The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการนิเทศการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Satian Pantis, 2022-04-20 04:14:08

คู่มือการนิเทศการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2

คู่มือการนิเทศการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2

Keywords: คู่มือการนิเทศการวัดและประเมินผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา

47

ตวั อยา่ ง เกณฑก์ ารประเมนิ ภาระงาน The Storage Area

1. ส่งิ ท่ตี อ้ งประเมิน ผลงานกล่มุ

ระดบั คะแนน ลกั ษณะของงาน

4 (ดมี าก) ออกแบบได้ครบถ้วนถูกต้องตามเง่ือนไขที่กาหนด การคิดคานวณถูกต้อง และอธิบาย

เหตุผลได้ถูกต้องชัดเจน ใช้มาตราสว่ นในการวางแผนถูกต้องเหมาะสม

3 (ดีมาก) ออกแบบได้ครบถ้วนถูกต้องตามเง่ือนไขที่กาหนด การคิดคานวณถูกต้อง และอธิบาย

เหตผุ ลได้ถกู ต้องชัดเจน วาดแผนผงั ตาแหน่งการจัดวางโดยใชม้ าตราส่วนไมถ่ ูกตอ้ ง

2 (พอใช้) ออกแบบได้ครบถ้วนถูกต้องตามเง่ือนไขที่กาหนด การคิดคานวณถูกต้อง แต่อธิบาย

เหตผุ ลไมช่ ัดเจน วาดแผนผังตาแหน่งการจัดวางโดยใชม้ าตราส่วนไม่ถูกต้อง

1 (ปรับปรุง) ออกแบบได้ครบถ้วนถูกต้อง การคิดคานวณถูกต้อง แต่ขาดเหตุผลประกอบ การคิด

คานวณไม่ถกู ต้อง วาดแผนผงั อย่างคร่าว ๆ

2. สง่ิ ที่ต้องประเมิน ผลงานรายบุคคล

ระดับคะแนน ลกั ษณะของงาน

4 (ดมี าก) มีองค์ประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ ตามเงื่อนไข ถูกต้องชัดเจน การคิดคานวณ

ถูกตอ้ ง และอธิบายเหตุผลได้ถกู ต้องตามหลักวิชา

3 (ดมี าก) มีองค์ประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ ตามเง่ือนไข ถูกต้องชัดเจน การคิดคานวณผิด

บา้ ง และอธิบายเหตุผลไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั วิชา

2 (พอใช)้ มีองค์ประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ ตามเง่ือนไข ถูกต้องชัดเจน การคิดคานวณผิด

มาก และอธบิ ายเหตุผลไม่ถกู ต้องตามหลักวชิ า

1 (ปรบั ปรงุ ) มีองค์ประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข การคิดคานวณผิด

ทง้ั หมด และอธบิ ายเหตุผลไม่ถกู ต้องตามหลักวิชา

เกณฑ์การประเมินในภาพรวมส่วนใหญ่จะประกอบด้วย 3-6 ระดับ ซึ่งเกณฑ์การประเมิน 3 ระดับ
จะเป็นที่นิยมใช้กันมาก เน่ืองจากกาหนดรายละเอียดง่าย โดยใช้เกณฑ์ค่าเฉลี่ย(อยู่ระดับกลาง) สูงกว่า
ค่าเฉลี่ย และต่ากว่าค่าเฉล่ีย นอกจากง่ายต่อการกาหนดค่าแล้วยังง่ายต่อการตรวจให้คะแนนอีกด้วย
เน่ืองจากความแตกต่างระหว่างระดับนั้น จะชัดเจน แต่ถ้าใช้ 5 หรือ 6 ระดบั ความแตกต่างระหว่างระดับ
จะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ซ่ึงตรวจให้คะแนนยาก ถ้าต้องการให้เกณฑ์ 5 หรือ 6 ระดับ วิธีการท่ีจะช่วย
ในการกาหนดเกณฑ์ให้ง่ายขึ้น ผู้สอนอาจสุ่มตัวอย่างงานของนักเรยี นมาตรวจ จากนั้นในแต่ละกองจะต้อง

48

แยกความแตกต่างให้ได้อีก 2 กองตามระดับคุณภาพของงาน ในกรณีท่ีต้องการทาเป็น 5 กอง กองที่เป็น
คณุ ภาพปานกลางจะไม่แบ่ง แล้วนามากาหนดเกณฑ์การให้คะแนนให้ชัดเจนยงิ่ ข้ึน

1.2 เกณฑ์การประเมินแบบแยกส่วน (Analytic Rubric) คือ แนวทางการให้คะแนน
โดยพิจารณาจากแต่ละส่วนของงาน ซึ่งแต่ส่วนจะต้องกาหนดแนวทางการให้คะแนนโดยมีคานิยมหรือ
คาอธบิ ายลักษณะของงานส่วนน้ัน ๆ ในแตล่ ะระดับไว้อยา่ งชัดเจน

เทคนิคการเขียนรายละเอียดการให้คะแนน การเขียนรายละเอียดการใช้คะแนนหรือ
ระดบั คะแนนแบบแยกส่วน (Analytic) มเี ทคนิควธิ ีการเขียน ดังนี้

กาหนดรายละเอียดข้ันต่าไว้ท่ีระดับ 1 แล้วเพิ่มลักษณะท่ีสาคัญ ๆ สูงขึ้นมาทีละ
ระดบั ตวั อยา่ งเช่น การเขยี นมีประเด็นการประเมิน คือ เนือ้ หา การใชภ้ าษาและรูปแบบ

การกาหนดรายละเอียดถ้าแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ควรกาหนดลักษณะย่อย หรือ
ตวั แปรยอ่ ยท่ีสาคัญให้ได้ 4 ลักษณะ ดงั ตัวอย่าง

ตัวอย่าง เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะการเขียน

ประเด็นการประเมิน ระดบั เกณฑ์การให้คะแนน

1 เนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อเรือ่ ง

2 เนอ้ื หาสอดคล้องกับเน้ือเรือ่ ง เรียงลาดบั เนื้อเร่ืองชัดเจน

เนือ้ หา 3 เนอ้ื หาสอดคล้องกับเน้ือเร่ือง เรยี งลาดบั เน้ือเร่ืองชัดเจนมีรายละเอียดนา่ สนใจ

4 เนือ้ หาสอดคล้องกับเนื้อเร่ือง เรียงลาดับเน้ือเรื่องชัดเจน

มีรายละเอียดนา่ สนใจ แสดงออกถงึ การมีจินตนาการ

1 ผดิ พลาดมาก แต่ยังสามารถส่ือความหมายได้

2 ใช้ภาษาถูกต้องบ้าง และสามารถสอ่ื ความหมายได้

การใชภ้ าษา 3 ใชภ้ าษาถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ สอื่ ความหมายได้ และสามารถเชอื่ มโยงภาษาได้ดี

4 ใชภ้ าษาถกู ต้องเกือบทั้งหมด สื่อความหมายได้ชัดเจน

มีการเชอ่ื มโยงภาษาได้อย่างสละสลวย งดงาม

4 มีปก คานา สารบัญ การอ้างอิง และบรรณานุกรมมีรูปแบบถูกตอ้ งครบถ้วน

3 ขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนงึ่

รูปแบบ 2 ขาด 2 องคป์ ระกอบ

1 ขาด 3 องค์ประกอบ

49

ตวั อยา่ ง การประเมนิ ผลสภาพจริง ท่ีจัดประเมนิ ผลปลายปี

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6

รายวชิ า อ 23101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6

ชื่อ ภาระงาน English Big Day จานวน 8 ชัว่ โมง คะแนน 20 คะแนน

.............................................................................................................................................................

