ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี QR Code เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 (ว30246) ชันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ้ เรื่อง ความหลากหลายของสิ่ งมีชีวิต 5 SCAN ME
คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่อง ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต มีจำนวน 8 ชุด รวมเวลาจัดกิจกรรม 16 ชั่วโมง เปนชุดกิจกรรมที่จัดทำขึ้นจากการศึกษาวิเคราะหหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) และศึกษาจากสภาพปญหาการจัด การเรียนการสอนวิชาชีววิทยาของโรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ) พบปญหานักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนต่ำ จึงไดจัดกิจกรรมเนนผูเรียนเปนสำคัญ ที่จะชวยใหนักเรียนเกิดการเรียนรูอยางเปนขั้นตอน เขาใจเนื้อหาไดงายขึ้น มีการทบทวนความรูเดิม สรางความสนใจกระตุนใหนักเรียนเกิดความอยากรู อยากเห็น เพื่อรวมกันทำการสำรวจ และคนหา ทำการทดลอง อธิบาย สรุปผล ตลอดจนการสืบคนขอมูลขยายความรูเพิ่มเติม การประเมินผล และนำความรูที่ไดไปใชทำใหเกิดการเรียนรูอยางมีทักษะ สรางเจตคติที่ดีทางวิทยาศาสตรใหกับ ผูเรียน นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี QR Code มาประยุกตใชในกิจกรรมการเรียนรู เพื่อชวยให นักเรียนไดเขาถึง สื่อมัลติมีเดียที่หลากหลาย ศึกษาความรูเพิ่มเติมดวยตนเองไดตามความสะดวกและตามตองการ ทำใหการเรียน การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันนำไปสูการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรชุดนี้ เปนชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 5 เรื่อง อาณาจักรพืช ซึ่งประกอบดวย คำชี้แจง ผลการเรียนรู จุดประสงค สาระการเรียนรู เวลาที่ใช วิธีใชชุดกิจกรรมการเรียนรู สื่อและอุปกรณการเรียนรู แบบทดสอบกอนเรียน ซึ่งเปนแบบตัวเลือก 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ พรอมทั้งบัตรความรูและบัตรกิจกรรม รวมทั้ง มีแบบทดสอบหลังเรียนและเฉลยแบบทดสอบและบัตรกิจกรรมทายสุดมีแบบบันทึกคะแนนกอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน ผูจัดทำหวังเปนอยางยิ่งวาชุดกิจกรรมการเรียนรูนี้ จะเปนประโยชนตอการจัดกิจกรรมการเรียนรูของครู และนักเรียนเปนอยางดี นักเรียนสามารถนำความรู ประสบการณที่ไดรับไปใชในชีวิตประจำวันไดอยางถูกตอง โดยใหนักเรียนไดทำกิจกรรมกลุม ไดฝกทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร จากการที่นักเรียนไดปฏิบัติกิจกรรม ตามลำดับขั้นและนักเรียนสามารถนำความรูที่ไดไปใชในชีวิตประจำวัน สงผลใหเกิดการเรียนรูอยางตอเนื่อง สามารถ สรางองคความรูดวยตนเอง นอกจากนี้ชุดกิจกรรมนี้ยังสามารถใชพัฒนาการเรียนการสอนในกลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตรและเทคโนโลยีไดเปนอยางดี ชวยสงเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักเรียน สงเสริมการหาความรูนอก หองเรียนดวยเทคโนโลยี QR Code มีภาพประกอบและสื่อมัลติมีเดียเพื่อใหเกิดความเพลิดเพลินในบทเรียนเพื่อ ความเขาใจยิ่งขึ้น บุษกร ปทุมไกยะ ก
ข สารบัญ เรื่อง หนา คำนำ สารบัญ คำชี้แจง การใชชุดกิจกรรมการเรียนรู ผลการเรียนรู จุดประสงคเชิงพฤติกรรม สาระการเรียนรู บทบาทของนักเรียน แบบทดสอบกอนเรียน บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 1 บัตรความรูที่ 1 บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 บัตรความรูที่ 2 บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 3 บัตรความรูที่ 3 บัตรกิจกรรมการเรียนรูที่ 4 แบบทดสอบหลังเรียน บรรณานุกรม ภาคผนวก แบบบันทึกคะแนนระหวางเรียน เฉลยแบบทดสอบกอนเรียนและหลังเรียน เฉลยบัตรกิจกรรมที่ 1-4 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน และประเมินคุณลักษณะ ก ข ค ง จ ฉ ฉ ช 1 4 5 8 9 13 15 25 27 30 32 33 34 35 41
ค คําชี้แจง ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่องความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ประกอบ ดวย ชุดกิจกรรมการเรียนรู 8 ชุด ดังนี้ ชุดกิจกรรมการเรียนรูฉบับบนี้ เปนชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 5 เรื่อง อาณาจักรพืช ซึ่งนักเรียนจะได ศึกษาเรียนรูและปฏิบัติกิจกรรมตาง ๆ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โดยใชเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมทั้งหมด 2 คาบเรียน และใหนักเรียนศึกษาชุดกิจกรรมตามลําดับขั้นตอนตอไปนี้ ชุดที่ ชื่อชุดกิจกรรม จํานวนคาบเรียน รวม 1 2 3 4 5 6 7 8 2 2 2 2 2 2 2 2 16 การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ กําเนิดของสิ่งมีชีวิต อาณาจักรมอเนอรา อาณาจักรโพรทิสตา อาณาจักรพืช อาณาจักรฟงไจ อาณาจักรสัตว ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย
ง การใช้ชุดกิจกรรม ขั้นเตรียมกอนใชชุดกิจกรรม 1. ทำการศึกษาคนควาในเรื่องที่ตนเองจะเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมมากอนลวงหนา เพื่อใหเขาใจในบทเรียน ไดดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น 2. เตรียมความพรอมของตนเองสำหรับการปฏิบัติกิจกรรมรวมกับเพื่อนในหองเรียนและเพื่อนรวมกลุม 3. คำแนะนำในการปฏิบัติงานกลุม 3.1 เลือกประธานกลุมเพื่อเปนผูนำในการดำเนินการจัดการเรียนรู และเลขานุการกลุมเพื่อบันทึก ขอมูล 3.2 สมาชิกทุกคนตองมีสวนรวม ชวยเหลือซึ่งกันและกัน และรับผิดชอบรวมกัน 3.3 ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมอยางเต็มความสามารถและรอบคอบ 4. ใชกลุมเดิมตลอดการเรียนดวยชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 5 เรื่อง อาณาจักรพืช ขั้นใชชุดกิจกรรม 1. ศึกษาภาระงานใหเขาใจ และปฏิบัติตามขั้นตอน 2. ปฏิบัติกิจกรรมดวยตนเอง ไมลอกเพื่อนและไมใหเพื่อนลอก 3. ศึกษากิจกรรมดวยความตั้งใจ แลวทำการวิเคราะหเนื้อหาและสรุปเพื่อใหเขาใจงายๆ 4. ศึกษาคำชี้แจงของกิจกรรมโดยการระดมความคิดในกลุม เพื่อตอบคำถามใหตรงตามทฤษฎีของเรื่องที่ เรียนไมตอบโดยไมมีเหตุผลหรือไมมีทฤษฎีรองรับ 5. รวมอภิปรายกับครูดวยความตั้งใจ จดความรูใหม และซักถามทันทีเมื่อไมเขาใจ 6. มีความสามัคคี มีน้ำใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุม โดยไมเอาเปรียบดวยการนั่งเฉยหรือกอความวุนวาย ในหองเรียน ขั้นหลังใชชุดกิจกรรม 1. ทำแบบทดสอบหลังเรียน 2. รวบรวมผลงานที่ไดจากการปฏิบัติกิจกรรมสงครู เพื่อประเมินผลการเรียนรู 3. จัดเก็บอุปกรณทุกชิ้น ใหเรียบรอย
