ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR Code เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 (ว30246) ชันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ้ เรื่อง ความหลากหลายของสิ่ งมีชีวิต 4 SCAN ME
คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่อง ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต มีจำนวน 8 ชุด รวมเวลาจัดกิจกรรม 16 ชั่วโมง เปนชุดกิจกรรมที่จัดทำขึ้นจากการศึกษาวิเคราะหหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) และศึกษาจากสภาพปญหาการจัด การเรียนการสอนวิชาชีววิทยาของโรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ) พบปญหานักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนต่ำ จึงไดจัดกิจกรรมเนนผูเรียนเปนสำคัญ ที่จะชวยใหนักเรียนเกิดการเรียนรูอยางเปนขั้นตอน เขาใจเนื้อหาไดงายขึ้น มีการทบทวนความรูเดิม สรางความสนใจกระตุนใหนักเรียนเกิดความอยากรู อยากเห็น เพื่อรวมกันทำการสำรวจ และคนหา ทำการทดลอง อธิบาย สรุปผล ตลอดจนการสืบคนขอมูลขยายความรูเพิ่มเติม การประเมินผล และนำความรูที่ไดไปใชทำใหเกิดการเรียนรูอยางมีทักษะ สรางเจตคติที่ดีทางวิทยาศาสตรใหกับ ผูเรียน นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี QR code มาประยุกตใชในกิจกรรมการเรียนรู เพื่อชวยให นักเรียนไดเขาถึงสื่อ มัลติมีเดียที่หลากหลาย ศึกษาความรูเพิ่มเติมดวยตนเองไดตามความสะดวกและตามตองการ ทำใหการเรียน การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันนำไปสูการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรชุดนี้ เปนชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 4 เรื่อง อาณาจักรโพรทิสตา ซึ่งประกอบ ดวย คำชี้แจง ผลการเรียนรู จุดประสงค สาระการเรียนรู เวลาที่ใช วิธีใชชุดกิจกรรมการเรียนรู สื่อและอุปกรณการเรียนรู แบบทดสอบกอนเรียน ซึ่งเปนแบบตัวเลือก 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ พรอมทั้งบัตรความรูและบัตรกิจกรรม รวมทั้งมี แบบทดสอบหลังเรียนและเฉลยแบบทดสอบและบัตรกิจกรรม ทายสุดมีแบบบันทึกคะแนนกอนเรียน ระหวางเรียนและ หลังเรียน ผูจัดทำหวังเปนอยางยิ่งวาชุดกิจกรรมการเรียนรูนี้ จะเปนประโยชนตอการจัดกิจกรรมการเรียนรูของครู และนักเรียนเปนอยางดี นักเรียนสามารถนำความรู ประสบการณที่ไดรับไปใชในชีวิตประจำวันไดอยางถูกตอง โดยใหนักเรียนไดทำกิจกรรมกลุม ไดฝกทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร จากการที่นักเรียนไดปฏิบัติกิจกรรม ตามลำดับขั้นและนักเรียนสามารถนำความรูที่ไดไปใชในชีวิตประจำวัน สงผลใหเกิดการเรียนรูอยางตอเนื่อง สามารถ สรางองคความรูดวยตนเอง นอกจากนี้ชุดกิจกรรมนี้ยังสามารถใชพัฒนาการเรียนการสอนในกลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตรและเทคโนโลยีไดเปนอยางดี ชวยสงเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักเรียน สงเสริมการหาความรูนอก หองเรียนดวยเทคโนโลยี QR Code มีภาพประกอบและสื่อมัลติมีเดียเพื่อใหเกิดความเพลิดเพลินในบทเรียนเพื่อ ความเขาใจยิ่งขึ้น บุษกร ปทุมไกยะ ก
ข สารบัญ เรื่อง หนา คำนำ สารบัญ คำชี้แจง การใชชุดกิจกรรมการเรียนรู ผลการเรียนรู จุดประสงคเชิงพฤติกรรม สาระการเรียนรู บทบาทของนักเรียน แบบทดสอบกอนเรียน บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 1 บัตรความรูที่ 1 บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 บัตรความรูที่ 2 บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 3 แบบทดสอบหลังเรียน บรรณานุกรม ภาคผนวก แบบบันทึกคะแนนระหวางเรียน เฉลยแบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1-3 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน และประเมินคุณลักษณะ ก ข ค ง จ ฉ ฉ ช 1 4 6 7 8 21 25 28 30 31 32 33 40
ค คําชี้แจง ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่องความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ประกอบ ดวย ชุดกิจกรรมการเรียนรู 8 ชุด ดังนี้ ชุดกิจกรรมการเรียนรูฉบับบนี้ เปนชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 4 เรื่อง อาณาจักรโพรทิสตา ซึ่งนักเรียนจะ ไดศึกษาเรียนรูและปฏิบัติกิจกรรมตาง ๆ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โดยใชเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมทั้งหมด 2 คาบเรียน และใหนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมตามลําดับขั้นตอนตอไปนี้ ชุดที่ ชื่อชุดกิจกรรม จํานวนคาบเรียน รวม 1 2 3 4 5 6 7 8 2 2 2 2 2 2 2 2 16 การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ กําเนิดของสิ่งมีชีวิต อาณาจักรมอเนอรา อาณาจักรโพรทิสตา อาณาจักรพืช อาณาจักรฟงไจ อาณาจักรสัตว ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย
ง การใช้ชุดกิจกรรม ขั้นเตรียมกอนใชชุดกิจกรรม 1. ทำการศึกษาคนควาในเรื่องที่ตนเองจะเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมมากอนลวงหนา เพื่อใหเขาใจในบทเรียน ไดดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น 2. เตรียมความพรอมของตนเองสำหรับการปฏิบัติกิจกรรมรวมกับเพื่อนในหองเรียนและเพื่อนรวมกลุม 3. คำแนะนำในการปฏิบัติงานกลุม 3.1 เลือกประธานกลุมเพื่อเปนผูนำในการดำเนินการจัดการเรียนรู และเลขานุการกลุมเพื่อบันทึก ขอมูล 3.2 สมาชิกทุกคนตองมีสวนรวม ชวยเหลือซึ่งกันและกัน และรับผิดชอบรวมกัน 3.3 ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมอยางเต็มความสามารถและรอบคอบ 4. ใชกลุมเดิมตลอดการเรียนดวยชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 4 เรื่อง อาณาจักรโพรทิสตา ขั้นใชชุดกิจกรรม 1. ศึกษาภาระงานใหเขาใจ และปฏิบัติตามขั้นตอน 2. ปฏิบัติกิจกรรมดวยตนเอง ไมลอกเพื่อนและไมใหเพื่อนลอก 3. ศึกษากิจกรรมดวยความตั้งใจ แลวทำการวิเคราะหเนื้อหาและสรุปเพื่อใหเขาใจงายๆ 4. ศึกษาคำชี้แจงของกิจกรรมโดยการระดมความคิดในกลุม เพื่อตอบคำถามใหตรงตามทฤษฎีของเรื่องที่ เรียนไมตอบโดยไมมีเหตุผลหรือไมมีทฤษฎีรองรับ 5. รวมอภิปรายกับครูดวยความตั้งใจ จดความรูใหม และซักถามทันทีเมื่อไมเขาใจ 6. มีความสามัคคี มีน้ำใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุม โดยไมเอาเปรียบดวยการนั่งเฉยหรือกอความวุนวาย ในหองเรียน ขั้นหลังใชชุดกิจกรรม 1. ทำแบบทดสอบหลังเรียน 2. รวบรวมผลงานที่ไดจากการปฏิบัติกิจกรรมสงครู เพื่อประเมินผลการเรียนรู 3. จัดเก็บอุปกรณทุกชิ้น ใหเรียบรอย
