“การแสดงปัญญาให้คนโง่ ฟัง ไม่มีประโยชน์” นิทานเวตาล เรื่องที่ 10 พระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ
เเนะนำ ตัวละคร 1. เวตาล 2. พระวิกวิกรมาทิตย์ 3. โยคีศานติศีล โยคีศานติศีล เเนะนำ ตัวละคร เวตาล พระวิกรมาทิตย์ เป็นอมนุษย์จำ พวกหนึ่ง คล้ายค้างคาวผี ในปรัมปราคติของ ฮินดู ดำ รงอยู่เป็นภูตที่อาศัยในซากศพผู้อื่นในตอนกลางวัน กษัตริย์ครองราชย์ ณ กรุงอุชชยินี ทรงพระ ปรีชาสามารถ เป็นเลิศ ทั้งในด้านการปกครองและการศึกสงคราม หลังจาก ที่ครองราชย์ได้หลายปีแล้ว ก็มีพระราชประสงค์เสด็จ ไปทรง สอดส่องดูความเป็นไปของบ้านเมืองอื่น โยคีที่บำ เพ็ญตบะ เเละถูกทดสอบตบะโดยพระราชาผู้เป็น พระราชบิดาของพระวิกรมาทิตย์
เมื่อพระเจ้าวิกรมาทิตย์ ทรงปลดเวตาลลงมาจากต้นอโศก แล้ว รับ รั สั่งให้เวตาลเล่านิทานต่อไป เวตาลก็ทูลขึ้นว่า "วันนี้หม่อมฉัน รู้สึรู้ สึ กเขม่นตาซ้าย หัวใจก็เต้นแรง สายตาก็ไม่ดีมองอะไรดูมืดมัว ไปหมด ไม่แจ่มใสเหมือนทุกๆ ครั้ง นับเป็นลางที่ไม่ดีเสียแล้ว พะยะค่ะ แต่หม่อมฉันจะเล่านิทานถวายฝ่าบาทอีกสักเรื่องหนึ่ง"
ในครั้งโบราณกาลนั้น ยังมีเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อว่า "เมือง ธรรมปุระ" เจ้าครองเมืองทรงพระนามว่า "ท้าวมหาพล" พระองค์ ทรงมีพระมเหสีที่ยังคงความสาวและความงดงาม แม้พระธิดาจะ ทรงจำ เริญ ริ วัยเป็นผู้ใหญ่แล้ว พระมเหสีก็ยังคงคล้ายกับสาวรุ่น รุ่ และถ้าจะเปรีย รี บเทียบกับพระธิดาแล้ว ไม่ต่างอะไรกับพี่สาวและ น้องสาวเลย ซึ่งความสาวของพระมเหสีนั้นเป็นเรื่องที่คนทั้ง หลายต่างพากันแปลกใจเป็นอย่างยิง
อยู่ต่อมาไม่นาน เมืองธรรมปุระได้ถูกข้าศึกมาล้อมไว้ ข้าศึกมี กำ ลังและความชำ นาญในการทำ สงครามเป็นอย่างยิ่ง จึงตีเมือง จนแตก ฝ่ายท้าวมหาพลทรงได้ลอบพาพระมเหสีและพระธิดา เสด็จหนีออกจากรพะนครไปได้ในเวลากลางคืน ทั้งสามพระองค์ เสด็จเล็ดลอดพ้นแนวข้าศึกแล้ว ก็ตั้งหน้ามุ่งไปยังเมืองเดิมของ พระมเหสี
วันรุ่ง รุ่ ขึ้น ท้าวมหาพลทรงนำ พระมเหสีและพระธิดา เสด็จพระ ดำ เนินถึงท้องทุ่งแห่งหนึ่ง ได้เห็นหมู่บ้านแต่ไกล พระองค์ไม่ ทราบว่าเป็นหมู่บ้านโจร แต่พระองค์ก็ไม่ได้วางใจ จึงตรัส รั กับพระ มเหสีว่า"น้องกับลูกหญิงรออยู่ที่นี่อย่าเพิ่งเข้าไป หาที่กำ บังตัวไว้ เดี๋ยวพี่จะเข้าตรวจตราเสียก่อน" "เพคะ เสด็จพี่ทรงกลับมาเร็ว ร็ ๆ นะคะ หม่อมฉันและลูกเป็นห่วง" พระมเหสีทรงรับ รั สั่ง ท้าวมหาพลทรงพยักหน้ารับ รั แล้วทรงถืออาวุธ เดินเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อจะหาอาหารมาให้พระมเหสีและพระ ธิดา