จ ผลการเรียนรู้ ดานความรู 1. สืบคนและอภิปรายเกี่ยวกับอาณาจักรพืช 2. อธิบายอาณาจักรพืช 3. จําแนกและสรางเกณฑของอาณาจักรพืช 4. นําความรูเรื่องอาณาจักรพืชไปใชประโยชนในชีวิตประจำวัน 5. ประเมินความสำคัญของอาณาจักรพืช ดานทักษะกระบวนการ นักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแบบวัฏจักร 7 ขั้น (7E) ดังนี้ 1. ทำแบบฝกหัดกอนบทเรียน เพื่อทดสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) 2. รวมกันอภิปรายและตั้งคำถามจากแบบทดสอบกอนเรียน (Engagement Phase) 3. สืบคนขอมูลจากเอกสารประกอบการเรียนรู เรื่อง อาณาจักรพืช (Exploration Phase) 4. นำขอมูลมาดำเนินการวิเคราะห แปลผล สรุปผลและนำเสนอผลที่ไดในรูปตางๆ เชน บรรยายสรุป สรางแผนภูมิความคิดรวบยอด (Explanation and Expansion Phase) 5. ใหนักเรียนนำผลงานที่ไดจากการสรุปผลการวิเคราะหมานำเสนอหนาชั้นเรียนเพื่อนำไปสูการหาขอสรุป รวมกันในชั้นเรียนและประเมินผลงาน (Evaluation and Extension Phase) ดานคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค 1. มีความสนใจใฝเรียนรู ไดแก การสนทนาซักถาม กระตือรือรนในการปฏิบัติกิจกรรม 2. มีความรับผิดชอบ ไดแก ปฏิบัติหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย ทำงานสำเร็จตามเปาหมาย 3. ความมีเหตุผล ไดแก การรวบรวมขอมูล การอธิบายหรือแสดงความคิดเห็นอยางมีเหตุผล มีหลักการ หรือมีขอมูลอางอิง 4. มีระเบียบวินัย ไดแก ตรงตอเวลาที่นัดหมาย ปฏิบัติตามระเบียบวินัยของกิจกรรม 5. อยูอยางพอเพียง ไดแก ใชทรัพยสินตนเองอยางประหยัดทรัพยสินสวนรวมอยางคุมคา ไมเอาเปรียบคนอื่น วางแผนการเรียนการทำงาน 6. มุงมั่นในการทำงาน ไดแก ตั้งใจ อดทนทำงาน ไมยอทอ 7. รักความเปนไทย ไดแก มีจิตสำนึกในความเปนไทยและภูมิปญญาไทย 8. มีจิตสาธารณะ ไดแก ชวยเหลือเพื่อน พอแม ครู จิตอาสา ทำงานเพื่อสวนรวม
ฉ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สืบคนขอมูล สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และสรุป ลักษณะที่เหมือนและแตกตางกันของสิ่งมีชีวิต ในอาณาจักรพืช 2. สืบคนขอมูล อภิปราย และนำเสนอ คุณคาของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืช กับการใชประโยชนของมนุษยที่มีผลตอสังคมและสิ่งแวดลอม สาระการเรียนรู้ สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืชเปนสิ่งมีชีวิตหลายเซลลแบบยูคาริโอตเปนพวกที่สังเคราะหดวยแสงได และสราง สารอินทรียจากสารอนินทรียได มีวัฏจักรชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) พืชมีความสัมพันธใกลชิด กับกลุมสาหรายสีเขียวมี 2 กลุมยอย คือ 1. กลุมไมมีทอลําเลียง (Nonvascular Plants) 2. กลุมมีทอลําเลียง (Vascular Plants) ชุดกิจกรรมการเรียนรูชุดที่ 5 เรื่อง อาณาจักรพืช ใชเวลาในการเรียนรู 2 คาบเรียน เวลาที�ใช้
ช บทบาทของนักเรียน 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน เลือกประธานกลุม เพื่อเปนผูนําในการดําเนินกิจกรรมและลขานุการกลุม เพื่อบันทึกขอมูลในการปฏิบัติกิจกรรมตางๆ และมอบหมายหนาที่ใหสมาชิกแตละคนในกลุมใหชัดเจน 2. ตรวจสอบความครบถวนของชุดกิจกรรมการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรูแบบวัฏจักร 7 ขั้น (7E) 3. ทําแบบทดสอบกอนเรียน เพื่อทดสอบความรูเดิมของนักเรียน 4. ศึกษากิจกรรมการเรียนรูที่ 1 แลวใหแตละกลุม รวมกันอภิปรายและตอบคําถาม 5. ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรูที่ 2 เพื่อสํารวจและคนหาคําตอบ 6. ศึกษากิจกรรมการเรียนรูที่ 3 และ 4 จากนั้นเลิกปฏิบัติกิจกรรม อภิปรายและระดมความคิดในกลุม สรุปแกปญหาจากสถานการณที่กําหนดขึ้น แลวบันทึกคําตอบลงในแบบบันทึกกิจกรรม พรอมทั้งขยายความรูที่ไดรับ โดยการนําเสนอหนาชั้นเรียน 7. แลกเปลี่ยนกันตรวจแบบบันทึกกิจกรรมการเรียนรูที่ 1- 4 โดยเลขานุการกลุม รวบรวมแบบบันทึก คําตอบของสมาชิกไปแลกเปลี่ยนกับกลุมอื่น โดยกําหนดใหกลุมที่ 1 ตรวจกลุมที่ 8, กลุมที่ 8 ตรวจกลุมที่ 7, กลุมที่ 7 ตรวจกลุมที่ 6, กลุมที่ 6 ตรวจกลุมที่ 5, กลุมที่ 5 ตรวจกลุมที่ 4, กลุมที่ 4 ตรวจกลุมที่ 3, กลุมที่ 3 ตรวจกลุมที่ 2 และกลุมที่ 2 ตรวจกลุมที่ 1 8. ประธานรับเฉลยกิจกรรมการเรียนรูจากครูผูสอน เพื่อนํามาตรวจคําตอบ 9. สมาชิกในกลุมตรวจแบบบันทึกกิจกรรมของสมาชิกกลุมอื่น (กรณีมีขอสงสัย ใหนักเรียนถามครูผูสอน) 10. เลขานุการกลุมรวบรวมแบบบันทึกกิจกรรมกลุมคืนกลุมเดิม 11. ประธานกลุมนําเฉลยกิจกรรมคืนครูผูสอน 12. สมาชิกในกลุมบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนน รวมคะแนนของสมาชิกในกลุมหาคาเฉลี่ยเปน คะแนนของกลุมแจงครูผูสอน
1 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดที 5 อาณาจักรพืช่ รายวิชา ชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จำนวน 10 ขอ =============================================================== คำชี้แจง 1. แบบทดสอบนี้เปนแบบปรนัยเลือกตอบ มีทั้งหมด 10 ขอ 2. ใหนักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกตอง และทำเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ =============================================================== 1. สิ่งมีชีวิตที่จะจัดไวในอาณาจักรพืช (Kingdom Plantae) ตองมีลักษณะสำคัญเดนชัดในขอใด ก. มีหลายเชลล (Multicellular) และมีคลอโรพลาสต ข. มีผนังเซลล มีคลอโรพลาสต และมีวงจรชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) ค. มีระยะตนออน มีคลอโรพลาสต และมีวงจรชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) ง. มีเนื้อเยื่อ มีระยะตัวออน มีการสืบพันธุแบบใชเพศสลับกับแบบไมใชเพศ 2. ลิเวอรเวิรตเปนพืชพวกใด ก. อยู Phylum Hepatophyta เพราะไมมีทอลำเลียง ข. อยู Phylum Hepatophyta เพราะมีทอลำเลียง ค. อยู Phylum Bryophyta เพราะไมมีทอลำเลียง ง. อยู Phylum Bryophyta เพราะมีทอลำเลียง 3. ใบของมอสไมถือวาเปนใบที่แทจริงเพราะเหตุใด ก. ขนาดเล็กเกินไป ข. ไมมีสีเขียว ค. รงควัตถุภายในไมใชคลอโรฟลล ง. ไมมีทอลำเลียง 4. ลักษณะสำคัญของพืชพวกจิมโนสเปรมคือขอใด ก. สรางโคน (Cone) ที่ผลิตสเปรมและไขภายในตนเดียวกัน ข. มีสวนที่เปนราก ลำตน ใบ และดอกที่แทจริง ค. เมล็ดไมมีผนังรังไขหอหุม ง. มีใบขนาดเล็กรูปเข็มรวมกันอยูเปนกลุม ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6
2 5. หลักเกณฑที่ใชในการจัดจําแนกพืชคือขอใด ก. ลักษณะทางสัณฐานวิทยา (Morphology) และกายวิภาคศาสตร (Anatomy) ข. แบบแผนและลักษณะการเจริญเติบโตของตัวออน (Embryology) ค. กระดูกสันหลัง การสืบพันธุ อุณหภูมิในรางกาย การหายใจ ง. ถูกทั้ง ก และ ข 6. ขอใดเปนพืชที่มีการกระจายพันธุในบริเวณที่แหงแลงไดดี มีลําตนคอนขางเตี้ย ใบมีขนาดใหญ เปนใบประกอบ แบบขนนกชั้นเดียว มีการสรางโคนเพศผูและโคนเพศเมียแยกตนกัน ก. Phylum Gnetophyta ข. Phylum Cycadophyta ค. Phylum Ginkgophyta ง. Phylum Coniferophyta 7. ขอใดคือพืชที่มีลักษณะแตกตางจากพืชเมล็ดเปลือยกลุมอื่น คือ พบเวสเซลในทอลําเลียงนํ้า และมีลักษณะคลาย พืชดอกมาก คือ มีกลีบดอก มีใบเลี้ยง 2 ใบ แตเมล็ดยังไมมีเปลือกหุม ก. Phylum Gnetophyta ข. Phylum Cycadophyta ค. Phylum Ginkgophyta ง. Phylum Coniferophyta 8. พืชใดอยูในกลุมไมดอกทั้งหมด ก. สรอยสุกรม บอน แหน ผักแวน ข. สาหรายหางกระรอก สาหรายขาวเหนียว จอก ตะไคร ค. สรอยสีดา ชายผาสีดา กระเชาสีดา พลู ง. หญารังไก หญาถอดปลอง หญาแพรก หญานกสีชมพู 9. เปนกลุมพืชที่มีลําตน มีขอปลองชัดเจน มีทั้งลําตนตั้งตรงบนดินและลําตนใตดิน ลําตนตั้งตรงบนดินมีสีเขียวเปน สัน ใบมีขนาดเล็ก มีเสนใบเพียง 1 เสน เรียงเปนวงรอบขอ อับสปอรเปนกระจุกที่ปลายกิ่ง เรียกวา Strobilus ก. หญาถอดปลอง ข. เฟรน ค. หวายทะนอย ง. แปะกวย 10. Prothallus ของเฟรนทําหนาที่อะไร ก. สรางเสปรม ข. สรางไข ค. สรางสปอร ง. ทั้งขอ ก และ ขอ ข ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ
3 กระดาษคําตอบ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน วิชาชีววิทยา 6 ชุดที่ 5 อาณาจักรพืช ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. ¡‹Í¹àÃÕ¹ ÊÃØ»¤Ðá¹¹Êͺ ËÅѧàÃÕ¹ 10 ก ข ค ง A B C D ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ
4 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 1่ เรือง พืชรอบตัว่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นตรวจสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) ขั้นเราความสนใจ (Engagement Phase) และขั้นอธิบาย (Explanation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมนําตัวอยางพืชที่พบไดรอบๆ ตัวของนักเรียน ไมวาจากที่บานหรือที่โรงเรียน มาคนละ 3 ชนิดไมซํ้ากัน มาศึกษาชื่อและลักษณะกันในแตละกลุมและแลกเปลี่ยนกันระหวาง กลุมใหรวบรวมขอมูลพืชจํานวน 15 ชนิดและบันทึกผลลงในตารางพรอมตอบคําถาม ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 คําถาม 1. พืชที่นักเรียนนํามาศึกษามีลักษณะแตกตางกันหรือไม อยางไร จงอธิบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ถานักเรียนจะจัดกลุมพืชที่นํามาศึกษา จะแบงไดกี่กลุม ไดแกอะไรบาง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ลําดับที่ ชื่อ ลักษณะที่พบ
5 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรความรู้ที 1่ เรือง อาณาจักรพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาบัตรความรูและรวมกันวิเคราะหอภิปรายและตอบคําถามตอไปนี้ ลงในบัตรบันทึกกิจกรรมการเรียนรู ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ อาณาจักรพืช พืชเปนสิ่งมีชีวิตที่มีกําเนิดขึ้นมาแลวไมตํ่ากวา 400 ลานป มีหลักฐานหลายอยางที่ทําใหเชื่อวา พืชมี วิวัฒนาการมาจากสาหรายสีเขียวกลุม Charophytes โดยมีการปรับตัวจากสภาพที่เคยอยูในนํ้าขึ้นมาอยูบนบกดวย การสรางคุณสมบัติตาง ๆ ที่เหมาะสมขึ้นมา เชน มีการสรางคิวติน (Cutin) ขึ้นมาปกคลุมผิวของลําตนและใบ เรียก วา คิวทิเคิล (Cuticle) เพื่อปองกันการสูญเสียนํ้าและการเกิดสโทมาตา (Stomata) เพื่อทําหนาที่ระบายนํ้าและแลก เปลี่ยนกาซ เปนตน ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืช พืชมีโครงสรางที่ประกอบขึ้นดวยหลายเซลลที่มารวมกลุมกันเปนเนื้อเยื่อ ที่ทําหนาที่เฉพาะ อยางเซลลของ พืชมีผนังเซลลที่มีสารประกอบเซลลูโลส (Cellulose) เปนองคประกอบที่พบเปนสวนใหญ พืชทุกชนิดมีคุณสมบัติที่ สามารถสรางอาหารไดเอง จากระบวนการสังเคราะหดวยเสง โดยบทบาทของรงควัตถุคลอโรฟลล (Chlorophyll a และ Chlorophyll b) ที่อยูในคลอโรพลาสตเปนสําคัญ รงควัตถุหลักที่พบได ในเซลลพืช จะเหมือนกับพบในเซลล ของสาหรายสีเขียว ไดแก คลอโรฟลล เอ, คลอโรฟลล บี และแคโรทีนอยด นอกจากนี้พืชยังสะสมอาหารในรูปของ แปง วงชีวิต (Life Cycle) ของพืชเปนวงจรชีวิตแบบสลับ (Alternative of Generation) คือประกอบดวยชวง ชีวิตที่เปนสปอโรไฟต (Sporophyte Generation) ทําหนาที่สรางสปอร (Spore) สลับกับชวงชีวิตที่เปนแกมีโทไฟต (Gametophyte Generation) ทําหนาที่สรางแกมมีต (Gamete) ไดแก เซลลสืบพันธุเพศผูหรือสเปรม (Sperm) และเซลลสืบพันธุเพศเมียหรือไข (Egg Cell) ซึ่งจะมารวมกันเพื่อใหไดเปนเซลลใหมคือไซโกด (Zygote) อวัยวะสราง เซลลสืบพันธุของพืชประกอบดวยหลายเซลล โดยมีเซลลที่เปนหมัน (Sterile Cell) หอหุมอยูรอบนอก การเจริญของ พืชจากไซโกตไปเปนสปอโรไฟตจะตองผานระยะที่เปนเอ็มบริโอ (Embryo) กอน คุณสมบัติทั้ง 2 ประการ ดังกลาว นี้จะไมพบในพวกสาหราย (Algae)
6 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ที่มา ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ วงจรชีวิตแบบสลับ (Alternative of Generation) พืชสวนใหญจะมีสปอโรไฟตเดน คือ มีขนาดที่มองเห็นไดชัดเจนทั่วไปในขณะที่แกมีโทไฟต มีขนาดเล็กแทบ มองไมเห็นดวยตาเปลา ในพืชบางกลุมแกมีโทไฟตประกอบขึ้นดวยเซลลที่เปนแฮพลอยด (n) จํานวนมากทําหนาที่ สรางแกมมีต สปอโรไฟตของพืชประกอบขึ้นดวยเซลลที่เปนดิพลอยด (2n) ทําหนาที่สรางสปอรจากการแบงเซลล แบบไมโอซิสของสปอรมาเตอรเซลล (Spore Mother Cell) ที่อยูภายในอับสปอร (Sporangium) สปอรซึ่งเปน เซลลที่เปนแฮพลอยด (n) จะแบงตัวเจริญตอไปเปนแกมีโทไฟต (n) ที่ทําหนาที่สรางแกมมีต คือ สเปรมและไข การปฏิสนธิ (Fertilization) คือ การรวมตัวกันของสเปรม (n) และไข (n) จะทําใหไดเซลลใหมที่เปนดิพลอยด (2n) คือ ไซโกตเกิดขึ้นมา และตอจากนั้นไซโกตจะแบงเซลลไดเปนเอ็มบริโอกอนที่จะเจริญตอไปเปนสปอรโรไฟต ดังนั้น จึงกลาวไดวา ไซโกต คือ เซลลเริ่มตนของชวงสปอรโรไฟต และสปอร คือ เซลลเริ่มตนของชวงแกมีโทไฟต ในพืชกลุมที่ไมสรางเมล็ดสวนใหญจะมีการสรางสปอรเพียงชนิดเดียว (Homospore) ซึ่งสปอรดังกลาว จะแบงตัวและเจริญตอไปเปนแกมีโทไฟต ที่ทําหนาที่สรางทั้งสเปรมและไขบนตนเดียวกัน แตสําหรับพืชที่มี การสรางเมล็ดแลวทุกชนิดจะสรางสปอรเปน 2 ชนิด (Heterospore) ไดแก ไมโครสปอร (Microspore) และ เมกะสปอร (Mega Spore) ไมโครสปอรจะแบงตัวเจริญตอไปเปนไมโครแกมีโทไฟต (Microgametophyte) หรือ แกมีโทไฟตเพศผู (Male Gametophyte) ทําหนาที่สรางสเปรมและเมกะสปอรจะแบงตัวเจริญตอไปเปน เมกะแกมีโทไฟต (Megagametophyte) หรือแกมีโทไฟตเพศเมีย (Female Gametophyte) ทําหนาที่สรางเซลลไข ตอไป ภาพ เซลล์พืช สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
7 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ภาพ วงจรชีวิตแบบสลับจากพืช ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
8 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 2่ เรือง อาณาจักรพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาจะหาความรู ขั้นสํารวจแลคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และขั้นนําความรูไปใช (Extend Phase) คําสั่ง เมื่อนักเรียนศึกษาบัตรความรูเรื่องอาณาจักรพืชแลวจงตอบคําถามตอไปนี้ ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 1. พืชเปนสิ่งมีชีวิตที่มีกําเนิดขึ้นมาแลวไมตํ่ากวา ....................................ป มีหลักฐานหลายอยางที่ทําใหเชื่อวา พืชมีวิวัฒนาการมาจากสาหรายสีเขียวกลุม……………………………………………………………………….......…………………..... 2. ใหนักเรียนเติมสวนตางๆของเซลลพืชใหถูกตอง นิวเคลียส ผนังเซลล เยื่อหุมเซลล ไซโทพลาซึม ไรโบโซม แวคิวโอล ไมโทคอนเดรีย คลอโรพลาสต กอลจิบอดี นิวคลิโอลัส ไลโซโซม รางแหเอนโดพลาซึม 3. ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืช คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………….................……………………………… 4. พืชที่มีการสรางเมล็ดแลวทุกชนิด จะสรางสปอรเปน……………………………..………ชนิด (Heterospore) ไดแก ………………………………………………………………………………………………………………………………………………........…………