จ ผลการเรียนรู้ ดานความรู 1. สืบคนและอภิปรายเกี่ยวกับอาณาจักรโพรทิสตา 2. อธิบายอาณาจักรโพรติสตา 3. จําแนกและสรางเกณฑของอาณาจักรโพรทิสตา 4. นำความรูเรื่องอาณาจักรโพรทิสตาไปใชประโยชนในชีวิตประจำวัน 5. ประเมินความสำคัญของอาณาจักรโพรทิสตา ดานทักษะกระบวนการ นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแบบวัฏจักร 7 ขั้น (7E) ดังนี้ 1. ทำแบบฝกหัดกอนบทเรียน เพื่อทดสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) 2. รวมกันอภิปรายและตั้งคำถามจากแบบทดสอบกอนเรียน (Engagement Phase) 3. สืบคนขอมูลจากเอกสารประกอบการเรียนรู เรื่อง อาณาจักรโพรทิสตา (Exploration Phase) 4. นำขอมูลมาดำเนินการวิเคราะห แปลผล สรุปผลและนำเสนอผลที่ไดในรูปตางๆ เชน บรรยายสรุป สรางแผนภูมิความคิดรวบยอด (Explanation and Expansion Phase) 5. ใหนักเรียนนำผลงานที่ไดจากการสรุปผลการวิเคราะหมานำเสนอหนาชั้นเรียนเพื่อนำไปสูการหาขอสรุป รวมกันในชั้นเรียนและประเมินผลงาน (Evaluation and Extension Phase) ดานคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มีความสนใจใฝเรียนรู ไดแก การสนทนาซักถาม กระตือรือรนในการปฏิบัติกิจกรรม 2. มีความรับผิดชอบ ไดแก ปฏิบัติหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย ทำงานสำเร็จตามเปาหมาย 3. ความมีเหตุผล ไดแก การรวบรวมขอมูล การอธิบายหรือแสดงความคิดเห็นอยางมีเหตุผล มีหลักการ หรือมีขอมูลอางอิง 4. มีระเบียบวินัย ไดแก ตรงตอเวลาที่นัดหมาย ปฏิบัติตามระเบียบวินัยของกิจกรรม 5. อยูอยางพอเพียง ไดแก ใชทรัพยสินตนเองอยางประหยัดทรัพยสินสวนรวมอยางคุมคา ไมเอาเปรียบคนอื่น วางแผนการเรียนการทำงาน 6. มุงมั่นในการทำงาน ไดแก ตั้งใจ อดทนทำงาน ไมยอทอ 7. รักความเปนไทย ไดแก มีจิตสำนึกในความเปนไทยและภูมิปญญาไทย 8. มีจิตสาธารณะ ไดแก ชวยเหลือเพื่อน พอแม ครู จิตอาสา ทำงานเพื่อสวนรวม
ฉ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สืบคนขอมูลสำรวจตรวจสอบอภิปรายและสรุปลักษณะที่เหมือนและแตกตางกันของสิ่งมีชีวิตอาณาจักร โพรทิสตา 2. สืบคนขอมูลอภิปรายและนำเสนอคุณคาของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตากับ การใชประโยชนของมนุษยที่มีผลตอสังคมและสิ่งแวดลอม สาระการเรียนรู้ สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา เปนสิ่งมีชีวิตกลุมแรกที่มีเซลลแบบยูคาริโอตซึ่งเปนเซลลที่มีเยื่อหอหุม DNA ไวใหมองเห็นเปนนิวเคลียส (Nucleus) ของเซลลไดอยางชัดเจน รวมทั้งมีออรแกเนลลตาง ๆ ภายในเซลล แตกตางกันไปในแตละกลุมสิ่งมีชีวิตมี 8 กลุมยอย คือ 1. กลุมดิโพลโมนาดิดา (Diplomonadida) 2. กลุมพาราบาซาลา (Parabasala) 3. กลุมยูกลีโนซัว (Euglenozoa) 4. กลุมแอลวีโอลาตา (Alveolata) 5. กลุมสตรามิโนพิลา (Stramenopila) 6. กลุมโรโดไฟตา (Rhodophyta) 7. กลุมคลอโรไฟตา (Chlorophyta) 8. กลุมอะมีโบชัว (Amaebozoa) ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 4 เรื่อง อาณาจักรโพรทิสตา ใชเวลาในการเรียนรู 2 คาบเรียน เวลาที�ใช้
ช บทบาทของนักเรียน 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน เลือกประธานกลุม เพื่อเปนผูนําในการดําเนินกิจกรรมและลขานุการกลุม เพื่อบันทึกขอมูลในการปฏิบัติกิจกรรมตางๆ และมอบหมายหนาที่ใหสมาชิกแตละคนในกลุมใหชัดเจน 2. ตรวจสอบความครบถวนของชุดกิจกรรมการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแบบวัฏจักร 7 ขั้น (7E) 3. ทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อทดสอบความรูเดิมของนักเรียน 4. ศึกษากิจกรรมการเรียนรูที่ 1 แลวใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายและตอบคําถาม 5. ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 เพื่อสํารวจและคนหาคําตอบ 6. ศึกษากิจกรรมการเรียนรูที่ 3 จากนั้นเลิกปฏิบัติกิจกรรม อภิปรายและระดมความคิดในกลุม สรุปแกปญหาจากสถานการณที่กําหนดขึ้น แลวบันทึกคําตอบลงในแบบบันทึกกิจกรรม พรอมทั้งขยายความรูที่ไดรับ โดยการนําเสนอหนาชั้นเรียน 7. แลกเปลี่ยนกันตรวจแบบบันทึกกิจกรรมการเรียนรูที่ 1-3 โดยเลขานุการกลุม รวบรวมแบบบันทึก คําตอบของสมาชิกไปแลกเปลี่ยนกับกลุมอื่น โดยกําหนดใหกลุมที่ 1 ตรวจกลุมที่ 8, กลุมที่ 8 ตรวจกลุมที่ 7, กลุมที่ 7 ตรวจกลุมที่ 6, กลุมที่ 6 ตรวจกลุมที่ 5, กลุมที่ 5 ตรวจกลุมที่ 4, กลุมที่ 4 ตรวจกลุมที่ 3, กลุมที่ 3 ตรวจกลุมที่ 2 และกลุมที่ 2 ตรวจกลุมที่ 1 8. ประธานรับเฉลยกิจกรรมการเรียนรูจากครูผูสอน เพื่อนํามาตรวจคําตอบ 9. สมาชิกในกลุมตรวจแบบบันทึกกิจกรรมของสมาชิกกลุมอื่น (กรณีมีขอสงสัย ใหนักเรียนถามครูผูสอน) 10. เลขานุการกลุมรวบรวมแบบบันทึกกิจกรรมกลุมคืนกลุมเดิม 11. ประธานกลุมนําเฉลยกิจกรรมคืนครูผูสอน 12. สมาชิกในกลุมบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนน รวมคะแนนของสมาชิกในกลุมหาคาเฉลี่ยเปน คะแนนของกลุมแจงครูผูสอน
1 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที 4 อาณาจักรโพรทิสตา่ รายวิชา ชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จำนวน 10 ขอ =============================================================== คำชี้แจง 1. แบบทดสอบนี้เปนแบบปรนัยเลือกตอบ มีทั้งหมด 10 ขอ 2. ใหนักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกตอง และทำเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ =============================================================== 1. ในอาณาจักรโพรทิสตามีหลายเซลลรวมกันเปนกลุม แตละเซลลสามารถทำหนาที่ของความเปนสิ่งมีชีวิต ที่ครบถวนอยางอิสระ เรียกเซลลที่รวมกันนั้นวาอะไร ก. เนื้อเยื่อ ข. อวัยวะ ค. โคโลนี ง. ซูโดโพเดียม 2. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตาคือขอใด ก. แฟลกเจลลัม ข. หาง ค. ครีบ ง. เกล็ด 3. สิ่งมีชีวิตในขอใดมีอายสปอต (Eye Spot) ใชในการตอบสนองตอแสง ก. สาหรายแดง ข. พารามีเซียม ค. ยูกลีนา ง. พลาสโมเดียม 4. ขอใดไมใชประโยชนของไดอะตอม ก. การทําไสกรอง ข. ยาขัดรองเทา ค. ทําเครื่องแกว ง. นํ้ายาลางจาน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6
