๑
คำนำ การประกันคุณภาพการศึกษา เป็นกระบวนการหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษา เป็นกระบวนการที่สามารถยืนยันถึงคุณภาพที่แท้จริงที่เกิดจากการบริหารจัดการศึกษาของ สถานศึกษา โดยได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ให้การประกัน คุณภาพการศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่กำหนดให้สถานศึกษาและหน่วยงาน ต้นสังกัดต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบการประกันคุณภาพภายใน และระบบการประกันคุณภาพ ภายนอก ในส่วนของการประกันคุณภาพภายในนั้น ตามประกาศคณะกรรมการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑ ระบุให้สถานศึกษากำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย จึงได้ดำเนินการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาสำหรับ ดำเนินงานตามนโยบายและจุดเน้นในระดับสถานศึกษา โดยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาชาติ มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้ มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้โรงเรียนได้พัฒนามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และประกาศใช้มาตรฐานการศึกษาและ กำหนดค่าเป้าหมายมาตรฐานการศึกษา สำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ โรงเรียน ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๖ เป็นต้นไป โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย ขอขอบคุณคณะทำงานกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาทุก ท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำมาตรฐานการศึกษาและกำหนดค่าเป้าหมายสำหรับการพัฒนาในครั้งนี้ และ หวังว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในการ ดำเนินงานใช้มาตรฐานการศึกษาเพื่อพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพ การศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนต่อไป โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย พฤษภาคม ๒๕๖๖
สารบัญ หน้า ประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ๑ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ๒ มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔ ประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ๗ การกำหนดค่าเป้าหมาย แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง การกำหนดค่า เป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ๘ การกำหนดค่าเป้าหมาย แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง การกำหนดค่า เป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ๑๑ เอกสารอ้างอิง ๑๕ ภาคผนวก ๑๖ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ๑๗ คำสั่งโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย ๒๑
๑ ประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา _____________________________ โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ และ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ตามนโยบายการ ปฏิรูปการศึกษาด้านการประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งอัตลักษณ์และจุดเน้นของสถานศึกษา โรงเรียน สามัคคีศรีวิชัยจึงกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัยโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทั้งบุคลากรทุกคนใน โรงเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในชุมชน ให้เหมาะสมสอดคล้องกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษา ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยจึงประกาศมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้น พื้นฐานและปฐมวัย ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย และการประเมินคุณภาพ สถานศึกษา ประกาศ ณ วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงชื่อ (นายเฮือน ตั๋นตานะ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย ลงชื่อ (นายสนุก แปงชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย
๒ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับลงวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ _______________________________ มาตรฐานสถานศึกษา ระดับปฐมวัย มีจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด ดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ๑.๑ มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเอง ได้ ๑) เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน ๒) เด็กมีการเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี ใช้มือและตาประสานสัมพันธ์ได้ดี ๓) เด็กสามารถดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ๔) เด็กสามารถปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย ๑.๒ มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ ๑) เด็กร่าเริงแจ่มใส แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมาะสม ๒) เด็กรู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทนในการรอคอย อดทนอดกลั้น ๓) เด็กยอมรับและพอใจในความสามารถ และผลงานของตนเองและผู้อื่น ๔) เด็กมีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี ๕) เด็กมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักการแบ่งปัน ๖) เด็กเคารพสิทธิ รู้หน้าที่รับผิดชอบ ๗) เด็กชื่นชมและมีความสุขกับศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว ๑.๓ มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๑) เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีวินัยในตนเอง ๒) เด็กประหยัดและพอเพียง ๓) เด็กมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน ๔) เด็กมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย ๕) เด็กเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ แก้ไขข้อขัดแย้งโดยปราศจากการใช้ความ รุนแรง ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ ๑) เด็กสนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ๒) เด็กสามารถตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัย และพยายามค้นหาคำตอบ