ภาพ ลิเวอร์เวิร์ต (Liverwort) 9 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรความรู้ที 2่ เรือง ความหลากหลายของพืชกลุ่มไม่มีท่อลําเลียง่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทํากิจกรรมเรื่องความหลากหลายของพืชกลุมไมมีทอลําเลียง ตามกิจกรรมที่กําหนดใหตอไปนี้ ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563 กลุมพืชไมมีทอลําเลียง (Nonvascular Plant) พืชไมมีทอลําเลียง (Nonvascular Plant) ชวง Gametophyte จะเดนกวาและเปนอิสระชวง Sporophyte ตองอาศัยอยูบน Gametophyte ตลอดชีวิต ไมมีราก แตมีรากเทียม (Rhizoid) ไมมี Vascular Tissue จึงลําเลียงโดย การแพรและออสโมซิสเทานั้น ทําใหลําตนจําเปนตองมีขนาดเล็ก มีลําตนและใบที่ไมแทจริง รวมเรียกวา Thallus ปจจุบันพืชที่ไมมีทอลําเลียง แบงออกไดเปน 3 ไฟลัม โดยใชรูปรางเปนเกณฑ ไดแก - ไฟลัมเฮปาโทไฟตา (Phylum Hepatophyta) ชวง Gametophyte มีทั้งที่เปนตนที่มีสวนคลายใบ และที่เปนแผนบาง ๆ ซึ่งภายในเซลลจะมีหยดนํ้ามันอยูดวย สวนชวง Sporophyte มีกานชูอับสปอรที่ยาว อับสปอรเมื่อแกจะแตกออกเพื่อปลอยสปอรกระจายพันธุ ตัวอยาง ไดแก ลิเวอรเวิรต (Liverwort) (มีประมาณ 8,000 Species)
10 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ - ไฟลัมแอนโทซีโรไฟตา (Phylum Anthocerophyta) ชวง Gametophyte มีลักษณะเปนแผน ที่บริเวณขอบมีรอยหยักแตกแขนงเปน 2 พู ชวง Sporophyte มีลักษณะยาวเรียวเกิดอยูบน Thallus ของแกมีโตไฟต ตรงปลายของสปอโรไฟตที่เจริญเต็มที่จะแตกออกเปน 2 แฉก เพื่อใหสปอรกระจายออกไป สปอโรไฟตจะมีคลอโรฟลล ที่พอจะสรางอาหารไดเอง แตก็ยังตองอาศัยอยูบน Gametophyte ตลอดชีวิต ตัวอยาง ไดแก ฮอรนเวิรต (Hornwort) ภาพ ฮอร์นเวิร์ต (Hornwort) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
11 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ - ไฟลัมไบรโอไฟตา (Phylum Bryophyta) ชวง Gametophyte มีขนาดเล็กลักษณะคลายลําตนและใบ สวนที่คลายใบเรียงตัวเปนเกลียวโดยรอบ สวนที่คลายลําตนมีไรซอยตอยูในดิน ชวง Sporophyte มีลักษณะงายๆ เกิดบนปลายยอดหรือปลายกิ่งมีสวนประกอบ คือ ฟุตกานชูอับสปอร และอับสปอร ตัวอยาง ไดแก มอส (Moss) ภาพ มอส (Moss) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
12 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ขาวตอกษี (Bryopsida) พืชพวกมอสมีจํานวนชนิดประมาณ 14,500 ชนิดซึ่งมากที่สุด ในกลุม ไบรโอไฟท พบไดทั่วไปมากกวาพวกลิเวอรเวิรตและฮอรนเวิรต ลักษณะคลายตนไมเล็กๆ และมักจะพบอับสปอร รูปคลายผอบเล็กๆ มีฝาปดเจริญอยูบนตนที่สรางเซลลสืบพันธุ ในประเทศไทยมีไบรโอไฟท ที่มีชื่อไทยเพียงชื่อเดียว คือ ขาวตอกษี (Sphagnum spp.) นอกนั้นยังไมมีชื่อในภาษาไทย วงศสะแฟกเนซีอี (Sphagnaceae) มอสวงศนี้พบไดที่ระดับความสูงตั้งแต 1,000 เมตรขึ้นไปชอบขึ้นไป ที่ชื้นและในแองนํ้า และมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ทําใหนํ้าและดินบริเวณใกลเคียงกับที่มอสวงศนี้ขึ้นอยูมีสภาพเปนกรด ดังนั้นตนสวนลางที่ตายไปแลวจึงสลายตัวชา สภาพแวดลอมที่มีมอสวงศนี้ขึ้นอยูมีสังคมพันธุไมที่มีลักษณะเฉพาะ นอกจากนั้นใบของมอสชนิดนี้ยังมีลักษณะคลายฟองนํ้า ทําใหซึมซับนํ้าไดดี จึงมีความสําคัญในธรรมชาติ โดยเปน แหลงรักษาความชุมชื้นของปา Sphagnum sp.ขาวตอกษี มีสวนปลายยอดที่ประกอบดวยหลายขนาด ไดแก ถึงขนาดยาวและหอยลง แนบตน ทําหนาที่ ดูดซับนํ้าจากสวนโคนตน ซึ่งยาวแยกทั้งตรงขามกับกิ่งแบบแรกซึ่งตอมาจะหักออกไดตนใหม และ กิ่งประเภทที่ 3 เปนกิ่งที่ทําหนาที่สรางอวัยวะ สรางเซลลสืบพันธุ กิ่งทั้ง 3 แบบ มีรูปคลายเรือเรียงซอนทับกันตลอด ภาพ ข้าวตอกฤาษี (Sphagnum sp.) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
13 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 3่ เรือง ความหลากหลายของพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ขั้นประเมินผล (Evaluate Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันพิจารณาภาพแลวเติมขอความลงในชองวางใหถูกตอง ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... .................................................................. ตําแหนง A คือ ระยะ................................. ตําแหนง B คือ ระยะ................................. A B ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... .................................................................. ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. ..................................................................
14 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. .................................................................. ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. ..................................................................
15 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ บัตรความรู้ที 3่ เรือง ความหลากหลายของพืชกลุ่มมีท่อลําเลียง่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) และขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันทํากิจกรรมเรื่องความหลากหลายของพืชกลุมมีทอลําเลียง ตามกิจกรรมที่กําหนดใหตอไปนี้ กลุมพืชมีทอลําเลียง (Vascular Plant) พืชที่มีทอลําเลียงแบงออกเปน 2 กลุมยอย ดังนี้ 1. กลุมพืชมีเนื้อเยื่อลําเลียงที่ไมมีเมล็ด (Seedless Vascular Plant) จากหลักฐานซากดึกดําบรรพของพืช คือ คุกโซเนีย (Cooksonia sp.) มีอายุประมาณ 400 ลานป ในชวง ตนยุคไซลูเรียน สันนิษฐานวา พืชที่มีทอลําเลียงกลุมแรกและมีวิวัฒนาการกลายเปนกลุมพืชที่มีทอลําเลียงกลุมแรก และมีวิวัฒนาการกลายเปนกลุมพืชที่มีทอลําเลียงอื่นๆ กลุมพืชมีทอลําเลียงที่ไรเมล็ดประกอบดวยเฟรนแทและ กลุมใกลเคียงเฟรน พืชกลุมนี้มีราก ลําตนและใบที่แทจริง แกมีโทไฟตและสปอโรไฟต เจริญแยกกันหรืออยูรวมกัน ในชวงสั้น ๆ โดยแกมีโทไฟตจะมีชวงชีวิตสั้นกวาสปอโรไฟต จากการศึกษาซากดึกดําบรรพของพืชโบราณ พบวา รากของพืชกลุมนี้อาจจะวิวัฒนาการมาจากลําตนสวนลางหรือสวนที่อยูใตดินของพืชมีทอลําเลียงโบราณ พืชมีทอ ลําเลียงที่ไรเม็ด ที่พบในปจจุบันแบงออกเปน 2 ไฟลัม ดังนี้ - ไฟลัมไลโคไฟตา (Phylum Lycophyta) เปนพืชที่มีใบ ราก ลําตนที่แทจริง แตใบมีขนาดเล็ก มีเสนใบ 1 เสน สวนใหญเปนพืชที่มีอายุหลายป (Perennial) มีอยูประมาณ 200 ชนิด สวนใหญสูญพันธุไปแลว ที่ยังเหลือ และรูจักกันในปจจุบันพืชกลุมนี้มี 3 กลุม คือ - ไลโคโพเดียม (Lycopodium) ที่พบเห็นนั้นเปนระยะสปอโรไฟต จัดเปนพืชลมลุก มีทั้งชนิดที่เลื้อย ไปตามดิน ชนิดที่ตั้งตรงและชนิดที่เกาะอยูกับตนไมอื่นๆ ใบของไลโคโพเดียมเปนใบแท เปนแผนสีเขียวขนาดเล็ก เรียงตัวคลุมรอบตน มีรากเปนรากแบบพิเศษ (Adventitious Root) โดยงอกออกจากลําตน สวนที่อยูติดกับดิน เรียกวา สโตรบิลัส (Strobilus) อยูที่ปลายกิ่ง ในสโตรบิลัสมีอับสปอรมากมาย ทําหนาที่ สรางสปอรโดยวิธีการแบง เซลลแบบไมโอซิสของเซลลแมของสปอร (Spore Mother Cell) ได 4 สปอรที่เหมือนกัน ไลโคโพเดียมที่สําคัญ คือ Lycopodium cernumm คือ สามรอยยอด หรือ หญารังนก Lycopodium squarrosum คือ สรอยหางสิงห Lycopodium phlegmaria คือ ชองนางคลี่ Lycopodium corinatum คือ สรอยนางกรอง หรือ สรอยนารี
