The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thosagatsami, 2022-01-30 07:14:45

ฟ้อนดาบ

ฟ้อนดาบ

ฟ้ อนดาบ

จัดทาโดย
เดก็ หญิงทอแสงรัศมี ทสั สะ ม.3/1 เลขท่ี18

ฟ้ อนดาบ

การฟ้ อนดาบ ถือเป็นศิลปการฟ้ อนราพ้ืนเมืองเชียงใหม่ท่ี
ผสมเอาศิลปการตอ้ งกนั ตวั เขา้ มามีส่วนในการฟ้ อนดว้ ย การ
ฟ้ อนดาบเป็นการราที่ใชด้ าบเป็นเครื่องประกอบ มีลวดลาย
ท่วงท่าหลายช้นั เชิง โดยใชเ้ คร่ืองดนตรีกลองป่ ูเจ่ ฉาบและ
ฆอ้ ง ซ่ึงการฟ้ อนดาบน้นั จะเป็นการฟ้ อนที่คู่กบั การฟ้ อนเชิง
หรือ ฟ้ อนเจิง เป็นการฟ้ อนแสดงท่าทางการต่อสู้ดว้ ยมือเปล่า
สองอยา่ งน้ีมกั จะใชผ้ ชู้ ายเป็นหลกั ปัจุบนั การฟ้ อนท้งั สอง
อยา่ งน้ีไดร้ ับความนิยมกนั อยา่ งแพร่หลาย การฟ้ อนท้งั หมดน้ี
ถือเป็นการฟ้ อนแบบดงั่ เดิมของคนเชียงใหม่ ฟ้ อนดาบจะ
คลา้ ยกบั การรากระบ่ีกระบองของภาคกลาง ส่วนฟ้ อนเจิงหรือ
ฟ้ อนเชิง คลา้ ยกบั การแสดงสิละทางภาคใต้ ฟ้ อนดาบน้ีแสดง
ไดท้ ้งั ชายและหญิง ส่วนมากเป็นการราในท่าต่างๆ ใชด้ าบ
ต้งั แต่2-4-6-8 เล่ม และอาจจะใชไ้ ดถ้ ึง 12 เล่ม นอกจากการ
ฟ้ อนดาบแลว้ กอ็ าจมีการราหอกหรือ งา้ วอีกดว้ ย ท่าราบาง

ท่ากใ็ ชเ้ ป็นการต่อสู้กนั ซ่ึงฝ่ ายต่างกม็ ีลีลาการฟ้ อนอยา่ งน่าดู
และหวาดเสียวเพราะส่วนมากมกั ใชด้ าบจริงๆ หรือไม่กใ็ ช้
ดาบท่ีทาดว้ ยหวายแทน หากพลาดพล้งั กเ็ จบ็ ตวั เหมือนกนั
การฟ้ อนดาบน้ีมีหลายสิบท่า และมีเชิงดาบต่างๆ เช่น เชิง
ดาบเชิงแสน (เป็นของพ้ืนเมืองของภาคเหนือ) เชิงดาบแสน
หวี (มาจากพวกไทยใหญ่ หรือเง้ียว) แตล่ ะเชิงดาบมีการ
ฟ้ อนแตกต่างกนั (ปรากฏวา่ เชิงดาบแสนหวเี ป็นนกั ดาบท่ี
เก่งกลา้ เผา่ หน่ึงในประวตั ิศาสตร์) การฟ้ อนดาบมกั ใชก้ ลอง
สะบดั ชยั ตีประกอบจงั หวะ ผแู้ สดงสวมชุดพ้ืนบา้ นภาคเหนือ
(นุ่งกางเกงคร่ึงแขง้ สวมเส้ือม่อฮ่อม มีผา้ ขาวมา้ คาดเอว)