คาชแี้ จง

แบง่ นักเรียนเป็น 5 กลุ่ม แต่ละกล่มุ ทากิจกรรม 1 กิจกรรม โดยการจบั สลาก

กิจกรรมท่ี 1 ใหน้ กั เรียนแสดงบทบาทสมมุติในหัวข้อ “ Party”

ภาระงาน 1. คิดชอื่ งานท่ีจะจัด

2. กาหนดตวั ละครและบทพูดเก่ียวกับการให้ข้อมลู ของตนเองโดยอาศัย

พื้นฐานความรู้จากหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 : My Friends and I

3. เตรยี มสื่อ อุปกรณใ์ นการแสดง

การประเมนิ

1. ผลงานการเขียนบทพูด

2. การนาเสนอตามบทบาทที่ไดร้ ับ

3. การทางานกลมุ่

กิจกรรมท่ี 2 ปรศิ นาคาทาย (Riddles)

ภาระงาน 1. สรา้ งปริศนาคาทายเพ่ือให้ไดค้ าตอบเก่ียวกับสมาชิกในครอบครัว
โดยอาศยั พ้ืนฐานความรู้จากหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 : My Family
(จานวนปริศนาเทา่ กับจานวนสมาชิก)

2. เตรียมส่อื อุปกรณ์ ประกอบการนาเสนอปรศิ นาคาทาย
3. เตรยี มรปู แบบการนาเสนอให้น่าสนใจ
การประเมิน
1. ผลงานการเขียนปรศิ นาคาทาย
2. การนาเสนอปรศิ นาคาทาย
3. การทางานกลุ่ม

50

กิจกรรมที่ 3 การพูดแนะนาโรงเรียน (School Tour)
ภาระงาน 1. เตรยี มบทพูดแนะนาโรงเรียน โดยใช้พื้นฐานความรู้จากหน่วยการ
เรียนร้ทู ี่ 3 : My Hometown
2. เตรียมสอื่ อปุ กรณ์ ประกอบการพูด
3. วางแผนการการพูดสาหรับสมาชิกทุกคน
การประเมิน
1. ผลงานบทพูดแนะนาโรงเรยี น
2. การนาเสนอการพูดแนะนาโรงเรียน
3. การทางานกลมุ่

กิจกรรมท่ี 4 How to make…………………………………………………………………………
ภาระงาน 1. เขียนขัน้ ตอนการทาอาหาร 1 ชนิด โดยออกแบบช้ินงานเพื่อให้
เหน็ ขนั้ ตอนการทาอาหารชนิดน้ัน ๆ และประโยชน์ของอาหาร
ชนิดน้ันๆ โดยอาศัยพ้ืนฐานความรู้จากหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 :
My Lifestyle
2. ออกแบบการนาเสนอ โดยใหส้ มาชกิ ทุกคนมีส่วนร่วม
การประเมิน
1. ผลงานชนิ้ งานประกอบการนาเสนอ
2. การนาเสนอขั้นตอนการทาอาหาร
3. การทางานกลมุ่

กิจกรรมท่ี 5 การแสดงประเพณีไทยที่น่าสนใจ (Thai Festivals)
ภาระงาน 1. ออกแบบชิ้นงาน โดยการเขียน มีภาพประกอบ เพอ่ื อธิบายเก่ียวกับ
ประเพณีน้ัน ๆ เช่น ช่วงเวลา ความเป็นมา กิจกรรมที่ทาในประเพณีนั้น
2. การนาเสนอ โดยการแสดงบทบาทสมมุติ เลน่ ละคร หรอื อน่ื ๆ โดยใช้
พ้นื ฐานความร้จู ากหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 : My Lovely Country โดยให้
สมาชกิ ทุกคนมีส่วนร่วม
การประเมิน
1. ผลงานประกอบการนาเสนอ
2. การนาเสนอการแสดงประเพณีไทย
3. การทางานกลมุ่

51

เพ่ือให้นักเรียนได้ใช้ภาษาตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เรียนมาตลอดรายวิชา ขณะท่ีแต่ละกลุ่ม
นาเสนอกิจกรรมต้องมีการวางแผนเพ่ือให้เพ่ือนในห้องทุกคนได้มีส่วนร่วมใช้ภาษาตามสถานการณ์ท่ี
นาเสนอดว้ ย

เกณฑ์การใหค้ ะแนนงานเขียน “ English Big Day”

ระดับคะแนน 4 3 2 1 นา้ หนัก คะแนน
ประเด็น ความ รวม

การประเมิน สาคัญ

เนอ้ื หา เขียนถูกต้อง เขียนถกู ต้อง เขยี นผดิ บ้าง เขียนผิดมาก 2 8

ครอบคลมุ เน้อื หา ครอบคลมุ เนือ้ หา และไมค่ รอบคลมุ และใหข้ ้อมูล

อย่างสมบรู ณ์ เป็นสว่ นใหญ่ เน้ือหา น้อย

คาศัพท์ สานวน ใช้คาศัพท์สานวน ใช้คาศัพท์ สานวนใช้คาศัพท์สานวนใ ช้ ค า ศั พ ท์ 2 8

และโครงสรา้ งภาษา และโครงสรา้ ง และโครงสร้าง แ ล ะ โค ร ง ส ร้ า งส า น ว น แ ล ะ

ภาษาถูกตอ้ ง ภ า ษ า ถู ก ต้ อ งภาษาแบบง่าย ๆโ ค ร ง ส ร้ า ง

เห ม า ะ ส ม แ ล ะเหมาะสม และมีข้อผดิ บา้ ง ภาษาแบบ

หลากหลาย ง่าย ๆ และมี

ขอ้ ผิดมาก

องค์ประกอบของ องค์ประกอบ องค์ประกอบขององค์ประกอบขององค์ประกอบ 1 4

งานเขียน ของงานเขยี น งานเขียนน่าสนใจง า น เ ขี ย น ไ ม่ของงานเขยี น

แสดงให้เห็น ขาดความสัมพันธ์น่ า ส น ใ จ ข า ดไมน่ า่ สนใจ

ความริเริม่ สร้าง ตอ่ เน่อื ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์

สรรคม์ คี วาม ต่อเนอ่ื ง

สัมพั นธ์ต่อเน่ือง

นา่ สนใจมาก

รวม 5 20

52

แบบบนั ทกึ การประเมินงานเขียน “ English Big Day”

ประเดน็ /คะแนน เนื้อหา คาศัพท์สานวน องค์ประกอบของ คะแนนรวม
กล่มุ ที่ และโครงสร้าง งานเขียน
ภาษา
ชือ่ -สกลุ
8 8 4 20

ลงชื่อ............................................ผปู้ ระเมิน
(..........................................)

วันที.่ .......เดอื น.........................พ.ศ...........

53

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพดู “English Big Day”

ระดับ น้าหนัก คะแนน

คะแนน 4 3 2 1 ความ รวม

ประเดน็ สาคัญ

การประเมิน

ความถูกต้อง ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคา/ ออกเสียงคา/ 2 8

และประโยคได้ และประโยคได้ ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคไม่

ถูกต้องตามหลัก ถกู ต้องตาม เป็นส่วนใหญ่ไม่มี ถูกต้องทาให้

การออกเสียง มี หลักการออกเสียง เสียงเน้นหนักใน ส่อื สารไม่ได้

เสียงเน้นหนักใน มเี สียงเน้นหนักใน คา/ประโยค

คา/ประโยคอย่าง คา/ประโยค/

สมบรู ณ์ ประโยคเป็นส่วน

ใหญ่

ความ พูดตอ่ เน่ืองไม่ พูดตะกกุ ตะกัก พูดเป็นคา ๆ พูดได้บางคา 2 8

คล่องแคล่ว ติดขัดพูดชัดเจน บ้างแต่ยังพอ หยุดเป็นช่วง ๆ สอ่ื ความหมาย

ทาให้ส่ือสารได้ ส่อื สารได้ สอ่ื สารได้ ไม่ได้

ไม่ชัดเจน

การแสดง แสดงท่าทางและ พูดด้วยนา้ เสียง พูดเหมือนอา่ นไม่ พูดได้น้อยมาก 1 4

ทา่ ทาง/นา้ เสียง พูดด้วยนา้ เสียง เหมาะสมกับบท เป็นธรรมชาติไม่มี

ประกอบ เหมาะสมกับบท บรรยายแต่มี ท่าทางประกอบ

การพดู บรรยาย ทา่ ทางประกอบไม่

เหมาะสม

รวม 5 20

54

แบบบนั ทึกการประเมินการพดู “English Big Day”

ประเด็น/คะแนน ความถกู ต้อง ความ การแสดงทา่ ทาง คะแนน
กลุ่มท่ี 8 คล่องแคล้ว นา้ เสียง รวม

ชอ่ื -สกุล 8 ประกอบการพูด 20
4

ลงช่อื ......................................................ประเมิน
(.....................................................)

วนั ท่ี..........เดือน....................................พ.ศ.........