16 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563 ภาพ ไลโคโพเดียม (Lycopodium) (ก) Lycopodium cernumm (ข) Lycopodium squarrosum (ค) Lycopodium phlegmaria (ง) Lycopodium carinatum (ก) (ข) (ค) (ง)
ภาพ ตีนตุ๊กแก 17 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563 - ซีแลกจิเนลลา (Selagenella) หรือเรียกกันตามภาษาถิ่นวาตีนตุกแก, พอคาตีเมีย, หญารองไห, เฟอยนก ทั้งหมดนี้จัดเปนซีแลกจิเนลลาเหมือนกัน ซีแลกจิเนลลามีลักษณะคลายๆ กับไลโคโพเดียม ลําตนแตกแขนง เปน 2 แฉก อาจเปนชนิดตั้งตรงหรือเลื้อยไปตามดิน มีใบขนาดเล็กเรียงเปน 4 แถว ตามความยาวของลําตน ที่โคนมีลิกูล (Ligule) ซึ่งมีลักษณะคลายใบเกล็ด ติดอยูในไลโคโพเดียม ไมมีบริเวณปลายกิ่งมีสโตรบิลัสซึ่งมีอับสปอร 2 ชนิด คือ เมกะสปอรแรงเจียม (Megasporangium) มีขนาดใหญทําหนาที่สรางเมกะเปอร (Megaspore) ซึ่งตอไปจะเจริญไป เปนแกมีโทไฟตเพศเมีย สรางเซลลไข สวนอีกชนิดหนึ่งเรียกวา ไมโครสปอรแรงเจียม (Microsporangium) มีขนาด เล็ก ซึ่งตอไปจะเจริญไปเปนแกมีโทไฟตเพศผู สรางสเปรม
ภาพ กระเทียมนํ้า ภาพ หวายทะนอย 18 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ กระเทียมนํ้า (Isoetes) เปนพืชที่ขึ้นในที่รมมีนํ้าขังตื้น ๆ จึงจัดเปนพวกพืชนํ้า พบเหลืออยูเพียงชนิดเดียว ลําตนมีลักษณะเปนกออยูใตดินคลายหัวราก เปนแบบรากพิเศษ (Adventitious Root) ใบมีขนาดเล็กยาวเรียว สวนฐานใบกวางหอหุมอัปสปอร ใบมีปากใบและเสนใบยาวตลอดใบ ภายในใบมีชองอากาศชวยในการหายใจและ ลอยนํ้า ไฟลัมเทอโรไฟตา (Phylum Pterophyta) พืชกลุมนี้แบงเปน 3 กลุมยอย คือ (1) หวายทะนอย หรือไซโลตัม (Psilotum sp.) ลักษณะของไซโลตัม คือ มีลําตนใตดิน เรียกวา ไรโซม (Rhizome) ไมมีรากแตมีไรซอยด (Rhizoid) ซึ่งประกอบดวยเซลลเพียงเซลลเดียวปกคลุมอยู และทําหนาที่แทนราก สวนที่อยูเหนือดินเรียกแอเรียลสเต็ม (Aerial Stem) มีลักษณะเปนเสนแส แตกกิ่งแบบไดโคโตมัส มีลักษณะเปนเหลี่ยม ทําหนาที่สังเคราะหแสง ไมมีใบแตมีสเกลลีฟ (Scale Leaf) ซึ่งประกอบดวยเซลลพาเรงคิมา (Parenchymas Cell) และไมมีทอลําเลียงจึงไมจัดวาเปนใบ เมื่อไซโลตัมเจริญเต็มที่จะสรางอัปสปอร (Sporangium) มีลักษณะเปน 3 พู (Three Lobed) ซึ่งจะสรางสปอรโดยการแบงเซลลแบบไมโอซิสได 4 สปอรที่เหมือนกันทั้งหมด (Homosporous) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563 ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
19 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ (2) หญาถอดปลอง หรือ อีควิเซตัม (Equisetum sp.) เรียกวา สนหางมา หญาถอดปลอง หญาหูหนวก หญาเหงือก ซึ่งจัดเปนอีควิเซตัมทั้งสิ้น ลําตนของพวกนี้มีทั้งชนิดที่อยูเหนือดินและใตดิน ลําตนบนดิน มีสีเขียว สังเคราะหดวยแสงไดและมีลักษณะเปนขอและปลองอยางชัดเจน สามารถดึงใหหลุดออกจากกันได การแตกกิ่ง ที่เปนแขนงบริเวณรอบขอ ทําใหมีลักษณะคลายแปรงลางขวด หรือหางมา จึงเรียกกันวา สนหางมา ที่ผนังเซลล มีสารพวกซิลิกา (Silica) เคลือบอยูเลยทําใหหยาบและแข็ง ใชในการทําความสะอาดภาชนะตาง ๆ ไดดี ใบเปนใบเกล็ด สวนโคนจะเชื่อมตอกัน เปนวงรอบขอ สวนปลายใบจะแตกออกและแยกออกจากกัน แตละใบมี เสนใบ 1 เสน อับสปอรเกิดเปนกระจุกที่ปลายกิ่งสั้นๆ เรียกวา สปอรแรงจิโอฟอร (Sporangiophore) ซึ่งอยูรอบ แกนกลางรวมกันเปนโครงสรางที่เรียกวา สโตรบิลัส ทําหนาที่สรางสปอร สวนลําตนที่อยูใตดินอายุนอย จะสังเคราะหดวยแสงไมได ลําตนจึงทําหนาที่หลักในการสังเคราะห ภาพ (ก) หญ้าถอดปล้อง (ข) สโตรบิลัสของหญ้าถอดปล้อง (ก) (ข) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
20 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 3. เฟรน (Fern) มีจํานวนมากที่สุดในบรรดาเทอโรไฟต เฟรนมีรากลําตนและใบเจริญดี เฟรน สวนใหญ มีลําตนใตดิน ใบของเฟรน เรียกวา ฟรอนด (Frond) เปนสวนที่เห็นเดนชัด มีขนาดใหญ เปนใบแบบเมกะฟลล (Megaphy) มีรูปรางลักษณะเปนหลายแบบมีทั้งที่เปนใบเดี่ยว (Simples Leaf) และใบประกอบ (Compound Leaf) ใบออนของเฟรนมีลักษณะพิเศษ คือ จะมวนเปนวง (Circinate Vernation) สปอรโรไฟตที่เจริญเต็มที่จะสราง อับสปอร ซึ่งมารวมกลุมอยูที่ดานใตใบ แตละกลุมของอับสปอร เรียกวา ซอรัส (Sorus) เฟรนสวนใหญสรางสปอร ชนิดเดียว ยกเวนเฟรนบางชนิดที่อยูในนํ้า และที่ชื้นแฉะ ไดแก จอกหูหนู แหนแดง และผักแวน มีการสรางสปอร 2 ชนิด เฟรนที่พบทั่ว ๆ ไปเปนตนสปอโรไฟต การดํารงชีวิตของเฟรนในสภาพธรรมชาติแตกตางกันมาก เชน แหนแดง จอกหูหนู ลอยนํ้าอยู ผักแวน ผักกูดขึ้นอยูในนํ้า ชายผาสีดาเกาะอยูตามตนไมเปน Epiphyte ใบเฟรน เรียกวา Frond ซึ่งแตละชนิดแตกตางกันออกไปมากมาย เชน ใบของขาหลวงหลังลายเปนใบเดี่ยวขนาดใหญ เฟรนกานดําเปนใบประกอบ ปรงทะเลมีใบขนาดใหญ แตแหนแดงมีใบขนาดเล็กมาก ใบเฟรนทุกชนิดในขณะที่ยังออนอยูจะมีการมวนเขาดานในแบบลานนาิกา เรียกวา Circinate Vernation เมื่อใบเฟรนเจริญขึ้นและมีอายุมากขึ้น สวนที่มวนจะคอยๆคลายออก ทางดานหลังใบของเฟรนจะมีสวนที่ทําหนาที่ ในการสรางสปอร เรียกวา อับสปอรและอับสปอรเหลานี้จะมารวมกันเปนกลุมเรียกวา Sorus ภาพ เฟิร์น และการม้วนงอใบอ่อนของเฟิร์น ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
21 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ วงจรชีวิตแบบสลับของเฟรน ตนสปอโรไฟตของเฟรนจะสรางสปอรภายในอับสปอรที่อยูทางดานหลังใบ อับสปอรของเฟรน มีลักษณะ กลมรีภายในมีการสรางสปอรโดยการแบงเซลลแบบไมโอซิสใหสปอรที่มีโครโมโซม (n) เมื่ออับสปอรแกจะแตกออก สปอรจะถูกปลอยออก ภาพ วงจรชีวิตแบบสลับของเฟิร์น ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