2 5. “ปรากฏการณขี้ปลาวาฬ” เกิดจากสิ่งมีชีวิตในกลุมใด ก. กลุมไดโนแฟลกเจลเลต ข. กลุมสาหรายสีนํ้าตาล ค. กลุมไดโพลโมแนต ง. กลุมยูกลีนอยด 6. โรคในขอใดที่ไมไดเกิดจากสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา ก. ติดเชื้อในชองคลอด ข. โรคเหงาหลับ ค. โรคนิ่วในถุงนํ้าดี ง. ปรสิตในลําไสของคน 7. จีฉายที่นํามาทําอาหารหรือสาหรายผมนางที่นํามาทําวุนคือสิ่งมีชีวิตในขอใด ก. สาหรายสีแดง ข. สาหรายสีเขียว ค. สาหรายสีนํ้าตาล ง. ราเมือก 8. สิ่งมีชีวิตกลุมใดมีลักษณะกิ่งกานคลายพืชชั้นสูง ก. สาหรายสีเขียว ข. สาหรายสีแดง ค. ราเมือก ง. สาหรายเคลป 9. สาหรายในขอใดที่ชวยยอยสลายซากพืช จุลินทรียใหกลายเปนอาหาร ก. สาหรายสีเขียว ข. สาหรายสีแดง ค. ราเมือก ง. สาหรายเคลป 10. สิ่งมีชีวิตในขอใดที่มีโปรตีนสูงและมักนํามาทําอาหารเสริม ก. คอลเรลลา ข. สาหรายสีแดง ค. สาหรายสีนํ้าตาล ง. ราเมือก ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ
3 กระดาษคําตอบ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน วิชาชีววิทยา 6 ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรทิสตา ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. ¡‹Í¹àÃÕ¹ ÊÃØ»¤Ðá¹¹Êͺ ËÅѧàÃÕ¹ 10 ก ข ค ง A B C D ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6
4 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 1่ เรือง สิ่งมีชีวิตอาณาจักรโพรทิสตา ่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นตรวจสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) ขั้นเราความสนใจ (Engagement Phase) และขั้นอธิบาย (Explanation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนศึกษาภาพที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (10 คะแนน) ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563 ขอความขาวที่กําหนด “ขี้ปลาวาฬ” ทานํ้าทะเลพัทยาเปลี่ยนสีโชคดียังไมเขาชายหาด ผูสื่อขาวไดรับแจงจากนักทองเที่ยววานํ้าทะเลบริเวณหนาอาวพัทยา ซึ่งหางจากฝงประมาณ 300 เมตร มีปรากฏการณนํ้าทะเลเปลี่ยนสีหรือที่เรียกกันวา “ปรากฏการณขี้ปลาวาฬหรือแพลงกตอนบลูม” โดยจากการสังเกตจากมุมสูงจะเห็นไดวานํ้าทะเลจากบริเวณชายฝงกับนํ้าทะเลที่อยูหางออกไป จะมี ความแตกตางกัน ซึ่งลักษณะจะเปนนํ้าสีเขียวเขมอยางเห็นไดชัด อยางไรก็ตามปรากฏการณขี้ปลาวาฬ หรือ แพลงกตอนบลูมนั้น นักทองเที่ยวพบเห็นในชวงเมื่อวานนี้ในชวงนํ้าขึ้นตอนบายบริเวณหาดวงศอมาตยนาเกลือ แตหลังจากนั้นกระแสนํ้าไดพัดใหเกิดการเปลี่ยนทิศทางและจางหายไป กระทั่งมาวันนี้ชวงนํ้าขึ้นก็พบปรากฏการณ ดังกลาวอีกครั้ง สําหรับปรากฏการณขี้ปลาวาฬหรือแพลงกตอนบลูมนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่มักจะเปนไป ตามฤดูกาล โดยกระบวนการนํ้าผุดที่แนวชายฝง ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการเคลื่อนตัวของนํ้าทะเล การเติบโต ของแพลงกตอนพืช อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นของนํ้าทะเลนั้นยังเปนอีกปจจัยที่ทําใหเกิดปรากฏการณขี้ปลาวาฬ เชน เดียวกัน
5 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 คําชี้แจง นักเรียนศึกษาภาพและขอความขาวที่กําหนดใหแลวตอบคําถามตอไปนี้ 1. สิ่งมีชีวิตที่ทําใหเกิดปรากฏการณแพลงกตอนบลูม คือ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปรากฏการณแพลงกตอนบลูม ทําใหนํ้าทะเล มีลักษณะอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แพลงกตอนพืช เปนสิ่งมีชีวิตกลุมใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เหตุการณนี้มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอมอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. นักเรียนสามารถแกปญหาจากเหตุการณนี้อยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรความรู้ที 1่ เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาบัตรความรูและรวมกันวิเคราะหอภิปรายและตอบคําถามตอไปนี้ ลงในบัตรบันทึกกิจกรรมการเรียนรู อาณาจักรโพทิสตา การจัดแบงสิ่งมีชีวิตออกเปน 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตวนั้นเกิดปญหาที่สําคัญ คือ สิ่งมีชีวิตบางชนิดมีลักษณะทั้งพืชและสัตวอยูในตัวเองจึงทําใหนักพฤกษศาสตรจัดไวในอาณาจักรพืช และนักสัตววิทยา ก็จัดไวในอาณาจักรสัตว ซึ่งมันไมนาจะเปนไปไดที่สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวอยู ทั้ง 2 อาณาจักร ดังนั้น Ernst Haeckel นักวิทยาศาสตรชาวเยอรมันจึงไดเสนอชื่อโพรทิสตา (Protista) ซึ่งหมายถึง สิ่งมีชีวิตพวกแรกๆ ขึ้นมาใช จึงทําให แยกสิ่งมีชีวิตที่ไมมีลักษณะของพืชหรือสัตวอยางชัดเจนออกจากอาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตวแลวตั้งเปน อาณาจักรใหมชื่อ “อาณาจักรโพรทิสตา” ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา 1. รางกายประกอบดวยโครงสรางงายๆมีหลายเซลลรวมกันเปนกลุมไมซับซอนสวนมากประกอบดวย เซลลเดียว (Unicellular) บางชนิดเรียกวาโคโลนี (Colony) หรือเปนสายยาว (Filament) แตยังไมทําหนาที่ รวมกันเปนเนื้อเยื่อ (Tissue) หรืออวัยวะ (Organ) แตละเซลลสามารถทําหนาที่ของความเปนสิ่งมีชีวิตไดครบถวน อยางอิสระ 2. ไมมีระยะตัวออน (Embryo) ซึ่งตางจากพืชและสัตวที่มีระยะตัวออนกอนที่จะเจริญเติบโตเปนตัวเต็มวัย 3. การดํารงชีพมีทั้งชนิดที่เปนผูผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟลลเปนผูบริโภค (Consumer) และเปน ผูยอยสลายอินทรียสาร (Decomposer) 4. โครงสรางของเซลลเปนแบบยูคาริโอติก (Eucaryotic) ซึ่งมีเยื่อหุมนิวเคลียส ไดแก โพรโทซัว เห็ด รา ยีสต ราเมือก สาหรายตาง ๆ 5. การเคลื่อนที่ บางชนิดเคลื่อนที่ไดโดยใชซีเลีย (Cilia) แฟลกเจลลัม (Flagellum) หรือ ซูโดโพเดียม (Pseudopodium) บางชนิดเคลื่อนที่ไมได 6. การสืบพันธุทั้งแบบไมอาศัยเพศ (Asexual Reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexual Reproduction) แบบอาศัยเพศมีทั้งชนิดคอนจูเกชัน (Conjugation) ซึ่งเกิดจากเซลลสืบพันธุที่มีรูปรางและขนาดเหมือนกัน มารวมกัน ดังเชนที่พบในพารามีเซียม ราดํา เปนตน และชนิดปฏิสนธิ (Fertilization) ซึ่งเกิดจากเซลลสืบพันธุ ที่มีรูปรางและขนาดตางกันมารวมกัน ดังเชนที่พบในสาหรายเปนสวนใหญ เปนตน