55

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการทางานกลุ่ม”English Big Day”

ระดับคะแนน นา้ หนกั คะแนน
ความ รวม
ประเด็น 4 3 2 1 สาคญั
4
การให้คะแนน สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกล่มุ 1
ทุกคนร่วมมือ ทุกคนทางานท่ี บางคนไม่ 8
สมาชิกในกลุม่ กนั ทางานส่วน ได้รับมอบหมาย ทางานกลมุ่ ขาด 2
ใหญ่มกี าร แต่ยังขาดการ การ 4
ทุกคนร่วมมือ ประสานงานท่ี ประสานงาน ประสานงาน 1 4
ดีเปิดโอกาสให้ ในกลมุ่ เปิด สมาชกิ กลุม่ อ่ืน 1
กนั ทางาน สมาชกิ กลุ่มอื่น โอกาสเปิด ได้มีโอกาสเข้า
มสี ่วนร่วมใน โอกาสให้สมาชกิ ร่วมกิจกรรม
ความรว่ มมือ มกี าร กิจกรรมบาง กลุ่มอ่ืนมสี ่วน ในช่วงของการ
ช่วงของการ รว่ มน้อยมาก นาเสนอ
ประสานงานท่ีดี นาเสนอ ในช่วง
ของการนาเสนอ มกี ารกาหนด
เปิดโอกาสให้ มกี ารกาหนด มีการกาหนด ข้ันตอนการ
ข้ันตอนการ ขั้นตอนการ ทางานไม่
สมาชิกกลมุ่ อื่น ทางานค่อนข้าง ทางานแต่ยงั มี ชัดเจนทาให้ผล
ชัดเจนต้ังแต่ ความสาเร็จของ งานไม่สมบูรณ์
มีส่วนร่วมใน เร่มิ การทางาน งานไม่ค่อย
จนกระท่งั เห็น สมบูรณ์ สมาชกิ ไม่ให้
กิจกรรม ผลงานสมบูรณ์ ความร่วมมอื ใน
สมาชิกส่วน สมาชิกมากวา่ การแสดงความ
ตลอดเวลาการ ใหญ่ร่วมแสดง ครึง่ รว่ มแสดง คิดเห็น
ความคิดเห็น ความคิดเห็น สมาชิกไม่มี
นาเสนอ ความ
สมาชิกส่วน สมาชกิ บางคน
ขั้นตอน มีการกาหนด ใหญ่ทางานที่ เล่ียงงานไม่ทา
การทางาน ขนั้ ตอนการ
ทางานที่ชัดเจน
ตั้งแต่เรม่ิ ทางาน
จนกระท่ังเห็น
ผลงานสมบูรณ์

การแสดงความ สมาชกิ ทุกคน
คิดเห็น รว่ มแสดงความ
คิดเห็น

สมาชกิ ทุก
คนทางานที่

ความรับผิดชอบ ได้รับมอบหมาย ได้รับมอบ หน้าท่ีตามที่ด้รับ รบั ผิดชอบทา 56
จนงานเสร็จสิ้น หมายจนเสร็จ มอบหมายงาน ใหง้ านไม่บรรลุ 20
สมบรู ณ์ทันเวลา สิ้นสมบูรณ์ เสร็จแต่ไม่ค่อย เปา้ หมาย
สมบรู ณ์ทันเวลา
ทันเวลา
รวม 5

แบบบนั ทึกการประเมนิ การทางานกล่มุ “ English Big Day”

ประเด็น/ ความรว่ มมือ ขัน้ ตอนการ การแสดง ความ คะแนนรวม

คะแนน ทางาน ความคิดเห็น รับผิดชอบ

กลุ่มที่

ลงชอ่ื ............................................ผู้ประเมิน
(.........................................)

57

ใบความรู้ที่ 5
เร่อื ง ส่วนประกอบของแผนการเรยี นรแู้ ละประเมินผล

ส่วนประกอบของแผนการเรียนรู้และประเมินผล กรมวิชาการ สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐานได้เสนอไว้ใน เอกสารการวัดและประเมินในชั้นเรียน ตามหลักสูตร แกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 มดี ังนี้ (สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน. 2551)

1. รายละเอียดทัว่ ไป ของแผนการเรียนรแู้ ละประเมินผล ประกอบด้วย ชื่อหนว่ ยการ
เรียนรู้ระดับช้ันที่สอน ภาคเรยี น และปกี ารศึกษา

2. เป้าหมาย ประกอบดว้ ยมาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ และหลักฐานท่ีแสดงว่าการเรียนรู้ของผู้เรียน ส่วนประกอบของส่วนน้ีจะได้จาก
เป้าหมายของภาระงานนั่นเอง เพราะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือความสาเร็จในการปฏิบัติภาระงาน
ของผเู้ รยี น

3. ความรู้และทักษะพื้นฐานท่ีจาเป็นต่อการปฏิบัติภาระงาน คือ รายละเอียดของความรู้
และทักษะพื้นฐานท่ีผู้เรียนจาเป็นต้องมี เพื่อนาประกอบในการปฏิบัติภาระงานเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดองค์
ความรใู้ หม่

4. แหลง่ การเรยี นรู้ กาหนดรายละเอียดของแหล่งเรียนรู้ที่สนับสนุน ต่อการปฏิบัติ
ภาระงาน ของผู้เรยี นภายใต้ปัจจัยท่ีเป็นไปได้ในบริบทของผู้สอน สถานศึกษาและชุมชน

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ กาหนดเป็นกิจกรรมยอ่ ยและกิจกรรมหลัก ดังนี้
กจิ กรรมย่อย พิจารณาจากความรู้ และทกั ษะพื้นฐานที่จาเป็นต่อการปฏิบัติ ภาระ

งานของผู้เรียน ผู้สอนจะเป็นผู้พิจารณา และตัดสินใจ หากผู้เรียนมีครบแล้ว อาจไม่ต้องจัดกิจกรรมย่อย
หากผู้เรียนยังไม่ครบต้องจัดกิจกรรมย่อยเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะพ้ืนฐานที่จาเป็นก่อน ชึ่งอาจมี
1 2 หรอื 3 กจิ กรรมยอ่ ยแล้วแต่ความจาเป็น

กิจกรรมหลกั เป็นลาดับขั้นของสถานการณ์ท่คี รูเป็นผู้กากับและเป็นพี่เล้ียง
เพ่ือใหก้ ารปฏิบัติภาระงานประสบผลสาเร็จตามเป้าหมาย

6. การประเมนิ ผล เป็นรายละเอียดของกระบวนการประเมินผลท้งั หมด ซ่ึงประกอบด้วย
6.1 สิ่งที่ตอ้ งประเมิน คือ ด้านตา่ งๆ ทตี่ อ้ งประเมินจากการปฏิบัติภาระงานทั้งระหว่าง

การปฏิบัติและผลของภาระงาน เช่น การทางานร่วมกัน การนาเสนอผลงานของกลุ่ม คุณภาพของผลงาน
เป็นต้น

58

6.2 ประเด็นการประเมนิ คอื ประเด็นต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบด้านต่างๆ ท่ีตอ้ ง
ประเมิน เช่น การทางานรว่ มกัน แยกเปน็ ประเด็น ดงั นี้

- องคป์ ระกอบของคณะทางาน
- ความรับผดิ ชอบต่อหน้าที่
- ขนั้ ตอนการทางาน
- ระยะเวลาในการทางาน
- ความพงึ พอใจในกลมุ่
6.3 องคป์ ระกอบของการประเมินและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (Rubic) คอื ลักษณะของ
คุณภาพ หรือความสามารถในระดับต่างๆ กัน พร้อมกับเกณฑ์การให้คะแนนตามคุณภาพ หรือ
ความสามารถในระดับนั้น
6.4 เกณฑ์การประเมินรวม ได้มาจากผลการประเมินด้านตา่ งๆ จากสิ่งท่ตี ้องประเมิน
ตาม ข้อ 6.1 นามาเฉลี่ยรวมเป็นผลการประเมินรวมทั้งหมด
7. สรุปผลการเรียนรู้ เปน็ ขอ้ สรุปของผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนเมือ่ จบกิจกรรม การ
เรียนร้ใู นส่วนน้ีผสู้ อนควรสรุปจากหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ควรมาจากความรู้สึกของครู
8. แนวทางการแก้ไขและพฒั นา ส่วนนีจ้ ะเป็นการบันทึกสง่ิ ที่ควรแก้ไขหรอื ปรับปรงุ
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้และการประเมินผล เพ่ือให้มีประสิทธิภาพมากข้ึนต่อไปดังตัวอย่าง
ตวั อยา่ งแผนการเรียนรู้และประเมินผล กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
ท่กี รมวิชาการ ได้เสนอไว้ในการวัดและประเมินผลในช้ันเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ดงั นี้