๓ ๓) เด็กมีความสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ๔) เด็กสามารถแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเรื่องง่าย ๆ ได้ ๕) เด็กสามารถใช้สื่อ เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ได้ ๑.๕ ได้มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสริมพัฒนาการเด็ก ๑.๖ พ่อแม่ผู้ปกครอง ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็ก มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ สถานศึกษามีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยสำหรับการเตรียมความพร้อม เด็กปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็ก ปกติและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูที่จบการศึกษาปฐมวัยหรือผ่านการอบรมการศึกษาปฐมวัยในการจัดการเรียน การสอนระดับปฐมวัยอย่างเพียงพอและเหมาะสมกับชั้นเรียน ๒.๓ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูและบุคลากรระดับปฐมวัยมีความเชี่ยวชาญด้านการจัด ประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็ก ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้และมีความ ปลอดภัย ๒.๕ มีมุมประสบการณ์ มีสื่อการเรียนรู้ที่เพียงพอและหลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ๒.๖ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัด ประสบการณ์และพัฒนาครู ๒.๗ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมี ส่วนร่วม มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและ สติปัญญา ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือทำ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข ๓.๓ จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยเด็กมีส่วนร่วม ๓.๔ ใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้เหมาะสม ๓.๕ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครองและ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม และนำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก
๔ มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับลงวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ _______________________________ มาตรฐานสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด ดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร/สื่อความ อยู่ในระดับดี ขึ้นไป ๒) ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ ๒ ขึ้นไป ๓) ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับ ๒ ขึ้นไป ๔) ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ในระดับดี ขึ้นไป ๕) ผู้เรียนมีการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล ๖) ผู้เรียนมีความสามารถในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในรูปของชิ้นงาน ๗) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีความสามารถในการ ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและสามารถนำเสนองานได้ ๘) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาทั้ง ๘ กลุ่มสาระการ เรียนรู้เฉลี่ยระดับ ๓ ขึ้นไป ๙) ผลการทดสอบระดับชาติO-Net ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ ๓ หรือผู้เรียนมีผลการทดสอบระดับชาติเฉลี่ย มากกว่าร้อยละ ๕๐ ๑๐) ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานระดับชาติ NT มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ ๓ ๑๑) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เข้าร่วมกิจกรรมงาน อาชีพและมีรายได้ระหว่างเรียนในโรงเรียน ๑๒) ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ช่วยเหลืองานอาชีพของ ครอบครัวได้
๕ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากำหนด อยู่ในระดับดีขึ้นไป ๒) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมวันสำคัญตามวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่ โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ๓) ผู้เรียนแต่งกายชุดประจำเผ่าทุกวันศุกร์ ๔) ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมและทำกิจกรรมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข แก้ปัญหาความ ขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรง ๕) ผู้เรียนมีน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย ๖) ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตใจที่ดี แสดงออกอย่างเหมาะสมกับช่วงวัย ๗) ผู้เรียนสามารถเล่นกีฬาได้อย่างน้อยคนละ ๑ ประเภท เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ สถานศึกษากำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน ๒.๒ สถานศึกษาดำเนินการตามกรอบของโรงเรียนประชารัฐ ๒.๓ สถานศึกษาใช้กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ๒.๔ สถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน เชื่อมโยงวิถีชีวิตจริงบน พื้นฐานความเป็นไทยภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๒.๕ สถานศึกษาให้บริการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยให้ นักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้เรียนร่วมกับเด็กปกติ ๒.๖ สถานศึกษาให้การส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรมีการพัฒนาตนเองเพื่อให้มี ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ อย่างน้อย ๒๐ ชม./ปี ๒.๗ สถานศึกษามีห้องเรียนที่จัดบรรยากาศชั้นเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้เป็นห้องเรียน คุณภาพ ๒.