7 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 2่ เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาจะหาความรู ขั้นสํารวจแลคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และขั้นนําความรูไปใช (Extend Phase) คําสั่ง จงตอบคําถามตอไปนี้ใหถูกตอง 1. นักวิทยาศาสตรคนใดที่เปนคนเสนออาณาจักรโพรทิสตาขึ้นมาคนแรก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………........ 2. สวนที่เรียกวาโคโลนี (Colony) ในอาณาจักรโพรติสตาคืออะไร ทําหนาที่อยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………........ 3. โพรโตซัวมีการดํารงชีพอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………........… 4. ซีเลีย (Cillia) แฟลกเจลลัม (Flagellum) หรือซูโดโพเดียม (Pseudopodium) เปนอวัยวะของโพรโทซัว ซึ่งทําหนาที่ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………........…………… 5. โพรโทซัว มีการสืบพันธุอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………........…………………
8 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรความรู้ที 2่ เรือง ความหลากหลายโพรทิสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทํากิจกรรมเรื่องการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพตามกิจกรรมที่ กําหนดใหตอไปนี้ ความหลากหลายของโพรทิสตา หากแบงโพรทิสตเปนกลุมตามสายวิวัฒนาการจะแบงกลุมได 8 กลุมดังนี้ 1. กลุมดิโพลโมนาดิดา (Diplomonadida) เปนกลุมโพรทิสตที่เปนเซลลยูแคริโอตที่ไมมีพลาสติดและไมโทคอนเดรียที่เปลี่ยนแปลงไปเปนไมโทโซม (Mitosome) ยังไมสามารถเกิดการถายทอดอิเล็กตรอนเพื่อสราง ATP โดยใชออกซิเจนไดดังนั้นจึงไดพลังงาน จากการหายใจแบบไมใชออกซิเจนเทานั้น นอกจากนี้ยังไมมีออรแกเนลล รางแหเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม กอลจิคอมเพล็กซ และเซนทริโอล แตมีหนวดหลายเสนและมีนิวเคลียส 2 อัน เชน Giardia lamblia ซึ่งเปน ปรสิตในลําไสของคน ภาพ Giardia lamblia (ก) (ข) ภาพถายจากกลองจุลทรรศนแบบใชแสง (ค) ถายจากกลองจุลทรรศนอิเล็กตรอนแบบสองกราด ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
9 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 2. กลุมพาราบาซาลา (Parabasala) หรือกลุมพาราบาซาลิด (Parabasalids) เปนโพรทิสตที่มีไมโทคอนเดรียที่ลดรูป เรียก ไฮโดรจีโนโซม (Hydrogenosome) ไดพลังงานจากการหายใจ แบบไมใชออกซิเจน ถายปลอยไฮโดรเจนออกมา ตัวอยาง โพรทิสตกลุมนี้ ไดแก ไตรโคนิมฟา (Trichonympha) อาศัย อยูในลําไสของปลวกมีการดํารงชีวิตแบบภาวะพึ่งพากันโดยการสรางเอนไซมมาชวยยอยเซลลูโลสในไมใหกับปลวก อีก ชนิด คือ ไตรโคโมแนส (Trichomonas) เปนพาราบาชาลิดที่เปนสาเหตุใหเกิดการติดเชื้อในชองคลอด ภาพ Trichonympha sp. (ก) ภาพถายจากกลองจุลทรรศนอิเล็กตรอนแบบสองกราด (ข) ไดอะแกรมแสดงลักษณะสัณฐานวิทยา ภาพ Trichomonas sp. (ก) ภาพถายจากกลองจุลทรรศนอิเล็กตรอนแบบสองกราด (ข) ไดอะแกรมแสดงลักษณะสัณฐานวิทยา ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
10 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 3. กลุมยูกลีโนซัว (Euglenozoa) เปนโพรทิสตเซลลเดียวที่มีผลึกโปรตีนรูปแทงอยูในหนวดแบงออกเปน 2 กลุมยอย คือ 3.1 กลุมยอยยูกลีนอยด (Euglenoids) ภายในเซลลมีคลอโรพลาสตที่มีสารสีชนิดคลอโรฟลลและแคโรทีน สามารถดํารงชีวิตไดทั้งในฐานะผูผลิตเมื่อมีแสงและเปนผูบริโภคเมื่อไมมีแสง ไดแก ยูกลีนา (Euglena) ภาพ Euglena sp. (ก) ภาพถายจากกลองจุลทรรศน (ข) ไดอะแกรมแสดงลักษณะสัณฐานวิทยา ภาพ Trypanosoma cruzi (เซลล์มีสีม่วง) (ก)-(ข) ภาพถายจากกลองจุลทรรศน (ค) ภาพจําลองรูปรางของเชื้อและเม็ดเลือดแดง 3.2 กลุมยอยไคโตพลาสติด (Kinetoplastids) เปนกลุมที่มีไมโทคอนเดรียเพียง 1 อัน ในเซลลซึ่งมีสาร พันธุกรรมหดตัว เปนโครงสรางไคนโตพลาสตและไมมีคลอโรพลาสตเปนโพรทิสต ที่ดํารงชีวิตแบบอิสระในนํ้าจืด นํ้าเค็มและในสภาพแวดลอมทั่วไปรวมทั้งเปนปรสิตในเลือดของสัตว มีกระดูกสันหลัง เชน เชื้อทริปพาโนโซมา (Trypanosoma cruzi) ซึ่งเปนสาเหตุทําใหเกิดโรคเหงาหลับในคน ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
11 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 4. กลุมแอลวีโอลาตา (Alveolata) เปนโพรทิสตเซลลเดียวที่มีลักษณะรวมกันคือมีถุงแบนๆ ที่เรียกวา แอลวีโอไล (alveoli) เรียงตัวเปนชั้น ใตเยื่อหุมเซลล ซึ่งยังไมทราบหนาที่ที่ชัดเจนของถุงนี้ แบงออกเปน 3 กลุมยอย ไดแก 4.1 กลุมยอยไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellates) เปนโพรทิสตเซลลเดียวที่มีสารแคโรทีนและคลอโรฟลลในพลาสติด ผนังเซลลเปนเซลลูโลสและ สรางผนังเซลลเปนแผนมาประกอบกัน หนวดมี 2 เสน วางตัวในแนวรอบเซลลและแนวดานหลังของเซลลอยางละเสน ไดโนแฟลกเจลเลตบางชนิดมีการสะสมสารพิษในตัว เมื่อนํ้าทะเลมีสารอินทรียซึ่งเปนแหลงอาหารในปริมาณมาก ทําใหมีการเพิ่มจํานวนประชากรไดโนแฟลเจลเลตอยางรวดเร็ว ทําใหทะเลมีสีแดงอันเนื่องจากสีของแคโรทีนอยด ในพลาสติดของไดโนแฟลกเจลเลตกอใหเกิดเปน “ปรากฏการณขี้ปลาวาฬหรือ Red Tide” ขึ้นซึ่งทําใหเกิดสารพิษ ของโซอาหารในทะเลและเกิดอันตรายตอสัตวเปนจํานวนมาก ภาพ โครงสร้างของ Dinoflagellate van ภาพ (ก) การเกิดปรากฏการณ์ขีปลาวาฬหรือ Red Tide ้ อันเกิดมาจาก Dinoflagellate Blooming (ข) ซากสัตว์นํ้าทีตายเนื่องจากความเป็นพิษของไดโนแฟลกเจลเลต่ ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
12 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 4.2 กลุมยอยเอพิคอมเพลกซา (Apicomplexas) เปนโพรทิสตที่มีขนาดเล็กสวนใหญจะดํารงชีวิตเปนปรสิต ไดแก พลาสโมเดียม (Plasmodium) ชนิดทําให เกิดโรคมาลาเรียในคนและสัตวอื่น โดยมียุงกนปลองเปนพาหะคือ Plasmodium falciparum ภาพ Plasmodium folciparum (ก) ภาพจําลองพลาสโบเดียม (ข) พลาสโมเนียมระยะตางๆภายในเซลลเม็ดเลือดแดง (ค) ภาพถายเม็ดเลือดแดงถูกทําลายโดยพลาสโมเนียม ภาพ Paramecium sp. และ Vorticella sp. 4.3 กลุมยอยซิลิเอต (Ciliates) เปนโพรทิสตกลุมที่ใชซีเลียในการเคลื่อนที่ มักอาศัยอยูในสภาพแวดลอมที่มีนํ้าขังหรือความชื้นสูง โพรทิสต กลุมนี้จะมีความหลากหลายของชนิดมากที่สุด เชน พารามีเซียม (Paramedium sp.) และวอรติเชลลา (Vorticella sp.) เปนตน ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