59

ตวั อยา่ ง แผนการเรยี นรแู้ ละประเมนิ ผล
ตัวอยา่ ง การกาหนดภาระงานจากการวิเคราะห์สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้

“ห้องเรยี นของฉัน”
1. สาระที่ 2 : การวัด
มาตรฐาน ค 2.3 : แก้ปญั หาเก่ียวกบั การวดั
มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้นั ที่ ป.4 – ป.6
ใช้ความรเู้ กย่ี วกับการวดั เงิน เวลา ไปใช้แกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
1 ) เป้าหมายตามมาตรฐานการเรยี นรู้
1.1 ความคาดหวงั ตามสาระการเรียนรู้ : นกั เรียนสามารถนาความรู้เกยี่ วกับการวัด และมาตรฐานไปใชใ้ นการ

เขยี นแผนผงั ได้
1.2 หลกั ฐานการเรียนรู้ : แผนผงั การจัดหอ้ งเรยี นโดยใชค้ วามรู้มาตราสว่ นในการจดั ทา

2. สถานการณ์
ในวนั เปดิ ภาคเรยี นใหม่ นกั เรียนมีความตอ้ งการเปล่ยี นบรรยากาศในห้องเรียนให้ดแู ปลกตา และเหมาะสมตอ่

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จึงวางแผนจัดห้องเรียนใหม่โดยใช้ห้องเรียนจริงของนักเรียน ให้มีโต๊ะครู 1ตัวโต๊ะนักเรียน 25
ตวั และตเู้ ก็บอุปกรณ์ 1 ตู้ ก่อนจะจัดห้องเรียนใหม่ ให้นักเรียนแต่ละคนเขยี นแผนผัง “ห้องเรียนของฉนั ” เพือ่ คัดเลือกท่ี
เหมาะสมทีส่ ดุ ไปจัดห้องเรียน และทเ่ี หลอื จะเกบ็ ไว้เป็นตัวอย่างในการจัดหอ้ งเรียนในคร้งั ต่อ ๆ ไป

3. คาช้ีแจง
ภาระงาน : ให้นักเรียนเขยี นแผนผังการจัดหอ้ งเรยี นตามรปู แบบท่นี ักเรยี นต้องการ

ใหโ้ ตะ๊ และต้ตู ามท่กี าหนดให้ โดยวดั ยาวจรงิ และเลอื กใชม้ าตราสว่ นทเี่ หมาะสมท่ีนกั เรียนกาหนดเอง
4. ผทู้ ม่ี ีส่วนเกยี่ วขอ้ งในการประเมิน
นักเรียนแต่ละคนนาเสนอแผนผังการจัดห้องเรียนหน้าชั้นเรียน ครแู ละเพื่อนนักเรียนคัดเลือกผลงานที่เหมาะสมที่สุดไป
จัดหอ้ งเรยี น และทเ่ี หลอื เก็บไว้เปน็ ตัวอยา่ ง ในการจัดหอ้ งเรยี นคร้งั ต่อ ๆ ไป

60

5. เกณฑก์ ารประเมิน

เกณฑก์ ารประเมิน ดา้ น ผลงาน

ประเด็นการ ระดับคะแนน

ประเมนิ 4 3 2 10

1. แผนผัง ใช้มาตราส่วนได้ ใช้มาตราส่วนได้ ใช้มาตราส่วนได้ ใชม้ าตราส่วนได้ ไม่สง่ / ไม่

ห้องเรียน ถกู ต้องและ ถกู ต้องและ ถูกต้องและ ถกู ต้องและ เขียนแผนผัง

(ความรู้เร่อื ง เหมาะสมทุก เหมาะสมทุก เหมาะสมได้ 2 เหมาะสมได้ 1

การวัดและ รายการและครบ รายการ แต่ไม่ ถงึ 3 รายการ รายการหรอื ไม่

มาตราส่วน) ตามจานวนท่ี ครบตามจานวน และมคี รบตาม ถูกต้องทั้งหมด

กาหนดให้ ที่กาหนดให้ จานวนที่

กาหนดให้

2. ผลงานแปลก ผลงานแปลก ผลงานแปลก เลียนแบบ ไม่

ความสาเร็จ ใหม่ไม่เลียนแบบ ใหมแ่ ต่ประยุกต์ ใหม่ไม่เลียนแบบ ผลงานจากท่ีอื่น ปฏิบัติงาน

ของผลงาน จากท่อี ื่น และ มาจากที่อ่ืน จากทีอ่ ่ืนและใช้ หรือใช้ประโยชน์

ใช้ประโยชน์ได้ และใช้ประโยชน์ ประโยชน์ได้น้อย ได้

ได้

3. ความ ปฏิบัติงานต่าง ปฏิบัติงานต่าง ปฏิบัติงานต่าง ปฏิบัตงิ านต่าง ไม่

รบั ผิดชอบ ๆตามระยะเวลา ๆตามระยะเวลา ๆตามระยะเวลา ๆตามระยะเวลา ปฏิบัติงาน

ที่กาหนดให้ทุก ที่กาหนดให้ ท่ีกาหนดให้เป็น ท่ีกาหนดให้เพียง

คร้ัง เกือบทุกครั้ง บางคร้งั ครงั้ เดียว

4. ความมี ปฏิบัติตนให้อยู่ ปฏิบัติให้ตนเอง ปฏิบัติตนให้อยู่ ปฏิบัติตนให้อยู่ ไม่

ระเบียบ ในขอ้ ตกลงที่ อยู่ในข้อตกลงท่ี ในขอ้ ตกลงที่ ในข้อตกลงที่ ปฏิบัตงิ าน

กาหนดให้ กาหนดให้เกือบ กาหนดให้เป็น กาหนดให้เพียง

ร่วมกันทุกคร้งั ทุกครงั้ บางครั้ง ครั้งเดียว

หนว่ ยท่ี 4
การออกแบบการวดั และประเมินผลการจดั การเรยี นรู้

การวเิ คราะห์หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพอ่ื กาหนดพฤติกรรมการเรยี นรู้
การวเิ คราะหห์ ลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ เพ่ือกาหนดพฤตกิ รรมการเรยี นรู้สามารถวเิ คราะหไ์ ด้ 2

รปู แบบ ดงั น้ี
รูปแบบท่ี 1 การวิเคราะหจ์ ากตัวช้วี ดั
ขั้นที่ 1 ศึกษามาตรฐานหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 2 ศึกษาตัวชว้ี ัดจากหลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 3 กาหนดสาระการเรียน
ขน้ั ที่ 4 กาหนดพฤติกรรมการเรยี นรู้ จานวนออกเป็น 3 ดา้ น
ด้านท่ี 1 ดา้ นความรู้
ดา้ นที่ 2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
ดา้ นท่ี 3 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ขั้นท่ี 5 กาหนดเป็นภารงาน/ชนิ้ งาน

รูปแบบที่ 2 การวเิ คราะห์จากหนว่ ยการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 นาหนว่ ยการเรียนรมู้ าวิเคราะห์
ขน้ั ที่ 2 กาหนดตัวช้ีวดั ให้สอดคลอ้ งกบั หน่วยการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 3 กาหนดวิธกี ารวัด/การวัดประเมินผล
ขั้นที่ 4 กาหนดภาระงาน/ชน้ิ งาน
ข้นั ท่ี 5 การออกแบบเครื่องมอื วดั และประเมินผล

62

ตัวอย่าง การวเิ คราะห์หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้

การวิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้
กลุม่ สาระการเรยี นรู้…………………………………………………ชน้ั ………................
สาระการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………................................……………………………………………………………………………………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตัวชวี้ ดั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
กาหนดพฤติกรรมการเรียนรู้ จานวนออกเปน็ 3 ดา้ น

ด้านที่ 1 ดา้ นความรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….....................................................................................................................................................

ดา้ นที่ 2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….....................................................................................................................................................

ด้านที่ 3 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….....................................................................................................................................................

63

ภารงาน/ชิน้ งาน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….....................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………….....................................................................................................................................................

ตารางวิเคราะห์หลกั สตู รสาระการเรียนรู้.......................................

