึงได้จาก https://www.prokfa.go.th

สบื คน้ 2๘ พฤศจกิ ายน 2๕๖๕.
สานักงานกจิ การยตุ ิธรรม ส่วนนโยบายและยทุ ธศาสตร์ยุติธรรมชมุ ชนและยุตธิ รรมจังหวดั (2565)

“คู่มือการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการศนู ยย์ ตุ ิธรรมชุมชน” เข้าถงึ ได้จาก
http://chiengraknoy.go.th สบื ค้น 2๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕.
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (2565) “พระราชบญั ญัตกิ ารไกล่เกล่ียขอ้ พพิ าท” เข้าถึงได้จาก
https://www.ocpb.go.th สืบคน้ 2๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕.
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (2565) “พระราชบญั ญัตคิ ่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและคา่ ใช้จา่ ย
แก่จาเลยในคดีอาญา” เข้าถงึ ได้จาก https://file.thailandpost.com สืบค้น 2๖ พฤศจิกายน 2๕๖๕.
สานกั งานยตุ ธิ รรมจงั หวัดยะลา เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.yalamoj.go.th สบื ค้น 2๖ พฤศจกิ ายน 2๕๖๕.
JobsDB by seek. “หน้าทนี่ กั ประชาสมั พนั ธ์มืออาชพี ขององคก์ ร” เขา้ ถงึ ได้จาก https:/th jobsab.com
สบื ค้น 2๗ พฤศจกิ ายน 2๕๖๕.
RMUTL.AC.TH. “คู่มอื การเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการ” https://webs.rmutl.ac.th
สบื ค้น 2๘ พฤศจิกายน 2๕๖๕.
สานกั งานยุตธิ รรมจังหวัดพระศรอี ยุธยา (2563) “คมู่ อื การปฏิบตั งิ านศูนย์ยตุ ธิ รรมชมุ ชน” เขา้ ถงึ ไดจ้ าก
” https://chiengraknoy.ac.th สบื ค้น 2๗ พฤศจกิ ายน 2๕๖๕.

๒๙
ประมวลภาพ

๓๐

ประวัตผิ ้จู ดั ทา

ชอ่ื – สกุล : นางสทุ ธิดา พรหมศรยี า
ตาแหนง่ : เจ้าหน้าทศี่ ูนย์ยตุ ธิ รรมชมุ ชนตาบลถาทะลุ
หนว่ ยงาน : ศูนย์ยุติธรรมชมุ ชนตาบลถาทะลุ
การศกึ ษา : บริหารธุรกจิ สาขาวชิ าการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภฎั ยะลา


Click to View FlipBook Version