13 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 5. กลุมสตรามิโนพิลา (Stramenopilla) สวนใหญเปนโพรทิสตที่สังเคราะหดวยแสงได และโพรทิสตที่เปนผูบริโภคหลายกลุม ลักษณะรวมกันของ สตรามิโนไพล คือ เซลลสืบพันธุมีแฟลกเจลลาที่มีขนและแฟลกเจลลาที่ไมมีขน แบงออกเปน 4 กลุมยอย ไดแก 5.1 กลุมยอยโอโอไมซีเทส (Oomycetes) เปนกลุมโพรทิสตคลายราที่มีลักษณะเปนเสนใยที่ไมมีผนังเซลลกัน ภายในมีนิวเคลียสจํานวนมากมายและ มีเซลลูโลสเปนสวนประกอบของผนังเซลล สามารถสืบพันธุไดทั้งแบบอาศัยเพศและไมอาศัยเพศมีการดํารงชีวิต โดยเปนผูยอยสลายและปรสิตบางชนิด อาศัยอยูในนํ้า เรียกวา Water Molds มักทําใหเกิดโรคในสัตวนํ้า เชน การติดเชื้อราบนเกล็ดปลาจากเชื้อ Saproteenia parasitica ภาพ การติดเชือราบนเกล็ดปลาจากเชื้อ้ Saproteenia parasitica ภาพ (ก) ลักษณะเสนใยและการสรางสปอรเชื้อ Saprolegnia parasitica (ข) ปลาที่ติดเชื้อ Water Mold ภาพ กลุ่มย่อยไดอะตอม (Diatom) ภาพ (ก) โครงสรางของไดอะตอม (ข) ไดอะตอมรูปทรงตางๆ 5.2 กลุมยอยไดอะตอม (Diatom) เปนโพรทิสตที่มีลักษณะเซลลเดียวอยูเดี่ยว ๆ หรือรวมกันเปนกลุมก็ได มีลักษณะสําคัญ คือ ผนังเซลล ประกอบดวยสารพวกซิลิกาเปนจํานวนมาก และมีลักษณะคลายฝากลองและกลอง คือ มีฝากลองเรียก “Epitheca” และกลองเรียก “Hypotheca” ประกอบกันและมีความแข็งแรงมาก
14 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ภาพ กลุ่มย่อยสาหร่ายสีทอง (Golden Algae) ภาพ (ก) Dinobryon sp. (ข) Urogtena volvox (ค) Synura sp. 5.3 กลุมยอยสาหรายสีทอง (Golden Algae) เปนโพรทิสตเซลลเดียวที่มีสีเหลืองทอง อันเนื่องมาจากการสะสมสารพวกแคโรทีนอยดไวภายในเซลล แตละเซลลมีหนวด 2 เสน และเซลลมักตอเรียงกันเปนเสนสายหรือโคโลนี โดยการยึดกันของหนวด เชน ไดโอบริออน (Diobryon sp.) ยูโรกลีนา (Uroglena sp.) และซีนูรา (Synura sp.) เปนตน ภาพ กลุ่มย่อยสาหร่ายสีนํ้าตาล (Brown Algae) ภาพ (ก) Postelsia sp. (ข) Laminaria digitata (ค) Laminaria sp. (Kelp) 5.4 กลุมยอยสาหรายสีนํ้าตาล (Brown Algae) เปนสาหรายที่มีขนาดใหญและมีโครงสรางซับซอนมากที่สุด บางชนิดมีเนื้อเยื่อที่หนา และมีอวัยวะที่ คลายราก คลายลําตน และคลายใบ สาหราย กลุมนี้ในธรรมชาติมักพบมีสีนํ้าตาล อันเนื่องมาจากมีการสะสมสารสี ชนิดฟวโคแซนทินมากกวาแคโรทีนและคลอโรฟลล
15 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ถึงแมสาหรายสีนํ้าตาลจะมีโครงสรางคลายพืช แตอยางไรก็ตามในเชิงวิวัฒนาการ พบวาสาหรายกลุมนี้ มีความสัมพันธใกลชิดกับสาหรายเซลลเดียวมากกวาพืชชั้นสูง สาหรายสีนํ้าตาลบางชนิดเจริญอยูในบริเวณเดียวกัน เปนจํานวนมาก และมีความยาวไดถึง 60 เมตร เชน สาหรายเคลป (Kelp) หรือ Laminaria sp. ความสําคัญตอ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยูในนํ้าทะเล เพราะเปนทั้งแหลงอาหารที่อยูอาศัยและที่หลบภัยของบรรดาสัตวนํ้า และนํามาทํา เปนอาหารของมนุษย สาหรายสีนํ้าตาลหลายชนิดมีคุณคาทางเศรษฐกิจ เชน สาหรายลามินาเรีย (Laminaria sp.) และสาหรายทุนหรือซารกัสซัม (Sargassum sp.) นิยมนํามาทําเปนอาหาร เนื่องจากมีธาตุไอโอดีนสูง สาหรายพาไดนา (Padina sp.) และสาหรายฟวกัส (Fucus sp.) นํามาใชผลิตปุยโพแทสเซียม เปนตน ภาพ กลุ่มย่อยสาหร่ายสีนํ้าตาล (Brown Algae) ภาพ (ก) Sargassum sp. (ข) Padina sp. (ค) Fucus sp. 6. กลุมโรโดไฟตา (Rhodophyta) หรือกลุมสาหรายสีแดง (Red Algae) สาหรายกลุมนี้มีการสรางเนื้อเยื่อและกิ่งกานสาขาคลายพืช บางชนิดอาศัยอยูในนํ้าจืด แตสวนใหญอาศัย อยูในนํ้าเค็ม เนื่องจากสาหรายสีแดงมีสารสีเสริมชนิดไฟโคอีรีทริน (Phycoerythrin) ซึ่งสามารถดูดกลืนแสง ชวงความยาวคลื่นแสงสีเขียวและสีนํ้าเงินที่สองผานนํ้าไดลึกกวาแสงสีอื่น ๆ สาหรายสีแดงจึงสามารถเจริญเติบโต ในบริเวณนํ้าลึกกวาสาหรายสีนํ้าตาล และสาหรายสีเขียวได และที่แตกตางจากสาหรายกลุมอื่น ๆ คือ สาหราย กลุมนี้สรางเซลลสืบพันธุเพศผู (Sperm) แบบไมมีหนวด กลุมสาหรายสีแดงที่พบ ไดแก Porphyra sp. หรือ จีฉาย นํามาทําเปนอาหาร Gracilaria sp. หรือสาหรายผมนาง ใชเปนวัตถุดิบในการผลิตวุน เปนตน ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
16 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ภาพ กลุ่มโรโดไฟตา (Rhodophyta) หรือกลุ่มสาหร่ายสีแดง (Red Algae) ภาพ (ก) Porphyra tenera (ข) Gracilaria sp. (ค) Fauchea laciniata 7. กลุมคลอโรไฟตา (Chlorophyta) หรือกลุมสาหรายสีเขียว (Green Algae) จัดแบงเปน 2 กลุมตามลักษณะวิวัฒนาการและความซับซอนของลักษณะสัณฐานวิทยาและโครงสรางสืบพันธุ ไดแก 7.1 กลุมยอยคลอโรไฟต (Chlorophytes) เปนกลุมที่มีลักษณะคลายพืช ทั้งลักษณะโครงสรางผนังเซลลและสวนประกอบของสารสี คือ คลอโรฟลลบี และแคโรทีน บางชนิดมีหนวดชวยในการเคลื่อนที่ สวนใหญจะพบในแหลงนํ้าจืด มีบางชนิดเทานั้นที่พบในนํ้าทะเล เปนแหลงอาหารที่สําคัญของสัตวนํ้าและชวยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในนํ้า กลุมสาหรายสีเขียวมีความหลากหลายมาก จัดแบงตามลักษณะนิสัยไดดังนี้ 7.1.1 สาหรายเซลลเดียว (Unicellular algae) สาหรายกลุมนี้มักพบลอยอยูในนํ้า อาจเรียกอีกอยางวา “แพลงกตอนพืช” เซลลมีรูปรางรีจนถึงกลม ทุกชนิดมีคลอโรฟลลแบบตาง ๆ อยูภายในเซลล บางชนิดอาจมี หนวดหลายเสนชวยในการเคลื่อนที่ เปนกลุมสาหรายที่มีความหลากหลายมากที่สุดในกลุมสาหรายสีเขียว เชน คลาไมโดโมแนส (Chlamydomonas sp.) เปนสาหรายเซลลเดียว ที่นํามาใชเปนตัวอยางในการศึกษาดาน ชีววิทยาโมเลกุล โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ดวยแฟลกเจลลาและการเพิ่มจํานวน และพันธุกรรมของคลอโรพลาสต อีกชนิด คือ คลอเรลลา (Chlorella sp.) เปนสาหรายสีเขียวเซลลเดียวที่มีการสะสมโปรตีนสูงจึงนิยมนํามาผลิต เปนอาหารเสริม ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 17 7.1.2 สาหรายที่อยูรวมกันเปนกลุม (Colonial Algae) สาหรายกลุมนี้เกิดจากการรวมกันของสาหราย เซลลเดียวชนิดเดียวกันหลาย ๆ เซลล เกาะกลุมกันอยูเปนโคโลนีรูปทรงตาง ๆ เชน วอลวอกซ (Volvox sp.) ซีนีเดสมัส (Scenedesmus sp.) และโกเนียม (Gonium sp.) เปนตน ภาพ Chlamydomonas moewusii ภาพ (ก) ภาพถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์ (ข) ภาพถ่ายจากล้องอิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) ภาพ Chlorella sp. (ก) ลักษณะเซลล์ของ Chlorella sp. (ข) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผลิตจาก Chlorella ภาพ ลักษณะสาหร่ายที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (Colony) (ก) Volvox sp. (ข) Scenedesmus sp. (ค) Gonium sp.