22 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 2. กลุมพืชมีเนื้อเยื่อลําเลียงที่มีเมล็ด (Seed Vascular Plant) เปนพืชที่มีระยะสปอรโรไฟตที่เดนชัดและยาวนาน แตระยะแกมีโทไฟตจะมีขนาดเล็กลงมาก เมื่อเทียบกับ มอสและเฟรน ปจจุบันแบงเปน 2 กลุม คือ 2.1 Gymnosperm (พืชเมล็ดเปลือย) ลักษณะที่สําคัญ คือ ออวุลและละอองเรณูติดบนแผนกิ่ง หรือแผนใบ ซึ่งจะอยูรวมกันที่ปลายกิ่ง เรียกวา Cone แยกเปนโคนเพศผูและโคนเพศเมีย เปนพืชที่ไมมีดอก แตมีเมล็ด เมล็ดไมมีผนังรังไขหอหุม ซึ่งเรียกวา เมล็ด เปลือย แบงออกเปน 4 Phylum คือ - Phylum Cycadophyta เปนพืชที่มีการกระจายพันธุในบริเวณที่แหงแลงไดดี มีลําตนคอนขางเตี้ย ใบมีขนาดใหญเปนใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว มีการสรางโคนเพศผูและโคนเพศเมียแยกตนกัน เชน ปรงปา ปรงเขา เปนตน ภาพ (ก) ปรง (ข) โคนของปรง (ก) (ข) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
23 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ - Phylum Ginkgophyta ปจจุบันเหลือเพียงสปชีสเดียว คือ แปะกวย มีลักษณะใกลเคียงกับพืชที่ สูญพันธุไปแลว พบตามธรรมชาติในประเทศจีน เกาหลีและญี่ปุน ลําตนมีขนาดใหญ ใบเดี่ยวคลายพัด ตนเพศเมีย สรางออวุลที่ปลายกิ่งพิเศษ เมล็ดมีอาหารสะสมนิยมนํามารับประทาน - Phylum Coniferophyta เปนพืชที่มีความหลากหลายมากที่สุดในพืชกลุมเมล็ดเปลือย ทั้งในดาน ลักษณะของตนและโครงสรางของอวัยวะสืบพันธุ โคนเพศผูและเพศเมียอาจเกิดขึ้นบนตนเดียวกันหรือแยกกัน เชน สนสองใบ สนสามใบ สนสามพันป พญาไม เปนตน ภาพ แป๊ะก๊วย ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563 ภาพ (ก) สนสองใบ (ข) สนสามใบ (ก) (ข) ที่มา สืบคนเมื่อ 14 มกราคม 2563
24 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 2.2 Angiosperm (พืชดอก) เปนกลุมพืชที่มีความหลากหลายสูงสุดจัดอยูในไฟลัมแอนโทไฟตา (Anthophyta) ซึ่งมีลักษณะดังนี้ - มีวิวัฒนาการสูงที่สุดในพวกพืชมีทอลําเลียง - มีรากลําตนใบที่แทจริง - มีระบบลําเลียงเจริญดี มีทอลําเลียงนํ้า (Xylem) และทอลําเลียงอาหาร (Phloem) - มีดอกเปนอวัยวะสืบพันธุเมล็ดมีทั้งไขหอหุมเมื่อรังไขพัฒนาเต็มที่จะกลายเปนผล - การปฏิสนธิเปนแบบซอน Double Fertilization การปฏิสนธิ 2 ครั้ง มีวงชีวิตแบบสลับ แกมีโทไฟตมีขนาดเล็กอยูบนสปอโรไฟต พืชดอกแบงออกเปน 2 ชั้นยอย (Subclass) โดยแบงตามจํานวนใบเลี้ยงในเมล็ด ไดดังนี้ 1) ใบเลี้ยงเดี่ยว (Monocotyledon) เรียกพืชในชั้นยอยนี้วาพืชใบเลี้ยงเดี่ยว (Monocotyledon หรือ มักเรียกยอ ๆ วา Monocot) พืชกลุมนี้มีใบเลี้ยงในเมล็ดเพียงหนึ่งใบ ในโลกนี้มีพืชใบเลี้ยงเดี่ยวประมาณ 50,000 ชนิด ตัวอยางวงศ (Family) พืชที่ถูกจัดใหอยูในชั้นยอยใบเลี้ยงเดี่ยวนี้ เชน Poaceae (ชื่อเดิมคือ Gramineae หรือวงศ หญา) Palmae หรือ Arecaceae (วงศปาลม) Liliaceae (วงศลิลี่) Orchidaceae (วงศกลวยไม) และ Cyperaceae (วงศกก) โปรดสังเกตชื่อวงศมักลงทายดวย ceae 2) ใบเลี้ยงคู (Dicotyledon) เรียกพืชในชั้นยอยนี้วาพืชใบเลี้ยงคู (Dicotyledon หรือมักเรียกยอๆ วา Dicot) พืชในกลุมนี้มีใบเลี้ยงในเมล็ดสองใบ ในโลกนี้มีพืชใบเลี้ยงคูมากมายประมาณ 225,000 ชนิดตัวอยางวงศพืช ที่ถูกจัดใหอยูในชั้นยอยใบเลี้ยงคูนี้ เชน Fabaceae (ชื่อเดิมคือ Leguminosae หรือวงศถั่ว) Brassicaceae (ชื่อเดิมคือ Cruciferae หรือวงศกะหลํ่า) Solanaceae (วงศมะเขือเทศ) และ Asteraceae (ชื่อเดิมคือ Compositae หรือวงศทานตะวัน)
25 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 4่ เรือง ความหลากหลายของพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ขั้นประเมินผล (Evaluate Phase) ตอนที่ 1 ใหนักเรียนแตละกลุมพิจารณา Key Word ที่กําหนดใหแลวนําตัวอักษรหนา Key Word เติมชองวางที่มีความสัมพันธกันอยางถูกตอง ก. Psilotum sp. จ. Moss ฌ. Archegonium ข. Equisetum sp. ฉ. Lycopodium ญ. Alternation of Generation ฐ. Homwort ฑ. Sporophyte Generation ค. Antheridium ช. Seleginella ฎ. Phyllidium ฒ. Gametophyte Generation ง. Rhizoid ซ. Sphagnum sp. ฏ. Rhizome ………1. อวัยวะสรางเซลลสืบพันธุเพศผูในพืชไมมีทอลําเลียง ………2. อวัยวะสรางเซลลสืบพันธุเพศเมียในพืชไมมีทอลําเลียง ………3. วงจรชีวิตแบบสลับ ………4. ตนขาวตอกษี ………5. ลักษณะคลายราก ……….6. พืชที่มีทอลําเลียงที่มีวิวัฒนาการตํ่าสุด ……….7. ชองนางคลี่ สรอยสุกรม สามรอยยอด ……….8. พืชที่มีระยะแกมีโทไฟตเดน ……….9. ตีนตุกแก ………10. พืชที่มีลําตนกลวง ใบขนาดเล็ก สังเคราะหดวยแสงได
26 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ตอนที่ 2 ใหนักเรียนตอบคําถามเกี่ยวกับพืชกลุมมีทอลําเลียงที่ไรเมล็ด ตอนที่ 3 จากตัวเลือกที่กําหนดให นําตัวอักษรหนาตัวเลือกเติมลงในชองวางที่สัมพันธกับคําถามเกี่ยวกับ พืชเมล็ดเปลือย (บางขอตอบไดมากกวา 1 ตัวเลือก) 1. ใบเฟรนทุกชนิดขณะที่ยังออนอยู จะมีลักษณะเดน คือ........................................................................................... 2. ตนแกมีโทไฟตของเฟรนมีรูปรางคลาย.........................................................เรียกวา…………………….…………........… 3. สปอโรไฟตของเฟรนที่เจริญเต็มที่จะสรางอับสปอรซึ่งจะมารวมกลุมกัน โดยแตละกลุมของอับสปอร เรียกวา………………………………………………………………………………………………………………………………………......….… 4. พืชดอกมีอวัยวะสืบพันธุคือ…………………….………….ประกอบดวย……………………….…………………………….......……. 5. เมื่อเกิดการปฏิสนธิ โครงสรางภายในดอกจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เซลลไข และสเปรม จะเจริญเปน............................................................................................................................ ออวุล (Ovule) จะเจริญเปน…………………………………………….…………………………………………………………….......…. รังไข (Ovary) จะเจริญเปน…………………………………………………..………………………....……………………….......………. ก. เมล็ดไมมีรังไขหุม ฉ. ไมมีออวุล ข. Coniferophyta ช. สนทะเล สนปฏิพัทธ ค. Cycadophyta ซ. ปรง ง. Pterophyta ฌ. สนสองใบ สนสามใบ จ. Lycophyta ญ. ปรงทอง ปรงทะเล 1. สนสองใบ สนสามใบ และปรง มีลักษณะใดที่เหมือนกัน …………………………………………………………………………………………………....................................................................... 2. พืชเมล็ดเปลือยคือพืชในไฟลัมใด …………………………………………………………………………………………………....................................................................... 3. เพราะเหตุใด สนสองใบ สนสามใบ และปรง มีเมล็ดแตไมมีผล …………………………………………………………………………………………………....................................................................... 4. พืชในไฟลัมโคนิเฟอโรไฟตา (Phylum Coniferophyta) คือพืชในขอใด …………………………………………………………………………………………………....................................................................... 5. พืชในไฟลัมไซแคโดไฟตา (Phylum Cycadophyta) คือพืชในขอใด ………………………………………………………………………………………………….......................................................................