มาตรฐาน สาระ คุณภาพผู้เรียน
การเรยี นรู้ การเรียนรู้
ตัวช้วี ัด ความรู้ ทักษะ คุณลกั ษณะ ภาระงาน นา้ หนัก

(K) (P) (A) คะแนน

64

ตัวอยา่ งการวเิ คราะห์หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้ เพื่อกาหนดพฤติกรรมการเรียนร้ตู ามรปู แบบท่ี 2
การวเิ คราะห์จากหน่วยการเรยี นรู้ดังน้ี
การออกแบบภาระงานกลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรียนเร่ือง สมบัติของจานวนนบั

ตัวอยา่ ง ภาระงานจากสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชนั้ ที่ 3 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1

“นกั สารวจ ห.ร.ม. และ ค.ร.น.”

สาระท่ี 1 จานวนและการดาเนินการ
1. มาตรฐานการเรียนรู้

ค 1.4 : เขา้ ใจในระบบจานวนและสามารถนาสมบตั ิเกี่ยวกับจานวนไปใช้ได้
2. ตัวชีว้ ดั

ค 1.4.1 นาความรแู้ ละสมบัติ เกีย่ วกับระบบจานวนเต็มและนาไปใช้แกป้ ญั หาได้
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 หาห.ร.ม. และค.ร.น.ของจานวนนบั ที่กาหนดให้ได้
3.2 ใช้ความรเู้ ก่ียวกบั ห.ร.ม. และค.ร.น. แกป้ ัญหาได้
3.3 นาความรแู้ ละสมบัติเก่ียวกบั จานวนเต็มไปใช้ได้
4. สถานการณ์
ให้นกั เรยี นหาสถานการณ์จรงิ เกย่ี วกับการใช้ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ในการแก้ปญั หาในชีวิตประจาวัน
5. คาชี้แจง
1 นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4 – 5 คน
2 นักเรยี นประชมุ คณะทางานเลือก ประธาน รองประธาน กรรมการและเลขานุการ
3 กาหนดข้นั ตอนการดาเนินงานตามภาระงานท่ีได้รับในการกาหนดสถานการณ์จริงเกย่ี วกบั การ
ใช้ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ในการแก้ปญั หาในชีวติ ประจาวัน
4 ดาเนนิ งานสารวจเพอื่ กาหนดสถานการณ์จริงเก่ยี วกับการใชห้ .ร.ม. และ ค.ร.น. ในการแก้ปัญหา
ในชวี ิตประจาวนั พร้อมทงั้ กาหนดสถานการณจ์ ริง
5 นาข้อมลู มาบันทึกลงใบงาน พรอ้ มทั้งนาเสนอแนวคิดวธิ ีการหาคาตอบจากสถานการณ์จรงิ ที่
นกั เรยี นกาหนด
6 สรปุ รายงานและนาเสนอผลงานของนักเรยี นหน้าชั้นเรยี น
6. การวัดและประเมนิ ผล
แตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมิน

65

ตัวอย่างกจิ กรรม
นักสารวจ ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

สมาชิกในกลุ่ม
1………………………………………………………………..
2………………………………………………………………..
3. ……………………………………………………………….
4. ……………………………………………………………….
5. ……………………………………………………………….

คาชแี้ จง
ให้สมาชิกในกลมุ่ หาสถานการณจ์ รงิ เกี่ยวกับการใช้ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ในการแกป้ ัญหาใน

ชีวติ ประจาวัน
1. ข้นั ตอนการดาเนินงาน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. สถานการณ์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. แนวคดิ ในการแก้ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

66

ตัวอย่างแผนการจดั การเรยี นรู้
สาระที่ 1 จานวนและการดาเนินการ

แผนการจดั การเรียนรกู้ ลุม่ สาระคณติ ศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
แผนท่ี ……เรอ่ื ง สมบัตขิ องจานวนนับ เวลา ……. ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ค 1.4 : เข้าใจในระบบจานวนและสามารถนาสมบัตเิ กย่ี วกับจานวนไปใช้ได้

2. ตวั ช้วี ัด
นาความร้แู ละสมบตั ิ เก่ียวกับระบบจานวนเต็มและนาไปใช้แกป้ ญั หาได้

3. สาระสาคัญ
การใช้ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ในการแก้ปัญหา

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 หาห.ร.ม. และค.ร.น.ของจานวนนบั ทีก่ าหนดให้ได้
4.2 ใชค้ วามรู้เก่ียวกับห.ร.ม. และค.ร.น. แกป้ ัญหาได้
4.3 นาความรแู้ ละสมบัติเก่ียวกับจานวนเตม็ ไปใช้ได้

5. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
5.1 ด้านความรู้
5.1.1 หาห.ร.ม. และค.ร.น.ของจานวนนับทีก่ าหนดให้ได้
5.1.2 ใช้ความรเู้ กีย่ วกับห.ร.ม.และค.ร.น. แก้ปญั หาได้
5.2 ด้านทักษะกระบวนการ
5.2.1 มีความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.2.2มีความสามารถใน การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ
5.2.3มคี วามสามารถในการเชือ่ มโยงความรู้ ต่าง ๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเชื่อมโยง

คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อนื่ ๆได้
5.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ
5.3.1 มกี ารทางานอย่างเป็นระบบ
5.3.4 มีความรบั ผดิ ชอบ

67

6. ภาระงานของผู้เรียน
นกั สารวจ ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

7. หลักฐานการเรยี นรูข้ องผู้เรยี น
ชนิ้ งานท่ีประกอบด้วยสถานการณ์ แนวคดิ การแก้ปัญหา กระบวนการดาเนินงาน

8. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้
81 ชมุ ชน
8.2 รา้ นค้า
8.3 โรงเรยี น

9. กจิ กรรมการเรียนรู้
9.1 ทบทวนเก่ียวกบั การหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
9.2 นักเรยี นแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3 – 5 คนพร้อมคัดเลอื กประธาน รองประธานและเลขานุการ
9.3 ให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนมารับภาระงานกบั ครแู ลว้ ปฏิบัติตามภาระงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
9.4 ให้สมาชกิ ในกลมุ่ รายงานและนาเสนอผลงาน

10. วิธีการวดั และประเมนิ ผล
10.1 วิธกี ารวัดและประเมินผล
10.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ิงานและการนาเสนอ
10.1.2 ตรวจผลงาน
10.2 เคร่อื งมือการประเมนิ ผล
10.2.1 แบบสงั เกต
10.2.2 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผลงาน
10.3 เกณฑก์ ารประเมิน

68

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

รายการประเมิน 3 ระดับคะแนน 1
2 กาหนดสถานการณ์ได้ไม่
ถกู ต้อง
สถานการณ์ กาหนดสถานการณ์ได้ กาหนดสถานการณ์ได้ กาหนดแนวคดิ ในการหา
ถกู ต้องชดั เจน ถกู ต้องบา้ งส่วน คาตอบจากสถานการณ์
ไมถ่ ูกต้อง
ความร(ู้ K) กาหนดแนวคดิ ในการหา กาหนดแนวคิดในการ มกี ารวางแผนการ
ดาเนินงานอยา่ งเป็น
แนวคดิ คาตอบจากสถานการณ์ หาคาตอบจาก ระบบและนา ห.ร.ม.
และ ค.ร.น. ไปใช้
ถูกต้องชดั เจน สถานการณ์ถกู บ้าง แกป้ ญั หาไม่ได้
- ใชเ้ วลามากกวา่ ท่ีตกลง
มกี ารวางแผนการ มีการวางแผนการ กนั ไว้ มากกว่า 2 วนั

ทักษะ ดาเนินงานอยา่ งเป็น ดาเนนิ งานอย่างเปน็ - ปฏิบัติตนได้อยา่ ง
(P) การคานวณ ระบบและนา ห.ร.ม. ระบบและนา ห.ร.ม. เหมาะสมตามข้อตกลง
และ ค.ร.น. ไปใช้ รว่ มกนั น้อยกวา่ 6ใน 10
และ ค.ร.น. ไปใช้

แก้ปัญหาได้ถูกตอ้ ง แกป้ ัญหาไดบ้ างส่วน

- ใช้เวลาไดเ้ หมาะสม - ใชเ้ วลามากกวา่ ที่ตก

ตรงเวลา ตามระยะเวลาท่ีได้ตก ลงกนั ไว้ 1-2 วัน

คุณลกั ษณะ ลงกันไว้

(A) - ปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ยา่ ง - ปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ย่าง

ระเบยี บวินัย เหมาะสมตามข้อตกลง เหมาะสมตามข้อตกลง

ร่วมกนั ทุกคร้ัง ร่วมกนั 6 ใน 10

เกณฑก์ ารประเมนิ
คะแนน 13 - 15 หมายถงึ ดมี าก
คะแนน 9- 12 หมายถงึ ดี
คะแนน 5 - 8 หมายถึง พอใชห้ รือผ่านการประเมนิ
คะแนน 1 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

69
บรรณานกุ รม

70

บรรณานุกรม

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. 2547. พระราชบัญญตั ิกระทรวงศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิม่ เตมิ
(ฉบบั ที่ 2)พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : พริกหวาน กราฟฟคิ .

กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2553. หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.

บรู ชยั ศริ มิ หาสาคร. 2552. การนเิ ทศการสอนแบบคู่สัญญา. (ออนไลน). สบื คน้ จาก
http://www.suphet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=103201&Ntypeid=119
(19 กันยายน 2556).

ปรยี าพร วงศอ์ นุตรโรจน์. 2548. การนิเทศการสอน. กรุงเทพฯ : ศนู ย์ส่อื เสรมิ กรุงเทพฯ.
ศิริวรรณ์ ฉายะเกษริน. 2542. การนเิ ทศแบบรว่ มพฒั นา. (ออนไลน). สืบคน้ จาก

http://www.suphet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=103201&Ntype=5
(19 กนั ยายน 2556).
ส. วาสนา ประวาลพฤกษ์. 2544. ค่มู อื การอบรมเชิงปฏบิ ัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา :
เรื่องหลกั การและเทคนิคการประเมินทางการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพ
วชิ าการ.
สงดั อุทรานันท์. 2527. การจดั การเรียนการสอนอย่างเปน็ ระบบ. กรุงเทพฯ. วงเดอื น.

. 2530. การนิเทศการศกึ ษา หลักการ ทฤษฎแี ละปฏิบตั ิ. กรงุ เทพมหานคร :
โรงพิมพ์มิตรสยาม.
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน. 2550. คมู่ ือดาเนินการพฒั นาหลกั สตู รการพฒั นาผนู้ า
การเปลีย่ นแปลงเพ่ือรองรับการกระจายอานาจสาหรบั ครแู ละศึกษานิเทศก์. กรงุ เทพมหานคร:
สานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.

สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา, กระทรวงศึกษาธกิ าร. 2553. เอกสารประกอบหลกั สูตรแกนกลาง

การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู้.
กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.
สวุ ิมล วอ่ งวาณิช. 2551. "การประเมนิ การปฏบิ ัติงาน". การประเมนิ ผลการเรียนรแู้ นวใหม่.
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์.
อัญชลี ธรรมะวธิ ีกลุ . 2552. ความร้เู บื้องต้นเกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา(1). (ออนไลน). สืบค้นจาก
http://panchalee.wordpress.com/supervision/ (19 ตุลาคม 2556).

71

บรรณานุกรม(ต่อ)

D. Tanner and L. Tanner,1987. Supervisory in Education : Problems and practice. New
York : McMillan Publishing company. pp.170 – 198

Glickman,C.D. 1981. Developmental Supervision : Alternative Practice for Helping
Teachers Improve Instruction. Washington D.C. Association for Supervision
And Curriculum Developmen.

Harris, B.M. 1985. Supervisory Behavior in Education. 2d ed. Englewood Cliff, New
Jersy : Prentice-Hall, Inc.

Hengen, P. N., Bartram, S. L., Stewart, L. E. & Schneider, T. D. (1997).
Information analysis of Fis binding sites. Nucl. Acids Res. 25 (24), 4994-
5002.http://schneider.ncifcrf.gov/paper/fisinfo/.

Ryan, Concetta Doti. (1994). Authentic Assessment. Westminster, Teacher Created Material
Inc.

72

ภาคผนวก

73

ภาคผนวก

- แบบบนั ทกึ การนเิ ทศ
- แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
- แบบประเมินการปฏบิ ตั งิ านการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรสู้ าหรบั ครูผสู้ อน
- แบบสอบถามความพงึ พอใจของครูต่อการรบั การนเิ ทศการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
- แบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรยี นทีม่ ตี ่อการปฏบิ ัติงานการวดั และประเมินผลการ
เรยี นรู้ของข้าราชการครู(สาหรับนักเรียน)

แบบบนั ทึกการนเิ ทศ 74
ผู้รบั การนเิ ทศ
วนั เดอื น ปี เร่อื งทนี่ เิ ทศ/สถานที่ ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ

................................................................ ผู้นิเทศ
(.............................................................)

75

แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการ

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

…………………………………………………………………………………………………………

คาชแ้ี จง 1. แบบสอบถามนี้มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือ สอบถามสภาพปัญหาและความต้องการดา้ นการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551

เพ่อื นาข้อมูลกาหนดเทคนิควิธีและแนวทางในการจัดทาเคร่อื งมือนิเทศในการพฒั นาให้มี
ประสทิ ธิภาพยง่ิ ขนึ้
2. ขอ้ มลู ทีท่ า่ นตอบในแบบสอบถามครง้ั น้ี จะไม่มผี ลกระทบตอ่ ตวั ผตู้ อบและสถานศึกษา
แต่ประการใดแตจ่ ะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป จึงขอความกรณุ า
ท่านตอบตามความเป็นจริง
3. แบบสอบถามฉบบั นี้แบง่ เปน็ 3 ตอนคือ

ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทัว่ ไปของผู้ตอบ จานวน 5 ข้อ

ตอนที่ 2 ถามความคิดเหน็ เกี่ยวกับสภาพปญั หาและความตอ้ งการ ดา้ นการวดั และ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

พทุ ธศักราช 2551 มีจานวน 20 ข้อ

ตอนท่ี 3 ถามความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ทเี่ กยี่ วกับการวดั และประเมินผล
การเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

4. ขอขอบคุณเป็นอยา่ งสงู ที่ทา่ นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

กลมุ่ งานวัดและประเมินผลทางการศึกษา
สพป. ราชบรุ ี เขต 2

76

ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
คาชแี้ จง โปรดทาเคร่ืองหมาย / หน้าขอ้ ความทตี่ รงกับความเป็นจรงิ เกี่ยวกบั ตวั ทา่ น

1. เพศ ( ) ชาย
( ) หญงิ

2. อายุ ( ) 21-30 ปี
( ) 31-40 ปี
( ) 41-50 ปี
( ) 50 ปีขึน้ ไป

3. วฒุ ทิ างการศึกษา
( ) ตา่ กว่าปรญิ ญาตรี
( ) ปรญิ ญาตรี
( ) ปริญญาโท
( ) สูงกว่าปริญญาโท

4. ประสบการณ์การสอน
( ) น้อยกวา่ 10 ปี
( ) 11-20 ปี
( ) 21-30 ปี
( ) 31 ปขี น้ึ ไป

5. ประสบการณ์ในการเขา้ รับการอบรมด้านการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลักสูตร

แกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
( ) ไม่เคยเขา้ รับการอบรม
( ) เคยเข้ารบั การอบรม 1-2 คร้งั
( ) เคยเข้ารบั การอบรมมากวา่ 2 ครงั้ ข้นึ ไป

77

ตอนที่ 2 ถามความคิดเห็นเกย่ี วกับสภาพปัญหาและความตอ้ งการด้านการวดั และประเมินผลการเรียนรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

คาชแ้ี จง โปรดอ่านขอ้ ความในชอ่ งรายการแล้วกาเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งด้านขวามือซง่ึ ตรงกบั
ความคดิ เห็นของท่านมากทีส่ ุด ทั้งสองประเดน็ คือ 1) ระดบั ปญั หา 2) ระดบั ความตอ้ งการ
พัฒนา โดยแตล่ ะชอ่ งมีความหมายดังนี้

5 = มากท่ีสุด หมายถึง มปี ัญหามากที่สดุ / มีความต้องการในระดับมากท่ีสดุ
4 = มาก หมายถึง มปี ญั หาบ่อยคร้ังหรือเกือบเป็นประจา / มคี วามต้องการในระดบั มาก
3 =ปานกลาง หมายถึง มีปญั หาเปน็ บางครั้งบางคราว / มีความต้องการในระดับปานกลาง
2 = น้อย หมายถงึ ไมค่ ่อยมีปญั หา / มคี วามต้องการน้อย
1 = นอ้ ยท่สี ดุ หมายถึง มปี ัญหานอ้ ยที่สุด / มคี วามตอ้ งการน้อยทส่ี ุด