๘ สถานศึกษามีสภาพแวดล้อม ห้องปฏิบัติการ แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายเอื้อต่อการ จัดการเรียนรู้และมีความปลอดภัย ๒.๙ สถานศึกษามีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการบริหารจัดการเต็มตาม ศักยภาพ พร้อมให้นักเรียนสืบค้น และสำหรับการจัดการเรียนรู้ทุกห้อง มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ ครูจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา โดยให้ นักเรียนใช้กระบวนการวิจัยในการเรียนรู้ ๓.๒ ครูใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้ในการจัดการ เรียนรู้และให้นักเรียนได้ใช้ในการแสวงหาความรู้ ๓.๓ ครูบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก นักเรียนรักที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมี ความสุข ๓.๔ ครูมีการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ประเมิน ตามสภาพจริง และให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนในการนำไปพัฒนาการเรียนรู้
๖ ๓.๕ ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ รวมทั้งให้ข้อมูล สะท้อนกลับเพื่อนำไปใช้พัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ๓.๖ ครูทำวิจัยชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
๗ ประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ -------------------------------------- โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ และ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามนโยบายการ ปฏิรูปการศึกษาด้านการประกันคุณภาพการสถานศึกษา และตามประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีชัย เรื่อง การ ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัยเพื่อการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ รวมทั้งอัตลักษณ์และจุดเน้นของสถานศึกษา โรงเรียน สามัคคีศรีวิชัยจึงกำหนดค่าเป้าหมายของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และปฐมวัยโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทั้งบุคลากร ทุกคนในโรงเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในชุมชนให้เหมาะสมสอดคล้องกัน เพื่อนำไปเป็นเป้าหมายการ พัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย จึงประกาศค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับ ขั้นพื้นฐานและปฐมวัย ตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้ เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการ จัดการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย และการประเมินคุณภาพ สถานศึกษา ประกาศ ณ วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงชื่อ (นายเฮือน ตั๋นตานะ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย ลงชื่อ (นายสนุก แปงชัย) ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย
๘ การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับปฐมวัยเพื่อการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง กำหนดเป้าหมายตามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ............................................ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ดีเลิศ ๑.๑ มีการพัฒนาด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัย ของตนเองได้ ดีเลิศ ๑) เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) เด็กมีการเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี ใช้มือและตาประสานสัมพันธ์ได้ดี ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) เด็กสามารถดูแลรักษาสุขภาพส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๔) เด็กสามารถปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑.๒ มีการพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ ดีเลิศ ๑) เด็กร่าเริงแจ่มใส แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมาะสม ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) เด็กรู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทนในการรอคอยอดทนอดกลั้น ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) เด็กยอมรับและพอใจในความสามสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๔) เด็กมีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๕) เด็กมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักการแบ่งปัน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๖) เด็กเคารพสิทธิ รู้จักหน้าที่รับผิดชอบ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๗) เด็กชื่นชมและมีความสุขกับศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ
๙ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย ๑.๓ มีการพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ดีเลิศ ๑) เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีวินัยในตนเอง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) เด็กประหยัดและพอเพียง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) เด็กมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๔) เด็กมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๕) เด็กเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้แก้ไขข้อขัดแย้งโดยปราศจากการใช้ความ รุนแรง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหา ความรู้ได้ ดีเลิศ ๑) เด็กสนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) เด็กสามารถตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัย และพยายามค้นหาคำตอบ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) เด็กสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๔) เด็กสามารถแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเรื่องง่าย ๆ ได้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๕) เด็กสามารถใช้สื่อ เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ได้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑.๕ ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/ กิจกรรมที่เสริมพัฒนาการเด็ก ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑.๖ พ่อแม่ผู้ปกครอง ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการส่งเสริม พัฒนาการของเด็ก ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ
๑๐ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลิศ ๒.๑ สถานศึกษามีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยสำหรับการเตรียมความ พร้อมเด็กปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ตอบสนองความต้องการและ ความแตกต่างของเด็กปกติและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของ ครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่น ดีเลิศ ๒.๒ จัดครูที่จบการศึกษาปฐมวัยหรือผ่านการอบรมการศึกษาปฐมวัยในการจัดการ เรียนการสอนระดับปฐมวัยอย่างเพียงพอและเหมาะสมกับชั้นเรียน ร้อยละ ๑๐๐/ ระดับยอดเยี่ยม ๒.๓ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูและบุคลากรระดับปฐมวัยมีความเชี่ยวชาญด้านการจัด ประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็ก ร้อยละ ๑๐๐/ ระดับยอดเยี่ยม ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้และมีความ ปลอดภัย ดีเลิศ ๒.๕ มีมุมประสบการณ์ มีสื่อการเรียนรู้ที่เพียงพอและหลากหลายเพื่อส่งเสริมการ เรียนรู้ ดีเลิศ ๒.๖ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัด ประสบการณ์และพัฒนาครู ดีเลิศ ๒.๗ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมี ส่วนร่วม ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ดีเลิศ ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือ ทำและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๓ จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยเด็กมีส่วน ร่วม ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๔ ใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๕ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม และนำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์ และพัฒนาเด็ก ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา ดีเลิศ
๑๑ การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับปฐมวัยเพื่อการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา แนบท้ายประกาศโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย เรื่อง กำหนดเป้าหมายตามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ............................................ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ดีเลิศ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร/สื่อความ อยู่ในระดับดีขึ้น ไป ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ ๒ ขึ้นไป ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับ ๒ ขึ้นไป ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๔) ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ในระดับดีขึ้น ไป ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๕) ผู้เรียนการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๖) ผู้เรียนมีความสามารถในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในรูปของชิ้นงาน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๗) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีความสามารถในการ ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและสามารถนำเสนองานได้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๘) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาทั้ง ๘ กลุ่มสาระการ เรียนรู้เฉลี่ยระดับ ๓ ขึ้นไป ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป/ระดับดี ๙) ผลการทดสอบระดับชาติ O-NET ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ ๓ หรือผู้เรียนมีผลการทดสอบระดับชาติ เฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ *ร้อยละ ๔๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑๐) ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานระดับชาติ NT มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ ๓ *ร้อยละ ๔๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑๑) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เข้าร่วมกิจกรรมงานอาชีพ และมีรายได้ระหว่างเรียนในโรงเรียน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๑๒) ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ช่วยเหลืองานอาชีพของ ครอบครัวได้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ
๑๒ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากำหนดอยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๒) ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมวันสำคัญตามวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่ โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓) ผู้เรียนแต่งกายชุดประจำเผ่าทุกวันศุกร์ ร้อยละ ๙๐ ขึ้นไป/ ระดับยอดเยี่ยม ๔) ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมและทำกิจกรรมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข แก้ปัญหาความ ขัดแย้งโดยไม่ใช้ความรุนแรง ร้อยละ ๘๕ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๕) ผู้เรียนมีน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย ร้อยละ ๘๕ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๖) ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตใจที่ดี แสดงออกอย่างเหมาะสมกับช่วงวัย ร้อยละ ๘๕ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๗) ผู้เรียนสามารถเล่นกีฬาได้อย่างน้อยคนละ ๑ ประเภท เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ร้อยละ ๘๕ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลิศ ๒.