27 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ แบบทดสอบหลังเรียน ชุดที 5 อาณาจักรพืช่ รายวิชา ชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 คะแนนเต็ม 10 คะแนน จำนวน 10 ขอ =============================================================== คำชี้แจง 1. แบบทดสอบนี้เปนแบบปรนัยเลือกตอบ มีทั้งหมด 10 ขอ 2. ใหนักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกตอง และทำเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคำตอบ =============================================================== 1. ลิเวอรเวิรตเปนพืชพวกใด ก. อยู Phylum Hepatophyta เพราะไมมีทอลำเลียง ข. อยู Phylum Hepatophyta เพราะมีทอลำเลียง ค. อยู Phylum Bryophyta เพราะไมมีทอลำเลียง ง. อยู Phylum Bryophyta เพราะมีทอลำเลียง 2. ใบของมอสไมถือวาเปนใบที่แทจริงเพราะเหตุใด ก. ขนาดเล็กเกินไป ข. ไมมีสีเขียว ค. รงควัตถุภายในไมใชคลอโรฟลล ง. ไมมีทอลำเลียง 3. สิ่งมีชีวิตที่จะจัดไวในอาณาจักรพืช (Kingdom Plantae) ตองมีลักษณะสำคัญเดนชัดในขอใด ก. มีหลายเชลล (Multicellular) และมีคลอโรพลาสต ข. มีผนังเซลล มีคลอโรพลาสต และมีวงจรชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) ค. มีระยะตนออน มีคลอโรพลาสต และมีวงจรชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) ง. มีเนื้อเยื่อ มีระยะตัวออน มีการสืบพันธุแบบใชเพศสลับกับแบบไมใชเพศ 4. หลักเกณฑที่ใชในการจัดจำแนกพืชคือขอใด ก. ลักษณะทางสัณฐานวิทยา (Morphology) และกายวิภาคศาสตร (Anatomy) ข. แบบแผนและลักษณะการเจริญเติบโตของตัวออน (Embryology) ค. กระดูกสันหลัง การสืบพันธุ อุณหภูมิในรางกาย การหายใจ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
28 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ 5. ลักษณะสําคัญของพืชพวกจิมโนสเปรมคือขอใด ก. สรางโคน (Cone) ที่ผลิตสเปรมและไขภายในตนเดียวกัน ข. มีสวนที่เปนรากลําตนใบและดอกที่แทจริง ค. เมล็ดไมมีผนังรังไขหอหุม ง. มีใบขนาดเล็กรูปเข็มรวมกันอยูเปนกลุม 6. ขอใดเปนพืชที่มีการกระจายพันธุในบริเวณที่แหงแลงไดดี มีลําตนคอนขางเตี้ยใ บมีขนาดใหญ เปนใบประกอบ แบบขนนกชั้นเดียว มีการสรางโคนเพศผูและโคนเพศเมียแยกตนกัน ก. Phylum Gnetophyta ข. Phylum Cycadophyta ค. Phylum Ginkgophyta ง. Phylum Coniferophyta 7. เปนกลุมพืชที่มีลําตน มีขอปลองชัดเจน มีทั้งลําตนตั้งตรงบนดินและลําตนใตดิน ลําตนตั้งตรงบนดินมีสีเขียวเปน สัน ใบมีขนาดเล็ก มีเสนใบเพียง 1 เสน เรียงเปนวงรอบขอ อับสปอรเปนกระจุกที่ปลายกิ่ง เรียกวา Strobilus ก. หญาถอดปลอง ข. เฟรน ค. หวายทะนอย ง. แปะกวย 8. ขอใดคือพืชที่มีลักษณะแตกตางจากพืชเมล็ดเปลือยกลุมอื่น คือ พบเวสเซลในทอลําเลียงนํ้า และมีลักษณะคลาย พืชดอกมาก คือ มีกลีบดอก มีใบเลี้ยง 2 ใบ แตเมล็ดยังไมมีเปลือกหุม ก. Phylum Gnetophyta ข. Phylum Cycadophyta ค. Phylum Ginkgophyta ง. Phylum Coniferophyta 9. พืชใดอยูในกลุมไมดอกทั้งหมด ก. สรอยสุกรม บอน แหน ผักแวน ข. สาหรายหางกระรอก สาหรายขาวเหนียว จอก ตะไคร ค. สรอยสีดา ชายผาสีดา กระเชาสีดา พลู ง. หญารังไก หญาถอดปลอง หญาแพรก หญานกสีชมพู 10. Prothallus ของเฟรนทําหนาที่อะไร ก. สรางเสปรม ข. สรางไข ค. สรางสปอร ง. ทั้งขอ ก และ ขอ ข
29 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ กระดาษคําตอบ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน วิชาชีววิทยา 6 ชุดที่ 5 อาณาจักรพืช ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. ¡‹Í¹àÃÕ¹ ÊÃØ»¤Ðá¹¹Êͺ ËÅѧàÃÕ¹ 10 ก ข ค ง A B C D ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
30 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย. โครงการดาราวิทยาศาสตรและคณิตศาสตรมูลนิธิ สอวน. (2552). ชีววิทยา สัตววิทยา 3. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิ สอวน. จิรัสย เจนพาณิชย (2552). ชีววิทยาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพมหานคร : ผจก.สามลดา. เชาวน ชิโนรักษ และพรรณี ชิโนรักษ (2552). ชีววิทยา 1. กรุงเทพมหานคร : โสภณการพิมพ. ซีรสตาร (2552). ชีววิทยา เลม 1. (แปลจาก Biology 1 Concepts and Applications โดยทีม คณาจารย ภาควิชาชีววิทยามหาวิทยาลัยขอนแกน, ผูแปล. กรุงเทพมหานคร : เจเอสทีพับลิชชิ่งจำกัด. นงลักษณ สุวรรณพินิจ และปรีชา สุวรรณพินิจ (2552). จุลชีววิทยาทั่วไป. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. ประสงค หลำสะอาด และจิตเกษม หลำสะอาด (มปป.). คูมือสาระการเรียนรูพื้นฐานและเพิ่มเติ่มกลุมสาระการ เรียนรูวิทยาศาสตร ชีววิทยา ม.6 เลม 5. กรุงเทพมหานคร : พัฒนาศึกษา. ปรีชา สุวรรณพินิจ และนงลักษณ สุวรรณพินิจ (2549). ชีววิทยา 2. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. วันดี วัฒนชัยยิ่งเจริญ (2552). การจัดจำแนกสิ่งมีชีวิต. ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร : มหาวิทยาลัย นเรศวร. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2555). คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติมชีววิทยา เลม 5 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2558). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ชีววิทยา ชั้นมัธยม ศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรสำหรับนักเรียนที่เนนวิทยาศาสตร ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (2558). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา เลม 5 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว.
31 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ บรรณานุกรม (ต่อ) สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2561). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตรวิทยาศาสตรชีวภาพ ชั้นมัธยมศึกษาปที่4 ตามมาตรฐานการ เรียนรูและตัวชี้วัด กลุม สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2563). คูมือครูรายวิชาเพิ่มเติม วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ชีววิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เลม 6 ตามมาตรฐานการเรียนรูและ ตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ สกสค. ลาดพราว. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ (2558). หนังสือเรียนรู เพิ่มเติมเสริม ศักยภาพวิทยาศาสตรชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 ชีววิทยา เลม 2 ฺBIOLOGY II (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด. สุกาญจน รัตนเลิศนุสรณ (2550). หลักการอนุรักษและการจัดการชีวภาพ (พิมพครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : สมาคม สงเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุน). สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม (2561). มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ 2561 เรื่องมาตรการปองกัน ควบคุม และกำจัด ชนิดพันธุตางถิ่น. กรุงเทพฯ : กองจัดการความ หลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กรุงเทพฯ.
ภาคผนวก
33 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 แบบบันทึกคะแนนระหว่างเรียน เรือง อาณาจักรพืช่ ชุดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรแบบสืบเสาะหาความรู 7 ขั้น (7E) และประยุกตใชเทคโนโลยี QR Code เพื่อสงเสริมการเรียนรูดวยตนเอง วิชาชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6 เรื่อง ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ชื่อ-สกุล……………………………………………………………………ชั้น…………………………….เลขที่…………. กิจกรรม คะแนนเต็ม บัตรกิจกรรมที่ 1 10 บัตรกิจกรรมที่ 2 10 บัตรกิจกรรมที่ 3 10 บัตรกิจกรรมที่ 4 20 คะแนนที่ได
34 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรูที่ 5 อาณาจักรพืช Ẻ·´Êͺ¡‹Í¹àÃÕ¹ Ẻ·´ÊͺËÅѧàÃÕ¹ ¡ ¢ ¤ § A B C D ¢ŒÍ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ¡ ¢ ¤ § A B C D ¢ŒÍ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
35 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 1่ เรือง พืชรอบตัว่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นตรวจสอบความรูเดิม (Elicitation Phase) ขั้นเราความสนใจ (Engagement Phase) และขั้นอธิบาย (Explanation Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมนําตัวอยางพืชที่พบไดรอบๆ ตัวของนักเรียน ไมวาจากที่บานหรือที่โรงเรียน มาคนละ 3 ชนิดไมซํ้ากัน มาศึกษาชื่อและลักษณะกันในแตละกลุมและแลกเปลี่ยนกันระหวาง กลุมใหรวบรวมขอมูลพืชจํานวน 15 ชนิดและบันทึกผลลงในตารางพรอมตอบคําถาม คําถาม 1. พืชที่นักเรียนนํามาศึกษามีลักษณะแตกตางกันหรือไม อยางไร จงอธิบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ถานักเรียนจะจัดกลุมพืชที่นํามาศึกษา จะแบงไดกี่กลุม ไดแกอะไรบาง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลําดับที่ ชื่อ ลักษณะที่พบ พิจารณาคําตอบตามดุลยพินิจของครูผูสอน พิจารณาคําตอบตามดุลยพินิจของครูผูสอน พิจารณาคําตอบตามดุลยพินิจของครูผูสอน