ประวตั ิ

การฟ้ อนดาบมีท่ีมาจากศิลปะการต่อสู้ของชายชาวลา้ นนา
แต่โบราณ โดยผเู้ รียนจะตอ้ งเรียนฟ้ อนเชิงมือเปลา่ ให้
คลอ่ งแคลว่ เสียก่อนจึงจะเรียน ฟ้ อนดาบ หรือฟ้ อนประกอบ
อาวธุ อื่นๆ ตอ่ ไป แม่ลายฟ้ อนของฟ้ อนดาบจะคลา้ ยกบั แม่ลาย
ฟ้ อนของฟ้ อนเชิง แม่ลายฟ้ อนของแตล่ ะครูกจ็ ะแตกต่างกนั
ไป แต่พอ่ ครูคา กาไวย์ และอาจารยธ์ ีรยทุ ธ ยวงศรี ไดร้ ่วมกนั
สืบคน้ และเรียบเรียงแม่ลายฟ้ อนไวใ้ หส้ อดคลอ้ งกนั เพื่อง่าย
ตอ่ การ จดจาโดยอาศยั แนวจากการพรรณนาช่ือแม่ลายในการ
ร่ายราอาวธุ จากมหาชาติฉบบั สร้อยสังกรกณั ฑม์ หาราช เพอื่
สอนนกั ศึกษาวทิ ยาลยั นาฏศิลป์ เชียงใหม่ ดงั น้ี ช่วง ท่ี 1 ไหว้
ครูและขอขมาอภยั เริ่มจากวางดาบ ไขวก้ นั เอาสนั ดาบเขา้ หา
กนั ดาบท้งั สองเล่มน้นั ห่างกนั พอประมาณ จากน้นั หากผฟู้ ้ อน
เป็นผชู้ ายใหเ้ ดินตีวงรอบดาบ 1 รอบ แลว้ เริ่มตบบะผาบหรือ
ฟ้ อนสาวไหมอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง จบแลว้ จึงนง่ั ลงไหวห้ ากผู้

ฟ้ อนเป็นผหู้ ญิงใหน้ ง่ั ไหว้ 3 คร้ัง จากน้นั จบั ดาบ ไขวด้ าบจรด
หนา้ ผาก แลว้ เงยหนา้ ข้ึนกม้ หนา้ ลง แลว้ ชกั ดาบลงไวข้ า้ งหลงั
ท้งั สองขา้ งแลว้ ซุยข้ึนเป็นท่าบวกดาบโดยเร่ิมจากดา้ นหนา้
ตรงก่อนแลว้ หนั ไปทางขวาแลว้ บิด ไปทางซา้ ย จากน้นั จึง
เร่ิมเขา้ สู่แม่ลายท่ีไดเ้ รียบเรียงไว้ 32 ท่า ดงั น้ี

1. บิดบวั บาน
2. เก้ียวเกลา้
3. ลว้ งใตเ้ ทา้ ยกแหลก
4. มดั แกบกอ้ งลงวาง
5. เสือลากหางเหลน้ รอก
6. ชา้ งงาตอกต๋งเตก๊
7. ก่าแปงเป๊ กดินแตก
8. ฟ้ าแมบบ่ตนั หนั
9. จ๊างงานบานเดินอาจ
10. ป๋ าตอ้ นหาดเหินเหียน

11. อินทร์ตือเตียนถ่อมถา้
12. เกิ๋นก่ายฟ้ า
13. สวกกน้ พญาอินทร์
14. แซดซูดน้าบินเหิน
15. สางลานเดินเก้ียวก่อม
16. กิมไฮฮ่อม
17. ถีบโฮง้
18. ควงโคง้ ไหลส่ องแขน
19. วนแวนลว้ งหนีบ
20. ชกั รีบแทงสวน
21. มนมว้ นสีไคล
22. แทงสวนใหม่ถือสนั
23. จ๊างตกมนั หมุนวงลวงรอบ
24. เสือคาบรอกลายแสง
25. สินส้น
26. สินป๋ าย

27. ลายแทง
28. กอดแยง
29. แทงวนั
30. ฟันโข่
31. บวั บานโล่
32. ลายสาง

เมื่อฟ้ อนจบท้งั 32 ท่าแลว้ “นบนอ้ มขอกราบลงวาง”แลว้ จบ
ดว้ ยการฟ้ อนดาบ “พญาเขา้ เมือง”และปัจจุบนั น้ี ท่าฟ้ อนดาบ
ท้งั 32 ท่าที่พอ่ ครูคา กาไวย์ และอาจารยธ์ ีรยทุ ธ ยวงศรี ได้
เรียบเรียงไวน้ ้ีถือเป็นท่าฟ้ อนดาบมาตรฐานท่ีเป็นตน้ แบบ
ใหก้ บั ผทู้ ี่ เริ่มตน้ เรียนฟ้ อนดาบอุปกรณ์ในการแสดงการฟ้ อน
ดาบทวั่ ไปนิยมใชด้ าบเมืองจานวน 2 เล่ม โดยจะวางดาบไว้
กบั พ้นื แลว้ ผฟู้ ้ อนจะไหวค้ รูบาอาจารย์ ฟ้ อนเชิง ตบบะผาบ
แลว้ จึงจะมาหยบิ ดาบร่ายราไปจนครบ 32 ท่า แลว้ วางดาบลง
กบั พ้นื อีกคร้ัง