๑ สถานศึกษากำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน ดีเลิศ ๒.๒ สถานศึกษาดำเนินการตามกรอบของโรงเรียนประชารัฐ ดีเลิศ ๒.๓ สถานศึกษาใช้กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยการมีส่วนร่วมของ ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา ดีเลิศ ๒.๔ สถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน เชื่อมโยงวิถีชีวิตจริง บนพื้นฐานความเป็นไทยภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดีเลิศ ๒.๕ สถานศึกษาให้บริการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดย ให้นักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้เรียนร่วมกับเด็กปกติ ดีเลิศ ๒.๖ สถานศึกษาให้การส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรมีการพัฒนาตนเองเพื่อให้ มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ อย่างน้อย ๒๐ ชม./ปี ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ดีเลิศ ๒.๗ สถานศึกษามีห้องเรียนที่จัดบรรยากาศชั้นเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้เป็นห้องเรียน คุณภาพ ดีเลิศ ๒.๘ สถานศึกษามีสภาพแวดล้อม ห้องปฏิบัติการ แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายเอื้อต่อ การจัดการเรียนรู้และมีความปลอดภัย ดีเลิศ ๒.๙ สถานศึกษามีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการบริหารจัดการเต็มตาม ศักยภาพ พร้อมให้นักเรียนสืบค้น และสำหรับการจัดการเรียนรู้ทุกห้อง ดีเลิศ
๑๓ มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดีเลิศ ๓.๑ ครูจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา โดย ให้นักเรียนใช้กระบวนการวิจัยในการเรียนรู้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๒ ครูใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้ในการ จัดการเรียนรู้และให้นักเรียนได้ใช้ในการแสวงหาความรู้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๓ ครูบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก นักเรียนรักที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกันอย่าง มีความสุข ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๔ ครูมีการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ประเมินตามสภาพจริง และให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนในการนำไปพัฒนาการ เรียนรู้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๕ ครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ รวมทั้งให้ข้อมูล สะท้อนกลับเพื่อนำไปใช้พัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป/ ระดับดีเลิศ ๓.๖ ครูทำวิจัยชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป/ระดับดี สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา ดีเลิศ หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินมีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยกำหนดการแปรผล ข้อมูลเชิงปริมาณเป็นระดับคุณภาพ ในมาตรฐานที่ ๑ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ประเด็นการ พิจารณาที่ ๑ – ๗, ๑๐ – ๑๑ และ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน และมาตรฐานที่ ๓ ดังนี้ ร้อยละ ๙๐.๐๐ – ๑๐๐.๐๐ ระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม ร้อยละ ๘๐.๐๐ – ๘๙.๙๙ ระดับคุณภาพ ดีเลิศ ร้อยละ ๗๐.๐๐ – ๗๙.๙๙ ระดับคุณภาพ ดี ร้อยละ ๖๐.๐๐ – ๖๙.๙๙ ระดับคุณภาพ ปานกลาง น้อยกว่าร้อยละ ๖๐.๐๐ ระดับคุณภาพ กำลังพัฒนา สำหรับมาตรฐานที่ ๑ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ประเด็นการพิจารณาที่ ๘ และ ๙ *กรณีที่ ๑ ค่าเฉลี่ยร้อยละเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษาที่ผ่านมา ค่าเป้าหมายที่กำหนดได้มาจาก ค่าเฉลี่ยรวมของ ๓ ปีการศึกษาย้อนหลัง เช่น ค่าเป้าหมายของปี การศึกษา ๒๕๖๕ ได้มาจาก ค่าเฉลี่ยของปีการศึกษา ๒๕๖๔, ๒๕๖๓ และ ๒๕๖๒ แล้วบวกเพิ่มอีก ๓ ตาม นโยบายของ สพป.ลำพูน เขต ๒ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๐๐ ขึ้นไป ระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๐๐ – ๒.๙๙ ระดับคุณภาพ ดีเลิศ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๐๐ – ๑.๙๙ ระดับคุณภาพ ดี เพิ่มขึ้นร้อยละ ๐.๐๐ – ๐.๙๙ ระดับคุณภาพ ปานกลาง ไม่เพิ่มขึ้น ระดับคุณภาพ กำลังพัฒนา
๑๔ *กรณีที่ ๒ ร้อยละของนักเรียนที่ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ มีนักเรียนมากกว่าร้อยละ ๕๐ ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม มีนักเรียนร้อยละ ๔๐ – ๔๙.๙๙ ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ ดีเลิศ มีนักเรียนร้อยละ ๓๐ – ๓๙.๙๙ ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ ดี มีนักเรียนร้อยละ ๒๐ – ๒๙.๙๙ ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ ปานกลาง มีนักเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ ๕๐ ระดับคุณภาพ กำลังพัฒนา
๑๕ เอกสารอ้างอิง เฉลิม ฟักอ่อน. การดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา. เดือน สิงหาคม ๒๕๖๑. เว็บไซต์ http://www.facebook.com/search/top/?q=บทความเฉลิม%๒๐ฟักอ่อน. สืบค้นเมื่อ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑. ราชกิจจานุเบกษา. กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา ๒๕๖๑. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา. ๒๕๖๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับ ปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ. ประกาศ ณ วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๑. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑. ๒๕๖๑ เอกสารอัดสำเนา.