ฝ่ายพวกชาวบ้าน ปกติก็ประพฤติตนเป็นโจร ครั้น รั้ เห็นชายแต่ง ตัวดี มีของมีค่าติดตัวมาเช่นนี้ ก็พากันออกมาทำ การชิงทรัพ รั ย์ ท้าว มหาพลจึงทรงธนูยิงพวกโจรล้มตายไปไม่น้อย เมื่อหัวหน้าโจรรู้ ว่า ท้าวมหาพลได้ฆ่าพวกของตนล้มตายไปเช่นนั้น ก็เป่าสัญญาณ เรีย รี กพวกโจรออกมาอีกเป็นจำ นวนมาก พระองค์ถูกล้อมทำ ร้า ร้ ยจน สิ้นพระชนม์ลง ณ ที่นั้น
ฝ่ายพระมเหสีและพระธิดา เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ตกพระทัยจน พระองค์สั่น พากันค่อยๆ หลบหนีออกให้ห่างจากหมู่บ้านโจร ซึ่ง ทางที่จะไปจะเป็นทางไหนก็ไม่ทราบ ความมุ่งหมายมีอยู่แต่ว่าจะ ต้องหนีให้พ้น ทั้งพระมเหสีและพระธิดาทรงมีกำ ลังน้อย แต่ด้วย อำ นาจแห่งความกลัว ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จหนีไปได้ไกลพอ สมควร จึงหยุดพักอยู่ใต้ร่ม ร่ ไม้ริม ริ ทาง
เผอิญขณะนั้น มีพระราชาองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า "ท้าว จันทรเสน" เสด็จออกล่ายิงสัตว์ป่ากับองค์ราชบุตร กษัตริย์ ริ ย์ พ่อ-ลูกทั้งสองทรงม้าไปตามแนวป่า ทรงเห็นรอยเท้าหญิง สองคน ก็ทรงชักม้าหยุดดู และพูดคุยกันถึงรอยเท้าของหญิง สาวทั้งสอง และตกลงแบ่งหญิงสาวกัน
ครั้น รั้ กษัตริย์ ริ ย์ ทั้งสองพระองค์ ทรงทำ สัญญาแบ่งนางกันดังกล่าว แล้ว ก็ทรงชักม้าไปตามรอยเท้าในป่า สักครู่ห รู่ นึ่งก็ทอด พระเนตรเห็นนางทั้งสองนั่งพักอยู่ภายใต้ร่ม ร่ ไม้ ทั้งสองพระ องค์จึงเดินเข้าไปหา แล้วทรงซักถาม พระมเหสีและพระธิดาก็ ทรงเล่าเรื่องราวให้ทรงทราบโดยละเอียดทุกประการ
ท้าวจันทรเสนกับองค์ราชบุตร ก็เชิญเสด็จนางทั้งสองขึ้น หลังม้า โดยพระธิดามีเท้าค่อนข้างโตกว่าให้เสด็จขึ้นทรง ม้ากับท้าวจันทรเสน(พ่อ) ส่วนพระมเหสีนั้นทรงมีเท้าเล็ก กว่าพระธิดา ก็ขึ้นทรงม้ากับองค์ราชบุตร แล้วทั้งสี่ พระองค์ก็เสด็จเข้าพระนคร
ต่อมาท้าวจันทรเสน กับ พระราชบุตร ก็ได้อภิเษกกับทั้งสองพระ องค์ แต่สลับคู่กันไป เพราะเหตุว่าขนาดเท้าผิด คือ พระราชบิดา ทรงอภิเษกกับพระธิดา และพระราชบุตรทรงอภิเษกกับพระมเหสี การกลับกลายเป็นว่า ลูกสาวกลายเป็นเมียพ่อ แม่กลายเป็นเมียลูก ลูกสาวเลยกลายเป็นแม่เลี้ยงของสามีแม่ตัวเอง และแม่กลับต้อง กลายเป็นลูกสะใภ้ และต่อมาพระโอรสและพระธิดาก็เกิดจากนาง ทั้งสองต่อๆ ไป