อุปกรณ์

1. ดาบ 2 เลม่ ตอ่ คน
2. เคร่ืองดนตรี ไดแ้ ก่ ฆอ้ งโหม่ง ฉาบกลาง กลองป่ ูเจ่

(กลองยาวของชาวไตใหญ่)

เครื่องแต่งกาย

ชุดเครื่องแตง่ กายในการฟ้ อนดาบ ไดแ้ ก่ เตี่ยวสะดอ
(กางเกงขาก๊วยขาส้ัน) เส้ือหมอ้ หอ้ ม ผา้ คาดเอว ผา้ โพกศรีษะ

ผ้เู ล่น

ผฟู้ ้ อน 1 - 2 คน และนกั ดนตรีอีก 4 - 5 คน

วธิ ีเล่น

การฟ้ อนดาบ จะเร่ิมตน้ ดว้ ยการตีฆอ้ งนา แลว้ ต่อจากน้นั จะ
ตีฉาบและกลองใหเ้ ขา้ จงั หวะเร้าใจเป็นทานองเพลงป่ เู จ่ ผู้
แสดงเร่ิมฟ้ อนดาบตามหลกั เกณฑแ์ ละท่าที่ครูประสิทธ์ิ
ประสาทใหม้ า ซ่ึงมี 2 ช่วงคือ

ช่วงท่ี 1 ไหวค้ รู โดยผฟู้ ้ อนจะวางดาบลงไวด้ า้ นหนา้ ใหไ้ ขว้
กนั แลว้ จึงไหวค้ รู

ช่วงที่ 2 หลงั จากไหวค้ รูแลว้ กเ็ ร่ิมฟ้ อนท่าต่าง ๆ ซ่ึงครูคา กา
ไวย์ รวบรวมมี 32 ท่า เช่น ท่าบิดบวั บาน เก้ียวเกลา้ ฯลฯ โดย
ใชอ้ วยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรับดาบไว้ เช่น ปากคาบ
หนีบรักแร้ ขาพบั เข่า ฯลฯ การฟ้ อนจะฟ้ อนไปจนจบกระบวน
ท่า ท้งั 32 ท่า หรือจะนอ้ ยกวา่ น้นั กไ็ ด้ ถา้ ฟ้ อนค่กู จ็ ะราไป
พร้อมกนั อาจมีหลอกล่อกนั บา้ ง แตไ่ ม่มีการฟันดาบ

โอกาสหรือเวลาทเี่ ล่น

ใชแ้ สดงเมื่อถึงคราวมีงานนกั ขตั ฤกษ์ เช่น งานประเพณีข้ึน
ปี ใหม่ งานสงกรานต์ งานปอย พิธีรดน้าดาหวั ปัจจุบนั มีการ
พฒั นาใหเ้ ป็นการออกกาลงั กายสาหรับนกั เรียนในการเรียน
จึงมีการแสดงในตอนเชา้ สาหรับบาง โรงเรียน

คุณค่า

การใชด้ าบเป็นอาวธุ เป็นวิชาต่อสูป้ ้ องกนั ตวั ของชายชาว
ลา้ นนา ซ่ึงจะไดร้ ับการฝึกฝนเพื่อใชต้ ่อสูศ้ ตั รูยามสงคราม
และเมื่อมีความชานาญ กอ็ าจใชแ้ สดงเพ่ือความร่ืนเริง เมื่อมี
การแสดงมากข้ึน กม็ ีการประยกุ ตด์ ดั แปลงลีลาท่าทาง และ
การเคล่ือนไหว ประกอบเพลงและอาวธุ มากข้ึน ปัจจุบนั จะ
เนน้ เร่ืองการแสดงเพ่อื ความบนั เทิง โดยเฉพาะในงานแสดง
ตอ้ นรับนกั ท่องเท่ียว และพฒั นาเป็นการออกกาลงั กาย
ประกอบดาบ (ดาบไม)้ ของนกั เรียน ซ่ึงนอกจากจะไดอ้ อก
กาลงั กายแลว้ ยงั เป็นการอนุกรักษว์ ฒั นธรรมของทอ้ งถิ่นดว้ ย


Click to View FlipBook Version