รายการ ระดบั ปัญหา ความตอ้ งการพฒั นา

ความรู้ความเขา้ ใจและการปฏบิ ัติ 5 4 3 2 1 5 4 3 21
1. การจัดทาหลักเกณฑ์และแนวปฏบิ ัติการ

ประเมนิ ผลของสถานศกึ ษา
2. การจดั ทาระเบยี นการวดั ประเมนิ ผลของ

สถานศึกษา
3. การกาหนดค่าน้าหนกั คะแนนการประเมินผล

การเรียนร้ตู ลอดปกี ารศึกษา
4. การออกแบบการประเมนิ ผลการเรยี นรใู้ นแตล่ ะ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้
5. การออกแบบการประเมินผลการเรียนรปู้ ระจา

หน่วยการเรียนรู้
6. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
7. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
8. การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
9. การสรา้ งเครื่องมอื วัดและประเมินการเรียนรู้

ทั้งกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ ฯ

78

10. การสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินการอา่ น
คดิ วิเคราะห์ และเขยี น

11. การสร้างเคร่ืองมือวดั และประเมนิ คุณลกั ษณะ
อันพึงประสงค์

12. การสรา้ งเครื่องมือวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน
เนน้ การคดิ วเิ คราะห์

13. การเขียนเกณฑ์การประเมนิ แบบ Rubric
14. การวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ
15. การวดั และประเมินผลภาคปฏิบัติ
16. การสรปุ และแปลผลข้อมูลผลการประเมิน
17. การเทยี บโอนผลการเรียน
18. การจดั ซ่อมเสรมิ ผลการเรียน
19.การจดั ทาเอกสารหลักฐานทางการศกึ ษา(ปพ.ต่างๆ)
20. การนาผลการประเมนิ ไปพัฒนาผู้เรยี น

ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ และความต้องการอ่ืนๆ
3.1 รปู แบบหรือวธิ ีการทท่ี ่านต้องการรบั การพัฒนา โปรดกาเคร่ืองหมาย ( / ) โดยเลือกได้มากกวา่

1 รายการ

 เขา้ อบรมปฏิบตั ิการ  ศึกษาจากเอกสารทจ่ี ัดให้  ศกึ ษาดูงาน

 พ่ีเลีย้ งแนะนา  จัดเวทแี ลกเปลยี่ นเรียนรู้  ศึกษาด้วยตนเองจาก Internet

 อ่ืนๆ โปรดระบุ ………………………………………………........................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

79

3.2 ขอ้ เสนอแนะหรือความต้องการอน่ื ๆ เก่ยี วกับการวัดและประเมนิ ผลการเรียน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ขอขอบคุณทใี่ ห้ความร่วมมือด้วยดี

80

แบบประเมินการปฏิบัติงานการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
สาหรับครูผูส้ อน

....................................................................
คาชแ้ี จง ให้ท่านประเมินผลการปฏบิ ัติงานตามความเปน็ จริงใหม้ ากทีส่ ุด เพื่อประโยชน์ในการนาไป

พัฒนาต่อไป โดยประเมนิ ตามเกณฑ์ดังน้ี
ระดับ 5 หมายถึง มีการปฏบิ ัตงิ านมากทีส่ ดุ และครบถว้ นถูกต้องตามเกณฑ์
ระดับ 4 หมายถึง มีการปฏิบัติงานดับมาก แต่ไม่ครบถว้ นสมบรู ณ์เท่าที่ควร
ระดับ 3 หมายถึง มกี ารปฏบิ ัติงานปานกลาง ไมเ่ ป็นตามเกณฑบ์ ้างบางครั้ง
ระดับ 2 หมายถงึ มีการปฏบิ ัตงิ านน้อย ไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ส่วนมาก
ระดับ 1 หมายถึง มกี ารปฏิบัตงิ านน้อยมาก

ระดับการปฏบิ ตั ิ

รายการประเมิน มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย

ที่สุด กลาง ท่สี ุด

ดา้ นการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้

1. ทาการประเมินผลกอ่ นเรยี น เพ่อื ประเมินความพร้อม

พ้ืนฐานของผู้เรียน

2. กาหนดสดั ส่วนการประเมินระหว่างเรยี นกบั การ

ประเมนิ ผลปลายภาคเรียนหรือปลายปี

3. เลอื กวิธีการและจัดทาเคร่ืองมือสาหรบั ประเมินความรู้และ

ทักษะพน้ื ฐานอยา่ งเหมาะสมมปี ระสิทธิภาพ

4. ดาเนนิ การวัดและประเมินผลการเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรู้

ดว้ ยวธิ กี ารที่หลากหลาย

5.ทาการวัดและประเมนิ ผลระหว่างเรียนควบคู่กบั การจัด

กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแผนท่ีกาหนด พร้อมกบั ปรบั ปรงุ แก้ไข

ผูเ้ รียนท่ีบกพร่อง

6. ประเมินผเู้ รียนหลงั เรียน ในเรื่องท่ีได้เรียนจบแล้ว

7. กาหนดเกณฑก์ ารประเมินใหร้ ะดับผลการเรียนในรายวชิ า

ทส่ี อน

8. จดั การเรียนรูแ้ ละประเมนิ ผลครบทกุ สาระการเรียนรู้ในแต่

ละปีการศึกษา

81

ระดบั การปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ มาก มาก ปาน น้อย น้อย

ท่สี ุด กลาง ทสี่ ดุ

9. รายงานผลการประเมนิ ผลการเรยี นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ให้

นกั เรียนและผู้ปกครองทราบ

10. จดั ทาข้อมูลสารสนเทศและนาไปปรับปรุงแก้ไขและ

พัฒนาการจดั กิจกรรมการเรยี นในรายวิชาทรี่ ับผิดชอบให้

สอดคลอ้ งกบั แนวปฏิบตั ิและปฏิทินปฏบิ ตั ิงาน

ด้านการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น

1. มสี ่วนรว่ มในการกาหนดเกณฑแ์ ละแนวทางการประเมนิ

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น

2. วางแผนและกาหนดจุดประสงคใ์ นการประเมินกิจกรรม

พฒั นาผเู้ รียน

3. กาหนดสัดส่วนคะแนนในการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนา

ผู้เรียนแต่ละกจิ กรรมไวช้ ัดเจนตลอดปีการศกึ ษา

4. สร้างเคร่อื งในการวัดและประเมินผลกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

ครบทกุ จดุ ประสงค์

5. ประเมนิ นกั เรยี นตามจดุ ประสงค์และเวลาเรียนท่ีกาหนด

ครบทกุ ครงั้

6. ให้นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มในการประเมินตนเอง

7. รายงานผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นให้ผเู้ รียนและ

ผปู้ กครองทราบเป็นระยะ

8. ปรับปรงุ และพัฒนาผเู้ รยี นทีไ่ มผ่ า่ นการประเมินกิจกรรม

พฒั นาผเู้ รยี น

9.รายงานผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนแก่

คณะกรรมการตามกาหนด

10. จดั ทาเอกสารหลักฐานผลการประเมินกิจกรรมพัฒนา

ผู้เรยี น ในแบบ ปพ.1 และ ปพ.6

82

รายการประเมิน ระดับการปฏบิ ัติ
มาก มาก ปาน น้อย น้อย
ดา้ นการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทีส่ ดุ กลาง ทีส่ ุด
1. มสี ่วนร่วมในการกาหนดเกณฑแ์ ละแนวทางการประเมิน
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของโรงเรยี น
2. วางแผนและกาหนดตวั ชี้วดั ในการประเมินคุณลักษณะอัน
พงึ ประสงค์
3. กาหนดสัดส่วนคะแนนในการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์แต่ละข้อไว้อย่างชัดเจนตลอดปกี ารศกึ ษา
4. สร้างเครื่องในการวัดและประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์ของนักเรยี นครบทุกข้อและทกุ ตัวช้ีวดั
5. ประเมนิ นกั เรยี นตามคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และ
ตวั ช้ีวัดที่กาหนดครบทุกตวั ช้ีวดั
6. ให้นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการประเมินตนเอง
7. รายงานผลการประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ให้
ผเู้ รียนและผปู้ กครองทราบ
8. ปรบั ปรุงและพฒั นาผูเ้ รยี นที่ไมผ่ ่านการประเมิน
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
9.รายงานผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ก่
คณะกรรมการตามกาหนด
10. จดั ทาเอกสารหลักฐานผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์ ในแบบ ปพ.6