36 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 2่ เรือง อาณาจักรพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาจะหาความรู ขั้นสํารวจแลคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และขั้นนําความรูไปใช (Extend Phase) คําสั่ง เมื่อนักเรียนศึกษาบัตรความรูเรื่องอาณาจักรพืชแลวจงตอบคําถามตอไปนี้ 1. พืชเปนสิ่งมีชีวิตที่มีกําเนิดขึ้นมาแลวไมตํ่ากวา....................................ป มีหลักฐานหลายอยางที่ทําใหเชื่อวา พืชมีวิวัฒนาการมาจากสาหรายสีเขียวกลุม……………………………………………………………………….......…………………..... 2. ใหนักเรียนเติมสวนตางๆของเซลลพืชใหถูกตอง 3. ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืช คือ...................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………….…………………….................……………………………... ..................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 4. พืชที่มีการสรางเมล็ดแลวทุกชนิด จะสรางสปอรเปน……………………………..………ชนิด (Heterospore) ไดแก ………………………………………………………………………………………………………………………………………………........………… แวคิวโอล นิวเคลียส ผนังเซลล ไมโทคอนเดรีย เยื่อหุมเซลล ไซโทพลาซึม คลอโรพลาสต 400 ลาน Charophyte พืชมีโครงสรางที่ประกอบขึ้นดวยหลายเซลลที่มารวมกลุมกัน เปนเนื้อเยื่อ ที่ทําหนาที่เฉพาะอยางและวงชีวิต (Life cycle) ของพืชเปนวงชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) คือ ประกอบดวย ชวงชีวิตที่เปนสปอโรไฟต (Sporophyte Generation) ทําหนาที่สรางสปอร (Spore) สลับกับชวงชีวิตที่เปนแกมีโทไฟต (Gametophyte Generation) ทําหนาที่สรางแกมีต (Gamete) ไดแก เซลลสืบพันธุเพศผูหรือสเปรม (Sperm) และเซลลสืบพันธุเพศเมียหรือเซลลไข (Egg Cell) 2 ไมโครสปอร (Microspore) ซึ่งมีขนาดเล็ก และเมกะสปอร (Megaspore) ซึ่งมีขนาดใหญ นิวเคลียส ผนังเซลล เยื่อหุมเซลล ไซโทพลาซึม ไรโบโซม แวคิวโอล ไมโทคอนเดรีย คลอโรพลาสต กอลจิบอดี นิวคลิโอลัส ไลโซโซม รางแหเอนโดพลาซึม
37 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 3่ เรือง ความหลากหลายของพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ขั้นประเมินผล (Evaluate Phase) คําสั่ง ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันพิจารณาภาพแลวเติมขอความลงในชองวางใหถูกตอง ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... .................................................................. ตําแหนง A คือ ระยะ................................. ตําแหนง B คือ ระยะ................................. ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... .................................................................. ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. .................................................................. ฮอรนเวิรต (Hornwort) แอนโทซีโรไฟตา (Anthocerophyta) (Anthocerophyta) แอนโทซีโรไฟตา สปอโรไฟต แกมีโทไฟต ลิเวอรเวิรต (Liverwort) เปนแผน ที่บริเวณขอบมี รอยหยักแตกแขนงเปน 2 พู Sporophyte มีลักษณะยาวเรียว A B
38 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. .................................................................. .................................................................. ชื่อ.............................................................. ไฟลัม.......................................................... ลักษณะเดน คือ.......................................... .................................................................. .................................................................. มอส (Moss) ไบรโอไฟตา (Bryophyta) ไบรโอไฟตา (Bryophyta) เจริญเติบโตในหมูตนไม หรือบริเวณที่เปยกชื้นใตรมเงาไมใหญ ไมมีดอกและเมล็ด โดยทั่วไปใบที่ปกคลุม ลําตนจะบางเล็กคลายลวด ขาวตอกษี (Sphagnum Moss) คลายตนไมเล็กๆ และ มักจะพบอับสปอรรูปคลายผอบเล็กๆ มีฝาปด เจริญอยูบนตนที่สรางเซลลสืบพันธุ
39 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ที 4่ เรือง ความหลากหลายของพืช่ คําชี้แจง กิจกรรมการเรียนรูฉบับนี้เปนกิจกรรมที่จัดการเรียนรูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู ขั้นสํารวจและคนหา (Exploration Phase), ขั้นขยายความรู (Elaboration Phase) และ ขั้นประเมินผล (Evaluate Phase) ตอนที่ 1 ใหนักเรียนแตละกลุมพิจารณา Key word ที่กําหนดใหแลวนําตัวอักษรหนา Key Word เติมชองวางที่มีความสัมพันธกันอยางถูกตอง ค. ฌ. ญ. ช. ง. ก. ฉ. จ. ซ. ข. ก. Psilotum sp. จ. Moss ฌ. Archegonium ข. Equisetum sp. ฉ. Lycopodium ญ. Alternation of Generation ฐ. Homwort ฑ. Sporophyte Generation ค. Antheridium ช. Seleginella ฎ. Phyllidium ฒ. Gametophyte Generation ง. Rhizoid ซ. Sphagnum sp. ฏ. Rhizome ………1. อวัยวะสรางเซลลสืบพันธุเพศผูในพืชไมมีทอลําเลียง ………2. อวัยวะสรางเซลลสืบพันธุเพศเมียในพืชไมมีทอลําเลียง ………3. วงจรชีวิตแบบสลับ ………4. ตนขาวตอกษี ………5. ลักษณะคลายราก ……….6. พืชที่มีทอลําเลียงที่มีวิวัฒนาการตํ่าสุด ……….7. ชองนางคลี่ สรอยสุกรม สามรอยยอด ……….8. พืชที่มีระยะแกมีโทไฟตเดน ……….9. ตีนตุกแก ………10. พืชที่มีลําตนกลวง ใบขนาดเล็ก สังเคราะหดวยแสงได
40 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ตอนที่ 2 ใหนักเรียนตอบคําถามเกี่ยวกับพืชกลุมมีทอลําเลียงที่ไรเมล็ด ตอนที่ 3 จากตัวเลือกที่กําหนดให นําตัวอักษรหนาตัวเลือกเติมลงในชองวางที่สัมพันธกับคําถามเกี่ยวกับ พืชเมล็ดเปลือย (บางขอตอบไดมากกวา 1 ตัวเลือก) 1. ใบเฟรนทุกชนิดขณะที่ยังออนอยู จะมีลักษณะเดนคือ........................................................................................... 2. ตนแกมีโทไฟตของเฟรนมีรูปรางคลาย................................................เรียกวา……........……………….…………........… 3. สปอโรไฟตของเฟรนที่เจริญเต็มที่จะสรางอับสปอรซึ่งจะมารวมกลุมกัน โดยแตละกลุมของอับสปอร เรียกวา……………………………………………………………….…………………………………………………………………….......…… 4. พืชดอกมีอวัยวะสืบพันธุคือ…………………….…….ประกอบดวย......……………………….…………………………….......…… 5. เมื่อเกิดการปฏิสนธิ โครงสรางภายในดอกจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เซลลไข และสเปรม จะเจริญเปน........................................................................................................................... ออวุล (Ovule) จะเจริญเปน………………………………………….…………………………………………………………….......…... รังไข (Ovary) จะเจริญเปน…………………………………………………………………………....……………………….......…….…. ก. เมล็ดไมมีรังไขหุม ฉ. ไมมีออวุล ข. Coniferophyta ช. สนทะเล สนปฏิพัทธ ค. Cycadophyta ซ. ปรง ง. Pterophyta ฌ. สนสองใบ สนสามใบ จ. Lycophyta ญ. ปรงทอง ปรงทะเล 1. สนสองใบ สนสามใบ และปรง มีลักษณะใดที่เหมือนกัน …………………………………………………………………………………………………..................................................................... 2. พืชเมล็ดเปลือยคือพืชในไฟลัมใด …………………………………………………………………………………………………..................................................................... 3. เพราะเหตุใด สนสองใบ สนสามใบ และปรง มีเมล็ดแตไมมีผล …………………………………………………………………………………………………..................................................................... 4. พืชในไฟลัมโคนิเฟอโรไฟตา (Phylum Coniferophyta) คือพืชในขอใด …………………………………………………………………………………………………..................................................................... 5. พืชในไฟลัมไซแคโดไฟตา (Phylum Cycadophyta) คือพืชในขอใด …………………………………………………………………………………………………..................................................................... มีการมวนเขาดานในแบบลานนาิกา รูปหัวใจ โพรทัลเลียม (Prothalluim) ซอรัส (Sorus) ดอก กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู เกสรเพศเมีย ไซโกต เมล็ด ผล ก. เมล็ดไมมีรังไขหุม ก. เมล็ดไมมีรังไขหุม ข. Coniferophyta , ค. Cycadophyta ฌ. สนสองใบ สนสามใบ ซ. ปรง
41 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคล เรือง อาณาจักรพืช่ คําชี้แจง ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขีด √ ลงในชองที่ตรง กับระดับคะแนน ชื่อ………………………………………….……………………………………..ชั้นมัธยมศึกษาปที่……………………….เลขที่………………. ลงชื่อ……………………………………………ผูประเมิน ..…………../…..…………/………….. เกณฑการใหคะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยางสมํ่าเสมอ ให 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอยครั้ง ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอยครั้ง ให 1 คะแนน เกณฑตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช ตํ่ากวา 10 ปรับปรุง 1 2 3 4 5 4 3 2 1 การแสดงความคิดเห็น การยอมรับฟงความคิดเห็นคนอื่น การทํางานตามหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย ความมีนํ้าใจ การตรงตอเวลา ลําดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน รวม
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายกลุ่ม เรือง อาณาจักรพืช่ คําชี้แจง ใหผูสอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวางเรียนและนอกเวลาเรียน แลวขีด √ ลงในชองที่ตรง กับระดับคะแนน ชื่อ………………………………………….……………………………………..ชั้นมัธยมศึกษาปที่……………………….เลขที่………………. ลงชื่อ……………………………………………ผูประเมิน ..…………../…..…………/………….. เกณฑการใหคะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยางสมํ่าเสมอ ให 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอยครั้ง ให 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอยครั้ง ให 1 คะแนน เกณฑตัดสินคุณภาพ ชวงคะแนน ระดับคุณภาพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช ตํ่ากวา 10 ปรับปรุง 1 2 3 4 5 4 3 2 1 การแบงหนาที่กันอยางเหมาะสม ความรวมมือกันทํางาน การแสดงความคิดเห็น การรับฟงความคิดเห็น ความมีนํ้าใจชวยเหลือกัน รวม ลําดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 42 ชุดที� 5 เรื�อง อาณาจักรพืช โดย นางสาวบุษกร ปทุมไกยะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขัน (7E) ช�นมัธยมศ ั� ึกษาปีที� 6