๑๖ ภาคผนวก
๑๗ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ _____________________________ โดยที่มีประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ นโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองที่กำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการพัฒนาคุณภาพคนไทยและ การศึกษาไทยในอนาคต ประกอบกับมีนโยบายให้ปฏิรูประบบการประเมินและการประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอก ของทุกระดับก่อนจะมีการประเมินคุณภาพในรอบต่อไป จำเป็นต้องปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สอดคล้อง กัน จึงให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย เพื่อการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้น พื้นฐาน เพื่อประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ลงวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๙ (๓) ได้กำหนดการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักที่สำคัญข้อหนึ่ง คือ มีการกำหนดมาตรฐาน การศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา โดยมาตรา ๓๑ ให้กระทรวงมีอำนาจ หน้าที่กากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กำหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษาและมาตรา ๔๘ ให้ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพ ภายในเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อ หน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผย ต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๙ (๓) มาตรา ๓๑ และมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับมติคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐานในการประชุม ครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึง ประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐานและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษา พิเศษ เพื่อเป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแล และติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตาม เอกสารแนบท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ให้ใช้กับสถานศึกษาที่เปิดสอนระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประกาศ ณ วันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
๑๘ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย แนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ___________________________ มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจานวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ๑.๑ มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ ๑.๒ มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ ๑.๓ มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ๒.๓ ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ ๒.๕ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ๒.๖ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข ๓.๓ จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การ จัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก
๑๙ มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ___________________________ มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจานวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ ๒) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแก้ปัญหา ๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ๔) สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้
๒๐ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
๒๑ คำสั่งโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย ที่ ๕๔ / ๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยระดับขั้นพื้นฐานและ ปฐมวัย โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ และ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามนโยบายการ ปฏิรูปการศึกษาด้านการประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งอัตลักษณ์และจุดเน้นของสถานศึกษา โรงเรียน สามัคคีศรีวิชัยจึงกำหนดค่าเป้าหมายและมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัยโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทั้งบุคลากรทุกคนใน โรงเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในชุมชนให้สอดคล้องกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา โรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย ได้ดำเนินการจัดทำมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยระดับขั้น พื้นฐานและปฐมวัย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จึงแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำค่า เป้าหมายและมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยระดับขั้นพื้นฐาน โดยมีหน้าที่ในการร่วมประชุม ปรึกษาหารือ และดำเนินการจัดทำมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัยระดับขั้นพื้นฐานให้มีความ เหมาะสม สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาชาติ ดังนี้ ๑. นายสนุก แปงชัย ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ ๒. นางธนารัตน์ นันตา ตำแหน่ง ครู คศ.๓ รองประธานกรรมการ 3. นางสาวทัศนาพร ปัญญาคำ ตำแหน่ง ครู คศ.๓ กรรมการ 4. นางกฤษดา ก๋าวิบูล ตำแหน่ง ครู คศ.๓ กรรมการ ๕. นางรัชฎา โอดนันต์ ตำแหน่ง ครู คศ.๒ กรรมการ ๖. นางสาวมณีนุช คำเขียว ตำแหน่ง ครู คศ.๓ กรรมการ ๗. นายพคิน พงศ์ศิริวาณชย์ ตำแหน่ง ครู คศ.๒ กรรมการ ๘. นายอัครพนธ์ แปงชัย ตำแหน่ง ครู คศ.๒ กรรมการ ๙. นางกนิษฐา สุขจีบ ตำแหน่ง ครู คศ.๒ กรรมการ ๑๐. ว่าที่ร้อยตรีสุพจน์ คำเงิน ตำแหน่ง ครู คศ.๑ กรรมการ ๑๑. นางสาวเบญจมาศ ปันยูร ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กรรมการ ๑๒. นางนรีนุช กันธิยะ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กรรมการ ๑๓. นางสาวอำพา ฤทธิ์เรือนคำ ตำแหน่ง ครูวิกฤต กรรมการ ๑๔. นางสาวน้ำผึ้ง อุ่นเรือน ตำแหน่ง ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ กรรมการ ๑๕. นายเฉลิมวุฒิ บุตรจุมปา ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง กรรมการ ๑๖. นายอนุพงค์ จิตหาญ ตำแหน่ง ครู คศ.๒ กรรมการและเลขานุการ
๒๒ ขอให้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งทุกคน ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ ทั้งนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ สั่ง ณ วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงชื่อ ( นายสนุก แปงชัย ) ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีศรีวิชัย
๒๓