เวตาลเล่าถวายมาเพียงเท่านี้ก็หยุดอยู่ครู่ห รู่ นึ่ง แล้วกล่าวถามพระเจ้า วิกรมาทิตย์ไปว่า”พระองค์คิดว่าพวกเขาจะนับญาติกันอย่างไรเล่า” พระเจ้าวิกรมาทิตย์ ได้ทรงฟังปัญหาของเวตาลแล้ว ก็ทรงคิดไม่ ออก แม่กับลูก ลูกกับพ่อ พี่กับน้อง โอย...พัวพันกันยุ่งไปหมด มิ หนำ ซ้ำ แม่เลี้ยงก็คือลูกสาว ลูกสะใภ้กลับกลายเป็นแม่ ก็ทำ ให้ พระเจ้าวิกรมาทิตย์ทรงตีปัญหาไม่ออก จึงทรงนิ่ง เวตาลก็คอยทูล ยั่วเย้าให้ตอบปัญหาด้วยการกล่าวคำ ว่า "โง่" เพราะเวตาลทราบดีว่า พระเจ้าวิกรมาทิตย์มิทรงโปรดให้ใครมาดูถูก ว่าพระองค์โง่
เวลาผ่านไปชั่วครู่ เวตาลก็ทำ กระแอม และกล่าวดูถูกพระเจ้าวิกร มาทิตย์ พระเจ้าวิกรมาทิตย์ ตีคำ ถามนี้ไม่ได้จริง ริ ๆ พระองค์จึงทรง นิ่งมิได้ตรัส รั ตอบอะไร ไม่ช้าพระองค์จึงเกิดสติ คิดขึ้นมาได้ว่า "ดีเลยที่เราคิดคำ ตอบไม่ออก เราจึงได้เงียบไม่เผลอตัวตอบปัญหา ของมัน" พระเจ้าวิกรมาทิตย์ จึงทรงบีบมือของพระราชบุตรไว้แน่น เป็นเชิงห้ามมิให้ตอบคำ ถามของเวตาล พระธรรมธวัชราชบุตรก็ ทรงนิ่งสนิท หาได้รับ รั สั่งอะไรไม่ คราวนี้ เพราะความไม่รู้จ รู้ ริง ริ ๆ จึง ทำ ให้พระเจ้าวิกรมาทิตย์ทรงเงียบไม่ตรัส รั ตอบคำ ถาม เวตาลจึงเริ่ม กระวนกระวายใจ.
1.โกรศ คือ ความยาว เท่ากับ 500 คันธนู 2.เขื่อง หมายถึง ใหญ่ 3.คุมกัน หมายถึง รวมตัวกัน 4.เครื่องประหลาด หมายถึง สิ่งที่ทําให้คนประหลาดใจ 5.จําเพาะ หมายถึง เพียง เฉพาะ 6.ซืื้อนํ้าใจ หมายถึง ผูกใจ (ในที่นี้ คือ การใช้ทองติดสินบน ทหาร) 7.ภิลล์ หมายถึง ชื่อชาวป่า อาศัยในเเถบเขาวินธัยในอินเดีย 8.มูลเทวะบัณฑิต หมายถึง มูลเทวพเป็นชื่อของตัวละครใน วรรณคดี หลายเรื่อง เป็นผู้รู้ศิรู้ศิ ลปวิทยา มักกล่าวคติสอนใจ 9,เล็ดรอดพ้น โดย เล็ด หมายถึง ลอบออกมา และ รอดพ้น หมายถึง หนีจากอันตรายมาได้ 10.แล หมายถึง และ 11.สิ้นบุญ หมายถึง ตาย 12.สัญญา หมายถึง สัญญาณที่ทําให้เห็นหรือ รื ได้ยินสู่ 13.สัญญา หมายถึง สัญญาณที่ทําให้เห็นหรือ รื ได้ยินสู่ หมายถึง แบ่งให้ 14หนังสือ หมายถึง วรรณคดี 15.หรอร่อ ร่ ย คือ ร่อ ร่ ยหนอ หมายถึง ค่อยๆหมดไปทีละน้อย คําศัพท์
เวตาล - มีลักษณะช่างพูด มีปัญญาสูง เข้าใจจิตวิทยา ของมนุษย์ สามารถยั่ว โมโหพระวิกรมาทิตย์ ให้ เผลอตอบคําถามหลายครั้ง ลักษณะนิสัยของ ตัวละคร โยคีศานติศีล - เป็นคน เจ้าเลห์อุบาย หลอกลวง พระราชาให้หลงกล ทั้ง ยังเป็นคนอาฆาต พยาบาทรุนแรง พระวิกรมาทิตย์ - มีปัญญา ฉลาดแหลมคม มีความเพียร พยายามไม่ย้อท้อ เเต่มี ความหยิ่งทะนงในตัวเอง มาก
1 .นายวรนน ชนะศิลป์ เลขที่ 2 2 .นายณัฏฐกรณ์ เจิ้ง เลขที่ 5 3 .นายณัฏฐ์สิทธิ์ ณะอิ่น เลขที่ 7 4 .นายชิษณุชา หิรัญ รั จารุทัศน์ เลขที่ 11 5 .นายปฏิญญา ศิริท ริ รัพ รั ย์ เลขที่ 13 6 .นายกันตเมศฐ์ กูลเพชรงามไมตรี เลขที่ 14 7 .นายณัฐพงษ์ เลียบวัฒนะ เลขที่ 15 ผู้จัดทำ M.4/1