83

รายการประเมิน ระดับการปฏบิ ตั ิ
มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
ดา้ นการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ที่สุด กลาง ท่ีสดุ
1. มสี ่วนรว่ มในการกาหนดเกณฑ์และแนวทางการประเมนิ
การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียนของโรงเรียน
2. วางแผนและกาหนดภารงาน ชิ้นงานในการประเมินการ
อา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน
3. กาหนดสดั สว่ นคะแนนในการประเมนิ การอา่ น คิด
วิเคราะหแ์ ละเขยี นในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรยี นรู้ไว้อย่าง
ชดั เจนตลอดปกี ารศกึ ษา
4. สร้างเครื่องในการวัดและประเมนิ ผลการอ่าน คดิ วิเคราะห์
และเขียนของนักเรียนครบทุกภารงาน ช้นิ งานทกี่ าหนดไว้
5. ประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี นของนกั เรียนตาม
มาตรฐานและเกณฑท์ ีก่ าหนดครบถ้วน
6. ให้นักเรยี นมีส่วนร่วมในการประเมินตนเอง
7. รายงานผลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียนให้
ผเู้ รยี นและผู้ปกครองทราบ
8. ปรบั ปรุงและพัฒนาผู้เรยี นทไี่ มผ่ า่ นการประเมนิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
9.รายงานผลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี นแก่
คณะกรรมการตามกาหนด
10. จดั ทาเอกสารหลักฐานผลการประเมินการอ่าน คิด
วเิ คราะห์และเขยี น ในแบบ ปพ.1 และ ปพ.6

บันทึกหลกั ฐาน/ร่องรอย/เอกสาร/ท่เี กย่ี วขอ้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………

84

แบบสอบถามความพึงพอใจของครู
ตอ่ การรับการนิเทศการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

คาชแี้ จง 1. แบบสอบถามความพงึ พอใจท่ีมีต่อการนิเทศของผูน้ ิเทศ ขอให้ท่านตอบตามความเป็นจริง

2. โปรดกาเครื่องหมาย () ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับความคิดเห็นของท่าน

รายการ ระดบั ความพึงพอใจ น้อย
1. ความรทู้ ไ่ี ดร้ ับจากการนิเทศมีความชดั เจนมากข้นึ มาก มาก ปาน นอ้ ย ทสี่ ดุ
ท่สี ดุ กลาง

2 เนอื้ หา/คาแนะนาที่ได้รับมีความสมบรู ณ์เพียงพอ
3 กิจกรรมท่ีได้รบั การเสนอแนะสามารถนาไปใช้ได้
4 การนเิ ทศแนะนาเปน็ ข้นั ตอน เขา้ ใจง่ายขนึ้
5. รปู แบบและวธิ กี ารนเิ ทศเหมาะสมและนา่ สนใจ
6. สือ่ หรือเครื่องมอตา่ งๆท่ไี ด้รับมปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปปฏิบตั ิ

7. ระยะเวลาในการนเิ ทศ แนะนา ฝกึ ปฏิบัติ มคี วามเหมาะสม
8. การนิเทศ แนะนา เปน็ การพฒั นางานร่วมกัน

9. ท่านมีความมั่นใจและสบายใจในการนานโยบายไปสู่
การปฏิบตั ิ หลังจากไดร้ ับการนเิ ทศ

10. ความรู้หรอื ประสบการณ์ท่ีไดร้ ับจากการนิเทศมปี ระโยชน์
ตอ่ การนาไปปฏบิ ตั ิ

สง่ิ ทท่ี า่ นประทับใจในการนเิ ทศคร้ังนี้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
สิง่ ท่คี วรแก้ไข/ปรับปรงุ ในการนิเทศครง้ั ต่อไป
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ขอบคุณที่ให้ขอ้ เสนอแนะทเี่ ป็นประโยชน์

85

แบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียนที่มตี ่อการปฏบิ ัตงิ าน

การวดั และประเมินผลการเรยี นร้ขู องขา้ ราชการครู

(สาหรบั นกั เรียน)

คาช้ีแจง โปรดกาเคร่ืองหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของนักเรยี นตามความเปน็ จริง

ระดับความพึงพอใจ

รายการประเมิน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย

ที่สดุ กลาง ที่สุด

ดา้ นการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นกลุม่ สาระการเรยี นรู้

1. นกั เรียนได้รบั การประเมนิ ความรูพ้ นื้ ฐานก่อนเรยี น

2. นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑ์ การประเมนิ ใน

แนล่ ะกล่มุ สาระ

3. นกั เรียนไดร้ บั การประเมนิ หลงั เรยี นเมอ่ื เรยี นจบแตล่ ะ

หนว่ ยหรอื เรอื่ ง

4. นักเรยี นได้รบั การประเมนิ ดว้ ยเครอ่ื งมอื ทหี่ ลากหลาย

เช่น แบบทดสอบ แบบสังเกต แบบประเมนิ ชน้ิ งาน แฟม้

สะสมโครงรายงาน โครงงาน แบบฝกึ ใบงาน เปน็ ตน้

5. นักเรียนได้ทราบสดั ส่วนคะแนนการประเมินระหวา่ ง

เรียน ปลายป/ี ปลายภาค

6. นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการประเมนิ ผลงานของตนเอง

และของเพ่ือน

7. นกั เรียนได้เรียนรแู้ ละไดร้ บั ผลการประเมนิ ครบทกุ กลมุ่

สาระในแตล่ ะปกี ารศึกษา

8. นกั เรยี นได้รบั การซ่อมเสรมิ แกไ้ ขผลการเรยี นกรณไี ม่

ผ่านเกณฑ์

ดา้ นการวดั และประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

9. นักเรยี นมโี อกาสไดเ้ ลอื กเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

ตามทต่ี นสนใจ

10. นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑ์การประเมนิ

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น

11. นักเรียนไดเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมและรบั ทราบผลการ

ประเมนิ กจิ กรรมครบทุกกจิ กรรม

86

รายการประเมนิ ระดับความพึงพอใจ
มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
12. นกั เรยี นรบั ทราบจดุ ประสงคแ์ ละวธิ กี ารประเมินใน ทสี่ ุด กลาง ท่สี ุด
การเรียนแตล่ ะกิจกรรม
ด้านการวดั และประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
13. นักเรยี นรบั ทราบคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ทีโ่ รงเรยี น
จะทาการประเมนิ
14. นกั เรยี นรวู้ ธิ ีการและเกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงคแ์ ต่ละข้อ
15. นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ของเพ่ือน
16. นักเรยี นรบั ทราบผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์ของตนเอง และไดร้ บั รายงานผลจาก ปพ.6
ด้านการวดั และประเมินการอ่านคดิ วเิ คราะห์และเขยี น
17. นักเรียนรับทราบวธิ กี ารและเกณฑใ์ นการประเมนิ การ
อ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน
18. นกั เรยี นได้รับการประเมนิ การอา่ นคดิ วเิ คราะหแ์ ละ
เขียนจากเครอื่ งมอื หลายประเภท เชน่ บทความ ขา่ ว
นทิ าน รปู ภาพ ใบงาน เปน็ ตน้
19. นกั เรียนได้รับการประเมินการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละ
เขียนอย่างน้อยภาคเรยี นละ 3 ครงั้ หรือ 3 ชนิ้ งาน
20. นกั เรียนรบั ทราบผลการประเมนิ การอ่านคิดวิเคราะห์
และเขียน จากครทู กุ ครงั้

ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

87

คณะทำงำน

88

รำยช่ือคณะทำงำน

คณะท่ปี รึกษำ
1. นายประสงค์ แย้มศิริ รองผ้อู านวยการสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต2
2. นางสาวดวงนภา ขาวสขุ รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต2
3. นายศุภกร มรกต ผ้อู านวยการกล่มุ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา

คณะทำงำน ศกึ ษานิเทศก์
1. นายเสถยี ร แพนทิศ ศึกษานเิ ทศก์
2. นางสาวภคกรณ์ นาคะพนั ธ์ ศึกษานิเทศก์
3. นางสาวกรรณกิ าร์ บญุ ถนอม ศึกษานิเทศก์
4. นางสาวสภุ ค้ แซเ่ ฮ้ง

ผูเ้ ขยี น/พิมพ์ ศกึ ษานิเทศก์
นายเสถียร แพนทิศ


Click to View FlipBook Version