18 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 7.1.3 สาหรายที่มีลักษณะเปนเสน (Filamentous Algae) สาหรายชนิดนี้พบลอยอยูในแหลงนํ้าหรือยึด เกาะอยูกับสิ่งตาง ๆ ได มีลักษณะเปนเสนที่เกิดจากเซลลเดี่ยวเรียงตอกัน เปนสายยาว แตละชนิดมีคลอโรพลาสต รูปรางแตกตางกันไป และมีออรกาเนลตาง ๆ ที่ทําหนาที่สมบูรณภายในแตละเซลล ไดแก สไปโรไจรา (Spirogyra sp.) หรือเทานํ้า เปนสาหรายสีเขียวที่มีคลอโรพลาสตเรียงตัวเปนเกลียวอยูในเซลล มีการสะสมแปงภายในเซลลมาก อีกชนิด คือ คลาโดฟอรา (Cladophora sp.) หรือเปนสาหรายสีเขียวที่มีคลอโรพลาสตเรียงกันเปนรางแห (Recticulate Chloroplast) รับประทานไดมีโปรตีนสูง ภาพ Spirogyra sp. (ก) ลักษณะถิ่ นอาศัยในลําธารนํ้าใส (ข) ลักษณะเส้นสายมองเห็นคลอโรพลาสต์เป็ นแถบ (ค) การสืบพันธุ์แบบ Conjugation ได้เซลล์ไซโกต (Zygote) เจริญเติบโตเป็ นต้นใหม่ต่อไป ภาพ Cladophora sp. (ก) โครงสร้างแบบเส้นสาย (ข) คลอโรพลาสต์แบบร่างแห 7.1.4 สาหรายที่มีลักษณะเปนแผน (Thallus Algae) สาหรายกลุมนี้มีลักษณะเปนแผนของโครงสรางที่ ประกอบดวยเซลลเรียงซอนกันหนามากกวาหนึ่งชั้น มีสวนที่ยึดเกาะกับพื้นดินคลายรากคลายลําตนและคลายใบ แตยังไมมีระบบทอลําเลียงใดๆ ไดแก Ulva sp. และสาหรายใบมะกรูด (Halimeda sp.) เปนตน
19 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ภาพ Cladophora sp. (ก) Ulva sp. (ข) Halimeda discoidea (ค) Halimeda sp. 7.2 กลุมยอยคาโรไฟเขียน (Charophyceans) หรือกลุมสาหรายไฟ สาหรายกลุมนี้แตกตางจาก คลอโรไฟต คือ สรีรวิทยาของการสังเคราะหดวยแสง การสืบพันธุแบบอาศัยเพศแบบซับซอน และเซลลวิทยา พบไดทั่วไปในบริเวณนํ้าตื้นและใส ตัวอยาง สาหรายในกลุมนี้ เชน สาหรายไฟ (Chara sp.) และนิเทลลา (Nitella sp.) เปนสาหรายกลุมที่มีโครงสรางที่ประกอบดวยเซลลเรียงซอนกันหลายชั้น มีสวนยึดเกาะกับพื้นดินคลายราก สวนที่ตั้ง ขึ้นคลายลําตนและมีการแตกกิ่งกานหลายชั้นใกลเคียงกับพืชชั้นสูงมาก โครงสรางสืบพันธุเพศผู และโครงสราง สืบพันธุเพศเมีย มีความแตกตางกันอยางชัดเจน และเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีเหลืองสมจนถึงสีแดง การศึกษาวิวัฒนาการของพืชในปจจุบันพบวา สาหรายไฟมีความสัมพันธใกลชิดกับพืชที่เจริญบนบกมากที่สุด หรือ อาจถือไดวาพืชที่เจริญบนบก มีวิวัฒนาการมาจากสาหรายไฟ ภาพ Nitella sp. (ก) ลักษณะการแตกกิ่ งของสาหร่ายไฟ (ข) โครงสร้างสืบพันธุ์เพศเมีย (Oogonium) (ค) โครงสร้างสืบพันธุ์เพศผู้ (Antheridium) ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
20 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 8. กลุมอะมิโบชัว (Amaebozoa) เปนกลุมสิ่งมีชีวิตที่นํามาจัดกลุมโดยขอมูลจากโมเลกุลดีเอ็นเอ มีการดํารงชีวิตมีทั้งเปนผูยอยสลาย ผูบริโภค และปรสิต ซึ่งจะพบในบริเวณที่ชื้นแฉะ และตามขอนไมหรือใบไมเนาเปอย ในปา แบงออกเปน 2 กลุมยอย คือ 8.1 ราเมือกชนิดพลาสโมเดียม (Plasmodium Slime Molds) ซึ่งเปนเซลลที่มีหลายนิวเคลียส ภายในเซลล และอีกชนิดเปนราเมือกชนิดเซลลูลาร (Cellular Slime Molds) เปนเซลลที่มี 1 นิวเคลียส หลายเซลล มาอยูรวมกัน ราเมือกมีบทบาทเปนผูยอยสลายที่สําคัญในระบบนิเวศ ไดแก สเตโมนิทิส (Stemonitis sp.) และ ไฟซาลัม (Physarum sp.) เปนตน ภาพ ราเมือกชนิดพลาสโมเดียม (Plasmodium Slime Molds) ภาพ (ก) Stemonitis axifera (ข) Physarum nutans (ค) Physarum polycephalum ภาพ แอนตามีบา (Entamoeba) ภาพ (ก) Amoeba proteus (ข) Entamoeba histolytica ระยะ Trophozoite 8.2 แอนตามีบา (Entamoeba) เปนโพรทิสตที่ถูกจัดไวในกลุมเดียวกัน ดวยขอมูลโมเลกุลดีเอ็นเอ ลักษณะทั่วไปมีเทาเทียม (Pseudopodium) หรือเพื่อใชในการเคลื่อนที่ หรือกินอาหารโดย การยื่นเทาเทียมไปลอม รอบอาหารสวนใหญจะดํารงชีวิตแบบอิสระที่รูจักกันดีคือ Amoeba proteus แตบางชนิดเปนปรสิตที่สําคัญ เชน Entamoeba histolytica เปนสาเหตุของโรคบิด ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
21 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 3่ เรือง ความหลากหลายของโพรติสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase) , ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ชั้นประเมินผล (Evaluation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทํากิจกรรมเรื่องความหลากหลายของโพรติสตาตามที่กําหนดให ตอไปนี้ ตอนที่ 1 ใหนักเรียนพิจารณา แลวเติมขอความลงในชองวางใหถูกตอง ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... ..................................................................
22 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... ลักษณะเดน............................................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... แตกตางจากสาหรายกลุมอื่น คือ................ .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... รงควัตถุที่พบ............................................. .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... กอโรค........................................................ ..................................................................
23 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ตอนที่ 2 จงตอบคําถามเกี่ยวกับอาณาจักรโพรทิสตา 1. โพรทิสตชนิดใดทําใหเกิดโรคเหงาหลับ 2. โพรทิสตชนิดใดอาศัยอยูในลําไสปลวก 3. โพรทิสตชนิดใดทําใหเกิดโรคมาลาเรีย 4. โพรทิสตกลุมใดทําใหเกิดปรากฏการณขี้ปลาวาฬ 5. โพรทิสตที่ทําใหเกิดอาการติดเชื้อในชองคลอด 6. สาหรายสีเขียว (นํ้าจืด) ชนิดใดมีโปรตีนสูง 7. สาหรายสีเขียวชนิดใดที่ชาวบานเรียก “เทานํ้า” 8. ไดอะตอมมีสารใดสะสมในเซลล 9. สาหรายสีแดงชนิดใดที่สามารถนํามาสกัดวุนได 10. สาหรายสีนํ้าตาลชนิดใดใชเปนอาหารและมีไอโอดีนสูง
24 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ตอนที่ 3 ใหนักเรียนนําอักษรหนาขอความทางดานขวามาเติมหนาขอความที่มีความสัมพันธกัน ก. Entamoeba histolytica ข. Pigment ค. Lichen ง. Aspergillus flavus จ. Brown Algae ฉ. Cillia ช. Sargassum sp. ซ. Green Algae ฌ. Flagella ญ. Spirogyra sp. ฎ. Psedopodium ฏ. Volvox sp. ฐ. Red Algae ฑ. Escherichia coli ฒ. Shape 1. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่ของวอลวอกซ 2. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่ของวอรติเซลลา 3. คลอเรลลาและสไปโรไจรา 4. เกณฑที่ใชในการจําแนกสาหรายชนิดตาง ๆ 5. สาหรายสีเขียวที่ชาวบานเรียก “เทานํ้า” 6 พอรไฟราและกราซิลาเรีย 7. สาหรายทุนพบมากในอาวไทย ใชทําอาหารได 8. ผลิตสารอะฟลาทอกซิน เปนสาเหตุของโรคมะเร็งตับ 9. ราอยูรวมกับสาหราย 10. สาเหตุของโรคบิดมีตัว
ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 25 แบบทดสอบหลังเรียน ชุดที 4 อาณาจักรโพรทิสตา่ รายวิชา ชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จำนวน 10 ขอ =============================================================== คำชี้แจง 1. แบบทดสอบนี้เปนแบบปรนัยเลือกตอบ มีทั้งหมด 10 ขอ 2. ใหนักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกตอง และทำเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ =============================================================== 1. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตาคือขอใด ก. แฟลกเจลลัม ข. หาง ค. ครีบ ง. เกล็ด 2. สิ่งมีชีวิตในขอใดมีอายสปอต (Eye Spot) ใชในการตอบสนองตอแสง ก. สาหรายแดง ข. พารามีเซียม ค. ยูกลีนา ง. พลาสโมเดียม 3. ในอาณาจักรโพรทิสตามีหลายเซลลรวมกันเปนกลุม แตละเซลลสามารถทำหนาที่ของความเปนสิ่งมีชีวิต ที่ครบถวนอยางอิสระ เรียกเซลลที่รวมกันนั้นวาอะไร ก. เนื้อเยื่อ ข. อวัยวะ ค. โคโลนี ง. ซูโดโพเดียม 4. ขอใดไมใชประโยชนของไดอะตอม ก. การทําไสกรอง ข. ยาขัดรองเทา ค. ทําเครื่องแกว ง. นํ้ายาลางจาน
26 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 5. “ ปรากฏการณขี้ปลาวาฬ” เกิดจากสิ่งมีชีวิตในกลุมใด ก. กลุมไดโนแฟลกเจลเลต ข. กลุมสาหรายสีนํ้าตาล ค. กลุมไดโพลโมแนต ง. กลุมยูกลีนอยด 6. สิ่งมีชีวิตในขอใดที่มีโปรตีนสูงและมักนํามาทําอาหารเสริม ก. คอลเรลลา ข. สาหรายสีแดง ค. สาหรายสีนํ้าตาล ง. ราเมือก 7. จีฉายที่นํามาทําอาหารหรือสาหรายผมนางที่นํามาทําวุนคือสิ่งมีชีวิตในขอใด ก. สาหรายสีแดง ข. สาหรายสีเขียว ค. สาหรายสีนํ้าตาล ง. ราเมือก 8. สิ่งมีชีวิตกลุมใดมีลักษณะกิ่งกานคลายพืชชั้นสูง ก. สาหรายสีเขียว ข. สาหรายสีนํ้าตาล ค. ราเมือก ง. สาหรายเคลป 9. โรคในขอใดที่ไมไดเกิดจากสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา ก. ติดเชื้อในชองคลอด ข. โรคเหงาหลับ ค. โรคนิ่วในถุงนํ้าดี ง. ปรสิตในลําไสของคน 10. สาหรายในขอใดที่ชวยยอยสลายซากพืช จุลินทรียใหกลายเปนอาหาร ก. สาหรายสีเขียว ข. สาหรายสีแดง ค. ราเมือก ง. สาหรายเคลป
27 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 กระดาษคําตอบ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน วิชาชีววิทยา 6 ชุดที่ 4 อาณาจักรโพรทิสตา ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. ¡‹Í¹àÃÕ¹ ÊÃØ»¤Ðá¹¹Êͺ ËÅѧàÃÕ¹ 10 ก ข ค ง A B C D ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
28 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย. โครงการดาราวิทยาศาสตรและคณิตศาสตรมูลนิธิ สอวน. (2552). ชีววิทยา สัตววิทยา 3. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิ สอวน. จิรัสย เจนพาณิชย (2552). ชีววิทยาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพมหานคร : ผจก.สามลดา. เชาวน ชิโนรักษ และพรรณี ชิโนรักษ (2552). ชีววิทยา 1. กรุงเทพมหานคร : โสภณการพิมพ. ซีรสตาร (2552). ชีววิทยา เลม 1. (แปลจาก Biology 1 Concepts and Applications โดยทีม คณาจารย ภาควิชาชีววิทยามหาวิทยาลัยขอนแกน, ผูแปล. กรุงเทพมหานคร : เจเอสทีพับลิชชิ่งจำกัด. นงลักษณ สุวรรณพินิจ และปรีชา สุวรรณพินิจ (2552). จุลชีววิทยาทั่วไป. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. ประสงค หลำสะอาด และจิตเกษม หลำสะอาด (มปป.). คูมือสาระการเรียนรูพื้นฐานและเพิ่มเติ่มกลุมสาระการ เรียนรูวิทยาศาสตร ชีววิทยา ม.6 เลม 5. กรุงเทพมหานคร : พัฒนาศึกษา. ปรีชา สุวรรณพินิจ และนงลักษณ สุวรรณพินิจ (2549). ชีววิทยา 2. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. วันดี วัฒนชัยยิ่งเจริญ (2552). การจัดจำแนกสิ่งมีชีวิต. ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร : มหาวิทยาลัย นเรศวร. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2555). คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมชีววิทยา เลม 5 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2558). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ชีววิทยา ชั้นมัธยม ศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรสำหรับนักเรียนที่เนนวิทยาศาสตร ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2558). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา เลม 5 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว.
29 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บรรณานุกรม (ต่อ) สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2561). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตรวิทยาศาสตรชีวภาพ ชั้นมัธยมศึกษาปที่4 ตามมาตรฐานการ เรียนรูและตัวชี้วัด กลุม สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2563). คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติม วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 6 ตามมาตรฐานการเรียนรูและ ตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2558). หนังสือเรียนรู เพิ่มเติมเสริม ศักยภาพวิทยาศาสตรชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 ชีววิทยา เลม 2 ฺBIOLOGY II (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด. สุกาญจน รัตนเลิศนุสรณ (2550). หลักการอนุรักษและการจัดการชีวภาพ (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : สมาคม สงเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุน). สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม (2561). มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ 2561 เรื่องมาตรการปองกัน ควบคุม และกำจัด ชนิดพันธุตางถิ่น. กรุงเทพฯ : กองจัดการความ หลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กรุงเทพฯ.
ภาคผนวก
31 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 แบบบันทึกคะแนนระหว่างเรียน เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่องความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. กิจกรรม คะแนนเต็ม บัตรกิจกรรมที่ 1 10 บัตรกิจกรรมที่ 2 10 บัตรกิจกรรมที่ 3 30 คะแนนที่ได
32 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรูที่ 4 อาณาจักรโพรทิสตา Ẻ·´Êͺ¡‹Í¹àÃÕ¹ Ẻ·´ÊͺËÅѧàÃÕ¹ ¡ ¢ ¤ § A B C D ¢ŒÍ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ¡ ¢ ¤ § A B C D ¢ŒÍ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
33 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 1่ เรือง สิ่งมีชีวิตอาณาจักรโพรทิสตา ่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นตรวจสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) ขั้นเราความสนใจ (Engagement Phase) และขั้นอธิบาย (Explanation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนศึกษาภาพที่กําหนดให แลวตอบคําถามตอไปนี้ (10 คะแนน) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ขอความขาวที่กําหนด “ขี้ปลาวาฬ” ทานํ้าทะเลพัทยาเปลี่ยนสีโชคดียังไมเขาชายหาด ผูสื่อขาวไดรับแจงจากนักทองเที่ยววานํ้าทะเลบริเวณหนาอาวพัทยา ซึ่งหางจากฝงประมาณ 300 เมตร มีปรากฏการณนํ้าทะเลเปลี่ยนสีหรือที่เรียกกันวา “ปรากฏการณขี้ปลาวาฬหรือแพลงกตอนบลูม” โดยจากการสังเกตจากมุมสูงจะเห็นไดวานํ้าทะเลจากบริเวณชายฝงกับนํ้าทะเลที่อยูหางออกไป จะมี ความแตกตางกัน ซึ่งลักษณะจะเปนนํ้าสีเขียวเขมอยางเห็นไดชัด อยางไรก็ตามปรากฏการณขี้ปลาวาฬ หรือ แพลงกตอนบลูมนั้น นักทองเที่ยวพบเห็นในชวงเมื่อวานนี้ในชวงนํ้าขึ้นตอนบายบริเวณหาดวงศอมาตยนาเกลือ แตหลังจากนั้นกระแสนํ้าไดพัดใหเกิดการเปลี่ยนทิศทางและจางหายไป กระทั่งมาวันนี้ชวงนํ้าขึ้นก็พบปรากฏการณ ดังกลาวอีกครั้ง สําหรับปรากฏการณขี้ปลาวาฬหรือแพลงกตอนบลูมนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่มักจะเปนไป ตามฤดูกาล โดยกระบวนการนํ้าผุดที่แนวชายฝง ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการเคลื่อนตัวของนํ้าทะเล การเติบโต ของแพลงกตอนพืช อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นของนํ้าทะเลนั้นยังเปนอีกปจจัยที่ทําใหเกิดปรากฏการณขี้ปลาวาฬ เชน เดียวกัน ที่มา สืบคนเมื่อ 13 มกราคม 2563
34 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ คําชี้แจง นักเรียนศึกษาภาพและขอความขาวที่กําหนดใหแลวตอบคําถามตอไปนี้ 1. สิ่งมีชีวิตที่ทําใหเกิดปรากฏการณแพลงกตอนบลูม คือ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปรากฏการณแพลงกตอนบลูม ทําใหนํ้าทะเล มีลักษณะอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แพลงกตอนพืช เปนสิ่งมีชีวิตกลุมใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เหตุการณนี้มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอมอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ...................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนสามารถแกปญหาจากเหตุการณนี้อยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แพลงกตอนพืช ลักษณะจะเปนนํ้าสีเขียวเขมอยางเห็นไดชัด กลุมไดโนแฟลกเจลเลต ปรากฏการณที่ เกี่ยวของกับอัตราการตายของสิ่งมีชีวิตหลาย ๆ อยางที่อาศัยอยูในทะเล รวมไปถึง แนวชายหาด เชน ปลา นก สัตวเลี้ยงลูกดวยนํ้านมทางทะเล และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น คําตอบอยูในดุลพินิจของครูผูสอน
35 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 2่ เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาจะหาความรู ขั้นสํารวจแลคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และขั้นนําความรูไปใช (Extend Phase) คําสั่ง จงตอบคําถามตอไปนี้ใหถูกตอง 1. นักวิทยาศาสตรคนใดที่เปนคนเสนออาณาจักรโพรติสตาขึ้นมาคนแรก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………........ 2. สวนที่เรียกวาโคโลนี (Colony) ในอาณาจักรโพรติสตาคืออะไรทําหนาที่อยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………........ .................................................................................................................................................................... 3. โพรโทซัวมีการดํารงชีพอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………........… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………........… 4. ซีเลีย (Cillia) แฟลกเจลลัม (Flagellum) หรือซูโดโพเดียม (Pseudopodium) เปนอวัยวะของโพรโทซัวซึ่งทํา หนาที่ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………........…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………........… 5. โพรโทซัว มีการสืบพันธุอยางไร …………………………………………………………………………………………………………………………………........………………… Ernst Haeckel นักวิทยาศาสตรชาวเยอรมัน - เซลลหลายเซลลรวมกันเปนกลุม - เซลลทําหนาที่ของความเปนสิ่งมีชีวิตไดอยางครบถวน อิสระ การดํารงชีพ มีทั้งชนิดที่เปนผูผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟลล เปนผูบริโภค (Consumer) และเปนผูยอยสลายอินทรียสาร (Decomposer) - ใชในการเคลื่อนไหวรางกาย - ใชในการเคลื่อนที่ มีทั้งแบบไมอาศัยเพศ (Asexual Reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexual Reproduction)
36 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 3่ เรือง ความหลากหลายของโพรทิสตา่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase) , ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ชั้นประเมินผล (Evaluation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทํากิจกรรมเรื่องความหลากหลายของโพรติสตาตามที่กําหนดให ตอไปนี้ ตอนที่ 1 ใหนักเรียนพิจารณา แลวเติมขอความลงในชองวางใหถูกตอง ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. พารามีเซียม (Paramecium sp.) แอลวีโอลาตา (Alveolata) ซีเลีย ยูกลีนา (Euglena sp.) ยูกลีโนซัว (Euglenozoa) แฟลกเจลลา วอลวอกซ (Volvox sp.) สาหรายสีเขียว (Green Algae) ซีเลีย เกียรเดีย (Giadia sp.) ไดโพลโมนาดิดา (Diplomonadida) แฟลกเจลลา
37 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่......................... .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... ลักษณะเดน................................................ .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... แตกตางจากสาหรายกลุมอื่น คือ................ .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... รงควัตถุที่พบ............................................. .................................................................. ชื่อ.............................................................. กลุม........................................................... กอโรค........................................................ .................................................................. วอรติเซลลา (Vorticella sp.) แอลวีโอลาตา (Alveolata) ซีเลีย อะมีบา (Amoeba sp.) ไรโซโพดา (Rhizopoda) ซูโดโพเดียม เทานํ้าหรือสไปโรไจรา (Spirogyra sp.) สาหรายสีเขียว (Green Algae) สาหรายสีแดง (Red Algae) มีคลอโรพลาสตเปนแผน แบนบิดเปนเกลียวอยูในเซลล จีฉายหรือพอรไฟรา (Porphyra sp.) ไมมีระยะที่มีแฟลกเจลลา เคลป (Kelp) สตรามีโนไพลส (Stramenopiles) ฟวโคเเซนทิน คลอโรฟลล และแคโรทีนอยด ไฟซารัม (Physarum sp.) ไมซีโทซัว (Mycetozoa) โรคยืนตนตายในพืช หรือโรคไฟซารัม
38 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ตอนที่ 2 จงตอบคําถามเกี่ยวกับอาณาจักรโพรทิสตา 1. โพรทิสตชนิดใดทําใหเกิดโรคเหงาหลับ 2. โพรทิสตชนิดใดอาศัยอยูในลําไสปลวก 3. โพรทิสตชนิดใดทําใหเกิดโรคมาลาเรีย 4. โพรทิสตกลุมใดทําใหเกิดปรากฏการณขี้ปลาวาฬ 5. โพรทิสตที่ทําใหเกิดอาการติดเชื้อในชองคลอด 6. สาหรายสีเขียว (นํ้าจืด) ชนิดใดมีโปรตีนสูง 7. สาหรายสีเขียวชนิดใดที่ชาวบานเรียก “เทานํ้า” 8. ไดอะตอมมีสารใดสะสมในเซลล 9. สาหรายสีแดงชนิดใดที่สามารถนํามาสกัดวุนได 10. สาหรายสีนํ้าตาลชนิดใดใชเปนอาหารและมีไอโอดีนสูง ทริปพาโนโซมา (Trypanosoma sp.) ไตรโคนิมฟา (Triconympha sp.) พลาสโมเดียม (Plasmodium sp.) ไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellate sp.) ไตรโคโมแนส (Trichomonas sp.) คลอเรลลา (Chorella sp.) สไปโรไจรา (Spirogyra sp.) ครัสโซลามินาริน (Chrusolaminarin sp.) กราซิลาเลีย (Gracilaria sp.) ซารกัสซัม (Sargassum sp.)
39 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ตอนที่ 3 ใหนักเรียนนําอักษรหนาขอความทางดานขวามาเติมหนาขอความที่มีความสัมพันธกัน 1. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่ของวอลวอกซ 2. อวัยวะที่ใชในการเคลื่อนที่ของวอรติเซลลา 3. คลอเรลลาและสไปโรไจรา 4. เกณฑที่ใชในการจําแนกสาหรายชนิดตาง ๆ 5. สาหรายสีเขียวที่ชาวบานเรียก “เทานํ้า” 6 พอรไฟราและกราซิลาเรีย 7. สาหรายทุนพบมากในอาวไทย ใชทําอาหารได 8. ผลิตสารอะฟลาทอกซิน เปนสาเหตุของโรคมะเร็งตับ 9. ราอยูรวมกับสาหราย 10. สาเหตุของโรคบิดมีตัว ฌ. ฉ. ซ. ข. ญ. ฐ. ช. ง. ค. ก. ก. Entamoeba histolytica ข. Pigment ค. Lichen ง. Aspergillus flavus จ. Brown Algae ฉ. Cillia ช. Sargassum sp. ซ. Green Algae ฌ. Flagella ญ. Spirogyra sp. ฎ. Psedopodium ฏ. Volvox sp. ฐ. Red Algae ฑ. Escherichia coli ฒ. Shape
40 ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขีด √ ลงในชองที่ตรง กับระดับคะแนน ชื่อ………………………………………….……………………………………..ชั้นมัธยมศึกษาปที่……………………….เลขที่………………. ลงชื่อ……………………………………………ผูประเมิน ..…………../…..…………/………….. เกณฑการใหคะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยางสมํ่าเสมอ ให 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอยครั้ง ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอยครั้ง ให 1 คะแนน เกณฑตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช ตํ่ากวา 10 ปรับปรุง 1 2 3 4 5 4 3 2 1 การแสดงความคิดเห็น การยอมรับฟงความคิดเห็นคนอื่น การทํางานตามหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย ความมีนํ้าใจ การตรงตอเวลา ลําดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน รวม
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายกลุ่ม เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขีด √ ลงในชองที่ตรง กับระดับคะแนน ชื่อ………………………………………….……………………………………..ชั้นมัธยมศึกษาปที่……………………….เลขที่………………. ลงชื่อ……………………………………………ผูประเมิน ..…………../…..…………/………….. เกณฑการใหคะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยางสมํ่าเสมอ ให 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอยครั้ง ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอยครั้ง ให 1 คะแนน เกณฑตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช ตํ่ากวา 10 ปรับปรุง 1 2 3 4 5 4 3 2 1 การแบงหนาที่กันอยางเหมาะสม ความรวมมือกันทํางาน การแสดงความคิดเห็น การรับฟงความคิดเห็น ความมีนํ้าใจชวยเหลือกัน รวม ลําดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 41 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6
แบบประเมินคุณลักษณะนักเรียน เรือง อาณาจักรโพรทิสตา่ คําชี้แจง ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขีด √ ลงในชองที่ตรง กับระดับคะแนน ชื่อ………………………………………….……………………………………..ชั้นมัธยมศึกษาปที่……………………….เลขที่………………. คุณลักษณะ อันพึ่งประสงค ดาน 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. ซื่อสัตย สุจริต 3. มีวินัย รับผิดชอบ 4. ใฝเรียนรู รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 0 1.1 ยืนตรงเมื่อไดยินเพลงชาติ รองเพลงชาติได และอธิบายความหมายของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตามสิทธิและหนาที่ของนักเรียน 1.3 ใหความรวมมือรวมใจในการทํางานกับสมาชิกในโรงเรียน 1.5 เขารวมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือปฏิบัติตามหลักของศาสนา 2.1 ใหขอมูลที่ถูกตองและเปนจริง 2.3 ปฏิบัติตอผูอื่นดวยความซื่อตรง ไมหาประโยชนในทางที่ไมถูกตอง 3.1 ปฏิบัติตามขอตกลงกฎเกณฑ ระเบียบขอบังคับของครอบครัวและโรงเรียน 4.1 แสวงหาขอมูลจากแหลงเรียนรูตางๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรูอยางเปนระบบ 4.3 สรุปความรูไดอยางมีเหตุผล 1.4 เขารวมกิจกรรมและมีสวนรวมในการจัดกิจกรรมที่สรางความสามัคคีปรองดองและ เปนประโยชนตอโรงเรียนและชุมชน 1.6 เขารวมกิจกรรมและมีสวนรวมในการคิดจัดกิจกรรมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกตอง ละอายและเกรงกลัวที่จะทําความผิด ทําตามสัญญาที่ตนใหไวกับ เพื่อน พอแมหรือผูปกครอง และครู 3.2 ตรงตอเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตางๆ ในชีวิตประจําวันและรับผิดชอบในการทํางาน ชุดที� 4 เรื�อง อาณาจักรโพรทิสตา โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 42 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6